แมวจัดอยู่ในพงศ์พันธุ์เดียวกันกับสัตว์นักล่า อย่างเสือ เสือดาว และสิงโต เป็นที่ยืนยันแล้วว่า ตน้ตระกลูแมวมาจากเสอืไซบเีรยีนแมวปา่มคีวามยาว ลำตัวตั้งแต่ปลายจมูกถึงปลายหางราวสี่เมตร ขณะที่ แมวบ้านหรือแมวทั่วไปจะตัวเล็กกว่ามาก ช่วงขาก็ สั้นกว่า แต่ยังคงเป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อ มีเขี้ยวและ เลบ็แหลมคมสามารถหดซอ่นเลบ็ไดเ้ชน่เดยีวกบัเสอืและ สิงโตซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของสัตว์ตระกูลนี้

แมว = เสือจิ๋ว

แมวกับมนุษย์ เริ่ม เกี่ยวพันกันตั้ งแต่สมัย อยีปิต์โบราณหรอืกค็อืเมือ่หลายพนัปกีอ่นมกีารขดุพบ มมัมีแ่มวหลายตวัตามสสุานโบราณชาวอยีปิต์โบราณ เลี้ยงแมวและยังนับถือว่าเป็นสัตว์ของเทพ ถึงขนาดมีวิหารบูชาเทพีแห่งแมวแยกต่างหาก ซึ่งแมวที่พบใน สมัยนั้นเป็นแมวที่มีรูปร่างเล็ก ขนสั้นมีจุดสีน้ำตาลใบหูใหญ่แหลม เทียบกับแมวในปัจจุบันแล้วสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงที่สุดคือแมวอะบิสซิเนียน

แมวµŒ¹¡Óเ¹ิ´

เรื่องของหาง

แมวมีกระดูก 230 ชิ้นซึ่งมากกว่ากระดูก ในร่างกายมนุษย์เสียอีก พบว่าลำพังแค่ส่วนหางก็ แบ่งสัดส่วนไปแล้วถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้หางแมว มีหน้าท่ีสร้างความสมดุลให้กับร่างกายช่วยให้มันทรงตัว ได้ขณะเดินไปตามพื้นที่แคบๆ หรือเลี้ยวกะทันหัน นอกจากจะทำหน้าที่เหมือนหางเสือเรือแล้ว หางแมวยังเป็นตัวบอกอารมณ์และส่งข้อความที่มันอยากจะ สื่อสารอีกด้วย

แมวที่กำลังอยู่ในภาวะผ่อนคลายจะแกว่งหาง ไปมาช้าๆ ถ้าหางยกสูงและตั้งตรงแปลว่าแมวกำลัง มคีวามสขุถา้ปลายหางกระตกุเลก็นอ้ยแมวตวันัน้กำลงั รำคาญ การสะบัดหางอย่างรวดเร็วบอกว่าแมวกำลัง รำคาญมากอยากอยู่ตามลำพังถ้าหางแมวตั้งตรงและ ขนพองแปลว่ามันกำลังตื่นตัวพร้อมจะจู่โจม ถ้าหาง พองฟหูลบุตำ่นัน่คอืมนักำลงักลวัและถา้แมวเอาหางเขีย่ หรือพันขาเราเมื่อไหร่แปลว่ามันกำลังแสดงความรัก ต่อเรา

ËÒ§ºÍ¡ÍÒÃÁ³�

ความสามารถในการดมกลิน่ของแมวอาจสู้สุนขั ไมไ่ด้แตท่ีแ่น่ๆ จมกูแมวดมกลิน่ไดด้กีวา่มนษุย์10เทา่ ในจมูกของแมวมีเซลล์รับกลิ่นประมาณ200 ล้าน เซลล์นอกจากท่ีจมูกแล้วแมวยังมีอวัยวะพิเศษในการรับกลิ่นอีกอย่างหนึ่งก็คือต่อมที่อยู่บริเวณเพดานปากต่อมนี้มีความแม่นยำมากกว่าจมูกเสียอีก ดังนั้นเวลา ที่แมวตั้งใจจะดมอะไรอย่างจริงจังมันจะยืดคอและ อ้าปากไปด้วย

แมว´ม