ดนตรีกับ การ ฟัง
DESCRIPTION
ดนตรีกับ การ ฟัง. - PowerPoint PPT PresentationTRANSCRIPT
ดนตรี�กั�บกัารีฟั�ง ดนตรี�เป็�นศิลป็ะที่��อาศิ�ยเสี�ยงเพื่��อเป็�นสี��อในการี
ถ่�ายที่อดอารีมณ์�ความรี !สี"กต�าง ๆ ไป็สี �ผู้ !ฟั'ง เป็�นศิลป็ะ ที่��ง�ายต�อการีสี�มผู้�สี ก�อให้!เกดความสี)ข ความป็ล�+มป็,ต
พื่"งพื่อใจให้!แก�มน)ษย�ได! นอกจากน�+ได!ม�น�กป็รีาชญ์�ที่�าน “ห้น"�งได!กล�าวไว!ว�า ดนตรี�เป็�นภาษาสีากลของ
มน)ษยชาตเกดข"+นจากธรีรีมชาตและมน)ษย�ได!น4ามาด�ดแป็ลงแก!ไขให้!ป็รีะณ์�ตงดงามไพื่เรีาะเม��อฟั'งดนตรี�
” แล!วที่4าให้!เกดความรี !สี"กน"กคดต�าง ๆ น�+นก5เป็�นเห้ต)ผู้ลห้น"�งที่��ที่4าให้!เรีาได!ที่รีาบว�ามน)ษย�ไม�ว�าจะเป็�นชนชาตใดภาษาใดก5สีามารีถ่รี�บรี !อรีรีถ่รีสีของดนตรี�ได!โดยใช!เสี�ยงเป็�นสี��อได!
องค์�ปรีะกัอบของกัารีฟั�ง 1. สีถ่านที่��
ถ่!าห้ากสีถ่านที่��ไม�เห้มาะสีมอาจจะที่4าให้!ไม�ได!รี�บอรีรีถ่รีสีเที่�าที่��ควรี 2. เวลา
ช�วงเวลาที่��จ�ดให้!ม�การีแสีดงดนตรี�น�+นต!องค4าน"งถ่"งความเห้มาะสีมเข!าก�บบรีรียากาศิของการีแสีดงไม�ควรีจ�ดให้!เรี5วเกนไป็ห้รี�อด"กเกนไป็
3. ผู้ !ฟั'ง ต�วผู้ !ฟั'งเองต!องเป็�นผู้ !ที่��ม�ป็รีะสีบการีณ์�ในการีฟั'ง ม�ความรี ! ความ
เข!าใจพื่�+นฐานที่างดนตรี�พื่รี!อมที่��จะรี�บกรีะแสีเสี�ยงที่��ผู้ !ข�บรี!องและผู้ ! บรีรีเลงเป็ล�งเสี�ยงออกมา โดยผู้�านขบวนการีต�ความห้มายอย�าง
ละเอ�ยดจากบที่เพื่ลงที่��ค�ตกว�ได!เข�ยนไว! ผู้ !ฟั'งเป็�นผู้ !ที่��พื่รี!อมจะรี�บฟั'งบที่เพื่ลงด!วยความช��นชอบ
รีะด�บของกัารีฟั�ง 1. การีฟั'งแบบผู้�านห้ (Passive Listening) 2. การีฟั'งด!วยความต�+งใจ (Sensuous Listening) 3. การีฟั'งอย�างเข!าถ่"งอารีมณ์� (Emotional
Listening) 4. การีฟั'งโดยรี�บรี !ความซาบซ"+ง (Perceptive
Listening)
องค�ป็รีะกอบของดนตรี� เสี�ยง (Sound) สี�สี�นห้รี�อค)ณ์ภาพื่ของเสี�ยง (Tone Color of
Quality) จ�งห้วะ (Rhythm) ต�วโน!ตดนตรี�ห้รี�อสี�ญ์ล�กษณ์�ที่��ใช!แที่นเสี�ยงดนตรี�
