พระมิ่งขวัญของชาวไทยธ สถิตใน...

Post on 15-Jan-2020

0 Views

Category:

Documents

0 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

ประจ�ำเดอืนพฤศจกิำยน พ.ศ. 2559 7

พระมิ่งขวัญของชาวไทย...ธ สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์

“...ตามถนนผู้คนช่างมากมายเสียจริงๆที่ถนนราชด�าเนินกลางราษฎรเข้ามาใกล้ชิดรถที่เรานั่งกลัวเหลือเกิน

ว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งขาใครเข้าบ้าง รถแล่นฝ่าฝูงคนไปได้อย่างช้าที่สุด ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้น

ได้บ้างตามทางที่ผ่านมาได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นมาดังๆว่า“อย่าละทิ้งประชาชน”อยากจะร้องบอกเขาลงไปว่า

ถ้าประชาชนไม่“ทิ้ง”ข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าจะ“ละทิ้ง”อย่างไรได้แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว...”

เนื้อความตอนหนึ่งจาก“เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวสิเซอร์แลนด์”

พระราชนพินธ์ในพระบาทสมเดจ็พระปรมนิทรมหาภูมพิลอดลุยเดช

“ถ้�ประช�ชนไม่ท้ิงข้�พเจ้� ข้�พเจ้�จะละทิ้งประช�ชนได้อย่�งไร” ค�าตอบในพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จ

พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีต่อพสกนิกรคนหนึ่งซึ่งเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทส่งเสด็จอยู่ริมถนนในช่วงเวลาเสด็จ

พระราชด�าเนนิไปยงัสนามบนิดอนเมอืงเมื่อวนัที่19สงิหาคม2489เพื่อกลบัไปศกึษาต่อที่ประเทศสวสิเซอร์แลนด์จากเวลานั้น

ถงึวนันี้เป็นที่ประจกัษ์อย่างแน่แท้แล้วว่าพระบาทสมเดจ็พระปรมนิทรมหาภมูพิลอดลุยเดชไม่ทรงทอดทิ้งประชาชนและทรงยดึมั่น

ในหน้าที่พระมหากษตัรยิ์ไทยอย่างแน่วแน่ในช่วงตลอดระยะเวลา70ปีที่ผ่านมา

นบัจากวนัที่พระบาทสมเดจ็พระปรมนิทรมหาภมูพิลอดลุยเดชเสดจ็เถลงิถวลัยราชสมบตัเิมื่อวนัที่9มถินุายน2489ทรงมี

พระราชปณธิานอนัแน่วแน่ที่จะเสดจ็พระราชด�าเนนิเยี่ยมราษฎรทกุจงัหวดัเพื่อจะได้เหน็ถงึความเป็นอยูข่องประชาชนของพระองค์

ซึ่งภายหลงัการเสดจ็พระราชด�าเนนิทั่วทกุภาคของประเทศไทยพระองค์ทรงค้นคว้าเพื่อหาวธิพีฒันาความเป็นอยูข่องประชาชนให้

ดขีึ้นและวางรากฐานการพฒันาประเทศอย่างยั่งยนืจนน�ามาสู่โครงการพระราชด�ารจิ�านวนหลายพนัโครงการซึ่งได้แก่โครงการ

เกี่ยวกบัดนิน�้าป่าไม้การเกษตรวศิวกรรมด้านสาธารณสขุการสร้างและพฒันาอาชพีและการศกึษา

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่ได้ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อประกอบพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่สร้างประโยชน์สุขให้

แก่เหล่าพสกนกิรชาวไทยมาตลอดหลายทศวรรษเป็นที่ประจกัษ์แล้วว่าพระบาทสมเดจ็พระปรมนิทรมหาภูมพิลอดลุยเดชได้ทรง

ปฏบิตัพิระองค์เหมอืนดั่งพระราชสตัยาธษิฐานเมื่อแรกขึ้นเสวยราชย์ว่า“เราจะครองแผ่นดนิโดยธรรมเพื่อประโยชน์สขุแห่งมหาชน

