agricultural micoorganism

6
โลกของจุลินทรียเกษตร อะไรคือน้ําหมักชีวภาพ โดยรองศาสตราจารย ดร.เกษม สรอยทอง นายกสมาคมเทคโนโลยีการเกษตรแหงเอเชียตะวันออกเฉียงใต e-mail : [email protected] ,www.ijat-aatsea.com ในชวงปลายปที่ผานมา ประเทศไทยประสบกับปญหาน้ําทวมอยางหนักอยางไมเคยมีมากอน รวมถึงกรุงเทพและจังหวัดในปริมณฑล ไมวาจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็แลวแต แตก็คงหลีกไมพนถึงการ เตือนภัยจากสิ่งแวดลอมโลก อุบัติภัยที่เกิดขึ้นในธรรมชาติในประเทศตางๆทั่วโลก ปริมาณน้ําในโลกที่มี แนวโนมมากขึ้นตลอดเวลา จากการที่อุณหภูมิโลกรอนขึ้นปละ 1-2 องศาเซลเซียส ระบบนิเวศนและ สิ่งแวดลอมเปลี่ยนแปลงไปในทางลบอยางนาเปนหวง ตราบใดที่มนุษยยังไมหยุดหรือไมชลอการทําลาย ธรรมชาติและสิ่งแวดลอม และไมหาทางชดใช ทดแทน นฟูธรรมชาติใหคอยๆคืนกลับสูสภาพเดิม การเกษตรคือสวนหนึ่งที่มนุษย ที่ตองทําเพื่อผลิตเปนอาหาร ซึ่งทุกคนก็รูวาจากอดีตถึงปจจุบัน การเกษตร มาการพัฒนามาอยางไร ตั้งแตยุคโบราณ จนถึงยุคปจจุบัน ปจจัยการผลิตทางการเกษตร ไดแกปุยเคมีและ สารเคมีสังเคราะหซึ่งเปนสารพิษใชกําจัดวัชพืช กําจัดแมลง และกําจัดโรคพืช สารพิษดังกลาวสงผลให มนุษยเจ็บปวย เปนโรคราย หลังจากสะสมในรางกาย รวมถึงสารพิษเหลานี้ทําลายระบบนิเวศนในดิน นา อากาศ และตกคางในผลผลิตการเกษตร ยุคเกษตรชีวภาพในประเทศไทย นับวาเริ่มกันมาไมต่ํากวาสิบป ผูเขียนอยากจะเปรียบเสมือนหนึ่ง เปนยุคที่จะมีการปฏิวัติทางการเกษตรครั้งใหญอีกครั้งหนึ่ง นั่นหมายถึงการทําการเกษตรปลอดสารพิษและ การทําฟารมอินทรีย ซึ่งในประเทศตางๆไดเริ่มทํากันมาอยางจริงจังแลว เกษตรชีวภาพจึงหมายถึงการทํา การเกษตรโดยใชสิ่งมีชิวิตตางๆไดแกจุลินทรียที่มีประโยชนมาชวยในการยอยสลายเศษซากพืช สัตว แรธาตุ และอินทรียวัตถุใหเปนธาตุอาหารพืชไดเร็วขึ้น นําจุลินทรียมาใชในการปองกันกําจัดศัตรูพืช จุลินทรีย สงเสริมการเจริญเติบโตของพืชเปนตน ดังนั้นเกษตรกรควรมีความรูพื้นฐานและความเขาใจในเรื่อง จุลินทรียในการทําการเกษตรในยุคตอไป เกษตรกรสวนใหญยังไมเขาใจวาจุลินทรียคืออะไร ก็อยากจะใหรูวา จุลินทรียคือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก มองดวยตาเปลาไมเห็น จะเห็นไดในกลองจุลทรรศนที่มีกําลังขยายสูง เชนเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส ไวรอยด ไสเดือนฝอย มายโคพลาสมา อะมิบาและอื่นๆเปนตน จุลินทรียดังกลาวเปนสิ่งมีชีวิต อาศัยรวมอยูในโลก มาแตดึกดําบรรพ มีอยูทั่วไปในดิน น้ําจืด น้ําเค็ม น้ํากรอย น้ําใตดิน และอากาศ ชวยปรับความสมดุลทาง ธรรมชาติ มิใชพระเจาประทานลงมาให อาจแบงออกเปนสองกลุมดวยกันคือ ก.จุลินทรียกลุมที่เปนโทษ หมายถึงจุลินทรียพวกที่ทําใหเกิดโรคมนุษย ไดแกโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อน มาเลเรีย อุจจาระรวง หนองใน ซิฟลิส เอดส แอนแทรก ซาส และไขหวัดนกเปนตน โรคสัตวไดแก

