รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

20
>> อ่านต่อหน้า ๘ >> อ่านต่อหน้า ๑๔ พบกับเรื่องราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช http://www.nakhonforum.com ราคา ๒๐ บาท ปีท่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม ๒๕๕๗ ¹¤Ã´Í¹¾ÃР˹éÒ ò ¹¾.ºÑญªÒ ¾§Éì¾Ò¹Ôª àÃ×èͧ´Õ´Õ·ÕèàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒ ó ¨ÓÅͧ ½Ñ觪ŨԵà ชว¹¤ิ´ ชว¹¤ุย ˹éÒ ๔ สุธÃÃม ªยѹµìเกียÃµÔ àÅèÒàÃ× èͧàÁ×ͧà¡èÒ Ë¹éÒ ๙ ¼È.©ÑµÃªÑย ÈุกÃÐกÒญ¨¹ì แ¹ว·Ò§¡ÒÃÍÍ¡แบบภูÁิ·ัศ¹์ วั´¾ÃÐÁËÒธÒตุสูèÁô¡โÅ¡ ˹éÒ ๑๐ ส�Ò¹ÑกวÔªÒสถÒปѵยกÃÃมÈÒสµÃì แÅÐ กÒÃÍÍกแºº ม.วÅÑยÅÑกÉณì à·ÕèยวàÁ×ͧÁô¡โÅ¡ ˹éÒ ๑๐ โกแÍ๊ด ¤วÒÁ¤×บ˹éÒ¾ÃÐธÒตุสูèÁô¡โÅ¡ ˹éÒ ๑๑ ¼È.©ÑµÃªÑย ÈุกÃÐกÒญ¨¹ì Ãั¡สุขภÒ¾ ˹éÒ ๑ò ¹¾.ทฏÐวÑฏÃì ¾ÔÅึกภควÑµÔ ÁุÁÁͧÃั¡ษ์บéÒ¹Ãั¡ษ์àÁ×ͧ ˹éÒ ๑ó สุเมธ Ãุ¨ÔวณÔªยìกุÅ ·èͧà·Õ èยวàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒ ๑๖ ทÒÃìซÒ¹ºÍย ÁͧàÁ×ͧ¤Í¹ผèÒ¹àŹส์ ˹éÒ ๑๗ ¹¾.ÃѧสÔµ ทͧสมÑคÃì เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนคร- ศรีธรรมราช เป็นประธานเปิด ‘สถาบันซิว-เสงี่ยม เพื่อภาษา และวัฒนธรรมข้ามชาติ’ ณ วิทยาลัย สัตว์สัญลักษณ์ท่องเที่ยว อ.ขนอม ตายบ่อย ถูกฆ่า ล่าสุดผู้รู้เผยมืออาชีพล่าขาย สวนน�้าตลาดอาเซียน เช้าวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ นายบ�ารุงเกียรติ หลงจิ อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เดินออก ก�าลังกายริมชายหาดใกล้ๆ บ้าน พบซากโลมาหลังโหนกสีชมพู เกยชายหาดนอนตายตัวหนึ่ง ต่อมา รองผู้ว่าฯ ศิริพัฒ เป ิดสถาบันภาษาที่ ว.เทคโนโลยีภาคใต้ บอกเสียเงินอบรมไป มาก ข้าราชการยังพูดอังกฤษไม่ได้ บัญชา ชุมชัยเวทย์ ชี้ยุทธศาสตร์ภาคใต้ต้องท่อง เที่ยวและบริการรับ AEC แต่การค้าขายบริการต้องพูดอังกฤษ จีน หรือบาฮาซาได้ รายงาน (ภาพจากส�านักข่าวไทย) ซ้าย : ดร.อุทัย ดุลยเกษม นายกสภาฯ, ศ.ดร.นิตย์ศรี แสงเดือน อธิการบดีฯ, นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าฯ และ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว นอภ.ทุ่งสง นายบัญชา ชุมชัยเวทย์

Upload: aree-muthukan

Post on 06-Apr-2016

220 views

Category:

Documents


3 download

DESCRIPTION

รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557 รักบ้านเกิดนครศรีธรรมราช พบกับเรื่องราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช http://www.nakhonforum.com

TRANSCRIPT

Page 1: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

>> อ่านต่อหน้า ๘

>> อ่านต่อหน้า ๑๔

พบกับเร่ืองราวดีดี..ที่นี่..เดือนละครั้ง หนังสือพิมพ์เพื่อชาวนครศรีธรรมราช http://www.nakhonforum.com ราคา ๒๐ บาท

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม ๒๕๕๗

¹¤Ã´Í¹¾ÃР˹éÒ ò¹¾.ºÑ­ญªÒ­¾§Éì¾Ò¹ÔªàÃ×èͧ´Õ´Õ·ÕèàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒ ó¨ÓÅͧ­½Ñ觪ŨԵÃชว¹¤ิ´ชว¹¤ุย ˹éÒ ๔สุธÃÃม­ªยѹµìเกียõÔàÅèÒàÃ×èͧàÁ×ͧà¡èÒ Ë¹éÒ ๙¼È.©ÑµÃªÑย­ÈุกÃÐกÒ­ญ¨¹ìแ¹ว·Ò§¡ÒÃÍÍ¡แบบภูÁิ·ัศ¹์วั´¾ÃÐÁËÒธÒตุสูèÁô¡โÅ¡ ˹éÒ๑๐ส�Ò¹ÑกวÔªÒสถÒปѵยกÃÃมÈÒสµÃì­แÅÐกÒÃÍÍกแºº­ม.วÅÑยÅÑกÉณìà·ÕèยวàÁ×ͧÁô¡โÅ¡ ˹éÒ๑๐โกแÍ๊ด¤วÒÁ¤×บ˹éÒ¾ÃÐธÒตุสูèÁô¡โÅ¡ ˹éÒ๑๑¼È.©ÑµÃªÑย­ÈุกÃÐกÒ­ญ¨¹ì­Ãั¡สุขภÒ¾ ˹éÒ๑ò¹¾.ทฏÐวÑฏÃì­¾ÔÅึกภควѵÔÁุÁÁͧÃั¡ษ์บéÒ¹Ãั¡ษ์àÁ×ͧ ˹éÒ๑óสุเมธ­Ãุ¨ÔวณÔªยìกุÅ·èͧà·ÕèยวàÁ×ͧ¹¤Ã ˹éÒ๑๖ทÒÃìซÒ¹ºÍยÁͧàÁ×ͧ¤Í¹ผèÒ¹àŹส์ ˹éÒ๑๗¹¾.ÃѧสÔµ­ทͧสมÑคÃì

เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน

๒๕๕๗ นายศิริพัฒ พัฒกุล

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนคร-

ศรีธรรมราช เป็นประธานเปิด

‘สถาบันซิว-เสงี่ยม เพื่อภาษา

และวัฒนธรรมข้ามชาติ’ ณ

วิทยาลัย

สัตว์สัญลักษณ์ท่องเที่ยวอ.ขนอมตายบ่อยถูกฆ่าล่าสุดผู้รู้เผยมืออาชีพล่าขายสวนน�้าตลาดอาเซียน

เช้าวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ นายบ�ารุงเกียรติ หลงจิ อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เดินออกก�าลังกายริมชายหาดใกล้ๆ บ้าน พบซากโลมาหลังโหนกสีชมพูเกยชายหาดนอนตายตัวหน่ึง ต่อมา

รองผู ้ว่าฯ ศิริพัฒ เปิดสถาบันภาษาที่ ว.เทคโนโลยีภาคใต้ บอกเสียเงินอบรมไปมาก ข้าราชการยังพูดอังกฤษไม่ได้ บัญชา ชุมชัยเวทย์ ชี้ยุทธศาสตร์ภาคใต้ต้องท่องเที่ยวและบริการรับ AEC แต่การค้าขายบริการต้องพูดอังกฤษ จีน หรือบาฮาซาได้

รายงาน

(ภาพจากส�านักข่าวไทย)

ซ้าย : ดร.อุทัย ดุลยเกษม นายกสภาฯ, ศ.ดร.นิตย์ศรี แสงเดือน อธิการบดีฯ, นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าฯ และ นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว นอภ.ทุ่งสง นายบัญชา ชุมชัยเวทย์

Page 2: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๒ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

>> อ่านต่อหน้า ๑๙

จังหวัดนครศรีธรรมราชตื่นตัวเรื่องปัญหาขยะมูลฝอย ที่เพิ่มขึ้นและก�าจัดยาก จนสร้างมลภาวะแก่ชุมชน

เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ในการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาขยะ ที่ประชุมก�าหนดพื้นที่เป็น ๕ โซน โซนที่ ๑ ประกอบด้วย ๗ อ�าเภอ คือ ปากพนัง เฉลิมพระเกียรติ ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ชะอวด เชียรใหญ่และหัวไทร ‘รักบ ้านเกิด’ สมมติเรียกว ่าโซนลุ ่มน�้ า ซ่ึงมีองค ์กรปกครองส ่วนถิ่น ๖๘ แห ่ง โซนที่ ๒ มี ๗ อ�าเภอ คือ สิชล เมือง นบพิต�า ท่าศาลา พรหมคีรี ลานสกา และพระพรหม (โซนริมทะเลจรด ป่าเขา) มีองค์กรปกครองส่วนถิ่น ๕๙ แห่ง, โซนที่ ๓ มี ๓ อ�าเภอ คือ ทุ่งสง นาบอน และบางขัน (โซนกลางข้างเขา) ซ่ึงมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๑๐ แห่ง, โซนที่ ๔ มี ๑ อ�าเภอ คือขนอม (โซนที่ราบริมทะเลและป่าเขา) มีองค์กรปกครองส่วนถิ่น ๔ แห่งและโซน ๕ มี ๕ อ�าเภอ คือ ฉวาง พิปูน ถ�้าพรรณรา ทุ่งใหญ่ และช้างกลาง (โซนหลังเขา) มีองค์กรปกครองส่วนถิ่น ๓๒ แห่ง

แต่ละโซนมีความเจริญและพฤติกรรมการทิ้งขยะแตกต่างกัน โซนลุ่มน�้าตั้งบ้านริมทะเลกับแม่น�้าล�าคลอง ในอดีตชาวบ ้านทิ้ งขยะลงทะเลหรือแม ่น�้ าล�าคลอง ปัจจุบัน แม่น�้าล�าคลองไม่ไหล แต่พฤติกรรมชาวบ้านยังคงทิ้งขยะลงแม่น�้าล�าคลองเหมือนเดิม ขณะที่บรรจุภัณฑ์เปลี่ยนจากใบตองเป็นโฟม พลาสติกใส หรือพลาสติกแข็ง แม่น�้าล�าคลองไม่สามารถย่อยสลาย ร้านสะดวกซื้อกระจายอยู่ทุกซอกมุมถนนในตัวเมือง แม้ร้านจะตั้งถังขยะไว้หน้าร้าน แต่ร ้านเครือข่ายใหญ่ไม่เคยสร้างแคมเปญรณรงค์เรื่องขยะเลย

โซนป่าเขาในอดีตเคยขุดหลุมฝังกลบขยะภายในบริเวณบ้านจนเน่าเปื่อยกลายเป็นปุ๋ย ขยะที่เป็นเปลือกผลไม้อย่างทุเรียนหรือมังคุดตากแห้งเป็นเชื้อไฟก็ยังได้ ปัจจุบันชาวบ้านกลับต้องการถังขยะมากกว่าหลุม ทั้งๆ ที่เคยชินกับการทิ้งข้างทาง และไม่คุ้นเคยกับการแยกขยะแห้งขยะเปียก องค์กรปกครองท้องถิ่นบางแห่งเข้าใจว่าสภาพเตียนเป็นความเจริญและสะอาด ป่าชุมชนที่เคยมีทางระบายน�้าถูกไถกลบจนน�้าไม่มีทางไป งบประมาณในการก�าจัดขยะมูลฝอยหรือรีไซเคิลส�าคัญน้อยกว่าการสร้างถนน การรณรงค์สร้างส�านึกในชุมชนไม่แข็งแกร่ง ไม่เกิดความตระหนัก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ควรสร้างเตาเผาขยะของตนเอง เลิกคิดเอาขยะไปฝากบ้านคนอื่น หรือจัดหางบประมาณสร้างโรงงานแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงานไฟฟ้าซึ่งองค์กรปกครองท้องถิ่นในหลายจังหวัด ส�าหรับชาวบ้านท�าอย่างไรจึงจะลดการสร้างขยะส่วนตัวให้ได้วันละ ๒-๓ ชิ้นก็เป็นประโยชน์มาก

ตะกี้นี้ ผมเพิ่ ง เสร็จสิ้นการป ร ะ ชุ มพ ร ะพุ ท ธศ าสน า

นานาชาติ ว่าด้วย “การพิทักษ์ ปกป้อง และ เผยแผ่ วัฒนธรรมและนานามรดกในพระพุทธ-ศาสนา” (Preservation, Proyec-

tion & Promotion of Buddhist

Culture and Heritage) ที่จัดขึ้นท่ีลุมพินีวัน เนปาล อันเป็นสถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ จัดโดย Theravada Buddhist Academy เนปาล กับ Sitagu

International Buddhist Academy พม่า ท่ีท่านอนิลมาน หรือพระศากยวงศ์วิสุทธิ์แห่งวัดบวรนิเวศวิหาร แนะน�าให้ผู้จัดเชิญผมเพ่ือน�าบทเรียนของประเทศไทยไปแลกเปล่ียนและได้รับการพิจารณาให้น�าเสนอ ๒ เรื่อง คือ ‘หนังสือพุทธธรรม without and within ส�ำหรับวำงในสถำนพักแรมท่ัวประเทศไทย’ และ ‘บุญจำริก : กำรจัดกำรท่องเท่ียวทำงธรรมในประเทศไทย’ ซึ่งได้รับความสนใจไม่น้อย โดยหนังสือส�าหรับที่พักแรมนั้นนัก

วิชาการพระพุทธศาสนาระดับโลกหลายท่านชื่นชอบว่าเน้ือเรื่อง ดีมาก รูปเล่มและการเรียบเรียงก็สวยจน “เชื่อว่าผู้คนจะอ่านและเกิดประโยชน์อย่างแน่นอน” ส่วน ‘บุญจาริก’ ท่ีแรกเริ่มท�าท่ีสวนโมกข์ก่อนท่ีจะขยายมาเป็น “ตามรอยธรรมท่ีเมืองนคร” ควบคู่กับ “เที่ยวทั่วไทยให้ถึงธรรม” กับ ททท.และก�าลังขยายอย่างจริงจังที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น ปรากฏว่าทางอินเดียมีความสนใจถึงกับจะขอเชิญไปร่วมขบคิดพัฒนาที่อินเดีย บอกว่าอย่างที่ท�าและน�าเสนอนี้ถือเป็น “แบบในฝัน” ของเขาเลย

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๔ - ๑๘ พฤศจิกายน โดยใช้วัดพม่า วัดศรีลังกา และ สมาคมมหาโพธิ์เป็นฐาน ภายใต้การสนับสนุนทุนทั้งหมดจากพม่า ด้วยท่านมหาเถระญาณอิสระเห็นว่าควรมีอะไรท�าให้มากขึ้น ให้สมกับเป็นหนึ่งในมรดกอันส�าคัญที่สุดของมนุษยชาติ เช่น เมกกะ และ เยรูซาเล็ม ยิ่งกว่าการเป็นมรดกโลกทั่วๆ ไปที่ลุมพินีได้รับการประกาศในปี พ.ศ.๒๕๔๐ และที่ท�าอยู่ตามอภิมหาแผนแม่บทขนาดยักษ์ที่ด�าเนินมาอย่างเนิ่นช้ากว่า ๔๐ ปี ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๕ บนพื้นที่ถึง ๗.๖ ตารางกิโลเมตร ใช้เงินไปแล้วตามที่แสดงในเอกสารของยูเนสโก เฉพาะของ UNDP ก็ร่วม ๑๐๐ ล้านบาท กับของชาติและชาวพุทธต่างๆ เท่าท่ีแสดงและรวบรวมได้กว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท ยังต้องการอีกไม่น้อยกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาท โดยหลายอย่างยังไม่สามารถท�าได้เพราะต้องรอการศึกษา

๓ วัดในเขตวิหารตะวันตกจาก ฝรั่งเศส ทิเบต และ เยอรมันนี

การร่วมสวดมนต์ภาวนาแล้วเวียนเทียน ณ มายาเทวีวิหารและเสาพระเจ้าอโศกมหาราช ของผู้ร่วมประชุม คืนวันที่ ๑๔ พย.๕๗ และบรรยากาศยามอุทัยใต้ร่มโพธิ์เหนือสระสรง เช้าวันที่ ๑๖ พย.๕๗ ณ ลุมพินีวัน

แถวอันจอแจและยาวเหยียดเพื่อรอเข้ามหาวิหารในเวลากลางวัน กับบรรยากาศอันสงบและสัปปายะยามเช้าตรู่

Page 3: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๓

จ�าลอง ฝั่งชลจิตร

ก�ำลังหมดมุก—เรื่องที่เอำมำเขียน มันไม่ใช่เรื่องดีดีอะไรมำกนัก ไม่เกี่ยว

กับเมืองนคร แต่เกี่ยวกับคนเป็นงำนเขียนสั้นๆ รูปแบบก�ำลังได้รับควำม

นิยมในต่ำงประเทศ เรียกกันว่ำ Flash Fiction ก�ำหนดให้ใช้ถ้อยค�ำน้อย แต่สำมำรถเปิดเผยเร่ืองรำวของตัวละครที่อ่ำนแล้วเกิดวำบควำมคิด มุมมอง สว่ำงจ้ำอยู ่ภำยใน และน่ำแปลกใจ เหมือนดูมำยำกลโดยไม่กังวลหรือสงสัยว่ำนักมำยำกลจะแสดงอะไร และไม่กลัวว่ำเขำจะเล่นอะไรต่อไป

ยุคดิจิตัลท่ีเทคโนโลยีสื่อสำรทันสมัย ไม่ว ่ำ เฟซบุ๊ก, ไลน์ หรืิอ ทวิตเตอร์ ที่สมำชิกเขียนข้อควำมได้ไม่เกิน ๑๔๐ ตัวอักษรต่อหนึ่งโพสต์ ซ่ึงท้ำทำยควำมสำมำรถอย่ำงยิ่ง บำงทีก็เรียก ไมโครฟิคชั่น (Micro Fiction), ช็อร์ท ช็อร์ทส์ (Short-Shorts), ซัดเด้น ฟิคชั่น (Sudden Fiction), นำโน ฟิคชั่น (Nano Fiction), โปสกำร์ด ฟิคชั่น (Postcard Fiction) หรือ วัน ซิกำเรตต์ ฟิคช่ัน (One Ciga-rette Fiction) หมำยถึง ใช้เวลำอ่ำนเท่ำกับสูบบุหรี่หนึ่งมวน

ผมลองเขียนเล่นๆ ไว้หลำยเรื่อง แบ่งกันอ่ำนนะครับ

เรื่อง : ขโมย

เย็นวันหนึ่ง มีผู้ชายอายุราวๆ ๓๒ - ๓๓ ปี แต่งตัวสะอำด ดูเป็นคนสุภำพเดินเข้ำมำที่ร้ำน เขำยืนหน้ำเคำน์เตอร์ ล้วงกระเป๋ำแล้วยื่นซองจดหมำย สีขำวให้ผม

“สิบสองปีก่อน ผมจนมำก ไม่มีเงิน วันนี้ผมไม่ได้ล�ำบำกอีกแล้ว--ผมมำจ่ำยค่ำหนังสือ ขอบคุณมำกครับ”

ผมยังไม่ทันซักถำม เขำหันหลังเดินจำกไปอย่ำงรวดเร็ว ผมเปิดซอง ในนั้นมีเงินอยู่ ๓๕๐ บำท

