โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ
TRANSCRIPT
![Page 1: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/1.jpg)
เอกภพ Univers โลกดาราศาสตร์ ดวงดาว และอวกาศ
นายอดิพงศ์ ท่วมจอก
![Page 2: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/2.jpg)
ความหมายของเอกภพ
เอกภพ (Universe) หมายถึง ระบบรวมของดาราจักรที่มีอาณาเขตกว้าง
ใหญ่ ไ พศ าลมาก เ ชื่ อ กั น ว่ า ใ น เ อกภพมี ด า ร าจั ก ร ร วมอยู่ ป ร ะมาณ
10,000,000,000 ดาราจักร(หมื่นล้านดาราจักร) ในแต่ละดาราจักรจะ
ประกอบด้วยระบบของ ดาวฤกษ์(Stars) กระจุกดาว (Star clusters) เนบิวลา
(Nebulae) หรือหมอกเพลิง ฝุ่นธุลีคอสมิก (Cosmic dust) ก๊าซ และที่ว่าง
รวมกันอยู่
![Page 3: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/3.jpg)
ความเป็นมาของเอกภพ
นักปราชญ์ในสมัยก่อนมีความเชื่อเกี่ยวกับเอกภพโดยเชื่อว่ามีความสัมพันธ์
กับศาสนา จึงมีการสร้างแบบจ าลองของเอกภพเป็น 2 ส่วนโดยจินตนาการ
ด้วยการใช้โดมแบ่งเอกภพด้านนอกเป็นโลกของเทพและด้านในเป็นโลกของ
มนุษย์ และหลังจากคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นมา ความรู้ทางดาราศาสตร์
ได้พัฒนาขึ้นจากการสังเกต การเก็บรวบรวมข้อมูล ของนักดาราศาสตร์
อุปกรณ์ที่ใช้ในการสังเกตดาราศาสตร์ ซึ่งแต่เดิมแนวคิดส่วนใหญ่มาจากการ
จินตนาการ และการคาดเดาก็ปรากฏชัดขึ้นบนพื้นฐานของดาราศาสตร์และ
วิทยาศาสตร์
![Page 4: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/4.jpg)
ก าเนิดเอกภพ
การก าเนิดเอกภพไม่มีใครรู้ว่าก าเนิดมาตั้งแต่เมื่อใดและเริ่มจากอะไร
จนกระทั่งศตวรรษที่ 20 หรือ ค.ศ.1927 ได้มีทฤษฎีใช้อธิบายการก าเนิดและ
ความเป็นมาของเอกภพที่มีความชัดเจนและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น คือ ทฤษฎีการ
ระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ หรือ BigBang ทฤษฎีนี้ท าให้เอกภพมีการขยายตัวออก ซึ่ง
ทฤษฎีนี้กล่าวว่า ก่อนการเกิด BigBang เอกภพเป็นพลังงานล้วน ๆ ซึ่ง
แสดงออกโดยอุณหภูมิที่สูงยิ่ง จุด BigBang เป็นจุดที่พลังงานเริ่มเปลี่ยนเป็น
สสารครั้งแรก เป็นจุดเร่ิมต้นนของเวลาและเอกภพ
![Page 5: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/5.jpg)
ก าเนิดเอกภพ
ปัจจุบันเอกภพประกอบด้วยกาแล็กซีจ านวนแสน
ล้านกาแล็กซีระหว่างกาแล็กซีเป็นอวกาศที่กว้างไกล
เอกภพจึงมีขนาดใหญ่มาก โดยมีรัศมีไม่น้อยกว่า
13,700 – 15,000 ล้านปีแสง และมีอายุประมาณ
1 3 ,700–1 5 , 000 ล้ า นปี ภ า ย ใ น ก าแล็ ก ซี
ประกอบด้วย ดาวฤกษ์ รวมทั้งแหล่งก าเนิดดาวฤกษ์
เรียกว่า เนบิวลา (Nebula) ซึ่งโลกของเราเป็นดาว
เคราะห์ ในระบบสุริยะ ซึ่ ง เป็นสมาชิกหนึ่ งของ
กาแล็กซี
![Page 6: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/6.jpg)
วิวัฒนาการของเอกภพ
วิวัฒนาการของเอกภพจึงควรเริ่มมาจากปริมาตรท่ีเล็กมากๆแต่มีสสารอยู่อย่าง อัดแน่น จู่ๆ ก็มี
การระเบิดออกอย่างรุนแรง ท าให้ปริมาตรเล็กๆ นั้นขยายตัวออกมาเป็นเอกภพดังเช่นในปัจจุบัน มี
ดังนี้
ขณะเกดิ Bigbang
