ตัวอย างแผนการจัดการเรียนรู...

Post on 27-Oct-2019

2 Views

Category:

Documents

0 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

1

ตัวอยางแผนการจัดการเรียนรู

หนังสือเรียนรายวิชาพืน้ฐาน ประวัตศิาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 3

กลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ผูเรียบเรียง : นางนิรมล จุลพงษ

2

รายวิชาประวัติศาสตร

ระดับชัน้ประถมศึกษาปที่ 3

หนวยที ่ หนวยการเรียนรู ชั่วโมง 1

วัน เวลา เรื่องที่ 1 ดวงจันทรกับวันเวลา เรื่องที่ 2 ดวงอาทิตยกับชีวิตประจําวัน เรื่องที่ 3 พุทธศักราช คริสตศักราช และฮิจเราะหศักราช

6 3 2

2 สืบคนเรื่องราวในอดีต เรื่องที่ 4 โรงเรียนของเรา เรื่องที่ 5 ตรวจสอบใหดี เรื่องที่ 6 ยอนอดีต เรื่องที่ 7 เรียนรูเรื่องพระปฐมเจดีย

3 3 2 2

3 การต้ังถ่ินฐานและการดําเนนิชีวิตของคนในชุมชน เรื่องที่ 8 เมื่อนํ้าทวม เรื่องที่ 9 หลังนํ้าทวม

4 4

4 ประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชน เรื่องที่ 10 งานบุญสงกรานต เรื่องที่ 11 รักษปา รักษนํ้า

2

5 บุคคลสําคัญของชาติไทย เรื่องที่ 12 พระมหากษัตริยผูทรงสถาปนาอาณาจักรไทย เรื่องที่ 13 มหาราชของไทย เรื่องที่ 14 ในหลวงของเรา เรื่องที่ 15 แมของชาติ เรื่องที่ 16 วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย

1 2 2 2 1

รวม

40

3

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 1 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 1 วันเวลา ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 1 ดวงจันทรกับเวลา จํานวน 6 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด การเทียบศักราชทําใหเขาใจชวงเวลาของเหตุการณ ที่สําคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) เทียบศักราชที่สําคัญตามปฏิทินทีใ่ชในชีวิตประจําวัน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกที่มาของพุทธศักราชหรือ พ.ศ. ได 2. บอกที่มาของคริสตศักราชหรือ ค.ศ. ได 3. บอกที่มาของฮิจเราะหศักราชหรือ ฮ.ศ. ได 4. บอกการเปรียบเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. ได 5. เทียบศักราช พ.ศ. เกิดของตนเองเปน ค.ศ. ได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู 1. ที่มาของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน เชน พุทธศักราช คริสตศักราชอยางสังเขป 2. ที่มาของฮิจเราะหศักราชอยางสังเขป 3. วิธีการเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. 4. ตัวอยางการเทียบศักราชในเหตุการณที่เกิดขึ้นกับนักเรียน 7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 1

มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ใจความหมาย ความสาํคญัของเวลา และยคุสมยัทางประวติัศาสตร์สามารถใชว้ิธีการ

ทางประวติัศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อยา่งเป็นระบบ

4

8.กิจกรรมการเรียนรู ชั่วโมงที่ 1 1. ครูทักทายนักเรียนกลาวตอนรับแสดงความยินดีที่ปน้ีสอบผานขึ้นมาเรียนช้ันประถมศึกษาปที่ 3 2. ครูแจกเน้ือเพลงลอยกระทง ที่เปนภาษาอังกฤษ ใหนักเรียนฝกรอง เพราะเพลงลอยกระทงภาษาไทยรองไดทุกคนอยูแลว 3. ครูถามนักเรียนเพ่ือทบทวนความรูเดิมในประเด็นตอไปน้ี - วันลอยกระทงตรงกับวันที่ เทาไหร - วันลอยกระทงตรงกันทุกปหรือไม

- การนับวันลอยกระทงเปนการนับแบบไหน 4. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาการนับเวลาในปฏิทิน มีการนับ 2 แบบคือแบบไทย และสากล การนับแบบไทยเรียกวานับแบบจันทรคติ การนับแบบสากลเรียกวาการนับสุริยคติ 5. ครูใหนักเรียนที่ใบงานที่ 1 6. ครูตรวจใบงานและสรุปความรูเดิม

5

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คาํสัง่ : ใหน้กัเรียน ทาํเคร่ืองหมาย หนา้ขอ้ท่ีถูกและทาํเคร่ืองหมาย × หนา้ขอ้ท่ีผดิ

.....................1. วนัข้ึน 15 คํ่าเดือน 12 ของทุกปีเป็นวนัลอยกระทง

.....................2. ข้ึน 8 คํ่าเดือน 10 เป็นการนบัแบบสุริยคติ

.....................3. การนบัเวลาแบบจนัทรคติเวลาจะไม่ตรงกนั

.....................4. ปัจจุบนัเรานิยมนบัแบบจนัทรคติ

.....................5. วนัอาทิตยท่ี์ 24 พฤศจิกายน 2557 เป็นการนบัเวลาแบบสุริยคติ

.....................6. การยดึเวลาแบบสุริยคติ ยดึดวงจนัทร์เป็นหลกั

.....................7. การนบัเวลาแบบสุริยคติ เวลาจะตรงกนัเสมอ

.....................8. วนัขา้งข้ึนในปฏิทินจะแสดงดว้ยวงกลมสีดาํ

.....................9. การนบัวนัทางจนัทรคตินบัเป็น วนัขา้งข้ึน วนัขา้งแรม

.....................10. วนัขา้งข้ึนขา้งแรมในปฏิทินจะแสดงดว้ยวงกลมสีเหลือง

ใบงานที่ 1

6

คาํสัง่ : ใหน้กัเรียน ทาํเคร่ืองหมาย หนา้ขอ้ท่ีถูกและทาํเคร่ืองหมาย × หนา้ขอ้ท่ีผดิ

1. วนัข้ึน 15 คํ่าเดือน 12 ของทุกปีเป็นวนัลอยกระทง

× 2. ข้ึน 8 คํ่าเดือน 10 เป็นการนบัแบบสุริยคติ

3. การนบัเวลาแบบจนัทรคติเวลาจะไม่ตรงกนั

× 4. ปัจจุบนัเรานิยมนบัแบบจนัทรคติ

5. วนัอาทิตยท่ี์ 24 พฤศจิกายน 2557 เป็นการนบัเวลาแบบสุริยคติ

× 6. การยดึเวลาแบบสุริยคติ ยดึดวงจนัทร์เป็นหลกั

7. การนบัเวลาแบบสุริยคติ เวลาจะตรงกนัเสมอ

× 8. วนัขา้งข้ึนในปฏิทินจะแสดงดว้ยวงกลมสีดาํ

9. การนบัวนัทางจนัทรคตินบัเป็น วนัขา้งข้ึน วนัขา้งแรม

× 10. วนัขา้งข้ึนขา้งแรมในปฏิทินจะแสดงดว้ยวงกลมสีเหลือง

เฉลย ใบงานที่ 1

7

ชั่วโมงที่ 2 1. ครูทบทวนบทเรียนแลวอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการนับเวลาทางจันทรคติ 2. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนที่ 1 ดวงจันทรกับเวลา จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ ในประเด็นตอไปน้ี - การนับเวลาแบบจันทรคติคืออะไร - การเรียกวันทางจันทรคติ เรียกอยางไร - ปรากฏการณขางขึ้น ขางแรม คืออะไร - สัญลักษณขางขึ้น ขามแรม ในปฏิทินเปนอยางไร 3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 2 4. ครูเฉลยใบงาน 5. ครูสรุปบทเรียน

8

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง

1. การนับเวลาทางจันทรคติคือ

...................................................................................................................................................

2. การเรียกวันทางจันทรคติเรียกวา

...................................................................................................................................................

3.วันขางขึ้นหมายถึง

...................................................................................................................................................

4.วันขางแรมหมายถึง

...................................................................................................................................................

5. ปรากฏการณขางขึ้น-ขางแรมหมายถึง

...................................................................................................................................................

ใบงานที่ 2

9

ใบงานที่ 2

ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง

1. การนับเวลาทางจันทรคติคือ

ตอบ การนับเวลาโดยยึดการหมุนของดวงจันทรรอบโลกเปนหลัก

2. การเรียกวันทางจันทรคติเรียกวา

ตอบ ขางขึน้ – ขางแรม

3.วันขางขึ้นหมายถึง

ตอบวันที่ดวงจันทรสวางขึน้

4.วันขางแรมหมายถึง

ตอบ วันที่ดวงจันทรเริ่มมืดลง

5. ปรากฏการณขางขึ้น-ขางแรมหมายถึง

ตอบ ลักษณะเวาแหวงของดวงจันทรที่เกิดขึ้นและเปลีย่นแปลงไปตลอดทั้งเดือนเกิดขึ้นจากดวงจันทรที่

โคจรเปลี่ยนตําแหนงไปรอบโลกของเรา

เฉลย

10

ชั่วโมงที่ 3 1. ครูทบทวนความรูจากช่ัวโมงกอนและแจงใหนักเรียนทราบวา ช่ัวโมงน้ีจะมาทําความเขาใจการนับเวลาแบบจันทรคติ 2. ครูใหนักเรียนศึกษาการนับเวลาแบบจันทรคติ จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ ประเด็นดังตอไปน้ี - วันขางขึ้น เราสังเกตอยางไร - วันขางแรม เราสังเกตอยางไร - ขางขึ้น – ขางแรม มีวิธีการนับอยางไร 3. ครูนําภาพการเกิดขางขึ้นขางแรม มาใหนักเรียนดูแลวอธิบายเพ่ิมเติมใหนักเรียนเขาใจ ถึงวิธีการนับขางขึ้น ขางแรม และวิธีการสังเกตลักษณะการเวาแหวงของดวงจันทรในวันขางขึ้น ขางแรม 4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 3 5. ครูเฉลยใบงาน 6. ครูสรุปบทเรียน

ภาพปรากฏการณ นบัเวลาแบบจันทรคติ

11

คําสั่ง : ใหนักเรียน วาดภาพการเกิดขางขึน้ขางแรมใหถูกตอง

วาดภาพ หมายถึง

....................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานที่ 3

12

คําสั่ง : ใหนักเรียน วาดภาพการเกิดขางขึน้ขางแรมใหถูกตอง

วาดภาพ หมายถึง

วันขางขึ้น (เดือนหงาย)

ขึ้น 5 ค่ําถึงขึ้น 7 ค่ํา

ขึ้น 8 ค่ํา

ขึ้น 12 ค่ํา ถึงขึ้น 14 ค่ํา

ขึ้น 15 ค่ํา

วันขางแรม (เดือนมืด)

แรม 5 ค่ําถึงแรม 7 ค่ํา

แรม 8 ค่ํา

แรม 12 ค่ําถึงแรม 14 ค่ํา

แรม 15 ค่ํา

ใบงานที่ 3 เฉลย

13

ชั่วโมงที่ 4

1. ครูทักทายนักเรียน แลวทบทวนบทเรียนในช่ัวโมงกอน 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมถึงการเรียกวันขางขึ้น ขางแรมที่คนสมัยกอนใช เชนคําวาเดือนหงาย เดือนมืด วันเพ็ญ วันพระใหญ วันพระนอย 3. ครูใหนักเรียนชวยกันคนควาหาความหมายของคําในขอ 2 4. ครูสุมนักเรยีนออกมาอธิบายความหมายของคําในขอ 2 หนาช้ันเรียน 5. ครูใหนักเรียนดูตัวอยางการอาน และการเขียนวันเวลาทางจันทรคติจากรูปภาพที่ครูนํามาแสดง 6. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 4 7. ครูสรุปบทเรียน

อานวา วันอาทิตย เดือน 6 ขึ้น 15 ค่ํา

อานวา วันอาทิตย เดือน 6 แรม15 ค่ํา

การเขยีนเวลาทางจันทรคต ิ

14

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกความหมายของภาพใหถูกตอง

ภาพ ความหมาย ความสาํคญั

................................................... ................................................... ...................................................

................................................... ................................................... ...................................................

................................................... ................................................... ...................................................

................................................... ................................................... ...................................................

................................................... ................................................... ...................................................

................................................... ................................................... ...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

...................................................

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 4

15

3 ฯ 12

2 ฯ 9

1

15

1 ฯ 11

15

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกความหมายของภาพใหถูกตอง

ภาพ ความหมาย ความสาํคญั

วันอังคาร ขึ้น15ค่ํา เดือนสบิสอง

วันลอยกระทง

วันจันทร แรม1ค่ํา เดือนเกา

วันเขาพรรษา

วันอาทิตย ขึ้น15ค่ํา เดือนสบิเอ็ด

วันออกพรรษา (บ้ังไฟพญานาค)

ขึ้น 15 ค่ํา

เดือนหงาย

แรม15 ค่ํา

เดือนมืด

ใบงานท่ี 4 เฉลย

15

3 ฯ 12

2 ฯ 9

1

15

1 ฯ 11

16

ชั่วโมงที่ 5

1. ครูทบทวนความรูจากช่ัวโมงกอน 2. ครูอธิบายวาการนับขางขึ้น เริ่มนับต้ังแต ขึ้น 1 ค่ํา ไปถึงขึ้น 15 ค่ํา และตอดวย แรม 1 ค่ํา ไป

จนถึงแรม 15 ค่ํา ครบ 1รอบ คือ 1เดือน บางเดือน อาจมี 29 หรือ 30 วัน เพราะบางรอบมีแค แรม 14 ค่ําเทาน้ัน

3. ครูใหนักเรียนศึกษาถึงการนับเดือนทางจันทรคติ จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 หนา 5 ของกระทรวงศึกษาธิการ

4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 5 5. ครูสรุปบทเรียนเรื่องการนับเดือนทางจันทรคติและสุริยคติ พรอมเฉลยใบงานที่ 5

17

คําสั่ง : ใหนักเรียนเติมชื่อเดือนในชองวางใหถูกตอง

เดือนที ่ จันทรคติ สุริยคติ

1 ……………………….. ………………………..

2 ……………………….. ………………………..

3 ……………………….. ………………………..

4 ……………………….. ………………………..

5 ……………………….. ………………………..

6 ……………………….. ………………………..

7 ……………………….. ………………………..

8 ……………………….. ………………………..

9 ……………………….. ………………………..

10 ……………………….. ………………………..

11 ……………………….. ………………………..

12 ……………………….. ………………………..

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 5

18

คําสั่ง : ใหนักเรียนเติมชื่อเดือนในชองวางใหถูกตอง

เดือนที ่ จันทรคติ สุริยคติ

1 เดือนอาย เดือนมกราคม

2 เดือนยี ่ เดือนกุมภาพนัธ

3 เดือนสาม เดือนมีนาคม

4 เดือนสี ่ เดือนเมษายน

5 เดือนหา เดือนพฤษภาคม

6 เดือนหก เดือนมิถุนายน

7 เดือนเจ็ด เดือนกรกฎาคม

8 เดือนแปด เดือนสิงหาคม

9 เดือนเกา เดือนกันยายน

10 เดือนสิบ เดือนตุลาคม

11 เดือนสิบเอ็ด เดือนพฤศจิกายน

12 เดือนสิบสอง เดือนธันวาคม

เฉลย ใบงานท่ี 5

19

ชั่วโมงที่ 6 1. ครูทักทายนักเรียน 2. ครูแจงใหนักเรียนทราบวาเราจะเรียนเรื่องปนักษัตร 3. ครูนําภาพสัตวตางๆ ประจําปมีใหนักเรียนดู แลวอธิบายเช่ือมโยงการนับปของคนในสมัยกอนวาไมนับเปนพ.ศ.แตนับแบบนักษัตร ซึ่งจะมีรูปสตัวประจําปเริ่มที่ ชวด ใชหนูเปนสัตวประจําป ครบ 12 ป เปน 1 รอบ 4. ครูใหนักเรียนศึกษาการใชการใชรูปสัตวประจําปของคนในสมัยกอนจากหนังสือเรียนประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ หนา 6 6. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 6 7. ครูสรุปบทเรียนวาการนับเวลาแบบจันทรคติเรียกวันเปนขางขึ้น ขางแรม ปจจุบันไมนิยมใชการนับเวลาแบบจันทรคติในชีวิตประจําวันแตยังใชการนับเวลาแบบจันทรคติในเรื่องที่เกี่ยวของกับศาสนาและประเพณีไทย

ภาพปนักษัตร

20

คําสั่ง : ใหนักเรียนเติมชื่อปใหตรงกับนักษตัรแลวไปเรยีงในตารางขางลางใหถูกตอง

ภาพ ปที ่ ชื่อป

วัว

....................................

