บันทึกการแข่งขัน seo 2010 โดย mr.hackublog

1 บันทึกประสบการณการแขงขัน SEO 2010 โดย Mr.Hackublog

http://www.hackublog.com

E-Book บันทึกประสบการณ์

การแข่งขัน SEO 2010 ชิงแชมป์แห่งประเทศไทย

โดย Mr.Hackublog http://www.hackublog.com



ถึงผู้อ่าน ผมไม่ใช่คนที่คนอื่นเรียกกันว่าเทพ ผมเป็นคนธรรมดาที่อยากถ่ายทอดประสบการณ์ในการทํา SEO ในอีกมุมมองหนึ่ง จากคนที่เริ่มจากศูนย์ และไม่มีต้นทุนในการทํา SEO ไม่มี Network ส่วนตัว มีเพียงความอยากรู้อยากเห็น และมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการทํา SEO

ช่วงเวลา 80 วันที่ทําการแข่งขัน SEO 2010 เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ทําให้รู้สึกว่าเวลาทุกนาทีมีค่ามาก เพราะตัวผมเองทํางานประจําประมาณ 9.00 -17.00 เลิกงานกลับมาก็มาแข่ง SEO ประมาณตี 2-3 ถึงได้นอน บางวันเหนื่อยมากก็ไม่ได้ทําเลย แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเหนื่อยมากจนไม่คิดจะแข่งอีกแล้ว ก็ได้ประสบการณ์ดี ๆ มาเล่าให้คนอื่น ๆ ฟังพอเป็นแนวทางเอาไปปรับใช้ได้บ้างผมก็ภูมิใจแล้ว E-book เล่มนี้เล่าจากประสบการเพียง 2 ใน 3 ในการแข่งขันของผมเท่านั้นเพราะบางเรื่องไม่ควรเปิดเผยเนื่องจากเป็น E-book แจกแบบสาธารณะ E-book เหมาะสําหรับคนที่รู้หลักการ SEO พื้นฐานอยู่แล้ว มุมมองและประสบการณ์ของผมอาจจะจริงหรืออาจจะไม่จริง อาจจะมปีระโยชน์หรืออาจจะไม่มี มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะหยิบจับไปประยุกต์ใช้ได้แค่ไหน

Mr.Hackublog 2011 http://www.hackublog.com



บทนํา ประเมินตัวเองก่อนแขง่ SEO 2010 ความจริงหลังจากประกาศ Keyword และกติกาการแข่งขันออกมาแล้วผมก็ยังไม่แน่ใจว่าจะลงแข่งดีหรือไม่ เพราะดูจากเจ้าที่แล้วใน Keyword สถานที่ท่องเที่ยวก็มี Relexy, Sanook และ Mthai อยู่ในหน้าแรกด้วย และก็ยังมีสุดยอดฝีมืออีกมากมายที่จะต้องแข่งขันกัน แล้วเราจะเอาอะไรไปสู้เขา? เวลาจะทําก็ไม่ค่อยจะมี เพราะต้องทํางานประจํา ซึ่งผมใช้เวลาตัดสินใจอยู่ 5 วันหลังจากวันที่ประกาศ Keyword แต่สุดท้ายก็คิดได้ว่า “ไม่แข่งปีนี้แล้วจะแข่งปีไหน อย่างน้อยแข่งแล้วก็ได้ประสบการณ์ได้ความรู้” เมื่อผมคิดได้แบบนี้ก็ลงแข่ง SEO 2010 และเริ่มทําจากวันที่ 6/9/2010 ก่อนเริ่มทําผมก็ประเมินตัวเองก่อนแบบนี้ สิ่งที่ควรจะม ี สภาพจริง คิดบวก

เนื้อหา ในมือไม่มี สร้างได้ กินไปเที่ยวไปใกล้ ๆ ตวัน่าจะมี

Host + Domain ไม่มี ไม่ได้จด ใช้ blogspot ฐาน Network มีบล็อกฟรีอยู่ 10 กว่าบล็อกในมือ ทําเพิ่มได้เวลาตัง้ 2 เดือน ของฟรีมี

มากมายที่ซ่อนอยูแ่ละยังไม่มีใครรู ้สะพานบอท มีบล็อกฟรีอันเดียวที่เป็นสะพานจรงิ ๆ และใช้

http://links2rss.com/ อยู่ ลองหาตัวช่วยอยา่งอื่น

ความรู้เรื่อง SEO พอรู้ ระหว่างทําต้องได้ความรู้เพิ่มแน่นอน เวลา ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน ตอนกลางคืนหลังเลิกงาน นอนดึกอีกหน่อย พักเที่ยงก็ทําได้ และ

เสาร์-อาทิตย์ก็จดัหนัก ๆ ทีมงาน ไม่มี ไม่ต้องมีก็ได้ หลายคนก็ไม่ม ีเครื่องมือ (Tool)

SEO quake, SearchStatus, iMacros, InFormEnter ทั้งหมดนี้เป็นส่วนสริมของ Firefox Browser และก็ยังมี Online tool อีกนิดหน่อย

มีเครื่องมือสะกดรอย SEO Elite เห็นเขานิยมใช้กนั งานนี้ผมต้องโฉบมาลองบ้างแล้ว ส่วนเครื่องมืออื่น ๆ ก็ไม่เอาแล้ว ใชเ้ท่าที่จําเป็นเพื่อลดภาระเท่านั้น

งบประมาณ กับการแข่งครั้งนีข้อใช้งบประมาณ 0 บาท ไม่ต้องใช้งบก็ได ้ อย่างไรก็ตามตัวผมเองก็ยังพอจะมีมีจุดแข็งอยู่บ้างในเรื่องสํานวนในการเขียนบทความที่น่าจะไม่เป็นรองใคร ก็เลยวางแผนว่าเราจะสู้ด้วยเนื้อหาคุณภาพแบบ Fresh และ Unique เพราะอย่างอื่นสู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงตามที่พูดถึงในตารางข้างบน ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็ไม่ได้เหนือกว่าคนอื่นครับ



บทแรก วางแผนการทํางาน เมื่อมีการประกาศ Keyword สําหรับการแข่งขัน SEO ชิงแชมป์แห่งประเทศไทยประจําปี 2010 ออกมาแล้วคือคําว่า สถานที่ท่องเที่ยวออกมาแล้วผมก็เริ่มวางแผนสําหรับการแข่งขันดังนี้ แผนงานที่ 1 จะใช้ blogspot หรือจะเช่าโฮสจดโดเมนเหมือนคนอื่น ๆ ในตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะเช่าโฮสจดโดเมนเหมือนคนอื่น ๆ แต่คิดอีกทีนี่มันแค่การแข่งขัน เมื่อจบแล้วผมไม่ได้มีข้อมูลท่องเที่ยวในมือมากนัก คิดว่าต้องทิ้งเว็บนี้ไปแน่นอน จึงตัดสินใจใช้บล็อกฟรีของ blogspot.com แผนงานที่ 2 สํารวจหน้าแรกเพื่อดูพฤติกรรมของ Google เกี่ยวกับ Keyword สถานที่ท่องเที่ยว

ในหน้าแรกเมื่อค้นคําว่า สถานที่ท่องเที่ยว สิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ

1. แผนที่จาก Google map 2. รูปภาพ 3. related Keyword ซึ่งได้แก่คําเหล่านี้



และจากที่ผมกดแคชดูเว็บของ relaxy และดูแคชเว็บของ sanook ก็พบว่า algorithm ของ Google จะตัดคําว่า สถานที่ท่องเที่ยว ออกเป็น 3 คําได้แก่คําว่า สถาน ที่ ท่องเที่ยว

จุดเล็ก ๆ นี้เองที่คุณไม่ควรมองข้ามเพราะจะเป็นแนวทางในการจดโดเมน เขียน Title + Descriptions และเขียนเนื้อหา การปรับ Onpage และการโปรโมท ซึ่งคนที่เข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าใครก็คือคุณ enseo แชมป์ปี 2010 นี่เอง เพราะเป็นคนแรกที่สร้างความฮือฮาด้วยโดเมน www.ที่ท่องเที่ยวสถาน.com และถ้าใครพอมีความรู้เรื่องการเรียงสับเปลี่ยน ก็จะรู้ว่าคําเหล่านี้สามารถสลับที่แล้วยังสอดคล้องกบั algorithm ของ Google นั้นก็จะมีทั้งหมด 3! แบบหรือ 6 แบบคือ สถานที่ท่องเที่ยว สถานท่องเที่ยวที ่ที่สถานท่องเที่ยว ที่ท่องเที่ยวสถาน ท่องเที่ยวสถานที ่ท่องเที่ยวที่สถาน แน่นอนว่าโดเมนเหล่านี้ถูกจดไปเรียบร้อยหลังจากประกาศผลการแข่งขันไปไม่นาน แผนงานที่ 3 วางแผนเรื่องโดเมน ผมชั่งใจอยู่นานว่าเมื่อเปิดบล็อกกับ Blogspot แล้ว จะใช้ชื่อโดเมนอังกฤษหรือไทยดี (ระหว่างชื่อไทย Keyword in domain seo friendly กับ ชื่ออังกฤษจําง่ายติดปาก สร้าง brand ง่าย) ก็เลยลองลงทะเบียนบล็อกดูปรากฎว่าชื่อเหล่านี้ สถานที่ท่องเที่ยว.blogspot.com, สถานท่องเที่ยวที่.blogspot.com, ที่สถานท่องเที่ยว.blogspot.com, ที่ท่องเที่ยวสถาน.blogspot.com, ท่องเที่ยวสถานที่.blogspot.com, ท่องเที่ยวที่



สถาน.blogspot.com ได้ถูกลงทะเบียนไปหมดแล้ว (ผมก็ไม่เข้าใจว่าใครจะมาลงทะเบียนบล็อกเอาไว้ทําไม ในเมื่อลงทะเบียนแล้วไม่ยอมเอามาทําต่อยอด) จะเหลือก็แต่โดเมนที่ต้องเติม prefix – suffix หรือแทรกบางคําลงไปในระหว่างคําว่า สถาน, ที่, ท่องเที่ยว ซึ่งมันยาวไป ผมไม่อยากได้ ด้วยความมั่นใจในตัวเองมากไปก็เลยคิดว่าใช้ชื่อภาษาอังกฤษดีกว่าจึงทดสอบลงทะเบียนดูก็ปรากฏว่าชื่อสวย ๆ ก็ได้ถูกลงทะเบียนไปหมดแล้ว ชื่อที่ผมอยากได้มากที่สุดคือ siamtrip.blogspot.com แต่ก็ถูกลงทะเบียนไปแล้ว ลองโดเมน siamtrips.blogspot.com ก็ยังไม่ได้อีก ก็เลยมาจบที่ siamtips.blogspot.com สะกดผิดอย่างที่เห็น ซึ่งที่เล่าให้ฟังเพราะต้องการชี้ให้เห็นว่านี่คือข้อผิดพลาดครั้งที่ 1 ของผม และเป็นข้อผิดพลาดที่คุณควรจะพยายามอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เหมือนผม แผนงานที่ 4 วางแผนเรื่องเนื้อหา ผมสังเกตจากช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นมาว่าบทความที่ผมเขียนเองไม่ซ้ําใคร หรือเรียกว่า Fresh & Unique Content จะขึ้นอันดับมาอยู่หน้าแรกได้ง่ายมากโดยที่ไม่ต้องมี Backlink ให้กับ Page นั้น ๆ เลย ดังนั้นทุกครั้งที่เขียนบทความผมจะพยายามไม่ให้ Title ซ้ํากับใครเลย ย่อหน้าแรกก็ไม่ซ้ํากับใครเช่นกัน และทุกครั้งที่ผมเขียนบทความจะโปรย Keyword คําว่า สถาน ที่ ท่องเที่ยว ให้แทรกอยู่ในบทความเท่าที่จะทําได้เพื่อความ Density ของ Keyword แม้ว่าหลักการบอกว่า การแทรก Keyword ลงในบทความควรจะใส่แค่ 5 % แต่ที่ผมบอกว่าให้แทรกอยู่ในบทความเท่าที่จะทําได้เพราะมันหาที่แทรก Keyword ในบทความได้ยากมาก บางบทความไม่ควรแทรกผมก็หน้าด้านแทรกลงไปเฉย ๆ เลยก็มี 55+

อย่างไรก็ตามผมคิดว่าก็เป็นความอึดอัดใจของผู้เข้าแข่งขันทุกคน (กรณีไม่มีทีมงาน) ที่ต้องเขียนเรื่องที่ตัวเองไม่ถนัด เราจะเขียนเนื้อหาขึ้นมาเองโดยไม่เคยไปท่องเที่ยวที่เหล่านั้นเลย รูปภาพ เหตุการณ์ต่าง ๆ รายละเอียดต่าง ๆ จะเอามาจากไหน? ก็คงเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้อง Rewrite บทความและขอรูปถ่ายจากเพื่อนฝูงที่พอจะมี บางทีผมก็ต้องเริ่มเขียนบทความจากรูปถ่ายที่มี แล้วไปเอาเนื้อหามาใส่ทีหลังก็มี ช่วงท้าย ๆ ของ