ชาวสยาม”

การครองแผ่นดินโดยธรรมและพระราชหฤทัยเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาต่อพสกนิกรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา

ภูมิพลอดุลยเดช มิเพียงท�าให้พระองค์ทรงด�ารงสถานะเป็น “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา” ในสายตาประชาคมโลกเท่านั้น หาก

แต่ยงัส่งผลให้พระองค์ทรงสถติอยู่ในดวงใจของคนไทยจนเป็น“ดวงใจของประชาชน”ทั่วประเทศซึ่งไม่ว่าพระบาทสมเดจ็พระ

ปรมนิทรมหาภูมพิลอดลุยเดชจะเสดจ็พระราชด�าเนนิออกเยี่ยมราษฎรณที่ใดประชาชนแม้ในถิ่นทรุกนัดารต่างหลั่งไหลมาเฝ้า

โดยนางสาวณัฐชญาทวีวิทย์ชาครียะ

ส�านักนโยบายและวิชาการกระจายเสียงและโทรทัศน์

ที่มา:http://www.thaihealth.or.th/data/content/4802/cms/thaihealth_c_bdfhlqrswz59.jpg

รายงานสภาพตลาดกิจการกระจายเสียงเเละกิจการ โทรทัศน์8

ทูลละอองธลุพีระบาทรบัเสดจ็เพื่อแสดงความจงรกัภกัดแีละเฝ้าชมพระบารมอีย่างใกล้ชดินอกจากนี้ในโอกาสส�าคญัเช่นพธิี

ถวายเครื่องราชสกัการะและจดุเทยีนถวายพระพรชยัมงคลซึ่งจะจดัมขีึ้นในโอกาสวนัเฉลมิพระชนมพรรษา5ธนัวาคมเป็นประจ�า

ทกุปีนั้นพสกนกิรชาวไทยต่างพร้อมใจกนัเดนิทางมาจดุเทยีนถวายพระพรชยัมงคลณมณฑลพธิท้ีองสนามหลวงหรอืศาลากลาง

ประจ�าจงัหวดัทั่วประเทศเพื่อแสดงออกถงึความจงรกัภกัดแีละส�านกึในพระมหากรณุาธคิณุเป็นล้นพ้น

การจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลถือได้ว่าเป็นวิธีการแสดงความจงรักภักดีวิธีหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกที่ศูนย์สาธิตที่ 1

หุบกะพง ในปี พ.ศ. 2520 โดยอาสาสมัครประจ�าหมู่บ้านในหุบกะพงมีความประสงค์ที่จะจัดพิธีถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิม

พระชนมพรรษา5ธนัวาคมในเวลาช่วงกลางคนืเนื่องจากชาวบ้านที่ต้องการเข้าร่วมถวายพระพรมคีวามจ�าเป็นต้องไปท�างานใน

เรือกสวนไร่นาในตอนเช้าและตอนกลางวัน และเนื่องจากพื้นที่หุบกะพงยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงท�าให้สถานที่จัดงานที่หน่วยงาน

อาสาสมคัรประจ�าหมูบ้่านมดืมากหวัหน้าศูนย์สาธติที่1หบุกะพงจงึได้ให้อาสาสมคัรประจ�าหมูบ้่านลกูเสอืชาวบ้านและประชาชน

น�าเทยีนไขมาคนละเล่มโดยในเวลา20.00น.ทกุคนจดุเทยีนไขขึ้นพร้อมกนัแล้วจงึได้กล่าวค�าถวายพระพรแด่พระบาทสมเดจ็

พระปรมนิทรมหาภูมพิลอดลุยเดชและพร้อมใจกนัร้องเพลงสรรเสรญิพระบารมีซึ่งในเวลาเดยีวกนันั้นอาสาสมคัรประจ�าหมูบ้่านกไ็ด้

