Transcript
Page 1: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

1SAFET Y LIFE

กุญแจสูความสําเร็จของงานตอบโตเหตุฉุกเฉินใดๆ กต็าม คือ การประเมินสถานการณ(Size-up) หากนกัดับเพลิงเขาใจสภาพแวดลอมเขาใจตัวอาคาร เขาใจสวนประกอบของตัวอาคารเขาใจเงื่อนไขหรือสภาพการณของเพลิงไหมพวกเขาจะสามารถเลือกยุทธวิธีท่ีเหมาะสมไดในเหตุฉุกเฉินสารเคมี (Hazmat Incidents) การทําความเขาใจธรรมชาติของสารเคมีก็เหมือนกับการทําความเขาใจพฤติกรรมของเพลิงไหมสาํหรับเหตุฉุกเฉินสารเคมี คุณตองเขาใจสภาพแวดลอม เขาใจท่ีบรรจุ และเขาใจสารเคมีหรือวัตถุท่ีอันตรายท่ีเกี่ยวของกับเหตุการณนั้น

ในการระงับเหตุฉุกเฉินสารเคมี โดยท่ัวไปแลว เปนเร่ืองเปนไปไมไดท่ีเราจะมองเห็นปญหา เทียบไดกบัการไมสามารถมองผานควันและเปลวไฟในเหตุเพลิงไหม ชางเทคนิคหรือผูเชี่ยวชาญดานสารเคมีจึงใชการอางอิงขอมูลเปรียบเทียบกับสิ่งท่ีสารเคมีแสดงออกมาโดยการสังเกตพฤติกรรมหรือปฏิกิริยาของสารเคมี

ท่ีมองเห็นไดแลวเอาไปเทียบกับขอมูลอางอิงท่ีเชื่อถือไดเพื่อระบุชนิดและอันตรายของสารเคมีท่ีเกิดเหตุนั้น ปญหาก็คือเราจะไดขอมูลท่ีตองการอยางงายดายและอยางถูกตองเพื่อนําไปใชในการกําหนดยุทธวิธีหรือไม

ตวัอยาง คุณไดรับการแจงเหตุมีสารเคมีร่ัวไหลในหองปฏิบติัการของมหาวิทยาลัยในพืน้ท่ีรับผิดชอบซึ่งมีการอพยพไปแลว จากรายงานระบมีุการใชงานสารเคมีประมาณ 1 ไพน (473ซี.ซี.) หรือเกอืบคร่ึงลิตร ซึง่มีขอมูลทางเทคนิคของสารชนดินีคื้อ

จุดเดือด [Boiling Point (BP)] = 78 Fํ จุดเยือกแข็ง [Freezing Point (FP)] =

7 ํF ความดันไอ [Vapor Pressure (VP)] =

630 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ความถวงจําเพาะมาตรฐาน [Specific

Gravity (Sp. Gr.) standard] = 0.69 ความสามารถในการละลาย [Solubility

(Sol)] = 40% [หมายถงึการละลายในน้าํ ยกเวนมีการระบุเปนอยางอ่ืน (solubility in water isimplied unless indicated otherwise)]

อัตราสวนผสมตํ่าสุดท่ีทําใหเกิดการระเบิด [Lower Explosive Limit (LEL)] = 5.6%

อัตราสวนผสมสูงสุดท่ีทําใหเกิดการระเบดิ [Upper Explosive Limit (UEL)] = 40.0%

พลังงานท่ีใชในการดึงใหอิเล็กตรอนวงนอกหลุดออกจากอะตอมหรือโมเลกุลท่ีอยูในสถานะแกส [Ionization Potential (IP)] =13.6 อิเลกตรอนโวลต (eV)

H A Z M A T

w w w . s a f e t y l i f e t h a i l a n d . c o m

Page 2: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

2SAFET Y LIFE

คาจํากัดท่ีอนุญาตใหสัมผัสได (คาความเขมขนสารเคมีเฉล่ีย 8 ชั่วโมงตอ 1 วัน)[Permissible Exposure Limits (PEL) (Time-Weighted-Average (TWA)] = 10 สวนตอลานสวน [parts per million (ppm)]

อัตราสวนผสมท่ีเปนอันตรายตอชีวิตหรือสุขภาพมนุษยอยางฉับพลัน [ImmediatelyDangerous to Life or Health (IDLH)] = 50 สวนตอลานสวน (ppm)

คาอัตราสวนผสมท่ีทําใหหนูทดลองตายไปคร่ึงหนึ่งของจํานวนท่ีใชทดลองภายในเวลา 40 นาที [LC50 (40 min, rat) = 63 ppmทางผิวหนัง (skin)

คาความเปนพิษเม่ือสัมผัสโดยตรง(ผวิหนงั) ทําใหกระตายเสยีชวิีตไปคร่ึงหนึง่ของจาํนวนท่ีใชทดลอง [LD50 (dermal, rabbit)] =6.9 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (mg/kg)

คาความเปนพิษเม่ือสัมผัสโดยตรง(ตา) ทําใหกระตายเสียชีวิตไปคร่ึงหนึ่งของจาํนวนท่ีใชทดลอง [LD50 (eye, rabbit)] = 1.1มิลลิกรัม/กิโลกรัม (mg/kg)

การจัดการขอมูล (Organizing Information)คุณจะใชขอมูลท่ีไดมาเพื่อตัดสินใจได

อยางไร คุณจะพิจารณาเลือกการตรวจจับดวยวิธใีด คุณจะเลือกอุปกรณปองกนัสวนบคุคล (PPE)ชนดิไหนจงึจะเหมาะสมกบัสถานการณท่ีเกดิข้ึนคุณจะแปลความหมายของตัวเลขตางๆ เหลานี้ไปเปนการกระทําไดอยางไร

วธิทีีดี่ในการทาํความเขาใจปญหาทีซ่บัซอนคือ แยกปญหาใหญเปนปญหายอยแลวพจิารณาอยางเปนระบบวาปญหายอยเหลานั้นมีความสัมพันธกันอยางไร หนทางหนึ่งในการจัดการขอมูลเหตุฉุกเฉินสารเคมีคือ การหาแนวทางใหผูปฏิบัติงานสามารถแปลขอมูลท่ีไดมาเพื่อ

ทํานายพฤติกรรมของสารเคมีท่ีมีสวนรวมในการเกดิเหตุ

ความเปนไปไดและผลกระทบของการสมัผสัสารเคมี

สิ่งสําคัญสองประการในการตอบโตเหตุฉุกเฉินสารเคมีคือความเปนไปไดในการสัมผัสสารเคมีและผลกระทบจากการสมัผสัสารเคมีซึง่เกดิข้ึนไดท้ังจากตัวของสารเคมีเองและพลังงานท่ีปลดปลอยออกมาจากสารเคมี ความเปนไปไดในการสัมผัสสารเคมีเปนผลมาจากคุณสมบัติของสารเคมีรวมกบัการปฏิสมัพนัธกบัสิง่แวดลอมของตัวมันเอง

สารเคมีท่ีเผชญิหนามักอยูภายใตเงือ่นไขท่ีนอกเหนอืจากท่ีเขียนไวในตําราดังนัน้เราตองพจิารณาเงือ่นไขของเหตุฉุกเฉิน และประเด็นอ่ืนคือผลกระทบจากการสัมผัสสารเคมี

สารเคมีท่ีเกิดเหตุฉุกเฉินอาจมีกลไกท่ีสรางอันตรายไดหลายรูปแบบ การปลดปลอยพลังงาน การกดักรอน และ/หรือ การเปนพษิซึง่สิ่งตางๆ เหลานี้จะอยูแยกกันไป โดยเราตองคนหาจดุกาํเนดิหรือหลงท่ีมีอันตรายตางๆ เหลานี้พรอมกับหากลยุทธเพื่อใหสามารถคนหาจุดท่ีปลอดภัยท่ีสุดได

พิจารณาการปลดปลอยแกสไฮโดรเจนคลอไรดซึง่เปนกรดเขมขนท่ีมีคุณสมบติัดังตอไปนี้

จุดเดือด (BP) = -121 ํF ความดันไอ (VP) = 40.5 atmos-

pheres, unit of pressure (atm) ความหนาแน นสั มพั นธ ของแก ส

[Relative Gas Density (R Gas D)] = 1.27 ความสามารถในการละลายน้าํ (Sol)

= 67%เนือ่งจากสารเคมีเปนแกสจงึมีความเปน

ไปไดท่ีจะเกดิการสมัผสัขณะเขาไปในท่ีเกดิเหตุหากไมมีการปองกัน และเนื่องจากเปนกรดเขมขน ผลกระทบจากการสัมผัสจึงคอนขางเลวราย สิง่ท่ีผูปฏิบัติงานตอบโตเหตุตองคิดคือหาวิธีบรรเทาผลกระทบ วิธีหนึ่งคือ ใชอุปกรณปองกันสวนบุคคล (PPE) ท่ีเหมาะสมเพื่อเปนการหลีกเล่ียงการสมัผสัสารเคมีโดยตรง กรณนีี้ใหใชชุดปองกันแบบคลุมท้ังตัวหรือชุดแคปซูลเม่ือมีความเปนไปไดสูงท่ีจะเกิดการสัมผัส อีกวิธหีนึง่สาํหรับใชหลีกเล่ียงการสมัผสัไดแก การตรวจจบั หากกระดาษวัดความเปนกรดดาง (pH)เร่ิมกลายเปนสีแดง คุณตองรูวาท่ีนั่นมีกรด จะตองยายท่ีเพือ่หลีกเล่ียงการสัมผัส วิธอ่ืีนๆ เชนการจัดการสารเคมี คุณสามารถใชคุณสมบัติการละลายน้าํของสารเคมีใหเปนประโยชนโดยการใชฝอยน้ําละเอียดดูดซับ อีกทางเลือกหนึ่งคือการระบายอากาศ การกระทําตางๆ ดังกลาวสามารถลดความเปนไปไดท่ีจะเกิดการสัมผัสสารเคมีได

