สรุป ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

73
~ 1 ~ สสสส Ps 701 สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส รรรรรรรรร รรรร Political Science รรรรรรรร รรร Politics (รรรรรรรร) + Science (รรรรรร) รรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรร สสสสสสสสสสส 1. สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส (State) สสสสสสสสสส รรรรรรรรรรรรรรรร Politics (รรรรร รรรรรร Polis รรรรรรรรร) รรรรรรรร รรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรร สสสสสส สส. สสสสสสส (Frank J. Goodnow) ร.ร. 1904 รรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร “รรร” สสสสสสสสสสส 1. รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรร ร (Harold Lasswell รรร Abraham Caplan) 2. รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร (Max Weber) รรรร รรรรรรรรรรรร 3. รรรรรรรรรรรรรรรรรร ร รรรรรรรร ร รรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร รรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร (Julius Gould and William Kolb) สสสส

Upload: prapun-waoram

Post on 29-May-2015

993 views

Category:

Documents


4 download

TRANSCRIPT

Page 1: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 1 ~

สรุ�ป Ps 701 แนวทางการุศึ�กษารุ�ฐศึาสตรุ�แนวคิ�ดส�าคิ�ญในทางรุ�ฐศึาสตรุ�รั�ฐศาสตรั หรั�อ Political Science มาจากคำ�าว่�า Politics

(การัเม�อง) + Science (ศาสตรั) แต�ที่��ใช้�ภาษาไที่ยว่�ารั�ฐศาสตรัเพรัาะในย$คำหน%�งน�กว่&ช้าการัเช้��อว่�าการัเม�องเป็(นเรั��องของรั�ฐ ศาสตรัที่��เก��ยว่ข�องก�บการัเม�องก+คำ�อศาสตรัที่��ว่�าด้�ว่ยเรั��องของรั�ฐ

การุเมื�องคิ�อ1. การุเมื�องเป�นเรุ��องรุาวท �เก �ยวข้#องก�บรุ�ฐ (State)

อรุ�สโตเต�ล เข�ยนหน�งส�อช้��อ Politics (มาจากคำ�าว่�า Polis แป็ลว่�ารั�ฐ) กล�าว่ว่�า รั�ฐเป็(นเง��อนไขที่��จ�าเป็(นส�าหรั�บช้�ว่&ตมน$ษย

น�กคำ&ด้ในย$คำหล�งอย�างศาสตรัาจารัยที่างรั�ฐศาสตรัช้��อ แฟรุงคิ� เจ.

ก)*ดนาว (Frank J. Goodnow) คำ.ศ. 1904 ได้�เสนอแนว่คำ&ด้ว่�า รั�ฐศาสตรัคำ�อศาสตรัซึ่%�งว่�าด้�ว่ยองคำกรัอ�นเป็(นที่��รั/ �จ�กก�นในนาม รั�ฐ “ ”

น�ยามืข้องรุ�ฐ 1. กล$�มคำนที่��รัว่มต�ว่ก�นเป็(นรัะเบ�ยบและอาศ�ยในอาณาเขตรั�ว่มก�น ม�

อ�านาจอธิ&ป็ไตยส/งส$ด้ในอาณาเขตน�2น ๆ (Harold Lasswell และ Abraham Caplan)

2. องคำกรัที่��ม�อ�านาจผู/กขาด้ในการัใช้�ก�าล�งหรั�อใช้�คำว่ามรั$นแรังที่�2งหลาย (Max Weber) เช้�น ป็รัะกาศสงคำรัาม

3. กล$�มคำนในอาณาเขตใด้ ๆ รั�ฐหน%�ง ๆ จะม�รั/ป็แบบที่��ม�คำนจ�านว่นหน%�งม�อ�านาจเหน�อกล$�มคำนที่�2งหมด้ อ�านาจน�2อาจมาจากการัใช้�ก�าล�งหรั�อใช้�ว่&ธิ�การัที่างจ&ตว่&ที่ยาก+ได้� (Julius Gould and William Kolb)

สรุ�ป 1. รั�ฐเป็(นองคำกรัที่างการัเม�องที่��ม�สภาพต�างจากส�งคำมธิรัรัมด้า โด้ย

จะเน�นที่��ม&ต&ที่างการัเม�องคำ�อจะกล�าว่ถึ%งเรั��องอ�านาจ อ�านาจหน�าที่�� ม�การัก�าหนด้โคำรังสรั�างของรั�ฐบาล คำว่ามส�มพ�นธิรัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองก�บผู/�ถึ/กป็กคำรัอง ฯลฯ

2. องคำกรัที่างการัเม�องที่��เรั�ยกว่�ารั�ฐช้าต&หรั�อรั�ฐป็รัะช้าช้าต& (Nation State)

Page 2: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 2 ~

3. ม�คำว่ามหมายเที่�าก�บมลรั�ฐ คำ�อเป็(นส�ว่นหน%�งของสหพ�นธิรั�ฐหรั�อสหรั�ฐ เช้�น ป็รัะเที่ศสหรั�ฐอเมรั&กาป็รัะกอบด้�ว่ยมลรั�ฐต�าง ๆ 50 มลรั�ฐ

องคิ�ปรุะกอบข้องรุ�ฐ1. ปรุะชากรุ (Population) จะมากหรั�อน�อยไม�ส�าคำ�ญ 2. อาณาเข้ตหรุ�อด�นแดน (Territory) ที่�2งแผู�นด้&น ในที่ะเล

อากาศ ไหล�ที่ว่�ป็ 3. รุ�ฐบาล (Government) เป็(นองคำกรัหน%�งของรั�ฐ ที่�าหน�าที่��

ด้�าเน&นก&จการัแที่นรั�ฐในนามป็รัะช้าช้น ในอาณาเขตที่��แน�นอนและเป็(นอ&สรัะจากการัคำว่บคำ$มของรั�ฐอ��น หรั�อหมายถึ%งคำณะบ$คำคำลซึ่%�งได้�รั�บมอบหมายอ�านาจให�ที่�าหน�าที่��บรั&หารัป็รัะเที่ศ

4. อ�านาจอธิ�ปไตย (Sovereignty) เป็(นอ�านาจส/งส$ด้ในการัป็กคำรัองป็รัะเที่ศ แบ�งเป็(นสามอ�านาจคำ�ออ�านาจน&ต&บ�ญญ�ต& อ�านาจบรั&หารั และอ�านาจต$ลาการั

ช้าต& (Nation) เป็(นศ�พที่ที่างส�งคำมว่&ที่ยา หมายถึ%ง 1. กล$�มป็รัะช้ากรัภายในป็รัะเที่ศหน%�งภายใต�รั�ฐบาลที่��เป็(นเอกรัาช้ 2. คำนกล$�มหน%�งที่��ม�สถึาบ�นและขนบธิรัรัมเน�ยมป็รัะเพณ�คำล�ายคำล%งก�น

ม�คำว่ามกลมเกล�ยว่คำ�อเข�าก�นได้�ที่างส�งคำมและม�จ$ด้สนใจคำล�าย ๆ ก�น 3. ส�งคำมซึ่%�งใหญ�ที่��ส$ด้ของมน$ษยที่��ม�ว่�ฒนธิรัรัมและคำว่ามรั/ �ส%กเป็(น

พว่กเด้�ยว่ก�น ใคำรัมาแตะช้าต&ไม�ได้�องคำป็รัะกอบของช้าต&1. ม�คำว่ามผู/กพ�นต�อถึ&�นที่��อย/�อาศ�ย 2. ม�ป็รัะว่�ต&ศาสตรัรั�ว่มก�น3. ม�ว่�ฒนธิรัรัมรั�ว่ม4. ต�องการัที่��จะเป็(นอ&สรัะในการัด้�าเน&นช้�ว่&ตม�ช้าต&อาจไม�ม�รั�ฐก+ได้� เช้�น ช้นช้าต&กะเหรั��ยงม�องคำป็รัะกอบคำว่ามเป็(น

ช้าต&คำรับถึ�ว่น แต�ไม�ม�รั�ฐกะเหรั��ยง แต�ถึ�าม�รั�ฐต�องม�ช้าต& (ป็รัะช้ากรัหลากหลายช้นช้าต&อาศ�ยอย/�ในรั�ฐเด้�ยว่ก�น)

Page 3: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 3 ~

ข�อด้�อยของน&ยามที่��ว่�าการัเม�องคำ�อเรั��องของรั�ฐ (น&ยามของแฟรังคำ เจ. ก/;ด้นาว่)

1. การับอกว่�าการัเม�องเป็(นเรั��องรัาว่ของรั�ฐเป็(นแนว่คำ&ด้ที่��ตายต�ว่เก&นไป็ มองแคำ�องคำกรัที่��ม�การัจ�ด้ต�2งจากอ�านาจรั�ฐ ไม�สามารัถึอธิ&บายป็รัากฏการัณบางป็รัากฏการัณที่��เก&ด้ข%2นนอกเขตแด้นรั�ฐได้� เช้�น สงคำรัามป็ฏ&ว่�ต& จ�กรัว่รัรัด้&น&ยม ว่�าป็รัากฏการัณเหล�าน�2เก��ยว่ข�องก�บการัเม�องอย�างไรั

2. เน�นโคำรังสรั�างที่��เป็(นที่างการัเป็(นหล�ก (องคำกรั สถึาบ�นที่��จ�ด้ต�2งข%2นโด้ยใช้�อ�านาจรั�ฐ) เช้�น รั�ฐบาล รั�ฐสภา พรัรัคำการัเม�อง ฯลฯ โด้ยไม�ให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บกล$�มอ&ที่ธิ&พล กล$�มผูลป็รัะโยช้นที่��ไม�เป็(นที่างการั เช้�น การัรัว่มต�ว่ก�นของป็รัะช้าช้นในนามของสม�ช้ช้าคำนจน พ�นธิม&ตรัป็รัะช้าช้นเพ��อป็รัะช้าธิ&ป็ไตย นป็ช้. การัที่�าก&จกรัรัมของกล$�มเหล�าน�2ล�ว่นเป็(นเรั��องการัเม�องที่�2งส&2น

2. การุเมื�องคิ�อเรุ��องรุาวท �เก �ยวข้#องก�บอ�านาจ (Power) และอ�ทธิ�พล

ฮารุ�โรุลด� ลาสเวลล� (Lasswell) กล�าว่ถึ%งรั�ฐศาสตรัในฐานะที่��เป็(นการัศ%กษาเช้&งป็รัะจ�กษว่�าคำ�อการัศ%กษากรัะบว่นการัข�ด้เกลาและการัเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มในอ�านาจน��นเอง และให�น&ยามว่�าการัเม�องคำ�อเรั��องของการัที่��ใคำรั ได้�อะไรั เม��อใด้ และได้�อย�างไรั (Politics is who gets what,

when and how)

(การัศ%กษาเช้&งป็รัะจ�กษคำ�อการัศ%กษาที่��ใช้�ข�อม/ลที่��เป็(นจรั&ง สามารัถึว่�ด้ได้� แจงน�บได้�)

ใคำรั ๆ ก+อยากได้�อ�านาจเพรัาะอ�านาจที่�าให�สง�าผู�าเผูย ตอนไม�ม�อ�านาจต�องพยายามเข�าหาคำนที่$กช้นช้�2นที่$กหม/�เหล�าเพ��อขอคำะแนน แต�เม��อได้�มาซึ่%�งอ�านาจบ$คำล&กภาพจะเป็ล��ยนไป็ที่�นที่� จากนอบน�อมถึ�อมตนกลายเป็(นคำนม�มาด้ และหายห�ว่ไป็เลยจนกว่�าจะม�การัเล�อกต�2งใหม� บางคำนรั/ �ด้�ว่�าตนไม�ม�ว่าสนาจะได้�ม�อ�านาจขอแคำ�เป็(นว่อลเป็เป็อรัให�ผู/�ม�อ�านาจก+พอ

Page 4: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 4 ~

ลาสเวลล�และแคิพแลน (Lasswell and Kaplan) กล�าว่ว่�า อ�านาจคำ�อคำว่ามสามารัถึที่��จะสรั�างผูลกรัะที่บหรั�อที่��จะคำว่บคำ$มการัต�ด้ส&นใจ พฤต&กรัรัม นโยบาย คำ�าน&ยม หรั�อโช้คำช้ะตาของผู/�อ��นได้� ได้� เช้�น โจรัเอาป็>นมาจ�2แล�ว่บอกให�เรัายกม�อข%2นม�อะไรัในกรัะเป็?าส�งมาให�หมด้ เรัาต�องที่�าตามคำ�าส��งของโจรัแสด้งว่�าโจรัม�อ�านาจในการัก�าก�บคำว่บคำ$มพฤต&กรัรัมของเรัาให�เป็(นไป็ตามที่��โจรัป็รัารัถึนา

ส�าหรั�บคำ�าว่�าอ�านาจม�คำ�าที่��เก��ยว่ข�องคำ�อ-อ�านาจหน#าท � (Authority) คำ�อ อ�านาจ + คำว่ามช้อบธิรัรัม

(Power + Legitimacy) อ�นหมายถึ%งการัที่��ป็รัะช้าช้นให�การัยอมรั�บ เช้��อฟ@ง ยอมป็ฏ&บ�ต&ตามคำ�าส��งโด้ยถึ�อว่�าเป็(นส&�งที่��ถึ/กต�องคำว่รักรัะที่�า กรัณ�โจรัจ�2เรัายอมที่�าตามเพรัาะโจรัม�อ�านาจเหน�อเรัาในช้�ว่งเว่ลาน�2น แต�ม�คำนอ�กกล$�มหน%�งที่��ที่�าให�เรัาต�องเส�ยที่รั�พยมากกว่�าที่��ต�องเส�ยให�โจรัด้�ว่ยซึ่�2าไป็โด้ยที่��เขาไม�ได้�ใช้�อาว่$ธิอะไรัเลย คำนกล$�มน�2คำ�อเจ�าหน�าที่��สรัรัพากรั แม�เรัาไม�อยากให�ก+ต�องให�ด้�ว่ยรั/ �ว่�าสรัรัพากรัม�หน�าที่��ตามกฎหมาย และเรัาผู/�เป็(นรัาษฎรัก+ม�หน�าที่��เส�ยภาษ� คำว่ามแตกต�างรัะหว่�างสรัรัพากรัก�บโจรัอย/�ที่�� Legitimacy โจรัม�แคำ� Power แต�เจ�าหน�าที่��สรัรัพากรัม� Authority (Power +

Legitimacy) ม�อ�านาจอ�นช้อบธิรัรัมที่��จะเก+บภาษ�จากป็รัะช้าช้น และป็รัะช้าช้นเองยอมรั�บเช้��อฟ@งป็ฏ&บ�ต&ตามสรัรัพากรั

แมื3กซ์� เวเบอรุ� (Max Weber) น�กส�งคำมว่&ที่ยาช้าว่เยอรัม�น กล�าว่ถึ%งที่��มาของคำว่ามช้อบธิรัรัมด้�งน�2

1) ปรุะเพณ (Tradition) เป็(นคำว่ามช้อบธิรัรัมที่��ม�กเก&ด้ข%2นในส�งคำมแบบด้�2งเด้&ม เช้�น ส�งคำมช้นเผู�า ล/กเผู�าเช้��อฟ@งห�ว่หน�าเผู�าเพรัาะห�ว่หน�าเผู�าข%2นส/�ต�าแหน�งตามธิรัรัมเน�ยมป็รัะเพณ�ที่��ส�บที่อด้ก�นมาของเผู�า เช้�น ห�ว่หน�าเผู�าผู/�ช้รัาส�งมอบต�าแหน�งให�ที่ายาที่ม�พ�อมด้หมอผู�มาที่�าพ&ธิ� ก�อกองไฟก�นส�กกองหน%�ง หมอผู�รั�ายเว่ที่มนตเช้&ญเที่พยด้าฟBาด้&นมาเป็(นพยานแล�ว่

Page 5: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 5 ~

เอามงก$ฎหรั�อคำฑามอบให�ล/กช้าย เป็(นส�ญล�กษณว่�าน��คำ�อผู/�น�าคำนใหม�คำ�าพ/ด้ของผู/�น�าคำ�อกฎหมาย ที่��สมาช้&กในเผู�าต�องเคำารัพเช้��อฟ@ง

2) บารุมื (Charisma) ม�กเก&ด้ในส�งคำมที่��ก�าล�งเป็ล��ยนแป็ลงหรั�อช้�ว่งของการัต�อส/�ด้&2นรันเพ��อเอกรัาช้ จะเก&ด้ผู/�น�าที่��ม&ใช้�ที่ายาที่ของผู/�น�าเก�า เป็(นคำนม�บารัม�คำ�อม�ล�กษณะพ&เศษที่��ที่�าให�คำนในส�งคำมยอมเช้��อฟ@งป็ฏ&บ�ต&ตาม เช้�น มหาตมะ คำานธิ� เป็(นคำนแก�ต�ว่ผูอมถึ�อไม�เที่�าเด้&นย�กแย�ย�กย�น เม��อเก&ด้สงคำรัามศาสนารัะหว่�างคำนฮิ&นด้/ก�บคำนม$สล&มคำานธิ�ป็รัะกาศอด้อาหารัจนกว่�าคำนที่�2งสองศาสนาจะหย$ด้รับก�น ที่�2งสองฝ่Fายเกรังว่�าคำานธิ�จะเส�ยช้�ว่&ตก+หย$ด้รับก�นจรั&ง ๆ ผู/�น�าบารัม�คำนอ��น ๆ เช้�น เหมาเจGอต$ง โฮิจ&ม&นห ซึ่/กาโน

3) กฎหมืายหรุ�อตรุรุกะน�ต�น�ย (Legal) เช้�น เรัาป็ฏ&บ�ต&ตามคำ�าส��งของ เจ�าหน�าที่��สรัรัพากรั เพรัาะคำนเหล�าน�2ม�อ�านาจตามกฎหมาย (กต&กาที่��ส�งคำมใด้ส�งคำมหน%�งตรัาข%2นมาบ�งคำ�บใช้� เพ��อคำว่บคำ$มพฤต&กรัรัมที่��เบ��ยงเบนของคำนในส�งคำมให�เป็(นไป็ตามแนว่ที่างที่��ไม�ก�อให�เก&ด้คำว่ามเด้�อด้รั�อนแก�ส�งคำมโด้ยรัว่ม) กฎหมายเป็(นที่��มาของคำว่ามช้อบธิรัรัมสมาช้&กต�างให�การัเก�2อหน$น ยอมรั�บ และป็ฏ&บ�ต&ตามคำ�าส��ง

-อ�ทธิ�พล (Influence) เป็(นคำ�าที่��ถึ/กต�คำว่ามไป็ในแง�ลบ ที่�2ง ๆ ที่��คำว่ามหมายจรั&ง ๆ แล�ว่หมายถึ%ง คำว่ามสามารัถึในการัโน�มน�าว่ให�บ$คำคำลยอมรั�บหรั�อกรัะที่�าการัใด้ ๆ แม�ว่�าเขาไม�ป็รัารัถึนาที่��จะกรัะที่�าก+ตาม เช้�น พ�อแม�ม�อ&ที่ธิ&พลต�อล/ก ล/กต�องเรั�ยนอย�างที่��พ�อแม�ต�องการั คำรั/บาอาจารัยม�อ&ที่ธิ&พลต�อล/กศ&ษย เช้�น สม�ยเด้+ก ๆ อาจารัยเรั�ยนภาษาอ�งกฤษเก�ง คำรั/สอนภาษาอ�งกฤษเลยแนะน�าว่�าคำว่รัเรั�ยนรั�ฐศาสตรัเผู��ออนาคำตจะได้�เป็(นน�กการัที่/ต