ผมแค่อยำกรู้ว่ำสิบสองปีก่อน ชำยหนุ่มหยิบหนังสือวิเศษเล่มไหนกลับไป

เรื่อง : ก่อนใครอีกคนจะตาย

ประยุทธ์ นั่งอึ้งร่วมสามนาที หลังอ่านจบ-- ข่าว หนุ ่มฟ ิลิปป ินส ์กระโดดลิ่วๆ ลงจากชั้น ๔ ของ ห้างสรรพสินค้า สี่เดือนที่หนุ ่มสาวสานสร้างความสัมพันธ์ฉันคนรัก ผ่านสื่อออนไลน์ ภาพเธอที่ส่งถึงเขางดงามดังเทพธิดา คู่รักเลือกห้างสรรพสินค้าชื่อดังเป็นสถานที่นัดพบ ทันทีที่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ มันผิดเพี้ยนไปจากภาพฝัน เขาเจ็บร้าวลึกถึงหัวใจ เขาถูกหลอกลวง เขาไม่อยากยืนตรงหน้าเธอ ไม่อยากเห็น โดยไม่กล่าวค�าอ�าลา คนเดินห้าง ตื่นตกใจ เมื่อร่างคนตกกระแทกพื้น เลือดไหลออกจากศีรษะและท่อนแขนหักพับ ประยุทธ์พึมพ�า “นี่มันอาชญกรรมชัดๆ”

ประยุทธ์ ถอนใจลึกๆ เป็นไงเป็นกัน แล้วส่ง ภาพปัจจุบันไปถึงสาวน้อยที่สานสัมพันธ์ผ ่านสื่อออนไลน์ได้สามเดือน “ตัวจริงของผมครับ” เขาตัดสินใจโพสต์ภาพ

ผ่านไปสองชั่วโมง เธอไม่ส่งข้อความกลับมานาตยา หม้ายลูกติด อายุ ๒๙ ลูกจ้างร้านขาย

รองเท้าใบหน้าถอดสี ทันทีที่เธอเห็นภาพใหม่ที่เขาส่งมา เจ้าของร้านเบเกอรี่ผิวด�า แก้มตอบ ตาขวาใหญ่กว่าตาซ้ายที่เล็กหยี เธอนึก--ขอบคุณนะ ที่บอกความจริง ตอนพักเที่ยงเธอส่งภาพปัจจุบันก�าลังอุ้มลูกสาววัย ๔ ขวบ ให้เขา พร้อมข้อความ “ภาพจริงค่ะ ขอโทษนะ”

นาตยารอข้อความจากเขาจนกระทั่งเลิกงานวันนี้เขาตระเวนส่งเอกสารหลายตึก ยังไม่มีเวลา

ตอบ แต่อาศัยช่วงขี่มอเตอร์ไซค์ใคร่ครวญ เขาจะหายไปเฉยๆ หรือตอบ ว่าเขามีเมีย มีลูกสองคนก�าลังกินก�าลังอยาก

ก่อนเข้าบ้าน เขาตัดสินใจเลี้ยวพักในร้านกาแฟ ส่งข้อความถึงเธอ พร้อมภาพลูกเมีย

“ขอให้โชคดีนะ”ประยุทธ์ถอนใจ เรื่องหนักๆ พลันหายวับไปกับ

ลมสองสายที่ปลายจมูก

เรื่อง : เลื่อนภพ

ความทรงจ�าเกี่ยวกับแม่เลือนลางเหลือเกิน-- จะเอาอะไรกับเด็กหญิงอายุเจ็ดขวบ

เธออยากพบแม่ อยากฝันถึงแม่..แม่ก็ไม่เคยปรากฏให้เห็น..

บัดนี้ เธออายุยี่สิบเจ็ดหน้าที่การงานมั่นคงเธอคิดถึงแม่ เฝ้าภาวนาอยู่เสมอ ขอให้เห็นหน้าแม่ชัดๆ อีก

สักครั้งบุญอันใดจักบันดาลให้เธอสมหวังจะพิมพ์ประทับภาพแม่ไว้ในใจเธอได้เรียนรู้..ร่างกาย ...ไม่ใช่ของเธอ.มันมาจากแม่ เธอบริจาคร่างกายและดวงตาคู่งามแก่โรงพยาบาลเธอสวดมนตร์แผ่บุญกุศลให้แม่...คืนนั้น เด็กสาวฝันเห็นแม่แม่ยิ้ม พูดคุย และโอบกออดอย่างอ่อนโยนแม่บอก..แม่ต้องเดินทางไกลแล้วหลังจ่อมจมในที่เดิมอับแคบมาเนิ่นนานไปด้วยแรงอธิษฐานของลูกสาว..

Page 4: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๔ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

สุธรรม ชยันต์เกียรติ

โดย : นครา

[email protected]

หนังสือพิมพ์รักบ้านเกิด ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม ๒๕๕๗ ใกล้สิ้นปีอีกแล้ว จังหวัด นครศรีธรรมราชจัดงานวันมหามงคลเฉลิมพระชนม-พรรษา ๘๗ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ อย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติตามล�าดับ ๐๖.๓๐ น. พิธีท�าบุญตักบาตรพระสงฆ์ ๘๘ รูป ณ สวนศรีธรรมาโศกราช ๐๙.๐๙ น. พิธีถวายราชสดุดี ณ หอประชุมเมือง (ทุ ่งท ่าลาด) ๑๑.๐๐ น. พิธีลงนามถวายพระพร ณ พระต�าหนักประทับ แรมปากพนัง อ.ปากพนัง เวลา ๑๘.๐๐ น. พิธีถวายพุ่ม เครื่องราชสักการะ ขอเชิญชวนพสกนิกรทุกหมู่เหล่าไป ร่วมกันจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ สนามหน้าเมือง

เมืองนครตั้งอยู่บนสันทรายสูง น�้าไม่ท่วมแต่ไหลผ่านไปตามช่องล�าคลองไม่กี่สาย หากไหลไม่ทันน�้าก็จะพักรออยู่ในป่าพรุทางทิศตะวันตกของเมือง รวมถึงทุ่งท่าลาดด้วย หากเก็บไว้ไม่หมดก็จะไหลออกไปทางฝั่งท่าแพ ทางทิศเหนือของเมือง และไหลไปออกคลองท่าเรือและป่าพรุใหญ่ในทางทิศใต้

น�้าที่ไหลเข้าตัวเมืองนครมากที่สุดคือน�้าจากคลองคีรีวง ผ่านก�าโลนมีคลองปงและคลองหยวดไหลมาสมทบมาถึงคลองท่าใหญ่ แหล่งที่เทศบาลนครท�าน�้าประปามาเลี้ยงเมืองในปัจจุบัน ไหลผ่านคลองนาป่า จนมาถึงคลองมะม่วงสองต้น พุ่งตรงมาถึงริมสันทรายของเมืองนครในฝั่งตะวันตก พุ่งตรงผ่านมาในคลองป่าเหล้า แยกไปลงคลองหน้าเมืองและคลองท่าวัง แยกไปคลองสวนหลวงและคลองคูพายอีกฝั่งหนึ่ง คลองทั้งห้าของเมืองนครรับน�้าไม่ไหวก็จะไหลไปทางทุ่งท่าลาด เก็บไว้ในแก้มลิงหรือชาวนครเรียก ‘เมี้ยงน�้า’ เพราะแก้มลิงคนบ้านเราเรียก ‘เมี้ยงลิง’ ถ้าน�้ายังมากอีกก็จะไหลไปทางหลังค่ายในคลองเตยไปออกคลองท่าแพอีกทาง หากน�้าในเมืองไหลไปลงทะเลระดับลดลง ลดต�่่ากว่าน�้าในทุ่งท่าลาด น�้าในทุ่งท่าลาดก็จะไหลกลับออกมาลงที่คลองท่าวังอีกครั้ง

ส่วนคลองกะโรมรวมกับคลองศาลขุนไหลผ่านเขาแก้วมารวมกับคลองลานสกาผ่าน

ช่วงนี้เป็นฤดูมรสุมของแถบชายฝั่งทะเลตะวันออก ชาวบ้านในแถบชนบทจะนับตั้งแต่วันพระออกพรรษา คือ

วันลากพระนั่นแหละ ในช่วงวันลากพระ ฝนจะเริ่มตกเป็นประจ�า หากปีไหนไม่มีฝนตก ชาวบ้านจะถือเป็นเรื่องอาเพทของบ้านเมืองทีเดียว ในช่วงมรสุมนี้จะมีลมมรสุมหนักเบาจนถึงขั้นเรียกว่าพายุ ปีหนึ่งๆ มีมรสุมขนาดใหญ่ จนส่งผลให้มีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน สามถึงห้าลูก ชาวบ้านจะคอยดูว่าน�้านองหรือยัง บางแห่งเรียก ‘น�้ำพ่ำ’ แต่คนสมัยปัจจุบันเรียกน�้าท่วม ทางการบ้านเมืองทางราชการ สื่อมวลชนจะประโคมข่าว ออกมาเตือนถึงภัยอันใหญ่หลวง คนยุคน้ีจึงเห็นลมมรสุมน�้านองเป็นเรื่องน่ากลัวเอามากๆ แม้แต่ชาวไร่ชาวนายุคใหม่ก็เป็นกับเขาด้วย แทนที่จะยินดีเตรียมการต้อนรับด้วยความสุข มองเห็นคุณประโยชน์ของน�้าในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของน�้าท่า มายา (ปุ๋ย) ที่ไหลมาจากเทือกเขา น�าความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินมาให้ ยกบ้านเสาสูงน�้าท่วมไม่ถึง ปฏิกูลสิ่งสกปรกก็ถูกชะล้างไปจนหมดส้ิน เตรียมถ่านฟืนไฟไว้พร้อม ทั้งข้าวสาร เคย เกลือ หอม กระเทียม ปลาแห้ง เสาะหาเอาไว้ไม่ให้อดอยาก น�้าเช่ียวกรากออกไปไหนไม่ได้ก็มีกิน มีเรือล�าน้อยไว้ใต้ถุนเรือนได้ออกหาปลาซึ่งมากับน�้าอย่างชุกชุม เผลอๆ ได้ขายเป็นรายได้พิเศษไปอีก >> อ่านต่อหน้า ๖

พลโทปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ ๔ เป็นประธานประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติงานด้านการรักษาความมั่นคงภายในและการป้องกันชายแดน ประจ�าปี ๒๕๕๘ แก่ผู้บัญชาการหน่วยทหารขึ้นตรง กองทัพภาคที่ ๔ และผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อ�านวยกองอ�านวยการรักษาความมั่นคงภายใน ๑๔ จังหวัดภาคใต้ มีผู้บัญชาการทหารที่เกี่ยวข้อง และผู้ว่าราชการจังหวัด ๑๔ จังหวัด ร่วมประชุมพร้อมเพรียงกัน

ส่วนยุคนี้คนสร้างบ้านเรือนโดยไม่รู ้ว่าเมื่อน�้านองน�้าหลากจะมีระดับสูงแค่ไหน ไม่รู้ไม่เตรียมอะไรล่วงหน้า พอน�้ามาก็ร้องแรกแหกกระเฌอ รอของแจกไม่ว่าข้าวน�้าเสื้อผ้า มาแจกไม่ทันใจไม่ทั่วถึงก็โจมตีด่าว่า สื่อมวลชนเห็นโอกาสรีบขุดคุ้ยเอาข่าวออกขาย ลงทุนยกกองถ่ายมาถ่ายทอดสดทั่วประเทศ ประจานความอ่อนแอ ความไม่พร้อมของผู้คนในยุคปัจจุบัน

เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนมรสุมลูกหนึ่งเป ็นพายุขนาดปานกลาง น�าฝนมาตกได้สามวัน มีการเตือนว่าพายุจะเข้า ๑๐.๐๐ น. จะเข้ามาถึงจังหวัดนคร เพื่อนฝูงโทร.มาถามผม เรื่องน�้าคลองกะโรมมากไหม จะเข้าตัวเมืองเวลาไหน บางคนเข้าใจว่าคลองน�้าตกกะโรมไหลไปออกฉวางทุ่งสงไปทางโน้นก็มี อาจจะรู้การไหลของแม่น�้ามิสซิสซิปี้ดีกว่าคลอง

น�้าตกกะโรมเสียอีก วั นนี้ ผ มจึ ง ขออนุญาต

แนะน�าการเดินทางของสายน�้าส�าคัญสักสองสายของนครให้คนที่สนใจได้ทราบ

ก ่ อนอื่ นต ้ อ งท� าความเข้าใจภาพใหญ่ของพื้นที่ก ่อน ทางทิศตะวันตกของเมืองคือเทือกเขาหลวง เป็นต้นก�าเนิดของคลองแทบทุ กสายของนคร ไหลผ่านพื้นดินที่ราบเชิงเขาก่อนจะถึงเมือง ตั้งแต่เขตเทศบาลลานสกามาจนถึงแยกบ้านตาล เป็นผืนแผ่นดินกว้างใหญ่ก ่อนจะถึงตัวเมือง ตอนที่สามคือเมือง และตอนที่สี่ฝั ่งตะวันออกของเมืองจนถึงทะเล น�้าจะไหลมาจากเทือกเขาหลวง ไหลผ่านพื้นราบก่อนเข้าเมือง

อุบัติเหตุอุบัติภัยเพิ่มขึ้นทุกวัน...กลางเดือนพฤศจิกายน ผู้ว่าฯ พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า เป็นประธานประชุมสามัญประจ�าปี สมัยที่ ๑๔ ครั้งที่ ๔ ของมูลนิธิสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ๑๔ จังหวัดภาคใต้ ที่ห้องประชุมมูลนิธิใต้เต็กเซี่ยงตึ้ง นายจางจิ้น สง กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจ�าสงขลา และผู้แทนสมาชิกองค์กรสงเคราะห์ ๔๙ องค์กรทั่วภาคใต้มาร่วมกว่า ๔๐๐ คน สาระส�าคัญคือการสนับสนุนองค์ความรู้และนโยบายด้านการปฏิบัติงานจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินภาคใต้

Page 5: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๕

สภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์มีค�าสั่งให้ ดร.กีร์รัตน์ สงวนไทร อธิการบดี หยุดปฏิบัติหน้าที่ในต�าแหน่ง ๙๐ วัน ตั้งแต่วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ แล้วแต่งตั้ง ดร.สุเมธ แย้มนุ ่น อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา รักษาการแทน สืบเนื่องจากปัญหาโครงการก่อสร้างศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยที่เป็นความหวังของประชาชนและแหล่งฝึกงานของนักศึกษาแพทย์และพยาบาลไม่คืบหน้า รักษาการอธิการบดีแจ้งกับสื่อมวลชนว่าปี ๒๕๕๘ โครงการความหวังจะด�าเนินต่อไป..ชาวนครโปรดจับตาดู

รองผู้ว่าฯ ศิริพัฒ พัฒกุล ประชุมเชิงปฏิบัติการ

มองข้ามช็อตไปปลายธันวาคมปี ๒๕๕๘ คนไทยทุกคนจะเป็นพลเมืองของประชาคมอาเซียนโดยพร้อมเพรียงกัน บัญชา ชุมชัยเวทย์ พิธีกรรายการ ‘จอโลกเศรษฐกิจ’ ทีวีช่อง ๓ แสดงปาฐกถาวันเปิด ‘สถาบันซิว-เสงี่ยม เพื่อภาษาและวัฒนธรรมข้ามชาติ’ ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้ (เอสซีที.) ไว้น่าคิด ‘รักบ้านเกิด’ เก็บสาระส�าคัญโดยเฉพาะมุมมองเรื่องโอกาสของภาคใต้ยุค AEC ห้ามพลาด!

สมพร ศรีเพชร ประธานชมรมผู้ค้าน�้ามันจังหวัดนครฯ ก�าลังรวบรวมรายชื่อสถานีบริการค้าปลีกน�้ามัน ในจังหวัดฯ เพ่ือยื่นคัดค้านการเก็บภาษีน�้ามัน อบจ.โดย ไม่เป็นธรรม ขณะผู้ค้าน�้ามัน ๑๔ จังหวัดภาคใต้คัดค้านการจ่ายภาษี อบจ. ท่ีสถานีบริการ แต่ให้จ่ายท่ีคลังตาม มติสมาพันธ์ อบจ.เดิม

รู ้จัก-เข ้าใจเพื่ออยู ่ร ่วมกันอย่างมีความสุข... วันท่ี ๑๗ ธันวาคม เชิญชมงาน ‘วันคนพิการสากล’ ภายใต้แนวคิด ‘การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยให้ความส�าคัญกับเทคโนโลยีเพ่ือคนพิการ’ เพ่ือการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ, การสร้างสิ่งแวดล้อมในการท�างานของ คนพิการ และการพัฒนาคนพิการอย ่างยั่ งยืนแบบบูรณาการ ณ ห้องบงกชรัตน์ โรงแรมทวินโลตัส ตั้งแต่เช้าถึงบ่าย ๒ โมง

เดือนที่แล้ว ศลิษา รุจิวณิชย์กุล ลูกสาว อ.สุเมธ รุจิวณิชย์กุล เจ้าของคอลัมน์ ‘มุมมอง..รักษ์บ้าน รักษ์เมือง’ เปิด ‘เฌอ คอฟฟี่’ สาขา ๔ หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏนคร นิมนต์อาจารย์หรั่งแห่งส�านักสงฆ์ห้วยเตงไปเจิมแผ่น ป้าย ดร.สายสวาท เกตุชาติ, ดร.รอยพิมพ์ใจ เพชรกุล, สรวศิ จันทร์แท่น และเพือ่นฝูงไปร่วมแสดงความยนิดีคับค่ัง

ชาวนครที่ได้รับคูปอง จากไปรษณีย์แล้ว ให้น�าคูปองมูลค่า ๖๙๐ บาท มาแลกกล่องดูทีวีดิจิตอลฟรี พร้อมแนะน�าการติดตั้ง ที่ Plug & Play ได้ทันที www.facebook.com/plugandplayclub โทร.๐๗๕-๓๑๘-๗๐๐

การจัดท�าแผนแม่บทการจัดการขยะมูลฝอยจังหวัดฯ ตาม Road Map ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ เบื้องต้นก�าหนดแนวทางการแก ้ไขป ัญหาโดยแบ ่งพื้นที่เป็น ๕ โซน (ดูบทน�า) แต่ละโซน

มีพฤติกรรมการทิ้งขยะแตกต่างกัน อยากรู้ว่ากลยุทธ์ก�าจัดขยะมีโฉมหน้าอย่างไร และน่าจะแข่งขันกันระหว่างโซน

กระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครฯ ที่ว่างอยู่ ๒ ต�าแหน่งตามค�าสั่งที่ ๗๑๔/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน โดยให้ นายพินิจ บุญเลิศ รอง ผู้ว่าฯ ระนอง กับ นายสมาน แสงสอาด รองผู้ว่าฯ กระบี่ มาด�ารงต�าแหน่งปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ‘รองฯ ศิริพัฒ’ คงมีเวลาว่างบ้าง

วันที่ ๑๘-๒๑ พฤศจิกายน มณฑล บุญญวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทฮอนด้าศรีนครจ�ากัด ร่วมกิจกรรม Grand Touring #๗ with Honda 300 Series ทดสอบ รถฮอนด้ารุ ่นใหม่ ๓ รุ ่น ได้แก่ Honda Forza300, CBR300R, และ CB300F โดยขับข่ีท่องเท่ียวสไตล์ทัวริ่งจากสุราษฎร์ฯ กระบี่ ภูเก็ต บนเส้นตรงและโค้งตามแนวภูเขา ๔๙๐ กม. - ผลการทดสอบ..ผ่าน..!

