Active LearningActive Learning

Most ideas about teaching Most ideas about teaching are not new, are not new,

but not everyone knows but not everyone knows the old ideas. the old ideas.

Euclid, c. 3 0 0 BC Euclid, c. 3 0 0 BC

What is Active Learning?

“I hear and I forget. I see and I remember. I do and I understand”

- Confucius Any instructional activity that involves

students in DOING, and THINKING about what they are learning.

ฉั�นได้�ยิ�น...ฉั�นลืมฉั�นเห็�น...ฉั�นจำ��ได้�ฉั�นทำ��...ฉั�นเข้��ใจำ

เปรี�ยิบเทำ�ยิบคว�มรี�� ทำ��คงเห็ลืออยิ� เม�อสอนโด้ยิว�ธี�บรีรียิ�ยิแลืะ Active

Learning

Time of class (min)

10 20 30 40 60

% R

etai

ned

50

100

50

0

lecture

active learning

From: McKeachie, Teaching tips: Strategies, research and theory forfor college and university teachers, Houghton-Mifflin (1998)

ปิ�รามิ�ดการเร�ยนร� � ค่�าเฉลี่��ยของค่วามิค่งทนในการเร�ยนร� �

การบรรยายการอ�าน

การใช้�โสตท ศน�ปิกรณ์#การสาธิ�ต

การอภิ�ปิรายกลี่&�มิการลี่งมิ'อให้�ปิฏิ�บ ต�

แลี่กเปิลี่��ยนเร�ยนร� �แลี่ะการปิฏิ�บ ต�จร�ง

?

??

?

?

?

?

ปิ�รามิ�ดการเร�ยนร� � ค่�าเฉลี่��ยของค่วามิค่งทนในการเร�ยนร� �

การบรรยายการอ�าน

การใช้�โสตท ศน�ปิกรณ์#การสาธิ�ต

การอภิ�ปิรายกลี่&�มิการลี่งมิ'อให้�ปิฏิ�บ ต�

แลี่กเปิลี่��ยนเร�ยนร� �แลี่ะการปิฏิ�บ ต�จร�ง

5%10 %20%30%50%

90%75%

Passive Learning - ค่ร�เปิ-นค่นบอก- ค่ร�น.าเสนอห้ร'อให้�ข�อมิ�ลี่- ค่ร�เปิ-นผู้��จ ดการช้ 0นเร�ยนเก'อบท 0งห้มิด- สอนเพื่'�อให้�ข�อมิ�ลี่จ.านวนมิาก- ผู้��เร�ยนเปิ-นผู้��ร บแลี่ะจดจ.า- เน�นเน'0อห้าเพื่�ยงอย�างเด�ยว- ใช้�การบรรยายแบบแห้�งแลี่�งเปิ-นส�วนให้ญ่�

Active Learning ผู้��เร�ยนเปิ-นเจ�าของ ผู้��วางแผู้นก.าก บการเร�ยนร� �ของ

ตนเอง ใช้�ก�จกรรมิกลี่&�มิเร�ยนร� �แลี่กเปิลี่��ยน แลี่ะปิระสานค่วามิร�วมิมิ'อ เน�นกระบวนการเร�ยนร� � ค่ร�เปิ-นผู้��ช้�0แนะแลี่ะช้�วยเห้ลี่'อ ใช้�ว สด&อ&ปิกรณ์#แลี่ะ

ก�จกรรมิการเร�ยนร� �ท��ห้ลี่ากห้ลี่ายแลี่ะย'ดห้ย&�น

Active learning Active learning

ช้�วยให้�ผู้��เร�ยนเข�าใจได�ด�ข40น ช้�วยให้�ผู้��เร�ยนเข�าใจได�ด�ข40น แลี่ะสามิารถเก6บก กข�อมิ�ลี่ข�าวสารไว�แลี่ะสามิารถเก6บก กข�อมิ�ลี่ข�าวสารไว�

ในค่วามิทรงจ.าได�นานข40น นอกจากน�0ย ง ในค่วามิทรงจ.าได�นานข40น นอกจากน�0ย งมิ�ปิระส�ทธิ�ภิาพื่ในการพื่ ฒนากระบวนร บมิ�ปิระส�ทธิ�ภิาพื่ในการพื่ ฒนากระบวนร บ

ร� �ในลี่.าด บท��ส�งข40น เช้�น ร� �ในลี่.าด บท��ส�งข40น เช้�น การแก�ปิ8ญ่ห้า การแก�ปิ8ญ่ห้า แลี่ะการค่�ดว�เค่ราะห้# แลี่ะการค่�ดว�เค่ราะห้#

จ&ดปิระสงค่#ของการเร�ยนแบบ จ&ดปิระสงค่#ของการเร�ยนแบบ Active LearningActive Learning ให้�น กเร�ยนมิ�ส�วนร�วมิมิากย��งข40นให้�น กเร�ยนมิ�ส�วนร�วมิมิากย��งข40น ให้�ค่วามิร� �ย งค่งอย��ก บน กเร�ยนมิากข40นให้�ค่วามิร� �ย งค่งอย��ก บน กเร�ยนมิากข40น ให้�น กเร�ยนร� �ส4กว�าต�องเองมิ�ส�วนเปิ-นเจ�าของให้�น กเร�ยนร� �ส4กว�าต�องเองมิ�ส�วนเปิ-นเจ�าของ

ในว�ช้าท��ในว�ช้าท�� เขาเร�ยนเขาเร�ยน ให้�การเร�ยนน�าสนใจมิากย��งข40นให้�การเร�ยนน�าสนใจมิากย��งข40น ให้�น กเร�ยนร� �ท��จะค่�ดแลี่ะว�เค่ราะห้#มิากย��งข40นให้�น กเร�ยนร� �ท��จะค่�ดแลี่ะว�เค่ราะห้#มิากย��งข40น

ก�รีใช้� ก�รีใช้� Active learning Active learning ไมิ�ได�ห้มิายค่วามิว�า ผู้��สอนต�องเลี่�กไมิ�ได�ห้มิายค่วามิว�า ผู้��สอนต�องเลี่�กบรรยาย บรรยาย ผู้��สอนสามิารถบรรยายได� แต�อาจใช้�เวลี่าผู้��สอนสามิารถบรรยายได� แต�อาจใช้�เวลี่ามิากข40น มิากข40น เพื่ราะผู้��สอนต�องห้ย&ดเปิ-นระยะ ๆ เพื่'�อให้�เพื่ราะผู้��สอนต�องห้ย&ดเปิ-นระยะ ๆ เพื่'�อให้�ผู้��เร�ยนได�ย�อยส��งท��ได�ร บฟั8ง ผู้��เร�ยนได�ย�อยส��งท��ได�ร บฟั8ง อาจต 0งค่.าถามิให้�ตอบ อาจต 0งค่.าถามิให้�ตอบ ห้ร'อสร&ปิสาระส.าค่ ญ่ลี่งในกระดาษค่.าห้ร'อสร&ปิสาระส.าค่ ญ่ลี่งในกระดาษค่.าตอบ ตอบ ห้ร'อเท�ยบสมิ&ดโน<ตก บเพื่'�อน ห้ร'อเท�ยบสมิ&ดโน<ตก บเพื่'�อน 

ว�ธี�ก�รีสอนแบบ ว�ธี�ก�รีสอนแบบ Active Activelearninglearning

ใช้�ก�จกรรมิได�ห้ลี่ายร�ปิแบบเช้�น ใช้�ก�จกรรมิได�ห้ลี่ายร�ปิแบบเช้�น group discussions, group discussions,

problem solving, problem solving,

case studies, case studies,

role plays, role plays,

and structured learning groups and structured learning groups

แต�ถ�าห้�องให้ญ่� ๆ อาจจ ดกลี่&�มิอะไรก6ยาก การให้�แต�ถ�าห้�องให้ญ่� ๆ อาจจ ดกลี่&�มิอะไรก6ยาก การให้�เข�ยน ห้ร'อจ บค่��ก นน�าจะเห้มิาะสมิกว�าเข�ยน ห้ร'อจ บค่��ก นน�าจะเห้มิาะสมิกว�า