การแข่งขันผมยังโชคดีอยู่นิดที่ได้ไปเที่ยวที่เชียงรายจริง ๆ จึงมีบทความมาเขียนอีก 6-7 บทความ ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ขึ้นมาอยู่หน้าแรกแน่ ๆ ครับ แผนงานที่ 5 วางแผนเรื่อง Onpage ผมค่อนข้างได้เปรียบในเรื่องการปรับแต่ง Onpage ของ Blogger เพราะเล่นกับมันมานาน ซึ่งการปรับแต่ง Onpage ของผมทําควบคู่กับการเขียนบทความ และได้วางแผนงานไว้ในตอนแรกดังนี้ 5.1 เลือก Theme แบบ Simple เหมาะกับเรื่องท่องเที่ยว 5.2 เขียน Title และใส่ Meta tag จาก Related Keyword โดยใช้ข้อมูลจากแผนงานในขั้นที่ 2 5.3 ปรับ Density ทุกส่วนในองค์ประกอบของหน้ารวมทั้งในบทความ 5.4 หลีกเลียงจาวาสคริปต์ เพราะอ่านจากกติกาผมจะต้องติดโค้ดที่เป็นจาวาสคริปต์ 3 อย่างด้วยกัน คือโค้ดสําหรับโหวต โค้ดสถิติ และโค้ดโฆษณา ซึ่งมันส่งผลต่อ Page Load แน่นอน ผมจึงไม่ใส่ สไลด์ หรือโค้ดแต่งบล็อกอื่น ๆ เลย หน้าตาบล็อกก็เลยออกมาเชย ๆ อย่างที่เห็น 5.5 ใส่ผลิตภัณฑ์ของ Google ลงไป เช่น Video จาก Youtube และแผนที่จาก Google map 5.6 การเขียนบทความแต่ละครั้งของผมต้องเป็นบทความที่ Fresh และ Unique เท่านั้น เพราะผมไม่มีอะไรที่จะสู้คนอื่น ก็จะใช้เนื้อหาและ Onpage นี่แหละสู้ ทั้งหมดที่กล่าวมาจะเล่ารายละเอียดในบทถัดไป แผนงานที่ 6 วางแผนเรื่อง การหา Backlink (เป็นการทํา Offpage) การหา Backlink ผมวางแผนไว้ตามขั้นตอนดังนี้ 6.1 Submit sitemap กับ 4 ยักใหญ่เป็นอันดับแรก http://siteexplorer.search.yahoo.com/submit http://www.bing.com/webmaster/SubmitSitePage.aspx http://www.alexa.com/help/webmasters https://www.Google.com/webmasters/tools บางคนบอกว่า Bing กับ Yahoo รวมกันแล้วทําแค่ Bing ก็พอ แต่ผมว่าไม่ใช่

6.2 สร้าง Link ภายในจากทุกหน้าในบล็อกมาหน้าหลัก เช่น จากในบทความ จาก Footer จาก Blogroll หรือแม้แต่กระทั่งการ Comments เป็นต้น

6.3 Submit กับ Social Bookmark High Pr เท่านั้นเพื่อให้เว็บ indexed

6.4 นํา Feed ไปลงทะเบียนกับ Feedbuner แล้วส่ง Feed ไปที่ Facebook , Twitter, Zimbio, Mybloglog , Yahoo! Pulse , Microblog และทุกที่ที่รับ Feed และโปรโมท Feed ของเราได้



6.5 ใช้ Backlink จาก Profile เน้น High Pr ตามสไตล์ Angela Backlinks, Paul Backlinks 6.6 Comments blog วันละ 3-5 บล็อก เน้น High Pr ถ้า Pr น้อยก็จะดูว่าเป็นบล็อกที่ Google ให้ความสําคัญหรือไม่

6.7 Comments Guessbook เพื่อให้ได้ Backlink จาก difference IP Class C

6.8 ใช้ Backlink จาก Free Blog ที่มีมาตรฐานการให้บริการ เช่น Zambio, Squidoo, Wordpress.com,Blog.com, Blogetery.com เป็นต้น ซึ่งบล็อกเหล่านี้เป็นบล็อกที่ Google ให้ความสําคัญ ส่งผลดีต่อการทําอันดับ

6.9 ใช้ Backlink จาก WPmu (เวิร์ดเพรส มิว) + Fresh Content

6.10 สะกดรอย Backlink ของเว็บที่เข้าแข่งขันในหน้า 1-10 ทุกสัปดาห์ (พอทํา ๆ ไปส่วนใหญ่ผมจะโดนสะกดรอยมากกว่า 55+)

6.11 สร้าง Backlink จาก Google map และจากวีดีโอ Youtube

6.12 ใช้ Social Media เช่น Facebook ,Twitter ,Mybloglog เพื่อโปรโมทเรียก Trafiic จากทั้งคนและ Bot

6.13 ทดสอบการหา Backlink ด้วยวิธีใหม่ ๆ ที่เป็นไปได้ จะเห็นว่าในแผนงานผมไม่มี Backlink จากเว็บ pligg เลย เพราะราว ๆ เดือนกรกรกฎาคม 2010 ผมทํา Backlink จาก 100 Pligg Profile แล้วอันดับไม่ขยับ จึงคิดว่ามันไม่ Work แล้ว

แผนงานที่ 7 วางแผนเรื่องสะพานบอท (เป็นการทํา Offpage) ตอนเริ่มแข่งผมผมมีสะพานบอทเป็น Blogger แล้วเอาโดเมน .co.cc มาผูกไว้อยู่บล็อกเดียว และใช้เว็บ http://links2rss.com/ เพื่อเปลี่ยน Links จํานวนมาก ๆ ให้เป็น Feed แล้วเอา Feed ไปโปรโมท ตอนหลังผมสร้างเพิ่มอีก 2 บล็อกโดยเอาโดเมน .cz.cc มาผูกกับ Blogger และใช้บล็อกฟรีที่ Wordpress.com อีกแห่ง เป็นบล็อกที่ใช้ทําสะพานบอท 4 บล็อก ภายหลังผมลองกลับไปอ่านกระทู้เก่า ๆ ที่แข่งกันในปี 2009 เห็นมีการใช้ ClaimID เป็นสะพานบอทด้วยจึงไปหยิบ ClaimID มาใช้เป็นสะพานบอทด้วย



แต่น่าเสียดายว่าตอนนี้ ClaimID ใช้ไม่ได้กับ User ที่สมัครใหม่แล้ว

แผนงานที่ 8 เปิดบล็อกกับ blogger แผนเสร็จแล้วผมก็เริ่มเขียนบล็อก ในตอนแรกผมเขียนได้แค่ 3 บทความแต่เป็นบทความที่ Fresh และ Unique และเน้นคุณภาพ แล้วก็เอาไป Submit Sitemap ตามแผนงานที่ได้วางไว้ข้างต้น ก่อนจบบทแรกไป โปรดสังเกตว่าแผนงานที่กล่าวมาทั้งหมดนี้หายไปกระบวนการหนึ่งคือการทํา Keyword research เพราะว่าการแข่งขันครั้งนี้ได้กําหนด Keyword มาให้อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณต้องลงมือโปรโมทบล็อกด้วยตัวเองโปรดใช้เวลาในการคัดเลือก Keyword สําหรับโปรโมทบล็อกตัวเองให้มาก ๆ ด้วยนะครับ



บทสอง เริ่มสรา้งบล็อกและลงมอืปรับ Onpage

การปรับ Onpage ของผมได้มาจากแผนงานขั้นที่สองในบทแรกคือ การสังเกตจากการแสดงผลลัพธ์เมื่อใช้ค้นคําว่า สถานที่ท่องเที่ยว ในหน้าแรกของ Google ซึ่งผมขอลําดับเป็นขั้น ๆ ดังนี้

Onpage ขั้นที่ 1 เขียน Title + Meta Description + Meta Keyword จาก related Keyword ด้านล่าง

ขั้นตอนนี้ควรประณีตและบรรจงนิดนะครับเพื่อให้ได้ Title ที่ Unique และ Descriptions ที่น่าคลิกเข้ามาอ่าน และผลที่ได้จากการผสมผสานแล้วได้ออกมาเป็น

Title: สถานที่ท่องเที่ยว ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวไทย Description: สถานที่ท่องเที่ยว ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวสวยงาม ภาพสถานที่ท่องเที่ยว ทะเล น้ําตก Keywords: สถานที่ท่องเที่ยว ,ท่องเที่ยว ,ท่องเที่ยวไทย, ทะเล,เที่ยวทั่วไทย,น้ําตก,ภาพสถานที่ท่องเที่ยว