ชาวปากพนัง โดยชมรมจักรยานปากพนัง ร่วมกับศูนย์อนามัยที่ ๑๑ กรมอนามัย โรงพยาบาลปากพนัง กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนนักปั ่นทุกเพศทุกวัย ปั ่นจักรยาน เพื่อสุขภาพในวันพ่อแห่งชาติ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้โครงการ “ปั่นปันใจ บ้านพ่อ สู่ผู้สูงวัย @ ปากพนัง” ณ พระต�าหนักประทับแรมปากพนัง (บ้านพ่อ) ประตูระบายน�้าอุทกวิภาชประสิทธ์ิ

วันดีดี ๘ พฤศจิกายน ห้างเพชรทองซีกวง สาขาถนนเนรมิต เปิดบริการหลังปิดปรับปรุง ๑๕ วัน ธิติ โจ - ปาลิกา บุ๋น ยินดีที่ได้ดูแลลูกค้าทุกท่าน ด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ รับผิดชอบ โทร ๐๗๕ ๓๔๒ ๙๒๐ หรือ ๐๘๘ ๗๖๑ ๒๔๕ ปรารถนาให้ทุกๆ ท่านก้าวผ่าน ๒๕๕๗ ด้วยความเบิกบาน

Jewels Of Nakhon Si Thammarat Diamond & Gold (NST) 1. Naeramit Road (Tawang) Diamond (NST) 2. Robinson 3. Sahathai Plaza (NST) Gold (NST) 4. Ta Ma 5. Hau It 6. Ku Kwang(Near Shell Gas Station) 7. Weekend Market On-line Shop (Worldwide) 8. BOONADA Diamond&Gold Gold (HTY) 9. Chuan Heng Hat Yai

Page 6: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๖ ปีที่ ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

เรื่องปลียอดพระบรมธาตุเจดีย์มีคราบน�้าจับเป็นแนวดูไม่งาม ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในชุมชนคนออนไลน์มา

นับเดือน นั่นเพราะความรักหวง-แหนต่อมรดกธรรม ของเมืองนคร กรมศิลปากรมีหน้าที่บูรณะต้องพยายามหาค�าตอบท่ีน่าเช่ือถือ ตอบให้ชาวบ้านรับรู้และเข้าใจ หรือ อย่างที่ชาวบ้านพูดว่า ‘เกลี้ยงครวญ’ คือไม่มีอะไรติดค้างให้คิดสงสัยต่อไป ชาวนครและชาวพุทธทั่วไปรอฟังค�าตอบและการบูรณะให้สง่างาม

‘รักบ ้านเกิด’ เบียดหน้าสัมภาษณ์เอามาแจ้งกิจกรรมอันมีพระบรมธาตุเจดีย์เป็นแกน คือกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๘ ที่ฮิต ‘ติดตลาด’ เสียแล้ว ปีนี้ท่านผู้ว่าฯ สมศักดิ์ หินเมืองเก่า มอบหมายให้รองฯ

ศิริพัฒ พัฒกุล เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมจัดงาน ‘สวดมนต์ข้ามปีบูชาพระบรมธาตุ’ และบุญให้ทานไฟ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๘ มีผู้เข้าร่วมประชุมทุกภาคส่วน กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีจัดต่อเนื่องมาหลายปี ส่วนบุญให้ทานไฟจัดมานมนาน สองกิจกรรมน้ีอาจคุยได้ว่าเป็น ‘Nakhon Si Limited Edition’ หรือมีเฉพาะเมืองนครเท่าน้ัน กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีปีน้ีนอกจากจัดเป็นพุทธบูชา, ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, ยังเป็นการประชาสัมพันธ์สนับสนุนการเสนอพระบรมธาตุเป็นมรดกโลก, เป็นสิริมงคลในเทศกาลปีใหม่, ส่งเสริมประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม และการท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย

รองผู้ว่าฯ ประธานในการประชุมเตรียมงานบรรยากาศสวดมนต์ข้ามปี

งานเริ่มวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ ต่อเนื่องถึง วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช

กิจกรรมวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗

เวลา ๑๗.๓๐ น. ผู้เข้าร่วมพร้อมกัน ณ ลานโพธิ์ วัดพระมหาธาตุฯ

เวลา ๑๘.๐๐ น. ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์สวดมนต์บูชาพระบรมธาตุ สาธยายธรรม เจริญจิตภาวนาบูชาพระ บรมธาตุ

เวลา ๒๐.๐๐ น. แสดงพระธรรมเทศนา เวลา ๒๑.๐๐ น. จุดเทียน (สีเหลือง) เดินสมาธิรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ๓ รอบ

เวลา ๒๒.๐๐น. เสวนาธรรม (พระสงฆ์ ๓ รูป) เวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น. พระสงฆ์-สามเณร

๘๘ รูป สวดบูชาพระบรมธาตุฯ สวดมนต์ข้ามปี และ เวลาประมาณ ๒๓.๕๙ น. นับถอยหลัง (Count Down) ก้าวสู่ปี ๒๕๕๘ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลั่นฆ้องต้อนรับ ปีใหม่ วัดในจังหวัดนครศรีธรรมราชลั่นฆ้องหรือระฆังพร้อมกันทุกวัด

วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ เวลา ๐๐.๐๑ น. พระเทพวินยาภรณ์ รองเจ้าคณะ

ภาค ๑๖ - ๑๗ - ๑๘ (ธ) / เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ-วรมหาวิหาร ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่-หัว พร้อมให้พรปีใหม่แก่พุทธศาสนิกชน และผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวอวยพรแก่ผู้เข้าร่วมงานและชาวนคร

เวลา ๐๔.๐๐ น. จัดกิจกรรมบุญให้ทานไฟ บริเวณลานหาดทรายแก้วหน้าศาลาพระพุทธบาทจ�าลอง วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ไปร่วมถวายอาหารพระภิกษุสามเณร และซื้อหาอาหารอุ่นๆ ร้อนๆ รับประทานแก้หนาวสู้กับลมดึก

เวลา ๐๖.๓๐ น. วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ ร่วมท�าบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ ณ ถนนราชด�าเนิน หน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมตามก�าลังศรัทธา

ที่มารูป : ส�านักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครศรีธรรมราช

<< ต่อจากหน้า ๔

ขุนทะเลไปออกเสาธง คลองโคกคราม คลองชะเมา แยกหนองมนซึ่งมีคลองสายร่อนพิบูลย์รวมกันไหลมาร่วมเป็นสายใหญ่ เป็นคลองบางจากแล้วออกปากพนัง

อีกสายหนึ่งคือสายจากพรหมโลก มีคลองเล็กๆจากมหาชัยไหลไปรวมจนไปออกคลองท่าแพและออกปากพูนในที่สุด มีผลต่อตัวเมืองน้อย

ท่ีนี้น่าจะมองภาพออกถึงสายน�้าที่มีอิทธิพลท�าให้น�้าไหลเข้าเมืองมากท่ีสุด แต่เดิมสมัยโบราณไม่มีถนนมาปิดกั้นทางน�้า มีท่ีเก็บน�้ามากมายให้น�้าได้พัก คลองสมัยโบราณเมื่อสองสามร้อยปีก่อน มีคลองท่าแพ คลองท่าวัง คลองป่าเหล้า และคลองท่าเรือ ส่วนคลองหน้าเมือง คลองสวนหลวง คลองคูพายเพ่ิงขุดขึ้นมาในภายหลัง เพื่อความสะดวกในการเดินทางโดยเรือเข้าถึงตัวเมืองนครสั้นขึ้นง่ายขึ้น คนลานสกา ล่องเรือลงมาค้ากับคนลุ ่มน�้าจนเกิดต�านาน ‘เกลอเขา เกลอเล’ ต�านานที่โรแมนติกของเมือง คนลานสกาแถบนี้ก็ยังหาทางลัดบางสายมาถึงคลองท่าเรียนก็มี ส่วนคนลานสกาแถบคีรีวงจนถึงท่ีราบก�าแพงเซาแถบน้ีเข้ามาค้าขายทางเรือสะดวกที่สุด ส่วนคนแถบพรหมโลก พรหมคีรี มหาชัยล่องเรือไปลงท่าแพได้อย่างสบาย

ภาพแผนที่เขียนด้วยมือ แบ่งสายน�้าเป็นสีต่างๆ กัน

เพื่อสะดวกในการดูแผนที่ทางน�้า ถ้าไม่สะใจก็เปิดกูเก้ิลดู คงจะละเอียดกว่านี้มาก เร่ืองคูคลองในเมืองนครมีเร่ืองน่าศึกษาอีกมาก คนสนใจปัญหาน�้าท่วมก็ศึกษาดู เผื่อจะได้ช่วยคิดช่วยอ่านให้ผู้รับผิดชอบบ้านเมืองหาทางแก้ปัญหาน�้าท่วม หาประโยชน์จากน�้าในทางเป็นคุณ อนุรักษ์ล�าน�้าล�าคลองให้ใสสะอาด ดีกว่าปล่อยสิ่งปฏิกูลลงคลองจนเน่า หรือไม่ก็ถมปิดทางน�้า แล้วมาโวยวายเมื่อน�้าท่วมเมือง

Page 7: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๗

เลิกอาชีพการเป็นที่ปรึกษาไป ๔ บริษัทฯ

และหยุดท�ารายการ “ทันโลกธุรกิจ” แบบ

จ�ายอมภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ค่อยเป็นใจ

เท่าไรนัก ท�าให้มีเวลามาเรียนรู้ฝึกฝนการ

ท�าธุรกิจเครือข่ายมากขึ้น สิ่งที่ได้เรียน

รู ้ทุกๆ อาชีพ บนโลกใบนี้ไม ่ว ่าจะเป็น

ลูกจ้าง เจ้าของกิจการส่วนตัว นักธุรกิจ

นักลงทุน (ผู้อ่านสามารถหาอ่านประกอบ

จากหนังสือเงินส่ีด้าน-โรงเรียนสอนธุร-

กิจในชุดพ่อรวยสอนลูกของ Robert.

T.Kinyosaki)

เมื่อมองย้อนหลังไป ผมคิดว่าผมคิด

ถูกท่ีเลือกเกษียณก่อนอายุ ๖๐ ปี และมี

เวลาได้มาท�าอาชีพใหม่ที่ไม่เคยท�า และ

ดูไม่ดีในสายตาคนทั่วไปในยุคนี้ แต่ผม

เชื่อว่าธุรกิจทุกธุรกิจก็มีทั้งสีขาว-สีเทา-

สีด�า เพียงแต่เราจะมีประสบการณ์และมุม

มองแบบไหน

สิ่ งที่ ผมได ้ ในโลกอาชีพเดิมที่ผม

เป็นผู้บริหารนั้น สังคมท่ีอยู ่ร่วมกันจะมี

“ชนชั้น” มีเจ้านาย-มีลูกน้อง-มีเพื่อนร่วม

ส่งท้ายปี ๒๕๕๗ เริ่มศักราชใหม่ป ี

๒๕๕๘ ก่อนอื่นขอให้ผู ้อ่านทุกท่าน

มีความสุข-มีสุขภาพที่ดี -มี เงิน-มี เวลา

ไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผมเข ้าสู ่วัย

เกษียณเต็มรูปแบบหลังอายุ ๖๐ ปี แต่

ชีวิตประจ�าวันผมเปลี่ยนไปมากหลังจาก

ตัดสินใจเกษียณอายุจากการท�างานประจ�า

ที่โรบินสัน-โอเช่ียนนครศรีธรรมราช เมื่อ

อายุ ๕๕ ปี การเลิกท�างานประจ�าแล้ว

ได้มาท�างานที่ชอบที่รักคือการรับบริการ

เป็นที่ปรึกษาให้กับธุรกิจท้องถิ่นในภาคใต้

กว่า ๑๐ บริษัทฯ เป็นการท�างานอาทิตย์

ละ ๓-๔ วันต่อสัปดาห์ แต่ต้องเดินทาง

ไปหลายจังหวัดท�าให้เสียเวลากับการเดิน

ทาง เช่น ภูเก็ต ชุมพร กระบี่ หาดใหญ่

ชีวิตก็หมุนเวียนไปแต่ละวัน แต่อาชีพที่

ปรึกษาท�าให้ผมมีเวลาว่างในการค้นคว้า

อ่านหนังสือติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะ

การจัดรายการวิทยุ “ทันโลกธุรกิจ” ที่

อสมท.นครศรีธรรมราชในทุกวันอาทิตย์

ร่วมกับคุณ สุรพล ทรัพย์แก้ว (นักวิชาการ

สาธารณสุข) ท�าให้ผมต้องเป็นนักศึกษา

อ่านหนังสือค้นคว้าเรียนรู ้อยู ่ตลอดเวลา

และเมื่อต้นปี ๒๕๕๕ ผมตัดสินใจเข้าศึกษา

เรียนรู้อาชีพใหม่ คือการท�าธุรกิจเครือข่าย

(Network Marketing) หรือที่หลายๆ คน

เข้าใจและเรียกว่า “ขายตรง” ผมเลือก

ท�าธุรกิจเครือข่ายด้านสุขภาพด้วยเหตุผล

เทรนด์สุขภาพจะเติบโตในอนาคตและ

อาชีพการตลาดเครือข่ายจะเป็นอาชีพ

ที่คนจะเข ้ามาท�ามากขึ้น แต ่ที่ส�าคัญ

คือ ผมอยากศึกษาเรียนรู ้การท�าธุรกิจ

กฎหมาย-ไม่ท�าร้ายใครและมีจรรยาบรรณ)

ช่วงแรกผมก็ไม่มีความเชื่อเท่าไรนักว่าผม

จะท�าได้ แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว การรู ้จริง

ไม่ใช่แค่รู้จัก ก็ต้องพาตัวเองเข้าไปพิสูจน์

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในช่วงปีแรกของการท�า

ธุรกิจเครือข่าย ท�าให้เกิดมุมมองใหม่ ใน

การมองโลกแง่ของความเข้าใจโลก-เข้าใจ

มนุษย์ พูดให้ง่ายๆ คือ การท�าธุรกิจเครือ

ข่ายคือการฝึกฝนเราให้เป็นผู้น�าและส่ง

ต่อการเป็นผู้น�า เพราะสินทรัพย์ของธุรกิจ

เครือข่ายคือคนซึ่งเป็นผู ้น�า ตอนแรกผม

ก็เข้าใจว่าผมเป็นผู้น�า แต่ความจริงการ

เป็นผู ้น�าในความหมายของตลาดเครือ

ข่าย คือ ความคิด ความเชื่อ การลงมือท�า

ของเรา ต้องเป็นผู้น�าแบบผู้ประกอบการ

(Business Owner) ส่ิงท่ีได้จากการเข้าไป

เรียนรู้และลงมือท�าเป็นการฝึกฝนการเป็น

นักธุรกิจเครือข่ายแบบมืออาชีพ ในระยะ

เวลาเกือบ ๒ ปี แม้นผมจะจ่ายเวลาท�า

ไม่เต็ม ๑๐๐% ผมยังมีงานประจ�าคือการ

เป็นที่ปรึกษาจนในที่สุดผมต้องตัดสินใจ

งานที่เป็นผู้ใหญ่-คนรวย-คนจน และฐานะ

ที่แตกต่างกันไป แต่ในโลกอาชีพของการ

ท�าตลาดเครือข่ายกลับพบว่าทุกคนเป็น

เพื่อนกัน ไม่ได้แบ่งแยกว่าคุณเป็นใครมา

ก่อน อายุ-ความรู ้-ฐานะ-การศึกษา ภูมิ

หลังคุณเป็นใครไม่ส�าคัญ แต่ที่นี่คุณคือ

หุ ้นส่วนการท�าธุรกิจร่วมกัน เคารพให้

เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะความส�าเร็จ

ของคนท�าธุรกิจเครือข่ายคือคนที่ใช้พลัง

ของความรัก ด้วยการเรียนรู้-แบ่งปัน-เป็น

ผู้สร้าง-ผู้ให้ เราจึงพบเห็นมีคนเข้ามาท�า

จ�านวนมากแล้วต ้องออกจากธุรกิจไป

เพราะพวกเขาเลิกระหว่างทาง คนส่วน

ใหญ่เพียงเข้ามาเพียงแค่การสมัครแล้ว

หวังว่าจะส�าเร็จโดยไม่ได้เรียนรู้และลงมือ

ท�าอย่างจริงจัง แต่ถ้าจะมีคนส�าเร็จผม

กลับพบว่าพวกเขายินดีปรับเปลี่ยนพฤติ-

กรรม - ความคิด - ความเชื่อ - การกระท�า

แบบมืออาชีพและเดินบนเส้นทางน้ีจน

ประสบความส�าเร็จ ซึ่งก็เหมือนกับอาชีพ

อื่นๆ เช่นกัน อย่างในธุรกิจ SME สถิต ิ

ก็มีภายใน ๕ ปีแรกจะมีคนล้มเลิก ๙๐%

เหลือ ๑๐% และในอีก ๕ ปีต่อมาก็จะมีคน

ล้มเลิกอีก ๙๐% นั่นหมายความว่าใน ๑๐

ปีจะมีเหลืออยู่ไม่ถึง ๒ ราย เพียงแต่เรา

ไม่ได้ไปท�าการวิจัยกันจริงจัง เราเห็นร้าน

เดิมเปลี่ยนเจ้าของใหม่ เปิดใหม่แล้วก็ปิด

อย่างร้านกาแฟและธุรกิจอื่นๆ ที่มีผู ้เล่น

หน้าใหม่เข้ามาแล้วก็จากไป ยกเว้นผู้เล่น

มืออาชีพที่ยืนอยู ่ได้ก็เพราะการปรับตัว

เรียนรู ้อยู ่ตลอดเวลา นี่คือความจริงบน

โลกธุรกิจตลอดเส้นทางที่คุณเริ่มต้นไปสู ่

จุดหมายปลายทาง แต่สิ่งส�าคัญที่สุดใน

โลกอาชีพเดิมๆ ค�าถามใหญ่คุณจะหยุด

ได้เมื่อไร? (ส�าเร็จแต่ไม่เสร็จจริงๆ) คุณ

ออกแบบชีวิตไว้อย่างไร? เพราะชีวิตส�าคัญ

กว่าธุรกิจและทรัพย์สินครับ!

