เฉลย ชีวะo net 48
TRANSCRIPT
1. ตอบ 1 ทั้��งซิเลี ยแลีะแพลีกเจลีลี�มม โครงสร�างแบบ A ในเซิลีลี�ทั้ �เป็ นย!คาร โอต
2. ตอบ 2 โครงสร�างระดั�บโมเลีก#ลีเป็ นสารโป็รต นทั้ �ม ชื่%�อว่'าทั้ว่บ!ลีน
3. ตอบ 4 เทั้รเดั ยม ซิ เลี ยทั้ �พ�ดัโบกเอาส�งแป็ลีกป็ลีอมทั้�งไป็ แต'ป็)กมดัลี!กจะม ซิเลี ยเพ%�อโบกไข่' ให้�ร�บการผสมก�บอส#จทั้ �ป็)กมดัลี!ก
4. ตอบ 1 สารโคชื่ซินจะทั้-าให้�ไมโครทั้ว่บ!ลีห้�กเป็ นทั้'อน
5. ตอบ 4
พ%ชื่ต�องการออกซิเจนในอ�ตราทั้ �ต-�ากว่'าส�ตว่� พ%ชื่ไม'ม อว่�ยว่ะทั้ �เป็ นแห้ลี'งแลีกเป็ลี �ยนก.าซิโดัยเฉพาะ การแลีกเป็ลี �ยนก.าซิจะเกดัทั้ �
1. ใบ ก.าซิจะผ'านเข่�าออกทั้างป็ากใบ แลีะการแลีกเป็ลี �ยนก.าซิในชื่��นม โซิฟิ1ลีลี�ข่องใบ บรเว่ณสป็3นจ เซิลีลี� ซิ4�งม ชื่'องว่'างระห้ว่'างเซิลีลี�แลีะม คว่ามชื่%�นส!ง เก%อบ 100 จ4งทั้-าให้�ม ป็ระสทั้ธิภาพในการแลีกเป็ลี �ยนก.าซิ
2. ลำ��ต้�นแลำะร�ก บรเว่ณผว่ลี-าต�นพ%ชื่บางชื่นดัม เลีนทั้เซิลีลี�เป็ นร!ทั้ �อากาศผ'านเข่�าออกไดั� ส'ว่นบรเว่ณรากข่องพ%ชื่จะม การแลีกเป็ลี �ยนก.าซิระห้ว่'างข่นแลีะเซิลีลี�ทั้ �ผว่ข่องราก
6. ตอบ 1 พ%ชื่ห้ลี�งการเก8บเก �ยว่ม การห้ายใจตลีอดัจนกว่'าเซิลีลี�จะตาย O2
จะถู!กน-าไป็ใชื่�สลีายโมเลีก#ลีข่องสารอาห้าร แลี�ว่ป็ลี'อย
คาร�บอนไดัออกไซิดั�แลีะ พลี�งงานคว่ามร�อนมา ดั�งน��นถู�าพ%ชื่ห้ลี�งการเก8บเก �ยว่ม อ�ตราการห้ายใจส!ง จะม อาย#ห้ลี�งการเก8บเก �ยว่ส��นจะเห้ �ยว่เฉาเร8ว่ ป็3จจ�ยทั้ �ม ผลีต'ออ�ตราการห้ายใจข่องพ%ชื่ห้ลี�งการเก8บเก �ยว่ไดั�แก' อ#ณห้ภ!ม สารเคม กระต#�นการเจรญเตบโต ข่นาดัข่องพ%ชื่ เป็ นต�น
7. ตอบ 2 X ค%อ bundle sheath
ทั้ �ห้#�มรอบทั้'อ ลี-าเลี ยงน-�าแลีะอาห้าร8. ตอบ 3 พ%ชื่กลี#'ม C4 เป็ นพ%ชื่ทั้ �ม
บ�นเดัลีชื่ ทั้เซิลีลี� (bundle sheath
cell) ห้#�มห้'อทั้'อลี-าเลี ยงน-�าแลีะอาห้าร พ%ชื่ ไดั�แก' อ�อย, ข่�าว่โพดั ม�กเตบโตในทั้ �ม CO2 น�อย พ%ชื่พว่กน �จะม การตร4ง CO2 สองคร��งค%อ
คร��งแรก : ม การตร4งทั้ �เน%�อเย%�อม โซิฟิ1ลีลี� ดั�งร!ป็ โดัยม สาร C3 ค%อ สาร phosphoenolpyruvate มาร�บ CO2 เป็ น C4 (oxaloacetic
acid) ซิ4�งถู%อว่'าเป็ นผลีตภ�ณฑ์�แรกข่องพ%ชื่ (พ%ชื่พว่กน �จ4งถู!กเร ยกว่'าพ%ชื่ C4 ) สารทั้ �ม C4 อะตอม น �จะเคลี%�อนเข่�าส!'บ�นเดัลีชื่ ทั้เซิลีลี� แลี�ว่ม การป็ลี'อย CO2 ในบ�นเดัลีชื่ ทั้ การส�งเคราะห้�แสงทั้ � เกดัข่4�นในบ�นเดัลีชื่ ทั้เซิลีลี�น � จะเป็ น Calvin cycle
เห้ม%อนก�บพ%ชื่บกอ%�น ๆ การตร4ง CO2
ในบ�นเดัลีชื่ ทั้ จ4งถู%อเป็ นการตร4ง CO2 เป็ นคร��งทั้ �สอง
9. ตอบ 4ทั้'อโฟิลีเอม ป็ระกอบดั�ว่ยก. โฟิลีเอมไฟิเบอร� ให้�คว่ามแข่8ง
แรงข่. โฟิลีเอมพาเรนไคมา ห้น�าทั้ �สะสม
อาห้ารค. ซิพทั้ว่ป็= ทั้-าห้น�าทั้ �ลี-าเลี ยงอาห้ารง. คอมพาเน ยนเซิลีลี� ทั้-าห้น�าทั้ �ให้�
อาห้ารแลีะพลี�งงานแก'ซิ พทั้ว่ป็=10. ตอบ 4
ทั้'อไซิเลีม จะป็ระกอบดั�ว่ยก. ไซิเลีมไฟิเบอร� ให้�คว่ามแข่8งแรง
แก'ทั้'อไซิเลีมข่. ไซิเลีมพาเรนไคมา สะสมอาห้าร
เป็ นเน%�อเย%�อพ%�นแลีะเก �ยว่ก�บการลี-าเลี ยงน-�าตามแนว่ข่ว่าง
ค. เทั้รค ดั ทั้-าห้น�าทั้ �ลี-าเลี ยงน-�าตามแนว่ย%น
ง. เว่สเซิลี ทั้-าห้น�าทั้ �ลี-าเลี ยงน-�าในแนว่ย%น
11. ตอบ 1 ฮอร�โมนชื่นดัน �ค%อ -
ecdysone ม ในแมลีงเก �ยว่ก�บการลีอกคราบ
12. ตอบ 4 โครงสร�างข่องฮอร�โมนดั�งกลี'าว่ เป็ นสารไม'กลี�ว่น-�า เป็ นพว่กไข่ม�น
13. ตอบ 1 ฮอร�โมนไข่ม�นออกฤทั้ธิ@ในไซิโทั้พลีาซิ4ม ไม'ใชื่'เย%�อห้#�มเซิลีลี�
14. ตอบ 4 ไดั�แก' ฮอร�โมนเพศ แลีะจากต'อมห้มว่กไตส'ว่นเป็ลี%อก
15. ตอบ 4 chorion เจรญมาจาก mesoderm เม%�อต�ว่อ'อนม อาย# 8
