คู่มือการใช้โปรแกรม power point 2007

36
หัวข้อการเรียนรูฟีเจอร์ใหม่ของ PowerPoint 2007 หลักการออกแบบหน้าสไลด์ กฎในการออกแบบหน้าสไลด์ เครื่องมือในริบบอน ( Ribbon) ส่วน ประกอบของหน้าต่างโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 มุมมอง (View) สไลด์แบบต่างๆ การ สร้างงานพรีเซนต์เตชั่นแบบง่ายๆ

Upload: krujeabja

Post on 28-May-2015

14.467 views

Category:

Documents


4 download

TRANSCRIPT

หัวข้อการเรียนรู้

ฟีเจอร์ใหม่ของ PowerPoint 2007 หลักการออกแบบหน้าสไลด ์ กฎในการออกแบบหน้าสไลด ์ เครื่องมือในริบบอน (Ribbon) ส่วน ประกอบของหน้าต่างโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 มุมมอง (View) สไลด์แบบต่างๆ การ สร้างงานพรีเซนต์เตชั่นแบบง่ายๆ

Microsort Office PowerPoint เป็นโปรแกรมที่สร้างขึ้นเพื่องาน Presentation โดยเฉพาะมีความสามารถในการสร้างงานพรีเซนต์ได้ง่ายและรวดเร็ว สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงงานพรีเซนต์ตามความต้องการได้อย่างสะดวก สวยงามและเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ก็ดึงดูดผู้ชมได้มากกว่าการพรีเซนต์รูปแบบเดิมๆ

ฟีเจอร์ใหม่ของ PowerPoint 2007 ในส่วนน้ีจะกล่าวถึงว่ามีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ บ้างกับการพัฒนาของทาง Microsoft ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการท างานของผู้ใช้งาน ซึ่งก็มีอย่างหลายและง่ายต่อการใช้งาน พร้อมทั้งความสามารถในการจัดท าเอกสารให้มีรูปแบบที่สวยงามด้วยกราฟิกแบบใหม่ ซึ่งผู้เขียนขออธิบายลักษณะเด่น และความสามารถที่น่าสนใจของ PowerPoint 2007 ดังนี ้

อินเตอร์เฟสดู ทันสมัยใช้ง่ายกว่าเดิม

อินเตอร์ เฟสหรือหน้าจอโปรแกรมนับเป็นสิ่งแรกที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของ PowerPoint 2007 ได้อย่างชัดเจน เน่ืองจากมีการออกแบบปรับโฉมเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด โดยค านึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก จึงท าให้สามารถเรียกใช้เคร่ืองมือและค าสั่งต่างๆ ได้สะดวกรวดเร็วขึ้น

ทูลบาร์เปลี่ยน เป็นริบบอน (Ribbon)

ริบบอนมีลักษณะคล้ายกับทูลบาร์ที่เราคุ้นเคยกันดีใน PowerPoint 2003 ซึ่งเป็นแหล่งที่ใช้ส าหรับรวบรวมเท็บเคร่ืองมือต่างๆ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการท างานมากขึ้น โดยดึงเอาความสามารถออกมาจากเมนูค าสั่งที่ซ้อน ๆ กันอยู่จากเวอร์ชั่นเดิม ให้แสดงอยู่ในรูปแบบของปุ่มเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้เห็นชัดเจนและคลิกใช้งานได้ ทันที

PowerPoint 2003

PowerPoint 2007

สร้าง งานพรีเซนต์ใหม่จาก Template ส าหรับการเร่ิมสร้างงานพรีเซนต์ใหม่แล้ว PowerPoint 2007 จะช่วยให้คุณสามารถสร้างงานได้อย่างรวดเร็วขึ้นจาก Template หรือแม่แบบสไลด์ส าเร็จรูปที่มีให้เลือกมากมาย โดยที่คุณไม่จ าเป็นต้องเร่ิมออกแบบงานใหม่ทุกครั้ง และยังสามารถดาว์นโหลดแม่แบบเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ Microsoft.com ได้อีกด้วย