นายไพโรจน์ เพชรคง

๑๙พ.ย.๕๗

วันเสาร์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๗

วันพระขึ้น ๑๕ ค�่า เดือน ๑

วันอาทิตย์ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๗

วันพระแรม ๘ ค�่า เดือน ๑

วันเสาร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๗

วันพระแรม ๑๔ ค�่า เดือน ๑

วันอาทิตย์ที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ วันพระขึ้น ๘ ค�่า เดือน ๒

ตรงกับ วันสิ้นปี

เดือนธันวาคม ๒๕๕๗

เครือข่ายแบบมืออาชีพ และ

เป็น Network สีขาว (ไม่ผิด

Page 8: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๘ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

<< ต่อจากหน้า ๑เรือ่งจากปก

และขุมทรัพย์ของคนไทยที่จะใช้

ประโยชน์ตรงนี้ให้ได้มากที่สุด เมื่อ

เปรียบกับประเทศนอกแผ ่นดิน

ใหญ่”

นายบัญชา กล ่าวถึ งยุทธ-

ศาสตร์ที่เหมาะสมของภาคใต้ที่สุด

คือการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้

แข็งแรงยั่งยืน ทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่ง

อันดามัน ถ้าประเทศไทยตอบรับ

โครงการถไฟความเร็วสูง ทางรถไฟ

จะผ่านภาคใต้ไปยังมาเลเซียกับสิงคโปร์อย่างสะดวก

รวดเร็ว ซึ่งขณะนี้รัฐบาลสองประเทศตกลงร่วมมือกัน

และก�าหนดจะเปิดบริการราว ๒๕๗๓

พิธีกรรายการเศรษฐกิจผู้ตะลุยเปิดประตูประเทศ

ในกลุ่มอาเซียนมาแล้วทุกประเทศกล่าวต่อไปว่า นอก

จากแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ เราต้องมีแหล่งท่อง-

เที่ยวที่สร้างด้วยน�้ามือมนุษย์ อย่างสวนน�้าขนาดใหญ่

ที่หัวหิน หรือพิพิธภัณฑ์การ์ตูนที่ปากเกร็ด ภาคใต้ยุค

AEC ควรเจาะไปที่ภาคบริการ โดยเน้นไปที่เม็ดเงินของ

คนในอาเซียนและนอกอาเซียน

“เมื่อเป็นภาคบริการยิ่งจ�าเป็นต้องใช้ภาษาในการ

สื่อสาร ภาษาท้องถิ่นต้องอนุรักษ์ ภาษาที่ใช้ค้าขายต้อง

เพิ่มความเชี่ยวชาญตลอด โลกนี้นอกจากภาษาอังกฤษ

ภาษาจีนกลางจะขึ้นมาเป็นอันดับสอง เราต้องไม่ทิ้ง

ภาษาท้องถิ่น เช่น มาลายู และบาฮาซา เอาไว้เชื่อม

ต่อกับตลาดของพี่น้องชาวมุสลิมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

ที่อินโดนีเซีย บางส่วนของมาเลเซีย และสิงคโปร์ที่ใช้

บาฮาซา การมีสถาบันทางภาษาเพิ่มมากขึ้นเป็นเรื่อง

ที่ดี เราท�าการค้าต้องพูดให้เป็น ภาษาคือประตูส�าคัญ

ของโอกาสทองของทุกส่ิงทุกอย่าง วันน้ีถ้าภาษาไม่ได้

เราก็เข้าไม่ถึงเขา ไม่เข้าใจวิธีคิด ส่ือสารไม่ได้ ไม่เข้าใจ

ก็พัฒนาไม่ได้ ภาษาส�าคัญที่สุด อย่าลืมภาษาเด็ดขาด

นั่นแหละโอกาสที่แท้จริง เข้าให้ถึง ท�าให้เป็น แล้วคุณ

จะอยู่ได้ทุกสนาม นี่คืออนาคตของคนไทย” นายบัญชา

ชุมชัยเวทย์ สรุป

‘สถาบันซิว-เสงี่ยม เพื่อภาษาและวัฒนธรรม

ข้ามชาติ’ ณ วิทยาลัยเทคโนยีภาคใต้ (เอสซีที) ได้

รับทุนสนับสนุนงบประมาณจากประธานกองทุนการ

ศึกษาเสริมมูลนิธิสวิตา (ดร.กนิษฐา กาญจนจารี) ซึ่ง

ตระหนักและเล็งเห็นความส�าคัญของการศึกษา ศาสนา

ภาษาและพหุวัฒนธรรม เพื่อสร้างเอกลักษณ์และจุด

เด่นของวิทยาลัยในการให้บริการทางวิชาการแก่ชุมชน

ท้องถิ่น ภูมิภาคและระดับชาติที่สอดคล้องกับการเข้าสู่

ประชาคมอาเซียนปลายปี ๒๕๕๘ ทั้งยกระดับการเรียน

การสอน

ศ.ดร. นิตย์ศรี แสงเดือน อธิการบดี เปิดเผยว่า

ขณะนี้วิทยาลัยมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากมาเลเซีย

เวียดนาม ลาว กัมพูชาหลายคน วิทยาลัยยึดมั่นใน

ปรัชญา ‘ภาษาและวัฒนธรรมเป็นสื่อน�าสังคมสู่ความ

เข้าใจ’ โดยหวังเชื่อมโยงทุกองคาพยพของสังคมเป็น

‘One Community’ ที่มีภาษาเป็นเครื่องมือ

เทคโนโลยีภาคใต้ (เอสซีที.) อ�าเภอทุ่งสง

นายบัญชา ชุมชัยเวทย์ พิธีกรรายการ ‘จอโลก

เศรษฐกจิ’ ทวีช่ีอง ๓ มาปาฐกถาเรือ่ง ‘เปิดประตทูองของ

ไทยสู่อาเซียน’ มีนักศึกษา คณาจารย์ ผู้บริหารองค์กร

เอกชน และสถาบนัการเงนิรบัฟังประมาณ ๕๐๐ คน

นายศิริพัฒ พัฒกุล กล่าวว่า บ้านเมืองจะดูดีได้

ต้องมีความเจริญทั้งภาครัฐและภาคเอกชน บ้านเมือง

จะพัฒนาผสมกลมกลืนกันไปด้วยดี การที่สถาบันซิว-

เสงี่ยมฯ เกิดข้ึนท่ีนี่น่าจะมีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัท

(พานาโซนิค) ท�าให้ได้ทุนตนถือว่าตรงประเด็น เร่ือง

ภาษาอังกฤษคนไทยไปเครียดว่าจะต้องส�าเนียงต้องดี

ถ้าไม่ดีก็น่าอาย แต่ถ้าเราอายสถาบันตั้งมามีทุนเท่าไร

ก็ไม่มีประโยชน์ เรียนแล้วเราใช้ไม่ได้ไม่มีประโยชน์

“วัฒนธรรมเป็นเรื่องเบื้องต้นที่ต้องเกิดก่อน เราจะ

ไปรักมาเลเซีย รักสิงคโปร์ รักบรูไน ฟิลิปปินส์ ลาว

กัมพูชา เราต้องรู ้จักเขาก่อน ต้องเรียนรู ้เขาก่อนว่า

ภาษาวัฒนธรรมเป็นอย่างไร เขากินอะไร แต่งกายยังไง

ชอบอะไรไม่ชอบอะไร อันนี้คือสิ่งที่เราต้องศึกษาเบื้อง

ต้นไว้ก่อน”

นายศิริพัฒ กล่าวต่อไปว่า คนไทยต้องเรียนภาษา

กลางๆ คืออังกฤษไว้ก่อน ถ้าพูดภาษาอังกฤษได้ก็ใช้ได้

ตรงกว่า เพราะประเทศที่ติดกับไทย ได้แก่ เมียนมาร์

มาเลเซีย สิงคโปร์ ส่วนภาษาที่สองหรือภาษาของแต ่

ละชาติก็ค่อยไปศึกษากันต่อไป “การเป็นอาเซียนหรือ

อะไรของโลกมันขึ้นอยู่กับเราเรียนรู้ไป แล้วต้องใช้ให้

เป็น เราต้องกล้าที่จะใช้ ถ้าเก่งแต่พูดกับครู แต่ไม่กล้า

พูดเวลาติดต่อธุรกิจการค้าก็ไม่มีประโยชน์ สถาบันน้ี

ได้สนับสนุนจากภาคเอกชน สิ่งส�าคัญต่อไปนักศึกษา

จะต้องน�าไปใช้ให้ได้จริง คนที่เขาให้ทุนให้งบฯ จะ

เง่ียหูฟังตลอดว่าให้แล้วจะได้อะไรขึ้นหรือเปล่า ค�าว่า

อาเซียน ค�าว่าภาษาวัฒนธรรมเอาไปใช้ของบประมาณ

ของรัฐบาลเป็นพันๆ ล้าน แต่ไม่ค่อยได้ประโยชน์ ศาลา

กลางก็มีการอบรมภาษาอังกฤษข้าราชการ อบรมสอง

เดือนวัน ๑-๒ ชั่วโมง หมดเงินไปเป็น

หมื่นเป็นแสน ข้าราชการก็ยังพูดไม่

เป็นเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นการให้

งบประมาณที่ลงไปเพ่ือความรู้ต่างๆ

ต้องดูผลสัมฤทธิ์ ผมชอบที่เป็นเชิง

ประจักษ์มากกว่ารูปแบบ เมื่อภาค

เอกชนให้งบประมาณมาแล้วเราต้อง

ท�าให้เกิด แล้วจะเชิดหน้าชูตา สร้าง

ชื่อเสียงและความเชื่อมั่นต่อสถาบันนี้

ตลอดไป”

นายบญัชา ชมุชยัเวทย์ แสดงปาฐกามสีาระน่าสนใจ

โดยเฉพาะประโยชน์ทีภ่าคใต้ควรจะได้จากการเปิดประชา-

คมอาเซยีน (AEC) ‘รกับ้านเกดิ’ เกบ็ความย่อๆ มาดงันี้

นายบัญชา กล่าวว่า หัวใจหลักของ AEC ก็คือท�า

ให้การติดต่อค้าขายระหว่างสมาชิก ๑๐ ประเทศมีภาษี

น�าเข้าศูนย์เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นข้อตกลงของทุกเขตการ

ค้าเสรีทั่วโลก การเป็น AEC มันไม่ได ้มีเฉพาะเรื่อง

เศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องสังคมและวัฒนธรรม

การเมืองระหว่างประเทศและเศรษฐกิจ สถาบันภาษา

และวัฒนธรรมคือหัวใจส�าคัญของประชาคมเศรษฐกิจ

อาเซียน เพราะผู้ซื้อผู้ชายต้องพูดจาตกลงกัน และควร

ค�านึงถึงการติดต่อค้าขาย (conectivity) ที่สะดวกที่สุด

เป็นส�าคัญ ถ้าดูจากสิ่งนี้โอกาสทางการค้าคนไทยอยู่ที่

กลุ่มอาเซียนบนแผ่นดินใหญ่ ได้แก่ เมียนมาร์ เวียดนาม

ลาว กัมพูชาและมาเลเซียมากกว่า เพราะอัตราเฉลี่ยทาง

เศรษฐกิจของเมียนมาร์ ลาว กัมพูชา และ เวียดนาม ๕ ป ี

ที่ผ่านมาเติบโตปีละ ๗.๙ เปอร์เซ็นต์ ประชากรใน ๔

ประเทศส่วนใหญ่ใช้เงินสด และมีก�าลังซื้อ ส่วนบรูไน

อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่เป็นเกาะการคมนาคมไม่

สะดวก ประชากร AEC มี ๖๐๐ ล้านคน อยู่ในอาเซียนบน

แผ่นดินใหญ่ประมาณ ๒๓๐ ล้านคน หรือ ๓๘ เปอร์เซ็นต์

ของ AEC “อาเซียนบนแผ่นดินใหญ่คือโอกาสทอง

Page 9: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๙

ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์

เป็นวิหารเล็กๆ หลังหนึ่งซึ่งอยู่ทางเหนือ

ของวิหารสามจอม (วิหารพระเจ้าศรี-

ธรรมาโศกราช) สร ้างขึ้นภายในเขต

พุทธาวาสของวัดพระมหาธาตุวรมหา-

วิหาร เป็นวิหารหลังล่าสุดของวัดนี้ เพราะ

เพิ่งสร้างใน พ.ศ. ๒๕๐๐ มีชื่อเรียกตาม

ชื่อของพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ภาย

ในวิหารหลังนี้ว่า “พระกัจจายนะ” หรือ

“พระสังกัจจายน์” หรือ “พระสุภูตเถระ”

แต่คนโดยทั่วไปเรียกกันว่า “พระแอด”

ดังนั้นวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์

นี้จึงได้ชื่อว่า “วิหารพระแอด” ตามไป

ด้วย

“บาราย” ได้กล่าวถึง “พระแอด”

ไว้ในคอลัมน์ “คัมภีร์จากแผ่นดิน” ใน

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจ�าวันจันทร์ที่

๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ หน้า ๕ ไว้อย่าง

น่าสนใจว่า แรกเริ่มเดิมทีพระแอดไม่

ได้อยู ่ในวิหาร แต่อยู ่โรงหลังคามุงจาก

เล็กๆ ไม่มีฝากั้น นอกบริเวณวิหารคด

ใกล้วิหารธรรมศาลา ต่อมาเม่ือประมาณ

พ.ศ. ๒๔๖๒-๒๔๖๓ พระยารัษฎานุ-

ประดิษฐ์ (สิน เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ผู้

ว่าราชการจังหวัดได้รับค�าสั่งจากผู้ใหญ่

ระดับ “สมเด็จอุปราชมณฑลปักษ์ใต้” ให้

อัญเชิญพระแอดเข้าไปประดิษฐานในโรง

ก�ามะลอ ซ่ึงสร้างไว้ใน พระวิหารคด ทาง

ทิศอีสานของวิหารโพธิ์ลังกา

รูปร่างพระแอดแต่แรกนั้นไม่ค่อย

งาม ขุนอาเทศคดี (กลอน มัลลิกะมาส)

ข ้าราชการกรมอัยการซึ่ งรับราชการ

ที่นครศรีธรรมราชเวลานั้น บันทึกว ่า

“พระกรทั้งสองข้างส้ันยาวไม่เท่ากัน พระ

ศกโกน (ไม่มีเส ้น) พระเนตรหรี่ พระ

พักตร์แหงนดูฟ้า ทั้งยังประทับนั่งเอนไป

ทางด้านหลังมาก” ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๙๘

พระรัตนธัชมุนี (แบน คณฐภรโณ) เจ้า

อาวาสได้บูรณะพระแอดใหม่ โดยให้

นายชม เสาวพันธุ์ กับนายแดง เป็นช่าง

ซ่อมขณะที่ช ่วยกันซ่อมได้มีชาวจีนคน

หน่ึงทักว่า ถ้าพระองค์นี้ลืมพระเนตร

บ้านเมืองจะเป็นสุข เกิดลาภสักการะ

แก่ผู ้บูชา ทุกฝ่ายหารือกัน โดยให้เบิก

พระเนตรให้กว้าง ท�าเม็ดพระศกให้ยาว

แต่งพระพักตร์ให้อวบอ้วนขึ้น เข้ากับ

พระเนตรที่มองไปข้างหน้า ล�าพระองค์

ก็ท�าให้นั่งตรงขึ้น เสร็จเรียบร้อยใน พ.ศ.

๒๕๐๐ ก็อัญเชิญเข้าไปประดิษฐานใน

วิหาร รูปลักษณะของพระแอดจากแบบ

เดิมมาถึงแบบที่ถูกดัดแปลงใหม่ ผู ้รู ้ใน

นครศรีธรรมราชถกเถียงกันว่า ไม่น่าจะ

ใช่พระพุทธรูป แต่น่าจะเป็นพระพุทธ

สาวกรูปใดรูปหนึ่ง

ความเห็นในเรื่องสถานะของพระ

แอด บารายสรุปไว้ว่าน่าจะแบ่งออกเป็น

สามกระแส

กระแสแรก เชื่อว ่าพระแอดเป็น

พระพุทธสาวก ช่ือพระมหากัจจายนะ

เถระ (หรือที่เรียกกันว่าพระสังขจายน์)

พระพุทธสาวกองค์นี้มีรูปลักษณะสง่า

งดงามคล้ายพระพุทธเจ้า ใครเห็นเป็น

หลงใหล ดังเช่นกรณีมีชายหนุ่มคนหนึ่ง

เห็นท่านแล้วอยากได้ท่านเป็นภรรยา แต่

ด้วยอานุภาพแห่งพระอรหันต์ ชายหนุ่ม

นั้นจึงกลับกลายเพศเป็นหญิง ได้หนีออก

จากหมู ่บ ้านไปแต่งงานกับชายในบ้าน

เมืองอื่น ต่อมาได้มากราบขอขมาโทษ

ท่าน ก็ได้กลับเป็นเพศชายเหมือนเดิม

พระมหากัจจายนะรู ้ว ่ารูปลักษณะของ

ท่านสร้างบาปเวรให้ผู้คน จึงแสดงฤทธ์ิ

ลอยขึ้นฟ้าแล้วปล่อยร่างหล่นลงมาถึงดิน

รูปร่างของท่านจึงพิกลพิการเช่นท่ีเห็นกัน

ทุกวันนี้

กระแสสอง เช่ือว ่าพระแอดเป็น

พระพุทธสาวก ชื่อ “พระสุภูติเถระ” มี

ประวัติว่าครั้งหนึ่งท่านจาริกไปถึงนคร

ราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารแจ้งกับท่านว่า

จะสร้างกุฏิถวายแล้วก็ลืม พระสุภูติต้อง

บ�าเพ็ญภาวนาอยู ่ตามโคนไม้ ผลที่พระ

เจ้าพิมพิสารผิดวาจา เมื่อถึงฤดูฝน ฝน

จึงไม่ตกต้องตามฤดูกาล ต่อมาเรื่องนี้รู้ถึง

พระเจ้าพิมพิสาร ก็โปรดให้เร่งสร้างกุฏิ

ถวาย ทันทีที่พระสุภูติได้เข้าไปอยู่ในกุฏิ

ฝนก็ตกลงมาเป็นที่น่าอัศจรรย์ จึงเชื่อกัน

แต่นั้นว่าพระสุภูติเป็นพระที่มีอานุภาพ

ขอฝนได้

กระแสสาม เยี่ยมยง สุรกิจบรรหาร

นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นสงขลา เชื่อว่า

เกิดจากการต่อสู้ระหว่างศาสนาพุทธฝ่าย

มหายานกับศาสนาพราหมณ์ เนื่องจาก

ฝ่ายพราหมณ์ได้สร้าง “ท้าวกุเวร”รูป

ร่างอ้วนพีพุงพลุ้ย ให้เป็นเทพเจ้าในทาง

ลาภผล ผู้ใดบูชาจะมั่งมีศรีสุข พระสงฆ์

ฝ่ายมหายานจึงสร้างพระแอดขึ้นมาแข่ง

บารมี เชื่อว ่าบูชาแล้วสิริมงคลครอบ

จักรวาล

ที่มาของค�า “พระแอด” ขุนอาเทศ-

คดี (กลอน มัลลิกะมาส) สันนิษฐานว่า

มาจากค�าว ่า เอเต ที่กร ่อนมาจากค�า

ว่า เอ้เต้ นั่งขัดสมาธิเอนตัวไปข้างหลัง

(เรียกว่านั่งเอ้เต้) อย่างไรก็ดี เยี่ยมยง สุร

กิจบรรหาร สันนิษฐานว่ามาจากค�าว่า

“เอธ” ซึ่งเป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า

จ�าเริญรุ่งเรือง อ้วนพี อุดมสมบูรณ์ แต่ไม่

ว่าจะเป็นพระพุทธสาวกองค์ใด ชาวนคร

ก็ยังเชื่อกันว่าปีใดฝนแล้ง ต้องนิมนต์พระ

สงฆ์มาสวดคาถาปลาช่อนที่โรงพระแอด

จัดภาชนะใส่น�้ามาวางไว้หน้าพระแอด

มีรูปนกยาง ๑ รูปปลาช่อน ๑ (ท�าด้วย

ดีบุก) วางไว้ ระหว่างพิธีต้องเปิดจากที่

มุงหลังคาออกไป ๒-๓ ตับ สมมติให้พระ

แอดมองเห็นท้องฟ้า ไม่ช้าไม่นานฝนก็

ตกลงมาราวปาฏิหาริย์

ในช่วง พ.ศ.๒๔๙๙ พระรัตนธัชมุนี

(แบน คณฐภรโณ เปรียญ) เป็นเจ้าอาวาส

วัดพระมหาธาตุฯ ได้ด�าเนินการบูรณะ

พระแอด และสร้างวิหารพระแอดขึ้น

ใหม่ โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระมหา

ธาตุฯ (พระครูพุทธิสารเจติยาภิวัฒน์

หรือพระพุทธิสารเถระ (ผุด สุวฑฺฒโน)

เป ็นผู ้อ� านวยการ เมื่อสร ้างเสร็จใน

พ.ศ. ๒๕๐๐ ก็อัญเชิญพระแอดขึ้นไป

ประดิษฐานที่วิหารหลังใหม่ คือพระวิหาร

แอดมาจนทุกวันนี้

พระแอดเป็นท่ีเคารพสักการะและ

นับถือของคนโดยทั่วไปมาก เชื่อกันว่าผู้

ใดปวดเอวปวดหลัง หากประสงค์จะให้

หายปวด ก็ให้น�าไม้ไปค�้ายันหลังพระแอด

อาการปวดก็จะหายได้ดังประสงค์

เครดิตภาพ : คุณหงกิม/คุณอรุณรัตน์/คุณบริภันธ์(บอย) ริเริ่มสุนทร ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๗

Page 10: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

ปีที่ ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปเที่ยวที่ยุโรปตะวันออก

เที่ยวนี้จัดไปกันในหมู่เพื่อน ช่วยกันแชร์ค่าใช้จ่ายจ้างไกด์คนไทยท่ีนั่นท�าภารกิจเรื่องจองโรงแรมในเมืองต่างๆ ให้ เหมารถน�าเที่ยวเอาไว้ให้ แล้วก็น�าทางอย่าให้หลง ประเทศที่ไปเที่ยวก็คือ ออสเตรีย ฮังการี สโลวาเกียและเช็ก ที่จริงประเทศเหล่านี้เคยไปมาแล้วครั้งหนึ่ง เวลาล่วงเลยมานับสิบปี กลับไปดูการเปลี่ยนแปลงของประเทศเขาหน่อย

เราขึ้นบินจากสนามบินสุวรรณ-ภู มิ โดยสายการบินของไต ้หวัน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินเป็นชาวไทยสองคน ญี่ปุ ่นหนึ่งคน ที่เหลือเป็นชาวจีน การดึงดูดลูกค้าโดยวิธีนี้ท�าให้ลูกค้าไทยมีความสุขมาก จึงมีผู ้ โดยสารคนไทยเกือบครึ่งล�า การสื่อสารประชาสัมพันธ์บนเครื่องใช้ภาษาจีนกลาง ภาษา