ส�ป็ดัาห้� เป็ นถู#งห้#�มรอบต�ว่อ'อนดั�านนอกข่องถู#งน-�าคร-�า (amnion)
16. ตอบ 3 ถู#งไข่'แดัง (yolk sac)
ทั้-าห้น�าทั้ �สร�างเม8ดัเลี%อดัเม%�อต�ว่อ'อนม อาย#ระห้ว่'าง 8 ว่�น – 20 ส�ป็ดัาห้�
17. ตอบ 2 น-�าในถู#งน-�าคร-�า (amniotic fluid) ม สารโป็รต น ไข่ม�น แลีะฮอร�โมน ชื่'ว่ยคว่บค#มอ#ณห้ภ!มข่องต�ว่อ'อนให้�คงทั้ �
18. ตอบ 2 รก (placenta) ม ร!ป็ร'างคร4�งว่งกลีม ม 2 ส'ว่น ค%อ ส'ว่นห้น4�งเป็ น endometrium ข่องแม' อ กส'ว่นเป็ นเน%�อเย%�อข่องลี!ก
19. ตอบ 1 ป็ระกอบดั�ว่ย umbilical
artery 1 ค!', umbilical vein 1 เส�น แลีะ mucoid connective tissue 20. ตอบ 4 กระต'ายเป็ นส�ตว่�ทั้ �กนพ%ชื่
เป็ นอาห้าร (Herbivore) ห้ร%อ primary consumer
21. ตอบ 1 น-�าม�นทั้ �ม ไข่ม�นชื่นดัไข่ม�นไม'อ�มต�ว่มาก ไดั�แก' น-�าม�นถู��ว่เห้ลี%อง น-�าม�นข่�าว่โพดั ร-าข่�าว่ ดัอกค-าฝอย แลีะดัอกทั้านตะว่�น
22. ตอบ 1 Barr - body เป็ นโครงสร�างทั้ �ใชื่�ตรว่จเพศห้ญง ในห้ญงป็กตจะม barr-body เป็ นจ#ดัดั-าเพ ยงจ#ดัเดั ยว่
2
23. ตอบ 2 Garlic หร�อกระเที�ยม ผลีในการลีดัระดั�บ ไข่ม�นในเลี%อดัไม'แน'นอน จากการว่เคราะห้�โดัยว่ธิ meta-analysis พบว่'าการศ4กษาเก �ยว่ก�บกระเทั้ ยมส'ว่นให้ญ'ม�กเป็ นการศ4กษาระยะส��น ม ป็ระชื่ากรทั้ �ศ4กษาไม'มากน�ก แลีะไม'ม การคว่บค#มอาห้ารอย'างเคร'งคร�ดั แลีะม ผลีลีดัระดั�บ cholesterol ลีงเพ ยงเลี8กน�อยระยะแรก แลีะไม'ไดั�ผลีเกน 6 เดั%อน
Soy protein หร�อ โปรต้�นจ�กถั่��วเหลำ�อง ม isoflavones ซิ4�งเป็ น phytoestrogen จากการว่เคราะห้�โดัยว่ธิ meta-analysis จ-านว่น 38
ต�ว่อย'างพบว่'าการบรโภคโป็รต นจากถู��ว่เห้ลี%อง ทั้ดัแทั้น โป็รต นจากส�ตว่�โดัยเฉลี �ยว่�นลีะ 47 กร�ม ลีดัระดั�บ serum
cholesterol LDL แลีะ triglyceride ลีงร�อยลีะ 9.3, 12.9
แลีะ 10.5 ตามลี-าดั�บ แลีะเพ�ม HDL
ข่4�นร�อยลีะ 2.4 Fish oil เป็ นยาทั้ �ไดั�ผลีดั ในการลีดัระดั�บ triglyceride
24. ตอบ 2 อาห้ารทั้ �ม ไข่ม�นชื่นดัอ�มต�ว่ส!งไดั�แก' ไข่ม�นจากส�ตว่�ทั้#กชื่นดั ไข่'แดัง เคร%�องในส�ตว่� ห้น�งส�ตว่�ทั้#กชื่นดั เนย คร ม ไอศกร ม ชื่8อคโกแลีต ห้อยนางรม ป็ลีาห้ม4ก ผลีตภ�ณฑ์�ทั้ �ทั้-าจากไข่'แดัง นม เนย แลีะคร ม เชื่'น ข่นมเค�ก ทั้องห้ยบ ทั้องห้ยอดั ฝอยทั้อง ส�งข่ยา ข่นมใส'เนย เป็ นต�น น-�าม�นพ%ชื่ทั้ �ม ไข่ม�น
ชื่นดัอ�มต�ว่มาก ไดั�แก' ไข่ม�นจากส�ตว่�น-�าม�นป็าลี�ม น-�าม�นมะพร�าว่
25. ตอบ 1 พร#น บลี!เบอร สตรอเบอร ก ว่ ข่�าว่โพดั
ในผลีไม�ทั้ �ม ส ม'ว่งอมน-�าเงนน��นจะม สาร ANTHOCYANIN ซิ4�งเป็ นสาร FLAVONOID ทั้ �ม ส น-�าเงนม ฤทั้ธิ@เป็ นสาร ANTIOXIDANT สารน �จะทั้-าลีายอน#ม!ลีอสระ (FREE RADICAL) ทั้ �จะทั้-าลีายเน%�อเย%�อทั้-าให้�แก'ไดั�
26. ตอบ 1 เกดัการกลีายพ�นธิ#�27. ตอบ 3 เป็ นเชื่%�อไว่ร�สทั้ �ก'อโดัยการ
ส�มผ�สโดัยตรง28. ตอบ 4 โครงสร�างโป็รต นแคป็ซิค
ข่องไว่ร�สแตกสลีายง'ายเม%�อถู!กคว่ามร�อนแลีะกรดั
29. ตอบ 2 เป็ นส�งม ชื่ ว่ตทั้ �อย!'ใน Phylum Echinodermata
30. ตอบ 1 อย!'ในทั้ะเลีทั้��งห้มดั31. ตอบ 4 ม การงอกให้ม'แทั้นส'ว่นข่าดั32. ตอบ 2 ในร!ป็ค%อ Hydra อย!'ใน
พว่กทั้ �ม เน%�อเย%�อ 2 ชื่��น33. ตอบ 2 DNA ม ส'ว่นย'อยเป็ น
nucleotide34. ตอบ 3 natural selection
เป็ นการค�ดัเลี%อกพ�นธิ#�ตามธิรรมชื่าต35. ตอบ 1
ให้�ลี�กษณะส ดั-าคว่บค#มดั�ว่ย allele B
ลี�กษณะส ข่าว่คว่บค#มดั�ว่ย allele b
Bb Bb
1 BB, 1 Bb, 1 bb 4 2 4
ส ดั-าพ�นธิ#�แทั้�ม โอกาส = 1 4
36. ตอบ 3 พ%ชื่ใบเลี �ยงค!'จะม ทั้'อลี-าเลี ยงน-�าแลีะอาห้ารอย!'เป็ นกลี#'ม ถู�าอย!'ทั้ �เส�นกลีางใบ ม�ดัทั้'อน-�าแลีะอาห้ารจะให้ญ'