อ&ที่ธิ&พลเก��ยว่ข�องก�บการัเม�องคำ�อ น�กการัเม�องส�ว่นใหญ�ใช้�อ&ที่ธิ&พลเป็(นเคำรั��องม�อส�าคำ�ญในการัสรั�างคำว่ามน�าเช้��อถึ�อแก�ตน ว่�าตนเองม�คำ$ณสมบ�ต&มากพอที่��จะเข�าไป็น��งในต�าแหน�งแห�งอ�านาจ ในช้�ว่งหาเส�ยงหรั�อ

Page 6: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 6 ~

ฤด้/น�บญาต&น�กการัเม�องพยายามโน�มน�าว่ให�ป็รัะช้าช้นเล�อกตนเข�าไป็น��งในสภา และต�องใช้�ต�ว่ช้�ว่ย เช้�น ก�าน�น ผู/�ใหญ�บ�าน คำรั/ใหญ� เจ�าอาว่าส เพ��อให�คำนเหล�าน�2โน�มน�าว่ให�ช้าว่บ�านมาเล�อกผู/�สม�คำรัเบอรัน�2นเบอรัน�2 ถึ�าก�าน�น ผู/�ใหญ�บ�าน เจ�าอาว่าส หรั�อคำรั/ใหญ� สามารัถึโน�มน�าว่ให�ช้าว่บ�านเล�อกผู/�สม�คำรัของตนได้�มากที่��ส$ด้โด้ยใช้�ที่รั�พยากรัน�อยที่��ส$ด้ คำน ๆ น�2นก+ถึ�อว่�าม�อ&ที่ธิ&พลมาก

อาจารัยลองถึามน�กศ%กษาด้/ว่�าใคำรัม�อ&ที่ธิ&พลมากที่��ส$ด้แถึว่อ�สาน น�กศ%กษาตอบว่�าเนว่&น แต�อาจารัยคำ&ด้ว่�าหลว่งพ�อคำ/ณเป็(นผู/�ม�อ&ที่ธิ&พลส/งส$ด้ในจ�งหว่�ด้นคำรัรัาช้ส�มาและแถึบภาคำอ�สาน ใช้�ที่รั�พยากรัเพ�ยงเล+กน�อยแคำ�น�าหน�งส�อพ&มพเก�า ๆ มาม�ว่นแล�ว่เคำาะห�ว่ป็รัะช้าช้นพรั�อมพ/ด้ว่�า เล�อกเบอรั “ 1

เด้�อ เล�อกเบอรั 1 เด้�อ คำนก+เล�อกเบอรั ” 1 ก�นหมด้ น��คำ�อการัใช้�ที่รั�พยากรัน�อยที่��ส$ด้ไม�ต�องม�เง&นเป็(นหม��นล�านไม�ต�องโฟนอ&นแต�ได้�ผูลมากที่��ส$ด้ ม�อ�านาจในการัโน�มน�าว่ส/งช้�2ให�เห+นว่�าที่�านม�อ&ที่ธิ&พลมาก น�กศ%กษาอย�าคำ&ด้ว่�าอ&ที่ธิ&พลคำ�อการัใช้�อ�านาจม�ด้ ใช้�ก�าล�งซึ่�องส$ม แต�เป็(นเรั��องของคำว่ามสามารัถึในการัโน�มน�าว่ใจผู/�อ��น การัเม�องไที่ยม�เรั��องของอ&ที่ธิ&พลเข�ามาเก��ยว่ข�องตลอด้เว่ลา

3. การุเมื�องเป�นเรุ��องการุใช#อ�านาจในการุแจกแจงแบ6งสรุรุส��งท �มื คิ�ณคิ6าข้องส�งคิมื

เดว�ด อ สต�น (David Easton) มองว่�า การัเม�องเป็(นเรั��องของการัใช้�อ�านาจอ�นช้อบธิรัรัมในการัแจกแจงส&�งที่��ม�คำ$ณคำ�าของส�งคำม โด้ยที่��ผูลที่��ออกมาจากการัต�ด้ส&นใจจะผู/กม�ด้ก�บที่$กคำนในส�งคำม เช้�น พรัรัคำการัเม�องเสนอนโยบายเพ��อหว่�งจะสรั�างการัก&นด้�อย/�ด้� น�างบป็รัะมาณ ก�าล�งคำนภาคำรั�ฐ และเคำรั��องไม�เคำรั��องม�อที่��ม�มาบ�าบ�ด้ที่$กขบ�ารั$งส$ขให�ก�บป็รัะช้าช้น

สรั$ป็ เรัาจะเข�าใจการัเม�องได้�ด้�ก+ต�อเม��อเรัามองการัเม�องจากสามม$มองหล�กด้�งต�อไป็น�2

Page 7: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 7 ~

มื�มืมืองแรุก เรัาอาจจะเข�าใจการัเม�องได้�จากป็รัะโยคำที่��เช้��อว่�าเป็(นก&จกรัรัมที่��เป็(นการัเม�องโด้ยธิรัรัมช้าต& ได้�แก�

1. การัเม�องเป็(นเรั��องของพฤต&กรัรัมที่��เก��ยว่ข�องก�บสถึาบ�นและการัป็ฏ&บ�ต&หน�าที่��ของรั�ฐบาล สถึาบ�นส�าคำ�ญที่างการัเม�อง เช้�น พรัรัคำการัเม�อง รั�ฐสภา รั�ฐบาล พฤต&กรัรัมต�าง ๆ ของสมาช้&กสถึาบ�นเหล�าน�2ล�ว่นเป็(นเรั��องการัเม�องที่�2งส&2น ไม�ว่�าจะเป็(นการัป็รัะช้$มสภา การัป็รัะช้$ม คำรัม. และอ��น ๆ

2. การัเม�องเป็(นเรั��องของการัแจกแจงที่รั�พยากรัที่��ม�อย/�อย�างจ�าก�ด้ งบป็รัะมาณแต�ละป็Hม�อย/�อย�างจ�าก�ด้ ที่�าอย�างไรัจ%งจะน�างบป็รัะมาณที่��ม�อย/�อย�างจ�าก�ด้น�2นมาแก�ไขป็@ญหาให�ก�บป็รัะช้าช้นได้�

3. การัเม�องเป็(นป็ฏ&ก&รั&ยาของมน$ษยที่��เก��ยว่ข�องก�บอ�านาจ การัเม�องเป็(นเรั��องของการัต�อส/�เพ��อให�ได้�มาซึ่%�งอ�านาจ

มื�มืมืองท � 2 มองการัเม�องจากคำ�าถึามคำ�าตอบที่��คำว่รัต�2งเพ��อที่��จะเข�าใจการัเม�อง ได้�แก�

1. ที่�าไมกล$�ม/องคำกรั พรัรัคำการัเม�องใด้ ๆ สามารัถึด้�ารังอย/�ได้�ที่�ามกลางอ$ป็สรัรัคำและกรัะแสของการัเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก&ด้ข%2น เช้�น พรัรัคำป็รัะช้าธิ&ป็@ตย สามารัถึด้�าเน&นงานที่างการัเม�องอย�างต�อเน��องได้�หกส&บกว่�าป็H ที่�าไมบางพรัรัคำอย/�ไม�นานก+หายไป็ คำ�าตอบก+เป็(นเรั��องของการัเม�องน��นเอง

2. ที่�าไมคำนบางคำนบางกล$�มจ%งสามารัถึข%2นส/�อ�านาจและรั�กษาอ�านาจเอาไว่�ได้� ในขณะที่��บางคำนไม�สามารัถึรั�กษาอ�านาจไว่�ได้�ในเว่ลาอ�นสมคำว่รัอย/�ได้�แคำ�ในรัะยะส�2น ๆ เที่�าน�2น แถึมบางคำนไม�สามารัถึข%2นส/�อ�านาจได้�เลยไม�ว่�าจะพยายามมาก��คำรั�2งแล�ว่ก+ตาม คำ�าตอบเป็(นเรั��องของการัเม�อง

3. สภาพที่างเศรัษฐก&จและส�งคำมในแบบใด้ที่��น�าไป็ส/�การัป็กคำรัองในรั/ป็แบบที่��แตกต�างก�น เช้�น ป็รัะเที่ศที่��ใช้�อ$ด้มการัณส�งคำมน&ยมเป็(นแนว่ที่างในการัด้�าเน&นช้�ว่&ต รั�ฐเข�าไป็ก�าก�บคำว่บคำ$มป็@จจ�ยการัผูล&ตของส�งคำมน�าไป็ส/�การัแจกแจงแบ�งสรัรัที่รั�พยากรับนพ�2นฐานของคำว่ามเป็(นธิรัรัมเน�นคำว่ามก&นด้�อย/�ด้�ของส�งคำมโด้ยรัว่ม (Well-being) เพ��อลด้ช้�องว่�างรัะหว่�างช้นช้�2นให�

Page 8: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 8 ~

แคำบลงโด้ยใช้�นโยบายรั�ฐสว่�สด้&การั (Welfare State) เช้�น เรั�ยนฟรั� รั�กษาพยาบาลฟรั� เรั�ยนจบแล�ว่ม�งานที่�า ตกงานรั�ฐม�เง&นช้�ว่ยเหล�อให� รัะหว่�างน�2นรั�ฐก+ต�องหางานใหม�ให�ด้�ว่ย ถึ�าไม�ม�คำว่ามรั/ �ในงานใหม�แต�เป็(นงานที่��อยากที่�า รั�ฐก+จะจ�ด้โคำรังการัต�นกล�าอาช้�พให� น�ามาอบรัมจนที่�างานเป็(นแล�ว่ให�ที่�างาน ส�งคำมแบบน�2ม�กม�รั/ป็แบบการัป็กคำรัองเป็(นเผูด้+จการั (Dictatorship) รั�ฐต�องม�อ�านาจมากในการัด้�าเน&นการัเพ��อให�เป็(นไป็ตามอ$ด้มการัณส�งคำมน&ยม ในที่างตรังข�ามส�งคำมที่��ย%ด้ม��นอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จแบบเสรั�น&ยมที่��ให�เสรั�ภาพในการัป็รัะกอบการับนพ�2นฐานคำว่ามเช้��อว่�า คำนเรัาเก&ด้มาม�คำว่ามรั/ �คำว่ามสามารัถึแตกต�างก�น ใคำรัม�คำว่ามสามารัถึมากกว่�าม�ส&ที่ธิ&ที่��จะใช้�ส&�งที่��ตนเองม�ด้�าเน&นการัเพ��อสรั�างคำว่ามม��งคำ��งให�ก�บตนเอง ล�ที่ธิ&ที่างเศรัษฐก&จแบบน�2ม�กเอ�2อต�อการัป็กคำรัองในรัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย ล�ที่ธิ&เศรัษฐก&จแบบหน%�งจะเอ�2อต�อรั/ป็แบบการัเม�องการัป็กคำรัองแบบหน%�ง

มื�มืมืองท �สามื จะมองการัเม�องจากก&จกรัรัมหรั�อพฤต&กรัรัมที่��ส�าคำ�ญๆ ได้�แก�

1. การัเม�องเป็(นเรั��องของคำว่ามข�ด้แย�ง อาจเป็(นคำว่ามข�ด้แย�งรัะหว่�างกล$�มต�าง ๆ หรั�อ คำว่ามข�ด้แย�งรัะหว่�างผู/�น�าที่างการัเม�องด้�ว่ยก�น

2. การัเม�องเป็(นเรั��องการัต�อส/�เพ��อแย�งช้&งอ�านาจ 3. การัเม�องเป็(นเรั��องของก&จกรัรัมของผู/�น�า 4. การัเม�องเป็(นเรั��องของการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจหน�าที่��ที่างการั

เม�อง คำ�าตอบเก��ยว่ก�บการัเม�องม�หลายคำ�าตอบข%2นอย/�ก�บม$มมองของน�ก

ว่&ช้าการัแต�ละคำนว่�าจะเน�นศ%กษาการัเม�องในแง�ใด้ แต�ละม$มมองที่�าให�น�กว่&ช้าการัก�าหนด้ย$ที่ธิว่&ธิ�ในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจการัเม�องแตกต�างก�น ย$ที่ธิว่&ธิ�ในการัศ%กษาการัเม�องหรั�อ Approach จ%งม�อย/�มากมาย โด้ยแต�ละ Approach ม�พ�2นฐานคำว่ามเช้��อว่�าการัเม�องคำ�ออะไรัแตกต�างก�นไป็ เช้�น

-Power Approach มองว่�า การัเม�องคำ�อการัต�อส/�เพ��ออ�านาจ

Page 9: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 9 ~

-Interest Group Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นคำว่ามข�ด้แย�งในผูลป็รัะโยช้น

-System Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นเรั��องของการัใช้�อ�านาจอ�นช้อบธิรัรัมในการัแจกแจงแบ�งสรัรัที่รั�พยากรัและส&�งม�คำ$ณคำ�าในส�งคำม ผูลที่��ได้�จาการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจจะบ�งคำ�บใช้�ก�บคำนที่$กคำน

-Elite Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นก&จกรัรัมของช้นช้�2นน�า-Decision Making Approach มองว่�า การัเม�องเป็(นการัต�ด้ส&น

ใจของผู/�ม�อ�านาจเห+นได้�ว่�าแต�ละ Approach มองการัเม�องในม$มมองที่��แตกต�างก�นไป็

เพรัาะน�กว่&ช้าการัแต�ละคำนพยายามสรั�างเคำรั��องม�อในการัที่�าคำว่ามเข�าใจการัเม�องจากม$มมองของตนเอง ที่�าให�ม� Approach มากมายในการัศ%กษา

(อาจารัยเคำยออกข�อสอบว่�า จากม$มมองการัเม�องที่��แตกต�างก�นไป็ย�งผูลให�เก&ด้ Approach ต�าง ๆ ตามมามากมาย จงยกต�ว่อย�างให�เห+นอย�างช้�ด้เจน)

พ�7นฐานคิวามืเช��อรุ6วมืก�นข้องคิ�าว6าการุเมื�องน�กว่&ช้าการัแต�ละคำนอาจจะมองการัเม�องแตกต�างก�น แต�น�กว่&ช้าการั

เหล�าน�2ม�พ�2นฐานคำว่ามเช้��อเก��ยว่ก�บการัเม�องรั�ว่มก�นคำ�อ1. ที่$กส�งคำมม�ป็@ญหาหล�กเหม�อนก�นคำ�อการัขาด้แคำลนที่รั�พยากรั

อ$ป็สงคำ (Demand) จะม�มากกว่�าอ$ป็ที่าน (Supply) อย/�ตลอด้เว่ลา งบป็รัะมาณ ก�าล�งคำน เคำรั��องไม�เคำรั��องม�อของรั�ฐม�อย/�อย�างจ�าก�ด้ แต�คำว่ามต�องการัของป็รัะช้าช้นม�มากมายเก&นกว่�าที่��งบป็รัะมาณของรั�ฐจะสนองได้�

2. คำว่ามจ�าเป็(นที่��ต�องม�รั�ฐบาล เม��อที่รั�พยากรัม�น�อยคำว่ามต�องการัม�มากเพ��อป็กป็Bองไม�ให�เก&ด้คำว่ามโกลาหลในส�งคำมอ�นเน��องมาจากกล$�มคำนที่��แข+งแรังกว่�าเข�ามาแก�งแย�งที่รั�พยากรัของส�งคำมเพ��อเอาป็รัะโยช้นให�แก�กล$�มของตน ที่$กส�งคำมจ%งจ�าเป็(นต�องจ�ด้ต�2งองคำกรัข%2นมาที่�าหน�าที่��แจกแจง

Page 10: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 10 ~

แบ�งสรัรัที่รั�พยากรัของส�งคำมคำ�อรั�ฐบาล รั�ฐบาลจะที่�าหน�าที่��แจกแจงที่รั�พยากรับนพ�2นฐานการัยอมรั�บของสมาช้&กในส�งคำม

3. ในกรัะบว่นการัของการัแจกแจงที่รั�พยากรัของรั�ฐจะม�ที่�2งคำนที่��ได้�ป็รัะโยช้นและเส�ยป็รัะโยช้นเพรัาะงบป็รัะมาณม�จ�าก�ด้

4. ในที่$กส�งคำมคำนที่��ได้�ป็รัะโยช้น (Haves อ�านว่�าแฮิฟส ไม�ใช้�ฮิาเว่ส)

เป็(นคำนจ�านว่นไม�มาก กล$�มที่��เส�ยป็รัะโยช้น (Have - nots) ม�จ�านว่นมากกว่�าและมองว่�าตนเองไม�ได้�รั�บคำว่ามเป็(นธิรัรัม

5. กล$�มที่��เส�ยป็รัะโยช้นพยายามรัว่มต�ว่ก�นเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มที่างการัเม�อง รั$กเรั�าขอให�รั�ฐด้�าเน&นการัเอ�2อป็รัะโยช้นให�กล$�มตนเองบ�าง อาจด้�าเน&นการัตามกฎหมาย ส�นต&ว่&ธิ� หรั�อใช้�ก�าล�งรั$นแรัง

6. ในขณะเด้�ยว่ก�นกล$�มที่��ได้�ป็รัะโยช้นอย/�แล�ว่ก+พยายามต�อต�านกล$�มที่��เรั�ยกรั�องโด้ยอ�างว่�ารั�ฐบาลที่�าด้�อย/�แล�ว่

7. กล$�มที่��ได้�ป็รัะโยช้นอย/�ในฐานะที่��ได้�เป็รั�ยบอย/�แล�ว่ม�โอกาสเหน�อกล$�มอ��น ๆ จะใช้�ว่&ธิ�การัที่$กอย�างเพ��อรั�กษาสถึานภาพที่��ได้�เป็รั�ยบของตนเองเอาไว่� โด้ยส�ว่นใหญ�กล$�ม Haves จะเป็(นผู/�ป็กคำรัอง ช้นช้�2นส/ง นายที่$นซึ่%�งได้�ป็รัะโยช้นจากการัด้�าเน&นการัของรั�ฐ ออกกฎเกณฑกต&กาป็Bองก�นไม�ให�คำนอ��นเข�ามาแย�งช้&งผูลป็รัะโยช้นของตน เช้�น สรั�างคำว่ามเช้��อว่�าที่��ป็รัะช้าช้นเก&ด้มาอด้อยากยากแคำ�นเพรัาะช้าต&ที่��แล�ว่ที่�ากรัรัมไว่�มาก ผู/�ป็กคำรัองที่��ม�อ�านาจว่าสนาบารัม�เพรัาะช้าต&ที่��แล�ว่ที่�าบ$ญ เพรัาะฉะน�2นคำนจนก+คำว่รัก�มหน�ารั�บกรัรัมแล�ว่ที่�าสมาธิ&อย�าไป็คำ&ด้อะไรัให�มาก

สรั$ป็ การัเม�องจ%งเป็(นเรั��องของป็ฏ&กรั&ยารัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองก�บผู/�ถึ/กป็กคำรัอง และเป็(นการัแก�งแย�งส&ที่ธิ&ที่��จะม�อ�านาจในการัป็กคำรัองรัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองด้�ว่ยก�นเองอ�กด้�ว่ย การัรั�ฐป็รัะหารัก+คำ�อการัแย�งอ�านาจรัะหว่�างผู/�ป็กคำรัองด้�ว่ยก�นน��นเอง

อ�ดมืการุณ�ทางการุเมื�อง (Political Ideology)

Page 11: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 11 ~

อ$ด้มการัณ คำ�อ รัะบบคำ�าน&ยมหรั�อคำว่ามเช้��อที่��บ$คำคำลใด้ ๆ ยอมรั�บเสม�อนว่�าเป็(นข�อเที่+จจรั&งหรั�อคำว่ามจรั&ง เช้�น

-อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตย คำนที่��ย%ด้ม��นในอ$ด้มการัณน�2ต�างยอมรั�บว่�าอ�านาจอธิ&ป็ไตยอ�นเป็(นอ�านาจส/งส$ด้เป็(นของป็ว่งช้น ไม�ใช้�ของใคำรัคำนใด้คำนหน%�ง คำนเรัาต�างม�ส&ที่ธิ&เสรั�ภาพม�เหต$ม�ผูลด้�ว่ยก�นที่$กคำน ม�คำว่ามสามารัถึในการัป็กคำรัองตนเองได้�

-อ$ด้มการัณฟาสซึ่&สต คำนที่��เช้��อม��นในอ$ด้มการัณน�2ต�างยอมรั�บรั�ว่มก�นว่�าผู/�น�าส/งส$ด้เป็(นคำนเด้�ยว่เที่�าน�2นที่��จะน�าพาป็รัะเที่ศช้าต&ไป็ส/�เป็Bาหมายคำว่ามเป็(นเอกภาพ คำนเรัาเก&ด้มาไม�เที่�าเที่�ยมก�น ผู/�น�าเป็(นบ$คำคำลพ&เศษในหม/�ช้นช้�2นน�า ไม�ใช้�ใคำรัก+เป็(นผู/�น�าได้�

ฯลฯ อย�างไรัก+ตามไม�ได้�หมายคำว่ามว่�าที่$กคำว่ามเช้��อจะจ�ด้เป็(นอ$ด้มการัณ

เช้�น เช้��อว่�าว่&ญญาณล/กช้ายที่��เส�ยช้�ว่&ตไป็มาส&งในรั�างต�ว่เง&นต�ว่ที่อง เลยจ�บม�นมาอาบน�2าอาบที่�าเล�2ยงด้/ เหม�อนเป็(นคำน คำว่ามเช้��อแบบน�2ไม�ถึ�อเป็(นอ$ด้มการัณ คำว่ามเช้��อที่��อาจจ�ด้ได้�ว่�าเป็(นอ$ด้มการัณ ได้�แก� คำว่ามเช้��อที่��ม�ล�กษณะส�าคำ�ญด้�งต�อไป็น�2

1. คำว่ามเช้��อน�2นต�องเป็(นที่��ยอมรั�บรั�ว่มก�นของคำนในส�งคำม 2. เป็(นคำว่ามเช้��อที่��ส�มพ�นธิก�บเรั��องรัาว่ที่��ส�าคำ�ญของส�งคำม ถึ�าเป็(น

คำว่ามเช้��อเก��ยว่ก�บเรั��องรัาว่ของรั�ฐ เช้�น อ�านาจรั�ฐ การัใช้�อ�านาจรั�ฐ รั/ป็แบบการัป็กคำรัอง ก+เป็(นอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง ถึ�าคำว่ามเช้��อน�2นเก��ยว่ข�องก�บเรั��องรัาว่ที่างเศรัษฐก&จก+จ�ด้เป็(นอ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จ

3. เป็(นคำว่ามเช้��อที่��คำนในส�งคำมต�างย%ด้เป็(นแนว่ที่างการัป็ฏ&บ�ต&ในช้�ว่&ตอย�างสม��าเสมอ เช้�น อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตยเช้��อว่�าที่$กคำนม�เหต$ผูล เพรัาะฉะน�2นว่&ถึ�ช้�ว่&ตของคำนในส�งคำมป็รัะช้าธิ&ป็ไตยจ%งให�เสรั�ภาพในการัแสด้งออก ยอมรั�บในเส�ยงข�างมาก เหต$ผูลใด้ที่��สามารัถึจ/งใจให�คำนส�ว่นใหญ�เห+นว่�าเป็(น

Page 12: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 12 ~

เหต$ผูลที่��ด้�ที่��ถึ/กต�องจะได้�รั�บการัสน�บสน$นโด้ยเส�ยงข�างมาก เป็(นมต&ที่��ป็รัะช้$มน�าไป็ส/�การัป็ฏ&บ�ต&ต�อไป็

4. เป็(นเคำรั��องม�อส�าคำ�ญในการัย%ด้เหน��ยว่กล$�มคำนให�เป็(นอ�นหน%�งอ�นเด้�ยว่ก�นได้� เช้�น คำว่ามรั�กใคำรั�ในหม/�ช้าว่คำ�ายอาสาพ�ฒนาช้นบที่ ที่��ย%ด้ม��นในอ$ด้มการัณเด้�ยว่ก�นรั/ �ส%กว่�าพว่กตนล�ว่นเป็(นพ��เป็(นน�องก�น เว่ลาได้�ย&นเพลงของช้าว่คำ�ายแล�ว่น�2าตาพาลจะไหลคำ&ด้ถึ%งบรัรัยากาศสม�ยออกคำ�าย

สม�ยอาจารัยเรั�ยนอย/�ธิรัรัมศาสตรัช้�ว่ง พ.ศ. 2512 – 2515 เคำยไป็ออกคำ�ายที่��โรังเรั�ยนบ�านเก&2ง อ�าเภอบ�านไผู� จ�งหว่�ด้ขอนแก�น เพ��อป็ล/กฝ่@งแนว่คำ&ด้ป็รัะช้าธิ&ป็ไตยแก�เยาว่ช้น (ไม�อ�อนด้�ด้ง�าย) เด้+กรั$ �นน�2นบางคำนป็@จจ$บ�นเป็(นนายอ�าเภออาว่$โสไป็แล�ว่ อาจารัยเป็(นห�ว่หน�าคำ�ายมา 4 ป็H รั/ �ด้�ว่�ายามที่$กขก+ที่$กขด้�ว่ยก�น ส$ขก+ส$ขด้�ว่ยก�น ในการัออกคำ�ายม�ป็@ญหามาให�แก�มากมาย เช้�น อย/�ไป็ไม�ก��ว่�นข�าว่สารัหมด้ ล/กคำ�ายไม�ม�ข�าว่ก&นต�องว่&�งหาก�นให�ว่$ �นว่ายแต�น��นคำ�อคำว่ามสาม�คำคำ�ของที่$กคำนที่��ต�องฝ่Fาฟ@นแก�ป็@ญหารั�ว่มก�น ถึ%งว่�นป็Jด้คำ�ายที่�าก&จกรัรัมรัอบกองไฟรั�องเพลงป็รัะจ�าคำ�าย เรัาอาสาและพ�ฒนา“ ใจเรั&งรั�าและสาม�คำคำ� สมาช้&กก+น�2าห/น�2าตาไหลก�นไป็ อาจารัยย�งจ�าภาพว่�น…”

น�2นได้�ด้� ผู�านไป็สามส&บป็Hป็รัะมาณ พ.ศ. 2545 หน�าตาแต�ละคำนเป็ล��ยนแป็ลงไป็มาก อาจารัยได้�รั�บเช้&ญไป็บรัรัยายในโคำรังการัรั�ว่มม�อก�บสถึาบ�นที่หารัช้�2นส/ง ล/กศ&ษยเป็(นที่หารัน��งก�นหน�าสลอน อาจารัยก+สอนเรั��องอ$ด้มการัณที่างการัเม�องเหม�อนอย�างที่��ก�าล�งสอนให�น�กศ%กษาฟ@งอย/�ขณะน�2 พอพ�กเบรักม�นายที่หารัคำนหน%�งเด้&นเข�ามาหาแล�ว่ตบป็Bาบเข�าไป็ที่��ไหล�อาจารัยบอก ม%งจ�าก/ได้�ม� 2ย ป็รัากฏว่�าเป็(นพรัรัคำพว่กที่��เคำยออกคำ�ายที่��บ�านเก&2งด้�ว่ย“ ”

ก�น พอรั/ �ว่�าเป็(นช้าว่คำ�ายรั�ว่มก�นมาก�อนที่�2งอาจารัยและเพ��อนก+กอด้ก�นกลม เก&ด้คำว่ามรั/ �ส%กของคำว่ามเป็(นพว่กเด้�ยว่ก�น เคำยตกที่$กขได้�ยากก&นข�าว่หม�อเด้�ยว่ก�นมาก�อน เป็(นคำนรั�ว่มอ$ด้มการัณเด้�ยว่ก�น

หน�าที่��ของอ$ด้มการัณ

Page 13: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 13 ~

1. เป็(นเคำรั��องม�อช้�ว่ยสรั�างคำว่ามช้อบธิรัรัมให�ก�บรัะบบการัป็กคำรัองและสถึาบ�นที่างการัเม�องในขณะน�2น เช้�น ป็รัะเที่ศไที่ยใช้�อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตยเป็(นอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง กรัะบว่นการัที่างการัเม�องภายในเป็(นไป็ภายใต�อ$ด้มการัณป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

2. ช้�ว่ยสรั�างคำว่ามเป็(นอ�นหน%�งอ�นเด้�ยว่ก�นและรัะด้มสรัรัพก�าล�งของคำนในช้าต& เช้�น เม��อเก&ด้ว่&กฤตรั�ฐบาลจะใช้�อ$ด้มการัณช้าต&น&ยมป็ล$กจ&ตส�าน%กป็รัะช้าช้นให�สาม�คำคำ�เป็(นหน%�งเด้�ยว่ก�น รั�องเพลงช้าต&ว่นก�นที่$กจ�งหว่�ด้มาจบลงที่��กรั$งเที่พฯ เพลงป็ล$กใจถึ/กเป็Jด้ที่$กว่�นเพ��อให�คำนไที่ยสาม�คำคำ�ก�น

3. ช้�ว่ยป็ล$กเรั�ามว่ลช้นโด้ยเฉพาะในยามที่��บ�านเม�องม�ป็@ญหา เช้�น ในยามสงคำรัาม ยามเก&ด้ว่&กฤตเศรัษฐก&จ ป็รัะช้าช้นถึ/กป็ล$กเรั�าให�รั�กช้าต& ช้�ว่ยก�นรั�ด้เข+มข�ด้

4. ช้�ว่ยในการัส��อสารัรัะหว่�างก�น โด้ยใช้�ส��อภาษาที่��เข�าใจก�นรัะหว่�างผู/�ม�อ$ด้มการัณเด้�ยว่ก�น

5. ช้�ว่ยให�เรัาสามารัถึแสด้งออกถึ%งคำว่ามต�องการั เป็(นการัช้�ว่ยป็ลด้ป็ล�อยแรังผูล�กด้�นจากภายในได้� เช้�น ถึ�าเรัาม�คำว่ามอ�ด้อ�2นต�นใจในเรั��องใด้เรั��องหน%�งแต�ถึ�าม�เพ��อนรั�ว่มอ$ด้มการัณที่��เข�าอกเข�าใจเรัา จะช้�ว่ยให�เรัารัะบายคำว่ามอ�ด้อ�2นต�นใจน�2นออกมาได้� เพ��อนจะรั�บฟ@งอย�างเข�าอกเข�าใจและส��อสารัต�อเน��องก�น แต�ถึ�าไป็คำ$ยก�บคำนต�างอ$ด้มการัณจะคำ$ยก�นไม�รั/ �เรั��อง

6. เป็(นป็@จจ�ยที่��จะช้�ว่ยว่&พากษว่&จารัณส�งคำมในต�ว่เอง ช้�ว่ยให�เก&ด้คำว่ามเช้��อใหม�ที่��ที่นต�อการัว่&พากษ อ$ด้มการัณที่��ต� 2งอย/�บนพ�2นฐานคำว่ามเช้��อที่��ไม�อาจตอบคำ�าถึามของส�งคำมได้�ผู/�คำนจะเส��อมศรั�ที่ธิา ไม�ยอมรั�บอ$ด้มการัณน�2น ๆ อ�กต�อไป็แต�จะห�นไป็ยอมรั�บอ$ด้มการัณหรั�อคำว่ามเช้��อใหม�

7. ช้�ว่ยให�คำนออกมาเคำล��อนไหว่หรั�อกรัะที่�าการัที่างการัเม�องในรั/ป็แบบใด้ ๆ ก+ได้� เช้�น คำนก�มพ/ช้าออกมาเผูาสถึานที่/ตไที่ย

อ�ดมืการุณ�ทางการุเมื�องก�บเศึรุษฐก�จ

Page 14: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 14 ~

ในที่$กส�งคำมจะม�อ$ด้มการัณใหญ� ๆ สองอ$ด้มการัณคำ�ออ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จและอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง

เข�ยนกรัาฟสองแกนให�แกนนอนเป็(นอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จ แกนต�2งเป็(นอ$ด้มการัณที่างการัเม�อง ป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

A B

ส�งคำมน&ยม ที่$นน&ยม

C Dเผูด้+จการัเบ+ด้เสรั+จ

ถึ�าคำนในส�งคำมเช้��อว่�าอ�านาจอธิ&ป็ไตยซึ่%�งเป็(นอ�านาจส/งส$ด้ในที่างการัเม�องคำว่รัตกอย/�ในม�อของคำนส�ว่นใหญ�เรั�ยกอ$ด้มการัณที่างการัเม�องน�2ว่�า ป็รัะช้าธิ&ป็ไตย ในที่างตรังข�ามถึ�าอ�านาจอธิ&ป็ไตยตกอย/�ในม�อคำน ๆ เด้�ยว่ ม�ส&ที่ธิ&ใช้�อ�านาจอธิ&ป็ไตยเพ�ยงล�าพ�งเรั�ยกอ$ด้มการัณที่างการัเม�องน�2ว่�าเผูด้+จการัเบ+ด้เสรั+จ (Totalitarianism) เช้�น นาซึ่� ฟาสซึ่&สม (อ�านาจส/งส$ด้อย/�ในม�อผู/�ป็กคำรัองเพ�ยงคำนเด้�ยว่)

แกนนอนเป็(นคำว่ามคำ&ด้คำว่ามเช้��อเรั��องการัจ�ด้การัที่างเศรัษฐก&จ (อ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จ) ถึ�าเช้��อว่�าอ�านาจในการัก�าหนด้ว่&ถึ�ช้�ว่&ตที่างเศรัษฐก&จของป็รัะช้าช้นอย/�ในม�อของคำนบางคำนบางกล$�ม เรั�ยกอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จน�2ว่�าที่$นน&ยม ในที่างตรังข�ามถึ�าเช้��อว่�าอ�านาจในการัก�าหนด้ว่&ถึ�ช้�ว่&ตที่างเศรัษฐก&จของป็รัะช้าช้นอย/�ในม�อของส�งคำมโด้ยรัว่ม เรั�ยกอ$ด้มการัณเศรัษฐก&จน�2ว่�า ส�งคำมน&ยม ส�งคำมเป็(นเจ�าของป็@จจ�ยการัผูล&ต

ในแต�ละป็รัะเที่ศย�อมย%ด้ถึ�ออ$ด้มการัณที่างการัเม�องและอ$ด้มการัณที่างเศรัษฐก&จอย�างใด้อย�างหน%�งในส��กล$�ม

Page 15: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 15 ~

กล$�ม A คำ�อป็รัะเที่ศที่��ป็กคำรัองในรัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยใช้�รัะบบเศรัษฐก&จแบบส�งคำมน&ยม เช้�น กล$�มป็รัะเที่ศสแกนด้&เนเว่�ย อาที่& นอรัเว่ย สว่�เด้น ฟJนแลนด้ เด้นมารัคำ ม�การัเล�อกต�2ง พรัรัคำการัเม�องแข�งข�นก�น เป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตยในรัะบบรั�ฐสภา แต�รั�ฐบาลช้/นโยบายส�งคำมน&ยมเป็(นรั�ฐสว่�สด้&การั

กล$�ม B การัเม�องเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตย เศรัษฐก&จที่$นน&ยม เช้�น สหรั�ฐอเมรั&กา อ�งกฤษ ไที่ย ส&งคำโป็รั ญ��ป็$Fน ออสเตรัเล�ย

กล$�ม C เผูด้+จการัที่างการัเม�อง เศรัษฐก&จส�งคำมน&ยม เช้�น พม�า จ�น เว่�ยด้นาม ลาว่

กล$�ม D เผูด้+จการัที่างการัเม�อง เศรัษฐก&จที่$นน&ยม เช้�น ป็รัะเที่ศในตะว่�นออกกลางหลายป็รัะเที่ศที่��อ�านาจที่างการัเม�องตกอย/�ในม�อของผู/�ป็กคำรัอง หรั�อป็รัะเที่ศไที่ยสม�ยจอมพลสฤษด้&K ธินะรั�ช้ต เป็(นเผูด้+จการัที่างการัเม�องแต�รัะบบเศรัษฐก&จเป็(นแบบที่$นน&ยม นายที่$นย�งคำงที่�ามาหาก&นได้�ตามป็กต&

แต�ละกล$�มป็รัะเที่ศย�งม�คำว่ามเข�มข�นของอ$ด้มการัณที่างการัเม�องและเศรัษฐก&จแตกต�างก�น เช้�น ในกล$�ม B สหรั�ฐอเมรั&กาป็รัะช้าธิ&ป็ไตยและที่$นน&ยมเก�อบเต+มรั�อย ป็รัะเที่ศไที่ยม�คำว่ามเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตยและที่$นน&ยมต��ากว่�าสหรั�ฐฯ การัม�รั�ฐว่&สาหก&จคำ�อแนว่คำ&ด้ส�งคำมน&ยม รั�ฐเป็(นเจ�าของป็@จจ�ยการัผูล&ตเพ��อเป็(นหล�กป็รัะก�นให�คำนในส�งคำมว่�าอย�างน�อยคำนที่��ม�ฐานะยากจนที่��ส$ด้ย�งม�โอกาสได้�บรั&โภคำก&จการัสาธิารัณ/ป็โภคำ ไม�ว่�าจะเป็(นป็รัะป็า ไฟฟBา รัถึเมล รัถึไฟ สม�ยอาจารัยเรั�ยนธิรัรัมศาสตรัรัถึเมลเป็(นของบรั&ษ�ที่เอกช้นม�ให�เล�อกมากมายไป็หมด้ที่�2งรัถึเมลเข�ยว่ รัถึเมลขาว่ รัถึนายเล&ศ พอถึ%งสม�ยรั�ฐบาล ม.รั.ว่.คำ%กฤที่ธิ&K ป็รัาโมช้ ป็รัะกาศย%ด้รัถึเมลมาเป็(นของรั�ฐต�2ง ข.ส.ม.ก.ข%2นมาด้/แล เพ��อสรั�างหล�กป็รัะก�นให�ก�บป็รัะช้าช้นว่�า คำนในกรั$งเที่พฯ ที่��ยากจนที่��ส$ด้ย�งม�เง&นพอที่��จะจ�ายคำ�ารัถึเมลโด้ยสารัได้� ถึ�าป็ล�อย

Page 16: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 16 ~

ให�เอกช้นด้�าเน&นการัต�อไป็อาจรัว่มห�ว่ก�นข%2นคำ�าโด้ยสารัเพรัาะเป็(นช้�ว่งเก&ด้ว่&กฤตการัณน�2าม�น

ท�ศึนคิต�ทางการุเมื�อง (Political Attitude)

น�กศ%กษาคำงจะเคำยได้�ย&นว่�า พว่กน&ส&ตน�กศ%กษาเป็(นพว่กห�ว่เอ�ยงซึ่�าย ที่หารั ต�ารัว่จ กองก�าล�งจ�ด้ต�2ง ล/กเส�อช้าว่บ�าน นว่พลเป็(นพว่กห�ว่เอ�ยงขว่า เหต$การัณ 6 ต$ลาคำม 2519 ที่��เข�นฆ่�าก�นจนน�กศ%กษาป็รัะช้าช้นกล$�มหน%�งต�องหน�เข�าป็Fา น�กหน�งส�อพ&มพเรั�ยกเหต$การัณน�2ว่�า ขว่าพ&ฆ่าตซึ่�าย การั“ ”

เอ�ยงซึ่�ายเอ�ยงขว่าเป็(นเรั��องของที่�ศนคำต&ที่างการัเม�อง ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�อง หมายถึ%ง แบบแผูนของคำ�าน&ยม คำว่ามเช้��อของ

