แนวทางการจัดการเรียนรู้...

13
แแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแแแแ แแแแแแแแแแแแ (Theory of Knowledge :TOK)

Upload: sawettaporn-twc

Post on 11-Aug-2015

225 views

Category:

Education


2 download

TRANSCRIPT

แนวทางการจัดการเร ยนร��

ทฤษฎี ความร��(Theory of

Knowledge :TOK)

ธรรมชาติ�ว�ชา (Nature of the Subject)ทฤษฎี�ความรู้� � (Theory of

Knowledge :TOK) หรู้�อรู้� �จั�กก�บในอ�กชื่��อหน��งว�า ญาณว�ทยา ( Epistemology ) เป็"นสารู้ะท��ว�าด้�วยการู้แสวงหาความรู้� � เพิ่��มเติ�มอย�างลึ�กซึ้�+งในส��งท��ผู้��เรู้�ยนรู้� � (knowing) ว�าด้�วยการู้ค�นคว�าแลึะแสวงหาความรู้� � เพิ่��อพิ่�ส�จัน-ป็รู้ะเด้.นความรู้� � ข้�อค�นพิ่บหรู้�อสมมติ�ฐานข้องความรู้� �ท��ผู้��เรู้�ยนได้�รู้�บรู้� � แลึะเป็"นท��ยอมรู้�บ

ทฤษฎี ความร�� (Theory of Knowledge : TOK)

เพื่��อให้�ผู้��เร ยนสามารถแสดงความค�ดเห้$นเช�งว�เคราะห้& ติ'งสมมติ�ฐานและการห้าคาติอบเก �ยวกบส��งท �ผู้��เร ยนร�� (Knowing) สามารถติ'งคาถามให้�คาอธ�บาย แสดงความค�ดเห้$นติ+าง ๆ ร��จักห้าทางออกในการแก�ปั.ญห้าได�อย+างกระจั+างชด สามารถเช��อมโยงความร��เปัร ยบเท ยบว�ธ การแสวงห้าความร��เก �ยวกบสาขาว�ชาติ+างๆ และว�ธ การรบความร�� (Ways of Knowing ) จัานวน 4 ว�ถ ทาง

วติถ3ปัระสงค& (Objectives)

ว�ธ การสร�างความร��จัากการสมผู้สรบร�� (Sense Perception)

สร�างความร��จัากการใช�ภาษา (Language)

สร�างความร��จัากการให้�เห้ติ3ผู้ล (Reason)

การสร�างความร��จัากส��งท �เปั5นอารมณ์& (Emotion)

ว�ธ การรบความร�� (Ways of Knowing )

การรบร��ความร��ด�วยความร��ส7กจัากการสมผู้สรบร�� (Sense Perception)

ป็ฏิ�ก�รู้�ยาทางกายข้องมน3ษย-ท��เก�ด้ข้�+นจัากส��งกรู้ะติ3�นติ�างๆ รู้อบๆติ�วเรู้า ความรู้� �ส�กภายนอกท��เก�ด้จัากการู้ส�มผู้�ส ได�แก+ ร�ปั รส กล��น เส ยง สมผู้ส เช+น ได�ย�น ช�มรสชาด การสมผู้ส ได�กล��นและมองเห้$น

1. ครู้�ให�ผู้��เรู้�ยนศึ�กษาเน�+อเพิ่ลึงใด้เพิ่ลึงหน��งท��เป็"นการู้แสด้งความรู้� �ส�ก ในท��น�+ยกติ�วอย�างเพิ่ลึง เลึ�าส��ก�นฟั8ง“

2. ครู้�ผู้��สอนให�ผู้��เรู้�ยนศึ�กษาความหมายแลึะความรู้� �ส�กท��ผู้��ป็รู้ะพิ่�นธ์-ถ่�ายทอด้ผู้�านเพิ่ลึง

ติวอย+างท � 1 ( ใช�เพื่ลงเปั5นส��อในการ จัดการเร ยนร�� )

ติวอย+างท � 2 ใช�ภาพื่ช ว�ติเปั5นส��อการเร ยนการสอน

( ภาพิ่ข้อง Jules BASTIEN, Lepage Party : Les enfants pecheurs

ค8าถาม ให้�ผู้��เร ยนได�ติอบคาถาม ในลกษณ์ะดงติ+อไปัน ' 1.จังระบ3ส��งท �ท+านเห้$นในภาพื่ 2.จังบอกความร��ส7กของท+านจัากการท �ได�เห้$นส��งติ+างๆท �ปัรากฏอย�+ ในภาพื่

ติวอย+างท � 3 การใช�ภาพื่สติว&เปั5นส��อการเร ยนการสอน

1.ครู้�ใชื่�รู้�ป็ภาพิ่เป็"นส��อในการู้เรู้�ยนการู้สอน

2.ให�ผู้��เรู้�ยนศึ�กษาภาพิ่ (เป็"นงานเด้��ยวหรู้�องานกลึ3�ม ) แลึะค�นหาความรู้� �ส�กท��ส�ติว-ท� +ง 2 ติ�ว3.ครู้�ให�ผู้��เรู้�ยนจั�นตินาการู้แลึะเข้�ยนความรู้� �ส�กข้องส�ติว-ท� +งสอง ใชื่�เวลึา 10–15 นาท� แลึะให�ท3กคนอ�านส��งท��ตินเองเข้�ยนหน�าชื่�+นเรู้�ยน

ในการู้จั�ด้การู้เรู้�ยนการู้สอน ครู้�ใชื่�ส�ญลึ�กษณ-เป็"นส��อ โด้ยให�ผู้��เรู้�ยนใชื่�กรู้ะบวนการู้ ติ�ความ “ ”(Interpretation) โด้ยให�ผู้��เรู้�ยน ทาก�จักรู้รู้ม ด้�งน�+

1. ด้�ภาพิ่ท��ก<าหนด้ให� แลึะบอกความเข้�าใจัข้องตินเอง 2. อธ์�บายความหมายข้องส��งท��ผู้��เรู้�ยนเห.นแลึะเข้�าใจั

ติวอย+างท � 4 การใช�สญลกษณ์&เปั5นส��อการเร ยนการสอน

เป็"นการู้รู้�บรู้� �ความรู้� �จัากการู้ส��อสารู้ด้�วยภาษา ได้�โด้ยส�ญลึ�กษณ-ติ�างๆ (Symbols) ส�ญญาณ (Signs) ภาษากาย (Body language) ภาษาพิ่�ด้ (Language) ซึ้��งภาษาป็รู้ะเภทติ�าง ๆ สามารู้ถ่เป็"นเครู้��องม�อท��น<าไป็ส��ความค�ด้แลึะภาษาสามารู้ถ่สะท�อนเรู้��องรู้าวข้องตินเองได้�

การรบร��ความร��ทางภาษา(Language)

2.ให้�ผู้��เร ยนบอกความห้มายของส��งท �ผู้��เร ยนเห้$นและรบร��

ใชื่�ค<าหรู้�อป็รู้ะโยค เป็"นส��อในการู้เรู้�ยนการู้สอน ครู้�หาติ�วอย�างป็รู้ะโยคท��ใชื่�คาท��เข้�ยนเหม�อนก�นแลึะม�ความหมายแติกติ�างก�น เชื่�น - เข้าเป็"นคนม�อารู้มณ-ข้�น - ข้�นเชื่�อกให�แน�น - กรู้3ณาติ�กน�าให�สามข้�น - เข้าข้�นอาสาในการู้ทางานท3กครู้�+ง

ใชื่�ส�ญลึ�กษณ-ท��เก��ยวข้�องก�บศึาสนา ความเชื่��อ แลึะว�ฒนธ์รู้รู้มป็รู้ะเพิ่ณ�ท��เป็"นท��รู้� �จั�กท��วโลึกเป็"น ส��อการู้เรู้�ยนการู้สอน ครู้�ให�ผู้��เรู้�ยนบอกความหมายข้องส�ญลึ�กษณ-ความเชื่��อแลึะว�ฒนธ์รู้รู้มป็รู้ะเพิ่ณ�ติ�างๆ

ใช�ธงของปัระเทศติ+างๆเปั5นส��อการเร ยนการสอน

1. ครู้�ให�ผู้��เรู้�ยนบอกความหมายข้องธ์งข้องป็รู้ะเทศึติ�างๆ2. ครู้�ให�ค�นคว�าหาเหติ3

“ ผู้ลึ ทาไมติ�องโบกธ์ง ฯลึฯ เป็"นติ�น