มีสสารเกิดขึ้นในรูปของอนุภาคพื้นฐาน ชื่อ ควาร์ก (Quark) อิเล็กตรอน (Electron)
นิวทริโน และโฟตอน (Photon)
เมื่อเกิดอนุภาคก็มีการเกดิปฏอินุภาค ที่มีประจุไฟฟ้าตรงข้าม ยกเว้น นิวทริโน และ
แอนตินิวทริโนไม่มีประจุไฟฟ้า
เมื่อปฏิภาคกับอนุภาครวมกันเนื้อสารเกดิเป็นพลังงาน
หากอนุภาคเท่ากับปฏิภาคพอดี รวมกันจะไม่เกิดกาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ
![Page 7: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/7.jpg)
![Page 8: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/8.jpg)
หลังเกิด Bigbang เพียง 10 -6 วินาท ี
อุณหภูมิของเอกภพลดลงเป็นสิบล้านล้านเควิน
ควาร์กเกิดการรวมตัว กลายเป็นโปรตอน (นิวเคลียสของไฮโดรเจน) ซึ่งมี ประจุไฟฟ้า
บวก 1 หน่วยและนิวตรอนซึ่งเป็นกลาง
![Page 9: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/9.jpg)
หลังเกิด Bigbang 3 นาท ี
อุณหภูมิของเอกภพลดลงเป็นร้อยล้านเคลวิน
ท าให้โปรตอนและนิวตรอนเกิดการรวมตัวเป็นนวิเคลียสของฮีเลียม
ในช่วงแรก ๆ ท าให้เอกภพขยายตัวเร็วมาก
![Page 10: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/10.jpg)
หลังเกิด Bigbang 300,000 ปี
อุณหภูมลิดลงเหลือ 10,000 เคลวิน นิวเคลียสของไฮโดรเจนและฮีเลียมดึงอิเล็กตรอน
เข้ามาสู่วงโคจร เกิดเป็นอะตอมไฮโดรเจนและฮีเลียม
![Page 11: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/11.jpg)
กาแล็กซีต่างๆเกิด Bigbang อย่างนอ้ย 1,000 ปี
ภายในกาแล็กซีมีธาตุไฮโดรเจน และฮีเลียมเป็นสารเบื้องต้น
ท าให้เกิดเป็นดาวฤกษร์ุ่นแรกๆ ส่วนธาตุที่มีนิวเคลียสใหญ่กว่าคาร์บอนเกิดจากดาว
ฤกษ์ขนาดใหญ ่
![Page 12: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/12.jpg)
บิกแบงและวิวัฒ
นาการขอ
งเอกภพ
![Page 13: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/13.jpg)
ข้อสังเกตที่สนับสนุน Bigbang
ประการที่ 1: การขยายตัวของเอกภพ
เอ็ดวิน พ.ี ฮับเบิล นักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษพบว่า กาแล็กซีที่
เคลื่อนที่ห่างออกไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นตามระยะทาง
กาแล็กซีที่อยู่ไกลยิ่งเคลื่อนท่ีห่างออกไปเร็วกว่ากาแล็กซีที่อยู่ใกล้ นั่น
คือ เอกภพก าลังขยายตัว
ท าให้นักดาราศาสตร์ค านวณอายุของเอกภพได ้
![Page 14: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/14.jpg)
การเค
ลื่อนที่ของกาแล็กซ ี
![Page 15: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/15.jpg)
ข้อสังเกตที่สนับสนุน Bigbang
ประการที่ 2 :อุณหภูมิพื้นหลังของเอกภพปัจจุบันลดลงเหลือ 2.73 เคลวิน
เป็นการค้นพบโดยบังเอิญของนักวิทยาศาสตร์ 2 คน คือ อาร์โน เพน
เซียส และโรเบิร์ต วิลสัน ทดลองระบบเครื่องสัญญาณของกล้อง
โทรทรรศน์วิทยุ ปรากฏว่ามีสัญญาณรบกวน ตลอดเวลา ทั้งกลางวัน
กลางคืน หรือฤดูต่างๆ ต่อมาจึงทราบว่าเป็นสัญญาณที่เหลืออยู่ใน
อวกาศ เทียบกับการแผ่รังสีของวัตถุด าที่มีอุณภูมิ 3 เคลวิน
โรเบิร์ต ดิกกี พี.เจ.อี.พีเบิลส์ เดวิด โรลล์ และเดวิด วิลคินสัน ได้