บ$คำคำลที่��พ%งม�ต�อสรัรัพส&�งในที่างการัเม�อง น�กว่&ช้าการัได้�แบ�งที่�ศคำต&ที่างการัเม�องเป็(น 5 กล$�มตามแกนซึ่�าย ขว่า ด้�งน�2

Radical Liberal Moderate ConservativeReactionary

ซึ่�าย กลาง ขว่า

1. กล$�มที่��อย/�ซึ่�ายส$ด้ของแกนเรั�ยกว่�าพว่กที่��ม�ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�องแบบ Radical หรั�อ พว่กห�ว่ก�าว่หน�า บางคำรั�2งเรั�ยกว่�า พว่กห�ว่รั$นแรัง ซึ่�ายจ�ด้ ซึ่�ายก�าว่หน�า หรั�อซึ่�ายตกขอบ

2. พว่กเสรั�น&ยม (Liberal) ม�คำว่ามคำ&ด้แบบเสรั� เป็(นพว่กซึ่�ายแต�ไม�รั$นแรังแบบ Radical

3. พว่กสายกลาง (Moderate) เป็(นพว่กที่��ม�ที่�ศนคำต&ที่��เป็(นกลาง 4. พว่กอน$รั�กษน&ยม (Conservative) ม�ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�องที่��

เป็(นขว่า 5. พว่กป็ฏ&ก&รั&ยา (Reactionary) เป็(นพว่กขว่าจ�ด้หรั�อขว่าตกขอบ มืาตรุการุท �ใช#ในการุว�ดท�ศึนคิต�ทางการุเมื�อง

Page 17: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 17 ~

1. คิวามืคิ�ดเห3นในเรุ��องข้องการุเปล �ยนแปลง (Change)

(Progression – Regression: ก�าว่หน�า ถึด้ถึอย– ) พว่กที่��เป็(นซึ่�ายจะเห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า ส�ว่นพว่กที่��เป็(นขว่าจะเห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบถึด้ถึอย

-พว่กซึ่�ายที่�2ง Radical และ Liberal จะเห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า (Progression) เช้��อว่�า ในที่$กส�งคำมคำว่ามสามารัถึในการัอย/�รัอด้ข%2นอย/�ก�บคำว่ามสามารัถึในการัป็รั�บต�ว่ให�เข�าก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงที่��ก�าว่หน�าตลอด้เว่ลา ไม�ม�ส�งคำมใด้รัอด้พ�นอ&ที่ธิ&พลของกรัะแสโลกาภ&ว่�ตนได้� พว่ก Radical เป็(นพว่กไว่ต�อคำว่ามรั/ �ส%ก อะไรัเป็(นอ$ป็สรัรัคำที่��ข�ด้ขว่างไม�ให�ส�งคำมก�าว่หน�าต�อไป็ต�องเสนอให�ผู/�ม�อ�านาจหาที่างเย�ยว่ยาแก�ไข โด้ยใช้�ว่&ธิ�ย��นคำ�าขาด้ให�ด้�าเน&นการัภายในเว่ลาที่��ก�าหนด้ ไม�สนใจกต&กาบ�านเม�อง อะไรัที่��เป็(นอ$ป็สรัรัคำข�ด้ขว่างการัเจรั&ญก�าว่หน�าก+พรั�อมที่��จะละเม&ด้ที่�นที่�

พว่ก Liberal เห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า เช้��อว่�าอนาคำตต�องด้�กว่�าป็@จจ$บ�น แต�ไม�เห+นด้�ว่ยก�บการัไม�เคำารัพกต&กาบ�านเม�องอย�างพว่ก Radical พว่ก Liberal ย�งคำงเคำารัพกฎกต&กาบ�านเม�องอย/� น&ยมใช้�ช้�องที่างที่��ม�แก�ไขป็@ญหารั�ว่มก�น ใช้�ว่&ธิ�การัที่��กฎหมายก�าหนด้ เช้�น ย��นข�อเรั�ยกรั�องผู�านต/� ป็ณ.111 อาสาคำลายที่$กข ส�าน�กงานรั�ฐสภา ฯลฯ ไม�น&ยมการัใช้�ก�าล�ง เน�นส�นต&ว่&ธิ�ป็รัะน�ป็รัะนอม เจรัจาหารั�อก�นตามแผูนป็รัองด้องแห�งช้าต&

-พว่กสายกลาง เป็(นพว่กอะไรัก+ได้�ยกเว่�นการัใช้�ก�าล�งรั$นแรัง น&ยมการัเป็ล��ยนแป็ลงเล+ก ๆ น�อย ๆ

-พว่กขว่าที่�2ง Conservative และ Reactionary เช้��อในที่างตรังข�าม ไม�ยอมรั�บการัเป็ล��ยนแป็ลงแบบก�าว่หน�า (Regression) ไม�อยากเห+นการัเป็ล��ยนแป็ลงด้�ว่ยเกรังว่�าการัเป็ล��ยนแป็ลงที่��เก&ด้ข%2นจะส�งผูลต�อ

Page 18: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 18 ~

สถึานภาพเด้&ม (Status Quo) ที่��พว่กตนอย/�ในฐานะได้�เป็รั�ยบ เป็(น The

Haves ที่��ม�สถึานะด้�กว่�าคำนที่��ว่ไป็ในส�งคำม ถึ�าเก&ด้การัเป็ล��ยนแป็ลงผูลป็รัะโยช้นที่��พว่กตนม�อย/�ในขณะน�2นอาจส/ญเส�ยไป็ก+ได้� พว่กน�2จ%งไม�อยากเห+นการัเป็ล��ยนแป็ลง ส�งเกตด้/ว่�าผู/�ม�อ�านาจม�กม�ที่�ศนคำต&ที่างการัเม�องเป็(นแบบ Conservative

ส�ว่นพว่ก Reactionary ไม�เห+นด้�ว่ยก�บการัเป็ล��ยนแป็ลงอย�างแน�นอน เพรัาะไม�รั/ �ว่�าเป็ล��ยนไป็แล�ว่อะไรัจะเก&ด้ข%2น ถึ�าเป็ล��ยนแล�ว่ส�งคำมเลว่รั�ายไป็กว่�าเด้&มใคำรัจะรั�บผู&ด้ช้อบ เรัาคำว่รัศ%กษาบรัรัพบ$รั$ษของเรัาที่��บ�านเม�องสงบเรั�ยบรั�อยเขาใช้�ว่&ธิ�การัใด้ และคำว่รัหว่นกล�บไป็น�าว่&ธิ�การัแบบน�2นมาใช้�อ�ก น�กการัเม�องไที่ยหลายคำนย�งคำ&ด้ถึ%งการับรั&หารับ�านเม�องแบบจอมพลสฤษด้&K ที่��บ�านเม�องสงบไม�ม�ขโมยขโจรั เพรัาะจอมพลสฤษด้&Kม�มาตรัา 17 จ�ด้การัก�บภ�ยส�งคำมได้�ที่�นที่�

2. คิ6าน�ยมื (Humanism – Private Property: มน$ษยน&ยม – ที่รั�พยส&นเอกช้น)

-พว่กที่��เป็(นซึ่�าย จะให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บแนว่คำ&ด้มน$ษยน&ยม (Humanism) มองว่�าที่$กคำนในส�งคำมต�างม�ศ�กด้&Kศรั�คำว่ามเป็(นคำนเหม�อน ๆ ก�น ต�องการัป็@จจ�ยส�� ต�องการัการัใส�ใจด้/แลเหม�อน ๆ ก�น อยากอย/�อย�างม�ศ�กด้&Kศรั�คำว่ามเป็(นมน$ษยไม�ใช้�ถึ/กป็ล�อยป็ละเลยเป็(นส�ตว่ รั�ฐม�หน�าที่��ลด้ช้�องว่�างที่�าให�คำนในส�งคำมอย/�อย�างม�ศ�กด้&Kศรั�คำว่ามเป็(นมน$ษยให�ที่�ด้เที่�ยมก�นมากที่��ส$ด้

-พว่กขว่า จะมองตรังก�นข�าม เช้��อว่�าคำนเรัาเก&ด้มาไม�เที่�าเที่�ยมก�น บางคำนฉลาด้ บางคำนโง� มน$ษยม�ส&ที่ธิ&ที่��จะใช้�ส&�งที่��ตนเองได้�มาแสว่งหาคำว่ามส$ขคำว่ามสบายหรั�อที่รั�พยส&น พว่กขว่าจะให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บแนว่คำ&ด้เรั��องที่รั�พยส&นเอกช้น (Private Property) อ�นหมายถึ%ง ที่รั�พยส&นที่��ได้�จากการัใช้�สถึานะที่��เหน�อกว่�าไป็แสว่งหาป็รัะโยช้นเพ��อต�ว่ของต�ว่เองเป็(นส�าคำ�ญ ในส�งคำมที่��เป็(นขว่าคำนย%ด้ม��นถึ�อม��นในแนว่คำ&ด้เรั��องที่รั�พยส&นเอกช้น จะเป็(น

Page 19: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 19 ~

ส�งคำมที่��ม�ช้�องว่�างรัะหว่�างช้นช้�2นกว่�างมาก ในส�งคำมแบบน�2คำ�ารั�าพ%งรั�าพ�นที่��ว่�า ม�อหน�าไม�รั/ �จะหาอะไรัก&นด้� ถึ�าออกจากป็ากคำนรัว่ยก+หมายคำว่ามว่�าก&นมา“ ”

หมด้แล�ว่ที่$กอย�างจนเบ��ออยากจะหาอะไรัแป็ลก ๆ มาก&นบ�าง แต�ถึ�าเป็(นคำนจนก+หมายคำว่ามว่�าไม�ม�อะไรัจะก&นจรั&ง ๆ ไม�รั/ �จะคำ$�ยจากกองขยะไหนมาก&น

3. คิวามืเช��อเก �ยวก�บคิวามืเสมือภาคิ (Equalitarianism)

และคิวามืเป�นชนช�7นน�า (Elitism)

-พว่กที่��เป็(นซึ่�ายจะให�ย%ด้ม��นถึ�อม��นก�บหล�กคำว่ามเสมอภาคำของคำนในส�งคำม (Equalitarianism) เช้��อว่�าคำนในส�งคำมต�างม�คำว่ามเที่�าเที่�ยมเสมอภาคำก�นในฐานะที่��เป็(นสมาช้&กของส�งคำม ม�ส&ที่ธิ&เที่�าเที่�ยมก�นในการัเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มที่างการัเม�องและเศรัษฐก&จ ม�โอกาสข%2นเป็(นผู/�น�าของส�งคำมได้�เหม�อน ๆ ก�น

-พว่กขว่าจะให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บหล�กผู/�น�าน&ยม (Elitism) เช้��อว่�า คำนเรัาไม�ได้�ม�คำว่ามเที่�าเที่�ยมก�น บางคำนฉลาด้ บางคำนอ�อนแอ เรัาจ%งคำว่รัเล�อกคำนที่��ฉลาด้ แข+งแรังมาเป็(นผู/�ป็กคำรัอง

4. มืาตรุการุในเรุ��องหล�กการุแห6งเหต�ผล (Rationalism)

และไมื6มื เหต�ผล (Irrationalism)

-พว่กซึ่�ายเช้��อม��นในหล�กการัแห�งเหต$ผูล (เหต$ผูลน&ยม) เช้��อว่�ามน$ษยที่$กคำนต�างม�เหต$ผูลด้�ว่ยก�นที่�2งส&2น เหต$ผูลจะน�าพาส�งคำมไป็ส/�ที่&ศที่างที่��ถึ/กต�อง จ%งคำว่รัให�ส&ที่ธิ&แก�ป็รัะช้าช้นในการัน�าเสนอเหต$ผูล เหต$ผูลใด้ได้�รั�บการัยอมรั�บจากเส�ยงข�างมากจะน�าไป็ส/�การัป็ฏ&บ�ต&

-พว่กขว่า ไม�เช้��อว่�าคำนเรัาจะม�เหต$ผูล (Irrationalism) โด้ยเฉพาะเหต$ผูลเพ��อส�ว่นรัว่ม ส�ว่นใหญ�เหต$ผูลที่��คำนยกมาอ�างเป็(นเหต$ผูลที่��เป็(นผูลป็รัะโยช้นส�าหรั�บตนเองที่�2งส&2น เพ��อไม�ให�ส�งคำมแตกแยกที่$กคำนไม�ต�องอ�างเหต$อ�างผูลป็ฏ&บ�ต&การัตามคำ�าส��งของผู/�น�าแคำ�น�2นเป็(นพอ

Page 20: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 20 ~

5. หล�กการุท �เป�นสากล (Internationalism) และหล�กการุชาต�น�ยมื (Nationalism)

-พว่กซึ่�าย จะเช้��อม��นในหล�กสากลน&ยม (Internationalism) เป็(นหล�กการัอ�นเป็(นที่��ยอมรั�บของคำนที่��ว่โลก เช้�น หล�กการัที่��ป็รัากฏอย/�ในป็ฏ&ญญาสากลว่�าด้�ว่ยส&ที่ธิ&มน$ษยช้นแห�งสหป็รัะช้าช้าต& เป็(นหล�กการัสากลที่��มน$ษยที่$กคำนต�องการัไม�ว่�าจะเป็(นคำนช้าต&ใด้ (Beyond Boundary)

-พว่กขว่าเช้��อม��นในหล�กการัช้าต&น&ยม (Nationalism) ม�คำว่ามคำ&ด้อย/�ในกรัอบพรัมแด้นของตนเอง มองว่�าช้าต&เป็(นส&�งส�าคำ�ญอย�างย&�งยว่ด้ที่��ที่$กคำนต�องให�คำว่ามสนใจ ย&�งขว่าจ�ด้ย&�งเรั�ยกรั�องให�ที่$กคำนเส�ยสละเพ��อช้าต& ฟาสซึ่&สตน�2นเรั�ยกรั�องให�ที่$กคำนเส�ยสละแม�กรัะที่��งช้�ว่&ตเพ��อคำว่ามย&�งใหญ�ของรั�ฐ

แนวการุศึ�กษา (Approaches) ทางรุ�ฐศึาสตรุ� คิวามืหมืายข้อง Approaches

1. อล�น ซ์ . ไอแซ์คิ (Alan C. Isaak) ให�คำว่ามหมายของ Approach ไว่�ว่�า

-An approach is a general strategy for studying

political phenomena. หรั�อ Approach หมายถึ%ง ย$ที่ธิว่&ธิ�โด้ยที่��ว่ ๆ ไป็ที่��ใช้�ส�าหรั�บศ%กษาหรั�อที่�าคำว่ามเข�าใจในเรั��องรัาว่หรั�อป็รัากฏการัณที่างการัเม�องที่��เก&ด้ข%2น หน%�ง Approach คำ�อหน%�งย$ที่ธิว่&ธิ�ที่��น�กรั�ฐศาสตรัใช้�ศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจก�บเรั��องรัาว่ที่างการัเม�อง

-An Approach might provide framework for, or even take form of, a model or conceptual scheme or it might serve as the impetus for the development of a theory of

politics. หมายคำว่ามว่�า Approach หน%�ง ๆ จะให�กรัอบคำว่ามคำ&ด้ในการัศ%กษา อาจจะอย/�ในรั/ป็ของต�ว่แบบที่��ใช้�ในการัศ%กษาหรั�ออย/�ในรั/ป็ของแนว่คำ&ด้

Page 21: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 21 ~

สามารัถึใช้�เป็(นเคำรั��องม�อในการัพ�ฒนาเป็(นที่ฤษฎ�ที่างการัเม�องได้� แต�ละ Approach จ%งเป็(นกรัอบหรั�อต�ว่แบบหน%�งที่��น�าไป็ใช้�ในการัศ%กษา

-An approach is designed to include as wide a range of political phenomena as possible within a single

set of concepts. หมายถึ%ง Approach หน%�ง ๆ น�2นจะได้�รั�บการัออกแบบให�คำรัอบคำล$มป็รัากฏการัณที่างการัเม�องได้�หลากหลายป็รัากฏการัณ โด้ยอาศ�ยแนว่คำ&ด้หล�กเพ�ยงแนว่คำ&ด้เด้�ยว่ หรั�อช้$ด้คำอนเซึ่+ป็ตเพ�ยงช้$ด้เด้�ยว่เป็(นเคำรั��องม�อในการัที่�าคำว่ามเข�าใจป็รัากฏการัณที่างการัเม�อง เช้�น Power Approach น�าไป็ใช้�ศ%กษาป็รัากฏการัณที่างการัเม�องได้�ที่�2งสม�ยกรั$งศรั�อย$ธิยา การัเป็ล��ยนแป็ลงการัป็กคำรัอง พ.ศ.2475 การัรั�ฐป็รัะหารั พ.ศ.2490 รั�ฐป็รัะหารั 19 ก�นยายน พ.ศ.2549 ที่�2งหมด้เป็(นคำว่ามพยายามแย�งช้&งและรั�กษาไว่�ซึ่%�งอ�านาจ

2. William A. Welsh (ว�ลเล �ยมื เอ. เวลช�) ให�คำว่ามหมายไว่�ว่�า Approach หมายถึ%งช้$ด้หรั�อกล$�มของ Concept ที่��ม$�งเน�นหรั�อให�คำว่ามส�าคำ�ญก�บป็รัะเด้+นที่างการัเม�องด้�านใด้ด้�านหน%�ง โด้ยป็กต&แล�ว่ Approach หน%�ง ๆ จะป็รัะกอบด้�ว่ย Concept หล�กแต�เพ�ยงแนว่คำ&ด้

เด้�ยว่ Concept คำ�อคำว่ามคำ&ด้รัว่บยอด้ ภาษาไที่ยใช้�คำ�าว่�า ส�งก�ป็ หมายถึ%ง แนว่คำ&ด้หล�กหรั�อแนว่คำ&ด้ที่��ส�าคำ�ญ Concept ของ Approach จะบอกให�ที่รัาบว่�าเรัาก�าล�งศ%กษาป็รัะเด้+นที่างการัเม�องในด้�านใด้ เช้�น

-System Approach แนว่คำ&ด้หล�กส�าคำ�ญคำ�อ Inputs เข�าส/�รัะบบการัเม�องออกมาเป็(น Outputs ม� Feedback เป็(น Inputs กล�บเข�าส/�รัะบบการัเม�องอ�กคำรั�2งหน%�ง

-Interest Group Approach การัเม�องเป็(นการัต�อส/�แย�งช้&งผูลป็รัะโยช้นรัะหว่�างกล$�มต�าง ๆ

3. Vernon Van Dyke (เวอรุ�นอน แวน ไดคิ�) กล�าว่ว่�า Approach หน%�ง ๆ จะป็รัะกอบด้�ว่ยมาตรัการัในการัเล�อกสรัรัป็@ญหาหรั�อ

Page 22: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 22 ~

คำ�าถึามที่��จะน�ามาพ&จารัณาและเล�อกข�อม/ลที่��จะน�ามาใช้� และย�งบอกให�ที่รัาบว่�าข�อม/ลช้น&ด้ใด้ใช้�ได้�หรั�อใช้�ไม�ได้�อ�กด้�ว่ย การัที่��เรัาจะเล�อก Approach ใด้ Approach หน%�งมาเป็(นเคำรั��องม�อศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจป็รัากฏการัณที่างการัเม�อง เช้�น เล�อก System Approach มาศ%กษาเหต$การัณพฤษภาที่ม&ฬ คำ�อการัต�2งคำ�าถึามเพ��อให�ได้�ข�อม/ลเก��ยว่ก�บ Concept หล�กของ Approach น�2น ได้�แก�

