animal tissue

8
- 1 - เนื้อเยื่อสัตว เนื้อเยื่อสัตว เนื้อเยื่อสัตว เนื้อเยื่อสัตว เนื้อเยื่อสัตว เนื้อเยื่อสัตว เนื้อเยื่อสัตว เนื้อเยื่อสัตว ลําดับโครงสรางของสิ่งมีชีวิตเริ่มจาก อะตอม (atom) โมเลกุล (molecule) เซลล (cell) เนื้อเยื่อ (tissue) อวัยวะ (organ) ระบบอวัยวะ (organ system) เนื้อเยื่อสัตวแบงออกเปน 4 ชนิด แตละชนิดประกอบดวยเซลลที่มีขนาด รูปราง และการจัดตัวเปนแบบเฉพาะ ไดแก 1. เนื้อเยื่อบุผิว (epithelial tissue หรือ epithelim) 2. เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) 3. เนื้อเยื่อกลามเนื้อ (muscle tissue) 4. เนื้อเยื่อประสาท (nervous tissue) เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อบุผิว ประกอบดวยเซลลอยูกันแนน เรียงชั้นตอเนื่องกันไป หรือเปน ชิ้น หรือเปนแผนเซลลปกคลุมผิวรางกาย หรือบุชองวางภายในลําตัว หรือยอมใหสารผานไดหรือไมได โดยผิวดานหนึ่งของเซลลจะติดกับเยื่อ รองรับฐาน (basement membrane) ประกอบดวย ประกอบดวย ประกอบดวย ประกอบดวย เสนใย (fiber) บาง ๆ เล็ก ๆ และพอลิแซ็กคาไรด ที่สรางจากเซลลของเนื้อเยื่อบุผิว เอง เนื้อเยื่อชนิดนี้ ทําหนาที่ปองกัน ดูดซึมหลั่งสาร และรับความรูสึก เชน เนื้อเยื่อบุผิวที่พบชั้นนอกของผิวหนังจะทําหนาที่ปกคลุมรางกาย ทั้งหมดและปองกันอวัยวะขางใตจากสิ่งแวดลอมภายนอก รวมทั้งการ บาดเจ็บทางกล สารเคมี การสูญเสียของเหลวจากรางกาย และเชื้อโรค ตาง ๆ เชน แบคทีเรีย เยื่อบุทางเดินอาหาร จะดูดซึมสารอาหาร และน้ําเขาสูรางกาย ทุกอยางที่เขาและออกจากรางกาย จะตองผานเนื้อเยื่อบุผิว 1 ชั้นเปนอยางนอย และนอกจากนี้เนื้อเยื่อบุผิวยังอาจดัดแปลงไปทําหนาที่อื่นพิเศษไดอีก เชน โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา ๒ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชาชีววิทยา 4 (ว 30244) เรื่อง เนื้อเยื่อสัตว ผูสอน ครูน้ําทิพย เที่ยงตรง กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร

Upload: namthip-theangtrong

Post on 18-Jul-2015

1.147 views

Category:

Education


3 download

TRANSCRIPT

- 1 -

เนื้อเยือ่สตัวเนื้อเยือ่สตัวเนื้อเยือ่สตัวเนื้อเยือ่สตัวเนื้อเยือ่สตัวเนื้อเยือ่สตัวเนื้อเยือ่สตัวเนื้อเยือ่สตัว

ลําดับโครงสรางของสิ่งมีชีวิตเร่ิมจาก อะตอม (atom) โมเลกุล (molecule) เซลล (cell) เนื้อเยื่อ (tissue) อวัยวะ (organ) ระบบอวัยวะ (organ system)

เนื้อเยื่อสัตวแบงออกเปน 4 ชนิด แตละชนิดประกอบดวยเซลลท่ีมีขนาด รูปราง และการจัดตัวเปนแบบเฉพาะ ไดแก 1. เนื้อเยื่อบุผิว (epithelial tissue หรือ epithelim) 2. เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) 3. เนื้อเยื่อกลามเนื้อ (muscle tissue) 4. เนื้อเยื่อประสาท (nervous tissue)

เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อบุผิว เนื้อเยื่อบุผิว ประกอบดวยเซลลอยูกันแนน เรียงช้ันตอเนื่องกันไป หรือเปน

ช้ิน หรือเปนแผนเซลลปกคลุมผิวรางกาย หรือบุชองวางภายในลําตัว หรือยอมใหสารผานไดหรือไมได โดยผิวดานหนึ่งของเซลลจะติดกับเยื่อรองรับฐาน (basement membrane) ประกอบดวยประกอบดวยประกอบดวยประกอบดวย เสนใย (fiber) บาง ๆ เล็ก ๆ และพอลิแซ็กคาไรด ท่ีสรางจากเซลลของเนื้อเยื่อบุผิวเอง เนื้อเยื่อชนิดนี้ ทําหนาท่ีปองกัน ดูดซึมหล่ังสาร และรับความรูสึก เชน เนื้อเยื่อบุผิวท่ีพบช้ันนอกของผิวหนังจะทําหนาท่ีปกคลุมรางกายท้ังหมดและปองกันอวัยวะขางใตจากสิ่งแวดลอมภายนอก รวมท้ังการบาดเจ็บทางกล สารเคมี การสูญเสียของเหลวจากรางกาย และเช้ือโรคตาง ๆ เชน แบคทีเรีย เยื่อบุทางเดินอาหาร จะดูดซึมสารอาหาร และน้ําเขาสูรางกาย ทุกอยางท่ีเขาและออกจากรางกายจะตองผานเนื้อเยื่อบุผิว 1 ช้ันเปนอยางนอย และนอกจากนี้เนื้อเยื่อบุผิวยังอาจดัดแปลงไปทําหนาท่ีอ่ืนพิเศษไดอีก เชน

