ฟังดีมีปัญญา

12
The Buddhist Meditation Center of Pittsburgh www.bmcpitts.org, www.facebook.com/bmcpitts ฟังดีมีปัญญา ปิยเมธี

Upload: watpadhammaratana-pittsburgh

Post on 01-Jul-2015

67 views

Category:

Spiritual


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: ฟังดีมีปัญญา

The Buddhist Meditation Center of Pittsburgh

www.bmcpitts.org, www.facebook.com/bmcpitts

ฟังดีมีปัญญา ปิยเมธี

Page 2: ฟังดีมีปัญญา

คติธรรมประจำ�วัด สติมโตสทาภทฺทํ คนมีสติเท่ากับมีสิ่งนําโชคตลอดเวลา

The mind is very hard to checkand swift, it falls on what it wants.The training of the mind is good,

a mind so tamed brings happiness.

เจ้าของ:วัดป่าธรรมรัตน์พิทส์เบิร์กที่ปรึกษา: พระวิเทศธรรมรังษี(หลวงตาชี) พระราชพุทธิวิเทศ พระครูปริยัติธรรมาภิราม พระครูสิริอรรถวิเทศ พระครูสังฆรักษ์อําพลสุธีโร คณะสงฆ์วัดไทยกรุงวอชิงตัน,ดีซี คณะสงฆ์วัดป่าสันติธรรมกองบรรณาธิการ: คณะสงฆ์และอุบาสกอุบาสิการูปเล่ม/รูปภาพ พระมหาปิยะอุตฺตมปญฺโญ

Dhammaratana Journal is published byWatPadhammaratanaTheBuddhistMeditationCenterofPittsburgh)5411GlenwoodAve.,Pittsburgh,PA15207Tel(412)521-5095E-mail:[email protected],[email protected]:www.bmcpitts.orgwww.facebook.com/bmcpittswww.youtube.com/watpadhammaratana

CONTENT - สารบัญ

พุทธประกันภัย5

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติ13

Page 3: ฟังดีมีปัญญา

พุทธประกันภัยพุทธประกันภัย 5

ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินครอบครัว

และอื่นๆ เป็นยอดปรารถนาของคน

ทั้งหลาย ทําให้มนุษย์พยายามคิดค้น

สร้างสรรค์สิ่งต่างๆขึ้นไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย เสื้อผ้า

และเครื่องอํานวยความสะดวกหลายหลากเพื่อความ

ปลอดภัย ถ้าสังเกตจะเห็นว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว

กําลังพัฒนา และด้อยพัฒนาทั่วโลก จะมีสิ่งป้องกัน

คำ�นำ�

กาเลนะ ธัมมัสสะวะนัง การฟังธรรมตามกาล

นั้น เป็นหนึ่งในมงคล 38 ประการที่พระพุทธองค์ทรง

ประทานไว้เป็นแบบแผนในการฝึกหัดพัฒนาชีวิตของ

คนเราตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงที่สุด

ในพิธีการทางพระพุทธศาสนาจึงมีการแสดง

ธรรมเป็นส่วนหนึ่งของพิธีการ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน

ได้ศึกษาเรียนรู้ธรรมะผ่านการฟัง เมื่อฟังแล้วคิด

พิจารณาตรองตามแล้วนําไปปฏิบัติก็จะเป็นผลดีแก่

ชีวิตของตน

ผู้เขียนได้คัดสรรบทธรรมท่ีแสดงตามโอกาส

ต่างๆ เพื่อเป็นธรรมบรรณาการแก่ญาติธรรมทั้งหลาย

หวังว่าท่านทั้งหลายจงเจริญรุ่งเรืองในธรรมของพระ

สัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆ ขึ้นไปตราบเท่าสู่ที่สุดแห่งทุกข์

