77for Quality Vol.16 No.149

March 2010

Financefor Quality

ณภัทร วิไลสกุลยง

อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น

ใน

หากพูดถึงเรื่องการลงทุน คนจำนวนมากคงนึกไปถึงการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ การลงทุนในหุ้น การลงทุนในทองคำ การลงทุน

ในตราสารการเงินต่าง ๆ ฯลฯ แน่นอนที่สุดว่าความรู้เกี่ยวกับการลงทุนที่กล่าวมาข้างต้นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่ทุกคนจะต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ไว้ แต่ยังมีการลงทุนอีกประเภทหนึ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการลงทุนใด ๆ ทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ สิ่งนั้นก็คือ การลงทุนในตัวเอง หลายคนอาจจะคิดว่าการลงทุนในตัวเองนั้นหมายถึงการลงทุนทางด้านการศึกษาเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้วการลงทุนในตัวเองตามความหมายของผู้เขียนที่กำลังจะอธิบายต่อไปนั้น มีความหมายที่มากกว่าเพียงแค่ ใบปริญญา

การลงทุนในตัวเอง ตามความหมายของผู้เขียน หมายถึง การเพิ่มมูลค่าในตัวเองให้ครบทั้ง 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่

1. ร่างกาย 2. ความคิด 3. อารมณ์ 1. การลงทุนทางด้านร่างกาย เชื่อแน่ว่าพวกเราทุกคนย่อม

ตระหนักถึงคุณค่าของการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ แต่จะมี สักกี่คนที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง โดยพยายามจัดความสำคัญให้กับสิ่งนี้ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะข้ออ้างยอด-นิยมที่พวกเรามักได้ยินได้ฟังเสมอจากคนรอบข้างที่ไม่ยอมออกกำลังกายเลยก็คือ ไม่มีเวลา ซึ่งการที่เราอ้างว่าไม่มีเวลาในการที่จะออกกำลังกายนั้น ก็ย่อมแสดงว่าเราไม่เห็นความสำคัญของสิ่งนี้เลยต่างหาก เมื่อเราไม่เห็นคุณค่าของการดูแลร่างกายตัวเอง เราก็จะไม่จัดเวลาของเราให้กับสิ่งนี้ ทั้ง ๆ ที่การลงทุนเพื่อดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของคนเรานั้น นับได้ว่าเป็นการลงทุนชนิดเดียวในโลกนี้ที่ให้ผลตอบแทนมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว เพราะอวัยวะทุกส่วนของเรานั้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลกซึ่งหากมีการชำรุด เสียหายไปแล้ว โอกาสที่จะให้กลับมาดีดังเดิมนั้นคงเป็นไปได้ยาก แต่ถึงรู้อย่างนี้แล้วก็ตามยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยคิดเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของตัวเองเลย จนกระทั่งเมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าร่างกายของตัวเองนั้นถูก รุมเร้าด้วยโรคภัยไข้เจ็บเรื้อรังชนิดต่าง ๆ ที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้อีก-ต่อไป และเมื่อถึงเวลานั้นก็จะตระหนักได้เองว่าเพชรนิลจินดา หรือเงินทองเป็นหมื่นล้านก็ไม่อาจใช้ทดแทนร่างกายของเราได้เลยแม้แต่น้อย ดังนั้น

การลงทุนตัวเอง

Finance

Vol.16 N

o.1

49 M

arch 2010

78

ที่เหี้ยมโหดทารุณได้ ทั้งนี้ก็เพราะ ความรู้ กับ ความคิด นั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนั้นเอง

ดังนั้น การที่คนเราส่วนใหญ่ทุกวันนี้ต่างพากันมุ่งเน้นไปที่การลงทุนด้านการศึกษาหา ความรู้ แต่เพียงอย่างเดียวไปตาม ๆ กันนั้น จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่เสี่ยงมาก เพราะหากเรามีแต่ความรู้มาก-มายแต่กลับไม่มีความคิด เราก็อาจจะหลง-ผิดหรือทำทุกอย่างไปตามกระแสสังคมซึ่งนับวันจะเลวร้ายขึ้นทุกขณะ เมื่อนั้นหายนะก็จะมาเยือนอย่างแน่นอน เป็นที่น่าสังเกตว่ามนุษย์เราทุกวันนี้ต่างมีวิถีชีวิตที่คล้าย-คลึงกันราวหุ่นยนต์ที่ทำทุกอย่างตามกันไปโดยอัตโนมัติ จนแทบจะเรียกได้ว่าวัน ๆ ไม่ต้องใช้ ความคิด อะไรกันเลยทีเดียว ซึ่งหากชีวิตของทุกคนสามารถดำเนินตาม ๆ กันไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อใดก็ตามที่ชีวิตของ ใครคนใดคนหนึ่งเริ่มติดขัดไม่เป็นไปตามรูปแบบเดิม ๆ ที่คาดหวังไว้ เมื่อนั้นคน ๆ นั้นก็จะไม่สามารถใช้ ความคิด ของตัวเองในการแก้ไขปัญหาชีวิตของตัวเองได้เลย เพราะไม่เคยได้รับการฝึกฝนให้ใช้ ความคิด มาก่อน และสุดท้ายก็อาจคิดสั้นหนี-ปัญหาหรือตัดสินใจทำสิ่งที่เลวร้ายเกินกว่าจะเยียวยาได้

แน่นอนที่สุดว่าสิ่งที่มีค่ามากมายยิ่งกว่าความรู้และทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ในโลกนี้ก็คือ ความคิดและทัศนคติที่ดี ของคนเรานั่นเอง เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะกำหนดให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ออกมาอย่างถูกต้องเหมาะสม การลงทุนทางด้านความคิดจึงหมายถึงการที่เราจะต้องพยา-ยามใช้สมองของเราในการแยกแยะความดีออกจากความชั่วให้ได้เป็นอย่างดี สามารถใช้เหตุและผลในการตัดสินปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตของเราอย่างมีสติ โดยไม่คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว การให้ความสำคัญกับการลงทุนทางความคิดโดยการพยายามฝึก-ตัวเองให้ใช้ ความคิดและทัศนคติที่ด ี ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตนั้น จะช่วยให้คนเรามีความชำนาญในการใช้ความคิด-มากขึ้น มีความสุขุมรอบคอบและเฉียบ-แหลมมากขึ้นในการตัดสินใจต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะช่วย

การเริ่มต้นจัดสรรเวลาในแต่ละวันให้กับการออกกำลังกายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งการรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ นับว่าเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาด ซึ่งจะให้ผลตอบแทนสูงสุดในระยะยาวเลยทีเดียว

นอกจากนี้แล้วการลงทุนทางด้านร่างกายยังครอบคลุมไปถึงการรู้จักดูแลบุคลิกภาพภายนอกของตัวเราเองอีกด้วย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หน้า ผม เราจะต้องรู้จักพิถีพิถันเลือกใช้ในสิ่งที่จะช่วยให้เราดูมีบุคลิกภาพที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องใช้แต่สินค้าที่มีราคาแพง หรือมียี่ห้อหรูหราแต่อย่างใด เพียงแต่ให้เรารู้จักเลือกใช้ของที่เหมาะกับบุคลิกของตัวเอง สวมใส่สบาย ดีไซน์เก๋ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงเลย คนที่รู้จักดูแลรูปร่างหน้าตาของตัวเองให้ดูดี มีสง่าราศรีอยู่ตลอดเวลานั้น ถือได้ว่าเป็นการสร้าง ฮวงจุ้ยที่ดีให้กับตัวเองอย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ก็ขนาดบ้านช่องที่อยู่อาศัยคนส่วน-มากยังให้ความสำคัญในการจัดวางตกแต่งให้ถูกหลักฮวงจุ้ยกันเลย เพื่อให้คนในบ้านมีความเจริญก้าวหน้า ดังนั้น ฮวงจุ้ยที่ร่างกายของแต่ละคนนั้นยิ่งสำคัญกว่าบ้านเป็นไหน ๆ เพราะจัดเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างมากในการที่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพให้บุคคลผู้นั้นประสบความสำเร็จต่อไป รู้แบบนี้แล้วจะยังคงละเลยกับร่างกายของตัวเองต่อไปอีกหรือ

2. การลงทุนทางด้านความคิด เมื่อพูดถึงการลงทุนทางด้านความคิด คน-ส่วนใหญ่อาจจะคิดถึงการศึกษาต่อในระดับต่าง ๆ ที่สูงขึ้นไป ใบปริญญาจำนวนมากมายที่หลายคนสะสมไว้ประดับผนังบ้าน บาง-คนเรียนจบได้รับปริญญานับรวมกันทั้งสิ้นเป็นสิบ ๆ ใบก็มี ซึ่งผู้เขียนไม่คิดแม้แต่จะเถียงแน่นอนว่าเขาเหล่านั้นต่างมี ความรู้ มากมายหลายด้าน เท่ากับจำนวนใบปริญ-ญาที่เขาได้รับมาอย่างแน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่ใบปริญญาไม่สามารถรับรองได้ก็คือ ผู้ที่สำเร็จการศึกษาเหล่านั้นมีความคิดหรือไม่ จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเคยได้รับฟังข่าว-สารมาตลอดว่าแม้แต่คนที่มีการศึกษาสูงจำนวนมากมายได้ทำการประพฤติผิดกฎ-หมาย ผิดศีลธรรม หรือแม้แต่เป็นฆาตกร

Finance

Vol.16 N

o.1

49 M

arch 2010

79

ให้บุคคลนั้นสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตทุก ๆ ด้านอย่างมีความสุข

3. การลงทุนทางด้านอารมณ์ อัน-ที่จริงแล้วการลงทุนทางด้านอารมณ์ถือเป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการลงทุนทางด้านความคิดนั่นเอง ทั้งนี้เพราะอารมณ์ของคน-เรานั้นจะดีหรือแย่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผลมาจากความคิดของคนเรานั่นเอง ดังทฤษฎีอารมณ์ที่สามารถแสดงภาพความเชื่อม-โยงได้ดังนี้

จากแผนภาพข้างต้นเราจะเห็นว่า

ความคิดและทัศนคติ ของคนเรานี่เองที่เป็นต้นเหตุของการเกิดอารมณ์ประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ดีใจ เสียใจ โกรธ เกลียด แค้น ฯลฯ และเมื่อคนเราถูกครอบงำด้วยอารมณ์ประเภทต่าง ๆ ดังที่กล่าวมา คนเราก็จะแสดงพฤติกรรมตามที่อารมณ์ในขณะนั้นนำพาไปนั่นเอง และเมื่อแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ออกไปแล้วก็คงมีแต่มนุษย์เท่านั้นที่จะนำเหตุการณ์และการกระทำของตนเองที่เกิดขึ้นไปแล้วมาคิดใหม่ได้ ซึ่งหากสามารถคิดทบทวนและแยกแยะความผิดชอบชั่วดีได้ คน ๆ นั้นก็จะเกิดการเรียนรู้จนกระทั่งสามารถปรับ-เปลี่ยนความคิดและทัศนคติของตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้เรื่อย ๆ แต่หากว่าคนนั้นไม่สามารถนำเหตุการณ์และเรื่องราวที่เกิด-ขึ้นมาปรับปรุงความคิดและทัศนคติของตัวเองให้ดีขึ้นได้ ก็หมายความว่าบุคคลนั้นไม่ได้มีการฝึกฝนทางความคิดเลย ซึ่งก็คือ ไม่ได้มีการลงทุนทางด้านความคิดของตัวเองเลย ดังนั้น บุคคลนั้นก็จะยังคงมีความคิดและทัศนคติที่ไม่ถูกต้อง อันจะนำไปสู่อารมณ์ที่ไม่ดีประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธ เกลียด แค้น พยาบาท ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้บุคคลผู้นั้นกระทำการ ใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมหรือรุนแรงเสียหายได้ ดังที่ เรามักพบเห็นพฤติกรรมก้าวร้าว

รุนแรงที่นับวันจะมีมากขึ้นของคนในสังคมทุกวันนี้

เมื่อเราทราบแล้วว่าต้นเหตุที่แท้-จริงของการเกิดอารมณ์ประเภทต่าง ๆ นั้นมาจาก ความคิดและทัศนคติ ของเรานั่นเองเป็นตัวขับเคลื่อนที่แท้จริง ดังนั้น การลงทุนทางด้าน ความคิด สามารถให้ประโยชน์กับบุคคลนั้นได้ถึง 2 ต่อด้วยกัน นั่นก็คือ นอกจากจะช่วยให้เป็นคนที่มีความคิดและทัศนคติที่ดีแล้ว ยังทำให้บุคคลนั้นมีความสามารถในการที่จะปรับ-เปลี่ยนอารมณ์และพฤติกรรมของตนเองให้มีความสมดุลเป็นปกติสุข โดยไม่ต้องตกเป็น ทาสอารมณ์ ของตัวเองอีกต่อไป มีคนจำนวนมากมายทุกวันนี้ที่แม้มีความรู้มากมาย แต่กลับทำเรื่องชั่วช้าลงไปเพียง เพราะตกเป็น ทาสอารมณ์ ของตัวเอง จนกระทั่งเกิดความเสียหายใหญ่หลวง เสียชื่อเสียงทั้งต่อตนเองและวงศ์ตระกูลอย่างน่าเสียดาย

จากที่ได้อธิบายมาแล้วข้างต้นอย่างละเอียด ถึงประโยชน์และคุณค่าของการลงทุนในตัวเองทั้ง 3 ด้านแล้ว ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยให้คนในสังคมเริ่มหันมาใส่ใจและลงทุนในตัวเองกันอย่างจริงจังเสียที ซึ่งหากทุกคนพร้อม ใจกันลงทุนในตัวเองแล้ว เชื่อแน่ว่าเราจะได้ร่วมมือกันสร้างสังคมใหม่ที่เป็นสุข ซึ่งผู้คนในสังคมทุกเพศทุกวัยต่างก็จะได้รับผลตอบแทนที่สุดแสนจะคุ้มค่า แน่นอนที่สุดว่าประโยชน์จะเพิ่มพูนทวีขึ้นมากมาย

ทฤษฎีอารมณ์

ความคิดและ ทัศนคติ

อารมณ์ การกระทำ ทบต้นทบดอกกันอย่างไม่รู้จบ เพราะประเทศของเราจะสามารถประหยัดงบ-ประมาณได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น งบประมาณด้านค่ารักษาพยาบาล งบประ-มาณด้านการรักษาความปลอดภัยจากอาชญากรรมต่าง ๆ จากนั้นรัฐบาลก็จะสามารถนำงบประมาณที่ประหยัดได้นี้ไปลงทุนพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ ให้เจริญ-ก้าวหน้ากันต่อไป

จะเห็นว่า การลงทุนในตัวเอง นี้ เป็นเรื่องที่กระทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวของเรา-เองโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทองแต่อย่างใด อีกทั้งยังสามารถก่อให้เกิดผลประโยชน์ตอบแทนกลับมามากมายทั้งต่อตนเองและประเทศชาติ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างพากันมองข้าม โดยมักมุ่งสนใจแต่การลงทุนที่จะให้ผล-ตอบแทนอย่างรวดเร็วในรูปของ เงินทอง เสียเป็นส่วนใหญ่ จนทำให้เกิดการแก่ง-แย่งชิงดีชิงเด่นกันอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ผู้คนในสังคมทุกวันนี้มีแต่ความเครียดและมีพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนไป ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว การลงทุนในตัวเอง นี่แหละที่จะเป็นรากฐานสำคัญ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างชาญฉลาดในประเภทอื่น ๆ และจะทำให้ ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนกลับมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น เงินทอง สุขภาพ และสังคม ที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป