คลื่นเสียง(sound waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (sound...

36
คลื่นเสียง(Sound Waves)

Upload: others

Post on 08-Aug-2020

6 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

คลื่นเสียง(Sound Waves)

Page 2: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

คลื่นเสียง

คลื่นเสียง (Sound Waves) เป็นคลื่นตามยาว เมื่อคลื่นเสียงเคลื่อนที่ไปในอากาศ

จะพบวา่การถ่ายทอดพลงังานเสียงของโมเลกุลของอากาศนั้น โมเลกุลเคลื่อนที่กลบัไปกลบัมา

(เกิดการสัน่)

เสียงเกิดจากการสัน่สะเทือนของวตัถุและเรียกวตัถุที่สัน่สะเทือนวา่แหล่งกาํเนิดเสียง

มนุษยจ์ะไดย้นิเสียงที่มาจากแหล่งกาํเนิดเสียงที่สัน่ดว้ยความถี่ประมาณ 20-20,000 เฮิรตซ ์

Page 3: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

V = 331+0.6t

เมื่อ V คือ อตัราเร็วเสียงในอากาศหน่วยเมตรต่อวนิาที

t คือ อุณหภูมิอากาศหน่วยองศาเซลเซียส

อตัราเร็วของเสียง

ตารางแสดงอตัราเร็วของเสียงที่อุณหภมูิตา่ง ๆ

อุณหภมูิของอากาศ

(องศาเซลเซียส)

อตัราเรว็เของเสียงสียง

(เมตรต่อวนิาที)

20

100

500

1,000

343

391

631

931

Page 4: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ตารางแสดง อตัราเร็วของเสียงในตวักลางชนิดตา่ง ๆ

ชนิดของตวักลาง อตัราเรว็ของเสียงที่ 20 0C (เมตรต่อวนิาที)

คารบ์อนไดออกไซด์

ออกซิเจน

อากาศ

ไนโตรเจน

เอธิลแอลกอฮอล์

นํ้า

ทองคาํ

เงิน

ทองแดง

เหล็ก

267

329

344

346

1207

1498

1743

2610

3560

5130

Page 5: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ธรรมชาตขิองเสียง

Page 6: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

1. ระดบัเสียง (Pitch)

เสียงที่มีความถี่ตํา่กวา่ 20 เฮิรตซ ์ เรียกวา่ อินฟราโซนิก(Infra Sonic)

มนุษยเ์ราไดย้นิเสียงในช่วงความถี่ 20-20,000 เฮิรตซ ์ เรียกวา่ โซนิก(Sonic)

คลื่นที่มีความถี่สูงกวา่ 20,000 เฮิรตซ ์ เรียกวา่ อลัตราโซนิก(Ultra Sonic)

Page 7: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

2. คณุภาพเสียง

เสียงจากเครื่องดนตรีต่างๆเล่นโนต้ตวัเดียวกนั แต่เราก็สามารถแยกออกไดว้า่เสียงไหน

เป็นเสียงของเครื่องดนตรีชนิดใด ทั้งนี้ เพราะคณุภาพของเสียง

โดยมากเครื่องดนตรีจะส่งเสียงที่มีหลายๆความถี่ออกมาพรอ้มๆกนั ซึ่งจาํนวนฮารโ์มนิค

หรือแอมพลิจดูของแต่ละฮารโ์มนิคไมเ่ท่ากนั ความถี่แต่ละฮารโ์มนิคที่ปล่อยออกมา

รวมทั้งความถี่มลูฐานจะผสมผสานกนัเป็นเสียงเฉพาะของเครื่องดนตรีชนิดนั้น

Page 8: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

3. ความดงัของเสียง

I แทนความเขม้เสียง มีหน่วยเป็นวตัตต์่อตารางเมตร (W/m2)

P แทนกาํลงัของแหล่งกาํเนิดเสียง มีหน่วยเป็นวตัต ์(W)

A แทนพื้นที่ที่เสียงตกกระทบ มีหน่วยเป็นตารางเมตร (m2)

ความเขม้เสียง (Intensity : I)

คืออตัราการถ่ายทอดพลงังานของเสียง ต่อพื้นที่ที่ตั้งฉากกบัทิศการเคลื่อนที่ของเสียง

ความเขม้ของเสียงจะลดลง

เมื่อคลื่นเสียงเคลื่อนที่หา่งออกไป

จากแหล่งกาํเนิดเสียง

Page 9: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ระดบัความเขม้เสียง (Intensity Level)

ระดบัความเขม้เสียง (Intensity Level) เป็นตวัเลขเปรียบเทียบกบัความเขม้เสียงในหน่วย

เดซิเบล (dB)

คือ ระดบัความเขม้เสียง หน่วยเป็นเดซิเบล (decibel , dB)

I0 คือ ความเขม้เสียงตํา่สุดที่มนุษยไ์ดย้นิมีค่า 10-12 วตัตต์่อตารางเมตร

หรือ 0 เดซิเบล

I คือ ความเขม้เสียงที่ระยะใด ๆ (W/m2)

โดยทัว่ไปการกาํหนดมาตรฐานในการบอกระดบัความเขม้ของเสียงจะใชห้น่วยเป็นเบล

โดยมีหลกัวา่ ความเขม้ของเสียงตํา่ที่สุดที่หคูนปกติเริ่มไดย้นิมีค่า 10-12 วตัตต์่อตารางเมตร

มีระดบัความเขม้เสียงเป็น 0 เบล เรียกวา่ ขีดเริ่มของการไดย้นิ

Page 10: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ระดบัความเขม้เสียงในหน่วยเดซิเบลที่มาจากแหลง่กาํเนิดเสียงตา่งๆ กนั

แหล่งกาํเนิดเสียง ระดบัเสียง(หน่วยเดซิเบล)

ขีดเริ่มตน้ของการไดย้นิ

ใบไมไ้หว

เสียงเงียบภายในหอ้ง

เสียงกระซิบ

เสียบเงียบในหอ้งสมุด

การพดูคุย

การจราจรในตวัเมือง

รถไฟใตด้ิน

เสียงหวดูของรถจกัรไอนํ้า

เสียงจรวดหรือยานอวกาศทะยานขึ้นฟ้า

0

10

20

30

40

60

70

90

100

180

Page 11: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

สมบตัขิองเสียง

เมื่อคลื่นเสียงเคลื่อนที่ไปกระทบสิ่งกีดขวาง หรือเคลื่อนที่จากตวักลางหนึ่ง ไปยงัอีก

ตวักลางหนึ่งทนัทีทนัใด คลื่นบางส่วนหรือทั้งหมดจะเดง้กลบัเรียกวา่การสะทอ้นเสียง

เสียงสะทอ้นจะดงัที่สุดเมื่อมุมที่รบัเสียงสะทอ้นเท่ากบัมุมตกกระทบ

ของเสียงวตัถุที่มีผิวเรียบจะสะทอ้นเสียงไดด้ีกวา่วตัถุที่มีผิวขรุขระ

การสะทอ้น (Reflection)

ตามปกติเมื่อคลื่นเสียงตกกระทบแกว้ห ู

การสัน่สะเทือนของแกว้หแูละความรูส้ึกที่

เราไดย้นิเสียงจะติดประสาทหอูยูน่าน

ประมาณ 1/10 วนิาที

ดงันั้นเมื่อเราตะโกนใกลห้น้าผา คลื่นเสียง

จากเราจะเคลื่อนที่ไปกระทบหน้าผาแลว้

สะทอ้นกลบั ถา้คลื่นเสียงเดินทางกลบัมาสู่

หเูราชา้กวา่ 1/10 วนิาที

หเูราจะแยกเสียงตะโกนและเสียงสะทอ้น

ออกจากกนัได ้เราเรียกวา่ เกิดเสียงกอ้ง

Page 12: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

สมบตัขิองเสียง

เมื่อเสียงเคลื่อนที่จากตวักลางหนึ่งไปยงัอีกตวักลางหนึ่ง ทาํใหอ้ตัราเร็วของเสียง

เปลี่ยนไป และทิศทางการเคลื่อนที่ของเสียงเปลี่ยนไปดว้ย

ถา้มุมหกัเหของเสียงโตกวา่ 90 องศา ทิศทางของคลื่นเสียงจะกลบัเขา้สู่ตวักลางเดิม

เกิดการสะทอ้นกลบัหมด

การเกิดฟ้าแลบโดยไม่ไดย้นิเสียงฟ้าร้อง

การหกัเห (Refraction)

สมบตัขิองเสียง

Page 13: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

การเลี้ยวเบน (Diffraction)

เป็นความสามารถของคลื่นเสียงที่จะเดินทางออ้มสิ่งกีดขวางหรือเลี้ยวเบนผ่านช่องวา่งมาได ้

คลื่นเสียงที่มีความถี่และความยาวคลื่นมาก สามารถเดินทางออ้มสิ่งกีดขวางไดเ้ป็นอยา่งดี

ถา้สิ่งกีดขวางมีขนาดใหญ่กวา่ความยาวคลื่นของคลื่นเสียงมาก ๆ คลื่นเสียงก็จะ ออ้มสิ่งกีดขวางไดย้าก

ขึ้น

สมบตัขิองเสียงสมบตัขิองเสียง

Page 14: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

เกิดจากแหล่งกาํเนิดเสียงตั้งแต่ 2 แหล่งขึ้นไปเมื่อมารวมกนัอาจทาํใหเ้กิดเสียงดงัขึ้นกวา่เดิมหรือ

ค่อยลงกวา่เดิมก็ได้

การเกิดบีตสข์องคลื่นเสียง 2 คลื่น

คลื่นเสียงที่มีความถี่ต่างกนัเล็กน้อย(ไมเ่กิน 7 เฮิรตซ)์ เมื่อเกิดการแทรกสอด

จะไดย้นิเสียงบีตส ์(Beats)

สมบตัขิองเสียง

การแทรกสอด (Interference)

สมบตัขิองเสียง

Page 15: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ปรากฏการณด์อปเปลอร ์(Doppler Effect)

ปรากฏการณข์องเสียงที่เกิดขึ้น เมื่อแหล่งกาํเนิดเสียงเคลื่อนที่เขา้หาและออกหา่งจากผู้

สงัเกต

ผูส้งัเกตจะไดย้นิเสียงที่ระดบัแตกต่างกนั เป็นปรากฏการณท์ี่มีความสมัพนัธก์บัอตัราเร็วของ

การเคลื่อนที่ของแหล่งกาํเนิดเสียง

กรณีผูส้งัเกตเคลื่อนที่ โดยแหล่งกาํเนิดหยุดนิ่ง

กรณี ผูส้งัเกตหยุดนิ่ง แหล่งกาํเนิดเสียงเคลื่อนที่

ถา้แหล่งกาํเนิดเสียงเคลื่อนที่เขา้หาผูฟ้ังดว้ยความเร็วคงที่ผูฟ้ังจะไดย้นิเสียงที่มีความถี่สูงกวา่

ความถี่ของแหล่งกาํเนิดเสียง

ปรากฏการณท์างเสียง

Page 16: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

เรโซแนนซ ์(Resonance) เป็นปรากฏการณท์ี่วตัถุใดๆ ถูกทาํใหส้ัน่ดว้ยความถี่ซึ่งตรงกบัความถี่

ธรรมชาติ (Natural frequency) ของวตัถุนั้น ทาํใหว้ตัถุเกิดการสัน่อยา่งรุนแรง

ปรากฏการณท์างเสียง

ขณะเกิดเรโซแนนซว์ตัถุมีการสัน่สะเทือนรุนแรง เนื่องจากสะสมพลงังานไวม้ากจงึทาํใหเ้กิดเสียงดงัมากขึ้น

มนุษยไ์ดน้ําหลกัการเกิดเรโซแนนซข์องเสียงไปใชใ้นการทาํใหเ้สียงของเครื่องดนตรีบางชนิด เช่น กีตาร ์

ไวโอลิน ซอ เป็นตน้

โดยใหเ้สน้เอ็นพาดไปบนกล่องไมห้รือกล่องโลหะที่ภายในกลวงเมื่อสีหรือดีดจะเกิดเสียงดงัมากขึ้น

ปรากฏการณท์างเสียง

Page 17: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

หูและการไดย้นิ

หูสว่นนอก ประกอบดว้ย

- ใบห ูทาํหน้าที่ในการรบัเสียง

- ช่องห ู(Auditory canal) ทาํหน้าที่ในการกาํทอนเสียง (resonance) แลว้ส่งไปยงัเยือ่แกว้ห ู

- เยือ่แกว้ห ู(tympanic membrane) ทาํหน้าที่เป็นเครื่องรบัความดนัเสียง

Page 18: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

หูและการไดย้นิ

หูสว่นกลาง ทาํหน้าที่ปรบัคลื่นเสียง

เพื่อใหเ้ขา้ไปกระตุน้หชูั้นใน

โดยการเปลี่ยนพลงังานเสียงจาก

อากาศ

ใหผ้่านช่องหชูั้นกลางเขา้

เป็นการสัน่สะเทือนของของเหลว

กระดกูสามชิ้น (Ossicles) ทาํหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียงที่มากระทบแกว้หใูหเ้ป็นคลื่นของเหลวขึ้นในหสู่วนใน

หลอดยูสเตเชียน (eustachian) ปกติช่องนี้จะปิด แต่ในขณะเคี้ยวหรือกลืนอาหารท่อนี้จะเปิด อากาศภายใน

ห ูส่วนกลาง จงึสามารถติดต่อกบัภายนอกได ้เป็นการปรบัความดนั 2 ดา้นของเยือ่แกว้หใูหเ้ท่ากนั

ทาํใหก้ารไดย้นิดีขึ้น

หูและการไดย้นิ

Page 19: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

หูและการไดย้นิ

หูสว่นใน

ประกอบดว้ย

หลอดครึง่วงกลม 3 หลอด

(semicircular canals)

ซึ่งทาํหน้าที่ควบคุมการสมดุลของร่างกาย

กระดกูรูปหอย (cochlea)

ภายในบรรจุของเหลวมีเยือ่บาซิลาร ์

(basilar)

มีปลายประสาทที่ไวต่อเสียง

เมื่อสญัญาณมาถึงสมอง สมองทาํหน้าที่แปลความเพื่อใหเ้กิดความหมาย การแปลความหมายของสมอง จะ

ทาํใหค้นเราไดร้บัทราบเรื่องต่าง ๆ ไดน้อกจากนี้สมองยงัควบคุมการตอบสนองสิ่งเรา้ซึ่งขึ้นอยูก่บัสภาพ

ต่างๆ ที่แต่ละบุคคลประสบมา เสียงนั้นอาจทาํใหเ้กิดปฏิกิริยาต่าง ๆ ได ้เช่น ทาํใหห้วัใจเตน้แรงทาํให้

รอ้งไห ้หรือหวัเราะ นอกจากนี้ยงัไปกระตุน้ส่วนต่าง ๆ ของสมองเช่น ส่วนความจาํภาพ ส่วนความจาํเสียง

ซึ่งไดส้ะสมไวต้ั้งแต่เกิด ถา้สมองส่วนความจาํเสียงถูกทาํลาย บุคคลนั้นจะไดย้นิแต่เสียงโดยไม่รูค้วามหมาย

หูและการไดย้นิ

Page 20: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ปลายประสาทในหสู่วนใน จะเปลี่ยนพลงังานเสียงไปเป็นพลงังานไฟฟ้า แลว้เคลื่อนที่ไป

ตามเสน้ประสาทรบัเสียงไปยงัศูนยร์บัเสียงในแกนสมองและผ่านศูนยร์บัทอดพลงังาน

ไฟฟ้าหลายจุดในสมองไปจนถึงกลีบสมองเพื่อประมวลขอ้มลูจากประสบการณท์ี่เคยไดย้นิ

มา เพื่อรูค้วามหมายของเสียง ดงันั้นเราจะไดย้นิรบัรูค้วามหมายและสามารถพดูตอบโต้

เขา้ใจไดต้อ้งมีอวยัวะรบัเสียงที่ดีตั้งแต่หสู่วนนอก หสู่วนกลางและหสู่วนใน และยงัตอ้งมี

ศูนยร์บัรูใ้นสมองดีดว้ย ดงันั้นคนหตูึง หรือหหูนวกถา้ไมเ่คยรูค้วามหมายของเสียงเลยจึง

พดูไมไ่ด ้เช่น คนเป็นใบห้รือคนปัญญาอ่อน เป็นตน้

หูและการไดย้นิ

Page 21: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

หูและการไดย้นิ

มลพิษทางเสียงที่มีต่อหคูือภาวะที่เสียงดงัเกินไปซึ่งคนเราไม่ตอ้งการที่จะไดย้นิ

สาเหตุและการเกิดมลพิษทางเสียง

1) แหล่งกาํเนิดของเสียงรบกวนประเภทอยูก่บัที่

ไดแ้ก ่ สถานประกอบการต่าง ๆ เช่น โรงภาพยนตร ์ โรงงานอุตสาหกรรม อู่ซ่อมรถยนต ์

2) แหล่งกาํเนิดเสียงรบกวนประเภทเคลื่อนที่

ไดแ้ก ่ เสียงที่เกิดจากยานพาหนะ ทั้งทางบก ทางนํ้า

หูและการไดย้นิ

ผลกระทบของมลพิษทางเสียง- ทาํใหเ้กิดการสูญเสียการไดย้นิ

- ผลกระทบของเสียงทางดา้นจติใจ

- ผลกระทบของเสียงต่อสุขภาพโดยทัว่ไป

- ผลกระทบของเสียงต่อการทาํงาน

- ผลกระทบของเสียงต่อการพดูคุยและการติดต่อสื่อสาร

Page 22: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

การสง่เสียงระยะไกลและการบนัทึกเสียง

การบนัทึกเสียงบนแผ่นเสียง

a) เครื่องเขียนเสียง b) เข็มครูดแผ่นดีบุก เกิดรอ่งเสียง

การเปลี่ยนรูปพลงังานเสียงไปเป็นพลงังานไฟฟ้า ทาํใหเ้ราสามารถส่งเสียงไปไดใ้นระยะไกล ๆ

Page 23: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

แถบบนัทึกเสียง (Cassette Tape)

ใหเ้สียงผ่านไมโครโฟน เปลี่ยนเป็นพลงังานไฟฟ้าผ่านเครื่องขยายสญัญาณไฟฟ้า เพื่อใหม้ีพลงังานสูงขึ้ น

แลว้ผ่านไปยงัหวับนัทึกเสียงภายในประกอบดว้ยขดลวดพนัรอบวงแหวนเหล็ก

เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวด จะทาํใหว้งแหวนเหล็กมีอาํนาจเป็น

แมเ่หล็กและเกิดสนามแมเ่หล็กขึ้นในช่องแคบ ๆ ระหวา่งขั้วของวงแหวน

ความเขม้ของสนามแมเ่หล็กจะเปลี่ยนแปลงตามสญัญาณไฟฟ้าของเสียง

เมื่อแถบบนัทึกเสียงเคลื่อนที่ผ่านสนามแมเ่หล็ก

จะทาํใหส้ารแมเ่หล็กบนแถบเกิดการเหนี่ยวนําเป็นแมเ่หล็ก

การบันทกึเสียงและผลติเสียงจากเทป

Page 24: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

คอมแพคดิสก ์(Compact Disc)

คอมแพคดิสกท์าํดว้ยอะลูมิเนียมเคลือบผิวดว้ยพลาสติกใส

ผิวหน้าของแผ่นจะมีลกัษณะเป็นหลุมเล็ก ๆ ไมส่มํา่เสมอ จาํนวนมากมาย ซึ่งเกิดจากการ

บนัทึกเสียงดว้ยระบบดิจิตอล

ซึ่งใชย้งิเลเซอรใ์หไ้ปกระทบผิวหน้าของแผ่น

ตามลกัษณะของขอ้มลูที่บนัทึก

เมื่อกระทบกบัขอ้มลูที่บนัทึกลาํแสงจะเกิดการสะทอ้น

และเมื่อแสงสะทอ้นผ่านหลอดไฟโตดีเทคเตอร์

จะถูกแปลงเป็นสญัญาณไฟฟ้า

ซึ่งจะแปลงต่อไปเป็นสญัญาณเสียง

Page 25: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

เทคโนโลยเีกี่ยวกบัเสียง

อลัตราโซนิกส ์ คือเสียงที่มีความถี่สูงมากกวา่ 20,000 เฮิรตซ ์

อลัตราโซนิกส ์ดา้นการเดินเรอื โซนาร ์(Sound Navigation Ranging, SONAR) เป็นเครื่องมือที่ใชว้ดัความลึกของใตท้อ้งทะเลลึกหรือวตัถุที่อยูใ่นนํ้า

โดยการส่งคลื่นเสียงเดินผ่านนํ้าทะเลไป ลงกระทบผิวใตท้ะเล มหาสมุทร หรือวตัถุใตน้ํ้าคลื่นเสียงจะ