วทิยรุายงานแจ้งเรื่องการจดุเทยีนถวายพระพรชยัมงคลไปยงัส�านกัพระราชวงัณวงัไกลกงัวลเพื่อให้พระบาทสมเดจ็พระปรมนิทร

มหาภูมพิลอดลุยเดชได้ทรงรบัทราบเป็นระยะๆจวบจนจบพธิีทั้งนี้ต่อมาในปีพ.ศ.2521ทางราชการจงึได้มกีารประกาศจดัพธิ ี

จดุเทยีนถวายพระพรชยัมงคลอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่ท้องสนามหลวงและจดัขึ้นเป็นประจ�าทกุปีจนถงึทกุวนันี้

เป็นที่น่าประทับใจว่า เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเทิดทูนพระเกียรติต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นพระมิ่งขวัญ

ประชาชนชาวไทยนอกจากจะเดินทางมาร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลยังสถานที่จัดงานต่างๆ ทั่วประเทศในค�่าคืนวันที่ 5

ธันวาคมของทุกปีแล้ว ยังมีพสกนิกรไทยอีกเป็นจ�านวนมากที่เฝ้าติดตามพิธีถวายเครื่องราชสักการะและจุดเทียนถวายพระพร

ชยัมงคลจากมณฑลพธิท้ีองสนามหลวงผ่านทางการถ่ายทอดสดของโทรทศันร์วมการเฉพาะกจิแหง่ประเทศไทยซึ่งหากพจิารณา

จากข้อมูลการรับชมรายการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม

ของช่องโทรทศัน์ภาคพื้นดนิพบว่าในช่วงระยะเวลาเกอืบ10ปีที่ผ่านมา(พ.ศ.2550-2558)มปีระชาชนจ�านวนมากหรอืเฉลี่ย

ปีละประมาณ 11.39 ล้านคนที่ให้ความสนใจและเฝ้ารับชมการถ่ายทอดสดดังกล่าวผ่านทางโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (อ้างอิงข้อมูล

จากNielsen)

นอกจากนี้ หากพจิารณาข้อมูลจากช่องรายการที่ได้รบัความนยิม (TVR) สูงสดุจากประชาชนไทย (ช่อง 3 และช่อง 7)

พบว่าในช่วงที่มกีารถ่ายทอดสดพธิจีดุเทยีนถวายพระพรชยัมงคลเนื่องในโอกาสวนัเฉลมิพระชนมพรรษา5ธนัวาคมนั้นค่าTVR

ของทั้งช่อง3และช่อง7 เพิ่มสูงขึ้นอย่างมนียัส�าคญั (เมื่อเปรยีบเทยีบกบัค่าTVRของช่องรายการตลอดทั้งปี) โดยเฉพาะในปี

ที่มา:http://www.phitsanulokhotnews.com/wp-content/media/2011/12/DSC_0183.jpg

ประจ�ำเดอืนพฤศจกิำยน พ.ศ. 2559 9

พ.ศ.2556นั้นพบว่ารายการถ่ายทอดสดพธิจีดุเทยีนถวายพระพรชยัมงคลมีTVRสูงขึ้นกว่าเกอืบ2เท่าส�าหรบัช่อง3และกว่า

3เท่าส�าหรบัช่อง7

TVR ของช่อง 3 และช่อง 7 ในช่วงที่มีการถ่ายทอดสดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

นอกจากประชาชนจะเฝ้าติดตามรับชมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลที่ถ่ายทอดสดในคืนวันที่ 5 ธันวาคมของ

ทุกปีแล้ว ในวันที่ 4 ธันวาคม พสกนิกรไทยต่างเฝ้ารอที่จะรับฟังกระแสพระราชด�ารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร

มหาภูมิพลอดุลยเดชที่พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาส

วันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต โดยในช่วงเวลาที่โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่ง

ประเทศไทยได้น�าเทปบันทึกภาพมาออกอากาศให้ประชาชนรับชมในช่วงค�่านั้น พบว่า มีประชาชนจ�านวนสูงถึง 13 ล้านคน

