วิ�ชา จิ�ตวิ�ทยาเพื่� อการเร�ยนร�� ทฤษฏี�การเร�ยนร�� โดยหย� งร��

นางสาวิ วิ�ลาส�น� ปู่� ทารห�สน�กศึ"กษา

528144115 โปู่รแกรมคอมพื่�วิเตอร&

ศึ"กษา ช�'นท� ปู่(3

ควิามหมายของการเร�ยนร��

การเร�ยนร�� (Learning) ค�อ กระบวินการของปู่ระสบการณ์&ท� ท-าให�เก�ดการเปู่ล� ยนแปู่ลงพื่ฤต�กรรมอย/างค/อนข�างถาวิร ซึ่" งการเปู่ล� ยนแปู่ลงพื่ฤต�กรรมน�'ไม/ได�มาจิากภาวิะช� วิคราวิ วิ4ฒิ�ภาวิะ หร�อ ส�ญชาตญาณ์(Klein 1991:2)

ธรรมชาต�ของการเร�ยนร��

1.จุ�ดมุ่��งหมุ่ายของผู้ �เรี�ยน (Goal) 2.ความุ่พรี�อมุ่ (Readiness) 3. สถานการีณ์� (Situation) 4. การีแปลความุ่หมุ่าย

(Interpretation) 5. ลงมุ่�อกรีะทำ"า (Action)

6. ผู้ลทำ�#ตามุ่มุ่า (Consequence) 7. ปฏิ&ก&รี&ยาต�อความุ่ผู้&ดหว'ง

(Contradict)

ทฤษฎี�การเร�ยนร�� (Theory learning)

การีเรี�ยนรี � การีเปล�#ยนแปลงพฤต&กรีรีมุ่เด&มุ่เป)นพฤต&กรีรีมุ่ใหมุ่�

ทำ�#ค�อนข�างถาวรีอ'นเป)นผู้ลมุ่าจุากปรีะสบการีณ์�การีเปล�#ยนแปลงพฤต&กรีรีมุ่อาจุมุ่� 3 ด�านด'งน�, (ตามุ่

หล'ก Bloom)– พฤต&กรีรีมุ่ด�านสมุ่อง (Cognitive

Domain) ได�แก� ความุ่รี � จุ"า ความุ่เข�าใจุ –– พฤต&กรีรีมุ่ด�านจุ&ตใจุ (Affective

Domain) ได�แก� อารีมุ่ณ์� ความุ่เชื่�#อ ความุ่สนใจุ ทำ'ศนคต&

– พฤต&กรีรีมุ่ด�านกล�ามุ่เน�,อปรีะสาทำ

กฎีการเร�ยนร��ของกล4/ม กล4/มเกสต�ลท&

(Gestalt Psychology)การีเรี�ยนรี �เรี�ยนทำ�#เน�นส�วนรีวมุ่มุ่ากกว�าส�วนย�อย การีเรี�ยนรี �ย�อมุ่เก&ดข0,นใน 2 ล'กษณ์ะ

• การีรี'บรี � (Perception) การีแปลความุ่หมุ่ายจุากการีส'มุ่ผู้'สด�วยอว'ยวะส'มุ่ผู้'ส 5 ส�วน ห - ตา จุมุ่ ก – ล&,น กาย – –

• การีหย'#งเห2น (Insight) การีเก&ดความุ่ค&ดข0,นมุ่าทำ'นทำ�ทำ'นใดในขณ์ะปรีะสบป3ญหา โดยการีมุ่องเห2นป3ญหาต',งแต�เรี&#มุ่แรีก จุนแก�ป3ญหาได�

ทฤษฎี�เกสต�ลท& Gestalt

ล�กษณ์ะทฤษฎี� ส�วนรีวมุ่มุ่&ใชื่�เพ�ยงส�วนรีวมุ่

ของส�วนย�อยแต�เป)น มุ่ากกว�าส�วนรีวมุ่ของส�วนย�อย

1.การีเรี�ยนรี �เป)นกรีะบวนการีทำางความุ่ค&ดเป)นกรีะบวนการีภายในของมุ่น�ษย�

2.การีเรี�ยนรี �จุากส&#งเรี�าทำ�#เป)นส�วนรีวมุ่ได�ด�กว�าส�วนย�อย

1.การเร�ยนร��เก�ด 2 ล�กษณ์ะ 1. การีรี'บรี � เข�าไปในสมุ่องแล�วเก&ด

การีค&ด ต�ความุ่หมุ่ายเป)นพฤต&กรีรีมุ่ออก

มุ่า 2. การีหย'#งเห2น ความุ่สามุ่ารีถในการี

แก�ไข ป3ญหาได�ทำ'นทำ�

2.กฎีการจิ�ดระเบ�ยบการร�บร�� 1. กฎแห�งการีรี'บรี �ของส�วนรีวมุ่และส�วนย�อย ปรีะสบการีณ์�ต�างก'นจุะรี'บรี �แตกต�างก'น 2. กฎแห�งความุ่คล�ายคล0ง ส&#งเรี�าใกล�เค�ยงก'น รี'บรี �ใกล�เค�ยงก'น 3. กฎแห�งความุ่ใกล�เค�ยง 4. กฎแห�งความุ่สมุ่บ รีณ์� บางอย�างไมุ่�สมุ่บ รีณ์� แต�อาศ'ยจุากการีเคยมุ่�ปรีะสบการีณ์�

การน-าไปู่ระย4กต&ใช�ในการเร�ยนการสอน

1.เรี�ยนโดยส�งเสรี&มุ่กรีะบวนการีค&ด

2.การีเรี�ยนโดยเสนอภาพรีวมุ่ แล�วแยกแยะ

เพ�#อความุ่เข�าใจุส�วนย�อย ๆ ได�ชื่'ดเจุน

3.การีน"าปรีะสบการีณ์�มุ่าเชื่�#อมุ่โยงก'บการี เรี�ยนรี � ในสถานการีณ์�ต�าง ๆ การีสรี�างสถานการีณ์�

4. การีจุ'ดส&#งเรี�า เน�,อหาก&จุกรีรีมุ่ทำ�#เป)นรีะบบ ส�งเสรี&มุ่การีเรี�ยนรี �

5.การีน"าเสนอเน�,อหาทำ�#ใกล�เค�ยงปรีะสบการีณ์�เด&มุ่

6.การีน"าเสนอเน�,อหาทำ�#เก&ดความุ่ต�อเน�#อง ส�งเสรี&มุ่การีเรี�ยนรี �

สร4ปู่แนวิค�ดของน�กจิ�ตวิ�ทยากล4/มเกสต�ลท&

การเร�ยนร��แบบหย� งร�� (Insight Learning) เจุ�าของทำฤษฎ�ค�อ โคเลอร& (Wolfgang Kohler) โดยจุะรีวมุ่ป3ญหาแล�วจุ0งแยกเป)นข�อย�อย ก2จุะเก&ดความุ่ค&ดข0,นมุ่าทำ'นทำ� ทำ�#เรี�ยกว�าการีหย'#งเห2น การีหย'#งเห2นจุะเก&ดข0,นรีวดเรี2วข0,นอย �ก'บ

1. มุ่�แรีงจุ งใจุ 2. มุ่�ปรีะสบการีณ์�เด&มุ่ 3.มุ่องเห2นความุ่ส'มุ่พ'นธ์�ของ

ส&#งเรี�าก'บป3ญหาได�

ควิามเมตตา + ต�นไม�

มุ่�ดอกทำ�กต�นไมุ่�มุ่�ดอก

อ�างอ&ง• http://www.dpu.ac.th/techno/powerpoint_template.php

“ THE END ”