มาตรฐาน มอก. 2691 เล ม 7-2599...
TRANSCRIPT
1SAFET Y LIFE
นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology)หมายถงึ การประยุกตใชความรูทางวิทยาศาสตรในการจดัการและควบคุมสสารระดับนาโนสเกลเพ่ือใชประโยชนจากสมบัติหรอืปรากฏการณที่ขึน้กับขนาดหรอืโครงสรางของสสาร โดยสมบัติหรอืปรากฏการณดังกลาวแตกตางทีพ่บในอะตอมหรอืโมเลกุล หรือวัสดุขนาดใหญ ซ่ึงการจัดการและควบคุมสารนัน้รวมถงึการสงัเคราะหวัสดุดวย
ทัง้นี ้นาโนสเกล (Nanoscale) ทีก่ลาวถงึคือมิติของวัสดุในชวง 1 -100 นาโนเมตร โดยประมาณ (1 นาโนเมตร = 1/1,000,000,000เมตร หรือมีขนาดเล็กกวาเสนผมมนุษยแปดหม่ืนถึงหนึ่งแสนเทา)
โดยวัสดุนาโนที่นํามาใชในกระบวนการนาโนเทคโนโลยีเปนวัสดุที่อยูนาโนสเกลซ่ึงมีอยูดวยกัน 2 กลุม ไดแก
1. วัสดุนาโนจากธรรมชาติ และ2. วัสดุนาโนจากการผลิตวัสดุนาโนจากธรรมชาติเปนวัสดุนาโน
ที่เกิดขึ้นจากระบวนธรรมชาติ กระบวนการใหความรอนและกระบวนการอื่นๆ ซ่ึงกอใหเกิดวัสดุนาโนได
วัสดุนาโนจากการผลติเปนวัสดุนาโนท่ีผลติขึ้นสําหรับใชในวัตถุประสงคทางการคาเพ่ือใหมีสมบัติและองคประกอบที่จําเพาะ แบงออกเปน 2 กลุมยอยไดแก
วัตถุนาโน (Nano-object) คือวัสดุทีมี่มิติภายนอก 1 มิติ 2 มิติ หรอื3 มิติอยูในระดับนาโนสเกล
วัสดุโครงสรางนาโน (NanostructuredMaterial) คือวัสดุที่มีโครงสรางภายในอยูในระดับนาโนสเกล หรือมีโครงสรางพ้ืนผิวอยูใน
ระดับนาโนสเกล ตัวอยางวัสดุโครงสรางนาโนเชน นาโนคอมโพสิต (Nano-composite) ซ่ึงเปนวัสดุที่มีวัตถุนาโนฝงอยูในเมทริกซที่เปนของแข็ง หรือเปนวัตถุนาโนที่ยึดเกาะกันดวยการขจดัเรยีงตัวแบบสุมงายๆ ในรปูของอนภุาคกอนเกาะแนนและอนภุาคกอนเกาะหลวม หรอืจดัเรยีงตัวอยางเปนระเบียบในรปูแบบของผลึกเชน กลุมผลึกของฟูเลอรีนส หรือกลุมของ CNT
นอกจากนี้ยังจัดจําแนกวัสดุนาโนออกเปนกลุมไดจากการพิจารณาจํานวนมิติและองคประกอบพ้ืนฐานทางเคมีตามกระบวนการผลิตวัสดุนาโน
การกําหนดลักษณะเฉพาะของวสัดนุาโนลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ โดยทั่วไป
ตองระบุถึงชื่อทางการคา ระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ ขอมูลเก่ียวกับผลิตภณัฑ ขอมูลความปลอดภัยของผลิตภัณฑ วันที่ผลิต คําเตือนหนังสือรับรอง และขอความโฆษณา
ลักษณะจําเพาะของผลิตภัณฑสําหรับผูทํา ผูจดัจําหนาย หรือผูสงมอบ แสดงใหเห็นถึงขีดความสามารถของกระบวนการผลิตสินคาและเปนการสรางความแตกตางของผลิตภัณฑที่มีระดับคุณภาพแตกตางกัน
ลักษณะจาํเพาะของผลิตภณัฑสาํหรบัผูใชหรอืผูรบัมอบ แสดงใหเหน็ถงึความแตกตางของผูจัดจําหนายแตละราย หรือผลิตภัณฑแตละรายการ
ลักษณะจาํเพาะของผลิตภณัฑสาํหรบัผูทาํผูจดัจาํหนาย และผูใช เปนตัวชีวั้ดระดับองคกรในดานทีเ่ก่ียวกับระบบคุณภาพเพ่ือใหแนใจวามีการผลิตสอดคลองกับคุณภาพของผลิตภณัฑซ่ึงเปนพ้ืนฐานที่สําคัญในการจัดกิจกรรมเชิงพาณิชย
เชน การแกปญหาขอรองเรียน การเรียกคืนผลิตภัณฑ การรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ
ทั้งนี้ พบวาวัสดุนาโนที่ผลิตขึ้นในแตละรอบการผลิตมีความไมสมํ่าเสมอเกิดขึน้บอยครัง้ซ่ึงยอมสงผลตอความสมํ่าเสมอของกระบวนการผลิตขัน้ตอไปทีมี่การนาํวัสดุนาโนทีผ่ลิตขึน้นัน้ๆไปใชงาน และ/หรอืมีผลตอความสมํ่าเสมอของประสทิธิภาพการใชงานในผลิตภัณฑสุดทายที่ไดจากการใชวัสดุนาโนทีผ่ลิตขึน้นัน้ๆ โดยความไมสมํ่าเสมอดังกลาวเกิดขึน้จากสาเหตุทีอ่ธบิายไมไดอยางครบถวนทัง้ในสวนของผูสงมอบและผูรบัมอบ ดังนัน้สิง่สาํคัญทีน่าํไปสูการแกไขปญหาในความไมสมํ่าเสมอดังกลาวนี้ คือ การที่ทั้งผูสงมอบและผูรบัมอบตองมีมาตรฐานเดียวกันในการพัฒนาขอกําหนดเฉพาะของวัสดุนาโนจากการผลิตที่เกิดจากการตกลงรวมกันและยอมรับกันไดทั้งสองฝาย