พระอาทิตย์ขึ้นหรือตกไม่ตรงเวลาอย่างบ้านเรา

เมืองแรกที่เราไปถึงออสเตรียคือเมืองฮัลสตัท เป็นเมืองที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลก ถือเป็นเมืองที่มีบรรยากาศโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรป ฮัลสตัทเป ็นเมืองเล็กๆ ระดับต�าบล มีทะเลสาบมากมายถึง ๗ แห่ง แต่ละแห่งล้วน

เท่านั้นท่ีเข้าได้ คนท้องถิ่น คนพื้นเมือง โดยเฉพาะคนขายของที่ระลึก ขายอาหาร ขายกาแฟ เครื่องดื่ม จะแต่งกายแบบพื้นเมือง เต็มที่บ้าง ไม่เต็มที่บ้าง แต่ก็ดูมีเอกลักษณ์ดี คนที่ เมืองฮัลสตัท เป็นคนอารมณ์ดี ไปเมืองฝร่ัง เรามักจะไม่เห็นฝร่ังยิ้ม เมืองนี้ผู ้หญิงยิ้มง่ายเหมือนคนไทย พวกผู ้ชายขี้ เล ่น หยอกล้อกับคนแปลกหน้าได้ ความสะอาดก็ต้องยกให้เมืองเขาแหละ ห้องน�้าห้องท่ามีมากมาย บริการฟรีแทบทั้งนั้น ที่ไม่ ใช่เมอืงท่องเท่ียวเขามกัจะเกบ็เงิน

โรงแรมที่ไปพักก็เป็นเกสเฮ้าส์ พักได้ ๗ ห้อง ๑๔ คน คณะเราเกือบเต็ม มีชาวญ่ีปุ ่นมาพักอีก ๒ ห้อง ประดับประดาด้วยของเก่ามากมาย สมเป็นเมืองมรดกโลก เพราะชาวเมืองทุกคนช่วยกันท�าให้เป็นเมืองมรดกโลก ไม่ใช่อาศัยให้ใครมาเนรมิตให้ เพราะเมืองเป็นของเขาทุกคน

สวยงามสงบ ในเขตใจกลางเมืองซ่ึงเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีบ้านเรือน โบสถ์ วิหาร วังและที่ท�าการตั้งแต่ครั้งโบราณยังรักษาและปรับปรุงบูรณะให้ดีอยู่ตลอด ผมเคยไปเมื่อสิบปีก่อน เขาก็ก�าลังบูรณะโบสถ์วิหารบ้านเมืองอยู ่ทั่วไป ปีนี้ก็เห็นบูรณะอยู ่อีกท้ังเมือง แต่เป ็นจุดอื่นๆ อีก อาคารบ้านเรือนแม้มีสีสันฉูดฉาดแต่ก็ดูดี ยังรักษางานสถา-ปัตย์แบบเก่าเอาไว้ ไกด์เล่าว่าบ้านเรือนที่สร้างใหม่ หรือบ้านเก่าท่ีไม่มีงานสถาปัตย์ตามท่ีเมืองเขาก�าหนด ถูกห้ามสร้างในเมืองมรดกโลก ต้องออกแบบงานสถาปัตย ์แบบบ้านเมืองเก่าของเขา จึงจะอนุญาตให้สร้างหรือบูรณะได้

ถนนหลายสายไม่อนุญาตให้รถยนต์เข ้า เป ็นเหมือนเมืองคนเดินและคนขี่จักรยาน บางถนนอนุญาตให้เฉพาะรถแท็กซี่เพียงไม่ก่ีคัน รถรางไฟฟ้า และจักรยาน

หน้า ๑๐

๒.๒ ระบบการสัญจรโครงข ่ ายการสัญจรภายใน

ปัจจุบันจะเป็นแบบตารางส่ีเหล่ียมรับกับสัณฐานของเมืองที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แต่จะมีลักษณะแปลกตาตรงบริเวณสี่เหลี่ยมตรงที่ถนนราชด�าเนินซึ่งเป็นถนนในแนวแกนเหนือใต้บิดไปทางตะวันออก โดยยังมีถนนพระบรมธาตุที่ยังมีแนวตรงอยู ่กลายเป็นทางแยกสามแพร่ง ถนนราชด�าเนินจะเป็นถนนสายหลักของบริเวณพื้นท่ีศึกษา โดยมีถนนศรีธรรมโศกขนานทางทิศตะวันออก และถนนศรีธรรมราชขนานทางทิศตะวันตก ส�าหรับถนนในแนวแกนทิศตะวันออก-ตะวันตกเป็นถนนที่มีขนาดเล็กกว่า และเชื่อมบรรจบกับถนนหลายเส้นในแนวเหนือ - ใต้ที่กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ถนนในเขตพื้นที่เขตเมืองเก่าจะประกอบด้วยทางสัญจรขนาดเล็ก แต่มีโครงข่ายที่เชื่อมต่อกัน ช่วยให้การสัญจรติดโดยเฉพาะทางเท้า และการใช้ยานพาหนะขนาดเล็กยังสามารถติดต่อกันได้โดยสะดวก (แผนที่ ๔)

ประเด็นการวิเคราะห์๑. ถนนราชด�าเนินเป ็นแกน

กลางของเมืองและเชื่อมส่วนต่างๆ ของเมืองนั้น จะเน้นความส�าคัญไปที่พระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าถนนราชด�าเนินเป็นแกนกลางของเมืองจะพุ่งจากทิศเหนือเข้าโอบล้อมวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารซ่ึงตั้งอยู ่ด ้านใต้ของเมืองและมีโบราณสถานและสถานที่ส�าคัญของเมือง ส่วนใหญ่จะอยู่ริมสองฟากของถนนราชด�าเนิน

เสนอโดย ส�ำนักวิชำสถำปัตยกรรมศำสตร์และกำรออกแบบ มหำวิทยำลัยวลัยลักษณ์

(ตอนที่ ๔)

๒. ถนนราชด�าเนินเป ็นถนนสายหลักของพื้นที่และรองรับพาหนะหลายประเภทส่งผลให้เกิดความสั่นสะเทือนและมลภาวะซึ่งอาจส่งผลให้โบราณสถานและสถานที่ส�าคัญเกิดความเสียหายขึ้นได้และมีการอนุญาตให้สามารถจอดรถริมถนนราชด�าเนินบริเวณหน้าวัดพระมหาธาตุ ท�าให้กีดขวางการจราจรและยังท�าให้บดบังทัศนียภาพบริเวณหน้าวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

๓. จุดตัดของถนนราชด�าเนินกับถนนชลวิถีและถนนประตูชัยเหนือและจุดตัดของถนนศรีธรรมโศกและถนนศรีธรรมราชกับถนนภายนอกพ้ืนท่ีศึกษาถือได้ว่าเป็นจุดที่มีความส�าคัญในการรับรู้ในการเข้าสู่เขตเมืองเก่าแต่ปัจจุบันยังขาดความชัดเจนในการเป็นเส้นทางแยกและขอบเขตพื้นที่กันชน

(Buffer Zone)

๒.๓ พื้นที่เปิดโล่งและมุมมองบริเวณพ้ืนที่แหล่งมรดกทาง

วัฒนธรรมมีที่โล่งซึ่งเป็นที่สาธารณะและเป ็นที่ โล ่งเพื่อนันทนาการที่มีความส�าคัญทางด้านประวัติศาสตร์ประกอบกันเป็นโครงสร้างได้แก่ แนวคูเมืองที่ล ้อมรอบเขตพื้นที่เมืองเก่า แนวก�าแพงเมืองทางด้านทิศเหนือ บริเวณหอพระอิศวร บริเวณหอพระนารายณ์ และบริเวณศาลพระเสื้อเมือง เป็นต้น และนอกจากนี้ภายในบริเวณพ้ืนท่ีศึกษายังมีท่ีโล่งและพ้ืนท่ีที่ใช้ประโยชน์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของหน่วยงานราชการและวัดท่ีมีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นที่โล ่งต ่อเนื่องกับระบบที่โล่งของเมืองเพื่อการส่งเสริมทัศนียภาพที่ดีในการมอง เช่น บริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด บริเวณหอนาฬิกา และพ้ืนท่ีบริเวณสวนศรีธรรมโศกราชและเชื่อมต่อกับสนามหน้าเมืองซึ่งเป็นที่โล่งสาธารณะหลักของเมืองซึ่งสถานที่ส�าคัญเหล่านี้สามารถมองเห็นได้โดยต่อเนื่อง และพื้นที่ดังกล่าวตั้งกระจายตามแนวถนนราชด�าเนินซึ่งเป็นทางสัญจรหลักของเมือง โดยมีพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นที่หมายตาของเมือง (Landmark) ซึ่งจะต้องรักษาความเป็นที่หมายตาของเมืองไว้ (แผนที่ ๕)

ประเด็นการวิเคราะห์๑. พื้นท่ีโล่งท่ีมีความส�าคัญทาง

ด้านประวัติศาสตร์และมีความสัมพันธ์กับองค์พระบรมธาตุเจดีย์ บางส่วนถูกบุกรุกเพื่อการอยู ่อาศัย หรือใช ้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เช่น บริเวณคูเมืองด ้านทิศตะวันออกทิศตะวันตกและทิศใต้ มีการสร้างอาคารท่ีพักอาศัยถาวร หรือมีการสร้างอาคารส�าหรับเป็นร้านอาหารคร่อมบริเวณคลองคูเมือง

๒. ลักษณะรูปแบบของพื้นที่โล่งเพื่อนันทนาการและมีความส�าคัญทางด้านประวัติศาสตร์ ไม่สอดคล้องกับโบราณสถานและองค์ประกอบหลักในพื้นที่ เช่น บริเวณลานหน้า วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นที่ส�าหรับงานกิจกรรมประเพณีทางศาสนา แต่มีรูปแบบทางภูมิสถาปัตย์ที่ไม่สอดคล้องกับปรัชญา คติ ความเช่ือ ในการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ บริเวณศาลากลางจังหวัดซึ่งอดีตเคยเป็นจวน

ของเจ้าเมืองและมีหอพระพุทธสิหิงค์แต่กลับไม่ให้ความส�าคัญของการเปิดมุมมองของหอพระพุทธสิหิงค์ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่มีความส�าคัญทางด้านประวัติศาสตร์ในบริเวณพื้นที่ เป็นต้น

๓. พระบรมธาตุเจดีย์วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเป็นที่หมายตาของเมือง (Landmark) ซึ่งจะต้องรักษาความเป็นที่หมายตาของเมืองไว้ ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทิศทางที่มองเห็นจากถนนราชด�าเนิน ซึ่งเป็นทางสัญจรหลักของเมือง โดยมิให้มีสิ่งใดมาบดบังหรือเปลี่ยนแปลงความส�าคัญและความเด่นชัดของพระบรมธาตุเจดีย์

๔. สถานที่ส�าคัญหรือองค์ประ-กอบของเมืองเก่าอื่นๆ มีสิ่งก่อสร้างหรืออาคารบ้านเรือนมาบดบัง ท�าให้โบราณสถานหรือสถานที่ส�าคัญเสียความเป็นเอกลักษณ์ส�าคัญของพื้นที่ เช่น หอพระพุทธสิหิงค์ คูเมืองและก�าแพงเมอืง ถนนราชด�าเนนิ ซึง่ควรม ีการเปิดมุมมอง เพื่อให้สามารถรักษาเอกลักษณ์ความเป็นพ้ืนที่ที่ มีความส�าคญัทางประวตัศิาสตร์ได้อย่างชดัเจน

โดยการปรับปรุงพื้นที่จังหวัดนครศรี ธรรมราชได ้แต ่ งตั้ งคณะกรรมการฝ่ายบริหารจัดการพื้นที่หลัก (Core Zone) และคณะกรรมการฝ่ายบริหารจัดการพื้นที่กันชน (Buffer

Zone) และมีการรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการ และผู้ทรงคูณวุฒิภายในจังหวัด รวมถึงการท�าความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นกับร้านค้าและประชาชนถึงประโยชน์จากการเสนอขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก เพื่อพิจารณากรอบแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับเกณฑ์ตัวชี้วัดของยูเนสโก้

นครศรีธรรมราช

อังกฤษ ภาษาไทยและภาษาจีนท้องถิ่น คือกวางตุ ้งอีกหนึ่งภาษา เขาบริการกันถึงขนาดนี้ทีเดียว

เวลาที่บ้านเมืองเขาช้ากว่าเรา ๕ ชั่วโมง แต่พออยู ่ไปอีก ๔ วัน เวลาก็ปรับให้ช้าไปอีกเป็น ๖ ชั่วโมง

แผนที่ ๔ แสดงโครงข่ายการสัญจรที่มา: ผู้วิจัย

แผนที่ ๕ แสดงบริเวณที่มองเห็นจากเส้นทางการเข้าถึง

Page 11: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

อีกทั้งหากแนวสันทรายเป็นตัวก�ากับให้เกิดการ

วางผังในแนวเหนือ-ใต้จริงจะเกิดค�าถามต่อว่า

“ท�าไมองค์พระธาตุเจดีย์จึงไม่มีบันไดทางขึ้นที่หันไป

ยังด้านทิศใต้” ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองพระเวียง และเป็น

ทิศที่สัมพันธ์กับคติความเชื่อในพุทธศาสนาในคติความ

เชื่อเรื่องชมพูทวีป ที่กล่าวว่าตั้งอยู ่ทางทิศใต้ของเขา

พระสุเมรุอีกด้วย ดังจะเห็นว่าพระเจดีย์สุวรรณมาลิก วัด

ราชประดิษฐาน (วัดพระโคะ) อ.สทิงพระ จ.สงขลา และ

พระเจดีย์ประธาน วัดพระเจดีย์งาม อ.ระโนด จ.สงขลา

ต่างก็มีบันไดทางขึ้นสู่ลานประทักษิณอยู่ทางด้านทิศใต้

จึงเห็นได้ว่าการวางผังขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่สร้าง

บันไดทางข้ึนสู่ลานประทักษิณไปทางทิศเหนือนี้ เกิดจาก

การออกแบบสร้างสรรค์อย่างจงใจ และอาจมีมูลเหตุที่มา

ที่สืบทอดมาจากคติความเชื่อหรือรูปแบบบางประการ

ท่ีสืบทอดมาในหน้าประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ซึ่ง

ปัจจุบันการรับรู้ในได้ขาดตอน ไปแล้วก็เป็นได้

พัฒนาการของผังบริ เวณของวัดพระมหาธาตุ

นครศรีธรรมราชนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า วัดพระมหาธาตุ

นครศรีธรรมราชมีพัฒนาการผ่านกาลเวลามาอย่าง

ยาวนาน ผ่านทั้งช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ และช่วงเวลาที่ทรุด

โทรมจากบ้านเมืองประสบเหตุทุพภิกขภัย แต่อย่างไร

ก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีผู้คนอยู่ในเมือง จนกระทั่งเมือง และ

วัดต้องทิ้งร้างไปนั้น แต่ทว่าความทรงจ�าของผู้คนที่อยู่ใน

ที่ต่างๆ ทั้งที่ใกล้ที่ไกล ในฐานะที่องค์พระบรมธารตุเจดีย์

นครศรีธรรมราช และวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารได้ท�า

หน้าที่เป็นหมุดหมายส�าคัญของการ ประดิษฐานพระพุทธ

ศาสนาในดินแดนต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย

เฉพาะรัฐในลุ่มน�้าเจ้าพระยา อาทิ อยุธยา ธนบุรี และ

รัตนโกสินทร์ ตลอดจนสุโขทัย และล้านนา ได้ยึดโยงเอา

พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เป็นหมุดหลักส�าคัญใน

การเขียนคัมภีร์และประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนามาโดย

ตลอด ดังจะเห็นได้ว่าแม้ว่าใน ประวัติศาสตร์ที่มีเหตุการณ์

หลายครั้งเมืองนครศรีธรรมราชต้องร้างลาผู้คน แต่ไม่นาน

(ตอนที่ ๓ ต่อจากฉบับที่แล้ว)

(ต่อฉบับหน้า)

ก็จะมีผู้แสวงหาองค์ พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช

เพื่อท�านุบ�ารุง ซ่อมแซม บูรณปฏิสังขรณ์มาตลอดหน้า

ประวัติศาสตร์ ยังผลให้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารธ�ารง

รักษาคุณค่าในฐานะศูนย์กลางอันรุ ่งเรืองของพระพุทธ

ศาสนามา ได้ตราบกระทั่งปัจจุบัน ดังที่ฉายแสงทองแห่ง

ความรุ่งโรจน์มายังมรดกพุทธศิลป์แห่งความรุ่งโรจน์ ผ่าน

มรดก พุทธศิลป์สถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัด

ผังบริเวณของวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารมีอยู่ ๘

ระยะ แต่ละระยะของการเปลี่ยนแปลงเป็นผล มาจาก

การก่อสร้างเสนาสนะต่างๆถวายเพื่อเป็นพุทธบูชา โดยมุ่ง

ประโยชน์ใช้สอยใน แง่มุมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรม

ทางศาสนาอันเกิดจากพลังความศรัทธาของผู ้คนเป็น

ส�าคัญดังรายละเอียด ต่อไปนี้

ระยะที่ ๑. ก่อสร้างองค์พระบรมธาตุเจดีย์ทรง

ระฆังคว�่า ในปี พ.ศ. ๑๗๑๙ การก่อสร้างครั้งนั้นอาจจะ

มีการสร้างเจดีย์ราย และวิหารหรือศาลาส�าหรับประกอบ

พิธีกรรมทางศาสนาอยู่คู่ด้วย แต่ไม่มีหลักฐานลายลักษณ์

ยืนยัน

ระยะที่ ๒. พัฒนาการของผังบริเวณ อาจเป็นไปได้

๓ ระยะ คือ

๒.๑ ก่อสร้างวิหารธรรมศาลา และวิหารทับเกษตร

ในปี พ.ศ. ๑๘๖๑

๒.๒ ก่อสร้างวิหารโพธิมณเฑียรก่อนหน้าการสร้าง

วิหารธรรมศาลา และวิหารทับเกษตร ในปี พ.ศ. ๑๘๖๑

๒.๓ ก่อสร้างวิหารโพธิมณเฑียรหลังการก่อสร้าง

วิหารธรรมศาลา และวิหารทับเกษตร ในปี พ.ศ. ๑๘๖๑

(แต่ต้องก่อนหน้าการสร้างวิหารเขียน ในปี พ.ศ. ๑๙๑๙)

ระยะที่ ๓. ก่อสร้างพระวิหารเขียน ในปีพ.ศ.๑๙๑๙

ระยะที่ ๔. ก่อสร้างระเบียงคดล้อมผังบริเวณเขต

พุทธาวาส ในปี พ.ศ. ๒๐๓๖ และสันนิษฐานว่ามีการล้อม

ผนังวิหารธรรมศาลา และก่อท้ายวิหารให้เป็นท้ายจรณัม

เพื่อเชื่อมต่อกับระเบียงคด

ระยะที่ ๕. การบูรณปฏิสังขรณ์วัดพระมหาธาตุคร้ัง

ใหญ่ทั้งพระอาราม กล่าวคือมีการบูรณปฏิสังขรณ์พระ

เจดีย์ที่ทลายลงมาถึงบัลลังก์ ซึ่งคงได้มีการซ่อมวิหารเขียน

วิหารทับเกษตร และวิหารพระม้าด้วย รวมไปถึงมีการ

ปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ที่น�ามาจากลังกา และสร้างวิหารโพธิ

มณเฑียรขึ้นใหม่

ระยะที่ ๖. ก่อสร้างวิหารที่ภายในประดิษฐานพระ

เจดีย์ และพระพุทธรูป เป็นวิหารที่เรือนยอดทรงมณฑป

ในปี พ.ศ. ๒๑๗๑

ระยะที่ ๗. การสร้างวิหารหลวงใหม่ลงต�าแหน่งวิหาร

ยอดมณฑปหลังเดิม ซึ่งการก่อสร้างวิหารหลวงใหม่นี้อยู่

ราวปี ในปี พ.ศ. ๒๓๕๔ - ๒๓๘๒

ระยะที่ ๘. การก่อสร้างระเบียงคดทางด้านทิศเหนือ

เพิ่มเติม และการก่อสร้างซุ ้มประตูเยาวราช ในปีพ.ศ.