ก�จำกรีรีมพื้)นฐ�นข้อง ก�จำกรีรีมพื้)นฐ�นข้อง Active learning Active learning

มิ� มิ� 4 4 ลี่ กษณ์ะ ซึ่4�งในแต�ลี่ะว�ช้าห้ร'อแต�ลี่ะช้�วง ลี่ กษณ์ะ ซึ่4�งในแต�ลี่ะว�ช้าห้ร'อแต�ลี่ะช้�วง ของการเร�ยนการสอนอาจใช้� ของการเร�ยนการสอนอาจใช้� 2-3 2-3 อย�างอย�าง

ก6ได� ก�จกรรมิด งกลี่�าวได�แก� ก6ได� ก�จกรรมิด งกลี่�าวได�แก�1.1. การค่&ยแลี่ะฟั8งการค่&ยแลี่ะฟั8ง2.2. การเข�ยนการเข�ยน3.3. การอ�านการอ�าน4.4. การสะท�อนค่วามิค่�ดการสะท�อนค่วามิค่�ด

Active learningActive learning เปิ-นการเร�ยนการสอนท��ผู้��เร�ยนมิ�ค่วามิเปิ-นการเร�ยนการสอนท��ผู้��เร�ยนมิ�ค่วามิ

ค่ลี่�องแค่ลี่�วกระต'อร'อร�นในการเร�ยน ค่ลี่�องแค่ลี่�วกระต'อร'อร�นในการเร�ยน ห้ร'อการเร�ยนการสอนท��ผู้��เร�ยนว& �นท.างานอย��ก บห้ร'อการเร�ยนการสอนท��ผู้��เร�ยนว& �นท.างานอย��ก บ

เน'0อห้าว�ช้า โดยการ เน'0อห้าว�ช้า โดยการ พื่�ดค่&ย พื่�ดค่&ย การเข�ยน การเข�ยน การอ�าน การอ�าน การสะท�อน การสะท�อน การต 0งค่.าถามิ การต 0งค่.าถามิ ใช้�ได�ท 0งกลี่&�มิเลี่6ก แลี่ะห้�องเร�ยนให้ญ่� ๆ ผู้��เร�ยน ใช้�ได�ท 0งกลี่&�มิเลี่6ก แลี่ะห้�องเร�ยนให้ญ่� ๆ ผู้��เร�ยนอาจท.างานค่นเด�ยวห้ร'อท.าเปิ-นกลี่&�มิก6ได�อาจท.างานค่นเด�ยวห้ร'อท.าเปิ-นกลี่&�มิก6ได�

1. 1. ก�รีค+ยิแลืะฟั-งก�รีค+ยิแลืะฟั-ง เมิ'�อผู้��เร�ยนพื่�ดถ4งเร'�องห้น4�ง ไมิ�ว�าจะเพื่'�อตอบ เมิ'�อผู้��เร�ยนพื่�ดถ4งเร'�องห้น4�ง ไมิ�ว�าจะเพื่'�อตอบ

ค่.าถามิของผู้��สอน ห้ร'ออธิ�บายปิระเด6นบางอย�าง ค่.าถามิของผู้��สอน ห้ร'ออธิ�บายปิระเด6นบางอย�าง ให้�เพื่'�อนฟั8ง เขาก6ต�องจ ดแจงแลี่ะเสร�มิแรงส��งท�� ให้�เพื่'�อนฟั8ง เขาก6ต�องจ ดแจงแลี่ะเสร�มิแรงส��งท�� เขาได�เร�ยนร� � เขาได�เร�ยนร� �

เมิ'�อเขาฟั8ง เราต�องการให้�แน�ใจว�าเปิ-นการฟั8งท�� เมิ'�อเขาฟั8ง เราต�องการให้�แน�ใจว�าเปิ-นการฟั8งท�� มิ�ค่วามิห้มิาย เร'�องท��เขาฟั8งเก��ยวข�องก บเร'�องท�� มิ�ค่วามิห้มิาย เร'�องท��เขาฟั8งเก��ยวข�องก บเร'�องท��

เขาร� � เขาร� � ในห้�องเร�ยน ผู้��เร�ยนต�องมิ�เวลี่าเปิ-นช้�วง ๆ ท��จะ ในห้�องเร�ยน ผู้��เร�ยนต�องมิ�เวลี่าเปิ-นช้�วง ๆ ท��จะ

พื่�นจากการน �งฟั8งผู้��สอนบรรยาย เพื่'�อด�ดซึ่ บส��งท�� พื่�นจากการน �งฟั8งผู้��สอนบรรยาย เพื่'�อด�ดซึ่ บส��งท�� ได�ย�นแลี่ะห้าค่วามิห้มิายของการฟั8ง ได�ย�นแลี่ะห้าค่วามิห้มิายของการฟั8ง

ผู้��สอนอาจต 0งค่.าถามิก�อนบรรยายท��กระต&�นผู้��สอนอาจต 0งค่.าถามิก�อนบรรยายท��กระต&�นค่วามิค่�ดของผู้��เร�ยนเพื่�ยงพื่อท��จะท.าให้�ผู้��เร�ยนค่วามิค่�ดของผู้��เร�ยนเพื่�ยงพื่อท��จะท.าให้�ผู้��เร�ยนอยากจะค่�นห้าเพื่'�อตอบค่.าถามิน 0นอยากจะค่�นห้าเพื่'�อตอบค่.าถามิน 0น

2. 2. ก�รีเข้�ยินก�รีเข้�ยิน การเข�ยนท.าให้�ผู้��เร�ยนได�ปิระมิวลี่ข�าวสารให้มิ� ๆ การเข�ยนท.าให้�ผู้��เร�ยนได�ปิระมิวลี่ข�าวสารให้มิ� ๆ

ในภิาษาของต วเอง ในภิาษาของต วเอง ว�ธิ�น�0เห้มิาะส.าห้ร บห้�องเร�ยนให้ญ่� ๆ ว�ธิ�น�0เห้มิาะส.าห้ร บห้�องเร�ยนให้ญ่� ๆ แลี่ะก บบ&ค่ค่ลี่ท��ต�องการค่วามิเปิ-นอ�สระในการแลี่ะก บบ&ค่ค่ลี่ท��ต�องการค่วามิเปิ-นอ�สระในการเร�ยนร� �เร�ยนร� �

3. 3. ก�รีอ �นก�รีอ �น ผู้��เร�ยนเก��ยวข�องก บการอ�านมิาก แต�ไมิ�ค่�อยได�ผู้��เร�ยนเก��ยวข�องก บการอ�านมิาก แต�ไมิ�ค่�อยได�ร บการแนะน.าให้�อ�านอย�างมิ�ปิระส�ทธิ�ภิาพื่ ร บการแนะน.าให้�อ�านอย�างมิ�ปิระส�ทธิ�ภิาพื่ แบบฝึ@กห้ ดแบบ แบบฝึ@กห้ ดแบบ Active learning Active learning เช้�น เช้�น การสร&ปิ การสร&ปิ การบ นท4กย�อ การบ นท4กย�อ สามิารถช้�วยให้�ผู้��เร�ยนปิระมิวลี่ส��งท��อ�านแลี่ะสามิารถช้�วยให้�ผู้��เร�ยนปิระมิวลี่ส��งท��อ�านแลี่ะช้�วยให้�เขาพื่ ฒนาค่วามิสามิารถในการเน�นสาระท��ช้�วยให้�เขาพื่ ฒนาค่วามิสามิารถในการเน�นสาระท��ส.าค่ ญ่ส.าค่ ญ่