37. ตอบ 3 คว่ามถู �ข่องฟิ)โนไทั้ป็=เอจะต�องไดั�จากคว่ามถู �ข่อง IAi + IA IA
คว่ามถู �ข่องฟิ)โนไทั้ป็=ข่องเลี%อดัโอ = 0.67 0.67 = 0.4489
38. ตอบ 3 ต'างก�นทั้ �คลีอโรฟิ1ลีลี�เป็ น Mg แต'ฮ โมโกลีบนเป็ น Fe
39. ตอบ 1 อ#จจาระร'ว่งม สาเห้ต#จากเชื่%�อทั้��ง 3 ชื่นดัไดั� แต'ลี�กษณะอาการข่องอ#จจาระร'ว่งจะแตกต'างก�น
40. ตอบ 4 amniotic fluid ค%อ น-�าคร-�า
41. ตอบ 1 guard cell จ4งส�งเคราะห้�แสงไดั�
42. ตอบ 1 ทั้-าให้�ฮ โมโกลีบนผดัป็กต เน%�องจากกรดัอะมโนทั้ �มาเร ยงต'อก�นผดัป็กต
43. ตอบ 3 พ%ชื่ C4 ทั้นคว่ามร�อนแลีะทั้นคว่ามแลี�งไดั�ดั
44. ตอบ 4 ไมโทั้คอนเดัร ย พบในย!คาร โอต
45. ตอบ 1 ไว่ร�สเข่�าส!'เซิลีลี�ดั�ว่ยข่บว่นการ endocytosis
ทั้ �ใชื่�พลี�งงาน46. ตอบ 2 S-ER เป็ นโครงสร�างทั้ �ม
เอนไซิม�ในการก-าจ�ดัสารพษ47. ตอบ 4 คว่ามผดัป็กตข่อง
โครโมโซิมอ กแบบห้น4�ง เร ยกว่'า กลี#'มอาการเทั้อร�เนอร� (Turner’s
syndrome)ผ!�ป็Cว่ยเป็ นเพศห้ญง ม ลี�กษณะต�ว่เต �ย กระดั!กอกกว่�างแบน ห้�ว่นมห้'าง ทั้ �บรเว่ณคอเป็ นพ�งผ%ดักางเป็ นป็)ก ไม'ม ป็ระจ-าเดั%อน เป็ นห้ม�นแลีะอาจม ป็3ญญาอ'อน ผ!�ป็Cว่ยในกลี#'มน �ม จ-านว่นโครโมโซิม 45 โครโมโซิม เน%�องจากม โครโมโซิมเพศ ค%อ โครโมโซิม X เพ ยงโครโมโซิมเดั ยว่พบในห้ญง 1
ต'อ 2,500 คน48. ตอบ 4 เม%�อม การย'อยโป็รต นเกดั
ข่4�น คว่รพบ Peptide
ทั้ �กระเพาะอาห้ารแลีะลี-าไส�เลี8ก เพราะในกระเพาะอาห้ารแลีะในลี-าไส�เลี8กม น-�าย'อยส-าห้ร�บย'อยโป็รต น
49. ตอบ 4 โครงสร�างภายในเซิลีลี�ป็ระสาทั้ ไดั�แก'- Nissle substance- ไมโทั้คอนเดัร ย- Golgi body- Microtubule แลีะ
Microfilament
4
50. ตอบ 1 เพราะเซิลีลี�เม8ดัเลี%อดัแดังไม'ม การแบ'งเซิลีลี�
51. ตอบ 2 พยาธิใบไม�ต�บ เป็ นส�ตว่�ทั้ �ม ระบบทั้างเดันอาห้ารไม'สมบ!รณ� (Incomplete digestive tract)
52. ตอบ 1 การแตกก�งข่องลี-าต�นแตกจากชื่��น Cortex ส'ว่นการแตกแข่นงข่องรากแตกจาก ชื่��น Pericycle
53. ตอบ 1 CO2 ถู!กตร4งคร��งแรกทั้ � Mesophyll ไดั�สารอนทั้ร ย� C4 แลีะเม%�อเกดั CO2 จะไดั�สาร C3 (Pyruvate)
เข่�าส!' Kreb’s cycle ส'ว่น CO2 จะถู!กตร4งใน Bundle sheath ต'อไป็
54. ตอบ 3 ห้น�าทั้ �ข่อง Interneuron
เป็ น ต�ว่กลีางข่องการร�บ-ส'งผ'านส�ญญาณป็ระสาทั้
55. ตอบ 2 ATP แลีะ NADPH. H+
เป็ นสารทั้ �ถู!กสร�างข่4�นใน Light
reaction ข่องกระบว่นการส�งเคราะห้�ดั�ว่ยแสง แลีะน-าไป็ใชื่�ต'อในกระบว่นการตร4ง CO2 ในว่�ฏจ�กรค�ลีว่น
56. ตอบ 3 ระยะ Metaphase
โครโมโซิมเห้8นเดั'นชื่�ดัแลีะเร ยงตรงกลีางเซิลีลี�
57. ตอบ 4 เอนไซิม� Enterokinase
ทั้ �ห้ลี��งออกมาจากต'อมในลี-าไส�เลี8ก ม ห้น�าทั้ �ไป็กระต#�น Trypsinogen ให้�เป็ลี �ยนเป็ น Trypsin
58. ตอบ 4 ระยะ Anaphase ข่องการแบ'งเซิลีลี�แบบ Mitosis จะม โครโมโซิมเป็ น 4n
59. ตอบ 2 3 -T-G-C-A-C-G-G-
5 (ในโมเลีก#ลีข่อง DNA เบส A ค!'ก�บ T , C ค!'ก�บ G)
60. ตอบ 3 Megaspore ม จ-านว่นโครโมโซิมลีดัลีงคร4�งห้น4�งจากเซิลีลี�เดัม เน%�องจากเป็ นเซิลีลี�ทั้ �ไดั�จากการ แบ'งแบบ Meiosis ห้ลี�งจากน��น Megaspore จะแบ'งแบบ Mitosis 3
คร��ง ไดั� 8 นว่เคลี ยสแต'ลีะนว่เคลี ยสม 12 โครโมโซิม
61. ตอบ 1 C A U (A ค!'ก�บ U , C ค!'ก�บ G)
62. ตอบ 1 การถู'ายทั้อดัทั้างพ�นธิ#กรรมข่องไมโทั้คอนเดัร ย จะเป็ นการส��งการจาก Ovum ข่องแม'
63. ตอบ 2 ในร!ป็เป็ น โพรคาร โอต ค%อ แบคทั้ เร ย เพราะไม'ม เย%�อห้#�มนว่เคลี ยส
64. ตอบ 4
ฟิ3นชื่นดัต'าง ๆ แลีะจ-านว่นต'าง ๆ เห้ลี'าน �เข่ ยนเป็ นส!ตรส��น ๆ ไดั�ว่'า I. C. P. M. ใชื่�เข่ ยนจ-านว่นฟิ3นคร4�งป็ากเทั้'าน��น