คือพระนิพพานด้วยกันทุกทท่านทุกคน

ด้วยไมตรีธรรม

ปิยเมธี

พุทธประภันภัย

Page 4: ฟังดีมีปัญญา

พุทธประกันภัยพุทธประกันภัย 6 7

ภัยและอํานวยความสะดวกต่างๆ เช่น ในประเทศ

สหรัฐอเมริกา จะมีระบบเตือนภัยธรรมชาติที่ดีเยี่ยม

จนสามารถรู้ได้ล่วงหน้าหลายวันชั่วโมงต่อชั่วโมง

ว่า ภายในอาทิตย์นี้ฝนจะตก แดดจะออกจนคนที่จะ

ออกไปทําธุระนอกบ้านสามารถเตรียมพร้อมรับมือ

กับดินฟ้าอากาศได้

ถึงแม้ประเทศที่พัฒนาเจริญก้าวหน้าทาง

ด้านเทคโนโลยีก็ใช่ว่าจะมีความปลอดภัยในชีวิต

อย่างเต็มที่ เพราะภัยต่างๆใช่ว่าจะเกิดจากมนุษย์เอง

เท่านั้น ยังมีภัยธรรมชาติที่อยู่เหนือการควบคุมของ

เรา ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ สามารถกะเกณฑ์เตรียมรับมือ

ได้ จึงเห็นว่ามีบริษัทประกันภัยผุดขึ้นมากมาย เช่น

บริษัทประกันชีวิต สุขภาพ บ้าน รถยนต์ ทรัพย์สิน

และธุรกิจเป็นต้นบริษัทประกันภัยเหล่านั้นต่างต้อง

เสียเงินทองในการทําประกันโดยจ่ายเป็นรายเดือน

รายปี ซึ่งคนที่ทําประกันภัยต้องใช้จ่ายเงินจํานวน

มากในแต่ละปี เพื่อป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นกับชีวิต

ทรัพย์สินและครอบครัวของตนเอง

เมื่อ2,500กว่าปีก่อนพระพุทธเจ้าก็ทรงวาง

หลักประกันภัยไว้เหมือนกันเรียกว่าพุทธประกันภัย

เป็นระบบประกันภัยที่ต่างจากประกันภัยในปัจจุบัน

คือ ไม่ต้องลงทุน ลงเงิน แต่มีระเบียบปฏิบัติว่าต้อง

ลงแรงลงมือกระทํามีวินัยงดเว้นละเว้นบางสิ่งบาง

ประการ โดยมีระเบียบปฏิบัติในการทําประกันภัย

ด้านต่างๆ และผลประโยชน์ที่ผู้เอาประกันจะได้รับ

ดังนี้

1.ประกันภัยชีวิต

มี ร ะ เ บี ย บ ก า ร

ชําระประกันภัยด้วยการไม่

เบียดเบียนทําลายสิ่ งมีชีวิต

โดยต้องถือปฏิบัติตลอดชีวิต

ผลประโยชน์ที่จะได้กรณียัง

มีชีวิตอยู่ คือ มีสุขภาพแข็ง

Page 5: ฟังดีมีปัญญา

พุทธประกันภัยพุทธประกันภัย 8 9

แรง หน้าตาผ่องใส อายุยืน ไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ

เบียดเบียน เป็นที่รักของคนและสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย

หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว จะได้ไปเกิดในที่ดีๆ มี

มนุษย์และสวรรค์เป็นต้น

2.ประกันทรัพย์สิน

มี ร ะ เ บี ย บ ก า ร

ชําระประกันภัยด้วยการ

ไม่ปล่ อยให้ ความโลภ

ครอบงําหยิบจับเอาวัตถุ

สิ่งของที่ไม่ใช่ของๆ ตน

ต้องถือปฏิบัติตลอดชีวิต

ผลประโยชน์ที่จะได้กรณี

ยังมีชีวิตอยู่ คือ ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ทรัพย์สมบัติ