ออกแบบสไลด์ ได้อย่างมืออาชีพ

Microsoft PowerPoint 2007 ยังมีเคร่ืองมือที่จะช่วยให้งานพรีเซนต์ของคุณเป็นมืออาชีพได้ง่ายๆ ด้วยการออกแบบส าเร็จรูปที่พร้อมให้เลือกอย่างจุใจ อย่างเช่น การออกแบบพื้นหลังสไลด์ด้วย Themes Design การปรับแต่งข้อความศิลป์ด้วย Word Art Style รวมทั้งการเลือกสีสันตามใจชอบด้วย Themes Color เป็นต้น

Word Art Style

Themes Color

Themes Design

ก าหนด เอฟเฟ็กต์การเปลี่ยนสไลด์ได้ทันที ในโปรแกรม PowerPoint 2007 สามารถก าหนดเอฟเฟ็กต์การเปลี่ยนสไลด์ หรือการเคลื่อนไหวของ อ็อบเจ็กต์ได้ง่ายๆ จากริบบอนที่อยู่ทางด้านบน โดยมีลักษณะเป็นรูปไอคอนเล็ก ๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของเอฟเฟ็กต์ได้ชัดเจน และเลือกได้ถูกใจมากขึ้น

การเปลี่ยน แปลงสไลด์ที่หลากหลายและเห็นตัวอย่างทันที ปรับ แต่งภาพกราฟิกให้สวยงามเพียงคลิกเดียว

ส าหรับผู้ที่ไม่ถนัดทางด้านการออกแบบศิลปะแล้วทาง Microsoft Office PowerPoint 2007 ก็ได้ออกแบบโปรแกรมให้มีเคร่ืองมือที่ใช้ส าหรับแต่งภาพขึ้นมาด้วย ในชื่อเคร่ืองมือ Picture Styles ซึ่งเพียงเราเลือกรูปแบบที่ต้องการ ภาพก็จะถูกปรับแต่งออกมาสวยงามน่ามอง

มีสมาร์ทอาร์ต ( SmartArt)

ส าหรับ งานที่จ าเป็นต้องสร้างไดอะแกรมหรือผังองค์กรแล้ว SmartArt จะช่วยให้เราท างานได้อย่างไม่ยากเย็น ทั้งยังช่วยให้มีความสวยงามมากขึ้นอีกด้วย เพราะภายในชุดตัวเลือกนี้จะมีรูปแบบของไดอะแกรมให้เลือกมากมายรองรับกับงาน ทุกประเภท

ท างาน ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณมีการพรีเซนต์งานที่เกี่ยวข้องกับการน าเสนอด้วยกราฟหรือแผนภูมิ แล้วละก็ Microsoft Office PowerPoint 2007 สามารถช่วยคุณได้ เน่ืองจากโปรแกรม Power Point 2007 และ Excel 2007 จะท างานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งหรืออัพเดตข้อมูลตัวเลขในกราฟ ซึ่งสามารถท าได้โดยตรง โดยไม่ต้องเสียเวลาคัดลอกข้อมูลเหมือนเช่นเดิม

หลักการ ออกแบบหน้าสไลด์ ในบางคร้ังผู้สร้างงาน Presentation จะมีความสงสัยว่า มีหลักการอย่างไรบ้างที่จะท าให้การสร้างงานน าเสนอในแต่ละหน้ามีความน่าสนใจ และถูกหลักในการออกแบบ เพื่อส่งเสริมให้งาน Presentation สมบูรณ ์โดยทั่วไปการออกแบบหน้าสไลด์ที่ถูกต้องจะมีหลักการดังนี้

การ เลือกพื้นหลังสไลด์ พื้นหลัง (Background) เป็นปัจจัยแรกที่ส่งผลกับการออกแบบและผู้รับข้อมูลโดยตรง เพราะถ้าพื้นหลังไม่ดี จะท าให้ดูแล้วไม่สบายตา ดังน้ัน จึงต้องมีหลักการเพื่อเป็นพื้นฐานของแนวคิดดังนี้