(Music Notation) ที่4านอง (Melody) เสี�ยงป็รีะสีาน (Harmony) ค�ตล�กษณ์� ห้รี�อ รี ป็แบบ (Musical Forms)
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 1. สีม�ยกรี�ก (Ancient Greek music)ในสีม�ยน�+ได!สี ญ์ห้ายไป็ในความล"กล�บของศิาสีตรี�แห้�งเที่พื่นยาย
กรี�ก ดนตรี�ป็รีะเภที่น�+ใช!ป็รีะกอบพื่ธ�กรีรีมของล�ที่ธเที่พื่เจ!าอพื่อลโล(Apollo) ผู้ !เป็�นเจ!าแห้�งแสีงสีว�างซ"�งรีวมถ่"งความม�เห้ต)ผู้ลและ
วน�ยถ่�อความถ่ กต!องช�ดเจนและการีด4าเนนช�วตตามที่างสีายกลาง เครี��องดนตรี�ที่��ใช! ค�อ พื่ณ์ไลรี�า (Lyre) สี�วนพื่ธ�กรีรีมของเที่พื่เจ!า
ไดโอน�ซ�สี(Dionysus) น�+นถ่�อว�าเป็�นไป็ในที่างตรีงก�นข!ามค�อสี��อ ถ่"งความป็:าเถ่��อนอ"กที่"กครี"กโครีม สีน)กสีนาน ความล"กล�บ และ
ความม�ด เที่พื่นยายอ��น ๆ ที่��เก��ยวข!องก�บดนตรี� ค�อบรีรีดาเที่พื่ 9 องค� เป็�นธดาของเที่พื่เจ!าซ�อ)สี ซ"�งเป็�นเที่พื่ป็รีะจ4าสีรีรีพื่วที่ยาและ
ศิาสีตรี�แต�ละชนด
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 2. สีม�ยโรีม�น (Roman)น�กป็รีาชญ์�ที่างดนตรี�สีม�ยโรีม�นย"ดที่ฤษฎี�ดนตรี�ของกรี�กเป็�นห้ล�ก
แล!วน4ามาผู้สีมผู้สีานก�บที่�ศินะแบบเฮเลนสีตค เช�น โพื่ลตน)สี(Plotinus) และศิษย�ของเขาคนห้น"�งช��อ พื่อรี�ฟั>รี� (Porphyry)ก5ได!เผู้ยแพื่รี�สี��งสีอนที่ฤษฎี�แบบเพื่ลโตนคให้ม(Neo-Platonic) โพื่ลตน)สีได!ย4+าถ่"งอ4านาจที่��ดนตรี�ม�ต�อจตใจ
และจรีรียาธรีรีมของมน)ษย� ม�อ4านาจในการีช4ารีะล!างจตใจให้!บรีสี)ที่ธ? พื่าใจให้!พื่บความสีวยงามและความด�งาม และในที่างตรีงก�นข!าม
ดนตรี�อาจม�อ4านาจที่4าลายห้ากใช!ไป็ในที่างที่��ผู้ด ด�งน�+นจ"งได!ม�ความพื่ยายามที่��จะอน)รี�กษ�และกวดข�นดนตรี�ที่��ใช!ป็รีะกอบพื่ธ�ศิาสีนาและที่��บรีรีเลงสี4าห้รี�บการีที่ห้ารี
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 3. สีม�ยกลาง (The Middle Ages)ดนตรี�ในสีม�ยกลางเป็�นสี�งที่��ยากที่��จะศิ"กษาเน��องจากว�าดนตรี�เห้ล�าน�+นได!
สี ญ์ห้ายไป็ห้มดแล!ว เสี�ยงตามที่!องถ่นนของพื่�อค!าเรี� เสี�ยงรี!องเพื่ลงจาก ที่)�งห้ญ์!าของกรีรีมกรีผู้ !ใช!แรีงงาน การีเต!นรี4าในงานรี��นเรีงต�าง ๆ การี
แสีดงดนตรี�บนเวที่� และแม!แต�บที่เพื่ลงจากกว�ในภาคใต!ของฝรี��งเศิสี (ใน ศิตวรีรีษที่�� 11-13) ล!วนแล!วแต�ม�อาย)สี� +น แม!แต�ดนตรี�ที่��ย�งเห้ล�ออย �ก5
เป็�นเพื่�ยงแฟัช��นเที่�าน�+น ซ"�งเห้ล�อที่+งไว!แต�ค4าถ่ามที่��ไม�ม�ค4าตอบเก��ยวก�บ แห้ล�งก4าเนดของม�นป็รีะมาณ์ ค.ศิ. 500 ว�ฒนธรีรีมตะว�นตกเรี�ม
เป็ล��ยนจากย)คม�ด (The Dark Ages) ซ"�งเป็�นช�วงเวลาที่��ม�การีรีวมต�ว เป็�นกล)�มของ แวนด�ล (Vandals, Huns) และ วซกอธ (Visigoths) เข!าไป็ที่��วย)โรีป็ และน4าไป็สี �จ)ดจบของจ�กรีวรีรีดโรีม�น เป็�นเวลา 10
ศิตวรีรีษต�อมา
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 4. สีม�ยรี�เนซองสี� (The Renaissance)
ป็รีะชาชนที่��วไป็ได!ห้ล)ดพื่!นจากการีป็กครีองรีะบอบศิ�กดนา (Feudalism) มน)ษยนยม (Humanism) ได!กลายเป็�นล�ที่ธสี4าค�ญ์ที่างป็รี�ชญ์า ศิลป็,นผู้ !
ม�ช��อเสี�ยง ค�อ ลอเรี5นโซ กแบรี�ต� โดนาเต5ลโล เลโอนารี�โด ดา วนช ฯลฯ เพื่ลงม�กจะม� 3 แนว โดยแนวบนสี)ดจะม�ล�กษณ์ะน�าสีนใจกว�าแนวอ��น ๆ
เพื่ลงที่��ป็รีะกอบด!วยเสี�ยง 4 แนว ในล�กษณ์ะของโซป็รีาโน อ�ลโต เที่เนอรี� เบสีเรี�มนยมป็รีะพื่�นธ�ก�นซ"�งเป็�นรีากฐานของการีป็รีะสีานเสี�ยง 4 แนว ใน
สีม�ยต�อ ๆ มา เพื่ลงโบสีถ่�จ4าพื่วกแมสีซ"�งพื่�ฒนามาจากแชนที่�ม�การีป็รีะพื่�นธ� ก�นเช�นเด�ยวก�บในสีม�ยกลาง เพื่ลงโมเต5ตย�งม�รี ป็แบบคล!ายสีม�ยศิลป็Cให้ม�
ในรีะยะน�+เพื่ลงคฤห้�สีถ่�เรี�มม�การีสีอดป็รีะสีานเกดข"+น ค�อ เพื่ลงป็รีะเภที่ซ�ง ซอง แบบสีอดป็รีะสีาน (Polyphonic chanson) ซ"�งม�แนวที่4านองเด�น
1 แนว และม�แนวอ��นสีอดป็รีะสีานแบบล!อก�น (Imitative style) ซ"�งม� แนวโน!มเป็�นล�กษณ์ะของการีใสี�เสี�ยงป็รีะสีาน (Homophony)
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 5. สีม�ยบาโรีก (The Baroque Age)
“ล�กษณ์ะสี4าค�ญ์อ�กอย�างห้น"�งของดนตรี�สีม�ยบาโรีกค�อ การีที่4าให้!เกด ความ” ต�ก�น (Contrasting) – – เช�น ในด!าน ความเรี5ว ความช!า ความด�ง ความ – ค�อย การีบรีรีเลงเด��ยว การีบรีรีเลงรี�วมก�น วธ�เห้ล�าน�+พื่บในงานป็รีะเภที่ ตรี
โโซนาตา (Trio Sonata) คอนแชรี�โต กรีอซโซ(Concerto Grosso) ซ มโฟัเน�ย (Simphonia) และค�นตาตา (Cantata) ตลอดสีม�ยน�+ค�ตกว�
มได! เข�ยนบที่บรีรีเลงสี�วนให้ญ์�ของเขาข"+นอย�างครีบบรีบ รีณ์� ที่�+งน�+เพื่รีาะเขาต!องการีให้!ผู้ !บรีรีเลงม�โอกาสีแสีดงความสีามารีถ่การีเล�นโดยอาศิ�ยค�ต
ป็ฏิภาณ์ห้รี�อการีด!นสีด (Improvisation) และการีป็รีะดษฐ�เม5ดพื่รีาย(Ornamentation) ในแนวของตนเอง ในสีม�ยบาโรีกน�+การีบ�นที่"กต�วโน!ต
ได!รี�บการีพื่�ฒนามาจนเป็�นล�กษณ์ะการีบ�นที่"กต�วโน!ตที่�� ใช!ในป็'จจ)บ�น ค�อการีใช! บรีรีที่�ด 5 เสี!น การีใช!ก)ญ์แจซอล (G Clef) ก)ญ์แจฟัา (F Clef) ก)ญ์แจอ�ล
โต
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 6. สีม�ยคลาสีสีก (The Classical Period)ล�กษณ์ะของดนตรี�ในสีม�ยคลาสีสีกที่��เป็ล��ยนไป็จากสีม�ยบาโรีก
ที่��เห้5นได!ช�ด ค�อ การีไม�นยม การีสีอดป็รีะสีานของที่4านองที่��เรี�ยกว�าเคาน�เตอรี�พื่อยที่�
(Counterpoint) ห้�นมานยมการีเน!นที่4านอง ห้ล�กเพื่�ยง ที่4านองเด�ยวโดยม�แนวเสี�ยงอ��นป็รีะสีานให้!ที่4านองไพื่เรีาะข"+น
ค�อการีใสี�เสี�ยงป็รีะสีาน ล�กษณ์ะของบาสีโซ คอนตน โอเลกใช! ไป็พื่รี!อม ๆ ก�บการีสีรี!างสีรีรีค�แบบอมโพื่รีไวเซ
ช��น (Improvisation) ผู้ !ป็รีะพื่�นธ�นยมเข�ยนโน!ตที่)กแนวไว! ไม�ม�การีป็ล�อยว�างให้!ผู้ !บรีรีเลงแต�งเตมเอง ล�กษณ์ะของ
บที่เพื่ลงก5เป็ล��ยนไป็เช�นก�น
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 7. สีม�ยโรีแมนตก (The Romantic Period)
ค�ตกว�สีม�ยน�+ม�ความคดเป็�นต�วของต�วเองมากข"+น สีามารีถ่แสีดงออกถ่"งความรี !สี"กน"กคด
อย�างม�อสีรีะ ไม�จ4าเป็�นต!องสีรี!างความงามตามแบบแผู้น วธ�การี และไม�ต!องอย �ภายใต!อที่ธพื่ลของผู้ !ใดที่�+งน�+เพื่รีาะ
เขาไม�ได!อย �ในความอ)ป็ภ�มภ�ของโบสีถ่� เจ!านาย และ ข)นนางเช�นค�ตกว�สีม�ยคลาสีสีกอ�กต�อไป็ ใช!อารีมณ์� และ
จนตนาการีเป็�นป็'จจ�ยสี4าค�ญ์ในการีสีรี!างสีรีรีค�ผู้ลงาน