(ข้อมูล พ.ศ. 2550 และ 25511) ที่เฝ้าติดตามและรับชมการออกอากาศกระแสพระราชด�ารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร

มหาภูมพิลอดลุยเดชทางโทรทศัน์ภาคพื้นดนิทั่วประเทศ

ที่มา:Nielsen

TVR ในช่วงที่มีก�รถ่�ยทอดสด

พิธีจุดเทียนถว�ยพระพรชัยมงคล

TVR เฉลี่ยทั้งปี

1 ในปีพ.ศ.2551นั้นพระบาทสมเดจ็พระปรมนิทรมหาภูมพิลอดลุยเดชทรงพระประชวรจงึโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเดจ็

พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงแทนพระองค์ให้

คณะบคุคลต่างๆเข้าเฝ้าทลูละอองธลุพีระบาทถวายพระพรชยัมงคลเนื่องในวนัเฉลมิพระชนมพรรษาวนัพฤหสับดทีี่4ธนัวาคม

ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เลื่อนการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิม

พระชนมพรรษา5ธนัวาคมณศาลาดสุดิาลยัสวนจติรลดาในวนัที่4ธนัวาคมเช่นทกุปีนั้นออกไปก่อน

รายงานสภาพตลาดกิจการกระจายเสียงเเละกิจการ โทรทัศน์10

ที่มา:Nielsen

จำานวนผู้ชมรายการถ่ายทอดกระแสพระราชดำารัส

ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

พระราชด�ารสัของพระบาทสมเดจ็พระปรมนิทรมหาภมูพิลอดลุยเดชที่ทรงพระราชทานแก่พสกนกิรชาวไทยล้วนเตม็ไปด้วย

ความเมตตาและปรารถนาดีพระองค์ทรงสอนทรงชี้แนะและทรงน�าทาง เพื่อให้ประชาชนของพระองค์ได้ปฏบิตัใินสิ่งที่ถูกต้อง

และสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติดงัความตอนหนึ่งว่า“ต่างคนต่างมหีน้าที่แต่กไ็ม่ได้หมายความว่าท�าเฉพาะหน้าที่นั้นเพราะ

ว่าถ้าคนใดท�าหน้าที่เฉพาะของตวัโดยไม่มองไม่แลคนอื่นงานกด็�าเนนิไปไม่ได้เพราะเหตวุ่างานทกุงานจะต้องพาดพงิกนัจะต้อง

เกี่ยวโยงกัน ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้วช่วยกันท�า” (พระราชด�ารัส พระราชทานเนื่องในโอกาสวันเฉลิม

พระชนมพรรษา4ธนัวาคม2533)

ด้วยพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีต่อพสกนิกรและ

แผ่นดนิไทยเป็นล้นพ้นปรากฏเป็นที่ประจกัษ์แล้วว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษตัรยิ์ที่ครองแผ่นดนิโดยธรรมอย่างแท้จรงิและ

จะยงัทรงเป็นพระมหากษตัรยิ์ที่เป็นที่รกัยิ่งของประชาชนชาวไทยตราบนจินรินัดร์

รายการอ้างอิง

มหาวิทยาลัยมหิดล. (2550). ปฐมบทปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับบริบทการพัฒนาประเทศ. สืบค้นจาก http://ns2.ph.mahidol.

ac.th/phklb/knowledgefiffiiles/4_Chapter_2.pdf

มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.(2558).พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล.วารสารประชาสัมพันธ์,312,10-11.

สภุกญัญาชวนชิย.์(2558).เมือ่ขา้พเจา้จากสยามมาสูส่วสิเซอรแ์ลนด.์วารสารวชิาการมหาวทิยาลยัอสีเทริน์เอเชยีฉบบัสงัคมศาสตร์

และมนุษยศาสตร์,5(2),343-348.

2550 2551

13.454

ล้�นคน 13.191

ล้�นคน

top related