สะทอ้นเครื่องรบัและเครื่องรบัสามารถคาํนวณระยะทางได้

Page 26: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

อลัตราโซนิกสด์า้นการแพทย ์

ใชใ้นการฆ่าเชื้อโรคในภาชนะหรือในอาหารต่าง ๆ เช่น นมสด เพื่อใหป้ลอดจากเชื้อต่าง ๆ

โดยที่รกัษาสารอาหารต่าง ๆ ไวไ้ด้ใชใ้นการตรวจเนื้อเยือ่ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยอาศยัการสะทอ้นกลบัของอลัตราโซนิกสแ์ลว้ขยาย

สญัญาณใหป้รากฎภาพบนจอ (ตรวจดูเด็กทารกในครรภม์ารดา เพราะไมม่ีอนัตรายเหมือนการใช้

เอกซเรย์ )

เครื่องยงิอลัตราโซนิกสท์าํลายกอ้นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือในไต แทนการผ่าตดั

การตรวจครรภด์ว้ยอลัตราโซนิกส์

เทคโนโลยเีกี่ยวกบัเสียง

Page 27: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

อลัตราโซนิกส์

Page 28: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

อลัตราโซนิกสก์บัสิ่งที่มีชีวิต

คา้งคาว ใชอ้ลัตราโซนิกสใ์นการนําทาง(Echo Location) ไดอ้ยา่งมีประสิทธิภาพมากกวา่การใชแ้สง เพราะคา้งคาวสามารถบินในหอ้ง

ที่มีสิ่งกีดขวางมากมายในเวลากลางคืนไดอ้ยา่งคล่องแคล่ว รวดเร็ว โดยไมช่นอะไรเลยแมแ้ต่เสน้ลวดเล็ก ๆ ที่ขึงไวท้ัว่หอ้ง

แต่ในเวลากลางวนัถา้ปิดอวยัวะทาํเสียงหรือปิดหไูว ้คา้งคาวไมส่ามารถบินไดด้ี แมแ้ต่ในหอ้งที่มีสิ่งกีดขวงเพียงเล็กนอ้ย และ

บินชนแมก้ระทัง่ผนังหอ้ง คา้งคาวส่งเสียงอลัตราโซนิกส์ ที่มีความถี่สูงระหวา่ง 10,000 - 20,000 เฮิรตซ์

อลัตราโซนิกส์

Page 29: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

อลัตราโซนิกส์

Page 30: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

เป็นหอ้งที่มีผนังภายในบุดว้ยวสัดุดูดกลืนเสียงสามารถดูดกลืนเสียงที่มาตกกระทบได้

หมด หรือเกือบหมด ทาํใหป้ราศจากเสียงรบกวนจากภายนอก และเสียงสะทอ้นจาก

ภายในหอ้ง ซึ่งเรียงสภาพนี้วา่สนามไรเ้สียงเสรี

ประโยชน์ของหอ้งไรเ้สียงสะทอ้นใชเ้ป็นหอ้งวดัความถี่ขีดเริ่มในการไดย้นิของห ู

หอ้งไรเ้สียงสะทอ้น

Page 31: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

มีผูป้ระดิษฐเ์ครื่องมือเรียกวา่ "เอ็กโคคารด์ิโอสโคป"(Echo-cardioscope)

เพื่อใชต้รวจดูอวยัวะภายในไดส้าํเร็จ เครื่องมือนี้จะส่งเสียงที่มีความถี่สูงเขา้สู่ร่างกาย เสียงที่

สะทอ้นจากอวยัวะภายใน จะถูกนํามาสงัเคราะหเ์กิดเป็นภาพอวยัวะภายในที่มองเห็นไดบ้นจอ

การใชเ้สียงแทนรงัสีเอกซ์

Page 32: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ชุดอุปกรณป์ระกอบดว้ยส่วนที่ทาํหน้าที่รบัสญัญาณเสียงแลว้เปลี่ยนเป็นสญัญาณ

วทิยุ สญัญาณวทิยุดงักล่าวจะถูกส่งไปยงัตวัรบัและตวักระตุน้ที่ฝังอยูใ่นกระดูก

ดา้นหลงัใบห ูซึ่งทาํหน้าที่เปลี่ยนสญัญาณวทิยุใหเ้ป็นสญัญาณไฟฟ้า จากนั้น

สญัญาณไฟฟ้าจะถูกถ่ายทอดไปตามสายไฟเล็ก ๆ ทาํใหค้นหหูนวกสามารถได้

ยนิเสียงต่าง ๆ ไดเ้หมือนคนปกติ

หูคอมพิวเตอร ์

Page 33: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ระบบการตรวจสอบเสียงใชใ้นการเปิดประต ู