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 8. สีม�ยอมเพื่รีชช��นนสีตค (The Impressionistic)ดนตรี�อมเพื่รีสีช��นนสีตกได!เป็ล��ยนแป็ลงบ�นไดเสี�ยงเสี�ยให้ม�แที่นที่��
จะเป็�นแบบเด�ยโที่นค (Diatonic) ซ"�งม� 7 เสี�ยงอย�างเพื่ลงที่��วไป็ กล�บเป็�นบ�นไดเสี�ยงที่��ม� 6 เสี�ยง (ซ"�งรีะยะห้�างห้น"�งเสี�ยงเต5มตลอด)
“ ” เรี�ยกว�า โฮลโที่นสีเกล (Whole – tone Scale)นอกจากน�+ “คอรี�ดที่)กคอรี�ดย�งเคล��อนไป็เป็�นค �ขนานที่��เรี�ยกว�า Gliding
Chords” และสี�วนให้ญ์�ของบที่เพื่ลงจะใช!ล�ลาที่��เรี�ยบ ๆและน)�ม นวล เน��องจากล�กษณ์ะของบ�นไดเสี�ยงแบบเสี�ยงเต5มน�+เองบางครี�+ง
ที่4าให้!เพื่ลงในสีม�ยน�+ม�ล�กษณ์ะล"กล�บไม�กรีะจ�างช�ดล�กษณ์ะของ ความรี !สี"กที่��ได! จากเพื่ลงป็รีะเภที่น�+จะเป็�นล�กษณ์ะของความรี !สี"ก
“ …” “ …” คล!าย ๆ ว�าจะเป็�น ห้รี�อ คล!าย ๆ ว�าจะเห้ม�อน มากกว�าจะเป็�นความรี !สี"กที่��แน�ช�ดลงไป็ว�าเป็�นอะไรี
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ตะวั�นตกั 9. สีม�ยศิตวรีรีษที่�� 20 และป็'จจ)บ�น (The Twentieth
century) ความเป็ล��ยนแป็ลงในที่างดนตรี�ของค�ตกว�ในศิตวรีรีษน�+ก5ค�อ
ค�ตกว�ม�ความคดที่��จะที่ดลองสี�งให้ม� ๆ แสีวงห้าที่ฤษฎี�ให้ม� ๆ ข"+นมาเพื่��อรีองรี�บความคดสีรี!างสีรีรีค�ก�บสี�งให้ม� ๆ ให้!ก�บต�ว
เองดนตรี�ในศิตวรีรีษที่�� 20 น�+ กล�าวได!ว�าเป็�นล�กษณ์ะของดนตรี�ที่��ม�ห้ลายรี ป็แบบนอกจากน�+ย�งม�การีใช!บ�นไดเสี�ยง
มากกว�า 1 “บ�นไดเสี�ยงในขณ์ะเด�ยวก�นที่��เรี�ยกว�า โพื่ล�โที่นาล” ต�+ (Polytonality) ในขณ์ะที่��การีใช!บ�นไดเสี�ยงแบบ 12
“ ” เสี�ยง ที่��เรี�ยกว�า อโที่นาลต�+ (Atonality) เพื่ลงจ4าพื่วกน�+ย�งคงใช!เครี��องดนตรี�ที่��ม�มาแต�เดมเป็�นห้ล�กในการีบรีรีเลง
ล�กษณ์ะของบที่เพื่ลงในสีม�ยศิตวรีรีษที่�� 20ดนตรี�ในศิตวรีรีษ ที่�� 20 น�+ไม�อาจที่��จะคาดคะเนได!มากน�ก เน��องจากม�การี
เป็ล��ยนแป็ลงอย�างรีวดเรี5วตามความเจรีญ์ก!าวห้น!าที่างด!าน เที่คโนโลย�การีเล��อนไห้ลที่างว�ฒนธรีรีม ในสี�วนขององค�
ป็รีะกอบที่างดนตรี�ในศิตวรีรีษน�+ม�ความซ�บซ!อนมากข"+นมาตรีฐานของรี ป็แบบที่��ใช!ในการีป็รีะพื่�นธ�และการีที่4าเสี�ยง
