MASSWELL CHEMICAL GROUP CO., LTD.37 หมู่ 12 ถนน สุขุมวิท 103 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร10260

37 Chalermprakiet R.9 Soi 30 Yaek 13 Dorkmai, Pravej, Bangkok 10250 Thailand

TEL: 02-7262700FAX: 02-3281219 02-3280446Email: info@masswellgroup.comWebsite: www.masswellgroup.comCH

EMIC

AL PR

ODUC

T FOR

HANDBOOK

เรื่องของความสะอาด! ทานคงจะเคยไดยินขาวทั้งทางวิทยุ ทีวี และแผนปายโฆษณาชักชวนให

ประชาชนรวมมือกันทำความสะอาด และรักษาความสะอาดกันมาแลว แตคำ

ชักชวนเหลานั้นหาไดชี้นำใหผูฟง และผูอานกระทำตามใหเกิด ผลดีตามนั้นไม

เพราะผูฟงและผูอานจำนวนหนึ่งมักจะนำเอาสิ่งที่ตนพบเห็นมาเปนขอแกตัว

เสมอ เชน นำเอา สถานที่ราชการ ซึ่งเปนสถานที่ที่ทำงานของทางราชการเอง

มาอางวาไมไดทำใหสะอาดเทาที่ควร ขยะมูลฝอยตางๆยังเกลื่อนพ้ืน กระจก

หนาตางสกปรก แลวเรื่องอะไรจะไปเชื่อคำชักชวนนั้นๆ หรือไมก็ใหดูเจาหนาที่

ทำความสะอาด ซึ่งทางราชการจัดไว ก็ไมไดตั้งใจทำในหนาที่ใหดี เชน เก็บ

กวาดขยะนำไปซุกไวในที่ลับตา ซึ่ง มิใชที่ทิ้งขยะ ทำเสร็จก็แลวกันไป ไมไดให

ความสนใจในงานที่ตนกำลังทำอยู แลวเรื่องอะไรเขาจะตองเชื่อฟง คำชักจูง

เหลานั้น

! จึงมีความจำเปนอยางยิ่งที่ผูชักนำหรือชักชวนใหคนอื่นทำความสะอาด

หรือรักษาความสะอาดจะ ตองทำแบบอยางใหคนอื่นเห็นเสียกอนแลวจึง

ชักชวนใหคนอื่นทำความสะอาดหรือรักษาความสะอาดกันได ถาพูดถึงตอนนี้

อาจจะมีอีกกลุมแยงวา มีงบประมาณสำหรับบำรุงรักษาไมพอเพียง แตถา

พิจารณาดูโดยใช เหตุและผลแลว คาใชจายในการกอสรางอาคาร และสิ่ง

MAI

NTEN

ANCE คู่มือการใช้

น้ํายาทําความสะอาด

ตกแตงตางๆ คิดเปนเงินจำนวนนับลานๆบาท เมื่อ ไดใชจายเงินมหาศาล ถึงขนาดนี้เพ่ือกอสราง ก็ควรจะ

จัดสรรงบประมาณอีกกอนหนึ่งสำหรับการบำรุงรักษา เพ่ือปองกันการเสื่อมสภาพกอนกำหนด

! ปญหานี้นาคิดอยูอยางหนึ่งก็คือ เจาหนาที่ทำความสะอาด หรือบำรุงรักษา รูจักวิธีทำความสะอาด

หรือบำรุงรักษาที่ถูกตองหรือเปลา เขาเหลานั้นเขามาทำงานนี้ดวยความตั้งใจทำงานในหนาที่หรือเปลา ถา

เปลาก็แนละ ยังมีปญหาเดียว คือปญหาวาเขารูจักทำความสะอาด หรือรูจักบำรุงรักษาที่ถูกตองหรือเปลา

ไมรูจักสิ่งนี้ ก็ไมมีปญหา เพราะบุคคลที่รูจักทำความสะอาดหรือบำรุงรักษายังมีพอที่จะชี้แนะหรือฝกอบรม

ใหได เชน บริษัท หาง รานที่จำหนาย อุปกรณทำความสะอาด เขาสามารถจะฝกอบรมบุคคลเหลานั้นได

หรือบริษัทที่รับทำความ สะอาดตางๆ ก็พอจะมีเจาหนาที่ ที่ฝกอบรมใหได

ทําไมต้องทําความสะอาด! มนุษยเรารูจักการ รักษาความสะอาดเปนเวลานานมาแลว เริ่มตั้งเตการอาบน้ำอยางเปนพิธีการตั้งแตสมัยจักรวรรดิโรมัน ซึ่งจะอาบรวมกันในสระใหญ สัก 7 วัน หรือ 1 เดือนอาบครั้ง ! สวนประกอบของเคมีที่มนุษยเรารูจักผลิตใช ในการรักษาความสะอาดเปนอยางแรก คือสบู สวนชนชาติที่ปฎิวัติการทำความสะอาด และทำกันอยางเปนชิ้นเปนอันชาติแรก คือ ชนชาวอังกฤษ เหตุผลที่สำคัญที่สุดของการทำความสะอาด คือ ขจัดความสกปรก เมื่อรางกายสะอาดเราก็เกิดความสบายตัว เชนเดียวกับ วัสดุตางๆ ที่อยูรอบตัวเรา จะเปนที่บานหรือสถานที่ทำงานก็ตามเมื่อเรามองไปที่ไหนก็สะอาดสะอาน และเปนระเบียบเรียบรอย เราก็อยากอยูมีความสบายกายสบายใจ เมื่อเกิดความสบายใจ ก็ทำใหเกิดสุขภาพจิตที่ด ีมีความขยัน ขันแข็ง มีความสดใสรื่นเริงและประการสุดทายซึ่งในเมืองไทยเราไมคอยจะคิดถึง คือ การทำความสะอาดก็เปนอีกวิธีหนึ่งที่ชวยขจัดเชื้อโรค! สรุปแลวการใชจายเพ่ือความสะอาดจะเปนเงินกอนใหญ หรือเล็กก็ตาม แตใหผลลัพธที่คุมคาเทาตัว

WITH PINE วิทไพน์

น้ำยาดับกลิ่นฆาเชื้ ้อ ขจัดเชื้อแบคทีเรียที่เปนตัวทำใหเกิดกลิ่น

CREAM SOAP ครีมโซพ

สบูครีมอาบน้ำที่ปลอดภับ มีกลิ่นหอม ผลิตขึ้นสำหรับใชทำความสะอาดผิวหนังโดยเฉพาะ

TODDY ทอดดี ้น้ำหอมเอนกประสงค ใชผสมทำผาเย็นหรือใสขวดฉีดสเปรยสำหรับฉีดใหองปรับอากาศ

[2]

ACTIVE แอคทีฟสบูน้ำไมมีสีไมมีกลิ่น ใชสำหรับทำความสะอาดผิวหนังโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

เราต้องทําความสะอาดอะไรบ้างในอาคาร! เราไดพูดถึง คุณประโยชนในการทำความสะอาดมาแลว ตอ

มาเราก็จะตองมาดูวาเราควรทำความสะอาดที่ไหนอะไรบางใน

อาคาร ที่อยูอาศัยหรือที่ทำงาน ซึ่งก็มีทุกสิ่งทุกอยางคลายๆกัน

ในอาคารหนึ่งจะแบงเปนสวนใหญๆ ได 6 สวน

1) พ้ืน

2) กำแพง

3) หนาตาง กระจก

4) หองน้ำ

5) เฟอรนิเจอร โทรศัพท เครื่องพิมพดีด เครื่องคำนวณ ฯลฯ

! แตละสวนตองการการทำความสะอาดและบำรุงรักษา

เพ่ือใหสวยงามและยืดอายุของวัสดุนั้นๆใหอยูในสภาพที่ใชงานไดตลอดไป

ขั้นตอนในการทําความสะอาดและบํารุงรักษาพื้นขั้นตอนท่ี 1เก็บกวาดของและฝุนละออง

ขั้นตอนท่ี 2ขัดลาง

ขั้นตอนท่ี 3รักษาพ้ืนไมใหสึกหรอเร็วและคงสภาพสวยงามอยูเสมอ

การบำรุงรักษาพ้ืนไมมีอะไรที่ยาก ที่สำคัญคือ เมื่อทำแลวจะไดผลลัพธที่ดีแคไหน

ขั้นตอนท่ี 1

! เครื่องมือที่ตองใชก็มี ไมกวาด และ ที่โกยผง แตถาเรามีกำลังคนไมพอในสถานที่ใหญมากๆ เราก็

ควรใชเครื่องดูดฝุน ดูดน้ำ ดูดเก็บฝุนละออง และสิ่งสกปรกตางๆ หรือใชไมดันฝุน

ขั้นตอนท่ี 2

! เครื่องมือที่ตองใชก็มี ม็อบ หรือ ชูเกอร หรือ ผา หรืออะไรก็ไดสำหรับชุบน้ำยาลาง ทาลงบนพ้ืน

เครื่องขัดพรอมแปรง หรือ แผนขัดลางจะขัดไดสะอาด และถังน้ำพลาสติกหลายๆใบ

! ใชม็อบหรือชูเกอร หรือผาจุมน้ำยาที่ผสมกับน้ำตามความเขมขนที่ตองการ ทาลงบนพ้ืนใหชุมทั้งพ้ืน

ทิ้งไวสัก 5 นาทีแลวเดินเครื่องขัด ขัดลางใหทั่ว จากนั้นใชยางปาดน้ำ ปาดไล น้ำสกปรกออกจากพ้ืนที่ขัด

ลางแลว หรือใชเครื่องดูดน้ำ ดูดเก็บน้ำสกปรก

[3]

! เสร็จแลวใชม็อบหรือชูเกอร หรือผาจุมน้ำสะอาดบิดใหหมาดๆ เช็ดน้ำยาที่หลงเหลือบนพื้นที่ผาน

การไลน้ำแลวทันท ีอยาปลอยใหแหงกอน เพราะคราบน้ำสกปรกจะติดพ้ืนและเช็ดออกลำบาก ทำเชนนี้จน

ทั่วบริเวณที่ตองการทำความสะอาด

ขอควรระวัง

- อยาเดินเครื่องขัดไวเกินไป อาจจะทำใหสะอาดไดไมทั่วถึง

- ควรจะเช็ดดวยน้ำสะอาดอยางนอย 2 ครั้ง เพ่ือเก็บน้ำยาลางที่อาจจะหลงเหลือติดพ้ืนออกใหหมด

ขั้นตอนท่ี 3

! พ้ืนที่ไมไดรับการปองกัน เมื่อมีการเสียดสีหรือ กระแทก จะเปนรอย และสึกเร็วดังนั้น จึงตองใช

น้ำยาเคลือบเงาพ้ืนหรือขี้ผึ้ง เคลือบหรือขัด เพ่ือลดการเสียดสีหรือ กระแทกทำใหพ้ืนเสียหาย โปรดสังเกตดู

รูปดานลางพื้นท่ียังไมไดเคลือบเงา พื้นท่ีเคลือบเงาแลว

! ! พื้นท่ียังไมไดเคลือบ< < < < พื้นท่ีเคลือบแลว

! พ้ืนที่เคลือบแลวจะมีพ้ืนผิวอีกชั้นหนึ่งบนผิวของพ้ืน ชวยปองกันเม็ดทราย หรือเม็ดฝุนฯลฯ ที่ติดมา

กับรองเทา บด เสียดสีถึงผิวของพ้ืนโดยตรง เปนการชวยรักษาผิวของพ้ืนใหคงทนขึ้นและมีความสวยงาม

! หลังจากที่เคลือบเงาพ้ืนแลวอยางนอยๆ ก็ตองมีการทำความสะอาดประจำวัน และเพ่ือยืดอายุของ

ผิวน้ำยาเคลือบเงาพื้นดวย ควรจะมีการปดกวาด เช็ดทำความสะอาด ดวยน้ำยา เช็ดพื้นประจำวัน

“คอนโทล” ที่ไมทำใหอันตรายตอผิวน้ำยาเคลือบเงาพื้นเพื่อไมใหเม็ดทรายหรือฝุนละอองบดผิวน้ำยา

เคลือบเงาพ้ืนเสียหายหมด เมื่อเราเดินเหยียบ และใชเครื่องขัดพรอม แผนขัดเงาปดเงาพ้ืนดวยน้ำยาปดเงา

พ้ืน “สเปรยบัฟ” ซ้ำอีกครั้งหนึ่งใหเกิดความเงางาม

มีความหนาขึ้น<

ผลิตภัณท่ีใชในการรักษาพื้นน้ำยาลอกแวกซ "สตริปเปอร"น้ำยาลางพ้ืนสกปรก "เพาเวอร"น้ำยารองพ้ืน “ฟลอเบท”น้ำยาเคลือบเงาพ้ืน "เอ็กซตราโคท" และ "ซุปเปอรโคท"น้ำยาบำรุงรักษาพ้ืนประจำวัน "คอนโทล"น้ำยาปดเงาพ้ืน "สเปรยบัฟ"น้ำยาดันฝุน "สเปรยออยล"

[4]

การทําความสะอาดพื้นแต่ละชนิดพื้นหิน (หินออน, หินแกรนิต)< หินที่ใชในการทำเปนพื้น ที่ธรรมดาที่สุดก็

จะเปนหินออน หินออนเปนหินที่เกิดจากหินปูนที่

ถูกความรอน และความกดดันสูงทำใหเกิดความ

แข็ง และเม็ดเทาๆกัน หินออนบริสุทธ จะเปนสีขาว

หินออนเกิดความเงาขึ้นมา เนื่องจากแสงสามารถ

สองลึกเขาไป 0.5 นิ้ว ถึง 1.5 นิ้ว และสะทอนกลับ

ขึ้นมาบนผิว

  หินที่ใชในการทำเปนพื้นตองแข็งพอที่จะรับ

การขัดได มีหินอีกหลายชนิด เชน ทราเวอรทีน

(TRAVERTINE) ซึ่งเปนหินออนชนิดหนึ่งซึ่งมีอยูใน

บรรยากาศของโลกจะแข็งตัวมากขึ้น แกรไนท

(GRANITE) สเลท (SLATE) เปนหินที่ใชทำพ้ืนโตะ

บิลเลียด และอีกมากมาย

การทำความสะอาด

< การทำความสะอาดหินชนิดตางๆมีปญหา

ตางกัน ควรจะปรึกษาผูผลิตวาควรจะใชเคมีชนิด

ไหนถึงจะถูกตอง เพื่อชวยปองกันไมใหเครื่องดื่ม

หรือสารตางๆ ที่หกลงบนพ้ืนจะซึมลงไปตองระวัง

เปนอยางมาก มิใหสารที่เปนกรดหกบนพ้ืนโดยเด็ด

ขาดเพราะอาจจะทำใหเปนรูไดถึงจะเปนน้ำผลไม

หรือน้ำอัดลมก็ตาม อาจจะทำใหเกิดอันตรายผิว

หินได ถาปลอยใหหกราดและแหงไป

การบำรุงรักษาประจำวัน< เก็บฝุนละอองดวยไมกวาดหรือไม

ดันฝุ น และตามดวยการเช็ดน้ำให

สะอาด และใชน้ำยาเช็ดพ้ืนประจำวัน

"คอนโทล" เช็ดทำความสะอาดอีก

ครั้งเพ่ือรักษาความเงาพ้ืน

การบำรุงรักษาเปนครั้งคราว

! หลังลางพื้นดวยน้ำยาลางพื้น “เพาเวอร”

และใชน้ำยารองพ้ืน “ฟลอเบท” และเคลือบพ้ืน

“เอ็กซตราโคท” หรือ “ซูเปอรโคท” ตามที่เห็น

สมควร หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตยใชน้ำยา

"สเปรยบัฟ" ปดเงาพื้นทุกอาทิตย อยางนอย

อาทิตยละ 1 ครั้งพ้ืนก็จะเงางาม

ขอควรระวังในการลางพื้นหินออน

และหินแกรนิต

< แผนขัดที่ใช ขัดลางควรเปนแผนละเอียด

เพ่ือปองกันพ้ืนไมใหเปนรอยขูดขีด

[5]

เทอแรซโซ (หินขัด)< คำวา เทอแรซโซ มาจากภาษาอิตาเลียน

เรียกวา "เทอเรซ" หรือ "เทอแรซซา" หินขัด มีใชกัน

มากในบานเรา วิธีการกอสรางนั้น แตกตางกันไป

โดยทั่วๆไป จะเทพ้ืนซีเมนตกอนเปนชั้นลาง เมื่อ

พื้นซีเมนตแหงดีแลวก็ผสมชิ้นสวนของหินออนกับ

ซีเมนตเขาดวยกัน เทลงบนพ้ืนซีเมนตอีกครั้งหนึ่ง

ปรับพื ้นใหเรียบ โดยวิธีเดียวกับการปรับพื ้น

คอนกรีตใหเรียบปลอยใหแหง เมื่อพื้นแหงสนิท

ดีแลว ก็ใชเครื่องขัดหินขัดอีกครั้งหนึ่งจนกระทั่งผิว

เรียบและเปนมันวาว

การทำความสะอาด

< โดยปกติการทำความสะอาดพื้นหินขัดนั้น

งายมาก สิ่งที่ควรระวังคือ

1) อยาใชน้ำยาลางหองน้ำ (น้ำยากัดสนิม) กับ

! พ้ืนหินขัดโดยเด็ดขาด

2) อยาใชสารที่เปนดางมากๆ เชน โซดาไฟกับ

! พ้ืนหินขัด

3) อยาใหเปอนน้ำมัน เพราะน้ำมันจะซึมลงไป

! ในเนื้อหิดขัด เราจะไมสามารถทำใหสะอาด

! ไดอีก

4) อยาใชผงขัด หรือผงซักฟอกทำความสะอาด

! พื้นหินขัดเพราะผงของมันจะทำอันตรายผิว

! และมีสารซึ่งจะทำปฏิกริยากับซีเมนตนานๆ

! ไปผิวจะขรุขระ

การบำรุงรักษาประจำวัน

! กวาด และเช็ดถูทำความสะอาดดวยผา

สะอาด หรือม็อบที่สะอาดและใชน้ำยา"คอนโทล"

ผสมกับน้ำและเช็ดถูพ้ืนอีกครั้ง พ้ืนก็จะเปนเงางาม

การบำรุงรักษาเปนครั้งเปนคราว

! ใชน้ำยารองพ้ืน “ฟลอเบท” และ น้ำยา

เคลือบพ้ืน “เอ็กซตราโคท” หรือ “ซูเปอรโคท”

ชวยรักษาผิว พื้นจากรอยขูดขีด การขัดลาง

ทำความสะอาด และการขัดมันทำตาม ความ

เหมาะสม การใชฝอยเหล็กในการขัดควรจะหลีก

เลี่ยงเพราะเศษผงเหล็ก จะเกิดเปนสนิมทำให

สนิมติดผิวพ้ืน และทำความสะอาดอยากมาก

[6]

พื้นไม (ไมปารเก)< ไมแบงออกเปน 2 พวก งายๆ คือไมเนื้อ

ออนและไมเนื้อแข็ง ไมที่ใชทำพื้นหรือผนังขื่อคา

ลวนแลวแตเปนไมเนื้อแข็ง ซึ่งบานเรามีไมสัก ไม

เต็ง ไมประดู เปนตน ถาเปนสมัยที่ไมยังมีอยู

มากมายในบานเรา เราจะปูพื้นดวยไมแผน แต

สมัยนี้ไมหายากเขาทุกวันๆ ลำตนใหญๆ ไมคอยมี

จึงเกิดการผลิตเปนไมปารเก ซึ่งทำไดจากเศษไม

ลำตนที่ไมคอยใหญนัก และผลิตไมโมเสดปารเก

จากเศษไม

  ปจจุบันนี ้ ไมคอยมีคนนิยมปูพื ้นไมใน

อาคารที่เปนสถานที่ทำงาน เนื่องจากไมราคาแพง

ขึ ้นมาก และการดูแลรักษาใหอยู ในสภาพที่ดี

โดยที่มีการใสรองเทา เหยียบย่ำอยูเสมอนั้นยาก

มาก

การทำความสะอาดประจำวัน

< ใชไมกวาดหรือม็อบดันฝุนเก็บฝุนละออง

ตางๆ ดวยน้ำยาดันฝุน "สเปรยออยล" และ

เช็ด! ดวยน้ำสะอาด

การทำความสะอาดเปนครั้งเปนคราว

< ทาขี้ผึ้งแลวขัดใหเปนเงางาม เมื่อเห็นวาพ้ืน

เริ่มจะดาน หรือ เมื่อเห็นวาสมควร

การบำรุงรักษา

การบำรุงรักษาเนื้อไมใหคงทนถาวร มีอยู 2 ขั้น

ตอน

1)!ทารองพ้ืนดวยเชลแล็ค หรือแลคเกอร หรือ

! วารนิช หรือ ยูเรเธน การใชน้ำยาประเภทนี้

! จะใชเมื่อหลังจากพื้นไมไดผานการขัดทราย

! และอุดรูไมดวยแปงไม (WOOD FLOUR)

! เรียบรอยแลว

2)!ใชขี้ผึ้งจะเปนอยางแข็งหรือเหลวทาทับแลว

! ขัดมันอีกครั้งหนึ่ง

[7]

พื้นกระเบื้องเซรามิค< กระเบื้อง เซรามิค เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ

ประมาณ 6,000 ปมาแลว ที่ประเทศอียิปตโดยชาว

อียิปต เอาดินโคลนจากกลุมแมน้ำไนลแลวเผาจน

แข็งและมาใชแพรหลายอีกครั้งในยุโรป เมื่อตน

ศตวรรษที ่ 13 ปจจุบันกระเบื้องโมเสดชนิดเงาและ

ไมเงา และกระเบื้องควารี ่ก็ทำมาจากกรรมวิธีชนิด

เดียวกับชาวอียิปต เพียงแตใชเครื่องจักรทำให

กระบวนการผลิตเร็วขึ้น รวมทั้งการทำรูปรางและสี

สรรตางๆ พวกกระเบื้องเซรามิคเงา ไมคอยจะมีผู

ใชทำพ้ืน เพราะจะลื่นมากถาเปยกน้ำ บานเรานิยม

ปูในหองน้ำเปนฝาผนังและพื้น แตปจจุบันนี้มีผู

นิยมใชปูพ้ืนหองอาหารมากขึ้น

การทำความสะอาด

< กระเบื้อง เซรามิคแข็งมาก และงายตอการ

ทำความสะอาด ทนทานตอสารเคมีไดหลายๆ

ประเภท สวนมากปญหาในการทำความสะอาด

กระเบื้องเซรามิคไมไดอยูที่จะทำอยางไรกระเบื้อง

ถึงจะสะอาด แตอยูที่ปูนที่ยึดกระเบื้องไวที่เราเห็น

ตามรอยตอ เนื่องจาก ผิวปูนจะไมเรียบจะขรุขระ

ทำใหเกิดสกปรกไดงาย เราจะปองกันไดโดย ใช

น้ำยารองพ้ืนกับสวนที่เปนปูนนั้นกอน เพียงปองกัน

สิ่งสกปรก และเพ่ือชวยในการรักษาความสะอาด

ใหงายเขา

การบำรุงรักษาประจำวัน

< ปดกวาดฝุนละอองดวยไมดัน

ฝุนและ น้ำยาดันฝุน "สเปรยออยล"

และเช็ดดวยน้ำอีกครั้งหนึ่ง

การบำรุงรักษาเปนครั้งเปนคราว

< ใชน้ำยาลางพ้ืน "เพาเวอร" ลางพ้ืน

ใหสะอาด และม็อบดวยน้ำสะอาดอีก

ครั้งกอนใชน้ำยารองพ้ืน “ฟลอเบท”

กับสวนที่เปนปูนถาตองการ หรือจะ

ใชน้ำยาเคลือบพ้ืน “เอ็กซตราโคท”

หรือ “ซูเปอรโคท” ก็ไดแลวแต

ตองการ

ขอควรระวัง

ใชแผนขัดลาง หรือแปรงก็ได โดยไมมีอันตรายกับ

พ้ืน แตอยาใชฝอยเหล็ก

[8]

พื้นกระเบื้องยาง< พ้ืนกระเบื้องยางที่เราคุนเคยในบานเรา จะ

เปนกระเบื้องที่ทำจาก PVC และ ASPHALT ซึ่ง

ผลิตขึ้นจาก 2 โรงงานคือ DYNOFLEX และ

WATAFLEX และกระเบื้องอีกชนิดหนึ่งที่มีใชใน

บานเรา คือ กระเบื้องที่ทำจาก PVC ลวน

การทำความสะอาด

< ถากระเบื้องเปนผิวเรียบ ไมมีลายนูนขึ้นมา

ก็งายกับการรักษามาก แตถามีลายนูนขึ้นมาก็จะ

ตองระวังตองพยายามเช็ดน้ำ ใหน้ำยาลางพื้นที่

อาจจะหลงติดอยูตามรอง หรือ ขอบลายตางๆ

ตามรอยตอของแผนกระเบื ้องหมดไปสวนจะใช

น้ำยารองพ้ืน “ฟลอเบท” หรือไมนั้น ก็ตองแลวแต

สภาพของกระเบื้องยาง ถากระเบื้องยางเกามาก

หรือสึกมาก ก็ควรจะใชน้ำยารองพ้ืนชวย โดยปกติ

น้ำยาเคลือบเงา “เอ็กซตราโคท” หรือ “ซูเปอร

โคท” จะทำงานไดผลดีขึ้น ถามีน้ำยารองพ้ืนชวย

เพราะนั้นแมเเตกระเบื ้องใหมก็ควรจะใชถาเรา

ตองการใหการรักษาดีขึ้น

การบำรุงรักษาประจำวัน

< เก็บกวาดฝุนละอองและเช็ดน้ำดวยน้ำยา

รักษาพ้ืน "คอนโทล"

การบำรุงรักษาเปนครั้งเปนคราว

< ลางดวยน้ำยาลางพื้น "เพาเวอร" และ

เคลือบพื้นดวยน้ำยาเคลือบเงาพื้น “เอ็กซตรา

โคท” หรือ “ซูเปอรโคท” ตามตองการเพื่อให

กระเบื้องอยูในสภาพที่สะอาดและสวยงาม ใน

กรณีกระเบื้องอยูในสภาพที่สึกหรอ เคลือบดวย

น้ำยารองพ้ืน “ฟลอเบท” กอนเคลือบดวยน้ำยา

เคลือบเงาพ้ืน

เคลือบเงาพ้ืน เพ่ือชวยสภาพการรักษาพ้ืนนั้นใหดี

ย่ิงขึ้น

นานเทาไรถึงจะควรทำความสะอาด

< ไมมีกฎเกณฑแนนอนวานานเทาไร ถึงควร

ลางพื้นและเคลือบเงาพื้นใหม เนื่องจากแตละ

สถานที่มีผูคนเหยียบย่ำมากนอยไมเทากัน ดังนั้น

จึงสุดแลวแตจะเห็นวาสมควร

[9]

FLOOR BETT ฟลอเบทเคลือบเงาพ้ืนกระเบื้องยาง หินขัด ใหแข็งแรง และหนาขึ้น เพ่ือชวยปองกันการสึกกรอนของพ้ืนได

STRIPPER สตริปเปอร์ น้ำยาลอกแว็กซและรอยขูดขีดตางๆบนพื ้น โดยเฉพาะพื ้นกระเบื้องยางและหินขัด

POWER X เพาเวอร์ เอ็กซ์น้ำยาลางพื้น เหมาะสำหรับใชลางพ้ืนทั่วไป โดยเฉพาะสถานที่ ท ี ่ต องการความสะอาดเป นพิเศษ

EXTRA COAT เอ็กซ์ตราโคท

น้ำยาเคลือบเงาพิเศษ ทนทานตอการใชงาน เหมาะสำหรับเคลือบพ้ืนทุกชนิด ชวยทำใหพ้ืนดูใหมอยูเสมอ

SUPER COAT ซูเปอร์โคท

น้ำยาเคลือบเงาพื้นชนิดแหงไว เหมาะสำหรับเคลือบพื้นทั่วไป เพื่อปองกันมิใหสิ่งสกปรกเกาะติดพ้ืนผิวไดงาย

CONTROL คอนโทลน ้ำยาเช ็ดร ักษาความเงาพื ้นประจำวัน ทำใหพื ้นที ่เคลือบแว็กซไเงางาม และสะอาดย่ิงขึ้น ชวยลดคาใชจายในการบำรุงรักษาSPRAY OIL เสปรย์ออยล ์

น้ำยาเช็ดเก็บฝุน ที่ชวยใหงานทำความสะอาดงายและรวจเร็วย่ิงขึ้น

SPAY BUFF สเปรย์บัฟฟ์น้ำยาขัดเงาพื้น ชวยใหพื้นคงสภาพความเงางาม แลดูใหมอยูเสมอ อีกทั ้งย ังช วยลดและปองกันรอยขูดขีดจากสิ่งสกปรก เม็ดทราย เศษผงตางๆ ไดดี

! ทุกวันนี้คงจะไมคอยมีใครสังเกต ความ

ไมเจริญหูเจริญตา เนื่องจากความสกปรกจาก

รอยนิ้วมือ หรืออื่นๆบนกำแพง แตถากำแพงกอ

ขึ้นจากคอนกรีต บล็อคไมทำสี อิฐบล็อด หรือไม

การทำความสะอาดจะยากมาก แตก็จะไมคอย

ไดเห็นรอยสกปรกเทาไร เพราะสีของวัสดุทำให

กลมกลืนกันไป แตถากำแพงทาสีจะเปนกำแพง

ทาสีชนิดใดก็ตามคราบสกปรกจะปรากฎใหเห็น

ชัดเจน

  จุดประสงคการทาสีบานหรืออาคารก็

เพื ่อทำใหเกิดความงดงาม และปองกันฝุ น

ละออง หรือเม็ดทรายที่ถูกลมพัดปลิวมาฝงในสี

ที่ใชไมควรจะใชสีปูนทั้งหมด เพราะจะถูกน้ำฝน

ซะไป สีจะซีดเร็ว ควรใชสีพลาสติก หรือสีเอนา

เมลทาทับ สีพลาสติคหรือสีเอนาเมล เมื่อแหง

แลวจะกอตัวเปนผิวแข็งปองกันกำแพงอีกชั้น

หนึ่ง และทำใหทำความสะอาดไดงาย

  กำแพงที่ทาดวยสีปูนอยางเดียวไมวาจะ

ใชน้ำยาหรือสารเคมีอะไรก็ตามไปทำความ

สะอาดสีปูนจะหลุดออกมาดวย แตถากำแพงที่

ทาดวยสีพลาสติค หรือสีเอนาเมลแลว ใชน้ำยา

ทำความสะอาดผสมน้ำอัตราสวนที่ถูกตองก็จะ

ทำความสะอาดไดโดยไมเปนอันตรายตอสี วัสดุ

ที่ใชทำความสะอาด อาจจะเปนผาขาวสะอาด

หรือฟองน้ำ หรือแผนขัดที่หมดความคม

แลว จุ มน ้ำยาถูบร ิ เวณที ่สกปรก

กำแพงก็จะ

สะอาดข ึ ้น

อยางเห็นได

ชัด

การทําความสะอาดและบํารุงรักษากําแพง

[10]

! ปจจุบันอาคารทั่วๆไปนิยมใชกระจกกันมากขึ้น เนื่องจากความ

สวยงามเปนหลัก สวนเหตุผลอื่น ๆ เปนสวนนอย การทำความสะอาด

กระจก ถาอยูในระดับแขนเอื้อมถึงงายมาก แตถาอยูสูงขึ้นไป และไมมี

ที่ๆ จะยืนโดยปลอดภัย และเอื้อมือไปไมถึงไดจะเปนปญหาขึ้นมาทันที

โดยเฉพาะอยางยิ่งอาคารสมัยใหมมักจะสรางเปนรูปกลองไมขีดสูงขึ้น

ไป หรืออาจจะหักเขา ย่ืนออก แลวแตความปราถนาที่จะทำใหสวยงาม

ตามแบบที่สถาปนิกคิดถึงแตความสวยงามฝายเดียว บางครั้งก็ทำให

เกิดปญหาในการทำความสะอาด ดังนั้นฝายบริการของแตละหนวยงาน

ควรจะมีเครื ่องมือเครื ่องใช พรอมมูลที่จะปฏิบัติงานไดโดยมีความ

ปลอดภัยเพียงพอ

! การบำรุงรักษากระจกควรทำกันเปนประจำสวนจะทำกันกี่วัน

ครั้ง ตองแลวแตสภาพแวดลอม แตถาทำไดทุกวันก็จะเปนการด ี ควรใช

น้ำยาเช็ดกระจก “แอมโม” ผสมใหเจือจางที่สุดตามที่ฉลากบอกไว ทา

หรือ พนไปบนกระจกแลวใชผาขาวสะอาด หรือเครื่องมือเช็ดกระจกที่มียางสำหรับปาดน้ำ ปาดน้ำยา

ทำความสะอาด ถาตองการความเร็วและไดผล ถาเปนที่ๆ เอื้อมมือไมถึง อาจจะตองใชบันไดอลูมิเนียมหรือ

บันไดไม ตั้งปนขึ้นไปเช็ดแตอาจจะเปนอันตรายตกลงมาบาดเจ็บได ปจจุบันมีเครื่องมือเช็ดกระจกเปนแขน

ตอยาวขึ้น ไปทำใหสามารถเช็ดกระจกไดโดยไมมีอันตรายแตถาสูงมากเกินไป สุดที่จะทำความสะอาดโดย

วิธีธรรมดานี้ได และอยูภายนอกอาคารทั้งตัวกำแพงและกระจก ถาตองการทำความสะอาด ทางที่ดีควร

จางผูเชี่ยวชาญจะดีกวา เพราะบริษัทเหลานั้นมีเครื่องมือที่จะใชพรอมทั้งเครื่องมือในการรักษาความ

ปลอดภัยของพนักงานพรอมมูล

การทําความสะอาดและบํารุงรักษากระจก

! หองน้ำยังมีคำเรียกอีกคำหนึ่งวา หองสบาย เพราะเปน

สถานที่ปลดทุกขในเมื่อไหนๆจะเปนหองสบายแลวก็ควรที่จะให

มันสบายตา จมูก และสุขภาพ หองน้ำเปนสถานที่มนุษยปลอย

ของเสีย จึงเปนที่รวมของเชื้อโรค กลิ่นเหม็นเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย

หมักหมมหลายชนิด ถาเราขจัดเชื้อแบคทีเรียตางๆไปเสียกลิ่นที่

ไมสบายจมูกก็จะไมมี

  เครื่องมือ เครื่องใชก็ควรจะมีแผนขัด ฟองน้ำ ผาสะอาด

แปรงถูสวม ฯลฯ

การทําความสะอาดและบํารุงรักษาห้องน้ํา

AMMO แอมโม

น ้ำยาเช ็ดทำความสะอาดกระจก ใชไดกับกระจกทุกชนิด

[11]

! ควรใชน้ำยาลางทำความสะอาด

หองน้ำเปนประจำ และใชน้ำยากัดสนิม

เปนครั้งคราวไป แตก็มีน้ำยาอีก

จำพวก ที่เปนน้ำยากัดสนิม และลาง

ทั่วไปในตัว คือ ผงขัด ซึ่งไมควรใช

เพราะจะทำอันตรายกับผิวกระเบื ้อง

เคลือบ และอาจจะทำใหทออุดตันได

! หลังจากทำความสะอาดแลว ใช

น้ำยาดับกลิ่น ฆาเชื่อโรคอีกครั้งหนึ่ง

เพ่ือฆาเชื้อโรคที่คางอยู

MOSAIC โมเสซ

น้ำยาลางสุขภัณฑ คราบสนิม และสิ่งสกปรกที่ติดตามผนัง พ้ืนหองน้ำ และเครื่องสุขภัณฑ

BIO ไบโอน้ำยาทำความสะอาดเครื่องสุขภัณฑและพื้นหองน้ำที่มีคราบสกปรก สนิม ตะไครน้ำ ไขมัน

RUST FOAM รัสท์โฟมน้ำยาขจัดคราบสนิม หินปูน คราบสกปรกที่หมักหมมอยุตามพ้ืนหองน้ำ และเครื่องสุขภัณฑ

DELZY เดลซี่น้ำยาดับกลิ่นฆาเชื้อชนิดหอม ชวยปรับสภาพอากาศใหหอมสดชื่น

! ปจจุบันเพื่อความสวยงาม ความคงทน และความ

ประหยัด ไดทำใหมนุษยนำวัสดุมากอยางมาใช สมัยเมื่อ 20 ปที่

แลวมาทำเฟอรนิเจอร เชน แทนที่จะเปนไมอยางเดียว ก็มีการนำ

เอาเหล็กชุบโครเมี่ยม สแตนเลส หรืออลูมิเนียม มาเปนโครงสราง

ของโตะ เกาอี้ จะเปนโตะเกาอี้ทำงานหรือชุดรับแขกก็ตาม และยัง

มีการบุนวม ทำใหเกิดความสบายเวลานั่งตางๆเหลานี้

  เพ่ือไมใหยืดยาว ในที่นี้จะกลาวถึงเฉพาะภายในสำนักงานอยางเดียว เราจะพบวาวัสดุที่ใชมีไมเปน

หลักในหองผูหลักผูใหญ อาจจะมีชุดรับแขกหรือโตะ เกาอี้ที่มีโครงสเตนเลส หรือเหล็กชุบโครเมี่ยม... ฯลฯ

เกาอี้ที่บุดวยฟองน้ำ คลุมดวยหนังเทียม ดังนั้นเพ่ือใหงายขึ้น จะกลาวถึงวัสดุเปนจำพวกไป ดังตอไปนี้

1) โลหะ เชน สแตนเลส: ทำความสะอาดดวย

“เคลียร” โดยใชชุบกับผาสะอาดเช็ดบริเวณ

ที่มีคราบสกปรก จะขจัดพวกคราบและ

ทำใหผิวเกิดความเงางาม และใชผาชุบน้ำ

สะอาดบิดใหแหง แลวใชเช็ดตามอีกครั้ง

การทําความสะอาดและบํารุงรักษาเฟอร์นิเจอร์

ผลิตภัณท่ีใชในการรักษาหองน้ำ1) น้ำยาลางหองน้ำทั่วไป "โมเสซ" และ "ไบโอ"2) น้ำยาลางหองน้ำ (น้ำยากัดสนิม) "รัสทโฟม"3) น้ำยาดับกลิ่น "เดลซี่" กลิ่นมาดาม, FLORA, และ NUMINT4) น้ำยาดับกลิ่น-ฆาเชื้อโรค “วิทไพน”

CLEAR เคลียร์น้ำยาเช็ดรอยเปอนใชทำความสะอาดเบาะ เกาอี้หนัง กระเปาถือ รองเทา ฝาผนัง และเครื่องใชพลาสติกทั่วไป

[12]

2) ไม: ใชน้ำสะอาดเช็ดถู ทำความสะอาดกอนแลวใชน้ำยา

ขัดเฟอรนิเจอร "แครฟลู" ขัดรักษาเนื้อไมใหมีความชุม

ชื้นและสวยงาม

3) พลาสติก: หนังเทียมทำจากสารพวกพลาสติก ใชฟองน้ำ

หรือผาชุบน้ำยา “เคลียร” เช็ดทำความสะอาดและใชผา

ชุบน้ำเช็ดใหสะอาด ปลอยใหแหง แลวเคลือบซ้ำดวย

"แครฟลู"

! ในหลายหัวขอที่ผานมาไดกลาวถึงวิธีการบำรุงรักษาและการทำความสะอาดตางๆ ซึ่งวิธีการที่กลาว

มานี้ อาจจะทำใหคิดวาเปนการใชจายที่สูงมาก แตความตามเปนจริงแลวคาใชจายในการทำความสะอาด

และบำรุงรักษาจะไมมากเลย ถารูจักวิธีการทำและรูจักประหยัด วิธีการทำและวิธีการรักษาของใชตอง

ดำเนินควนคูกันไป ถึงจะบรรลุการใชจายเงินนอยที่สุด และไดผลดีที่สุด ในที่นี้จะขอแบงขั้นตอนออกเปน 3

ขั้นตอนดังนี้

1)  วิธีการจัดการระบบทำความสะอาดและบำรุงรักษา

2)  การกำหนดจำนวนสารเคมีที่ตองใช

3)  การบำรุงรักษาของใชเชน เครื่องขัด เครื่องดูดฝุน ม็อบ ผา ฯลฯ

1) วิธีการจัดการระบบการทำความสะอาด และบำรุงรักษา

< สถานที่หรืออาคารแตละแหง มีการตบแตงที่ไมเหมือนกัน ฉะนั้นจึงไมสามารถกำหนดตายตัวลงไป

วาถาเนื้อที่เทานี้ตองใชคนเทานี ้ การกำหนดระบบการทำขึ้นอยูกับระดับความสะอาดและ

สวยงามที่สถานที่แตละแหงตองการควรจะเริ่มดวยการกำหนดมาตรฐานของความสะอาด

ที่เราตองการ เสียกอนวาตองการถึงระดับไหน แลวสังเกตดูระยะเวลาวา สมควรจะ

ทำความสะอาดยอยก่ีวันครั้งถาสวนไหนไมสกปรก ก็อาจจะปลอยนานหนอย อาจ

จะไดถึง 1 เดือน หรือ 2 เดือน คอยลางสักครั้งแตสวนที่เปนทางเดินก็ตองหมั่นเช็ด

ถู ทำความสะอาด บอยหนอย และอาจจะตองทาน้ำยาเคลือบเงาเพ่ิมใน 3 วัน

ครั้ง หรือตองลางทิ้งทุกๆ 1 เดือน ผูที่มีหนาที่รับผิดชอบ งานบริการตองเปนผูที่

กำหนดขึ้นจากนั้นก็จะทราบไดทันทีวาเราตองใชกำลังคนเทาไร จะหมุนเวียน

ความสะอาดสวนตางๆดวยกำลังคนที่มีอยูและกำลังคนที่ทำงานมีประสิทธิภาพ หรือ

ไม ทางที่ดคีวรพยายามปรึกษาบริษัท ที่จำหนายผลิตภัณฑ และเครื่องมือเครื่องใช

ในการทำความสะอาดเพ่ือใหไดสินคาที่เหมาะสมกับงานที่ตองการใช

ทําอย่างไรถึงจะเป็นการใช้จ่ายเงินน้อยที่สุดและได้ผลดีที่สุด

CAREFULL แคร์ฟูลน้ำยาเช็ดเฟอรนิเจอร เครื่องหนังพลาสติก และเครื ่องเรือนไมหรือของใชทั ่วไปที ่เปนหนังพลาสติกและไม

[13]

[14]

NEW CARPET นิวคาร์เป็ทน้ำยาทำความสะอาดใชสำหรับซักทำความสะอาดพรม คุณภาพสูง สามารถฟอกทำความสะอาดพรมไดทุกชนิด แหงเร็ว และไมใหสีพรมและโซฟาเปลี่ยนไป ชวยยืดอายุการใชงานใหนานขึ้น

MAXIM แม็กซิมน้ำยาทำความสะอาด ใชสำหรับลางทำความสะอาด - ขจัดคราบจาน ชาม เครื ่องแกว ใชสำหรับลางจานและภาชนะเมลามีน ที่เปอนไขมันตาง ๆ เชนมันพืช มันสัตว และเนย

DIVO ไดโว้เคมีกำจัดปฏิกูลทอน้ำ ใชยอยสลายสิ่งปฏิกูลเพื่อขจัดการอุดตันของทอที่เกิดปญหา จากกากอาหาร ไขมัน และสิ่งสกปรกทั่วไป

PURE เพียวใชสำหรับซักคราบสกปรกที่ผงซักฟอกซักไมออก เชนคราบกาแฟ เลือด ซอส รวมทั้งคราบเหลืองบนผาขาวที่เก็บไวนาน โดยไมตองตม

HI SOFT ไฮซอฟท์ใชปรับผานุมและดูใหม อีกทั้งมีกลิ่นหอม ติดทนนาน และงายตอการรีด

2) การกำหนดจำนวนสารเคมีท่ีตองใช

< โดยปกติเปนที่รูกันอยูแลววาคาใชจายสูงที่สุดในการทำความสะอาด

อยูที่คาแรงคาใชจายสารเคม ีเปรียบเทียบแลวต่ำกวามาก ๆแตอาจจะกลาย

เปนสูงมากๆ ก็ไดถาใชไมถูกตองหรือสุรุยสุราย หรือการควบคุมเบิกจายของ

ไมดีพอ กอนใชควรพยายามอานคำอธิบายบนฉลาก หรือจากในโฆษณาของ

ผูขายและใชตามคำแนะนำนั้น แตถึงอยางไรก็ตาม ผูที่รับผิดชอบงานบริการ

จะตองพยายามกำหนดอัตราสวนที่ใชในพื้นที่แตละแหงในอาคารใหไดเพราะอาจจะตองใชในอัตราสวนที่

ไมเทากันการศึกษาคำอธิบายใหดีจะชวยใหเลือกใชสารเคมีที่เหมาะสมไดถูกตองไมเปนอันตรายตอวัสดุ

และชวยใหสิ้นเปลืองนอยลงจะไดของที่มีคุณภาพด ี แตคาใชจายต่ำยกตัวอยางเชน น้ำยาลอกแวกซของ

บริษัทหนึ่ง ไดกำหนดใหใชผสมน้ำในอัตราสวน 1 สวนตอ น้ำ 20 สวนเพ่ือลอกน้ำยาเคลือบเงาพ้ืน และอีก

บริษัทหนึ่งเสนอขายน้ำยาที่ใหผสมน้ำในอัตราสวน 1 สวนตอ 10 สวนแตราคาถูกกวากัน 1/10 ก็ควรเลือก

ใชน้ำยาที่สามารถผสมน้ำ 1:20 ได เพราะคิดแลวถูกกวา ดังนี้เปนตน การศึกษาฉลากจะทำใหรูวาควรใช

น้ำยาเหมาะสำหรับลางพ้ืนกระเบื้องยางแทนที่จะเทน้ำยาลางหองน้ำ (น้ำยากัดสนิม) มาลางพ้ืนกระเบื้อง

ยางเพราะจะทำใหกระเบื้องยางเสียหาย สรุปแลวผูที่รับผิดชอบงานบริการควรพยายามกำหนดอัตราสวน

การใชสารเคมีแตละชนิดจำนวนที่ตองใชตอพ้ืนที่ ศึกษาฉลากคำอธิบายของสารเคมีเพ่ือใหไดผลประโยชน

มากที่สุดในขณะที่ใชจายนอยที่สุด

3) การบำรุงรักษาของใช

< ของใชในการทำความสะอาดทุกชิ้น ควรไดรับการทำความสะอาดอยางดีเช็ดถูใหแหง หรือตากแหง

เพ่ือไมใหเกิดสนิมหรือเปลื่อยยุยไป เพราะเชื้อแบคทีเรีย เชน ผาหรือผาม็อบหลังจากใชงานแลว ควรซักให

สะอาดแลวตากแดดใหแหงจึงจะเก็บเขาหองเก็บของจะสามารถยืดอายุการใชงานไดยาวขึ้น ถาเปนพวก

เครื่องมือตางๆ เชน เครื่องขัดพ้ืน, เครื่องดูดฝุน ดูดน้ำ เมื่อใชเสร็จควรถูเช็ดเครื่องใหสะอาดเพ่ือใหดูใหมอยู

เสมอ และเกิดสนิมยาก ควรเช็ดถูดวยน้ำมันหลอลื่นที่เครื่อง และเพ่ือไมใหเครื่องเสียหาย ควรตรวจดูระบบ

ไฟอยางสม่ำเสมอ เพ่ือปองกัน ไฟรั่ว จะเกิดอันตรายถึงแกชีวิตของผูใช แปรงหรือแผนขัดเมื่อใชเสร็จจะตอง

ใชน้ำฉีดแรงๆ ลางใหสะอาดตากแดดใหแหงแลวเก็บ จะชวยยืดอายุการใชงานเชนกัน

! สวนเครื่องดูดฝุน ดูดน้ำ เมื่อใชเสร็จแลว ควรทำความสะอาดโดยถอดถุงกรองฝุนออกมาทำความ

สะอาดดวย เพราะหากเกิดการอุดตัน จะทำใหประสิทธิภาพการดูดฝุนลดลง เพิ่มการใชไฟฟา และทำให

มอเตอรตองทำงานหนักจนอาจใหมได ดังนั้น เครื่องมือและอุปกรณที่ใชในการทำความสะอาดทุกชิ้นควรมี

การบำรุงรักษาและทำความสะอาดทุกครั้งเมื่อใชเสร็จ

[15]

[16]

! ปจจุบันการทำความสะอาดพ้ืนอยางถูกวิธีมีประสิทธิภาพ เปนปญหาที่สรางความยุงยากใหกับทาน

ไมวาจะเปนที่สำนักงาน โรงงานหรือที่อยูอาศัย ซึ่งทานจะตองประสบปญหาตางๆ ในดานของบุคลากรที่มี

ความชำนาญดานความรูเก่ียวกับน้ำยาเคมีภัณฑที่ใชกับพ้ืน และชุดอุปกรณเครื่องมือทันสมัย ซึ่งจะสงผล

ตอผูพบเห็นที่มาเย่ียมเยียน หรือลูกคาที่มาติดตอธุรกิจ ตลอดจนสุขภาพจิตในการดำเนินงานของพนักงาน

ตัวทานเอง และครอบครัว

! ปญหาเหลานี้จะหมดสิ้นไป เพียงทานโทร.ปรึกษา หรือเรียกใชบริการจากทีมผูชำนาญงานทำความ

สะอาดพ้ืนโดยเฉพาะของทางบริษัท ทานก็จะไดรับความสะดวกสะบาย อีกทั้งยังชวยลดคาใชจายและ

เวลา พรอมขจัดปญหาไมวาจะเปนพ้ืนผิวประเภทใดก็ตาม ดวยทีมงานที่มีประสบการณกวา 20 ป (บริการ

ซักพรมทั้งในและนอกสถานที่พรอมจัดสงฟรี)

สภาพของพรม กระบวนการดูแลความถี่ในการทำความถี่ในการทำความถี่ในการทำ

สภาพของพรม กระบวนการดูแลการสัญจรคับค่ัง ปานกลาง บางเบา

ขั้นตอนการปองกัน- ฉีดน้ำยาปองกันพรม- ดูดฝุน- เก็บจุดรอยเปอน

- ทุกเดือน- ทุกวัน- สัปดาหละ 3 ครั้ง

- ทุกเดือน- ทุกวัน- สัปดาหละ 1 ครั้ง

- ทุก 6 เดือน- วันเวนวัน- แลวแตความจำเปน

ขั้นตอนการรักษาสภาพ- ทำความสะอาดผิวพรม- ดูดฝุน

- เก็บจุดรอยเปอน- ฉีดน้ำยาปองกันพรม

- ทุกเดือน- หลังทำความสะอาดผิวพรม และทุกวัน

- สัปดาหละ 1 ครั้ง- หลังทำความสะอาดผิวพรม

- ทุกๆ 2-3 เดือน- หลังทำความสะอาดผิวพรม และทุกวัน

- เดือนละ 1 ครั้ง- หลังทำความสะอาดผิวพรม

- แลวแตความสกปรก- วันเวนวัน

- สัปดาหละ 1 ครั้ง- หลังทำความสะอาดผิวพรม

ขั้นตอนการฟนฟู- ซักพรมแบบดรายโฟม

(แชมพู)- ดูดฝุน- ฉีดน้ำยาปองกันพรม

- ทุกๆ 2 เดือน

- หลังซักพรมทุกวัน- หลังซักพรม

- ทุกๆ 4 เดือน

- หลังซักพรมทุกวัน- หลังซักพรม

- ทุกๆ 6 เดือน

- หลังซักพรม - วันเวนวัน- หลังซักพรม

ขั้นตอนการกูสภาพ- ซักพรมแบบเอ็คแทคชั่น- เปาแหง- ดูดฝุน- ฉีดน้ำยาปองกันพรม

- ทุกๆ 2 เดือน- หลังซักพรม - ทุกวัน- หลังซักพรม

- ทุกๆ 4 เดือน- หลังซักพรม- ทุกวัน- หลังซักพรม

- ทุกๆ 6 เดือน- หลังซักพรม- ทุกวัน- หลังซักพรม

การทําความสะอาดและบํารุงรักษาพรม

ขอแนะนำในการดูแลพรม

พรมใหมไมมีรองรอยคราบเปอน

พรมคอนขางใหมมีรอยคราบเปอน

เล็กนอย

พรมใชงานนานมีคราบสกปรก

พรมใชงานนานมากสกปรก มีกลิ่นอับ

NOTE บันทึก___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

NOTE บันทึก___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

NOTE บันทึก___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

___________________________________________________________________________

www.masswellgroup.com

MASSWELL