ปลอดภัยไม่ถูกเบียดบังหลังจากเสียชีวิตไปแล้วจะ

ได้ไปเกิดในที่ดีๆมีมนุษย์และสวรรค์เป็นต้น

3.ประกันครอบครัว

มี ร ะ เ บี ย บ ชํ า ร ะ

ประกันภัยด้วยการเคารพ

รัก เพศตรงข้ ามและ เพศ

เดียวกันเสมอเหมือนญาติ

ของตนเอง ต้องถือปฏิบัติ

ตลอดชีวิต ผลประโยชน์ที่

จะได้กรณียังมีชีวิตอยู่ คือ

ครอบครัวมั่นคง มีความสุข ปลอดภัยจากโรคร้าย

ต่างๆเป็นต้นว่าHIVหลังจากเสียชีวิตไปแล้วจะได้

ไปเกิดในที่ดีๆมีมนุษย์และสวรรค์เป็นต้น

4.ประกันเครดิต

มีระเบียบชําระประกันภัย

ด้วยการมีสติ มีเมตตาในการพูดจา

ให้ไพเราะ ดี มีประโยชน์กับทุกๆ

คน ต้องถือปฏิบัติตลอดชีวิต ผล

Page 6: ฟังดีมีปัญญา

พุทธประกันภัยพุทธประกันภัย 10 11

ประโยชน์ที่จะได้รับกรณียังมีชีวิตอยู่ คือ มีเครดิต

มีเสน่ห์ พูดอะไรมีคนเคารพรักเชื่อถือ หลังจาก

เสียชีวิตไปแล้ว จะได้ไปเกิดในที่ดีๆ มีมนุษย์และ

สวรรค์เป็นต้น

5.ประกันสุขภาพ

มีระเบียบชําระ

ประกันภัยด้วยการงด

เว้นจากการดื่มเครื่อง

ดองของมึนเมาต่างๆ ที่

เป็นเหตุให้ประมาทขาด

สติ ต้องถือปฏิบัติตลอด

ชีวิต ผลประโยชน์ที่จะ

ได้กรณียังมีชีวิตอยู่คือสุขภาพแข็งแรงไม่เสียทรัพย์

ไม่เสียชื่อเสียง คนนับถือ มีความคิดอันเฉียบคม ไม่

ขาดสติอันเป็นเหตุให้ทําอะไรโง่ๆ หลังจากเสียชีวิต

ไปแล้ว จะได้ไปเกิดในที่ดีๆ มีมนุษย์และสวรรค์

เป็นต้น

ข้อแตกต่างระหว่างประกันภัยทั่วไปกับ

พุทธประกันภัยคือ

ประกันภัยทั่วไป ผู้เอาประกันต้องลงทุน

จ่ายทรัพย์ทุกเดือนต่อเนื่องหลายปี และต้องทําตาม

ระเบียบที่ทางบริษัทกําหนดว่าต้องจ่ายเงินจํานวน

เท่านั้นบาท ระยะเวลากี่ปี และห้ามทําอะไรบ้าง จึง

จะได้รับผลประโยชน์

ส่วนพุทธประกันภัยต้องลงมือกระทํา ไม่

ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีกําหนดปีที่ทํา ทํา

เท่าไหร่ก็ได้รับประกันภัยเท่านั้น ถ้าหยุดทําก็หยุด

รับผลประโยชน์

พุทธประกันภัย ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าของ

บริษัทได้การันตีไว้ว่า ถ้าทุกคนทําประกันภัยกับ

บริษัทพุทธประกันภัย จะได้ประโยชน์คือความสงบ

เย็นเป็นสุขแก่ตัวผู้ทําเอง ครอบครัว สังคม ประเทศ

ชาติและโลกโดยจะได้รับประโยชน์หลักๆดังนี้

Page 7: ฟังดีมีปัญญา

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติพุทธประภันภัย 12 13

1.ทําให้พบเจอเพื่อนที่ดีสังคมที่ดี

2.ทําให้เจริญรุ่งเรืองร่ํารวย