โดยทีแ่นวทางในการจดัเตรยีมขอกําหนดลักษณะเฉพาะของวัสดุนาโนที่ระบุในมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนี้มีความสอดคลองและเปนไปในทิศทางเดียวกันกับขอปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมของกลุมผูทําและจัดจําหนายผลิตภัณฑตางๆ ซ่ึงแนวทางดังกลาวนี้นําไปใชในการจัดเตรียมขอกําหนดลักษณะเฉพาะของวัสดุนาโนสาํหรบัการใชงานในทุกรปูแบบโดยเฉพาะการระบุเอกลกัษณของผลิตภัณฑ รูปรางและขนาด หรือการที่ผลิตภณัฑนัน้มีขนาดในระดับนาโนสเกลหรอืไมโดยแนวทางการกําหนดลักษณะเฉพาะของวัสดุนาโนเหลานี้ใชไดกับวัสดุนาโนที่มีการสงแบบในลักษณะที่เปนผงแหง หรือมีการสงมอบในลักษณะที่ เปนสารแขวนลอย โดยมาตรฐานผลิตภัณฑอุตสาหกรรมนีไ้ดมีการจําแนกวัสดุ
มาตรฐาน มอก. 2691 เลม 7-2599วิธปีฏิบตัเิก่ียวกับสุขภาพและความปลอดภัยสําหรับผูมีอาชีพเก่ียวของกับนาโนเทคโนโลยี
www. s a f e t y l i f e tha i l and . c om
2SAFET Y LIFE
นาโนออกเปนกลุมตางๆ โดยการพิจารณาจาํนวนมิติภายนอกของวัสดุนาโนทีมี่ขนาดระดับนาโนสเกล ดังนี้
(1) วัสดุนาโนที่ มีมิติภายนอกอยู ในระดับนาโนสเกลทั้ง 3 มิติ ไดแก อนุภาคนาโน
(2) วัสดุนาโนที่ มีมิติภายนอกอยู ในระดับนาโนสเกลจาํนวน 2 มิติ ไดแก เสนใยนาโน
(3) วัสดุนาโนที่ มีมิติภายนอกอยู ในระดับนาโนสเกลจาํนวน 1 มิติ ไดแก แผนนาโน
กระบวนการผลิตวัสดนุาโนวัสดุนาโนมีความหลากหลายและผลิต
ไดโดยวิธีการที่แตกตางกัน วิธกีารทัว่ไปที่ใชในการผลิตวัสดุนาโน ไดแก การผลิตละอองลอย(Aerosol Generation) การสะสมดวยไอ (VaporDeposition) การสังเคราะหในเฟสของเหลว(Liquid Phase Method) การพอลิเมอรดวยไฟฟาและการสะสมสารดวยไฟฟา (Electro-polymerization and Electrodeposition) การปนเสนใยดวยไฟฟา (Electro-spinning) และกระบวนการทางกล (Mechanical Process)
อันตรายจากวัสดุนาโน อันตรายของวัสดนุาโนตอสขุภาพโดยทั่วไป แนวโนมของความเสี่ยงตอ
สขุภาพของสารมีความเก่ียวของกับปรมิาณและระยะเวลาของการรบัสารนัน้ การคงอยูของสารในรางกาย ความเปนพิษของสาร ความไวตอการรับสัมผัสหรือสภาวะรางกายของผูที่ รับสัมผัส สําหรับผลกระทบตอสุขภาพของวัสดุนาโนนั้นยังไมเปนที่ทราบแนชัด เนื่องจากนาโนเทคโนโลยีเปนสาขาความรูใหม ทาํใหเกิดขอจํากัดในแงของความรูทีเ่ก่ียวของกับปจจัยที่จาํเปนสาํหรบัการประเมินความเสีย่งตอสขุภาพเชน ชองทางการรับสัมผัส การเคล่ือนที่ของวัสดุนาโนเม่ือเขาสูรางกาย และปฏิกิริยาของสารกับระบบชีววิทยาของรางกาย
ผลการศึกษาการรบัสมัผสัและตอบสนองตออนุภาคในระดับนาโนสเกล หรืออนุภาคที่หายใจเขาไปได รวมถึงขอมูลพิษวิทยาที่มีอยูเก่ียวกับสารทดลองขนาดใหญในหลอดทดลองในสัตวทดลองและในมนุษย เปนการประเมิน
ผลกระทบเบ้ืองตนที่อาจเกิดขึน้ตอสุขภาพจากการรับสัมผัสกับวัสดุที่มีลักษณะเหมือนกันในระดับนาโนสเกล อยางไรก็ตามสิง่ทีค่วรระลึกไวเสมอคือความไมแนนอนและความแปรปรวนอยางมีนยัสาํคัญในการคาดการณผลกระทบทีอ่าจเกิดกับมนุษยจากผลการศึกษาในสัตวทดลองมักเกิดขึน้ไดเสมอ
ในปจจุบัน วิธีการทดสอบโดยการเล้ียงเซลลนั้นนิยมใชกันมากเพ่ือใชอธิบายกลไกความเปนพิษ โดยทั่วไปแลวขอมูลที่ไดจากการทดสอบในหลอดทดลองนัน้ไมสามารถใชประเมินกับมนษุยโดยไมมีขอมูลเพ่ิมเติม เชน ขอมูลจากการทดสอบในสัตวทดลอง การศึกษาในสัตวทดลองไดเหน็การตอบสนองทางชวีวิทยา (ไมวาดานบวกหรือดานลบ) ตออนุภาคนาโนนั้นมีมากกวาการตอบสนองตออานภุาคทีมี่ขนาดใหญกวาที่มีองคประกอบทางเคมีคลายกันและมวลเทากัน นอกเหนอืจากจาํนวนอนภุาคและพ้ืนที่ผวิรวมแลวนัน้ ลักษณะเฉพาะอืน่ๆ ของอนุภาคอาจมีอทิธพิลตอการตอบสนองทางชวีวิทยาดวยอยางเชน ความสามารถในการละลาย รูปรางประจุและเคมีพ้ืนผิว สมบัติเปนตัวเรงปฏิกิริยาการดูดซับมลพิษ (เชน โลหะหนกั หรอื เอนโด-ทอกซิน) รวมไปถึงระดับการเกาะกอนแบบหลวมของอนภุาค
มักมีการเคลือบพ้ืนทีผ่วิของวัสดุนาโนหรอืเพ่ิมหมูฟงกชั่นเพ่ือปองกันการจับตัวเปนกอนใหไดสมบัติตามตองการ เชน ใชประโยชนทางเภสชักรรม รวมถงึการปนเปอนของพ้ืนผวิอนภุาคดวยสิง่เจอืปน สามารถนําไปสูการเปล่ียนแปลงการตอบสนองทางชีววิทยาได ยังมีงานวิจัยจาํนวนมากทีอ่ยูระหวางการศึกษาถงึผลกระทบจากสมบัติของอนภุาคตอสิง่มีชวิีตตางๆ และผลกระทบเชิงลบที่อาจมีขึ้น
อันตรายทางกายภาพของวัสดนุาโนทีท่าํใหเกิดอัคคภียั
แมวาขอมูลทีมี่อยูในขณะนียั้งไมเพียงพอสาํหรบัใชคาดการณโอกาสของความเสีย่งในการเกิดอัคคีภัยและการระเบิดจากวัตถุนาโนในรูปของผง วัสดุนาโนมีความเสีย่งสงูตอการติดไฟได
งายกวาวัสดุชนิดเดียวกันแตมีขนาดใหญกวาเนื่องจากเม่ือวัสดุมีขนาดเล็กลงทําใหพลังงานตํ่าสุดที่ใชในการจุดติดไฟลดลงและอัตราการเผาไหมสงูขึน้ นอกจากนียั้งทาํใหวัสดุทีไ่มติดไฟหรือวัสดุเฉ่ือยมีโอกาสติดไฟ
เม่ือวัสดุนาโยทีติ่ดไฟไดกระจายตัวอยูในอากาศจะทาํใหเกิดความเสีย่งสงูกวาการระเบิดของฝุน เม่ือเทยีบกับวัสดุชนดิเดียวกันแตมีขนาดใหญกวา ทั้งนี้ปจจัยสาํคัญที่ใชในการวิเคราะหลักษณะเฉพาะความปลอดภัยทีเ่ก่ียวของกับฝุนคือ พลังงานและอุณหภูมิตํ่าสุดที่ใชในการจุดติดไฟ
เนื่องจากวัสดุนาโนที่มีสมบัติเปนตัวเรงปฏิกิริยาสามารถชวยเพ่ิมอัตราเร็วในการเกิดปฏิกิริยาเคมี หรือลดอุณหภูมิที่ใชในการเกิดปฏิกิรยิาใหตํ่าลง ทาํใหปฏิกิรยิาสามารถเกิดขึน้ไดในของเหลวหรอืแกส สงผลใหการระเบิดและการเกิดอัคคีภยัมีแนวโนมที่สูงขึน้ดวย โดยควรพิจารณาจากองคประกอบและโครงสรางของวัสดุนั้นดวย
วัสดุนาโนบางชนดิไดรบัการออกแบบใหสามารถสรางความรอนได โดยอาศัยการเกิดปฏิกิรยิาแบบกาวหนาในระดับนาโนสเกลซ่ึงเปนพ้ืนฐานความรูสาํหรบัการวิจยัทางดานพลังงานนาโน ทําใหวัสดุนาโนกลุมนี้ติดไฟไดเร็วกวาวัสดุทีมี่ขนาดใหญกวาไดหลายเทาตัว
ขอควรพจิารณาดานความปลอดภยัในการผลิตวัสดนุาโน
การผลิตวัสดุนาโนและวัสดุอื่นๆ ขึ้นมาใหมนั้นทําไดทั้งการผลิตระดับตนแบบซ่ึงเปนกิจกรรมในการวิจยัและพัฒนาไปจนถงึการผลิตในระดับอุตสาหกรรม ในปจจุบัน การผลิตวัสดุนาโนประกอบดวยกระบวนการทีใ่ชพลังงานสงูหลายชนิด เชน การแยกสลายดวยเปลวไฟ การแยกสลายดวยความรอนจากเลเซอร การทาํใหเปนไอดวยเลเซอร (Laser Vaporization) การสังเคราะหดวยพลาสมาความรอน (ThermalPlasma) ไมโครเวฟพลาสมา (MicrowavePlasma) กระบวนการสปตเตอรงิ (Sputtering)และการระเหดิดวยเลเซอร (Laser Ablation) ซ่ึง
3SAFET Y LIFE
ตองมีประเด็นความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจงอันตรายที่มีผลกระทบตอความปลอดภัยจากกระบวนการเหลานี้ประกอบดวย การทํางานกับถังทรงกระบอกทีอ่ัดความดันสูง เครือ่งมือที่ใชความดันตํ่า แกสพิษ และแกสเฉ่ือย วัสดุที่มีอณุหภมิูสงู การทาํงานกับไฟฟาแรงสงู เครือ่งมือที่ปลดปลอยรังสีแมเหล็กไฟฟา เลเซอร และแหลงกําเนดิแสงทีมี่ความเขมขนของแสงสงู เชนรังสีอัลตราไวโอเลต รังสีอินฟราเรด และรังสีที่ตามองเหน็ การทาํงานในสภาวะทีเ่ปนอนัตรายเหลานี้ตองการการฝกปฏิบัติงานที่เหมาะสมและเปนไปตามแนวทางการทํางานที่ปลอดภัยในหองปฏิบัติการ
การประเมนิการรับสมัผัสกับวัสดนุาโน ชองทางการรับสมัผัสชองทางการรบัสมัผสักับวัสดุนาโนของผู
ปฏิบัติงานมี 3 ชองทางหลัก ไดแก ทางการหายใจทางปาก และทางผวิหนงั โดยมีรายละเอยีดดังนี้
การรับสัมผสัทางการหายใจการรบัสมัผสัทางการหายใจเปนเสนทาง
หลักทีวั่สดุนาโนเขาสูรางกาย เนือ่งจากอนุภาคสวนใหญในสถานทีป่ฏิบัติงานอยูในรปูแบบอสิระและลอยอยูในอากาศ อนภุาคนาโนทีเ่ขาสูรางกายผานทางการหายใจจะสะสมบรเิวณทางเดินหายใจซ่ึงขึ้นอยูกับขนาดของอนุภาค โดยทั่วไปแลวอนภุาคนาโนจะตกคางในทกุสวนของระบบทางเดินหายใจ โดยมีสดัสวนการสะสมในบรเิวณตางๆไดแก ชองจมูก (Nasopharyngeal) หลอดลม(Tracheobronchial) และถงุลม (Alveolar Region)ซ่ึงจากการใชแบบจาํลองทางคณติศาสตรในการคาดการณ (ตามคณะกรรมาธิการนานาชาติวาดวยการปองกันอันตรายจากรังสี (ICRP;International Commission on RadiologicalProtection) พบวา โอกาสทีอ่นภุาคขนาด 1 นาโนเมตร (nm) สะสมในชองจมูกมีมากถงึ 80% ในหลอดลม 20% และในถงุลมนอยกวา 1% สาํหรบัอนภุาคทีมี่ขนาด 20 นาโนเมตร พบวามีโอกาสสะสมในถุงลม 50% ในชองจมูกและหลอดลมในสัดสวนที่เทากันคือ 25%
