แบบทดสอบ · web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน...

19
แแแแแแแแแแแแแแแแแ แแแแแ 14 แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ ------------------------------------------- ------------------------------------------- -------------------------------- แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแ 1. เเเเเเเ ( Spirogyra ) เเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เ. Binary fission เ. Conjugation เ. Fragmentation เ. Budding 2. เเเเเเเเเเเเเเเเ 2 เเเเเเเเ เ เเเ (Binary fission ) เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เ. Micronucleus เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเ เ. Macronucleus เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเ เ. เเเเ Micronucleus เเเ Macronucleus เเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เ. Micronucleus เเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเ Macronucleus เเเเเเเเเเเเเเเเเเเ 3. เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเ เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเเ 2 เเเเ (Binary fission ) เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเ เ. เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเเ เ. เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเ เเเเเเเเเเเเเเเ

Upload: others

Post on 04-Jan-2020

4 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

แบบทดสอบเก็บคะแนนบทท่ี 14 การสบืพนัธุข์องพชืดอก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จงเลือกคำาตอบท่ีถกูต้องท่ีสดุเพยีงขอ้เดียว1. เทาน้ำ�า ( Spirogyra ) ใชว้ธิกีารใดในการสบืพนัธุแ์บบไมอ่าศัยเพศ

ก. Binary fission ข. Conjugationค. Fragmentation ง. Budding

2. ในการแบง่ออกเป็น 2 สว่นเท่า ๆ กัน (Binary fission ) ของพารามเีซยีมนั�นพบวา่

ก. Micronucleus เท่านั�นท่ีแบง่ตัวแบบไมโทซสิข. Macronucleus เท่านั�นท่ีแบง่ตัวแบบไมโทซสิ

ค. ทั�ง Micronucleus และ Macronucleus จะแบง่ตัวแบบไมโอซสิ

ง. Micronucleus แบง่ตัวแบบไมโทซสิ สว่น Macronucleus จะแบง่ตัวแบบไมโอซสิ3. ยูกลีนาเป็นโพรโทซยัเชน่เดียวกับพารามเีซยีม ทั �งยูกลีนาและพารามเีซยีมต่างก็สบืพนัธุแ์บบไมอ่าศัยเพศ โดยการแบง่ออกเป็น 2 สว่น (Binary fission ) แต่ยูกลีนาแบง่ตัวต่างจากพารามเีซยีมท่ี

ก. ยูกลีนาแบง่ตัวตามยาวขณะท่ีพารามเีซยีมแบง่ตัวตามขวาง ข. ยูกลีนาแบง่ตัวตามขวางขณะที่พารามเีซยีมแบง่ตัวตามยาว

ค. ยูกลีนาแบง่ตัวตามยาวขณะเคล่ือนท่ีสว่นพารามเีซยีมแบง่ตัวขณะหยุดนิ่ง ง. ยูกลีนาแบง่ตัวตามขวางขณะหยุดนิ่งสว่นพารามเีซยีมแบง่ตัวขณะเคล่ือนท่ี4. กระบวนการต่าง ๆ เหล่านี� คือ กระบวนการสบืพนัธุโ์ดยไมใ่ชเ้พศ ยกเวน้ขอ้ใด

ก. Spore formation ข. Budding

Page 2: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

ค. Budding ง. Conjugation5. สิง่มชีวีติชนิดใด ท่ีการสบืพนัธุส์ว่นใหญ่ท่ีเราพบมกัจะเป็นการสบืพนัธุช์นิดไมใ่ชเ้พศ โดยเฉพาะอยา่งยิง่การแตกหน่อ

ก. พารามเีซยีม ข. เหด็โคนค. ยสีต์ ง. สาหรา่ยสนี้ำ�าตาล

จากแผนภาพของราขา้งล่างนี้ใชต้อบคำาถามขอ้ 6 – 8

6. สว่น A ท้ำาหน้าที่ใดก. ใหแ้มลงถ่ายละอองเรณู ข. ใชล้มถ่ายละอองเรณูค. การสบืพนัธุโ์ดยไมใ่ชเ้พศ ง. คอนจูเกชนั

7. โครงสรา้ง A นี�เรยีกวา่ก. Sporangiospore ข. Sporangiophore ค. Sporangium ง. Spore

8. เซลล์ท่ีอยูใ่นโครงสรา้ง A มกีารแบง่เซลล์โดยวธิกีารใด และมีจ้ำานวนโครโมโซมเท่าใด

ก. Mitosis , n ข. Mitosis , 2nค. Meiosis , n ง. Meiosis , 2n

Page 3: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

9. ค้ำาใดหมายถึง การแบง่ตัวออกเป็น 2 สว่น ซึ่งอาจจะมากหรอืน้อยกวา่ กันก็ได้

ก. External fertilizationข.Vegetative reproduction

ค.Binary fission ง. Spore formation

10. สิง่มวีชิติชนิดใด ไมม่กีารแตกหน่อก. ยสีต์ ข. ไฮดรา ค. ต้นตายใบเป็น ง. ไสเ้ดือน

11. พชืชนิดใดที่ไมม่ไีหลใชใ้นการงอกล้ำาต้นขึ�นมาเป็นต้นใหม่ก. มะมว่ง ข. สตรอเบอรรี่ ค. บวับางชนิด ง. พชืตระกลูหญ้า

12. ขอ้ใดจดัเป็นขอ้ด้อยส้ำาหรบัการสบืพนัธุแ์บบไมอ่าศัยเพศก. ใชส้ิง่มชีวีติเพยีงตัวเดียว ข. ลกูที่เกิดมามลัีกษณะ

เหมอืนกันหมดค. ลกูที่เกิดมาอยูใ่กล้ตัวแมม่ากเกินไป ง. ลกูมกีารกระจาย

พนัธุไ์ด้ดีพอประมาณ13. ประโยชน์ที่ส้ำาคัญส้ำาหรบัการเพาะเลี�ยงเนื�อเยื่อพชื คือ

ก. ได้ต้นใหมม่จี้ำานวนมากมายในเวลาอันสั �น ข. ได้ลักษณะของพชืใหม ่ๆ

ค. พชืเจรญิเติบโตได้เรว็หลังจากน้ำามาปลกูลงดินง. ปราศจากเชื�อโรครบกวนตลอดชวีติพชื

14. ในการเพาะเลี�ยงเนื�อเยื่อพชื พชืเหล่านั �นจะได้อาหารจากท่ีใดก. จากการสงัเคราะหด้์วยแสง ข. จากอาหารสงัเคราะหท่ี์เลี�ยงค. จากเซลล์แรกท่ีน้ำาไปเลี�ยง ง. จากธรรมชาติเหมอืนพชือ่ืน ๆ

15. ภายใน Embryo sac ของพชืมดีอกสว่นมาก ประกอบด้วย

Page 4: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

ก. Ovule , Synergids , Polar nuclei ข. Ovule , Antipodal cell , Synergids , Polar nucleiค. Egg , Antipodal cells , Synergids , Polar nuclei ง. Egg , Synergids , Polar nuclei

16. ถงุเอ็มบรโิอของพชืดอก เมื่อเทียบกับพชืไรท่้อล้ำาเลียงหรอืพชืมีท่อล้ำาเลียงชั�นต้ำ่า คือ โครงสรา้งใด

ก. Megasporangium ข. Archegoniumค. Megaspore ง. Mature female gemetophyte

17. สว่นใดถือวา่เป็นแกมโีตไฟต์ของพชืดอกก. รงัไข่ ข. ออวูล ค. ถงุเอ็มบรโิอ ง. นิวเคลียสอสจุิ

18. ในการสบืพนัธุแ์บบสลับของพชืจะต้องมีก. พชืสองชนิด คือ ชนิดสปอรโรไฟต์ซึ่งมโีครโมโซม 2 ชุด กับ

ชนิดแกมโีทไฟต์ ซึ่งมโีครโมโซม 1 ชุด สลับกันข. พชืสองชนิด คือ ชนิดสปอรโ์รไฟต์ซึ่งมโีครโมโซม 1 ชุด กับ

ชนิดแกมโีทไฟต์ ซึ่งมโีครโมโซม 2 ชุด สลับกันค. อาจเป็นพชืชนิดเดียวกันก็บได้ แต่จะต้องมสีว่นสรา้งสปอ

แรงเกียมกับแกมแีทนเกียมสลับกันง. อาจเป็นพชืชนิดเดียวกันก็ได้ แต่ต้องสรา้งอารคีโกเนียมและ

แอนเทอรเิดียมสลับกัน19. ในระยะที่ละอองเรณูสรา้งหลอดละอองเรณูยื่นเขา้สูก่้านชูยอดเกสรตัวเมยีจะมนิีวเคลียสจ้ำานวนเท่าใด และในการเจรญิของเซลล์แม่ของเมกะสปอรไ์ปเป็นถงุเอ็มบรโิอมกีารแบง่ไมโทซสิกี่ครั �ง

ก. 1 นิวเคลียส , 1 ครั�ง ข. 2 นิวเคลียส , 2 ครั�งค. 3 นิวเคลียส , 4 ครั�ง ง. 4 นิวเคลียส , 4 ครั�ง

Page 5: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

20. ขอ้แตกต่างระหวา่งแกมโีตไฟต์และสปอโรไฟต์ของพชืมดีอกคือขอ้ใด

ก. ขนาด และอายุ ข. ขนาดและจ้ำานวนโคโมโซมค. อายุ และจ้ำานวนโครโมโซม ง. ขนาด อายุ และจ้ำานวนโครโมโซม

21. ละอองเรณู หมายถึงอะไรก. เซลล์ท่ีได้จากการแบง่ตัวแบบไมโอซสิของไมโครสปอรม์าเท

อรเ์ซลล์ข. เซลล์ท่ีได้จากการแบง่ตัวแบบไมโทซสิของนิวเคลียสใน

ไมโครสปอรม์าเทอรเ์ซลล์ค. เซลล์ท่ีได้จากการแบง่ตัวแบบไมโอซสิของไมโครสปอร์ง. เซลล์ท่ีได้จากการแบง่ตัวแบบไมโทซสิของนิวเคลียสใน

ไมโครสปอร์22. การสรา้งเซลล์สบืพนัธุเ์พศเมยีของพชืมดีอกและสตัวช์ั �นสงู มีความแตกต่างกันในเรื่องใด

ก. จ้ำานวนเซลล์ท่ีได้จากการแบง่เซลล์ดิพลอยด์ข. จ้ำานวนครั�งของการแบง่ไมโอซสิของเซลล์ดิพลอยด์ค. จ้ำานวนครั�งของการแบง่ไมโทซสิของเซลล์แฮพลอยด์และไม

โอซสิของเซลล์ดิพลอยด์ง. จ้ำานวนเซลล์ท่ีได้และจ้ำานวนครั�งของการแบง่ไมโทซสิของ

เซลล์ท่ีได้จากจ้ำานวนเซลล์ดิพลอยด์23. ในถงุเอ็มบรโิอของพชื เซลล์ที่จะเจรญิเกี่ยวขอ้งกับการปฏิสนธิคือ

ก. เซลล์ไข่ ข. เซลล์ท่ีมโีพลาร์นิวเคลียสค. ทั�งเซลล์ไขแ่ละเซลล์ที่มโีพลารนิ์วเคลียส ง. เซลล์ท่ีอยู่ตรงขา้มกับไมโครไพล์

24. การปฏิสนธใินพชืได้แก่การท่ี

Page 6: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

ก. ละอองเรณูเขา้ผสมกับโอวูล ข. ละอองเรณูเขา้ผสมกับเซลล์ไข่ค. สเปิรม์นิวเคลียสตัวที่ 1 เขา้ผสมกับเซลล์ไข่ง. สเปิรม์นิวเคลียสตัวที่ 2 เขา้ผสมกับโพลารนิ์วเคลียส

25. ล้ำาดับของพชืท่ีเรยีงตามความเด่นของชว่งสปอรโ์รไฟต์จากน้อยไปมากคือ

ก. มอส เฟนิ มะมว่ง ข. มอส มะมว่ง เฟนิค. มะมว่ง เฟนิ มอส ง. มะมว่ง มอส เฟนิ

26. ถงุเอ็มบรโิอ ( Embryo sac ) ของพชืดอกเทียบได้กับโครงสรา้ง ( Structure ) ใด ของพวกเฟนิ

ก. แกมโีทไฟต์ ข. ไซโกตค. อวยัวะที่สรา้งเซลล์สบืพนัธุเ์พศเมยี ( Archegonium )

ง. อับสปอร ์( Sporangium )27. น้ำ�าเป็นปัจจยัส้ำาคัญในการท้ำาใหเ้กิดปฏิสนธใินพชืชั�นต่ เชน่ มอส เฟนิ เป็นต้น ส้ำาหรบัในพชืมดีอกและสนนั�น การปฏิสนธเิกิดขึ�นได้โดย

ก. การถ่ายละอองเรณู ข. ละอองเรณูค. หลอดละอองเรณู ง. สเปิรม์นิวเคลียส

28. ไข่

3 ต้นแกมโีตไฟต์ ไซโกตท่ีเจรญิเต็มที่

2 เซลล์สบืพนัธุเ์พศผู้ 4 1

สปอร์ ต้นสปอรโรไฟต์ท่ีเจรญิเต็มท่ี

จากแผนภาพวงชวีติแบบสลับนี� จะมกีารแบง่นิวเคลียสแบบไมโอซสิที่ระยะใด

Page 7: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 429. เอ็มบรโิอของพชืมดีอกคือ

ก. กลุ่มเนื�อเยื่อที่ก้ำาลังเจรญิภายในเยื่อหุม้เมล็ดทั�งหมดข. กลุ่มเนื�อเยื่อที่ก้ำาลังเจรญิภายในเยื่อหุม้เมล็ด ยกเวน้ใบ

เลี�ยงค. กลุ่มเนื�อเยื่อที่ก้ำาลังเจรญิภายในเยื่อหุม้เมล็ด ยกเวน้เอนโด

สเปิรม์ง. กลุ่มเนื�อเยื่อที่ก้ำาลังเจรญิภายในเยื่อหุม้เมล็ด ยกเวน้ใบ

เลี�ยงและเอนโดสเปิรม์30. สว่นใดท่ีไมใ่ช ่สว่นประกอบของเอ็มบรโิอของขา้วโพด

ก. ใบเลี�ยง ข. เอนโดสเปิรม์ ค. เอพคิอทิลง. แรดิเคิล

31. สว่นใดต่อไปนี� พบได้ทั�งในเมล็ดละหุง่และเมล็ดขา้วโพดก. เอนโดสเปิรม์ และไฮโพคอทิล ข. ใบเลี�ยง

และแรดิเคิลค. เอนโดสเปิรม์ และใบเลี�ยง ง. เอพคิอทิล และ

เยื่อหุม้เอพคิอทิล32. ในการงอกของเมล็ดถัว่ด้ำา ขอ้ใดแสดงล้ำาดับของสว่นท่ีปรากฎใหเ้หน็ได้ถกูต้อง

ก. เอพคิอทิล ไฮโพคอทิล รากแก้ว ข. ไฮโพคอทิล รากแก้ว เอพคิอทิล

ค. รากแก้ว เอพคิอทิล ไฮโพคอทิล ง. รากแก้ว ไฮโพคอทิล เอพคิอทิล33. เนื�อเยื่อบรเิวณใดของเอ็มบรโิอของพชืท่ีมบีทบาทมากท่ีสดุ ในการเริม่ต้นท้ำาใหเ้มล็ดเริม่งอกเป็นต้นกล้า

ก. แรดิเคิล ข. ไฮโพคอทิล ค. เอพคิอทิลง. พลมููล

Page 8: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

34. ถ้าน้ำาเมล็ดถัว่ด้ำามาเพาะลงในกะบะดิน จะพบการเจรญิเป็นอยา่งไร

ก. ไฮโพคอทิลจะงอกออกมาก่อนเพื่อชูล้ำาต้นขึ�นไปในอากาศเพื่อใหพ้ชืได้รบัแสง

ข. แรดิเคิลจะงอกออกมาก่อนเพื่อเจรญิต่อไปเป็นรากเพื่อยดึดิน และชว่ยดดูน้ำ�าและเกลือแร่

ค. เอพคิอทิลจะงอกออกมาก่อนเพื่อใหพ้ชืได้สรา้งใบใชใ้นการสงัเคราะหด้์วยแสง

ง. แรดิเคิลและไฮโพคอทิลจะงอกออกมาพรอ้ม ๆ กันเพื่อจะมีรากเจรญิลงไปในดินและต้นเจรญิขึ�นในอากาศ

35. ถ้าใสส่ารเคมบีางชนิดไปท้ำาลายไมโครทบููลของเซลล์พชืท่ีก้ำาลังแบง่เซลล์แบบไมโทซสิ และอยูใ่นระยะเมตาเฟส แล้วปล่อยใหก้ารแบง่เซลล์ด้ำาเนินต่อไปจะมผีลอยา่งไร

ก. เซลล์พชืไมม่กีารสรา้งเซลล์เพลต จงึท้ำาใหไ้มแ่บง่ออกเป็น 2 เซลล์

ข. เซลล์พชืไมม่กีารแบง่นิวเคลียสจงึไมม่กีารแบง่เซลล์ออกเป็น 2 เซลล์

ค. เซลล์พชืมกีารแบง่ตามปกติและได้เซลล์ใหม ่2 เซลล์ ที่มีจ้ำานวนโครโมโซม

ง. เซลล์พชืมกีารแบง่ตามปกติ แต่เซลล์หน่ึงมโีครโมโซม สว่นอีกเซลล์หน่ึงไมม่โีครโมโซม

เฉลยแบบทดสอบเก็บคะแนนบทท่ี 14 การสบืพนัธุข์องพชืดอก

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1.เฉลยขอ้ คเหตผุล เทาน้ำ�า หรอื Spirogyra เป็นสาหรา่ยสเีขยีวชนิดหน่ึงอาศัยในน้ำ�าจดื มกีาร

Page 9: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

สบืพนัธุท์ั �งแบบไมอ่าศัยเพศและอาศัยเพศ ส้ำาหรบัการสบืพนัธุแ์บบไม่

อาศัยเพศแบบหน่ึง คือการหกัเซลล์ท่ีเรยีงตัวกันเป็นสายยาวออกเป็นท่อน

ๆ เรยีกวา่ Fragmentation แต่ละท่อนจะเพิม่จ้ำานวนเซลล์มากขึ�นแล้วหกั

เป็นท่อน ๆ อีกเรื่อย ๆ ไป2.เฉลยขอ้ ก

เหตผุล พารามเีซยีมเป็นโพรโทรซวัท่ีมนีิวเคลียส 2 อัน คืออันใหญ่หน่ึงอันเรยีก

วา่ Maccronucleus กับนิวเคลียสอันเล็กอันหน่ึงเรยีกวา่ Micronucleus ใน

การสบืพนัธุแ์บบไมอ่าศัยเพศเฉพาะนิวเคลียสอันเล็ก จะแบง่ตัวแบบ

Mitosis สว่นนิวเคลียสใหญ่จะแบง่ออกเป็น 2 สว่นง่าย ๆ จากนั�นเซลล์

ของพารามเีซยีมจะคอดเขา้หากันท้ำาใหไ้ด้พารามเีซียม 2 ตัว

3.เฉลยขอ้ ก เหตผุล การแบง่ตัวโดย Binary fission ยูกลีนานั�นจะ

แบง่ตามความยาวของล้ำาตัว สว่นพวกพารามเีซยีมจะแบง่ตัวตามขวาง

4. เฉลยขอ้ งเหตผุล Conjugation เป็นวธิหีน่ึงของกระบวนการสบืพนัธุโ์ดยใชเ้พศ เพราะมี

การรวมนิวเคลียสเขา้ด้วยกัน เป็นการสบืพนัธุข์องสิง่มชีวีติพวกโพรติสต์

เชน่ สาหรา่ยบางชนิด พารามเีซยีม รา เป็นต้น

Page 10: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

5.เฉลยขอ้ คเหตผุล ยสีต์เป็นราชนิดหน่ึง ที่มกีารสบืพนัธุทั์�งแบบใช ้และไมใ่ชเ้พศแต่ท่ีพบ

มากท่ีสดุ คือ การสบืพนัธุช์นิดไมใ่ชเ้พศโดยการแตกหน่อ สว่นการสบื

พนัธุแ์บบไมใ่ชเ้พศแบบ Fission ก็มเีชน่เดียวกับการสบืพนัธุแ์บบไมใ่ช้

เพศ คือ การสรา้งสปอร ์เชน่ การสรา้งสปอรช์นิดโคนิเดีย สว่นสปอร์

แบบอาศัยเพศ ได้แก่ แอสโคสปอร์6. เฉลยขอ้ ค

เหตผุล โครงสรา้ง A ในแผนภาพเป็นสว่นของอับสปอรข์องรา ซึ่งท้ำาหน้าท่ีสบื

พนัธุ ์โดยไมใ่ชเ้พศ7.เฉลยขอ้ ค

เหตผุล โครงสรา้ง A คือ อับสปอร ์( Sporangium ) ของราก พวก Rhizopus sp.

ภายในบรรจุสปอร ์( Sporangiospore ) หรอื ก้านท่ีชูอับสปอรเ์รยีกวา่

สปอรแ์รงกิโอฟอร ์(Sporangiophore)8.เฉลยขอ้ ก

เหตผุล สปอรท่ี์อยูใ่นอับสปอรม์โีครโมโซมชุดเดียว n และการแบง่เซลล์เกิดโดย

วธิไีมโอซสิ9.เฉลยขอ้ ค

เหตผุล Binary fission คือ กระบวนการแบง่ตัวสิง่มชีวีติออกเป็น 2 สว่น เกือบจะ

เท่า ๆ กัน เชน่ สาหรา่ยเซลล์เดียว อะมบีา ยูกลีนา

Page 11: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

10. เฉลยขอ้ งเหตผุล ไสเ้ดือนดินมกีารสบืพนัธุโ์ดยใชเ้พศ ถึงแมจ้ะ

ม ี2 เพศในตัวเดียว11. เฉลยขอ้ ก

เหตผุล มะมว่งไมม่กีารสบืพนัธุโ์ดยการไหล12. เฉลยขอ้ ข

เหตผุล การสบืพนัธุแ์บบไมอ่าศัยเพศ ท้ำาใหส้ิง่มชีวีติท่ีเกิดมาใหมม่ลัีกษณะ

เหมอืนตัวเดิมหากเป็นลักษณะท่ีไมด่ีจะมลัีกษณะเหมอืน ๆ กันหมด13. เฉลยขอ้ ก

เหตผุล ประโยชน์ที่ส้ำาคัญของการเพาะเลี�ยงเนื�อเยื่อ คือ การได้ปรมิาณพชืจ้ำานวน

มากมายตามความต้องการ เชน่ เป็นแสนเป็นล้านต้นพรอ้มกัน ในขณะท่ี

วธิอ่ืีนจะได้จ้ำานวนพชืมากมายเชน่นี�ต้องใชเ้วลานานกวา่จะขยายพนัธุไ์ด้

14. เฉลยขอ้ ขเหตผุล ในการเพาะเลี�ยงเนื�อเยื่อ จะต้องใหอ้าหารสงัเคราะห์

แก่เนื�อเยื่อเหล่านั�น ไมว่า่จะเป็นฮอรโ์มน กรดอะมิโน เอนไซมห์รอือาหารอ่ืน ๆ

15. เฉลยขอ้ คเหตผุล ภายใน Embryo sac ของพชืดอกสว่น

ประกอบด้วยเซลล์ ต่าง ๆ คือ1. Egg , 3 Antipodal cells2. Synergids3. Polar nuclei ดังภาพ

Page 12: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

16. เฉลยขอ้ ข.เหตผุล ภายในถงุเอ็มบรโิอของพชืดอก มไีขเ่ชน่

เดียวกับ Archegonium พชืชั�นต้ำ่า17. เฉลยขอ้ ค

เหตผุล แกมโีตไฟต์ของพชื ดอก คือ ถงุเอ็มบรโิอถือเป็นแกมโีตไฟต์ของเพศเมยี18. เฉลยขอ้ ก

เหตผุล การสบืพนัธุส์ลับของพชื หมายถึง การสลับระหวา่งชว่งแกมโีตไฟต์ ซึ่งมี

โครโมโซมเพยีง 1 ชุด กับสปอโรไฟต์ซึ่งมีโครโมโซม 2 ชุด

19. เฉลยขอ้ คเหตผุล ในระยะที่ละอองเรณูสรา้งหลอดละอองเรณู

ยื่นเขา้ไปสูก่้านชูยอดเกสรตัวเมยี จะมนิีวเคลียส 3 นิวเคลียส คือ 2 สเปิรม์นิว

เคลียส และ 1 ทิวบ์นิวเคลียส สว่นเซลล์แมข่องเมกะสปอรไ์ปเป็นถงุเอ็มบรโิอ มกีารแบง่ไมโอซสิได้ 4 เซลล์ 3 ใน 4 เซลล์สลายไป เหลือเซลล์เดียว เรยีกวา่ เมกะ สปอรนิ์วเคลียสในเมกะสปอรจ์งึแบง่ไมโทซสิ 3 ครั�ง 8 นิวเคลียส

20. เฉลยขอ้ ง

Page 13: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

เหตผุล ความแตกต่างระหวา่งแกมโีตไฟต์ และสปอร์โรไฟต์ของพชืดอก ขึ�นกับ

1. ขนาดแกมโีตไฟต์ลดรูปลงมาเหลือเพยีงดอกอยู่บนต้นสปอโรไฟต์

2. อายุ แกมโีตไฟต์มอีายุน้อยและสั �นกวา่ต้นสปอร์โรไฟต์

3. จ้ำานวนโครโมโซมของแกมโีตไฟต์ม ีn สว่นสปอโรไฟต์ม ี2n

21. เฉลยขอ้ งเหตผุล ละอองเรณูเป็นสว่นท่ีม ี2 สเปิรม์นิวเคลียส

1 ทิวบนิ์วเคลียส ซึ่งทั�งหมดนั�นเกิดจากไมโครสปอรม์าเทอรเ์ซลล์ แบง่ตัวให4้

ไมโครสปอร ์ไมโครสปอรแ์ต่ละนิวเคลียสจะแบง่ตัวอีก 2 หน จงึได้

นิวเคลียสทั�งหมดของละอองเรณู

22. เฉลยขอ้ งเหตผุล การสรา้งเซลล์สบืพนัธุเ์พศเมยีมดีอกในคราว

เดียวจะได้ 8 เซลล์ สว่นในเซลล์สตัวไ์ด้ 4 เซลล์ การแบง่ไมโทซสิของเซลล์ท่ี

ได้จากเซลล์ดิพลอยด์นั�น เซลล์สบืพนัธุพ์ชืแบง่ถึง 3 หน สว่นเซลล์สตัว์

ไมม่กีารแบง่ไมโทซสิ23. เฉลยขอ้ ค

เหตผุล ในถงุเอ็มบรโิอของพชืเซลล์ท่ีจะเกี่ยวขอ้งกับการปฏิสนธมิอียู ่2 พวก คือ

Page 14: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

เซลล์ไขซ่ึ่งปฏิสนธแิล้วจะกลายเป็นไซโกตกับโพลาร์นิวเคลียส เมื่อ

ปฏิสนธแิล้วกลายเป็นเอนโอสเปิรม์24. เฉลยขอ้ ค

เหตผุล การปฏิสนธใินพชื คือ การท่ีสเปิรม์นิวเคลียสตัวที่ 1 เขา้ผสมกับเซลล์ไข ่

โดยเฉพาะในพชืพวกสนสองใบ แต่พชืมดีอกจะมีการผสมของสเปิรม์

นิวเคลียสอีกตัว โดยการผสมกับโพลารนิ์วเคลียสกลายเป็นเอนโดสเปิรม์

25. เฉลยขอ้ กเหตผุล ล้ำาดับของพชืท่ีมสีปอโรไฟต์จากต้นเล็กไปจน

กระทัง่ต้นใหญ่ คือ มอส เฟนิ มะมว่ง

26. เฉลยขอ้ คเหตผุล ถงุเอ็มบรโิอ ( Embryo sac ) ของพชื

ดอกเทียบได้กับอวยัวะสรา้งเซลล์สบืพนัธุเ์พศเมยี ( Archegonium ) ของพวกเฟนิ

ท่ีมไีขอ่ยูภ่ายในเหมอืน ๆ กัน27. เฉลยขอ้ ค

เหตผุล ในพชืดอกไมอ่าศัยน้ำ�าเป็นตัวกลางในการผสมพนัธุ ์แต่จะมที่อใหส้เปิรม์

นิวเคลียสไหลไปผสมกับไขแ่ทนท่ีจะต้องวา่ยน้ำ�าเขา้ไปผสมดังภาพ

Page 15: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

ภาพแสดงการเกิดละอองเรณูและการงอกหลอดละอองเรณู

28. เฉลยขอ้ กเหตผุล การแบง่ไมโอซสิจะเกิดท่ีระยะที่ 1 ของวง

ชวีติแบบสลับเน่ืองจากเป็นการแบง่ตัวจากต้นสปอโรไฟต์ท่ีเจรญิเต็มท่ีมโีครโมโซม

2n ไปเป็นสปอรม์ีโครโมโซม n จากการแบง่เซลล์โดยลดจ้ำานวน

โครโมโซมลงครึง่หน่ึง คือกระบวนการไมโอซสิ

29. เฉลยขอ้ คเหตผุล เอ็มบรโิอของพชืมดีอก คือ กลุ่มเนื�อเยื่อท่ี

เจรญิมาจากไซโกต แล้วเจรญิเป็นเอ็มบรโิอ สว่นเอนโดสเปิรม์เกิดแตกต่างจากไซ

โกต แล้วใชเ้ป็นอาหารของเอ็มบรโิอ

30. เฉลยขอ้ ข

Page 16: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

เหตผุล เอนโดสเปิรม์ใชเ้ป็นอาหารของตัวอ่อนไมใ่ช่สว่นของเอ็มบรโิอพชื31. เฉลยขอ้ ง

เหตผุล พชืพวกแองจโิอสเปิรม์ในเมล็ด พบทั�งใบเลี�ยง แรดิเคิล เอนโดสเปิร ์เอพิ

คอทิล ยกเวน้ในถัว่ เอนโดสเปิรม์จะรวมกับใบเลี�ยง และในขา้วโพดจะมี

ทั�งเยื่อหุม้เอพคิอทิล และเยื่อหุม้แรดิเคิล

32. เฉลยขอ้ งเหตผุล การงอกของเมล็ดถัว่ด้ำาเป็นไปตามล้ำาดับ

ภาพ

33. เฉลยขอ้ กเหตผุล ในการงอกของเมล็ดสว่นแรกท่ีงอกออกมา

คือ แรดิเคิล ซึ่งต่อไปจะกลายเป็นราก ดดูน้ำ�าเขา้สูล่้ำาต้น

34. เฉลยขอ้ ข

Page 17: แบบทดสอบ · Web viewเฉลยแบบทดสอบเก บคะแนน บทท 14 การส บพ นธ ของพ ชดอก ... ตามความต

เหตผุล แรดิเคิลต่อไปกลายเป็นรากจะงอกออกมาก่อน เพื่อดดูน้ำ�า นอกจากนั�น

ขณะท่ีเมล็ดงอกยงัไมม่กีารสงัเคราะหด์้วยแสง เน่ืองจากยงัมอีาหารอยูใ่น

เอนโดสเปิรม์35. เฉลยขอ้ ข

เหตผุล เซลล์พชืไมโครทบููลสรา้งใยไมโทติก ( Mitotic spindle ) ดังนั�น เมื่อใส่

สารเคมที้ำาลายไมโครทบููล จะไมเ่กิดการดึงโครมาทิด แยกออกจากกัน

หรอืไมม่กีารแบง่นิวเคลียสนัน่เอง นิวเคลียสจงึไม่แยกไปคนละขา้งของ

เซลล์ จงึไมแ่บง่เซลล์ออกเป็นสองเซลล์

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------