-ข�อเรั�ยกรั�องของป็รัะช้าช้นต�อรั�ฐบาลในขณะน�2นคำ�ออะไรั -เม��อรั�ฐบาลรั�บข�อเรั�ยกรั�องไป็แล�ว่ด้�าเน&นการัตอบโต�อย�างไรั -ม� Outputs ออกมาอย�างไรั-Outputs ที่��ออกมาสามารัถึลด้คำว่ามต%งเคำรั�ยด้ที่างการัเม�องได้�มาก

น�อยแคำ�ไหน -Feedback เป็(นอย�างไรัข�อม/ลที่��ไม�เก��ยว่ข�องก�บ Concept หล�ก ไม�สามารัถึน�ามาใช้�ใน

Approach น�2ได้� Approach จ%งเหม�อนพ&มพกด้ว่$ �น ใช้�พ&มพรั/ป็ใด้ก+ได้�ว่$ �นรั/ป็น�2น ข�อม/ลที่��จะใช้�ได้�ก+คำ�อเน�2อว่$ �นที่��อย/�ในพ&มพ เน�2อว่$ �นนอกแบบใช้�ไม�ได้�

Approaches เป็รั�ยบเสม�อนม$มมองต�อเหต$การัณที่างการัเม�องที่��เรัาสนใจซึ่%�งม�อย/�หลายม$มมอง บางคำนใช้�คำ�าว่�าแนว่พ&น&จ แต�ละ Approaches ม�ม$มมองของตนเองต�อเหต$การัณที่��สนใจจะศ%กษาและอาจจะแตกต�างก�นไป็ ภาพที่��เห+นก+อาจจะแตกต�างก�น เช้�น เก&ด้เหต$การัณ A ข%2นมา

A

Page 23: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 23 ~

แต�ละจ$ด้รัอบ ๆ เหต$การัณ A เป็รั�ยบเสม�อนเป็(น Approach หน%�ง ๆ ที่��จะใช้�ศ%กษาเหต$การัณ A แต�ละ Approach ม� Concept หล�กของตนเอง เป็(นเคำรั��องม�อช้�ว่ยให�เข�าใจเหต$การัณน�2นได้�กรัะจ�างข%2น

Vernon Van Dyke แบ�ง Approaches ตามสาขาว่&ช้าต�าง ๆ ใช้�แนว่คำ&ด้หล�กของสาขาว่&ช้าต�าง ๆ เป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจการัเม�อง ด้�งน�2

1. Historical Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านป็รัะว่�ต&ศาสตรัเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจก�บเรั��องรัาว่ที่างการัเม�อง เช้�น ศ%กษาว่&ว่�ฒนาการัของการัเม�องไที่ย รั�ายยาว่มาต�2งแต�ป็รัะว่�ต&ศาสตรัการัเม�องไที่ยสม�ยกรั$งศรั�อย$ธิยา รั�ตนโกส&นที่รัตอนต�น จนถึ%งป็@จจ$บ�น

2. Economic Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านเศรัษฐศาสตรัเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาการัเม�อง (สองศาสตรัรัว่มก�นเป็(นเศรัษฐศาสตรัการัเม�องหรั�อ Political

Economy) มองว่�าป็รัากฏการัณที่างการัเม�องได้�รั�บอ&ที่ธิ&พลมาจากว่&ถึ�ช้�ว่&ตที่างเศรัษฐก&จของคำนในส�งคำม เช้�น มารักซึ่ศ%กษาการัป็ฏ&ว่�ต&ในส�งคำมอ�นเป็(นผูลมาจากคำว่ามข�ด้แย�งที่างเศรัษฐก&จรัะหว่�างเจ�าของป็@จจ�ยการัผูล&ตก�บผู/�ใช้�แรังงาน

3. Sociological Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านส�งคำมว่&ที่ยา เช้�น โคำรังสรั�าง กล$�ม อ&ที่ธิ&พลของกล$�ม บที่บาที่หน�าที่��ของคำนในส�งคำม สถึานภาพ ช้นช้�2น มาเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจเรั��องรัาว่ที่างการัเม�อง (สองสาขาว่&ช้ารัว่มก�นเป็(นส�งคำมว่&ที่ยาการัเม�องหรั�อ Political Sociology)

4. Psychological Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านจ&ตว่&ที่ยามาศ%กษาการัเม�อง จ&ตว่&ที่ยาเช้��อว่�าพฤต&กรัรัม

Page 24: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 24 ~

ใด้ ๆ ของมน$ษยน�2นเก&ด้จากแรังผูล�กภายใน (Internal Drive) ของต�ว่มน$ษยเอง เช้�น คำว่ามคำ&ด้ คำว่ามเช้��อ ป็มเด้�น ป็มด้�อย คำว่ามเกล�ยด้ คำว่ามรั�ก คำว่ามกล�ว่ เป็(นต�น เคำยม�การัศ%กษาพฤต&กรัรัมของฮิ&ตเลอรัโด้ยใช้� Concept ที่างด้�านจ&ตว่&ที่ยา พบว่�า แม�ของฮิ&ตเลอรัเคำยถึ/กเศรัษฐ�ช้าว่ย&ว่ข�มข�นสรั�างคำว่ามคำ�บแคำ�นใจให�เขาอย�างมาก เม��อม�อ�านาจจ%งแก�แคำ�นช้าว่ย&ว่อย�างรั$นแรัง พฤต&กรัรัมที่างการัเม�องของเขาเป็(นแรังผูล�กจากคำว่ามเกล�ยด้ช้�งช้าว่ย&ว่

5. Philosophical Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านป็รั�ช้ญาเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษาการัเม�อง เช้�น รั�ฐที่��ด้�ผู/�ป็กคำรัองที่��ด้�คำว่รัม�คำ$ณล�กษณะอย�างไรั

6. Geographical Approach หมายถึ%ง Approach ที่��ใช้� Concept ที่างด้�านภ/ม&ศาสตรัและที่��ต� 2งป็รัะเที่ศเป็(นเคำรั��องม�อในการัศ%กษา ป็รัะเที่ศที่��ต� 2งอย/�ในสภาพภ/ม&ศาสตรัที่��แตกต�างก�นที่�าให�พฤต&กรัรัมที่างการัเม�องของป็รัะช้าช้นแตกต�างก�นไป็ด้�ว่ย

Systems Approach

Systems Approach ได้�รั�บอ&ที่ธิ&พลมาจากสาขาว่&ช้าด้�านว่&ที่ยาศาสตรั 2 สาขาคำ�อ

Concept หล�กของ Approach น�2อย/�ที่��คำ�าว่�า รัะบบ หมายถึ%ง “ ”

ป็ฏ&ส�มพ�นธิรัะหว่�างองคำป็รัะกอบต�าง ๆ จ�านว่นหน%�ง ถึ�าองคำป็รัะกอบแต�ละส�ว่นต�างที่�าหน�าที่��ของตนอย�างด้�จะส�งผูลให�รัะบบเก&ด้การัพ�ฒนา สามารัถึด้�ารังอย/�อย�างม�เสถึ�ยรัภาพได้�

Systems Approach ได้�รั�บอ&ที่ธิ&พลมาจากสาขาว่&ช้าด้�านว่&ที่ยาศาสตรั 2 สาขาคำ�อ

1. อ�ทธิ�พลจากว�ชาฟ:ส�กส� ได้�แก� แนว่คำ&ด้ที่��เช้��อว่�าที่$กส�งคำมม�แนว่โน�มที่��จะรั�กษาเสถึ�ยรัภาพของตนเอง เม��อม�แรังผูล�กต�อรัะบบ ๆ น�2นก+จะม�

Page 25: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 25 ~

ป็ฏ&ก&รั&ยาตอบโต�เพ��อรั�กษาด้$ลยภาพของรัะบบให�เหม�อนเด้&มตลอด้เว่ลาเหม�อนต$;กตาล�มล$ก ที่��เรัาผูล�กไป็ม�นก+จะเอนกล�บมาอย/�ที่��เด้&ม Systems

Approach เช้��อว่�า เม��อรัะบบการัเม�องใด้ ๆ ได้�รั�บผูลกรัะที่บจากแรังผูล�กต�าง ๆ เช้�น ม�การัเด้&นขบว่นป็รัะที่�ว่ง เก&ด้การัจลาจลว่$ �นว่าย รั�ฐบาลต�องหาแนว่ที่างแก�ไขเย�ยว่ยาโด้ยการัขอคำ�นพ�2นที่��เพ��อให�ส�งคำมเก&ด้คำว่ามสงบส$ขอ�กคำรั�2งหน%�ง

2. อ�ทธิ�พลจากว�ชาช วว�ทยา แนว่คำ&ด้ของช้�ว่ว่&ที่ยาที่��ม�อ&ที่ธิ&พลต�อ Systems Approach ได้�แก�แนว่คำ&ด้ที่��ว่�าส�ตว่โลกที่$กป็รัะเภที่ม�คำว่ามเหม�อนก�นป็รัะการัหน%�งคำ�ออว่�ยว่ะที่$กส�ว่นจะแสด้งออกซึ่%�งคำว่ามรั�ว่มม�อต�างที่�าหน�าที่��ในส�ว่นของตนเพ��อป็รัะโยช้นของส�ว่นรัว่มเป็(นส�าคำ�ญ เช้�น เม��อที่�องห&ว่สายตาก+สอด้ส�ายหาอาหารั ม�อคำว่�าเข�าป็าก เคำ�2ยว่กล�นลงส/�กรัะเพาะ รัะบบการัเม�องใด้ ๆ ก+ไม�ได้�แตกต�างจากไป็จากรัะบบของส&�งม�ช้�ว่&ต รัะบบของส&�งม�ช้�ว่&ต ม�ล�กษณะส�าคำ�ญด้�งต�อไป็น�2

1. เป็(นรัะบบ เป็Jด้“ ” ม$�งรั�กษาสถึานภาพเด้&มโด้ยผู�านกรัะบว่นการัแป็รัเป็ล��ยนก�บส&�งแว่ด้ล�อม รัะบบเป็Jด้คำ�อรัะบบที่��ไม�สามารัถึป็Jด้ก�2นต�ว่เองออกจากสภาพแว่ด้ล�อมภายนอกได้�อย�างเด้+ด้ขาด้ สภาพแว่ด้ล�อมจะม�อ&ที่ธิ&พลต�อรัะบบตลอด้เว่ลา รัะบบการัเม�องก+เช้�นเด้�ยว่ก�นไม�สามารัถึอย/�ได้�อย�างโด้ด้เด้��ยว่ หากม�การัเป็ล��ยนแป็ลงที่างเศรัษฐก&จ ส�งคำม การัเม�องต�องได้�รั�บผูลกรัะที่บ เช้�น การัเป็ล��ยนแป็ลงที่างเศรัษฐก&จส�งผูลต�อรัะบบการัเม�อง การัเป็ล��ยนแป็ลงที่างส�งคำมป็รัะช้าช้นรัว่มต�ว่ก�นเป็(นกล$�ม องคำกรั สหภาพก+ส�งผูลกรัะที่บต�อการัเม�อง เม��อกล$�มเรั�ยกรั�องที่างการัเม�องส/งข%2น

2. ม�กลไกในการัรั�กษาตนเอง (Self Regulating System) ให�อย/�รัอด้ เป็(นกลไกอ�ตโนม�ต& เช้�น เม��อม�ส&�งแป็ลกป็ลอมเข�าตา หน�งตาจะป็Jด้อ�ตโนม�ต& เพ��อป็Bองก�นไม�ให�ส&�งแป็ลกป็ลอมเข�ามาส/�ด้ว่งตาได้� ถึ�าป็Jด้ไม�ที่�นกลไกอ�ตโนม�ต&จะที่�าให�น�2าตาไหลเพ��อช้ะล�างส&�งแป็ลกป็ลอมที่��เข�ามาได้�แล�ว่น�2น

Page 26: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 26 ~

ออกจากด้ว่งตาไป็ หรั�อเม��อม�ส&�งแป็ลกป็ลอมเข�าที่างจม/กกลไกอ�ตโนม�ต&จะที่�าให�รั�างกายจามเพ��อข�บส&�งแป็ลกป็ลอมน�2นออกไป็

รัะบบการัเม�องก+เช้�นก�นเม��อม�ป็@ญหาเก&ด้ข%2นในบ�านเม�อง เช้�น ม�ผู/�ก�อการัรั�ายลอบน�า RPG ไป็ย&งใส�ถึ�งน�2าม�นเป็ล�า ไม�ม�รั�ฐบาลใด้จะป็ล�อยให�เศษขยะเข�าตาโด้ยไม�ที่�าอะไรัเลย ต�องส$มห�ว่ก�นโด้ยอ�ตโนม�ต&หาที่างเย�ยว่ยาแก�ไขป็@ญหา เพ��อเสถึ�ยรัภาพของรั�ฐบาล

3. รัะบบของส&�งที่��ม�ช้�ว่&ตสามารัถึศ%กษาแยกแยะโคำรังสรั�างออกจากหน�าที่��ได้� เช้�น ศ%กษารั�างกายของมน$ษยโด้ยแยกออกเป็(นรัะบบย�อย เช้�น รัะบบสมอง รัะบบป็รัะสาที่ รัะบบหายใจ ฯลฯ แล�ว่ด้/ว่�าอว่�ยว่ะแต�ละส�ว่นที่�าหน�าที่��อะไรับ�าง เม��อน�าการัที่�าหน�าที่��ของอว่�ยว่ะที่�2งหมด้มารัว่มก�นก+จะได้�โคำรังสรั�างของมน$ษยหน%�งคำน

เช้�นเด้�ยว่ก�นเรัาสามารัถึศ%กษารัะบบการัเม�องไที่ยได้�โด้ยแยกออกมาเป็(นโคำรังสรั�าง (สถึาบ�น) ย�อย ๆ ได้�แก� สภาผู/�แที่นรัาษฎรั ว่$ฒ&สภา รั�ฐบาล พรัรัคำการัเม�อง องคำกรัอ&สรัะ กล$�มป็รัะช้าช้นที่��รัว่มต�ว่ก�นที่างการัเม�อง ฯลฯ แล�ว่พ&จารัณาว่�าแต�ละสถึาบ�นที่างการัเม�องเหล�าน�2นที่�าหน�าที่��ใด้ เม��อรัว่มเข�าด้�ว่ยก�นจะเห+นภาพของรัะบบการัเม�องไที่ย

4. รัะบบของส&�งที่��ม�ช้�ว่&ตจะม�รัะบบย�อยที่��เป็(นอ&สรัะ แต�ต�องพ%�งพาอาศ�ยซึ่%�งก�นและก�นและที่�างานเพ��อคำว่ามม��นคำงของรัะบบใหญ� เช้�น รัะบบรั�างกายมน$ษยม�โคำรังสรั�างซึ่�บซึ่�อนม�รัะบบย�อยภายในมากมาย แต�ละรัะบบที่�าหน�าที่��ของตนเองอย�างเป็(นอ&สรัะ ป็อด้ก+ที่�าหน�าที่��ฟอกโลห&ต ห�ว่ใจที่�าหน�าที่��ส/บฉ�ด้โลห&ต ที่$กรัะบบย�อยต�างที่�าหน�าที่��ของตนไป็ ถึ�ารัะบบย�อยที่$กรัะบบที่�าหน�าที่��ของตนได้�อย�างม�ป็รัะส&ที่ธิ&ภาพรั�างกายก+ย�อมแข+งแรัง เช้�นเด้�ยว่ก�นในรัะบบการัเม�องที่$กรัะบบถึ�าสถึาบ�นที่างการัเม�องอ�นเป็(นรัะบบย�อยภายในที่�าหน�าที่��อย�างด้�ม�ป็รัะส&ที่ธิ&ภาพ รัะบบการัเม�องจะไม�ว่$ �นว่ายไม�ข�ด้แย�ง ไม�ต�องมารั�องเพลงช้าต&หาคำว่ามสาม�คำคำ�ให�ว่$ �นว่ายก�นเหม�อนที่$กว่�นน�2

Page 27: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 27 ~

5. รัะบบของส&�งที่��ม�ช้�ว่&ตจะม�ล�าด้�บช้�2น (Hierarchy) ซึ่%�งศ%กษาได้�จากคำว่ามซึ่�บซึ่�อนของโคำรังสรั�าง มน$ษยเป็(นส�ตว่ช้�2นส/งม�โคำรังสรั�างรั�างกายที่��ซึ่�บซึ่�อนป็รัะกอบไป็ด้�ว่ยอว่�ยว่ะภายในมากมาย แพที่ยที่��เรั�ยนแคำ� 6 ป็Hเป็(นได้�แคำ�แพที่ยที่��ว่ไป็เที่�าน�2นถึ�าอยากจะเช้��ยว่ช้าญด้�านใด้ด้�านหน%�งโด้ยเฉพาะก+ต�องไป็เรั�ยนต�อให�ล%กซึ่%2งลงไป็ แต�อะม�บา โป็รัโตซึ่�ว่ ไส�เด้�อนเป็(นส�ตว่ช้�2นต��าโคำรังสรั�างรั�างกายไม�ซึ่�บซึ่�อน

รัะบบการัเม�องไม�แตกต�างจากรัะบบส&�งม�ช้�ว่&ต รัะบบการัเม�องที่��ม�คำว่ามซึ่�บซึ่�อนส/งคำ�อรัะบบการัเม�องที่��ป็รัะกอบไป็ด้�ว่ยองคำกรั สถึาบ�น กล$�มที่างการัเม�องเก&ด้ข%2นมากมาย ถึ�อเป็(นรัะบบการัเม�องที่��ที่�นสม�ย ส�ว่นรัะบบการัเม�องที่��ม�คำว่ามซึ่�บซึ่�อนต��าเรั�ยกว่�ารัะบบการัเม�องแบบด้�2งเด้&ม เช้�น รัะบบการัเม�องในส�งคำมช้นเผู�า ไม�ม�กรัะที่รัว่งที่บว่งกรัม ไม�ม�สภา ไม�ม�การัเล�อกต�2ง ไม�ม�การัรัว่มกล$�มที่างการัเม�องใด้ ๆ

ล�กษณะที่��ว่ไป็ของรัะบบ1. รัะบบของส&�งม�ช้�ว่&ตและรัะบบการัเม�องม�การัเป็ล��ยนแป็ลงตลอด้

เว่ลา เช้�น กรัะที่รัว่งที่บว่งกรัมเด้�Nยว่เพ&�มเด้�Nยว่ลด้เด้�Nยว่ย$บรัว่ม 2. ที่$กรัะบบจะม�ขอบเขตเส�นแบ�ง (Boundary) ในรัะหว่�างรัะบบก�บ

สภาพแว่ด้ล�อมภายนอก ขณะเด้�ยว่ก�นอาจจะม�รัะบบย�อยภายในต�ว่ของม�นเอง บางรัะบบม�รัะบบย�อยมาก บางรัะบบม�รัะบบย�อยภายในน�อย

3. ม�ป็@จจ�ยน�าเข�า (Input) ป็@จจ�ยส�งออก (Output) และส�ว่นที่��ย�อนกล�บ (Feedback) ป็รัากฏอย/� สามต�ว่น�2เป็(น Concept ส�าคำ�ญของ System Approach

4. ที่$กรัะบบม�คำว่ามส�มพ�นธิเช้��อมโยงก�บรัะบบอ��น ๆ ที่��อย/�ในสภาพแว่ด้ล�อมตลอด้เว่ลา ต�างฝ่ายต�างม�อ&ที่ธิ&พลซึ่%�งก�นและก�น

5. ที่$กรัะบบอาจจะม�คำว่ามม��นคำงหรั�อไม�ม��นคำงก+ได้�6. ที่$กรัะบบพยายามแสว่งหาด้$ลภาพให�เก&ด้ข%2นก�บตนเองตลอด้เว่ลา