การเลือกใช้ภาพประกอบ การเลือกใช้ภาพ เป็นการเสริมให้สไลด์ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น แต่ถ้ามีมากเกินไป จะท าให้เกิดความสับสนกับข้อมูล ที่น าเสนอได้ ดังนั้นจึงมีวิธีการในการ เลือกใช้ภาพ ให้เหมาะสมดังนี้

1. ภาพที่น ามาใช้ต้องส่งเสริมข้อความที่น าเสนอ 2. ไม่ควรมีอักษรในภาพถ้าไม่จ าเป็น 3. ภาพที่น ามาใช้ไม่ควรใช้ไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก เพราะจะท าให้โปรแกรมท างานหนักขึ้น

การเลือกใช้ข้อความที่มีขนาดเหมาะสม ขนาดของข้อความเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่ส าคัญที่จะช่วยให้การน าเสนอมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ในการสื่อให้ผู้ที่มารับข้อมูลเข้าใจ โดยมีหลักการดังนี้ 1. ตัวอักษรต้องอ่านง่าย โดยปกติตัวอักษรควรมีขนาดต้ังแต่ 36-60 Point และควรเป็นตัวหนา เพื่อจะสื่อได้ชัดเจนมากขึ้น 2. ในหนึ่งสไลด์ไม่ควรใช้แบบตัวอักษรเกิน 2 ประเภทเพื่อความสวยงาม

การเลือกสีในการออกแบบ

สีนับว่าเป็นส่วนส าคัญของการออกแบบหน้าจอ แม้ว่าโปรแกรมจะแสดงด้วยจอสี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้สีได้ตามที่ผู้ออกแบบต้องการ ทั้งนี้เน่ืองจากผู้ใช้จะต้องใช้สายตาดูจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ถ้าโปรแกรมน าเสนอด้วยสีร้อน (Warm Colors) อาจท าให้เกิดความระคายเคือง สายตาของผู้ใช้ได้

สีร้อน (Warm Color)

สีโทนร้อน คือ สีที่ให้ความหมายร่ืนเริง สดชื่น ฉูดฉาด บาดอารมณ์ นับจากโทนสีเหลือง ชมพู แดง ส้ม ม่วง น้ าตาล สีเหล่านี้ให้ความหมายเร่าร้อน มีอิทธิพลต่อการดึงดูด และกระตุ้นอารมณ์ได้มากกว่าโทนสีอ่ืน ๆ สีเหล่านี้จะใช้มากกับงานประเภทหัวหนังสือ นิตยสาร แคตตาล็อก ตลอดจนป้ายโฆษณาต่างๆ ซึ่งจะกระตุ้นความสนใจต่อผู้พบเห็นได้เร็ว

สีเย็น (Cool Colors) เร่ิม จากสีเทา ฟ้า น้ าเงิน เขียว สีโทนนี้จัดอยู่ในสีโทนเย็น ให้อารมณ์ความรู้สึกสงบ สะอาด เย็นสบาย

กฎในการออกแบบหน้าสไลด์ ในการสร้างสไลด์ในแต่ละหน้านั้น ผู้ใช้ควรมีกฎที่เป็นแนวทางในการสร้างงานน าเสนอก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยพอสรุปกฎได้ดังนี้ ในแต่ละสไลด์ควรมีหัวเร่ืองเพื่อบอกถึงสิ่งที่จะอธิบาย ตัวอักษรควรใช้ขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้รับฟังและรับชมสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน ควรใช้ค าสั้นๆ ที่อ่านเข้าใจง่าย เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและน่าติดตาม หัวข้อของเนื้อหาไม่ควรเกิน 8 บรรทัดในหนึ่งสไลด์ เพราะถ้ามีมากเกินไปจะส่งผลท าให้สื่อได้ไม่ชัดเจน ไม่ควรน าภาพมาเป็นพื้นหลัง (Background) เพื่อจะท าให้อ่านยาก การใส่รูปภาพสงในสไลด์ควรใช้ขนาดพอสมควรไม่ใหญ่เกินไป

