เจษฎา...

10
ผศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

Upload: others

Post on 20-Jul-2020

1 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

ผศ. ดร. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์

Page 2: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

3

คำาทำานาย เด็กชายปลาบู่หรือโลกจะแตกจริงๆ ปี 2012!!!

เดี๋ยวนี้แทบจะกลายเป็นธรรมเนียมไปแล้วว่า ใกล้ๆ จะถึงวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จะต้องมีคำาทำานายแปลกๆ ออกมาเสมอ เกี่ยวกับพิบัติภัยใหญ่จะเกิดขึ้นกับเมืองไทยในวันสิ้นปี 31 ธันวาคม

คิดเผินๆ ก็คงเกิดจากความหวาดกลัว คาจิตใจ ตั้งแต่ที่มีธรณีพิบัติภัย “สึนามิ” เกิดขึ้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันในระหว่างฉลองเทศกาลคริสต์มาส ต่อด้วยอัคคีภัย ไฟไหม้ใหญ่ผับดัง “ซานติก้า” อย่างไม่คาดฝัน มีคนตายจำานวนมาก ทั้งที่เป็นช่วงที่คน

ไทยควรจะมีความสุขกัน อันนี้ยังไม่รวมเหตุวางระเบิดหลายจุดช่วงเคาท์ดาวน์ปีใหม่ ที่ยังจับมือใครดมไม่ได้

ข่าวลือพิบัติภัยส่งท้ายปี 2554 ที่ดังที่สุด คงไม่พ้น “คำาทำานายเด็กชายปลาบู่” เมื่อลุงทองใบ คำาสี ชาว อ. สอยดาว

Page 3: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

4 5

วันที่ 31 ธันวา ให้รีบหนีขึ้นเหนือ” เล่นเอาส่งผลกระทบมหาศาลกับธุรกิจการท่องเที่ยวภาคใต้ นักท่องเที่ยวหายกันไปหมด หนีขึ้นเหนือไปเที่ยวเชียงใหม่แทน เจอแผนดึงคนไปเที่ยวภาคเหนือแบบนี้ ฮากันไม่ออกเลย

หรือถ้าใครชอบตามข่าวลือทำานองนี้ ก็น่าจะจำาได้อีกว่า ช่วงกลางปี 2554 มีข่าวพระกัมมัฏฐาน จ. ชุมพร ออกมาทำานายว่าจะเกิดคลื่นสึนามิยักษ์เข้าอ่าวไทย (ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยทางธรณีวิทยา) ใน 15 มิถุนา 2554 “ถ้าไม่เกิดขึ้นจริงให้มายิงอาตมาทิ้งได้” ….. ไม่รู้ป่านนี้ หลวงพี่ยังสบายดีอยู่หรือเปล่า แต่ช่วงนั้นคนแถวชุมพร ระนอง อยู่กันอย่างอกสั่นขวัญแขวนกันเป็นแรมเดือน บางคนขายบ้านขายที่ดินหนีน้ำาซะด้วย

เสียดายว่าเมืองไทยเราไม่มีใครดำาเนินคดีเอาผิดพวกโหรจริง หรือโหนกระแส ที่ออกมาทำานายพิบัติภัย เผยแพร่ข่าวลือให้คนตื่นตระหนก น่าจะเอาอย่างประเทศไต้หวัน ที่สั่งปรับเงิน 40,000 ดอลลาร์ไต้หวัน กับอาจารย์หวัง นักพยากรณ์ชื่อดัง

ที่ทำานายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ สึนามิยักษ์ถล่มไต้หวันใน วันที่ 11 พฤษภาคม 2554 แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

เหมือนคนไทยเป็นคนลืมง่ายเช่นเคย คำาทำานายเด็กชายปลาบู่กลับได้ผลดีเกินคาด กระแสข่าวกลัวเขื่อนภูมิพลแตกลามไปทั่ว ซ้ำามีข่าวลือกระจายว่อนเน็ตอีกว่า เห็นเต่าอพยพหนีจากเขื่อนเป็นร้อยเป็นพันตัว (แต่ไม่มีรูป ไม่มีวิดีโอ เป็นหลักฐาน) ทำาเอาคนไม่กล้าอยู่แถวจังหวัดตาก แถมลามไปจนขายที่ดินทิ้งกันราคาถูกๆ เล่นเอาท่านผู้ว่าฯ ต้องออกมาการันตี พร้อมทั้งจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่บนสันเขื่อนซะเลย …. ระวังคนเมาตื่นเสียงพลุ จลาจลวิ่งหนีกันตกเขื่อนนะครับท่าน

จันทบุรี พูดผ่านคลิปวิดีโอตอนเดือนกันยายน ว่าลูกชายวัย 5

ขวบที่ตายไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2517 ได้เล่าไว้ก่อนตายว่า เคยเกิดในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทักว่าจะได้เป็นพระศรีอาริยเมตไตร แล้วต่อมาก็มาเกิดเป็นกษัตริย์ไทยหลายพระองค์ รวมถึงรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 8

เด็กชายปลาบู่ยังทำานายไว้ว่า อีก 27 ปี (พ.ศ. 2544) จะมีเครื่องบินชนตึก อีก 30 ปี (พ.ศ. 2547) จะเกิดคลื่นยักษ์ อีก 35 ปี (พ.ศ. 2552) จะเกิดแผ่นดินไหวในต่างประเทศ และอีก 38 ปี (ก็ปี พ.ศ. 2555 นี้น่ะซิ) จะเกิดอาเพศรุนแรง แผ่นดินไหวรุนแรงเกือบทั่วโลก จะโดนมาถึงไทย กรุงเทพฯ จะจมดิน

จากนั้นก็ขอให้พ่อตน เป็น “ทูต” ไปบอกรัฐบาลไทยในอนาคต ใหเ้ตรยีมปอ้งกนัเขือ่นภมูพิล จะแตกในยามสอง (22.00 –24.00 น.) คืนปีใหม่ขณะที่คนไทยฉลองกันสนุกสนาน เพราะแผ่นดินจะไหวรุนแรงเหมือนที่ทำาให้ไดโนเสาร์ตายหมด ตึกรามบ้านช่องจะพังทลาย น้ำาจากเขื่อนจะไหลมาท่วมซ้ำา ต้องป้องกันโดยไปเอาเหล็กรางรถไฟไปหุ้มให้เป็นเขื่อนเหล็ก จะได้พังไม่มาก (เอ่อ…เขื่อนนะ ไม่ใช่ฝายน้ำาล้น จะได้เอาเหล็กมาหุ้มกันง่ายๆ)

ฟังคลิปลุงทองใบพูดมาถึงแค่นี้ ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับข่าวทำานายพิบัติภัยปลายปี ก็คงส่ายหัว บอกว่า เอาอีกแล้ว ทำานายแบบนี้อีกแล้ว หลักฐานอะไรก็ไม่มี พูดทำานายในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ใครๆ ก็พูดได้ (ลุงทองใบอ้างว่าตอนนั้นไม่เชื่อน้องปลาบู่ เลยไม่ได้อัดเทปเสียงไว้ ทั้งที่สมัยนั้นเครื่องอัดเสียงไม่ได้มีใช้กันแพร่หลายซักหน่อย)

ถ้าจำากันได้ ช่วงปลายปี 2553 ก็มีคำาทำานายจากโหรดังแถวเชียงใหม่ว่า “จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิเข้าภาคใต้อีกครั้งในคืน

Page 4: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

6 7

แล้วเมื่อไหร่โลกจากแตกหละ? ดร. แซ็กค์แมนน์ (Sackmann) และคณะ จากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology) ได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารฟิสิกส์อวกาศ (Astrophysics) ระบุว่า กว่าที่ดวงอาทิตย์ของเราจะวิวัฒนาการไปเป็นดาวยักษ์แดง (Red Giant) จนโลกอาจถูกดวงอาทิตย์เขมือบเข้าไป ก็อีก 13,000 ล้านปี ป่านนั้นก็ไม่เหลือมนุษย์คนไหนให้ต้องกลัวว่าโลกจะแตกอีกแล้ว

เอาเป็นว่าเวลามีคำาทำานายพิบัติภัยอะไรออกมา ก็ฟังหูไว้หูเพื่อเตือนสติตัวเองแล้วกัน อย่างน้อยก็เพื่อความไม่ประมาท อย่าฉลองกันจนเพลิน เผลอเมาแล้วขับ เผลอขับแล้วไม่ใส่หมวกกันน็อค ตายกันมาเยอะแล้ว

จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มใดเลยที่จะสามารถทำานายการเกิดแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า แม้จะมีความพยายามที่จะตรวจจับสัญญานการสั่นสะเทือนของพื้น (seismicity) การเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์ (ionosphere) ตัวบ่งชี้จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (electromagnetic indicator) การปลดปล่อยก๊าซเรดอน (radon) ก็ตาม

แล้วอย่างนี้ ที่หลายคนเชื่อว่า สัตว์บางชนิดอย่างสุนัข แมว ไก่ ม้า ฯลฯ สามารถแสดงพฤติกรรมแปลกๆ ให้เรารู้ว่าจะมี แผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่ เหมือนที่เคยมีรายงานคางคกอพยพที่ประเทศอิตาลี ในปี ค.ศ. 2009 ก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว คำาตอบคือ ยังไม่เคยมีรายงานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ เลยที่ยืนยันว่า สัตว์สามารถทำานายแผ่นดินไหวล่วงหน้าเป็นวันๆ ได้ ผลการสังเกตพฤติกรรมที่รายงานกันไว้มักจะกำากวมและไม่ได้เกิดขึ้นซ้ำาๆ

นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเชื่อว่า สัตว์อาจจะแสดงอาการแตกตื่นได้จริงไม่กี่นาทีก่อนจะเกิดเหตุขึ้น เพราะพวกมันสามารถรับคลื่นการสั่นสะเทือนที่นำามาก่อนแผ่นดินไหว ขณะที่มนุษย์เราไม่อาจทำาเช่นนั้นได้ แต่สถาบันสำารวจธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา หรือ United States Geological Survey ไม่เชื่อเช่นนั้น แอนดี้ ไมเคิล (Andy Michael) นักธรณีฟิสิกส์ของ USGS ระบุว่า “ที่สัตว์แสดงพฤติกรรมแปลกๆ ได้ เพราะมันอาจจะหิว ติดสัด หรือพยายามปกป้องพื้นที่ ฯลฯ ยังไม่เคยมีการ ทดลองใดๆ ในสภาวะควบคุม (control) ที่ยืนยันการทำานาย แผ่นดินไหวของสัตว์ได้เลย”

ถ้าโลกยังไม่แตกในปี ค.ศ. 2012 ตามในหนังฮอลลีวู้ด

Page 5: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

8 9

แถมเคยบอกว่าพายุสุริยะทำาให้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เค้าสามารถทำานายได้ด้วยว่า แผ่นดินไหวจะเกิดเมื่อไหร่ที่ไหนบนโลก

เล่นเอานักวิทยาศาสตร์ส่ายหัวกันใหญ่กับ ดร. เพราะ แผ่นดินไหวมันมีทุกวันอยู่แล้วตามแนววงแหวนไฟ (Ring of Fire) เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ ถ้าจับแพะชนแกะ เอาภูเขาไฟมาชนพายุสุริยะ ก็มีสิทธิจะทายถูกได้ แถมยังเป็นเรื่องปรกติที่พายุสุริยะนั้นเกิดขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว จากการที่ดวงอาทิตย์จะมีการปะทุส่งพลังงานออกมาในรูปของรังสีคอสมิก (cosmic ray) แต่ไม่เคยมีหลักฐานใดๆ ที่น่าเชื่อถือได้ว่ามันส่งผลกระทบต่อภัยธรรมชาติ คำากล่าวอ้างของ ดร. ผู้ชอบโทษพายุสุริยะไปพ้องกับหนังฮอลลีวู้ด “2012” อันโด่งดังเกี่ยวกับวันสิ้นโลกเนื่องจากพายุสุริยะขนาดยักษ์ที่จะปะทุในช่วงปีนี้