4. 4. ก�รีสะทำ�อนคว�มค�ด้ก�รีสะทำ�อนคว�มค�ด้ โดยท �วไปิ เมิ'�อจบการเร�ยนในแต�ลี่ะว�ช้า ผู้��เร�ยน โดยท �วไปิ เมิ'�อจบการเร�ยนในแต�ลี่ะว�ช้า ผู้��เร�ยน

ก6จะปิ�ดห้น งส'อออกจากห้�องเร�ยนไปิ ค่วามิร� �จาง ก6จะปิ�ดห้น งส'อออกจากห้�องเร�ยนไปิ ค่วามิร� �จาง ห้ายไปิจากสมิองภิายในเวลี่าไมิ�นาน ห้ายไปิจากสมิองภิายในเวลี่าไมิ�นาน

เขาไมิ�มิ�เวลี่าสะท�อน ไมิ�มิ�เวลี่าเช้'�อมิโยงส��งท��เพื่��ง เขาไมิ�มิ�เวลี่าสะท�อน ไมิ�มิ�เวลี่าเช้'�อมิโยงส��งท��เพื่��ง เร�ยนก บส��งท��ร� �แลี่�ว ห้ร'อใช้�ค่วามิร� �ท��ได�ร บไปิท.าอะไรได� เร�ยนก บส��งท��ร� �แลี่�ว ห้ร'อใช้�ค่วามิร� �ท��ได�ร บไปิท.าอะไรได�

บ�าง บ�าง การให้�ผู้��เร�ยนห้ย&ดค่�ดแลี่ะบอกให้�ผู้��อ'�นร� �ว�าการให้�ผู้��เร�ยนห้ย&ดค่�ดแลี่ะบอกให้�ผู้��อ'�นร� �ว�า

เร�ยนแลี่�วได�อะไรบ�าง ก6จะเปิ-นค่วามิร� �ส.าห้ร บค่น เร�ยนแลี่�วได�อะไรบ�าง ก6จะเปิ-นค่วามิร� �ส.าห้ร บค่น อ'�นด�วย ห้ร'อแมิ�แต�การตอบค่.าถามิปิระจ.าว นก6 อ'�นด�วย ห้ร'อแมิ�แต�การตอบค่.าถามิปิระจ.าว นก6

เปิ-นว�ธิ�ท��ง�ายท��ส&ดเพื่'�อจะเพื่��มิค่วามิสามิารถในการเปิ-นว�ธิ�ท��ง�ายท��ส&ดเพื่'�อจะเพื่��มิค่วามิสามิารถในการเก6บก กค่วามิร� �เก6บก กค่วามิร� �

การอภิ�ปิรายกลี่&�มิท.าให้�เก�ด

การสร�างบรรยากาศ การฟั8งอย�างกระต'อร'อร�น

การอภิ�ปิรายท 0งช้ 0นเร�ยนการใช้�กลี่&�มิย�อยการเร�ยนร� �แลี่กเปิลี่��ยน แลี่ะปิระสานค่วามิร�วมิมิ'อ

ทำ��ได้�โด้ยิต้�องให็�ผู้��ฟั-ง- ฟั8งอย�างต 0งใจ แลี่ะมิองท��ผู้��พื่�ดเพื่'�อจ บปิระเด6น- ท.าต วให้�ผู้�อนค่ลี่ายไมิ�มิ�การตอบสนองทางวาจายกเว�น

การแสดงออกด�วยท�าทาง เช้�น พื่ย กห้น�า ห้ร'อย�0มิ- มิ�สมิาธิ�ก บส��งท��ฟั8ง โดยย งไมิ�ร�บร�อนต ดส�นข�อมิ�ลี่ท��ร บ

ฟั8ง ห้ร'อถามิอะไรท 0งส�0น- ตอบสนองเฉพื่าะเร'�องท��เปิ-นปิระเด6นห้ลี่ กท��จะใช้�ในการ

อภิ�ปิรายโดยการกลี่�าวถ4งส��งท��ได�ฟั8ง ท��เช้'�อมิโยงก น

ลี่ กษณ์ะการปิฏิ�ส มิพื่ นธิ#ระห้ว�างสมิาช้�กในการอภิ�ปิรายกลี่&�มิ

ก�จกรรมิการอภิ�ปิรายจะต�องมิ�ลี่ กษณ์ะด งน�0- ระบ&เปิAาห้มิาย- ก.าห้นดระยะเวลี่าให้�จ.าก ดแลี่ะส 0น- บอกผู้��เร�ยนถ4งเปิAาห้มิาย แลี่ะระยะเวลี่า- มิ�ปิ8ญ่ห้าท��เปิ-นปิลี่ายเปิ�ดท��ท&กค่นเข�าใจตรงก น- อภิ�ปิรายโดยใช้�ปิระเด6นท��เช้'�อมิโยงแลี่ะน.าไปิส��เปิAา

ห้มิาย- มิ�การสร&ปิผู้ลี่

Interactions

ปิฏิ�ส มิพื่ นธิ#ในการอภิ�ปิรายกลี่&�มิ

การบรรยายท��ก�อให้�เก�ดการเร�ยนร� �มิ�ลี่ กษณ์ะอย�างไร ?

การบรรยายท��ก�อให้�เก�ดการเร�ยนร� �ต�องมิ�ลี่ กษณ์ะด งน�0

บรรยากาศท��ด� การฟั8งอย�างกระต'อร'อร�น

การอภิ�ปิรายท 0งช้ 0นเร�ยนแลี่ะกลี่&�มิย�อย

การใช้�ค่.าถามิ

การเร�ยนร� �แลี่กเปิลี่��ยน แลี่ะปิระสานค่วามิร�วมิมิ'อ

การยอมิร บการมิ�ส�วนร�วมิ

การตอบสนอง การสร&ปิปิระเด6น

การย'ดห้ย&�น

การใช้�ลี่�ลี่าท�าทาง

จ&ดเด�นของการสอนแบบ Active Learning

Students learn best when they are engaged Promotes Student Focus Students will get excited about the topic Students will learn about a subject and how

to think about the subject Higher-level thinking

ข�อจ.าก ดของการสอนแบบ Active Learning

เส��ยงต�อการท��น กเร�ยนไมิ�เข�าร�วมิ Students may not be willing to leave their

passive roles behind

เวลี่าท��ต�องใช้� Time will be needed for reviewing material

and answering questions on content, and more time can be used for higher-level thinking and additional content.

ข�อจ.าก ดของการสอนแบบ Active Learning

ต�องใช้�ว สด& อ&ปิกรณ์#ปิระกอบ

การเร�ยนแบบ Active Reading แลี่ะ Writing

ให้�น กเร�ยนเข�ยนส��งท��เขาได�เร�ยนร� �ในระยะเวลี่าส 0นๆ ท��เร�ยกว�า One-minute papers

ให้�น กเร�ยนเข�ยนสร&ปิ ห้ร'อเข�ยน feed back ต�องเร'�องท��ได�อ�าน

ให้�น กเร�ยนตรวจแก�งานของเพื่'�อน Editing the work of others Peer reviews of written work can also be

extremely helpful

ก�จำกรีรีมต้ �งทำ��ทำ��ให็�เก�ด้ Active Learning

การระดมิสมิอง Brainstorming เข�ยนข�อค่วามิให้มิ�ในส.านวนของน กเร�ยน

เอง Paraphrasing Have students restating “in their own

words” what they have heard and learned

ใช้�ส'�อปิระกอบ Visual media

ก�จกรรมิต�างท��ท.าให้�เก�ด Active Learning

การเร�ยนแบบร�วมิแรงร�วมิใจ Cooperative Learning

การแก�ปิ8ญ่ห้า Problem solving Problem-Based Learning

บทบาทสมิมิต� Role Playing, Drama, แลี่ะ สถานการณ์#จ.าลี่องSimulations

Debates Peer Teaching

Active Learning?students solve problems, answer questions,

formulate questions of their own, discuss, explain, debate, or brainstorm during class

Active Learning

Problem-Based

Learning

Cooperative Learning

Learn By Doing

Inquiry-based learning

Critical Elements of Active Learning

Direct action on objects

Reflection on actions

Intrinsic motivation, invention, and generativity

Problem solving

Critical Elements of Active Learning

Direct action on objects• Young children manipulate

objects, using their bodies and all their senses to find out about the object.