โรงเรยีนนวมนิทราชนิทูศิ สตรวีทิยา โรงเรยีนนวมนิทราชนิทูศิ สตรวีทิยา โรงเรยีนนวมนิทราชนิทูศิ สตรวีทิยา โรงเรยีนนวมนิทราชนิทูศิ สตรวีทิยา ๒๒๒๒ เอกสารประกอบการเรียนการสอนวชิาชีววิทยา 4 (ว 30244) เร่ือง เน้ือเยื่อสัตว ผูสอน ครูนํ้าทิพย เที่ยงตรง กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร

- 2 -

เปนตอมเพ่ือสรางผลิตภัณฑจากเซลล เยื่อหุมเซลลบุผิวหลายชนิดจะมีการสูญเสีย และหมดสภาพไปตลอดเวลา ดังนั้นเซลลเหลานี้จะมีอัตราเร็วของการแบงตัวสูงมาก เซลลใหมจะแทนท่ีเซลลเกาท่ีสูญเสียไปทันอยูเสมอ นักชีววิทยาไดแบงเนื้อเยื่อบุผิวออกเปนชนิดตาง ๆ แตกตางกันตามรูปรางของเซลล และตามการจัดเรียงตัวของเซลล

พจิารณาจากรูปรางเซลล พจิารณาจากรูปรางเซลล พจิารณาจากรูปรางเซลล พจิารณาจากรูปรางเซลล แบงเนื้อเยื่อบุผิวไดเปน 3 ชนิด คือ 1. squamous epitheliumsquamous epitheliumsquamous epitheliumsquamous epithelium เซลลมีรูปรางแบนบาง 2. cubiodal epitheliumcubiodal epitheliumcubiodal epitheliumcubiodal epithelium เซลลมีรูปรางทรงกระบอก ไมสูงมาก หรือคลายลูกบาศก

มองทางดานขางคลายลูกเตา แตแทจริงแลวมีรูปรางเปนทรงแปดเหล่ียม 3. columnar epitheliumcolumnar epitheliumcolumnar epitheliumcolumnar epithelium เซลลคลายทรงกระบอก หรือเสาเล็ก ๆ เม่ือมองทาง

ดานขาง นิวเคลียสมักใกลฐานของเซลล ถามีซีเลียท่ีผิวหนาดานท่ีเปนอิสระ ทําหนาท่ีโบกพัดสาร ตางๆ ไปทิศทางเดียว ก็เรียกวาเปน ciliated columnar epithelium เชนท่ีทางเดินหายใจของคน

พจิารณาจากพจิารณาจากพจิารณาจากพจิารณาจากการจดัตวัของเซลลการจดัตวัของเซลลการจดัตวัของเซลลการจดัตวัของเซลล แบงเนื้อเยื่อบุผิวไดเปน 3 ชนิด คือ 1. simple epitheliumsimple epitheliumsimple epitheliumsimple epithelium ประกอบดวยเซลลเรียงกันเปนช้ันเดียว มักพบใน

บริเวณท่ีสารตองแพรผานเนื้อเยื่อ หรือบริเวณท่ีสารตองถูกหล่ังหรือถูกกําจัด หรือถูกดูดซึม

2. stratified epitheliumstratified epitheliumstratified epitheliumstratified epithelium ประกอบดวยเซลลเรียงซอนกัน 2 ช้ันข้ึนไป พบท่ีผิวหนัง และเยื่อบุหลอดอาหารของคนและสัตวมีกระดูกสันหลังอ่ืน ๆ

3. Pseudostratified epitheliumPseudostratified epitheliumPseudostratified epitheliumPseudostratified epithelium มีการเรียงตัวกันของเซลลท่ีมองดูเหมือนกับมีเซลลอยูซอนกันหลายช้ัน แตความจริง ทุกเซลลยังติดอยูบนเยื่อรองรับฐานท้ังสิ้น เพียงแตบางเซลลไมสูงพอท่ีจะยื่นไปถึงผิวหนาอิสระของเนื้อเยื่อ และถูกเบียดอยูดานลาง ทําใหเห็นเหมือนมี 2 ช้ันหรือมากกวานั้น พบท่ีทางเดินหายใจบางสวน ซ่ึงเซลลช้ันบนสุดมีซีเลีย และพบท่ีทอของตอมหลายชนิด

ในการพิจารณาชนิดของเนื้อเยื่อบุผิว มักพิจารณาจากรูปราง และการจัดเรียงของเซลลควบคูกันไป และเรียกช่ือระบุลักษณะท้ัง 2 ประการนี้ เชน