I. C. P. M.
-ในฟิ3นแทั้�ทั้ �ม 32 ซิ � ม ส!ตรดั�งน � 2. 1. 2. 3
2. 1. 2. 3
แถูว่บนแสดังชื่นดัข่องฟิ3นคร4�งข่ากรรไกรบนแถูว่ลี'างแสดังชื่นดัฟิ3นข่องคร4�งข่ากรรไกรลี'างโดัยน�บจากฟิ3นต�ดัเข่�าไป็ ดั�งน��น 2. 1. 2. 3 2. 1. 2. 3จ4งห้มายถู4ง
ฟิ3นต�ดั บน 2 ซิ � ลี'าง 2 ซิ �ฟิ3นเข่ �ยว่ บน 1 ซิ � ลี'าง 1 ซิ �ฟิ3นกรามห้น�า บน 2 ซิ � ลี'าง 2 ซิ �ฟิ3นกรามห้ลี�ง บน 3 ซิ � ลี'าง 3 ซิ �
- ในฟิ3นแทั้�ทั้ �ม 28 ซิ � ม ส!ตรดั�งน � 2. 1. 2. 2
2. 1. 2. 2(ฟิ3นกรามห้ลี�งลีดัจ-านว่นลีง)
- ในฟิ3นน-�านมม 20 ซิ � ม ส!ตรดั�งน � 2. 1. 2. 0
2. 1. 2. 0
(ไม'ม ฟิ3นกรามห้ลี�ง)
65. ตอบ 4
คว�มแต้กต้��งระหว��งฟั!นน�"�นมก�บฟั!นแที�
66.
ตอบ 2ให้� B เป็ นอ�ลีลี ลีทั้ �ม ข่นส ดั-า
b เป็ นอ�ลีลี ลีทั้ �ม ข่นส ข่าว่จากโจทั้ย� ข่นดั-า (BB) ข่นข่าว่
(bb)
ลี!ก F1 Bb (ข่นดั-า) bb
ลี!ก F2 Bb (ดั-า), bb
(ข่าว่)
ถู�าลี!กคอกน �ม 40 ต�ว่ เป็ นส ดั-าคร4�งห้น4�ง ค%อ 20 ต�ว่67. ตอบ 4 ผ4�ง ต'อ แตน มดั ต�ว่ผ!�ม
จ-านว่นชื่#ดัโครโมโซิมในเซิลีลี�ร'างกาย 1
ชื่#ดั (monoploid)
แต'ต�ว่เม ยม 2 ชื่#ดั (diploid)
68. ตอบ 3เห้ต#ผลี จากคว่ามร! �ทั้างพ�นธิ#ว่ศว่ะกรรมทั้-าให้�เอนไซิม�ทั้ �ต�ดัชื่�นส'ว่นข่อง DNA ข่�อสอบข่�อน � ค%อ เอนไซิม� EcoRI
ทั้ �จะต�ดับรเว่ณ –GA- จากป็ลีาย 5’ (ดั!ในต-ารา สสว่ทั้. ห้น�า 77 เลี'ม 6 แลีะ NEW BIO. ข่อง ดัร.ย#พา ผลีโภค บทั้พ�นธิ#-ศาสตร�โมเลีก#ลี)
จากโจทั้ย� EcoRI จะต�ดัชื่�นส'ว่น DNA
ดั�งร!ป็ต'อไป็น �
จะไดั� DNA สายค!' 3 ทั้'อน69. ตอบ ข่�อ
4 ถู�า p แทั้นคว่ามถู �อ�ลีลี ลี IA = 0.3
คว�มแต้กต้��งฟั!นน�"�นม ฟั!นแที�1. ข่นาดั เลี8ก ให้ญ'2. ส ส ข่าว่ ส น-�าตาลีอ'อน3. คอฟิ3น คอดัมาก คอดัน�อย4. รากฟิ3นข่อง ฟิ3นกราม
ถู'างมาก ถู'างน�อย
6
q แทั้นคว่ามถู �อ�ลีลี ลี IB = 0.5
r แทั้นคว่ามถู �อ�ลีลี ลี i = 0.2 จากส!ตร p2 + q2 + r2 +2pq + 2pr + 2qr = 1 ห้ม!'เลี%อดั B เป็ นฟิ)โนไทั้ป็=ทั้ �ก-าห้นดัโดัย IBIB
(ห้ร%อ q2) ก�บ IBi (ห้ร%อ 2 qr)
คว่ามถู �จ โนไทั้ป็=ข่อง q2 = 0.5 0.5 = 0.25 คว่ามถู �จ โนไทั้ป็=ข่อง 2qr = 2 0.5 0.2 = 0.20 ฟิ)โนไทั้ป็=เลี%อดัห้ม!' B = คว่ามถู �จ โนไทั้ป็= IBIB + คว่ามถู �จ โนไทั้ป็= IBi
= 0.25 + 0.20 = 0.45 ห้ร%อ ร�อยลีะ 45
70. ตอบ 3
ว่ธิ ทั้-า ป็ระชื่ากรทั้ �ม จ โนไทั้ป็= aa = 49%
คว่ามถู �ข่องป็ระชื่ากรทั้ �ม จ โนไทั้ป็= aa = q2 =49/100คว่ามถู �แอลีลี ลี a = q = 49/100 = 7/10คว่ามถู �แอลีลี ลี A = 1-7/10 = 3/10ดั�งน��นคว่ามถู �แอลีลี ลี A ทั้��ง 2 ร!ป็แบบน �จะน-าไป็ค-านว่ณห้าคว่ามถู �จ โนไทั้ป็= Aa โดัยใชื่�ส!ตรp2 +2pq + q2 = 1 ดั�งน �คว่ามถู �จ โนไทั้ป็= Aa = 2pq = 2 3/10 7/10
= 0.42 ห้ร%อ 42%คว่ามถู �จ โนไทั้ป็= AA = p2 = 3/10 3/10 = 9/100ถู�าป็ระชื่ากรข่องส�ตว่�กลี#'มน �ม 500 ต�ว่ จะม ส�ตว่�ทั้ �ม จ โนไทั้ป็= AA = 9/100 500 = 45 ต�ว่
71. ตอบ 1คนถูน�ดัม%อข่ว่าม 96% ดั�งน��นคนถูน�ดัม%อซิ�ายม
100-96 = 4%คว่ามถู �ข่องจ โนไทั้ป็= rr เทั้'าก�บ 0.04