Critical Elements of Active Learning

Reflection on actions• To understand their immediate

world, children interact thoughtfully with it.

• Children's understanding of the world develops as they carry out actions arising from the need to test ideas or find answers to questions.

Critical Elements of Active Learning

Intrinsic motivation, invention, and generativity

• The child's personal interests, questions, and intentions lead to exploration, experimentation, and the construction of new knowledge and understanding.

Critical Elements of Active Learning

Problem solving• When children encounter real life

problems--unexpected outcomes or barriers to fulfilling their intentions--the process of reconciling the unexpected with what they already know about the world stimulates learning and development.

Multiple IntelligencesMultiple Intelligences Linguistic intelligence Linguistic intelligence ("("word smartword smart "): "): LogicalLogical--mathematical intelligence mathematical intelligence ("("numbernumber//reasoning smartreasoning smart ") ") Spatial intelligence Spatial intelligence ("("picture smartpicture smart ") ") BodilyBodily--Kinesthetic intelligence Kinesthetic intelligence ("("body body smartsmart ") ") Musical intelligence Musical intelligence ("("music smartmusic smart ") ") Interpersonal intelligence Interpersonal intelligence ("("people people smartsmart ") ") Intrapersonal intelligence Intrapersonal intelligence ("("self smartself smart ") ") Naturalist intelligence Naturalist intelligence ("("nature smartnature smart ") ")

เอกสารแลี่ะ web sites ท��ใช้�อ�างอ�ง

Active Learning

ดร.ขน�ฏิฐา กาญ่จนร งส�นนท# ผู้��อ.านวยการกองฝึ@กอบรมิในปิ8จจ&บ น กรมิพื่ ฒนาช้&มิช้น

http://cddweb.cdd.go.th/tr%5Fdi/

http://eog.nescent.org/NESCent%20-%20Major%20Initiatives%20-%20Education%20&%20Outreach_files/Introduction_to_Active_Learning_NESCent%5B1%5D.ppt

.

“best practice”

Active Learning

Bo Mallory

Kendall Graywww.unca.edu/~nruppert/

Mathematics/best%20practice/ActiveLearning.ppt

Brian Rybarczyk, Ph.D.UNC Chapel Hill

Department of Biologyhttp://eog.nescent.org/NESCent%20-%20Major%20Initiatives%20-%20Education%20&%20Outreach_files/Introduction_to_Active_Learning_NESCent%5B1%5D.ppt

.

Energizing the Classroom

Introduction to Active Learning

LECTURE-DISCUSSION with

Active Learning

LECTURE-DISCUSSION with

Active Learning

kingfa.sintoovongse@gmail.com

http://ilti.kku.ac.th/webcounter/download/22Clour/PPT/030249/030249.ppt

.

Active LearningLearning in which the child, by

acting on objects and interacting with people, ideas, and events, constructs new understanding.

www.trainingwheels4ece.com/students/ece113/powerpoints/Active

%20Learning.ppt

Active Learning

Richard M. FelderNorth Carolina State University

www.ncsu.edu/effective_teaching

www2.informs.org/Edu/TMSWorkshop/TMS04/presentations/

Felder.ppt

Active Learning

Richard M. FelderNorth Carolina State University

www.ncsu.edu/effective_teaching

www2.informs.org/Edu/TMSWorkshop/TMS04/presentations/

Felder.ppt

ขอบค่&ณ์ค่ร บ

Active Techniques

• Think-pair-share (pair-share)• Role playing, simulations• Muddiest point/clearest point • Group quizzing• Generate lists• Cooperative learning• Minute papers and writing assignments• PBL and case studies• Concept maps

เทำคน�คทำ��ส งเสรี�มก�รีจำ�ด้ก�รีเรี�ยินรี��แบบ Active Learning

• Provide one figure/table to each student group

• Propose a title for the paper

• Delete abstract and have students write a summary

Case Studies

In-Class Teams

Form teams of 2-4, choose recorders. Give teams 30 seconds--5 minutes to

–Recall prior material–Answer a question–Start a problem solution–Work out next step in a derivation–Think of an example or application

– Figure out why a given result may be wrong

– Brainstorm (object is quantity, not quality)– Generate a question– Summarize a lecture

Collect some or all answers. This always works, regardless of class size.

Think-pair-share

Students think of answers individually, then form pairs to synthesize response. Pairs share responses.

More time-consuming, more instructive than immediate group work.

Cooperative Note-Taking Pairs At several points in the lecture,

pairs summarize & compare what they have in their notes.

Goal: More accurate & complete notes.

Especially helpful in courses where students need note-taking support.

Guided Reciprocal Peer Questioning Each student prepares questions on the

lecture or reading using high-level generic question stems. Examples:

• What is the main idea of ___?• What conclusions can I draw about ___?• What is the difference between __ & __?• How are ___ and ___ similar?• How does ___ affect ___?• What is a new example of ___?

• What if ___?• Explain why…• Explain how…• How would I use ___ to ___?

In class, groups of 3-4 students take turns answering their questions.

Whole class comes together to discuss unanswered or interesting questions.

Writing Assignments

• Assign frequent, short writing assignments

• Students “write to learn” gaining deeper understanding of course material

• May be kept in a learning log

Problem-Based Learning Present real-world problem or scenario. Ask groups to

– define the problem– build hypotheses to initiate the solution process– identify what is known, what must be determined, and what to do– generate possible solutions and decide on the best one– complete the best solution and defend it– reflect on lessons learned

Minute Paper

• Stop the lecture with two minutes to go. Ask students to write

1. the main point(s)

2. the muddiest (least clear) point(s)

Collect the papers. Use responses to planthe next lecture.

TAPPS (Thinking-Aloud

Pair Problem Solving) Students in pairs (dyads)--one problem

solver, one listener Problem-solver talks through solution.

Listener questions, prompts, gives clues. Instructor asks questions to make sure

everyone is together. Pairs reverse roles and continue.

Time-consuming, but powerful.

Implementing Active Learning

– Explain what you’re doing and why

– Call randomly on individuals to report (while working and after work is complete)

– Vary format (pairs, groups, think-pair-share, intervals between exercises)

– Put some course material on handouts, leave gaps & insert questions. Use time saved to do more active learning.

What might happen if you start using active learning?