ป็รีะสีานโดยย"ดแบบแผู้นมาจากสีม�ยคลาสีสีก ได!ม�การีป็รี�บป็รี)งเป็ล��ยนแป็ลงและสีรี!างที่ฤษฎี�ข"+นมาให้ม�เพื่��อรีองรี�บ
เค์รี��องดนตรี�ตะวั�นตกั 1. กล)�มเครี��องสีาย (String Instruments)
เค์รี��องดนตรี�ตะวั�นตกั 2. กล)�มเครี��องลมไม! (Wood Wind
Instruments)
เค์รี��องดนตรี�ตะวั�นตกั 3. กล)�มเครี��องเป็:าป็รีะเภที่โลห้ะ ห้รี�อเครี��องเป็:าที่องเห้ล�อง(Brass Wind Instruments)
เค์รี��องดนตรี�ตะวั�นตกั 4. กล)�มเครี��องค�ย�บอรี�ด (Keyboard
Instruments)
เค์รี��องดนตรี�ตะวั�นตกั 5. กล)�มเครี��องกรีะที่บห้รี�อเครี��องต�ป็รีะกอบจ�งห้วะ
(Percussion Instruments)
กัารีปรีะสมวังดนตรี�ตะวั�นตกั 1. วงแชมเบอรี� (Chamber Ensembles) 2. วงออรี�เคสีตรีา (Orchestra) 3. วงแบนด� (Band) 4. วงชาโดว� (The Shadow) 5. วงสีตรีงคอมโบ (String Combo) 6. วงโฟัล�คซอง (Folksong) 7. วงแตรีวงชาวบ!าน
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ไทย สม�ยกั�อนกัรี�งส�โขท�ยเป นรีาชธาน�จากป็รีะว�ตศิาสีตรี�ชนชาตไที่ยเดมที่��ได!อพื่ยพื่มาจากแถ่บภ เขาอ�ลไตและอพื่ยพื่
เรี��อยมาจนถ่"งแห้ลมที่องในป็'จจ)บ�น และได!ป็รีากฏิห้ล�กฐานเป็�นจดห้มายของ อาจารีย�ที่��เซ��ยงไฮ! ซ"�งอาจารีย�มนตรี� ตรีาโมที่ กล�าวว�า( สีงบศิ"ก ธรีรีมวห้ารี.
2540 : 3 อ!างใน มนตรี� ตรีาโมที่. 2507 : ไม�ป็รีากฏิห้น!า) “ ด�งน�+ จดห้มาย ของอาจารีย�ผู้ !ห้น"�ง ในโรีงเรี�ยนที่��เซ�ยงไฮ! ซ"�งม�มาถ่"งรี�ฐมนตรี�ว�าการีกรีะที่รีวง
ศิ"กษาธการีของไที่ยเรีา ลงในว�นที่�� 11 ต)ลาคม 2484 กล�าวว�า เขาได!ที่4าการี ศิ"กษาค!นคว!าต4านานด"กด4าบรีรีพื่�ของชาตไที่ยในดนแดนจ�น ได!ห้ล�กฐานไว!ห้ลาย
อย�าง ม�ความในห้น�งสี�อฉบ�บน�+กล�าวว�า คนไที่ยม�อ)ป็นสี�ยที่างศิลป็ะที่างดนตรี�มา” แต�ด"กด4าบรีรีพื่� จากข!อความในจดห้มายที่��ยกมา แสีดงให้!เห้5นว�า ดนตรี�ไที่ยม�มา
ควบค �ก�บคนไที่ย มาต�+งแต�โบรีาณ์ก�อนการีอพื่ยพื่ลงมาสี �แห้ลมที่องในป็'จจ)บ�น และย�งม�เอกสีารีห้ล�กฐานเก��ยวก�บดนตรี�ไที่ย ซ"�ง อาจารีย�มนตรี� ตรีาโมที่ ได!