Upload: kasem-soytong

Post on 23-Mar-2016

212 views

Category:

Documents


0 download

DESCRIPTION

in January 2012

TRANSCRIPT

โลกของจุลินทรียเกษตร อะไรคือนํ้าหมักชีวภาพ โดยรองศาสตราจารย ดร.เกษม สรอยทอง นายกสมาคมเทคโนโลยีการเกษตรแหงเอเชียตะวันออกเฉียงใต e-mail : [email protected] ,www.ijat-aatsea.com

ในชวงปลายปท่ีผานมา ประเทศไทยประสบกับปญหาน้ําทวมอยางหนักอยางไมเคยมีมากอน รวมถึงกรุงเทพและจังหวัดในปริมณฑล ไมวาจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็แลวแต แตก็คงหลีกไมพนถึงการเตือนภัยจากส่ิงแวดลอมโลก อุบัติภัยท่ีเกิดขึ้นในธรรมชาติในประเทศตางๆท่ัวโลก ปริมาณน้ําในโลกท่ีมีแนวโนมมากขึ้นตลอดเวลา จากการท่ีอุณหภูมิโลกรอนขึ้นปละ 1-2 องศาเซลเซียส ระบบนิเวศนและส่ิงแวดลอมเปล่ียนแปลงไปในทางลบอยางนาเปนหวง ตราบใดท่ีมนุษยยังไมหยุดหรือไมชลอการทําลายธรรมชาติและส่ิงแวดลอม และไมหาทางชดใช ทดแทน ฟนฟูธรรมชาติใหคอยๆคืนกลับสูสภาพเดิม การเกษตรคือสวนหนึ่งท่ีมนุษย ท่ีตองทําเพ่ือผลิตเปนอาหาร ซ่ึงทุกคนก็รูวาจากอดีตถึงปจจุบัน การเกษตรมาการพัฒนามาอยางไร ตั้งแตยุคโบราณ จนถึงยุคปจจุบัน ปจจัยการผลิตทางการเกษตร ไดแกปุยเคมีและสารเคมีสังเคราะหซ่ึงเปนสารพิษใชกําจัดวัชพืช กําจัดแมลง และกําจัดโรคพืช สารพิษดังกลาวสงผลใหมนุษยเจ็บปวย เปนโรคราย หลังจากสะสมในรางกาย รวมถึงสารพิษเหลานี้ทําลายระบบนิเวศนในดิน นา อากาศ และตกคางในผลผลิตการเกษตร

ยุคเกษตรชีวภาพในประเทศไทย นับวาเริ่มกันมาไมต่ํากวาสิบป ผูเขียนอยากจะเปรียบเสมือนหนึ่งเปนยุคท่ีจะมีการปฏิวัติทางการเกษตรครั้งใหญอีกครั้งหนึ่ง นัน่หมายถึงการทําการเกษตรปลอดสารพิษและการทําฟารมอินทรีย ซ่ึงในประเทศตางๆไดเริ่มทํากันมาอยางจริงจังแลว เกษตรชีวภาพจึงหมายถึงการทําการเกษตรโดยใชส่ิงมีชิวิตตางๆไดแกจุลินทรียท่ีมีประโยชนมาชวยในการยอยสลายเศษซากพืช สัตว แรธาตุและอินทรียวัตถุใหเปนธาตอุาหารพืชไดเร็วขึ้น นําจุลินทรียมาใชในการปองกันกําจัดศัตรูพืช จุลินทรียสงเสริมการเจริญเติบโตของพืชเปนตน ดังนั้นเกษตรกรควรมีความรูพ้ืนฐานและความเขาใจในเรื่องจุลินทรียในการทําการเกษตรในยุคตอไป