คว่ามถู �ข่องแอลีลี ลี r เทั้'าก�บ 0.04 = 0.2คว่ามถู �ข่องแอลีลี ลี R เทั้'าก�บ 1 – 0.2 = 0.8
ป็ระชื่ากรทั้ �ม จ โนไทั้ป็= Rr เทั้'าก�บ 2 0.2 0.8 = 0.32 ห้ร%อ 32%
ดั�งน��นจ-านว่นป็ระชื่ากรทั้ �ม จ โนไทั้ป็= Rr = 32/100 200,000 = 64,000
คน คนถูน�ดัม%อข่ว่าทั้ �ม จ โนไทั้ป็= RR = (0.8)2 = 0.64 ห้ร%อ 64%
ดั�งน��น จ-านว่นป็ระชื่ากรทั้ �ม จ โนไทั้ป็= RR = 64/100 200,000 = 128,000
คน72. ตอบ 1
จากโจทั้ย�: ลี-าต�ว่ส เทั้า (B-) ไม'ม ข่น (H-) 9.19%
ลี-าต�ว่ส เทั้า (B-) ม ข่น (hh) 9.31%
ลี-าต�ว่ส ดั-า (bb) ไม'ม ข่น (H-) 41.31%
ลี-าต�ว่ส ดั-า (bb) ม ข่น (hh) 39.69%
ให้� คว่ามถู �ข่องอ�ลีลี ลีลี-าต�ว่ม ข่น (h) = q1
คว่ามถู �ข่องอ�ลีลี ลีส ดั-า (b) = q2
ป็ระชื่ากรม การเลี%อกแบบส#'มตามฮาร�ดั ไว่น�เบร�ก เน%�องจากย นทั้��งสองอย!'ก�นคนลีะโครโมโซิม จ4งคดัแบบแยกย นก�น ดั�งน � ค%อ
รว่มแมลีงห้ว่ �ส ดั-า = 41.31 + 39.69 = 81%รว่มแมลีงห้ว่ �ม ข่น = 9.31 + 39.69 = 49%คว่ามถู �จ โนไทั้ป็=ส ดั-า (bb) = 81/100 = 0.81 = q2
1
คว่ามถู �อ�ลีลี ลี (b) = 0.9
คว่ามถู �จ โนไทั้ป็=ม ข่น (hh) = 49/100 = 0.49 = q2
2
คว่ามถู �อ�ลีลี ลี (h) = 0.7
73. ตอบ 1ว#ธี�ที�� เน%�องจากห้ม!'เลี%อดั Rh ถู!กคว่บค#มดั�ว่ยย นดั�อย
เม%�อก-าห้นดัให้� D แทั้นย นเดั'นทั้ �คว่บค#มลี�กษณะห้ม!'เลี%อดั
Rh+
d แทั้นย นดั�อยทั้ �คว่บค#มลี�กษณะห้ม!'เลี%อดั Rh-
ถู�าม ป็ระชื่ากรทั้ �ม ห้ม!'เลี%อดั Rh- 20% ส�ดัส'ว่น ข่อง d = 20% ห้ร%อ 20/100 = 0.2
ดั�งน��นส�ดัส'ว่นข่อง D = 1 – 0.2 = 0.8
74. ตอบ 4เหต้%ผลำ ก-าห้นดัให้�ย น b เป็ นย นตาบอดัส
เป็ นย นตา ป็กต ผ!�ห้ญงจะม โอกาสเป็ นตาบอดัส เม%�อ genotype ข่อง พ'อเป็ น XhY แลีะข่องแม'เป็ น XBXb เพราะย%น
ตาบอดัส เป็ น ย นดั�อยอย!'บนโครโมโซิม X ไม'ม อย!'บนโครโมโซิม Y
ดั�งน��นถู�าพ'อม ย นตาบอดัส บนโครโมโซิม X
แม'ม ย น ตาบอดัส บนโครโมโซิม X ลี!กผ!�ห้ญงจะเป็ นโรคตาบอดัส ค%อม โครโมโซิม XbXb
75. ตอบ 3 พ%ชื่ร# 'น F1 ม genotype เป็ น CcYy
ซิ4�งจะม โอกาส สร�างเซิลีลี�ส%บพ�นธิ#�ทั้ �ม genotype ไดั� 4 แบบ ค%อ
ดั�งน��นพ%ชื่ร# 'น F1 สร�างเซิลีลี�ส%บพ�นธิ#�ทั้ �ม ย น C ห้ร%อ c แลีะ Y ห้ร%อ y
76. ตอบ 4 ถู�าให้� F1 ผสมก�นเอง ไดั� F2
F2 ทั้ �แสดังลี�กษณะฝ3กยาว่ส เห้ลี%องซิ ดั จะม
Genotype CCyy แลีะ Ccyy
ในอ�ตราส'ว่น 1 : 2
77. ตอบ 4 ส�ตว่�ทั้ �ม น มาโทั้ซิสต�ไดั�แก'พว่กเลีนเทั้อเรต ส�ตว่�ทั้ �ม ห้นป็!นเป็ นส'ว่นป็ระกอบข่องลี-าต�ว่ทั้ �แข่8ง ไดั�แก' พว่กฟิองน-�า ส�ตว่�พว่กมอลีลี�สก� เชื่'น
8
คว่ามถู �จ โนไทั้ป็=โฮโมไซิก�ส = ก-าลี�งสอง
ห้อยต'าง ๆ ลี-าต�ว่จะไม'แบ'งเป็ นป็ลี�อง ดั�งน��นข่�อ 1 2 แลีะ 3 จ4งผดั ส'ว่นส�ตว่�พว่ก เอไคโนเดัร�ม เชื่'น เห้ร ยญ ทั้ะเลี ลี-าต�ว่จะแข่8ง ม ลี�กษณะกลีม ๆ จ4งไม'สามารถู บอกคว่ามแตกต'างข่องส'ว่นห้�ว่แลีะส'ว่นทั้�ายไดั�78. ตอบ 2 heterotrophic