....................................

งูเล็ก

....................................

....................................

หนู

....................................

....................................

สุนัข

....................................

....................................

มา

....................................

....................................

เสือ

....................................

....................................

แพะ

....................................

....................................

งูใหญ

....................................

....................................

ไก

....................................

....................................

กระตาย

....................................

....................................

หม ู

....................................

....................................

ใบงานท่ี 6

21

ลิง

....................................

....................................

เรียงลําดับใหถูกตอง

ปที ่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 สัตว

ประจําป

……...

……..

……...

……...

……...

……...

……...

……...

……...

……...

……...

……. ชื่อป ……… ……. ……... ……... ……... ……... ……... ……... ……... ……... ……... …….

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

22

คําสั่ง : ใหนักเรียนเติมชื่อปใหตรงกับนักษตัรแลวไปเรยีงในตารางขางลางใหถูกตอง

ภาพ ปที ่ ชื่อป

วัว

2

ฉล ู

งูเล็ก

6

มะเส็ง

หนู

1

ชวด

สุนัข

11

จอ

มา

7

มะเมีย

เสือ

3

ขาล

แพะ

8

มะแม

งูใหญ

5

มะโรง

ไก

10

ระกา

กระตาย

4

เถาะ

หม ู

12

กุล

ใบงานท่ี 6 เฉลย

23

ลิง

9

วอก

เรียงลําดับใหถูกตอง

ปที ่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 สัตว

ประจําป

หนู

วัว

เสือ กระตาย

งูใหญ

งูเล็ก

มา

แพะ

ลิง

ไก

สุนัข

หมู

ชื่อป ขาล ฉล ู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ กุล

24

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 2 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 1 วันเวลา ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 2 ดวงอาทิตยกับชวิีตประจําวัน จํานวน 3 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด การเทียบศักราชทําใหเขาใจชวงเวลาของเหตุการณ ที่สําคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) เทียบศักราชที่สําคัญตามปฏิทินทีใ่ชในชีวิตประจําวัน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกที่มาของพุทธศักราชหรือ พ.ศ. ได 2. บอกที่มาของคริสตศักราชหรือ ค.ศ. ได 3. บอกที่มาของฮิจเราะหศักราชหรือ ฮ.ศ. ได 4. บอกการเปรียบเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. ได 5. เทียบศักราช พ.ศ. เกิดของตนเองเปน ค.ศ. ได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู 1. ที่มาของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน เชน พุทธศักราช คริสตศักราชอยางสังเขป 2. ที่มาของบฮิจเราะหศักราชอยางสังเขป 3. วิธีการเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. 4. ตัวอยางการเทียบศักราชในเหตุการณที่เกิดขึ้นกับนักเรียน

มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสําคัญของเวลา และยุคสมัยทางประวัติศาสตรสามารถใชวิธีการทาง

ประวัติศาสตรมาวิเคราะหเหตุการณตางๆ อยางเปนระบบ

25

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 7 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูสนทนากบักับนักเรียนเรื่อง การนับเวลาวามีการนับ 2 รูปแบบคือ จันทรคติที่ครสูอนไปใน

ช่ัวโมงกอน และการนับแบบสุริยคติที่จะเรือ่งในช่ัวโมงที่แลว

2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา การนับเวลาแบบสุริยคติ เปนการนับเวลาโดยการยึดพระอาทิตยเปนหลัก 3. ครูใหนักเรียนศึกษา จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของ

กระทรวงศึกษาธิการ เรื่องที่ 2 ดวงอาทิตยกับชีวิตประจําวัน ในประเด็นตอไปน้ี - การนับวัน ตามสุริยคตินับอยางไร

- การนับป ตามสุริยคตินับอยางไร 4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 7 5. ครูสรุปบทเรียนการนับเวลาตามสุริยคติ

26

คําสั่ง : ใหนักเรียนนาํหมายเลขทางขวามือมาเติมลงในชองวางใหถูกตอง

.................1 วัน 1. โลกหมุนรอบดวงอาทิตย 1 รอบ

.................1 สัปดาห 2. วันอาทิตย

.................1 เดือน 3. 7 วัน

.................1 ป 4. เดือนธันวาคม

................. วันแรกของสัปดาห 5. จํานวนวันที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย 1 รอบ

................. เดือนแรกของป 6. โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ

................. เดือนที่ทุกๆปจะมี 29 วัน 7. เดือนกุมภาพันธ

................. 365.25 วัน 8. 4 สัปดาห

................. 365 วัน 9. จํานวนวันที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย 1 รอบบวกเศษวันที่เหลือ

................. เดือนสุดทายของป 10. เดือนมกราคม

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 7

27

คําสั่ง : ใหนักเรียนนาํหมายเลขทางขวามือมาเติมลงในชองวางใหถูกตอง

6 1 วัน 1. โลกหมุนรอบดวงอาทิตย 1 รอบ

3 1 สัปดาห 2. วันอาทิตย

8 1 เดือน 3. 7 วัน

1 1 ป 4. เดือนธันวาคม

2 วันแรกของสัปดาห 5. จํานวนวันที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย 1 รอบ

10 เดือนแรกของป 6. โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ

7 เดือนที่ทุกๆ ป จะมี 29 วัน 7. เดือนกุมภาพันธ

9 365.25 วัน 8. 4 สัปดาห

5 365 วัน 9. จํานวนวันที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย 1 รอบบวกเศษวันที่เหลือ

4 เดือนสุดทายของป 10. เดือนมกราคม

ใบงานท่ี 7 เฉลย

28

ชั่วโมงที่ 2 1. ครูทบทวนบทเรียนในช่ัวโมงกอนเรื่องการนับเวลาตามระบบสุริยคติ 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาการนับเวลาทางสุริยคติ เปนการนับเวลาแบบสากล ซึ่งนิยมใชทั่วไปในปจจุบัน 3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 8 4. ครูตรวจใบงานที่ 8 พรอมสรุปบทเรียนวา เราสามารถอานเวลา แบบจันทรคติเทียบกับแบบสุริยคติไดโดยสังเกตจากปฏิทิน

ตัวอยางปฏิทนิเปรียบเทียบการนับเวลาแบบจันทรคติกับแบบสรุิยคติ

29

คําสั่ง : ใหนักเรียนอานเวลาแบบจันทรคติและแบบสุริยคติใหถูกตอง (ดูปฏิทินที่กําหนดให)

ภาพจากปฏิทนิ อานแบบจันทรคติ อานแบบสุริยคติ 1)

………………………………………

…………………………………….....

2)

………………………………………

………………………………………

3)

………………………………………

………………………………………

4)

………………………………………

…………………………………….

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 8

ตัวอยางปฏิทินเปรียบเทียบการนับเวลาแบบจันทรคติกับแบบสุริยคติ

30

คําสั่ง : ใหนักเรียนอานเวลาแบบจันทรคติและแบบสุริยคติใหถูกตอง (ดูปฏิทินที่กําหนดให)

ภาพจากปฏิทนิ อานแบบจันทรคติ อานแบบสุริยคติ 1)

วัน ขึ้น 15 ค่าํเดือน 12

วันพฤหสับดี ที่ 6 เดือนธนัวาคม พ.ศ. 2557

2)

วัน แรม 8 ค่ําเดือน 12

วันศุกร ที่ 14 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2557

3)

วัน แรม 15 ค่ําเดือน 12

วันวันศุกร ที่ 21 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2557

4)

วัน ขึ้น 8ค่ําเดือน 12

วันเสาร ที่ 29 เดือนธนัวาคม พ.ศ. 2557

ใบงานท่ี 8 เฉลย

ตัวอยางปฏิทินเปรียบเทียบการนับเวลาแบบจันทรคติกับแบบสุริยคติ

31

ชั่วโมงที่ 3

1. ครูทบทวนความรูเดิม

2. ครูสนทนาถงึประโยชนของการนับเวลาแบบสุริยคติ

3. ครูใหนักเรียนศึกษาถึงประโยชนของการนับเวลาแบบสุริยคติ จากหนังเรียน ประวัติศาสตร

ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ

4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 9

5. ครูสรุปบทเรียนประโยชนของการนับเวลาแบบสุริยคติ

32

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกประโยชนของการนับเวลาแบบสุริยคติ

1…………………………………………………………………………………………….

2…………………………………………………………………………………………….

3…………………………………………………………………………………………….

4……………………………………………………………………………………………..

ใบงานท่ี 9

33

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกประโยชนของการนับเวลาแบบสุริยคติ

1. เปนการนับวันเวลาแบบสากล วันเวลา ตรงกันทั่วโลก

2. สะดวกตอการนัดหมาย

3. การนบัเวลาตรงกับฤดูกาล

4. เตรียมตัวดําเนินชีวิตใหเหมาะสมกับฤดูกาล

ใบงานท่ี 9 เฉลย

34

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 3 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยท่ี 1 วันเวลา ชั้นประถมศกึษาปที่ 3 เรื่องที่ 3 พุทธศักราช ครสิตศักราช และฮิจเราะหศักราช จํานวน 2 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด การเทียบศักราชทําใหเขาใจชวงเวลาของเหตุการณ ที่สําคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) เทียบศักราชที่สําคัญตามปฏิทินทีใ่ชในชีวิตประจําวัน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกทีม่าของพุทธศักราชหรือ พ.ศ. ได 2. บอกที่มาของคริสตศักราชหรือ ค.ศ. ได 3. บอกที่มาของฮิจเราะหศักราชหรือ ฮ.ศ. ได 4. บอกการเปรียบเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. ได 5. เทียบศักราช พ.ศ. เกิดของตนเองเปน ค.ศ. ได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู 1. ที่มาของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน เชน พุทธศักราช คริสตศักราชอยางสังเขป 2. ที่มาของฮิจเราะหศักราชอยางสังเขป 3. วิธีการเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. 4. ตัวอยางการเทียบศักราชในเหตุการณที่เกิดขึ้นกับนักเรียน

มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตรสามารถใชวิธีการทาง

ประวัติศาสตรมาวิเคราะหเหตุการณตางๆ อยางเปนระบบ

35

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 10 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1 1. ครูสนทนาถามนักเรียนวา วันน้ีวันที่เทาไหร เดือนอะไร ปพ.ศ. อะไร

2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาวัน เดือน นักเรียนรูจักและเขาใจจากบทเรียนกอนๆ มาบางแลว วันน้ีเราจะ

มาทําความเขาใจเกี่ยวกับ ป พ.ศ. บาง

3. ครูใหนักเรียนหาความหมายของ พ.ศ. ค.ศ. และฮ.ศ. จากหนังสือเรียน

4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 10

5. ครูสรุปบทเรียน ความหมายของ พ.ศ. ค.ศ. และฮ.ศ. ใหนักเรียนเขาใจย่ิงขึ้น

36

คําสั่ง : ใหนักเรียนเติมคําในชองวางใหถูกตอง

คํายอ คําเต็ม อานวา เปนศักราชที่มาจาก เริ่มนับเม่ือ

พ.ศ.

.................................

..................................

....................................

..................................

.................................. .................................... ....................................

ค.ศ.

..................................

....................................

......................................

...................................

................................... .................................... ....................................

ฮ.ศ.

..................................

...................................

.....................................

....................................

....................................

....................................

....................................

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 10

37

คําสั่ง : ใหนักเรียนเติมคําในชองวางใหถูกตอง

คํายอ คําเต็ม อานวา เปนศักราชที่มาจาก เริ่มนับเม่ือ

พ.ศ.

พุทธศักราช

พุด-ทะ-สัก-กะ-หราด

ศาสนาพุทธ

เริ่มนับ พ.ศ. 1 เม่ือพระพุทธเจาปรินิพพานครบ 1 ป

ค.ศ.

คริสตศักราช

คริด-สัก-กะ-หราด

ศาสนาคริสต

เริ่มนับ ค.ศ. 1 เม่ือพระเยซูซึ่งเปนศาสดาของศาสนาคริสตทรงประสูติ

ฮ.ศ.

ฮิจเราะหศักราช

ฮิด-จะ-เราะ-สัก-กะ-

หราด

ศาสนาอิสลาม

เริ่มนับ ฮ.ศ. 1 ปที่พระนบีมูฮัมหมัด กระทําฮิจเราะห (การอพยพโยกยาย) คือออกจากเมืองเมกกะไปยังเมืองเมดินะ

เฉลย ใบงานที่ 10

38

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูทบทวนบทเรียนแลวอธิบายเพ่ิมเติมวา ค.ศ. หรือ คริสตศักราชน้ันเปนศักราชที่นิยมใชใน

ประเทศที่นับถอื ศาสนาคริสต

2. ครูอธิบายเช่ือมโยงวาหากเราอยากทราบวา พ.ศ. 2557 ตรงกับ ค.ศ. ใด เราตองทําความเขาใจ

เรื่องของการเทียบศักราช โดยศึกษาจากหนังสือเรียน

3. ครูใหนักเรียนศึกษาการเทียบศักราช ในประเด็นตอไปน้ี

- พ.ศ. หางจาก ค.ศ. กี่ป

- การเปลี่ยนพ.ศ. เปนค.ศ. ทาํอยางไร

- การเปลี่ยนค.ศ. เปน พ.ศ. ทําอยางไร

4. ครูสุมนักเรยีนออกมาแสดงวิธีทําหนาช้ันเรียน

5. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 11

6. ครูสรุปบทเรียนวาคริสตศักราช เปนศักราชสากลที่ทั่วโลกนิยมใช

39

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใหนักเรียนกาเครื่องหมาย หนาทีข่อที่ถูก และกาเครื่องหมาย × หนาขอทีผ่ดิ

.......................1) พ.ศ. 2557 ตรงกับ ค.ศ. 2014 หางกัน 543

.......................2) พ.ศ. + 543 = ค.ศ.

....................... 3) พ.ศ. – 543 = ค.ศ.

.......................4) ค.ศ. + 543 = พ.ศ.

.......................5) ค.ศ. – 543 = พ.ศ.

........................6) ปจจุบัน พ.ศ. 2557 ตรงกับ ค.ศ. 2000

........................7) ดาราเกิด พ.ศ. 2552 ตรงกับ ค.ศ. 2009

........................8) โบสถครสิต ต้ังเม่ือ ค.ศ. 2001 ตรงกับ พ.ศ. 2544

…………………….9) กรุงเทพมหานครสราง พ.ศ. 2335 ตรงกับ ค.ศ. 1792

.........................10) พระเยซูประสูติ ค.ศ.1 ตรงกับพระพุทธเจา ปรินพิพาน พ.ศ. 544

ใบงานท่ี 11

40

ใหนักเรียนกาเครื่องหมาย หนาทีข่อที่ถูก และกาเครื่องหมาย ×หนาขอที่ผิด

1) พ.ศ. 2557 ตรงกับ ค.ศ. 2014 หางกัน 543

×2) พ.ศ. + 543 = ค.ศ.

3) พ.ศ. – 543 = ค.ศ.

