พอลิเมอร์ (polymer)

23
พพพพพพพพพ(Polymer)

Upload: myles-barrett

Post on 03-Jan-2016

186 views

Category:

Documents


0 download

DESCRIPTION

พอลิเมอร์ (Polymer). พอลิเมอร์ คือสารประกอบที่โมเลกุลมีขนาดใหญ่ เกิดจากโมเลกุลเดี่ยว (monomer) จำนวนมาก มายึดต่อกันด้วยพันธะเคมี เกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชัน มีมวลโมเลกุลตั้งแต่ 10,000 ขึ้นไป. ประเภทของพอลิเมอร์ตามลักษณะการเกิด. พอลิเมอร์ ธรรมชาติ. พอลิเมอร์ สังเคราะห์. -ยางพารา. -ยาง. - PowerPoint PPT Presentation

TRANSCRIPT

Page 1: พอลิเมอร์ (Polymer)

พอลิ�เมอร์�(Polymer)

Page 2: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 1 _____________________________________ เคม�

พอลิ�เมอร์� คื�อสารประกอบที่� โมเลก�ลม�ขนาดใหญ่� เก�ดจากโมเลก�ลเด� ยว(monomer)จ�านวนมากมาย ดต่�อก"นด#วยพั"นธะเคืม� เก�ดปฏิ�ก�ร�ยาพัอล�เมอไรเซชั"น ม�มวลโมเลก�ลต่"*งแต่� 10,000 ข *นไป

พอลิ�เมอร์� ธรรมชัาต่� พอลิ�เมอร์� ส"งเคืราะห-

-ยางพาร์า

-เส้�น้ใย

-ยาง

-เส้�น้ใย

-พลิาส้ติ�ก-โปร์ติ�น้

-แป�ง

ปร์ะเภทของพอลิ�เมอร์�ติามลิ�กษณะการ์เก�ด

Page 3: พอลิเมอร์ (Polymer)

ฮอมอพอลิ�เมอร์� โคพอลิ�เมอร์�

เก�ดจากมอนอเมอร-เพั�ยง 1 ชัน�ดเช่$น้ พอลิ�เอท�ลิ�น้ พ�วี�ซี� แป�ง

เซีลิลิ'โลิส้ ซี�ลิ�โคน้ ยางพาร์า

เก�ดจากมอนอเมอร-ต่"*งแต่� 2 ชัน�ดเช่$น้ ยางบิ�วีทาไดอ�น้ โปร์ติ�น้

ไน้ลิอน้

ปร์ะเภทของพอลิ�เมอร์�ติามช่น้�ดของมอน้อเมอร์�

_____________________________ หน้�า 2 _____________________________________ เคม�

Page 4: พอลิเมอร์ (Polymer)

ถ้#าให# A และ B แที่นมอนอเมอร- โคืรงสร#างอย�างง�ายของโฮโมพัอล�เมอร-จะเป0นด"งน�*A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A-A linear homopolymer

ส�วนโคืพัอล�เมอร-ม�ร1ปแบบด"งน�*1. A-B-A-B-A-B-A-B-A-B Alternating copolymer (เป0นพัอล�เมอร- ที่� ม�มอนอเมอร- A และ B เร�ยงสล"บก"นเป0นชั�วง หน�วยต่�อหน�วย)

2. A-A-A-A-B-B-B-B-A-A-A-A Block copolymer (เป0นกล��มของมอนอเมอร- A และ B ที่� เร�ยงสล"บก"นเป0นกล��ม)

3. A-A-A-B-A-B-A-A-B-B Random copolymer (เป0นมอนอเมอร- A และ B เร�ยงสล"บก"นอย�างอ�สระ)

_____________________________ หน้�า 3 _____________________________________ เคม�

Page 5: พอลิเมอร์ (Polymer)

ปฏิ�ก�ร�ยาการเก�ดพัอล�เมอร-

ปฏิ�ก�ร�ยาการเก�ดพัอล�เมอร- ปฏิ�ก�ร�ยาที่� มอนอเมอร-มารวมก"นเป0นพัอล�เมอร- เร�ยกว�า “ปฏิ�ก�ร์�ยาพอลิ�เมอร์�ไร์เซีช่�+น้ ”

_____________________________ หน้�า 4 _____________________________________ เคม�

Page 6: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 5 _____________________________________ เคม�

ปฏิ�ก�ร์�ยาพอลิ�เมอไร์เซีช่�น้ แบิ$งเป,น้ 2 ปร์ะเภทค-อ

1 ปฏิ�ก�ร์�ยาพอลิ�เมอไร์เซีช่�น้แบิบิเติ�ม เก�ดจากการรวมต่"วของมอนอเมอร-ที่� ม�พั"นธะคื1�อย1�ภายในโคืรงสร#าง

เช่$น้ n H2C=CH2 H3C ( CH2 CH2 )n-1 CH3

2 ปฏิ�ก�ร์�ยาพอลิ�เมอไร์เซีช่�น้แบิบิควีบิแน้$น้ เก�ดจากการรวมต่"วของมอนอเมอร-ที่� ม�หม1�ฟั4งก-ชั"นอย�างน#อย 2 หม1� ใน 1 โมเลก�ล และได#โมเลก�ลของเล5กๆ ออกมา เชั�น H2O HCl NH3 CH3OH

เช่$น้ n H2N (CH2)6 NH2 + n HO C (CH2)4 C OH

O O

H NH (CH2)6 NH C (CH2)4 C OH + 2n-1 H2O

O O

Page 7: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 6 _____________________________________ เคม�

โคร์งส้ร์�างแลิะส้มบิ�ติ�ของพอลิ�เมอร์�1. โคร์งส้ร์�างแบิบิเส้�น้

พอลิ�เมอร์�แบิบิเส้�น้เก�ดจากมอน้อเมอร์�ส้ร์�างพ�น้ธะโคเวีเลิน้ติ�ติ$อก�น้เป,น้โซี$ยาวี ไม$ม�ก�+งแยก

ส้มบิ�ติ� เน้-+องจากโซี$ของพอลิ�เมอร์�ยาวี ไม$ม�ก�+ง ส้ายของพอลิ�เมอร์�จ0งช่�ดก�น้มาก แร์งย0ดเหน้�+ยวีจ0งส้'ง ควีามหน้าแน้$น้ส้'ง เช่$น้ พอลิ�เอท�ลิ�น้ควีามหน้าแน้$น้ส้'ง (HDPE) เน้-1อข2$น้ จ0งน้�ยมใช่�ท3าขวีดใส้$เคร์-+องส้3าอาง ม�ควีามเหน้�ยวี ด0งให�ย-ดติ�วีได� อ$อน้ติ�วีเม-+อถู'กควีามร์�อน้

พอลิ�เมอร์�แบิบิเส้�น้ ได�แก$ พอลิ�เอท�ลิ�น้ พอลิ�โพร์พ�ลิ�น้ พอลิ�เอท�ลิ�น้เทเร์ฟทาเลิติ

Page 8: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 7 _____________________________________ เคม�

2. โคร์งส้ร์�างแบิบิก�+ง พอลิ�เมอร์�แบิบิก�+งม�โคร์งส้ร์�างของพอลิ�เมอร์�แยกออกไปจากโซี$หลิ�ก อาจเป,น้ก�+งส้�1น้ หร์-อก�+งยาวีก6ได�ท3าให�ส้ายของพอลิ�เมอร์�อย'$ห$างก�น้จ0งม�ควีามหน้าแน้$น้ติ3+า ย�+งก�+งยาวีมากควีามหน้าแน้$น้ย�+งติ3+า

