created’by’krupumbio’ cell! ทฤษฎีเซลล …€™by’krupumbio’ ’ fungi!...

9
Created by KrupumBio ไมมีเยื่อหุมเซลล = ไรไซเซน 1. Ribosome พบทั้ง pro และ Eukaryote มีหนวยใหญ + หนวยเล็ก พบทีnucler membrane, RER, Cytosol (ผลิตใชภายในเซลล), mitochondria, chloroplast 2. Cytoskeleton = โครงสรางค้ําจุน microtubule - โปรตีน tubulin intermediate filament = keratin = ผม ขน เขา เล็บ microfilament เสนใย actin, cytoplasm, ชวยแบงเซลล cytokinesis ในสัตว 3. Centriole = 9+2 พบเฉพาะในสัตว เยื่อหุมเซลล 1 ชั้น 1. ER RER สรางโปตีน พบมากที่หลั่งเอ็นไซม SER สรางไขมัน พบมากที่ตับ, กําจัดสารพิษ, กระตุนการทํางานของกลามเนื้อ 2. Golgi body = สงสาร(glycoprotein, glycolipid) โดยวิธี Exocytosisvesicle 3.Lysosome = พบในสัตวเทานั้น ยอยอาหาร. ยอยเชื้อโรค (เม็ดเลือดขาว) ยอยเซลลตัวเอง 4. Vacuole = contractile vacuole รักษาสมดุลของน้ํา พบในเซลล อะมีบา พารามีเซียม food vacuole พบใน เซลลเม็ดเลือดขาวและสิ่งมีชีวิตเซลลเดียว sap vacuole พบในเซลลพืช ตอนอายุนอย ตอนใหญเปน central vacuole มีหนาที่สะสมสาร เชน สารสี ไอออน น้ําตาล สารพิษ (พบเฉพาะในพืช) เยื่อหุมเซลล 2 ชั้น 1. Nucleus 2. Mitochondria สรางสารใหพลังงานสูง คือ ATP โดยแยกเปน 2 สวน คือ - เยื่อหุมดานนอก สรางสารประกอบฟอสโฟลิปด - เยื่อหุมดานใน สังเคราะห ATP ในเมทริกซมีของเหลวเกี่ยวของวัฏจักรเครปส (Krebs cycle) มี DNA, RNA, เอนไซม และไรโบโซม ทําหนาที่สังเคราะหโปรตีนขึ้น 3. Chloroplast คลอโรฟลล (chlorophyll) เม็ดสีเขียว ลิวโคพลาสต (leucoplast) ทําหนาทีเปนแหลงเก็บสะสมโปรตีน หรือเก็บสะสมแปง โครโมพลาส (chromoplast) สารสีตางๆ Cell Schwann and Schleiden ทฤษฎีเซลล สิ่งมีชีวิตทั้งหลายประกอบดวยเซลลและผลิตภัณฑ ของเซลล สวนที่หอหุมเซลล glycocalyx เซลลสัตว Cell wall พืช = เซลลลูโลส ลิกนิน เพคติน ใหความแข็งแรง ซูเบอริน + คิวติน ปองกันน้ําระเหย รา = ไคติน ไดอะตอม = ซิลิกา แบคทีเรีย = peptidoglycan Cell Coat Cell membrane Semipermeable membrane เยื่อเลือกผาน Protoplasm ภาพจาก : http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/hbase/biology/celmem.html Nucleus Cytoplasm Nuclear membrane Nucleoplasm ไมมี Prokayotic cell DNA ไมมี histone Ribosome 70S มี Eukaryotic cell Nucleolus สังเคราะห ribosome Protien + RNA Chromatin fiber Protien+DNA เมื่อแบงเซลลรางแห โครมาตินหดตัวเปน โครโมโซม Cytosol Organelle

Upload: nguyencong

Post on 13-Apr-2018

219 views

Category:

Documents


3 download

TRANSCRIPT

Created  by  KrupumBio                

     

   

   

   

     

             

