what i believe

5
06 อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง : นาแปลกไหมที‘วรรณกรรม’ ที่ ถู ก เ ขี ย น ขึ้นในยุคสมัยนีไมคอยสรางความรูสึก ‘รวมสมัย’ ใหกับผูคนที่รวมอยู ในยุคเดียวกันอยางที่มันควร จะเปน เพราะถาหากเราเอยถึง ‘วรรณกรรมรวมสมัย’ จาก ฝมือของบรรดานักเขียนรุนกลางและรุนใหม ทั้งจาก ในและนอกบานของเราแลว นักอานยุคเกาหลายทาน คงสายหนากันใหควั่ก ดวยคาที่มันดูเปนงานเขียน ประเภทฉาบฉวยและกรางเกรียน แตกตางจาก วรรณกรรมยุคเกาที่พวกเขาคุนเคย ในขณะที่เด็กรุนใหม หลายคนก็คงเบปาก พรอมกับหันหนาเขาหาจอ คอมพิวเตอร เพื่อบริโภคขอมูลขาวสารที่รวดเร็วทันใจ กวาจากโลกการอานแบบออนไลนกันเปนทิวแถว ทวา อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง (นามสกุล หลังสุดเปนของสามีชาวฝรั่งเศสของเธอ) หญิงสาว ไฟแรงวัยกลางเกากลางใหมคนนี้ เปนหนึ่งในคนทีไมเห็นดวยกับคำกลาวนี้ครับ จากเด็กสาวลูกหลานชาวแกลงที่ลองลอยไรความฝน ปราศจากความ ทะเยอทะยาน และไมเคยมีความรักหรือฝงใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใดเปนพิเศษ (ยกเวนนิสัยรักการอานที่ติดตัวมาตั้งแตเล็กๆ) เธอคอยๆ กลายมาเปนผูหญิง ผูตองปะทะกับชีวิตในหลายรูปแบบ ไมวาจะเปนการเรียนแบบเริ่มจากศูนย ที่เอกศิลปะการละคร คณะอักษรศาสตร จุฬาฯ การทดลองทำงานมา สารพัดอยาง และการเดินทางไปใชชีวิต (และแปลงรางเปนหนอนหนังสือ) อยูตางแดนที่ประเทศฝรั่งเศสนานนับป จนกระทั่งมาสิ้นสุดการคนหาลงทีแวดวงนักแปลดวยคำชักชวนสั้นๆ จากรุนพี่ที่เคารพรักอยาง คมสัน นันทจิต ในทายที่สุด ตลอด 5 ปที่ผานมา ชื่อของเธอไดกลายมาเปนที่รูจักของนักอาน ในฐานะของนักแปลหนังสือฝรั่งเศสรวมสมัยที่มีผลงานออกมาแลวนับไมถวน ทั้งหนังสือรักโรแมนติกผลงานของ มารค เลอวี (Marc Levy) เจาพอ เบสตเซลเลอรของฝรั่งเศส อยาง ‘ปาฏิหาริยรักตางภพ’, ‘เจ็ดวันเพื่อหนึ่ง นิรันดร’, ‘ทุกสิ่งอันที่เรามิเคยเอื้อนเอยตอกัน’ ฯลฯ งานเขียนขมอมหวาน ไดใจของ อันนา กาวาลดา (Anna Gavalda) นักเขียนมือทองของฝรั่งเศส อีกคน ในเลม ‘ฉันเคยรัก’, ‘เพียงเรามีกันแคนั้นพอ’ และงานของ มารแต็ง ปาจ (Martin Page) นักเขียนหนุมไฟแรงเจาของความคิดประหลาดเจาคารม ในเลม ‘ทำอยางไรใหโง’, ‘ปนศิลปอใหเปนศิลปน’ และ ‘ช้ำจนชิน’ เปนตน ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงบทบาทในการเปนบรรณาธิการของสำนักพิมพเล็กๆ ที่เธอเปนผูกอตั้งมาไดราว 2 ปกวา ภายใตชื่อละมุนหูวา ‘กำมะหยี่’ (ซึ่ง ไปพองเสียงกับคำวา Gamme Magie ในภาษาฝรั่งเศส-อันแปลวา Magic Collection-พอดี) ซึ่งทยอยออกหนังสือแปลของ ฮารูกิ มุราคามิ (Haruki Murakami) มาแลวหลายเลม ทั้งยังมีชื่อเสียงในการตีพิมพหนังสือแปลกๆ อยาง นิยายภาพชุด ‘แพรซโพลิส’, หนังสือมิตรเกย อยาง ‘รหัสลับ เกเก วินชี’ และลาสุดกับ ‘แชมชา’ ของ มิลาน คุนเดอรา (Milan Kundera)

Upload: gamme-magie-editions

Post on 06-Mar-2016

216 views

Category:

Documents


2 download

DESCRIPTION

สัมภาษณ์เจ้าสำนักพิมพ์กำมะหยี่

TRANSCRIPT

Page 1: What I believe

06อธิชา

มัญชุนากร กาบูล็อง

����������:����

นาแปลกไหมที่   ‘วรรณกรรม’  ที่ ถู ก เ ขี ย น ขึ้ น ใ น ยุ ค ส มั ย นี้    ไมคอยสรางความรู สึก  ‘รวมสมัย’   ใหกับผูคนที่รวมอยูในยุค เดี ยวกันอย างที่ มั นควร    จะเปน  

����������������������������

เพราะถาหากเราเอยถึง   ‘วรรณกรรมรวมสมัย’   จากฝมือของบรรดานักเขียนรุนกลางและรุนใหม   ทั้งจาก   ในและนอกบานของเราแลว   นักอานยุคเกาหลายทาน   คงสายหนากันใหควั่ก   ดวยคาที่มันดูเปนงานเขียน

ประเภทฉาบฉวยและกรางเกรียน   แตกตางจาก

วรรณกรรมยุคเกาที่พวกเขาคุนเคย   ในขณะที่เด็กรุนใหม

หลายคนก็คงเบปาก   พรอมกับหันหนาเขาหาจอ

คอมพิวเตอร   เพื่อบริโภคขอมูลขาวสารที่รวดเร็วทันใจ

กวาจากโลกการอานแบบออนไลนกันเปนทิวแถว    

  ทวา   อธิชา   มัญชุนากร   กาบูล็อง   (นามสกุล   หลังสุดเปนของสามีชาวฝรั่งเศสของเธอ)   หญิงสาว   ไฟแรงวัยกลางเกากลางใหมคนนี้   เปนหนึ่งในคนที ่  ไมเห็นดวยกับคำกลาวนี้ครับ  

  จากเด็กสาวลูกหลานชาวแกลงที่ลองลอยไรความฝน   ปราศจากความ

ทะเยอทะยาน   และไมเคยมีความรักหรือฝงใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใดเปนพิเศษ  

(ยกเวนนิสัยรักการอานที่ติดตัวมาตั้งแตเล็กๆ)  เธอคอยๆ  กลายมาเปนผูหญิง ผูตองปะทะกับชีวิตในหลายรูปแบบ   ไมวาจะเปนการเรียนแบบเริ่มจากศูนย

ที่เอกศิลปะการละคร   คณะอักษรศาสตร   จุฬาฯ   การทดลองทำงานมา

สารพัดอยาง   และการเดินทางไปใชชีวิต   (และแปลงรางเปนหนอนหนังสือ)  

อยูตางแดนที่ประเทศฝรั่งเศสนานนับป   จนกระทั่งมาสิ้นสุดการคนหาลงที่

แวดวงนักแปลดวยคำชักชวนสั้นๆ  จากรุนพี่ที่เคารพรักอยาง  คมสัน  นันทจิต ในทายที่สุด    

  ตลอด   5   ปที่ผานมา   ชื่อของเธอไดกลายมาเปนที่รูจักของนักอาน     ในฐานะของนักแปลหนังสือฝรั่งเศสรวมสมัยที่มีผลงานออกมาแลวนับไมถวน ทั้งหนังสือรักโรแมนติกผลงานของ   มารค   เลอวี   (Marc   Levy)   เจาพอ

เบสตเซลเลอรของฝรั่งเศส   อยาง   ‘ปาฏิหาริยรักตางภพ’,   ‘เจ็ดวันเพื่อหนึ่ง

นิรันดร’,   ‘ทุกสิ่งอันที่เรามิเคยเอื้อนเอยตอกัน’   ฯลฯ   งานเขียนขมอมหวาน

ไดใจของ  อันนา  กาวาลดา  (Anna  Gavalda)  นักเขียนมือทองของฝรั่งเศส

อีกคน  ในเลม  ‘ฉันเคยรัก’,  ‘เพียงเรามีกันแคนั้นพอ’  และงานของ  มารแต็ง  

ปาจ  (Martin  Page)  นักเขียนหนุมไฟแรงเจาของความคิดประหลาดเจาคารม ในเลม  ‘ทำอยางไรใหโง’,  ‘ปนศิลปอใหเปนศิลปน’  และ  ‘ช้ำจนชิน’  เปนตน    

  ทั้งนี้   ยังรวมไปถึงบทบาทในการเปนบรรณาธิการของสำนักพิมพเล็กๆ  

ที่เธอเปนผูกอตั้งมาไดราว   2   ปกวา   ภายใตชื่อละมุนหูวา   ‘กำมะหยี่’   (ซึ่ง

ไปพองเสียงกับคำวา   Gamme  Magie   ในภาษาฝรั่งเศส-อันแปลวา   Magic  

Collection-พอดี)  ซึ่งทยอยออกหนังสือแปลของ  ฮารูกิ  มุราคามิ  (Haruki  

Murakami)  มาแลวหลายเลม  ทั้งยังมีชื่อเสียงในการตีพิมพหนังสือแปลกๆ  

อยาง  นิยายภาพชุด  ‘แพรซโพลิส’,  หนังสือมิตรเกย  อยาง  ‘รหัสลับ  เกเก  

วินชี’   และลาสุดกับ   ‘แชมชา’   ของ   มิลาน   คุนเดอรา   (Milan   Kundera)  

381 252-256 this i beleive Atich252 252 4/2/10 10:33:38 PM

Page 2: What I believe

CONTEMPORARY LITERARY WORKS

โดยเธอจะคอยชักใยบริหารและประสานงาน  (บางครั้ง  

ก็สลับหมวกมาแปลเองดวย)   ผานทางอินเตอรเน็ต

และการสื่อสารของโลกยุคไรพรมแดน   ตรงดิ่งจาก

เมืองบังกาลอร   ประเทศอินเดีย   อันเปน   ‘บาน’      

ที่เธอกับครอบครัวพำนักอาศัยกันอยูในปจจุบัน    

  หลายคนอาจจะเคยอานผลงานแปลของเธอ    

กันมาบางแลว   แตคราวนี้เราอยากใหคุณลองอาน

ความเชื่อที่ซุกซอนอยูในตัวหนังสือของเธอถัดจากนี้

กันดูสักหนอย  

  เผื่อวาคุณจะเริ่มมองเห็นถึงคุณคาของ  ‘วรรณกรรมรวมสมัย’  เหมือนอยางที่เธอเห็นบาง

ดิฉันเชื่อใน เกียรติยศ

ของวรรณกรรมรวมสมัย

ดิฉันเชื่อในเกียรติยศของวรรณกรรมรวมสมัย   หึหึหึ   ฟงดูอหังการกาวราวดีเนอะ  แตดิฉันเชื่อจริงๆ  นะ  

  จะวาไปแลวตนตอความเชื่อในความยิ่งใหญของวรรณกรรมรวมสมัย

ของดิฉันมาจากความเชื่อสวนตัวในความดีงามของโลกรวมสมัย   โลกปจจุบัน

ที่เราๆ  กำลังย่ำเทา  อาศัยหลับนอน  กินดื่ม  ตกหลุมรัก  อกหักกันอยู   โลกที่

อะไรๆ   ดูกาวแบบพรวดพราดขาดความละเมียดละไม   ติดจะเกรียนกวนใจ

ขามหัวผูใหญ   ไรรากแลวยังอวดดีนี่ละ   คำตัดสินพวกนี้มักจะมาจากพวกคน

ที่เกากะโหลกกะลา   ชวยสังเกตกันนิดหนึ่งนะคะวาดิฉันใชคำวา   เกา   ไมใช      

คำวา  แก  เพราะมีคนแก  เอย...ผูมีอายุเยอะหลายคนที่ไมเกา  คนเกาๆ  พวกนี ้ 

381 252-256 this i beleive Atich253 253 4/2/10 10:34:01 PM

Page 3: What I believe

คุณคิดวาคำวา ‘ความเชื่อ’, ‘ความเชื่อมั่น’ และ ‘ศรัทธา’ สำหรับคุณแลวมีความแตกตางกันอยางไร ความเชื่อไมตองอาศัยอะไรมาก  แคเห็นวาดี  สมควรเชื่อก็พอ  

ความเชื่อมั่น   นอกจากเห็นวาควรเชื่อแลว   ยังตองเปนการ

เห็นตางจากความเห็นของคนอื่นๆ   มีการเสียดทานมากกวา  

สวนศรัทธา   เปนภาวะของการทุมเทแรงใจ   บางครั้งแรงกาย  

หรือชีวิต  เปนขั้นสูงสุดของความเชื่อ  

คุณรูไดอยางไร วาความเชื่อหนึ่งๆ เปนความเชื่อที่ ‘ถูก’ หรือ ‘ผิด’ ความเชื่อที่ถูกคือความเชื่อที่ไมทำรายตัวเองและไมทำราย    

ผูอื่น  ถาความเชื่อนั้นทำรายตัวเองและผูอื่น  ถือเปนความเชื่อ  

ที่ผิด    

คุณมีวิธีตรวจสอบความเชื่อของตัวเองอยางไร ความเชื่อของดิฉันไมไดทำรายใคร  และดิฉันยังมีความสุขที่จะ

เชื่อ  และสุขที่จะทำงานตามความเชื่อนั้นอยู    

คุณตรวจสอบความเชื่อของตัวเองสม่ำเสมอแคไหน นานๆ  ครั้งคะ  ตรวจบอยๆ  ไมไหว  เสียเวลาทำงาน  

รู จั กตัวตนในด านอื่นๆ  ของเธอไดมากขึ้นที่บล็อก  www.aticha.bloggang.com   และติดตามความเคลื่อนไหวของสำนัก-พิมพกำมะหยี่ไดที่  www.  gammemagie.com    

FYI

เปนพวกหวนไหโหยหาอดีต   นิยมชื่นชมสิ่งเกาๆ   ตองของเกา

เทานั้นถึงจะดี  เด็กสมัยนี้  คนสมัยนี้  วรรณกรรมสมัยนี้รึ  ไมเขาทา  

ไมลึกซึ้ง   ของดีตองโนน   งานสมัยโนน   เด็กเมื่อวานซืนจะหาญมา

ทำงานดีเทียบเทาคนรุนกอนไดยังไง  

  แตดิฉันชอบยุคที่ทั้งยุงเหยิงและเรียบงายในเวลาเดียวกันยุคนี ้ 

ชอบอยางออกหนาออกตาดวย   ไมเพียงเพราะดิฉันเปนคนยุคนี้  

ถาไมชอบยุคนี้จะไปชอบยุคไหน   แตเปนเพราะดิฉันวาโลกรวม

สมัยมีลักษณะเดนที่นาภาคภูมิใจ   มีความไดเปรียบมากมายที่

สมัยอื่นๆ   ไมมี   เปนสมัยที่คนหูตาเปดกวางถูกครอบงำนอยกวา

ยุคอื่นๆ   โลกไรพรมแดนดวยอินเตอรเน็ต   มนุษยไมเคยใกลชิดกัน

มากขนาดนี้   โลกไมเคยเล็กขนาดนี้มากอน   คนทุกมุมโลกฟงเพลง

จากไอพ็อดรุนเดียวกัน   คนทั้งโลกเห็นตึกเวิลดเทรดถลมตอหนา

ตอตาพรอมกัน   คนทั้งโลกรวมกันลุนวาประธานาธิบดีของสหรัฐ  

อเมริกาจะเปนคนผิวดำหรือเปลา   คนทั้งโลกรวมมือรวมใจกัน

ชวยผูประสบเหตุแผนดินไหวในเฮติหนึ่งวันหลังเกิดเหตุ    

  จุดสำคัญที่ทำใหดิฉันรักยุคนี้เปนพิเศษเขาทำนองความ

ยุติธรรมที่แทคือความยุติธรรมที่เอื้อประโยชนใหกับตัวเองอยูนิดๆ  

คือถาดิฉันเกิดในยุคกอนหนานี้   ดิฉันจะไมมีทางมีชีวิตที่ดิฉัน    

พึงพอใจอยูในขณะนี้   ไมสามารถทำงานไดอยางทุกวันนี้   ทั้งใน    

งานแปลที่ตองหาขอมูลตางๆ   อยางงายดายเพียงขยับนิ้วลงบน

ปุมแปนพิมพ   ไหนจะงานชักใยบริหารสำนักพิมพในเมืองไทย  

ตรวจตนฉบับ  ตรวจเลยเอาตและหนาปกจากหนาจอคอมพิวเตอร  

จากจุดตางๆ   ของโลกทั้งจากประเทศฝรั่งเศส   หรือจากประเทศ

อินเดียที่ดิฉันพักอาศัยอยูในปจจุบัน   ยิ่งชวงหลังๆ   พอมีโทรศัพท

มือถือที่รับอีเมลไดดวยเนี่ย   ขนาดนั่งรถหัวโยกหัวคลอนอยูใน

หุบเขาสูงเสนทางวกวนคดเคี้ยวในดารจีลิ่ง   ดิฉันยังสามารถตรวจ

อานหนังสือตั้งแตวรรณคดีเกาแกรุนพระอภัยมณี   ลิลิตพระลอ

เรื่อยมา   อานดะไปหมด   นิยายน้ำเนาเบาๆ   ก็ชอบ   หนังสือกำลัง

ภายใน  สืบสวนสอบสวนเนี่ยถึงขั้นติดหนับ  นิยายหนักๆ  ประเภท

อานจบเลมแลวอึ้งไปหลายวันเพราะอานไมรูเรื่องและไมรูวาจะ

หัวเราะหรือรองไหดีก็อานได  สำหรับหนังสือระดับวรรณกรรมที่ได

รับการตีตราแลววาสุดยอดอยูในรายการ   ‘ตองอาน’   อยางเปน

ทางการนั้นก็อานอยูบาง   ชื่นชมนั้นก็ชื่นชมอยู   แตไมไดชื่นชอบ    

หัวปกดิน  ชอบหนังสือประเภทอานเจอโดยบังเอิญแลวชอบมากกวา    

  จุดเริ่มตนที่ทำใหหันมาเปนแฟนวรรณกรรมรวมสมัยจริงๆ  

เกิดขึ้นตอนที่ไปเควงควางอยูที่ฝรั่งเศส   นอกจากริเปดหนังสือ

ฝรั่งเศสอานเพื่อฝกภาษาแลว   ยังไดยินไดเจอที่ไหนไมรูวา   ถาอยู

ประเทศไหนแลวไมไดอานหนังสือที่เขียนโดยคนประเทศนั้น      

ถือวาไม ไดทำความรูจักกับวัฒนธรรมในประเทศนั้นจริงๆ      

พอเรียนภาษาฝรั่งเศสไดถึงจุดหนึ่งก็เริ่มสอดสายสายตาหา

หนังสือฝรั่งเศสอาน   ตอนแรกเริ่มดวยหนังสือเลมดังที่ไมหนา    

มากนักแตหนักมากคือ   L’Étranger   (คนนอก)   ของ   อัลแบรฺต    

กามูส   (Albert   Camus)   ซึ่งเปนหนังสือที่อานในภาษาไทย    

ยังแทบจะไมรูเรื่อง  แลวนังคนนี้ยังกระแดะทำหัวสูงอานจากภาษา

ฝรั่งเศสงูๆ  ปลาๆ  ในตอนนั้น  หลังจากนั้นก็อานสะเปะสะปะเรื่อย

มา   จนเจอเลม   ‘Je   voudrais   que   quelqu’un   m’attende  

quelque   part’   (อยากใหใครสักคนรอฉันอยูที่ไหนสักแหง)   งาน

รวมเรื่องสั้นของ  อันนา  กาวาลดา  นักเขียนรวมสมัยของฝรั่งเศส  

เปนเรื่องราวของคนฝรั่งเศสสมัยปจจุบัน   อานแลวเขาใจ   อาน

แลวขำ   อานแลวเศรา   อานแลวรองไห   อานแลวรูเรื่องและรูจริงๆ  

แบบพูดไดเต็มปากเต็มคำถองแทดวย    

  จุดนี้เองที่ทำใหดิฉันเริ่มตนทำงานแปลเลมแรกดวยงานของ

นักเขียนรวมสมัย   สนใจนำเสนองานของคนใหมๆ   และตอมา    

จัดพิมพแตงานของนักเขียนยุคนี้   หรือถาเปนงานเกาก็มีการ

ตีความจากคนรุนนี้ดวยเปนหลัก   ประกอบกับงานแปลฝรั่งเศส    

ในเมืองไทยชวงกอนที่ดิฉันจะมาเริ่มทำสวนใหญจะเปนงานเกาๆ  

ขั้นคลาสสิก   ประเภทขึ้นหิ้ง   หยิบลงมาอานทีตองปดฝุนปรับตัว

ปรับใจทั้งเรื่องราวยอนยุคและฉากหลังโบร่ำโบราณ   ภาวะที่ใน

ตลาดหนังสือชวงนั้นแทบจะไมมีงานฝรั่งเศสรวมสมัยวางแผงเลย

เปนจุดแข็งที่ดีในการนำเสนองานแนวนี้ไปยังสำนักพิมพตางๆ      

แตก็นั่นละ   ถาดิฉันขาดความเชื่อความชอบในงานประเภทนี้เปน

ทุนเดิมแลว   คงไมสามารถนำเสนออยางมั่นอกมั่นใจมากจน

บรรณาธิการสำนักพิมพตางๆ  เชื่อตามจนยอมพิมพได  

และอนุมัติงานที่สงมาใหดูจาก

เมืองไทยได   และที่ประทับใจ

ที่สุดและเปนเหตุการณที่เลา

ซ้ำไดจนถึงชั่วลูกชั่วหลานคือ

การสงอี เมลประมูลลิขสิทธิ์  

1Q84   ระหวางนั่งรอเครื่องบิน

ที่สนามบินกัลกัตตา    

  สวนความเชื่อในเกียรติ-

ยศของวรรณกรรมรวมสมัย  

อันเปนความเชื่อที่ตองใชคำ    

ยืดยาวยิ่งนี้เกิดจากการคลุกคล ี 

จับตองหนังสือมาตลอดชีวิต  

CONTEMPORARY LITERARY WORKS

381 252-256 this i beleive Atich254 254 4/2/10 10:34:19 PM

Page 4: What I believe

คนสวนใหญมักบอกวาตนเองเชื่อใน ‘ความจริง’, ‘ความงาม’ และ ‘ความดี’ (หรือบางทีก็ ‘ความรัก’) สำหรับคุณสามสี่สิ่งนี้คืออะไร และคุณเชื่อมั่นในสิ่งเหลานี้แคไหน ความจริง  ความงาม  และความดีเปนสิ่งไมเที่ยงแท  

ความจริงของคนหนึ่งอาจไมใชความจริงของอีกคน

หนึ่ง   ความงามเปนสิ่งที่แปรผันตามรสนิยมของ

แตละคนเชนกัน   ความดีในบางครั้งอาจเปนความ

ไมดีของอีกคน   ดิฉันเลยไมคอยเชื่อในสามสิ่งนี ้   

สักเทาไหร   แตเชื่อในความรัก   ดิฉันคิดวาความรัก

เปลี่ยนโลกได   เพราะความรักเปลี่ยนแปลงคนได  

แตมีขอแมวาตองเปนความรักที่แทจริงตอผูอื่น  

ไมใชความรักที่ เห็นแกตัว   มุงหวังเปนเจาขาว

เจาของ  

นักคิดในโลกกลุมหนึ่งที่เชื่อวา มนุษยเกิดมาพรอมกับความดีงามในตัว แตยังคนไมพบความดีงามนั้น อีกกลุมหนึ่งเชื่อวา มนุษยเต็มไปดวยความชั่วราย ตองการการขัดเกลาเพื่อขจัดความชั่วรายออกไป คุณเชื่อแบบไหนมากกวากัน เชื่อแบบแรกมากกวา   แตเห็นแบบหลังมากกวา  

ตนตอเกิดจากความออนแอซึ่งเปนคุณสมบัต ิ   

พื้นฐานของคน   การพิสูจนความเชื่ออยางแรก      

การจะกาวขึ้นแทนไปสูความดีงามไดตองอาศัย

ความกลาหาญเด็ดเดี่ยว   มั่นคงไมคลอนแคลนจาก

สิ่งเราตางๆ  ลึกๆ  แลว  ดิฉันเชื่อวาไมมีใครอยากชั่ว  

ใครๆ   ก็อยากไดชื่อวาเปนคนดี   หรืออยางนอย    

พูดกับตัวเองไดอยางเต็มปากเต็มคำวา   ฉันเปน    

คนดี   แตดวยภาวะจำเปนบีบบังคับ   ทั้ งจาก

ภายนอก   ดวยสถานการณตรงหนาและภายใน  

ความทะเยอทะยาน   ปมดอยลึกๆ   ความโลภ  

ความเห็นแกตัว   ทำใหตองทำเลว   เปนภาวะ

ปราชัยที่ทำไดงายกวาการดึงดันเพื่อกาวพนผุดขึ้น

สูผิวน้ำแหงความดี   เพราะเหตุนี้กระมัง   ทำใหดิฉัน

เห็นฉากหนาพื้นผิวของมนุษยวาเลวรอการขัดเกลา  

มากกวา  แตถึงจะเห็นเยอะ  แตก็ยังไมเชื่อนะคะ  

สำหรับคุณ ความเชื่อตองการ ‘เหตุผล’ หรือไม และสำหรับคนทั่วไป คุณคิดวาความเชื่อ ของพวกเขาตองการ ‘เหตุผล’ หรือไม ตองการสิคะ   ไมอยางนั้นดิฉันคงไมมีอะไรมา

สาธยายถึงความเชื่อของตัวเองเปนวรรคเปนเวร

แบบน้ำทวมทุงอยูตรงนี้ได   สำหรับคนทั่วไป   ไมวา

ความเชื่อจะไรสาระดูงมงายในสายตาคนอื่นๆ  

ขนาดไหน   ลึกๆ   แลวตองมีเหตุผลมารองรับไมวา

จะเปนเหตุผลที่ฟงดูงี่เงา   โงเขลา   เห็นแกตัว   หรือ

รายกาจขนาดไหน  

 

  ดวยความเชื่อของดิฉันกับการที่สำนักพิมพเชื่อดิฉัน   เกิดผลสัมฤทธิ์

เปนเสียงตอบรับที่ออกมาในระดับที่ถือวาดีมาก  ทำใหดิฉันผันตัวมาเปนนักแปล  

อิสระแบบเต็มตัว   และมีคิวหนังสือแปลยาวเหยียดขามปไมตองกลัวอดตาย

ถายังมีแรงแปลอยู   สวนหนึ่งดิฉันเชื่อวา   คนอานของดิฉันเองก็คงหัวเราะ  

รองไห   เขาใจหนังสือรวมสมัยจริงๆ   เหมือนดิฉันตอนที่อานหนังสือในภาษา

ฝรั่งเศส   จริงอยูวาหนังสือแปลชวยตัดอุปสรรคทางภาษาไปไดเปลาะหนึ่ง  

แตอุปสรรคทางบริบทในเรื่องก็มีสวนสำคัญ  บริบทในหนังสือสวนใหญที่ดิฉัน

เลือกมาทำจะเปนเหตุการณในยุคปจจุบันที่ถึงแมจะเกิดที่ประเทศอื่น   แตคน

อานไทยในยุคเดียวกันอานแลวเขาใจได   มีความแตกตางทางวัฒนธรรมและ

พื้นหลังที่แตกตางของยุคสมัยนอยกวางานที่ขึ้นชื่อวาเดนดังยุคกอนหนา      

นาเศราใจอยูนิดๆ   ที่อาจจะเปนดวยเหตุผลของความงายไมตองปนกระได

แกะรอยประวัติศาสตรอานนี้เอง   งานหนังสือรวมสมัยจึงไมคอยไดรับการ

ยกยองวาเปนงานชั้นดี   เหมือนกับมีการดูหมิ่นดูแคลน   มีการกดหนังสือ

ประเภทนี้อยูกลายๆ  วาไมยิ่งใหญเทียบเทางานของคนที่ตายไปแลว  ไมนำเสนอ  

แนวความคิดที่ตายไปแลว  ไมเอยถึงเหตุการณที่ตายไปแลว    

  ความเชื่อของดิฉันในเรื่องนี้พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ   มาชวงหลังเปลี่ยนสลับ

หมวกมาทำสำนักพิมพ   ความเชื่อในคุณคาของหนังสือที่ตัวเองเลือกยิ่งตอง

เขมขนขึ้น   เพราะไมเพียงแคแรงกายแรงใจในการอาน   คัดเลือก   นำเสนอ

และแปลใหดีที่สุดเทานั้น   ยังมีเรื่องการลงทุนทางการเงินเขามามีสวน

เกี่ยวของดวย  หากงานสำนักพิมพที่ออกหนังสือที่มีกลุมนักอานติดตามกลุม

เล็กๆ  อยางสำนักพิมพกำมะหยี่ที่เลือกทำงานตามความเชื่อของดิฉัน  ถึงแม

ความเสี่ยงทางธุรกิจมีแววขาดทุนหรือทุนจมดิ่งจมยาวจมนานจะสูง   มีสิ่ง

ตอบแทนทางจิตใจที่เราภาคภูมิใจปลาบปลื้มอยูอยางหนึ่งคือ   เราไดติดตอ

สื่อสารกับนักเขียนที่เราชื่นชอบผลงานในสถานะคนกับคน   ทำงานแบบ    

ใหเกียรติ   จายคาลิขสิทธิ์ถูกตอง   ไมลักกินขโมยกินแอบแปลแอบพิมพ   เรารู

วานักเขียนของเรามีชีวิตอยูที่ไหนสักแหงในโลกเดียวกันใบนี้ในขณะนี้   เขาจะ

เปดไฟลดูหนาปกที่ทีมงานของเราตั้งใจทำสงใหดูเพื่ออนุมัติ   เขาจะไดเห็น    

ไดหยิบจับผลงานหนังสือที่เราจัดพิมพเสร็จแลว   เขาจะหยิบปากกาจรดลง

•เชื่อในความมหัศจรรยที่เกิดจากความไมแนนอนของมนุษย  •เชื่อในทัณฑทรมานในความเจ็บปวดในการฝกฝนสิ่งตางๆ  ทั้งกิจกรรมนอกและในการทำงานวาเปนเสนทางที่นำไปสูความสำเร็จ  เพชรน้ำงามตองผานการเจียระไน  ดาบชั้นดีตองผานการตีอยางหนัก    •ไมเชื่อในความเปนกลางของขาวตางๆ  จากสื่อ  •ไมเชื่อคำพูดของใครถาไมเห็นผลงานกอน    

How to Believe

หนังสือ The Lord of the Rings (1954-1955, เจ. อาร. อาร. โทลเคียน)   สะทอนความมหัศจรรยของมนุษยไดอยางชัดเจนที่สุด   ในเรื่องนี้มีเพียงคนจากเผาพันธุมนุษยเทานั้นที่มีเฉดสีหลากหลายและสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได   ไดเห็นวาคนที่นาจะดีอาจจะเลวได  และคนที่ดูชั่วรายอาจเปลี่ยนมาทำความดีได    

I Believe In

381 252-256 this i beleive Atich255 255 4/2/10 10:34:34 PM

Page 5: What I believe

ดิฉันไมเชื่อวาเงินซื้อทุกอยางได   เงินสามารถซื้อความสะดวกสบาย   ซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นหนึ่งสามารถยืดกายนอนไดยาวเหยียด   ไดกินอาหารชุดพิเศษ   มีเหลาชั้นดีกวาใครๆ   มาบริการ   แตเงินซื้อเพื่อนแท   ซื้อความสุขใจ      ซื้อความสงบสุข   การใหอภัย   ความพอใจไมได  เงินซื้อใบประกาศฯ  ซื้อชื่อเสียงได  แตซื้อทักษะความสามารถและความภาคภูมิใจการลงแรงกาย  แรงใจไมได  ดิฉันเรียนรูความไมเชื่อในขอนี้จากภาวะของการไมขาดเงิน   การมีเงินใชจายโดยไมตองคิดคำนวณหลายตลบก็ไมเลวนักหรอก  สามารถตัดความอึดอัดบางสวนไปได   แตในขณะเดียวกัน   ดิฉันไดเรียนรูวา   ถึงจะมีเงิน      แตไมมีเวลา   ไมมีใจ   ไมมีความสม่ำเสมอ   ไมมีความออนโยนตอคนอื่น   ไมมีความรับผิดชอบ  ที่สำคัญคือไมมีวินัยตอตนเอง   เอาเงินมากองทวมหัว  ก็ยังมีสิ่งที่ซื้อไมได      

I Don’t Believe

บนสัญญาลิขสิทธิ์ที่มีลายเซ็นของดิฉันอยูในนั้นดวย  

ทุกครั้งที่เห็นลายเซ็นของมุราคามิหรือคุนเดอรา    

บนสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ เคียงคูลายเซ็นของตัวเอง      

ใจดิฉันจะเตนตึกตักราวกับเปนสาวรุนยามแรกรัก

ทุกทีไป  

  การยืนยันความเชื่อไมวาจะเปนความเชื่อใน

เรื่องใด   สิ่งที่ทำไดคือการเชื่อตอไปดวยการยืนหยัด

ปฏิบัติตามความเชื่อนั้น   ในกรณีของดิฉันคือทำงาน

ออกหนังสือรวมสมัยตอไปไมทางใดก็ทางหนึ่ง   ถามี

วันหนึ่งดิฉันไมทำธุรกิจสำนักพิมพแลว   ก็ไมได

หมายความวาจะเลิกเชื่อในหนังสือรวมสมัย   แตจะ

เปนการเลิกเชื่อในธุรกิจสำนักพิมพและศักยภาพ

ของตัวเองในการบริหารสำนักพิมพเสียมากกวา    

  และถาวันนั้นมีจริง  ก็จะยังคงพยายามนำเสนอ  

หนังสือรวมสมัยดวยการเปนแมยก   อานและ

ทำงานแปลตอไปเรื่อยๆ  คะ  

Gattaca (1997, แอนดรูว นิคโคล)    เปนหนังที่ทำใหมั่นใจวาความออนดอย   ออนแอของมนุษย    ไม ไดมีแตขอเสีย   การที่ เรา    ไมสมบูรณแบบเปนแรงผลักดัน

ที่เขมแข็งรุนแรงที่สุด  สามารถทำใหเราเอาชนะ  อุปสรรคและความเปนไปไมไดตางๆ    

I Believe In

คุณคิดวา ‘ความเชื่อ’ หรือ ‘ศรัทธา’ นำเราไปสูปญญาไดไหม หรือวาในบางครั้ง ก็เปนไดเพียงอุปสรรค ถาเปนความเชื่อในสิ่งที่ดี  หรือศรัทธาในสิ่งที่มีประโยชน  คิดวาสามารถนำไปสู

ปญญาไดคะ   แตก็ถูกเหมือนกันวาบางครั้งความเชื่อก็เปนอุปสรรค   แต

อุปสรรคนี่ละคะที่ชวยสรางคุณคาใหความเชื่อนั้น    

ระหวางความเชื่อแบบ ‘ความเชื่อมั่น’ และความเชื่อแบบ ‘เชื่องมงาย’ คุณคิดวาเสนแบงของมันอยูตรงไหน อยูตรงผลลัพธของความเชื่อนั้น   อยูที่วาเปนความเชื่อมั่นตออะไร   สิ่งนั้นเปน

สิ่งที่ดีหรือไม   เชื่อแลวทำรายตนเองและผูอื่นหรือไม   ความเชื่อมั่นนั้นอาจเปน

ความเชื่อมั่นในสิ่งที่เปนไปไมไดก็ไดหรือเปนไปไดยาก   เพราะไมอยางนั้น      

เราไมเรียกวาความเชื่อมั่น   ถาสิ่งที่เชื่อมั่นเปนไปในทางดี   เชน   เชื่อวาลูกคนที่

เรียนไมเกง  มีความสามารถอื่นที่สามารถเอาตัวรอดไดนอกชั้นเรียน  ทำใหเด็ก

ไมรูสึกวาผลการเรียนคือคำตอบทุกอยางของชีวิตและมีกำลังใจฝกฝนทักษะ

เฉพาะตัวของตน  และไมรูสึกดอยกวาคนอื่น   นี่คือความไมงมงาย   แตเปนการ

เชื่อมั่นในสิ่งที่คนอื่นสายหนามองไมลึกไมไกลเอง   ขณะที่ความเชื่องมงาย      

เชน   เชื่อวาทำบุญรอยลานแลวจะขึ้นสวรรคชั้นที่ลานเจ็ดโดยนำทรัพยสิน    

ที่ครอบครัวมีความจำเปนตองใชไปบริจาค   เปนความเชื่อในสิ่งที่เปนไปไมได

หรือพิสูจนไมไดในสายตาคนอื่นก็จริง  แตเปนความเชื่อที่งมงายเพราะนำความ

เดือดรอนมาสูครอบครัว  

คุณคิดอยางไรกับคำกลาวที่วา ‘ไมเชื่ออยาลบหลู’ เห็นดวยคะ  ความเชื่อใครก็เปนของคนนั้น  มีศักดิ์ศรี   เปนจริงในสายตาคนเชื่อ

เทาๆ  กัน  คนเราไมควรลบหลูกันไมวาเรื่องความเชื่อ  ความเห็น  รสนิยม  หรือ

เรื่องอื่นใดก็ตาม  

คุณคิดวา ความเชื่อแบบไหนที่กำลังเปนปญหาใหญของสังคมไทย ในตอนนี้ ความเชื่อเรื่องสี  

คุณคิดอยางไรกับความเชื่อมั่นใน ‘สิ่งที่เปนไปไมได’ เหมือนในเพลง The Impossible Dream ในละครเพลงเรื่อง ดอน กิโฆเต แมน ออฟ ลามันชา คิดวาความเชื่อมั่นกับสิ่งที่เปนไปไมไดเปนของคูกันคะ   สิ่งที่เปนไปไมไดทำให

ความเชื่อมั่นเปนความเชื่อมั่นที่แทจริง  ถาเชื่อมั่นในสิ่งที่เปนไปไดงายๆ  หรือมี

ความเปนไปไดสูง   เชน   เมื่อเห็นฟาครึ้มจึงเชื่อมั่นวาฝนจะตก   ดิฉันไมเชื่อวา

เปนความเชื่อมั่น  มันงายไป  ไมทาทาย  ไมสนุก  ไมมีลุน  

ระหวาง ‘เชื่อในสิ่งที่ทำ’ กับ ‘ทำในสิ่งที่เชื่อ’ คุณเลือกอยางไหน และคุณคิดวาอยางไหนมีพลังขับเคลื่อนมากกวากัน ดิฉันเปนคนทำงาน   ดิฉันไมใชคนชางฝน   ดังนั้น   ดิฉันจึงเชื่อในสิ่งที่ทำคะ      

และเห็นวาการเชื่อในสิ่งที่ทำมีพลังขับเคลื่อนมากกวาการทำในสิ่งที่เชื่อ  

เพราะดิฉันเชื่อในการลงมือทำกอน   เมื่อทำแลว   เห็นชัดแจงแลวจึงเชื่อหรือ    

ไมเชื่อก็จะไดรูกันไป   การเชื่อในสิ่งที่ทำ   ในกรณีที่ทำแลวเชื่อจะเปนความเชื่อ    

ที่ไดรับพิสูจนแลวอยางเปนรูปธรรม  

คุณคิดวาความเชื่อถูกขับเคลื่อนโดยความกลัวไดไหม และความเชื่อแบบนี้มีคุณคาไดหรือไม ความเชื่อมากมายถูกขับเคลื่อนดวยความกลัวซึ่งก็ไมใชเรื่องผิดแปลกตรงไหน  

ถาความเชื่อนั้นทำใหคนดำรงตนเหมาะสมไมเบียดเบียนผูอื่นก็ถือวามีคุณคาคะ    

CONTEMPORARY LITERARY WORKS

381 252-256 this i beleive Atich256 256 4/2/10 10:35:05 PM