๒๔๕๒

อย่างไรก็ตาม การศึกษาในครั้งนี้มีข้อจ�ากัดหลาย

ประการ โดยเฉพาะความยอกย้อนของเอกสารประวัติ-

ศาสตร์ต่างๆ ซึ่งหากมีการศึกษาเอกสารต�านานเมือง

นครศรีธรรมราช และต�านานวัดพระบรมธาตุนครศรี-

ธรรมราชอย่างเป็นระบบ จะมีคุณูปการต่อการศึกษาใน

เรื่องนี้เพิ่มเติมขึ้น และอาจท�าให้ผู ้วิจัยมีความผิดพลาด

น้อยลง ซึ่งท�าให้การศึกษาในหัวข้อนี้ต้องใช้เวลามากขึ้น

อีกหลายเท่าตัว

นอกจากนี้ ยังมีอาคารขนาดย่อมอีกเป็นจ�านวน

มากที่ไม่สามารถหาช่วงเวลาในการก่อสร้างที่แน่นอน

ได้ เช่น “วิหารสามจอม” หรือ (วิหารพระศรีธรรมา

โศกราช”) ที่เป็นอาคารที่ประกอบอยู่ในผังบริเวณที่ยัง

ไม่สามารถก�าหนดช่วงเวลาในการก่อสร้างได้ รวมไปถึง

การซ่อมแปลงพระวิหารหลวงครั้งใหญ่ และการซ่อมวัด

พระมหาธาตุวรมหาวิหารทั้งพระอารามในสมัยรัชกาล

ท่ี ๕ ที่ด�าเนินการโดยท่านปานผู้เป็นพระภิกษุ หรือการ

ซ่อมวิหารโพธิมณเฑียรโดยท่านนิ่มผู้เป็นเจ้านายเชื้อสาย

นครศรีธรรมราช ก็ล้วนแต่มีความส�าคัญและน่าสนใจ

ทั้งสิ้น

หน้า ๑๑นครศรีธรรมราช

ดร.เกรียงไกร เกิดศิริ, อาจารย์บุณยกร วชิระเธียรชัย

Page 12: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๒ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

น้องตั้ม อยู ่ชั้น ป.๓ ท�ำให้แม่รู ้สึก

หนักอกหนักใจเวลำสอนกำรบ้ำนทุก

วัน จนป่ำนนี้ก็ยังอ่ำนหนังสือไม่ค่อยออก

อ่ำนตะกุกตะกัก พออ่ำนได้แล้วกลับมำ

ทวนใหม่ก็ลืมอีกแล้ว เขียนก็ผิดประจ�ำ...

ท�ำไมถึงเป็นแบบนี้นะ? ทั้งที่น้องตั้มดูฉลำด

ดูเหมือนเพื่อนทุกอย่ำง ควำมจ�ำเร่ืองอื่นๆ

ดีมำก ถำมปำกเปล่ำจะตอบได้ คิดเลขเร็ว

ด้วย แต่พอให้อ่ำนทีไร...ไปไม่เป็นทุกที

LD คืออะไร?

LD ย่อมำจำก learning disabilities

คือ ควำมบกพร่องของกระบวนกำรเรียน

รู้ ที่เกิดจำกกำรท�ำงำนที่ผิดปกติของสมอง

ท�ำให้ควำมสำมำรถด้ำนกำรเรียน ต�่ำกว่ำ

ชั้นเรียนจริง อย่ำงน้อย ๒ ชั้นเรียน

ควำมบกพร่องนี้ อำจเกิดขึ้นเฉพำะ

ควำมสำมำรถด้ำนใดด้ำนหนึ่ง เช่น กำร

อ่ำน กำรเขียน กำรสะกดค�ำ กำรค�ำนวณ

หรือหลำยๆ ด้ำนร่วมกัน จนส่งผลรบกวน

ต่อผลกำรศึกษำ หรือกิจกรรมในชีวิต

ประจ�ำวันอย่ำงมีนัยส�ำคัญ

ปัญหำกำรเรียนรู้นี้ ต้องไม่ได้เกิดจำก

ควำมบกพร่องของกำรมองเห็น กำรได้ยิน

ปัญหำทำงอำรมณ์ หรือกำรขำดโอกำส

ทำงกำรศึกษำ

พบบ่อยแค่ไหน?

เด็กในวัยเรียนพบว่ำร้อยละ ๖ -

๑๐ จะมี LD

เด็กชำยพบมำกกว ่ ำ เด็กหญิง

อัตรำส่วน ๔ : ๑

สาเหตุของ LD

ควำมผิดปกติของกำรท�ำงำนของ

สมองที่เกิดขึ้น ไม่ทรำบสำเหตุที่ชัดเจน

แต่พบว่ำปัจจัยด้ำนกรรมพันธุ ์ มีควำม

เกี่ยวข้องอย่ำงมำก

ลักษณะอาการของเด็ก LD

LD ด้ำนกำรอ่ำน

- อ่ำนไม่ออก อ่ำนช้ำ อ่ำนได้แต่ค�ำ

ง่ำยๆ

- อ่ำนผิดบ่อย อ่ำนข้ำม อ่ำนเพิ่มค�ำ

- เดำค�ำเวลำอ่ำน

- จ� ำพ ยัญชนะ สระ ห รือ เสี ยง

วรรณยุกต์ไม่ได้

- อ่ำนเสียงเบำ ตะกุกตะกัก (เพรำะ

ไม่มั่นใจ)

- อ่ำนจับใจควำมส�ำคัญไม่ได้

ขอบคุณภาพจาก http://www.appannie.com/apps/ios/app/learning-disability/

LD ด้านการเขียน สะกด

- ลากเส้นม้วนหัววนซ�้าๆ ม้วนหัวผิด

- เรียงล�าดับอักษรผิด เช่น สถิติ เป็น

สติถิ

- เขียนพยัญชนะ หรือ ตัวเลขกลับ

ด้าน

- เขียนตามแบบได้ แต่เขียนตามค�า

บอกไม่ได้

- เขียนไม่ตรงบรรทัด ตัวไม่เท่ากัน

ไม่เว้นช่องไฟ

- เขียนค�าตามตัวสะกด เช่น เกษตร

เป็น กะเสด

- เขยีนหนงัสอืช้าเพราะกลวัสะกดผดิ

LD ด้านการค�านวณ

- ไม่เข้าใจค่าของตัวเลข เช่น หลัก

หน่วย สิบ ร้อยพัน หมื่นเป็นเท่าใด

- นบัเลขไปข้างหน้าหรอืถอยหลังไม่ได้

- ค�านวณบวกลบคูณหารโดยการ

นับนิ้ว

- จ�าสูตรคูณไม่ได้

- เขยีนเลขกลบักนั เช่น ๑๓ เป็น ๓๑

- ทดไม่เป็นหรือยืมไม่เป็น

- ตีโจทย์เลขไม่ออก

- ค�านวณเลขจากซ้ายไปขวาแทนท่ี

จะขวาไปซ้าย

- ไม่เข้าใจเรื่องเวลา หรือมาตรวัด

ต่างๆ

ปัญหาพฤติกรรมและอารมณ์ของเด็ก LD

- หลีกเลี่ยงการอ่านการเขียน

- ท�าสมุดการบ้านหายบ่อยๆ

- ดูเหมือนเด็กเกียจคร้าน ต่อต้าน

แบบดื้อเงียบ

- ไม่มีสมาธิในการเรียน ท�างานช้า

หรือไม่เสร็จ

- ท�างานสะเพร่า

- ความจ�าไม่ดีได้หน้าลืมหลัง

- ขาดความมั่นใจ กลัวครูดุกลัว

เพื่อนล้อ

- ไม่อยากมาโรงเรียน โทษครู โทษ

เพื่อน

- เบื่อหน่ายท้อแท้กับการเรียน

- รูส้กึว่าตวัเองไม่เก่ง ด้อยกว่าคนอืน่

- อารมณ์หงุดหงิด เมื่อถูกจ�้าจี้จ�้าไช

เรื่องเรียน

เมื่อไหร่จะวินิจฉัยว่าเป็นแอลด ี

หากแพทย์สงสัยว่าเด็กน่าจะเป็น

แอลดี จากประวัติ และอาการของเด็กดัง

กล่าว ส่ิงท่ีช่วยยืนยันการวินิจฉัยคือ แบบ

ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (Wide

Range Achievement Test: WRAT) ซึ่ง

ทดสอบโดยนักจิตวิทยา หากผลการเรียนรู้

ด้านการอ่าน/ เขียน/ ค�านวณ (หรืออย่าง

ใดอย่างหนึ่ง) ต�่ากว่าระดับช้ันเรียนจริง

อย่างน้อย ๒ ชั้นเรียน เช่น ช่วงที่ทดสอบ

เด็กอยู ่ ป.๓ แต่ผลทดสอบการเรียนได้

ระดับ ป.๑ และผลทดสอบทางเชาวน์

ปัญญา (IQ) ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์บกพร่อง จะ

วินิจฉัยว่าเป็นแอลดี

จะเกิดอะไรกับเด็กแอลดีเมื่อเขาโตขึ้น?

• ในเด็กบางคนอาการจะหายไปได้

เมื่อโตขึ้น แต่ในเด็กส่วนใหญ่อาการยังคง

อยู่ หากไม่ท�าการช่วยเหลือแล้ว การเรียนรู้

ที่สับสนและล�าบาก มักน�าไปสู่การล้มเหลว

ในการเรียนและปัญหาทางอารมณ์

• การที่เด็กเรียนรู ้แบบปกติไม่ได้

ทั้งๆ ที่สติปัญญาดีน้ันมักท�าให้เด็กมีความ

หงุดหงิดใจ รู้สึกตัวเองโง่ เด็กมักถูกเพื่อน

ล้อ ถูกผู้ใหญ่ต�าหนิว่าไม่พยายาม เด็กจะ

มีปฏิกิริยาต่อประสบการณ์ดังกล่าว ใน

หลายลักษณะ เช่น อาการวิตกกังวล ซึม

เศร้า ก้าวร้าว ซึ่งท�าให้ปัญหาการเรียนที่มี

อยู่นั้นแย่ลงไปอีก บางคนปรับตัวไม่ได้จน

ต้องออกจากโรงเรียน กลายเป็นอันธพาล

ใช ้สารเสพติด บางคนหางานท�าไม ่ได ้

เป็นต้น

การช่วยเหลือเด็กที่เป็นแอลดี (LD)

เด็กแอลดีจ�าเป็นต้องจัดแผนการ

เรียนรายบุคคลจากทางโรงเรียน เพื่อ

วัดผลเฉพาะราย ดังน้ันหากเด็กได้รับการ

รับรองจากแพทย์ และโรงเรียนมีแผนการ

เรียนรายบุคคล ไม่จ�าเป็นที่เด็กจะต้องซ�้า

ชั้นหากสอบไม่ผ่าน

แนวทางการสอน ควรเริ่มต้นจาก

ง่ายๆ ไปยาก สอนซ�้าๆ จนก้าวหน้าทีละขั้น

สอนในช่องทางที่เด็กถนัด เช่น การใช้ภาพ

เสียง การสัมผัส มาประกอบ ใช้เครื่องมือ

ต่างๆ เข้ามาช่วยเด็ก เช่น เด็กที่มีปัญหา

การเขียน อาจใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยพิมพ์

เด็กที่มีปัญหาการอ่านก็ใช้เครื่องอัดเทปมา

ช่วย

ยอมรับนับถือในตัวเด็กว่าเด็กก็

เป็นบุคคลที่มีความหมายและมีสิ่งดีๆ ใน

ตนเองเหมือนกัน มองหาจุดแข็งในตัวเด็ก

สนับสนุนความสามารถด้านอื่นๆ นอก

เหนือจากการเรียน เช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ

จะช่วยให้ลูกได้มองเห็นคุณค่าในตัวเอง

ผู ้ปกครองควรมีความคาดหวังที่

เหมาะสม อดทนและใจเย็นให้มากเมื่อ

สอนการบ้านเด็ก เพราะเด็กไม่ได้ตั้งใจที่

จะท�าไม่ได้ จัดเวลาการฝึกฝนเรื่องเรียนให้

เด็กแบบตัวต่อตัวอย่างสม�่าเสมอ

รักษาภาวะร่วม เช่น โรคสมาธิสั้น ที่

มักพบร่วมกับ LD ได้บ่อย

Page 13: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๓

ขอต้อนรับผู ้ว ่าราชการจังหวัดนคร-

ศรีธรรมราชคนใหม ่ “พีระศักดิ์

หินเมืองเก่า” ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อ

ปลายปีที่แล้วผมได้เคยกล่าวต้อนรับผู ้

ว่าฯ ท่านท่ีแล้วในคอลัมน์นี้เช่นกัน นับ

เป็นเร่ืองปกติที่ชาวนครเคยชินต่อการ

เปล่ียนแปลงพ่อเมืองบ่อยมากจนยังไม่ทัน

จ�าชื่อได้ก็เปลี่ยนอีกแล้ว และไม่ว่าจะชื่อ

อะไรก็ตามเราก็ยังเชื่อความสามารถและ

วิสัยทัศน์ของทุกท่านที่ถูกส่งมาจังหวัด

นี้ (แม้ว่าบางท่านเคยกล่าวว่าไม่ได้ขอให้

มาลงก็ตาม) ซึ่งแต่ละท่านสร้างผลงาน

ออกมาได้โดดเด่น อาจเป็นเพราะนครเป็น

เมืองใหญ่ที่มีต้นทุนเดิมอยู่มากไม่ว่าเรื่อง

ราวทางประวัติศาสตร์โบราณที่ยังคงอยู ่

สืบทอดกันมา มีทรัพยากรทางด้านการ

ท่องเที่ยว ด้านการเกษตร ด้านการศึกษา

ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะ ๒ - ๓

ปีที่ผ่านมา ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้มา

ท่องเที่ยวเมืองนครกันขนานใหญ่ โดยใช้

ค�าขวัญว่า “นครศรีดี๊ดี” และ “มานครที่

เดียว เที่ยวกันได้ทั้งปี” หมายถึงจังหวัดนี้

มีเรื่องดีๆ ให้มาเที่ยวชมกันมากมาย มีการ

ไปเช่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่กรุงเทพฯ

มีรายการเชิญชวนทางโทรทัศน์ จนเรียก

แขกให้ติดหูติดตาได้ มีการรับรองคุณภาพ

ผลิตภัณฑ์สินค ้าชุมชนที่แตกต ่างจาก

เมืองอื่น แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่เรื่องเหล่า

นี้กลับขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆ

ที่ชื่อยี่ห้อ (Brand) เริ่มเป็นที่รู ้จักกันทั่ว

ประเทศแล้ว หากไม่มีการสานต่อก็เป็น

เรื่องน่าเสียดายที่ต้องสร้างเรื่องใหม่ทุก

ครั้งที่มีการเปลี่ยนพ่อเมือง คงไม่ต้องชี้น�า

ว่าจะต้องมีแผนระยะสั้น ระยะกลางและ

ระยะยาวอย่างไรหรอกครับ เพราะทาง

ราชการจะท�ากันเป็นประจ�าอยู่แล้ว แต่

ต้องผ่านการระดมความเห็นจากองค์กร

ภาคเอกชน เช่นหอการค้าจังหวัด สภา

อุตสาหกรรมจังหวัด หรือผู้แทนกลุ่มนัก

ธุรกิจ แล้วท�าแผนให้น่ิง (Planning) จะ

ช่วยให้การวางแผนการลงทุนของภาค

เอกชนมีความถูกต้องมั่นคงขึ้นโดยไม่มี

ผลกระทบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแผนหรือ

นโยบายจากภาครัฐ และไม่เป็นภาระต่อ

ภาครัฐที่ต้องดูแลอุ้มชูตลอดเวลา

เรื่องดีดีส ่งท้ายปีเรื่องแรกของผม

คือการรับทราบมาว่านครศรีธรรมราช

ดังเช่นเราเองก็อาจก้าวข้ามไปท�าธุรกิจใน

ถิ่นอื่นถ้ามีความสามารถและศักยภาพพอ

ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเรียนรู้การท�าธุรกิจที่

ให้อยู่ร่วมกันได้ แต่สิ่งที่ในภาครัฐต้องช่วย

ดูแลคนท้องถิ่นที่มีก�าลังน้อยกว่าก็คือการ

ช่วยส่งเสริมธุรกิจ SME โดยเฉพาะอย่าง

ยิ่งนักธุรกิจรุ ่นใหม่ที่กลับมาบ้านเกิดที่

นับวันมีมากขึ้น ไม่ว่าเร่ืองความรู้การท�า

ธุรกิจ แหล่งเงินทุน การตลาด และการ

ยืดหยุ่นกฎเกณฑ์บางประการให้อยู่ได้ และ

ในภาพรวมก็ต้องเตรียมกันให้ทันคือ โครง-

สร้างพื้นฐานระบบสาธารณูปโภค (Infra

Structure) ไม่ว่าเรื่องระบบถนน ระบบ

ระบายน�้า ระบบน�้าประปา ระบบไฟฟ้า

ที่เป็นหัวใจส�าคัญในการพัฒนาเมืองทาง

กายภาพ ต้องมีความชัดเจนที่จะจัดหาจัด

สร้างอย่างมีระยะเวลาที่แน่นอน มิฉะน้ัน

เมืองจะโตแบบตัวใหญ่ขาลีบ ในที่สุดก็จะ

ล้มครืนลงเพราะรับน�้าหนักไม่ไหว

เรื่องราวดีดีก่อนสิ้นปีนี้ผมก็หวังว่า

คงท�าให้คนนครมองเห็นแสงสว่างในปีหน้า

และมีก�าลังใจมากขึ้น จึงถือโอกาสอ�านวย

พรปีใหม่ให้ทุกท่านมีพลานามัยแข็งแรงที่

จะสร้างความสุขทั้งกายและใจให้ตนเอง

ตลอดปี ๒๕๕๘ ครับ และก่อนจบผมก็มี

ภาพงานออกแบบสัญลักษณ์ “นครศรีดี๊ดี”

หนึ่งใน ๓ แห่งที่ยังคงเหลือไว้ให้นักท่อง

เที่ยวได้ถ่ายภาพเป็นฉากหลังเก็บไว้เป็นที่

ระลึกว่ามาถึงเมืองนครแล้ว (อีก ๒ แห่ง

คือที่สวนสาธารณะศรีธรรมโศกราช ใน

ตัวเมืองนคร และที่หมู่บ้านคีรีวง อ�าเภอ

ลานสกา )

เป็นหนึ่งใน “๑๒ เมืองต้องห้าม....พลาด”

เป็นการเล่นค�าที่น่าสนใจของการท่อง-

เที่ยวแห่งประเทศไทยและน่ายินดีส�าหรับ

นครเราที่ได้รับเลือก ผมคิดว่าไม่ใช่เร่ือง

ธรรมดาที่เราสามารถเบียดขึ้นมาได้ (ขอ

ขอบคุณท่านรัฐมนตรีกระทรวงการท่อง

เที่ยวและกีฬาแทนชาวนครด้วยครับ) ราย

ละเอียดคงต้องไปหาดูกันเองว่ามีอะไรบ้าง

ที่จะต้องคิดต่อยอดไปอีก และเร่ืองแบบ

นี้ควรจะขึ้นป้ายทั่วเมืองสื่อให้คนนครรับ

รู้และซึมซับเรื่องราวของบ้านเมืองตัวเอง

แม้กระทั่งบทความของผมก็เป็นหนึ่งสื่อที่

ท�าหน้าที่ให้เรารู้จักบ้านเกิดตัวเองและมี

ความภาคภูมิใจในสิ่งดีๆ ที่มีอยู่ (แต่มิใช่

เป็นการหลงตัวเองนะครับ)

เรื่องดีดีต่อมาคือได้เห็นการขยับตัว

เคลื่อนไหวในเร่ืองที่ผมเขียนย�้าซ�้าประโยค

กันบ่อยๆ จนเบื่อกันไปทั้งคนอ่านคนเขียน

กันหลายปีในหนังสือพิมพ์น้ี เช่นประโยค

ว่า “บ้านเมืองที่น่าอยู่ ผู ้คนต้องมีวินัย”

เป็นต้น แต่ขณะนี้เป็นเร่ืองที่น่ายินดีว่า

ผมได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมาก

แม้ว่าบางเรื่องต้องใช้อ�านาจพิเศษเข้ามา

จัดการก็ตาม จึงท�าให้เกิดการสร้างวินัยขึ้น

จนบ้านเมืองดูดีขึ้นจนผิดหูผิดตา (เช่น เรื่อง

การจัดระเบียบบนทางเท้า เรื่องการรักษา

ความสะอาดในที่สาธารณะ เรื่องการเข้ม

ให้สวยงามน่ามาเที่ยว เรื่องวินัยน้ีผมเห็น

ว่าเป็นเรื่องส�าคัญมากที่จะต้องยกเป็น

วาระของจงัหวดั มฉิะน้ันคงยากทีจ่ะพฒันา

ให้ทันเมืองอื่นที่เขาท�ากันมานานแล้ว

เ ร่ืองดีดีที่ มาแรงระดับสากลคือ

การน�าเสนอพระบรมธาตุให้ขึ้นทะเบียน

เป็นมรดกโลก (คงไม่ต้องบรรยายราย

ละเอียดต่อว่ามีคุณค่าและส�าคัญอย่างไร

เพราะชาวนครรู้ซึ้งกันมาแล้ว และหนังสือ

พิมพ์นี้ก็น�าเสนอกันต่อเนื่องมาตลอด)

ก�าลั ง เข ้าสู ่กระบวนการพิจารณาขั้น

สุดท้ายในการประชุมของ UNESCO ที่

ประเทศฝร่ังเศสอีกไม่นานนี้ ทั้งนี้ เป ็น

เพราะการร่วมมือเตรียมพร้อมทั้งภาครัฐ

และภาคเอกชนท�าให้เห็นอนาคตที่สดใส

อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว

เศรษฐกิจของนครในขณะนี้มีเรื่อง

ดีดีคือ นักธุรกิจใหญ่ต่างถิ่นมาส�ารวจหา

ข้อมลูกันและเคลือ่นย้ายเข้ามามากมาย ไม่

ว่าจะเป็นโครงการจัดสรรโดยบริษัทระดับ

ประเทศ หรือห้างสรรพสินค้าใหญ่ต่างๆ

ฯลฯ ซึ่งโครงการเหล่าน้ีอาจท�าให้ชาว

นครกังวลว่าจะมากลืนหรือท�าให้ระบบ

เศรษฐกิจท้องถิ่นต้องสูญเสียอะไรไป แต่

ในยุคแห่งโลกาภิวัตน์ กลับมองเห็นเป็น

โอกาสที่คนท้องถิ่นเองจะต้องมีการปรับ

ตัวเข้าสู ่การแข่งขันตามศักยภาพที่มีอยู ่

งวดต่อกฎจราจร เป็นต้น) รวมทั้งการให ้

ความร่วมมือที่จะช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง

Page 14: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๔ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

เมื่อลมหนาวมาเยือน ใครๆ ก็เตรียมเดินทางไปสูดกลิ่นไอลมหนาวบนยอดดอย...ภาพสายหมอกปะทะเรือนยอดต้นไม้ใส่เสื้อดูแล้วสบายตาไม่ใช่น้อย...แต่เดี๋ยวก่อน บนคาคบไม้นั้น เราเคยสังเกตเห็นอะไรที่เป็นฝอยๆ พลิ้วต้องไอหมอกนั่นไหม มันคือ ฝอยลม ซึ่งเป็นไลเคนชนิดหนึ่งนั่นเอง

ไลเคน (lichen) คือ สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่เกิดจากการมาอยู่ร่วมกัน (symbio-sis) ของรา (fungi) กับสาหร่าย (algae) และ/หรือ ไซยาโนแบคทีเรีย (cyanobac-teria) โดยรามีหน้าที่เก็บความชื้นและป้องกันอันตรายให้สาหร่าย ส่วนสาหร่ายท�าหน้าที่สร้างอาหารและแบ่งปันให้รา ดังนั้นทั้งราและสาหร่ายต่างเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันอย่างลงตัว ท�าให้ไลเคนเกิดขึ้นได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมต่อการด�ารงชีวิตของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ

ค�า ว่า lichen (ไลเคน) เป็นภาษา

กรีกซึ่ง Theophratus ได้บรรยายไว้ในหนังสือ History of Plant ว่า เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะคล้ายพืช เติบโตอยู ่บนเปลือกไม้ ไลเคนเกือบทุกชนิดมีสัดส่วนของรา (mycobiont) ประมาณ ๙๐ - ๙๓ เปอร์เซ็นต์ และมีสัดส่วนของสาหร่าย (photobiont) เพียง ๗ - ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ด้วยเหตุที่มีสัดส่วนส�าหรับสร้างอาหารน้อยจึงส่งผลให้ไลเคนเติบโตได้ช้า

แม ้ ว ่ าองค ์ประกอบของไล เคนประกอบด้วยราและสาหร่าย แต่ไลเคนก็ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มของสาหร่ายแต่อย่างไร แต่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของรา (fungi) นอกจากนี้ การจ�าแนกชนิดและการตั้งชื่อของไลเคน

อาศัยคุณสมบัติของราเป็นหลัก ไลเคนถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาด้าน My-cology และ Botany ท้ังๆ ที่การศึกษาด้าน Botany เน้นไปที่การศึกษาด้านพืช แต่นักพฤกษศาสตร์ส่วนใหญ่ก็ยอมรับว่าไลเคนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาด้าน พฤกษศาสตร์ ชึ่งสังเกตได้จากงานประชุมพฤกษศาสตร์นานาชาติ (IBC) มี session ของไลเคนร่วมอยู่ด้วยทุกครั้ง หรือแม้แต่วารสารวิชาการด้านพฤกษศาสตร์หลายๆ ฉบับก็มีงานวิจัยด้านไลเคนลงตีพิมพ์อยู ่

เสมอๆ นอกจากนี้การตั้งชื่อไลเคนก็อาศัยหลักการเดียวกับการตั้งชื่อพืช

ไลเคนมีความหลากหลายมาก พบได้ตั้งแต่พื้นที่ที่หนาวจัดอย่างเขตขั้วโลกถึงพื้นที่ที่ร้อนจัดอย่าง ทะเลทราย สามารถพบได้ที่ทุกระดับความสูงตั้งแต่ทะเลถึงยอดเขาสูง นักไลเคนวิทยาประเมินว่าระบบนิเวศบนบกประมาณ ๘ – ๑๐ เปอร์เซนต์ของโลก ถูกป้องคลุมด้วยไลเคน และยังได้ประเมินความหลากหลายชนิดของไลเคนไว้

หลายค่า ดังนี้ Hale (๒๕๑๗) ประเมินว่าน่าจะมีประมาณ ๑๗,๐๐๐ชนิด ขณะที่ Hawk-swoth (๒๕๓๑) ประเมินว่าน่าจะมีประมาณ ๑๓,๕๐๐ และ Ahmadjian (๒๕๓๖) ประเมินไว้ประมาณ ๑๕,๐๐๐ ชนิด

ที่ศูนย์วิทย์เมืองคอน ก็

มีไลเคนให้ได้พบเห็นกันอยู่หลายชนิดด้วยกัน...หากใครอยากท�าความรู ้จัก ไลเคน เพิ่มเติม มาร่วมกิจกรรม Family science camp ตอน ‘นักสืบสายลมถิ่นใต้’ กันได ้ในวันเสาร์อาทิตย์ที่ ๒๐ - ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ โดยมีวิทยากรพิเศษจากพิพิธภัณฑ์ ไลเคนมาชวนสังเกตและให้ความรู้กันอย่างละเอียด รายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่โทร. ๐๘๑ - ๘๒๔ - ๘๘๘๐ ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หน่วยวิจัย ไลเคน และ พิพิธภัณฑ์ไลเคน

รายงาน

เย็นวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ นาง อาภร เจริญผล พบซากโลมาหลังโหนกเพศเมียเกยตื้นตายบริเวณชายฝั่งทะเล หมู่ ๖ ต.ปากพนังฝั ่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ชายฝั ่งอ่าวไทยจาก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ถึง อ.ปากพนัง เป็นพื้นที่ที่พบซากโลมาสีชมพูตายมากที่สุด โดยเฉพาะน่านน�้า อ.ขนอม จะพบมากที่สุด ทั้งๆ ที่ อ.ขนอมชูโลมาสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหรือเป็นทรัพยากรท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด

‘รักบ้านเกิด’ ย้อนกลับไปตรวจสอบ โลมาสีชมพูที่ เกยหาดตายหรือตายในทะเลในรอบ ๔-๕ ปี พบว่าเม่ือวันท่ี ๒๘ กันยายน ๒๕๕๗ ชาวบ้าน หมู่ ๕ ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี พบซากโลมาปากขวดถูกฆ่าตายและแล่เนื้อท่ีล�าตัวออก วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ ชาวประมงพื้นบ้านบ้านเราะ ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรี-ธรรมราช พบโลมาถูกยิงตายลอยอยู่กลางทะเลห่างจากฝั่งปากน�้าคลองกลาย ท้องที่ประมาณ ๑ กิโลเมตร วันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๓ นายวชิรพงษ์ สกุลรัตน์ ประธานชมรมพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขนอม และสมาชิกชมรมพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั ่งขนอม พาภาพถ่าย

โลมาพันธุ์หลังโหนกหรือโลมาสีชมพูที่ถูกยิงพบสื่อมวลชน

พร ้อมเปิดเผยข้อมูลว ่าตั้งแต ่เดือนพฤษภาคม - วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ พบว่าโลมาสีชมพูที่อาศัยอยู่ในอ่าวขนอม และตลอดแนวชายฝั ่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ตายไปแล้ว ๙ ตัว ๘ ตัวแรกพบชายฝั่งทะเล อ.ขนอม และวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๓ พบซากโลมาสีชมพู ๒ ตัว ที่หาดแขวงเภา หมู่ ๒ ต.ท้องเนียน อ.ขนอม

ต�ารวจน�้าและอาสาสมัครกู ้ ชีพทางทะเลมีความเห็นว่าโลมา ๒ ตัวติดอวนแล้วถูกยิงซ�้า ส่วนสาเหตุการตายของโลมาปากขวด ท่ีถูกช�าแหละเนื้อบริเวณสันหลังออกไปจนเหลือแต่ส่วนหัว ราวท้องและหางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าโลมาอาจจะไปติดอวนของชาวประมง แต่แกะไม่ออกเจ้าของอวนจึงฆ่าและแล่เนื้อไปท�าอาหาร เมื่อปี ๒๕๕๓ หัวหน้าต�ารวจน�้าขนอม กล่าวว่า โลมาตายลงบ่อยจนน่าวิตก เมื่อต�ารวจน�้าได้รับแจ้งจะร่วมกับอาสาสมัครและชาวประมง ไปตรวจสอบ พบว่าสาเหตุการตายส่วนใหญ่ มาจากความคึกคะนองของนักท่องเที่ยวและชาวประมงบางกลุ่มที่ใช้อาวุธปืนและฉมวกยิงปลาโลมา ส่วนหนึ่งมาจากติดอวนของชาวประมง และอวนลากคราดหอยลาย นักท่องเที่ยวบางกลุ่ม

ที่เช่าเรือออกท่องทะเลและก่อเหตุท�าร้ายปลาโลมา ด้วยความสนุกสนานและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ น้อยมากที่โลมาป่วยตาย

เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพ- ยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างผลการผ่าพิสูจน์ซากโลมาหลังโหนก ที่หาดคอเขา อ.สิชล (ตัวที่พบวันที่ ๒๐ พฤศจิ-กายน ๒๕๕๗) พบก้อนกลุ่มในช่องท้องอาจมีสาเหตุมาจากการตกเลือด อันเนื่องมาจากตกลูก (คลอดลูก) ในท้องไม่พบลูก ดูลักษณะภายนอกและอวัยวะเพศเหมือนท้องแก่ แต่เม่ือมีการผ่าพิสูจน์พบว่าเพิ่งคลอดลูก ไม่พบสิ่งผิดปกติหรือสิ่งบอกเหตุว่าเป็นโรคปอด หรือมีวัตถุกีดขวางทางเดินหายใจ ขณะชาวบ้านที่ปากพนังเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าเรืออวนลากจากภาคกลางมีเจตนาล่าโลมา

นักวิทยาศาสตร์ (ผู ้ไม่ประสงค์ออกนาม) เปิดเผยว่า ขบวนการล่าโลมามีอยู่จริงตามที่ชาวบ้านระบุ ส่วนใหญ่จะล่าด้วยเรือประมงขนาดใหญ่ที่มีเครื่องมือขนาดใหญ่ มีการล่าแบบไม่ตั้งใจคือ การลากสัตว์น�้าเศรษฐกิจตามปกติแต่หากโลมากินสัตว์น�้าในอวนเขาจะจับโลมานี้ด้วย โดยเตรียมแท็ง-เกอร์ไว้เรียบร้อย หลังจากได้แล้วการซื้อขายจะมีข้ึนกลางทะเล ถ้ามีสภาพสมบูรณ์แข็ง

แรงจะมีราคาหลักแสนบาท โดยตลาดของโลมาจากอ่าวไทยจะอยู่ย่านอาเซียน และย่านใกล้เคียงที่มีอควาเรียมแสดงสัตว์น�้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะที่มีการแสดงของโลมา

การปกป้องคุ้มครองโลมา เป็นหน้าที่ขององค์กรปกครองท้องถิ่นที่โลมาอาศัย องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์กรการ ท่องเที่ยวภาครัฐและเอกชน บางทีทหารเรือหรือต�ารวจน�้าอาจต้องให้ความสนใจมากกว่านี้ หากมีการล่าเพื่อส่งขายต่างประเทศ

โลมาเป็นสัตว์คุ ้มครองตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ ้มครองสัตว ์ป ่า พ.ศ. ๒๕๓๕ มาตรา ๑๙ บทลงโทษตามมาตรา ๔๗ ใครล่าหรือค้ามีโทษจ�าคุก ๔ ปี ปรับไม่เกิน ๔ หมื่นบาท

ข่าวท้ายรายงาน : เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิ-กายน ๒๕๕๗ นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษฏ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่าเร่ืองการเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ใน ๔ ภูมิภาคตลอดเดือนธันวาคม ภาคใต้จัดในพื้นที่ อ. เมือง จ. นครศรีธรรมราช

ในวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ หัวข้อ ‘รักษ์ทะเลและชายฝั ่งสร้างพลังการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน’

(ข ้อมูลจาก : ส�านักข่าวไทย, ไทยรัฐ, เดลินิวส์, ข่าวสด, ผู้จัดการรายวัน กรุงเทพธุรกิจและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง)

Page 15: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

Facebook : https://www.facebook.com/rakbaankerd.news

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๕

อาจารย์แก้ว

ดิสก์ไม่ว่าง สามารถลบได้ โดย

สามารถลบผ่านขั้นตอนการติดตั้งได้เช่น

กัน

แผ่น CD/DVD โปรแกรม Win-

dows เวอร์ชั่นที่ต้องการ (แผ่นแท้ดีที่สุด)

อินเตอร์เน็ต ถ้ามี สามารถท�าการ

ลงทะเบียนตอนติดตั้งได้ทันที

เม่ือพร้อมแล้ว เราก็สามารถเริ่มการ

ติดตั้งได้ทันที แต่อย่างไรก็ตาม เราอาจ

จ�าเป็นจะต้องเตรียมแผ่น Driver ของช้ิน

ส่วนต่างๆ ของเครื่องคอมฯ ของเราไว้

ด้วย ซึ่ง Driver ชิ้นส่วนส�าคัญที่จ�าเป็น

ต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้า ถึงแม้ว่า Win-

dows รุ ่นใหม่ๆ มักจะรองรับ Driver

ต่างๆ ไว้มากมาย แต่ก็ไม่ควรเตรียมไว้

ยามฉุกเฉิน ซึ่ง Driver ที่จ�าเป็น ได้แก่

Driver การ์ดแสดงผล

Driver การ์ดเสียง

Driver การ์ดแลน

ขั้นตอนการติดตั้งระบบปฏิบัติการWINDOWS

ขั้นตอนที่จะกล่าวต่อไปนี้ จะเน้นไป

ท่ีการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows

๘ ท้ังนี้ เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการ

ใหม่ท่ีเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะได้ใช้กันใน

ปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม เราก็พยายาม

แม้ปัจจุบันสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต

เข ้ามามีบทบาทในชีวิตประจ�าวัน

ของคนส่วนใหญ่ แต่อย่าลืมว่าการท�างาน

ต่างๆ ยังต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์อยู ่ มี

หลายท่านใช้งานได้คล่องแคล่ว แต่เวลา

เกิดป ัญหาเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการก็

เรียกหาช่างคอมพิวเตอร์อย่างเดียว บาง

ครั้งอาจท�าให้งานติดขัดเพราะช่างไม่ว่าง

มาดูแล วันน้ีจะแนะน�าวิธีการติดตั้ง WIN-

DOWS เพื่อให้บุคคลท่ีสนใจลองไปท�ากัน

ดู เม่ือเกิดปัญหาขึ้นจะได้แก้ปัญหาเองได้

โดยไม่ต้องง้อช่างคอมพิวเตอร์อีกต่อไป

Setup หรือ Install Windowsคอมพิวเตอร ์ทุกเครื่องจะต ้องมี

ระบบปฏิบัติการเป็นพ้ืนฐาน ซึ่งระบบ

ปฏิบัติการที่เราสามารถติดตั้งได้ นั่นก็คือ

ระบบปฏิบัติการ Windows นั่นเอง (ถ้า

เป็น mac ไม่จ�าเป็น เพราะจะมีการติด

ต้ังมาให้แล้วเสร็จก่อนออกจากโรงงาน)

ดังนั้น เราควรจะเรียนรู้การติดตั้ง Win-

dows ไว้บ้าง ทั้งนี้ เม่ือถึงคราวจ�าเป็น

เราสามารถท�าได้ด้วยตัวเอง การติดตั้ง

Windows บนคอมพิวเตอร์เครื่องเก่า มี

ผลท�าให้ข้อมูลและโปรแกรมท่ีอยู่บนดิสก์

หายหมด ดังนั้น ต้องท�าความเข้าใจให้ดี

ก่อนการติดต้ังและส�ารองข้อมูลไว้ก่อน

เสมอ ส่วนโปรแกรมอื่นๆ จะต้องเตรียม

แผ่นโปรแกรมด้วยเช่นกัน

เตรียมตัวก่อนการติดตั้ง Windows ส�ารองข้อมูลไว้ก่อน ดีที่สุด

บางคนคิดว่า มีการส�ารองข้อมูล

ไว้แล้ว คนละ Drive แต่ก็อาจมีความผิด

พลาดเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้น การส�ารอง

ที่ดีที่สุดคือ ส�ารองไว้บน External USB

hard disk จะชัวร์ที่สุดครับ เพราะยังไง ก็

ไม่เผลอไปติดต้ังทับข้อมูลของเราแน่นอน

คอมพิวเตอร์ และฮาร์ดดิสก์ว่าง

หรือไม่ว่างก็ได้

ดิสก์ว่าง จะสามารถติดตั้ง Win-

dows ได้ทันที

อธิบายให้ครอบคลุมการติดตั้ง Windows

ในทุกๆ เวอร์ชั่นผสมผสานกันไป

๑. เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์

๒. ใส ่แผ ่น CD/DVD แผ ่นติดตั้ง

Windows (จะต้องใส่ให้ทันก่อนเข้า Win-

dows ตัวเก่า ถ้ามี ถ้าไม่ทันก็ให้รีสตาร์ท

ใหม่ได้)

๓. บู๊ตผ่าน CD/DVD

๔. จะพบไอคอนโลโก้ Windows

แสดงเป็นอันดับแรก ถ้าเป็น Windows

รุ่นเก่าก่อน Windows 8 (โดยเฉพาะ Win-

dows XP) จะมีหน้าต่างแสดงการ copy

ไฟล์ให้เห็นก่อนเข้าหน้าโลโก้ Windows

๕. จากนั้นเราจะพบหน้าต ่างให ้

กรอกรายละเอียดในเบื้องต้น

เลือกภาษาเมนู

เลือกรูปแบบวันที่ เวลา

เลือกแป้นพิมพ์

๖. คลิก Next

๗. คลิกปุ่ม Install now

๘. จะพบหน้าต่าง ให้ใส่ Product Key

๙. คลิกเลือก I accept the license

terms

๑๐. คลิก Next

๑๑. คลิกเลือกติดตั้ง

๑๒. คลิกเลือก Drive ที่จะติดตั้ง

(กรณีมีหลาย Drive ระวังจะเลือกติดตั้ง

ผิดพลาด ยกเว้นกรณี เป็นคอมพิวเตอร์

ใหม่ หรือไม่ต้องการข้อมูลเก่า ก็สามารถ

เลือกติดตั้งทับได้ทันที)

๑๓. คลิก Next

๑๔. รอจนกระทั่งติดตั้งเสร็จ

๑๕. จากนั้นก็จะมีหน้าต่างให้ปรับ

แต่งหน้าจอตามต้องการ

๑๖. ส�าหรับ Windows 8 ขึ้นไป

จะมีความแตกต่างจาก Windows อื่นๆ

บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการติดตั้งแบบให้ใช้

Microsoft Account ทั้งนี้ เราสามารถ

เชื่อมต่อไปยัง Store เพื่อใช้ส�าหรับการ

ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น

๑๗. ขั้นตอนต่อไปก็ถึงขั้นตอนใน

การสร้างบัญชีการใช้งาน

๑๘. เมื่อตั้งค่าเสร็จ ก็จะสามารถใช้

งานได้ทันที

จากที่กล่าวมาข้างต้น วิธีการติด

ตั้ง Windows ดังกล่าว จะเน้นไปที่ Win-

dows 8 ซ่ึงส�าหรับ Windows เวอร์ชั่น

เก่าๆ ภาพรวมการติดตั้งก็ไม่แตกต่าง

อะไรกันมากนัก ซึ่งจะมีหน้าต่างสลับไป

บ้าง ดังนั้น เราจึงสามารถน�าไปประยุกต์

ใช้ส�าหรับการติดตั้งได้ด้วยเช่นกัน

โดยปกติ เ รา ไม ่สามารถส� ารอง

โปรแกรมที่ติดตั้งในเครื่องคอมพิวเตอร์

เหตุ เพราะว ่าโปรแกรมภายในเครื่อง

คอมพิวเตอร์ จะผ่านขั้นตอนการติดตั้ง

และมีการ register กับ Windows รวม

ทั้งไฟล์ทั้งหมด ก็อาจไม่ได้อยู่ในโฟลเดอร์

เดียวกัน

ด้วยความปรารถนาดี

อาจารย์แก้ว

Page 16: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

ก็อาจเป็นได้ครับส�าหรับคนเดินป่าหรือ

คนที่ตั้งแค้มป์อยู่ใกล้ล�าธาร ...แล้วเราจะ

รู้ทันอันตรายเหล่านี้ได้อย่างไรกัน ??