ไมมีเยื่อหุมเซลล = ไรไซเซน

1. Ribosome พบทั้ง pro และ Eukaryote มีหนวยใหญ + หนวยเล็ก

พบที ่nucler membrane, RER, Cytosol

(ผลิตใชภายในเซลล), mitochondria, chloroplast

2. Cytoskeleton = โครงสรางคํ้าจุน

microtubule - โปรตีน tubulin

intermediate filament = keratin = ผม ขน เขา เล็บ

microfilament เสนใย actin, cytoplasm, ชวยแบงเซลล

cytokinesis ในสัตว

3. Centriole = 9+2 พบเฉพาะในสัตว

เยื่อหุมเซลล 1 ชั้น

1. ER RER สรางโปตีน พบมากที่หลั่งเอ็นไซม

SER สรางไขมัน พบมากที่ตับ, กําจัดสารพิษ,

กระตุนการทํางานของกลามเนื้อ

2. Golgi body = สงสาร(glycoprotein, glycolipid) โดยวิธี Exocytosisvesicle

3.Lysosome = พบในสัตวเทานั้น

ยอยอาหาร. ยอยเชื้อโรค (เม็ดเลือดขาว) ยอยเซลลตัวเอง

4. Vacuole = contractile vacuole รักษาสมดุลของน้ํา พบในเซลล

อะมีบา พารามีเซียม

food vacuole พบใน เซลลเม็ดเลือดขาวและส่ิงมีชีวิตเซลลเดียว

sap vacuole พบในเซลลพืช ตอนอายุนอย ๆ ตอนใหญเปน

central vacuole (มีหนาที่สะสมสาร เชน สารสี ไอออน น้ําตาล

สารพิษ (พบเฉพาะในพืช)

เยื่อหุมเซลล 2 ชั้น

1. Nucleus

2. Mitochondria สรางสารใหพลังงานสูง คือ ATP

โดยแยกเปน 2 สวน คือ

- เยื่อหุมดานนอก สรางสารประกอบฟอสโฟลิปด

- เยื่อหุมดานใน สังเคราะห ATP

ในเมทริกซมีของเหลวเกี่ยวของวัฏจักรเครปส (Krebs cycle)

มี DNA, RNA, เอนไซม และไรโบโซม ทําหนาที่สังเคราะหโปรตีนข้ึน

3. Chloroplast

คลอโรฟลล (chlorophyll) เม็ดสีเขียว

ลิวโคพลาสต (leucoplast) ทําหนาที ่เปนแหลงเก็บสะสมโปรตีน

หรือเก็บสะสมแปง

โครโมพลาส (chromoplast) สารสีตางๆ

Cell   Schwann and Schleiden ทฤษฎีเซลล

“ส่ิงมีชีวิตทั้งหลายประกอบดวยเซลลและผลิตภัณฑ

ของเซลล”

สวนที่หอหุมเซลล

glycocalyx

เซลลสัตว

Cell wall

พืช = เซลลลูโลส ลิกนิน เพคติน

ใหความแข็งแรง

ซูเบอริน + คิวติน

ปองกันน้ําระเหย

รา = ไคติน

ไดอะตอม = ซิลิกา

แบคทีเรีย = peptidoglycan

Cell Coat Cell membrane

Semipermeable membrane

“เยื่อเลือกผาน

Protoplasm

ภาพจาก : http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/hbase/biology/celmem.html

Nucleus Cytoplasm

Nuclear membrane Nucleoplasm

ไมมี

Prokayotic cell

DNA ไมมี histone

Ribosome 70S

มี

Eukaryotic cell

Nucleolus

สังเคราะห

ribosome

Protien + RNA

Chromatin fiber

Protien+DNA

เม่ือแบงเซลลรางแห

โครมาตินหดตัวเปน

โครโมโซม

Cytosol Organelle

2   [CREATED  BY  KRUPUMBIO]              

     

                               

Archaeabacteria Eubacteria ผนังเซลลไมเปน peptidoglycan พวก Euryarchaeota สรางกาซมีเทนและชอบเค็มจัด Crenachaeota ชอบอุณหภูมิสูงจัด และชอบกรดจัด

Gam Positive Gram Negative Stepto(myces แบคทีเรียผลิต steptomycin) Lacto(bacillus ไวทํานมเปรี้ยว โยเกิรต ผักดอง) Myco(plasma เซลลมีขนาดเล็กที่สุด บางชนิดกอให เกิดโรคปอดบวม) Bacillus (บางชนิดสราง endospore กอโรคแอนแทรกซ) Positive = Stepto Lacto Myo Bacillus