ท านายว่าการแผ่รังสีจากบิกแบงที่เหลืออยู่น่าจะตรวจสอบได้โดยกล้อง
โทรทรรศน์วิทยุ
![Page 16: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/16.jpg)
ความหมายของกาแล็กซี
กาแลก็ซ ีคือ อาณาจักรหรือระบบของดาวฤกษ์จ านวนนับแสนล้านดวง อยู่รวมกันด้วย
แรงโน้มถ่วงระหว่างดวงดาวกับหลุมด าที่มีมวลมหาศาล ซึ่งอยู่ ณ ศูนย์กลางของกาแล็กซี
โดยมีเนบิวลาซึ่งเป็นกลุ่มแก๊สและฝุ่นละอองที่เกาะอยู่ในที่ว่างบางแห่งระหว่างดาวฤกษ์
![Page 17: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/17.jpg)
ก าเนิดกาแล็กซี
กาแล็กซีก าเนิดขึ้นหลังจากบิกแบง 1,000
ล้านปีเกิดจากกลุ่มแก๊สซึ่งยึดเหนี่ยวด้วยแรงโน้ม
ถ่วงแยกเป็นกลุ่มๆ แต่ละกลุ่มก่อก าเนิดเป็นดาว
ฤกษ์จ านวนมากซึ่งเป็นสมาชิกของกาแล็กซี
กาแล็กซีที่ระบบสุริยะสังกัดอยู่ คือ กาแล็กซีทาง
ช้างเผือก นอกจากนี้ยังมีกาแล็กซีอื่น ๆ ได้แก่
กาแล็กซีเอนโดรเมดา กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่
และกาแล็กซีแมกเจลแลนเล็ก
![Page 18: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/18.jpg)
กาแล็กซีทางช้างเผอืก
กาแล็กซีทางช้างเผือก คือ ดาวฤกษ์จ านวนมากที่อยู่ไปทางเดียวกันโดยห่างจากโลก
ต่างกันนักดาราศาสตร์ทราบรูปร่างของทางช้างเผือก โดยศึกษาจากดาวฤกษ์ที่อยู่ใน
กาแล็กซี
![Page 19: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/19.jpg)
การสังเกตทางช้างเผือก
การสังเกตทางช้างเผือก จะสังเกตได้จะมี
ดาวฤกษ์บริเวณทางช้างเผือกและใกล้เคียง
ด้านซ้ายมือจะสังเกตเห็นกลุ่มดาวนายพราน
ขวามือบนของกลุ่มดาวนายพราน คือ กลุ่ม
ดาววัว ซึ่งมีดาวลูกไก่อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ด้าน
ซ้ายมือจะเห็นกาแล็กซีแอนโรเมดา เหนือ
กาแล็กซีแอนโดรเมดา คือ กลุ่มดาวค้างคาว
![Page 20: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/20.jpg)
ดาวฤกษ์ ระบบสุริยะ อยู่ในกาแล็กซี
ทางช้างเผือก โดยระบบสุริยะอยู่ที่แขนของ
กาแล็กซีด้านกลุ่มดาวนายพราน อยู่ห่างจาก
ศูนย์กลางกาแล็กซีประมาณ 30,000 ปีแสง
ดังนั้น กาแล็กซีทางช้างเผือกจึงมีขนาดใหญ่ มี
รูปร่างคล้ายกังหัน มีบริเวณกลางสว่าง มีแขน
โค้งรอบนอกหลายแขน ระยะขอบหนึ่งผ่านจุด
ศูนย์กลางไปยังขอบหนึ่งยาว 100,000 ปีแสง
ถ้ามองจากด้านบน จะเห็นเมือกังหัน แต่ดูจาก
ด้านข้างจะคล้ายเลนส์นูนหรือจานข้าวประกบกัน
![Page 21: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/21.jpg)
กาลแล็กซีเพื่อนบ้าน
1. กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่ : อยู่ห่างจากกาแล็กซีทางช้างเผือกออกไปประมาณ
163,000 ปีแสง
![Page 22: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/22.jpg)
กาแล็กซีเพื่อนบ้าน
2. กาแล็กซีแมกเจลแลนเล็ก
อยู่ห่างจากกาแล็กซีทางช้างเผือกประมาณ
196,000 ปีแสง
ทั้งกาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่ กาแล็กซีแมก
เจลแลนเล็ก เป็นชื่อที่ตั้ ง เป็นเกียรติแก่
เฟอร์ดินานด์ แมกเจลแลน นักส ารวจชาว
โปรตุเกส
กาแล็กซีทั้งสองมีลักษณะคล้ายเมฆ จัดเป็น
กาแล็กซีที่ไร้รูปร่าง อยู่ทางขอบฟ้าทางทิศใต ้