กล�าวถ่"งความเจรีญ์รี) �งเรี�องและความเป็�นมาเก��ยวก�บดนตรี�ไที่ย
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ไทย
สม�ยกัรี�งส�โขท�ยเป นรีาชธาน� การีดนตรี�ในสีม�ยกรี)งสี)โขที่�ยเป็�นรีาชธาน�น�บเป็�นสีม�ยเรี�มต!นป็รีะว�ตศิาสีตรี�ของป็รีะเที่ศิไที่ย
เพื่รีาะว�า เรี��องรีาวชนชาตไที่ยป็รีากฏิห้ล�กฐานเด�นช�ดข"+นในสีม�ยสี)โขที่�ย เม��อพื่�อข)นรีามค4าแห้ง ได!ป็รีะดษฐ�อ�กษรีไที่ยและจารี"กเรี��องรีาวต�างๆ ลงในศิลา และจากศิลาจารี"กสีม�ยสี)โขที่�ยน�+ ที่4าให้!
ที่รีาบป็รีะว�ตศิาสีตรี�สี)โขที่�ยอย�างด� ( เฉลม พื่งศิ�อาจารีย�. 2529 : 90)เพื่รีาะในห้ล�กศิลา “ จารี"กของพื่�อข)นรีามค4าแห้งที่��จารี"กเป็�นค4าสี�+นๆ ว�า เสี�ยงพื่าที่ย� เสี�ยงพื่ณ์ เสี�ยงเล�+อน เสี�ยง
ข�บ ( สีงบศิ"ก ธรีรีมวห้ารี. 2540: 9 อ!างใน ณ์รีงค�ช�ย ป็,ฎีกรี�ชน�. 2528 : 17) ที่4าให้!เรีา ที่รีาบถ่"งดนตรี�ไที่ยในสีม�ยสี)โขที่�ยได!เป็�นอย�างด�ม�ความกว!างขวางมากมาย เสี�ยงพื่าที่ย� ห้มาย
ถ่"ง การีบรีรีเลงวงป็>� พื่าที่ย� เสี�ยงพื่ณ์ ห้มายถ่"ง วงเครี��องสีาย เป็�นต!นที่ว�สีที่ธ? ไที่ยวจตรี ได! กล�าวถ่"งเครี��องดนตรี�ไที่ยในสีม�ยสี)โขที่�ย โดยสี�นนษฐานว�า เครี��องดนตรี�ไที่ย ม�กลองสีองห้น!า
แตรีงอน ( คล!ายเขาสี�ตว�ที่4าด!วยโลห้ะ ) แตรีสี�งข� (ที่4าจากห้อยสี�งข�) ตะโพื่น ฆ้!อง กลองที่�ด ฉ�ง บ�ณ์เฑาะ กรี�บ ก�งสีดาล มโห้รีะที่"ก ซอสีามสีาย รีะนาด ป็>� ไฉน ( สีงบศิ"ก ธรีรีมวห้ารี. 2540 :
9) สีรี)ป็ได!ว�า เครี��องดนตรี�ไที่ยในสีม�ยสี)โขที่�ยเป็�นรีาชธาน�น�+น เครี��องดนตรี�ม�ครีบที่�+ง 4 ป็รีะเภที่ อย�างเช�นสีม�ยป็'จจ)บ�น ค�อ
เครี��องด�ด ได!แก� พื่ณ์ เป็�นต!น เครี��องเป็:า ได!แก� ป็>� ขล)�ย เป็�นต!นเครี��องต� ได!แก� รีะนาด ฆ้!อง กลอง เป็�นต!นเครี��องสี� ได!แก� ซอ เป็�นต!น
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ไทย สม�ยกัรี�งศรี�อย�ธยาเป นรีาชธาน�
การีดนตรี�ไที่ยในสีม�ยกรี)งศิรี�อย)ธยาเป็�นรีาชธาน�น�บได!ว�า ม�ความ เจรีญ์รี) �งเรี�องเป็�นอย�างมาก เพื่รีาะป็รีะชาชนนยมเล�นดนตรี�ก�นมาก
ซ"�งเครี��องดนตรี�ในสีม�ยกรี)งศิรี�อย)ธยา สี�วนให้ญ์�ได!รี�บมาจากกรี)ง สี)โขที่�ย แต�ก5ได!ม�การีป็รี�บป็รี)งรี ป็รี�าง ตลอดจนการีป็รีะสีมวงดนตรี�
และได!ม�การีพื่�ฒนาคดค!นเรี��องดนตรี�เพื่�มเตม เช�น จะเข! เป็�นต!น ด!วยความเจรีญ์รี) �งเรี�องในการีดนตรี�ไที่ย ม�ป็รีะชาชนนยมเล�นดนตรี�
ไที่ยก�นอย�างกว!างขวางจะเล�นดนตรี�ก�นจนเกนขอบเขต จนต!องออ กกฏิมณ์เฑ�ยรีบาล ในรี�ชสีม�ยของพื่รีะบรีมไตรีโลกนารีถ่
( พื่.ศิ.1991 - 2031 ) “… ว�า ห้!ามข�บรี!องเพื่ลงเรี�อ เป็:าขล)�ย เป็:า ”ป็>� สี�ซอ ด�ดกรีะจ�บป็>� ต�โที่นที่�บ ในเขตพื่รีะรีาชฐาน
ปรีะวั�ต�ดนตรี�ไทย สม�ยกัรี�งศรี�อย�ธยาเป นรีาชธาน�
สีม�ยกรี)งรี�ตนโกสีนที่รี� ในสีม�ยน�+ เม��อบ!านเม�องได!ผู้�านพื่!นจากภาวะศิ"กสีงครีาม และได!ม�การีก�อสีรี!างเม�องให้!ม��นคงเป็�น ป็Hกแผู้�น เกดความ สีงบรี�มเย5น โดยที่��วไป็แล!ว ศิลป็ ว�ฒนธรีรีม ของชาต ก5ได!รี�บการีฟัI+ นฟั
ที่ะน)บ4ารี)ง และสี�งเสีรีมให้!เจรีญ์รี) �งเรี�องข"+น โดยเฉพื่าะ ที่างด!าน ดนตรี�ไที่ย การีดนตรี�ใน สีม�ยพื่รีะบาที่สีมเด5จพื่รีะเจ!าอย �ห้�วภ มพื่ลอด)ลยเดช รี�ชกาลที่�� 9 ได!ม�
ความเจรีญ์รี) �งเรี�องเป็�นอย�างย�ง เพื่รีาะพื่รีะองค�ที่รีงโป็รีดการีดนตรี�ที่)ก ป็รีะเภที่ จนเป็�นที่��ยกย�องสีรีรีเสีรีญ์จากชาวโลก ที่�+งในและต�างป็รีะเที่ศิ
อย�างที่�วมที่!น พื่รีะองค�ย�งที่รีงพื่รีะรีาชนพื่นธ�เพื่ลงไว!อ�กมากมาย อ�กที่�+ง สีมเด5จพื่รีะเพื่ที่รี�ตนรีาชสี)ดาฯ สียามบรีมรีาชก)มารี� ก5ได!ที่รีงโป็รีดป็รีาน
ดนตรี�ไที่ยเป็�นอย�างย�ง ที่รีงบรีรีเลงดนตรี�ไที่ยได!ที่)กชนด ที่รีงใฝ:พื่รีะ “รีาชห้ฤที่�ยอย�างจรีงจ�ง ด�งที่�� เสีรี� ห้ว�งในธรีรีม กล�าวว�า ดนตรี�ไที่ยไม�
”สี+นแล!ว เพื่รีาะพื่รีะที่ ลกรีะห้ม�อมแก!วเอาใจใสี�
เค์รี��องดนตรี�ไทย ๑ เครี��องด�ด
เค์รี��องดนตรี�ไทย ๒ เครี��องสี�
เค์รี��องดนตรี�ไทย ๓ เครี��องต�
เค์รี��องดนตรี�ไทย ๔ เครี��องเป็:า
กัารีปรีะสมวังดนตรี�ไทย 1. วงมโห้รี�
2. วงป็>� พื่าที่ย�
3. วงเครี��องสีาย