จริงเหรอที่เราควรจะเชื่อ ดร. ว่า องค์กรนาซากำาลังวิตกเกี่ยวกับพายุสุริยะและวันสิ้นโลกปี 2012? ... เปล่าเลย! ตามแถลงการณ์ล่าสุดบนเว็บไซต์ของนาซา http://www.nasa.gov/topics/earth/features/2012.html ยืนยันชัดเจนว่า “โลกไม่ได้สิ้นสุดในปี ค.ศ. 2012” พิบัติภัย 2012 ก็เหมือนกับตอนที่คนแตกตื่นเรื่อง วายทูเค Y2K ปี ค.ศ. 2000 กันนั่นแหละ โลกของเรานั้นอยู่ดีมีสุขมากว่า 4 พันล้านปีแล้ว และนักวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือจากทั่วโลกก็พูดตรงกันว่า ไม่ได้มีเหตุร้ายใดๆ จะทำาใหโ้ลกแตกในป ี2012 ตามคำาทำานายทีแ่พรห่ลายในอนิเตอรเ์นต็ “ข่าวลือพวกนี้ไม่ได้อิงกับวิทยาศาสตร์แม้แต่น้อย รวมถึงข่าวปลอมที่อ้างชื่อนาซาอีกด้วย” ดร. ดอน เยาแมนส์ (Don Yeo-mans) นักวิจัยอาวุโสของนาซา เตือนไว้ในเว็บ

ที่มาของคำาทำานายเรื่องโลกสิ้นสุดในปี 2012 นาซาบอก

ถึงวันนี้ คนไทยทั้งประเทศรู้กันแล้วว่าคำาทำานาย “เด็กชายปลาบู่” ก็เป็นแค่เรื่องโอละพ่อ ทำานายพิบัติภัย เขื่อนพัง-แผ่นดินไหว-น้ำาท่วมใหญ่ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ให้แตกตื่นกัน ถ้ามีเด็กหญิงปลาดุกหรืออาจารย์ปลาร้าออกมาทำานายอะไรอีกตลอดปีใหม่ 2555 นี้ ก็ขอให้ปล่อยวาง ใช้ชีวิตอย่างมีสติ วางตนให้ไม่อยู่ในความประมาท เหมือนที่ควรทำาอยู่ทุกๆ วัน

ถ้าเรื่องพิบัติภัยเช่นนี้ มาจากแค่ร่างทรงหรือโหราจารย์ต่างๆ ก็ยังพอปล่อยวางไหว แต่ถ้ามาจากปากของ ด็อกเตอร์ ชาวไทย ระดับทำางานในนาซา (NASA) องค์กรการบินและอวกาศของประเทศสหรัฐอเมริกา จะไม่ให้หวาดวิตกไหวเหรอ ดร. ท่านนี้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า พายุสุริยะ (solar storm) เป็นต้นเหตุของน้ำาท่วมในไทยและภัยพิบัติอื่นๆ เกิดขึ้นทั่วโลก

จากน้องปลาบู่ ถึง พายุสุริยะไม่เชื่อนาซา แล้วจะเชื่อใคร!!!

Page 6: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

10 11

ว่ามันเริ่มมาจากคำาพยากรณ์เรื่องดาวเคราะห์นิบิรุ (Nibiru) ตามตำานานชาวสุเมเรียน (Sumerian) ที่มีคนอ้างว่าจะพุ่งชนโลกตอนเดือนพฤษภาคมปี 2003 แต่พอถึงเวลา ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็เลยเฉไฉเลื่อนมาเป็นปี 2012 แทน โดยเอาไปเชื่อมกับปฏิทินชาวมายัน (Mayan) โบราณ ที่จะหมดวงรอบอันยาวนานลงในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าปฏิทินมายันจะทำานายว่าโลกแตกในปี 2012 ซักหน่อย มันแค่ใช้มาจนครบรอบวงเท่านั้น แล้วก็เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ เหมือนปฏิทินตั้งโต๊ะที่เราต้องขึ้นเล่มใหม่ เมื่อเปิดไปครบ 12 เดือน

สว่นดาวเคราะหน์บิริหุรอืทีบ่างขา่วลอืเรยีกวา่ ดาวเคราะห์เอ็กซ์ (Planet X) หรือ อีริส (Eris) นั้น ถ้ากำาลังพุ่งเข้ามาชนโลกจริงๆ ในปลายปี 2012 ป่านนี้นักดาราศาสตร์ต้องส่องกล้องเห็นตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว สำาหรับคนไทยเราเองตอนนี้ก็ต้องมองเห็นมันได้ด้วยตาเปล่าเป็นดาวสุกใสบนฟากฟ้า เพราะมันต้องมาอยู่แถวดาวพฤหัสถึงจะชนโลกทันในช่วงปลายปีนี้ แล้วถ้าไม่ใช่ดาวนิบิรุ แต่เป็นดาวหาง (comet) หรือดาวเคราะห์น้อย (asteroid) หรืออุกาบาต (meteor) ยักษ์ถล่มโลกหละ เป็นไปได้มั้ย? นาซาให้ความมั่นใจเราด้วยระบบเตือนภัยล่วงหน้า ชื่อว่า โครงการสำารวจป้องกันอวกาศ (Spaceguard Survey) ที่จะค้นหาวัตถุใดๆ ที่เคลื่อนเข้าชนโลก ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคยเจอขนาดใหญจ่นนา่กลวัเลยสกัครัง้ ถา้คนไหนไมม่ัน่ใจ กส็ามารถเข้าไปดูเองได้ที่เว็บไซต์ NEO Program Office ของนาซา

ทฤษฎีที่ยิ่งมั่วเกินจริงเข้าไปใหญ่ คือ การพลิกกลับขั้วของโลก (polar shift theory) นาซาคอนเฟิร์มเลยว่าการกลับขั้วโลกเหนือใต้ 180 องศาอย่างที่อ้างกันนั้นเป็นไปไม่ได้ คนที่

แสงเหนือแสงใต้ หรือแสงออโรร่า (aurora) ที่ขั้วโลกเหนือและใต้ เกิดขึ้นเมื่อพายุสุริยะเคลื่อนเข้ามาปะทะกับสนามแม่เหล็กโลก

Page 7: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

12 13

สร้างข่าวเรื่องนี้ได้ลากเอาไปมั่วกับเรื่องการสลับขั้วแม่เหล็กโลก (magnetic polarity) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จริงเฉลี่ยทุก 4 แสนปี แต่มันก็ไม่มีแนวโน้มจะเกิดเลยจากวันนี้ไปอีกหลายพันปี หรือถ้าเกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ กับสิ่งมีชีวิตบนโลก

แล้วที่ ดร. ท่านนั้น ย้ำาครั้งแล้วครั้งเล่าถึงอันตรายจากพายุสุริยะหละ? นาซา องค์กรต้นสังกัดของเค้าเอง กลับยืนยันว่า ไม่ได้มีความเสี่ยงเป็นพิเศษใดๆ จากพายุสุริยะในปีนี้ พร้อมทั้งอธิบายว่า เป็นเรื่องปรกติที่ดวงอาทิตย์ของเราจะมีวงรอบของปฏิกิริยาสูงขึ้นทุกๆ 11-12 ปี และที่จะครบรอบในช่วงปี 2012-2014 นี้ก็ไม่ได้มีความรุนแรงมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา อย่างมากก็ทำาให้ดาวเทียมสื่อสารขัดข้อง ไม่ได้ทำาอันตรายต่อโลกหรือสิ่งมีชีวิตบนโลก รวมไปถึงกรณีที่ ดร. ท่าน เคยบอกว่าการเรียงตัวกันของดาวเคราะห์ทั้งหลายจะส่งผลกระทบต่อโลก จนเกิด

พายุสุริยะที่ปะทุออกจากดวงอาทิตย์ (ซ้าย) เคลื่อนมาปะทะกับสนามแม่เหล็กโลกที่ช่วยห่อหุ้มป้องกันเราไว้

แผ่นดินไหวใหญ่ได้? นาซาก็แย้งอีกว่า จริงๆ แล้ว ในปี 2012 นี้ โลกไม่ได้โคจรมาเรียงตัวกับดาวเคราะห์ทั้งหลายสักหน่อย และอีกหลายสิบปีข้างหน้าก็ไม่ได้เกิดการเรียงตัวเช่นนั้น ถึงจะเกิดการเรียงตัวขึ้นจริง ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับโลกแม้แต่น้อย

ตอนท้ายแถลงการณ์ของนาซา ได้บอกถึงความรู้สึกของเหล่านักวิทยาศาสตร์ของเขา ที่ท้าคนที่ชอบอ้างว่าจะเกิดพิบัติภัยในปี 2012 นี้ ให้หาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาเถียงกับพวกเขา ซึ่งเชื่อมั่นว่าไม่มีหลักฐานเหล่านั้นอยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว ... นาซาจะรู้มั้ยว่า คนของคุณเองนั่นแหละ ที่กำาลังมาสร้างความ

หวาดวิตกกับเรื่องพายุสุริยะกับปี 2012 อยู่ในประเทศไทย ... เรื่องพายุสุริยะเนี่ย ถ้าไม่เชื่อ “นาซาตัวจริง” แล้วเราจะเชื่อใครหละครับ

ยานโซโห (SOHO) ของนาซา ถ่ายภาพการปะทุที่พื้นผิวของดวงอาทิตย ์พ่นพลังงานมหาศาลออกสู่อวกาศ

Page 8: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

14 15

ลา นินญา/น้ำาท่วมใหญ่กับคำาถามคาใจเรื่อง อีเอ็มบอล

ถ้าถามคนไทยว่า ปี 54 ที่ผ่านมา จำาเหตุการณ์อะไรได้บ้าง เชื่อว่าเกินกว่าครึ่ง ต้องพูดถึงมหาอุทกภัยน้ำาท่วมช่วงปลายปี ที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวง ทั้งชีวิตผู้เคราะห์ร้ายหลายรอ้ยคน และรายไดห้ลกัของชาติทีส่ญูไปเปน็ลา้น-ลา้นบาท เพราะโรงงานจมอยู่ใต้น้ำา นี่ยังไม่รวมภาพลักษณ์ของประเทศที่เสียไปเพราะสนามบินและแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกถูกปล่อยให้จมน้ำา แพร่ภาพทีวีไปช็อกสายตาชาวโลก จน ฮิลลารี คลินตัน รมต.ต่างประเทศสหรัฐ ต้องรีบเตือนให้แก้ไขด่วน

แม้ว่าน้ำาท่วมทุ่งจะไม่ใช่เรื่องประหลาดสำาหรับชาวบ้านตามลุ่มน้ำา แต่ต้องยอมรับว่าปีนี้น้ำามามากจริงๆ และมารุนแรงรวดเร็วเกินคาด จนเป็นคำาถามว่า “อากาศเมืองไทยมันวิปริตหรืออย่างไร” ทำาไมเดี๋ยวก็มีพายุโน้นพายุนี่ ดาหน้ากันเข้ามา

ภาพถ่ายดาวเทียมของมหาสมุทรแปซิฟิก แสดงให้เห็นถึงภาวะ “ลา นินญา” กำาลังทวีความรุนแรงขึ้น (ดูจากแถบสีจางทางด้านเอเชีย-ออสเตรเลีย และแถบสีเข้มด้านทวีปอเมริกา)

ความจริงแล้ว ทั้งเขื่อนและประตูระบายน้ำาประทานของบ้านเรา น่าจะ “เอาอยู่” ถ้าเพียงนักการเมืองยอมเชื่อนักวิทยาศาสตร์ที่เตือนว่าปี 54 จะเป็นปี “ลา นินญา (La Niña)” ให้เร่งพร่องน้ำาในเขื่อน รอรับมรสุม เราก็คงไม่สูญเสียกันขนาดนี้ ต่อไปคนไทยน่าจะหันมาสนใจกันว่า ปีนี้จะมีแนวโน้มเป็นปี “ลา นินญา” ที่พายุจะเข้า ฝนจะตกหนัก น้ำาจะท่วมใหญ่ หรือว่าจะเป็นปี “เอล นินโญ (El Niño)” ที่น้ำาจะแล้งหมดเขื่อน อากาศจะร้อนระอุ เหมือนในมิวสิกวิดีโอเพลงของ ทาทายัง

Page 9: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

16 17

อย่างปี 55 นี้ หน่วยงานระดับโลกที่วิจัยอุณหภูมิของมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างองค์กรเอ็นโซ (ENSO) หรือองค์กรโนอา (NOAA) ของนาซา ได้ประกาศเตือนแล้วว่า ภาวะ “ลา นินญา” ที่คนเอเชียตะวันออกและออสเตรเลียเพิ่งเจอไปนั้น มันยังไม่จบ.. แต่จะลากยาวไปถึงเดือนเมษายนโน้น!! ต้นปีนี้ จะได้เห็นฝนฟ้าพายุหลงเข้ามากลางฤดูหนาว ก่อนจะไปเจอมรสุมฤดูฝนของจริงในกลางปี ... ใครที่บ้านน้ำาพึ่งจะลด ก็ไม่ต้องรีบซ่อมแซมทาสีบ้าน เผื่อปีนี้ นายกฯ บอก “เอาอยู่” อีก (ฮา)

เรื่องคาใจอีกเรื่องหลังจากวิกฤติน้ำาท่วมใหญ่ คือคำาถามว่า จะปั้น-ไม่ปั้น จะโยน-ไม่โยน อีเอ็มบอล (EM ball)?

พลันที่ ศาสตราจารย์ ดร. ธงชัย ปรมาจารย์การบำาบัดน้ำาเสียในประเทศไทย ออกมานำาขบวนคณาจารย์ วิศวกรรมศาสตร ์จุฬาฯ แถลงออกสื่อ คัดค้านการใช้เชื้อจุลินทรีย์ อีเอ็ม หรือ ef-fective microorganisms ซึ่งกำาลังฮอตฮิต มีนายกฯ ปู เป็นพรีเซนเตอร์นั่งเรือโยนอีเอ็มบอลสู้น้ำาเสียที่มากับน้ำาท่วม ... ฟองสบูข่องศรทัธาในอเีอม็บอลกแ็ตกโผละกนัเลยทเีดยีว ทำาเอาทัง้คนดัง ดารานักร้อง ชาวบ้านที่มาช่วยกันนั่งปั้นอีเอ็มบอลเป็นแสนเป็นล้านลูก มึนงงว่ามันอะไรกันแน่

แต่ไหนแต่ไรมา เชื้ออีเอ็มถูกพัฒนาขึ้นด้วยการเลือกเชื้อจุลินทรีย์ตามธรรมชาติ มาเลี้ยงขยายด้วยกากน้ำาตาลให้สร้างสารต่างๆ เช่น แอลกอฮอล์ กรดแลกติก เอนไซม์ เอสเทอร์ ฯลฯ แล้วเอาไปใช้หมักปุ๋ย-บำารุงดิน แถมยังช่วยลดกลิ่นเหม็นจากแก๊สไข่เน่า เอาไปราดห้องน้ำา บ่อปฏิกูล กองขยะ ดับกลิ่นเยี่ยม ... เลยมีคนคิดต่อยอด เอาน้ำาอีเอ็มผสมดินผสมแกลบข้าว ปั้นเป็นลูกบอล หมักขยายเชื้อหลายวัน ก่อนเอาไปโยนตามหนอง

ข่าวสรุปผลการทดลองใช้อีเอ็มบำาบัดน้ำาเสียในคลองแสนแสบตั้งแต่ปี 2546 ว่าไม่ได้ผลแต่อย่างไร

ผลการศึกษาการบำาบัดน้ำาเสียด้วยอีเอ็มของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จะเห็นว่าเมื่อผ่านไป 7 วัน (ขวดแถวล่าง) น้ำาจากแหล่งน้ำาท่วมที่เคยขุ่น ก็ตกตะกอนเป็นน้ำาใสได้ ไม่ว่าจะเป็นชุดควบคุม (ซ้าย) หรือชุดที่ใส่อีเอ็ม (ขวา)

Page 10: เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์postbooksonline.com/media/pdf_files/post_book_269.pdfแผ่นดินไหวหละ เป็นเรื่องจริงหรือไม่

18 19

คลองบงึจนถงึทะเล โดยอา้งวา่ชว่ยบำาบดัน้ำาเสยีได ้เพิม่ออกซเิจนในน้ำาทำาให้คุณภาพน้ำาดีขึ้น น้ำาดำากลายเป็นน้ำาใส หายเหม็น เห็นผลทันตาใน 2 ชั่วโมง

ฝั่งนักวิชาการก็แย้งทันทีว่า ถ้าเห็นผลในไม่กี่ชั่วโมงก็เล่น “กลเคมี” กันแล้วหละ เพราะกว่าเชื้ออีเอ็มจะย่อยสารอินทรีย์ในแหล่งน้ำาได้ขนาดนั้นต้องใช้เวลาเป็นวันๆ ถ้าแค่ 2-3 ชั่วโมงอย่างนี้ต้องเป็นฝีมือของสารต่างๆ ที่เชื้อสร้างขึ้นตั้งแต่ตอนเลี้ยงขยายด้วยกากน้ำาตาล นี่ยังไม่นับถึงสารเคมีอื่นๆ ที่ใส่ลงไปใน อีเอ็มบอลแต่ละยี่ห้ออีก ตั้งแต่เพอไรต์ โดโลไมต์ ผงถ่าน ฯลฯ ก็ช่วยให้น้ำาใสได้ทันตาเหมือนกัน ... มิน่า เวลาใช้อีเอ็มไปหลายวัน เลยต้องมาเทซ้ำา โยนซ้ำา ไม่งั้นก็น้ำาก็กลับมาดำาอีก

ส่วนที่โฆษณากันว่า อีเอ็มมันมีเชื้อแบคทีเรียสีม่วงที่สังเคราะห์แสงได้ เลยเอามาเติมลงบ่อปลาบ่อกุ้ง-เทบำาบัดน้ำาเสียเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำา อันนี้ก็ไม่จริง! เพราะเชื้อตัวนี้ใช้แสงสร้างอาหาร แต่ไม่อาจสร้างออกซิเจนได้เลย กลับจะไปแย่งใช้ออกซิเจนกับเชื้อเจ้าถิ่นในน้ำา ลองนึกภาพข่าวเรือน้ำาตาลล่ม ปลาลอยตายเป็นเบือ ก็เพราะว่าจุลินทรีย์ในน้ำากระหน่ำาใช้ออกซิเจนจนเหลือนิดเดียว ... ยิ่งมีคนหวังดี เอาอีเอ็มเอาปุ๋ยอินทรีย์ไปช่วยเทเป็นพันลิตร ก็ยิ่งทำาร้ายแหล่งน้ำานั้นเข้าไปใหญ่

ด้วยความสงสัยเรื่องอีเอ็ม คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และหน่วยงานอื่นๆ ก็ลงมือทดสอบประสิทธิภาพของมันว่าเป็นไปได้จริงหรือที่จะเพิ่มออกซิเจนให้น้ำาเสีย ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ตรงกันว่า อีเอ็มไม่ได้มีส่วนช่วยเพิ่มออกซิเจนขึ้นกับการบำาบัดน้ำาเสียที่มากับน้ำาท่วม ถ้าน้ำาสัมผัสอากาศเพียงพอ ถ้าไม่มีขยะเพิ่มลงไป เชื้อเจ้าถิ่นในน้ำาก็ช่วยกันปรับคุณภาพน้ำาให้ดีขึ้นอยู่แล้ว ...

ตรงกับผลการใช้อีเอ็มบำาบัดน้ำาเสียคลองแสนแสบ โดย กทม. ตั้งแต่ปี 46 ที่พบว่าเทอีเอ็มไปแล้ว น้ำายิ่งเน่ากว่าเดิมอีก

สุดท้ายแล้ว ถึงอีเอ็มบอลจะเป็นแค่มายาคติลวงตา แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า น้ำาใจของคนไทยที่มีให้กันในยามวิกฤตินั้น ยิ่งใหญ่กว่าสายน้ำานัก ... ขอเพียงทุกคนเตรียมการให้พร้อม อย่านิ่งเฉยรอให้ปัญหาเกิดก่อนแล้วค่อยแก้ เราก็จะช่วยกันฟันฝ่า วิกฤติใดๆ ที่เกิดขึ้นต่อไป ทั้งน้ำาท่วมน้ำาแล้ง ได้อย่างแน่นอน