ผู�านกลไกอ�ตโนม�ต&เพ��อรั�กษาคำว่ามอย/�รัอด้ของรัะบบ

Page 28: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 28 ~

7. รัะบบใด้ที่��ไม�สามารัถึแก�ไขป็@ญหาหรั�อตอบโต�อ&ที่ธิ&พลของส&�งแว่ด้ล�อมได้�ก+จะน�ามาส/�คำว่ามล�มสลายและแป็รัสภาพไป็ส/�รัะบบใหม�ได้�

8. ที่$กรัะบบม�เคำรั�อข�ายในการัส��อสารัคำอยส�งข�อม/ลป็Bอนกล�บ (Feedback) เพ��อน�าไป็ส/�การัแก�ไขป็รั�บป็รั$งต�ว่เองตลอด้เว่ลา ให�สามารัถึเย�ยว่ยาป็@ญหาที่��เก&ด้ข%2นได้�อย�างม�ป็รัะส&ที่ธิ&ภาพ

ต�วแบบแนวการุว� เคิรุาะห�รุ ะบบข้องเดว�ด อ สต�น (David

Easton)

จากต�ว่แบบม� Concept ส�าคำ�ญอย/� 4 ต�ว่ใช้�ในการัศ%กษาที่�าคำว่ามเข�าใจป็รัากฏการัณที่างการัเม�อง ได้�แก�

1. Political System 2. Input3. Output4. Feedback

1. รุะบบการุเมื�อง (Political System หรุ�อ Black Box)

-เดว�ด อ สต�น (David Easton) เจ�าของที่ฤษฎ�รัะบบอธิ&บายว่�า รัะบบการัเม�อง หมายถึ%ง รัะบบการัใช้�อ�านาจในการัแจกแจงแบ�งสรัรัที่รั�พยากรัของส�งคำมโด้ยผูลที่��ได้�จากการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจจะบ�งคำ�บใช้�ก�บสมาช้&กที่$กคำนในส�งคำม

องคิ�ปรุะกอบข้องรุะบบการุเมื�อง ที่$กรัะบบการัเม�องม�องคำป็รัะกอบที่��ส�าคำ�ญด้�งต�อไป็น�2

Inputs

Political System

Outputs

Feed

Environ

Page 29: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 29 ~

1.1 Political Community คิวามืเป�นปรุะชาคิมืในทางการุเมื�อง หมายถึ%ง คำว่ามรั/ �ส%กของคำนในรัะบบการัเม�องน�2น ๆ ที่��รั/ �ส%กว่�าตนเป็(นส�ว่นหน%�งของรัะบบการัเม�อง ม�คำว่ามจงรั�กภ�กด้�ในคำว่ามเป็(นหน�ว่ยการัเม�องเด้�ยว่ก�น ย&นด้�จะเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มสรั�างสรัรัคำภายในรัะบบการัเม�องด้�ว่ยคำว่ามเต+มใจ เช้�น ย&นด้�ที่��จะเส�ยภาษ� เช้��อฟ@งป็ฏ&บ�ต&ตามกฎหมาย ถึ�าคำว่ามรั/ �ส%กแบบน�2ม�มากคำว่ามม��นคำงในช้าต&จะมากตามไป็ด้�ว่ย

1.2 Political Regime รุะบอบการุปกคิรุอง หมายถึ%ง รั/ป็แบบหรั�อว่&ธิ�การัในการับรั&หารับ�านเม�อง อาจจะเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตยรัะบบป็รัะธิานาธิ&บด้� รัะบบรั�ฐสภา เผูด้+จการัที่หารั เผูด้+จการัพลเรั�อน อ�านาจน&ยม แต�ที่$กรัะบบการัเม�องจะม�รั/ป็แบบการัป็กคำรัองอย�างใด้อย�างหน%�งป็รัากฏอย/�

1.3. Political Authorities ผ)#มื อ�านาจทางการุเมื�อง หมายถึ%ง รั�ฐบาลผู/�ที่�าหน�าที่��บ�าบ�ด้ที่$กข บ�ารั$งส$ข แจกแจงแบ�งสรัรัส&�งที่��ม�คำ$ณคำ�าในส�งคำม แก�ป็@ญหาให�ก�บป็รัะช้าช้น

2. Input หมายถึ%ง ป็@จจ�ยที่��อย/�ในรั/ป็ของข�อม/ลหรั�อข�าว่สารัที่��น�าเข�าส/�รัะบบการัเม�อง แบ�งได้� 2 รั/ป็แบบใหญ�ๆ คำ�อ ข�อเรั�ยกรั�อง (Demand)

และการัสน�บสน$น (Support)

2.1 Demand (ข้#อเรุ ยกรุ#อง) คำ�อ ข�อม/ลข�าว่สารัที่��ส�งเข�าส/�รัะบบการัเม�อง โด้ยม�จ$ด้ม$�งหมายให�รัะบบการัเม�องด้�าเน&นการัหรั�อไม�ด้�าเน&นการัในเรั��องใด้ ๆ เช้�น ในว่�นแรังงานแห�งช้าต&สมาพ�นธิผู/�ใช้�แรังงานเรั�ยกรั�องให�รั�ฐบาลข%2นคำ�าแรังข�2นต��าอ�ก 20 บาที่ หรั�อช้าว่บ�านอ�าเภอจะนะ เรั�ยกรั�องไม�ให�สรั�างโรังแยกก;าซึ่ในพ�2นที่��ตน

สาเหต$ที่��ก�อให�เก&ด้ Demand

2.1.1 สาเหต$ภายใน เช้�น -ว่�ฒนธิรัรัม คำว่ามคำ&ด้ คำว่ามเช้��อของคำนในส�งคำมแป็รัเป็ล��ยนไป็

ม�รัะด้�บของ Secularization (คำว่ามเช้��อแบบม�เหต$ม�ผูล) ส/งข%2น

Page 30: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 30 ~

ป็รัะช้าช้นไม�เช้��ออ�กต�อไป็ว่�าผู/�ป็กคำรัองคำ�อต�ว่แที่นที่��สว่รัรัคำส�งมาป็กคำรัองเรัา เป็(นผู/�ม�บ$ญญาว่าสนาที่��ป็รัะช้าช้นต�องเช้��อฟ@ง จรั&ง ๆ แล�ว่ผู/�ป็กคำรัองก+คำ�อคำนธิรัรัมด้า ๆ เหม�อนเรัา ไม�ใช้�เที่ว่ด้ามาจากไหน เม��อเรัาเล�อกต�ว่แที่นไป็แล�ว่เขาไม�ที่�าตามส�ญญาป็รัะช้าช้นก+ม�ส&ที่ธิ&รัว่มต�ว่ก�นเรั�ยกรั�องต�อต�ว่แที่นได้� ในส�งคำมแบบน�2 Demand จะเพ&�มส/งข%2น

-รัะด้�บการัพ�ฒนาอ$ตสาหกรัรัม (Industrialization) ส/งข%2น ในส�งคำมที่�นสม�ยคำนเข�ามาอาศ�ยอย/�ในเม�องเพ��อที่�างานในโรังงานอ$ตสาหกรัรัมม�โอกาสรั�บส��อมากข%2น ที่�าให�คำว่ามคำ&ด้คำว่ามเช้��อของคำนเป็ล��ยนไป็และม� Demand ต�อรัะบบการัเม�องมากข%2น

2.1.2 สาเหต$ภายนอก คำ�อ อ&ที่ธิ&พลจากต�างป็รัะเที่ศ การัส��อสารัที่��ที่�นสม�ยที่�าให�ป็รัะช้าช้นม�โอกาสเห+นภาพข�าว่จากต�างป็รัะเที่ศ ได้�เห+นคำว่ามเจรั&ญของบ�านเม�องที่��ป็กคำรัองในรัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย เป็Jด้โอกาสให�ป็รัะช้าช้นเข�าไป็ม�ส�ว่นรั�ว่มก�าหนด้ช้ะตาช้�ว่&ตตนเองได้�อย�างเสรั�ก+น�ามาเป็รั�ยบเที่�ยบก�บบ�านเม�องของตน น�าไป็ส/�การัเก&ด้ Demand เพ&�มข%2น

ป็@จจ�ยที่��ที่�าให� Demand ส�มฤที่ธิ&ผูล1. ล�กษณะของกล$�ม ที่�2งในแง�ของขนาด้ การัจ�ด้องคำกรั และ

ที่รั�พยากรัของกล$�ม กล�าว่คำ�อถึ�ากล$�มม�ขนาด้ใหญ�โอกาสที่��ข�อเรั�ยกรั�องของกล$�มจะได้�รั�บการัสนองตอบย�อม�มากกว่�าข�อเรั�ยกรั�องของกล$�มที่��ม�ขนาด้เล+ก

-กล$�มใด้ม�การัจ�ด้องคำกรัด้� ม�การัแบ�งงานก�นที่�าและป็รัะสานสอด้คำล�องก�นได้�เป็(นอย�างด้�ข�อเรั�ยกรั�องย�อมได้�รั�บการัตอบสนองได้�เรั+ว่กว่�า

-กล$�มที่��ม�เง&นหนาหน$นอย/�ข�างหล�งได้�รั�บการัสน�บสน$นจาก NGOs

กล$�มน�2นกล$�มน�2 ข�อเรั�ยกรั�องย�อมม�โอกาสที่��จะได้�รั�บการัสนองตอบจากรั�ฐบาลมากกว่�ากล$�มที่��ม�ที่รั�พยากรัน�อย เพรัาะกล$�มที่��ยากไรั�เรั�ยกรั�องได้�ไม�นานก+ต�องกล�บไป็เพรัาะขาด้ที่รั�พยากรัในการัช้$มน$มเรั�ยกรั�อง แต�กล$�มที่��ม�เง&นหนาสามารัถึป็รัะที่�ว่งได้�นานน�บเด้�อนที่�าให�รั�ฐบาลต�องลงมารั�บฟ@งป็@ญหา

Page 31: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 31 ~

-กล$�มใด้ที่��ผู/�น�าม�ภาว่ะผู/�น�าส/ง พ/ด้จ/งใจคำนเก�ง สามารัถึที่�าให�น�กหน�งส�อพ&มพสนใจมาที่�าข�าว่ตลอด้เว่ลา คำว่ามต�องการัของกล$�มน�2นย�อมม�โอกาสที่��จะได้�รั�บการัสนองตอบจากรั�ฐบาลมากกว่�า

-เป็Bาหมายของกล$�ม ถึ�าช้�ด้เจนและเป็(นไป็ในที่&ศที่างเด้�ยว่ก�บนโยบายของรั�ฐบาลพอด้�โอกาสในการัได้�รั�บการัตอบสนองก+จะม�ส/ง

2. นโยบาย ถึ�าส&�งที่��กล$�มเรั�ยกรั�องตรังก�บที่��รั �ฐบาลได้�ว่างนโยบายเอาไว่�แล�ว่ ย�อมได้�รั�บการัสนองตอบอย�างรัว่ด้เรั+ว่

3. โคำรังสรั�างของรั�ฐบาล ถึ�าข�อเรั�ยกรั�องน�2นเป็(นข�อเรั�ยกรั�องที่��ม�หน�ว่ยงานของรั�ฐบาลรัองรั�บโอกาสที่��จะรั�บการัตอบสนองจะม�ส/ง

2.2 Support (การุสน�บสน�น) หมายถึ%ง ข�อม/ลหรั�อข�าว่สารัที่��เข�าส/�รัะบบการัเม�อง โด้ยม�ที่&ศที่างที่��เป็(นไป็ในแง�บว่กหรั�อสน�บสน$นต�อรัะบบการัเม�องที่��เป็(นอย/�ในขณะน�2น Demand เป็(นต�ว่สรั�าง Political Stress

ให�รั�ฐบาลต�องหาที่างเย�ยว่ยาแก�ไข แต� Support ที่�าให�รั�ฐบาลย&2มได้� เช้�น ป็รัะช้าช้นมาช้/ป็Bายสน�บสน$นหรั�อมอบด้อกไม�ให�นายกรั�ฐมนตรั� หรั�อการัที่��ป็รัะช้าช้นย&นด้�ป็ฏ&บ�ต&ตามกฎหมายและเส�ยภาษ�ถึ�อว่�าเป็(นส�ว่นหน%�งของ Support

Demand ม�ที่&ศที่างเด้�ยว่คำ�อเรั�ยกรั�องต�อรั�ฐบาลหรั�อผู/�ม�อ�านาจที่างการัเม�อง (Political Authority) แต� Support ม�ถึ%ง 3 ที่&ศที่าง ได้�แก�

2.2.1 การุสน�บสน�นต6อคิวามืเป�นปรุะชาคิมืทางการุเมื�อง (Political Community) หมายคำว่ามว่�า คำนในส�งคำมม�คำว่ามรั/ �ส%กเป็(นเอกภาพกลมเกล�ยว่ก�นในช้าต&ส/ง ม�คำว่ามรั/ �ส%กเป็(นอ�นหน%�งอ�นเด้�ยว่ก�น เต+มใจเคำารัพกฎกต&กา ป็รัะเที่ศช้าต&น�2นก+จะม�คำว่ามม��นคำงในช้าต&ส/ง ในที่างตรังก�นข�ามถึ�าคำนไม�ให�การัสน�บสน$นไม�ยอมรั�บว่�าตนเองเป็(นส�ว่นหน%�งของป็รัะเที่ศช้าต& ไม�ยอมรั�บในส�ญล�กษณของคำว่ามเป็(นช้าต& ส&�งที่��จะตามมาคำ�อสงคำรัามแบ�งแยกด้&นแด้น เช้�น กรัะเหรั��ยง KNU ที่��พยายามแบ�งแยกด้&น

Page 32: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 32 ~

แด้นเพรัาะไม�เคำยยอมรั�บว่�าตนเองเป็(นส�ว่นหน%�งของช้าต&พม�า ส�าหรั�บสามจ�งหว่�ด้ช้ายแด้นภาคำใต�ของไที่ยอาจม�คำนบางกล$�มเป็(นกล$�มเล+ก ๆ คำ&ด้ถึ%งการัแบ�งแยกด้&นแด้น แต�ไม�ม�ใคำรัออกมาป็รัะกาศอย�างช้�ด้เจน ม�แต�การักล�าว่อ�างต�อ ๆ ก�นมา

2.2.2 การุสน�บสน�บสน�นต6อรุะบบการุปกคิรุอง (Political

Regime) ถึ�าป็รัะช้าช้นยอมรั�บในรัะบอบการัป็กคำรัองที่��ใช้�อย/�รัะบอบการัป็กคำรัองน�2นก+จะม�เสถึ�ยรัภาพ แต�ถึ�าป็รัะช้าช้นไม�ให�การัสน�บสน$นรัะบอบการัป็กคำรัองก+จะล�มล�างรัะบอบน�2นน�ารัะบอบใหม�มาแที่นที่��เรั�ยกว่�าป็ฏ&ว่�ต&

2.2.3 การุสน�บสน�นต6อผ)#มื อ�านาจทางการุเมื�อง (Political

Authorities) หรั�อรั�ฐบาล ถึ�าป็รัะช้าช้นให�การัสน�บสน$นรั�ฐบาล ๆ ก+จะม�เสถึ�ยรัภาพ แต�ถึ�าป็รัะช้าช้นไม�เอาด้�ว่ยไม�ให�การัสน�บสน$นรั�ฐบาลอ�กต�อไป็ ส&�งที่��จะเก&ด้ข%2นตามมาก+คำ�อการัรั�ฐป็รัะหารัเพ��อล�มรั�ฐบาล เหต$การัณน�2ม�กเก&ด้ข%2นบ�อยคำรั�2งในป็รัะเที่ศก�าล�งพ�ฒนา เรั�ยนมาถึ%งตรังน�2น�กศ%กษาคำงถึ%งบางอ�อแล�ว่ว่�าป็ฏ&ว่�ต&ก�บรั�ฐป็รัะหารัน�2นไม�ใช้�เรั��องเด้�ยว่ก�น อย�าเรั�ยกม��ว่ ๆ อ�กต�อไป็อาจารัยขอรั�อง ส��อมว่ลช้นม�กเรั�ยกผู&ด้อย/�เสมอ แม�แต�พว่กที่�ารั�ฐป็รัะหารัเองย�งเรั�ยกต�ว่เองว่�าคำณะป็ฏ&ว่�ต&เลย เม�องไที่ยม�ป็ฏ&ว่�ต&คำรั�2งเด้�ยว่คำ�อ 24

ม&ถึ$นายน 2475

3. Output หมายถึ%ง ผูลของการัต�ด้ส&นใจของผู/�ม�อ�านาจหน�าที่��ที่างการัเม�อง (รั�ฐบาล) ซึ่%�งเก��ยว่ข�องก�บการัแจกแจงแบ�งสรัรัส&�งที่��ม�คำ$ณคำ�าของส�งคำม สรั�างคำว่ามก&นด้�อย/�ด้�ให�ก�บป็รัะช้าช้น อาจออกมาในรั/ป็ มต& คำรัม.