จากนั้นผม Modifier Meta tag ใหม่โดยใช้สูตรนี้ <meta content='text/html; charset=UTF-8' http-equiv='Content-Type'/> <b:if cond='data:blog.pageType == "item"'> <title><data:blog.pageName/></title> <b:else/> <title>สถานทีท่่องเที่ยว ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวไทย</title> </b:if> <b:if cond='data:blog.url == data:blog.homepageUrl'> <meta content='สถานที่ท่องเที่ยว ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว แหลง่ท่องเที่ยวสวยงาม ภาพสถานทีท่่องเที่ยว ทะเล น้ําตก' name='description' /> <meta content='สถานที่ท่องเที่ยว ,ท่องเที่ยว ,ท่องเที่ยวไทย, ทะเล,เที่ยวทัว่ไทย,น้ําตก,ภาพสถานที่ท่องเที่ยว' name='Keywords' /> </b:if> <meta content='1 days' name='revisit-after' /> <link rel='canonical' expr:href='data:blog.url' /> <link href='ใส URL ของรูปขนาดเล็กเพื่อเปน็ favicon' rel='shortcut icon' />

ที่ผ่านม Onpagจริงอยู่ทเพราะทดลอง

Log i

ค้นหาโ <b:if <h1 cl<b:if <a exp<b:els<b:if <a exp<b:els<data:</b:if</b:if</h1> </b:if ซึ่งถ้าโ

าใครจะแนะน

e ขั้นที่ 2 ปรที่มีเซียนหลายมันไม่มีกฎ แตเขียนบทความ

n Blogger

ค้ด <b:if c

cond='datalass='post-tcond='data

pr:href='datse/> cond='data

pr:href='datse/> post.title/

f> f>

f>

ค้ดที่พบยังไมใ่

นําสูตรไหนผม

รับหัวข้อบทควยคนบอกว่าในต่ H1 เหล่านั้มก็พบว่าบทคว

เข้าไปที่ >

cond='data

:post.titletitle entry:post.link'ta:post.lin

:post.url'>ta:post.url

/>

ใช่ h1 เช่นอ

มไม่รู้แต่ผมใช้

วามให้เป็น Hนหนึ่งหน้าควรนั้นควรเป็น rวามที่เขียนกม็ี

>> ไปที่แผงค

a:post.tit

e'> y-title'> > k'><data:po

> '><data:pos

อาจจะพบเปน็

บันทึกปร

ช้สูตรนี้มาตลอ

H1 ไปเลย รมี H1 แค่แห่related Keมี Ranking

ควบคุม >> รู

tle'> ซึ่งคุณ

ost.title/>

st.title/><

น h2 หรือ h

ะสบการณการ

ดและประสบค

งเดียว (มี Hyword) ผมที่ดีด้วยสูตรนี้

ปแบบ >> แก

ณจะพบชุดโค้ดต

</a>

/a>

3 ก็แก้ให้เปน็

รแขงขัน SEO 2

http:/

ความสําเร็จกั

H1 หลาย ๆ เองชอบแหกก ถ้าสนใจก็ลอ

ก้ไข HTML >

ต่อไปนี้

น h1 ตามโค้

2010 โดย Mr.

//www.hack

กับสูตรนี้

แห่งก็ไม่ผิดกกฎครับ หลังจองปรับดู

>> ขยายแม่แ

ค้ดด้านบน

Hackublog

kublog.com

กฎอะไรจากที่ได้

แบบเครื่องมือ

11

อ



Onpage ขั้นที่ 2 ปรับ Density ป้ายกํากับ,ข้อความของเมนู ,ข้อความ Read more ,Page Navigtion ควรใช้ Keyword หลักหรือ related Keyword ลงไปด้วยเพื่อความ Density ดูภาพ

Onpage ขั้นที่ 3 ปรับ Density ในบทความ การเขียนบทความแต่ละครั้งผมยึดแนวทางแบบนี้ 1. การเขียน Title ของบทความแต่ละครั้งควรมี Keyword ที่ต้องการโปรโมท 2. ในย่อหน้าแรกของบทความ หรือประมาณ 1000 ตัวอักษรแรก ควรจะต้องมี Keyword 3. Density ของ Keyword ในบทความ สูตรที่ผมใช้ง่าย ๆ คือในหนึ่งย่อหน้าไม่ควรมี Keyword เกิน 3 คําเพราะอาจจะถูกมอง Googleมองว่า SPAM Keyword สําหรับผมผมใส่ Keyword ลงไป 3 - 5 ครั้งต่อ หนึ่งบทความ 4. ใช้ Tag H2,H3 กับหัวข้อในบทความ 5. คําที่เป็น Keyword ต้องทําเป็น Anchor text ไปยังหน้าแรก หรือทําเป็นตัวหนา หรือทําเป็นตัวเอียง หรือใสสีให้ตัวอักษร อย่างใดอย่างหนึ่ง



Onpage ขั้นที่ 4 ใส่ Alternate Text และ Title ลงไปในรูปภาพ การเขียนบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะต้องมีการใส่รูปภาพลงไปเสมอ ดังนั้นเราจึงต้องขยันเติม Alternate Text ให้กับรูปภาพทุกรูป แต่ก็มีคําถามว่าแล้วถ้าในบทความมีรูปสัก 10 รูปเราควรใส่คําว่าอะไร จะใส่คําว่า สถานที่ท่องเที่ยวคําเดียวได้หรือไม่ และในหนึ่งรูปควรใส่ Keyword ลงไปหลาย ๆ คําหรือไม่?

แนวทางที่ผมทําคือใส่ Alternate Text ลงไปในรูปภาพอย่าให้เกิน 2 คํา และไม่ควรเอาคําเดียวกันมาใส่ลงไปในทุกภาพ แต่ให้ใช้คําที่มีความหมายแฝง (Latent Semantic Indexing: LSI) ซึ่งหาได้จาก Google โดยพิมพ์ ~Keyword ลงไปในช่องค้นหาและดูข้อความสีแดง ๆ ในผลลัพธ์ แล้วเอาคําพวกนั้นมาใส่เป็น Alternate Text ตัวอย่าง Latent Semantic Indexing Keyword ของคําว่า Food

จะเห็นว่า Google ตีความคําว่า Nutrition ให้มีความหมายคล้ายกับคําว่า Food เราก็เอาคําว่า Nutrition มาทํา Alternate Text เสียซึ่งทําให้ลดการ SPAM คยี์ลงได้ด้วย หมายเหตุ : ความหมายแฝงในทีน่ี้เราจะตีความตาม algorithm ของ Google เท่านั้น ไม่ได้ตีความตามความเขา้ใจของเราเองหรือตามพจนานุกรม นอกจากการใช้ คําที่มีความหมายแฝง (Latent Semantic Indexing: LSI) มาเป็น Alternate Text เพื่อหลีกเลียงการ SPAM Keyword แล้วเรายังสามารถเอา Related Keyword มาใส่เป็น Alternate Text ให้กับรูปก็ได้



