Download - Week 3 of TTFL
![Page 1: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/1.jpg)
แนวคิดและระเบียบวิธีสอนภาษาต่างประเทศ อ.ดร.วัชรพล วิบูลยศริน
![Page 2: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/2.jpg)
แนวคิดทางภาษา
![Page 3: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/3.jpg)
แนวคิดทางภาษา
![Page 4: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/4.jpg)
แนวคิดทางภาษา
จิตวิทยา
วัฒนธรรม
สังคม
![Page 5: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/5.jpg)
แนวคิดทางภาษา: วัฒนธรรม
“ภาษาไม่ได้แยกตัวออกจากวัฒนธรรม แต่มาจากการรวบรวมสืบทอดต่อกันมาทางสังคมของสิ่งที่ปฏิบัติเป็นกิจวัตรกับความเชื่อที่ก าหนด
โครงสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสังคมนั้น”
(Sapir, 1921)
![Page 6: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/6.jpg)
แนวคิดทางภาษา: วัฒนธรรม ในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศจะต้องพยายามไม่น าเอา
มุมมองทางวัฒนธรรมของตนเข้ามาเกี่ยวข้อง
ผู้ เรียนภาษาต้องน าตนเองเข้าไปอยู่ ในวัฒนธรรมของภาษาเป้าหมาย
ยิ่งเราทราบสภาพวัฒนธรรมของสังคมนั้น ๆ มากเท่าใด เราก็ยิ่งส่ือสารได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น
![Page 7: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/7.jpg)
แนวคิดทางภาษา: สังคม
“การใช้ภาษาให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์เป็นการสร้างประโยคที่แสดงความสามารถของผู้พูด แต่การใช้ภาษาให้เหมาะสมกับสังคมเป็นการ
สร้างการยอมรับของผู้คนในสังคมเจ้าของภาษา”
(Gumperz, 1964)
![Page 8: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/8.jpg)
แนวคิดทางภาษา: สังคม สิ่งท่ีความจ าเป็นต่อการสื่อสาร ได้แก่ บริบท คู่สนทนา หัวข้อ
วัตถุประสงค์ และรูปแบบของการสื่อสาร
การเรียนรู้การใช้ภาษาทางสังคมเป็นส่ิงท่ีจ าเป็นน้อยมาก
เพศและอายุของคู่สนทนาในสถานการณ์การสื่อสารก็เป็นอีกปัจจัยท่ีส่งผลต่อเนื้อหาทางภาษา
![Page 9: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/9.jpg)
แนวคิดทางภาษา: จิตวิทยา
“การสอนภาษาภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศเพ่ือประโยชน์ในการสื่อสารควรเป็นการสอนตามสภาพจริง”
(วัชรพล วิบูลยศริน, 2556)
![Page 10: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/10.jpg)
แนวคิดทางภาษา: จิตวิทยา
Individual differences
Motive
Practice
Knowledge Feedback
Teaching method
Directed experience
![Page 11: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/11.jpg)
ระเบียบวิธีสอนภาษาต่างประเทศ วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล
วิธีสอนแบบตรง
วิธีสอนแบบฟัง-พูด
วิธีสอนแบบเงียบ
วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง
วิธีสอนแบบชักชวน
วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ์
วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความรู้ความเข้าใจ
วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพ่ือการสื่อสาร
![Page 12: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/12.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้ เรียนมีความสามารถในการอ่านและเห็นคุณค่าของบทประพันธ์ภาษาต่างประเทศ
![Page 13: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/13.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
ความเชื่อ
การเรียนรู้ไวยากรณ์ภาษาเป้าหมายจะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจไวยากรณ์ของภาษาตนเองมากข้ึน
![Page 14: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/14.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
แนวคิดพ้ืนฐาน
ภาษามีกฎเกณฑ์ มีระบบ มีระเบียบ
การเรียนภาษา = การเรียนรู้ระบบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของภาษา
ถ้าผู้เรียนเรียนรู้กฎไวยากรณ์และความหมายของค าศัพท์ต่าง ๆ แล้ว ก็จะเข้าใจข้อความต่าง ๆ ในภาษาเป้าหมาย และใช้ภาษาได้
![Page 15: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/15.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
ลักษณะส าคัญ
เน้นทักษะการอ่านและการเขียน
ใช้วิธีการท่องจ ากฎเกณฑ์และค าศัพท์ ตลอดจนค าแปล
ผู้สอนเป็นผู้ด าเนินการเรียนการสอน ควบคุมชั้นและให้ความรู้
ผู้เรียนท าตามค าบอกของผู้สอน
เน้นการเรียนรู้ระบบภาษามากกว่าการใช้ภาษาแบบเจ้าของภาษา
![Page 16: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/16.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
ขั้นตอนการสอน 1. สอนค าศัพท์ (บอกค าแปลเป็นภาษาของผู้เรียน และให้ตัวอย่างประโยคที่มีค าศัพท์นั้น)
2. สอนโครงสร้าง
3. สอนอ่าน
4. ประเมินผล (ให้ผู้เรียนท าการบ้าน แบบฝึกหัด ท่องจ าค าศัพท์)
![Page 17: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/17.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
กลวิธีการสอน 1. การแปลบทประพันธ์
2. การตอบค าถามเก่ียวกับเรื่องที่อ่าน
3. การหาค าตรงกันข้ามและค าที่มีความหมายเหมือนกัน
4. การเติมค าในช่องว่าง
5. การท่องจ า
6. การประยุกต์ใช้กฎโดยสรุป
7. การฝึกแต่งประโยค
8. การเขียนเรียงความ
![Page 18: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/18.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
ข้อดี 1. สอนกับเด็กกลุ่มใหญ่ได้
2. เหมาะกับผู้ใหญ่ หรือเด็กเก่ง
3. เข้าใจความหมายของค าศัพท์และเนื้อเรื่องได้เร็ว
4. ประเมินผลได้ง่าย
![Page 19: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/19.jpg)
1.วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปล (The Grammar-Translation Method)
ข้อเสีย 1. ไม่เน้นทักษะการพูดและการออกเสียง
2. ไม่สอดคล้องกับภาษาท่ีใช้ในชีวิต
3. เด็กท่ีไม่เก่งจะเกิดความเบื่อหน่าย
4. มีโอกาสใช้ภาษาน้อย
5. ต้องมีความรู้ 2 ภาษาเป็นอย่างดี
![Page 20: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/20.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพ่ือสื่อสารได้ในสถานการณ์จริง
![Page 21: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/21.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
ความเชื่อ
การเรียนรู้ความหมายต่าง ๆ เรียนด้วยวิธีเชื่อมโยงโดยตรงกับภาษาที่เรียน โดยไม่ผ่านกระบวนการแปลเป็นภาษาเป็นผู้เรียน
![Page 22: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/22.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
แนวคิดพ้ืนฐาน
ภาษาคือ ภาษาพูด การเรียนภาษาคือ การให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่เรียนนั้น และเพ่ือให้ประสบความส าเร็จยิ่งขึ้น ควรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยวิธีการที่จะคิดเป็นภาษาท่ีเรียนด้วย
![Page 23: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/23.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
ลักษณะส าคัญ บทใหญ่ประกอบด้วยกิจกรรมการสนทนา
ผู้เรียนใช้ภาษาในสถานการณ์จริง
ไม่มีการใช้ภาษาของผู้เรียน
ไม่เน้นการสอนกฎไวยากรณ์
ให้เรียนรู้จากตัวอย่างและสรุปเป็นกฎด้วยตนเอง
![Page 24: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/24.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
ขั้นตอนการสอน ให้ผู้เรียนฟังหรืออ่านข้อความในบทเรียน
อธิบายค าศัพท์และส านวนที่ยาก
ฝึกการออกเสียงค าให้ถูกต้อง
ถามค าถามเก่ียวกับเนื้อเรื่องที่อ่านหรือฟัง
ดึงกฎไวยากรณ์จากเรื่องมาฝึกเพ่ิมเติม
ให้ผู้เรียนท าแบบฝึกหัด
![Page 25: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/25.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
กลวิธีการสอน 1. การอ่านออกเสียง
2. การฝึกหัดตั้งค าถามและตอบ
3. การแก้ไขข้อผิดด้วยตนเอง
4. การฝึกสนทนา
5. การฝึกเติมค าในช่องว่าง
6. การเขียนตามค าบอก
7. การวาดแผนภาพ
8. การเขียนข้อความสั้น ๆ 1 ย่อหน้า
![Page 26: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/26.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
ข้อดี 1. ถ้าฝึกนาน ๆ ผู้เรียนจะใช้ภาษาเพ่ือสื่อความหมายได้
2. ได้เรียนรู้ภาษาแบบเดียวกับการเรียนรู้ภาษาของตนเอง
3. ได้ร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยตนเอง ไม่เบื่อหน่าย
![Page 27: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/27.jpg)
2.วิธีสอนแบบตรง (The Direct Method)
ข้อเสีย 1. ผู้สอนต้องมีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาของผู้เรียน
2. การอธิบายนามธรรมอาจเสียเวลา และผู้เรียนเข้าใจผิด
3. ผู้เรียนอาจสรุปกฎไวยากรณ์ผิดพลาด
4. หากมีผู้เรียนในชั้นเรียนจ านวนมาก อาจดูแลได้ไม่ท่ัวถึง
![Page 28: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/28.jpg)
3.วิธีสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-lingual Method)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ภาษาโดยใช้ภาษาต่างประเทศที่เรียน โดยฝึกภาษาซ้ า ๆ จนเกิดเป็นนิสัย
![Page 29: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/29.jpg)
3.วิธีสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-lingual Method)
แนวคิดพ้ืนฐาน
ภาษาคือ ภาษาพูด การสอนภาษาจึงควรเริ่มจากการฟัง-พูด อันเป็นพ้ืนฐานไปสู่การอ่านและการเขียน
![Page 30: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/30.jpg)
3.วิธีสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-lingual Method)
ลักษณะส าคัญ ผู้สอนต้องแบบอย่างที่ดีในการใช้ภาษาท่ีเรียน
ผู้เรียนเลียนแบบและปฏิบัติตามผู้สอน
เน้นภาษาท่ีใช้พูดในชีวิตประจ าวัน
เรียนรู้กฎจากตัวอย่าง ไม่เน้นข้อมูลทางวัฒนธรรม
ฝึกออกเสียงแต่เริ่มแรก และฝึกฟังในห้องปฏิบัติการทางภาษา
![Page 31: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/31.jpg)
3.วิธีสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-lingual Method)
ขั้นตอนการสอน ให้ผู้เรียนฟังบทสนทนาใหม่ท่ีน ามาให้อ่านให้ฟัง หรือฟังจากเทป
ผู้เรียนพูดตามทีละบรรทัด หลาย ๆ รอบ
น าประโยคท่ีเป็นปัญหามาฝึกเป็นพิเศษ
ฝึกโต้ตอบบทสนทนากันทั้งห้อง เป็นกลุ่มใหญ่ กลุ่มย่อย และทีละคน
ฝึกโต้ตอบบทสนทนาโดยดัดแปลงให้กับเหตุการณ์ของผู้เรียน
![Page 32: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/32.jpg)
3.วิธีสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-lingual Method)
กลวิธีการสอน 1. การท่องจ าบทสนทนา 8. การฝึกแทนค าในช่องว่าง
2. การฝึกแบบเพ่ิมส่วนของประโยค 9. การฝึกเปลี่ยนรูปประโยค
3. การฝึกพูดซ้ า 10. การฝึกถามตอบ
4. การฝึกแบบลูกโซ่
5. การใช้คู่เทียบเสียง
6. การเติมบทสนทนา
7. การเล่นเกมไวยากรณ์
![Page 33: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/33.jpg)
3.วิธีสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-lingual Method)
ข้อดี ฝึกการพัฒนาทักษะ 4 ด้าน ตลอดจนองค์ประกอบของภาษา
เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน เน้นปฏิบัติ
ใช้ภาษาตามสภาพจริง
ไม่เน้นสติปัญญาหรือเหตุผลมาก เหมาะกับเด็กเล็ก
เอาใจใส่ผู้เรียนทีละคนได้มากขึ้น
![Page 34: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/34.jpg)
3.วิธีสอนแบบฟัง-พูด (The Audio-lingual Method)
ข้อเสีย การเลียนแบบไม่ท าให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายได้
การฝึกซ้ า ๆ ท าให้เบื่อหน่าย โดยเฉพาะเด็กเก่ง และผู้ใหญ่
การแบ่งเนื้อหาเป็นส่วนย่อยอาจท าให้ผู้เรียนน าไปบูรณาการไม่ได้
เน้นหลักการวางเงื่อนไข เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ผู้เรียนไม่อาจปรับใช้ได้ ขาดแรงจูงใจ
ผู้สอนต้องมีความกระตือรือร้นและมีประสิทธิภาพสูง รู้จักเตรียมสื่อ
![Page 35: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/35.jpg)
4.วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความความรู้ความเข้าใจ (The Cognitive Code Learning)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้เรียนได้รู้ระบบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของภาษาที่เรียนก่อนน าไปประยุกต์ใช้
![Page 36: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/36.jpg)
4.วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความความรู้ความเข้าใจ (The Cognitive Code Learning)
แนวคิดพ้ืนฐาน ภาษาเป็นระบบตามกฎเกณฑ์ ความเข้าใจและการแสดงออกทาง
ภาษาข้ึนอยู่กับความเข้าใจกฎเกณฑ์
เมื่อผู้เรียนเข้าใจรูปแบบของภาษาและความหมายแล้วก็จะสามารถใช้ภาษาได้
![Page 37: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/37.jpg)
4.วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความความรู้ความเข้าใจ (The Cognitive Code Learning)
ลักษณะส าคัญ สิ่งที่น ามาให้ผู้เรียนเรียนจะต้องมีความหมาย
ควรจัดล าดับความยากง่ายเพ่ือช่วยให้การพัฒนาทักษะทางภาษา
เน้นให้เรียนรู้และเข้าใจระบบภาษาให้มากที่สุด
เน้นให้ผู้เรียนเข้าใจภาษาก่อนการแสดงออกทางภาษา
มุ่งกระบวนการสร้างความเข้าใจภาษาที่เรียนและเน้นทักษะ 4 ด้าน
![Page 38: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/38.jpg)
4.วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความความรู้ความเข้าใจ (The Cognitive Code Learning)
ขั้นตอนการสอน ให้ผู้เรียนอ่านข้อความหรือบทสนทนา
ให้ผู้เรียนท าแบบฝึก โครงสร้าง
ให้ผู้เรียนฝึกสนทนาโต้ตอบ
จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้ภาษาเพ่ิมเติม
![Page 39: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/39.jpg)
4.วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความความรู้ความเข้าใจ (The Cognitive Code Learning)
กลวิธีการสอน 1. การเขียนรูปประโยคใหม่
2. การเรียบเรียงประโยคและข้อความที่ยังไม่ได้เขียนให้เชื่อมโยงถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
3. การเขียนอธิบายเหตุการณ์จากภาพ
4. การเตรียมบทสนทนามาพูดหน้าชั้น
5. การเติมค าในช่องว่างในประโยค
6. การให้ขยายความหรือตีความหัวข้อข่าว
![Page 40: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/40.jpg)
4.วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความความรู้ความเข้าใจ (The Cognitive Code Learning)
ข้อดี มุ่งให้ผู้เรียนได้ใช้สติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์
เป็นการฝึกหัดสิ่งที่มีความหมาย
เป็นการพัฒนาทักษะ 4 ด้านพร้อมกัน
![Page 41: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/41.jpg)
4.วิธีสอนตามทฤษฎีการเรียนแบบความความรู้ความเข้าใจ (The Cognitive Code Learning)
ข้อเสีย ผู้สอนต้องเตรียมการและสร้างแวดล้อมที่ดี
จะใช้ได้ผลดีกับเด็กเก่งมากกว่าเด็กอ่อน
![Page 42: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/42.jpg)
5.วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Method)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ความสามารถที่จะใช้ภาษาด้วยตนเอง
![Page 43: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/43.jpg)
5.วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Method)
แนวคิดพ้ืนฐาน
การเรียนรู้ภาษาเกิดจากความคิดหรือพลังสมองของผู้ เรียนเอง ผู้เรียนจะค้นพบกฎเกณฑ์ทางภาษาจากการทดลองพูด ผู้สอนจึงควรมีบทบาทการพูดน้อยที่สุด
![Page 44: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/44.jpg)
5.วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Method)
ลักษณะส าคัญ ผู้สอนช่วยเท่าที่จ าเป็น
ผู้เรียนพยายามน าสิ่งที่รู้มาใช้ประโยชน์และจดจ่อกับบทเรียนตลอด
ควรเรียนเสียงเป็นอันดับแรก เพราะเป็นพ้ืนฐานส าคัญของภาษา
สร้างสถานการณ์ท่ีจะดึงความสนใจของผู้เรียนไปยังโครงสร้างภาษา
ใช้ข้อผิดพลาดของผู้เรียนเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าตอนใดไม่ถูกต้อง
![Page 45: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/45.jpg)
5.วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Method)
ขั้นตอนการสอน สอนการออกเสียง สระ และพยัญชนะต่าง ๆ โดยใช้แผนภูมิ เสียง
สอนการออกเสียงค าต่าง ๆ
สอนรูปประโยคต่าง ๆ โดยน าค ามารวมกัน
ฝึกอ่านประโยคต่าง ๆ ที่ผู้เรียนสร้างข้ึน
ฝึกเขียนประโยคที่เรียนมาแล้ว
![Page 46: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/46.jpg)
5.วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Method)
กลวิธีการสอน (และอปุกรณ)์ 1. แผนภูมิเสียง-สี/แผนภูมิค า/แผนภูมิฟิเดล (Fidel)
2. การนิ่งของผู้สอน
3. การช่วยกันแก้ไขข้อผิดพลาด
4. แท่งสี
5. ลักษณะท่าทีของการแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยตนเอง
6. ผลสะท้อนกลับทางโครงสร้าง
![Page 47: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/47.jpg)
5.วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Method)
ข้อดี ได้คิดและใช้ภาษาอย่างเต็มที่ ผู้สอนเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือ
ร่วมกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา
ผู้สอนมีเวลาและโอกาสสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน
![Page 48: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/48.jpg)
5.วิธีสอนแบบเงียบ (The Silent Method)
ข้อเสีย การสอนนามธรรมอาจเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก
ผู้เรียนรู้สึกอึดอัด เพราะไม่ทราบว่าอะไรถูกอะไรผิด
ไม่เหมาะกับผู้เรียนกลุ่มใหญ่
ผู้สอนต้องช านาญการสอนอย่างมีประสิทธิภาพมาก
![Page 49: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/49.jpg)
6.วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง (The Total Physical Response Method)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ที่สนุกสนานในการเรียนเพ่ือการสื่อสารเป็นภาษาต่างประเทศ
![Page 50: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/50.jpg)
6.วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง (The Total Physical Response Method)
แนวคิดพ้ืนฐาน
การสื่อความหมายของภาษาต่างประเทศอาจท าได้โดยการปฏิบัติหรือใช้กิริยาอาการประกอบ ผู้เรียนจะจ าได้ดีถ้าได้ปฏิบัติหรือแสดงการโต้ตอบด้วย
![Page 51: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/51.jpg)
6.วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง (The Total Physical Response Method)
ลักษณะส าคัญ ผู้เรียนไม่ต้องพูด แต่เป็นผู้ฟังและท าตามผู้สอน
ผู้สอนก ากับพฤติกรรมของผู้เรียนทั้งหมด
ผู้เรียนเลียนแบบการกระท าตามค าสั่งของผู้สอน
เมื่อผู้เรียนพร้อมท่ีจะพูดก็จะเป็นผู้ออกค าสั่งเอง
![Page 52: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/52.jpg)
6.วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง (The Total Physical Response Method)
ขั้นตอนการสอน ผู้สอนพูดค าสั่งเป็นภาษาต่างประเทศ แล้วปฏิบัติตามค าสั่งนั้นให้ดู
เป็นตัวอย่าง
เมื่อพร้อม ผู้สอนจะเริ่มค าสั่งใหม่ให้ผู้แทนผู้เรียนปฏิบัติตามพร้อมกันและฝึกปฏิบัติด้วยตนเอง
ออกค าสั่งให้ผู้แทนผู้เรียนปฏิบัติตามค าสั่งโดยผู้สอนไม่ท าให้ดูเป็นตัวอย่าง
เขียนค าสั่งต่าง ๆ บนกระดานด า ผู้สอนปฏิบัติตามค าสั่งนั้นด้วย
![Page 53: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/53.jpg)
6.วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง (The Total Physical Response Method)
กลวิธีการสอน 1. การใช้ค าสั่งเพ่ือก ากับพฤติกรรม
2. การสลับบทบาทของผู้สอนและผู้เรียน
3. การปฏิบัติตามค าสั่งที่ต่อเนื่องกันเป็นล าดับ
![Page 54: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/54.jpg)
6.วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง (The Total Physical Response Method)
ข้อดี ได้ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติจริง
ไม่เครียด ไม่มีการบังคับให้ผู้เรียนพูดเมื่อยังไม่พร้อม
ได้เรียนรู้ภาษาท่ีใช้ในชีวิตประจ าวัน ใช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารได้
เหมาะสมส าหรับผู้เรียนในชั้นเริ่มเรียน
![Page 55: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/55.jpg)
6.วิธีสอนแบบการตอบสนองด้วยท่าทาง (The Total Physical Response Method)
ข้อเสีย ไม่สามารถสอนสิ่งที่เป็นนามธรรมได้
สอนโครงสร้างซับซ้อนไม่ได้ผลดีเท่าไร
![Page 56: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/56.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้เรียนเรียนภาษาท่ีใช้สื่อสารในชีวิตประจ าวัน
![Page 57: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/57.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
แนวคิดพ้ืนฐาน
สมองของมนุษย์เปี่ยมด้วยพลัง แต่ถูกน ามาใช้เพียงเล็กน้อย ผู้สอนจึงควรโน้มน้าวให้ผู้เรียนได้ใช้พลังสมองของตนอย่างเต็มที่ โดยขจัดความกลัวและข้อห้ามต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคในการเรียนภาษา
![Page 58: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/58.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
ลักษณะส าคัญ ผู้สอนเป็นเจ้าหน้าที่ในห้องเรียน
การเรียนการสอนต้องไม่ท าให้ผู้เรียนวิตกกังวล
ห้องเรียนต้องมีความสะดวกสบาย บรรยากาศผ่อนคลาย แฝงการเรียนรู้ไวยากรณ์รอบห้องเรียน ให้ผู้เรียนเรียนโดยไม่ตั้งใจ
แนะน าผู้เรียนทั้งหมดให้รู้จักกัน ใช้บทสนทนาเป็นสื่อการเรียน
![Page 59: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/59.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
ขั้นตอนการสอน น าเข้าสู่บทเรียนโดยการทักทายและชักชวนให้ผู้เรียนเลือกชื่อใหม่
เป็นภาษาต่างประเทศ แล้วทักทายกันตามบทสนทนาสั้น ๆ
อ่านบทสนทนาที่ต้องการให้ผู้เรียนฟัง และอธิบายสิ่งที่ผู้เรียนไม่เข้าใจ
อ่านบทสนทนาให้ผู้เรียนฟังอีกครั้ง ผู้สอนอ่านน า ผู้เรียนอ่านตาม
![Page 60: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/60.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
ขั้นตอนการสอน (ต่อ) อ่านบทสนทนาให้ผู้เรียนฟังอีกครั้งหนึ่ง โดยเปิดเพลงประกอบด้วย
จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนฝึกเสริมเนื้อหาจากบทสนทนาโดยการร้องเพลง เล่นเกม แสดงบทบาทสมมติ
![Page 61: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/61.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
กลวิธีการสอน 1. การจัดห้องเรียน
2. การเรียนจากสภาพแวดล้อม
3. การชักชวนให้อยากเรียน
4. การสร้างมโนภาพ
5. การเลือกลักษณะประจ าตัวใหม่
6. การแสดงบทบาทสมมติ
7. การใช้เพลงประกอบ
8. การใช้กิจกรรมต่าง ๆ
![Page 62: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/62.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
ข้อดี เกิดความรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและอารมณ์ สภาพแวดล้อมที่น่า
เรียน
ไม่กลัวหรือกังวลว่าจะท าอะไรผิด
ได้เรียนภาษาที่ใช้จริงและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาด้วย
![Page 63: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/63.jpg)
7.วิธีสอนแบบชักชวน (Suggestopedia)
ข้อเสีย เหมาะสมกับผู้เรียนกลุ่มเล็กมากกว่า
ผู้สอนต้องมีความอดทน เชื่อในวิธีการสอนแบบชักชวน
ผู้เรียนอาจมีความรู้ไวยากรณ์ไม่ดีพอได้
![Page 64: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/64.jpg)
8.วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ ์(Community Language Learning)
วัตถุประสงค ์ เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ภาษาที่เรียนติดต่อสื่อสารได้และเรียนรู้เกี่ยวกับการ
เรียนรู้ของตนเอง
![Page 65: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/65.jpg)
8.วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ ์(Community Language Learning)
แนวคิดพ้ืนฐาน
ยึดผู้เรียนเป็นหลัก เน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนและระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน ท าให้ผู้เรียนรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
![Page 66: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/66.jpg)
8.วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ ์(Community Language Learning)
ลักษณะส าคัญ
ผู้สอนเป็นผู้ให้ค าปรึกษา เข้าใจความรู้สึกของผู้เรียน และสนับสนุนให้ผู้เรียนเอาชนะภาษาใหม่ท่ีเรียนให้ได้
ผู้เรียนเป็นอิสระ และจะรู้สึกอิสระเพ่ิมข้ึนเรื่อย ๆ
![Page 67: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/67.jpg)
8.วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ ์(Community Language Learning)
ขั้นตอนการสอน ให้ผู้เรียนนั่งเป็นวงกลม โดยมีไมโครโฟนและเครื่องบันทึกเสียงอยู่
ตรงกลาง ผู้เรียนแนะน าตัวแล้วเริ่มสนทนากัน
ผู้เรียนฟังเทปท่ีบันทึกไว้ และศึกษาบทสนทนาทีละประโยค
แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่มย่อยช่วยกันสร้างประโยคใหม่จากค าศัพท์ในบทสนทนาตอนต้น
ให้ผู้เรียนพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับ
![Page 68: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/68.jpg)
8.วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ ์(Community Language Learning)
กลวิธีการสอน 1. การอัดเทปการสนทนาของผู้เรียน
2. การถอดบทสนทนาเป็นภาษาเขียน
3. การไตร่ตรองถึงประสบการณ์
4. การไตร่ตรองด้วยการฟัง
5. คอมพิวเตอร์มนุษย์
6. งานกลุ่มเล็ก
![Page 69: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/69.jpg)
8.วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ ์(Community Language Learning)
ข้อดี มีแรงจูงใจในการเรียน เพราะริเริ่มการเรียนด้วยตนเอง
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตนอย่างเต็มที่
มีปฏิสัมพันธ์และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
![Page 70: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/70.jpg)
8.วิธีสอนแบบกลุ่มสัมพันธ ์(Community Language Learning)
ข้อเสีย ไม่ได้ผลกับผู้เรียนกลุ่มใหญ่
ผู้เรียนต้องมีความสามารถระดับเดียวกัน
![Page 71: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/71.jpg)
9.วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (The Communicative Approach)
วัตถุประสงค ์
เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพ่ือสื่อความหมายได้เหมาะสมกับสภาพสังคม การจัดการเรียนการสอน
![Page 72: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/72.jpg)
9.วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (The Communicative Approach)
แนวคิดพ้ืนฐาน ภาษาคือ เครื่องมือในการสื่อสาร และเป้าหมายของการสอนภาษา
คือ เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีความสามารถในการสื่อสาร
![Page 73: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/73.jpg)
9.วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (The Communicative Approach)
ลักษณะส าคัญ ต้องให้ผู้เรียนรู้ว่าก าลังท าอะไร เพ่ืออะไร
ต้องสอนในลักษณะบูรณาการ ไม่แยกส่วน
ได้ท ากิจกรรมการใช้ภาษาเหมือนในชีวิตประจ าวัน
ฝึกใช้ภาษามาก ๆ โดยผ่านกิจกรรมรูปแบบต่าง ๆ เท่าท่ีเป็นไปได้
ให้ความส าคัญกับการใช้ภาษามากกว่าวิธีการใช้ภาษา
![Page 74: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/74.jpg)
9.วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (The Communicative Approach)
ขั้นตอนการสอน 1. ให้ข้อมูลทางภาษาแก่ผู้เรียน
2. ฝึกใช้ภาษาท่ีเพ่ิงเรียนรู้ โดยมีผู้สอนเป็นผู้น าการฝึก
3. ใช้ภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยผู้สอนเป็นผู้แนะแนว
![Page 75: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/75.jpg)
9.วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (The Communicative Approach)
กลวิธีการสอน (และสือ่) การใช้สื่อของจริง
การเรียงประโยคที่จัดวางอย่างสับสน
เกมทางภาษา
ภาพชุดเรื่องราว
บทบาทสมมต ิ
![Page 76: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/76.jpg)
9.วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (The Communicative Approach)
ข้อดี สอดคล้องกับเป้าหมายของการเรียนภาษา
เน้นกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ภาษาในสถานการณ์ต่าง ๆ
เรียนรู้การท างานร่วมกับผู้อื่นเป็นคู่
![Page 77: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/77.jpg)
9.วิธีสอนตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (The Communicative Approach)
ข้อเสีย ผู้สอนต้องมีความพร้อมในด้านต่าง ๆ สูง เช่น ความรู้ การจัด
กิจกรรม การสร้างสถานการณ์
เน้นทักษะการฟัง-พูด มากกว่าการอ่านและการเขียน
![Page 78: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/78.jpg)
กิจกรรมท้ายบทเรียน แบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน
เลือกวิธีสอน (ไม่ซ้ า) กลุ่มละ 1 วิธี
เลือกเนื้อหาภาษาไทย (ไม่ซ้ า) 1 เรื่องท่ีสอดคล้องกับวิธีสอนที่เลือก
ระดมสมองกันในกลุ่มว่าจะสอนเนื้อหาที่เลือกตามวิธีสอนข้างต้นอย่างไร
อธิบายรายละเอียดทีละขั้นตอนให้เข้าใจ
ส่งรายชื่อสมาชิกในกลุ่ม วิธีสอน และเนื้อหาก่อนการน าเสนอ
![Page 79: Week 3 of TTFL](https://reader033.vdocuments.pub/reader033/viewer/2022051817/548c7b45b47959e20c8b641c/html5/thumbnails/79.jpg)