กฎหมาย กฎกรัะที่รัว่ง ซึ่%�งผูลจากการัต�ด้ส&นใจจะม�ผูลผู/กพ�นก�บสมาช้&กที่$กคำนของรัะบบการัเม�อง เช้�น กรัรัมกรัเรั�ยกรั�องให�รั�ฐบาลเพ&�มคำ�าแรังข�2นต��า อ�ก 20 บาที่ คำรัม.ต�ด้ส&นใจเป็(นมต& คำรัม.ออกมาให�เพ&�มคำ�าแรังข�2นต��าอ�ก 5

บาที่ โด้ยเช้��อว่�า 5 บาที่น�2จะที่�าให�กรัรัมกรัพอใจ 4. Feedback หมายถึ%ง กรัะบว่นการัในการัส�งข�าว่สารัเก��ยว่ก�บ

สภาพและผูลที่��ตามมาของการัต�ด้ส&นใจและการัด้�าเน&นการัด้�านต�างๆของ

Page 33: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 33 ~

รัะบบการัเม�องกล�บส/�ผู/�ม�อ�านาจที่างการัเม�องอ�กคำรั�2งหน%�ง Feedback จะเป็(นต�ว่ป็รัะเม&นให�ที่รัาบว่�าการัต�ด้ส&นใจของรั�ฐบาลสามารัถึแก�ไขเย�ยว่ยาป็@ญหาคำว่ามต�องการัที่��ป็รัะช้าช้นเรั�ยกรั�องได้�จรั&งหรั�อไม� มากน�อยเพ�ยงใด้ ย�งม�กล$�มใด้ที่��ย�งยอมรั�บไม�ได้� กล$�มใด้ที่��ย�งม�ข�อแม�หรั�อข�อเรั�ยกรั�องอย/� ส�าหรั�บกล$�มที่��ย�งไม�ยอมรั�บเป็(นเพรัาะอะไรั จ�าเป็(นหรั�อไม�ที่��จะต�องออกมาตรัการัเสรั&ม เช้�น ให�รั�ฐเพ&�มสว่�สด้&การัให�แก�กรัรัมกรั ม�ป็รัะก�นส$ขภาพ ป็รัะก�นการัว่�างงาน เป็(นต�น

*************************************************************

คำ�าศ�พที่รั�ฐศาสตรั1.domination [N] ; การัม�อ�านาจเหน�อกว่�า ,การัป็กคำรัอง2.colonial [ADJ] ; เก��ยว่ก�บอาณาน&คำม

3.independent [ADJ] ; ซึ่%�งเป็(นอ&สรัะSyn. autonomous; self-governing; freeAnt. dependent

Page 34: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 34 ~

Relate. ซึ่%�งป็กคำรัองตนเอง, ซึ่%�งไม�อย/�ในบ�งคำ�บ, ซึ่%�งไม�เป็(นเม�องข%2น, ซึ่%�งเป็(นเอกรัาช้

independent [N] ; คำนที่��พ%�งตนเองAnt. dependentRelate. ผู/�เป็(นอ&สรัะ, ผู/�เป็(นเอกรัาช้, ผู/�ไม�อย/�ใต�บ�งคำ�บบ�ญช้าของใคำรั

independence [N] ; คำว่ามเป็(นอ&สรัะAnt. dependenceRelate. อ&สรัภาพ

4. participation [N] ; การัม�ส�ว่นรั�ว่มSyn. cooperation; sharingRelate. การัเข�ารั�ว่ม, การัรั�ว่มม�อ

5. familiar [ADJ] ; คำ$�นเคำยSyn. customary; well-knownAnt. strange; unfamiliarRelate. เคำยช้&น, ซึ่%�งเป็(นที่��รั/ �จ�ก

familiar [N] ; เพ��อนสน&ที่Syn. comrade; friend; intimateAnt. enemy; foeRelate. คำนคำ$�นเคำย, คำนสน&ที่สนม

6. democratic [ADJ] ; เก��ยว่ก�บป็รัะช้าธิ&ป็ไตยSyn. egilitarianRelate. เก�ยว่ก�บคำว่ามเสมอภาคำ

7. democracy [N] ; การัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยSyn. republic commonwealthRelate. รัะบอบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย, ป็รัะเที่ศที่��ป็กคำรัองด้�ว่ยรัะบอบป็รัะช้าธิป็

Page 35: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 35 ~

ไตย

democracy [N] ; ป็รัะช้าธิ&ป็ไตยSyn. citizentry egalitarianismRelate. คำว่ามเป็(นป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

8. youthful [ADJ] ; หน$�ม,สาว่,อ�อนอาย$,เยาว่,อาย$น�อย,ด้รั$ณ , S. youthfulness n. , S. young,juvenile

9. progressive [ADJ] ; ที่��ด้�าเน&นต�อเน��องไป็ (ที่างไว่ยากรัณ)Syn. continuous

progressive [ADJ] ; ที่��เคำล��อนที่��ไป็ข�างหน�าSyn. movingAnt. immovable

progressive [ADJ] ; ที่��ก�าว่หน�าข%2นSyn. successive; growingAnt. retrogressiveRelate. ที่��พ�ฒนาข%2น

10. appreciate [VT] ; ส�าน%กบ$ญคำ$ณSyn. thank; welcome; be appreciativeRelate. เห+นคำ$ณคำ�า, ส�าน%กคำ$ณคำ�า

appreciate [VT] ; ยกย�องSyn. value; esteem; cherishAnt. despise; disdainRelate. ช้��นช้ม

appreciate [VI] ; (รัาคำา) ข%2น

appreciate [VT] ; ข%2นรัาคำา

Page 36: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 36 ~

atmosphere [N] ; อากาศSyn. air

11. atmosphere [N] ; ช้�2นบรัรัยากาศSyn. layer of air; gaseous envelope

atmosphere [N] ; บรัรัยากาศที่��น�าสนใจของสถึานที่��

atmosphere [N] ; ภ/ม&อากาศSyn. climateRelate. สภาว่ะอากาศ

atmosphere [N] ; อารัมณหรั�อการัให�ส�ของงานศ&ลป็Omonarchy [N] ; ป็รัะเที่ศที่��ม�พรัะมหากษ�ตรั&ยเป็(นป็รัะม$ข

12. monarchy [N] ; การัป็กคำรัองโด้ยม�พรัะมหากษ�ตรั&ยเป็(นป็รัะม$ขSyn. kingship; sovereigntyRelate. รัาช้าธิ&ป็ไตย, รัะบอบกษ�ตรั&ย

13. revolution [N] ; การัหม$นหน%�งรัอบSyn. circle; rotation

14. revolution [N] ; ว่�ฏจ�กรัSyn. cycle

revolution [N] ; การัเป็ล��ยนแป็ลงอย�างส&2นเช้&งSyn. innovation; transformation

revolution [N] ; การัป็ฏ&ว่�ต&Syn. mutiny; rebellion; revoltregime [N] ; รัะบอบการัป็กคำรัองSyn. management; system

Page 37: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 37 ~

15. southeast asia [N] ; ภ/ม&ภาคำเอเช้�ยตะว่�นออกเฉ�ยงใต�

16. desire [VT] ; ป็รัารัถึนาSyn. demand; ask for; requireAnt. hate; dislike; loatheRelate. อยาก, ต�องการั, ป็รัะสงคำ

desire [N] ; คำว่ามป็รัารัถึนาSyn. will; wish; dun; hopeAnt. distaste; dislikeRelate. คำว่ามอยาก, คำว่ามป็รัะสงคำ, คำว่ามต�องการั16. demonstrate [VT] ; อธิ&บายSyn. explain; describe; expressRelate. ให�เหต$ผูล

demonstrate [VI] ; ป็รัะที่�ว่งSyn. protest

demonstrate [VT] ; พ&ส/จนSyn. show; prove; confirmRelate. ที่ด้ลองให�เห+น

demonstrate [VT] ; สาธิ&ตSyn. show; prove; exibitRelate. แสด้ง, แสด้งให�เห+น

17. promote [VT] ; ช้�ว่ยเหล�อให�ด้�ข%2นSyn. push; boost; nourish; nurtureAnt. discourage; weakenRelate. ส�งเสรั&ม, โฆ่ษณา

promote [VT] ; เล��อนต�าแหน�งSyn. advance; raise

Page 38: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 38 ~

Ant. humble; demote

18. equality [N] ; คำว่ามเที่�าเที่�ยมSyn. balance; parity; uniformityRelate. คำว่ามเสมอภาคำ

19. parliamentary democracy การัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย(1) รั�ฐสภาการัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยรั�ฐสภา

20. duplicate [N] ; ส�าเนาSyn. copy; replica; photocopyAnt. originalRelate. ส&�งที่��เหม�อนก�น

duplicate [VT] ; เพ&�มเป็(น 2 เที่�าSyn. redouble; repeat; reproduce; doubleAnt. halveRelate. ที่�าเป็(น 2 เที่�า

duplicate [ADJ] ; เหม�อนก�นSyn. identical; like; sameAnt. different; opposed

duplicate [VT] ; จ�าลองSyn. reproduce; copy counterfeit

21. president [N] ; ป็รัะธิานSyn. director; chairman; VIPAnt. laborerRelate. อธิ&การับด้�, ผู/�ม�อ�านาจในการับรั&หารั, บ$คำคำลส�าคำ�ญขององคำกรั

president [N] ; ป็รัะธิานาธิ&บด้�

Page 39: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 39 ~

Relate. ที่�าซึ่�2า, ถึ�ายส�า

22. exception [N] ; คำนที่��ได้�รั�บการัยกเว่�นRelate. คำนที่��ถึ/กยกเว่�น

exception [N] ; ข�อยกเว่�นSyn. irregularityRelate. การัยกเว่�น

region [N] ; ภ/ม&ภาคำSyn. country; districtRelate. แคำว่�น

region [N] ; ขอบเขตSyn. area; landRelate. แถึบ, บรั&เว่ณ

23. political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บพรัรัคำการัเม�อง

political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บรั�ฐบาลRelate. เก��ยว่ก�บรั�ฐ

political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บการัป็กคำรัองSyn. legislativeRelate. เก��ยว่ก�บการัเม�อง

political [ADJ] ; เก��ยว่ก�บพลเม�อ

24.firmly [ADV] ; อย�างหน�กแน�นRelate. อย�างม��นคำง, อย�างเหน�ยว่แน�น

sultanate [N] ; อ�านาจหรั�ออาณาจ�กรัของส$ลต�าน

Page 40: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 40 ~

25.abundance [N] ; คำว่ามอ$ด้มสมบ/รัณSyn. bounty; profusionRelate. คำว่ามอ$ด้ม, คำว่ามสมบ/รัณ, คำว่ามมากมาย

26. resource [N] ; ที่รั�พยากรัSyn. reserved supply

resource [N] ; แหล�งที่��มาSyn. means; deviceRelate. ว่&ธิ�การั

resource [N] ; ป็ฏ&ภานSyn. ability; cleverness; initiativeRelate. ไหว่พรั&บ

27.peaceful [ADJ] ; ซึ่%�งยอมตามRelate. ซึ่%�งโอนอ�อน, ซึ่%�งผู�อนตาม

peaceful [ADJ] ; สงบSyn. calm; even; impassiveAnt. disturbedRelate. ซึ่%�งม�รัะเบ�ยบ, เง�ยบสงบ

28.absolute monarchy [N] ; รัาช้าธิ&ป็ไตยแบบสมบ/รัณาญาส&ที่ธิ&รัาช้ (not limited by laws)

29.population [N] ; ป็รัะช้ากรัSyn. inhabitants; dwellers; citizenry; groupRelate. พลเม�อง, รัาษฎรั

population [N] ; กล$�มพ�ช้และส�ตว่ที่��อาศ�ยอย/�ในบรั&เว่ณหน%�ง

Page 41: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 41 ~

30. facility [N] ; ส&�งอ�านว่ยคำว่ามสะด้ว่ก

facility [N] ; คำ$ณสมบ�ต&พ&เศษของเคำรั��องจ�กรัหรั�อการับรั&การัต�างๆSyn. extra feature

31. ivelihood [N] ; คำว่ามเป็(นอย/�Syn. sustenance; subsistenceRelate. การัด้�ารังช้�ว่&ต, การัคำรัองช้�พ

32. gain [N] ; จ�านว่นที่��เพ&�มข%2นSyn. increase; enlargementAnt. decrease; reductionRelate. ป็รั&มาณที่��ขยายออก

gain [VT] ; ได้�รั�บSyn. earn; obtain; procure; receiveAnt. loseRelate. ส�าเรั+จ, บรัรัล$, ได้�ก�าไรั, ได้�ป็รัะโยช้น, เอาช้นะจนได้�บางส&�งมา

gain [VT] ; เพ&�มSyn. increase; enlarge; expandAnt. decrease; lessenRelate. ที่�าให�มากข%2น

gain [N] ; ผูลป็รัะโยช้นSyn. benefit; advantage; profitRelate. ผูลก�าไรั

gain [VT] ; ไป็ถึ%งSyn. reachRelate. มาถึ%ง

33. instability [N] ; คำว่ามไม�ม��นคำง

Page 42: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 42 ~

Relate. คำว่ามไม�แน�นอน, การัไม�ม�เสถึ�ยรัภาพ, คำว่ามล�งเลใจ

34. struggle [N] ; การัต�อส/�Syn. battle; combat; fightRelate. การัแข�งข�น

struggle [N] ; คำว่ามพยายามSyn. effort; exertion; strainRelate. การัฝ่Fาฟ@น, การัด้&2นรัน

struggle [VI] ; ต�อส/�Syn. battle; combat; fightRelate. แข�งข�น

struggle [VI] ; ด้&2นรันSyn. exert; strain; striveRelate. พยายาม

35. insurgence [N] ; การัจลาจลSyn. rebellion; revoltAnt. obedience; complianceRelate. การัก�อจลาจล, การัป็รัะที่�ว่ง

36. led เป็(นผู/�น�า(1)

เป็(นผู/�น�า37. minority [N] ; คำว่ามเป็(นผู/�เยาว่ (ที่างกฎหมาย)Syn. childhood; immaturity

minority [N] ; คำนกล$�มน�อยSyn. small quantityAnt. majority

Page 43: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 43 ~

Relate. ช้นกล$�มน�อย, เส�ยงข�างน�อย, ส�ว่นน�อย

38. caretaker [ADJ] ; ที่��เข�ามาด้/แลช้��ว่คำรัาว่

caretaker [N] ; ผู/�ที่��รั �บจ�างด้/แลSyn. keeper; custodian

39. barrack [VT] ; จ�ด้ที่หารัเข�าคำ�ายพ�ก

barrack [N] ; คำ�ายที่หารัSyn. billetRelate. โรังที่หารั

40. attempt [N] ; คำว่ามพยายามSyn. try; endeavorRelate. คำว่ามมานะ, คำว่ามอ$ตสาหะ

attempt [VT] ; พยายามSyn. try; endeavorRelate. หาที่าง, ขว่นขว่าย

41. election [N] ; การัเล�อกRelate. การัคำ�ด้สรัรั

42. risk [N] ; ภ�ยอ�นตรัายSyn. danger; hazard; insecurityRelate. อ�นตรัาย, การัเส��ยงภ�ย

risk [N] ; การัเส��ยงSyn. chance; gamble

risk [VT] ; เส��ยงที่�าSyn. gamble; venture

Page 44: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 44 ~

Relate. เส��ยง, ลอง

risk [VT] ; เส��ยงภ�ยSyn. endanger; hazardRelate. เส��ยงอ�นตรัาย

43. coup d'etat [N] ; การัรั�ฐป็รัะหารัSyn. putsch; takeoverRelate. การัช้&งอ�านาจ, การัป็ฏ&ว่�ต&

44. dictatorial [ADJ] ; เก��ยว่ก�บเผูด้+จการัSyn. tyrannical; autocraticAnt. democraticRelate. ซึ่%�งใช้�อ�านาจส��งให�คำนอ��นที่�าตามใจต�ว่เองโด้ยไม�ม�เหต$ผูล, เก��ยว่ก�บการักด้ข��ข�มเหง45. state peace คำว่ามสงบเรั�ยบรั�อย(1) สภาพคำว่ามสงบเรั�ยบรั�อยสภาพpeace [N] ; คำว่ามสงบเรั�ยบรั�อยSyn. concord; conformity; harmonyAnt. discord; conflictRelate. ส�นต&ภาพ, คำว่ามสงบ, ส�นต&

peace [N] ; สนธิ&ส�ญญาส�นต&ภาพ

46. council [N] ; สภาRelate. สภาที่�องถึ&�น, สภาเที่ศบาล

council [N] ; การัป็รัะช้$มเพ��อป็รั%กษาหารั�อ

council [N] ; คำณะกรัรัมการัSyn. committee

Page 45: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 45 ~

47. maintain [VT] ; รั�กษาSyn. sustain; keep up; preserveRelate. ด้/แลต�อไป็, คำงอย/�, ด้�ารัง, คำงเอาไว่�, ที่รังไว่�, รั�กษาไว่�

48. opposition [N] ; ฝ่Fายคำ�านAnt. GovernmentRelate. พรัรัคำฝ่Fายคำ�าน

opposition [N] ; การัคำ�ด้คำ�านSyn. resistance; obstructionAnt. compliance; agreementRelate. การัต�อต�าน, การัเป็(นป็รัป็@กษ, การัเป็(นศ�ตรั/

opposition [N] ; ผู/�ต�อต�านSyn. antagonist; opponentAnt. ally; friendRelate. ผู/�คำ�ด้คำ�าน, คำ/�ต�อส/�

opposition [N] ; ฝ่Fายคำ�านAnt. GovernmentRelate. พรัรัคำฝ่Fายคำ�าน

49. democratic movement กรัะบว่นการั(1) ป็รัะช้าธิ&ป็ไตยกรัะบว่นการัป็รัะช้าธิ&ป็ไตย

50. national league สหพ�นธิ(1) ป็รัะช้าช้นสหพ�นธิป็รัะช้าช้น

51. ethnic [ADJ] ; เก��ยว่ก�บช้าต&พ�นธิ$Relate. เก��ยว่ก�บเช้�2อช้าต&, เก��ยว่ก�บเผู�าพ�นธิ$

Page 46: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 46 ~

52. maltreatment [N] ; การัที่ารั$ณSyn. injustice; injury; abuse; violationRelate. การักรัะที่�าผู&ด้, การัป็รัะที่$ษรั�าย, การัป็ฏ&บ�ต&ไม�ด้�

53. the american presidential democracy การัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตย(1) ป็รัะธิานาธิ&บด้�อเมรั&กาการัป็กคำรัองแบบป็รัะช้าธิ&ป็ไตยป็รัะธิานาธิ&บด้�อเมรั&กา

54. implement [VT] ; ที่�าให�ม�ผูลSyn. achieve; carry out; execute; fulfillRelate. ที่�าให�บรัรัล$ผูล, ที่�าให�ส�าเรั+จ, ที่�าให�เก&ด้ป็รัะโยช้น

implement [VT] ; จ�ด้เตรั�ยมเคำรั��องม�อหรั�อว่&ธิ�การัไว่�ให�

implement [N] ; อ$ป็กรัณเคำรั��องใช้�Syn. instrument; toolRelate. เคำรั��องม�อ

55. apparent [ADJ] ; ช้�ด้เจนSyn. obvious; evidentRelate. เด้�นช้�ด้

apparent [ADJ] ; ซึ่%�งเห+นได้�Syn. visible

56. competition [N] ; การัแข�งข�นSyn. rivalry; contest; contention

57. civilian [N] ; พลเรั�อน,น�กศ%กษากฎหมายแพ�ง

58. politician [N] ; ผู/�แสว่งต�าแหน�งอ�านาจเพ��อป็รัะโยช้นส�ว่นตน

politician [N] ; ผู/�ด้�ารังต�าแหน�งหน�าที่��ที่างการัเม�อง

Page 47: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 47 ~

politician [N] ; น�กการัเม�องSyn. party man; partisan; demagogue; congressmanRelate. ผู/�เล�นการัเม�อง

59. tumultuously [ADV] ; อย�างอ%กที่%กคำรั%กโคำรัม

60. declare [VT] ; ป็รัะกาศSyn. adjudge; announce; proclaim; pronounceRelate. ก�าหนด้, แถึลง, แจ�ง

declare [VI] ; ออกคำ�าส��งSyn. adjudge; announce; proclaim; pronounceRelate. ก�าหนด้, ป็รัะกาศ, แถึลงการัณ, แจ�ง

declare [VT] ; ส�าแด้งSyn. make a declarationRelate. แสด้งรัายการัตามข�อก�าหนด้ เช้�น ภาษ�, ส&นคำ�า

declare [VT] ; ย�นย�นSyn. affirm; express; give evidence of; reveal; show; state firmlyRelate. รั�บรัอง, แสด้งหล�กฐาน

declare [VT] ; เป็Jด้เผูยSyn. break; bring out; disclose; discover; divulge; expose; give away; impart; let on; reveal; showAnt. close; coverRelate. เผูย (คำว่ามล�บ), เป็Jด้โป็

61. martial law [N] ; กฎอ�ยการัศ%ก

62. dictatorial [ADJ] ; เก��ยว่ก�บเผูด้+จการั

Page 48: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 48 ~

Syn. tyrannical; autocraticAnt. democraticRelate. ซึ่%�งใช้�อ�านาจส��งให�คำนอ��นที่�าตามใจต�ว่เองโด้ยไม�ม�เหต$ผูล, เก��ยว่ก�บการักด้ข��ข�มเหง

63. against [PREP] ; ฝ่>นRelate. ฝ่Fาฝ่>น, ข�ด้, ตรังก�นข�ามก�บ

against [PREP] ; ป็กป็Bองจาก

against [PREP] ; ป็ะที่ะก�บRelate. กรัะที่บก�บ

against [PREP] ; เป็รั�ยบเที่�ยบก�บ

against [PREP] ; เพ��อใช้�คำ�นให�ก�บ

against [PREP] ; ต�อต�านSyn. opposite toRelate. ส/�ก�บ

against [PREP] ; ที่าบRelate. พ&ง, พาด้, แนบ

against [PREP] ; ต�านRelate. ที่ว่น, ที่ว่นน�2า

against [PREP] ; เก��ยว่ข�องก�บเหต$การัณ

against [PREP] ; ด้/ข�ด้แย�งก�บRelate. ด้/ข�ด้ก�บ

Page 49: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 49 ~

against [PREP] ; เป็(นข�อเส�ยของ

64. dutch troop ช้าว่เนเธิอรัแลนด้(1) เด้&นขบว่น(2)