เครื่องมือต่างๆในริบบอน ริบบอนหน้าแรก (Home) ส าหรับริบบอนหน้าแรก (Home) จะประกอบไปด้วยปุ่มค าสั่งที่เกี่ยวกับการจัดรูปแบบตัวอักษร การคัดลอกข้อความ การเปลี่ยนขนาดตัวอักษร และอ่ืนๆ ซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี

กลุ่มหมายเลข ความหมาย

1

ชุด คลิบบอร์ด

คัดลอก เคลื่อนย้าย และคัดลอกรูปแบบ

2

ชุด ภาพนิ่ง

แทรกสไลด์ ลบสไลด์ เค้าโครง และตั้งค่าสไลด ์

3

ชุด แบบอักษร

จัดรูปแบบตัวอักษร

4

ชุด ย่อหน้า

จัดต าแหน่ง และย่อหน้า

5

ชุด รูปวาด

ส าหรับวาดรูป และจัดรูปแบบรูปวาด

6

ชุด การแก้ไข

ค้นหา และแทนที่ข้อความ

ริบบอนแทรก (Insert)

กลุ่มหมายเลข ความ หมาย

1

แทรก ตาราง

2

ชุด ภาพประกอบ

แทรกรูปภาพจากแฟ้ม ภาพตัดปะ อัลบั้มรูป การวาดรูป (Drawing) ผังองค์กร และแผนภูมิ

3

การ เชื่อมโยง

การเชื่อมโยงหลายมิติ แลก าหนดการการท า

4

ชุด ข้อความ

แทรกอักษรศิลป์ แทรกวันและเวลา แทรกสัญลักษณ์พิเศษ เคร่ืองหมายการค้าลิขสิทธิ์

5

ชุด มีเดียคลิป

แทรกภาพยนตร์ และเสียง

ริบบอนออกแบบ (Design)

ริบบอนน้ีเป็นการรวม Background ต่างๆ เพื่อน ามาช่วยในการออกแบบหน้าสไตด์ให้ดูสวยงามมากขึ้น โดยเพียงคลิกเลือกริบบอนที่ต้องการ ซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี

กลุ่มหมายเลข ความหมาย

1

ชุด ตั้งค่ากระดาษ

ก าหนดขนาดระยะขอบเอกสารสไลด์ ก าหนดการวางแนวหน้าสไลด์ให้เป็นแนวต้ัง และแนวนอน

2

ชุด รูปแบบ

ชุดของลักษณะ สี และรูปแบบพื้นหลังต่างๆ ที่ใช้ในหน้าสไลด์

3

พื้น หลัง

เปลี่ยนสีของพื้นหลังจากรูป แบบที่เลือก และซ่อนกราฟิกพื้นหลัง

ริบบอนภาพเคลื่อนไหว (Animation) ริบบอนที่รวบรวมภาพเคลื่อนไหว ( Animation) ระหว่างฉากเอาไว้ เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกน าไปประกอบการน าเสนอให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี

กลุ่มหมายเลข ความ หมาย

1

แสดง ตัวอย่าง

2

ชุด ภาพเคลื่อนไหว เปิดหน้าต่างการเคลื่อนไหวก าหนด เอง เพื่อใช้ในการก าหนดรูปแบบ เคลื่อนไหว วัตถุตามต้องการ

3

ชุด การเปลี่ยนไปยังภาพนิ่งนี้ เป็นชุดของลักษณะแบบการ เคลื่อนไหวต่างๆ ที่ใช้ในภาพนิ่ง

4

ก าหนดเสียงที่จะล่นระหว่างเปลี่ยนภาพนิ่งก่อนหน้าและปัจจุบัน เช่น คลิกแล้วมีเสียงพิมพ์ดีด และก าหนดความเร็วของภาพเคลื่อนไหว ที่จะเล่นระหว่างเปลี่ยนแปลงภาพนิ่ง

