ประวัติ รถยนต์

1
รถยนต์ หมายถึง ยานพาหนะทางบกที่ขับเคลื่อนที่ด้วยพลังงานอย ่างใดอย่างหนึ ่งและถ ่ายทอดลงสู่ล้อ เพื่อพาผู้ขับ ผู้โดยสาร หรือสิ่งของ ไปยังจุดหมายปลายทาง ปัจจุบัน รถยนต์โดยส ่วนมากได้รับการออกแบบอย่างซับซ้อนในทางวิศวกรรม และหลากหลายประเภท ตามความเหมาะสมของการใช้งาน หรือใช้สาหรับงานเฉพาะกิจ ทั ้งนี ้เว ้นแต่รถไฟ [1] ประวัติ ก ่อนช ่วงปฏิวัติอุตสาหกรรม ยานพาหนะของผู้คนในสมัยนั ้น ยังคงอาศัยแรงของสัตว์ เช ่น รถม้า หลังจากมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ได้มีการประยุกต์ใช้แรงดันไอน ้ามาขับเคลื่อนเป็นยานพาหนะแบบใหม ่ที่ไม ่ต้องอ าศัยแรงของสัตว์ ในปี ค.ศ. 1886 คาร์ล เบนซ์ (Karl Benz) วิศวกรชาวเยอรมันได้สร้างรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เพลิงเผาไหม้คันแรกของโลกได้สาเร็จ ( Benz Patent Motorwagen) โดยใช้โครงสร้างแบบลูกสูบเหมือนของเครื่องจักรไอน ้า เพียงแต่ได้เพิ่มอุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนเชื้อเพลิงในรูปของเหลวให้กลายเป็ นก๊าซ และเพิ่มวาล์วไอดีไอเสีย ในรูปแบบของเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ( ปัจจุบันรถยนต์ใช้ระบบเครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน) เครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงในยุคแรกๆ นั ้น ใช ้น ้ามันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง ต่อมา ปี 1897 รูดอล์ฟ ดีเซลพยายามคิดค้นพลังงานอื่นมาใช้กับเครื่องยนต์ จนสาเร็จเป็นเครื่องยนต์ดีเซล [ต้องการอ้างอิง] ประเทศไทยเริ่มมีรถยนต์ใช้ในช ่วงปี พ.ศ. 2446 ( ค.ศ. 1903) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที5 โดยชาวต่างชาติเป็นคนนาเข้ามาภายในประเทศซึ ่งได้รับความสนใจเป็นอย ่างมาก หลังจากนั ้นไทยได ้เริ่มมีอุตสาหกรรมรถยนต์โดยใช้ชื่อบริษัทว ่า ไทยรุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ นรวีร์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ม.5/3 เลขที่5

Upload: noravee-sudasna

Post on 18-Jul-2015

9 views

Category:

Technology


2 download

TRANSCRIPT

Page 1: ประวัติ รถยนต์

รถยนต์ หมายถึง ยานพาหนะทางบกท่ีขบัเคล่ือนท่ีดว้ยพลงังานอยา่งใดอยา่งหน่ึงและถา่ยทอดลงสูล่้อ เพื่อพาผูข้บั ผูโ้ดยสาร

หรือส่ิงของ ไปยงัจุดหมายปลายทาง ปัจจุบนั รถยนต์โดยสว่นมากไดรั้บการออกแบบอยา่งซับซ้อนในทางวศิวกรรม

และหลากหลายประเภท ตามความเหมาะสมของการใชง้าน หรือใชส้ าหรับงานเฉพาะกจิ ทั้งน้ีเวน้แตร่ถไฟ[1]

ประวติั

กอ่นชว่งปฏิวติัอุตสาหกรรม ยานพาหนะของผูค้นในสมยันั้น ยงัคงอาศยัแรงของสัตว ์เชน่ รถมา้ หลงัจากมกีารปฏิวติัอุตสาหกรรม ไดม้กีารประยุกต์ใชแ้รงดนัไอน ้ ามาขับเคล่ือนเป็นยานพาหนะแบบใหมท่ี่ไมต่อ้งอาศยัแรงของสัตว ์

ในปี ค.ศ. 1886 คาร์ล เบนซ์ (Karl Benz) วศิวกรชาวเยอรมนัไดส้ร้างรถยนต์ท่ีใชเ้คร่ืองยนต์เพลิงเผาไหมค้นัแรกของโลกได้ส าเร็จ (Benz Patent Motorwagen) โดยใชโ้ครงสร้างแบบลูกสูบเหมือนของเคร่ืองจักรไอน ้ า เพียงแตไ่ดเ้พิ่มอุปกรณ์ท่ีจะเปล่ียนเชื้อเพลิงในรูปของเหลวให้กลายเป็นกา๊ซ และเพิ่มวาล์วไอดีไอเสีย ในรูปแบบของเคร่ืองยนต์ 4 จงัหวะ (ปัจจุบนัรถยนต์ใชร้ะบบเคร่ืองยนต์แบบสันดาปภายใน)

เคร่ืองยนต์ท่ีใชพ้ลงังานเชื้อเพลิงในยุคแรกๆ นั้น ใชน้ ้ ามนัเบนซินเป็นเชื้อเพลิง ตอ่มา ปี 1897 รูดอล์ฟ ดีเซลพยายามคิดคน้พลงังานอ่ืนมาใชก้บัเคร่ืองยนต์ จนส าเร็จเป็นเคร่ืองยนต์ดีเซล[ต้องการอ้างอิง]

ประเทศไทยเร่ิมมรีถยนต์ใชใ้นชว่งปี พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) ในรัชสมยัพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้อยูห่ัว รัชกาลท่ี 5 โดยชาวตา่งชาติเป็นคนน าเขา้มาภายในประเทศซ่ึงไดรั้บความสนใจเป็นอยา่งมาก หลงัจากนั้นไทยไดเ้ร่ิมมอุีตสาหกรรมรถยนต์โดยใชช้ื่อบริษัทวา่ ไทยรุง่ ยูเน่ียนคาร์

นรวีร์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ม.5/3 เลขท่ี5