การรับสัมผัสทางปากในสถานที่ปฏิบัติงาน วัสดุนาโนในรูป
อนภุาคสามารถเขาสูรางกายทางปากจากการกลนืเมือก (หรือน้ํามูก) ที่สะสมอยูในระบบหายใจจากการบรโิภคอาหารหรอืน้าํทีป่นเปอนอนภุาคนาโน หรือจากการไดรับเขาทางปากผานมือหรอืผวิหนงัทีป่นเปอน ทัง้นี ้การศึกษาเรือ่งการตกคางของอนภุาคนาโนในระบบทางเดินอาหารยังมีจํานวนนอยมาก
การรับสัมผัสทางผวิหนังในสถานที่ปฏิบัติงาน ผูปฏิบัติงานอาจ
เกิดการรบัสมัผสัวัสดุนาโนทางผวิหนงัในระหวางกระบวนการผลิตหรือใชงาน หรือโดยการรับสมัผสัพ้ืนผวิทีป่นเปอนวัสดุนาโน อยางไรก็ดี ในปจจบัุนยังเปนทีถ่กเถยีงวาอนภุาคนาโนสามารถทะลุผานเขาทางผวิหนงัปกติและทาํใหเกิดผลรายหรือไม และปริมาณเทาใดที่จะทําเกิดลักษณะนั้น งานวิจัยสวนใหญศึกษาการรับสัมผัสทางผิวหนังในสภาวะปกติกับวัสดุนาโนเฉพาะชนิดเชน TiO2 และ ZnO แตยังไมพบวามีการศึกษาถงึผลกระทบตอผิวหนังในรูปแบบอื่น เชน การทะลุผานผิวหนังที่ไดรับบาดเจ็บ รวมถึงการศึกษาถึงบทบาทของตัวทําละลายในการดูดซึมอนภุาคนาโนผานทางผวิหนงัในขณะทีป่ฏิบัติงานสวนการรบัสมัผสัผานทางการฉีดเขาสูสวนตางๆทีเ่กิดขึน้ในสถานปฏิบัติงาน สวนใหญเนือ่งจากอุบัติเหตุ
การประเมนิความเสีย่งดานอาชีวอนามยัสวนนี้กลาวถึงสถานะปจจุบัน เปนการ
ประเมินความเสีย่งในการผลิตและกระบวนการแปรรปูวัสดุนาโน ซ่ึงเนนเฉพาะปจจยัทีเ่ก่ียวของดานอาชวีอนามัน เชน โรงงานผลิต หองทดลองหรือหองปฏิบัติการ แตไมไดพิจารณารวมถึงความปลอดภยัของผูบรโิภคหรอืความปลอดภยัตอสิ่งแวดลอม
วัสดุนาโนที่มีลักษณะเปนอนุภาคอิสระที่เกาะเปนกลุม ลวนเก่ียวของกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัย วัสดุที่ มีโครงสรางนาโนสเกล ชัน้นาโน หรอืของแขง็ทีมี่อนภุาคนาโนฝงตัวอยู เชน สารประกอบพอลิเมอร สารเคลือบหรือสารตกแตง กอใหเกิดการรับสัมผัสไดและมีผลกระทบเม่ือมีการรับสัมผัส จากการศึกษาภาคสนามพบวา กระบวนการแปรรูวัสดุดวยวิธกีารทาํลายของสารประกอบพอลิเมอรทีมี่วัสดุนาโนฝงอยูจะทําใหเกิดละอองลอยของเสนใยนาโนที่ เปนชนิดกอนเกาะแนน แตไมปลอยอนภุาคนาโนชนดิกอนเกาะหลวมซ่ึงละอองลอย
นี้อาจเปนสวนผสมของอนุภาคลอยของเสนใยนาโนที่เกิดขึ้นโดยไมต้ังใจและอนุภาคนาโนที่สรางขึ้น ดังนั้น จงึจําเปนตองวิเคราะหลักษณะสมบัติของละอองลอยอยางถกูตองและเหมาะสม
ในขณะทีอ่นัตรายทางกายภาพซ่ึงมาจากการแปรรปูดวยวิธเีฉพาะ เชน การใหความรอนสงู การใหแรงดันไฟฟาสงูใชในงานทีเ่ก่ียวของกับวัสดุนาโน เนือ้หาในสวนนีมุ้งเนนอนัตรายทีเ่กิดจากความเปนพิษมากกวาอันตรายจากอคัคีภยัและการระเบิด โดยทัว่ไปแลว หลีกเล่ียงผลกระทบแบบเฉียบพลันไดโดยใชหลักการพ้ืนฐานและขอกําหนดขั้นตนของอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในกรณีมขีอมลูพิษวิทยาของวัสดุนาโนนัน้อยางไรก็ตามความเสี่ยงตอสุขภาพเนื่องจากการรบัสมัผสัวัสดุนาโนในปรมิาณตํ่าแบบสะสมประเมนิไดยากและทาทายตอการกําหนดแนวทางการปฏิบัติ การประเมินความเสี่ยงดําเนินการโดยผูเชี่ยวชาญรวมกับผูมีอํานาจตัดสินใจในการจัดทําขอกําหนดในการจัดการความเสี่ยงและจําเปนตองใชขอมูลอยางละเอียดทั้งของผลิตภัณฑและกระบวนการแปรรูป
การประเมนิความเสีย่งสําหรับวสัดนุาโน(Risk Assessment for Nanomaterial)
การประเมินความเสีย่งเปนการวิเคราะหผลกระทบเชิงลบตอสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นทั้งในปจจบัุนอนัเกิดจากสารเคมีอนัตรายโดยปราศจากการกระทําใดๆ ที่จะควบคุมหรือลดการรับสัมผัสสารเคมีนั้น
การประเมินความเสี่ยงในการประกอบอาชพี ประกอบดวย การระบุความเปนอนัตราย
4SAFET Y LIFE
การประเมินอนัตราย การประเมินการรบัและการจําแนกความเสี่ยง เปาหมายของการประเมินความเสี่ยง ตองประเมินวา ความเสีย่งทีมี่อยูในสภาพแวดลอมของสถานที่ทาํงานอยูเกินระดับการยอมรับ เพ่ือเปนขอมูลใหกับผู มีอํานาจตัดสินใจเพ่ิมความเขมงวดในการจัดการความเสี่ยงตอไป
กระบวนการประเมินความเส่ียง ประกอบดวย(1) ระบุชนิดสารที่ เปนอันตรายเม่ือ
ไดรับและมีความเสี่ยง(2) ประเมินการตอบสนองเม่ือไดรับ
สัมผัสอันตราย เปนการระบุผลกระทบเชิงลบตอสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากสารอันตรายในสถานที่ปฏิบัติงานที่ไดมีการระบุไว
(3) ประเมินการรับสัมผัสสารอันตรายเปนการประเมินวิธทีีบุ่คคลมีโอกาสรบัสมัผสักับสารอันตรายที่มีอยูในสถานที่ปฏิบัติงาน
(4) วิเคราะหความเสี่ยงรวมกับขอมูลที่ไดกลาวมาแลวจากขอ “วัตถนุาโนและการผลิต”จนถงึขอ “การประเมินการรบัสมัผสัวัสดุนาโน”ขางตนมาพิจารณารวมกันเพ่ือประเมินความเสีย่งในแตละสถานที่ปฏิบัติงาน
การประเมินความเสีย่งในสถานทีป่ฏิบัติงาน เริ่มจากการรวบรวมขอมูลเก่ียวกับการประเมินอนัตรายจากนัน้จงึใชกระบวนการตรรกะในการประเมินปรมิาณการรบัสมัผสัและการเขาถึงสารอันตราย ดังนั้น การประเมินความเสี่ยงจึงเปนการสังเคราะหขอมูลของอันตรายและการรับสัมผัส
วิธกีารประเมินความเสีย่งของวัสดุนาโนใหเปนไปตาม มอก.2691 เลม 6
การประเมนิความเสีย่งเชิงปริมาณการประเมินความเสีย่งเชงิปรมิาณขึน้อยู
กับขอมูลการรับสัมผัสเชิงปริมาณซ่ึงแสดงถึงโอกาสและระดับการรบัสมัผัส และขดีจาํกัดของปรมิาณการรบัสมัผสั ขดีจาํกัดของการรบัสมัผสัพัฒนามาจากความสมัพันธระหวางปรมิาณการ
รับสัมผัส การตอบสนอง และระดับของการรับสมัผสัทีมี่ความเสีย่งเชงิลบตอสขุภาพ แมวามีคาตํ่ากวาระดับทีย่อมรบัไดก็ตาม สวนประกอบอืน่ของการประเมินความเสี่ยงเชิงปริมาณ ไดแกการวัดการประมาณคาการรับสัมผัสที่แทจริงหรือโอกาสการรับสัมผัสในสถานทีป่ฏิบัติงาน
การประเมนิความเสีย่งเชิงสขุภาพในกรณไีมมีขอมูลสาํหรบัใชในการประเมิน
ความเสีย่งเชงิปรมิาณ ขอมูลทีข่าดไปนีท้ดแทนไดโดยการใชความเหน็จากบุคคล คณะบุคคล หรอืหนวยงานทีมี่ความเชีย่วชาญดานนาโนเทคโนโลยีการประเมินความเสี่ยงอาชีวอนามัยและความปลอดภัย รวมกับการประมาณการจากขอมูลที่มีอยูของวัสดุที่คลายกัน
การประเมินความเสี่ยงเชิงคุณภาพดวยวิธีนีน้าํมาใชจดักลุมชวยใหเกิดการพัฒนาเทคนคิการควบคุมเพ่ือประเมินความเสีย่งและแนะนําเทคนคิในการจดัการความเสีย่งอยางเหมาะสม
สวนประกอบที่ สําคัญอื่ นๆ ของการประเมินความเสี่ ยงเชิงคุณภาพ ไดแก การประเมินขอมูลอันตรายและการรบัสัมผสัทีมี่อยูอยางสมํ่าเสมอ
การระบุลักษณะอันตราย (HazardIdentification)
การระบุลักษณะอันตรายเพ่ือระบุและติดตามอนัตรายของสารท่ีอาจสงผลกระทบรนุแรงตอการรบัสมัผสัและความเสีย่ง ในกรณนีีมุ้งเนนการจัดทํารายการของอันตรายที่เกิดจากการเปนพิษ (สารเคมีหรอืวัสดุนาโน) และอันตรายทางกายภาพ (เชน สนามแมเหล็กไฟฟา แหลงกําเนิดแสงที่มีความเขมแสงสูง เสียงที่มีความเขมสูง วัสดุติดไฟและวัตถุระเบิด ความดันสูงหรอืสญุญากาศ) แมวาจะมีกระบวนการควบคุมทางวิศวกรรม โอกาสการไดรับสารในระดับตํ่าหรอืการไดรบัสารทีมี่อนัตรายในระดับตํ่าจาํเปนตองทําการระบุลักษณะอันตรายทั้ งหมดที่เก่ียวของกับการไดรบัสมัผสัจากการปฏิบัติงาน
ขอมูลทีใ่ชสาํหรบัการระบุอนัตรายไดจากบทความวิชาการ เอกสารความปลอดภยั (SDS)เอกสารความปลอดภัยสารเคมี (ICSC) ขอมูลจากผูผลิต ประกาศ กฎกระทรวง และขอมูลผลการทดสอบ ขอมูลในเอกสารตางๆ สวนใหญไมระบุขอมูลเฉพาะของวัสดุนาโนหรอืเกณฑปรมิาณสารทีไ่ดรบั ดังนัน้ ขอมูลจากเอกสารขางตนอาจไมเพียงพอตอการวิเคราะหอันตรายของวัสดุนาโน ในกรณีนี้ทดสอบเพ่ือใชเปนขอมูลได
ขั้นตอไปนี้ประกอบดวยการวิเคราะหปรมิาณวัสดุหรอืสารเคมีทีเ่ปนอนัตราย ปรมิาณวัสดุหรอืสารเคมีทีใ่ชหรอืมีอยูในสถานทีป่ฏิบัติงานเปนปจจัยสําคัญที่สงผลกระทบตอโอกาสในการรบัสมัผสั สถานทีป่ฏิบัติงานซ่ึงมีปริมาณของวัสดุเพียงเล็กนอยทาํใหมีโอกาสการรบัสมัผสัตํ่ากวาเม่ือเปรียบเทียบกันสถานที่ปฏิบัติงานที่ มีการใชวัสดุในปริมาณมาก การวิเคราะหสถานที่ปฏิบัติงานชวยในการประเมินโอกาสการรับสัมผัสของผูปฏิบัติงานในหนาที่หรือในสถานที่ ดังกลาวได ซ่ึ งนําไปสู การระบุกลุ มประชากรที่เปนเปาหมาย
การระบุอนัตรายประกอบดวยการสาํรวจสถานที่ปฏิบัติงาน ข้ันตอนการทํางาน กระบวนการผลิตและการวัดความปลอดภยัในสถานทีป่ฏิบัติงาน รวมถึงการใชระบบควบคุมทางวิศวกรรมและ PPE เพ่ือใชในการอธิบายถึงการรับสัมผัสและการระบุโอกาสในการรับสัมผัสสารเคมีที่เปนอนัตรายของผูปฏิบัติงานทัง้ในหนาทีแ่ละในสถานที ่หากการสํารวจเบ้ืองตนระบุวามีโอกาสของการรับสัมผัสตองรวบรวมและวิเคราะหขอมูลเพ่ีอประเมินการรบัสมัผสัในสถานทีป่ฏิบัติงานดังกลาว ขอมูลที่นํามาใชในการวิเคราะหไดแก ความเขมขนโดยมวล จาํนวนอนภุาค การกระจายตัวของขนาดอนภุาค พ้ืนทีผ่วิ และขอมูลวิเคราะหสมบัติทางเคมี
การประเมินการตอบสนองตอการรับสัมผัส (Exposure-response Assessment)
อันตรายทางพษิวิทยาในการจัดการดานอาชีวอนามัยนั้น การ
ปองกันผลกระทบจากความเปนพิษทําไดโดยการลดปริมาณการรับสัมผัสสารที่เปนพิษใหตํ่ากวาคาปรมิาณทีร่ะดับปลอดภยัซ่ึงอยูในระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได ผลกระทบจากความเปนพิษจําแนกได 2 ชนิด คือ ชนิดมีจุดเปล่ียน(Threshold) และชนิดไมมีจุดเปล่ียน (Non-threshod) ชนิดมีจุดเปล่ียนระบุเกณฑการรับสมัผสัทีไ่มกอใหเกิดอนัตรายตอสขุภาพ สวนชนดิไมมีจุดเปล่ียนคือ ไมระบุเกณฑการรับสัมผัส
5SAFET Y LIFE
ที่สงผลตอสุขภาพได ในการระบุเกณฑความปลอดภยัจาํเปนตองวิเคราะหในเชงิปรมิาณ ดังนี้
(1) หาคา NOAEL หรอื BMD โดยใชขอมูลตอบสนองตอการรับสัมผัสในสัตวหรือมนุษย
(2) ประมาณเกณฑสําหรับมนุษยจากเกณฑของสตัว (พิจารณาคาไมแนนอนประกอบ)โดยใชแบบจําลอง เชน แบบจําลองปอดมนุษยในการประมาณความเขมขนที่ไดรับตลอดอายุการทาํงาน
(3) คํานวณขีดจํากัดของการรับสัมผัสจากการปฏิบัติงานโดยคํานึงถึงความเปนไปไดทางเทคนคิ ความแปรปรวน และความไมแนนอนของแบบจําลอง การประมาณการ และระบบความเสี่ยงที่ยอมรับได
สมบัติความเปนพิษของวัสดุนาโนอาจเกิดจากองคประกอบเคมีที่อยูภายในของวัสดุไดแก สวนประกอบในสารต้ังตน ไดมีการศึกษาทางพิษวิทยาของวัสดุนาโน เชน CNT ซ่ึงมีลักษณะแตกตางจากคารบอนทีมี่ขนาดใหญ
นยิาม วิธีการ และมาตรฐานสาํหรบัการทดสอบพิษวิทยาของวัสดุนาโนอยูในระหวางการพัฒนา ควรตรวจสอบมาตรฐานระหวางประเทศทีอ่างองิได เชน มาตรฐานของ OECD เพ่ือใชเปนแนวทางการปฏิบัติ นิอกจากนี้ การวิเคราะหทางพิษวิทยาของวัสดุนาโนนัน้ จําเปนตองระบุการกระจายตัวของอนภุาคนาโน เนือ่งจากวัสดุนาโนที่มีความเขมขนสูงจะเกิดเปนกอนเกาะหลวมอยางรวดเรว็ อนัเปนผลจากการเคล่ือนที่แบบบราวนและแรงดึงดูดระหวางอนุภาคนาโนซ่ึงเกิดขึ้นไดในระหวางกระบวนการผลิตและกระบวนการบรรจุลงในบรรจุภัณฑ ดังนัน้ การรับสัมผัสจึงอาจเกิดขึ้นจากอนุภาคนาโนหรือเกิดจากอนุภาคกอนเกาะหลวม
หมายเหตุ การเคล่ือนที่แบบบราวน(Brownian Motion) หมายถึง อนุภาคนาโนที่แขวนลอยในของเหลวมีการเคล่ือนที่แบบสุมอยางสมํ่าเสมอ ซ่ึงเกิดจากปฏิสัมพันธระหวางอนุภาคกับโมเลกุลของเหลว
รายงานผลจากการศึกษาทางพิษวิทยาจํานวนหนึ่งพบวา บางครั้ง ความเปนพิษไดมาจากวัสดุทดสอบที่ไมทราบสมบัติอยางชัดเจนเนือ่งจากขอจํากัดทางเทคนคิ ดังนัน้ ในปจจบัุนจึงมีขอมูลอันตรายที่พิสูจนยืนยันจากผลการศึกษาพิษวิทยาสาํหรบัอาชวีอนามัยอยูอยางจาํกัดและเชื่อวาในอนาคตจะมีเกณฑการรับสัมผัสของวัสดุนาโนที่สรางขึ้นเพียงไมก่ีชนิดเทานั้นตัวอยางรายงานผลการวิเคราะหความเสีย่งของวัสดุนาโน เชน TiO2 คารบอนและอนุภาคที่
เกิดจากทอไอเสียเครื่องยนตดีเซลจากขอมูลทีมี่ไมมากนกัในปจจบัุนพบวา
ขอมูลความเปนอันตรายจากความเปนพิษของวัสดุนาโนนั้นไมไดมีการประเมินอยางสมบูรณทั้งนี้ สิง่ที่ควรพิจารณาในปจจุบันประกอบดวย
(1) พิษวิทยาของวัสดุนาโนนัน้คาดการณจากพิษวิทยาของสารนั้นๆ ที่มีขนาดใหญไมไดเสมอไป
(2) วัสดุนาโนบางชนดิ มวลไมใชปรมิาณที่เหมาะสมสําหรับหารวิเคราะหการรับสัมผัสและใหใชพ้ืนที่ผวิของวัสดุนาโนและจํานวนของอนุภาคนาโนในการวิเคราะหแทน
ดังนั้ นขีดจํากัดของการรับสัมผั สในสถานทีท่าํงาน (Occupational Exposure Limit)สําหรับวัตถุขนาดใหญที่มีลักษณะเปนฝุนผงอาจใชสําหรับวัสดุนาโนที่มีสวนประกอบทางเคมีเหมือนกันไมได
อันตรายทางฟสิกส (Physical Hazard)อันตรายจากอัคคีภัยและการระเบิดอัน
เนือ่งมาจากวัสดุนาโนนัน้มีรายงานนอยมาก หากอนภุาคนาโนกอใหเกิดเหตุอคัคีภยัและระเบิดไดความรนุแรงจะมีมากกวาอนภุาคขนาดใหญหรอืวัสดุขนาดใหญ ดังนัน้จงึตองมีการทดสอบเพ่ิมเติมเพ่ือประเมินสภาพลุกไหมได สภาพระเบิดไดและความไวปฏิกิริยาของวัสดุนาโน เกณฑวิธีการทดสอบอนัตรายเหลานีมี้อยูแลวสาํหรบัการทดสอบวัสดุขนาดใหญทีเ่ปนฝุนผงและนํามาใชกับวัสดุนาโนได เกณฑวิธดัีงกลาวประกอบดวยการวัดอัตราการ เผาไหม การวัดอุณหภูมิการจุดติดไฟ และการวัดสมบัติความเปนระเบิด
สภาพลุกไหมไดของวัสดุนาโนประเมินตาม ASTM E-918-83 สมบัติความเปนระเบิดวิเคราะหดวยวิธ ีFallhammer และ Koenen ดังนัน้เม่ือมีขอมูลอนัตรายจากลักษณะเฉพาะทางฟสกิสแลว การประเมินความเสี่ยงอันเกิดจากเหตุอัคคีภัยและการระเบิดได ใหใชเทคนิคที่มีอยู
เนือ่งจากขอมูลอนัตรายของวัสดุนาโนมีอยูอยางจํากัด การแบงกลุมความเปนอันตรายของวัสดุนาโนจึงอางอิงตามความเห็นของผูเชี่ยวชาญระบบการติดฉลากระบุระดับอนัตรายในสหภาพยุโรปประกอบดวยขอมูลดังนี้
(1) ระดับความรุนแรงของอันตรายไดแก ความเปนพิษมาก เปนพิษ อันตรายกัดกรอน และระคายเคือง
(2) ระดับความเสี่ยงเพ่ืออธิบายระดับความเปนอันตราย
ขอมูลเก่ี ยวกับการจําแนกความเปนอันตรายดูไดจากขอ “อันตรายของวัสดุนาโน”และ “ภาคผนวก ค. อันตรายของวัสดุนาโนตอสุขภาพ (รายละเอียดสัมผัส)”
การประเมินการรับสัมผัส (ExposureAssessment)
การรบัสมัผสัวัสดุนาโนเกิดขึน้ไดจากการรบัสมัผสัโดยตรง ในกรณขีองอนุภาคนาโนตองพิจารณาแนวโนมการปลดปลอยของอนุภาคนาโนดวยซ่ึงหาไดจากความสามารถของอนภุาคนาโนในแตละชนิดที่เกิดการรับสัมผัสโดยตรงกับผิวหนังของมนุษยหรืออวัยวะอื่นๆ ได เชนปอด ปจจยัทีต่องพิจารณาสาํหรบัการปลดปลอยอนุภาคนาโนในอากาศ ไดแก สมบัติทางเคมี-ฟสิกส และกระบวนการแปรรู ซ่ึงสมบัติเคมี-ฟสิกสประกอบดวยขนาด การเคลือบผิว ประจุการฟุงกระจาย การพิจารณาวิธกีารวิเคราะหควรตรวจสอบวาสถานะของวัสดุนั้นๆ ดวยวาอยูใน
6SAFET Y LIFE
ตัวกลางทีเ่ปนของเหลวหรอืของแขง็ กระบวนการเชงิกล เชน การกวน การเจาะ การเล่ือย การบดการครดู และการตัด อาจทาํใหเกิดการปลดปลอยอนภุาคนาโนหรอืวัสดุทีท่าํใหเกิดโครงสรางนาโนสเกลได เชน การใชเลเซอรสําหรับเจาะ การเชือ่มดวยพลาสมา นอกจากนีก้ระบวนการทางวิศวกรรมทั้ งที่ อยูในระบบปดและระบบเปดลวนแลวแตมีโอกาสในการรับสัมผัสวัสดุนาโนทั้งสิ้น ความเสี่ยงของการรับสัมผัสเกิดจากปจจยัตางๆ เชน การใชงานทีไ่มถกูตอง เครือ่งมือทาํงานผดิปกติความรูเทาไมถงึการณของผูปฏิบัติงานและการขาดประสบการณของผูปฏิบัติงาน
ในการประเมินการรบัสัมผัสจําเปนตองเขาใจภาพรวมของการรับสัมผัสที่เกิดขึ้นจริงการสูดดม และการซึมผานผิวหนังเปนชองทางทั่วไปของการรับสัมผัสในสถานที่ปฏิบัติงานสวนการรับสัมผัสทางปากนั้นเกิดขึ้นนอยมาก(แมวาการบรโิภคเปนสวนหนึง่ของการรบัสมัผสัทางการหายใจจากการกลืนเสมหะและการกลืนอนภุาคนาโนจากการหายใจเขาไป) การรบัสมัผสัทางปากมักเกิดอยางไมต้ังใจจากมือที่สัมผัสวัสดุนาโน การรับสัมผัสจากอุบัติเหตุ เชน ทางเขม็ฉีดยา ผลการศึกษารายงานวาอนภุาคนาโนทะลุผานผิวหนังชั้นในของหมูไมได ในขณะที่งานวิจัยอื่นๆ ไดแสดงใหเห็นวาอนุภาคนาโนสามารถผานหนงักําพราชัน้สตราตัมคอรเนยีม(Stratum Corneum) และเขาสูชั้นผิวหนังและชั้นผิวหนังบนสุดของหมูและมนุษยได