5

ก าหนดเมื่อคลิกเมาส์แล้วเปลี่ยนภาพนิ่ง หรือก าหนดอัตโนมัติ หลังจากเวลาที่ก าหนดให้เปลี่ยนภาพนิ่ง

ริบบอนการน าเสนอภาพนิ่ง (Slide Show)

กลุ่มหมายเลข ความ หมาย

1

ชุด เร่ิมการน าเสนอภาพนิ่ง

แสดงการน าเสนอภาพนิ่งตั้งแต่ภาพ นิ่งแรก ก าหนดให้แสดงผลภาพนิ่ง ที่เลือก ก าหนดล าดับภาพนิ่ง ที่ต้องการ ให้แสดง

2

ชุด ตั้งค่า

เปลี่ยนค่าแสดงภาพนิ่ง เช่น ชนิดการน าเสนอ ตัวเลือกการน าเสนอ การซ่อนภาพนิ่งที่ เลือกระหว่างการน าเสนอ แบบเต็มจอ บันทึกค าบรรยาย ทดสอบการก าหนดเวลา

3

ชุด จอภาพ

ก าหนดความละเอียดของหน้าที่จะ น าเสนอและการเชื่อมต่อจอภาพหลายๆ หน้าจอ

ริบบอนตรวจทาน (Review)

ริบบอนตรวจทานจะ ประกอบไปด้วยปุ่มค าสั่งที่เกี่ยวกับการตรวจทาน การสร้างข้อคิดเห็น และการป้องกันเอกสาร ซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี

กลุ่มหมายเลข ความหมาย

1

ชุด การพิสูจน์อักษร

ตรวจสอบและสะกดไวยกรณ์ของข้อ ความในเอกสาร ค้นหาเกสารอ้างอิง เสนอค าแนะน า ก าหนดภาษา ในการตรวจสอบ และสะกดไวยากรณ์

2

ชุด ข้อคิดเห็น

แสดงข้อคิดเห็นและค าอธิบาย สร้างข้อคิดเห็นเพิ่มเติม ในส่วนที่ต้องการ แก้ไข ลบ ข้อคิดเห็น

3

ป้องกันความปลอดภัยให้ไฟล์น าเสนอ

ริบบอนมุมมอง ( View ) ริบบอนมุมมองจะประกอบไปด้วยปุ่มค าสั่งที่ เกี่ยวกับการเปลี่ยนมุมมอง การย่อขยาย และการจัดเรียงหน้าภาพนิ่ง ซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี

กลุ่มหมายเลข ความ หมาย

11

ชุด มุมมองการน าเสนอ

เป็นการแสดงมุมมองแบบต่าง ๆ ซึ่งมีแบบปกติ ตัวเรียงล าดับภาพนิ่ง หน้าบันทึกย่อ การน าเสนอภาพนิ่ง ต้นแบบภาพนิ่ง ต้นแบบเอกสารประกอบค าบรรยาย ต้นแบบบันทึกย่อ

2

แสดง/ซ่อน

แสดงหรือซ่อนไม้บรรทัด และเส้นตารางเพื่อใช้ในการจัดเรียงวัตถุ

3

ย่อ/ขยาย

ย่อขยายภาพนิ่ง หรือจัดภาพนิ่งให้พอดีกับหน้าต่าง

4

ชุด สี/ระดับสีเทา แสดงผลการน าเสนอภาพนิ่งเป็นแบบ 4 ส ี

5

ชุด หน้าต่าง เปิดหน้าต่างใหม่ที่มีมุมมองของ เอกสารในปัจจุบัน จัดเรียงหน้าต่างเอกสาร ที่เปิดไว้ทั้งหมด การเคลื่อนย้าย ตัวแยกที่คั่นอยู่ ในหน้าต่างโปรแกรม

6

แม โคร การใช้งานมาโคร (ชุดเก็บค าสั่งหรือขั้นตอนการท างาน ส าหรับเรียกใช้ผ่านทางคีย์ลัดหรือปุ่มค าสั่ง