ส้มบิ�ติ� น้อกจากจะม�ควีามหน้าแน้$น้ติ3+า ม�ควีามใส้ ม�ควีามย-ดหย2$น้ จ2ดหลิอมเหลิวีติ3+ากวี$าพอลิ�เมอร์�ท�+ม�โคร์งส้ร์�างเป,น้โซี$ยาวี

Page 9: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 8 _____________________________________ เคม�

3. โคร์งส้ร์�างแบิบิร์$างแห พอลิ�เมอร์�แบิบิร์$างแห เป,น้พอลิ�เมอร์�ท�+ม�การ์ส้ร์�างพ�น้ธะเช่-+อมโยงก�น้ร์ะหวี$างโซี$ของพอลิ�เมอร์�ท�+ม�โคร์งส้ร์�างแบิบิเส้�น้หร์-อก�+ง ติ$อก�น้เป,น้ร์$างแห ส้$วีน้ใหญ่$เก�ดจากมอน้อเมอร์�ท�+ม�หม'$ฟ8งก�ช่�น้ติ�1งแติ$ 3 หม'$

ส้มบิ�ติ� แข6ง ทน้ควีามร์�อน้ ถู'กควีามร์�อน้จะแติกร์�าวี ไม$ม�ย-ดหย2$น้ ถู�าม�พ�น้ธะเช่-+อมร์ะหวี$างโซี$หลิ�กมากย�+งแข6งแลิะไม$ย-ดหย2$น้ ถู�าม�พ�น้ธะเช่-+อมร์ะหวี$างโซี$หลิ�กน้�อยจะอ$อน้ติ�วีได� เม-+อข01น้ร์'ปแลิ�วีจะไม$อ$อน้ติ�วีน้3ากลิ�บิมาใช่�ใหม$อ�กไม$ได�

Page 10: พอลิเมอร์ (Polymer)

Plastics are versatile synthetic substance, they can use replacement natural material.

_____________________________ หน้�า 9 _____________________________________ เคม�

Page 11: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 10_____________________________________ เคม�

เอท�ลิเบิน้ซี�น้

เบิน้ซี�น้

Page 12: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 11 _____________________________________ เคม�

Page 13: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 12 _____________________________________ เคม�

Page 14: พอลิเมอร์ (Polymer)

การ์ข01น้ร์'ปพลิาส้ติ�ก

_____________________________ หน้�า 13 _____________________________________ เคม�

Page 15: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 14 _____________________________________ เคม�

Page 16: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 15 _____________________________________ เคม�

ช่น้�ดของพลิาส้ติ�กคื�อ เพัที่ (PETE) ส"ญ่ล"กษณ์-คื�อ 1 เป0นพัลาสต่�กที่� ส�วนใหญ่�ม�คืวามใส มองที่ะล�ได# ม�คืวามแข5งแรงที่นที่านและเหน�ยว ป9องก"นการผ่�านของก;าซได#ด� ม�จ�ดหลอมเหลว 250-260 องศาเซลเซ�ยส ม�คืวามหนาแน�น 1.38-1.39 น�ยมน�ามาใชั#ที่�าบรรจ�ภ"ณ์ฑ์-ต่�างๆ เชั�น ขวดน�*าด� ม ขวดน�*าปลา ขวดน�*าม"นพั�ชั เป0นต่#น

  พัลาสต่�กกล��มที่� 2 คื�อ HDPE

ส"ญ่ล"กษณ์-คื�อ 2 เป0นพัลาสต่�กที่� ม�คืวามหนาแน�นส1ง คื�อนข#างน� ม ม�คืวามเหน�ยวไม�แต่กง�าย ม�จ�ดหลอมเหลว 130 องศาเซลเซ�ยส ม�คืวามหนาแน�น 0.95-0.92

น�ยมน�ามาใชั#ที่�าบรรจ�ภ"ณ์ฑ์-ที่�าคืวามสะอาด เชั�น แชัมพั1 ถ้�งร#อนชัน�ดข��น ขวดนม เป0นต่#น

  พัลาสต่�กกล��มที่� 3 คื�อ พั�ว�ซ� (PVC) ส"ญ่ล"กษณ์-คื�อ 3 เป0นพัลาสต่�กที่� ม�ล"กษณ์ะที่"*งแข5งและน� ม  สามารถ้ผ่ล�ต่เป0นผ่ล�ต่ภ"ณ์ฑ์-ได#หลายร1ปแบบ ม�ส�ส"นสวยงาม ม�จ�ดหลอมเหลว 75-90 องศาเซลเซ�ยส เป0นพัลาสต่�กที่� น�ยมใชั#มาก เชั�น ที่�อพั�ว�ซ� สายยาง แผ่�นฟั?ล-มห�ออาหาร เป0นต่#น

Page 17: พอลิเมอร์ (Polymer)

  พัลาสต่�กกล��มที่� 4 คื�อ LDPE ส"ญ่ล"กษณ์-คื�อ 4 เป0นพัลาสต่�กที่� ม�คืวามหนาแน�นต่� า ม�คืวามน� มกว�า HDPE ม�คืวามเหน�ยว ย�ดต่"วได#ในระด"บหน ง ส�วนใหญ่�ใสมองเห5นได# จ�ดหลอมเหลว 110 องศาเซลเซ�ยส ม�คืวามหนาแน�น 0.92-0.94  น�ยมน�ามาใชั#ที่�าแผ่�นฟั?ล-ม ห�ออาหารและห�อของ

  พัลาสต่�กกล��มที่� 5 คื�อ pp ส"ญ่ล"กษณ์-คื�อ 5

เป0นพัลาสต่�กที่� ส�วนใหญ่�ม�คืวามหนาแน�นคื�อนข#างต่� า ม�คืวามแข5งและเหน�ยว คืงร1ปด� ที่นต่�อคืวามร#อน และสารเคืม� ม�จ�ดหลอมเหลว 160-170

องศาเซลเซ�ยส คืวามหนาน�น 0.90-0.91 น�ยมน�ามาใชั#ที่�าบรรจ�ภ"ณ์ฑ์-ส�าหร"บอาหารในคืร"วเร�อน เชั�น ถ้�งร#อนชัน�ดใส จาม ชัาม อ�ปกรณ์-ไฟัฟั9าบางชัน�ด

  พัลาสต่�กกล��มที่� 6 คื�อ PS ส"ญ่ล"กษณ์-คื�อ 6 

เป0นพัลาสต่�กที่� ม�คืวามใส แข5งแต่�เปราะแต่กง�าย  สามารถ้ที่�าเป0นโฟัมได# ม�จ�ดหลอมเหลว 70-115 องศาเซลเซ�ยส คืวามหนาแน�น 0.90-0.91  น�ยมน�ามาใชั#ที่�าบรรจ�ภ"ณ์ฑ์- เชั�น กล�องไอศกร�ม กล�องโฟัม ฯลฯ

_____________________________ หน้�า 16 _____________________________________ เคม�

Page 18: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 17 _____________________________________ เคม�

  พัลาสต่�กกล��มที่� 7 คื�อ อ� นๆ เป0นพัลาสต่�กที่� นอกเหน�อจากพัลาสต่�กที่"*ง 6 กล��ม พับมากมายหลากหลายร1ปแบบ 

Page 19: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 18 _____________________________________ เคม�

Page 20: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 19 _____________________________________ เคม�

Page 21: พอลิเมอร์ (Polymer)

_____________________________ หน้�า 22 _____________________________________ เคม�

การ์ข01น้ร์'ปยาง

Page 22: พอลิเมอร์ (Polymer)
Page 23: พอลิเมอร์ (Polymer)

เป,น้มะเร์6งท�+กาย เป,น้ภ�ยติ$อช่�วี�ติ เป,น้มะเร์6งท�+ควีามค�ด เป,น้พ�ษติ$อส้�งคม