การรบัสมัผสัทางการหายใจวิเคราะหไดดวยวิธีการวัด เชน การนับจํานวนอนุภาค การวัดขนาด ขณะทีก่ารรบัสมัผสัทางผวิหนงัสามารถวิเคราะหไดโดยใชตัวอยางของกระดาษเช็ดมือทําการทดสอบทางเคมีและกลองจุลทรรศนอิเล็กตรอน ซ่ึงวิธกีารเหลานี้มีความยุงยากจากการทวนสอบ การสอบเทียบ และการประมาณ
คาความไมแนนอน อยางไรก็ตาม ขนาดอนภุาคจํานวน และการกระจายตัวเปนปจจัยที่สาํคัญที่จาํเปน รวมถงึพ้ืนทีผ่ิวหรอืขอมูลสมบัติทางเคมี
ในกรณทีี่ขอมูลการรับสมัผัสไมเพียงพอใหนําเทคนิคเชิงคุณภาพมาใชประเมินได เชนใชสมบัติการฟุงกระจายในการกําหนดโอกาสในการรับสัมผัส คือ ตํ่า ปานกลาง และสูง
การประเมินการไดรับเขาสู ร างกายเก่ียวของกับการวิเคราะหตัวอยางจากภายในรางกาย เชน เนือ้เย่ือ ของเหลวจากรางกาย และอากาศที่หายใจเขาไป ในทางอาชีวอนามัยจึงกําหนดใหมีวิธีการที่งายขึ้นโดยใชตัวอยางจากผม ปสสาวะ และอากาศที่หายใจออกมาแทน
การระบุปรมิาณที่รับเขาสูรางกายทําไดโดยการวัดปริมาณวัสดุนาโนที่ สนใจ หรือเมแทบอไลตของวัสดุนาโน นอกจากนี ้ยังมีการใช “ตัวระบุทางชีวภาพ” (Biomarker) ซ่ึงเปนสารทีเ่กิดขึน้จากอนัตรกิรยิาระหวางสารพิษกับระบบในรางกายมนษุยเปนหลักฐานในการแสดงถึงการไดรับสัมผัสสารพิษของรางกาย หากตัวระบุนั้นๆ มีความสัมพันธอยางจําเพาะกับสารพิษที่ไดรับเขาสูรางกาย โดยการวัดปริมาณตัวระบุทางชีวภาพมีขอดีคือ สามารถใหขอมูลการรบัสมัผสัได ไมวาการรบัสมัผสันัน้จะเกิดขึน้ผานเสนทางใด การวัดปรมิาณตัวระบุยังสามารถนํามาใชสาํหรบัการตรวจคัดกรองและตรวจติดตาม
พนกังานทีท่าํงานกับวัสดุนาโนได อยางไรก็ตามขอมูลการศึกษาตัวระบุทางชวีภาพสาํหรบัการรบัสมัผสัวัสดุนาโนยังอยูในชวงเริม่ตน และมีความซับซอนอนัสบืเนือ่งมาจากความหลากหลายทางฟสิกสและเคมีของวัสดุนาโนซ่ึงสงผลใหการตรวจสอบทางชีวภาพมีความหลากหลายไปดวย จากการศึกษาการรับสัมผัสวัสดุนาโนที่มีความเปนพิษตํ่าและความสามารถในการละลายตํ่าผานทางการหายใจ พบวาเปนสาเหตุใหเกิดการอักเสบ ซ่ึงมีการเสนอใหไนทรกิออกไซดในลมหายใจออกของมนษุยเปนตัวระบุทางชวิีภาพของการเกิดกระบวนการอักเสบในรางกาย
ลักษณะเฉพาะของความเสี่ยง (RiskCharacterization)
ลกัษณะเฉพาะของความเสีย่งประกอบดวยการทบทวนและการรวมขอมูลทีไ่ดจากขัน้ตอนการระบุอนัตราย การประเมินการตอบสนองตอการรบัสมัผสั และการประเมินการรบัสมัผสั คาประมาณการความเสี่ยงเชิงปริมาณประเมินไดจากความไมแนนอนทางสถิติและทางชีวภาพการอธิบายลักษณะของความเสี่ยงใชในการประเมินอันตรายและการรับสัมผัส ณ สถานที่ใดๆ วามีความเสี่ยงเกินเกณฑทีย่อมรับได และมีประชากรกลุมเสี่ยงหรือไม การจัดการความเสี่ยงอาจนํามาใชเพ่ือลดระดับความเสี่ยงใหตํ่ากวาเกณฑที่ยอมรับได มาตรการในการลดความเสี่ยงอาจเปนการแนะนาํใหกําจัดอนภุาคนาโนที่ เปนอันตรายหรือใชสารอื่นทดแทนรวมถึงปรับปรุงกระบวนการผลิต และ/หรือการใชการควบคุมทางวิศวกรรม มาตรการระดับองคกร เชน คูมือความปลอดภัย PPEและ SOP
บทสรุปการประเมินความเสีย่งของการรบัสมัผสั
วัสดุนาโนในทีท่ํางานประกอบดวยการประเมินความเสี่ยงเชิงปริมาณและ/หรือเชิงคุณภาพในกรณีที่มีขอมูลวิชาการกําจัด หรือวัสดุนั้นมีลักษณะจาํเพาะ อาจประเมินดานคุณภาพเพียงอยางเดียว หากมีขอมูลการรับสัมผัสและการตอบสนอง (เชน พิษวิทยาและระบาดวิทยา) ใหทาํการประเมินดานปรมิาณได ในปจจบัุนขอมูลการรับสัมผัสและอันตรายดานปริมาณสําหรับวัสดุนาโนทีเพียงสวนนอยเทานั้น ดังนั้นการประเมินความเสี่ยงตอสุขภาพสําหรับสถานที่ปฏิบัติงานในปจจุบันจงึขึน้อยูกับความเห็นของผูเชี่ยวชาญในการระบุอันตราย โอกาสการรับสัมผัส และการนํามาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมไปใชงาน