หนังสือโรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุ

1

2

3

สืบสานปณิธาน ๓ ประการของท่านพุทธทาสภิกขุ

ปณิธาน 3 ประการของท่านพุทธทาสภิกขุ คือ1.ทำาตนให้เข้าถึงหัวใจศาสนาของตน (สันติสุข)2.ทำาความเข้าใจระหว่างศาสนา (สันติภาพ)3.นำาตนออกจากอำานาจของวัตถุนิยม (อิสรภาพ)

การนำาตนให้เข้าถึงหัวใจศาสนาของตน ทำาให้พบความสุขที่แท้

จริง ได้รับประโยชน์จากศาสนาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องทรมานอยู่กับความ

ทุกข์อย่างไม่มีที่สิ ้นสุด

การทำาความเข้าใจระหว่างศาสนา ป้องกันความขัดแย้งกันได้

เพราะเห็นแก่ธรรมมากกว่าเห็นแก่ตัว ไม่มีเขา ไม่มีเรา

ความเจริญของวัตถุ ยิ่งสร้างปัญหาเป็นบาปกรรมของมนุษย์

เพื่อมความโลภ โกรธ หลง ขุดหลุมฝังตัวเองลงในความทุกข์ แล้วเข้าใจ

ว่าเป็นความเจริญ

โรงเรียนอนุบาลสัตย์สงวนอนุสรณ์ตั้งขึ้นเพื่อสืบสานปณิธาน ๓ ประการของท่านพุทธทาสภิกขุ เพื่อให้สังคมไทยมีสันติสุข สันติภาพและอิสรภาพ ตามแนวคิดเรื่อง “การศึกษาที่บริสุทธิ์” ของท่านพุทธทาส

3

“การศึกษาที่บริสุทธิ์”

โรงเรียนนำาแนวความคิดเรื่อง “การศึกษาที่บริสุทธิ์” ของ

ท่านพุทธทาสภิกขุมาใช้เป็นแนวทางของโรงเรียน เพราะเป็นแนวคิด

ที่เกี่ยวกับระบบการศึกษาโดยตรง สมควรที่ผู ้บริหารโรงเรียนทุก

ระดับการศึกษาจะนำาไปเป็นแนวคิดในการพัฒนาศีลธรรม จริยธรรม

ให้นักเรียนเข้าถึงแก่นธรรมของพระพุทธศาสนาได้

“การช่วยกันทำาให้ธรรมะแพร่หลายในเวลาที่ประชาชน

ต้องการธรรมะเพื่อแก้ไขปัญหานานาประการแห่งยุค นับว่าเป็นสิ่งที่

น่ายินดีและอนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งข้าพเจ้าขออนุโมทนาใน

ที่นี้ เนื่องในการศึกษาระดับที่สำาคัญระดับหนึ่ง การพยายามแก้ไข

ปัญหากันในแต่ด้านวัตถุ หรือการใช้อำานาจกำาลัง แม้ทั้งทางตรงทาง

อ้อมนั้น ดูจะยังห่างไกลจากความสำาเร็จ ความสามัคคีมีไม่ได้ ความ

ร่วมมือกันมีไม่ได้ ความรักใคร่ความกรุณากันมีไม่ได้ หรือจะมีบ้าง

ก็ตาม ชนิดตบตาหน้าไหว้หลังหลอกทั้งนั้น นั่นเป็นเพราะขาดธรรมะ

หรือศีลธรรมนั่นเอง ความมีธรรมะเท่านั้นที่จะช่วยแก้

ปัญหาโดยแท้จริงได้ ทำาให้มีเมตตากรุณาและสามัคคี

จงรักภักดีต่อกันและกันได้การ

ศึกษาที่จะช่วยมนุษย์ได้แท้จริง

นั้น ไม่ใช่การเรียนหนังสือหรือ

วิชาชีพ แต่ต้องเป็นการเรียน

ธรรมะเพื่อปฏิบัติตนให้มีศีล

4

14 พฤษภาคม 2521.

โมกขพลาราม ไชยา .พุทธทาส

ธรรม ถ้ามิฉะนั้นแล้ว ความฉลาดและร่ำารวยที่ได้มาจากการเล่า

เรียนนั้น จะกลายเป็นสิ่งส่งเสริมความเห็นแก่ตัว ทำาตนเองให้ตก

จมอยู่ภายใต้อำานาจกิเลสคือตกอบายทั้งเป็นๆนั่นเอง แล้วยังพลอย

ทำาเพื่อนมนุษย์ให้เดือดร้อน เพราะความเป็นอันธพาลของตนในลักษณะ

เช่นนั้นด้วย การศึกษาที่แท้จริง ย่อมส่งเสริมศีลธรรมทุกขั้นตอนแห่ง

วิวัฒนาการของมนุษย์การศึกษาที่บริสุทธิ์นั้น ต้องศึกษาเพื่อช่วยทั้ง

ตัวเองและผู้อื ่นทั้งโลกด้วย ยิ่งเพื่อผู้อื ่นมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งบริสุทธิ์

มากขึ้นเท่านั้น บัดนี้ เรามีแต่การศึกษาชนิดทำาลายตนเอง โดยไม่รู ้

สึกตัวไปเสียทั้งนั้น แล้วจะเป็นไปเพื่อการช่วยผู้อื ่นอย่างไร จะมีความ

รู้สึกคิดนึกที่ไหนมาช่วยผู้อื ่น โลกจึงมีแต่การเอาเปรียบ และเบียดเบียน

กันอย่างหนาแน่น การศึกษาที่แท้จริงต้องทำาให้เรารู้สึกรับผิดชอบร่วม

กันทั้งโลก เพื่อทุกคนเป็นคนๆเดียวกัน ขอให้ทุกคนมีปณิธานว่า เรามี

การศึกษาเพื่อกระทำาโลกให้งดงาม มิใช่เพื่อทำาเราให้ร่ ำารวยด้วยเรื่อง

กิน-กาม-เกียรติ แล้วแข่งขันกันจนโลกวินาศไปเพราะการกระทำาเช่นนั้น

ข้าพเจ้าขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งสำาหรับผู้ที่มีการศึกษาชนิดที่มุ ่ง

ช่วยมนุษย์เป็นส่วนรวม ยิ่งกว่าช่วยตัวเอง อันเป็นการศึกษาที่บริสุทธิ์

มีไว้สำาหรับมนุษย์โดยแท้จริง ขอแสดงความปรารถนาดีและอวยพรแด่

ท่านที่ประสพความสำาเร็จในการศึกษาชนิดนี้”

5

6

โรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุนำาเด็กเข้าถึงหัวใจพระพุทธศาสนา

โรงเรียนที่เจียรระไนเด็กให้มีความพร้อมและมีความสามารถหลายๆด้าน เก่งทั้งการเรียนและมีความประพฤติดีและถูกต้อง โดยเฉพาะให้เด็กเป็นเด็กที่เข้าถึงธรรม โดยใช้หลักธรรมคำาสอนของท่านพุทธทาสภิกขุนำาเด็กเข้าสู่กระแสพระนิพพาน

เป็นเด็กที่คิดได้ถูกต้อง ทำาได้ถูกต้อง ได้รับผลของการกระทำาถูกต้อง ทำาสิ่งใดก็ไม่ทำาให้ตนเองและผู้อื ่นเดือดร้อน รู้ดี รู ้ชั ่ว รู ้บุญ รู้บาป รู้สุขแท้ สุขเทียม เป็นลูกที่นำามาซึ่งความชื่นใจของพ่อแม่

6

7

ความเป็นมาของโรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุ

การจัดการศึกษาในสังคมไทยยังไม่ได้ทำาให้ชาวพุทธได้รับประโยชน์สูงสุดจากการนับถือพระพุทธศาสนา ชาวพุทธส่วนใหญ่ไม่มีความเข้าใจชัดเจนในหลักธรรมและไม่สามารถนำามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำาวันได้ ก่อเกิดปัญหาวิกฤตทั้งในระดับครอบครัวจนถึงประเทศชาติ เพราะชาวพุทธไม่เข้าถึงหัวใจพระพุทธศาสนา

ดังนั้นการนำาหลักธรรมอันสูงสุด ซึ่งเป็นเป้าหมายของพระพุทธศาสนา คือพระนิพพาน (ชีวิตที่สุขสงบเย็น) มาอบรมสั่งสอนนักเรียนให้ศรัทธาและเข้าถึงตั้งแต่ยังเด็ก โดยมีหลักสูตรที่ดีและวิธีการที่เหมาะสม ก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน ทำาให้มีชีวิตที่สุขสงบเย็น มีจิตใจที่เป็นอิสระไม่ตกเป็นทาสของวัตถุนิยม ช่วยกันทำาให้สังคมมีสันติภาพ สมดังปณิธาน ๓ ของท่านพุทธทาสภิกขุ

7

8

โรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุ เป็นยุทธศาสตร์ของการศึกษาตามแนวพุทธศาสนาที่จะเป็นทางออกให้แก่สังคมและโลก สมดังพระพุทธประสงค์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงต้องการให้คำาสั่งสอนของพระพุทธองค์ได้ก่อเกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมมากที่สุด

โรงเรียนที่มุ ่งส่งเสริมจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์ ด้วยการส่งเสริมการเข้าถึงหัวใจพระพุทธศาสนา ทำาให้บุคคลมีความเห็นแก่ตัวน้อย รักผู้อื ่นและส่วนรวม โดยถือว่าทุกชีวิตเป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายเหมือนกัน สามารถแก้ปัญหาของตนเองและสังคมได ้ มีสัมมาทิฏฐิในเรื่องความสุขแท้และสุขเทียม จึงเป็นผู้มีสันติสุขและทำาสังคมให้มีสันติภาพ

8

9

วิถีชีวิตในโรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุ

เด็กนักเรียนโรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุเดินถือกระเป๋าเข้ามาโรงเรียนเองแต่เช้า ยิ้มแย้มแจ่มใส เบิกบาน ธรรมะสวัสดีคุณครูและบุคลากรทุกคน ส่งการบ้าน รับประทานอาหารเช้า ทบทวนบทเรียน เล่นสื่อการศึกษา ร้องเพลงชาติ ฝึกฝนมาธิ เดินด้วยสติทุกเช้า พูดธรรมะ ร้องเพลงธรรมะ ส่งเสริมปัญญาธรรม และสำานึกในความเป็นไทย ทำาสมาธิก่อนทำากิจกรรม เรียนและเล่นพัฒนาด้านร่างกายอารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาด้วยกิจกรรมหลากหลาย รับประทานอาหาร ช่วยเหลือตนเองในการอาบน้ำา แต่งตัว เก็บ พับ วางของให้ถูกที่ ขอบคุณ

พระธรรมในสรรพสิ่งและสรรพสัตว์ซึ่งเป็นผู้ให้ บำาเพ็ญประโยชน์

9

หลักการเรียนรู้ธรรม

โรงเรียนส่งเสริมการเรียนรู้ธรรม ดังนี้1.ในทุกอิริยาบถ ทุกกิจกวัตร ทุกเวลา ทุกสถานที่2.บูรณาการลงในทุกกิจกรรมการเรียนรู้3.ใช้หลักพุทธธรรมเป็นแกนกลางของหลักสูตร

ปฐมวัยเนื้อหาสาระของหลักธรรมที่สำาคัญหัวข้อลงใน

หน่วยการสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต เป็นการเรียนรู้เชิงประจักษ์ ฝึกปฏิบัติจริงอย่างสม่ำาเสมอและต่อเนื่อง มีการสำารวมกาย วาจา และใจในชีวิตประจำาวัน เมื่อสิ้นปีการศึกษา นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผ่านเกณฑ์ที่วางไว้ จะได้ถวายตนเป็นพุทธมามกะ

10

สิ่งที่เด็กได้รับเมื่อจบหลักสูตร

นักเรียนที่จบการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียน จะเป็นเด็กที่มีพัฒนาการโตสมวัย มีสมรรถภาพทางร่างกายดี มีศักยภาพหลากหลาย เช่น มีความสามารถทางศิลปะ ดนตรี กีฬา ร้องรำา การแสดง การอ่าน การเขียน มีมารยาท ไหว้สวย จิตใจเข้มแข็ง อดทน อดกลั้น มีความมานะพยายาม ดูตัวเองได้ ประเมินตัวเองเป็น พร้อมที่รับฟัง แก้ไข พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ สงบเย็น มีใจคอหนักแน่น ไม่ย่อท้อต่อความลำาบาก

ด้านความพร้อมทางวิชาการ นักเรียนมีสมาธิในการฟัง ฟังคำาสั่งและปฏิบัติตนได้ดี พูดได้ถูกกาละเทศะ มีสาระ อ่านหนังสือได้คล่อง มีลายมือดี มีความรักในวิชาภาษาอังกฤษ มีความสามารถทางคณิตศาสตร์ในระดับที่พร้อมจะเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

11

โรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุต่างจากโรงเรียน

วิถีพุทธอื่นๆอย่างไร

โรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุ ส่งเสริมการใช้ปัญญาธรรมในการดำาเนินชีวิตประจำาวัน เรียนตรง ปฏิบัติตรงเข้าถึงหัวใจพระพุทธศาสนา คือ เรียนรู้หลักการ คือ รู้ทุกข์ รู ้สุข เรียรู้ปฏิบัติการจริงในประสบการณ์ชีวิตประจำาวันและสามารถดับทุกข์และพบความสุขสงบเย็นได้จริงในทุกขณะของการดำาเนินชีวิต ได้ผลจริงในชีวิต โดยมีนวัตกรรมและเทคนิคการสอนใหม่ๆ บูรณาการธรรมะลงในทุกอิริยาบทของชีวิต ทุกกิจกรรมการเรียน และทุกกิจวัตร

12

เป้าหมายของโรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุ

ทุกคนเข้าถึงหัวใจศาสนาของตน ชีวิตมีสันติสุข สังคมมีสันติภาพ มีชีวิตที่พอเพียง ไม่ตกเป็นทาสอบายมุข วัตถุนิยม และความโลภ โกรธ หลง ชีวิตมีอิสรภาพอย่างแท้จริง

13

หน้าที่ของนักเรียน

1.ช่วยเหลือตนเองในการมาโรงเรียน2.ปฏิบัติตามระเบียบข้อปฏิบัติของโรงเรียน3.ปฏิบัติกิจวัตรต่างๆได้ถูกต้อง รู้หน้าที่ของตนเอง4.ช่วยเหลือตนเอง (ดูแลจัดเก็บของใช้ ของเล่น)5.ช่วยเหลืองานส่วนรวม ล้างจานของตัวเอง 6.ตั้งใจทำากิจกรรมต่างๆอย่างมีสติ7.มาโรงเรียนสม่ำาเสมอและทันเวลา8.ทำาการบ้านและอ่านหนังสือทุกวันโดยไม่ต้องบอกเตือน9.สวดมนต์ นั่งสมาธิ กราบคุณพ่อคุณแม่ก่อนนอนทุกวัน10.ทำาหน้าที่ทุกประการได้ถูกต้อง เชื่อฟัง ขยัน ไม่ดื้อ

โรงเรียนส่งเสริมเด็กให้เป็นลูกชายผ้าเหลือง ไม่ใช่เลี้ยงดูแบบคุณหนูลูกชายผ้าเหลือง ไม่ใช่คุณหนู

14

1.อบรมเลี้ยงดูลูกตามแนวเดียวกันกับโรงเรียน2.ศึกษาปฏิบัติธรรม เพื่อพัฒนาชีวิตและจิตใจอยู่เสมอ3.ทำาความเข้าใจเรื่องการศึกษาที่ถูกต้อง เพื่อพัฒนา

ชีวิตที่แท้จริง4. ชี้นำาลูกให้เข้าสู่กระแสธรรม(ชีวิตที่สุขสงบเย็น) ไม่

ให้เพียงวัตถุสิ่งของ (ไม่ป้อนกิเลส)5.ฝึกฝนระเบียบ วินัย ในครอบครัวและต่อสังคม

ข้อปฏิบัติของผู้ปกครองที่จะส่งเสริมให้ลูกมีธรรมะ

เก่ง ดี มีสุข

15

6. สร้างบรรยากาศของครอบครัวให้อบอุ่น รักใคร่กัน7.พาลูกสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ก่อนนอน กราบ

ขอบคุณพระธรรมในคุณพ่อคุณแม่8.ฝึกฝนเด็กให้กินง่าย อยู่ง่าย ว่าง่าย สอนง่าย ทุกข์

ยาก9.ดูแลทำาการบ้านและอ่านหนังสือทุกวัน ให้เป็นนิสัย

ที่ดีงาม10.ไม่ตามใจ ปกป้อง หรือปล่อยปละละเลยลูกเกิน

พอดี 11.ไม่ใจอ่อนและอ่อนใจในการแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่

ถูกต้องของลูก12.ฝึกฝนให้ช่วยตัวเอง ช่วยทำางานบ้าน13.มาร่วมประชุมกับทางโรงเรียนทุกครั้ง เพื่อเข้าใจ

แนวนโยบายและแนวทางต่างๆ14.ไม่ละเมิดผิดศีล ละเว้นอบายมุข เป็นแบบอย่างที่

16

ทำาไมผู้ปกครองต้องร่วมมือกับโรงเรียน

100 % ของโรงเรียน = 50 % ของพฤติกรรมนักเรียน100 % ของผู้ปกครอง = 50 % ของพฤติกรรมลูก

เพราะชีวิตของเด็กจะอยู่ที่โรงเรียนและบ้าน พ่อแม่ที่เรียนรู้ เอาใจใส่อบรมเลี้ยงลูกร่วมกับโรงเรียนอย่างเต็มที่ จึงจะได้ลูกที่สุข ดี และเก่งอย่างสมบูรณ์

17

18

ธรรมะคืออะไร? ทำาไมลูกถึงต้องมีธรรมะ?

ธรรมะ คือเครื่องมือในการดำาเนินชีวิต ทุกขั้นตอนของพัฒนาการ จากแรกเกิดจนตาย ได้แก่การยืน เดิน นั่งนอน หรือเคลื่อนไหวร่างกายอย่างมีสติ ไม่ให้ตนเอง และผู้อื ่นเดือดร้อน จิตใจมีความตั้งมั่น แน่วแน่ในการทำางานต่างๆ มีปัญญาเลือกทำาสิ่งต่างๆได้อย่างถูกต้อง มีชีวิตที่แจ่มใส ใจมีความสุขสงบเย็น

ถ้าลูกไม่ธรรมะ รู้แต่ด้านกายหรือวัตถุ ไม่รู ้เรื ่องจิตใจ ชีวิตก็จะดำาเนินอยู่ในกองกิเลสและความทุกข์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาชีวิตได้ถูกต้อง ต้องตกเป็นทาสของอารมณ์รัก โกรธ เกลียด หลงติดอบายมุข ติดยาเสพติด ผิดศีล ผิดธรรม ทำาความเดือดร้อนให้ตนเอง ครอบครัว และสังคม

18

19

คนมีธรรมะเป็นคนอย่างไร?

1.เป็นคนมีสติ ในการเคลื่อนไหวร่างกาย รู้เท่าทันอารมณ์และจิตใจของตนเอง รู้เหตุ รู ้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้บุคคล รู้ชุมชน มีบุคลิกภาพดี มารยาทดี เป็นเด็กน่ารัก

2.เป็นคนมีสมาธิ ทำาสิ่งใดมีใจจดจ่อ ทำางานประสบความสำาเร็จได้ง่าย

3.เป็นคนมีปัญญา ทำาสิ่งใดมีการใตร่ตรองใคร่ครวญ เลือกทำาในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ไม่ทำาให้ตนเองและผู้อื ่นได้รับความเดือดร้อน

19

20

ทำาไมเด็กปฐมวัยต้องมีธรรมะ?

ต้นกล้าที่ดี ย้่อมให้เมล็ดข้าวที่มีคุณภาพคุณภาพที่ดี จึงต้องเริ่มจากวัยเยาว์วัยปฐมวัย จึงต้องเลี้ยงดูอย่างเต็มฝีมือ ด้วยมืออาชีพ

ใส่สาระดีๆที่จำาเป็น ลงในเลือดเนื้อ ชีวติ จิตวิญญาณ ดังที่ท่านพุทธทาสได้สนับสนุนให้สอนธรรมะขั้นหัวใจพระพุทธศาสนา (ปรยัติ) ตั้งแต่เด็กปฐมวัย

20

21

ทำาไมเด็กปฐมวัยต้องมีธรรมะ?อุดมการณ์เด็กไทย

1.มีจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ และจิตสำานึกของความเป็นไทย รู้จักใช้ภูมิปัญญาทางพระพุทธศาสนา และภูมิปัญญาไทยในการพัฒนากาย วาจา อารมณ์ จิตใจและสติปัญญา

2.มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่ยึดเหนี่ยวของจิตใจ เข้าถึงหัวใจพระพุทธศาสนาทั้งด้านปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ ตามระดับวุฒิภาวะ และความแตกต่างของบุคคล

3.รู้ มี ใช้ธรรมะในชีวิตประจำาวันได้อย่างถูกต้อง และในทุกขั้นตอนพัฒนาการของชีวิต

4.มีการหยั่งรู้ภายในตนเอง พัฒนาตนด้วยตนเอง รักเพื่อนมนุษย์ รักธรรมชาติ รักสิ่งแวดล้อม สามารถแก้ปัญหาของตนเองและผู้อื ่นได้อย่างสันติวิธี

5.รู้สภาวะความเป็นจริงของชีวิต ความเป็นจริงตามธรรมชาติ ความเป็นจริงของสังคม มีชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพและมีความสุขสงบเย็น

6.มีชีวิตอยู่อย่างสงบเย็นและเป็นประโยชน์ ทุกคนมีส่วนร่วมสร้างสังคมให้มีสันติสุข สันติภาพ และอิสรภาพ

ของโรงเรียนปณิธาน ๓ พุทธทาสภิกขุ

21

22

วิสัยทัศน์ของโรงเรียน

พันธกิจของโรงเรียน

จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนให้เข้าถึงหัวใจศาสนา ด้วยกระบวนการเรียนรู้ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา บนพื้นฐานความเป็นไทย พัฒนาโรงเรียนให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์ฝึกอบรมเผยแพร่องค์ความรู้ที่เป็นแก่นธรรมสู่สังคม โดยให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มศักยภาพ ใช้ศาสนธรรมนำาปัญญา พัฒนาชีวิตและสังคม

งานที่จะต้องจัดทำาเพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์ข้างต้น มีดังนี้

1.จัดประสบการณ์ที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาอย่างสมดุลกัน มีความเป็นไทย โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา

2.จัดบรรยากาศและแหล่งการเรียนรู้ให้เอื้อต่อประสบการณ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

3.ประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ทางพระพุทธศาสนาสำาหรับผู้เรียน ผู้ปกครอง และชุมชน

22

23

เป้าหมาย

เป้าหมายของหลักสูตรเพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ มีดังนี้

1.นักเรียนไม่ต่ำากว่าร้อยละ 80 ได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ และมีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

2.โรงเรียนมีบรรยากาศและแหล่งการเรียนรู้สำาหรับผู้เรียนและชุมชน

3.นักเรียน บุคลากร และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการพัฒนาจิตตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

23

บรรยากาศของโรงเรียน

1.แวดล้อมต้นไม้ที่หลากหลาย ร่มรื่น สดชื่นแจ่มใส2.มีธรรมชาติ ใกล้ชิดธรรมชาติ เพื่อการเรียนรู้ธรรม3.ใช้อากาศธรรมชาติ ไม่ใช้เครื่องปรับอากาศ เพื่อ

เรียนรู้ความเป็นธรรมดา รู้จักธรรมชาติของอากาศในฤดูต่างๆ รู้ร้อน หนาว และรู้วิธีการปฏิบัติตนต่อสภาพต่างๆตามธรรมชาติได้

4.อบอุ่น เป็นกันเอง เป็นครอบครัวเดียวกัน5.สงบเย็น 6.เรียนและเล่นอย่างมีสติด้วยสื่ออุปกรณ์ที่หลาก

หลาย7.พูดคุยสนทนาอย่างเสรี มีวินัย

24

25

คำาถามที่ถามบ่อยๆ

จบแล้ว ธรรมะหาย?-ธรรมะเป็นทักษะชีวิต อยู่ในกาย วาจาและใจ เป็น

รากฐานพฤติกรรม ยิ่งถูกฝังรากในวัยเล็กเท่าใดยิ่งติดทนนานได้มากเท่านั้น

-คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง จะต้องเป็นผู้ประคับประครองให้ลูกมีธรรมะอยู่สม่ำาเสมอและตลอดไปต่อจากโรงเรียน จึงต้องมาร่วมศึกษาและปฏิบัติธรรมกับทางโรงเรียนเพื่อเป็นแบบอย่างและที่พึ่งให้แก่ลูก

เด็กเรียนธรรมะแล้วแข่งขันสู้คนอื่นไม่ได้-เด็กมีธรรมะ จะเป็นเด็กที่เก่งพร้อม มีสติและปัญญา

สามารถแข่งขันในเรื่องที่เป็นาระได้อย่างดี แก้ไขปัญหาต่างๆได้ เอาชีวิตรอดได้อย่างเป็นสุข

-การแข่งขันแย่งชิงในเรื่องไร้สาระ ย่อมนำามาซึ่งความทุกข์ใจ การเสียสละแบ่งปัน ทำาให้เกิดความทุกข์ใจ

26

ทำาไมถึงไม่มีรถโรงเรียน?-โรงเรียนต้องการส่งเสริมการทำาหน้าที่พ่อแม่ของ

ผู้ปกครอง การมารับส่งลูกไปโรงเรียนจะทำาให้คุณพ่อคุณแม่ได้พบกับคุณครูประจำาชั้นเพื่อพูดคุยและรับทราบถึงพัฒนาการหรือปัญหาต่างๆของลูก เพื่อที่จะร่วมมือกันพัฒนาหรือแก้ไขพฤติกรรมของลูกได้ทันท่วงที และคุณพ่อคุณแม่ที่ร่วมมือกันกับโรงเรียนอย่างเต็มที่ ก็จะได้ลูกที่

27

การดูตัวเอง?

สติ?

เป็นที่สุดของธรรมทั้งปวง เมื่อมีสติจึงนำาปัญญามาใช้ได้ทันตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สติดี คิดดี พูดดี ทำาดี จึงต้องใช้วิธีการหลายๆแบบในการฝึกสติ

เมื่อมีสติเด็กก็ดูตัวเองเป็น ควบคุมตัวเองได้ การฝึกให้รู ้กาย วาจา ใจ ขณะที่ใช้ จะทำาให้ระมัดระวัง การดูตัวเองได้จะเป็นเด็กที่มีระบบการคิดและแก้ปัญหาอัตโนมัติ ไม่ต้องคอยให้คนอื่นบอกเหมือนกับตุ๊กตาไขลาน บอกถึงจะทำา เป็นที่ระอาของพ่อ แม่ ครู

28

ทำาไมถึงไม่ติดเครื่องปรับอากาศ?-โรงเรียนปลูกฝังการใช้ชีวิตที่ถูกต้องให้กับเด็ก

คือไม่ทำาให้ชีวิตตัวเองและผู้อื ่นเดือดร้อน การที่ฝึกให้นักเรียนอยู่ในห้องปรับอากาศ นอกจากจะสร้างลมร้อนออกมาให้กับผู้อื ่นแล้ว เด็กๆ ก็จะไม่เคยได้รู ้จักสภาพต่างๆที่แวดล้อมตนเองนั้นว่าเป็นอย่างไร สภาพอากาศในแต่ละฤดูเป็นอย่างไรแล้วเราจะต้องปรับตัวหรือดำารงชีวิตอย่างไร เด็กๆที่ฝึกให้อยู่ในสภาพตามความเป็นจริงของธรรมชาติ จะเป็นเด็กที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อความลำาบากต่างๆ อยู่ง่าย เลี้ยงง่าย ทุกข์ยาก รู้จักสังเกต และรู้จักปรับตัว ไม่ให้ตนเองเกิดความทุกข์

29

30

31

32

33

34

35

เกิดขึ้น ตั้งอยู่

ดับไป ไม่ประมาท

มติขณะผัสสะ ไม่ให้เกิดความทุกข์

รีบเร่งทำาความดี

ทำาหน้าที่ให้ถูกต้อง

36