มันเป็นการล�าดับสิ่งที่ก�าลังจะเกิด

ท�าความรู้จักและเรียนรู้วิธีป้องกันภัย

อันตรายครับ ในหลายกรณีเราใช้ประสาท

สัมผัสท�างานร่วมกัน ประเมินและสร้าง

ความตื่นรู้อยู่เสมอ ...ฝนตกหนักเป็นเวลา

นาน คนอยู่ใกล้ล�าธารก็ควรรู้ว่า อาจจะมี

น�้าป่าไหลหลากได้ แค้มป์เราอยู่ในทางน�้า

รึเปล่า ระดับน�้าเก่าประมาณไหน อันนี้ด ู

ได้จากร่องรอยเศษกิ่งไม้ริมล�าธาร มันเคย

ลอยตามน�้าและปะติดอยู่กับริมตลิ่งหรือ

ต ้นไม ้ริมน�้ าสูงระดับไหน นั่นก็พอจะ

ประเมินคร่าวๆ ได้ว่า หากเกิดน�้าป่าเราจะ

อยูใ่นทางน�า้หรอืไม่ หรอืคนมปีระสบการณ์

สูงๆ จะประเมินจากระดับหรือน�้าหนัก

ของเม็ดฝน น�้าหนักประมาณนี้ ตกอยู่นาน

ขนาดนี้...มันจะกลายเป็นน�้าป่าได้ในระยะ

เวลาประมาณไหน เหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องฝึก

สังเกตและประเมินสถานการณ์ พร้อมทั้ง

หาทางหนีทีไล่ก่อนจะตั้งแค้มป์ริมน�้า หรือ

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๖ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

Tarzanboy

แรกก็จะมาถึงตัว กลางคืนเสียงและกล่ิน

จึงส�าคัญมากกว่าการมองเห็น !

ขณะเราอยู่ในป่า ส่ิงที่ส�าคัญที่สุดคือ

เราต้องสนใจเรื่องป่า หากมัวแต่วิวาทะ

เร่ืองการเมือง เร่ืองนินทาชาวบ้าน เร่ือง

อดีตของแต่ละคน หรือเพ้อฝันถึงอนาคต

ที่ยาวไกลกว่านั้น ภัยอันตรายก็อาจจะ

มาถึงตัวเราได้โดยง่าย ถ้าขณะเราอยู่ป่า

เราอยู ่กับปัจจุบันของป่า สังเกตความ

เปล่ียนแปลง ความเคล่ือนไหวทุกๆ อย่าง

ของป่า ...เสพป่าในความเป็นปัจจุบัน ทุก

สัญญาณหรือรหัสของป่า เราก็จะสามารถ

รับรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้

ขณะเดินป่า...ใจต้องอยู่กับป่า ใคร

บางคนว่าไว้ !!

เดินผ่านเส้นทางน�้า

“แล้วหากเป็นกลางคืน เราจะรู้ได้

อย่างไร ???” ครับ เป็นความรู้เบื้องต้นที่

นักท่องเที่ยวผจญภัยจะมีข้อมูลกัน อยู่บ้าง

นั่นคือ เวลาจะเกิดน�้าป่า สีน�้าจะเปลี่ยน

ใบไม้สดๆ จะลอยมา ...แต่พอเจอค�าถาม

ว่า หากเป็นกลางคืนล่ะ คุณจะดูอย่างไร

....อย่างที่เกร่ินไว้ครับ เราใช้วิธีฟังเสียง

ครับ รวมทั้งการประเมินด้านอื่นๆ ที่กล่าว

มาด้วย แต่กรณีน้ีเสียงเป็นสิ่งส�าคัญอันดับ

ต้นๆ ถัดมาเป็นกลิ่น ..ท�าความเข้าใจแบบ

นี้ครับ น�้าในล�าธารทั่วไปมันจะไหลปกติ

โดยระดับน�้าไม่เปลี่ยนแปลง เสียงของมัน

ก็จะคงที่ประมาณนั้น กลิ่นของมันก็จะไม่มี

อะไรผิดปกติไปมาก การท�างานของน�า้ป่า

น้ัน มันค ่อนข้างจะมี รูปแบบเหมือนๆ

กันครับ น่ันคือน�้าจากทุกสายในป่า จะ

ค่อยๆ ไหลรวมกันเป็นมวลน�้าก้อนใหญ่

จากระดับยอดเขา และจะเพิ่มปริมาณ

รวดเร็วรวมตัวกันได้ในที่ใดที่หนึ่ง จากนั้น

มวลน�้าน้ันจะดึงดูดกันให้ไหลหลากอย่าง

รวดเร็ว ประหน่ึงว่า มันต้ังหลักรอให้เป็น

กองทัพใหญ่ยังไงยังงั้น การเคลื่อนตัวของ

มันจึงอึกทึกครึกโครม ผลให้เกิดเสียงดัง

ล่วงหน้ามาก่อน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอีกอย่าง

หน่ึงคือ แรงดันน�้าน้ัน สร้างกระแสลม ให้

พัดอู้น�าหน้ามวลน�้ามาก่อน ลมเย็นๆ พัด

วูบ กลิ่นและแรงกดดันบางอย่างสัมผัส

ได้ ...สิ่งน้ีแหละครับคือ

สัญญาณเตือนอันชัดเจน

อันดับแรก และเสียงที่

เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเสียง

ไม้หัก ก้อนหินในล�าธาร

กลิ้ง นั่นแหละ ชัด !! ขอ

ให้ตื่นรู้ให้รวดเร็ว เพราะ

หลังจากน้ันไม ่ เกินจิบ

กาแฟไม ่ทันหมดแก ้ว

มวลน�้ าก ้อนใหญ่ก ้อน

Page 17: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๗

นพ.รังสิต ทองสมัคร์ความแตกต่างที่เหมือนกันอย่างน่าทึ่ง ทั้งศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต และศาสนายิ่งกว่าเมืองพี่เมืองน้อง เพราะสองเมืองแต่มีรากเหง้าเดียวกัน

Page 18: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๑๘ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

นภสร มีบุญ

ตกแต่งร้านได้น่ารัก อบอุ่น สไตล์คลาสสิค

พ้ืนที่น่ังสบายการจัดโต๊ะในแต่ละโต๊ะ มี

พื้นที่ส ่วนตัวเว ้นระยะห่างกันดูแล้วยิ่ง

โอ ลั่ลล้า ฉบับนี้มากับสายลมแห่งความ

คิดถึง .. บ้านเรา

ย่างเข้าสู ่หน้าฝนรอบนี้มาครบทั้ง

ลมและฝน แถมด้วยเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า

เป็นระยะ ท�าเอาคนที่เคยกล่าวค�าสาบาน

พากันใจคอไม่ดีไปตามกันจริงๆ นะ ...

อากาศเย็นๆ ท่ามกลางฝนชุ ่มฉ�่าแบบนี้

เห็นทีต ้องล้อหมุนเสาะหาของอร่อยๆ

แบบอุ่นท้อง อุ่นคอกันน่าจะดีนะคะ .. ฝน

สาดสายแบบนี้ขับรถใช้รถใช้ถนนคงต้อง

ใส่ใจกันสักนิด และมีน�้าใจต่อกันหน่อย

ค่ะจะได้มีความสุขในการเดินทาง ล้อหมุน

กันจากบ้านพักรอบนี้คงไปไหนไม่ไกลนะ

คะ จ�าได้ว่าเคยขับรถผ่านถนนด้านหน้า

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ (ทุ ่งท่าลาด

๘๔)

ขับไปเรื่อยๆ ผ่านศาลแขวง (ทะลุ

ทางไป โรงเรียนเบญจราชูทิศ) มองทาง

ขวามือจะเจอบ้านหลังใหญ่ บนเนิน ตั้ง

ตระหง่าน รายล้อมด้วยสวนปาล์มร่มรื่น

พื้นที่กว่าสองไร่ มองเห็นป้ายสวยเก๋ด้าน

หน้า เขียนไว้ว่า Palm Coffee โลโก้ร้าน

น่ารัก ยิ่งได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศใน

บ้านหลังใหญ่บนเนินหญ้า ยิ่งประทับใจ

น่าน่ังสังสรรค์กับเพื่อนฝูง จุดเด่นของ

ร้านนี้ที่ชอบมากคือการเปิดเพลงสากล

อมตะ .. ฟังสบายๆ คลายเครียด ควบคู่ไป

กับการลองล้ิมชิมรส อาหารอร่อยๆ จาก

หลากหลายเมนู พร้อมไออุ ่นของกาแฟ

ถ้วยโปรดในยามฝนพร�า ถ้าเป็นภาษา

แฟชั่นวัยรุ ่นคงต้องบอกว่า (ฟิน ฝุด ฝุด

ค่ะ)

ร ้าน Palm Cofee เป ิดบริการ

ทุกวัน (ยกเว ้นวันจันทร ์ ) ตั้งแต ่เวลา

๐๙.๐๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น. ต้องขอขอบคุณ

เพื่อนไก่ (อักษร ศรลอย) และคุณพ่อ

พิศวง ศรลอย ที่ต ้อนรับอย ่างอบอุ ่น

ลูกค้าส ่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นกลุ ่มวัย

คนท�างาน หนุ ่ม-สาว และลูกค้ากลุ ่ม

ครอบครัว ที่ต ้องการบรรยากาศแบบ

อบอุ่น นั่งสบาย และที่นี่มี Wifi Free ไว้

ส�าหรับบริการลูกค้าทุกท่านด้วยนะคะ ..

ที่ส�ำคัญรำคำอำหำรไม่แพงอย่ำงที่คิด

ค่ะ .. อย่ำลืมมีโอกำสแวะไปพิสูจน์กัน

นะคะ ตำมรอยล้อหมุนของโอ ไปชิมกัน

ค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง ฝนๆ แบบนี้เจริญ

อำหำรนะคะ แอบกระซิบไว ้ก ่อนค ่ะ

ส�ำรองที่น่ังได้เลย ที่ โทร. ๐๗๕-๗๖๕-

๐๔๘, ๐๘๑-๘๙๕-๔๘๖๓ แล้วอย่ำลืม

แวะไปชิมกันนะคะ

Page 19: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชปีที่ ๔ ฉบับที่ ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ หน้า ๑๙

นพ.บัญชา พงษ์พานิช

นครดอนพระ<< ต่อจากหน้า ๒

ทางโบราณคดีให้ถ่ีถ้วนก่อน ในขณะที่หลายอย่างท่ีท�าแล้วก็ทรุดโทรมลงเหลือจะประมาณ ไม่เห็นว่าจะจัดการอะไรได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง การเดินทางที่ต้องเดินเท้ากันไปมาไม่รู ้สิ้น โดยมีประดิษฐกรรมพิเศษที่เพิ่งเกิดขึ้นนอกแผนแม่บท คือ พระพุทธเจ้าน้อยและทางเดินที่ชาวไทยไปออกฤทธ์ิจนสร้างข้ึนมาได้ ในการประชุมน้ีผมได้คุยกับทั้ง ศ.โรบิน คอนนิงแฮม นักโบราณคดีคนส�าคัญที่ขุดค้นที่นี่ กับอดีตรัฐมนตรีผู้ดูแลโครงการนี้ รวมทั้งกับผู้อ�านวยการด้านวัฒนธรรมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของศูนย์มรดกโลกแห่งยูเนสโก ก็เห็นชัดว่าโครงการนี้ยังมีจุดอ่อนมากในด้านการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในเนปาล ตั้งแต่ระดับชาติ จนถึงระดับท้องถิ่นและชุมชนและน่าจะใหญ่เกินจัดการได้ จนผู้ร่วมประชุมหลายคนบอกว่าองค์กรท่ีดูแลโครงการนี้ที่ชื่อ Lum-bini Development Trust นั้นน่าจะ Un-Trust เสียมากกว่า ที่ส�าคัญที่สุดคือรายรอบพื้นที่ลุมพินีทุกวันนี้มีแต่มุสลิม ส่วนฮินดูมีไม่มากนัก ในขณะที่ชาวพุทธนั้นถึงกับกล่าวกันว่าไม่มีเลย ครอบคลุมไปถึงเขตกรุงกบิลพัสดุ ์และ เทวทหะโบราณที่อยู ่ ไปทางตะวันตกและตะวันออกด้านละกว่า ๒๐ กิโลเมตร ซึ่งในที่ประชุมขอให้ผนวกเข้าในเขตมรดกโลกในฐานะ Greater Lumbini ด้วย

ส�าหรับผม ท่ัวท้ังลุมพินีมีเพียง ๓ จุดเป็นท่ีเจริญใจ หน่ึงคือมายาเทวีวิหาร ที่มีเสาพระเจ้าอโศกปักอยู ่ พร้อมกับอาคารที่คลุมซากอาคารเก่าอายุร่วม ๒,๐๐๐ ปี อันเป็นสถานที่พบ “หินหมาย หรือ Marker Stone” ที่เชื่อว่าเป็นจุดประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ และภาพหินสลักแสดงครั้งทรงประสูติ (Nativity Sculpture) ด้านนอกมีสระสรงที่เชื่อว่าเป็นที่

ตี ๕ ถึง ๗ โมงเช้า กับ ๑ ทุ่มถึง ๒ ทุ่ม เพราะปลอดคนโดยเฉพาะเด็กนักเรียนกับหนุ ่มสาวที่มาเที่ยวเล่นกันอย่างจอแจและไม่เห็นว่าจะเป็นสถานที่จาริกแสวงบุญในเชิงสมาธิภาวนาได้เลย อีกบริเวณคือ ย่านวัดตะวันตกโดยเฉพาะที่วัดจีน และกลุ่มวัดเยอรมัน ฝรั่งเศส และ ออสเตรีย ที่น่าจะเสร็จสมบูรณ์ สงบสวยงามสัปปายะอย่างยิ่ง แต่ถนนทางเข้านั้นเหลือประมาณ ในขณะที่พิพิธภัณฑ์นั้นก็มีสภาพไม่ต่างกัน ส่วนห้องสมุดและศูนย์วิจัยที่ญี่ปุ ่นมาสร้างให้โดยมีเยอรมันเป็นผู้อ�านวยการนั้นมีสภาพสมบูรณ์และสะอาดอย่างเหลือเชื่อแม้จะแทบไม่มีผู้มาใช้ให้สมกับท่ีได้ชื่อว่าเป็นห้องสมุดพระพุทธศาสนาท่ีดีท่ีสุดในโลกก็ตาม

ที่ผมนึกถึงพระบรมธาตุเมืองนครเป็นอย่างยิ่งนั้นมิได้ข้องใจใดๆ ในคุณค่า และไม่ได้กังวลว่าจะบรรลุการได้เป็นมรดกโลกหรือไม่ และก็มิได้คุยกับทางยูเนสโกในเรื่องนี้เลย

ผมคิดถึงระบบการบริหารจัดการต่างๆ ในการด�ารงคุณค่าให้ยิ่งกว่าเพียงเชิงวัตถุสถานท่ีเอื้อให้ผู ้มาเยือนได้เข้าถึงคุณค่าท่ีแท้และลึกซึ้ง ต้ังแต่เรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม

ประเพณี ตลอดจนการได้บ�าเพ็ญบุญให้ครบทั้ง ๔ นัย คือ ทาน ศีล สมาธิ และ จิตตภาวนา ตลอดจนการมีส่วนร่วมของผู ้คนในระดับชั้นต่างๆ อย่างกว้างขวางจริงจัง ซึ่งขณะนี้ วัด จังหวัด และ ททท.ก็เริ่มด�าเนินการบ้างแล้วโดยผมกับคณะได้มีส่วนร่วมในการท�าป้ายสื่อความเพื่อทยอยติดตั้งไปบ้างแล้ว ถือเป็นอีกของขวัญปีใหม่ที่จะมาถึง ส�าหรับเมืองนครก็แล้วกันนะครับ ส่วนจะเกิดผลอย่างไรบ้างน้ัน ก็ตามแต่เหตุแลปัจจัยที่ใครท�าคนเดียวไม่ได้ อยู ่ที่ชาวนคร ชาวไทยและชาวพุทธทั้งหลายเท่านั้นเอง.

ลุมพินี เนปาล๑๗ - ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

การภาวนา ณ หลังวิหารของพุทธศาสนิกชนยามค�่าคืน

พระพุทธรูปปางประสูติ กับ หอระฆังวัดไทย ๒ งานของชาวไทยที่ลุมพินี

สรงของพระนางสิริมหามายาและเจ้าชายสิทธัตถะ โดยมีร ่มพระศรีมหาโพธิ์พร ้อมธงมนตราอยู ่ข ้างๆ และผมได้วนเวียนไปประทักษิณและนั่งเจริญจิตภาวนาถึง ๖ รอบ และพบว่ามีเพียง ๒ ช่วงเวลาเท่านั้นที่เหมาะยิ่ง คือตั้งแต่

พระอาจารย์อนิลมานที่อดีตพระราชวัง

บ้านดินของชาวนาปัจจุบัน ที่หน้าประตูตะวันตกของพระราชวังกรุงกบิลพัสดุ์

หอสมุดศูนย์วจิยันานาชาติ ลุมพินี ที่มีหนังสือพระพุทธศาสนาสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

วัดนิโครธารามมหาวิหาร ชานกรุงกบิลพัสดุ์

Page 20: รักบ้านเกิด ฉบับที่ 39 เดือนธันวาคม 2557

นครศรีธรรมราชหน้า ๒๐ ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๓๙ เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