หน วยการเรียนรู ที่...

Post on 20-Feb-2020

2 Views

Category:

Documents

0 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

0 1 32 4 5 6 7 8

1 1+1 2+1 3+1

หนวยการเรียนรูที่ 2

จํานวนเต็ม

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง 1. ระบุหรือยกตัวอยางจาํนวนเต็มบวก จํานวนเต็มลบ และศูนยได

2. เปรียบเทยีบจาํนวนเต็มและใชเคร่ืองหมายมากกวา นอยกวา และเทากับไดถูกตอง

3. หาผลบวก ผลลบ บนเสนจาํนวนได

2.1 ศูนยและจํานวนเต็มบวก

0 ไมใชจํานวนนับเพราะเราไมนิยมพูดวามีสมอยู 0 ผล หรือมีดินสอ 0 แทง เราพูดวา ไมมีสม ไมมี

ดินสอ เมื่อเราไมมีส่ิงของ เราก็ไมนับ ในกรณีเชนนี ้0 แทนความไมม ี

แต 0 ไมไดแทนความไมมเีสมอไป เชน เมื่อเราพูดวาอุณหภูมิของน้าํแข็งเปน 0 องศาเซลเซยีส เรา

ไมไดหมายความวา น้ําแข็งไมมอุีณหภูมิ แตหมายความวา น้ําแข็งมีความเย็นระดับหนึง่ ซึง่กาํหนดวา เปน

0 องศาเซลเซยีส

1 เปนจํานวนนับทีน่อยที่สุด จํานวนนับอ่ืนๆ เกิดจาก 1 ดังนี ้1 , 1 + 1 แทนดวย 2 , 2 + 1 แทนดวย 3

ฯลฯ การเพิม่ทีละ 1 ทาํใหเกิดจํานวนนับไมมีที่ส้ินสุด และแสดงบนเสนจํานวนไดดังนี ้

1. ใหนักเรียนนับเพิ่มทีละหนึง่ใหมากที่สุดที่จะมากได นักเรียนนับถงึจํานวนอะไร

2. นํา 1 ไปบวกจาํนวนที่นกัเรียนนับได ผลลัพธจะมากกวาหรือไม

3. จํานวนทีน่ักเรียนนับไวตอนแรกจะเปนจาํนวนทีม่ากที่สุดหรือไม

4. มีจํานวนนับทีม่ากที่สุดหรือไม

จํานวนเต็ม

จํานวนนับ เรียกอีกอยางหนึ่งวา จํานวนเต็มบวก

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

คณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาปท่ี 1

-31-

2.2 จํานวนเต็มลบ

ในชีวิตประจาํวัน จํานวน 1 , 2 , 3 , . . . เปนจาํนวนชนิดเดียวทีน่ักเรียนจะใชในการนับ ใช

เศษสวน เชน 1

2,

2

3, . . . และใชทศนิยม เชน 0.5 , 1.75 , . . . ในการบอกปริมาณที่ไมเปนจํานวนเต็ม

อยางไรก็ตามวิชาคณิตศาสตรไมใชวิชาทีส่อนการนับและการหาปริมาณเทานัน้ ในการเรียนวิชา

คณิตศาสตรนักเรียนจะตองรูจักจํานวนชนดิอ่ืนๆ ที่จาํเปนสําหรับวชิานี้ ในหวัขอนี้นักเรียนจะไดรูจัก

จํานวนเต็มลบ

นักเรียนเคยไดยินคําวา จํานวนเต็มลบ มากอนหรือไม

นักเรียนเคยไปเที่ยวเมืองหมิะหรือไม นักเรียนทราบไหมวาอุณหภูมิในเมืองที่มหีมิะเปนอยางไร

นักเรียนคงเคยไดยินอุณหภูมิ ที่ภูกระดึงหนาหนาวในเมืองไทย และอุณหภูมิ 26.5− ° ที่เมืองอลาสกา

ประเทศสหรัฐอเมริกา นัน่คือ นักเรียนไดรูจักจํานวนเต็มลบมาบางแลว

เราเร่ิมจากปญหางายๆ ตอไปนี้

กําธรมีเงินอยู 4 บาท ถาเขาใหนอง 1 บาท จงหาวากําธรเหลือเงนิเทาไร นักเรียนมวีิธีหาคําตอบ

อยางไร

ใหนักเรียนเขียนวธิีหาจํานวนเงนิที่เหลือ ถากําธรใหเงินนอง

1. 2 บาท

2. 3 บาท

3. 4 บาท

นักเรียนสังเกตเห็นหรือไมวา ในสัญลักษณแสดงการลบตอไปนี้ ตัวลบมีคาเพิม่ข้ึน

4 – 1

4 – 2

4 – 3

4 – 4

ถาใหตัวลบมคีาเพิ่มข้ึนเร่ือยๆ เราอาจเขียนเปนสัญลักษณได เชน

4 – 5

4 – 6

4 – 7

4 – 8

ฯลฯ

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

คณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาปท่ี 1

-32-

0 1 2 3 4 5

4 – 8 4 – 7

4 – 6

4 – 5 4 – 4

4 – 3

4 – 2 4 – 1

0 1 2 3 4 -1-2-3 -4

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2

นักเรียนทราบหรือไมวา การลบขางตนมคํีาตอบอยางไร เราอาจแสดงการหาคําตอบโดยใชเสน

จํานวนดังนี ้

คําตอบสําหรับ 4 – 5 , 4 – 6 , . . . เปนจํานวนทีน่ักคณิตศาสตรสรางข้ึนเรียกวา จํานวนเต็มลบ

ให 4 – 5 เปนจํานวนซ่ึงแทนดวยสัญลักษณ –1 อานวา ลบหน่ึง

4 – 6 เปนจาํนวนซ่ึงแทนดวยสัญลักษณ –2 อานวา ลบสอง

นักเรียนคิดวา 4 – 7 , 4 – 8 , 4 – 9 จะเปนจํานวนอะไร

จํานวนเต็มลบ -1 , -2 , -3 , . . . แทนดวยจุดที่อยูทางซายมือของ 0 บนเสนจํานวนดังนี ้

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

คณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาปท่ี 1

-33-

0 1 2 3 4-1-2-3 -4

0 1 2 3 4 -1 -2 -3 -4 5 -5

ดังนัน้ จาํนวนเต็มแบงออกเปน 3 พวก คือ

1. จํานวนเต็มบวก ไดแก 1 , 2 , 3 , 4 , . . .

2. จํานวนเต็มศูนย ไดแก 0

3. จํานวนเต็มลบ ไดแก –1 , -2 , -3 , -4 , . . .

ดังแสดงดวยเสนจํานวนดังนี ้

2.3 การเปรียบเทียบจํานวนเต็ม

สมมุติวานักเรียนหนกั 35 กโิลกรัม เพื่อนหนกั 38 กิโลกรัม นักเรียนจะตอบไดหรือไม เพราะเหตุใด จึง

ทราบวาเพื่อนหนกักวา

ถาเราตองการทราบวาในเดือนเมษายน จงัหวัดแถบภูเขา เชน เชียงใหมกับจังหวัดแถบชายทะเล เชน

สงขลา โดยเฉลี่ยแลวจังหวัดใดรอนกวากัน นักเรียนจะวัดไดอยางไร

ถานกัเรียนทราบวาอุณหภูมเิฉล่ียในเดือนเมษายนที่จังหวัดเชียงใหมประมาณ 36 องศาเซลเซยีส และ

ที่จังหวัดสงขลา 30 องศาเซลเซียส นักเรียนจะตอบไดหรือไมวา จงัหวดัใดรอนกวากนั

ถานกัเรียนทราบวา อุณหภูมิเฉล่ียในฤดูหนาวของจังหวดัแมฮองสอนประมาณ 5 องศาเซลเซยีส และ

ที่จังหวัดเลยประมาณ 0 องศาเซลเซยีส นกัเรียนจะตอบไดหรือไมวาจงัหวัดใดหนาวกวากนั และถา

นักเรียนไดยินวิทยปุระกาศวา ปนีท้ี่จังหวัดเลย อุณหภูมตํ่ิาสุดเปน –5 องศาเซลเซยีส นักเรียนคิดวาอากาศ

ที่จังหวัดเลยปนี้หนาวกวาหรืออุนกวาปกติ

นักเรียนจะพบวา ถาอากาศย่ิงรอน อุณหภูมิจะยิ่งสูงข้ึน

ถาอากาศย่ิงหนาว อุณหภูมจิะยิ่งติดลบมากข้ึน

ในทาํนองเดียวกัน ในการเปรียบเทียบเพื่อดูวา จาํนวนใดนอยกวา จาํนวนใดมากกวา เราจะเหน็ไดงาย

จากเสนจํานวน

เมื่อกลาวถงึจาํนวนเต็มจะหมายถึงจาํนวนเต็มบวก

หรือจํานวนเต็มลบหรือศูนยก็ได

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

คณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาปท่ี 1

-34-

บนเสนจํานวนนี้ นักเรียนทราบแลววา สําหรับทางดานขวามือของศูนย จาํนวนทีอ่ยูทางซายจะนอย

กวาจาํนวนทีอ่ยูทางขวา เชน 2 < 3

นักเรียนจะเหน็วา -1 , -2 , -3 , . . . ไดจากการลดลงทีละหนึ่ง ดังนัน้สําหรับดานซายมือของศูนย

จํานวนที่อยูทางซายก็จะนอยกวาจํานวนที่อยูทางขวาเชนกนั

ดังนัน้ -2 นอยกวา -1 ใชสัญลกัษณ -2 < -1

-3 นอยกวา -2 ใชสัญลักษณ -3 < -2

ฯลฯ

ใหนักเรียนดูเสนจํานวนขางตนแลวตอบคําถามตอไปนี ้

1. -4 และ -5 จํานวนใดนอยกวากนั

2. เมื่อนับไปทางซายของศูนยทีละหนึง่จะไดจํานวนทีน่อยลงหรือมากข้ึน

3. นักเรียนคิดวามีจํานวนทีน่อยที่สุดหรือไม เพราะเหตุใด

4. จงเขียนจํานวนเต็มลบต้ังแต -10 ถึง -20 ตามลําดับจากนอยไปมาก

5. จงเรียงลําดับจํานวนตอไปนี้จากมากไปนอย

-2 , -5 , -7 , -10 , -6 , -1

6. จงเติมจํานวนตามทีก่ําหนดใหตอไปอีก 3 จํานวน

-1 , -4 , -7 , -10 , . . .

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี ขอ 1. 0.5 เปนจํานวนเต็มหรือไม........................................................................................

ขอ 2. 1

34

เปนจํานวนเต็มหรือไม........................................................................................

ขอ 3. 4

2 เปนจํานวนเต็มหรือไม........................................................................................

ขอ 4. 1.2

4 เปนจํานวนเต็มหรือไม........................................................................................

ขอ 5. –5.8 เปนจํานวนเต็มลบใชหรือไม................................................................................

ขอ 6. –9.6 เปนจํานวนเต็มลบใชหรือไม................................................................................

แบบฝกหัดที่ 1

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

คณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาปท่ี 1

-35-

ขอ 7. 3

88

− เปนจํานวนเต็มลบใชหรือไม................................................................................

ขอ 8. จาํนวนใดบางเปนจํานวนเต็มลบ –1 , –3.4 , 1

52

− , 6

3− , – 6.0 ,

7

8−

.................................................................................................................................................

ขอ 9. –333 อยูทางซายมือหรือขวามือของศูนยบนเสนจํานวน

ขอ 10. 25 อยูทางซายมือหรือขวามือของศูนยบนเสนจํานวน

ขอ 11. –20 มีคามากกวาหรือนอยกวา 0

ขอ 12. 40 มีคามากกวาหรือนอยกวา 0

ขอ 13. จงเติมเคร่ืองหมาย > หรือ < หรือ = ลงในชองวางใหถกูตอง

♠ –60...............–16 ♠ –72 ...................... –71

♠ 80...............–80 ♠-1001....................... -1011

ขอ 14. จงเรียงจํานวนตอไปนี้จากมากไปหานอย

-19 , 10 , -14 , 0 , 18 , -13 , 9.......................................................................................

-1177 , -1717 , -1771 , -1777 , -1117 , -1171...............................................................

ขอ 15. จงเรียงจํานวนตอไปนี้จากนอยไปหามาก

-49 , -37 , -47 , -31 , -35 , -46.......................................................................................

-792 , -297 , -729 , -972 , -279 , -927...........................................................................

ใหนักเรยีนแสดงวธิีทํา (ลงในสมุด)

ขอ 1. จงเขียนเสนจํานวนแสดงศูนยและจํานวนเต็มลบถึง -20

ขอ 2. จงเติมจาํนวนอีก 3 จาํนวนตามลําดับตามแบบที่กาํหนดให

0 , -2 , -4 , -6 , . . .

0 , -5 , -10 , . . .

0 , -7 , -14 , . . .

-3 , -7 , -11 , -15 , . . .

แบบฝกหัดเพ่ิมเติม 1

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

คณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาปท่ี 1

-36-

-9 , -14 , -19 , . . .

ขอ 3. จงเขียนจํานวน 5 จาํนวนตอจาก 0 โดยลดทีละ 3

ขอ 4. จงเขียนจํานวน 5 จาํนวนตอจาก -1 โดยลดทีละ 2

ขอ 5. จงเขียนจํานวน 5 จาํนวนตอจาก -10 โดยเพิ่มทีละ 1

ขอ 6. จงเขียนจํานวน 5 จาํนวนตอจาก -15 โดยเพิ่มทีละ 3

ขอ 7. จงเติมจาํนวนเต็มอีก 3 จํานวนตามลําดับตามแบบที่กาํหนดให

-2 , -4 , -6 , . . .

-1 , -3 , -5 , . . .

-3 , -6 , -9 , . . .

-2 , -7 , -12 , . . .

-20 , -16 , -12 , . . .

-41 , -36 , -31 , . . .

ขอ 8. จงเรียงจํานวนตอไปนี้จากนอยไปมาก

-3 , -7 , -31 , -1 , 0 , -6 , -13

-8 , -10 , -2 , 3 , -5 , 4

7 , 0 , -2 , -17 , -4 , -9

99 , -80 , 76 , 67 , -50 , -60

ขอ 9. จงหาจํานวนที่นอยทีสุ่ดและจํานวนที่มากที่สุด

-3 , -4 , -5 , -2 , 0

12 , -3 , -1 , 1 , -12

-13 , -15 , -2 , -6 , -4

-3 , 0 , 3 , -4 , -5

ขอ 10. จงใสเคร่ืองหมาย < หรือ > เพื่อใหเปนประโยคทีเ่ปนจริง

(-3) (-4)

(-7) (-8)

(-8) (-5)

0 (-1)

(-10) 0

(-20) (-30)

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

คณิตศาสตรระดับมัธยมศึกษาปท่ี 1

-37-

ขอ 11. จงเรียงสารตอไปนี้ตามลําดับจุดเดือดจากตํ่าไปสูง

คลอรีน -35 องศาเซลเซยีส

ออกซิเจน -183 องศาเซลเซยีส

ไฮโดรเจน -253 องศาเซลเซยีส

ไนโตรเจน -196 องศาเซลเซยีส

ขอ 12.

น้ํา เอทิลแอลกอฮอล คารบอนไดออกไซด ออกซิเจน ไฮโดรเจน ปรอท

0 -114 -57 -219 -259 -39

ตารางขางบนแสดงอุณหภูมิเปนองศาเซลเซียสที่สารเปลีย่นสภาพเปนของแข็ง

จงหาวาสารชนิดใดแข็งตัวเร็วที่สุด

จงเรียงลําดับสารตามอุณหภูมิแข็งตัวเร็วที่สุดไปหาแข็งตัวชาที่สุด

ขอ 13. ขอความตอไปนี้จริงหรือไม

0 เปนจํานวนเต็ม

500 เปนจาํนวนเต็ม

-500 ไมเปนจาํนวนเต็ม

1.5 เปนจํานวนเต็ม

4

2 ไมเปนจํานวนเต็ม

ขอ 14. จงเรียงลําดับจํานวนเต็มตอไปนี้จากนอยไปมาก

2 , -2 , 5 , 1 ,0 , -15 , -10 , -8 , 3

ขอ 15. จงเติมจํานวนเต็ม 3 จํานวนตามลําดับตามแบบที่กําหนดให

-8 , -6 , -4 , . . .

-7 , -4 , -1 , . . .

4 , 2 , 0 , . . .

15 , 10 , 5 , . . .

6 , 2 , -2 , . . .

-9 , -4 , 1 , . . .

ขอ 16. จงใสเคร่ืองหมาย < หรือ > เพื่อทาํใหประโยคตอไปนี้เปนจริง

(-4) (-5)

7 (-7)

0 5

0 (-5)

18 (-12)

20 (-2)

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 17. ใหนกัเรียนใชตารางแสดงอุณหภูมิของอากาศที่ระดับความสูงตางๆ วัดทีก่รุงเทพฯ หา

คําตอบของปญหาตอไปนี ้

ความสูงจากระดับน้ําทะเล

(กิโลเมตร)

0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

อุณหภูมิของอากาศ

(องศาเซลเซียส)

28 22 17 11 6 0 -6 -11 -17 -22

อุณหภูมิของอากาศท่ี 2 กิโลเมตร เหนือระดับน้ําทะเล ตางจากอุณหภูมิของอากาศที่ 3

กิโลเมตร เหนอืระดับน้ําทะเลเทาไร

อุณหภูมิของอากาศท่ี 7 กิโลเมตร เหนือระดับน้ําทะเล ตางจากอุณหภูมิของอากาศที่ 8

กิโลเมตร เหนอืระดับน้ําทะเลเทาไร

อุณหภูมิของอากาศท่ี 8 กิโลเมตร เหนือระดับน้ําทะเล ตางจากอุณหภูมิของอากาศที่ 9

กิโลเมตร เหนอืระดับน้ําทะเลเทาไร

ขอ 18. ถา a แทนจํานวนเต็มจํานวนหนึ่ง a จะตองแทนจํานวนเต็มบวกใชหรือไม ถาไมใช a จะ

แทนจํานวนใดไดบาง

ขอ 19. ถา b แทนจํานวนเต็มลบ b จะเปนจํานวนเต็มหรือไม

ขอ 20. ประโยคตอไปนี้ ประโยคใดเปนจริง ประโยคใดเปนเทจ็

0 เปนจาํนวนเต็มบวก

จํานวนเต็มบวกคือจํานวนนบั

มีจํานวนเต็มบวกมากมายนับไมถวน

20 เปนจํานวนเต็มบวก

ถา a เปนจาํนวนเต็มบวก เราสามารถหาจํานวนเต็มบวกที่มากกวา a ไดเสมอ

-38-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

0 1 2 3 4 -1 -2 -3 -4 5 -5

0 1 2 3 4-1-2-3 -4 5 -5

0 1 2 -1 -2

ขอ 21. จงเลือกจํานวนเต็ม จากจํานวนในแตละขอตอไปนี ้

0 , 1

2 , 1 ,

11

2 , 2

-1 , -2 , 3 , -3

1

2 ,-

1

2 , 4 , -4 , 0.1 , 3.78

5 , -5 , 1

5 , -

1

5 , 6 , -

1

6

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง 1. บอกจํานวนตรงขามของจํานวนเต็มใดๆ ได

2. บอกคาสัมบูรณของจํานวนเต็มใดๆ ได

2.4 คาสัมบูรณของจํานวนเต็ม

2 อยูหางจาก 0 เปนระยะ 2 หนวย

เรากลาววา คาสัมบูรณของ 2 เทากับ 2

-2 อยูหางจาก 0 เปนระยะ 2 หนวย

เรากลาววา คาสัมบูรณของ -2 เทากับ 2

ใหนักเรียนทําแบบฝกหัดตอไปนี้

1. จงหาคาสัมบูรณของ 5 , -5 , 9 , -9 , 10 , -10 , 11 , -11

2. คาสัมบูรณของจํานวนเต็มบวกเปนจํานวนบวกหรือจํานวนลบ

3. คาสัมบูรณของจํานวนเต็มลบเปนจาํนวนบวกหรือจํานวนลบ

4. คาสัมบูรณของจํานวนใดบางที่เปนจาํนวนลบ

นักเรียนสังเกตหรือไมวา มีจํานวนเต็มบวกและจํานวนเต็มลบเปนคูๆ ที่มีคาสัมบูรณเทากนั

ใหนักเรียนยกตัวอยางมาสัก 2 คู

-39-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

จํานวนเต็มบวกและจํานวนเต็มลบที่มีคาสัมบูรณเทากันจะอยูคนละขางของ 0 และอยูหาง

จากศูนยเปนระยะเทากัน เชน -1 และ 1 เรากลาววา

-1 เปนจํานวนตรงขามของ 1

และ 1 เปนจํานวนตรงขามของ -1

สวน 0 เปนจํานวนตรงขามของตัวเอง

ใหนักเรียนหาจํานวนตรงขามของจํานวนตอไปนี้

1. 3

2. -7

3. 45

4. -350

แบบฝกท่ี 2

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี ขอ 1. คาสัมบูรณของ 48 คือ..................................................................................................

ขอ 2. คาสัมบูรณของ -120 คือ...............................................................................................

ขอ 3. 8 เปนคาสัมบูรณของจํานวนใด...................................................................................

ขอ 4. 124 เปนคาสัมบูรณของจํานวนใด...................................................................................

ขอ 5. คาสัมบูรณของ 56 คือ..................................................................................................

ขอ 6. คาสัมบูรณของ -56 คือ...............................................................................................

ขอ 7. 56 เปนคาสัมบูรณของจํานวนใด...................................................................................

ขอ 8. 19 เปนคาสัมบูรณของจํานวนใด...................................................................................

ขอ 9. จาํนวนตรงขามของ 148 คือ.......................................................................................

ขอ 10. จาํนวนตรงขามของ -3537 คือ.......................................................................................

ขอ 11. คือ..............................................................................................................

ถา a เปนจํานวนใดๆ จํานวนตรงขาม ของ a

มีเพียงจํานวนเดียว และเขียนแทนดวย -a

แบบฝกหัดที่ 2

-40-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 12. 76− คือ........................................................................................................

ขอ 13. 35− คือ........................................................................................................

ขอ 14. 12− − คือ........................................................................................................

ขอ 15. 919− คือ........................................................................................................

ขอ 16. จงเติมเคร่ืองหมาย > หรือ < หรือ =

81− ........... 18−

25 ............. 25−

102− ......... 120−

1011− ........ 1101−

28− .......... 28− −

ใหนักเรยีนแสดงวธิีทํา (ลงในสมุด) ขอ 1. จงหาคาสัมบูรณของ 0

........................................................

ขอ 2. จงหาคาสัมบูรณของ -37 , -38 , -39 , -40

........................................................

ขอ 3. จงเติมขอความในชองวางใหถกูตอง

คาสัมบูรณของ 51 และ -51 ตางเทากับ ...............

คาสัมบูรณของ 470 และ ................ ตางเทากับ 470

คาสัมบูรณของ ............... และ -132 ตางเทากับ 132

56 เปนคาสัมบูรณของ ............... และ ...............

142 เปนคาสัมบูรณของ ............... และ ...............