4) ค.ศ. + 543 = พ.ศ.

× 5) ค.ศ. – 543 = พ.ศ.

× 6) ปจจุบนั พ.ศ. 2557 ตรงกับ ค.ศ. 2000

7) ดาราเกิด พ.ศ. 2552 ตรงกับ ค.ศ. 2009

8) โบสถคริสต ต้ังเม่ือ ค.ศ. 2001 ตรงกับ พ.ศ. 2544

9) กรุงเทพมหานครสราง พ.ศ. 2335 ตรงกับค.ศ. 1792

10) พระเยซูประสูติ ค.ศ.1 ตรงกับพระพุทธเจา ปรินพิพาน พ.ศ. 544

ใบงานท่ี 11 เฉลย

41

ได้คะแนน คะแนนเต็ม

แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 1 วันเวลา

คําชี้แจง ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว

1. ขอใดกลาวถูกตอง ก. พ.ศ. เริ่มนับเมื่อพระพุทธเจาดับขันธปรินิพพาน ข. ค.ศ. เริ่มนับเมือ่พระเยซูประสูติ ค. ถูกทุกขอ ก. และขอ ข. 2. ชาวตะวันตกนับเวลาตามศักราชใด ก. พุทธศักราช ข. คริสตศักราช ค. ฮิจเราะหศักราช 3. การนับเวลาเปน พ.ศ. และ ค.ศ. เกี่ยวของกับเรื่องใด ก. เศรษฐกิจ ข. การเมอืง ค. ศาสนา 4. ศักราชใดเกิดขึ้นเปนอันดับแรก ก. พุทธศักราช ข. คริสตศักราช ค. ไมมีขอใดถูกตอง 5. คุณแมเกิดเมื่อป ค.ศ. 1984 สวนคุณพอเกิดเมื่อป ฮ.ศ. 1359 ปจจุบันตรงกับป พ.ศ. 2555 คุณแมและคุณพอ มีอายุเทาใด

ก. คุณแม อายุ 20 ป และคุณพอ อายุ 30 ป ข. คุณแม อายุ 22 ป และคุณพอ อายุ 32 ป ค. คุณแม อายุ 28 ป และคุณพอ อายุ 32 ป

6. เมื่อเราทราบป พ.ศ. เราจะมีหลักในการเทยีบป ค.ศ. อยางไร

ก. นํา พ.ศ.ลบดวย 543 ข. นํา พ.ศ.หารดวย 543 ค. นํา พ.ศ.คูณดวย 543

7. ป พ.ศ. 2557 จะตรงกับป ค.ศ. ใด ก. ค.ศ. 2011 ข. ค.ศ. 2014 ค. ค.ศ. 2013 8. ใครมีอายุนอยที่สุด ก. แกม เกิดป ค.ศ. 1985 ข. ฝาย เกิดป ค.ศ. 1978 ค. จอย เกิดป พ.ศ. 2521 9. คุณพอเกิดเมื่อป พ.ศ. 2515 ตรงกับป ค.ศ. ใด ก. ค.ศ. 1962 ข. ค.ศ. 1972 ค. ค.ศ. 1982 10.ในหลวงของเราเสด็จพระราชสมภพ (เกิด) เมื่อป ค.ศ. 1927 ตรงกับป พ.ศ. ใด ก. พ.ศ. 2462 ข. พ.ศ. 2470 ค. พ.ศ. 2471

1.ค 2. ข 3. ค 4. ค 5. ค

6. ก 7. ข 8. ก 9. ข 10. ข 10

42

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 4 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 2 สืบคนเรื่องราวในอดีต ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 4 โรงเรียนของเรา จํานวน 3 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด การสืบคนและรวบรวมขอมูลเรื่องราวในอดีต จากแหลงขอมูลตางๆ ที่เกีย่วของ ตองทําอยางมีระบบขั้นตอน และตองตรวจสอบความนาเช่ือถือของขอมูลใหถกูตอง 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) เทียบศักราชที่สําคัญตามปฏิทินทีใ่ชในชีวิตประจําวัน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. สืบคนและรวบรวมขอมูลของโรงเรียน จากหลักฐานและแหลงขอมูลได 2. ตรวจสอบความนาเช่ือถือและแหลงขอมลูได 3. สืบคนขอมลูของชุมชนจากแหลงฐานและแหลงขอมูลได 4. ตรวจสอบความนาเช่ือถือของแหลงขอมลูได 5. บอกประเภทของหลักฐานหรือแหลงขอมลูได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู 1. ที่มาของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน เชน พุทธศักราช คริสตศักราชอยางสังเขป 2. ที่มาของบฮิจเราะหศักราชอยางสังเขป 3. วิธีการเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. 4. ตัวอยางการเทียบศักราชในเหตุการณที่เกิดขึ้นกับนักเรียน

มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตรสามารถใชวิธีการทาง

ประวัติศาสตรมาวิเคราะหเหตุการณตางๆ อยางเปนระบบ

43

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 12 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1 1. ครูทักทายสนทนาสภาพแวดลอมโดยทั่วไป แลวเช่ือมโยงเขาสูบทเรียน 2. ครูถามนักเรียนวาถานักเรียนอยากทราบเรื่องราวของเพ่ือนสนิทวาเขามีประวัติความเปนมาอยางไร นักเรียนจะมีวิธีสืบคนอยางไร 3. ครูใหนักเรียนสืบคนเรื่องราวของครอบครัวเพ่ือนสนิทลงในใบงานที่ 12 4. ครูตรวจใบงานที่ 12 พรอมสํารวจ วาวิธีการสืบคนขอมลูของนักเรียนสวนใหญ

44

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใหนักเรียนสืบคนขอมูล สวนตัวของเพื่อนสนิท

ช่ือ.................................................................................................. ช่ือเลน.................................. เกิดที่จังหวัด................................................................................ ครอบครัวมีสมาชิก.....................คน คือ 1................................................................................. 2. ................................................................................ 3. ................................................................................ 4................................................................................. เปนลูกคนที่....................ของครอบครัว อาชีพของครอบครัวคือ...........................................................

หนาที่รับผิดชอบในครอบครวัคือ..............................................................................

ใบงานท่ี 12

45

ใหนักเรียนสืบคนขอมูล สวนตัวของเพื่อนสนิท

ช่ือ ดารา ดํารงกุล ช่ือเลน ดาว เกิดที่จังหวัด อางทอง ครอบครัวมีสมาชิก 4คน คือ 1. คุณพอ 2. คุณแม 3. พี่ชาย 4. ดารา เปนลูกคนที่ 4ของครอบครัว อาชีพของครอบครัวคือ รานขายยาแผนปจจุบัน

หนาที่รับผิดชอบในครอบครวัคือ กวาดบาน , ลางจาน

ความประทับใจในครอบครัวคือ (ครอบครวัพาไปเยี่ยมคณุยาทีเ่ชียงใหม ต่ืนเตนมาก คุณยาใจดี เชียงใหม

อากาศดี ทิวทศันสวยงาม) อยูในดุลพินิจของครูผูสอน

ขอมูลน้ีไดมาโดยวิธี สอบถามจากตัวดาราเอง

ใบงานท่ี 12 เฉลย

46

ชั่วโมงที่ 2 1. ครูทักทายและทบทวนบทเรียนจากช่ัวโมงกอน 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาจากการตรวจใบงานครูสํารวจวิธีการสืบคนขอมูลของนักเรียน พบวาสวนใหญได

ขอมูลมาจากการสอบถาม 3. ครูอธิบายเช่ือมโยงวาการสืบคนขอมูลน้ันยงัมีไดหลายวิธี 4. ครูใหนักเรียนศึกษาการสืบคนขอมูลดวยวิธีการตางๆ จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร

ช้ันมัธยมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ 5. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 13 6. ครูสรุปบทเรียน

47

คําสั่ง : ใหนักเรียนทําผังความคิดวิธีการสบืคนขอมูลทาํไดหลายวิธีดังนี ้

ใบงานท่ี 13

ใหนักเรียนทาํผังความคิดวิธกีารสืบคนขอมูลทําไดหลายวิธีดังนี ้

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

...............................

48

1. สอบถามจากครูใหญและคณุคร ู

2. ถามจากพอแม

3. ถามจากผูปกครองที่เคยเรียนโรงเรียนนี ้

4. คนควาจากหนังสือประวัติศาสตรของโรงเรียนที่อยูในหองสมุด

5. อานจากปายประวัติโรงเรียนที่อยูบรเิวณเสาธง

6. ดูจากภาพถายของโรงเรียน

7. คนควาจากเว็บไซตของโรงเรียนทางอินเตอรเน็ต

เฉลย ใบงานท่ี 13

49

ชั่วโมงที่ 3 1. ครูทบทวนบทเรียนในช่ัวโมงกอน 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาการสืบคนขอมูลมีหลายวิธีเราถนัดวิธีไหนก็เลือกวิธีน้ัน 3. ครูแบงกลุมนักเรียน เปน 3 กลุม เพ่ือสืบคนขอมูลของโรงเรียน ดังน้ี

กลุมที ่1 สืบคนดวยวิธี สอบถาม กลุมที ่2 สืบคนดวยวิธี คนควาจากเว็บไซต กลุมที ่3 สืบคน จากภาพถายกิจกรรมของโรงเรียน

4. ครูใหนักเรียนแตละกลุม นําเสนอผลงานดวยการจัดบอรดหนาช้ันเรียน 5. ครูมอบหมายงานใหไปสืบคนประวัติของครอบครัวตนเองดวยวิธีการสืบคนขอมูลที่ตนเองถนัด 6. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 14

50

คําตอบอยูในดุลยพนิิจของคร ู

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

นักเรียนมีแนวทางในการรวบรวมขอมูลประวัติของครอบครัวตนเองอยางไร

ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………….………….

……………………………………………………………………………………………………..…………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………….…………………………..

……………………………………………………………………………………………………..…………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………….…………………………..

……………………………………………………………………………………………………..…………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………….…………………………..

ใบงานท่ี 14

51

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 5 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 2 สืบคนเรื่องราวในอดีต ชั้นประถมศกึษาปที่ 3 เรื่องที่ 5 ตรวจสอบใหดี จํานวน 3 ชัว่โมง

1. ความคิดรวบยอด การสืบคนและรวบรวมขอมูลเรื่องราวในอดีต จากแหลงขอมูลตางๆ ที่เกีย่วของ ตองทําอยางมีระบบขั้นตอน และตองตรวจสอบความนาเช่ือถือของขอมูลใหถกูตอง 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) เทียบศักราชที่สําคัญตามปฏิทินทีใ่ชในชีวิตประจําวัน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. สืบคนและรวบรวมขอมูลของโรงเรียน จากหลักฐานและแหลงขอมูลได 2. ตรวจสอบความนาเช่ือถือและแหลงขอมลูได 3. สืบคนขอมลูของชุมชนจากหลักฐานและแหลงขอมูลได 4. ตรวจสอบความนาเช่ือถือของแหลงขอมลูได 5. บอกประเภทของหลักฐานหรือแหลงขอมลูได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู 1. ที่มาของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน เชน พุทธศักราช คริสตศักราชอยางสังเขป 2. ที่มาของบฮิจเราะหศักราชอยางสังเขป 3. วิธีการเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. 4. ตัวอยางการเทียบศักราชในเหตุการณที่เกิดขึ้นกับนักเรียน

มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตรสามารถใชวิธีการทาง

ประวัติศาสตรมาวิเคราะหเหตุการณตางๆ อยางเปนระบบ

52

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 15 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูทบทวนวิธีการสืบคนขอมูลจากช่ัวโมงกอน 2. ครูอธิบายถึงความสําคัญของขอมูลวาควรเปนขอมูลที่ถูกตอง กอนที่เราจะสรุปเรื่องราว เราตอง

ตรวจสอบขอมูลใหถูกตองเชนกัน 3. ครูใหนักเรียนศึกษาวิธีตรวจสอบขอมูลอยางงายจากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษา

ป 3 เรื่องที่ 5 ตรวจสอบใหดี 4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 15 5. ครูเฉลยใบงานพรอมสรุปบทเรียนวิธีการตรวจสอบขอมูลอยางงายๆ คือการตรวจสอบความนาเช่ือถือ

ของแหลงขอมลู

53

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตองโดยอานจากเนือ้หาในบทเรียน

1. แหลงขอมูลสําคัญที่เกี่ยวของกับโรงเรียนมีอะไรบาง

ตอบ....................................................................................................................................

2. แหลงขอมูลจากขอที่ 1 มีความสําคัญอยางไร

ตอบ....................................................................................................................................

3. เหตุใดแหลงขอมูลจากครูใหญจึงถูกตองและเช่ือถือได

ตอบ....................................................................................................................................

4. เหตุใดขอมูลจากพอของวิชัยซึ่งเปนศิษยเกาจึงไมอาจเช่ือถือไดทั้งหมด

ตอบ....................................................................................................................................

5. การตรวจสอบแหลงขอมูลมีความสําคัญอยางไร

ตอบ....................................................................................................................................

ใบงานท่ี 15

54

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตองโดยอานจากเนือ้หาในบทเรียน

1. แหลงขอมูลสําคัญที่เกี่ยวของกับโรงเรียนมีอะไรบาง

ตอบ หนังสือประวัติของโรงเรียน, รูปภาพ และวีดีทศันกิจกรรมตางๆ ของนักเรียน และ

ภาพถายของโรงเรียนในโอกาสตางๆ , ศิษยเกาของโรงเรียน , ปายประวัติของโรงเรยีน

2. แหลงขอมูลจากขอที่ 1 มคีวามสําคัญอยางไร

ตอบ เปนขอมูลสาํคญัในการศึกษาคนควาเรื่องราวของโรงเรียน

3. เหตุใดแหลงขอมูลจากครใูหญจึงถูกตองและเช่ือถือได

ตอบ เพราะครูใหญมีขอมูลที่เปนเอกสารซึ่งเปนหลักฐานที่ถูกตอง ขอมูลจากครูใหญจึง

เชื่อถือได

4. เหตุใดขอมูลจากพอของวิชัยซึ่งเปนศิษยเกาจึงไมอาจเช่ือถือไดทั้งหมด

ตอบ เพราะพอของวิชัยซ่ึงเปนศิษยเกาบอกขอมูลไดไมครบถวน ไมสามารถระบุจํานวน

นักเรียน หรือป พ.ศ. ในการสรางอาคารไดไมชัดเจน

5. การตรวจสอบแหลงขอมูลมีความสําคัญอยางไร

ตอบ การตรวจสอบขอมูลมีความสาํคัญอยางย่ิง เพราะชวยใหการนําเสนอขอมูลถูกตองตาม

ความเปนจริงและเชื่อถือได

ใบงานท่ี 15 เฉลย

55

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูทบทวนบทเรียนในช่ัวโมงที่แลว 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมถึงความแตกตางของแหลงขอมูลระหวางขอมูลของศิษยเกาเปนเพียงคําบอกเลา

แตขอมูลของครูใหญน้ันมีเอกสารหลักฐานประกอบ 3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 16 4. ครูเฉลยใบงานที่ 16 พรอมสรุปบทเรียนวา แหลงขอมูลจากคําบอกเลาเปนขอมูลที่ไมเปนลายลักษณ

อักษร สวนแหลงขอมูลที่มีเอกสารหลักฐานประกอบน้ันเราเรียกวาขอมูลที่เปนลายลักษณอักษร

56

คําสั่ง : ใหนักเรียนเพิ่มขอความใหถูกตองโดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรียน

แหลงขอมูล ประเภทขอมูล ความนาเชื่อถือของขอมูล

เหตุผล

พอของวิชา (ศิษยเกา) ..................................... ..................................... ..................................... .....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

ขอมูลจากครใูหญ ...................................... ...................................... ..................................... .....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

.....................................

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น............................................................