เกษตรกรสวนใหญยังไมเขาใจวาจุลินทรียคืออะไร ก็อยากจะใหรูวา จุลินทรียคือส่ิงมีชีวิตขนาดเล็ก มองดวยตาเปลาไมเห็น จะเห็นไดในกลองจุลทรรศนท่ีมีกําลังขยายสูง เชนเช้ือรา แบคทีเรีย ไวรัส ไวรอยด ไสเดือนฝอย มายโคพลาสมา อะมิบาและอ่ืนๆเปนตน จุลินทรียดังกลาวเปนส่ิงมีชีวิต อาศัยรวมอยูในโลกมาแตดึกดําบรรพ มีอยูท่ัวไปในดิน น้ําจืด น้ําเค็ม น้ํากรอย น้ําใตดิน และอากาศ ชวยปรับความสมดุลทางธรรมชาติ มิใชพระเจาประทานลงมาให อาจแบงออกเปนสองกลุมดวยกันคือ

ก.จุลินทรียกลุมท่ีเปนโทษ หมายถึงจุลินทรียพวกท่ีทําใหเกิดโรคมนุษย ไดแกโรคผิวหนัง กลาก เกล้ือน มาเลเรีย อุจจาระรวง หนองใน ซิฟลิส เอดส แอนแทรก ซาส และไขหวัดนกเปนตน โรคสัตวไดแก

โรคปากเปอยเทาเปอย โรคหวัด อุจจาระรวง โรคแอนแทรก และไขหวัดนกเปนตน ซ่ึงบางโรคสามารถติดตอกันไดระหวางมนุษยและสุตว และพืชไดแกรากเนาโคนเนา โรคเห่ียว ดอกเนา ผลเนา เปลือกแตกยางไหล ใบไหม ใบจุดเปนตน

ข.จุลินทรียกลุมท่ีเปนประโยชน หมายถึงจุลินทรียท่ีมนุษยคัดเลือกสายพันธุ นํามาใชประโยชนในหลายๆลักษณะคือ 1. จุลินทรียท่ีนํามาใชประโยชนในอุตสาหกรรม เชนยีสต (Yeast, Saccharomyces cerevisiae) ใชในการผลิตแอลกอฮอล เหลา เบียร ไวน เช้ือราเพนนิซิเล่ียม(Penicillium spp) ใชในการผลิตเนยแข็ง เช้ือแบคทีเรีย(Lactobacillus spp)ท่ีผลิตนมเปรี้ยว เช้ือรา(Aspergillus oryzae) ท่ีใชในการหมักซีอ้ิว เตาเจี้ยว จุลินทรียท่ีผลิตน้ํายอย กรดอินทรีย โปรตีนและอ่ืนๆเปนตน 2. จุลินทรียท่ีนํามาใชประโยชนในทางการแพทย เชนยาเพนนิซิลิน (Penicillin) ผลิต มาจากเช้ือราเพนนิซิเล่ียม(Penicillium spp.) ยาสเตปโตมัยซิน(Streptomycin) ผลิตมาจากเช้ือสเตปโตมัยซิส (Streptomyces spp) เปนตน ใชรักษาอาการอักเสบของมนุษยและสัตวเปนตน 3. จุลินทรียท่ีนํามาใชประโยชนในการเกษตร มีหลายลักษณะ 3.1 จุลินทรียสงเสริมการเจริญเติบโตของพืช เชนเช้ือแบคทีเรียไรโซเบ่ียม(Rhizobium spp.) สงเสริมการเจริญของพืชตระกูลถ่ัว เช้ือมายโคไรซา(Mycorrhizal fungi) เช้ือไตรโคเดอรมา (Trichoderma spp) และเช้ือคโีตเม่ียม (Chaetomium spp) เปนตน 3.2 จุลินทรียปองกันกําจัดโรคพืช เชนเช้ือคีโตเม่ียม (Chaetomium spp.) เช้ือไตรโค เดอรมา (Trichoderma spp.) เช้ือเพนนิซิเล่ียม (Penicillium spp.) เช้ือกลิโอเคเดี่ยม (Gliocladium spp.) เช้ือเวอรติซิเล่ียม (Verticillium spp.) เช้ือบาซิลลัส (Bacillus spp.)เปนตน 3.3 จุลินทรียปองกันกําจัดแมลง เชน เช้ือบีที (บาซิลลัส ทูริงเจนิซิส, Bacillus thrurigiensis) เช้ือสเตรปโตมัยซิส (Streptomyces spp.) เช้ือราเมตาริเซ่ียมกําจัดดวง (Metarhizium spp.) เช้ือราบิววีเรีย (Beauveria spp)เปนตน 3.4 จุลินทรียปองกันกําจัดไสเดือนฝอยศัตรูพืช เชนเช้ือพิซิโลมัยซิส (Paecilomyces spp.) เช้ืออาโทบอทติส (Arthrobotrys spp.) เช้ือแดคติเรลา (Dactyrella spp.) เปนตน 3.5 จุลินทรียกําจัดวัชพืช เชนเช้ือคอเลคโตติคัม (Colletotrichum sp.) เช้ือมายโรดิเซ่ี ยม(Myrothecium spp.)เปนตน 3.6 จุลินทรียท่ียอยสลายเศษซากพืชสัตวท่ีตายแลวเชนเช้ือคีโตเม่ียม เช้ือไตรโคเดอร มา เช้ือมิวเคอร (Mucor spp) และอ่ืนๆเปนตน ซ่ึงคัดเลือกสายพันธุมาแลวพัฒนาเปนหัวเช้ือเรงปุยหมัก 3.7 จุลินทรียท่ีชวยในการยอยภายในกระเพาะสัตวเคี้ยวเอ้ือง หรือจุลินทรียผสมใน

อาหารสัตว สามารถคัดเลือกสายพันธุเพ่ือพัฒนาเปนอาหารสัตวได ปจจุบันในวงการเกษตร มีการกลาวถึงการนําจุลินทรียมาใชประโยชนกันอยาง กวางขวาง

เกษตรกรจึงควรมีความรูพ้ืนฐานท่ีสําคัญดานจุลินทรียดวย เพ่ือพิจารณาเลือกใชจุลินทรียใหถูกตองตามวัตถุประสงค จะเห็นไดวาจุลินทรียมีท้ังท่ีเปนประโยชนและเปนโทษ ซ่ึงปกติจะพบท่ัวไปในธรรมชาติ ในน้ํา ในดิน ในอากาศ ทุกหนทุกแหงในโลก ปจจุบันคาดวาในโลกจะมีเช้ือราท้ังหมดประมาณ 1.5 ลานชนิด ยังมีเช้ือราหรือจุลินทรียชนิดอ่ืนๆท่ีมนุษยยังไมพบอีกเปนจํานวนมาก เนื่องจากมีนักวิจัยจุลินทรียจาํนวนนอย เรากําลังขาดแคลนนักวิจัยจุลินทรีย

อยางไรก็ตามการวิจัยทางดานจุลินทรียท่ีจะนํามาใชประโยชนในการเกษตรมีขอควรพิจารณาดังนี ้ 1. วัตถุประสงคหรอืคุณสมบัติของจุลินทรีย(ยาเช้ือ)ท่ีใช เชนปองกันโรค ปองกันแมลง ใชยอยสลายเศษซากพืช ใชสงเสริมการเจริญของพืช 2. จะตองระบุประเภทของจุลินทรียวาเปนประเภทใดเชนเช้ือรา เช้ือแบคทีเรีย เช้ือไวรัส 3.ตองระบุช่ือวิทยาศาสตรของจุลินทรียและช่ือสายพันธุท่ีเฉพาะเจาะจง ปกติช่ือวิทยาศา สตร ประกอบดวย ช่ือ (genus) นามสกุล(specie) และสายพันธุ(strain) เชน คีโตเม่ียม คิวเปรม สายพันธุ ซีซี01-10 และไตรโคเดอรมา ฮาเซียนั่ม สายพันธุ พีซี01 เปนตนเพ่ือจะรูถึงแหลงท่ีมาของจุลินทรีย แหลงท่ีวิจัยเพ่ือตรวจสอบและเรียกขอมูลวิจัยมาดูได เพราะจุลินทรียท่ีมีประสิทธิภาพแตละชนิดจําเปนจะตองมีการวิจัยเชิงวิทยาศาสตรในการคัดเลือกสายพันธุท่ีเฉพาะเจะจงมาใชประโยชนในดานใดบาง หากเกษตรกรพบวามีการระบุวาเปนจุลินทรียอยางเดียว โดยไมระบุหรือไมสามารถบอกไดวาเปนจุลินทรยีประเภทใด ช่ืออะไร มาจากแหลงไหน แลวก็ไมอาจจะใหความเช่ือถือได เพราะจุลินทรียมีท่ัวไปในส่ิงแวดลอมในธรรมชาติและบางชนิดก็เปนอันตราย ทําใหเกิดโรคกับมนุษย สัตว พืชและส่ิงมีชีวิตอ่ืนๆ 4. ตองมีขอมูลหรืองานวิจัยหรือหลักฐานแสดงการทดสอบความเปนพิษดวย 5. กระบวนการผลิตหรือการขยายพันธุหรือการเพ่ิมจํานวนเพ่ือนําไปใช (การตอเชื้อ) ปกติในธรรมชาติ ในน้ํา ในอากาศ ในวัสดุการเกษตรตางมีจุลินทรียธรรมชาติอยูทั่วไปในปริมาณมากทั้งที่มีประโยชนและมีโทษ ซ่ึงไมสามารถรูจากการมองตาเปลาไดวามีจุลินทรียอะไรบาง หรือไมสามารถรูไดจากการดมกลิ่นหรือสัมผัสหรือดูสี การตรวจสอบที่ถูกตองก็คือการดูภายใตกลองจุลทรรศนเทานั้น โดยสงตัวอยางใหผูเชียวชาญทางดานจุลินทรียตรวจสอบและรับรอง ฉะนั้นขั้นตอนการผลิตหรือการเพ่ิมปริมาณเชื้อจุลินทรีย (การตอเชื้อ) จําเปนจะตองทําในสภาพปราศจากเชื้อปนเปอน จําเปนจะตองมีเชื้อบริสุทธิ์ หมายถึงเชื้อตัวที่เราตองการตัวเดียวเทานั้นอยูในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ปราศจากจุลินทรียอื่นๆ วัสดุทีจ่ะใชเลี้ยงขยายเชื้อจุลินทรียจะตองผานการฆาเชื้อ โดยทั่วไปถาใชหมอนึ่งความดันไอ จะตองฆาเชื้อปนเปอนที่อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส ความดัน 15 ปอนดตอตารางนิ้ว เปนเวลา 20-30 นาที ดังนั้นหากมีการตอเชื้อโดยไมมีการฆาเชื้อปนเปอนอื่นๆในวัสดุหรือน้ําในธรรมชาติแลว จะไมรูวาจุลินทรียที่เลี้ยงเปนตัวจริงหรือ

ตัวปลอมและไมสามารถควบคุมคุณภาพไดใหสมํ่าเสมอไดเนื่องจากการปนเปอนของจุลินทรียที่มีอยูทั่วไปในธรรมชาติ 6. จุลินทรียที่นํามาผสมรวมกับปุยหมัก(ปุยอินทรีย) ทั้งชนิดผง อัดเม็ด และชนิดน้ํา ที ่กําลังนิยมเรียกกันวา ปุยอินทรียชีวภาพ (Bio-0rganic fertilizer) ในอดีตที่ผานมาเกษตรกรรูจักคําวาปุยหมัก ความจริงก็คือปุยอินทรีย นั่นเอง ซ่ึงรวมถึงมูลสัตวตางๆเชนสุกร วัว ควาย เปด ไก นกกะทา คางคาวเปนตน แตตองผานขั้นตอนการหมักใหสลายตัวตัวกอนนําไปใช ปุยอินทรียหรือปุยหมักในอดีต จึงมีจุลินทรียในธรรมชาติที่เจริญอยูแลวมากมาย หากแตยังไมไดผานการวิจัยวาเปนเชื้ออะไร มีประโยชน โทษอยางไร บางคร้ังจึงมีเชื้อสาเหตุโรคติดไปกับปุยอินทรียหรือปุยหมักดวย เกษตรกรเอาไปใชก็ประสบปญหาเร่ืองการเกิดโรค ฉะนั้นหากยังมีการหมักปุยอินทรียแบบธรรมชาติโดยอาศัยจุลินทรียในธรรมชาติ ก็มิควรจะนํามาเรียกวาปุยอินทรียชีวภาพหรือปุยชีวภาพแตอยางใด เพราะมันก็ไมตางอะไรกับการทําปุยหมักของเกษตรในอดีต

ปุยอินทรียชีวภาพ หมายถึงปุยหมักหรือปุยอินทรียท่ีผานกระบวนการหมักโดยสมบูรณ โดยมีการใสเช้ือจุลินทรียท่ีผานการคัดเลือกสายพันธุมาแลวท่ีแนนอน วามีคุณสมบัติอะไร มีช่ือวิทยาศาสตรแนนอน สามารถระบุไดวาใสจุลินทรียดังกลาวลงไปเพ่ือวัตถุประสงคใดและสามารถตรวจสอบเชิงวิทยาศาสตรได ฉะนั้นปุยอินทรียชีวภาพท้ังชนิดผง เม็ดและน้ํา จึงควรเปนปุยอินทรียท่ีตองระบุช่ือของจุลินทรียท่ีใสลงไปใหแนนอน ระบุวาเพ่ือวัตถุประสงคอะไร ซ่ึงอาจจะสามารถเจริญรวมกับจุลินทรียท่ีมีอยูในธรรมชาตินั้นๆได ปุยอินทรียชีวภาพจึงเปนปุยอินทรียท่ีมีส่ิงมีชีวิตท่ีสามารถระบุช่ือวิทยาศาสตรอยางชัดเจน หากไมทราบแนชัดจากกระบวนการผลิตท่ีไมถูกตอง จึงไมควรเรียกวาปุยชีวภาพ จะทําใหเกิดความสับสนกันมากขึ้น ดังนั้นหากพบวาชีวผลิตภัณฑใดๆ ระบุแค เปนจุลินทรีย แตไมมีรายละเอียด ก็ขอใหพิจารณาดวย เชนจุลินทรียควบคุมโรค ปุยจุลินทรีย และอ่ืนๆเปนตน หวังวาเกษตรกรจะทําความเขาใจใหกระจางชัดในเรื่องดังกลาว ยุคจุลินทรียเพ่ือการเกษตรมาถึงแลว หากทานทําความเขาใจใหถองแท จะประสบผลสําเร็จในการนําไปใชอยางแนนอน แตท้ังนี้อยาลืมวาจุลินทรียเปนส่ิงมีชีวิต หากจะประสบความสําเร็จในการนําไปใชจะตองทําความรูจักกับจุลินทรียดวยวามันเจริญเติบโตไดดีในสภาพแวดลอมอยางไร มันตองการอาหารใดในการเจริญเติบโต มันมีศัตรูธรรมชาติของมันหรือไม มันมีชีวิตยาวนานเทาใดในวงจรชีวิตของมันเปนตน เม่ือความจริงทางวิทยาศาสตรเปนอยางนี้ ตอนนี้ทานก็นาจะพอรูแลววา อะไรคือน้ําหมักชีวภาพ ผูเขียนเตือนใหทานพิจารณาอยางถองแท อยาเขาใจผิดในเรื่องการตอเช้ือลงไปในเศษซากพืชสัตวท่ีหมักแบบมีจุลินทรียสารพัดชนิดในธรรมชาติ รวมถึงอาจมีเช้ือโรคปะปนอยู แลวตักเก็บไวตอเช้ือ เช้ืออะไรก็ไมรู มันนาจะอันตรายมากกวาเปนประโยชน โดยเฉพาะพวกท่ีนําไปดื่มรับประทาน ก็ไมนาจะเส่ียง หากมีขอสงสัยก็สอบถามมาไดท่ี 0846984546 ถาเกษตรกรรูความจริงอยางท่ีบอกมา เช้ือวาจะไมถูกหลอกลวงได บทความนี้เขียนขึ้นมาดวยความเปนหวงพ่ีนองเกษตรกรไทย ปใหมแลวขอใหคิดแตส่ิงใหมท่ีดีๆและถูกตอง

ดูงานท่ีประเทศญี่ปุน

นาขาวในประเทศญี่ปุน