![Page 23: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/23.jpg)
![Page 24: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/24.jpg)
กาแล็กซีเพื่อนบ้าน 3. กาแลก็ซแีอนโดรเมดา
มีรูปร่างคล้ายก้นหอยหรือกังหัน
เส้นผ่าศูนย์กลาง 105 ปีแสง
มีดาวฤกษ์รวมกันอยู่ 400,000 ล้านดวง
กาแล็กซีแอนโรเมดามีลักษณะกลมขาวมัวๆใจกลางเป็นดาวสีแดง และดาว ที่มีอายุ
มาก
บริเวณมีนบิวลา สว่าง กลุ่มแก๊สและฝุ่น กระจุกดาวทรงกลมประกอบดว้ยดาวสีน้ า
เงิน
![Page 25: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/25.jpg)
กาแล็กซีแอนโดรเม
ดา
![Page 26: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/26.jpg)
ประเภทของกาแล็กซี
นักดาราศาสตร์แบ่งกาแล็กซีเป็น 4 ประเภท คือ
1. กาแล็กซีกลมรีแบบรูปไข่
มีรูปร่างหลายแบบตั้งแต่เป็นจานจนถึงกลมรี
รูปร่างของกาแล็กซีแบนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการหมุนรอบตัวเอง
ถ้าหมุนช้ารูปร่างกลม ถ้าหมุนเร็วรูปร่างแบน
![Page 27: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/27.jpg)
กาแลก็ซีกลมรีแบบรูปไข่
กาแล็กซีกลมรีแบบรูปไข่
![Page 28: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/28.jpg)
ประเภทของกาแล็กซี
2. กาแล็กซีก้นหอยหรือแบบกังหันธรรมดา
รูปทรงเป็นจานแบน ตรงกลางมีส่วนโป่ง มีดาวเป็นจ านวนมาก มีลักษณะตรง
กลางสว่างและมีแขนกังหัน แยกเป็น 3 ระดับ
จุดกลางสว่าง มีความหนาแน่นมาก มีแขนหลายแขน ใกล้ชิดกับศูนย์กลาง รูปร่าง
ชัดเจน เรียกว่า สไปรัลเอสเอ
จุดศูนย์กลางไม่สว่างมาก มีแขนหลวม ๆขยายออกเล็กน้อย เรียกว่า สไปรัลเอสบี
เช่น กาแล็กซีทางช้างเผือก และกาแล็กซีทางช้างเผือก
จุดกลางไม่เดนชัด ความสว่างและความหนาแน่นกระจายไปทั่วศูนย์กลาง มีแขน
กระจายชัดเจน เรียกว่า สไปรัลเอสซี
![Page 29: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/29.jpg)
กาแล็กซีกน้หอยหรือแบบกังหันธรรม
ดา
![Page 30: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/30.jpg)
ประเภทของกาแล็กซี
3. กาแล็กซีก้นหอยคานหรือกังหันมีแกนหรือกังหันบาร์หรือบาร์สไปรัล
เป็นกาแล็กซีที่แกนหรือคาน เป็นศูนย์กลางและแกนสว่าง มีแขนที่อยู่ปลายทั้ง 2 ข้าง
แขนที่ต่อออกไปเป็นกังหัน แบ่งเป็น 3 ระดับ
แกนกลางสว่างชัดเจน มีคามหนาแน่นมาก แขนใกล้ชิดศูนย์กลาง การกระจายของ
แขนน้อย เรียกว่า เอสบีเอ
แกนกลางไม่สว่างมาก มีแขนหลวมๆขยายออกเล็กน้อย เรียกว่า เอสบีบี
แกนกลางไม่ชัด มีแขนหลวมๆที่แยกจากกันชัดเจน เรียกว่า เอสบีซ ี
![Page 31: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/31.jpg)
กังหันบาร์หรือบาร์สไปรัล
![Page 32: โลกและดาราศาสตร์ เรื่อง เอกภพ](https://reader034.vdocuments.pub/reader034/viewer/2022042717/55cfead6bb61ebdc298b4630/html5/thumbnails/32.jpg)
ประเภทของกาแล็กซี
4. กาแล็กซีไร้รูปร่าง ไม่มีแกนกลาง ไม่มีแขนที่โค้งเป็นก้นหอย ไม่มีระนาบของความ
สมมาตร เช่น กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่ กาแล็กซีแมเจลแลนเล็ก ที่มองเห็นด้วยตา
เปล่าทางซีกโลกใต้