organism เป็ นส�งม ชื่ ว่ตทั้ � ไม'สามารถูสร�างอาห้ารเองไดั� ต�องดั-ารงชื่ พโดัย การกนส�งม ชื่ ว่ตอ%�นเป็ นอาห้าร ไดั�แก' พว่ก ผ!�บรโภคแลีะผ!�ย'อยสลีาย79. ตอบ 4 ส�ตว่�ทั้ �ม ลี�กษณะลี-าต�ว่
เป็ นป็ลี�องทั้ �แทั้�จรงพบไดั�ในไฟิลี�มแอนน ลีดัา ไดั�แก' พว่กไส�เดั%อนดัน ส'ว่นส�ตว่�ในไฟิลี�มแพลีทั้ เฮลีมนเทั้สพว่กพยาธิต�ว่ต%ดั ก8ม ลี�กษณะเป็ นป็ลี�อง แต'ไม'จ�ดัเป็ นป็ลี�องทั้ �แทั้�จรง
80. ตอบ 3 การถู'ายทั้อดัพลี�งงานข่องส�งม ชื่ ว่ตในโซิ'อาห้ารจะถู'ายทั้อดัไป็ทั้ศทั้างเดั ยว่จากผ!�ผลีตไป็ย�งผ!�บรโภคอ�นดั�บต'าง ๆ จนกระทั้��งถู4งผ!�ย'อยสลีายเป็ นอ�นดั�บส#ดัทั้�าย พลี�งงานทั้ �ม การถู'ายทั้อดัจะลีดัลีงไป็เร%�อย ๆ จนถู4งผ!�ย'อยสลีายจะไดั�ร�บพลี�งงานน�อยทั้ �ส#ดั การถู'ายทั้อดั
พลี�งงานจ4งไม'ม การห้ม#นเว่ ยนเป็ นว่�ฏจ�กร
81. ตอบ 2 เมมเบรนซิ4�งม ค#ณสมบ�ตในการเลี%อกผ'าน (differentially permeable membrane) ในพ%ชื่เกดัข่4�นในเซิลีลี�ทั้ �ม ชื่ ว่ต ถู�าเซิลีลี�น��นถู!กทั้-าลีายเพราะไดั�ร�บอ#ณห้ภ!มส!งเกนไป็ห้ร%อเม%�อไดั�ร�บสารพษบางอย'างทั้-าให้�กระบว่นการเมตะโบลีซิ4มถู!กย�บย��งพบว่'าเมมเบรนจะส!ญเส ยค#ณสมบ�ตการเลี%อกผ'านทั้-าให้�ต�ว่ลีะลีายห้ลีายชื่นดัสามารถูไห้ลีเข่�าภายในเซิลีลี�แลีะร��ว่ออกนอกเซิลีลี�ไดั�
ในเซิลีลี�ทั้ �ม ชื่ ว่ต โมเลีก#ลีข่องน-�าแลีะก.าซิต'าง ๆ ทั้ �ลีะลีายไดั�ในน-�า ไดั�แก' ออกซิเจน คาร�บอนไดั ออกไซิดั� แลีะไนโตรเจน สามารถูแพร'ผ'านเมมเบรนไดั�โดัยสะดัว่กอย'างรว่ดัเร8ว่
โมเลีก#ลีข่องสารทั้ �ชื่อบน-�าแลีะไม'แตกต�ว่ในน-�า โดัยทั้��ว่ ๆ ไป็ ถู�าโมเลีก#ลีข่องต�ว่ลีะลีายม ข่นาดัเลี8ก อ�ตราการแพร'ผ'านเมมเบรนจะเกดัข่4�นรว่ดัเร8ว่กว่'าโมเลีก#ลีข่องต�ว่ลีะลีายทั้ �ม ข่นาดัให้ญ' ส'ว่นต�ว่ลีะลีายทั้ �ไม'ชื่อบน-�า อ�ตราการแพร'ผ'านเมมเบรนจะส�มพ�นธิ� โดัยตรงก�บคว่ามสามารถูข่องสารน��นทั้ �จะลีะลีายไดั�ใน ลีป็1ดั สารทั้ �ลีะลีายไดั�ในลีป็1ดัจะแพร'ผ'านเมมเบรนไดั�รว่ดัเร8ว่กว่'าสารทั้ �ไม'ลีะลีายในลีป็1ดั
ส-าห้ร�บต�ว่ลีะลีายทั้ �สามารถูแตกต�ว่ไดั�ห้ร%อม ป็ระจ#เม%�ออย!'ในน-�าจะลีดัคว่ามสามารถูทั้ �จะลีะลีายในลีป็1ดัม ผลีทั้-าให้�ลีดัอ�ตราการแพร'ผ'านเมมเบรนดั�ว่ย
จ-านว่นป็ระจ#ข่องไอออนม ผลีต'อการแพร'ผ'าน เมมเบรน ต�ว่อย'างเชื่'นไอออนข่องเห้ลี8ก (Fe++
+) ซิ4�งม 3 ป็ระจ#จะแพร'ผ'านเมมเบรนไดั�ชื่�ากว่'า แมกน เซิ ยมไอออน (Mg+
+) ซิ4�งม 2 ป็ระจ# ส'ว่นแคลีเซิ ยมไอออน (Ca++) ห้ร%อแมกน เซิ ยมไอออน (Mg++) จะแพร'ผ'านเมมเบรนไดั�ชื่�ากว่'าโพแทั้สเซิ ยมไอออน (K+) ห้ร%อโซิเดั ยมไออน (Na+) ซิ4�งม ป็ระจ#เดั ยว่
82. ตอบ 1
83. ตอบ 3สารพ�นธิ#กรรม ไดั�แก' DNA แลีะ RNA ซิ4�งม base ต'างก�นไป็ สารพ�นธิ#กรรมจะต�องม self
duplication ไม'เกดั mutation
ง'ายแลีะสามารถู translate ไดั�84. ตอบ 2 ดัอกบานเย8นทั้ �ม จ โนไทั้ป็=
เป็ นเฮเทั้อโรไซิก�ส (Rr) แสดังฟิ)โนไทั้ป็=ผสมระห้ว่'างส แดังก�บส ข่าว่ แต'ค'อนไป็ทั้างส แดังไดั�เป็ นส ชื่มพ! แสดังว่'าย นเดั'นทั้ �น-าลี�กษณะดัอกส แดังข่'มย นดั�อยทั้ �น-าลี�กษณะดัอกส ข่าว่ไดั� ไม'สมบ!รณ�
85. ตอบ 2 ในบ#ห้ร �ม สารนโคตนซิ4�งม สมบ�ตกระต#�นการห้ลี��งฮอร�โมน ADH
ม ผลีเพ�มการดั!ดัน-�ากลี�บทั้ �บรเว่ณทั้'อห้น'ว่ยไต ทั้-าให้�ป็รมาณข่องน-�าป็3สสาว่ะลีดัน�อยลีง จ4งป็3สสาว่ะไม'บ'อย
86. ตอบ 1 purines ป็ระกอบดั�ว่ย adenine แลีะ guanine
pyrimidines ป็ระกอบดั�ว่ยว่งแห้ว่น 2 ว่งไดั�แก' ไซิโทั้ซิน, ไธิม น
87. ตอบ 3 แคมเบ ยมข่องพ%ชื่ใบเลี �ยงค!'ทั้ �อย!'ระห้ว่'างทั้'อลี-าเลี ยงน-�าแลีะอาห้ารจะแบ'งต�ว่ออกส!'ภายนอกเป็ นเน%�อเย%�อ secondary phloem
แลีะเจรญเข่�าส!'ภายในค%อ secondary xylem
88. ตอบ 3 passage cell เกดัจาก endodermis ทั้ �ม ลี�กษณะ
ชื่นดั neuron สมอง
ไข่ส�นห้ลี�ง
ป็มป็ระสาทั้
association neuron- ต�ว่เซิลีลี�
- ใยป็ระสาทั้
sensory neuron- ต�ว่เซิลีลี�
- ใยป็ระสาทั้เป็ นม�ดัmotor neuron- ต�ว่เซิลีลี�
- ใยป็ระสาทั้เป็ นม�ดั
10
แตกต'าง ค%อไม'ม casparian
strip คาดัรอบเซิลีลี�จ4งลี-าเลี ยงน-�าไดั� ถู�าม casparian strip เซิลีลี�จะม อ#ป็สรรคในการลี-าเลี ยงน-�าแลีะเกลี%อแร'
89. ตอบ 2 vein
90. ตอบ 3 ป็3จจ#บ�นน�กว่ทั้ยาศาสตร�สามารถูจะศ4กษาคว่ามส�มพ�นธิ�ข่องส�งม ชื่ ว่ตแลีะจ-าแนกห้มว่ดัห้ม!'ไดั�โดัยพจารณาออร�แกเนลีลี� แลีะสารเคม ภายในเซิลีลี� เชื่'น การเร ยงต�ว่ข่องกรดัอะมโนโป็รต น แลีะชื่นดัข่องเอนไซิม�โดัยถู%อว่'าส�งม ชื่ ว่ตทั้ �ม คว่ามใกลี�ชื่ดัก�นทั้างพ�นธิ#กรรมมากเทั้'าใดัก8ย'อมม ออร�แกเนลีลี�ข่องเซิลีลี�แลีะสารเคม ทั้ �คลี�ายคลี4งก�นมากเทั้'าน��น ลี-าดั�บข่องการจ�ดัห้มว่ดัห้ม!'ข่องส�งม ชื่ ว่ตม ห้ลี�กส-าค�ญในข่��นตอนทั้ �เร ยงลี-าดั�บดั�งต'อไป็น �
อาณาจ�กร (Kingdom)
ไฟิลี�ม (Phylum) ในกรณ ทั้ �เป็ นส�ตว่� แลีะ
ดัว่ชื่� �น (Division) ในกรณ ทั้ �เป็ นพ%ชื่
คลีาส (Class)
ออร�เดัอร� ห้ร%ออ�นดั�บ (Order)
แฟิมมลี � ห้ร%อครอบคร�ว่ (Family)
จ น�ส ห้ร%อสก#ลี (Genus)
สป็)ชื่ ส� (Species)
ส-าห้ร�บข่��นตอนทั้ �ต-�าทั้ �ส#ดั ค%อ Species ห้มายถู4งชื่นดัข่องส�งม
ชื่ ว่ตทั้ �ม สภาพทั้าง ชื่ ว่ว่ทั้ยา แตกต'างจากชื่นดัอ%�น แต'เห้ม%อนก�นในชื่นดัเดั ยว่ก�น แลีะสามารถูผสมพ�นธิ#�ก�นไดั� แลี�ว่ให้�ลี!กห้ลีานต'อเน%�องเป็ นการส%บทั้อดั เผ'าพ�นธิ#�
91. ตอบ 2 โมเลีก#ลีข่อง DNA
ป็ระกอบดั�ว่ยโมเลีก#ลีย'อย ๆ 3 ชื่นดั ค%อ1. น-�าตาลี เป็ นน-�าตาลีทั้ �ป็ระกอบดั�ว่ยคาร�บอน 5
ต�ว่ ม ชื่%�อเร ยกว่'าดั ออกซิ ไรโบส (deoxyribose) ม ส!ตรโมเลีก#ลี ดั�งร!ป็
ร!ป็แสดังส!ตรโครงสร�างข่องดั ออกซิ ไรโบส
2. ห้ม!'ฟิอสเฟิต ( ) จะเชื่%�อมตดัก�บ น-�าตาลี แต'ลีะต�ว่ทั้ �คาร�บอนต-าแห้น'ง 3 แลีะ 5
3. nitrogenous base เป็ นเบสทั้ �ม ไนโตรเจน ป็ระกอบอย!'ดั�ว่ย แบ'งออกเป็ น 2 พว่ก ตามจ-านว่นว่งข่อง
-3PO4
คาร�บอน-ไฮโดัรเจน ซิ4�งจะม 1 ว่ง ห้ร%อ 2 ว่ง ไดั�แก'
(ก) ไพรมดั น (pyrimidine)
เป็ นเบสทั้ � ป็ระกอบดั�ว่ยว่งข่องคาร�บอน-
ไฮโดัรเจน 1 ว่ง ไดั�แก' ไธิม น(thymine) แลีะไซิโตซิ น (cytosine)