• Initial awkwardness (the students & you), noncompliance

• Rapidly increasing comfort level except for a few students who remain resistant

• Much higher levels of energy & participation• More & better answers• Greater learning

ก�รีบรีรียิ�ยิทำ��ด้�1. มิ�เน'0อห้าท��ต�อเน'�อง ค่รอบค่ลี่&มิ เน�นปิระเด6นส.าค่ ญ่2. มิ�จ&ดปิระสงค่#ท��ช้ ดเจนพื่ร�อมิก บ

เค่�าโค่รงของการบรรยาย3. ค่.าน4งถ4งค่วามิพื่ร�อมิของผู้��เร�ยน4. มิ�เอกสารปิระกอบท��ช้ ดเจน

5. มิ�การน.าเสนอท��แสดงให้�เห้6น ท กษะแลี่ะค่วามิสามิารถของ ผู้��บรรยาย6. มิ�ปิฏิ�ส มิพื่ นธิ#ท��ด�อย�างมิ�ช้�ว�ตช้�วา7. ท.าให้�ผู้��เร�ยนมิ�ค่วามิสนใจ กระต'อร'อร�น8. มิ�การสร&ปิในแต�ลี่ะตอน แลี่ะให้� โอกาสในการซึ่ กถามิ

ก�รีบรีรียิ�ยิกลื+ มให็ญ่ โด้ยิ Teacher-Presenter ( ผู้��เช้��ยิวช้�ญ่ในเน)อห็�น�)น ๆ) ก�รีสอนเป2นกลื+ มยิ อยิโด้ยิ Teacher-Instructor (ผู้��รี วมสอน--> น�� + ช้ วยิง�นกลื+ มยิ อยิ) ก�รีเรี�ยินด้�วยิต้นเองเป2นรี�ยิบ+คคลื (Independent study/self-directed learning)

ว�ธี�สอนทำ��ใช้�ว�ธี�สอนทำ��ใช้�ลี่ กษณ์ะก�จกรรมิการสอนแบบท�มิ(ต�อ)

20% บรีรียิ�ยิกลื+ มให็ญ่ 50% ก�รีสอนแบบกลื+ มยิ อยิ 30% ก�รีเรี�ยินด้�วยิต้นเอง (self – directed learning)

((ทำ�)งน�)อ�จำยิด้ห็ยิ+ นห็รีอแต้กทำ�)งน�)อ�จำยิด้ห็ยิ+ นห็รีอแต้กต้ �งจำ�กเวลื�ทำ��เสนอแนะข้��งต้ �งจำ�กเวลื�ทำ��เสนอแนะข้��ง

ต้�นได้�ต้�นได้�))

ลี่ กษณ์ะก�จกรรมิการสอนแบบท�มิ(ต�อ)

เวลื�ทำ��ใช้�ในก�รีสอนเวลื�ทำ��ใช้�ในก�รีสอน

ม�กจำะเป2นก�รีบรีรียิ�ยิสรี+ปม�กจำะเป2นก�รีบรีรียิ�ยิสรี+ป ห็�วข้�อให็ญ่ ห็�วข้�อให็ญ่

ไม ยิด้ยิ�วห็รีอลืะเอ�ยิด้เก�นไม ยิด้ยิ�วห็รีอลืะเอ�ยิด้เก�น ไป น �สนใจำ เพื้�อให็�เข้��ใจำ ไป น �สนใจำ เพื้�อให็�เข้��ใจำ

ปรีะเด้�นส��ค�ญ่ทำ��ต้�องน��ไปปรีะเด้�นส��ค�ญ่ทำ��ต้�องน��ไปศึ4กษ�ต้ อในกลื+ มยิ อยิแลืะศึ4กษ�ต้ อในกลื+ มยิ อยิแลืะทำ��แบบฝึ7กห็�ด้ห็รีอศึ4กษ�ทำ��แบบฝึ7กห็�ด้ห็รีอศึ4กษ�

ต้ อด้�วยิต้นเองต้ อด้�วยิต้นเอง

ลี่ กษณ์ะก�จกรรมิการสอนแบบท�มิ(ต�อ)

ก�รีบรีรียิ�ยิกลื+ มให็ญ่ ก�รีบรีรียิ�ยิกลื+ มให็ญ่

ม+ งให็�ผู้��เรี�ยินได้�อภิ�ปรี�ยิม+ งให็�ผู้��เรี�ยินได้�อภิ�ปรี�ยิ รี วมก�น รี วมก�น

เพื้�อให็�เข้��ใจำในเรี�องทำ��เพื้�อให็�เข้��ใจำในเรี�องทำ��บรีรียิ�ยิกลื+ มให็ญ่ ได้�บรีรียิ�ยิกลื+ มให็ญ่ ได้�

ช้�ด้เจำนช้�ด้เจำน

ก�รีสอนกลื+ มยิ อยิก�รีสอนกลื+ มยิ อยิลี่ กษณ์ะก�จกรรมิการสอนแบบท�มิ(ต�อ)

อ�จำจำะเป2นก�รีทำ��ส�ญ่ญ่�ก�รีเรี�ยินรี�� ก�รีให็� อ�จำจำะเป2นก�รีทำ��ส�ญ่ญ่�ก�รีเรี�ยินรี�� ก�รีให็� แบบฝึ7กห็�ด้ ห็รีอโครีงง�นแก ผู้��เรี�ยิน เพื้�อ แบบฝึ7กห็�ด้ ห็รีอโครีงง�นแก ผู้��เรี�ยิน เพื้�อ

ทำ��คว�มเข้��ใจำ แลืะให็�ผู้��เรี�ยินได้�ศึ4กษ� ทำ��คว�มเข้��ใจำ แลืะให็�ผู้��เรี�ยินได้�ศึ4กษ� ฝึ7กห็�ด้เพื้��มเต้�มเพื้�อให็�เข้��ใจำช้�ด้เจำนข้4)น โด้ยิ ฝึ7กห็�ด้เพื้��มเต้�มเพื้�อให็�เข้��ใจำช้�ด้เจำนข้4)น โด้ยิ

ก�รีใช้�ส�อ เทำคโนโลืยิ�เข้��ช้ วยิ ทำ��ให็� ก�รีใช้�ส�อ เทำคโนโลืยิ�เข้��ช้ วยิ ทำ��ให็�น�กศึ4กษ�น�กศึ4กษ�

สรี��งคว�มเข้��ใจำ ม�คว�มส+ข้ เรี�ยินรี�� สรี��งคว�มเข้��ใจำ ม�คว�มส+ข้ เรี�ยินรี�� ต้�มเป9�ห็ม�ยิทำ��ก��ห็นด้ไว�ต้�มเป9�ห็ม�ยิทำ��ก��ห็นด้ไว�

ก�รีเรี�ยินเป2นรี�ยิบ+คคลืข้องผู้��เรี�ยินก�รีเรี�ยินเป2นรี�ยิบ+คคลืข้องผู้��เรี�ยิน((self – directed learningself – directed learning))

ลี่ กษณ์ะก�จกรรมิการสอนแบบท�มิ(ต�อ)

ในก�รีบรีรียิ�ยิกลื+ มให็ญ่

เป2นก�รีบรีรียิ�ยิอยิ �งเป2นทำ�งก�รีไม ใช้ เป2น ก�รีค+ยิก�นในรี�ยิลืะเอ�ยิด้แต้ ต้�อง

เน�นให็�ได้�ปรีะเด้�นส��ค�ญ่ ต้�องม�เน)อห็�ครีบถ้�วน ต้�มทำ��ว�งแผู้นไว� ควรีใช้�ส�อ ว�สด้+อ+ปกรีณ์<ปรีะกอบข้ณ์ะ

บรีรียิ�ยิ เป2นทำ��น �สนใจำต้ลือด้เวลื�

ม�เอกส�รีอ��งอ�งทำ��ผู้��เรี�ยินจำะไปค�นคว��ต้ อได้�

ต้�องรีวด้เรี�ว กรีะทำ�ด้รี�ด้แลืะต้รี4งคว�มสนใจำข้องผู้��เรี�ยิน

ม�ต้�วอยิ �งทำ��แจำ มช้�ด้ ม�บรีรียิ�ก�ศึทำ��ม�ช้�ว�ต้ช้�ว�(ผู้��เรี�ยินรี��ส4ก

สบ�ยิใจำไม อ4ด้อ�ด้ข้ณ์ะเรี�ยิน) ต้�องช้�)ให็�เห็�นจำ+ด้ทำ��ส��ค�ญ่ข้องค��

บรีรียิ�ยิทำ��จำะช้ วยิให็�ผู้��เรี�ยินสรี+ปได้�

เน�นผู้��เรี�ยินเป2นศึ�นยิ<กลื�งต้�องก�รีให็�ผู้��เรี�ยินรี��จำ�กใช้�สต้�ป-ญ่ญ่�แลืะ

คว�มส�ม�รีถ้ด้��นอ�น ๆ ข้องผู้��เรี�ยินเพื้�อรี�บรี��แลืะเข้��ใจำเน)อห็�ทำ��ต้�องเรี�ยินต้�องทำ��ให็�ผู้��เรี�ยินเปลื��ยินจำ�กก�รี

เป2นpassive learner เป2น active learner

เป2นก�รีสอนทำ��เป2นก�รีสอนทำ��เป2นก�รีสอนทำ��เป2นก�รีสอนทำ��

ในก�รีสอนกลื+ มยิ อยิในก�รีสอนกลื+ มยิ อยิ

ผู้��สอนก�บผู้��เรี�ยินแลืกเปลื��ยินคว�มค�ด้เห็�นก�นม�ก�รีอภิ�ปรี�ยิเพื้�อให็�เก�ด้คว�มเข้��ใจำ

ในเรี�องทำ��บรีรียิ�ยิอยิ �งแจำ มช้�ด้ม�ก�รีกรีะต้+�นให็�ทำ+กคนม�ส วนรี วมใน

ก�จำกรีรีมแลืะฝึ7กก�รีเป2นผู้��น��แลืะผู้��ต้�มทำ��ด้�ม�ก�รีฝึ7กก�รีรี��จำ�กฟั-ง รี��จำ�กถ้�มแลืะรี��จำ�ก

อภิ�ปรี�ยิ รีวมทำ�)งก�รีเข้�ยิน ก�รีอ �น แลืะทำ�กษะอ�น ๆ เพื้�อน��ไปใช้�ในก�รีเรี�ยินรี��แลืะเข้��ใจำเรี�องทำ��ต้�องเรี�ยิน

ฝึ7กให็�ผู้��เรี�ยินช้ วยิก�นแก�ป-ญ่ห็�อยิ �งจำรี�งจำ�งช้ วยิผู้��เรี�ยินให็�รี��จำ�กก�รีปรีะเม�นก�รีเรี�ยินรี��

ข้องต้นเอง กรีะต้+�นให็�ผู้��เรี�ยินต้�องก�รีทำ��จำะค�ด้ ค�นคว��

ศึ4กษ�คว�มรี��ต้ อไปผู้��สอนต้�องม�เวลื�ให็�ก�บผู้��เรี�ยินแลืะพื้รี�อมทำ��

จำะรี�บฟั-งคว�มค�ด้เห็�นจำ�กผู้��เรี�ยินห็รีอช้ วยิ ให็�ค��ปรี4กษ�แก ผู้��เรี�ยิน

Active LearningLearning in which the child, by

acting on objects and interacting with people, ideas, and events, constructs new understanding.

www.trainingwheels4ece.com/students/ece113/powerpoints/Active

%20Learning.ppt

""Active Learning is not merely a set of activities, Active Learning is not merely a set of activities, but rather an attitude on the part of both but rather an attitude on the part of both students and faculty that makes learning students and faculty that makes learning

effective The objective of Active Learning is to seffective The objective of Active Learning is to stimulate lifetime habits of thinking to stimulate stimulate lifetime habits of thinking to stimulate students to think about HOW as well as WHAT ttudents to think about HOW as well as WHAT they are learning and to increasingly take respohey are learning and to increasingly take respo

nsibility for their own education." (p 40)nsibility for their own education." (p 40)  From  The Seven principles in Action, Susan Rickey Hatfield, editor,From  The Seven principles in Action, Susan Rickey Hatfield, editor, David G. Brown and Curtis W. Ellison. David G. Brown and Curtis W. Ellison.

ก�รีเรี�ยินเช้�งรี+ก ก�รีเรี�ยินเช้�งรี+ก (Active (ActiveLearning)Learning)

ดรดร..ทว�ว ฒน ว ฒนก&ลี่เจร�ญ่ทว�ว ฒน ว ฒนก&ลี่เจร�ญ่

httphttp://://www.academic.chula.ac.thwww.academic.chula.ac.th//

elearningelearning//contentcontent

/active%20learning_Taweewat.pdf/active%20learning_Taweewat.pdf

การเร�ยนเช้�งร&กเปิ-นการเร�ยนท��เน�นให้�ผู้��เร�ยนได�ปิฏิ�บ ต� แลี่ะสร�างการเร�ยนเช้�งร&กเปิ-นการเร�ยนท��เน�นให้�ผู้��เร�ยนได�ปิฏิ�บ ต� แลี่ะสร�างค่วามิร� �จากส��งท��ปิฏิ�บ ต�ในระห้ว�าง การเร�ยนการสอน โดยเน�นการค่วามิร� �จากส��งท��ปิฏิ�บ ต�ในระห้ว�าง การเร�ยนการสอน โดยเน�นการพื่ ฒนาท กษะ ค่วามิสามิารถท��ตรงก บพื่'0นฐานค่วามิร� �เด�มิ ส�งผู้ลี่ให้�พื่ ฒนาท กษะ ค่วามิสามิารถท��ตรงก บพื่'0นฐานค่วามิร� �เด�มิ ส�งผู้ลี่ให้�ผู้��เร�ยนผู้��เร�ยนเช้'�อมิโยงค่วามิร� �ให้มิ�ก บค่วามิร� �เด�มิท��มิ�จากการปิฏิ�บ ต�แลี่ะค่วามิเช้'�อมิโยงค่วามิร� �ให้มิ�ก บค่วามิร� �เด�มิท��มิ�จากการปิฏิ�บ ต�แลี่ะค่วามิต�องการของผู้��เร�ยนเปิ-นส.าค่ ญ่ต�องการของผู้��เร�ยนเปิ-นส.าค่ ญ่ก�จกรรมิการเร�ยนการสอนท��เน�นการเร�ยนเช้�งร&ก ได�แก� การก�จกรรมิการเร�ยนการสอนท��เน�นการเร�ยนเช้�งร&ก ได�แก� การจ ดการเร�ยนการสอนท��เน�นให้�ผู้��เร�ยนเข�าจ ดการเร�ยนการสอนท��เน�นให้�ผู้��เร�ยนเข�าเปิ-นส�วนห้น4�งของก�จกรรมิน 0นๆ เปิ-นส�วนห้น4�งของก�จกรรมิน 0นๆ (Active Engage Student) (Active Engage Student)การส มิมินา การใช้�การแก�ปิ8ญ่ห้า การสอนกลี่&�มิการส มิมินา การใช้�การแก�ปิ8ญ่ห้า การสอนกลี่&�มิย�อยแบบไมิ�เปิ-นทางการ การส.ารวจข�อมิ�ลี่ การทดลี่อง การแก�ไขย�อยแบบไมิ�เปิ-นทางการ การส.ารวจข�อมิ�ลี่ การทดลี่อง การแก�ไขปิ8ญ่ห้า กรณ์�ศ4กษา การส มิมินา การปิ8ญ่ห้า กรณ์�ศ4กษา การส มิมินา การอภิ�ปิราย เปิ-นต�น อภิ�ปิราย เปิ-นต�น