ริบบอน Add-in

ริบบอน Add-in ใช้ก าหนดแถบเคร่ืองมือตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้เอง

มุมมอง (View) สไลด์แบบต่างๆ

ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2007 สามารถแสดงมุมมองเอกสารได้หลายรูปแบบ โดยแต่ละแบบมีรายละเอียด ดังน้ี

มุมมองปกติ (Normal View) ส าหรับมุมมองปกติ (Normal View) เป็นมุมมองพื้นฐานในการใช้งานของ Microsoft PowerPoint 2007 ในการเร่ิมต้นใช้งานทุกคร้ังผู้ใช้งานจะเห็นมุมมองนี้เป็นอย่างแรก โดยจะมีส่วนประกอบอยู่สองส่วนทางด้านซ้ายมือของโปรแกรมนั่นคือ แท็บภาพนิ่งและแท็บเค้าร่าง ซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี

แท็บภาพนิ่ง (Slide View) จะแสดงภาพนิ่งทั้งหมด โดยเรียงล าดับจากภาพนิ่งแรกจนภาพนิ่งสุดท้าย

แท็บเค้าร่าง (Outline View) จะแสดงภาพนิ่งและรายละเอียดทั้งหมดไว้ด้านข้าง โดยเรียงล าดับจากภาพนิ่งไปจนถึงภาพนิ่งสุดท้าย

มุมมองตัวเรียงล าดับภาพนิ่ง (Slide Sorter View) เป็นมุมมองที่แสดงภาพนิ่งทั้งหมดของการน าเสนอ โดยย่อให้ภาพนิ่งมีขนาดเล็กลง เพื่อแสดงภาพนิ่งทั้งหมดภายในหน้าต่างโปรแกรม ท าให้สามารถตรวจสอบล าดับภาพนิ่ง และจัดเรียงก่อนการน าเสนอได้อย่างถูกต้อง

มุมมองหน้าบันทึกย่อ (Notes Page View)

เป็นมุมมองที่ใช้ แสดงภาพนิ่งและกรอบบันทึกข้อความ เพื่อให้ผู้น าเสนอสามารถบันทึกรายละเอียดค าอธิบายต่างๆ เพื่อใช้เป็น เอกสารอ้างอิง

มุมมองการน า เสนอภาพนิ่ง (Slide Show View) เป็นมุมมองที่แสดงภาพนิ่งแบบเต็ม จอเหมือนกับการฉายสไลด์ โดยสามารถที่จะเปลี่ยนไปหน้าต่างๆ รวมไปถึงแสดงภาพเคลื่อนไหวที่ได้สร้างไว้

มุมมองต้นแบบภาพนิ่ง (Slide Master View) เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบโครงร่างต่างๆ ที่มีหลายองค์กรประกอบรวมกัน และท าให้งานเสนอไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ข้อความ รูปภาพ หรือกราฟิก เป็นต้น

มุม มองต้นแบบเอกสารประกอบค าบรรยาย (Handout Master View) เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบเอกสารก่อนพิมพ์ พร้อมทั้งการแก้ไขสามารถท าได้กับต้นแบบเอกสารประกอบค าบรรยาย เช่น การปรับขนาด การจัดรูปแบบ หัวกระดาษ และท้ายกระดาษ และยังสามารถตั้งค่ากระดาษ และระบุจ านวนภาพนิ่งที่จะพิมพ์ในแต่ละหน้าได้อีกด้วย

มุมมองต้นแบบบันทึกย่อ (Note Master)

เป็นมุมมองที่แสดงต้นแบบภาพนิ่ง แต่จะมีส่วนของพื้นที่ในการบันทึกข้อความเพื่อใช้ในการประกอบการบรรยาย สร้างงานพรีเซนเตชั่นแบบง่ายๆ เมื่อได้ทราบถึง หลักการออกแบบหน้าสไลด์เพื่อการสร้างงาน Presentation กันไปแล้วให้หัวข้อนี้ผู้เขียนจะแสดงการสร้างงาน Presentation แบบง่ายๆ ว่าจะมีขั้นตอนเบื้องต้นอย่างไรบ้าง ซึ่งมีขั้นตอนดังน้ี