(ข่) พว่ร น (purine) เป็ นเบสทั้ �ป็ระกอบดั�ว่ยว่ง ข่องคาร�บอนไฮโดัรเจน 2 ว่ง ไดั�แก' อะดั น น (adenine) แลีะกว่าน น (guanine)
ในโมเลีก#ลีข่อง DNA พว่ร นจะเชื่%�อมต'อก�บ ไพรมดั น โดัยทั้ �อะดั น นจะจ�บค!'ก�บไธิม นดั�ว่ย 2
บอนดั� ไฮโดัรเจน (hydrogen bond : A = T) แลีะกว่าน นจะจ�บค!'ก�บไซิโตซิ นดั�ว่ย 3 บอนดั� ไฮโดัรเจน (G C) เสมอ
ในการแบ'งชื่นดัข่องเบส นอกจากดั!ว่'าเป็ น 1 ว่ง ห้ร%อ 2 ว่งแลี�ว่ ย�งสามารถูดั!ชื่นดัข่อง ห้ม!' อะตอมทั้ �คาร�บอนต-าแห้น'งทั้ � 6 ไดั�อ ก ค%อ
ถู�าเป็ นไซิโตซิ นก�บ อะดั น นจะม ห้ม!'อะมโน (amino group : NH2) ทั้ �คาร�บอนต-าแห้น'งทั้ � 6
ส'ว่นไธิม นแลีะกว่าน นจะม ห้ม!'ค โต (keto group ; - C = O) ทั้ �ต-าแห้น'งเดั ยว่ก�น ดั�งน��นจ4งม เบสเป็ น 2 พว่ก ค%อ 6-อะมโน แลีะ 6-ค โต (6-amino & 6-keto)92. ตอบ 4 โรคป็ระสาทั้ไม'ใชื่'โรค
ทั้างพ�นธิ#กรรม93. ตอบ 1 ระบบป็ระสาทั้ เจรญมา
จากเอคโตเดัร�ม (ectoderm) แลีะเป็ นระบบทั้ �เจรญแลีะพ�ฒนาเป็ลี �ยนแป็ลีงก'อนระบบอ%�น นอกจากน �ย�งม ผว่ห้น�ง (dermis), เลีนส�ตา (lens) ส�งป็กคลี#มร'างกาย (skin)
เจรญมาจาก ectoderm ดั�ว่ย94. ตอบ 2 ก.าซิเอทั้ ลี นกระต#�นกา
รส#กข่องผลีไม� พ%ชื่จะป็ลี'อยออกมามากข่ณะทั้ �ผลีไม�ใกลี�ส#กทั้-าให้� ผลีไม�ทั้ �ย�งดับไดั�ร�บก.าซิเอทั้ ลี นดั�ว่ยจ4งส#กเร8ว่ข่4�น
95. ตอบ 1 เซิลีลี�คอลีลีาร�ห้ร%อเซิลีลี�ป็ลีอกคอในฟิองน-�าจะม ห้นว่ดั (flagella) ทั้-าห้น�าทั้ �คอยโบกพ�ดัห้ร%อจ�บอาห้ารกน
96. ตอบ 3 คว่ามส�มพ�นธิ�แบบทั้ �ฝCายห้น4�งไดั�ป็ระโยชื่น�แต'อ กฝCายห้น4�ง
12
เส ยป็ระโยชื่น� ม 2 แบบ ไดั�แก' ภาว่ะป็รสต โดัยส�งม ชื่ ว่ตทั้ �เป็ นป็รสตเข่�าไป็อาศ�ยส�งม ชื่ ว่ตอ%�นไดั�ป็ระโยชื่น� แต'ฝCายทั้ �ถู!กอาศ�ยเส ยป็ระโยชื่น� แลีะภาว่ะการลี'าเห้ย%�อ โดัยส�งม ชื่ ว่ตเป็ นผ!�ลี'าไดั�ป็ระโยชื่น� ส'ว่นผ!�ถู!กลี'าค%อเห้ย%�อเป็ นฝCายเส ยป็ระโยชื่น�
97. ตอบ 3 พยาธิต�ว่ต%ดัห้ม! ต�ว่อ'อนจะอาศ�ยอย!'ในเน%�อห้ม!ในลี�กษณะเม8ดัสาค! เม%�อคนกนเน%�อห้ม!ทั้ �ม เม8ดัสาค!แลีะไม'ส#กเข่�าไป็ ต�ว่อ'อนพยาธิต�ว่ต%ดัจะม ตะข่อเก �ยว่ผน�งลี-าไส�อาศ�ยดั!ดักนอาห้ารจากลี-าไส�เลี8กแลีะเจรญเตบโตเป็ นต�ว่เต8มว่�ยต'อไป็ ดั�งน��นคนจะไดั�ร�บพยาธิต�ว่ต%ดัโดัยการกนเน%�อส�ตว่�ส#ก ๆ ดับ ๆ ทั้ �ม ต�ว่อ'อนข่องพยาธิเข่�าไป็
98. ตอบ 3 ต�Fกแตนแลีะไส�เดั%อนดันซิ4�งอาศ�ยอย!'ในนาข่�าว่ทั้ �เดั ยว่ก�นม คว่ามส�มพ�นธิ�ก�นแบบภาว่ะเป็ นกลีาง โดัยส�งม ชื่ ว่ตทั้ �อย!'ร 'ว่มก�น ต'างฝCายต'างก8ไม'ม อทั้ธิพลีต'อก�น ห้ร%อต'างคนต'างอย!' ไม'ไดั�ป็ระโยชื่น�ห้ร%อเส ยป็ระโยชื่น�ต'อก�น
99. ตอบ 3 ฮอร�โมนออกซิโทั้ซินจะกระต#�นการบ บต�ว่ข่องมดัลี!กทั้-าให้�เกดัการคลีอดั ถู�าถู4งก-าห้นดัคลีอดัแลี�ว่แต'ฮอร�โมนออกซิโทั้ซินห้ลี��งออกมาน�อยจะทั้-าให้�ไม'สามารถูคลีอดับ#ตรไดั� ต�องฉ ดัฮอร�โมนออกซิโทั้ซินกระต#�น เพ%�อให้�เกดัการคลีอดั
100. ตอบ 2 ต'อมไร�ทั้'อทั้ �เจรญมาจากเน%�อเย%�อชื่��นกลีาง ไดั�แก' ต'อมห้มว่กไตชื่��นนอก แลีะต'อมเพศจะสร�างฮอร�โมนป็ระเภทั้สเตรอยดั