ใบงานท่ี 16

57

คําสั่ง : ใหนักเรียนเพิ่มขอความใหถูกตองโดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรียน

แหลงขอมูล ประเภทขอมูล ความนาเชื่อถือของขอมูล

เหตุผล

พอของวิชา (ศิษยเกา) ไมเปนลายลักษณอักษร เชื่อถือไดบางสวน -บอกขอมูลไดบางสวน -ขอมูลไมชัดเจน

ขอมูลจากครใูหญ เปนลายลักษณอักษร เชื่อถือไดทั้งหมด -บอกขอมูลไดถูกตองครบถวน -มีความแนนอนชัดเจน

ใบงานท่ี 16 เฉลย

58

ชั่วโมงที่ 3 1. ครูทักทายนักเรียนแลวทบทวนความรูจากช่ัวโมงกอน 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาหลักฐานหรือขอมูลทั้งทีเ่ปนลายลักษณอักษรและไมเปนลายลักษณอักษรน้ันม ี

ความสําคัญและความนาเช่ือถือแตกตางกัน ดังที่ทราบแลวในช่ัวโมงกอน 3. ครูใหนักเรียนศึกษาขอมูลจากหนังสือเรียนในประเด็นตอไปน้ี

- ขอมูลช้ันตน หมายความวาอยางไร

- ขอมูลช้ันรอง หมายความวาอยางไร - ขอมูลช้ันตนกับขอมูลช้ันรองขอมูลใดมคีวามนาเช่ือถือมากกวากัน

4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 17 5. ครูเฉลยใบงาน และสรุปบทเรียนวาการสืบคนประวัติทางโรงเรียนเปนแนวทางวิธีการในการสืบคน

เรื่องราวในอดีตที่นักเรียนสนใจและทําใหนักเรียนไดขอเท็จจริงอยางถูกตอง

59

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น.............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตองพรอมยกตัวอยางประกอบ

1. ขอมูลช้ันตน หมายความวาอยางไร

ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………..

2. ขอมูลช้ันรอง หมายความวาอยางไร

ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………….……….…..

3. ขอมูลช้ันตนกับขอมูลช้ันรองขอมูลใดมคีวามนาเช่ือถือมากกวากัน

ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 17

60

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตองพรอมยกตัวอยางประกอบ

1.ขอมูลช้ันตน หมายความวาอยางไร

ตอบ ขอมูลชั้นตน คือขอมูลที่ไดจากผูอยูในเหตุการณ , ขอมูลจากภาพถาย หรือจากสิ่งของ

ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น ยกตัวอยางเชน ภาพถายกิจกรรมของโรงเรียน , คุณพอของวิชยัซึ่งเปน

ศิษยเกา เปนตน

2. ขอมูลช้ันรอง หมายความวาอยางไร

ตอบ ขอมูลชัน้รอง คือขอมูลที่ผานการเรยีบเรียงมาแลว ผูเรียบเรียงอาจไมอยูในเหตุการณ

จริง ยกตัวอยางเชน หนังสอืที่เราอานเปนการนําขอมูลจากหลักฐานชั้นตนมาเรียบเรียงอีกที

หนึ่ง

3. ขอมูลช้ันตนกับขอมูลช้ันรองขอมูลใดมคีวามนาเช่ือถือมากกวากัน

ตอบ หลักฐานชั้นตน

ใบงานท่ี 17 เฉลย

61

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 6 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 2 สืบคนเรื่องราวในอดีต ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 6 ยอนอดีต จํานวน 2 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด การสืบคนและรวบรวมขอมูลเรื่องราวในอดีต จากแหลงขอมูลตางๆ ที่เกีย่วของ ตองทําอยางมีระบบขั้นตอน และตองตรวจสอบความนาเช่ือถือของขอมูลใหถกูตอง 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) เทียบศักราชที่สําคัญตามปฏิทินทีใ่ชในชีวิตประจําวัน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. สืบคนและรวบรวมขอมูลของโรงเรียน จากหลักฐานและแหลงขอมูลได 2. ตรวจสอบความนาเช่ือถือและแหลงขอมลูได 3. สืบคนขอมลูของชุมชนจากแหลงฐานและแหลงขอมูลได 4. ตรวจสอบความนาเช่ือถือของแหลงขอมลูได 5. บอกประเภทของหลักฐานหรือแหลงขอมลูได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู 1. ที่มาของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน เชน พุทธศักราช คริสตศักราชอยางสังเขป 2. ที่มาของบฮิจเราะหศักราชอยางสังเขป 3. วิธีการเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. 4. ตัวอยางการเทียบศักราชในเหตุการณที่เกิดขึ้นกับนักเรียน

มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตรสามารถใชวิธีการทาง

ประวัติศาสตรมาวิเคราะหเหตุการณตางๆ อยางเปนระบบ

62

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 18 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทายแลวใหนักเรยีนศึกษาบทเรียนที่ 6 ยอนอดีต จากหนังสือเรียนประวัติศาสตร

ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ

2. ครูอธิบายเช่ือมโยงจากเน้ือหาในบทเรียน ใหนักเรียนเขาใจวาช่ือหมูบานหรือชุมชน มักแฝง เรื่องราว

หรือประวัติความเปนมาอยูดวย

3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 18

4. ครูเฉลยใบงานและสรุปบทเรยีน

63

คํากสั่ง : ใหนกัเรียนทาํผงัความคิด ความเจริญรุงเรืองในอดีตของชุมชนพระปฐมเจดียโดยศึกษาขอมูล

จากหนังสือเรยีน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 18

ความรุงเรืองของชุมชนพระปฐมเจดีย

มีหลักฐานสําคัญ คือ

1………………………………………………...

2………………………………………………...

3………………………………………………...

4………………………………………………...

64

คําสั่ง : ใหนักเรียนทําผังความคิด ความเจริญรุงเรืองในอดีตของชุมชนพระปฐมเจดียโดยศึกษาขอมูลจาก

หนังสือเรียน

1. เหรียญเงิน 2. พระพุทธรูปศิลาขาว 3. ธรรมจักรศิลา 4. ภาพประดับปูนปนแสดงถึง

การเดินทางของพอคาสมัยนั้น

ความรุงเรืองของชุมชนพระปฐมเจดีย

มีหลักฐานสําคัญ คือ

ใบงานท่ี 18 เฉลย

65

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูกลาวทักทาย 2. ครูทบทวนบทเรียนในช่ังโมงกอน แลวอธิบายเช่ือมโยงวา ช่ือของชุมชนตางก็แฝงเรื่องราวที่นา

ภาคภูมิใจของชุมชนเอาไว 3. ครูใหนักเรียนบอกช่ือหมูบานหรือชุมชนที่นักเรียนอาศัยอยูลงบนกระดาษที่ครูแจกให 4. ครูรวบรวมรายช่ือหมูบานของนักเรียนที่ซ้ํากันไวในกลุมเดียวกัน 5. ครูใหนักเรียนที่อยูชุมชนเดียวกันรวมปรึกษาหารือเก่ียวกับชุมชนของตนเองในประเด็นตามใบงาน

ที่ 19 ทีค่รูแจกให 6. ครูใหนักเรียนแตละกลุมนําเสนอผลงานตามใบงานที่ 19 7. ครูสรุปบทเรียนวาแตละชุมชนตางมีประวัติความเปนมาของตนเองซึ่งคนในชุมชนควรเรียนรูจะไดเกิด

ความคิดความภาคภูมิใจในชุมชนของตน

66

คําตอบอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนรวบรวมขอมูลชุมชนของตนเอง

ช่ือหมูบานหรือชุมชน............................................................

1. ที่มาของชุมชน

………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………….

2. หลักฐานสําคญัในชุมชน

………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………….

3. เหตุการณสําคัญในชุมชน

………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………….

4. ผลงานอันนาภาคภูมิใจของชุมชน

………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………….

ใบงานท่ี 19

67

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 7 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 2 สืบคนเรื่องราวในอดีต ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 7 เรียนรูเรื่องพระปฐมเจดีย จํานวน 2 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด การสืบคนและรวบรวมขอมูลเรื่องราวในอดีต จากแหลงขอมูลตางๆที่เกีย่วของ ตองทําอยางมีระบบขั้นตอน และตองตรวจสอบความนาเช่ือถือของขอมูลใหถกูตอง 2. ตัวชี้วัด ส 4.1 (1) เทียบศักราชที่สําคัญตามปฏิทินทีใ่ชในชีวิตประจําวัน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. สืบคนและรวบรวมขอมูลของโรงเรียน จากหลักฐานและแหลงขอมูลได 2. ตรวจสอบความนาเช่ือถือและแหลงขอมลูได 3. สืบคนขอมลูของชุมชนจากแหลงฐานและแหลงขอมูลได 4. ตรวจสอบความนาเช่ือถือของแหลงขอมลูได 5. บอกประเภทของหลักฐานหรือแหลงขอมลูได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู 1. ที่มาของศักราชที่ปรากฏในปฏิทิน เชน พุทธศักราช คริสตศักราชอยางสังเขป 2. ที่มาของบฮิจเราะหศักราชอยางสังเขป 3. วิธีการเทียบ พ.ศ. กับ ค.ศ. 4. ตัวอยางการเทียบศักราชในเหตุการณที่เกิดขึ้นกับนักเรียน

มาตรฐาน ส 4.1 เขาใจความหมาย ความสําคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตรสามารถใชวิธีการทาง

ประวัติศาสตรมาวิเคราะหเหตุการณตางๆ อยางเปนระบบ

68

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 20 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทายนักเรียน

2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาชุมชนแตละชุมชนมีเรื่องราวที่ไปที่มา มีความสําคัญแตกตางกันออกไป ดังเชน

ชุมชนพระปฐมเจดียที่นักเรยีนจะไดเรียนตอไปน้ี

3. ครูใหนักเรียนอานเรื่องที่ 7 เรียนรูเรื่องพระปฐมเจดีย จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร

ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ

4. ครูใหนักเรียนสรุปตํานานพระปฐมเจดียลงในใบงานที่ 20

5. ครูสุมนักเรียนออกมาเลาเรื่องราวของพระปฐมเจดียหนาช้ันเรียน

6. ครูสรุปเรื่องตํานานพระปฐมเจดียวาเปนตํานานที่มีปาฏิหาริยเพ่ิมขึ้นดวยเพ่ือความสนุกสนาน เราตอง

แยกใหไดวาอันไหนเปนขอเท็จจริงอันไหนเปนสิ่งที่เปนปาฏิหาริยเพ่ือใหเกิดความสนุกสนาน

69

คําตอบอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนสรุปตํานานพระปฐมเจดีย พอเขาใจโดยศึกษาขอมูลจากบทเรียน

ตํานานพระปฐมเจดีย

…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………….……………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………….………………………………….

ใบงานท่ี 20

70

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูทบทวนบทเรียนจากช่ัวโมงกอน

2. ครูอธิบายเช่ือมโยงวาการศึกษาเรื่องราวในชุมชน จะทําใหไดเรียนรูความสําคัญของชุมชน เกิดความ

ซาบซึ้ง ความภาคภูมิใจในประวัติของชุมชนและชวยกันรักษาสืบทอดสิ่งดีงามของชุมชนตอไปดวย

3. ครูใหนักเรียนวาดภาพชุมชนของนักเรียนพรอมระบายสีใหสวยงาม อธิบายวาสิ่งที่นักเรียนภาคภูมิใจ

ในชุมชนของนักเรียน และวิธีการที่นักเรียนจะอนุรักษสิ่งทีดี่งามในชุมชน ลงในใบงานที ่21

4. ครูนําใบงานที่ 21 ของนักเรียนมาจักบอรดหนาช้ันเรียน

71

คําสั่ง : ใหนักเรียนวาดภาพ ระบายสี และเขียนคาํบรรยายสั้นๆ ชุมชนในฝนของฉัน

คําตอบอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 21

ภาพชุมชนในฝนของฉัน

72

ได้คะแนน คะแนนเต็ม

แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 2 สืบคนเรื่องราวในอดีต

คําชี้แจง ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว

1. ใครควรจะใหขอมูลความเปนมาของโรงเรียน ได

นาเช่ือถือมากที่สุด

ก. แมคา ข. ครูใหญ ค. คนในชุมชน

2. แหลงขอมูลใด เปนเอกสารสาํคัญของโรงเรียน

ก. หนังสือทําเนียบรุน

ข. บันทึกการทองเที่ยวของครู

ค. ทะเบียนประวัติของนักเรียน

3. พิพิธภัณฑทองถิ่น เปนหลักฐานลักษณะใด

ก. ภาพถาย ข. รูปปนบุคคล ค. สถานที่สําคญั

4. หลักฐานใดใหขอมูลแตกตางจากหลักฐานอ่ืนๆ

ก. หนังสือประวัติชุมชน

ข. ศาลากลางจังหวัด

ค. รูปปนเจาเมือง

5. การซักถามเปนขั้นตอนใดในวิธีการทางประวัติศาสตร

ก. การรวบรวมขอมลู ข. การนําเสนอขอมูล ค. การกําหนดหัวขอ

6. ขอมูลชุมชนทีม่ีความนาเช่ือถือ ควรผานขัน้ตอนใด

ก. การตรวจสอบขอมูล ข. การกําหนดหัวขอ ค. การนําเสนอหัวขอ

7. การใชเสนเวลา (Time Line) มีประโยชนอยางไร

ก. ทําใหแยกขอมลูไดงาย

ข. ทําใหมีความนาเช่ือถือ

ค. เรียงลําดับเหตุการณที่เกิดขึ้นไดตอเน่ืองกัน

8. ขอใดเปนแหลงขอมูลเกี่ยวกับโรงเรียน

ก. สูติบัตร

ข. ทะเบียนบาน

ค. เว็บไซตของโรงเรียน

9. การสืบคนประวัติของชุมชน ทําใหนักเรียนเกิดความรูสึก

อยางไร

ก. ต่ืนเตน ข. ภาคภูมิใจ ค. เบ่ือหนาย

10. การศึกษาเหตุการณสําคัญของโรงเรียนและชุมชน

มีประโยชนอยางไร

ก. ทราบความตอเน่ืองของการเปลี่ยนแปลง

ข. เลือกที่เรียนและที่อาศัยไดเหมาะสมกับตนเอง

ค. ทําใหเลาเรื่องโรงเรียนและชุมชนไดสนุกมากขึ้น

1. ข 2. ค 3. ค 4. ก 5. ก

6. ก 7. ค 8. ค 9. ข 10. ก 10

73

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 8 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 3 การต้ังถ่ินฐานและการดําเนินชีวิตในชุมชน ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 8 เม่ือน้ําทวม จํานวน 4 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด ปจจัยสําคัญทีม่ีอิทธิพลตอการต้ังถิ่นฐานและการดํารงชีวิตของคนในชุมชนคือปจจัยทางภูมิศาสตร สภาพแวดลอม และปจจัยทางสังคม 2. ตัวชี้วัด ส.4.2 (1) ระบุปจจัยที่มีอิทธิพลตอการต้ังถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายการเลือกทําเลที่ต้ังชุมชนของคนในอดีตได 2. อธิบายถึงพัฒนาการของชุมชนที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดลอมได 3. บอกปจจัยที่มีอิทธิพลตอการต้ังถิ่นฐาน และพัฒนาการของคนในชุมชนได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู

1. ปจจัยการต้ังถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน ประกอบดวย ปจจัยทางภูมิศาสตรและปจจัยทาง

สังคม

2. พัฒนาการของชุมชนที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดลอมทางภูมิศาสตรและสภาพแวดลอมทางสังคม

มาตรฐาน ส 4. 2 เขาใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจจุบันในดานความสัมพันธและการ

เปลี่ยนแปลงของเหตุการณอยางตอเน่ือง ตระหนักถึงความสําคัญและสามารถวิเคราะหผลกระทบที่เกดิขึ้น

74

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 22 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูแจงใหนักเรยีนทราบวาในช่ัวโมงน้ีจะเรียนเรื่องที่ 8 เมือ่นํ้าทวม 2. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่อง เมื่อนํ้าทวมในประเด็นตอไปน้ี

- ปจจัยทางภูมิศาสตรของอําเภอบางบัวทอง - ปจจัยทางสังคมของอําเภอบางบัวทอง

3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 22 4. ครูเฉลยใบงานที่ 22 5. ครูสรุปบทเรียนวา การต้ังถิ่นฐานของผูคนสมัยกอน เลือกต้ังชุมชนดวยปจจัยหลายประการ มีทั้งปจจยั

ทางภูมิศาสตรและปจจัยทางสังคมดวย

75

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกปจจัยในการต้ังชุมชนของชาวอําเภอบางบัวทอง

ปจจัยทางภูมิศาสตร ปจจัยทางสังคม 1........................................................................... .............................................................................

