the memory

6

Upload: sakda-nonkanha

Post on 07-Mar-2016

217 views

Category:

Documents


2 download

DESCRIPTION

5104600627

TRANSCRIPT

Page 1: The Memory
Page 2: The Memory

The

Mem

ory

2

ช่่ื่่อ ศักดา นนท์กันหา อายุ 25 ปี เกิดวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2530 สูง

175 เซนติเมตร หนัก 63 กิโลกรัม

นิสัย เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ขี้อาย

เวลาว่าง ชอบ เล่นฟุตบอล เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟัง

เพลง ดู web เรื่อยเปื่อย

คติประจำาใจ

อย่าเพิ่งท้อแท้ในสิ่งที่ยังไม่พยายาม และอย่าเพิ่ง

หมดหวังในสิ่งที่ยังไม่เริ่มต้น

ชีวิตก็เหมือนบทเรียน ต้องใช้ชีวิต จึงจะเข้าใจ

ความฝันในวัยเด็ก อยากเป็น นักฟุตบอล ทหาร

ตำารวจ แต่ปัจจุบัน อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มีความ

สุข แค่นี้ก็พอแล้วครับ

ปัจจุบัน ยังเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยสยาม คณะนิเทศศาสตร์

สาขา หนังสือพิมพ์และนิตยสาร

หวนคิดถึง วันเก่า เรายังเด็ก ยังตัวเล็ก เดินทาง เพื่อสร้างฝัน มาวันนี้ ถึงห่างไกล ไป

ห่างกันก็จะฝัน ถึงวัน ได้พบเจอ ดีตกาล ผ่านมา ในคราหนึ่ง ให้คิดถึง เพื่อนเก่า

ในครั้งก่อน จึงร้อยเรียง คำาพูด เป็นบทกลอน เมื่อครั้งก่อน ใจยังคิด จิตไม่ลืม ป

โรงเรียน ทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ ตื่นแล้วลุก แต้เช้า เพื่อล้างหน้า จัดกระเป๋า ใส่

หนังสือ และปากกาด้วยรู้ว่า ในวันนี้ นั้นมีเรียน พอไปถึง โรงเรียน ก็เปลี่ยนชุด

เพราะวันนี้ คุณครูหยุด ไม่มาสอน เหลียวมองซ้าย มองขวา หาฟุตบอล ก็เลยจร

จรรี ปรี่เข้าไป...

Page 3: The Memory

The

Mem

ory

SAKDA

NONKANHA

3

ช่่ื่่อ ศักดา นนท์กันหา อายุ 25 ปี เกิดวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2530 สูง

175 เซนติเมตร หนัก 63 กิโลกรัม

นิสัย เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ขี้อาย

เวลาว่าง ชอบ เล่นฟุตบอล เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟัง

เพลง ดู web เรื่อยเปื่อย

คติประจำาใจ

อย่าเพิ่งท้อแท้ในสิ่งที่ยังไม่พยายาม และอย่าเพิ่ง

หมดหวังในสิ่งที่ยังไม่เริ่มต้น

ชีวิตก็เหมือนบทเรียน ต้องใช้ชีวิต จึงจะเข้าใจ

ความฝันในวัยเด็ก อยากเป็น นักฟุตบอล ทหาร

ตำารวจ แต่ปัจจุบัน อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มีความ

สุข แค่นี้ก็พอแล้วครับ

ปัจจุบัน ยังเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยสยาม คณะนิเทศศาสตร์

สาขา หนังสือพิมพ์และนิตยสาร

หวนคิดถึง วันเก่า เรายังเด็ก ยังตัวเล็ก เดินทาง เพื่อสร้างฝัน มาวันนี้ ถึงห่างไกล ไป

ห่างกันก็จะฝัน ถึงวัน ได้พบเจอ ดีตกาล ผ่านมา ในคราหนึ่ง ให้คิดถึง เพื่อนเก่า

ในครั้งก่อน จึงร้อยเรียง คำาพูด เป็นบทกลอน เมื่อครั้งก่อน ใจยังคิด จิตไม่ลืม ป

โรงเรียน ทุกวัน จันทร์ถึงศุกร์ ตื่นแล้วลุก แต้เช้า เพื่อล้างหน้า จัดกระเป๋า ใส่

หนังสือ และปากกาด้วยรู้ว่า ในวันนี้ นั้นมีเรียน พอไปถึง โรงเรียน ก็เปลี่ยนชุด

เพราะวันนี้ คุณครูหยุด ไม่มาสอน เหลียวมองซ้าย มองขวา หาฟุตบอล ก็เลยจร

จรรี ปรี่เข้าไป...

Page 4: The Memory

The

Mem

ory

4

วันเวลาผ่านไป 3 ปี ผมขึ้น ม.4 เป้นช่วงเวลาที่ดีขึ้นมาเพราะ สัดส่วน ผู้ชาย ผู้หญิง ใกล้เคียงกัน

เป็นผู้หญิงที่มากกว่าด้วยซ้ำาไป ช่วง ม.4 เป็นช่วงปรับตัวเพราะต้องหาเพื่อนใหม่ ในตอนนั้นรู้สึกว่าจะขี้

อายกลัวไปหมด ไม่กล้าที่ทำาอะไรเลย จึงพากันโดดเรียนบ่อยมาก แต่พอเวลาผ่านไปผมก็ปรับตัวได้ เริ่ม

รู้จักเพื่อนมากขึ้น ซึ่่งเวลาก็ช่วยให้ผมคิดอะไรได้มากขึ้น รู้จักปรับตัวให้เป็น

กิจกรรมอย่างหนึ่งสมัยเรียนที่ผมชื่นชอบมาตั้งแต่วัยเด็ก คือการเล่นฟุตบอล ผมเริ่่มเตะฟุตบอล

ตั้งแต่ ป.6 แต่ตอนนั้นยังเตะไม่บ่อยนัก พอเข้า มัธยมต้น เริ่มเตะบ่อยมากทั้งช่วงกลางวันและเย็นของทุก

วัน เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่เว้นเหมือนกัน มีการแข่งขันกีฬาสีก็ลงเป็นประจำาทุกปี ความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง

ของผม ก็คือ การได้โอกาสให้ลงแข่งขันฟุตบอลในนามโรงเรียนแข่งขันกับโรงเรียนอื่น รวมถึงแข่งขัน

ทั่่วๆไป ที่จัดแข่งขัน ช่วงนั้นน่าจะอยู่ช่วง ม.5-6

ปัจจุบันผมก็ยังเล่นฟุตบอลอยู่กับเพื่อนๆอยู่แต่คงไม่บ่อยนักเท่าสมัยก่อน ด้วยสภาพร่างกายที่

จะไปวิ่งไม่มีหยุดเหมือนแต่ก่อนที่พักแปปเดียวก็หาย เจ็บนิดเดียวก็หายเร็ว และส่วนหนึงคงเป็นเรื่อง

ของเวลา เพราะยิ่งโตขึ้นความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้นทุกวัน นักฟุตบอลที่ผมชืนชอบ และชื่นชมมากใน

ปัจจุบัน ถือว่าเป็น ไอดอลเลย คือ เมสซี

ชื่อว่าชีวิตของหลายๆคน

ต้องเจออุปสรรค และปัญหา

ด้วยกันทั้งนั้น แต่ปัญหาทุก

อย่างย่อมมีทางแก้ไข อยู่ที่

เราจะมีความอดทนแค่ไหน

ที่จะฝ่าฟันไปได้ บางคน

พูดว่า ปัญหาทำาให้เราเข้ม

แข็งขึ้น ผมก็เชื่ออย่างนั้น ว่า

ปัญหาทุกอย่างทำาให้เรามี

ประสบการณ์ในการดำารง

Page 5: The Memory

The

Mem

ory

5

วันเวลาผ่านไป 3 ปี ผมขึ้น ม.4 เป้นช่วงเวลาที่ดีขึ้นมาเพราะ สัดส่วน ผู้ชาย ผู้หญิง ใกล้เคียงกัน

เป็นผู้หญิงที่มากกว่าด้วยซ้ำาไป ช่วง ม.4 เป็นช่วงปรับตัวเพราะต้องหาเพื่อนใหม่ ในตอนนั้นรู้สึกว่าจะขี้

อายกลัวไปหมด ไม่กล้าที่ทำาอะไรเลย จึงพากันโดดเรียนบ่อยมาก แต่พอเวลาผ่านไปผมก็ปรับตัวได้ เริ่ม

รู้จักเพื่อนมากขึ้น ซึ่่งเวลาก็ช่วยให้ผมคิดอะไรได้มากขึ้น รู้จักปรับตัวให้เป็น

กิจกรรมอย่างหนึ่งสมัยเรียนที่ผมชื่นชอบมาตั้งแต่วัยเด็ก คือการเล่นฟุตบอล ผมเริ่่มเตะฟุตบอล

ตั้งแต่ ป.6 แต่ตอนนั้นยังเตะไม่บ่อยนัก พอเข้า มัธยมต้น เริ่มเตะบ่อยมากทั้งช่วงกลางวันและเย็นของทุก

วัน เสาร์-อาทิตย์ก็ไม่เว้นเหมือนกัน มีการแข่งขันกีฬาสีก็ลงเป็นประจำาทุกปี ความภาคภูมิใจอย่างหนึ่ง

ของผม ก็คือ การได้โอกาสให้ลงแข่งขันฟุตบอลในนามโรงเรียนแข่งขันกับโรงเรียนอื่น รวมถึงแข่งขัน

ทั่่วๆไป ที่จัดแข่งขัน ช่วงนั้นน่าจะอยู่ช่วง ม.5-6

ปัจจุบันผมก็ยังเล่นฟุตบอลอยู่กับเพื่อนๆอยู่แต่คงไม่บ่อยนักเท่าสมัยก่อน ด้วยสภาพร่างกายที่

จะไปวิ่งไม่มีหยุดเหมือนแต่ก่อนที่พักแปปเดียวก็หาย เจ็บนิดเดียวก็หายเร็ว และส่วนหนึงคงเป็นเรื่อง

ของเวลา เพราะยิ่งโตขึ้นความรับผิดชอบก็ยิ่งมากขึ้นทุกวัน นักฟุตบอลที่ผมชืนชอบ และชื่นชมมากใน

ปัจจุบัน ถือว่าเป็น ไอดอลเลย คือ เมสซี

ชื่อว่าชีวิตของหลายๆคน

ต้องเจออุปสรรค และปัญหา

ด้วยกันทั้งนั้น แต่ปัญหาทุก

อย่างย่อมมีทางแก้ไข อยู่ที่

เราจะมีความอดทนแค่ไหน

ที่จะฝ่าฟันไปได้ บางคน

พูดว่า ปัญหาทำาให้เราเข้ม

แข็งขึ้น ผมก็เชื่ออย่างนั้น ว่า

ปัญหาทุกอย่างทำาให้เรามี

ประสบการณ์ในการดำารง

ชีวิตมากขึ้น รู้จักคิดและแก้

ปัญหาเป็นอย่างรอบคอบ

แต่มีสิ่งหนึ่งที่สำาคัญที่ช่วย

ให้เราต่อสู้กับปัญหาต่างๆ

ได้ นั่นคือ กำาลังใจ จาก

ตนเอง พ่อแม่ คนรอบข้าง

ครอบครัว ญาติ พี่น้อง

เพื่่อน มีส่วนสำาคัญมากที่

คอยให้กำาลังใจ เหน่ื่อยกาย

ไม่เท่าเหนื่อยใจ นั่นเอง

ตั้งแต่จำาความได้ผมเจอ

ปัญหามาตั้งแต่เด็ก ทั้งเรื่่

องการเรียน ครอบครัว

แต่ผมก็ผ่านช่วงเวลา

นั้นมาได้ ช่วงมัธยม

ต้น ห้องเรียนของผมมี

นักเรียนรวม ประมาณ

50 คน เป็นผู้หญิงแค่ 3

คน ที่่เหลือผู้ชายทั้งหมด

ทำาให้บรรยากาศการ

เรียนแย่มาก มีทั้งเสียง

ดัง เล่นกัน ดังสนั่น

ทั่วห้องเรียน ครูที่มา

สอนแต่ล่ะวิชา ต้องด่า

ลงโทษ ทุกวิชา กว่าจะ

ได้เริ่มเรียนก็เลยไปครึ่่ง

คาบเรียนแล้ว เป็นอย่าง

นี้แทบทุกคาบเรียน พอ

นึกถึงแล้วก็เสียดาย

โอกาสการเรียนทุกที

Page 6: The Memory