อบรม e-commerce [ปรับพื้นฐานเทคโนโลยี...

Post on 12-Apr-2017

101 Views

Category:

Internet

2 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

ชั่วโมงที่ 1 - ปรับพื้นฐานเทคโนโลยีชั่วโมงที่ 2-3 - การตลาดออนไลน์ 1-2

เช้าวันที่ 1

ชั่วโมงที่ 1 - ปรับพื้นฐานเทคโนโลยี

คอมพิวเตอร์ & อินเตอร์เน็ต

A B O U T M E . .• ป.ตรี วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จุฬาฯ

• ป.โท วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ AIT

• อดีตอุปนายกฝ่ายต่างประเทศ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT)

• อดีตกรรมการและที่ปรึกษา ชมรมการจัดพิมพ์อิเล็คทรอนิกส์ไทย (TEPClub)

• เลขาธิการ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย (Thai Webmaster Association)

• นักเขียน บรรณาธิการ เจ้าของสำนักพิมพ์ Provision ที่อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์, ไอที และ E-commerce มานานกว่า 20 ปี

เริ่มกันเลยนะครับ :-)

เราอยู่ในยุค "หลังคอมพิวเตอร์"(Post-PC era)

• ผู้คนใช้สมาร์ทโฟนมากกว่าคอมพิวเตอร์ (หยิบขึ้นมาดูวันละประมาณ 150 ครั้ง)

• เลยมีการใช้อุปกรณ์เช่น Smart watch เข้ามาเสริม

เราอยู่ในยุค "หลังคอมพิวเตอร์"(Post-PC era)

• ใครๆก็ใช้ Windows แต่คนใช้ Mac OSX ก็มีเพิ่มขึ้น

• และบางคนก็ไม่รู้ว่าใช้เครื่องอะไรด้วยซ้ำ รู้แต่ว่าจะเข้าเว็บไหนอย่างเดียว (ใช้เหมือน Netbook / Chromebook)

เราอยู่ในยุค "หลังคอมพิวเตอร์"(Post-PC era)

• คนกว่า 80% ใช้สมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ (Android) ที่ราคาตั้งแต่ถูก - แพง

• แต่คนที่มีกำลังซื้อสูงจำนวนไม่น้อยใช้ระบบ iOS (Apple)

-> ในแง่ของยอดขาย E-commerce สองระบบนี้ยังสำคัญพอๆ กัน

ที่มา : thestreettimes.com

เราอยู่ในยุค "หลังคอมพิวเตอร์"(Post-PC era)

• คนใช้ Smartphone/Tablet มากกว่า Notebook/Desktop

• คนอยากได้สมาร์ทโฟนจอใหญ่ขึ้น

• ในขณะที่แท็บเล็ตขายได้ในอัตราการเติบโตที่ลดลง

• แต่สองอย่างนี้รวมกันก็ขายได้มากกว่า Notebook + Desktop ไปแล้วตั้งแต่ Q4/2010

จุดที่ Smartphone + Tablet ขายได้แซง Notebook + Desktop

เราอยู่ในยุค "หลังคอมพิวเตอร์"(Post-PC era)

• สมัยนี้ Smartphone / Tablet แรงกว่าคอมฯ เมื่อ 5-6 ปีก่อน เร็วพอที่จะแต่งภาพหรือตัดต่อวิดีโอได้

• แต่ก็ยังเร็วไม่พอ หรือจุข้อมูลไม่พอสำหรับโปรแกรมบริการหลายๆ อย่าง เช่น จดจำใบหน้า แปลภาษา แผนที่ทั่วโลก ฯลฯ -> ต้องไปใช้บน “cloud” แทน

เราอยู่ในยุค "เน็ตความเร็วสูง"

• บริการเน็ตขั้นต่ำคือ ADSL หลายบ้านมีสายไฟเบอร์ฯ (Fibre optic หรือใยแก้วนำแสง) ลากถึงบ้านหรือที่ทำงาน ซึ่งน่าจะทั่วประเทศในไม่กี่ปีข้างหน้า

• ความเร็วขาขึ้นมักไม่เท่ากับขาลง (Upload < Download)