- simple cubiodal epithelium หมายถึงเนื้อเยื่อบุผิวท่ีมีเซลลลูกบาศกเรียงตัวเปนช้ันเดียว - stratified squamous epithelium หมายถึง เนื้อเยื่อบุผิวชนิดท่ีมีเซลลแบบแบนบางเรียงตัวกันอยูหลาย ๆ ช้ัน สําหรับเนื้อเยื่อบุผิวชนิด stratified ยังพบชนิดพิเศษชนิดหนึ่งซ่ึงเซลลอาจเปล่ียนรูปรางไดช่ัวคราว หรือเปล่ียน

รูปรางกลับไปกลับมาได เชน ท่ีผนังกระเพาะปสสาวะ ซ่ึงมีการยืดขยายตัวในบางคร้ังเพ่ือรองรับปริมาณปสสาวะท่ีเพ่ิมข้ึน เซลลท่ีบุผิวจะเปล่ียนแปลงจากรูปลูกบาศก ท่ีแบนราบลงกวาเดิม เม่ือผนังกระเพาะปสสาวะขยายออก เรียกเนื้อเยื่อบุผิวชนิดวา เปนแบบ stratified transitional epitheliustratified transitional epitheliustratified transitional epitheliustratified transitional epitheliummmm

- 3 -

เนื้อเยือ่เกีย่วพนัเนื้อเยือ่เกีย่วพนัเนื้อเยือ่เกีย่วพนัเนื้อเยือ่เกีย่วพนั ทําหนาท่ีสําคัญ คือ เปนตัวเช่ือมหรือประสานระหวางเนื้อเยื่ออ่ืน ๆ ในรางกาย ชวยค้ําจุนรางกายหรือโครงสรางตาง ๆ และปองกันอวัยวะท่ีอยูขางใต โดยเกือบทุกอวัยวะในรางกายจะตองมีเนื้อเยื่อเกี่ยวพันเปนรางแหค้ําจุน ชวยทําหนาท่ีคลายกันชน หรือหมอนกันกระเทือน เนื้อเยื่อเกี่ยวพันมีหลายชนิดหลัก ๆ 8 ชนิด ไดแก

1. เนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดโปรงบาง (loose หรือ areolar connective tissue) 2. เนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดแนนทึบ (dense connective tissue) 3. เนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดอิลาสติก (elastic connective tissue) 4. เนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดตาขาย (reticular connective tissue) 5. เนื้อเยื่อไขมัน (adipose tissue) 6. กระดูกออน (cartilage) 7. กระดูก (bone) 8. เลือด (blood) เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ประกอบดวยเซลลจํานวนไมมากนัก และมีสารภายนอกเซลลลอมรอบอยูเปนจํานวนมาก สาร

ภายนอกเซลลเหลานี้ประกอบดวยเสนใย (fiber) เล็กบางคลายเสนดายกระจายอยูท่ัวไปในสารประกอบพวกพอลิแซ็กคาไรด ซ่ึงมีลักษณะเปนเจล (gel) บาง ๆ หล่ังจากเซลล ซ่ึงเรียกวา เมทริกซ (metrix) เซลลของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันตางชนิดกัน จะตางกันท่ีรูปรางและโครงสรางของเซลลและชนิดของเมทริกซท่ีเซลลสรางสมบัติและการทํางานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของชนิด สวนหนึ่งข้ึนกับโครงสรางและสมบัติสารระหวางเซลลหรือเมทริกซนี้ ดังนั้นเซลลของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันจึงทําหนาท่ีค้ําจุนทางออม โดยทําหนาท่ีเปนผูสรางเมทริกซท่ีแทจริง

ชนิดขชนิดขชนิดขชนิดของเสนใยของเนื้อเยือ่เกีย่วพนัองเสนใยของเนื้อเยือ่เกีย่วพนัองเสนใยของเนื้อเยือ่เกีย่วพนัองเสนใยของเนื้อเยือ่เกีย่วพนั

1111.... collagen fiber collagen fiber collagen fiber collagen fiber พบมีจํานวนมากท่ีสุด กระจายอยูท่ัวไปทุกทิศทาง ประกอบดวยมัดของ fibril เล็ก ๆ เรียงขนานกันอยู มีสมบัติโคงงอได แตก็สามารถตานทานแรงตึงได เม่ือถูกดึงจะยืดไดนอยมาก และถาใชแรงดึงมาก ๆ ก็ขาดได

2222.... elastic fielastic fielastic fielastic fiberberberber มีลักษณะแตกแขนงเปนกิ่งกานสาขามากและเช่ือมกันเปนตาขาย เม่ือดูดวยกลองจุลทรรศนอิเล็กตรอนจะเห็นประกอบดวย microfibril มากมาย แตไมเปนมัดอยาง collagen fiber สามารถดึงใหยืดได และเม่ือปลอยจะกลับสูขนาดเดิมและรูปรางเดิมได

3333.... reticular fiberreticular fiberreticular fiberreticular fiber มีขนาดเล็กมากและแตกแขนงเปนตาขายละเอียดมากมองไมเห็นดวยกลองจุลทรรศนแบบใชแสงธรรมดาตองยอมดวยเงินจึงจะมองเห็นได

collagen และ reticular fiber ประกอบดวยโปรตีนท่ีเรียกวา collagen ซ่ึงประกอบดวยกรดอะมิโนหลายชนิด เชน glycine, proline และ hydroxyproline ซ่ึง collagen นี้เปนโปรตีนท่ีแข็งและเหนียวมาก ดังนั้น ถาอยูในโครงสรางใด โครงสรางนั้นจะแข็งแรงมาก เชน เนื้อสัตว แตถาใสน้ํารอน collagen จะเปล่ียนเปน gelatin ซ่ึงเปนโปรตีนท่ีละลายน้ําได เราพบวา โปรตีนในสัตวเล้ียงลูกดวยนมทุกชนิดเปน collagen เสียประมาณ 1/3 ของโปรตีนท้ังหมด

ชนิดของเซลลของเนื้อเยือ่เกีย่วพัน ชนิดของเซลลของเนื้อเยือ่เกีย่วพัน ชนิดของเซลลของเนื้อเยือ่เกีย่วพัน ชนิดของเซลลของเนื้อเยือ่เกีย่วพัน

1. fibroblastfibroblastfibroblastfibroblast ทําหนาท่ีสรางโปรตีนและคารโบไฮเดรตของเมทริกซและเสนใย และหล่ังสารประกอบโปรตีนเฉพาะชนิด ซ่ึงจะจัดตัวเปนเสนใย จะมีกิจกรรมมากเปนพิเศษในเนื้อเยื่อท่ี

2. กําลังเจริญ และบาดแผลท่ีกําลังสมาน ขณะท่ีเนื้อเยื่อมีอายุมากข้ึน จํานวน fibroblast จะลดลง และทําหนาท่ีนอยลง เรียกช่ือใหมวา fibrocytefibrocytefibrocytefibrocyte

- 4 -

3. pericytepericytepericytepericyte เปนเซลลท่ีไมมีการเปล่ียนแปลงไปทําหนาท่ีเฉพาะ (differentiate) พบอยูตามผนังดานนอกของเสนเลือดฝอยท่ีกระจายไปท่ัวเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เขาใจวาเปนผูสรางหรือใหกําเนิดเซลลอ่ืน เชน เม่ือมีบาดแผล pericyte จะแบงตัวไดเปน fibroblast

4. macrophagemacrophagemacrophagemacrophage พบไดท่ัวไปในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เคล่ือนท่ีท่ัวไปในเนื้อเยื่อเพ่ือเก็บเศษเซลลและจับกินสารแปลกปลอม เชน เช้ือโรค แบคทีเรีย

5. mast cellmast cellmast cellmast cell ปลอยสาร เชน histamine ออกมาระหวางเกิดปฎิกิริยาการแพ นอกจากเซลลท้ัง 4 ชนิดนี้แลวก็จะเปนเซลลเฉพาะท่ีพบในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

1111.... เนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิโปรงบางเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิโปรงบางเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิโปรงบางเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิโปรงบาง เปนเนื้อเยื่อเกี่ยวพันท่ีกระจายอยูมากท่ีสุดในรางกาย พบเปน

แถบบาง ๆ อยูระหวางสวน ตาง ๆ ของรางกาย ยึดอวัยวะไวดวยกัน และทําหนาท่ีเปนแหลงเก็บสะสมหรือสํารองของเหลว และเกลือ เนื้อเยื่อชนิดนี้หุมรอบเสนประสาท เสนเลือด และกลามเนื้อ สวนท่ีผิวหนัง ช้ันของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันนี้รวมกับเนื้อเยื่อไขมัน ก็คือช้ัน subcutaneous หรือช้ันใตผิวหนัง และกลามเนื้อ รวมท้ังโครงสรางอ่ืนขางใต ในเมทริกซซ่ึงมีสารประกอบไกลโคโปรตีน จะมีเสนใย collagen และ elastic กระจายท่ัวไปทุกทิศทาง มีสมบัติโคงงอได ฉะนั้นจึงทําใหสวนท่ีติดตออยูเคล่ือนไหวไดดี

2222.... เนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิทึบเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิทึบเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิทึบเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิทึบ เปนเนื้อเยื่อท่ีมีความแข็งแรงมาก และโคงงอได แตนอยกวาชนิดโปรงบาง ประกอบดวยcollagen fiber เปนสวน

ใหญ อาจแบงไดเปน 2 ชนิด คือ

- แบบ irregular มีcollagen fiber จัดตัวเปนมัดกระจายทุกทิศทางท่ัวไปในเนื้อเยื่อ พบท่ีช้ัน dermis ของผิวหนัง

- แบบ regular มีcollagen fiber ท่ีเปนระเบียบแนนอน ทําใหเนื้อเยื่อแข็งแรงและตานทานแรงตาง ๆ ไดดีมาก ตัวอยาง คือ เอ็นทีย่ดึระหวางกลามเนื้อและกระดกู เอ็นทีย่ดึระหวางกลามเนื้อและกระดกู เอ็นทีย่ดึระหวางกลามเนื้อและกระดกู เอ็นทีย่ดึระหวางกลามเนื้อและกระดกู (tendon)(tendon)(tendon)(tendon)

- 5 -

3333.... เนื้อเยือ่เกีย่วพนัแบบอิลาสตกิ เนื้อเยือ่เกีย่วพนัแบบอิลาสตกิ เนื้อเยือ่เกีย่วพนัแบบอิลาสตกิ เนื้อเยือ่เกีย่วพนัแบบอิลาสตกิ ประกอบดวยมัดของ elastic fiber เรียงขนานกัน เปนสวนใหญ

พบท่ีเอ็นทีย่ดึระหวางกระดกูกบักระดกู เอ็นทีย่ดึระหวางกระดกูกบักระดกู เอ็นทีย่ดึระหวางกระดกูกบักระดกู เอ็นทีย่ดึระหวางกระดกูกบักระดกู (ligament)(ligament)(ligament)(ligament) และพบท่ีโครงสรางท่ีตองขยายและกลับสูสภาพเดิม เชน ผนังของเสนเลือดอารเทอรีขนาดใหญ และเนื้อเยื่อปอด

4444.... เนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิตาขายเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิตาขายเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิตาขายเนื้อเยือ่เกีย่วพนัชนดิตาขาย ประกอบดวย reticular fiber สานกันไปมา ทําหนาท่ีค้ําจุนอวัยวะหลายอยาง เชน ตับ มาม ตอมน้ําเหลือง

5555.... เนื้อเยือ่ไขมนั เนื้อเยือ่ไขมนั เนื้อเยือ่ไขมนั เนื้อเยือ่ไขมนั แตละเซลลของเนื้อเยื่อชนิดนี้ มีไขมันพวก triglyceride สะสมอยูจํานวน

มาก และจะปลอยออกมาเม่ือรางกายตองการใชในการหายใจระดับเซลล พบในช้ันใตผิวหนัง และเนื้อเยื่อท่ีปองกันอวัยวะภายใน เม่ือยังเจริญไมเต็มท่ี เซลลมีรูปรางคลายรูปดาว เม่ือมีไขมันมาสะสมในไซโทพลาซึม เซลลจึงมีรูปรางกลมข้ึน ๆ เนื่องจากหยดไขมันมารวมกันใหญข้ึน จนเห็นเปนหยดเดียว มักจะกินเนื้อท่ี หรือปริมาตรเกือบท้ังหมดของเซลล (อาจถึง 90%) ทําใหดันไซโทพลาซึม และออรแกเนลลไปท่ีขอบเซลล และเห็นนิวเคลียสโปงออกมา เม่ือดูภาพตัดขวางดวยกลองจุลทรรศนแบบใชแสงธรรมดา จึงเห็นเหมือนเปนวงแหวนมีพลอย 1 เม็ด (โดยเรือนแหวนคือไซโทพลาซึมและเม็ดพลอย คือนิวเคลียส) บางคร้ังจึงเรียกวา signet rinsignet rinsignet rinsignet ring cellg cellg cellg cell สวนท่ีมีไขมันอยูจนเกือบเต็มเซลลจะเห็นเปนเพียงชองวางขนาดใหญภายในเซลล เนื่องจากสีท่ียอมในการทําสไลดละลายไขมันออกไป

6666.... กระดกูออน กระดกูออน กระดกูออน กระดกูออน เปนแกนทําหนาท่ีค้ําจุนในสัตวมีกระดูกสันหลังทุกชนิด ขณะท่ี

เปนเอมบริโอ แตสวนใหญเม่ือเปนตัวเต็มวัยจะถูกแทนท่ีดวยกระดูก ยกเวนในปลากระดูกออน เชน ฉลาม กระเบน ซ่ึงมีกระดูกออนตลอดชีวิต มีลักษณะเหนียว แข็งแรงแตยืดหยุนได เซลลกระดูกออน เรียกวา chondrocyte สรางเมทริกซ ซ่ึงแข็งและเหนียวรอบ ๆ เซลล อยูในชองวางเล็ก ๆ จะพบ chondocyte อยูเดี่ยวๆ หรืออาจเปนกลุม 2 หรือ 4 เซลล อยูในชองวางเล็กๆ เรียก lacuna ซ่ึงอยูในเมทริกซและเซลลเหลานี้เปนเซลลท่ีมีชีวิต

Matrix

ChondrocytesChondrocytes

Lacuna

Chondocyte

- 6 -

อาจแบงกระดูกออนไดเปน 3 ชนิดของเสนใยสวนใหญท่ีพบในเมทริกซ คือ

- Hyaline cartilage Matrix ไมมีเสนใยอยู พบอยูตามขอตอของกระดูกตางๆ เยื่อกัน้จมูก (Nassal septum) หลอดลม และกระดูกออนของซ่ีโครง

-

- Elstic carilage Matrix เต็มไปดวย collagen fiber + elastic fiber พบตามใบหู กลองเสียงและฝาปดกลองเสียง

- Fibrocartilage Matrix เต็มไปดวย collagen fiber พบตามขอตอของกระดูกสันหลัง (intervertebral disk) และขอตอของกระดูกอ่ืนๆ

7777.... กระดกูกระดกูกระดกูกระดกู คลายกระดูกออนตรงท่ีประกอบดวยเมทริกซเปนสวนใหญซ่ึงมี lacuna และมีเซลลท่ีสราง เมทริกซ แตตางกันท่ี

เมทริกซ มิไดมีแต collagen, mucopolysaccharide และสารอินทรียอ่ืนเทานั้น ยังมีแรธาตุ apatite ซ่ึงเปนสารประกอบของแคลเซียมฟอสเฟตอยูดวย ดังนั้น การแพรจะเกิดไดชามาก การสารอาหาร และออกซิเจนโดยอาศัยการแพรอยางเดียวไมเพียงพอท่ีจะเล้ียงเซลลกระดูกได เซลลกระดกูหรือ เซลลกระดกูหรือ เซลลกระดกูหรือ เซลลกระดกูหรือ OsteocyteOsteocyteOsteocyteOsteocyte จึงมีการติดตอกันเอง และการติดตอกับเสนเลือดฝอย โดยทางชองเล็ก ๆ บางๆ ของเซลลเอง ทําใหเห็นเปนเซลลรูปดาว อาจเรียกวา OsteoblastOsteoblastOsteoblastOsteoblast ดังนั้น เซลลกระดูกจะตองอยูใกลเสนเลือดใหมากท่ีสุดเพ่ือชวยการแพรของสาร จึงพบวาในกระดูกสวนใหญ เซลลกระดูกจัดตัวรอบเสนเลือดฝอยเสนหนึ่ง และอยูเปนช้ัน ๆ รอบวงกลมท่ีมีเสนเลือดฝอยอยูตรงกลาง ช้ันเหลานี้ เรียกวา lamellalamellalamellalamella ซ่ึงจัดตัวเปนหนวยรูปกระสวยเรียกวา osteonosteonosteonosteon สวนชองกลางท่ีเปนท่ีอยูหรือทางผานของเสนเลือดฝอยและเสนประสาท เรียกวา Haversian canalHaversian canalHaversian canalHaversian canal กระดูกยังประกอบดวยเซลลขนาดใหญซ่ึงมีหลายนิวเคลียสเรียก osteoclastosteoclastosteoclastosteoclast ซ่ึงสามารถละลายและดึงสารประกอบของกระดูกออกได รูปรางและโครงสรางภายในของกระดูกอาจคอยๆ เปล่ียนตามกระบวนการเติบโตปกติ และตอแรงกดดันทางกายภาพ โดยเกลือแคลเซียมทําใหเมทริกซของกระดูกแข็งมาก สวน Collagen ชวยไมใหเปราะเกินไป ดังนั้นกระดูกจึงเบา และแข็งแรงอยางไมนาเช่ือ โครงสรางท้ังหมดเหลานี้เปนลักษณะเฉพาะของกระดูกแข็งท่ีเรียก compact bonecompact bonecompact bonecompact bone ซ่ึงเปนกระดูกท่ีพบท่ัวไปในรางกาย เชน กระดูกทอนยาวท่ีขา แขน เปนตน ภายในกระดูกแข็งแบบนี้มีไขกระดูก (bone marrow) ขนาดใหญ 1 อันอยูตรงกลาง ซ่ึงอาจเปน yellow marrow ซ่ึงสวนใหญเปนไขมัน หรือ red marrow ซ่ึงเปนแหลงสรางเม็ดเลือดแดงหรือเม็ดเลือดขาวบางชนิด นอกจากนี้ ยังมีกระดูกอีกชนิดหนึ่ง คือ spongy bonespongy bonespongy bonespongy bone ซ่ึงแนนและแข็งนอยกวา compact bone แตจัดตัวเปนรางแหของช้ันกระดูกตอกัน ปกติพบท่ีสวนปลายของกระดูกแข็งท่ีเรียก epiphysisepiphysisepiphysisepiphysis

- 7 -

8888.... เลอืดเลอืดเลอืดเลอืด ประกอบดวยเม็ดเลือดแดง (erythrocyth) ,เม็ดเลือดขาว (leucocyte) และเกล็ดเลือด (platelet) แขวนลอย

อยูในพลาสมาซ่ึงเปนของเหลว นักชีววิทยาสวนใหญถือวาเลือดเปนเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เพราะการทํางานของเลือดใกลเคียงกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพันโดยท่ัวไปแตบางคนแยกเปนกลุมตางหาก เพราะตามคําจํากัดความ เซลลเนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะตองสรางเมทริกซออกมารอบ ๆ แตเซลลเม็ดเลือดไมไดสรางพลาสมา สามารถแยกความแตกตางของเม็ดเลือดท้ัง 2 ชนิด และเกล็ดเลือดได ภายใตกลองจุลทรรศนแบบใชแสงธรรมดา

- เม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดแดง ในสัตวเล้ียงลูกดวยน้ํานมสวนใหญ เม่ือเจริญเต็มท่ีจะไมมีนิวเคลียส จึงเห็นเปนลักษณะเวา 2 ดาน สวนของสัตวมีกระดูกสันหลังอ่ืนจะเปนเซลลรูปไขและมีนิวเคลียส ในสัตวท่ีไมมีกระดูกสันหลังสวนใหญรงควัตถุท่ีจับออกซิเจนได จะไมอยูท่ีเม็ดเลือด แตอยูในพลาสมามีสีแดง หรือสีฟาข้ึนกับชนิดของรงควัตถุ สวนในสัตวมีกระดูกสันหลังสวนใหญรงควัตถุจับออกซิเจน คือ ฮโีมโกลบนิฮโีมโกลบนิฮโีมโกลบนิฮโีมโกลบนิ ซ่ึงเกาะอยูท่ีเม็ดเลือดแดง

- เม็ดเลือดขาวเม็ดเลือดขาวเม็ดเลือดขาวเม็ดเลือดขาว ในคนมีหลายชนิด ตางกันท่ีรูปราง โครงสราง นิวเคลียส การติดสีและหนาท่ี

- เกล็ดเลือดเกล็ดเลือดเกล็ดเลือดเกล็ดเลือด ไมใชเซลลท้ังเซลล แตเปนช้ินสวนเล็ก ๆ ท่ีแตกจากเซลลในไขกระดูก

เนื้อเยือ่กลามเนื้อ เนื้อเยือ่กลามเนื้อ เนื้อเยือ่กลามเนื้อ เนื้อเยือ่กลามเนื้อ การเคล่ือนไหวของสัตวสวนใหญเกิดจากการหดตัวของ

เซลลรูปยาว หรือทรงกระบอกหรือรูปกระสวยของเนื้อเยื่อกลามเนื้อ เซลลกลามเนื้อแตละเซลลซ่ึงมักเรียกวา muscle muscle muscle muscle fiberfiberfiberfiber ประกอบดวยเสนใยขนาดเล็กยาว เรียงขนานกัน และสามารถหดตัวได เรียก myofibrilmyofibrilmyofibrilmyofibril ซ่ึงมีโปรตีน actin และ myosin เปนสารประกอบสําคัญ ในสัตวมีกระดูกสันหลัง พบเนื้อเยื่อกลามเนื้อ มี 3 ชนิด ไดแก กลามเนื้อเรียบ (smooth muscle) กลามเนื้อสเกเลตัล (skeleton muscle) และกลามเนื้อหัวใจ (cardiac muscle)

1. กลามเนือ้เรยีบกลามเนือ้เรยีบกลามเนือ้เรยีบกลามเนือ้เรยีบ((((SmoSmoSmoSmooth muscleoth muscleoth muscleoth muscle)))) พบท่ีอวัยวะภายใน เชนท่ีผนังของทางเดินอาหาร มดลูก เสนเลือด และอวัยวะภายในอ่ืน ๆ รูปรางของเซลลมีลักษณะยาว ปลายแหลมคลายกระสวย มีนิวเคลียสอันเดียวอยูตรงกลางเซลล เม่ือมองดวยกลองจุลทรรศนแบบใชแสงธรรมดา จะไมเห็นมีลาย แตเห็นเปนเนื้อเยื่อเดียวกันหมด เพราะ actinactinactinactin และmyosinmyosinmyosinmyosin มีการจัดตัวตางจากกลามเนื้อสเกเลตัล กลามเนื้อเรียบหดตัวไดชา แตหดตัวไดนานมาก และการทํางานอยูนอกอํานาจจิตใจ

2. กลามเนือ้สเกเลตลักลามเนือ้สเกเลตลักลามเนือ้สเกเลตลักลามเนือ้สเกเลตลั ((((Skeletal muscleSkeletal muscleSkeletal muscleSkeletal muscle)))) เปนกลามเนื้อขนาดใหญอยูติดกับกระดูก เชน กลามเนื้อท่ีแขนขา มีลักษณะสําคัญ คือ แตละ muscle fiber มีหลายนิวเคลียสซ่ึงเรียงกันอยูทางดานขาง ใตเยื่อหุมเซลล สวนท่ีเหลือตรงกลางเซลลท้ังหมดเปนท่ีอยูของ myofibril ซ่ึงทําหนาท่ีหดตัว แตละเซลลอาจมีขนาดยาวไดถึง 2-3 เซนติเมตร เม่ือดูภายใตกลองจุลทรรศนชนิดใชแสงธรรมดา จะเห็นแถบสีเขมและจางพาดขวางสลับกันไป เรียกวา ลาย ลาย ลาย ลาย ((((striationstriationstriationstriation)))) ซ่ึงขณะท่ีหดตัว

- 8 -

Neuron

Glial cell

Nissl’s granules (����������� cytoplasm)

จะมีการเปล่ียนแปลงไป โดยสีเขมจะคงม่ี แตสีจางแคบลงกลามเนื้อชนิดนี้หดตัวไดรวดเร็ว แตจะตองคลายตัวและพักระยะหนึ่งกอนท่ีจะสามารถหดตัวไดอีก การทํางานของกลามเนื้อ สเกเลตัลยูภายใตอํานาจจิตใจ

3. กลามเนือ้หวัใจ กลามเนือ้หวัใจ กลามเนือ้หวัใจ กลามเนือ้หวัใจ ((((Cardiac muscleCardiac muscleCardiac muscleCardiac muscle)))) พบท่ีผนังหัวใจ เซลลมีรูปรางยาวทรงกระบอก มีนิวเคลียสอันเดียวอยูตรงกลางเซลลมีการแตกแขนงและแขนงกลับมาเช่ือมกันอีกเปนชวง ๆ เม่ือมองดวยกลองจุลทรรศนแบบใชแสงธรรมดาจะเห็นเปนลาย แตการทํางานไมเหมือนของเซลลกลามเนื้อสเกเลตัลเพราะอยูนอกอํานาจจิตใจ เซลลติดตอกันดวย gap junction ซ่ึงยอมใหสัญญาณกระแสไฟฟากระจายท่ัวผนังหัวใจอยางรวดเร็ว

เนื้อเยือ่ประสาทเนื้อเยือ่ประสาทเนื้อเยือ่ประสาทเนื้อเยือ่ประสาท มีรูปรางและขนาดตาง ๆ มากมาย แตโดยท่ัวไปจะมีตัวเซลลขนาดใหญประกอบดวยนิวเคลียสอยูตรงกลาง มี

Nissl’s granule อยูในไซโทพลาสซึม และสวนยื่นเล็ก ๆ บางๆ 2 ชนิดยื่นออกมาจากตัวเซลลเปนแขนงประสาท คือเดนไดรต (dendrite)(dendrite)(dendrite)(dendrite) เปนเสนใยทําหนาท่ีเฉพาะในการรับกระแสความรูสึกจากสิ่งเราจากสิ่งแวดลอม หรือจากเซลลอ่ืน ตัวเซลลประสาทอาจมีสาขาบาง อาจยาวตั้งแต 1 หรือ 2 มิลลิเมตร จนถึงมากกวา 1 เมตรก็มี เชนเสนท่ียื่นยาวจากไขสันหลังลงไปท่ีแขน หรือขาของคน เปนตน ท่ีปลายจะมีสาขาเปนกิ่งกานเล็ก ๆ เปนกระจุก แอกซอนท่ีมีเยื่อหุมเรียกวา ใยประสาท (nerve fiber) แบงออกเปน 2 ชนิด คือ 1) ชนิดท่ีไมมีเยื่อไมอีลิน (myelin sheath) หุม มีเพียงเยื่อหุม Schwann cell หุมรอบเพียงช้ันเดียวเรียก นวิรเิลมมา นวิรเิลมมา นวิรเิลมมา นวิรเิลมมา (neurilemma)(neurilemma)(neurilemma)(neurilemma) 2) ชนิดท่ีมีเยื่อไมอีลินหุมยื่นแผออกมาจาก Schwann cell หุมรอบแอกซอนท่ีรอยตอระหวาง Schwann cell จะเห็นเปนรอยคอดซ่ึงมีแตนิวริเลมมา เรียกวา node of Ranvier node of Ranvier node of Ranvier node of Ranvier เซลลประสาทจะตอกันท่ีบริเวณรอยตอท่ีเรียกวา ไซแนปส ไซแนปส ไซแนปส ไซแนปส (synapse)(synapse)(synapse)(synapse) เพ่ือสงตอกระแสความรูสึกไปท่ัวตัว สวนปลายประสาท (motor nerve ending) จะไปสิ้นสุดท่ีกลามเนื้อสเกเลตัล กลามเนื้อเรียบ และตอมตาง ๆ โดยแอกซอนแตกแขนงแผออกเปนแผนบาง ๆ (motor end plate)(motor end plate)(motor end plate)(motor end plate)

เซลลเกีย่วพนัประสาทเซลลเกีย่วพนัประสาทเซลลเกีย่วพนัประสาทเซลลเกีย่วพนัประสาท อยูลอมรอบและค้ําจุนเซลลประสาทยึดไวกับเสนเลือด และอาจชวยปองกันเซลลประสาทไดดวย เซลลนี้มีความสําคัญ

ในทางการแพทย เนื่องจากเนื้องอกสวนใหญของระบบประสาทมักเกิดข้ึนท่ีนี่ เซลลเกี่ยวพันประสาท แบงออกเปน 3 ชนิดใหญ ๆ ตามรูปรางและการทํางาน ไดแก

1111. . . . astrocyteastrocyteastrocyteastrocyte เปนเซลลรูปดาว มีแขนงยื่นมากมาย อาจพบอยูระหวางใยประสาทในสมองและไขสันหลัง หรือระหวางเซลลประสาทและเสนเลือด

2222. . . . oligodendrogliaoligodendrogliaoligodendrogliaoligodendroglia เปนเซลลท่ีมีขนาดเล็กกวา และมีแขนงนอยกวา astrocyte ทําหนาท่ียึดเสนประสาทไวดวยกันและท่ีสําคัญเช่ือวา เปนผูสรางเยื่อหุมไมอีลินท่ีหุมเสนใยประสาทในสมองและไขสันหลัง

3333. . . . microgliamicrogliamicrogliamicroglia เปนเซลลขนาดเล็กและมักอยูกับท่ี แตในเนื้อเยื่อสมองท่ีบวมหรือกําลังเสื่อม เซลลนี้จะขยายใหญและเคล่ือนท่ีและมี phagocytosis เพ่ือกินและทําลายจุลินทรียและเศษเซลล

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@