ในอีกทางหนึ่ง เราสามารถทําใหกรดเปนกลางไดโดยเอาไปสัมผัสกับดาง เม่ือกรดถกูทําใหเปนกลางแลว ผลกระทบจากการสมัผสัก็จะถูกทําใหหมดไป ใหขอสังเกตไวดวยวาปฏิกริิยาท่ีทําใหเปนกลางจะมีความรอนเกดิข้ึนหากเลือกทําวิธนีี ้ตองใชฝอยน้าํละเอียดฉีดไปท่ีหมอกควันของกรด ซึง่สารเคมีจะละลายน้าํและ

Page 3: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

3SAFET Y LIFE

ลดความเปนไปไดและผลกระทบจากการสมัผสัเร่ืองสําคัญท่ีควรจําคือ คา pH เปนตัวเลขท่ีมีความผกผันมาก บางกรณีคุณตองละลายสารเคมีถึง 10 เทาถึงจะไดคา pH ลดลง 1 หนวยซึ่งผลลัพธท่ีไดจะเกิดข้ึนชามาก ยิ่งไปกวานั้นเม่ือกรดหรือดางเขมขนละลายน้ําจะใหความรอนสูงจนสามารถทําใหน้ําเดือดไดและทําใหกรดหรือดางกระฉอก

ความเปนไปไดในการสัมผสัสัมพันธกับวิธท่ีีสารเคมีเคล่ือนท่ี ยกตัวอยาง แกสขยายตัวและถกูปลอยออกมาจะเคล่ือนท่ีไดงาย ดังนัน้จงึความเปนไปไดสูงท่ีจะเกิดการสัมผัส สําหรับของแข็งและของเหลวซึ่งมีอนุภาคหรือเม็ดสารจะไมเคล่ือนท่ีเร็วไดเหมือนแกส แตหากอยูในสิง่แวดลอมท่ีเหมาะสมและมีพลังงานเพิม่เขาไปของแข็งหรือของเหลวสามารถจะเปล่ียนเปนสารแขวนลอยในอากาศ (Aerosol) และมีลักษณะเหมือนแกส ยกตัวอยากรณีนี้คือ การระเบิดท่ีเกดิในถงับรรจกุรดซัลฟูริก

กรดซลัฟริูกมีความดันไอ [Vapor Pressure(VP)] = 0.001 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ซึ่งหมายความวา มันไมสามารถเคล่ือนท่ีไดในสภาวะปกติ จงึเปนเหตุผลวาทําไมคนจงึเทกรดซลัฟริูกเติมแบตเตอรีโดยสวมอุปกรณปองกนัตาและถุงมือ ในกรณีของการระเบิด พลังงานจากการระเบดิจะเปล่ียนกรดซลัฟริูกเปนฝอยละเอียดหรือแอโรซอลทําใหสามารถเคล่ือนท่ีไดงายและสูดหายใจเขาไดงายดวยเชนกัน จะตองมีการปองกนัในระดับท่ีแตกตางไปจากปกติเม่ือเขาไปในพื้นท่ีเกิดเหตุการณเชนนี้ข้ึน

ขอควรจํา การพิจารณาความเปนไปไดในการสมัผสัไมใชเร่ืองงายเหมือนกบัการวัดคาความดันไอ (VP) คาความดันไอเปนสิ่งหนึ่งท่ีตองเอามารวมกับสิ่ งอ่ืนๆ ในการพิจารณา

ความเปนไปไดในการสัมผัสสารเคมี การทําความเขาใจกบัตัวเลข สิง่แวดลอมของการสมัผสัประสบการณการสัมผัสในกรณีใกลเคียงกันและการตัดสนิใจท่ีดี เปนสวนสําคัญท้ังหมดใน

เคมี พลังงานท่ีปลอยออกมามีลักษณะเหมือนอะไร และพลังงานจะไปไหนเม่ือถกูปลอยออกมา ลวนเปนเร่ืองยากจะคาดการณ การฝกฝนและประสบการณเปนกุญแจสําคัญท่ีจะนําไปสูการประเมินท่ีถูกตอง เชน ลูกไฟท่ีเกิดจากการระเบดิจากการขยายตัวของไอจากของเหลวเดือด(BLEVE; Boiling-Liquid, Expanding-VaporExplosion) ในถงับรรจแุกสโพรเพนท่ีบรรทุกบนรถไฟจะมีรัศมีเทาใด ตองศึกษาจากเหตุการณท่ีเคยเกิดข้ึนมาเพื่อใหไดขอมูลท่ีเปนประโยชน

สารเคมีท่ีปลอยพลังงานออกมา รวมถึงวัตถุระเบิด แกสไวไฟ ของเหลวติดไฟได และของเหลวไวไฟ ของแข็งไวไฟ สารลุกไหมไดดวยตัวเอง สารออกซิไดเซอร (สารใหออกซิเจน)สารกมัมันตภาพรังส ีและสารท่ีใหปฏิกริิยาเคมีคายความรอน เปนสารท่ัวไปท่ีใหปฏิกิริยาการเผาไหมและปฏิกิริยาการเกิดโพลีเมอร ยุทธวิธีใชในการปองกนัและตรวจจบัตองระบคุวามเปนไปไดของการเผชิญหนากับพลังงานนอกเหนือจากตัวสารเคมีไวดวยเม่ือเขาทําการตอบโตเหตุจากสารประกอบเหลานี้

เมือ่พิจารณาวาสารเคมทีีป่ลอยพลงังานออก

การคาดการณความเปนไปไดในการสมัผสัสารเคมีท่ีเกดิเหตุฉุกเฉิน

ตารางท่ี 1 (Table 1) คือคาความดันไอ(VP) ของสารเคมีท่ีมีใชงานท่ัวไป สําหรับใชเปรียบเทียบพฤติกรรมของสารเคมีทไมรูจักซึ่งมีคาความดันไอใกลเคียงกันสารเคมีเหลานี้

สารเคมีท่ีปลอยพลังงานออกมา เราจงึมีโอกาสสมัผสัพลังงานนัน้ดวยนอกเหนอืจากตัวสาร

มาแตกตางจากอันตรายของสารเคมีอ่ืนอยางไรใหพจิารณาควันไฟและปรากฏการณ Backdraftควันไฟเปนท้ังเชือ้เพลิงและแหลงรวมของสารพษิควันจะเปนพษิเม่ือคุณสมัผสั สารพษิในควันไฟจะเขาสูรางกาย โดยปกติจะเปนทางการหายใจหรือการดูดซึมทางผิวหนัง คุณตองหายใจหรือสมัผัสควันจึงจะไดรับอันตรายดังกลาว

อยางไรก็ตาม ภายใตเงื่อนไขท่ีผิดปกติ

Page 4: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

4SAFET Y LIFE

ของควันไฟ ออกซิเจน และความรอน จะมีแนวโนมการเกิดปรากฏการณ Backdraft ซึ่งเปนปญหาท่ีแตกตางออกไป ในกรณีนี้แมนักดับเพลิงจะยืนอยูดานนอกของตัวอาคาร ไมมีควัน แตพลังงานท่ีปลอยออกมาจากการระเบดิสามารถจะมาถึงตัวและทําใหเขาบาดเจ็บไดพลังงานเดินทางหางจากจุดกําเนิด ดังนั้นจึงเปนเร่ืองสําคัญท่ีจะตองหลีกเล่ียงการเขาไปในขอบเขตท่ีเปนอันตรายจากสารเคมี มิใชเพยีงแคตัวสารเคมีเทานั้น

จากประวัติการเสียชีวิตจากการทํางานตอบโตเหตุฉุกเฉินสารเคมีพบวา มีเปอรเซน็ตสงูมากท่ีเกดิจากสาเหตุท่ีเกีย่วของกบัสารเคมีปลอยพลังงานออกมา การตระหนักถึงอันตรายและ

สารเคมีในอัตราสงูจะมีความเสีย่งการกดักรอนมากกวา แมจะมีขอยกเวนบางอยาง ยกตัวอยางกริิยาของกรดซลัฟริูกตอโลหะซึง่อัตราสวนผสมปานกลางอาจจะเลวรายกวาอัตราสวนผสมสูง

บรรยากาศท่ีเปนอันตรายเกดิไดท้ังจากการมีอยูของสารพษิหรือการขาดออกซเิจน สารพิษทําใหเกิดอันตราย ความเปนพิษข้ึนอยูกับปริมาณของสารท่ีจะทําใหเกดิอันตราย สิ่งอ่ืนๆท่ีตองพจิารณารวมกบัความเปนพษิของสารเคมีไดแก ชองทางสมัผสั ปริมาณสารท่ีเขาสูรางกายระยะเวลาท่ีมีการสัมผัส ความไวตอการสัมผัสของแตละบคุคล และการทําปฏิกริิยากบัสารอ่ืนสารบางชนดิเปนพษิในปริมาณนอยซึง่จาํเปนตองหลีกเล่ียงการสัมผัสในระดับอัตราสวนตอลานสวน (ppm) มีเอกสารอางอิงหลายแหลงท่ีมีรายละเอียดความเปนพษิของสารเคมีชนดิตางๆวิธีหนึ่งในการคาดการณความเปนพิษของสารเคมีชนิดใดชนิดหนึ่ง ไดแก การเปรียบเทียบแนวโนมการสัมผัสระหวางการระงับเหตุกับระดับการสัมผัสในการทํางานตามท่ีระบุไวใน

เอกสารอางอิงฉบับกระเปาของสถาบันสุขภาพและความปลอดภัยในการทํางานแหงชาติสหรัฐฯ(NIOSH) หรือเอกสารอางอิงลักษณะใกลเคียง จดัพิมพโดยสถาบันสุขอนามัยอุตสาหกรรมตางๆองคกรหลายแหงกําหนดคาจํากัดการสัมผัส(ตาราง 2 : Table 2) ซึง่นาํไปจดักลุมคาจาํกดัการสมัผสัในการทํางานได เชน คาจาํกดัการอนญุาตใหสัมผัส (PEL; Permissible Exposure Limit)เปนคาปลอดภัย คาเพดานการสมัผสั (Ceiling)คาจํากดัการสมัผสัระยะสัน้ (STEL short-termexposure limits) เปนคาไมปลอดภัย และคา

อยู ใหหางจากจดุท่ีพลังงานจากแหลงกาํเนดิจะเดินทางผานเปนหัวใจสาํคัญของความปลอดภัยในการทํางานกับสารเคมีท่ีมีคุณสมบัติปลอยพลังงานออกมาได

สารเคมีกัดกรอน รวมถึงกรด ดาง และสารออกซไิดเซอรบางชนดิ เปนสาร classes 2,5, 8 และ 4 บางชนดิท่ีเกดิกรดและดางระหวางทําปฏิกริิยากบัอากาศหรือน้าํตามขอกาํหนดของกระทรวงขนสงสหรัฐฯ (DOT) โดยท่ัวไปสารกดักรอนจะทําลายผวิหนงัและเนือ้เยือ่ของมนษุยรวมท้ังกัดกรอนโลหะ เชน อุปกรณชวยหายใจSCBA

พจิารณาท้ังความรุนแรงในการกดักรอนตามธรรมชาติและอัตราสวนผสมของสารเคมียกตัวอยาง สารละลายกรดปานกลางจะเกดิข้ึนจากการละลายกรดเขมขน (เชน กรดซัลฟูริกกรดไฮโดรคลอริก กรดไนตริก และอ่ืนๆ) หรือกรดท่ีออนกวา เชน กรดอะซิติก

ผลกระทบจากสารกดักรอนแตกตางกนัไปตามอัตราสวนผสม โดยท่ัวไปอัตราสวนผสมของ

Page 5: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

5SAFET Y LIFE

ความเขมขนสูงสุดท่ีหากตองสมัผสั ณ ท่ีจดุเกดิเหตุเปนเวลา 30 นาที เม่ือหลบหนีออกมาจะยังไมมีผลกระทบเร้ือรังเกิดข้ึนกับรางกาย(IDLH; Immediately Dangerous to Life orHealth) เปนคาอันตราย ขอมูลอ่ืนสามารถใชในการเปรียบเทียบปริมาณท่ีเปนอันตรายหรืออัตราสวนผสมอันตราย (ตารางท่ี 3 : Table 3)ซึง่จะมีอยูในแผนขอมูลความปลอดภัย (SafetyData Sheets) ของบางสถาบัน

ถึงแมวาคุณไมไดเขาไปในบรรยากาศท่ีเปนอันตราย แตการสมัผสักบัสารอันตรายอาจเกิดข้ึนไดั หากการปองกันลมเหลว คุณควรใชขอมูลเพื่อเปรียบเทียบสารเคมีท่ีไมคุนเคยกับสารเคมีท่ีคุณรูจักดีเพื่อคาดการณพฤติกรรมวัตถุอันตรายท่ีกําลังเชิญหนาอยู

ขณะปฏิบั ติงานกับสารเคมีอันตรายยทุธวิธท่ัีวไปท่ีใชหลีกเล่ียงการสมัผสั ไดแก การตรวจจับ การปองกัน และการจัดการสารเคมีการปองกนัรวมถงึการปองกนัผวิหนงัและระบบหายใจ โดยใชชุดปองกันสารเคมี ชุดดับเพลิงและอุปกรณชวยหายใจ SCBA สวนการตรวจจบัจะใชอุปกรณเล็กทรอนิกสหรือเทียบเทาท่ีมีคุณสมบิติในการเตือน

“คณุสามารถมองเห็นสารเคมมีอียูในปริมาณมากพอที่จะทํารายคุณไดไหม” ถาคําตอบคือไม คุณตองหาวิธจีดัการสารเคมี การจดัการสารเคมี รวมถงึการเคล่ือนยายหรือบรรจุสารเคมี นอกจากนีย้ังมีการระบายอากาศ การทําเข่ือนหรือกาํแพงกัน้และการเบีย่งเบนทิศทาง

สันดาปอยางรุนแรงและรวดเร็ว เพลิงไหมในหองจะระเบิดออกมาเปนลูกไฟใหญพรอมกับแรงดันสงูท่ีมาก)

เคร่ื องตรวจวัดชนิดกอประจุ ไอออน(PIDs; Photoionization Detectors) มีประโยชนในการใชตรวจวัดสารปลอยหลังงานบางชนิดเคร่ืองมีความวองไวพอท่ีจะเตือนลวงหนาใหรูวามีสารเคมีอยู โดยมีการตรวจวัดละเอียดถงึระดับ

การจัดการสารเคมีอาจเปนการปฏิบัติงานเชิงปองกัน เจาหนาท่ีเทคนิคสารเคมีตองมีความเขาใจและใชแผนการปองกันสารเคมีท่ีเกิดเหตุตองมีการใชอุปกรณตรวจจับตามชนิดของสารเคมีท่ีตองสงสยั สาํหรับสารเคมีท่ีปลอยพลังงานกลองสรางภาพดวยความรอน (TIC; ThermalImaging Camera) จะมีประโยชนมากในการคนหาความรอนท่ีสารเคมีสรางข้ึนมา อุปกรณ

ตรวจวัดแกส เชน อุปกรณตรวจวัดแกส 4 ชนิดพรอมเซนเซอรหาคาข้ันตํ่าในทําใหติดไฟหรือระเบิดได (LEL) เปนเคร่ืองมือหลักในการหาอัตราสวนผสมของสารเคมีท่ีทําใหเกิดไฟไหมหรือการระเบิด

สิ่งสําคัญท่ีควรตระหนักไวก็คือ เม่ือผูใชอุปกรณตรวจวัดกาํลังอานคาอัตราสวนผสม เขาก็อาจจะอยูในบรรยากาศท่ีสารเคมีกําลังปลอยพลังงานออกมาซึง่อาจมาถงึตัวของผูตรวจวัดไดเหมือนกบันกัดับเพลิงยนือยูดานนอกตัวอาคารท่ีเกดิปรากฏการณ Backdraft (เชือ้เพลิงภายในหองหรือภายในตัวอาคารเกดิการคุ โดยมีสภาพรอนจัดพรอมจะลุกเปนไฟ ขาดเพียงออกซิเจนท่ีจะมาทําใหเกดิสนัดาปเทานัน้ เม่ือนกัดับเพลิงเปดประตู หนาตาง หรือเจาะชองเปดเขาไปออกซิเจนจะพุงไปยังเชื้อเพลิงทําใหเกิดการ

Page 6: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

6SAFET Y LIFE

สวนตอลานสวน (ppm) ไมใชอัตราเปอรเซ็นตในบรรยากาศ

สําหรับสารปลอยพลังงานบางชนิด เชนสารไฮโดรคารบอนขนาดเล็ก (มีเธน โพรเพน)สารเมธานอล อะซโีตไนไตรล และไฮโดรเจน ไมสามารถตรวจวัดดวยอุปกรณ PID ท่ีใชหลอดไฟมาตรฐานขนาด 10.6 eV สวนสารกัดกรอนกระดาษวัดคาความเปนกรดดาง (pH Paper)และเคร่ืองตรวจวัดชนดิพเิศษเปนเคร่ืองมือท่ีใชตรวจจับ กระดาษ pH ควรใชบอยๆ เพื่อใหสามารถตรวจจับสารกัดกรอนไดกอนท่ีมันจะทําความเสียหายใหกับอุปกรณตรวจจับอ่ืนๆ

มีอุปกรณตรวจจับมากมายสําหรับใชตรวจจบัสารพษิ แตตัวอุปกรณไมสามารถตัดสนิความเปนพิษของสารประกอบท่ีใหมา แตมันตรวจจับอนุภาคระดับสวนตอลานสวน (ppm)ท่ีมีความเปนพิษ อุปกรณตรวจวัด PID เปนเคร่ืองมือหลักสาํหรับการนี ้แตอุปกรณตรวจวัดชนิดพิเศษและหลอดแกววัดสีก็สามารถใชไดเชนกนั เปนเร่ืองสาํคัญท่ีตองรู อุปกรณสามารถเห็นและไมสามารถเห็นอะไร สําหรับอุปกรณท่ีไดมาซึง่จะมีความไวสาํหรับสารเคมีชนดิตางกนัในการตรวจจบั บางคร้ังตองใชเคร่ืองมือรวมกนัหลายชนดิเพือ่ตรวจจบัอันตรายหลายชนดิท่ีมีอยู

อุปกรณปองกันสวนบุคคล (PPE) เปนปราการดานสดุทายท่ีใชปองกนัขณะปฏิบติังานกับสารเคมีอันตราย ยิ่งไปกวานั้นชางเทคนิคตอบโตเหตุฉุกเฉินสารเคมีตองใชเม่ือเขาไปในพื้นท่ีร่ัวไหลเพื่อทํางานสําคัญ เชน อุดรูร่ัว ปดวาลว ฯลฯ ในการสํารวจเบื้องตน ใหผูเขาไปทําการตรวจสอบสภาพบรรยากาศสวมใส SCBAจากนั้นสามารถหนากากกรองอากาศ (APRs;Air-purifying Respirators) ได สาํหรับการร่ัวไหลเล็กนอย อาจจะเร็วกวาถาใช SCBA แทนการใชหนากากกรองอากาศท่ีตองเลือกไสกรองท่ีเหมาะสม แตหากเปนการทํางานระยะเวลานาน การใชหนากากกรองอากาศ (APR) มีขอดีคือทีมท่ีเขาไประงับเหตุจะเม่ือยลานอยกวา

การปองกันผิวหนงัข้ึนอยูกบัสารเคมี แตก็แบงยอยออกไปตามชนิดของอันตราย หากอันตรายเกีย่วของกบัการปลอยพลังงาน เสนใยท่ีเรียกวา Nomex ใหประสิทธิภาพปองกันสูงรวมไปถึงชุดปองกันหรือชุดตานทานสารเคมีออกแบบพิเศษ หากสารเคมีเปนสารกัดกรอนหรือเปนสารพษิ ชดุท่ีเคลือบผวิดานนอกใหการปองกนัท่ีดี

เสนใยท่ีมีคุณสมบติัปองกนัเหลานีมี้การนาํไปตัดเยบ็เปนชดุหลายรูปแบบ ชดุคลุมท้ังตัวหรือชดุแคปซลูเปนชดุปองกนัระดับ A (Level A)ใชสวมใสปองกนัสารเคมีท่ีมีแนวโนมการสมัผสัสูง ชุดหมีหรือชุดลักษณะอ่ืนใชในสถานการณท่ีมีแนวโนมการสัมผัสตํ่ากวา

ผูผลิตชดุปองกนัสวนบคุคลสามารถใหคําแนะนําชุดท่ีเหมาะสมในแตละสถานการณไดและยงัมีแหลงขอมูลของสถาบันตางๆ เผยแพร ในอินเตอรเนตท่ีเราสามารถนาํมาใชประโยชนไดแตจงจาํไววา แนวโนมในการสมัผสัสารเคมีอาจแตกตางไปจากท่ีเขียนไวในตํารา พฤติกรรมของสารเคมีข้ึนอยูสภาพแวดลอมในท่ีเกดิเหตุซึง่ตองนําประเด็นนี้ไปรวมพิจารณาเม่ือมีการปรึกษากับผูผลิตในเลือกชุดปองกันดวย ท้ังนี้ อุปกรณSCBA อาจไดรับความเสยีหายเม่ือสมัผสักบัสารกดักรอน ดังนัน้จงึตองมีการปองกนัอุปกรณดวยชุดปองกันสารเคมี ตัวอยาง เม่ือสัมผัสกับสารคลอรีนเพียงคร้ังเดียวก็สามารถทําใหอุปกรณSCBA เกดิความเสียจนสังเกตเห็นได

จดุหนึง่ท่ีมักถกูมองขามไปในการปองกนัผิวหนัง นั่นคือ ถุงมือ เม่ือมีการหกลนของสารเคมีจาํเปนตองใชถงุมือปฏิบติังาน และเปนเร่ืองสาํคัญท่ีตองใชตารางการเลือกใชงานถงุมือเพือ่ใหถูกตองกับสารเคมี และบางทีก็อาจจําเปนตองปกปองถุงมือตานทานสารเคมีจากความรอนหรือความเสียหายภายนอก

โดยรวมแล ว ทางเลือกของอุปกรณปองกนัสวนบคุคลตองแบงตามชนดิของอันตรายท่ีมีอยู (โครงสรางวัสดุท่ีใชทําอุปกรณปองกัน)และความเปนไปไดในการสัมผัส (รูปแบบของชุด : ชุดแคปซูลและอ่ืนๆ)

ยอนกลับไปท่ีปญหาการหกของสาร

เคมีในหองแล็บ เราจะเขาไปสํารวจไดอยางไรข้ันแรกใหพจิารณาสารเคมีจะมีกริิยาอะไรภายใตสภาวะปกติ หากมันกลายเปนแกสท่ีอุณหภูมิหอง แสดงวามีความเปนไปไดสูงท่ีจะเกิดการสัมผัส โดยมีอันตรายหลักสองประการคือ เปนสารพษิและยานการติดไฟคอนขางกวาง (ติดไฟงาย) และจากการประเมินพบวาเปนสารท่ีมีแนวโนมจะเกิดการสัมผัสสูง คําถามคือ เราจะบรรเทาปญหานี้ไดอยางไร

อันดับแรก พิจารณาอันตรายจากการเปนพิษ คุณสามารถหลีกเล่ียงการสัมผัสสารปริมาณมากจากการปฏิบัติภารกิจนี้ไดหรือไมหากมีเคร่ืองตรวจวัด คุณจะรูปริมาณของสารและอยูหางมันไว ในกรณีนี้เคร่ืองตรวจวัด PIDใชไมไดผล สารเคมีชนิดนี้ตองใชเซนเซอรเคมีไฟฟาและการวัดคาสี ดังนั้นจึงควรใชเคร่ืองมือท่ีถูกตองเพื่อใหรูคาปริมาณสารอยางแมนยําจึงจะลดแนวโนมการสัมผัสได พรอมกันนี้ใหพจิารณาถงึการปองกนัสารเคมีท่ีสามารถดูดซบัเขาทางผวิหนงั หากเปนปฏิบติังานสํารวจพืน้ท่ีจะไมมีแนวโนมสัมผัสของเหลว สารประเภทนี้เปนพิษตอระบบหายใจจึงตองใชอุปกรณชวยหายใจ SCBA ท้ังการตรวจจับและการปองกันในการปฏิบัติงานจะทําใหแนวโนมการสัมผัสสารพษิลดลง

สําหรับอันตรายจากความไวไฟ แมวาเปนเร่ืองงายในการหลีกเล่ียงการสมัผสัอันตรายลักษณะนี้ แตหากมีการลุกไหมจนกลายเปนลูกไฟก็ยากจะหลบหนี

วิธีลดอันตรายจากเพลิงไหมรวมถึงการกําจัดหรือควบคุมสิ่งท่ีมีแนวโนมจะเปนแหลงความรอน และการระบายอากาศ สารเคมีท่ีมีอันตรายดานอัคคีภัยอาจไมสามารถควบคุมการ

Page 7: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

7SAFET Y LIFE

สัมผัสไดเหมือนกับสารพิษ และเนื่องจากเปนสวนผสมในบรรยากาศท่ีไมตองสัมผัสก็เกิดอันตรายได ดังนั้นชุดปองกันความรอนและเปลวไฟรวมกับ SCBA จึงเปนทางเลือกท่ีดีสําหรับการปฏิบัติภารกิจท่ีมีความเสี่ยง

โดยสรุปแลว การพจิารณาความเปนไปได ในการสัมผัสและผลกระทบจากการสัมผัสสารเคมีอยางเปนระบบคือการนําปญหาท่ีซับซอนมาแยกออกเปนสวนเล็กๆ เพือ่ความงายในการจัดการ ในการวางแผนงานการปองกันและตรวจจับข้ันพื้นฐาน ใหจัดประเภทของสารเคมีตามสมบัติตางๆ เชน การปลอยพลังงาน การกัดกรอน ความเปนพิษ และใหพิจารณาการเคล่ือนท่ีของสารเคมีประกอบดวย

10 หัวขอพจิารณาสาํหรบัหนวยตอบโตเหตฉุกุเฉนิสารเคมี

หนวยตอบโตเหตุฉุกเฉินสารเคมีหนวยแรกท่ีเขาถึงท่ีเกิดเหตุไดเรียนรูขอมูลพื้นฐานมากมายจากการฝกฝน รวมถึงวิธีการตอบโตเหตุฉุกเฉินท่ีเกี่ยวของกับวัตถุอันตรายอยางปลอดภัย แตโชครายท่ีมีการขาดติดตอระหวางความรู ในตํารากับสิ่ งท่ี เปนโลกแห งความ

เปนจริงไมไดหมายความวาการฝกไมสําคัญ

หรือไมเพียงพอ แตการสัมผัสในโลกของความเปนจริงจะชวยใหผูปฏิบัติงานตอบโตเหตุไดเรียนรูวา เปนเร่ืองสําคัญอยางแทจริงในการสรางความม่ันใจเพือ่เอาชวิีตรอดจากสถานการณสุดอันตราย

10 หัวขอการพิจารณาสําหรับหนวยตอบโตเหตุฉุกเฉินหนวยแรกท่ีเขาถงึท่ีเกิดเหตุท่ีจะนาํเสนอตอไปนีไ้ดมาจากประสบการณของผูปฏิบติังานในหลายเหตุการณเปนเวลาหลายปโดยไดบอกเลาถงึเร่ืองท่ีผูปฏิบติังานตอบโตเหตุสวนใหญมองขามไปเม่ือเขาถงึจดุเกดิเหตุ แมวาพวกเขาจะไดรับการฝกฝนมาเปนอยางดีแตเม่ือสัมผัสกับเหตุการณจริง อารมณและความรูสึกอาจมีสวนทําใหลืมพจิารณาประเด็นสาํคัญท่ีจะทําใหการทํางานมีประสิทธิภาพ

1. วัตถอุันตรายกับสารเคม ีกาวแรกท่ีจะทําใหรอดชวิีตตองตระหนกัไววาสถานการณใดๆ ก็ตามมีความเกี่ยวของกับสารเคมี แมวาบางคร้ังจะใชคําวา “วัตถุอันตราย” ( HazardousMaterials) แตคําวา “สารเคม”ี (Chemicals) นาจะเหมาะสมกวา เพราะคําวา “วัตถุอันตราย”เปนศัพทขอบงัคับท่ีมีความหมายเฉพาะตัว และเพื่อใหหนวยตอบโตเหตุฉุกเฉินหนวยแรกเม่ือเขาถงึท่ีเกดิเหตุจะไมถกูทําใหเขาใจผดิวาสารเคมีไมใชปญหาเพราะมันไมใชวัตถุอันตรายตามท่ีเขียนในกฎขอบังคับ ในความเปนจริงแลว สารเคมีทุกชนดิมีลักษณะเปนวัตถอัุนตรายรวมอยูดวยหนวยตอบโตเหตุตองเตรียมการสบืคนขอเท็จจริง

ตอไป จงจําไววา สารเคมีเปนตนกําเนิดของปญหาจากการร่ัวไหลโดยอุบัติเหตุ หรือการใชงานผิดวิธี นอกจากนี้ ยังมีแนวโนมจะเกิดการสัมผัสจากอุบัติเหตุอ่ืน เชน ไฟไหมหรือโครงสรางถลมซึ่งเปนผลมาจากความไมม่ันคงของท่ีบรรจ ุโดยปราศจากการตัดสนิดวยทัศนคต ิดังกลาว ผูปฏิบัติงานตอบโตเหตุสามารถลดแนวโนมจะไดรับอันตราย เม่ือใครบางคนบอกไมตองกังวลกับสถานการณเพราะไมเกี่ยวของกบัวัตถอัุนตราย คุณตองรูวาสิง่ท่ีเขาบอก จริงๆแลวก็คือ สิ่งท่ีเกิดเหตุไมใชวัตถุอันตรายตามท่ีระบุไวในกฎขอบังคับ (วาเปนวัตถุอันตราย)มันเปนสารเคมีซึ่งอยางไรก็ตามมันก็สามารถทําอันตรายคุณไดอยูดี

2. สารเคมีที่เกิดเหตุเปนที่รูจัก ตองสงสัยหรือตรวจพบ สารเคมีท่ีเกิดเหตุหรือเกี่ยวของกับสถานการณสามารถแบงออกได 3 ลักษณะไดแก

(1) สารเคมีท่ีเกี่ยวของกับสถานการณเปนท่ี รู จัก (รถบรรทุกถังน้ํามันเชื้ อเพลิงพลิกควํ่า)

(2) สารเคมีท่ีเกี่ยวของกับสถานการณยังไมรูวาเปนชนิดใด (มีคนสามคนหมดสติภายในโกดังเก็บสารเคมี)

(3) สารเคมีท่ีเกี่ยวของกับสถานการณเปนสารเคมีซึ่งคุณคนพบหลังจากเขาถึงท่ีเกิดเชน เม่ือคุณไดรับแจงเหตุฉุกเฉินทางการแพทย(EMS) แลว เดินทางเขาถึงท่ีเกิดเหตุแลวพบวามีคนหายใจลําบาก และจากการประเมินทําใหรูวาผูประสบเหตุใชงานสารเคมีโดยไมไดใชอุปกรณปองกัน (PPE) ท่ีเหมาะสม

สารเคมีประเภทหลังเปนประเภทหนึ่งท่ีจะสรางความลําบากใหกบัผูปฏิบติังานตอบโตเหตุฉุกเฉิน เพราะพวกเขาอาจเกดิความผดิพลาดจากการพจิารณาชนดิสารเคมีไมถกูตอง ทันทีท่ีพวกเขาระบวุาเปนสารเคมีชนดิใด พวกเขากจ็ะปฏิบติังานตอบโตตามวิธกีารเฉพาะสาํหรับสารเคมีชนิดนั้น โดยเฉพาะเร่ืองการกําหนดระยะหางท่ีปลอดภัยระหวางตนกําเนิดของสารเคมีกับตัวบุคคล นอกจากนี ้ยังเปนการตอบโตเหตุท่ีคอนขางยาก ในกรณีท่ีอาจมีผูปวยไดรับการปนเปอนสารเคมีทําใหคนอ่ืนๆ ลังเลท่ีจะอพยพออกไปเพราะไมอยากท้ิงผูปวยไว กรณีดีท่ีสุดใหนาํตัวผูปวยออกไปดวยหากพวกเขาสามารถเดินได เม่ือคุณนาํตัวผูปวยไปยงัท่ีปลอดภัย คุณกต็องตระหนกัดวยวาอาจปนเปอนสารเคมีขณะ

Page 8: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

8SAFET Y LIFE

ชวยเหลือผูปวย เนื่องจากเปนการรับแจงเหตุทางการแพทย คุณไมตองสวมอุปกรณปองกันสวนบุคคล ยกเวนถุงมือยาง

การท้ิงคนปวยรายหนึ่งหรือหลายรายเพื่อปกปองหนวยตอบโตเหตุหนวยแรกจากการปนเปอนสารเคมี เปนการตัดสนิใจท่ีลําบากซึง่จะตองพจิารณาเปนกรณีๆ ไป แตไมวาคุณจะออกจากพืน้ท่ีไปโดยมีหรือไมมีผูปวย คุณจะตองตัดสินอยางรวดเร็ว

3. วธิกีารตรวจจับสารเคมทีีม่อียู คุณสามารถพจิารณาการมีอยูของสารเคมีในท่ีเกิดเหตุดวยการดมกล่ิน การมองพฤติกรรมตางๆท่ีสารเคมีแสดงออกมา และการบอกเลาของผูประสบเหตุและผูเห็นเหตุการณ การตรวจจบัดวยกล่ินจะเปนการบงัเอิญมากกวาการจงใจ ถาคุณไดกล่ินอะไรแปลกๆ จงใชมันคนหาการร่ัวไหลจากถังบรรจุ จงหยุดและถอยหลัง บางทีกล่ินแปลกๆ อาจไมมีอะไรเกี่ยวของกบัสถานการณแตกต็องใชโอกาสนีใ้หเปนประโยชนจนกวาคุณจะพบคําตอบ

การคนหาดวยการสงัเกตดวยตาเปลาจะเปนการมองหาผลิตภัณฑท่ีปลอยออกมา ไมวาจะเปนหมอก ไอ หยดของเหลวหรือของแข็ง แตอยาลืม สารเคมีบางชนิดไมมีกล่ิน ไมมีสี ซึ่งไมสามารถคนหาไดดวยการมองเห็นและการดมกล่ินคุณอาจจะสัมผัสมันโดยไมรูตัว

ผูปฏิบัติงานตอบโตเหตุฉุกเฉินสารเคมีไดรับการสั่งสอนใหสังเกตการระบุสารเคมีในรูปแบบตางๆ เชน ปายติดท่ีบรรจ ุแผนระบสุารเคมีของกระทรวงการขนสงสหรัฐฯ (DOT) รวมถงึปายตามมาตรฐาน NFPA 704 (มาตรฐานระบบการระบุวัตถุอันตรายสําหรับการตอบโตเหตุ

ฉุกเฉิน) เพือ่ระบชุนดิและอันตรายของสารเคมีแตจงจาํไววา มีขอแมและขอยกเวนมากมายเม่ือใชวิธกีารระบสุารเคมีเหลานี ้อยาแปลความหมายผิดวาการท่ีไมมีปายแสดงจะหมายถึงการไมมีสารเคมีใดอยู เพราะถงึอยางไรกย็งัมีสารเคมีอยูเพียงแตไมมีปายบอกวาเปนสารเคมีชนิดใดและเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรอยูในระยะหางท่ีปลอดภัยเม่ือตรวจสอบปายระบุสารเคมีและการเกบ็ท่ีบรรจท่ีุเสยีหายข้ึนมาอานขอความถือเปนการกระทําท่ีอันตรายอยางยิ่ง

ขอมูลและขอคิดเห็นของผูพบเหตุการณก็สามารถใชเปนประโยชนในการระบุสารเคมีท่ีเกี่ยวของในเหตุการณได อยางไรก็ตาม จากประสบการณสวนบุคคลพบวา คนท่ีใหขอมูลมักเกิดการปนเปอนสารเคมีท่ีเขากําลังพูดถึงนีคื่อปญหาใหญท่ีแทจริง โดยเฉพาะเม่ือคุณเชญิเขาเขามาในยานพาหนะท่ีเขาถึงท่ีเกิดเหตุเพื่อทําการพูดคุยเกี่ยวกับอุบัติเหตุ ใหพิจารณาระดับความเกี่ยวของกับเหตุการณของเขา และเพือ่ความปลอดภัยใหทําการชาํระการปนเปอนและใหการบําบัดทางการแพทย...ปลอดภัยไวกอนดีกวาจะเสียใจภายหลัง

4. การมาถึงที่เกิดเหตุ เม่ือคุณมาถึงท่ีเกิดเหตุ ไมวาจะรูชนิดของสารเคมีท่ีเกี่ยวของหรือยงัสงสยัอยู ใหหยดุอยูท่ีระยะปลอดภัยจาก

จุดเกิดเหตุ การท่ีผูประสบเหตุหรือผูพบเห็นเหตุการณจะกวักมือเรียกใหเขาไปใกลๆ ก็ไมควรตอบสนอง การท่ีคุณเขาไปใกลจุดเกิดเหตุเกินไปอาจทําใหเสี่ยงตอการสัมผัสสารเคมี ในกรณคุีณรับรูสารเคมีภายหลังเขาไปในท่ีเกดิเหตุแลว ทันทีท่ีคุณทราบขอมูลตางๆ ของสารเคมีท้ังชนิด อันตราย และแหลงกาํเนิด หากอยูใกลเกนิไป ใหรีบยายออกไป หากจอดรถใกลแหลงร่ัวไหล ใหรีบไปหาท่ีจอดท่ีปลอดภัยทันที

อีกปญหาท่ีจะพบเม่ือเขาถงึท่ีเกดิเหตุซึง่เกีย่วของกบัสารเคมีท่ีรูจกัหรือยงัสงสยัอยูนัน่คือ“ทัศนวิสัยเหมือนอยูในอุโมงค” (Tunnel Vision)และการไมระมัดระวังอันตรายอ่ืนในท่ีเกิดเหตุเชน ไฟไหม แนวโนมการระเบิด สายไฟท่ีตกลงมา หรือยานพาหนะท่ีไมม่ันคง ในการฝกข้ันกาวหนา ครูฝกจดัฉากอุบติัเหตุทางยานพาหนะรถตูขนาดเล็กบรรทุกท่ีบรรจุสารกัมมันตภาพรังสีว่ิงชนเสาไฟฟา ผูปฏิบัติงานหนวยแรกทําทุกอยางท่ีถกูตองในการระบวัุตถท่ีุเกีย่วของ นาเสยีใจท่ี 2 คนในหนวยเสียชวิีต เนือ่งจากเรงรีบสาํรวจอันตรายจากสารเคมี พวกเขาไมไดสงัเกตสายไฟฟาท่ีตกลงมาบนรถตู มารูอีกที มือของพวกเขาก็แตะตัวถังรถไปแลว

5. แยกอนัตราย อพยพ และปฏเิสธจะเขาไป สิ่งเหลานี้ มีความสําคัญอยางยิ่งยวดเพราะไมวาผลลัพธออกมาอยางไร เหตุฉุกเฉินท่ีเกี่ยวของกับสารเคมี ในสถานการณเลวรายท่ีสดุ มักมีการบาดเจบ็หรือเสยีชวิีตเสมอ แมวาเร่ืองนี้เปนเร่ืองท่ีเกิดข้ึนประจํา แตในบางกรณีผูปฏิบัติงานฉุกเฉินก็เกรงจะถูกตําหนิวาทําเกนิเลยไป (โอเวอรแอ็คต้ิง) หรือสรางความไมสะดวกใหคนท่ัวไป จึงทําใหเกิดการลังเลท่ีจะ

Page 9: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

9SAFET Y LIFE

ปดการจราจรเพื่อกั้นเขตอันตราย หรือทําการอพยพ พดูงายๆ พวกเขาไมวองไวในการปกปองสาธารณชนดวยเหตุผล เกรงใจท่ีจะทําใหคนอ่ืนไมสะดวก ใหจําไววาความไมสะดวกเปนเร่ืองชั่วคราว แตความตายเปนความสูญเสียท่ีเรียกกลับคืนมาไมได ฉะนั้นตองตดสินใจท่ีจะทําอะไรก็ตามท่ีชวยผูคนใหรอดตายทันทีโดยไมตองคิดวาคนอ่ืนจะมองวาเราโอเวอรแอ็คต้ิงหรือทําใหเกิดความไมสะดวก

ท้ังนี้ อยาลืมพิจารณาถึงสภาพดินฟาอากาศดวย เชน ฝนจะชําระลางของแข็งหรือของเหลวท่ีหกลนไปยงัท่ีระบายน้าํและแหลงน้าํท่ีอยูใกลๆ ท้ังลําธารและทางน้าํไหลอ่ืนๆ สภาพดินฟาอากาศมีการเปล่ียนแปลงตลอดเวลาดังนัน้ใหตรวจสอบสภาพอากาศและปฏิบติังานสอดคลองกบัสภาพอากาศท่ีเกิดข้ึนในเวลานั้น

6. หาขอมูลการตอบโตเหต ุ หนวยตอบโตเหตุฉุกเฉินเบื้องตนไดรับการสัง่สอนใหใชคูมือตอบโตเหตุฉุกเฉิน (ERG; Emergency ResponseGuidebook) กระนัน้กย็งัมีความเขาใจผดิกนัข้ึนพรอมกบัการฝก สิง่แรกท่ีจะตองคํานงึถงึเม่ือใชคูมือฯ นั่นคือ ผูปฏิบัติงานตอบโตเหตุตองจําคําเตือนในหนาคํานาํท่ีระบ ุ“มขีอจํากัดในการใชงาน เมือ่อยูในบรเิวณทีจั่ดเก็บประจําที”่

เม่ือใชเอกสารอางอิงความปลอดภัยสารเคมี (MSDS) หนวยตอบโตเหตุฉุกเฉินจะไดรับการบอกเลาวาเอกสารตองขอจากสาํนกังานของผูจําหนาย แตความจริงเอกสาร MSDS ปกติจะอยูท่ีตัวของผูปฏิบัติงานท่ีใชสารเคมีไมใชคน

ขายหรือคนดูแลคลังเก็บสารเคมี แมวาคุณจะหาเอกสาร MSDS ไดจากรานคาหรือคลังเก็บสารเคมี แตกไ็มควรไปหวังอะไรมากนกั จาํไววาแมหลายคนจะเชื่ อม่ันอยางไร แตก็ไมมีขอกําหนดใดๆ ท่ีระบุวาตองแนบขอมูล MSDS ไวกับเอกสารกํากับการขนสง

ศูนยขอมูลฉุกเฉินการขนสงสารเคมีแหงสหรัฐอเมริกา (CHEMTREC; The ChemicalTransportation Emergency Center) เปนอีกสถาบนัหนึง่ท่ีใหบริการขอมูลสารเคมี แตขอมูลของ CHEMTREC มีเฉพาะของบริษัทผูผลิตและผูขนสงท่ีเปนสมาชิกเทานั้น จึงอาจเปนแหลงขอมูลท่ีมีความจํากัด เนื่องจากขอมูลสารเคมีของผูผลิตและผูขนสงท่ีไมไดข้ึนทะเบียนไวกับCHEMTREC จะไมปรากฏบนฐานขอมูลของสถาบันนี้

ไมตองสงสัย วิธีดีท่ีสุดในการหาขอมูลสารเคมีคือติดตอกบัผูผลิตโดยตรง บริษทัผูผลิตมีคนท่ีผลิต ใชงาน และจดัการสารเคมีเปนชีวิตประจําวัน ดังนั้นพวกเขาจึงรูวาอะไรทําใหมันระเบิด และทําใหคนเราปวยไดอยางไร ติดตอผูผลิตตามหมายเลขโทรศัพทซึ่งสามารถพบไดในปายติดท่ีบรรจหุรือในเอกสาร MSDS หากหาไมพบใหคนหาทางชองทางบริการท้ังสายดวนและทางอินเตอรเนต ในบางกรณีหมายเลขโทรศัพทของผูผลิตไมมีประโยชนใดๆ เพราะชวงเวลาเกดิเหตุ บริษทัผูผลิตปดทําการไปแลว เม่ือเปนเชนนี้ ใหขอหมายเลขโทรศัพทหนวยงานทองถิ่นท่ีบริษัทสารเคมีต้ังอยู จากนั้นขอให

เจาหนาศูนยวิทยแุจงหมายเลขโทรศัพทสาํหรับติดตอนอกเวลางานของบริษัทเคมีเหลานั้น

7. พจิารณาใชยุทธวธิเีชิงรบัหรอืเชิงรกุเม่ือเขาปฏิบติัระงบัเหตุสารเคมีทีท่ัวร่ัวไหลหรือมีแนวโนมจะร่ัวไหล คุณตองตัดสินใจวาจะเขาแทรกแซงในระดับใด การตัดสินใจปฏิบัติงานเชงิรับเปนการกระทําท่ีรวมถงึความพยายามจะหยดุการร่ัวไหลท่ีจะตองมีท้ังอุปกรณและทักษะจากการฝกอบรม แมวาจะดูเหมือนงายในการเขาไปปรับหรือปดวาลวท่ีบรรจสุารท่ีร่ัวไหล แตหากคนท่ีไปทําหนาท่ีนี้ไดรับบาดเจ็บแสดงวาอุปกรณโดยเฉพาะ PPE และระดับของการฝกอบรมของเขามีปญหาซึง่หนวยงานของรัฐจะเขาไปตรวจสอบ และอาจมีการลงโทษโดยการปรับฐานไมจัดการความปลอดภัยท่ีดีพอ

ไมวาจะตัดสินใจตอบโตเหตุเหตุฉุกเฉินอยางไร ผูปฏิบติังานมีเวลาแคชัว่วินาทีหรือนาทีในขณะท่ีผูวิเคราะหการตัดสินใจของเขามีเวลาหลายวัน หลายสัปดาห หรือหลายเดือนในการสอบสวนเหตุการณ หากคุณแยกพื้นท่ีเกิดเหตุออกไปไดอยางปลอดภัยและรอใหหนวยทีมีเคร่ืองมือเหมาะสมและไดรับการฝกเขามายงัท่ีเกิดเหตุ คุณก็ไมตองรีบรอนปฏิบัติงาน ยกตัวอยาง นกัดับเพลงเขาไประงบัเหตุสารคลอรีนร่ัวเล็กนอยท่ีถังบรรจุนอกอาคาร และหลังจากพูดคุยกับตัวแทนของโรงงานทําใหทราบวาสามารถหยดุการร่ัวไหลไดงายดวยการปดวาลวอยางไรกต็าม นกัดับเพลิงท่ีอยูในท่ีเกดิเหตุไดรับการฝกมาในระดับปฏิบัติการ และแมวาเปนเร่ืองงายท่ีพวกเขาจะเขาไปปดวาลว แตพวกเขาไมไดฝกการหยุดการร่ัวไหลมา อีกท้ังชุดดับเพลิงอาคารท่ีพวกเขาสวมใสอยูกไ็มไดออกแบบมาเพือ่ปองกนัสารเคมี ผูปฏิบติังานตอบโตเหตุเบื้องตนไมไดรับการฝกมาและไมมีอุปกรณท่ีเหมาะสม อีกท้ัง เปนความจริงท่ีวาสถานการณไมมีความเสี่ยงฉับพลันตอสาธารณชนเพราะไดกัน้แยกพืน้ท่ีอันตรายไวแลว จากเงือ่นไขและปจจัยตางๆ ดังกลาว พวกเขาจึงตัดสินใจรอหนวยวัตถอัุนตรายพรอมชางเทคนคิและเสือ้ผาปองกันสารเคมีเพื่อทําการปดวาลว แมวาจะมีคําถาม ทําไมนักดับเพลิงไมเขาไปในท่ีเกิดเหตุโดยเร็ว บางกรณี การหยุดการร่ัวไหลอาจไมไดชวยอะไรมาก และการท่ีนักดับเพลิงเขาไปอาจเปนผลเสยีมากกวา ผูคนมีแนวโนมไดรับบาดเจบ็อุปกรณไดรับความเสยีหาย รวมถงึอาจจะเปนคดีความและถกูปรับ อยาลืม มันจะเปนประเด็น

Page 10: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

10SAFET Y LIFE

จริยธรรม ถาผลของการตัดสินใจของคุณทําใหบางคนไดรับบาดเจบ็หรือเสยีชวิีต ท้ังๆ ท่ีมันจะปลอดภัยกวา ถาใชยุทธวิธีเชิงรับ จําไวเสมอวาการตัดสินใจปฏิบัติการใดๆ ตองชั่งน้ําหนักระหวางความเสี่ยงกับผลประโยชนท่ีจะไดรับ

8. คาดการณสิง่เลวรายทีส่ดุ ใหทําการประเมินปจจัยการเกิดเหตุอยางท่ัวถึงกอนจะลงมือปฏิบติังาน ประเด็นนีร้วมถงึความคิดท่ีวาสถานการณไมไดเปนอยางท่ีมองเห็นไดท้ังหมดหรือสิง่ปรากฏไมใชท้ังหมดของสถานการณ ยงัมีสิ่ งท่ี เรามองไมเห็นในขณะนั้นอีกมากมายโชครายท่ีการมองขามความเลวรายท่ีซอนตัวอยูทําใหเกิดหายนะ จึงจําเปนตองมีการวิเคราะหอยางสมบูรณในทุกการกระทํา ในสถานการณหนึ่ง รถตักพลิกควํ่าขณะถมคันดิน ระหวางนั้นสายไฮดรอลิกแตกออก หนวยดับเพลิงไดเขามาเกบ็ของเหลวท่ีร่ัวไหลออกมาและไดยนือยูใกลๆขณะท่ีหนวยบริการยกรถพยายามทําใหรถต้ังข้ึนสิ่งท่ีผูปฏิบัติงานระงบัเหตุไมไดทําคือปลดสายแบตเตอรี และเม่ือตัวรถกําลังขยับตําแหนงเคร่ืองยนต ก็สตารทข้ึนมา ทําใหท่ัวบริเวณนั้นเต็มไปดวยน้าํมันไฮดรอลิกท่ีฉีดเปนฝอยออกมาทางสายท่ีแตกออก เม่ือถามวามันเกิดข้ึนไดอยางไร ปรากฏวาไมมีใครเลยนึกถึงแบตเตอรี

อีกเหตุการณหนึ่ง มีการขนถายน้ํามันเชื้อเพลิงจากรถบรรทุกท่ีพลิกควํ่าท่ีคันดินขางถนน ผูปฏิบัติงานระงบัเหตุเบื้องตนไมไดทําใหถังบรรจุมีความม่ันคงในตําแหนงเดิม ขณะท่ีน้าํมันไหลลงพืน้ ถงับรรจกุเ็ร่ิมเสยีศูนย จากนัน้กเ็อียงแลวไหลไปกระแทกกบัรถฉุกเฉินคันหนึง่

อยาลืมวา การเปล่ียนแปลงสามารถเกดิข้ึนไดระหวางเกดิเหตุฉุกเฉิน การเปล่ียนแปลงเหลานี้เกี่ยวของกับสภาพดินฟาอากาศ รวมถึงเร่ืองแสงสวางท่ีไมพอเพยีงและการขาดบคุลากรหากคุณปฏิบติังานตอบโตเหตุชวงเวลา 9.00 น.ในตอนเชา ควรพยายามทํางานใหเสร็จกอนพระอาทิตยตกดิน แมบางคนบอกวาสามารถใชไฟสองสวางท่ีอยูในรถกไ็ด แตใครจะเสีย่งเอารถดับเพลิงราคาแพงมาจอดสองสวางในสถานการณท่ีรอบตัวมีแตสารเคมีท่ีสามารถทําใหโครเมียมหลุดรอนและทําใหสายไฮดรอลิกขาดได หรืออาจขอยืมระบบสองสวางมือถือจากหนวยงานใกลเคียงได แตก็ตองทํารีบทําเร่ืองเพื่อใหไดอุปกรณมากอนจะมืด

9. การแจงขาว อยาลืมวามีบุคคลและหนวยงานตางๆ มากมายใหความสนใจกรณี

สารเคมีเกิดการร่ัวไหลจากท่ีบรรจุ หนวยงานเหลานี้รวมถึงหนวยงานท่ัวไป เชน สํานักงานสาธารณสขุและสิง่แวดลอม หนวยงานบงัคับใชกฎหมาย เชน ตํารวจ หนวยงานความปลอดภัยจราจร และเจาหนาท่ีความปลอดภัย และผูมีหนาท่ีรับผิดชอบในการปองกันสาธารณูปโภคท่ีอยูใตดิน

แจงขาวใหหนวยงานทางหลวงท้ังระดับทองถิน่และรัฐบาลกลางทราบทันทีเม่ือใดกต็ามท่ีผวิถนนหรือไหลทางไดรับความเสยีหาย อุบติัเหต ุทางรถยนตท่ีเกดิข้ึนหลังจากผวิถนนไดรับความเสยีหายถอืเปนความประมาทเลินเลอของหนวยดับเพลิงท่ีไมยอมแจงใหหนวยงานทางหลวงมาซอมแซม

นอกจากนี้ ใหแจงขาวเจาของทรัพยสินผูเชา รวมถึงอสังหาริมทรัพยทางอุตสาหกรรมตามเสนทางน้ําท่ีอาจไดรับผลกระทบจากสารเคมีปนเปอนท่ีไหลไปตามลําน้ํา และแจงใหโรงพยาบาลทองถิน่ดวยเพราะหนวยปฏิบติังานตอบโตเหตุเบื้องตนอาจสัมผัสสารเคมีซึ่งทางโรงพยาบาลจะไดเตรียมหองฉุกเฉินไวรองรับผูบาดเจ็บ/เจ็บปวยจากสารเคมีอยางเพียงพอ

หนวยงานท่ีรับผิดชอบ (ResponsibleParty ตองแจงไปยงัศูนยตอบโตเหตุฉุกเฉินแหงชาติ (National Response Center) เม่ือปริมาณร่ัวไหลเกินปริมาณท่ีตองรายงาน (ReportableQuantity) อยางไรก็ตาม หนวยตอบโตเหตุเบือ้งตนไมสามารถแจงขาวในนามของหนวยงานท่ีรับผิดชอบได

ใหคนหาหมายเลขโทรศัพทและชองทางการติดตอกบัหนวยงานท่ีจะตองแจงขาวใหทราบกอนเขาไปยงัจุดเกดิเหตุ และใหทําบญัชีรายชือ่เตรียมไวเพื่อปองกันการละเลยหนวยงานท่ีจะตองแจงขาวใหทราบ เม่ือทําการแจงขาวแลว ให

บันทึกไวเปนหลักฐาน10. จัดตัง้ระบบบัญชาการสถานการณ

ที่มีประสิทธิภาพ การบัญชาการและควบคุมทรัพยากรระหวางเกิดเหตุเปนเร่ืองท่ีมีความจาํเปนเพือ่ใหการปฏิบติัหนาท่ีรับผดิชอบเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ หนวยปฏิบัติงานตอบโตไมไดใชระบบงานนี้ทํางานประจําท่ัวไปซึ่งอาจทําใหพวกเขาไมตระหนักในประเด็นนี้ อยางนอยท่ีสุด สวนของความรับผิดชอบตองรวมสิ่งตางๆ ดังตอไปนี้เขาไปดวย

การควบคมุจุดเกดิเหต ุ (Scene Control)การควบคุมจุดเกิดเหตุไมไดจํากัดเฉพาะการควบคุมจราจร แตใหรวมถงึการควบคุมพืน้ท่ีซึ่งมีการอพยพและการดูแลความม่ันคงของท่ีกั้นในการแยกพื้นท่ี การใชสายเทปและแทงกรวยกั้นอาจไมเพียงพอ คุณควรจะใหใครบางคนท่ีสามารถสื่อสารกับบุคคลอ่ืนไดดีมายืนเฝาเพื่อกันไมใหบุคคลไมเกี่ยวของเขาไปในพื้นท่ีไมปลอดภัย มีหลายสถานการณท่ีบุคคลเขาไปในพื้นท่ีเพลิงไหมหรือมีแนวโนมเกิดเพลิงไหม(Hot Zone) โดยไมไดต้ังใจ เชน คนข่ีจักรยานออกมาจากปาตรงไปยัง Hot Zone ท่ีมีแกสร่ัวจากถังบรรจุ หรือมีคนจงูสุนัขเดินตามทางเดินและไมยอมหยดุ หรือเล่ียงไปทางอ่ืนเม่ือพบกบัสายเทปกัน้พืน้ท่ี (คนท่ีเจอสายเทปกัน้พืน้ท่ีจะใชวิธีงายๆ เชน ยกสายเทปข้ึนแลวเดินลอดเชือกและเดินตอไป) งานควบคุมพืน้ท่ีเปนงาน

Page 11: H A Z M A TSAFETY LIFE2 ค าจํากัดที่อนุญาตให สัมผัสได (ค า ความเข มข นสารเคมีเฉลี่ย

11SAFET Y LIFE

ไมจบสิ้น ผูท่ีทําหนาท่ีนี้ตองแนใจวาไดทําตามแผนงานท่ีวางไวและมีการเผาระวังอยางตอเนือ่ง

การควบคุมอันตราย (Hazard Control)สิง่นีร้วมถงึการปฏิบติังานในเชงิและเชงิรุก นอกเหนอืจากการสรางความม่ันใจเร่ืองความปลอดภัยของบคุคลแลว ผูมีหนาท่ีรับผดิชอบการควบคุมอันตรายตองทํางานใกลชดิกบัผูไดรับการแตงต้ังใหดูแลทรัพยากรตางๆ เพือ่ใหแนใจวามีอุปกรณท่ีจาํเปนเตรียมไวใชงาน จาํไววา อุปกรณสาํหรับใชในสถานการณเหลานี้อาจไมไดเตรียมพรอมไวใชงานเสมอไป บางคร้ัง ผูปฏิบัติงานตอบโตเหตุตองแกปญหาเฉพาะหนาเปนกรณีๆ ไปท้ังนี้ ตองแนใจวาบุคคลท่ีไดรับมอบหมายใหควบคุมอันตรายตองไดรับการฝกอบรมและมีอุปกรณเหมาะสม ในบางสถานการณ เชน การทาํงานรวมกับผูรบัเหมาทาํความสะอาดทีท่าํหนาที่ผูชวยผูปฏิบติังานตอบโตเหตุ เจาหนาท่ีควบคุมอันตรายไดขอสําเนาบันทึกการฝกอบรมของลูกจางผูรับเหมาซึ่งเปนเร่ืองปกติ ลูกจางของบริษทัผูรับเหมาตองทํางานเตียงขางผูปฏิบติังานระงบัเหตุจงึจาํเปนตองรูวาลูกจางของผูรับเหมาเหลานั้นทําอะไรมาบาง

การแพทย (Medical) เม่ือมีการสมัผสัสารเคมี บคุคลท่ีไดรับมอบหมายใหทํางานดานการแพทยจะตองเขาถงึขอมูลท่ีเกีย่วของกบัการดูแลผูปวย เจาหนาท่ีทางการแพทยตองสามารถพดูคุยกบับคุลากรของผูผลิตสารเคมี เจาหนาท่ีแพทยฉุกเฉินของโรงพยาบาลทองถิน่ และตัวแทนศูนยพิษวิทยาในพื้นท่ี แทนการพยายามแปลความหมายขอมูลจากเอกสารคูมือการตอบโตเหตุฉุกเฉิน (ERG) และขอมูลความปลอดภัยสารเคมี (MSDS) เจาหนาท่ีตอบโตเหตุเบือ้งตนบางรายอาจรูสกึไมสะดวกเม่ือตองทํางานกบัสารเคมีท่ีไมเคยเผชิญมากอน คุณจะตองทําใหเขาม่ันใจวาเขาสามารถจัดการผูปวยไดอยางดีเจาหนาท่ีทางการแพทยตองแนใจวาผูปวยไดรับการชําระการปนเป อนกอนได รับการรักษา

พยาบาลในระดับใดๆ ก็ตามมีความจําเปนบางอยางท่ี ทําใหผู ให

บริการแพทยฉุกเฉินมีอุปสรรคในการทํางานซึ่งเขาอาจจริงจังกับการรักษาผูปวยเดินไปจนละเลยความปลอดภัยของตัวเอง เขาตองไดรับการอบรม จัดระเบียบความคิดและการกระทํารวมท้ังสามารถทํารายงานการปฏิบัติงานท่ีเกี่ยวของการการดูแลผูปวยอยางครอบคลุม

การปกปองสาธารณะ (Public Protection)ระหวางเกิดเหตุฉุกเฉินสารเคมี จะตองมีการพิจารณาการปฏิบติังานทุกระยะ บุคคลท่ีไดรับมอบหมายใหทําหนาท่ีแจงขาวใหสาธารณะรับรูและต้ังท่ีหลบภัย ตองทํางานรวดเร็ว ยิ่งไปกวานัน้ พวกเขาอาจเผชญิกบัคําถามจากสาธารณชนเกี่ยวกับการสัมผัสสารเคมีและผลกระทบตอสุขภาพ พวกเขาตองสามารถใหขอมูลท่ีถูกตองและสรางความม่ันใจใหกบัผูคน ซึง่งานนีถ้าเปนเจาหนาท่ีประชาสมัพนัธท่ัวไปจะไมสามารถทํางานไดอยางสมบูรณไดเพราะไมคุนเคยกับสารเคมีและอาจอธบิายไมไดวาสารเคมีมีผลกระทบตอสุขภาพไดอยางไรซึ่งไมเปนประโยชนใดๆ ในการเตือนภัยแกชุมชุน

ตวัอยาง ระหวางเกดิเหตุการณหนึง่ สนี้าํผสมกาวยางสาํหรับทาผนงัร่ัวไหลเขาไปในระบบประปาของชมุชน ศูนยปฏิบติังานฉุกเฉินทองถิน่พยายามทําทุกวิถทีางเพือ่แกปญหานี ้มีชวงหนึง่บุคคลผูมีหนาท่ีรับผิดชอบปกปองสาธารณชนไดรับโทรศัพทจากสตรีท่ีกําลังเครียดเนื่องจากต้ังครรภและไดด่ืมน้าํท่ีคาดวาจะมีการปนเปอนเขาไปแกวหนึง่ เธอถามอยางวิตก “ลูกของฉันจะตายไหม” ซึ่งคนท่ีตอบคําถามนี้ไดตองมีขอมูลขอเท็จจริงและสามารถสื่อสารกับคนท่ีกําลังมีความทุกขใหคลายกังวลไดดี

บทสรปุการตอบโตเหตุฉุกเฉินสารเคมี หรือ

Hazmat เปนภารกิจของหนวยงานท่ีมีหนาท่ีนี้โดยตรง สวนใหญจะเปนแผนกหนึ่งของหนวย

ดับเพลิง บางสวนเปนหนวยบริการภาครัฐสงักดักระทรวงท่ีเกีย่วของ ซึง่เม่ือไดรับแจงเหตุจะเขาไปยงัท่ีเกดิเหตุเพือ่ตอบโตเหตุ ไมวาจะเปนการกําจัดหรือหยุดการร่ัวไหล ดับไฟกรณีเกดิเพลิงไหม อพยพประชาชน เคล่ือนยายทรัพยสินปองกันระบบสาธารณูปโภคไมใหไดรับความเสยีหาย แตการทํางานเหลานีใ้หมีประสทิธภิาพหนวยตอบโตเหตุจะตองประเมินสถานการณและระบุชนิดและอันตรายของสารเคมีท่ีเกิดเหตุใหไดเสียกอนจึงจะสามารถกําหนดแนวทางการทํางานไดอยางถกูตองและเหมาะสม รวมท้ังตองพจิารณาปจจยัและเงือ่นไขของสถานการณอยางถี่ถวน และจะตองไมลืมประเด็นท่ีตองใหความสนใจเปนพิเศษ นั่นคือความปลอดภัยในการทํางานท้ังของตัวผูปฏิบติังานเองและประชาชนท่ีอยูโดยรอบ

ตราบใดท่ีเราไมรูวาสารเคมีท่ีเกิดเหตุเปนชนดิใด เรากย็งัไมรูวาเรากาํลังสูอยูกบัอะไรและมีอันตรายมากขนาดไหน เราจึงเปนฝายเสียเปรียบ พลาดพล้ังไปอาจถึงแกชีวิตได สิ่งสาํคัญประการแรกก็คือ ระบชุนดิของสารเคมีท่ีเกิดเหตุใหได แลวระงับเหตุตามท่ีไดฝกฝนมาผสมผสานความรูตามตํารากบัประสบการณรวมถงึขอปรึกษาจากผูเชีย่วชาญหรือหนวยงานบริการตางๆ กจ็ะทําใหสามารถยุติสถานการณไดอยางสมบูรณแบบภายในเวลาท่ีไมนานนัก

REFERENCE1. Hazmat: Initial Actions and Chemical

Assessment by Kristina Kreutzer; http://www.fireengineering.com/articles/print/volume-168/issue-3/features/hazmat-initial-actions-and-chemical-assessment.html

2. Hazmat Survival Tips: 10 InitialResponse Considerations for First Respondersby Steven De Lisi; http://www. fireengineering.com/articles/2009/11/ hazmat-survival-tips.html


Top Related