3. ทําให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุขทั้งส่วนตัวและ

ส่วนรวม

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับท่านทั้งหลาย

เองว่าจะทําประกันกับบริษัทพุทธประกันภัยหรือไม่

ถ้าอยากทําวิธีทําก็ไม่ยากโดยมีวิธีทําง่ายๆ2วิธีคือ

1.ตั้งจิตอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูปที่เป็น

ตัวแทนของพระพุทธเจ้าว่า จะทําประกันภัยกับ

พระองค์ด้วยการปฏิบัติตามระเบียบประกันภัยทั้ง 5

ข้อ

2.ไปที่วัดใกล้บ้านแล้วกล่าวคําสมาทาน

ประกันภัยต่อหน้าพระสงฆ์ โดยมีพระภิกษุเป็นสักขี

พยานด้วยการปฏิบัติตามระเบียบทั้ง5ข้อ

พวกเราคงเคยได้ยินคํากลอนสอนใจบท

หนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วไปคือ

คนดีชอบแก้ไข

คนจัญไรชอบแก้ตัว

คนชั่วชอบทำาลาย

คนมักง่ายชอบทิ้ง

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติ

Page 8: ฟังดีมีปัญญา

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติชาวพุทธที่ดีต้องชอบติ 14 15

คนจริงชอบทำา

คนระยำาชอบติฯ

ในกลอนบทนี้ ท่านนิยามความหมายของ

คนในแบบต่างๆและกล่าวว่าคนระยําชอบติติในที่

นี้หมายถึงติฉินนินทาซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์

มีแต่ก่อโทษให้กับตนเองและสังคม

ชาวพุทธที่ดีต้องเป็นคนชอบติ ติในที่นี้

ไม่ใช่ติฉินนินทาหรือว่าร้ายใคร แต่เป็นติที่ดี ซึ่งใน

ทางพระพุทธศาสนามีด้วยกันหลายติคือ

-ติแรกคือขันติแปลว่าความอดทน

ความอดทนนี้เป็นคุณสมบัติที่ต้องมีเยอะๆ

เพราะการดําเนินชีวิตในปัจจุบันต้องเจอปัญหา

อุปสรรคมากมายทั้งจากสิ่งแวดล้อมภายนอกไม่ว่า

จะเป็นดินฟ้าอากาศ เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวร้อน ถ้าคน

ที่อยู่ในเมืองใหญ่ก็ต้องเผชิญปัญหามลภาวะเป็น

พิษรถติด รวมถึงผู้คนที่อยู่ด้วยกันที่บางครั้งอาจมี

การกระทบกระทั่งกันบ้าง และยังต้องอดทนต่อสิ่ง

แวดล้อมภายในตนเองไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ

ความไม่สบายกายสบายใจต่างๆ รวมถึงอดทนต่อ

กิเลสตัณหาที่คอยยั่วยุให้เราทําสิ่งที่ไม่ดีลงไป ความ

อดทนจึงเป็นส่ิงจําเป็นอย่างยิ่งในการดําเนินชีวิต

ของเราตั้งแต่เกิดจนตาย

- ติที่สอง คือ สติ แปล

ว่า ความระลึกได้ หรือ

รู้ตัว(กาย-ใจ)

พระพุทธองค์

ทรงสรุปคําสอนของพระองค์มากมายลงที่คําว่า สติ

Page 9: ฟังดีมีปัญญา

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติชาวพุทธที่ดีต้องชอบติ 16 17

ถ้าเราเจริญสติหรือฝึกสติตัวเดียวก็เสมือนเราปฏิบัติ

ธรรมข้ออื่นๆ ด้วย การเจริญสตินั้นทําได้ตั้งแต่ตื่น

นอนจนกระทั่งเข้านอน ด้วยการฝึกให้มีความรู้ตัว

ขณะยืนเดินนั่งนอนกินดื่มทําพูดคิดฯลฯขณะทํา

อะไรอยู่ก็พยายามเอาใจมาไว้กับสิ่งที่ทํา ฝึกไปอย่าง

นี้เรื่อยๆ ก็จะมีสติหรือเบรค เวลามีปัญหาอุปสรรค

ต่างๆ เกิดขึ้น สติก็จะไปช่วยขนเอาปัญญามาจัดการ

กับปัญหาได้ทัน ฉะนั้น สติจึงเป็นสิ่งที่สําคัญไม่แพ้

ขันติเลยทีเดียว

*สติและสัมปะชัญญะ เป็นธรรมะคู่กัน สติ แปลว่า

ความระลึกได้ก่อนพูดคิดทำาอะไร ส่วนสัมปะชัญญะ

แปลว่า ความรู้ตัวขณะพูดทำาคิด แต่บางครั้งเวลาพูด

จะพูดแค่คำาว่า สติคำาเดียว เป็นอันเข้าใจโดยทั่วไปว่า

หมายถึงสัมปะชัญญะด้วย

-ติที่สามคือสันติแปลว่าความสงบ

สันติเป็นส่ิงจําปรารถนาในโลกปัจจุบันอัน

เต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน มีข้อมูลมากมายไหล

บ่ามาจากทั่วทุกมุมโลก ถ้าหากเราไม่เลือกบริโภค

อาจสําลักข้อมูลตาย เป็นบ้าหอบฟาง หรือเต้นตาม

เพลงที่คนอื่นร้องบางครั้งการบริโภคหรือเสพข้อมูล

ข่าวสารมาก อาจทําให้จิตใจของเราไม่สงบ สันติ

หรือความสงบจะเกิดขึ้นได้ ไม่ได้เกิดจากอาวุธหรือ

การเรียกร้อง แต่เกิดจากตัวบุคคลผู้ต้องการสันติที่

ต้องสร้างสันติหรือความสงบขึ้นท่ีใจของตนก่อน

Page 10: ฟังดีมีปัญญา

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติชาวพุทธที่ดีต้องชอบติ 18 19

มีคําพูดอันคมคายของมหาตมะ คานธี ว่า "Be the

changeyouwant tosee in theworldจงเป็นความ

เปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการเห็นในโลกใบนี้" แม้

โลกภายนอกจะวุ่นวายสับสนเพียงใดอย่าให้มันมา

ทําลายความสงบภายในจิตใจของเราเลย ไม่เช่นนั้น

เราจะไม่เหลือพื้นที่แห่งความสงบเลย

-ติที่สี่คือวิมุตติแปลว่าความหลุดพ้น

วิมุตติหรือความหลุดพ้นในที่ น้ีหมายถึง

ความหลุดพ้นจากพันธนาการหรือโซ่ตรวนที่ทําให้

เราวนเวียนอยู่ในวัฏจักรของความชั่วช้าเลวทราม

ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นความโลภจนเกินพองาม ความ

โกรธจนทําร้ายทําลายคนอื่น และความหลงจนไม่รู้

จักผิดชอบชั่วดี ความหลุดพ้นนั้นมีหลายระดับตาม

ความหมายของคํา เพื่อให้เราได้ฝึกชิมลองความเป็น

อิสระจากพันธการหรือหมู่มารที่คอยตามจองล้าง

จองผลาญแบ่งง่ายๆเป็น3ระดับได้แก่

- ตะทังคะวิมุตติ แปลว่า ความหลุดพ้น

ด้วยองค์นั้นๆ เป็นต้นว่า มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นในใจ เช่น

ความโกรธเกิดขึ้น ก็คิดถึงโทษของความโกรธ และ

Page 11: ฟังดีมีปัญญา

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติชาวพุทธที่ดีต้องชอบติ 20 21

ประโยชน์ของเมตตาสามารถเอาธรรมะที่เป็นคู่ปรับ

กันมาใช้สอนใจตนเองได้

- วิกขัมภะนะวิมุตต ิ แปลว่า ความหลุดพ้น

ด้วยการข่มไว้เหมือนเอาหินทับหญ้า ในที่นี้หมาย

การทําสมาธิด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์

การนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมถ้าจิตใจเราจดจ่ออยู่กับ

สิ่งที่ทํา ไม่วอกแวกหวั่นไหว ในขณะนั้นเราก็เป็น

อิสรภาพจากมารทั้งหลาย แม้จะเป็นชั่วขณะหนึ่งก็

ยังดีนักหนา เรียกว่าได้ชิมรสของความหลุดพ้นจาก

พันธนาการ

- สะมุจเฉทวิมุตต ิ แปลว่า ความหลุดพ้น

แบบตัดขาด ถอนรากถอนโคน เป็นความหลุดพ้น

ของพระอรหันต์ทั้งหลายจากกิเลสทั้งปวง ไม่มี

ปัญหาให้กังวลอีกต่อไปในส่วนตนเอง มีชีวิตอยู่

อย่างสุขสบายโล่งโปร่ง ลองนึกเทียบดูว่า ขณะที่เรา

ไม่มีความอยากมาคอยรบกวนแม้เพียงชั่ววินาทีหรือ

นาทียังมีความสุขขนาดนี้ ถ้าไม่มีมาเลยละ จะสุข

ขนาดไหน

ชาวพุทธที่ดีจึงควรเป็นคนชอบติ แล้ว

พยายามปลูกต้นติเหล่านี้ในใจ รดน้ําพรวนดินให้

Page 12: ฟังดีมีปัญญา

ชาวพุทธที่ดีต้องชอบติชาวพุทธที่ดีต้องชอบติ

All are cordially invited to participatein the meditation programs and Buddhist activities at

Wat Padhammaratana(Buddhist Meditation Centre of Pittsburgh)

Activity Day Time

1. Chanting Daily Morning and

Evening

05.30 - 6.30 a.m.

5.30 - 6.30 p.m.

2. Dhamma Talk Daily Morning 10.45 - 11.15 a.m.

3.Buddhist Study(Thai) Every Sunday 01.00 - 03.00 p.m.

4. Meditation(English) Every Saturday 03.00 - 05.00 p.m.

All activities will be held at the upper or lower level of the temple. Forfurtherinformation,pleasecontactWatPadhammaratana,PA.

Tel.412-521-5095,E-mail:[email protected],www.bmcpitts.org,www.facebook.com/bmcpitts

-ToserveasaBuddhismpromotioncenter

in the U.S.

-ToserveasameditationcenterinPittsburgh

-Topromote virtues,Buddhist culture and

traditions

-TobeacenterofallBuddhists,regardless

of nationalities

OBJECTIVES

22

เจริญเติบโตข้ึนจนสามารถเก็บผลกินได้ถ้าทําได้

อย่างนี้พระพุทธเจ้าทรงการันตีว่าจะมีแต่ความเจริญ

รุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างเดียว

ขอฝ าก เ รื่ อ ง ติ ไ ว้ ให้ คิ ด ใน เทศก าลปี

ใหม่(ของชาวโลก)ที่กําลังคืบคลานเข้ามา วันเวลา

หมุนเปลี่ยนเวียนไปอย่างนี้ไม่มีต้นไม่มีปลาย(คน

เราสมมุติให้ต้นปีท้ายปี) แต่ชาวพุทธสามารถทําวัน

เวลาแต่ละช่วงให้มีค่าได้ด้วยการคิดพูดทําสิ่งๆ ดี

จะเป็นพรปีใหม่โดยไม่ต้องร้องขอจากหลวงพ่อที่

ศักดิ์สิทธิ์องค์ไหนเลย