Proteobacteria เชน Rhizobium Chlamydias เชน หนองใน โกโนเรีย Spirochetes โรคซิฟลิส ฉี่หนู Cynobacteria สาหรายสีเขียวแกมน้ําเงิน (Nostoc Oscillatoria Anabaena Spirulina Microcystis (ทําใหน้ําเสีย))

   

Monera  ไมมีเยื่อหุมนิวเคลียส

มีคลอโรฟลลแตไมมีคลอโรพลาส

เปนผูยอยสลาย (Decomposer)

สวนที่หอหุมเซลล Protoplasm

Nucleus Cytoplasm

Nuclear membrane plasmid

ไมมี

Prokayotic cell

DNA ไมมี histone

Ribosome 70S

Cytosol Organelle

Created  by  KrupumBio            

ไมมีเยื่อหุมเซลล = ไรไซเซน

1. Ribosome 70S

2. Cytoskeleton = โครงสรางคํ้าจุน

microtubule - โปรตีน tubulin มี Flagellum

ในการเคลื่อนที ่

intermediate filament = keratin = ผม ขน เขา เล็บ

microfilament เสนใย actin, cytoplasm, ชวยแบงเซลล

cytokinesis ในสัตว

ตัวอยางส่ิงมีชีวิต 1. Division Cyanophyta หรือสาหรายสีเขียวแกมน้ําเงิน (Blue green algae) เปนแบคทีเรียที่สามารถสังเคราะหอาหารดวยแสงไดจงึถูกจัดเปนพวก Photoautotrophs(แตรงควัตถุของ Cyanobacteria จะกระจายไปใน cytoplasm ไมไดอยูรวมกันใน Plastid อยาง Chloroplast มีแตคลอโรฟลล เอ แคโรทีน (Carotine) แซนโทฟลล (Xanthophyll) ไฟโคอิริทริน (Phycoerythirin) ซึ่งเปน สารสีแดง ไฟโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งเปนสารสีน้ําเงินจึงทําใหสาหรายชนิดนี้เปนสีเขียวปนน้ําเงิน )  เชน“ไลเคนส (Lichens)”  Cyanobacteria ไมม ีflagella จึงไมสามารถเคลื่อนที่ดวยตนเอง รูปรางอาจเปนเซลลเดี่ยว เซลลกลุม เชน ครูโอคอคคัส (Chroococcus) แอนาซีสทีส (Anacystis) เซลลเปนสายเชน นอสตอก (Nostoc) ออสซิลลาทอเรีย (Oscillatoria) แอนาบีนา (Anabaena) สไปรูไลนา (Spirulina) การสืบพันธุมีเฉพาะการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศเทานั้นไดแก การแบงตัว (Binary fission) การหักหรือขาดเปนสาย (fragmentation ) นอกจากมีบทบาทสําคัญในการเปนผูผลิตใหกับระบบนิเวศ Cyanobacteria ยังมีบทบาทสําคัญในวัฏจักรไนโตรเจนอีกดวย เนื่องจาก Cyanobacteria เชน Nostoc Anabaena และ Osillatoria สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศได การเลี้ยงแหนแดงในนาขาว (Anabaena ที่อยูในแหนแดงจะชวย ตรึงไนโตรเจน) การผลิตโปรตีนจาก Spirulina เพื่อใชเปนอาหารเสริม 2. Division Schizophyta สามารถแบงไดเปน 3 ประเภทใหญ ๆ คือ รูปรางกลม (coccus) รูปรางแบบแทงยาว (bacillus) และรูปรางแบบเกลียว (spirillum) แบคทีเรียบางชนิดมีโครงสรางชวยในการเคลื่อนที่เรียกวา Flagella สารพันธุกรรมที่อยูใน cytoplasm นี้จะติดอยูกับที่โดยยึดกับโครงสรางที่เรียกวา Mesosome (โครงสรางที่เกิดจากการยื่นและพับทบของเยื่อหุมเซลล เมื่อจะมีการแบงเซลล) ลักษณะคลายกับ Cristae ใน Mitochondria - Plasmid หรือ Extrachromosomal DNA ที่ชวยเพิ่มลักษณะพิเศษใหกับแบคทีเรีย เชน การดื้อยา การสรางสารพิษ - การสืบพันธุของแบคทีเรียจะเปนแบบ Transverse binary fission ซึ่งเปนการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศ หรือผานโครงสรางพิเศษที่เรียกวา Sex pilli กระบวนการสืบพันธุแบบอาศัยเพศนี้เรียกวา Conjugation - การสราง Spore ที่เรียกวา Endospore ในภาวะที่ไมเหมาะสมตอการเจริญเติบโต

                     

4   [CREATED  BY  KRUPUMBIO]                  

     

                                           

           

Protista   มีทั้งเซลลเดียวและหลายเซลล (กลุม=colony )

Eukaryote คลายสัตว (Protozoa) คลายพืช (สาหราย)

คลายฟงใจ (ราเมือก)

Protozoa ราเมือก

ตางจากฟงไจ ตรงที่กินแบบ

phagocytosis และเคลื่อนที่ได

สาหราย

1. Diplomanadida เปน Eukaryote ไมมี organelle มี 2 นวิเคลีส มี flagellum หลายอัน เชน Giardia เปนปรสิตในลําไสคน

1. Plasmodial slime mold หลายนิวเคลีส

2. Parabasala เปน Eukaryote ไมมี organelle มี 2 นิวเคลีส มี flagellum หลายอัน เชน Trichonympha อยูในลําไสปลวก Trichomonas ทําใหติดเชื้อที่ชองคลอด

3. Euglenozoa มี flagellum เชน ยูกลีนา มีคลอโรพลาสต, Trypanosoma พาหะโรคเหงาหลับ 4. Alveolata มี alveoli 4.1 Dinoflagellate มี 2 Flagellum ทําใหเกิดปรากฏการณ rea tide หรือขี้ปลาวาฬ 4.2 Apicomplexa เปนปรสิตมoีrganelle ไวแทงโฮส เชน plasmodium กอโรคมาลาเรีย 4.3 Ciliate ใช cilia ในการเคลื่อนที่ เชน Paramecium, Vorticella, Stentor

5. Rhizopoda เคลื่อนที่ดวยเทาเทียม Amoeba, Entomoeba ทําใหเกิดโรคเหงาหลับ

1. Strmenopila สาหรายที่มีเซลลสืบพันธุมี 2 Flagellum 1.1 สาหรายสีน้ําตาล มีสาร align เปนสาหรายที่มีโครงสราง ซับซอนที่สุด เชน Sargassum สาหราทุน มีไอโอดีนสูง Kelp สาหรายขนาดใหญ 1.2 Diatom สาหรายเซลลเดียว มีสารซิลิกา เมื่อตายสะสมเปน แรธาตุและน้ํามัน (diatomaceous earth) 2. Rhodophyta สาหรายสีแดง ไมพบ flagellum มี carrageenan สกัดมาทําวุนได เชน Porphyra (จีฉาย,โนริ) Gracillaria (สาหรายผมนาง) 3. Chlorophyta สาหรายสีเขียว Ch;orella, Spirogyra Chara (สาหรายไฟ ใกลเคียงพืชมากที่สุด)

2. Cellular slime mold เซลลเด่ียวอยูอิสระ มี 1

นิวเคลีส

Created  by  KrupumBio                  

                 

     

                                   

Fungi  

1. ไฟลัมไซโกไมโคตา (Phylum Zygomycota)

4. ไฟลัมดิวเทดโรไมโคตา (Phylum Deuteromycota)

2. ไฟลัมแอสโคไมโคตา (Phylum Ascomycota

เห็ด(mushroom) รา (mold) ยีตส (yeast)

3. ไฟลัมเบสิดิโอไมโคตา (Phylum Basidiomycota)

ไฟลัมนี้มีสมาชิกเพียง class เดียว คือ Chytridiomycetes มีชื่อสามัญเรียก chytrids จัดเปนสมาชิกกลุมเดียวของ อาณาจักรฟงไจที่มีเซลลที่เคลื่อนที่ได (zoospores และ gametes) แตละเซลลจะมี flagellum

ราดํา(rhizopus) ที่ขึ้นอยูกับขนมปง hypha ไมมีผนังกั้น สราง sexual spore เรียกวา zygospore

มีจํานวนมากที่สุด เชน ยีสต(หมักไวน เหลา ขนมปงฟู) โมเรล ทรัฟเฟล ราแดง (ใชทําขาวแดงกับเตาหู) hypha มีผนังกั้น สรางsexual spore ในถุงเรียกวา ascus โดยยีสตจะเปน unicellular และไมมี hypha สืบพันธุ โดยแตกหนอ(ไมเพศ)และmeiosis (เพศ)

เห็ดราตางๆ ราสนิม ราเขมาดํา รา mycorrhiza ที่อยูกับรากสน hypha มีผนังกั้น สราง sexual spore เรียก bisidiospore ในfruiting body ขนาดใหญ

6   [CREATED  BY  KRUPUMBIO]                  

               

                                           

พืช

1. ไมมีเนื้อเยื่อลําเลียง - ระยะ gametophyte เดนกวาและเปนอิสระ - sporophyte ตองอาศัยอยูบน gametophyte ตลอดชีวิต - ไมมีรากที่แทจริง แตมีรากเทียม (rhizoid) - ใบและลําตนไมแทจริง เรียกวา thallus

2. มีเนื้อเยื่อลําเลียง - มี sporophyte เดนกวาและอาจเปนอิสระหรอขึ้นกับ gametophyte ก็ได - มีรากฝอย ยกเวน หวายทะนอย มีรากเทียม - Gymnosperm กับพืชใบเลี้ยงคูเปนรากแกว

มีเนื้อเยื่อและเอมบริโอ

sporangium = อับสรางสปอร ในมอสเรียก capsule sporophyll = ใบที่ทําหนาที่สรางสปอร เพราะม ี เพราะมี sporangium อยู cone = sporophyll ที่อัดกันแนน แข็งและมีขนาดใหญ พบใน gymnosperm strobilus = sporophyll ที่อัดแนน พบใน lycophyte และหญาถอดปลอง sorus = กลุม sporangium ของเฟน gametangium = อับสรางเซลลสืบพันธุ(gamete) ในพืชชั้นต่ํา แบงเปน archaegonium สราง female gamete และ antheridium สราง male gamete

Created  by  KrupumBio                                                                                

พืช

1. ไมมีเนื้อเยื่อลําเลียง

2. มีเนื้อเยื่อลําเลียง

1. Hepatophyta =

2. Anthocerophyta = ฮอรนเวิรด

3. Bryophyta = มอส เชน ขาวตอกฤาษี

ไมมีเมล็ด

มีเมล็ด

1. Lycophyta สรางสปอรใน strobilus มี 3 กลุม คือ A. Lycopodium เชน สนหางสิงห, สรอยสุกรม, สามรอยยอด, ชองนางคลี ่ B. Selaginella เชนตีนตุกแก สราง heterospore C. Isoetes กระเทียมน้ํา สราง heterospore

1. Pterophyta มี 3 กลุม คือ A. Psilotum หวายทะนอย แตกกิ่งทีละ 2 ลําตนเหลี่ยมสีเขียว B. Eqisetum หญาถอดปลอง ลําตนสีเขียวกลวง มีซิกาทําใหซาก ใบเล็กๆเรียงรอบขอ มีลําตนใตดินเรียก rhizome มี strobilus ชัดเจน C. เฟน มี sorus และใบออนมวนเปนรูปลานนาฬิกา Circinate vernation มวนจากปลายใบเขามา สวนใหญสราง homospore ขางหลวงหลังลาย กระแตไตไม ชายผาสีดา ผักกูด กูดเกี๊ยะ ยานลิเภายกเวน พวกเฟรนน้ํา เชน จอกหูหนู แหนแดง ผักแวน

ลานนาฬิกา

8   [CREATED  BY  KRUPUMBIO]    

     

เมล็ดเปลือย พืชเหลานี้ไมมีดอก แตมีเมล็ดแบบ Nake seedเนื่องจาก ovule ไมมีรังไขหอหุม มี Heterospore สราง Strobilus หรือ Cone แบบแยกเพศ Cone เพศผู เรียกวา Staminate cone สวน Cone เพศเมียเรียกวา Pistillate cone การปฏิสนธิจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน Xylem มีเทรคีต ไมมีเวสเซล

เมล็ดมี ovary หอหุม

Cycadophyta Ginkgophyta Coniferophyta Gnetophyta Anthophyta

ปรงตางๆ

แปะกวย

สน

มะเมื่อย

พืชดอก

ไขน้ํา

 ลําตนของพืชใบเลี้ยงคูและใบเลี้ยงเด่ียว                                                                                                                                                                                                                                                ลําตนของพืชใบเลี้ยงคูและใบเลี้ยงเด่ียว

 

                   

มีเมล็ด

Created  by  KrupumBio