เครื่องคอมพิวเตอรจ์ะบนัทึกเสียงของบุคคลหนึ่ง ๆ ไว ้ โดยการบนัทึกคาํพดูที่

เหมาะสมที่สุด 4 ประโยค เมื่อบุคคลนั้นตอ้งการจะผ่านเขา้ไปในที่ลบัเฉพาะ จะตอ้งมีการ

บนัทึกเลขประจาํตวัลงบนบตัรแลว้พดูตามประโยคที่เคยบนัทึกเก็บไวใ้นเครื่อง

คอมพิวเตอร ์ เครื่องคอมพิวเตอรจ์ะใหพ้ดูซํ้าประโยคใดประโยคหนึ่งใน 4 ประโยคนั้น

ถา้เสียงที่พดูออกไปเหมือนกบัเสียงที่บนัทึกเอาไวป้ระตูก็จะเปิดออก

Page 34: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์

เทคโนโลยทีี่ใชใ้นวงการภาพยนตร ์ มีอยู ่2 ระบบ คือ

ระบบเสียงแบบโมโนโฟนิก(Monophonic sound system )

คือระบบเสียงที่มีช่องทางเสียง (Channel) เพียงช่องเดียวเท่านั้น สาํหรบัการฟัง

ระบบเสียงโมโนโฟนิกจะใชล้าํโพงเพียงตวัเดียว หรือจะมากกวา่ 1 ตวั แต่ทุกตวั

จะใหเ้สียงเดียวกนัทั้งหมด

ระบบเสียงแบบสเตอรโิอโฟนิก( Stereophonic sound system )

เป็นระบบเสียงที่ประกอบดว้ยช่องทางเสียง 2 ช่อง สาํหรบัการฟังจะตอ้งใชล้าํโพง

2 ตวั แต่ละตวัจะใหเ้สียงในแต่ละช่องทาง สาํหรบัระบบ Stereo ในโรงหนัง จะ

ประกอบดว้ยช่องทางเสียง 3 – 4 ช่อง โดยมี 2 ช่อง เป็นสญัญาณเสียงซา้ย -

ขวา และมีสญัญาณเสียง Effect อยูด่า้นหลงั (Surround) และมีสญัญาณเสียงบท

พดู (Dialogue) อยูด่า้นหนา้ เพื่อดึงดูดความสนใจใหอ้ยูบ่ริเวณจอภาพ

Page 35: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

SRD : Special Recording Digital

เป็นระบบเสียงดิจิตอล

DTS : Digital Theatre System

เป็นระบบเสียงดิจิตอลที่บนัทึกขอ้มลูลงในแผ่นซีดีรอม

และใชเ้ปิดไปพรอ้มกบัการฉายภาพยนตร ์

SDDS : Sony Dynamic Digital Sound

เป็นระบบเสียงดิจิตอล คิดคน้และพฒันาโดยบริษัทโซนี่

THX : Tomilinson Holmoan Experiment

ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์

ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์

Page 36: คลื่นเสียง(Sound Waves)คล นเส ยง คล นเส ยง (Sound Waves) เป นคล นตามยาว เม อคล นเส ยงเคล

1. เสียงเกิดขึ้นไดอ้ยา่งไร

2. เสียงกอ้งคืออะไร

3. คุณภาพเสียงหมายถึงอะไร

4. ระดบัความเขม้เสียงวดัไดอ้ยา่งไร

5. SONAR คืออะไร มีประโยชน์ทาํสิ่งใดบา้ง

6. นักศึกษาคิดวา่คลื่นเสียงที่มีความถี่สูง ๆ ทาํใหแ้กว้แตกไดห้รือไม ่จงอธิบาย

7. คลื่นเสียงอินฟราโซนิกส ์(infrasonic) หมายถึงอะไร เกิดมาไดอ้ยา่งไร

8. จงอธิบายหลกัการบนัทึกเสียง และหลกัการทาํงานของแผ่นซีดี

9. เครื่องเสียงระบบโมโนกบัระบบสเตอริโอแตกต่างกนัอยา่งไร

10. จงอธิบายประโยชน์ของอลัตราโซนิกส ์ในดา้นต่อไปนี้

10.1 ดา้นการประมง

10.2 ดา้นการแพทย์

10.3 ดา้นสุขภาพและความงาม

คาํถาม