ช้าว่เนเธิอรัแลนด้เด้&นขบว่น

65. vigorously [ADV] ; อย�างคำล�องแคำล�ว่Syn. alertly; energetically; eagerly; nimblyAnt. calmly; aimlessly; slowlyRelate. อย�างกรัะฉ�บกรัะเฉง, อย�างม�พล�ง

66. wage [VT] ; เข�ารั�ว่ม (ต�อส/�)

wage [N] ; คำ�าจ�างSyn. emolument; pay; salary; wagesRelate. คำ�าแรัง

67. drag [N] ; การัด้%งSyn. heave; tug; yank; pullAnt. push; shove; prodRelate. การัลาก

drag [N] ; การัอ�ด้คำว่�นบ$หรั��เข�าป็อด้Syn. inhalation; druffAnt. exhalation

drag [N] ; คำนน�าเบ��อ (คำ�าไม�เป็(นที่างการั)

drag [VT] ; ลากSyn. heave; tug; yank; pullAnt. push; shove; prodRelate. ด้%ง, ข$ด้, สาว่, ช้�ก

Page 50: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 50 ~

drag [VI] ; พ�นคำว่�นSyn. smoke; suck

68. harsh [ADJ] ; แสบ (แก�ว่ห/)

harsh [ADJ] ; หยาบRelate. สาก, แข+ง

harsh [ADJ] ; กรัะด้�างSyn. aurtere; severe; sternAnt. easygoing; lenient; pleasantRelate. รั$นแรัง, ห�าว่, เกรั�2ยว่กรัาด้, แข+งกรั�าว่

harsh [ADJ] ; ที่��ไม�สามารัถึที่นได้� (ต�อสภาพอากาศหรั�อสภาพคำว่ามเป็(นอย/�)

69. eradication [N] ; การัที่�าลาย,การัถึอนรัากถึอนโคำน,การัก�าจ�ด้

70. establish [VT] ; แสด้งให�เห+นSyn. prove; verifyRelate. พ&ส/จน

establish [VT] ; สรั�างSyn. found; institute; set upRelate. สถึาป็นา, ก�อต�2ง, จ�ด้ต�2ง

71. defeasance [N] ; การัยกเล&กRelate. การัที่�าให�เป็(นโมฆ่ะ, การัเพ&กเฉย

72. defense [N] ; กองที่�พบกRelate. กองที่�พ

Page 51: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 51 ~

defense [N] ; ฝ่Fายรั�บ (ที่างก�ฬา)Relate. ฝ่Fายต�2งรั�บ

defense [N] ; ที่นายฝ่Fายจ�าเลย

defense [N] ; ส&�งคำ$�มก�นSyn. barricade; shieldRelate. ว่&ธิ�ป็Bองก�น, เคำรั��องก�2นขว่าง, ด้�าน, ป็รัาการั

defense [N] ; การัคำ$�มคำรัองSyn. protection; safequard; offense; securityRelate. การัป็กป็Bอง, การัคำ$�มก�น, การัอารั�กขา

. defense [N] ; คำ�าให�การัSyn. argument; excuse; justificationRelate. คำ�าแก�ต�ว่, คำ�าอ�างเหต$ผูล, คำ�าแก�ต�าง, การัแสด้งหล�กฐาน, หล�กฐาน, การัเป็(นพยาน defense [N] ; กองที่�พบกRelate. กองที่�พ73. merely [ADV] ; เพ�ยงเที่�าน�2นSyn. only; exclusivelyRelate. เพ�ยงแต�, เที่�าน�2น, อย�างง�ายๆ

defense [N] ; ฝ่Fายรั�บ (ที่างก�ฬา)Relate. ฝ่Fายต�2งรั�บ

defense [N] ; ที่นายฝ่Fายจ�าเลย

defense [N] ; ส&�งคำ$�มก�นSyn. barricade; shieldRelate. ว่&ธิ�ป็Bองก�น, เคำรั��องก�2นขว่าง, ด้�าน, ป็รัาการั

defense [N] ; การัคำ$�มคำรัอง

Page 52: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 52 ~

Syn. protection; safequard; offense; securityRelate. การัป็กป็Bอง, การัคำ$�มก�น, การัอารั�กขา

defense [N] ; คำ�าให�การัSyn. argument; excuse; justificationRelate. คำ�าแก�ต�ว่, คำ�าอ�างเหต$ผูล, คำ�าแก�ต�าง, การัแสด้งหล�กฐาน, หล�กฐาน, การัเป็(นพยาน

74. dictatorship [N] ; รัะบบเผูด้+จการัSyn. despotism; autarchyRelate. การัป็กคำรัองแบบเผูด้+จการั

dictatorship [N] ; รั�ฐบาลที่��ป็กคำรัองแบบเผูด้+จการั

75. uprising [N] ; การัป็ฏ&ว่�ต&Syn. revolt; rebellion

76. reintroduce [VT] ; แนะน�าอ�ก

77. maladroit [ADJ] ; ไม�ช้�านาญSyn. clumsy; inept; awkwardAnt. adroitRelate. ไม�คำล�องต�ว่, อ$�ยอ�าย, ง$ �มง�าม

78. impeachment [N] ; การักล�าว่โที่ษเจ�าหน�าที่��รั �ฐว่�าที่�าผู&ด้ศ�ลธิรัรัมหรั�อจรัรัยาบรัรัณRelate. การัฟBองรั�อง

79. compromise [VT] ; ป็รัะน�ป็รัะนอม

compromise [N] ; การัป็รัะน�ป็รัะนอมSyn. give-and-take; accommodation

Page 53: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 53 ~

compromise [VI] ; ป็รัะน�ป็รัะนอม

80. violence [N] ; การัใช้�ก�าล�งที่�าลายSyn. force; savageryRelate. การัที่�าลาย

violence [N] ; คำว่ามรั$นแรังSyn. rampage; tumult

violence [N] ; คำว่ามด้$เด้�อด้ (ใช้�ก�บอารัมณหรั�อคำ�าพ/ด้)Syn. Ferver

81.erupt [VI] ; รัะเบ&ด้Syn. burst out; explodeRelate. ป็ะที่$

erupt [VT] ; ที่�าให�รัะเบ&ด้Syn. burst out; explodeRelate.

82. suspension [N] ; การัให�พ�กงานRelate. การัพ�กต�าแหน�ง

suspension [N] ; การัลอยต�ว่ของอน$ภาคำในของเหลว่Syn. dispersion of particles

suspension [N] ; การัหย$ด้ช้�ารัะหน�2Relate. การังด้ช้�ารัะหน�2

suspension [N] ; การัเล��อนคำ�าต�ด้ส&นSyn. postponement; defermentRelate. การัเล��อนการัพ&จารัณาคำด้�

Page 54: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 54 ~

suspension [N] ; รัะบบก�นสะเที่�อนของรัถึ

suspension [N] ; การัหย$ด้ช้��ว่คำรัาว่Syn. interruption; abeyance; breakRelate. การัรัะง�บช้��ว่คำรัาว่, การัยกเล&กช้��ว่คำรัาว่

83. enactment [N] ; กฎหมายSyn. law; legislation; regulationRelate. พ.รั.บ., พรัะรัาช้บ�ญญ�ต&, กฎหมาย, พรัะรัาช้กฤษฎ�กา, กฎกรัะที่รัว่ง

enactment [N] ; การัป็รัะกาศใช้�เป็(นกฎหมายRelate. การับ�ญญ�ต&, การัออกกฎหมาย

84.infamous [ADJ] ; น�าอ�บอายSyn. shameful; notorious; disreputable; dishonourableRelate. น�าขายหน�า

85. authorisation [N] ; การัป็รัะพ�นธิ,การัอน$ญาตหรั�ออ�านาจที่��ได้�มอบหมาย (sanction, approval)

86. pervasive [ADJ] ; แพรั�หลาย,ซึ่%�งแผู�ซึ่�าน,ซึ่%�งกรัะจายไป็ที่��ว่

87. consider [VT] ; พ&จารัณาSyn. think; reconsider; studyRelate. คำ&ด้อย�างละเอ�ยด้

consider [VI] ; พ&จารัณาRelate. คำ&ด้อย�างละเอ�ยด้

88. realization [N] ; คำว่ามเข�าใจหรั�อคำว่ามตรัะหน�กSyn. understanding; recognition

Page 55: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 55 ~

89. improvement [N] ; การัป็รั�บป็รั$งSyn. amelioration; developmentAnt. decay; deteriorationRelate. การัแก�ไข, การัที่�าให�ด้�ข%2น

90. divergent [ADJ] ; ซึ่%�งแตกต�างก�นSyn. differentRelate. ซึ่%�งไม�สอด้คำล�องก�น

91. deprive [VT] ; ป็ลด้ต�าแหน�ง

deprive [VT] ; ย%ด้ที่รั�พยSyn. bereave; stripAnt. supplyRelate. รั&บที่รั�พย, ต�ด้ที่อน, ย%ด้, ถึอด้ถึอน

92. meaningful [ADJ] ; ซึ่%�งม�คำว่ามหมายSyn. significant; greatAnt. insignificant; unimportantRelate. ส�าคำ�ญ

93. abdicate [VT, V] ; ละเลยหน�าที่��Syn. abandon; surrender

abdicate [VI] ; สละรัาช้สมบ�ต&Syn. renounce; relinguishRelate. สละรัาช้บ�ลล�งก, สละอ�านาจ, ถึอนต�ว่(จากอ�านาจ, ต�าแหน�ง,

ส&ที่ธิ&K)

abdicate [VT] ; ที่�าให�สละรัาช้สมบ�ต&Relate. ที่�าให�สละรัาช้บ�ลล�งก, ที่�าให�สละอ�านาจ, ที่�าให�ถึอนต�ว่(จากอ�านาจ,

ต�าแหน�ง, ส&ที่ธิ&K)

Page 56: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 56 ~

94. former monarch พรัะมหากษ�ตรั&ยก�อนพรัะมหากษ�ตรั&ยก�อ

95. arena [N] ; สนามก�ฬาSyn. field; ground; coliseumRelate. ส�งเว่�ยน, เว่ที่�

arena [N] ; สถึานที่��เก&ด้เหต$Relate. สถึานการัณ, ช้�ว่งเว่ลาที่��เก&ด้เหต$

96. dictator [N] ; ผู/�เผูด้+จการัSyn. authoritarian; despot; totalitarianRelate. ผู/�กด้ข��

97. leftist [ADJ] ; น&ยมฝ่Fายซึ่�าย

leftist [N] ; สมาช้&กของพรัรัคำการัเม�องฝ่Fายซึ่�ายSyn. collectivist; left-wingerRelate. พว่กน&ยมฝ่Fายซึ่�าย

98. leftward [ADJ,ADV] ; ไป็ที่างซึ่�าย,ที่างด้�านซึ่�าย

99. impose [VT] ; ก�าหนด้Syn. enforce; inflict; levyRelate. เรั�ยกเก+บ (ภาษ�), บ�งคำ�บให�ม�, ก�าหนด้โที่ษให�

100. military dictatorship รัะบบเผูด้+จการั(1) ที่หารัรัะบบเผูด้+จการัที่หารั

101. brutal [ADJ] ; โหด้รั�าย

Page 57: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 57 ~

Syn. cruelAnt. kindlyRelate. รั$นแรัง102. invasion [N] ; การับ$กรั$กSyn. intrusion; encroachmentRelate. การัรั$กล�2า, การัล�ว่งล�2า

invasion [N] ; การัรั$กรัานSyn. attack; assult; inroadAnt. defense; protectionRelate. การัโจมต�

103. civil war [N] ; สงคำรัามกลางเม�อง

104. great power [N] ; มหาอ�านาจ

105. apathetic [ADJ] ; ที่��ไม�กรัะต�อรั�อรั�นSyn. impassiveRelate. เฉ��อยช้า, ไม�แยแส

106. culminate [VT] ; ที่�าให�ถึ%งจ$ด้ส/งส$ด้Syn. cap; climax

culminate [VI] ; ถึ%งจ$ด้ส/งส$ด้

107. prosecution [N] ; การัด้�าเน&นให�ล$ล�ว่ง

prosecution [N] ; การัฟBองรั�องSyn. pursuit; pursuanceRelate. การัด้�าเน&นคำด้�ตามกฎหมาย

108. intermittently [ADV] ; อย�างไม�ต�อเน��องSyn. irregularly; spasmodically; sporadically

Page 58: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 58 ~

Ant. regularlyRelate. พลอมแพลม

contest [VT] ; ที่�าที่าย109. Syn. challenge

contest [N] ; การัด้&2นรัน

contest [VT] ; เข�ารั�ว่มการัป็รัะกว่ด้Relate. เข�ารั�ว่มการัแข�งข�น

contest [N] ; การัแข�งข�นSyn. competition; trial; matchRelate. การัป็รัะกว่ด้

110. tend [VI] ; โน�มเอ�ยงSyn. conduce; direct; point; leadRelate. โน�มน�าว่

tend [VI] ; คำอยรั�บใช้�Syn. guard; attend

tend [VT] ; เล�2ยง (ส�ตว่)Syn. care

111. prospective [ADJ] ; ที่��คำาด้หว่�งไว่�Syn. hoped for; promised; plannedRelate. ซึ่%�งหว่�งไว่�

112. conciliate [VT] ; ที่�าให�เป็(นม&ตรัSyn. pacify; make friendly

succumb [VI] ; ตาย

Page 59: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 59 ~

Syn. cease; die; expire

113. succumb [VI] ; จ�านนSyn. accede; submit; surrender; yieldRelate. พ�ายแพ�, ยอมจ�านนprolong [VT] ; ที่�าให�ขยายหรั�อยาว่ข%2นSyn. extend; prolongate

114. prolong [VT] ; ย�ด้เว่ลาSyn. extend; prolongate

115. rival [N] ; คำ/�แข�งSyn. competitior; contestantRelate. คำ/�ต�อส/�, คำ/�ป็รั�บ

rival [VT] ; แข�งข�นSyn. compete

rival [VT] ; ม�คำว่ามสามารัถึที่�ด้เที่�ยมก�นSyn. equal; match

rival [N] ; ผู/�ที่��ม�คำว่ามสามารัถึที่�ด้เที่�ยมก�นRelate. ส&�งที่��พอจะที่�ด้เที่�ยมก�นได้�

rival [VI] ; แข�งข�นSyn. compete

rival [ADJ] ; ที่��เป็(นคำ/�แข�งก�นSyn. competing; opposingRelate. ที่��เป็(นคำ/�แข�งข�น116. neutralist [N] ; ผู/�เป็(นกลางSyn. isolationistRelate. ผู/�ไม�ฝ่@กใฝ่Fฝ่Fายใด้ฝ่Fายหน%�ง

Page 60: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 60 ~

117. rightist [N] ; ผู/�ถึ�อล�ที่ธิ&อน$รั�กษน&ยมSyn. conservative; right-winger

rightist [ADJ] ; ซึ่%�งย%ด้ถึ�อล�ที่ธิ&อน$รั�กษน&ยมSyn. right-wing

nterference [N] ; ส&�งรับกว่นSyn. hindrance; impediment; obstructionRelate. เหต$ข�ด้ข�อง, อ$ป็สรัรัคำ

118. interference [N] ; การัเข�าแที่รักแซึ่งSyn. intervention; meddlesomenessRelate. การัเข�าไป็ย$�งเรั��องคำนอ��น

119. aspiration [N] ; การัส/ด้ลมหายใจเข�า

aspiration [N] ; คำว่ามที่ะเยอที่ะยานSyn. eagerness; yearning; ambitionRelate. คำว่ามม�กใหญ�ใฝ่Fส/ง, คำว่ามม$�งมาด้ป็รัารัถึนา, คำว่ามที่ะยานอยาก

aspiration [N] ; การัออกเส�ยงพรั�อมก�บป็ล�อยลมหายใจออก

120. field marshal [N] ; ต�าแหน�งที่หารัส/งส$ด้ของกองที่�พอ�งกฤษ (ส�ญล�กษณย�อคำ�อ FM)

121. civilian politician น�กการัเม�อง(1) พลเรั�อน(2)

น�กการัเม�องพลเรั�อน

122. vanish [VI] ; หายไป็Syn. disappear; fade away; pass awayAnt. appear

Page 61: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 61 ~

Relate. อ�นตรัธิาน, ล�มหายตายจากไป็, ส/ญหาย

123. unauspicious [ADJ] ; ซึ่%�งโช้คำรั�ายSyn. unpropitious; unfavorableAnt. hopeful; propitious

124. violence [N] ; การัใช้�ก�าล�งที่�าลายSyn. force; savageryRelate. การัที่�าลาย

violence [N] ; คำว่ามรั$นแรังSyn. rampage; tumult

violence [N] ; คำว่ามด้$เด้�อด้ (ใช้�ก�บอารัมณหรั�อคำ�าพ/ด้)Syn. ferver

125. usher [VI] ; ที่�าหน�าที่��เป็(นผู/�น�าที่างSyn. escort

usher [N] ; พน�กงานที่��น�าไป็ย�งที่��น� �งSyn. escort

usher [VT] ; น�าที่างSyn. guide; escort

126. constitutional [ADJ] ; ที่��เป็(นส�ว่นพ�2นฐานSyn. basic; essentialRelate. ที่��เป็(นส�ว่นก�าเน&ด้

constitutional [ADJ] ; ที่��เป็(นส�ว่นหน%�งที่��จ�าเป็(นSyn. component

127. concurrent [ADJ] ; ที่��เก&ด้ข%2นพรั�อมก�นSyn. simultaneous; coexisting

Page 62: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 62 ~

concurrent [ADJ] ; ที่��ไป็ย�งจ$ด้เด้�ยว่ก�น

concurrent [ADJ] ; ที่��เห+นพ�องต�องก�นSyn. agreeing; harmonious

concurrent [ADJ] ; ที่��กรัะที่�ารั�ว่มก�นSyn. cooperating; mutual

128. implement [VT] ; ที่�าให�ม�ผูลSyn. achieve; carry out; execute; fulfillRelate. ที่�าให�บรัรัล$ผูล, ที่�าให�ส�าเรั+จ, ที่�าให�เก&ด้ป็รัะโยช้น

implement [VT] ; จ�ด้เตรั�ยมเคำรั��องม�อหรั�อว่&ธิ�การัไว่�ให�

implement [N] ; อ$ป็กรัณเคำรั��องใช้�Syn. instrument; toolRelate. เคำรั��องม�อ

129. intervene [VI] ; เก&ด้ข%2นSyn. happen; occur

intervene [VI] ; สอด้แที่รักSyn. mediate; interfereAnt. ignoreRelate. แที่รัก, ย��นม�อเข�ามาย$�ง, เข�าขว่าง

130. territory [N] ; แนว่คำว่ามคำ&ด้

territory [N] ; อาณาเขตSyn. area; regionRelate. เขต, เขตแด้น

Page 63: สรุป Ps 701 แนวทางการศึกษารัฐศาสตร์

~ 63 ~

territory [N] ; ด้&นแด้นRelate. พ�2นที่��

131. referendum [N] ; ป็รัะช้ามต&Syn. plebiscite; voteRelate. มต&ม

132. autonomy [N] ; การัป็กคำรัองตนเองSyn. self governmentRelate. เอกรัาช้

133. auspice [N] ; ฤกษด้�Syn. favorable omenRelate. มงคำล, ศ$ภมงคำล

134. assembly [N] ; ส�ญญาณรัว่มพล

assembly [N] ; การัป็รัะกอบSyn. construction; piecing togetherRelate. การัที่�า, การัสรั�าง

assembly [N] ; กล$�มคำนRelate. คำนที่��รัว่มต�ว่ก�น

assembly [N] ; การัรัว่มกล$�มSyn. assemblage; meeting; associationRelate. การัช้$มน$ม, การัป็รัะช้$ม

assembly [N] ; ช้&2นส�ว่นRelate. ส�ว่นป็รัะกอบ