การเปิดโปรแกรม PowerPoint 2007 1. คลิก Start Menu 2. คลิกเลือก Programs 3. คลิก Microsoft Office 4. คลิกเลือก Microsoft PowerPoint2007

5. ปรากฏหน้าจอโปรแกรม Microsoft Office PowerPoint 2007

สร้างสไลด์แผ่นใหม่ การสร้าง สไลด์ใหม่ในโปรแกรม Microsoft Powerpoint 2007 จะสร้างสไลด์ที่ไม่มีข้อความหรือรูปภาพใดๆ อยู่ในเอกสาร ซึ่งมีขั้นตอนดังน้ี

1. คลิกปุ่ม (Office)

2. คลิกเลือกว่างและล่าสุด 3. คลิกที่งานน าเสนอเปล่า 4. คลิกปุ่ม สร้าง

พิมพ์ข้อความลงในสไลด์ เมื่อเปิดหน้าสไลด์แล้วจะพบว่า มีพื้นที่สีขาวส าหรับพิมพ์ข้อความลงไป โดยการเร่ิมต้นพิมพ์ข้อความลงในสไลด์ มีขั้นตอนดังน้ี 1. คลิกให้ปรากฏเส้นเคอร์เซอร์ ตรงบริเวณกรอบที่ต้องการพิมพ์ตัวอักษร

2. พิมพ์ข้อความตามต้องการ เมื่อพิมพ์ข้อความจนสุดบรรทัด โปรแกรมจะขึ้นบรรทัดใหม่ ให้โดยอัตโนมัติ (หากต้องการลบข้อความหรือค าผิด ก็ให้แดรกเมาส์ เลือกข้อความ จากนั้นกดปุ่ม <Backspace> ที่คีย์บอร์ด)

การจัดข้อความให้สวย 1. คลิกข้อความที่จะจัด 2 คลิกรูปแบบ

3. คลิกเลือกเคร่ืองมือที่ Ribbon โดยจัดตามต้องการ

พื้นหลังสไลด์ (Background) หลังจากที่ผู้ใช้พิมพ์ข้อมูลไปในกรอบแล้วยังมีอีก ความสามารถหนึ่งของโปรแกรมนั่นก็คือการใส่ภาพพื้นหลังแบบต่างๆ ที่มีมาให้เลือกใน Microsoft PowerPoint 2007 โดยมีขั้นตอนดังน้ี 1. คลิกแท็บออกแบบ (Design) 2. คลิกเลือกแม่แบบที่ต้องการ (ผู้ใช้สามารถน าเมาส์เลื่อนไปยัง Background อ่ืนก่อนได้ ซึ่งโปรแกรมก็จะ พรีวิว Background นั่นให้ดูตัวอย่าง เมื่อถูกใจจึงคลิกเลือก) 3. จะปรากฏพื้นหลังตามต้องการ

การแทรกรูปภาพเข้ามาในสไลด์ 1. คลิกแท็กแทรก (Insert) 2. คลิกปุ่ม รูปภาพ เพื่อเลือกรูปภาพที่จะน ามาใส่ในสไลด์

3. จะปรากฏหน้าต่างแทรกรูปภาพขึ้นมา ให้เลือกโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์ภาพ 4. คลิกเลือกรูปภาพที่ต้องการ 5. คลิกปุ่ม แทรก (Insert) เพื่อแทรกรูปในสไลด์

การเพิ่มความสวยให้กับรูปภาพ โปรแกรม Powerpoint สามารถตกแต่งรูปภาพที่น าเข้ามาในสไลด์ให้สวยงามยิ่งกว่าเดิมได้ โดยวิธี 1. คลิกภาพในสไลด์ที่จะจัด 2. คลิกรูปแบบ 3. คลิกเลือกแบบที่ต้องการ