• Wi-Fi เริ่มเร็วพอๆ กับการต่อด้วยสาย LAN

เราอยู่ในยุค "เน็ตความเร็วสูง"

เน็ตมือถือเริ่มเปลี่ยนจากยุค 3G ที่ "พอจะเล่นเน็ตได้" เข้าสู่ 4G "เน็ตมือถือความเร็วสูงพอๆกับเน็ตบ้าน" (แถมบางทีอัพโหลดเร็วกว่าด้วยซ้ำ)

ที่มา: คู่มือ Cyber Security สำหรับประชาชน" จัดทำโดย กสทช. เรียบเรียงโดย บริษัท โปรวิชั่น จำกัด (พ.ศ. 2557)

50 - 500 KB = 50 เท่าของข้อความ

=>6 เท่าของเสียง [ต่อวินาที]

30 - 180 KB/s (300 Kbps - 1.8 Mbps)

1-10 KB[ประมาณ]

=>5 เท่าข้อความ[ต่อวินาที]

5 - 50 KB/s (50 - 500 Kbps)

[ขึ้นกับคุณภาพและการบีบอัด]

ที่มา: คู่มือ Cyber Security สำหรับประชาชน" จัดทำโดย กสทช. เรียบเรียงโดย บริษัท โปรวิชั่น จำกัด (พ.ศ. 2557)

เราอยู่ในยุค "เน็ตความเร็วสูง"

• ระวังเน็ตมือถือติด FUP - Fair Use Policy(เน็ตหมดโควต้า เช่นจำกัด 3GB, 5GB, ...)

• หมดโควต้า 4G เหลือ 3G หรือหมด 3G เหลือ 2G คือความเร็วเท่ากับระบบ EDGE (384 kbps)

ที่มา: คู่มือ Cyber Security สำหรับประชาชน" จัดทำโดย กสทช. เรียบเรียงโดย บริษัท โปรวิชั่น จำกัด (พ.ศ. 2557)

นาย ก.

นาย ก.

นาย ข.

นาย ข.

เราอยู่ในยุค "บริการในกลุ่มเมฆ" (Cloud)

เก็บข้อมูลบน Cloud - Dropbox, Google Drive, Onedrive (Microsoft), iCloud (Apple), ฯลฯ

เราอยู่ในยุค "บริการในกลุ่มเมฆ" (Cloud)

ดูหนัง ฟังเพลงจาก cloud (ฟังฟรี ดูฟรี หรือแบบจ่ายรายเดือนไม่ต้องซื้อขาด) เช่น YouTube, Facebook, Apple Music, Tidal

เราอยู่ในยุค "บริการในกลุ่มเมฆ" (Cloud)

บริการอื่นๆบน cloud (หรือมองว่า web กลายเป็น cloud ก็ได้) - อีเมล์, ค้นข้อมูล (search) แผนที่ (map) แปลภาษา (translate)

แล้ว Cloud ที่ว่านี้หน้าตาจริงๆ เป็นอย่างไร?

Facebook Data Center

ที่มา: Facebook Data Center [YouTube]

by: Trust Me, I'm An Engineer !

Inside a Google data center

ที่มา: Inside a Google data center [YouTube]by: Google for Work

Google กับ Facebook ใหญ่แค่ไหน?

Server ~ 300,000 เครื่อง พนักงาน ~ 30,000 คน

Google กับ Facebook ใหญ่แค่ไหน? [ต่อ]

Server ~ 1,000,000 เครื่อง พนักงาน ~ 60,000 คน

เราอยู่ในยุค "ซื้อบริการแทนซื้อของ"Software as a Service (SaaS)

• ใช้บริการฟรี แลกกับการดูโฆษณาออนไลน์ เช่น Google, Facebook, YouTube, เว็บอื่นๆ

• ซอฟต์แวร์เก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว (จำหน้าคน, จำภาพสถานที่โดยไม่ต้องรู้ GPS), ขับรถแทนคนขับ, แปลภาษา ฯลฯ

• ซอฟต์แวร์สามารถแทนคน ให้บริการคนทั้งโลกได้ในราคาถูก จึงขายกันในรูปบริการผ่านเน็ต แทนการซื้อโปรแกรมเป็นแผ่นๆ มาติดตั้ง

• มีบริการต่างๆ ให้ใช้มากมาย รวมถึงด้าน marketing และ e-commerce

ที่มา: What are the Business Benefits of Cloud Computing, IaaS, PaaS and SaaS? [YouTube]

by: Macquarie Telecom

อธิบาย Cloud Computing

ที่มา: Close-Up Look At Google's Self-Driving Car [YouTube]

by: CBS SF Bay Area

รถยนต์ไม่ต้องใช้คนขับของ Google

เราอยู่ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงChange / disrupt

• เป็นยุคที่เทคโนโลยีทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับตัวตลอดเวลา ไม่สามารถอยู่รอดได้โดยทำแต่อย่างเดิมๆ ที่เคยทำอีกต่อไป

• ถ้าไม่เปลี่ยนเอง ไม่ช้าจะมีคู่แข่งหน้าใหม่นอกวงการเข้ามาเปลี่ยนให้ (Disrupt) เช่น วงการเพลง, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร, การท่องเที่ยว (ตั๋วเครื่องบิน / โรงแรม / อื่นๆ),โทรทัศน์, แท็กซี่, ฯลฯ

• แม้แต่การเงิน ธนาคาร ซื้อขายหุ้น ก็ยังต้องปรับตัวตาม

• กฏหมายปรับตัวตามเทคโนโลยีไม่ทัน จะทำให้เกิดปัญหาในการทำงาน

เราอยู่ในยุคแห่ง "ความ(ไม่)ปลอดภัยออนไลน์"

• เป็นยุคที่การพึ่งพาเทคโนโลยีตั้งแต่ข้อมูลข่าวสารไปจนถึงการเงิน ทำให้เกิดจุดอ่อน ใครไม่รู้ทันจะตกเป็นเหยื่อได้ง่าย

• มีข้อมูลขยะ (junk) เรื่องไม่จริง (hoax) และการหลอกลวง (scam) มากมายบนอินเทอร์เน็ต แม้แต่คนมีชื่อเสียง /มีการศึกษาก็ถูกหลอกได้ ต้องมีสติ คิดก่อนเชื่อหรือแชร์

ไม่จริงจริง

เราอยู่ในยุคแห่ง "ความ(ไม่)ปลอดภัยออนไลน์"

• ใครจะออนไลน์ในยุคนี้ต้องป้องกันตัวเป็น เช่น ดูเว็บชื่อเว็บ (URL) ออกว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ หรือมี sense ว่าอะไรน่าหรือไม่น่าไว้ใจ ไม่หลงให้ข้อมูลส่วนตัวกับใครไปง่ายๆ

ระวัง! เดี๋ยวนี้เว็บเถื่อนเว็บปลอมก็อาจขึ้นรูปกุญแจได้เพราะไปซื้อใบรับรองดิจิตอล (จริง) เกรดต่ำๆ ในราคาถูกๆ มาหลอกผู้ใช้ได้ ดังนั้นถ้าเว็บแปลกๆ ไม่คุ้น ถึงแม้ขึ้นรูปกุญแจก็ยังไม่น่าไว้ใจ

เราอยู่ในยุคแห่ง "ความ(ไม่)ปลอดภัยออนไลน์"

• กลไกป้องกันตัว/กันถูกโกง มาพร้อมกับขั้นตอนที่เพิ่มขึ้น เช่น การผูกอีเมล์กับเบอร์โทรศัพท์ หรือที่เรียกกันว่า Login Approval2-factor authenticationOTP (One-Time Password)

บางคนคิดว่ายุ่งยากไม่อยากใช้ จนกว่าจะโดนกับตัว

ที่มา: Two Steps Ahead: Protecting Your Digital Lifeby: StaySafeOnline1

การลงชื่อเข้าใช้แบบ 2 ชั้น (2-steps Authentication)

Google 2-Step verification

Google Authenticator Apps

Facebook Login Approval - using Code Generator

Facebook Login Approval - using Code Generator [ต่อ]

เราอยู่ในยุคแห่ง "ความ(ไม่)ปลอดภัยออนไลน์"

รูปจาก Wikipedia

ห้ามทำ SIM มือถือหายเด็ดขาด!

สำคัญที่สุด

top related