................ เปนคาสัมบูรณของ 318 และ -318

แบบฝกหัดเพ่ิมเติม 2

-41-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 4. จงเติมคําวา “มากกวา” “นอยกวา” หรือ “เทากับ” ลงในชองวาง

เพื่อทาํใหประโยคตอไปนี้เปนจริง

21 ............... -21

คาสัมบูรณของ 21 ............... คาสัมบูรณของ -21

-6 ................ 6

คาสัมบูรณของ -6 ................ คาสัมบูรณของ 6

คาสัมบูรณของ -7 ................ คาสัมบูรณของ 9

คาสัมบูรณของ -5 ................ คาสัมบูรณของ -7

คาสัมบูรณของ -23 ................ คาสัมบูรณของ 20

คาสัมบูรณของ 13 ................ คาสัมบูรณของ -19

ขอ 5. จงหาจํานวนตรงขามของ -11 , -13 , -15 , -16 , -20

ขอ 6. จงหาจํานวนตรงขามของ 11 , 13 , 15 , 16 , 20

ขอ 7. จงหาจํานวนตรงขามของ -5 , 5 , 20 , -20 , 9 , -9

ขอ 8. จงหาจาํนวนที่แทนตัวแปร แลวทําใหไดประโยคที่เปนจริง

67 + y = 67

a – 43 = 0

z + 0 = 91

x + x = 0

0 + u = 0

9 – v = 9

b × 1 = 1

20 × y = 0

9 × z = 9

a × a = 0

6 – v = 0

7 ÷ u = 1

25 ÷ w = 25

c ÷ 1 = 99

a ÷ 20 = 1

0 × 15 = x

ขอ 9. จงหาผลคูณ

1 × 25

(-35) × 1

(-72) × 1

(-1271) × 1

1 × (-592)

1 × 1

1 × b

b × 1

1 × c

c × 1

-42-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 10. จงหาผลหาร

3

1

2

1−

1

1−

1

1

11

−−

77

−−

21

21

−−

135

135

−−

1

b

ขอ 11. จงหาคําตอบ

0 + (-21)

(-480) + 0

0 + (-5)

0 – 5

0 – 7

0 – 47

0 – b

0 – 0

0 – (-4)

0 – (-20)

0 – (-35)

0 – (-43)

0 – (-c)

0 – (-z)

0 – z

ขอ 12. จงหาคําตอบ

0 × 1

0 × 0

0 × (-5)

0 × (-1)

(-2000) × 0

350 × 0

(-490) × 0

t × 0

0 × t

0 × (-a)

0

20

0

50−

0

1000

0

2497−

ขอ 13. จงหาคําตอบ

0 + 0

0 + (-7)

(-7) + 7

5 × 6 × 0

( 5 + 6 ) × 0

(-21) ÷ (-21)

(-19) ÷ (-1)

(-200) ÷ 200

0 ÷ ( 1 ÷ 2 )

[(-441) ÷ 21] ÷ 0

-43-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 14. จงหาคา z ทีท่าํใหประโยคตอไปนี้เปนจริง

3 × z = 0

z × (-7) = 0

a × z = 0 แต a ≠ 0

3

z =

4

z

z × z = 0

ขอ 15. ส่ีเทาของจํานวนจํานวนหน่ึงเทากับหาเทาของจํานวนเดิม จํานวนนั้นเปนเทาไร

ขอ 16. คร่ึงหนึ่งของจํานวนจํานวนหนึ่ง เทากบัสองเทาของจํานวนเดิม จาํนวนนัน้เปนเทาไร

ขอ 17. จงหาจํานวนที่แทนตัวแปร แลวทาํใหไดประโยคที่เปนจริง

37 + 26 = x + 37

31 × 24 = 24 × a

( 56 + 2 ) + 13 = 56 + ( d + 13 )

8 × ( 7 × 6 ) = ( b × 7 ) × 6

4 × ( y × 7 ) = ( 4 × 3264 ) × 7

ขอ 18. จงเติมจํานวนหรือตัวแปรในชองที่เวนไว เพื่อใหแตละประโยคตอไปนี้เปนจริง สําหรับทุกๆ

คาของตัวแปร

7 + ( a + 3 ) = ( 7 + …….. ) + 3

x + ( 6 + a ) = ( x + 6 ) + ……..

a + ( b + c ) = ( …….. + …….. ) + c

( …….. + …….. ) + 7 = 8 + ( x + 7 )

( x + …….. ) + y = …….. + ( a +…….. )

7 × ( c × 3 ) = ( 7 × …….. ) × 3

( a × 6 ) × b = a × ( 6 × …….. )

a × ( b × c ) = ( …….. × …….. ) × c

( …….. × …….. ) × 7 = 8 × ( c × 7 )

( a × …….. ) × b = …….. × ( y × …….. )

ขอ 19. นกัเรียนคิดวาการลบมีสมบัติการเปล่ียนกลุมหรือไม

นั่นคือ ประโยค a – ( b – c ) = ( a – b ) – c

เปนจริงสําหรับจํานวน a , b , c ใดๆ หรือไม เพราะเหตุใด

-44-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 20. การหารมีสมบัติการเปลี่ยนกลุมหรือไม เพราะเหตุใด

ขอ 21 จงเติมจํานวนในชองที่เวนไว เพื่อใหแตละประโยคตอไปนี้เปนจริง

6 × ( 10 + 7 ) = ( 6 × …….. ) + ( 6 × …….. )

8 × ( 50 + 4 ) = ( …….. × 50 ) + ( …….. × 4 )

( 30 + 9 ) × …….. = ( 30 × 5 ) + ( 9 × 5 )

( 9 × 5 ) + ( 9 × 6 ) = 9 × ( …….. + …….. )

( 5 × 200 ) + ( 5 × 30) + ( 5 × 8 ) = 5 × ( …….. + …….. + …….. )

ขอ 22. จงหาจํานวนที่แทนตัวแปรแลวทําใหไดประโยคที่เปนจริง

( 6 × 5 ) + ( 6 × 1 ) = 6 × a

( 17 × 9 ) + ( 8 × 9 ) = d × 9

a × 253 = ( 7 × 200 ) + ( 7 × 50 ) + ( 7 × 3 )

b × 6 = ( 4000 × 6 ) + ( 700 × 6 ) + ( 50 × 6 ) + ( 3 × 6 )

( 12 × c ) + ( 19 × 5 ) = 31 × 5

( 12 × 55 ) + ( 12 × d ) = 12 × 100

ขอ 23. จงตรวจดูวาประโยคตอไปนี้เปนจริงหรือไม

5 × ( 8 – 3 ) = ( 5 × 8 ) – ( 5 × 3 )

6 × ( 7 – 2 ) = ( 6 × 7 ) – ( 6 × 2 )

( 5 – 4 ) × 9 = ( 5 × 9 ) – ( 4 × 9 )

( 7 – 6 ) × 4 = ( 7 × 4 ) – ( 6 × 4 )

ขอ 24. จงเติมจํานวนในชองที่เวนไว เพื่อใหประโยคเปนจริงสําหรับทุกๆ คาของตัวแปร

a × ( b + c ) = ( a × b ) + ………………

( x + y ) × a = ……………. + ( y × a )

( 3 × c ) + ( 3 × d ) = ……………. × ( c + d )

( d × b ) + ( z × b ) = ( …………. + z ) × b

y × ( a + ………… ) = ( y × a ) + ( y × z )

………………. = ( a × 4 ) + ( b × 4 )

( b × x ) + ( b × y ) = ………………

( 2 × x ) + ( 3 × x ) = ( ………… + ………… ) × x

( 7 × a ) + ( 8 × a ) = ………………

20c = ( ………… × c ) + ( 11 × c )

10x + 20x = ………………

-45-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง 1. บอกสมบัติของ 0 และ 1 ได

2. นําสมบัติของ 0 และ 1 ไปใชได

2.5 สมบัติของ 0 และ 1 สมบัติของหนึ่ง 1. จํานวนใดๆ คูณกับ 1 จะไดจํานวนนัน้ เชน

1 32× = 32 1× = 32

1 ( 32)× − = ( 32) 1− × = -32

1 ( 1)× − = ( 1) 1− × = -1

สมบัติขอนี้เขียนเปนสัญลักษณไดดังนี ้

2. จํานวนใดๆ หารดวย 1 จะไดจํานวนนั้น เชน

27=1

27

27=1

27

สมบัติขอนี้เขียนเปนสัญลักษณไดดังนี ้

สมบัติของศูนย 1. จํานวนใดๆ บวกกับ 0 จะไดจํานวนนัน้ เชน

5 + 0 = 0 + 5 = 5

(-7) + 0 = 0 + (-7) = -7

สมบัติขอนี้เขียนเปนสัญลักษณไดดังนี ้

1 1a a a× = × = เมื่อ a แทนจํานวนใดๆ

1

aa= เมื่อ a แทนจํานวนใดๆ

a=a+0=0+a เมื่อ a แทนจํานวนใดๆ

-46-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

2. จํานวนใดๆ คูณกับ 0 ได 0 เชน

0×2 = 2×0 = 0

( 5) 0− × = 0 ( 5)× − = 0

สมบัติขอนี้เขียนเปนสัญลักษณไดดังนี ้

3. 0 หารดวยจํานวนใดๆ ที่ไมใช 0 จะได 0 เชน 0

5 = 0

0

9− = 0

สมบัติขอนี้เขียนเปนสัญลักษณไดดังนี ้

4. ถาผลคูณของจํานวนสองจํานวนใดๆ เทากับ 0 จํานวนใดจํานวนหนึ่งอยางนอยหน่ึง

จํานวนตองเปน 0 เขียนเปนสัญลักษณไดดังนี ้

สมมุติวาจะหารจํานวนใดๆ ดวย 0 จะมีปญหาอยางไร

ใหนักเรียนทําแบบฝกหัดตอไปนี้

1. กําหนดให a=0

0 ใหนักเรียนเปล่ียนเปนประโยคการคูณ

2. จงหาคา a ที่จะทําใหประโยค 0=a×0 เปนจริง

3. นักเรียนหาคา a ในขอ 2 ไดมากกวาหนึง่คําตอบหรือไม

4. จากขอ 3 นักเรียนจะบอกไดแนนอนหรือไมวา 0

0 เปนเทาไร เพราะเหตุใด

5. ใหนักเรียนหา 0

9 โดยวิธีเดียวกนั ไดกี่คําตอบ

ถาหารจํานวนใดๆ ดวย 0 จะเกิดปญหา คือ

มีจํานวนใดเปนคําตอบก็ได หรือไมมีคําตอบเลย

เนื่องจากการหารดวยศูนยมีปญหาเชนนี ้นัก

คณิตศาสตรจึงไมใชศูนยเปนตัวหาร

0=a×0=0×a เมื่อ a แทนจํานวนใดๆ

0=a

0เมื่อ a แทนจํานวนใดๆ ท่ีไมใช 0

ถา 0=b×a ดังนั้น 0=a หรือ 0=b เมื่อ b,a แทนจํานวน

ไมใช 0 เปนตัวหาร

-47-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

นักเรียนเคยทราบวาจํานวนนับทีม่ี 2 เปนตัวประกอบ หรือจํานวนนับที่ 2 หารลงตัว เรียกวา