โดยสร&ปิอาจกลี่�าวได�ว�า การเร�ยนเช้�งร&กเปิ-นการจ ดการเร�ยนการโดยสร&ปิอาจกลี่�าวได�ว�า การเร�ยนเช้�งร&กเปิ-นการจ ดการเร�ยนการสอนลี่ดกระบวนการสอนลี่ดกระบวนการส'�อสาร แลี่ะการถ�ายทอดเน'0อห้าให้�ก บผู้��เร�ยนเพื่�ยงอย�างเด�ยว แต�ส'�อสาร แลี่ะการถ�ายทอดเน'0อห้าให้�ก บผู้��เร�ยนเพื่�ยงอย�างเด�ยว แต�เปิ-นการเร�ยนการสอนท��เน�นการพื่ ฒนาเปิ-นการเร�ยนการสอนท��เน�นการพื่ ฒนาค่วามิค่�ดระด บส�ง ค่วามิค่�ดระด บส�ง (Higher order Thinking), (Higher order Thinking), เปิ-นการเร�ยนท��เปิ-นการเร�ยนท��เน�นให้�ผู้��เร�ยนปิฏิ�บ ต�มิากกว�าการฟั8งบรรยายเน�นให้�ผู้��เร�ยนปิฏิ�บ ต�มิากกว�าการฟั8งบรรยาย,,เปิ-นการเร�ยนท��ผู้��เร�ยนเปิ-นส.าค่ ญ่เปิ-นการเร�ยนท��ผู้��เร�ยนเปิ-นส.าค่ ญ่ , , เน�นการว ดปิระเมิ�นด�านค่วามิเน�นการว ดปิระเมิ�นด�านค่วามิค่�ดระด บส�ง แลี่ะให้�ข�อมิ�ลี่ย�อนกลี่ บแก�ค่�ดระด บส�ง แลี่ะให้�ข�อมิ�ลี่ย�อนกลี่ บแก�ผู้��เร�ยนเปิ-นห้ลี่ กผู้��เร�ยนเปิ-นห้ลี่ กจากลี่ กษณ์ะของการเร�ยนเช้�งร&กข�างต�น น กการศ4กษาจ.าเปิ-นต�องจากลี่ กษณ์ะของการเร�ยนเช้�งร&กข�างต�น น กการศ4กษาจ.าเปิ-นต�องทราบองค่#ปิระกอบส.าห้ร บการทราบองค่#ปิระกอบส.าห้ร บการเร�ยนเช้�งร&กเพื่'�อเปิ-นแนวทางส.าห้ร บการจ ดการเร�ยนการสอน เร�ยนเช้�งร&กเพื่'�อเปิ-นแนวทางส.าห้ร บการจ ดการเร�ยนการสอน

Meyers & Jones (1993) Meyers & Jones (1993) กลี่�าวว�ากลี่�าวว�า

องค่#ปิระกอบของการเร�ยนเช้�งร&ก ปิระกอบด�วยองค่#ปิระกอบของการเร�ยนเช้�งร&ก ปิระกอบด�วยปิ8จจ ยท��มิ�ค่วามิเก��ยวข�องก น ปิ8จจ ยท��มิ�ค่วามิเก��ยวข�องก น 3 3 ปิระการ ได�แก� ปิระการ ได�แก� ปิ8จจ ยพื่'0นฐานปิ8จจ ยพื่'0นฐาน

(Basic Elements) (Basic Elements) กลี่ว�ธิ�ในการเร�ยนการสอน กลี่ว�ธิ�ในการเร�ยนการสอน (Learning Strategies) (Learning Strategies) แลี่ะทร พื่ยากรแลี่ะทร พื่ยากร

ทางการสอนทางการสอน (Teaching Resources) (Teaching Resources) โดยมิ�รายลี่ะเอ�ยดโดยมิ�รายลี่ะเอ�ยด

ด งน�0ด งน�0

1. 1. ป-จำจำ�ยิพื้)นฐ�น ป-จำจำ�ยิพื้)นฐ�น (Basic Elements) (Basic Elements)การพื่�ดแลี่ะการฟั8งการพื่�ดแลี่ะการฟั8ง

การเข�ยนการเข�ยนการอ�านการอ�าน

การโต�ตอบค่วามิค่�ดเห้6นการโต�ตอบค่วามิค่�ดเห้6น

2 . 2 . กลืว�ธี�ในก�รีเรี�ยิน กลืว�ธี�ในก�รีเรี�ยิน (Learning (LearningStrategies)Strategies)

กลี่&�มิเลี่6กๆ การท.างานแบบร�วมิแรงร�วมิใจ กรณ์�ศ4กษา กลี่&�มิเลี่6กๆ การท.างานแบบร�วมิแรงร�วมิใจ กรณ์�ศ4กษา สถานการณ์#จ.าลี่อง การอภิ�ปิรายสถานการณ์#จ.าลี่อง การอภิ�ปิรายการแก�ปิ8ญ่ห้า การเข�ยนบทค่วามิการแก�ปิ8ญ่ห้า การเข�ยนบทค่วามิ

3 . 3 . ทำรี�พื้ยิ�กรีทำ�งก�รีสอน ทำรี�พื้ยิ�กรีทำ�งก�รีสอน (Teaching (TeachingResources)Resources)

การอ�าน การก.าห้นดการบ�าน ว�ทยากรจากภิายนอก การการอ�าน การก.าห้นดการบ�าน ว�ทยากรจากภิายนอก การใช้�เทค่โนโลี่ย�ในการสอนใช้�เทค่โนโลี่ย�ในการสอน

การเตร�ยมิอ&ปิกรณ์#การศ4กษา ท�ว�ทางการศ4กษาการเตร�ยมิอ&ปิกรณ์#การศ4กษา ท�ว�ทางการศ4กษา

ห้ลี่ กการเร�ยนเช้�งร&กห้ลี่ กการเร�ยนเช้�งร&ก

Alaska Pacific University; Oklahoma University Alaska Pacific University; Oklahoma University ได�ได�เสนอร�ปิแบบการจ ดการเร�ยนเช้�งร&กในเสนอร�ปิแบบการจ ดการเร�ยนเช้�งร&กในมิห้าว�ทยาลี่ ยปิระกอบด�วยก�จกรรมิต�างๆ ด งน�0มิห้าว�ทยาลี่ ยปิระกอบด�วยก�จกรรมิต�างๆ ด งน�0

1. 1. จ ดก�จกรรมิให้�ผู้��เร�ยนศ4กษาด�วยตนเอง เพื่'�อให้�เก�ดจ ดก�จกรรมิให้�ผู้��เร�ยนศ4กษาด�วยตนเอง เพื่'�อให้�เก�ดปิระสบการณ์#ตรงก บการแก�ปิ8ญ่ห้าตามิสภิาพื่ปิระสบการณ์#ตรงก บการแก�ปิ8ญ่ห้าตามิสภิาพื่จร�ง จร�ง (Authentic situation) (Authentic situation)

2. 2. จ ดก�จกรรมิเพื่'�อให้�ผู้��เร�ยนได�ก.าห้นดแนวค่�ด การวางแผู้น จ ดก�จกรรมิเพื่'�อให้�ผู้��เร�ยนได�ก.าห้นดแนวค่�ด การวางแผู้น การยอมิร บ การปิระเมิ�นผู้ลี่ แลี่ะการการยอมิร บ การปิระเมิ�นผู้ลี่ แลี่ะการน.าเสนอผู้ลี่งานน.าเสนอผู้ลี่งาน

3. 3. บ�รณ์าการเน'0อห้ารายว�ช้า เพื่'�อเช้'�อมิโยงค่วามิเข�าใจว�ช้าต�างๆ ท��บ�รณ์าการเน'0อห้ารายว�ช้า เพื่'�อเช้'�อมิโยงค่วามิเข�าใจว�ช้าต�างๆ ท��แตกต�างก นแตกต�างก น

4. 4. จ ดบรรยากาศในช้ 0นเร�ยนให้�เอ'0อต�อการท.างานร�วมิก บผู้��อ'�น จ ดบรรยากาศในช้ 0นเร�ยนให้�เอ'0อต�อการท.างานร�วมิก บผู้��อ'�น (Collaboration)(Collaboration)

5. 5. ใช้�กลี่ว�ธิ�ของกระบวนการกลี่&�มิ ใช้�กลี่ว�ธิ�ของกระบวนการกลี่&�มิ (Group processing) (Group processing) 6. 6. จ ดให้�มิ�การปิระเมิ�นผู้ลี่โดยกลี่&�มิเพื่'�อน จ ดให้�มิ�การปิระเมิ�นผู้ลี่โดยกลี่&�มิเพื่'�อน (Peer assessment) (Peer assessment)

บทำบ�ทำข้องผู้��สอนบทำบ�ทำข้องผู้��สอนจากก�จกรรมิแลี่ะว�ธิ�การปิฏิ�บ ต�ตามิแนวทางของการเร�ยนเช้�งร&ก จากก�จกรรมิแลี่ะว�ธิ�การปิฏิ�บ ต�ตามิแนวทางของการเร�ยนเช้�งร&ก ผู้��สอนเปิ-นผู้��ท��มิ�บทบาทส.าค่ ญ่ผู้��สอนเปิ-นผู้��ท��มิ�บทบาทส.าค่ ญ่กลี่�าวค่'อ การจะบรรลี่&ว ตถ&ปิระสงค่#ของการเร�ยนเช้�งร&กห้ร'อไมิ� ผู้��กลี่�าวค่'อ การจะบรรลี่&ว ตถ&ปิระสงค่#ของการเร�ยนเช้�งร&กห้ร'อไมิ� ผู้��สอนค่วรมิ�บทบาทด งน�0สอนค่วรมิ�บทบาทด งน�0

1. 1. จ ดให้�ผู้��สอนเปิ-นศ�นย#กลี่างของการเร�ยน ก�จกรรมิห้ร'อเปิAาจ ดให้�ผู้��สอนเปิ-นศ�นย#กลี่างของการเร�ยน ก�จกรรมิห้ร'อเปิAาห้มิายท��ต�องการต�องสะท�อนค่วามิห้มิายท��ต�องการต�องสะท�อนค่วามิต�องการท��จะพื่ ฒนาผู้��เร�ยน แลี่ะเน�นการน.าไปิใช้�ปิระโยช้น#ในช้�ว�ตต�องการท��จะพื่ ฒนาผู้��เร�ยน แลี่ะเน�นการน.าไปิใช้�ปิระโยช้น#ในช้�ว�ตจร�งของผู้��เร�ยนจร�งของผู้��เร�ยน

2. 2. สร�างบรรยากาศของการมิ�ส�วนร�วมิ แลี่ะการเจาจราโต�ตอบท��สร�างบรรยากาศของการมิ�ส�วนร�วมิ แลี่ะการเจาจราโต�ตอบท��ส�งเสร�มิให้�ผู้��เร�ยนมิ�ปิฏิ�ส มิพื่ นธิ#ท��ด�ส�งเสร�มิให้�ผู้��เร�ยนมิ�ปิฏิ�ส มิพื่ นธิ#ท��ด�ก บผู้��สอน แลี่ะเพื่'�อนในช้ 0นเร�ยนก บผู้��สอน แลี่ะเพื่'�อนในช้ 0นเร�ยน

3. 3. จ ดก�จกรรมิการเร�ยนการสอนให้�เปิ-นพื่ลี่ว ต ส�งเสร�มิให้�ผู้��เร�ยนจ ดก�จกรรมิการเร�ยนการสอนให้�เปิ-นพื่ลี่ว ต ส�งเสร�มิให้�ผู้��เร�ยนมิ�ส�วนร�วมิในท&กก�จกรรมิท��สนใจมิ�ส�วนร�วมิในท&กก�จกรรมิท��สนใจรวมิท 0งกระต&�นให้�ผู้��เร�ยนปิระสบค่วามิส.าเร6จในการเร�ยน ก�จกรรมิท��รวมิท 0งกระต&�นให้�ผู้��เร�ยนปิระสบค่วามิส.าเร6จในการเร�ยน ก�จกรรมิท��เปิ-นพื่ลี่ว ต ได�แก� การฝึ@กแก�ปิ8ญ่ห้าเปิ-นพื่ลี่ว ต ได�แก� การฝึ@กแก�ปิ8ญ่ห้าการศ4กษาด�วยตนเอง เปิ-นต�นการศ4กษาด�วยตนเอง เปิ-นต�น

4. 4. จ ดสภิาพื่การเร�ยนร� �แบบร�วมิมิ'อ จ ดสภิาพื่การเร�ยนร� �แบบร�วมิมิ'อ (Collaboratory (Collaboratory Learning) Learning) ส�งเสร�มิให้�เก�ดการร�วมิมิ'อในกลี่&�มิส�งเสร�มิให้�เก�ดการร�วมิมิ'อในกลี่&�มิ

ผู้��เร�ยนผู้��เร�ยน 5. 5. จ ดก�จกรรมิการเร�ยนการสอนให้�ท�าทาย แลี่ะให้�โอกาสผู้��เร�ยนจ ดก�จกรรมิการเร�ยนการสอนให้�ท�าทาย แลี่ะให้�โอกาสผู้��เร�ยน

ได�ร บว�ธิ�การสอนท��ห้ลี่ากห้ลี่ายได�ร บว�ธิ�การสอนท��ห้ลี่ากห้ลี่ายมิากกว�าการบรรยายเพื่�ยงอย�างเด�ยว แมิ�รายว�ช้าท��เน�นทางด�านมิากกว�าการบรรยายเพื่�ยงอย�างเด�ยว แมิ�รายว�ช้าท��เน�นทางด�านการบรรยายห้ลี่ กการ แลี่ะทฤษฎี�เปิ-นห้ลี่ กก6การบรรยายห้ลี่ กการ แลี่ะทฤษฎี�เปิ-นห้ลี่ กก6สามิารถจ ดก�จกรรมิเสร�มิ อาท� การอภิ�ปิราย การแก�ไขสามิารถจ ดก�จกรรมิเสร�มิ อาท� การอภิ�ปิราย การแก�ไขสถานการณ์#ท��ก.าห้นด เสร�มิเข�าก บก�จกรรมิการบรรยายสถานการณ์#ท��ก.าห้นด เสร�มิเข�าก บก�จกรรมิการบรรยาย

6. 6. วางแผู้นในเร'�องของเวลี่าการสอนอย�างช้ ดเจน ท 0งในเร'�องวางแผู้นในเร'�องของเวลี่าการสอนอย�างช้ ดเจน ท 0งในเร'�องของเน'0อห้า แลี่ะก�จกรรมิในการเร�ยนของเน'0อห้า แลี่ะก�จกรรมิในการเร�ยนท 0งน�0เน'�องจากการเร�ยนเช้�งร&กจ.าเปิ-นต�องใช้�เวลี่าการจ ดก�จกรรมิท 0งน�0เน'�องจากการเร�ยนเช้�งร&กจ.าเปิ-นต�องใช้�เวลี่าการจ ดก�จกรรมิมิากกว�าการบรรยาย ด งน 0นผู้��สอนมิากกว�าการบรรยาย ด งน 0นผู้��สอนจ.าเปิ-นต�องวางแผู้นการสอนอย�างช้ ดเจน โดยสามิารถก.าห้นดรายจ.าเปิ-นต�องวางแผู้นการสอนอย�างช้ ดเจน โดยสามิารถก.าห้นดรายลี่ะเอ�ยดลี่งในปิระมิวลี่รายว�ช้า เปิ-นต�นลี่ะเอ�ยดลี่งในปิระมิวลี่รายว�ช้า เปิ-นต�น

7. 7. ใจกว�าง ยอมิร บในค่วามิสามิารถในการแสดงออก แลี่ะค่วามิค่�ดใจกว�าง ยอมิร บในค่วามิสามิารถในการแสดงออก แลี่ะค่วามิค่�ดเห้6นท��ผู้��เร�ยนน.าเสนอเห้6นท��ผู้��เร�ยนน.าเสนอ