เพิ่มหน้าสไลด์ใหม่เข้ามา ผู้ใช้งาน สามารถเพิ่มจ านวนหน้าสไลด์ได้เมื่อต้องการสร้างหน้าสไลด์ใหม่ใน Microsoft Power 2007 นั่นคือ การเพิ่มรูปเข้าไปในสไลด์ ซึ่งมีขั้นตอนดังน้ี 1. คลิกปุ่ม หน้าแรก 2. คลิกเลือก สร้างภาพนิ่ง 3. จะได้สไลด์เพิ่มขึ้นมา

สร้างลูกเล่นเมื่อเปลี่ยนแผ่นสไลด์ จากการที่ได้สร้างสไลด์ที่ผ่านมาจะพบว่า การสร้างจะมีลักษณะเหมือนการเปลี่ยนหน้าหนังสือ ซึ่งดูแล้วไม่น่าสนใจ ซึ่งเราควรที่จะเพิ่มลูกเล่น (Effects) เข้าไป ซึ่งมีขั้นตอนดังน้ี 1. คลิกหน้าสไลด์ที่จะใส ่Effect 2. คลิกแท็บภาพเคลื่อนไหว (Animation) 3. คลิกเลือกรูปแบบ Effects ที่ต้องการ (ซึ่งจะมีตัวอย่างของเอฟเฟ็กต์แสดงขึ้นมาให้ดูด้วยระหว่างที่เลือก) 4. จะแสดงตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงให้เห็น

5. สังเกตจะมีดาวปรากฏขึ้นในสไลด์

การน าเสนอสไลด์ หลังจากที่ได้สร้างสไลด์กันไปแล้ว ก่อนจะจบขั้นตอนผู้สร้างควรทดลองดูว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้างก่อนการน าเสนอ จริง ซึ่งมีขั้นตอนดังน้ี 1. คลิกแท็บ การน าเสนอภาพนิ่ง (Slide Show) 2. คลิกปุ่ม ตั้งแต่ต้น เพื่อเร่ิมแสดงการฉายสไลด์ ตั้งแต่สไลด์แรก

3. สไลด์จะปรากฏเต็มจอคอมพิวเตอร์

4. กดปุ่ม Enter ที่คีย์บอร์ด โปรแกรมจะเปลี่ยนหน้าสไลด์ทีละหน้า

5. เมื่อสิ้นสุดจะปรากฏหน้าจบการน าเสนอภาพนิ่ง 6. กดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ดอีกครั้ง ก็จะกลับเข้าสู่หน้าโปรแกรมหลัก (หากในระหว่างการปรีเซนต์ต้องการออกสู่หน้าโปรแกรมหลักทันทีให้กดปุ่ม <Esc> บนคียร์บอร์ด)

การบันทึกไฟล์ PowerPoint จากขั้นตอนสร้างงาน Presentation พร้อมทั้งทดลองตรวจสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือ การบันทึกไฟล์ PowerPoint ลงในเคร่ืองคอมพิวเตอร์เพื่อเรียกใช้งานในครั้งต่อไป ซึ่งการบันทึกไฟล์ PowerPoint มีขั้นตอนดังน้ี

1. คลิกปุ่ม (office) 2. คลิก บันทึก

3. เลือกต าแหน่งที่ใช้ในการเก็บเอกสาร ในช่องบันทึกใน (Save in) 4. ตั้งชื่อเอกสารในช่องชื่อแฟ้ม (File name) ในตัวอย่างผู้เขียนใช้ ทัศนคติที่ดีในการท างาน 5. คลิกปุ่ม บันทึก เพื่อยืนยันการบันทึก 6. ปรากฏชื่อไฟล์ที่บันทึกบนแท็บชื่อหัวเร่ือง (Titlebar)

ชื่อ ครูจริยาภรณ์ คุ้มพันธ์ ต าแหน่ง คร ูโรงเรียน ชุมชนวัดเสด็จ อ าเภอ เมือง จังหวัดปทุมธาน ีส านักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปทุมธาน ีเขต 1 E-mail : [email protected] www: http://www.chorsor.ac.th