จํานวนคู สวนจํานวนนับที่ไมมี 2 เปนตัวประกอบหรือจํานวนนบัที่ 2 หารไมลงตัว เรียกวา

จํานวนค่ี

ในทางคณิตศาสตรบทนยิามของจํานวนคูและจํานวนค่ี อาจเขียนไดดังนี ้

ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี ้

1. นักเรียนคิดวา 0 เปนจํานวนคูหรือจํานวนค่ี

2. จํานวนเต็มใดบาง ที่เปนจํานวนคู

3. จํานวนเต็มใดบาง ที่เปนจํานวนค่ี

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี ขอ 1. จงหาคาของ

1) 0 × (-83) = 2) -22 × 1 =

3) (-14) × (-18) × 0 = 4) 1 × (-88) =

5) -a × 0 = 6) -c × 1 =

7) 0 + (-88) = 8) 0 ÷ 46 =

9) (-21) + 0 = 10) 0

21− =

ขอ 2. จงหาคาของตัวแปรทีแ่ทนประโยคแลวเปนจริง

1) a × 5 = 0 2) c ÷ c = 1

3) x + 8 = 0 4) 4 – y = 0

5) 12 × a = 1 6) c ÷ 1 = c

7) a × a = 1 8) c ÷ 12 = 1

9) 12 × x = 12 10) y ÷ 8 = 0

บทนิยาม จํานวนคู คือ จํานวนเต็มที่ 2 หารลงตัว และ จํานวนค่ี คือ จํานวนเต็มที่

2 หารไมลงตัว

แบบฝกหัดที่ 3

-48-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

11) 3a = 0 12) 7 ÷ x = 7

13) 5 + x = 5 14) 6 × a = 1

15) a( a – 4 ) = 0 16) ( a – 5 )( a + 3 ) = 0

17) 0 ÷ a = 0 18) a + a = 0

19) a – a = 0 20) a × a = a

2.6 สมบัติการเทากัน สมบัติการบวกและการคูณของจาํนวนเต็มบวก เมื่อนักเรียนบวกจํานวนสองจํานวน เชน 27 กับ 48 นักเรียนจะใชจํานวนใดเปนตัวต้ังก็ได

เพราะผลลัพธเทากัน นัน่คือ

27 + 48 = 48 + 27

จํานวนเต็มบวกทุกจํานวนและศูนยมีสมบัติการบวกดังกลาวขางตน เราเรียกสมบัตินี้วา สมบัติ

การสลับที่สําหรับการบวก

ในทาํนองเดียวกันเมื่อคูณจํานวนเต็มบวก( หรือศูนย ) สองจํานวนใดๆ เชน 62 กับ 100 จะได

62 × 100 = 100 × 62

สมบัติขอนี้เรียกวา สมบัติการสลับที่สําหรับการคูณ

พิจารณาการบวกจํานวนมากกวาสองจํานวนข้ึนไป เชน ในการหาผลบวกของ 5 + 15 + 32

สมมุติวาจะไมเปล่ียนแปลงลําดับของจํานวนทัง้สามที่เรียงไว

ถาจะหา 5 + 15 กอน เขียน 5 + 15 ไวในวงเล็บแลวหาผลบวกดังนี ้

( 5 + 15 ) + 32 = 20 + 32 = 52

ถาจะหา 15 + 32 กอน เขียน 15 + 32 ไวในวงเล็บแลวหาผลบวกดังนี ้

5 + ( 15 + 32 ) = 5 + 47 = 52

จะเหน็วา ( 5 + 15 ) + 32 = 5 + ( 15 + 32 )

จํานวนเต็มบวกทุกจํานวนและศูนยมีสมบัติดังกลาว เรียกสมบัตินีว้า สมบัติการเปลี่ยนกลุม

สําหรับการบวก

นักเรียนคิดวา จํานวนเต็มบวกทุกจํานวนและศูนยมสีมบัติการเปล่ียนกลุมสําหรับการคูณ

หรือไม ใหยกตัวอยาง

ในการเขียนสมบัติตางๆ ของจํานวนเต็มบวกเพื่อใหส้ันและกะทัดรัด เราใชประโยคที่มีตัวแปร

แทนจํานวนเต็มบวกใดๆ ประโยคขางลางเปนจริงสําหรับทุกจํานวนที่แทน a , b และ c

-49-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

( a + b ) + c = a + ( b + c )

a + b = b + a ab = ba

สมบัติการเปลี่ยนกลุม

ให a , b และ c แทนจํานวนเต็มบวกใดๆ ให a , b และ c แทนจํานวนเต็มบวกใดๆ

( ab )c = a( bc )

การบวก การคูณ

สมบัติการสลับท่ี

ให a และ b แทนจํานวนเต็มบวกใดๆ ให a และ b แทนจํานวนเต็มบวกใดๆ

สมบัติการแจกแจงเปนสมบัติที่เชื่อมระหวางการบวกและการคูณดังในตัวอยาง

3 (7 5)× + = (3 7) (3 5)× + ×

(10 3) 4+ × = (10 4) (3 4)× + ×

สมบัติการแจกแจง

ให a , b และ c แทนจํานวนเต็มบวกใดๆ

a( b + c ) = ( ab ) + ( ac )

( b + c )a = ( ba ) + ( ca )

อันที่จริงแลว สมบัติการสลับที่สําหรับการบวกและการคูณ สมบัติการเปล่ียนกลุมสําหรับการ

บวกและการคูณ และสมบัติการแจกแจงสําหรับการคูณบนการบวก เปนสมบัติของจํานวนทกุ

จํานวน ซึ่งนักเรียนจะไดพบในตอนตอไป

จากประโยคทีเ่ขียนแสดงสมบัติตางๆ ขางตน นกัเรียนควรสงัเกตไดวามีการใชวงเล็บเพื่อ

แสดงลําดับของการคํานวณ เชน เมื่อเขียน a× ( b + c ) หมายความวา ตองหาผลบวกของ b กับ

c กอน แลวจงึนาํผลบวกมาคูณกับ a แตถาเขียน ( a× b ) + ( a× c ) หมายความวา a× b และ

a× c เสร็จแลวนําผลคูณมาบวกกัน

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี ขอ 1. จงบอกวาแตละขอตอไปนี้ใชสมบัติการเทากนัในขอใด ( สมบัติการสลับที ่ , สมบัติ

การเปล่ียนกลุม หรือ สมบัติการแจกแจง )

1) ( a + b )× 2 = 2× ( a + b ) ………………………………...

2) mn + ( xy + pq ) = ( mn + xy ) + pq ………………………………...

แบบฝกหัดที่ 4

-50-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

3) ( 3× 50 ) + ( 3× 20 ) – ( 3× 10 ) = 3× 60 ………………………………...

4) 2x + 2y + 2z = 2( x + y + z ) ………………………………...

5) ( a + b )c = ac + bc ………………………………...

6) [ (-2) + (-3) ] + (-4) = (-2) + [ (-3) + (-4) ] ………………………………...

7) ( 3 + m )× ( 2 – n ) = ( 2 – n )× ( 3 + m ) ………………………………...

8) ( a2× b2 )× c2 = a2

× ( b2× c2 ) ………………………………...

9) (-21) + (-12) = (-12) + (-21) ………………………………...

10) ( a× b )× c = c× ( a× b ) ………………………………...

11)mn + ( xy + pq ) = ( mn + xy ) + pq ………………………………...

12) ( 3× 50 ) + ( 3× 20 ) – ( 3× 10 ) = 3× 60 ………………………………...

13) 2x + 2y + 2z = 2( x + y + z ) ………………………………...

14) ( a + b )c = ac + bc ………………………………...

15) [ (-2) + (-3) ] + (-4) = (-2) + [ (-3) + (-4) ] ………………………………...

16) ( 3 + m )× ( 2 – n ) = ( 2 – n )× ( 3 + m ) ………………………………...

17) ( a2× b2 )× c2 = a2

× ( b2× c2 ) ………………………………...

18) (-21) + (-12) = (-12) + (-21) ………………………………...

19) ( a× b )× c = c× ( a× b ) ………………………………...

ขอ 2. จงเติมคําตอบลงในชองวางใหถูกตอง

1) 35 + 38 = ( ใชสมบัติการสลับที่ )

2) 25× (-36) = ( ใชสมบัติการสลับที่ )

3) ( a + b )× ( x + y ) = ( ใชสมบัติการสลับที่ )

4) mx + my = ( ใชสมบัติการสลับที่ )

5) 24 + ( 36 + 48 ) = ( ใชสมบัติการเปลี่ยนกลุม )

6) [ (-32)× (-18) ]× (-7) = ( ใชสมบัติการเปลี่ยนกลุม )

7) ( abc + pqr ) + xyz = ( ใชสมบัติการเปลี่ยนกลุม )

8) 2a× ( 3b× 4c ) = ( ใชสมบัติการเปลี่ยนกลุม )

-51-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

9) 4× ( 5 + 9 ) = ( ใชสมบัติการแจกแจง )

10) ( 8 – 2 )× 7 = ( ใชสมบัติการแจกแจง )

11) a× ( 8 – 7 + 6 ) = ( ใชสมบัติการแจกแจง )

12) ( x + y – z )× 3 = ( ใชสมบัติการแจกแจง )

ขอ 3. จงเติมคําตอบลงในชองวางใหถูกตอง พรอมทัง้บอกสมบัติการเทากนัที่ใชในแตละขอ

1) 2× ( a – b ) = – ( 2× b )

ใชสมบัติ ......................................................

2) (-2)× [ (-3)× 4 ] = × 4

ใชสมบัติ ......................................................

3) ( 15 + 4 )× 8 = ( 15× 8 ) +

ใชสมบัติ ......................................................

4) (-14) + = (-17) + (-14)

ใชสมบัติ ......................................................

5) (-2)× [ (-3) + (-4) ] = [ (-2)× ] + [ (-2)× ]

ใชสมบัติ ......................................................

6) ( 8a× 4 ) – ( ) + ( 8a× b ) = 8a× ( – 5 + 6 )

ใชสมบัติ ......................................................

7) (-5) + 10 = + (-5)

ใชสมบัติ ......................................................

8) ( a + b )× m = m×

ใชสมบัติ ......................................................

9) (ab)c = a( )

ใชสมบัติ ......................................................

10) ( a – b – c )× 4= ( a× 4 ) – –

ใชสมบัติ ......................................................

-52-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

0 2 1 4 3 6 -1 -2 5

-4 -2 -3 0 -1 2 -5 -6 1

-6 -2 -1 -4 -3 0 -7 -5 -8

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง สามารถบวกจํานวนเต็มได

2.7 การบวกจํานวนเต็ม การบวกระหวางจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มลบ นักเรียนเคยแสดงการหาผลบวกของจํานวนเต็มบวกบนเสนจํานวนแลว เชน 3 + 2

ลูกศรที่แสดงการบวกดวย 2 ชี้ไปทางไหน ซายหรือขวา

เราจะใชหลักเกณฑอยางเดียวกนัในการแสดงการหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มลบกับ

จํานวนเต็มลบบนเสนจํานวนดังตัวอยาง

1) หาผลบวก (-3) + (-2) แสดงไดดังนี้

ลูกศรที่แสดงการบวกดวย -2 ชี้ไปทางไหน

นักเรียนคิดวาจะอานคําตอบไดอยางไร

2) หาผลบวก (-3) + (-5) แสดงไดดังนี้

เพื่อจะหาวิธีบวกระหวางจํานวนเต็มลบกบัจํานวนเต็มลบ ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้

1. จงแสดงการหาผลบวกตอไปน้ีบนเสนจํานวน

(-4) + (-1) , (-2) + (-4) , (-7) + (-2)

2. นักเรียนคิดวา ผลบวกระหวางจํานวนเต็มลบสองจํานวนจะเปนจํานวนเต็มลบเสมอไป

หรือไม

3. ใหนักเรียนหาผลบวก (-4) + (-1) โดยนําคาสัมบูรณของ -4 และ -1 มาบวกกันแลวตอบ

เปนจํานวนเต็มลบ นกัเรียนไดคําตอบเทากับทีห่าไดในขอ 1 หรือไม

4. ใหนักเรียนใชวิธีการเชนเดียวกับในขอ 3 หาผลบวก (-2) + (-4) , (-7) + (-2) นกัเรียน

ไดคําตอบเทากับทีห่าไดในขอ 1 หรือไม

-53-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

1 5 6 3 4 7 0 2 -1

-1 3 4 1 2 5 -2 0 -3

โดยทัว่ไปการหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มลบ จะใชวิธีการเชนเดียวกับใน

ขอ 3 ใหนักเรียนใชวธิีการดังกลาวหาผลบวกตอไปนี ้

1) (-25) + (-3)

2) (-3) + (-25)

3) (-12) + (-8)

4) (-8) + (-12)

ตัวอยางที ่1 จงหาผลบวก (-14) + (-16)

วิธีทาํ (-14) + (-16) = -30 ตอบ

ตัวอยางที ่2 จงหาผลลัพธโดยบวกสองจํานวนที่อยูในวงเล็บใหญกอน (-7) + [(-5) + (-26)]

วิธีทาํ (-7) + [(-5) + (-26)] = (-7) + (-31)

= -38 ตอบ

การบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบ ใหนักเรียนพิจารณาการแสดงการหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบ

บนเสนจํานวน ในกรณีจํานวนที่เปนจํานวนเต็มบวกมีคาสัมบูรณมากกวา ดังตัวอยาง

1) หาผลบวก 6 + (-4) แสดงไดดังนี ้

6 + (-4) = 2

2) หาผลบวก (-2) + 5 แสดงไดดังนี้

(-2) + 5 = 3

ในการหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มลบกับจํานวน

เต็มลบ ใหนําคาสัมบูรณของจํานวนเต็มลบแตละ

จํานวนมาบวกกัน แลวตอบเปนจํานวนเต็มลบ

-54-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

-2 2 3 0 1 4 -3 -1 -4

-6 -2 -1 -4 -3 0 -7 -5 1

เพื่อจะหาวิธีบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบ ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี้

1. จงแสดงการหาผลบวกตอไปน้ีบนเสนจํานวน 5 + (-3) , (-4) + 7

2. คําตอบในขอ 1 เปนจํานวนเต็มบวกหรือจํานวนเตใมลบ

3. ใหนักเรียนหาผลบวก 5 + (-3) โดยนาํคาสัมบูรณของ 5 และของ –3 มาลบกัน แลว

ตอบเปนจํานวนเต็มบวก นกัเรียนไดคําตอบเทากับทีห่าไดในขอ 1 หรือไม

4. ใหนักเรียนใชวิธีการเชนเดียวกับในขอ 3 หาผลบวก (-4) + 7 นักเรียนไดคําตอบเทากับ

ที่หาไดในขอ 1 หรือไม

5. ใหนักเรียนหาผลบวกตอไปนี้โดยนําคาสัมบูรณมาลบกนั แลวตอบเปนจํานวนเต็มบวก

ใหนักเรียนสังเกตวาจํานวนที่เปนจํานวนเต็มบวกมีคาสัมบูรณมากกวา

1) 10 + (-5)

2) 12 + (-4)

3) (-4) + 12

4) (-4) + 5

5) (-5) + 10

6) 5 + (-4)

7) 29 + (-3)

8) (-3) + 29

ใหนักเรียนพิจารณาการแสดงการหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบบน

เสนจํานวน ในกรณีจํานวนที่เปนจํานวนเต็มลบมีคาสัมบูรณมากกวา ดังตัวอยาง

1) หาผลบวก 3 + (-5) แสดงไดดังนี ้

3 + (-5) = -2

2) หาผลบวก (-6) + 2 แสดงไดดังนี้

(-6) + 2 = -4

เพื่อจะหาวิธีบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบ ใหนกัเรียนตอบคําถาม

ตอไปนี้

1. จงแสดงการหาผลบวกตอไปน้ีบนเสนจํานวน (-8) + 5 , 4 + (-9)

2. คําตอบที่ไดในขอ 1 เปนจํานวนเต็มบวกหรือจํานวนเต็มลบ

-55-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

3. ใหนักเรียนหาผลบวก (-8) + 5 โดยนําคาสัมบูรณของ -8 และของ 5 มาลบกัน แลว

ตอบเปนจํานวนเต็มลบ นกัเรียนไดคําตอบเทากับทีห่าไดในขอ 1 หรือไม

4. ใหนักเรียนใชวิธีการเชนเดียวกับในขอ 3 หาผลบวก 4 + (-9) นักเรียนไดคําตอบเทากับ

ที่หาไดในขอ 1 หรือไม

5. ใหนักเรียนหาผลบวกตอไปนี้ โดยนาํคาสัมบูรณมาลบกนั แลวตอบเปนจํานวนเต็มลบ

ใหนักเรียนสังเกตวาจํานวนที่เปนจํานวนเต็มลบ มีคาสัมบูรณมากกวา

1) (-7) + 4

2) (-12) + 6

3) 3 + (-9)

4) 2 + (-11)

5) (-10) + 2

6) 3 + (-16)

7) (-23) + 13

8) 15 + (-28)

หลักเกณฑการบวกจํานวนเต็มมี ดังนี ้1. การหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มบวก ใหนําคาสัมบูรณมาบวกกัน แลวตอบเปนจํานวน

เต็มบวก

2. การหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มลบ ใหนาํคาสัมบูรณมาบวกกัน แลวตอบเปนจํานวน

เต็มลบ

3. การหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบที่มีคาสัมบูรณไมเทากัน ใหนํา

คาสัมบูรณมาลบกัน แลวตอบเปนจํานวนเต็มบวกหรือลบ ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณ

มากกวา

จงหาผลบวกโดยใชหลักเกณฑที่สรุปไวขางตน

1. 15 + 5

2. 5 + 15

3. 21 + (-8)

4. (-8) + 21

5. (-19) + (-1)

6. (-1) + (-19)

7. 4 + (-7)

8. (-7) + 4

9. 1 + (-5)

10. (-5) + 1

ในการหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับ

จํานวนเต็มลบที่มีคาสัมบูรณไมเทากัน ใหนําคา

สัมบูรณมาลบกัน แลวตอบเปนจํานวนเต็มบวก

หรือลบ ตามจํานวนที่มีคาสัมบูรณมากกวา

-56-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

-2 3 -1 5 6 0 2 4 1

3 -2 -1 -4 -3 0 2 -5 1

ตัวอยางท่ี 3 จงหาผลบวก 32 + (-17)

วิธีทาํ 32 + (-17) = 15 ตอบ

ตัวอยางท่ี 4 จงหาผลบวก [(-19) + 8] + (-2)

วิธีทาํ [(-19) + 8] + (-2) = (-11) + (-2)

= -13 ตอบ

ใหนักเรียนพิจารณาการแสดงการหาผลบวกระหวางจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบบน

เสนจํานวน ในกรณีจํานวนทั้งสองมีคาสัมบูรณเทากัน ดังตัวอยาง

1) หาผลบวก 5 + (-5) แสดงไดดังนี ้

5 + (-5) = 0

2) หาผลบวก (-3) + 3 แสดงไดดังนี้

(-3) + 3 = 0

ใหนักเรียนสังเกตวา -5 เปนจํานวนตรงขามของ 5

และ 3 เปนจํานวนตรงขามของ -3

ผลบวกที่ได คือ 5 + (-5) = 0 และ (-3) + 3 = 0 ซึ่งเปนไปตามสมบัติที่วา ผลบวกของ

จํานวนใดๆ กบัจํานวนตรงขามของจํานวนนั้นตองเปน 0

ใหนักเรียนทําแบบฝกหัดตอไปนี้

1. จงหาผลบวก

1) 12 + (-12)

2) 68 + (-68)

3) (-39) + 39

4) (-521) + 521

2. ถา a เปนจํานวนใดๆ จงหาผลบวก

1) a + (-a)

2) (-a) + a

-57-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี จงหาผลบวกบนเสนจํานวนตอไปนี ้

1) (-3) + (-4)

2) (-1) + (-5)

3) 7 + (-3)

4) 4 + (-9)

5) (-2) + 7

6) (-4) + 10

7) (-5) + (-3)

แบบฝกหัดที่ 5

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-58-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

8) 4 + (-11)

9) (-8) + 13

10) 9+ (-4)

11) (-9) + 5

12) 8 + (-8)

ใหนักเรยีนแสดงวธิีทํา (ลงในสมุด)

ขอ 1. จงหาผลลัพธ

(-5) + (-8) = ………………..

(-8) + (-5) = ………………..

(-7) + (-1) = ………………..

(-1) + (-7) = ………………..

(-19) + (-6) = ………………..

(-6) + (-19) = ………………..

(-46) + (-57) = ………………..

(-57) + (-46) = ………………..

(-214) + (-49) = ………………..

(-49) + (-214) = ………………..

(-25) + (-145) = ………………..

(-145) + (-25) = ………………..

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

-9 -8 -7 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9

แบบฝกหัดเพ่ิมเติม 3

-59-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 2. นกัเรียนคิดวา จํานวนเต็มลบมีสมบัติการสลับทีสํ่าหรับการบวกหรือไม

ขอ 3. จงหาจาํนวนที่แทน x แลวทาํใหไดประโยคที่เปนจริง

x + (-5) = -6 ……………...

(-2) + x = -9 ……………...

x + (-10) = -15 ……………...

(-12) + x = -21 ……………...

ขอ 4. จงหาผลลัพธโดยบวกสองจํานวนที่อยูในวงเล็บใหญกอน

(-3) + [(-1) + (-8)] =

[(-3) + (-1)] + (-8) =

(-2) + [(-4) + (-5)] =

[(-2) + (-4)] + (-5) =

[(-10) + (-6)] + (-7) =

(-10) + [(-6) + (-7)] =.

[(-17) + (-13)] + (-9) =

(-17) + [(-13) + (-9)] =

.

ขอ 5. นกัเรียนคิดวา จํานวนเต็มลบมีสมบัติการเปล่ียนกลุมสําหรับการบวกหรือไม …………….......

ขอ 6. จงหาผลบวก

20 + 200 = ………………….

200 + 20 = ………………….

(-6) + (-18) = ………………….

(-18) + (-6) = ………………….

(-1) + (-11) = ………………….

(-11) + (-1) = ………………….

(-3) + 40 = ………………….

40 + (-3) = ………………….

26 + (-42) = ………………….

(-42) + 26 = ………………….

ขอ 7. ใหนักเรียนแทน a และ b ดวยจาํนวนทีก่ําหนดใหในประโยค a + b = b + a แลวดูวาประโยค

ที่ไดเปนจริงหรือเท็จ

a = 5 , b = 6 3) a = 23 , b = -9

………………………………………… …………………………………………

………………………………………… …………………………………………

………………………………………… …………………………………………

a = -2 , b = -8 4) a = 6 , b = -11

………………………………………… …………………………………………

………………………………………… …………………………………………

………………………………………… …………………………………………

ขอ 8. จากขอ 6 และขอ 7 นกัเรียนคิดวา การบวกจํานวนเต็มมีสมบัติการสลับทีห่รือไม .............

-60-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 9. ใหนักเรียนแทน a , b และ c ดวยจํานวนทีก่ําหนดใหในประโยค ( a + b ) + c = a + ( b + c )

แลวดูวาประโยคที่ไดเปนจริงหรือเท็จ

a = 3 , b = 4 , c = 2 a = -1 , b = 3 , c = 5

a = -5 , b = -2 , c = 7 a = 23 , b = -14 , c = -6

a = -8 , b = -19 , c = -10

ขอ 10.นักเรียนคิดวา จํานวนเต็มมีสมบัติการเปล่ียนกลุมสําหรับการบวกหรือไม ..........................

ขอ 11. จงหาผลบวก

(-16) + 8 + (-4) = ……………….….

(-2) + 3 + 2 = ……………….….

(-5) + (-5) + 5 = ……………….….

8 + 2 + (-10) = ……………….….

13 + (-9) + (-1) = ……………….….

24 + 7 + (-6) = ……………….….

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง สามารถลบจํานวนเต็มได

2.8 การลบจํานวนเต็ม ในการลบจํานวนเต็มนัน้ เราอาศัยการบวกตามขอตกลงดังนี ้

ตัวอยางเชน 6 – 2 = 6 + (-2)

2 – 6 = 2 + (-6)

(-15) – 3 = (-15) + (-3)

4 – (-9) = 4 + 9

(-13) – (-11) = (-13) + 11

ใหนักเรียนเขียนการลบตอไปนี้ในรูปการบวกดวยจํานวนตรงขามของตัวลบ ตามตัวอยาง

ขางตน

1. 8 – 5

2. 3 – 4

3. 7 – 12

4. (-2) – 4

5. (-9) – 5

6. (-10) – 12

7. 3 – (-7)

8. 20 – (-9)

9. 16 – (-30)

10. (-3) – (-8)

11. (-5) – (-2)

12. (-4) – (-16)

ตัวต้ัง – ตัวลบ = ตัวต้ัง + จาํนวนตรงขามของตัวลบ

-61-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

เมื่อเขียนการลบใหอยูในรูปการบวกแลวจึงหาผลบวกของจํานวนเต็มตามวิธกีารบวกที่เคยสรุป

ไว ดังตัวอยางตอไปนี้

ตัวอยางท่ี 1 จงหาผลลบ (-3) – 4

วิธีทาํ (-3) – 4 = (-3) + (-4)

= -7 ตอบ

ตัวอยางท่ี 2 จงหาผลลบ 2 – (-3)

วิธีทาํ 2 – (-3) = 2 + 3

= 5 ตอบ

ตัวอยางท่ี 3 จงหาผลลบ (-2) – (-6)

วิธีทาํ (-2) – (-6) = (-2) + 6

= 4 ตอบ

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี ขอ 1. จงหาผลลัพธตอไปนี ้

1) 3 – 12 = 2) 18 – 23 =

3) -9 + 16 = 4) 132 – 184 =

5) 336 – 363 = 6) -75 + 199 =

7) 48 – 32 – 64 = 8) 15 – 18 + 14 – 20 =

9) -12 + 15 – 17 + 18 = 10) 25 – 36 + 17 – 35 =

11) 42 – 50 – 17 – 8 = 12) -19 – 18 – 17 – 16 =

13) -76 + 77 – 79 + 72 = 14) 35 – 32 – 38 + 30 =

15) (-5) + 8 = 16) 12 – 9 =

17) (-4) + (-8) = 18) (-12) + (-15) + (-9) =

19) -12 + 7 = 20) (-18) + 11 =

21) 24 – (-19) = 22) -(-8) – (-4) =

23) (-21) + (-13) = 24) (-41) – (-8) =

แบบฝกหัดที่ 6

-62-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

25) [(-12) + (-13)] – 15 = 26) -8 – [ 4 – (-9)] =

= =

= =

27) 3 – [(-7) + (-8)] = 28) ( -12 – 15 ) – ( 15 – 19 ) =

= =

= =

ให a = -1 , b = -3 , c= -5 จงหาคาของ

29) a + b + c = 30) a – b – c =

= =

31) a + ( b – c ) = 32) ( a – b ) + c =

= =

ให a = 3 , b = -2 , c = -1 จงหาคาของ

33) a – b + c = 34) ( a + b ) – c =

= =

35) a – ( b + c ) = 36) c – ( a – b ) =

= =

ให P = 2 , Q = -2 , R = 1 , S = 1 จงหาคาของ

37) P + Q – R + S = 38) ( P – Q ) + ( R – S ) =

= =

ใหนักเรยีนแสดงวธิีทํา (ลงในสมุด) ขอ 1. จงหาผลลบ

7 – 9 = ……………………………...

...........................................

2 – 15 = ……………………………...

...........................................

0 – 26 = ……………………………...

...........................................

(-27) – 8 = …………………………….

.........................................

(-3) – 14 = …………………………….

.........................................

(-18) – 3 = …………………………….

.........................................

0 – (-10) = ……………………………...

...........................................

แบบฝกหัดเพ่ิมเติม 4

-63-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

6 – (-45) = ……………………………...

...........................................

104 – (-30) = …………………………...

.......................................

(-49) – (-49) = ………………………….

......................................

(-31) – (-22) = ………………………….

.........................................

(-15) – (-16) = …………………………….

........................................

ขอ 2. จงหาคาของ y ที่ทาํใหประโยคตอไปนี้เปนจริง

1) 0 – 2 = y …………………

2) (-1) – 0 = y …………………

3) 0 – 0 = y …………………

4) 0 – (-5) = y …………………

5) 8 – y = 0 …………………

6) 0 – y = 0 …………………

7) (-3) – y = 0 …………………

8) y – 6 = 0 …………………

9) y – 4 = -1 …………………

10) 0 – y = 7 …………………

ขอ 3. จงหาคาของ ( a + b ) – c เมื่อ

1) a = 3 , b = -6 , c = 5

2) a = 4 , b = -3 , c = -2

3) a = 8 , b = -8 , c = -1

ขอ 4. จงหาคาของ a + ( b – c ) เมื่อ

1) a = 4 , b = -6 , c = -6

2) a = -7 , b = -18 , c = -24

3) a = -5 , b = 3 , c = 3

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง

สามารถคูณจํานวนเต็มได 2.9 การคูณจํานวนเต็ม

การคูณจํานวนเต็มมีสมบัติการสลับที่ การเปล่ียนกลุม และการแจกแจงบนการบวก ซึ่งเราจะ

ใชสมบัติเหลานี้ในการหาผลคูณ การคูณจํานวนเต็มบวกกบัจํานวนเต็มลบ ใหนักเรียนพิจารณาตัวอยางตอไปนี้

4 × 2 = 2 + 2 + 2 + 2

2 × 5 = 5 + 5

5 × 7 = 7 + 7 + 7 + 7 + 7

ตัวอยางเหลานี้แสดงความหมายของการคูณ

-64-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ในทาํนองเดียวกัน

3 × (-4) = (-4) + (-4) + (-4)

= -12

ใหนักเรียนเขียนการคูณจํานวนตอไปนี้ในรูปการบวกแลวหาผลลัพธ

1. 5 × (-2)

2. 3 × (-1)

3. 12 × (-3)

เพื่อจะหาวิธีคูณจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบใหรวดเร็วข้ึน ใหนักเรียนตอบคําถามตอไปนี ้

1. ใหนักเรียนหาผลคูณ 6 × (-5) โดยเขียนการคูณใหอยูในรูปการบวกกอน

2. คําตอบที่ไดในขอ 1 เปนจํานวนเต็มบวกหรือจํานวนเต็มลบ

3. ใหนักเรียนหาผลคูณ 6 × (-5) โดยนาํคาสัมบูรณของ 6 ไปคูณกับคาสัมบูรณของ –5

แลวตอบเปนจํานวนเต็มลบ นักเรียนไดคําตอบเทากับคําตอบในขอ 1 หรือไม

4. ใหนักเรียนใชวิธีการเชนเดียวกับในขอ 3 หาผลคูณตอไปนี ้

1) 3 × (-2)

2) 7 × (-3)

3) 4 × (-6)

4) 15 × (-4)

การคูณจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มบวก

ใหนักเรียนพิจารณาผลคูณตอไปนี้

1. 5 × (-2)

2. (-2) × 5

นักเรียนจะหาผลคูณในขอ 1 โดยเขียนเปนรูปการบวกของ -2 ไดหรือไม

นักเรียนจะหาผลคูณในขอ 2 โดยเขียนเปนรูปการบวกของ 5 ไดหรือไม

ในการหาผลคูณ (-2) × 5 เราจะใชสมบัติการสลับที่สําหรับการคูณจํานวนเต็ม ดังนี ้

(-2) × 5 = 5 × (-2)

= -10

จํานวนเต็มบวกคูณจํานวนเต็มลบ ไดคําตอบ

เปนจํานวนเต็มลบที่มีคาสัมบูรณเทากับผลคูณ

ของคาสัมบูรณของสองจํานวนนัน้

-65-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ใหนักเรียนหาผลคูณตอไปนี้ โดยอาศัยวิธคูีณจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบ ตามตัวอยาง

ขางตน

1. (-3) × 7

2. (-10) × 4

3. (-15) × 8

4. (-32) × 41

นักเรียนหาผลคูณของจํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มบวกไดอยางไร

เพื่อจะหาวิธีคูณของจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มบวก ใหนกัเรียนตอบคําถามตอไปนี ้

1. ใหนักเรียนหาผลคูณ (-4) × 6 โดยอาศัยการคูณจํานวนเต็มบวกกับจํานวนเต็มลบ

2. คําตอบที่ไดในขอ 1 เปนจํานวนเต็มบวกหรือจํานวนเต็มลบ

3. ใหนักเรียนหาผลคูณ (-4) × 6 โดยนาํคาสัมบูรณของ -4 ไปคูณกับคาสัมบูรณของ 6

แลวตอบเปนจํานวนเต็มลบ นักเรียนไดคําตอบเทากับคําตอบในขอ 1 หรือไม

4. ใหนักเรียนใชวิธีเชนเดียวกบัในขอ 3 หาผลคูณตอไปนี้

1) (-5) × 4

2) (-11) × 9

3) (-13) × 6

4) (-15) × 8

วิธีคูณจํานวนเต็มบวกกบัจํานวนเต็มลบ และวิธีคูณจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มบวก

เหมือนกนัไม ตัวอยางท่ี 1 จงหาผลคูณ 38 × (-5)

วิธีทาํ 38 × (-5) = -190 ตอบ

ตัวอยางท่ี 2 จงหาผลคูณ (-26) × 20

วิธีทาํ (-26) × 20 = -520 ตอบ

จํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มบวก ไดคําตอบ

เปนจํานวนเต็มลบ ที่มีคาสัมบูรณเทากับผลคูณ

ของคาสัมบูรณของสองจํานวนนัน้

-66-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

การคูณจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มลบ ในการหาผลคูณของจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มลบ เชน (-3) × (-2) เราจะใชสมบัติการ

แจกแจงดังนี ้

เนื่องจาก (-2) + 2 = 0

ฉะนัน้ (-3) × [(-2) + 2] = (-3) × 0

= 0

จากสมบัติการแจกแจง

(-3) × [(-2) + 2] = [(-3) × (-2)] + [(-3) × 2]

ฉะนัน้ [(-3) × (-2)] + [(-3) × 2] = 0

เราทราบวา (-3) × 2 = -6

ฉะนัน้ [(-3) × (-2)] + (-6) = 0

ประโยคขางตนกลาววา (-3) × (-2) เปนจํานวนที่บวกกับ (-6) แลวได 0 แตจํานวนที่บวก

กับ -6 แลวได 0 มีอยูจํานวนเดียว คือ 6

ดังนัน้ (-3) × (-2) = 6

โดยทัว่ๆ ไปเราสามารถพิสูจนไดวา ผลคูณของจํานวนเต็มลบกับจํานวนเต็มลบเปนจํานวน

เต็มบวกเสมอ

ใหนักเรียนหาผลคูณ (-3) × (-2) โดยนําคาสัมบูรณของ -3 ไปคูณกับคาสัมบูรณของ -2 แลว

ตอบเปนจํานวนเต็มบวก นกัเรียนไดคําตอบเทากับทีท่าํมาขางตนหรือไม

ใหนักเรียนหาผลคูณตอไปนี้ โดยใชวธิีหาผลคูณของคาสัมบูรณ

1. (-1) × (-2)

2. (-1) × (-1)

3. (-9) × (-5)

4. (-36) × (-4)

จํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มลบ ไดคําตอบเปน

จํานวนเต็มบวก ที่มีคาสัมบูรณเทากับผลคูณของ

คาสัมบูรณของสองจํานวนนัน้

-67-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

หลักการคูณจํานวนเต็มสรุปยอๆ ได ดังนี้ 1. จํานวนเต็มบวกคูณจํานวนเต็มบวก ผลลัพธเปนจํานวนเต็มบวก

เชน 9 × 7 = 63

2. จํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มลบ ผลลัพธเปนจํานวนเต็มบวก

เชน (-9) × (-7) = 63

3. จํานวนเต็มบวกคูณจํานวนเต็มลบ หรือจํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มบวก ผลลัพธเปน

จํานวนเต็มลบ

เชน 9 × (-7) = -63

(-9) × 7 = -63

ตัวอยางที ่3 จงหาผลคูณ (-15) × (-12)

วิธีทาํ (-15) × (-12) = 180 ตอบ

ตัวอยางท่ี 4 จงหาผลคูณ [9 × (-13)] × (-7)

วิธีทาํ [9 × (-13)] × (-7) = (-117) × (-7)

= 819 ตอบ

ใหนักเรยีนแสดงวธิีทํา (ลงในสมุด) ขอ 1. จงหาผลคูณ

1) 4 × (-6) =

2) 2 × (-100) =

3) 4 × (-25) =

4) 20 × (-2) =

5) 52 × (-30) =

6) 36 × (-110) =

ขอ 2. จงหาผลคูณ

1) (-7) × 5 =

2) (-90) × 3 =

3) (-11) × 64 =

4) (-55) × 12 =

5) (-400) × 20 =

6) (-101) × 150 =

แบบฝกหัดเพ่ิมเติม 5

-68-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 3.จงหาผลคูณ

1) (-1) × (-1) =

2) (-1) × 1 =

3) (-5) × 8 =

4) 1 × (-6) =

5) (-20) × 11 =

6) (-12) × (-14) =

7) 47 × (-10) =

8) (-12) × (-12) =

ขอ 4. จงแทนคา a , b และ c ดวยจาํนวนทีก่ําหนดใหในประโยค ( a × b ) × c = a × ( b × c )

แลวดูวาประโยคที่ไดเปนจริงหรือไม

1) a = -1 , b = 4 , c = 3

2) a = 2 , b = -5 , c = 7

3) a = -3 , b = -2 , c = 8

4) a = -2 , b = -3 , c = -6

5) a = 4 , b = 3 , c = -6

ขอ 4. จงหาผลคูณ

1) (-6) × 10 × (-4) =

2) (-1) × (-1) × (-1) =

3) (-7) × (-5) × 8 =

4) (-2) × (-9) × 1 =

5) (-36) × 120 × 5 =

6) 8 × (-10) × (-10) =

7) (-4) × (-7) × (-2) =

8) 10 × (-20) × (-5) × (-2) =

9) 1 × (-7) × (-22) × 53 =

10) (-1) × 1 × 9 × 41 × (-1) =

ขอ 5. จงหาคา b ทีท่ําใหประโยคตอไปนี้เปนจริง

1) b × 3 = -12

2) 7 × b = -7

3) (-2) × b = 8

4) (-1) × b = 1

5) b × 1 = -1

6) 6 × (-10) × b = -60

7) 100 × b = -500

8) (-1) × b = 4

9) (-5) × b × (-5) = -125

10) (-1) × b × (-1) = 1

ขอ 6. จงหาคา x เมื่อกาํหนด a , b และ c ใหดังนี ้

x = a × b , a = 3 , b = -2

x = -a – c , a = -5 , c = -2

x = a – ( b × c ) , a = -7 , b = -3 , c = -4

x = 5 × ( a – b ) , a = 0 , b = 2

x = ( 6 – a ) × c , a = -1 , c = -2

-69-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 7. จงแทนคา a , b และ c ดวยจาํนวนที่กําหนดให

เพื่อหาคา a × ( b + c ) และ ( a × b ) + ( a × c ) นักเรียนไดผลลัพธเทากนัหรือไม

1) a = 5 , b = 1 , c = -1

2) a = -7 , b = -3 , c = -2

3) a = -4 , b = -8 , c = 1

4) a = -1 , b = 6 , c = -3

5) a = 6 , b = -12 , c = -7

ขอ 8. จงแทน a , b และ c ดวยจํานวนทีก่ําหนดให

เพื่อหาคา ( b + c ) × a และ ( b × a ) + ( c × a ) นักเรียนไดผลลัพธเทากนัหรือไม

1) a = 4 , b = 1 , c = -2

2) a = -5 , b = 4 , c = -9

3) a = -4 , b = -6 , c = -5

4) a = -7 , b = -2 , c = 8

5) a = 8 , b = -2 , c = -10

ขอ 9. จงเติมจาํนวนในชองทีเ่วนไวใหถกูตอง

1) (-2) × ( a + b ) = [(-2) × a] + [(-2) × …….. ]

2) (-7) × ( a + b ) = [(-7) × a] + [ …… × …… ]

3) ( 2 + c ) × …… = 8 + ( c × 4 )

4) 3 × ( b + …… ) = ( 3 × b ) + (-12)

5) ( x × y ) + ( x × z ) = x × ( …… + …… )

6) ( …… × …… ) + ( z × x ) = ( y + z ) × x

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง

สามารถหารจํานวนเต็มได

2.10 การหารจํานวนเต็ม นักเรียนตอบไดหรือไมวาเพราะเหตุใด 24 หารดวย 8 จงึได 3

ใหนักเรียนพิจารณาประโยคทั้งคูขางลาง

24

8 = 3

8 3× = 24

ตัวต้ัง

ตัวหาร ผลหาร

-70-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ประโยค 8 3× = 24 เปนตัวอยางหนึง่ที่แสดงวา

ตัวหาร × ผลหาร = ตัวต้ัง

เราจะใชหลักขอนี้หาผลหารของจํานวนเต็มดังตอไปนี้

1. หาผลหาร 30

5

ให 30

5

− = a

ดังนัน้ a×5 = -30

เนื่องจาก 5 ( 6)× − = -30

ฉะนัน้ a = -6

ดังนัน้ 30

5

− = -6

2. หาผลหาร 30

5−

ให 30

5− = a

ดังนัน้ ( 5) a− × = 30

เนื่องจาก ( 5) ( 6)− × − = 30

ฉะนัน้ a = -6

ดังนัน้ 30

5− = -6

3. หาผลหาร 30

5

−−

ให 30

5

−−

= a

ดังนัน้ ( 5) a− × = -30

เนื่องจาก ( 5) 6− × = -30

ฉะนัน้ a = 6

ดังนัน้ 30

5

−−

= 6

-71-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ใหนักเรียนทําแบบฝกหัดตอไปนี้

1. ให a แทนผลลัพธ จงเปล่ียนประโยคตอไปนี้ใหอยูในรูปการคูณ แลวหาคาของ a

1) 14

7 = a

2) 18

2

− = a

3) 5

1− = a

4) 7

1

−−

= a

5) 1

1

−−

= a

2. จากขอ 1 ใหนักเรียนหาผลลัพธ a ในแตละขอ โดยนาํคาสัมบูรณของตัวต้ังและของตัวหาร

มาหารกนั

ถาทัง้ตัวต้ังและตัวหารเปนจํานวนเต็มบวกทั้งคูหรือจํานวนเต็มลบทั้งคูก็ตอบเปนจาํนวน

เต็มบวก

ถาตัวต้ังหรือตัวหารตัวใดตัวหนึง่เปนจํานวนเต็มลบโดยทีอี่กตัวหนึ่งเปนจํานวนเต็มบวก

ก็ตอบเปนจาํนวนเต็มลบ

3. คําตอบในแตละขอที่ไดในขอ 1 และขอ 2 เทากนัหรือไม

ตัวอยางท่ี 1 จงหาผลหาร 444 ÷ (-12)

วิธีทาํ 444 ÷ (-12) = -37 ตอบ

ตัวอยางท่ี 2 จงหาผลลัพธ { }[ ]( 7) ( 9) ( 11) ( 13)− × − + − ÷ −

วิธีทาํ { }[ ]( 7) ( 9) ( 11) ( 13)− × − + − ÷ − = [ ]63 ( 11) ( 13)+ − ÷ −

= 52 ( 13)÷ −

= -4 ตอบ

การหารจํานวนเต็มใหนําคาสัมบูรณของตัวต้ังและ

ของตัวหารมาหารกนั

ถาทัง้ตัวต้ังและตัวหารเปนจํานวนเต็มบวกทั้งคูหรือ

จํานวนเต็มลบทั้งคูจะไดคําตอบเปนจํานวนบวก

ถาตัวต้ังหรือตัวหารตัวใดตัวหนึง่เปนจํานวน

เต็มลบโดยที่อีกตัวหนึ่งเปนจํานวนเต็มบวกจะไดคําตอบ

เปนจํานวนลบ

-72-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี ขอ 1. จงหาคาตอไปนี ้

1) 2 × (-4) =.................................................

2) 2) (-6) × 3 =.................................................

3) (-5) × (-1) =.................................................

4) (-7) × (-8) =.................................................

5) 3 × (-4) × (-1) =...........................................

6) (-8) × (-2) × 2 =...........................................

7) (-4) × (-3) × (-2) =.....................................

8) (-1) × (-1) × (-1) =.....................................

9) (-1)× (-1)× (-1)× (-1) =.....................................

10) [(-3) × 4× (-8) × (-1)] × 0 =............................

11) (3)(-4)(-2) =.................................................

12) 2(-5)(-6) =......................................................

13) –18 ÷ 2 =......................................................

14) 20 ÷ (-5) =................................................

15) 16

18

−−

=.....................................................

16) 15

3

− =.....................................................

17) 14

2− =..........................................................

18) (-25) ÷ (-1) =...............................................

19) 0 ÷ (-18) =...............................................

20) (-20) ÷ 0 =...............................................

แบบฝกหัดที่ 7

-73-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 2. กาํหนดให m = -18 , n = -3 , p = 2 จงหาคาของ

1) m ÷ n =.............................................................

2) p × m =.............................................................

3) n × p =.........................................................

4) m ÷ p =........................................................

5) n ÷ m =............................................................

6) ( n ÷p )× m =.......................................................

ขอ 3. กาํหนดให x = -1 , y = 1 , z = -2 จงหาคาของ

1) xyz =........................................ 2) xz

y =..................................................

3) yz ÷ x =........................................................................................................

4) z ÷ xy =........................................................................................................

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี ขอ 1. จงหาคาของตัวแปรทีแ่ทนประโยคแลวเปนจริง

1) a + a = a 2) a ÷ a = a

3) c× 0 = 0 4) c – c = 0

5) x × (-1) = x 6) 1 ÷ x = -1

7) y + 7 = 0 8) 7y = 0

9) a – 7 = 7 – a 10) a(a – 2) = 0

ขอ 2. จงหาคําตอบในแตละขอ

1) [ 2 + (-3)] ÷ (-1) 2) ( 3 – 8 ) ÷ ( 2 – 3 )

3) ( 4 – 6 )( 6 – 4 ) 4) ( 9 – 11 )( 3 – 6 )

5) ( -2 – 8 ) ÷ ( -1 – 1 ) 6) [ 3 × (-2)][ 2 × (-3)]

7) -3(-1) + 2(-4) 8) 8) (-1)(-1) + 3(-2)

9) ( -1 – 2 )( 3 – 5 )( -4 + 5 ) 10) -12 ÷ (-4)(-3)

แบบฝกหัดที่ 8

-74-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 3. ให T = [( - P + Q )× M ] ÷ K จงหาคาของ T เม่ือ

1) P = 1 , Q = -2 , M = -1 , K = 1 2) P = -2 , Q = 3 , M = 2 , K = -1

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

3) P = 3 , Q = -1 , M = 0 , K = -3 4) P = 1 , Q = -1 , M = 1 , K = -1

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

ขอ 4. กาํหนดให a = -1 , b = 2 , c = -2 จงหาคาของ

1) a × ( b – c ) 2) ( a × b ) – ( a × c )

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

3) ( b – c ) × a 4) ( b × a ) – ( c × a )

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

5) ( a × c ) × b 6) a × ( c × b )

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................

-75-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ใหนักเรยีนแสดงวธิีทํา (ลงในสมุด) ขอ 1. จงหาผลหาร

1) (-29) ÷ (-29) =

2) 8 ÷ (-8) =

3) (-17) ÷ (-1) =

4) (-42) ÷ 2 =

5) (-21) ÷ (-3) =

6) 140 ÷ (-70) =

7) (-200) ÷ 40 =

8) (-441) ÷ 21 =

9) (-100000) ÷ (-100) =

10) 550 ÷ (-11) =

ขอ 2. เขียน ab แทน a × b และให x = ( ab – c ) ÷ d จงหาคา x เมือ่

1) a = 3 , b = -2 , c = 5 , d = 1

2) a = -3 , b = -4 , c = 2 , d = -2

3) a = -5 , b = 2 , c = -31 , d = 7

4) a = 1 , b = -1 , c = -2 , d = -1

5) a = -3 , b = 2 , c = -1 , d = -1

ขอ 3. ใหนักเรียนพิจารณาประโยค a – b = b – a เม่ือ a ≠ b แลวตอบคําถามตอไปน้ี

1) จะหาจํานวนมาแทน a และ b เพ่ือทําใหประโยคขางบนเปนจริงไดหรือไม

2) จะหาจํานวนมาแทน a และ b เพ่ือทําใหประโยคขางบนเปนเท็จไดหรือไม

3) การลบมีสมบัติการสลับทีห่รือไม

ขอ 4. ใหนักเรียนพิจารณาประโยค a ÷ b = b ÷ a เม่ือ a ≠ b แลวตอบคําถามตอไปนี ้

1) จะหาจํานวนมาแทน a และ b เพ่ือใหประโยคนี้เปนจริงไดหรือไม

2) จะหาจํานวนมาแทน a และ b เพ่ือทําใหประโยคนี้เปนเทจ็ไดหรือไม

3) การหารมีสมบัติการสลับทีห่รือไม

ขอ 5. ให y = [(-a + b) × c ] ÷ d จงหาคา y เม่ือ

1) a = -6 , b = 4 , c = -9 , d = 3

2) a = -31 , b = 7 , c = 0 , d = -2

3) a = 5 , b = -13 , c = -1 , d = 4

4) a = -8 , b = -2 , c = -1 , d = 1

5) a = 0 , b = -8 , c = -2 , d = 16

แบบฝกหัดเพ่ิมเติม 6

-76-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

X

Y

0 1 2 3 4

5

5

6

6

7

7

8

8

9

9

-1

-1-2

-2

-3

-3

-4

-5

-5

-6

-6

-7

-7

-8

-8

-9

-9

2

1

3

4

-4

ผลการเรียนรูที่คาดหวัง 1. สามารถบอกพิกัดของจุดตาง ๆ ที่อยูบนกราฟได

2. สามารถลงจุดของคูอันดับที่กาํหนดใหบนระนาบจํานวนได

2.11 กราฟ นักเรียนเคยใชเสนจํานวนเฉพาะสวนที่แสดงศูนยและจํานวนบวกสองเสนเปนแกนในการเขียน

กราฟมาแลว ตอไปนี้เราจะใชเสนจํานวนที่แสดงจํานวนเต็มทั้งสองเสนเปนแกนในการเขียนกราฟ เสน

จํานวนทั้งสองนั้นถือวาอยูบนระนาบเดียวกัน เราเรียกระนาบนี้วา ระนาบจาํนวน จุดแตละจุดที่อยูบน

ระนาบจํานวนนี้จะแทนคูอันดับเพียงคูเดียวเทานัน้และเมื่อเขียน ( a , b ) เราหมายความวา a และ b เปน

จํานวนใดๆ กไ็ด

ใหนักเรียนพิจารณาระนาบจํานวนตอไปนี ้

-77-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

X

Y

0 1 2 3 4

5

5

6

6

7

7

8

8

9

9

-1

-1 -2

-2

-3

-3

-4

-5

-5

-6

-6

-7

-7

-8

-8

-9

-9

2

1

3 4

(-3 , 1)

(-3 , -4)

(2 , 2)

R

S

P

Q

-4

บนระนาบจํานวน เสนจํานวนที่อยูในแนวนอนเรียกวา แกน X และเสนจํานวนที่อยูในแนวต้ัง

เรียกวา แกนY

เม่ือแทนคูอันดับใดๆ ดวยจุดบนระนาบจํานวน สมาชิกตัวทีห่นึง่ของคูอันดับแทนดวยจํานวนที่อยู

บนแกนนอน และสมาชิกตัวที่สองของคูอันดับแทนดวยจํานวนที่อยูบนแกนต้ัง โดยท่ัวไปเราเขียนคูอันดับ

ใดๆ ในรูป ( x , y ) ดังนั้น แทน x ดวยจํานวนที่อยูบนแกนX และแทน y ดวยจํานวนที่อยูบนแกน Y

เม่ือ P เปนจุดจุดหนึง่บนระนาบจํานวนที่เปนกราฟของ ( x , y ) จะกลาววาจุด P มีพิกัดเปน ( x ,

y ) และเขียนแทนดวย P( x , y )

จงพิจารณารูปขางตนแลวหาพิกัดของจุด P , Q , R และ S

-78-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

X

Y

0 1 2 3 4

5

5

6

6

7

7

8

8

9

9 -1

-1-2

-2

-3

-3

-4

-5

-5

-6

-6

-7

-7

-8

-8

-9

-9

2

1

3

4

A

B

C

D

E

F

G

H

-4

จงหาพกิัดของจุด A , B , C , D , E , F , G และ H จากรูปที่กาํหนดใหขางตน

นักเรียนจะเหน็วาแกนX และแกนY แบงระนาบจํานวนออกเปนส่ีสวน แตละสวนเรียกวา จตุภาค

และกําหนดใหมีลําดับเปนจตุภาคที่ 1 , จตุภาคที่ 2 , จตุภาคที่ 3 และจตุภาคที่ 4 ดังในรูปขางบน

จตุภาคที่ 2

จตุภาคที่ 3 จตุภาคที่ 4

จตุภาคที่ 1

-79-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ใหนักเรยีนตอบคําถามตอไปน้ี

ขอ 1. จากกราฟท่ีกาํหนดใหในแตละขอ จงเขียนพิกัดของจุดตางๆ บนระนาบจํานวน

1) 2)

3) 4)

5)

0 1 2 3 4

0

X

Y

-1 -2 -3 -4

2

4

6

8

-2

-4

-6

-8

1

0

2

3

4

-1

-2

-3

-4

5 10 15 20 -5 -20 -15 -10

C

B

A

D

E

F

4

4

-4

-4

R

S U

T

X

Y

X

Y

3 -12 -9 -6 -3 0 6 9 12

3

6

9

12

-3

-6

-9

-12

J

K

L

G

H

I

X

Y

-4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4

1

2

3

4

-1

-2

-3

-4 Q P O

N

M

X

Y

แบบฝกหัดที่ 9

-80-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ขอ 2. จงลงจุด( x , y ) จากคา x และ y ในตารางตอไปนี้บนระนาบจํานวน

1)

x 3 0 -2 1 -4

y 4 5 3 -6 -2

2)

x -6 -5 -4 -3 -2

y 2 3 4 5 6

-81-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

3) จงลงจุดตอไปนี้บนระนาบจํานวน พรอมทัง้ลากเสนตรงใหผานจุดเหลานั้น และสังเกต ตัวหลังของคู

อันดับเปนอยางไร

( -1 , 4 ) , ( -2 , 4 ) , ( -3 , 4 ) , ( 0 , 4 ) , ( 1 , 4 ) , ( 2 , 4 )

ผลของการสังเกต

..........................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

4) จงลงจุดตอไปนี้บนระนาบจํานวน พรอมทั้งลากเสนตรงใหผานจุดเหลานั้น และสังเกต ตัวหนาของคู

อันดับเปนอยางไร

( -5 , 3 ) , ( -5 , 2 ) , ( -5 , 1 ) , ( -5 , 0 ) , ( -5 , -1 ) , ( -5 , -2 )

ผลของการสังเกต

..........................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

-82-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

ใหนักเรยีนแสดงวธิีทํา (ลงในสมุด) 1. จงหาพกิัดของจุด P , Q , R , S , M และ N บนกราฟเสนตรงในรูป

1)

2)

จุด P …………

จุด Q …………

จุด R …………

จุด S …………

จุด M …………

จุด N …………

X

Y

0 2 4 6 8 -2 -1

-2

-4 -6

-3

-8

-4

1

4

3

2

• R

Q

P

Y

1

1

4

3

2

0 2 3 4 -1 -1

-2

-2

-3

-3

-4

-4

X

S

M

N

แบบฝกหัดเพ่ิมเติม 7

-83-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

2. จงหาพกิัดของจุด A , B , C , D และ E บนกราฟเสนตรง L1 และ L2

3. จงหาพกิัดของจุด A , B , C และ D ซ่ึงอยูบนกราฟรูปวงกลม

จุด A …………

จุด B …………

จุด C …………

จุด D …………

จุด E …………

จุด A …………

จุด B …………

จุด C …………

จุด D …………

0 1 2 3 -1 -2 -3

3

2

1

-1

-2

-3

-4

4

• •

X

Y

A D

C

E

B

L1

L2

Y

X

A

B D

C

0

4

3

2

1

1 2 3 4 -1 -2 -3 -4 -1

-2

-3

-4

-84-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

4. จงหาพกิัดของจุด M , N , O , P , Q และ R บนกราฟเสนตรงในรูป

5. จงเขียนพิกัดของจุด P, Q R และ S ที่อยูบนเสนกราฟ L1 และ L2

จุด M …………

จุด N …………

จุด O …………

จุด P …………

จุด Q …………

จุด R …………

จุด P …………

จุด Q …………

จุด R …………

จุด S …………

• • • •

• 0

5

10

15

20

-5 -10 -15 -20

-5

-10

-15

-20

5 10 15 20 X

Y

M

N O

P Q

R

8

6

4

2

0 2 4 6 8 -2 -4 -6 -8 -2

-4

-6

-8

X

Y

P

Q

R

S

L1

L2

-85-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

6. เสนตรง L1 , L2 , L3 และ L4 ตัดกันที่จุดใดบาง

7. จงลงจุดตอไปนี้บนระนาบจาํนวน

A( -3 , 2 ) , B( 0 , 6 ) , C( -4 , -5 ) , D( 2 , -3 ) , E( -5 , 0 ) และ F( 4 , 4 )

จุด ..................

จุด ..................

จุด ..................

จุด ..................

Y

X

L1

L2

L3

L4

0

-86-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

8. จงลงจุด ( x , y ) จากคา x และ y ในตารางตอไปนี ้บนระนาบจํานวนพรอมทัง้เขียนช่ือจุดกํากับ

ดวย

1)

x 0 1 -2 3 -4 -5 6

y 0 -1 2 -3 4 5 -6 ชื่อจุด A B C D E F G

2)

x -4 -3 -2 -1 0 1 2 3

y -12 -9 -6 -3 0 3 6 9 ชื่อจุด H I J K L M N O

-87-

Retrieved from Digital Repository at Srinakharinwirot University http://kids-d.swu.ac.th

3)

x -3 -2 -1 0 1 2 3 4

y 6 4 2 0 -2 -4 -6 -8 ชื่อจุด P Q R S T U V W

9. ใหนักเรียนสอบถามน้ําหนักและสวนสูงของเพ่ือนในหองเรียนจํานวน 10 คน แลวบันทกึลงใน

ตารางขางลาง พรอมทั้งเขียนกราฟของคูอันดับ

ชื่อ น้ําหนัก (กิโลกรัม)

สวนสูง (เซนติเมตร)

-88-

top related