1............................................................................. ....................................................................................

2. ........................................................................... ............................................................................. .............................................................................

2................................................................................ .................................................................................... ...................................................................................

3. ........................................................................... .................................................................................. .....................................................................................

3. ........................................................................... .................................................................................. ...................................................................................

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 22

76

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกปจจัยในการต้ังชุมชนของชาวอําเภอบางบัวทอง

ปจจัยทางภูมิศาสตร ปจจัยทางสังคม 1. ต้ังอยูในที่ราบลุมแมน้าํเจาพระยาตอนลาง

1. มีอาชีพทาํนาทาํสวน

2. มีแมน้ําลาํคลองหลายสาย

2. ใชเรือเปนพาหนะ ในการคมนาคม

3. มีฤดูน้ําหลากตอนปลายฤดูฝนทุกป

3. นิยมปลูกบานทรงไทยใตถุงสูง

ใบงานท่ี 22 เฉลย

77

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูทบทวนถึงปจจัยการต้ังถิ่นฐานของชาวอําเภอบางบัวทอง

2. ครูอธิบายเช่ือมโยงถึงประโยชนของการต้ังชุมชนของคนในอดีตตามปจจัยของสภาพแวดลอมทาง

ภูมิศาสตร ประโยชนในการดํารงชีวิตของคนในอดีต เชน สภาพพ้ืนที่ราบลุม เหมาะแกการเพาะปลูก

การอยูใกลแมนํ้าลําคลองทําใหมีความอุดมสมบูรณ ในนํ้ามีปลาในนามีขาว ใชแมนํ้าลําคลองในการ

อุปโภคและบริโภค อีกทั้งยังใชแมนํ้าลําคลองเปนเสนทางคมนาคมอีกดวย

3. ครูใหนักเรียนศึกษาเน้ือหาบทเรียนเรื่องที่ 8 เมื่อนํ้าทวม ในประเด็นตอไปน้ี

- เหตุใดในอดีตนํ้าจึงไมทวมอําเภอบางบัวทอง

- เหตุใดในปจจบัุนอําเภอบางบัวทองจึงเกิดนํ้าทวม

4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 23

5. ครูเฉลยใบงาน และสรุปบทเรียน

78

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง โดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรยีน

1. เหตุใดในอดีตนํ้าจึงไมทวมอําเภอบางบัวทอง

ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………………………………………………………...…

……………………………………………………………………………………………………………………………………

2. เหตุใดในปจจบัุนนํ้าจึงทวมอําเภอบางบัวทอง

ตอบ…………………………………………………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………..……………………………………………………...

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ใบงานท่ี 23

79

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง โดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรยีน

1. เหตุใดในอดีตนํ้าจึงไมทวมอําเภอบางบัวทอง

ตอบเพราะเม่ือปกอน อําเภอบางบัวทองมีแมน้ําลาํคลองหลายสายเปนที่ริมน้ํา เวลาฝนตก

ทําใหระบายน้าํไดดี

2. เหตุใดในปจจุบันนํ้าจึงทวมอําเภอบางบัวทอง

ตอบเพราะแมน้ําลําคลองต้ืนเขนิ คลองลดนอยลงกวาในอดีตมากเพราะบางแหงถูกถมเพื่อ

สรางอาคารบานเรือน ทาํใหการระบายน้าํไมสะดวกจึงเกิดน้ําทวมขึน้

ใบงานท่ี 23

เฉลย

80

ชั่วโมงที่ 3

1. ครูทบทวนบทเรียนในช่ัวโมงกอน 2. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนที่ 8 เมื่อนํ้าทวม ในประเด็นดังตอไปน้ี

- ชาวบางบัวทองในอดีตไดรับผลกระทบจากนํ้าทวมไมมากนักเปนเพราะเหตุใด

- สาเหตุสําคัญของการเกิดนํ้าทวมคืออะไร 3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 24 4. ครูตรวจใบงาน และสรุปบทเรียน

81

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง โดยศึกษาเนื้อหาในบทเรียน

1. สาเหตุที่ชาวบางบัวทองในอดีตไดรับผลกระทบจากนํ้าทวมไมมากคืออะไร

ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………

..

……………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………

…………………...

2. สาเหตุสําคัญของการเกิดนํ้าทวมคืออะไร

ตอบ………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………..………………………….

……………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………...

ใบงานท่ี 24

82

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง โดยศึกษาเนื้อหาในบทเรียน

1. สาเหตุที่ชาวบางบัวทองในอดีตไดรับผลกระทบจากนํ้าทวมไมมากคืออะไร

ตอบ เพราะสมัยกอนอยูบานทรงไทย ซึ่งมีใตถุนสูง พอน้ําทวมหรือน้าํในแมน้าํลํา

คลองมากขึน้ ก็จะไหลผานใตถุนบานขาวของและผูคนที่อยูบนบานก็จะไมไดรับความ

เสียหาย

2. สาเหตุสําคัญของการเกิดนํ้าทวมคืออะไร

ตอบ เพราะสิง่แวดลอมถูกทําลาย การตัดไมทําลายปา การดํารงชีวิตของผูคน

เปลีย่นไป นิยมใชถนนมากกวาแมน้ําลาํคลองในการคมนาคม ความเจริญของ

บานเมืองทําใหเกิดมลพิษและภัยธรรมชาติมากขึ้น

เฉลย ใบงานท่ี 24

83

ชั่วโมงที่ 4

1. ครูสนทนาถึงบทเรียนนํ้าทวมอําเภอบางบัวทองในช่ัวโมงกอน

2. ครูอธิบายเช่ือมโยงถึงบานทรงไทยที่ชาวอําเภอบางบัวทองในอดีตใชประโยชนในการดํารงชีวิต

3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 25

4. ครูเฉลยใบงานที่ 25

5. ครูสุมนักเรียนออกมานําเสนอผลงานหนาช้ันเรียน

6. ครูนําผลงานของนักเรียน คือใบงานที่ 25 มาแสดงผลงานดวยการจัดบอรดหนาช้ันเรียน

84

คําสั่ง : ใหนักเรียนวาดภาพบานทรงไทย พรอมอธิบายประโยชนของบานทรงไทยพอเขาใจ (ระบายสใีหสวยงาม)

วาดภาพบา้นทรงไทย

วาดภาพบา้นทรงไทย

ประโยชนของบานทรงไทย

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 25

วาดภาพบานทรงไทย

85

คําสั่ง : ใหนักเรียนวาดภาพบานทรงไทย พรอมอธิบายประโยชนของบานทรงไทยพอเขาใจ (ระบายสใีหสวยงาม)

วาดภาพบา้นทรงไทย

ประโยชนของบานทรงไทย

บานทรงไทยเปนบานที่เหมาะสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศของเมืองไทยมากที่สุด เพราะมีใตถุนบาน

ใชเปนที่ทํางาน น่ังเลน เก็บของตางๆ ได อากาศก็เย็นสบาย หนาฝนนํ้าก็ไมทวมบาน เพราะไหลผาน

ใตถุนไป หลังคาที่สูงชวยระบายอากาศและทําใหนํ้าฝนไหลลงพ้ืนไดเร็ว นํ้าไมคางบนหลังคา และมี

ชายคายาวชวยกันแดดกันฝน ไมใหเขามาในบาน

วาดภาพบานทรงไทย(ตัวอยาง)

ใบงานท่ี 25 เฉลย

86

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 9 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 3 การต้ังถ่ินฐานและการดําเนนิชวิีตในชุมชน ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 9 หลังน้ําทวม จํานวน 4 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด ปจจัยสําคัญทีม่ีอิทธิพลตอการต้ังถิ่นฐานและการดํารงชีวิตของคนในชุมชน คือปจจัยทางภูมิศาสตร สภาพแวดลอม และปจจัยทางสังคม 2. ตัวชี้วัด ส.4.2 (1) ระบุปจจัยที่มีอิทธิพลตอการต้ังถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. อธิบายการเลือกทําเลที่ต้ังชุมชนของคนในอดีตได 2. อธิบายถึงพัฒนาการของชุมชนที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดลอมได 3. บอกปจจัยที่มีอิทธิพลตอการต้ังถิ่นฐาน และพัฒนาการของคนในชุมชนได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู

1. ปจจัยการต้ังถิ่นฐานและพัฒนาการของชุมชน ประกอบดวย ปจจัยทางภูมิศาสตรและปจจัยทาง

สังคม

2. พัฒนาการของชุมชนที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดลอมทางภูมิศาสตรและสภาพแวดลอมทางสังคม

มาตรฐาน ส 4. 2 เขาใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจจุบันในดานความสัมพันธและการ

เปลี่ยนแปลงของเหตุการณอยางตอเน่ือง ตระหนักถึงความสําคัญและสามารถวิเคราะหผลกระทบที่เกดิขึ้น

87

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1.แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2.ใบงานที่ 26 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูสนทนาถึงบทเรียนที่ 8 เมือ่นํ้าทวม แลวแจงวาช่ัวโมงน้ีจะเรียนเรื่องที่ 9 หลังนํ้าทวม 2. ครูใหนักเรียนศึกษาจากบทเรียน แลวใหสรปุเรื่องราวหลังนํ้าทวมลงในใบงานที่ 26 3. ครูสุมนักเรียนออกมาเลาเหตุการณหลังนํ้าทวมจากใบงานที่ 26 4. ครูและนักเรียนชวยกันสรุปบทเรียน

88

คําสั่ง : ใหนักเรียนสรุปเรื่องราวหลงัน้าํทวม โดยศึกษาเนื้อหาในบทเรยีน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 26

สรุป เรื่องราวหลังน้ําทวม

…………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………...……………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………...……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………...……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………...……………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

89

คําสั่ง : ใหนักเรียนสรุปเรื่องราวหลงัน้าํทวม โดยศึกษาเนื้อหาในบทเรยีน

ใบงานที่ 26

สรุป เรื่องราวหลังน้ําทวม

หลังน้าํทวมชาวบานไดรับความชวยเหลือจากทางการ จัดอาหาร น้ําดื่ม ยารักษาโรค

ออกแจกจายแกประชาชน เจาหนาที่และชาวบานชวยกันทําความสะอาดบานเรือนและถนน

หนทาง ซอมแซมถนน และจะตัดถนนสายใหมเลี่ยงเมืองผานอําเภอบางบัวทอง

เฉลย

90

ช่ัวโมงที่ 2

1. ครูทบทวนเรื่องราวการตัดถนนสายเลี่ยงเมืองจากบทเรียน

2. ครูใหนักเรียนอธิบายถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการตัดถนนใหม

3. ครูเฉลยใบงานที่ 27

4. ครูสุมนักเรียนออกมาสรุปผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการตัดถนนใหมสายเลีย่งเมือง

91

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกผลกระทบทีเ่กิดจากการตัดถนนใหมเลี่ยงเมืองโดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรยีน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานที่ 27

ผลจากการตัด

ถนนสายใหม

..................................

..................................

..................................

..................................

..................................

..................................

..................................

..................................

92

ใหนักเรียนบอกผลกระทบทีเ่กิดจากการตัดถนนใหมเลี่ยงเมืองโดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรียน

ผลจากการตัด

ถนนสายใหม

มีการสรางอาคาร

บานเรือนเพิ่มขึ้น

คนมาอยูอาศยัเพิ่ม

มากขึ้น

รานคาเกิดขึน้

รถมากขึ้น

ใบงานท่ี 27

เฉลย

93

ชั่วโมงที่ 3

1. ครูทบทวนบทเรียน 2. ครูใหนักเรียนศึกษาการเปลี่ยนแปลงของอําเภอรังสิตจังหวัดปทุมธานี จากเน้ือหาในบทเรียนวิชา

ประวัติศาสตร ในประเด็นตอไปน้ี - การเปลี่ยนแปลงของอําเภอรังสิต จากอดีตจนถึงปจจุบัน - สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอมของ อําเภอรังสิต - สาเหตุสําคัญที่ทําใหอําเภอรังสิต และอําเภอบางบัวทอง มีสภาพแวดลอมและวิถีชีวิตของผูคนเปลี่ยนแปลงไปคืออะไร

3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 28 4. ครูอธิบายสรุปบทเรียน

94

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนหาเรื่องหมายหนาขอที่ถูก และกาเครื่องหมาย × หนาขอทีผ่ดิโดยศึกษาจากเนื้อหา ในบทเรียน .......... 1. การตัดถนนใหมคอืสาเหตุสําคัญที่ทําใหสภาพแวดลอมของอําเภอรังสิตและอําเภอบางบัวทอง เปลีย่นแปลงไป …….... 2. อําเภอบางบัวทองเปนเสนทาง ผานไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ .......... 3. พ้ืนที่สวนใหญของอําเภอรังสิตในอดีตเปนทุงนา .......... 4. อําเภอบางบัวทองมีโรงงานอุตสาหกรรม มาต้ังจํานวนมาก .......... 5 . อําเภอรังสิตเติบโตเร็วมาก ผูคนเพ่ิมขึ้น ทุงนาหายไปกลายเปนหมูบานจัดสรรหมดแลว .......... 6. การคมนาคมสําคญัในอดีตของชาวอําเภอรังสิตคือ เรือ .......... 7. การมีที่ต้ังเปนเสนทางผานไปภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปนสาเหตุสําคัญของการ เจรญิเติบโตอยางรวดเร็วของอําเภอรังสิต .......... 8. อําเภอบางบัวทอง เจริญเติบโตอยางรวดเร็วกอนอําเภอรังสิต .......... 9. เหตุการณนํ้าทวมเปนเหตุการณสําคัญของการเปลี่ยนแปลงในอําเภอรังสิต ...........10. ความตองการอยูใกลๆกรุงเทพเปนเหตุผลสําคญัที่ทําใหเกิดบานจัดสรรในในเขต อําเภอรังสิต

ใบงานท่ี 28

95

คําสั่ง : ใหนักเรียนหาเรื่องหมายหนาขอที่ถูก และกาเครื่องหมาย × หนาขอทีผ่ดิโดยศึกษาจากเนื้อหา ในบทเรียน 1. การตัดถนนใหมคือสาเหตุสําคัญที่ทําใหสภาพแวดลอมของอําเภอรังสิตและอําเภอบางบัวทอง เปลี่ยนแปลงไป × 2. อําเภอบางบัวทองเปนเสนทาง ผานไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3. พ้ืนที่สวนใหญของอําเภอรังสิตในอดีตเปนทุงนา × 4. อําเภอบางบัวทองมีโรงงานอุตสาหกรรม มาต้ังจํานวนมาก 5. อําเภอรังสิตเติบโตเร็วมาก ผูคนเพ่ิมขึ้น ทุงนาหายไปกลายเปนหมูบานจัดสรรหมดแลว 6. การคมนาคมสําคัญในอดีตของชาวอําเภอรังสิตคือ เรือ 7. การมีทีต้ั่งเปนเสนทางผานไปภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปนสาเหตุสําคัญของการ เจรญิเติบโตอยางรวดเร็วของอําเภอรังสิต × 8. อําเภอบางบัวทอง เจริญเติบโตอยางรวดเร็วกอนอําเภอรังสิต × 9. เหตุการณนํ้าทวมเปนเหตุการณสําคัญของการเปลี่ยนแปลงในอําเภอรังสิต 10. ความตองการอยูใกลๆกรุงเทพเปนเหตุผลสําคญัทีท่ําใหเกิดบานจัดสรรในในเขต อําเภอรังสิต

เฉลย ใบงานท่ี 28

96

ชั่วโมงที่ 4

1. ครูทบทวนบทเรียน 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา ความเจริญรุงเรือง กาลเวลา หรือเหตุการณสําคัญบางอยางทําใหเกิดการ

เปลี่ยนแปลง 3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 29 4. ครูเฉลยใบงานที่ 29 และสรุปวา บานเมืองและวิถีชีวิตของคนจะเปลี่ยนแปลงอยางไรขึ้นอยูกับปจจัย

หลายอยาง บานเมืองจะเติบโตอยางไร ควรรักษาวัฒนธรรมและความมีนํ้าใจตอกันเอาไว

97

คําสั่ง : ใหนักเรียนบรรยายความเปลี่ยนแปลง ของอําเภอบางบัวทองและอําเภอรงัสิตวามีความ

เจริญรุงเรืองอยางไรบาง

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

1. ดานสภาพบานเมือง อาคารบานเรือน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………..…….

………………………………………………………………………………………………………….…………………………….

2. ดานการคมนาคม

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. ดานสิ่งอํานวยความสะดวก

…………………………………………………..………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………..…………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ใบงานท่ี 29

98

คําสั่ง : ใหนักเรียนบรรยายความเปลี่ยนแปลง ของอําเภอบางบัวทองและอําเภอรงัสิตวามีความ

เจริญรุงเรืองอยางไรบาง

1. ดานสภาพบานเมือง อาคารบานเรือน

จากบานทรงไทย ทุงนา กลายเปนหมูบานจัดสรร และโรงงานอุตสาหกรรม

2. ดานการคมนาคม

จากการใชเรือเปลีย่นเปนการใชรถยนต มีการตัดถนนใหญๆเพิ่มขึน้

3. ดานสิ่งอํานวยความสะดวก

มีน้ําประปา ไฟฟา โทรศพัท รานคาสะดวกซื้อ แทนตลาดสด บอน้าํ และ ตะเกียง เพื่อ

เอ้ืออํานวยความสะดวกสบายแกผูคน

เฉลย ใบงานท่ี 29

99

ได้คะแนน คะแนนเต็ม

แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 3 การต้ังถ่ินฐานและการดําเนินชีวิตในชุมชน

คําชี้แจง ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว

1. คนไทยสมัยกอนเลือกที่ต้ังชุมชนตามที่ราบลุมดวย

เหตุผลใด

ก. เพราะสภาพพ้ืนที่ราบลุม เหมาะแกการเพาะปลูกซึ่งเปนอาชีพหลัก

ข. เพราะสภาพที่ราบลุมนํ้าทวมงาย เวลานํ้าทวมมีความสนุกสนานดี

ค. เพราะสภาพที่ราบลุม มีอากาศดีอยูแลวสบายใจ 2. แมนํ้าลําคลองมีประโยชนตอการต้ังถิ่นฐานของชุมชนในอดีต ก. ใชอุปโภค บริโภค

ข. ใชเปนเสนทางคมนาคม

ค. ถูกทั้งขอ ก และขอ ข

3. ในอดีตอําเภอบางบัวทองมีแมนํ้าลําคลองหลากสาย เพ่ือ

อะไร

ก. เปนที่รับนํ้าเวลาฝนตก และระบายนํ้าไมใหทวมขัง ข. เปนตลาดนํ้าไวใหนักทองเที่ยวชม ค. เปนแหลง พายเรือเที่ยวพักผอนหยอยใจ

4. เหตุผลใดที่ทําใหคลองตางๆในอําเภอบางบัวทองต้ืนเขิน

และลดจํานวนลง

ก. แมนํ้าลําคลองเปลี่ยนเสนทาง

ข. ถูกถมเพ่ือสรางอาคารบานเรือนและสรางถนน

ค. แมนํ้าลําคลองไมไดรับการดูแลเทาที่ควร

5. การที่แมนํ้าลําคลองลดจํานวนลงสงผลกระทบอยางไร

ก. นํ้าทวมหนัก ข. แหงแลงหนัก ค. ดินถลม

6. สมัยกอนอําเภอรังสิตมีสภาพแวดลอมเปนอยางไร

ก. ทุงนา ข. โรงงานอุตสาหกรรม ค. บานจัดสรร

7. ปจจุบันสภาพแวดลอมของอําเภอรังสิตเปนอยางไร

ก. ทุงนา

ก. โรงงานอุตสาหกรรม ค. บานจัดสรร

8. อําเภอรังสิตเปนเสนทางผานไปยังภาคใด

ก. ภาคเหนือ และภาคใต

ข. ภาคเหนือ และภาคตะวันนออกเฉียงเหนือ

ค. ภาคเหนือและภาคตะวันตก

9. หลังนํ้าทวมอําเภอบางบัวทองเปลี่ยนไปอยางไร

ก. มีการตัดถนนหนทางใหม ข. มีแมนํ้าสายใหม ค. สรางบานทรงไทยมากขึ้น

10. ขอใดแสดงถึงการพัฒนาชุมชนเขาสูความเจริญ

สมัยใหม

ก. ใชเรือ

ข. ใชรถไฟฟา

ค. ใชรถยนต

1. ก 2. ค 3. ก 4. ข 5. ก

6. ก 7. ค 8. ข 9. ก 10. ข 10

100

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 10 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 4 ประเพณีและวัฒนธรรมของคน ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 10 งานบุญสงกรานต จํานวน 2 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด สภาพแวดลอมและสภาพสังคม เปนปจจัยสําคัญทีม่ีผลทาํใหเกิด ประเพณีและวัฒนธรรมในชุมชน 2. ตัวชี้วัด

ส 4.2 (2) สรุปลักษณะที่สําคญัของขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชน ส 4.2 (3) เปรียบเทียบความเหมือนและความตางทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนน้ันๆ 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกความสําคัญของประเพณีสงกรานตได 2. บอกลักษณะเดนของประเพณีสงกรานต ในแตละภาคได 3. บอกภูมิปญญาชาวบานในการอนุรักษ ดิน นํ้ารวมถึงเหลาทรัพยากรทีส่ําคัญได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู

1. ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชนที่เกิดจากปจจัยทางภูมิศาสตรและปจจัยทาง

สังคม

2. ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชนใกลเคียงที่เหมือนและแตกตางกับชุมชนของ

ตนเอง

มาตรฐาน ส 4. 2 เขาใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจจุบันในดานความสัมพันธและการ

เปลี่ยนแปลงของเหตุการณอยางตอเน่ือง ตระหนักถึงความสําคัญและสามารถวิเคราะหผลกระทบที่เกดิขึ้น

101

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 30 8.กิจกรรมการเรียนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทาย

2. ครูนําภาพการละเลนเกี่ยวกับวันสงกรานตมาใหนักเรียนดูดังน้ี - ภาพวันสงกรานตชาวภาพเหนือ - ภาพวันสงกรานตชาวภาพกลาง - ภาพวันสงกรานตชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - ภาพวันสงกรานตชาวภาคใต

3. ครูแบงกลุมนักเรียนเปนกลุม 4 กลุม มอบหมายใหไปศกึษาเรื่องประเพณีวันสงกรานต ในแตละภาคแลวนําเสนอรายละเอียดในช่ัวโมงตอไป

4. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนเรื่องวันสงกานต 5. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 30 6. ครูเฉลยใบงาน พรอมสรุปบทเรียนวา วันสงกานตเปนประเพณีของไทยที่จัดใหมีขึ้นในวันที่ 13

เมษายนของทุกภาคทั่วประเทศไทย ซึ่งในแตละภาคจะมีรายละเอียดของประเพณีที่แตกตางกันไป

102

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกบอกกิจกรรมสําคญัที่นิยมทาํในวันสงกรานตโดยศึกษาจากบทเรียนและ

ประสบการณของนกัเรียน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

กิจกรรมวันสงกรานต

......................

......................

......................

......................

......................

......................

......................

......................

......................

......................

ใบงานท่ี 30

103

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกบอกกิจกรรมสําคญัที่นิยมทาํในวันสงกรานตโดยศึกษาจากบทเรียนและ

ประสบการณของนกัเรียน

กิจกรรมวันสงกรานต

สงน้ํา

พระพุทธรูป ขนทรายเขา

วัด

รดน้ําดําหัว

ผูใหญ

รดน้ํา

สงกรานต

ทําบุญ

ตักบาตร

เฉลย ใบงานท่ี 30

104

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูกลาวทักทาย 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมจากช่ัวโมงกอน เตรียมความพรอม 5 นาท ี 3. ครสูุมใหนักเรียนออกมานําเสนอผลงาน ที่ครูมอบหมายใหไปคนควา เรื่องวันสงกรานต ของแตละภาคมานําเสนอหนาช้ันเรียน 4. ครูสรุปความรูเรื่องวันสงกรานต ของแตละภาค วาในวันสงกรานตในแตละภาคจะมีกิจกรรมที่แตกตางกัน 5. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 31 6. ครูเฉลยใบงานที่ 31

105

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกความแตกตางของกิจกรรมวันสงกรานตในแตละภาค

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ภาคกลาง .................................................................................................................

........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

ภาคเหนือ ..................................................................................................................

........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

ภาคอีสาน ...................................................................................................................

........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

ภาคใต ..................................................................................................................

........................................................................................................................................

........................................................................................................................................

ใบงานท่ี 31

106

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกความแตกตางของกิจกรรมวันสงกรานตในแตละภาค

ภาคกลาง - การเลนสะบาของหนุมสาวชาวมอญ สงกานตพระประแดง

- สงกรานตอุมสาวลาน้ํา ณ เกาะสีชัง จ.ชลบรุ ี

- เทศกาลวันไหล พัทยา จ.ชลบรุ ี

ภาคเหนือ - ประเพณีปใหมเมือง จ.เชยีงใหม

- ประเพณีดําหัว ชาวลานนา หมายถึงการสระผม

ภาคอีสาน - ตรุษสงกรานตทําบุญเดือนหา

- ประเพณีผูกสายสิญจน

ภาคใต - สรงน้าํพระพุทธรปู เรียกวันวาง

- พิธเีบญจา รดน้ําดําหัวผูใหญ

- สงกรานตบางดาน จ.นครศรีธรรมราช

เฉลย ใบงานท่ี 31

107

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 11 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 4 ประเพณีและวัฒนธรรมของคน ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 11 รักษปา รักษน้าํ จํานวน 2 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด สภาพแวดลอมและสภาพสังคม เปนปจจัยสําคัญทีม่ีผลทาํใหเกิด ประเพณีและวัฒนธรรมในชุมชน 2. ตัวชี้วัด ส 4.2 (2) สรุปลักษณะที่สําคญัของขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชน ส 4.2 (3) เปรียบเทียบความเหมือนและความตางทางวัฒนธรรมของชุมชนตนเองกับชุมชนน้ันๆ 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกความสําคัญของประเพณีสงกรานตได 2. บอกลักษณะเดนของประเพณีสงกรานต ในแตละภาคได 3. บอกภูมิปญญาชาวบานในการอนุรักษ ดิน นํ้ารวมถึงเหลาทรัพยากรทีส่ําคัญได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู

1. ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชนที่เกิดจากปจจัยทางภูมิศาสตรและปจจัยทาง

สังคม

2. ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมของชุมชนใกลเคียงที่เหมือนและแตกตางกับชุมชนของ

ตนเอง

มาตรฐาน ส 4. 2 เขาใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปจจุบันในดานความสัมพันธและการ

เปลี่ยนแปลงของเหตุการณอยางตอเน่ือง ตระหนักถึงความสําคัญและสามารถวิเคราะหผลกระทบที่เกดิขึ้น

108

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 32 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูทบทวนเน้ือหาบทเรียนในช่ัวโมงกอน

2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา นอกจากวันสงกรานตแลวยังมีประเพณีอ่ืนๆ ทีค่นในทองถิ่นสรางสมประเพณี ขึ้นมาดวยกุศโลบายตางๆ เชนประเพณีบวชปา สืบชะตา ขุนนํ้าของทางภาคเหนือที่ชวยกันอนุรักษปา อนุรักษนํ้า

3. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนที่ 11 รักษปา รักษนํ้า จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ แลวทําใบงานที่ 32

4. ครูเฉลยใบงานที่ 32 แลวสรุปบทเรียน

109

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตองโดยศึกษาเนื้อหาจากในบทเรียน

1. ประเพณีการบวชปา เปนประเพณีของภาคใด

ตอบ...................................................................................................................................................

2. ประเพณีการบวชปา มีวิธีการอยางไร

ตอบ...................................................................................................................................................

3. ประเพณีการบวชปาแผงกุศโลบาย ไวอยางไร

ตอบ...................................................................................................................................................

4. ประเพณีการบวชปามีผลดีอยางไร

ตอบ...................................................................................................................................................

5. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา เปนประเพณขีองภาคใด

ตอบ...................................................................................................................................................

6. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา มีวิธีการอยางไร

ตอบ...................................................................................................................................................

7. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา แฝงกุศโลบายไวอยางไร

ตอบ...................................................................................................................................................

8. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา มีผลดีอยางไร

ตอบ...................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 32

110

ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตองโดยศึกษาเนื้อหาจากในบทเรียน

1. ประเพณีการบวชปา เปนประเพณีของภาคใด

ตอบ ภาคเหนอื

2. ประเพณีการบวชปา มีวิธีการอยางไร

ตอบ ชาวบานนิมนตพระสงฆมาทําพิธี และเอาผาเหลอืงมาหุมตนไมใหญเอาไว

3. ประเพณีการบวชปาแผงกุศโลบาย ไวอยางไร

ตอบ เชื่อกันวาตมไมที่ทําพธิีบวชแลวจะมีสิ่งศักด์ิสิทธิ์ คุมครองทาํใหไมมีใครกลาตัดตนไม

4. ประเพณีการบวชปามีผลดีอยางไร

ตอบ เปนการอนุรักษตนไม ชวยกันดูแลตนไม ลดการตัดไมทําลายปา

5. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา เปนประเพณขีองภาคใด

ตอบ ภาคเหนอื

6. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา มีวิธีการอยางไร

ตอบ ทําพธิีทางศาสนา และพิธสีูขวัญควบคูกันไป

7. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา แฝงกุศโลบายไวอยางไร

ตอบ แฝงกุศโลบายวา แหลงตนน้ําดีๆมีสิง่ศักด์ิสิทธิ์ คอยคุมครองอยาทิ้งสิ่งสกปรก หรือของไมดีลงน้ํา

8. ประเพณสีบืชะตาขุนน้ํา มีผลดีอยางไร

ตอบ เปนการอนุรักษตนน้ําลําธาร สรางความยั่งยืนใหกับธรรมชาติ

ใบงานที่ 32 เฉลย

111

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูกลาวทักทาย และทบทวนบทเรียนจากช่ัวโมงกอน 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา ประเทศไทยมีประเพณีที่เกิดจากภูมิปญญาชาวบาน ในการอนุรักษความอุดมสมบูรณ ของทรัพยากรทางธรรมชาติ ในทุกภาคเชนเดียวกับภาคเหนือ 3. ครูถามนักเรียนวา ประเทศไทยเรามีประเพณี อะไรบางที่ชวยรักษาปาไม ตนนํ้า ลําธาร 4. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 33 5. ครูเฉลยใบงานและสรุปบทเรียนวา คนไทยรูจักการนําภูมิปญญาทองถิ่นมาปรับใช ประโยชนเพ่ือรักษาปาไม และแหลงนํ้า ประเทศไทยของเรา จะไดมีปาไมและแหลงนํ้าที่สมบูรณไปนานๆ

112

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกชื่อประเพณี และวัฒนธรรมที่นักเรียนรูจัก เลาความเปนมาโดยสังเขป บอกถึง

กุศโลบายแผงในประเพณ ีและขอดีของประเพณีนั้นๆ

ช่ือ.................................................นามสกุล..........................................เลขที่..........................

ช้ัน..............................................................

ประเพณ.ี.............................................................

ความเปนมาพอสังเขป

...................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................

..................................................................................................................................................

กิจกรรมสําคญัของประเพณีคือ.................................................................................................

กุศโลบายแฝงคือ.....................................................................................................................

ขอดีของประเพณีคือ...............................................................................................................

ใบงานท่ี 33

113

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอกชื่อประเพณี และวัฒนธรรมที่นักเรียนรูจัก เลาความเปนมาโดยสังเขป บอกถึง

กุศโลบายแผงในประเพณ ีและขอดีของประเพณนีั้นๆ

ช่ือ.................................................นามสกุล..........................................เลขที่..........................

ช้ัน..............................................................

ประเพณลีอยกระทง

ความเปนมาพอสังเขป

ประเพณลีอยกระทงมีมาต้ังแตสมัยสุโขทยั นางนพมาศผูเปนสนมเอกของพระรวงได

จัดทํากระทงประดับประดาสวยงาม ดวยดอกไมหลากสี ในวันเพญ็เดือน 12 เม่ือสมเด็จพระรวง

ไดเสด็จมาทอดพระเนตรเหน็กระทงของนางนพมาศ ทรงพอพระราชหฤทัยจึงมีโองการใหจัดพิธี

ลอยกระทงเปนประจําทุกป ในวันเพญ็เดือน 12 และถือปฏิบัติจนกระทั่งถึงบัดนี้

กิจกรรมสําคญัของประเพณีคอื ตกแตงกระทงใหสวยงามนําไปลอยตามแมน้ําลําคลอง

กุศโลบายแฝงคือ ขอขมา แมน้ําลาํคลอง

ขอดีของประเพณีคือ สรางจิตสํานึกในการรักษาแมน้ําลําคลอง

เฉลย ใบงานท่ี 33

114

ได้คะแนน คะแนนเต็ม

แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 4 ประเพณีและวัฒนธรรมของคน

คําชี้แจง ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว

1. ภาคใดไมมีประเพณีขอฝน ก. ภาคใต ข. ภาคเหนือ ค. ภาคกลาง 2. พ้ืนฐานของสังคมไทยประกอบอาชีพใด ก. คาขาย ข. ประมง ค. เกษตรกรรม 3. ขอใดไมเกี่ยวของกับการประกอบอาชีพทํานา ก. การทําขวัญขาว ข. การรองเพลงเรือ ค. การบูชาแมโพสพ 4. นํ้าพริกหนุมเปนอาหารของภาคใด ก. ภาคใต ข. ภาคเหนือ ค. ภาคกลาง 5. หากตองการรูวิธีทําขนมลา จะตองศึกษาวัฒนธรรมการกินของภาคใด ก. ภาคใต ข. ภาคเหนือ ค. ภาคกลาง 6. การรับประทานแคบหมู เปนผลมาจากปจจยัในดานใด

ก. สภาพภูมิประเทศ ข. สภาพภูมิอากาศ ค. สภาพทางสังคม

7. ขอใดแสดงใหเห็นความเช่ือของสังคมไทย ก. การบูชาแมโพสพ ข. การตักบาตรนํ้าผึ้ง ค. การเซนไหวผบีานผีเรือน 8. ขอใดเปนผักประจําทองถิ่นภาคใต ก. ผักไผ ใบบัวบก ข. ผักแวน ผกัคราด ค. ใบมะกอก ผักเหลียง 9.เพราะเหตุใด วิถีการดํารงชีวิตของแตละทองถิ่นจึงมีความ แตกตางกัน ก. เพราะมีความเช่ือตางกัน ข. เพราะมีการประกอบอาชีพตางกัน ค. เพราะมีปจจัยทางภูมิศาสตรและปจจัยทางสังคม ที่ตางกัน 10.การดําเนินชีวิตในสังคมที่มีความแตกตางกันทางดาน ขนบธรรมเนียมประเพณี จะตองปฏิบัติตนอยางไร ก. ปฏิบัติตนเหมือนที่อยูสังคมเดิม ข. แสดงการตอตานและไมปฏิบัติตาม ค. ทําความเขาใจและปรบัตัวใหมีความสอดคลอง

1.ก 2. ค 3. ข 4. ข 5. ก

6.ข 7. ค 8. ค 9. ค 10. ค 10

115

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 12 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 5 บุคคลสําคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 12 พระมหากษัตริยผูทรงสถาปนาอาณาจักรไทย จํานวน 1 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด การกอต้ังอาณาจักรของไทยน้ันบุคคลที่สําคัญยิ่งในการเปนผูนําคือพระมหากษัตริย ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพ่ือนํามาซึ่งความเจริญรุงเรืองของชาติ 2. ตัวชี้วัด ส 4. 3 (1) ระบุพระนาม และพระราชกรณียกิจโดยสังเขปของพระมหากษัตริยไทยทีเ่ปนผูสถาปนา อาณาจักรไทย ส 4. 3 (2) อธิบายพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยในรัชกาลปจจุบันพอสังเขป ส 4. 3 (3) เลาวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีสวนปกปองประเทศชาติ 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกพระนามกษัตริยผูสถาปนาอาณาจักรไทย 2. บอกพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยผูสถาปนาอาณาจักรไทยแตละพระองคได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย

มาตรฐาน ส 4.3 เขาใจความเปนมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญญา มีความรัก ความภาคภูมิใจ และธํารง

ความเปนไทย

116

6. สาระการเรยีนรู

1. พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ โดยสังเขปของพอขุนศรีอินทราทิตย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1

(พระเจาอูทอง) สมเด็จพระเจาตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช ผู

สถาปนาอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทรความลําดับ

2. พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยู และสมเด็จพระนางเจาสริิกิต์ิ

พระบรมราชินีนาถ โดยสังเขป

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 34 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทายนักเรียน

2. ครูแจงนักเรียนใหทราบถึงบทเรียนที่จะเรียนตอไป คือเรื่องที่ 12 พระมหากษัตริยผูทรงสถาปนา

อาณาจักรไทย

3. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนที่ 12 พระมหากษัตริยผูทรงสถาปนาอาณาจักรไทยในประเด็น

ตอไปน้ี

- อาณาจักรไทยต้ังแตอดีตจนถึงปจจุบันมีกี่อาณาจักร

- อาณาจักรไทยต้ังแตอดีตจนถึงปจจุบันมีช่ือวาอยางไรบาง

- ในแตละอาณาจักรมีกษัตริยพระองศใดเปนผูสถาปนาอาณาจักร

4. ครูแจกใบงานที่ 34 ใหนักเรียนปฏิบัติ

5. ครูสรุปบทเรียน

117

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามลงในชองวางใหถูกตอง โดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรยีน

ช่ืออาณาจักร ผูกอต้ัง ศูนยกลาง สาเหตุของการลมสลาย

ลําดับที่ 1คือ อาณาจักร ........................

........................................

........................................

........................................ ........................................

ลําดับที่ 2 คือ อาณาจักร ........................

........................................

........................................

........................................ ........................................

ลําดับที่ 3 คือ อาณาจักร .......................

........................................

........................................

........................................ ........................................

ลําดับที่ 4 คือ อาณาจักร ........................

........................................

........................................

........................................ ........................................

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ใบงานท่ี 34

118

ชั้น..............................................................

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามลงในชองวางใหถูกตอง โดยศึกษาจากเนื้อหาในบทเรยีน

ช่ืออาณาจักร ผูกอต้ัง ศูนยกลาง สาเหตุของการลมสลาย

ลําดับที่ 1คือ อาณาจักรสุโขทัย

พอขุนศรีอินทราทิตย (พอขุนบางกลางหาว)

กรุงสุโขทัย

ถูกผนวกรวมกบัอยุธยา

ลําดับที่ 2 คือ อาณาจักรอยธุยา

พระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจาอูทอง)

กรุงศรีอยุธยา

ถูกพมารุกรานเสียงกรุงให

พมา

ลําดับที่ 3 คือ อาณาจักรธนบุร ี

พระเจาตากสิน

กรุงธนบุร ี

เมืองเล็กแคบ ขยายไมได

ลําดับที่ 4 คือ อาณาจักร

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่1)

กรุงเทพมหานคร

ยายเมืองหลวงมาอยูอีกฝงหน่ึงของแมนํ้าเจาพระยา

เฉลย ใบงานท่ี 34

119

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 13 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 5 บุคคลสําคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 13 มหาราชของไทย จํานวน 2 ชั่วโมง

1.ความคิดรวบยอด การกอต้ังอาณาจักรของไทยน้ันบุคคลที่สําคัญย่ิงในการเปนผูนําคือพระมหากษัตริย ทรงประกอบ พระราชกรณียกิจนานัปการเพ่ือนํามาซึ่งความเจริญรุงเรืองของชาติ 2. ตัวชี้วัด ส 4. 3 (1) ระบุพระนาม และพระราชกรณียกิจโดยสังเขปของพระมหากษัตริยไทยทีเ่ปนผูสถาปนา อาณาจักรไทย ส 4. 3 (2) อธิบายพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยในรัชกาลปจจุบันพอสังเขป ส 4. 3 (3) เลาวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีสวนปกปองประเทศชาติ 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกพระนามกษัตริยผูสถาปนาอาณาจักรไทย 2. บอกพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยผูสถาปนาอาณาจักรไทยแตละพระองคได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู

1. พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ โดยสังเขปของพอขุนศรีอินทราทิตย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1

(พระเจาอูทอง) สมเด็จพระเจาตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช

ผูสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสนิทรความลําดับ

มาตรฐาน ส 4.3 เขาใจความเปนมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญญา มีความรัก ความภาคภูมิใจ และธํารง

ความเปนไทย

120

2. พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยู และสมเด็จพระนางเจา สิริกิต์ิ

พระบรมราชินีนาถ โดยสังเขป

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 35 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทายนักเรียนและสนทนาบทเรียนในช่ัวโมงกอน

2. ครูอธิบายถึงความปรีชาสามารถของพระมหากษัตริยผูกอต้ังและสถาปนาอาณาจักรไทย

ตลอดจนพระราชกรณียกิจที่ทรงทําเพ่ือชาติไทย

3. ครูใหนักเรียนศึกษา บทเรยีนที่ 13มหาราชของไทย ในประเด็นตอไปน้ี

- รายนามพระมหากษัตริยทีท่รงไดรับการถวายสมญานามวา “มหาราช”

- พระราชกรณียกิจ ที่สําคญัในสมัยของพระองค

4. ครูใหนักเรียนศึกษาแลว ทาํความเขาใจในใบงานที่ 35

5. ครูตรวจใบงานและสรุปบทเรียน

121

คําสั่ง : ใหนักเรียนทําผังความคิด พระราชกรณียกิจสําคญัของพระมหากษัตริยไทย โดยศึกษาเนื้อหาจาก

บทเรียน

พระราชกรณยีกิจ

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

มหาราชของไทย

................................

...............................

................................

...............................

................................

...............................

................................

...............................

................................

...............................

1…………………………………

……………………………………

2…………………………………

……………………………………

3…………………………………

1…………………………………

……………………………………

2…………………………………

……………………………………

3…………………………………

1…………………………………

……………………………………

2…………………………………

……………………………………

3…………………………………

1…………………………………

……………………………………

2…………………………………

……………………………………

3…………………………………

1…………………………………

……………………………………

2…………………………………

……………………………………

3…………………………………

ใบงานท่ี 35

122

ใหนักเรียนทาํผังความคิด พระราชกรณียกิจสําคัญของพระมหากษัตริยไทย โดยศึกษาเนื้อหาจากบทเรียน

พระราชกรณยีกิจ

มหาราชของไทย

สมเด็จพระนเรศวร

มหาราช

พระเจาตากสิน

มหาราช

พอขุนรามคําแหง

มหาราช

พระนารายณมหาราช พระปยะมหาราช

(ร.5)

1.ทรงกระทํายุทธหัตถี 2. ทรงประกาศอิสรภาพจากพมา 3. ทรงกอบกูเอกราชของชาติไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยาเปนราชธาน ี

1. ทรงกอบกูเอกราชหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งท่ี 2 ใหแกพมา 2. ทรงสถาปนากรุงธนบุรี

1. ทรงปกครองแบบพอปกครองลูก 2. ทรงประดิษฐอักษรไทยท่ีเรียกวาลายสือไทย 3. ทรงขยายอาณาเขตของประเทศ

ใหกวางไกล

1. ทรงเปนนักทูตติดตอกับฝรั่งเศส

2. ทรงเปนนักกวี และสนับสนุนกวีใน

สมัยของพระองคจะมีบทกวีใหเราได

อานมากมาย

1. ทรงตั้งโรงเรียนสําหรับราษฎร

2.ทรงเลิกทาส

3.ทรงปฏิรูปประเทศทุกดานเชน การ

สื่อสาร การคมนาคม ไฟฟา ประปา

โทรศัพท ถนน ฯลฯ

เฉลย ใบงานท่ี 35

123

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 14 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 5 บคุคลสาํคญัของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 14 ในหลวงของเรา จํานวน 2 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด ในหลวงทรงอยูในดวงใจของคนไทย เพราะนอกจากจะเปนศูนยรวมจิตใจของคนไทยแลว พระองคทานทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และทรงทําคุณประโยชนตอประเทศชาติหลายประการเพ่ือชาติมั่นคงและคนไทยรมเย็นเปนสุข 2. ตัวชี้วัด ส 4. 3(1) ระบุพระนาม และพระราชกรณียกิจโดยสังเขปของพระมหากษัตริยไทยทีเ่ปนผูสถาปนา อาณาจักรไทย ส 4. 3 (2) อธิบายพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยในรัชกาลปจจุบันพอสังเขป ส 4. 3 (3) เลาวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีสวนปกปองประเทศชาติ 3.จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวภูมิพลอดุลยเดช ไดพอสังเขป 2. บอกพระราชประวัติสมเด็จพระเด็จพระนางเจาสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ไดพอสังเขป 3. บอกพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเด็จพระนางเจาสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ไดพอสังเขป 4. บอกคุณธรรมจริยธรรมทีค่วรปฏิบัติตามพระองคทาน 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย

มาตรฐาน ส4.3 เขาใจความเปนมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญญา มีความรัก ความภาคภูมิใจ และธํารง

ความเปนไทย

124

6. สาระการเรยีนรู

1. พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ โดยสังเขปของพอขุนศรีอินทราทิตย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1

(พระเจาอูทอง) สมเด็จพระเจาตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช

ผูสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสนิทรความลําดับ

2. พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยู และสมเด็จพระนางเจา สิริกิต์ิ

พระบรมราชะนีนาถ โดยสังเขป

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 36 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทายนักเรียนและสนทนาบทเรียนในช่ัวโมงกอน

2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาประเทศไทยและประชาชนชาวไทยเกิดมาโชคดีที่มีพระมหากษัตริยที่มีปรีชา

สามารถ จากอดีตจนถึงปจจุบัน

3. ครูถามนักเรียนวาปจจุบันน้ีเรามีพระมหากษัตริย รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระนามเต็มๆ วาอยางไร

4. คนไทยมักรูจักและขานพระนามงายๆ วาอะไร

5. ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณตอประชาชนของทรงอยางไร

6. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 36

7. ครูเฉลยใบงาน และสรุปบทเรียน

125

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

1. พระนามเดิมของพระมหากษัตริยรัชกาลที่ 9 แหงกรงุรัตนโกสนิทรคือ

..............................................................................................................................................................

2. คนไทยนิยมขานพระนามทานวาอยางไร

..............................................................................................................................................................

3. ทานทรงมีพระมหากรุณาธิคณุตอคนไทยอยางไร

..............................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 36

126

คําสั่ง : ใหนักเรียนตอบคําถามใหถูกตอง

1. พระนามเดิมของพระมหากษัตริยรัชกาลที่ 9 แหงกรงุรัตนโกสนิทรคือ

ตอบ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิปบดี

2. คนไทยนิยมขานพระนามทานวาอยางไร

ตอบ ในหลวง

3. ทานทรงมีพระมหากรุณาธิคณุตอคนไทยอยางไร

ตอบ - ทรงดูแลทุกข สุขของราษฎรทั่วราชอาณาจักร

- ทรงเอาพระทัยในความเดือนรอน ของราษฎรทุกคนอยางไมเลือกชัน้วรรณะ หรือศาสนา

- ทรงเดินทางเยี่ยมทุกขสขุของราษฎรทั่วทั้งประเทศ

- ทรงชวยแกปญหาของบานเมืองทุกดาน

เฉลย ใบงานท่ี 36

127

ชั่วโมงที่ 2

1. ครูนําภาพในหลวงกับสมเด็จยามาใหนักเรียนดู 2. ครูอธิบายเช่ือมโยงวา นอกจากพระราชกรณียกิจตอราษฎรแลว ในหลวงของเรายังตองทรงแบงเวลาดูแลครอบครับโดยเฉพาะพระราชมารดา ของพระองค อยางไมขาดตกบกพรอง จนไดรับฉายาวา “กษัตริยยอดกตัญ”ู 3. ครูใหนักเรียนไปสืบคนเรื่องราวความกตัญูตอมารดาของในหลวง แลวทําใบงานที่ 37 4. ครูสรุปบทเรียนวาในหลวงทรงเปนแบบอยางที่ดี ในดานความกตัญทูี่นักเรียนควรประพฤติปฏิบัติตาม

128

คําสั่ง : ใหนักเรียนสบืคน เรือ่งราวของความกตัญูของในหลวง พอสงัเขป

คําตอบอยูในดุลยพนิิจของคร ู

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 37

129

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 15 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 5 บุคคลสําคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 15 แมของชาติ จํานวน 2 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด ในหลวงทรงอยูในดวงใจของคนไทย เพราะนอกจากจะเปนศูนยรวมจิตใจของคนไทยแลว พระองคทานทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และทรงทําคุณประโยชนตอประเทศชาติหลายประการเพ่ือชาติมั่นคงและคนไทยรมเย็นเปนสุข 2. ตัวชี้วัด ส 4. 3 (1) ระบุพระนาม และพระราชกรณียกิจโดยสังเขปของพระมหากษัตริยไทยที่เปนผูสถาปนา อาณาจักรไทย ส 4. 3 (2) อธิบายพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยในรัชกาลปจจุบันพอสังเขป ส 4. 3 (3) เลาวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีสวนปกปองประเทศชาติ 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวภูมิพลอดุลยเดช ไดพอสังเขป 2. บอกพระราชประวัติสมเด็จพระเด็จพระนางเจาสิริกิต์ิพระบรมราชินีนาถ ไดพอสังเขป 3. บอกพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเด็จพระนางเจาสิริกิต์ิพระบรมราชินีนาถ ไดพอสังเขป 4. บอกคุณธรรมจริยธรรมทีค่วรปฏิบัติตามพระองคทาน 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย

มาตรฐาน ส 4.3 เขาใจความเปนมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญญา มีความรัก ความภาคภูมิใจ และธํารง

ความเปนไทย

130

6. สาระการเรยีนรู

1. พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ โดยสังเขปของพอขุนศรีอินทราทิตย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1

(พระเจาอูทอง) สมเด็จพระเจาตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช

ผูสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสนิทรความลําดับ

2. พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยู และสมเด็จพระนางเจาสิริกิต์ิ

พระบรมราชินีนาถ โดยสังเขป

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 38 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทายนักเรียนและสนทนาบทเรียนในช่ัวโมงกอน 2. ครูนําดอกมะลิประดิษฐและภาพของสมเด็จพระนางเจาพระบรมราชินีนาถมาใหนักเรียนดู แลวถามวา ดอกมะลิเกี่ยวของกับสมเด็จพระนางเจาพระบรมราชินีนาถอยางไร 3. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนที่ 15 แมของชาติ จากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร ช้ันประถมศกึษาปที่3 ของกระทรวงศึกษาธิการ แลวทําใบงานที่ 38 4. ครูเฉลยใบงานที่ 38 แลวสรุปบทเรียน

131

คําสั่ง : ใหนักเรียนสบืคนพระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจาพระบรมราชนิีนาถ พอสงัเขป

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ทรงเปนพระราชธิดาองคที่ 3 ของ.........................................................................................

และหมอมหลวง...................................................................................................................

พระราชสมภพเม่ือ...............................................................................................................

วันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม เปนวันสําคัญของชาติ คือวัน....................................

ทรงอภิเษกสมรสกับ............................................................................................................

มีพระราชโอรสและราชธิดา รวม 4 พระองคคือ

1……………………………………………………………………………………………………………………..……..

2. ……………………………………………………………………………………………………………….………….

3. …………………………………………………………………………………………………………………………..

4. …………………………………………………………………………………………………………………………..

ใบงานท่ี 38

132

ใบงานท่ี 38

ใหนักเรียนสบืคนพระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจาพระบรมราชนิีนาถ พอสังเขป

ทรงเปนพระราชธิดาองคที่ 3 ของ พลเอก พระวรวงศเธอ กรมหม่ือจันทบุรสีุรนาถ

และหมอมหลวง บัว กิติยากร

พระราชสมภพเม่ือ วันศุกรที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2475

วันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม เปนวันสําคัญของชาติคือ วันแมแหงชาติ

ทรงอภิเษกสมรสกับ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวภูมิพลอดุลยเดช รชักาลที่ 9

มีพระราชโอรสและราชธิดา รวม 4 พระองคคือ

1. ทูลกระหมอมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สริิวัฒนาพรรณวดี

2. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจาฟา วชริาลงกรณ สยามมงกุฎราชกุมาร

3. สมเด็จพระเทพพระรตันราชสดุาเจาฟาสิรนิธร สยามบรมราชกุมาร ี

4. สมเด็จพระเจาลูกเธอ เจาฟาจุฬาภรณวลัยลักษณ อัครราชกุมาร ี

เฉลย

133

ชั่วโมงที่ 2 1. ครูนําภาพเครื่องจักรสาน ผาไหม และผลงานของศูนยศิลปาชีพมาใหนักเรียนดู 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา ภาพที่ครูนํามาใหนักเรียนดูน้ี เปนฝมืออันประณีตของคนในอดีตที่นับวันจะสูญหายไป เพราะความทันสมัยและเทคโนโลยีสมัยใหม เขามาแทนที่ สมเด็จพระนางเจาพระบรมราชินีนาถจึงมีพระราชดําริ ใหต้ังศูนยศิลปาชีพขึ้นเพ่ือรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติไมใหศูนยหายไป 3. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 39 4. ครูตรวจใบงานที่ 39 แลวนําไปจัดนิทรรศการในวันแมแหงชาติ

134

คําสั่ง : ใหนักเรียนหาภาพผลงานจากศนูยศิลปาชพีที่นักเรียนชื่นชอบ จากปฏิทิน ภาพถาย และ

อินเตอรเน็ต มาชวยกันจัดนิทรรศการในวันแมแหงชาติ

ตรวจจากภาพถายที่นักเรียนนํามาเขารวมแสดงการจัดนิทรรศการในวันแมแหงชาติ

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ใบงานท่ี 38

135

แผนการจัดการเรียนรูท่ี 16 สาระการเรียนรูประวัติศาสตร

หนวยที่ 5 บุคคลสําคัญของชาติไทย ชั้นประถมศึกษาปที่ 3 เรื่องที่ 16 วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย จํานวน 1 ชั่วโมง

1. ความคิดรวบยอด วีรกรรมของบรรพบุรุษไทยทีช่วยปกปองบานเมืองไวจากศัตรูเรื่องราวที่นาภูมิใจย่ิง 2. ตัวชี้วัด ส 4. 3 (1) ระบุพระนาม และพระราชกรณียกิจโดยสังเขปของพระมหากษัตริยไทยที่เปนผูสถาปนา อาณาจักรไทย ส 4. 3 (2) อธิบายพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริยในรัชกาลปจจุบันพอสังเขป ส 4. 3 (3) เลาวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีสวนปกปองประเทศชาติ 3. จุดประสงคการเรียนรู 1. บอกวีรกรรมของชาวบานบางระจันได 2. บอกผลงานของสมเด็จทาวเทพกระษัตร-ีทาวศรีสุนทรได 3. บอกผลงานของยุวทหารได 4. สมรรถนะสาํคัญของผูเรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค 1. รักชาติ ศาสน กษัตริย 2. มีวินัย 3. ใฝเรียนรู 4. มุงมั่นการทาํงาน 5. รักความเปนไทย 6. สาระการเรยีนรู

1. พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ โดยสังเขปของพอขุนศรีอินทราทิตย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1

(พระเจาอูทอง) สมเด็จพระเจาตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช

ผูสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสนิทร ตามลําดับ

2. พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจาอยู และสมเด็จพระนางเจาสิริกิต์ิ

พระบรมราชินีนาถ โดยสังเขป

มาตรฐาน ส 4.3 เขาใจความเปนมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปญญา มีความรัก ความภาคภูมิใจ และธํารง

ความเปนไทย

136

7. ชิ้นงาน/หลกัฐานรองรอยแสดงความรู 1. แบบประเมนิพฤติกรรมและแบบประเมินผลงาน 2. ใบงานที่ 38 8. กิจกรรมการเรยีนรู ชั่วโมงที่ 1

1. ครูกลาวทักทาย 2. ครูเปด CD เพลงบางระจัน ใหนักเรียนฟงแลวบอกใหจับใจความเน้ือรอง 3. ครซูักถามวาเน้ือหาของเพลงกลาวถึงเรื่องราวของชาวบานบางระจันอยางไร 4. ครูใหนักเรียนศึกษาบทเรียนที่ 16 วีรกรรมของบรรพบุรุษไทยจากหนังสือเรียน ประวัติศาสตร

ช้ันประถมศึกษาปที่ 3 ของกระทรวงศึกษาธิการ 5. ครูใหนักเรียนทําใบงานที่ 40 6. ครูเฉลยใบงานที่ 40 แลวสรุปบทเรียนวา ประเทศของเราอยูอยางสันติสุขมาจนถึงทุกวันน้ี เพราะ

ความกลาหาญและเสียสละของบรรพบุรุษไทย

137

คําสั่ง : ใหนักเรียนบอก วีรกรรมของบรรพบุรุษตอไปนี้โดยศึกษาจากเนือ้หาในบทเรียน

ช่ือ.................................................นามสกลุ..........................................เลขท่ี..........................

ชั้น..............................................................

ชาวบานบางระจัน

จังหวัดสิงหบรุี

ยุวชนทหาร

จังหวัดชุมพร

ทาวเทพกระษตัรี ทาวศรสีนุทร

จังหวัดภูเก็ต

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบงานท่ี 40

138

ใหน้กัเรียนบอก วีรกรรมของบรรพบุรุษต่อไปน้ีโดยศึกษาจากเน้ือหาในบทเรียน

ชาวบานบางระจัน

จังหวัดสิงหบรุี

ยุวชนทหาร

จังหวัดชุมพร

ทาวเทพกระษตัรี ทาวศรสีนุทร

จังหวัดภูเก็ต

การรวมตัวของคนไทยท้ังชาย หญิง เด็ก คนแก และ

พระภิกษุสงฆ จับอาวุธสรางอาวุธเทาท่ีจะหาได ตอสู

พมาดวยความกลาหาญ แมในท่ีสุดจะถูกพมาทําลาย

บทบาทของนักเรียนโรงเรียนศรียากัยท่ีไดรับการฝก

วิชาทหาร เพ่ือเขารวมปองกันประเทศในชวง

สงครามโลกครั้งท่ี 2

บทบาทของหญิงไทย ในการชวยเหลือประเทศท้ัง

ยามสงบ และยามสงคราม ในศึกสงคราม 9 ทับ

ระหวางไทยกับพมา คุณหญิงมุกและคุณหญิงจัน

นองสาว ชวยเกณฑไพรพลปองกันรักษาเมืองถลางไว

เฉลย ใบงานท่ี 40

139

ไดคะแนน คะแนนเต็ม

แบบทดสอบกอนเรียน-หลังเรียน หนวยการเรียนรูที่ 5 บุคคลสาํคัญของชาติไทย

คําชี้แจง ใหนักเรียนเลือกคําตอบที่ถูกตองที่สุดเพียงขอเดียว

1. พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว เปนพระเจาแผนดินรัชกาลที่เทาไร

ก. รัชกาลที่ 6 ข. รัชกาลที่ 7 ค. รัชกาลที่ 9

2. พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว พระราชสมภพเมื่อใด ก. 1 ธันวาคม ข. 5 ธันวาคม ค. 10 ธันวาคม 3. “เราจะครองแผนดินโดยธรรม” เปนพระบรมราชโองการในพิธีใด

ก. พระราชพิธีโสกันต ข. พระบรมราชาภิเษก ค. พระราชพิธีกาญจนาภิเษก

4. ขอใดเปนพระราชกรณียกิจดานการศึกษาของ พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว

ก. พระราชทานฝนเทียม ข. ใหแพทยอาสาตามเสด็จ ค. โปรดเกลาฯ ใหจัดทําสารานุกรมไทยสําหรบั

เยาวชน 5. พระราชกรณียกิจใด ที่พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ทรงปฏิบัติมากที่สุด

ก. เสด็จเย่ียมราษฎร ข. เสด็จตางประเทศ ค. ทรงพระราชนิพนธหนังสือ

6. วันใดถือเปนวันคลายวันพระราชสมภพของสมเด็จ พระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ

ก. 12 มิถุนายน ข. 12 กรกฎาคม ค. 12 สิงหาคม

7. พระราชกรณียกิจใดของสมเด็จพระนางเจาฯ พระบรมราชินีนาถ ที่สงผลดีตอการสรางรายไดและพัฒนาฝมือของคนในทองถิ่น ก. ศูนยศิลปาชีพบางไทร ข. ศูนยเฝาระวังภัยภาคใต ค. ศูนยอนุรักษเตาทะเล 8. ขอใดไมใชพระราชกรณียกิจดานการเกษตร ก. การขยายพันธุปลาตามแหลงนํ้า ข. โครงการเศรษฐกิจพอเพียง ค. หนวยทันตกรรมเคลื่อนที ่9. ในหลวงและพระราชินีทรงบําเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพ่ืออะไร

ก. ชวยเหลือรัฐบาล ข. ใหราษฎรมีความสุข ค. ใหราษฎรรูจักพระองค

10. นักเรียนจะแสดงตนเพ่ือชวยเหลือพระราชกรณียกิจ โดยวิธีใด

ก. รองเพลงชาติใหถูกตอง ข. ประดับธงชาติเมือ่ถึงวันสําคัญ ค. บําเพ็ญประโยชนในวันสําคัญ

1.ค 2. ข 3. ข 4. ค 5. ก

6.ค 7. ก 8. ค 9. ข 10. ค 10

140

top related