ในการแข่งครั้งนี้ผมก็ใช้ Related Keyword มาเป็น Alternate Text ครับเพราะคําว่า สถานที่ท่องเที่ยวไม่มี LSI เลย Onpage ขั้นที่ 4 Page Speed จากคําแนะนําของ Google เองว่า Webmaster จะต้องปรับ Page Speed ให้มี load time น้อยที่สุดไม่ควรเกิน 10 วินาทีหลังจากปรับแต่ง Onpage เรียบร้อยแล้วผมก็ลองเข้าไปทดสอบ load time ที่ http://www.numion.com/Stopwatch/ ซึ่งผลตอนแรกประมาณ 11 วินาทีเพราะใส่วีดีโอและ map ใหญ่เกินไป หลังจากปรับแล้วก็ใช้เวลาประมาณ 9.885 ถือว่าใช้ได้แล้ว Onpage ขั้นที่ 5 Video และ Map จากการสังเกตที่ได้เล่าไว้ในบทแรกว่าผมลองค้นคําว่า สถานที่ท่องเที่ยว จะมีรูปภาพและแผนที่ปรากฏในผลการค้นหา ดังนั้น หัวใจของ Onpage ครั้งนี้ผมคิดว่าต้องเน้นภาพและ Map ซึ่งถ้าใครติดตามการแข่งก็จะเห็นว่าบทความที่ผมเขียนเน้นที่รูปภาพและใส่ Google Map ลงไปในบทความบ่อย ๆ ตัวอย่างบทความ : http://siamtips.blogspot.com/2010/10/blog-post_26.html ส่วนเรื่องวีดีโอบางท่านอาจจะสงสัยว่าเกี่ยวข้องอะไรกับ สถานที่ท่องเที่ยว ด้วย เหตุผลแรกคือถ้าเรา Upload Video ไปที่ Youtube เอง เราสามารถแทรก Link ตรง Description ของวีดีโอได้ทําให้เราได้ Backlink และเหตุผลที่สองทําให้บทความเรามีคุณภาพดูจริงใจที่จะนําเสนอเนื้อหาอย่างครบถ้วน ไม่ใช่เว็บปั่นหรือเขียนแบบลวก ๆ เท่านั้น นอกจากนี้ผมยังได้ติดตั้ง Vedio และ Google map ในตําแหน่ง Side bar ด้วยแต่ภายหลังต้องติดตั้งโค้ดตามกติกา Page Speed ลดลงมากก็เลยต้องย้ายไปติดตั้งใน Page แทน Onpage ขั้นที่ 6 Keyword in URL น่าเสียดายที่ Keyword ครั้งนี้เป็นภาษาไทยใน Blogger ยังทํา URL ภาษาไทยไม่ได้ (URL ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงโดเมนนะครับ) ก็เลยเสียเปรียบหลาย ๆ คนที่ใช้ Wordpress ที่สามารถปรับแต่งตรงนี้ได้ และนี่ก็เป็นความผิดพลาดข้อที่ 2 ของผม



บททีส่าม ลบลา้งความเชื่อ Submit เว็บ Google Webmaster Tools เป็นการส่งบล็อกไปลงหลุมทรายจริงหรือไม่? มีหลายคนเคยให้ความเห็นว่าการ Submit บล็อกหรือเว็บกับ Google Webmaster Tools ว่าเป็นการส่งบล็อกไปลงหลุมทราย (Sandbox) มันอาจจะจริงหรือไม่จริงกรณีที่เป็นเว็บปั่นที่ทําเว็บด้วยสคริปต์เดียวกันหลาย ๆ โดเมน แต่สําหรับกรณีที่ผมทํานี้เป็นบล็อกที่เน้นเนื้อหาและแสดงความจริงใจในการทําบล็อกมีเป้าหมายของการทําบล็อกที่ชัดเจน หลังจากที่ผม Submit บล็อกที่ http://www.Google.com/webmasters/tools/ ผ่านไปประมาณ 3 วันภายหลังจากการ Submit บล็อกของผมก็มีอันดับมาอยู่ในหน้า 3 อันดับที่ 21 จากการค้นหาคําว่า สถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลจากกการใส่ Fresh & Unique Content ผนวกกับเทคนิค Onpage ตามที่เล่า และเมื่อบล็อกมาแล้วผมก็เติม Backlink ที่มี Trust Rank เข้าไปอีกหน่อยบล็อกก็ขยับมาอยู่หน้า 2 อันดับที่ 13 และอยู่ในหน้า 2 ยาวเกือบ 2 เดือน จึงถือว่าได้เป็นการทําลายความเชื่อที่หลายคนยังเข้าใจผิด ๆ กันอยู่

ปัจจุบันเครื่องมือของ Google Webmaster Tools ยังสามารถวิเคราะห์การค้นหา ความหนาแน่นของ Keyword และลิงค์มายังเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย ทานใดยังไม่เคยเข้าไปใช้ ลองเข้าไปศึกษาการใช้งานได้เลยครับ นอกจากนี้ผมยังได้ Submit sitemap กับ Bing ,Yahoo และ Alexa ด้วย

http://siteexplorer.search.yahoo.com/submit http://www.bing.com/webmaster/SubmitSitePage.aspx http://www.alexa.com/help/webmasters



Traffic เพิ่มขึ้น Rank จะเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่? ข้อนี้ผมได้พิสูจน์ในระหว่างการแข่งขันและได้คําตอบว่ามันไม่จริง แต่ที่ยังจริงเสมอทุกสมัยคือถ้า Rank เพิ่มขึ้นแล้ว Traffic จะมาเอง วิธีพิสูจน์ของผมทําโดย 1. ผมพอจะรู้กระแสพฤติกรรมการใช้ Internet ของคนไทยว่านิยมค้นหาข้อมูลด้วยคําใด ในที่นี้ผมเลือกคําว่า เรื่องเสียว เพื่อนํามาเป็น Keyword อีกคําในการโปรโมทบล็อก Siamtips 2. ผมสร้างหน้าขึ้นมาใหม่ 1 หน้าแล้วตั้งชื่อหน้านี้ว่า เรื่องเสียวสถานที่ท่องเที่ยว เนื้อหาก็ใสการอธิบายคําว่าเรื่องเสียวนั้นหมายถึงการทํา SEO และใส่รูปสวย ๆ งาม ๆ ลงไปอีกนิดซึ่งไม่ได้เป็น 18+ 3. ผมปรับ Onpage ให้เนียนที่สุดและโปรโมทหน้านี้โดยนําลิงค์ไปติดตาม Forum Profile 10-20 แห่ง ติด Blogroll ในลิงค์วีลที่สร้างประมาณ 10 แห่ง และทําการ Submit หน้านี้กับ Social Bookmark อีก สองแห่ง 4. ใช้เวลาประมาณ 7 วันหน้านี้ก็อยู่หน้าแรกประมาณอันดบั 6 จากการค้นคําว่า เรื่องเสียว 5. ผลที่ได้ปรากฏว่าคนแห่กันเข้าบล็อกจากปกติมา 20-30 คนต่อวัน กลายเป็น 400 – 1000 คนต่อวัน เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 10 -20 วัน แต่ว่า Rank ก็ไม่เพิ่มขึ้นเลย ทําให้สรุปได้ว่า Traffic เพิ่มขึ้นแล้วจะทําให้ Rank เพิ่มขึ้นนั้นไมจ่ริง



บททีส่ี ่Backlink บทนี้คงต้องคุยกันยาว ๆ และผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรอคอยบทนี้กันมากเพราะสามารถเอาไปใช้กับเว็บไซต์ทั่วไปได้ ไม่ได้จํากัดว่าใช้ได้กับ Blogspot เท่านั้น ขณะที่ทําการแข่งขันคือเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน กระแสของ Link Wheel ยังมาแรงและยังใช้ได้ผลอยู่ แต่หลัง ๆ คือช่วงปลายปี Google เริ่มจะรู้ทันคนที่ทํา Link Wheel แบบไม่เนียน ก็เลยเจ็บกันเยอะโดน Deindex กันหลาย ๆ คน ส่วนตัวผมเองไม่เคยโดน Deindex จากการทํา Link Wheel เลยจนกระทั่งปัจจุบัน

แนวทางการหา Backlink

Internal Link ก่อนจะไปหา Backlink ข้างนอกผมก็พยายามสร้าง Link ภายในจากทุกหน้าในบล็อกมาหน้าหลัก และพยายามให้แต่ละหน้าเชื่อมโยงไปหากันให้มากที่สุด ในตอนแรกผมก็ใช้วิธีทําลิงค์จากในบทความเพื่อเชื่อมโยงแต่ละหน้าเข้าหากันผลปรากฏว่ากลายเป็นอุปสรรคในการเขียนบทความ คือต้องใช้เวลาเขียนแต่ละบทความนานขึ้น และบางบทความก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันจึงยากลําบากที่จะโยงไปหากัน

ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบสังเกตผลลัพธ์จากการค้นหาของ Google พบว่าบางผลลัพธ์นั้นดึงเอา Comments มาแสดงผลด้วย(ดูรปู) ว่าแล้วผมก็ SPAM Comments บล็อกตัวเองเพื่อเชื่อมโยงแต่ละหน้าไปหากันจนครบ ที่ทําแบบนี้ก็เพื่อให้บอทใต่ทั่วถึงทั้งบล็อกเก็บข้อมูลไปได้ครบถ้วน และเพิ่มความ Density ด้วยเนื่องจากข้อความที่ผม Comments เป็นข้อความที่มี Keyword และใส่ Related Keyword ลงไปใน Comments ด้วย



สาเหตุที่บอทเก็บ Comments ไปด้วยนั้นเป็นเพราะเมื่อบอทมาเก็บข้อมูลที่บล็อกมันก็จะเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เกิดขึ้นใหม่ที่อยู่ในรูปภาษา HTML จึงรวมถึงเก็บข้อมูลจากการ Comments ไปด้วย ตอนหลัง ๆ มัวแต่หา Backlink ไม่มีเวลาว่างเขียนบทความเพิ่ม ก็ใช้วิธี SPAM Comments บล็อกตัวเองเป็นอาหารให้บอทกินไปพลาง ๆ ท่านใดที่ตามดูคงจะตลกผมน่าดู 55+ Feed เริ่มต้นเลยผม ไปลงทะเบียนกับ Feedburner เพื่อเตรียมนํา Feed ไปโปรโมท เพราะจะส่งผลดีในการเขียนบทความมาก ๆ เนื่องจากเขียนบทความใหม่เมื่อไร Feed ก็จะถูกส่งไปยังแหล่งต่าง ๆ ที่เราไป Submit Feed เอาไว้ ทําให้บทความสามารถ Indexed ด้วยเวลาภายในไม่กี่นาที พอได้ URL จาก Feedburner แล้วผมนํา Feed ไป Add ยังที่ต่าง ๆ ดังนี้

1. Facebook วิธีการคือสร้าง Fan page ขึ้นมาแล้ว Add Feed ไปยัง Page

2. Zimbio



3. Mybloglog

4. ใช้บริการ TwitterFeed เพื่อส่ง Feed ไปยัง Twitter และ Microblogging Statusnet

5. Submit Feed ที่ Feeddirectiry เช่น

http://www.Feedage.com/ http://www.5z5.com/

Submit กับ Social Bookmark High Pr แนวทางในการ Submit ของผมคือไม่เน้น Submit มั่ว ๆ โดยเฉพาะเว็บ Pligg เพราะว่าก่อนการแข่งขันได้ทดลอง Submit แล้วไม่ได้ผล การแข่งครั้งนี้ผมจึงไม่เน้นการใช้บริการเว็บ Pligg เลย

สําหรับ Social Bookmark ที่ประจําของผมก็มีดังนี้ digg.com delicious yahoo buzz folkd.com stumbleupon zickr.com identi.ca



วิธี Submit คือเปลี่ยน Title และข้อความในการ Submit ไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเนื้อหาซ้ําซ้อน และถ้าหากบทความใดสามารถ indexed ได้เองผมก็จะไม่ Submit ครับ

Social Media ผมใช้บริการอยู่ 3 แห่ง Facebook ,Twitter ,Mybloglog เพื่อโปรโมทเรียก Trafiic จากทั้งคนและ Bot เนื่องจากทั้งสามแห่งนี้เป็นแหล่งที่มี Bot พลุกพล่านเหมาะที่จะทําให้บทความ indexed ในตอนท้าย ๆ บทความที่เขียนสามารถ indexed ได้เองก็เลยไม่ได้ Tweet เท่าไหร่ น่าเสียดายที่ผมใช้ Social Media เหล่านี้แล้วอันดับดันไปขึ้นที่ Bing Search ซึ่งการแข่งครั้งนี้เขานับอันดับใน Google ตอนช่วงท้าย ๆ ของการแข่งขันผมเลยเลิกทําไปทําอย่างอื่นแทน สําหรับท่านที่ต้องการโปรโมทบล็อกกับ yahoo ผมแนะนําให้ใช้บริการ Mybloglog กับ Facebook ครับเพราะ Social Media เป็นพันธมิตรกับ yahoo และ Bing อยู่ (Mybloglog เป็นเจ้าของโดย yahoo ซึ่งถูกซื้อโดย Bing ที่เป็นหุ้นส่วนกับ facebook ) Blog Directory การแข่งครั้งนี้ผมไม่ได้เน้นการ Submit Blog Directory เพราะเห็นว่าเป็นแนวทางที่ต้องให้เวลาและ Blog Directory ส่วนใหญ่ก็ต้องใช้วิธีแลกลิงค์ ผมจึง Submit เพียง 2 แห่งคือ

http://www.networkedblogs.com/ http://webindex.chaonet.com/ << ขอบคุณเจ้าของเว็บด้วยครับ และการใส่ใจกับ Blog directory น้อยเกินไปก็นับเป็น ข้อผิดพลาดข้อที่ 3 ของผม Backlink จาก Profile การหา Backlink จาก Profile ผมเน้น High Pr ตามสไตล์ Angela Backlinks, Paulie Ciara's Backlinks ซึ่งเป็นวิธีที่ยังได้ผลอยู่ แนวทางที่ผมทําคือหาให้ได้เป็นหลาย ๆ ร้อย โดยใช้เครื่องมือหลัก ๆ คือ iMacros และ InFormEnter ซึ่งเป็นส่วนสริมของ Firefoxช่วยบ้าง แต่ส่วนใหญ่ต้องใช้มือ จากนั้นค่อย ๆ ทยอยออกมาทําสะพานบอทให้ indexed คราวละ 50 ซึ่ง Forum ไหนแรง ๆ profile ก็ indexed เองโดยไม่ต้องทําสะพานบอทก็มี ผมหาได้อย่างไรและผมทําอะไรไปบ้างลองมาดู ถ้าคุณค้นหาข้อมูลใน Google เป็น Backlink หลาย ๆ หมื่นก็อยู่ในผลลัพธ์จากการค้นหาด้วย Google นั่นแหละครับ และเครื่องมือในการหา Backlink ในการแข่งขันครั้งนี้ของผมคือ คําสั่ง inurl



1. ผมสมัคร Forum High Pr ตามสไตล์ของ Paulie Ciara's Backlinks (สมัครรับได้ที่ http://www.paulieciara.com/freeweeklyBacklinks/ ) จากนั้นทดสอบทํา Link แบบเมตริกซ์ 5x5 ผลที่ได้คือ Backlink 25 Profile นี้ indexed ได้เร็วมากทําให้อันดับขยับขึ้นอีกนิด 2. จากนั้นผมจึงให้คําค้น "powered by expressionengine" inurl:/index.php/forums/member/register/ ใน Google และได้ Profile มาอีกประมาณ 100 แห่ง

Forum ที่มี Platform cแบบนี้จะใส่ลิงค์ได้หลายลิงค์ในตําแหน่ง Bio ผมจึงทําเป็น Link Wheel แบบเมตริกซ์ขนาด 10 x10 3. ในตอนหลังพบว่าถึงไม่ได้ทํา Link Wheel ผลของพลังก็พอ ๆ กัน กับ Backlink จาก Profile ปกติ ที่นํามาทําสะพานบอทให้ดี ผมจึงเดินหน้า Backlink จาก Profile ให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็น Backlink ต่าง IP Class C แต่เนื่องจากเวลาผมมีไม่มากนักจึงหาได้ประมาณ 2000 กว่าแห่งด้วย คําค้นต่อไปนี้

inurl:index.php?action=profile "Powered by phpBB" inurl:/profile.php?mode=viewprofile



"Powered By MyBB" inurl:member.php?action=profile&uid= "Powered by vbulletin" inurl:register.php "Powered by PunBB" inurl:profile.php?id= site:*.gov “Simple Machines LLC” site:*.edu “Simple Machines LLC” site:*.com “Simple Machines LLC” site:*.net “Simple Machines LLC” site:*.info “Simple Machines LLC” site:*.org “Simple Machines LLC” site:.edu inurl:CreateUser.aspx site:.edu inurl:register.aspx site:.edu inurl:"wp-signup.php" site:.edu inurl:register.php "agree" site:.edu "powered by expressionengine" site:.edu "powered by vbulletin" inurl:"register.php" site:.edu "powered by SMF" inurl:register site:.edu "powered by drupal" inurl:"register" site:.edu "powered by punbb" site:.edu "powered by phpbb"

ทั้งหมดข้างต้นจะต้องคลิกดูก่อนว่าสามารถ View Profile สมาชิกโดยไม่ต้องเข้าระบบได้หรือไม่ เพราะถ้าคนเข้าไปดูไม่ได้ บอทก็จะเข้าไปดูไม่ได้เช่นกัน (สิทธ์ของ Robot ในการเข้าดูเว็บไซต์เทียบเท่ากับคน) และการค้นก็ควรเลือกค้นใน Google.com บ้าง หรือภูมิภาคอื่น และภาษาอื่นบ้าง อย่าค้นหาเพียง Google.co.th เพียงอย่างเดียว แล้วจะได้ของดีมาเพิ่มอีกมาก Comments blog หลัก ๆ ผมจะ Comments Blog High PR วันละ 3-5 บล็อกเท่านั้น เพราะเวลาไม่ค่อยมีครับ ถ้าหาก Blog ใดมี Pr น้อยก็จะดูว่าเป็นบล็อกที่ Google ให้ความสําคัญหรือไม่ เครื่องมือที่ใช้ก็แนะนําที่นี่ครับ http://dropmylink.com/ มีโปรแกรมอีกอันหนึ่งแต่ใช้ไม่ค่อยได้เรื่องก็เลยไม่บอกแล้วกันครับ Comments Guessbook เพื่อให้ได้ Backlink จาก difference IP Class C การแวะไปลงสมุดเยี่ยมตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ยินยอมให้ผู้มาเยี่ยมชมได้ Comments ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะได้ Backlink แบบไม่เดือดร้อนชาวบ้าน นั่นคือเราก็ควรให้ Rating กับเว็บไซต์ของเขา 5 ดาวไปเลย และการลงนามเยี่ยมก็ควรทําแห่งละครั้งก็พอแล้ว วิธีค้นหาให้ใช้คําสั่งนี้ครับ

inurl:/index.php?option=com_easygb&Itemid= inurl:index.php?option=com_phocaguestbook inurl:".gov" phocaguestbook



Backlink ที่ได้ก็แรงใช่เล่นไปลองกันดูครับ Free Blog การใช้บริการบล็อกฟรีที่มีมาตรฐานการให้บริการ เช่น Zambio, Squidoo, Wordpress.com เป็นต้น ซึ่งบล็อกเหล่านี้เป็นบล็อกที่ Google ให้ความสําคัญ ส่งผลดีต่อการทําอันดับ แนวทางที่ผมใช้คือทําเป็น Link Wheel วงเล็ก ๆ คือ 10 และ 20 รวม 2 วงเท่านั้นแต่พยายามแปลงร่างให้บล็อกเหล่านี้เป็นบล็อกที่มีเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งผมจะได้คะแนนจาก Related Content ตาม Hilltop Algorithm ของ Google เปลี่ยนจาก Backlink กระจอก ๆ ให้กลายเป็น Backlink ที่มีพลังโดยใช้เวลาปั้น 2 วงนี้อยู่ประมาณ 1 เดือน WPmu + Fresh & Unique Content และก็มาถึงพระเอกของการแข่งขันครั้งนี้คือการใช้ WPmu ในการจําลอง Network ขึ้นมา ส่วนท่านที่สงสัยว่า WPmu (Wordpress Multi User) คืออะไรก็ขออธิบายสั้น ๆ ว่ามันก็คือ CMS ในการสร้างเว็บไซต์ที่มี Platform เป็น Wordpress นั่นเอง สามารถปรับแต่งทุกบล็อกได้ในไฟล์เดียว เปิดให้ผู้อื่นมาลงทะเบียนเขียนบล็อกได้ หรือติดตั้งไว้ใช้เองเพียงครั้งเดียวแล้วสามารถสร้างบล็อกใหม่ได้เลยทันทีไม่ต้องเสียเวลาลงใหม่ทีละบล็อก ในตอนแรกผมพยายามทําให้ index เร็วโดยการทํา Link Wheel แบบเมตริกซ์ขนาด 10 x10 ก็แปลว่ามี 100 บล็อก แต่หลาย ๆ บล็อกก็โดนแบนได้ง่ายทั้ง ๆ ที่โพสสัปดาห์ละ 1 บทความเท่านั้นเอง ตอนหลังจึงลงทะเบียนไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ทํา Link Wheel แต่ใช้ Fresh& Unique Content สั้น ๆ ประมาณ 5 บรรทัดปรากฏว่าผลทําให้บล็อกที่อยู่หน้า 2 กระเด้งมาอยู่หน้าหนึ่งอันดับ 10 นี่ก็แสดงให้เห็นว่า Fresh & Unique Content มพีลังอย่างมากสําหรับ Google Caffeine ผมจึงเดินหน้าสมัคร WPmu จาก List ที่พอจะหาได้และเขียนเนื้อหาสดใหม่ลงไปซึ่งก็ทําได้อย่างมากวันละ 20 บล็อกก็เหนื่อยแล้ว เพราะอย่าลืมว่าผมต้องเขียนบทความลงบล็อกหลักด้วย แต่ละอย่างก็ใช้เวลาทําพอสมควร จึงหมดเวลากับการทําเนื้อหาเสียส่วนใหญ่ และเมื่อทําจนครบบล็อกก็อันดับดีดตัวขึ้นมาอยู่ถึงอันดับ 4 ประมาณ 7 วัน แต่เพราะ Network ที่ใช้เป็นของฟรีเมื่อมันโดนลบหรือโดนแบนพลังของมนัก็หมดอันดับก็ร่วงลงมา จนผมเองก็ท้อ ๆ และหมดแรงทําในสัปดาห์สุดท้ายผมก็ปล่อยเลยตามเลยจึงจบที่อันดับ 8 อย่างที่เห็นครับ รายชื่อ WPmu เข้าไปดูที่นี่ http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=154771 อาจจะสมัครได้บ้าง ไม่ได้บ้างและโดนแบนบ้างต้องทําใจ อดทน และ อย่า SPAM ครับ



Link Wheel แนวทางการทํา Link Wheel ตามสไตล์ของผมคือเนื้อหาใน Wheel จะต้อง Fresh & Unique ไม่เคยปรากฏในโลก Internet มาก่อน ส่วนเรื่องคุณภาพบทความจะมีหรือเปล่าผมไม่สนใจ ใครมาอ่านแล้วบอกว่าผมเขียนบ้าอะไร ผมก็ไม่แคร์ครับเพราะผมไม่ได้เขียนให้คนอ่านแต่เขียนให้บอทของ Google อ่านเท่านั้น อาจจะมองดูว่าเป็นหมวกเทานิด ๆ ก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไรใครเนื่องจากผมโพสสัปดาห์ละแค่ 1-2 บทความเท่านั้น จะบอกว่าผม SPAM ก็คงไม่ใช่ พูดมาเยอะแล้วหลายคนคงอยากเห็นตัวอย่างบทความสดใหมใ่นแบบของผมกันแล้ว ลองดูได้จากรูปด้านล่างเลยครับ

อย่างไรก็ตามไม่ว่าในอนาคต Link Wheel จะใช้ได้ผลหรือไม่บทความที่นําไปลงบล็อกใน Network จะต้อง Fresh & Unique เท่านั้นจึงจะส่งผลดี ในทางกลับกันถ้าสร้าง Network แล้วใช้บทความเดิม ๆ ซ้ํา ๆ โดยใช้ Software Spin บทความให้ออกมาดูไม่ซ้ํา แต่ในความคิดของผมคิดว่า Spin แล้วก็ยังซ้ําอยู่ดี และสุดท้ายก็จะต้องถูก deindex อยู่ดี

สะกดรอย Backlink ของเว็บที่เข้าแข่งขันจากหน้า 1-10 วิธีนี้ผู้เข้าแข่งขันหลายคนก็ใช้กันผมเองก็ใช้ครับคือการตามดู Backlink ของแต่ละคนและถ้าเป็นของฟรีก็จะตาม ๆ กันไป เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า Network ในมือที่ตัวเองมีอยู่มันไม่พอกับการแข่งขันโหด ๆ แบบนี้ผมเองเป็นทั้งผู้ตามและเป็นผู้ถูกตามด้วยเหมือนกัน เครื่องมือที่ใช้ตามลิงค์ที่ผมใช้ได้แก่ SEO Elite, Yahoo Site Explorer และ Tool Online ต่าง ๆ ที่สามารถรายงาน Backlink ของเว็บไซต์ได้ และเครื่องมือตามลิงค์ที่เด็ดที่สดุคือ Google ตามรูปด้านล่าง



จากรูปเป็นการดูว่าใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการเคลื่อนไหวอะไรเกี่ยวกับ สถานที่ท่องเที่ยวหรือไม่ พอกดดูก็จะรู้ในทันทีว่าใครเพิ่ง อัปเดทบทความ ใครเปิดบล็อกใหม่เป็นต้น ตัวผมเองถ้าว่างก็จะนั่งดูผลการค้นหาจากหน้าหนึ่งถึงหน้าสุดท้ายบ่อย ๆ เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงก็ได้เห็นอะไรดี ๆ จากการทําแบบนี้เยอะเหมือนกันครับ

Google map + Youtube จากที่เกริ่นไว้ในการปรับ Onpage ว่าผมได้นํา Google map และ Youtube มาโปรโมทด้วย ดังนั้นทุกครั้งที่ผมต้องการใส่แผนที่ก็จะสร้างเองและใสลิงค์บล็อกตัวเองลงไป (Google อนุญาตให้ผู้มีบัญชี Google ทุกคนมีสิทธิ์สร้างแผนที่ของตนเองได้)

ส่วน link จาก Youtube สร้าง Backlink โดยการใส่ URL ของบล็อกลงไปเมื่ออัปโหลดวีดีโอเสร็จ



ดูตัวอย่างที่ http://www.youtube.com/watch?v=YXuZahfChus Footer Print การหา Backlink จาก Footer Print (เครดิตหรือข้อความส่วนท้ายของหน้า) ก็เป็นอีกวิธีที่ทําให้ได้ Backlink เพิ่มขึ้นมาอีกนิด เช่น ผมได้ทดลองใช้งาน http://www.boonex.us/ พบว่าสารถให้ Backlink กับเราได้ ผมจึงสังเกตตรงด้านล่างของหน้าเขียนว่า Powered by Dolphin จึงลองใช้คําสั่งนี้

"boonex" "Powered by Dolphin" inurl:join.php

ซึ่งเมื่อค้นจนทั่วทุกภูมิภาคก็ได้ Backlink เพิ่มมาอีกประมาณ 50 IP จากเว็บที่มี Paltform ลักษณะนี้



บททีห่้า สะพานบอท นี่คือข้อผิดพลาดข้อที่ 4 ของผมที่ประมาณการผิดพลาดอย่างมาก ที่คิดว่าการใช้บล็อกฟรีเพียง 2 แห่ง เพื่อทําสะพานบอท บวกกับใช้ http://links2rss.com/ ก็น่าจะเพียงพอ แต่ WPmu และ Forum Profile จํานวนมาก ๆ ได้ สําหรับท่านที่งงเกี่ยวกับสะพานบอทลองเข้าไปอ่านได้ที่กระทู้ที่ ThaiSEOBoard http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,156214.0.html ยิ่งแข่งขันกันหนัก ๆ การทํา Backlink indexed ได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบ และความผิดพลาดในข้อนี้ของผมก็ทําให้ Backlink Indexed ได้เพียงคราวละเป็นหลักสิบ ด้วยระยะเวลา 1- 2 วันเท่านั้น ถือว่าช้าเกินไปสําหรับการแข่งกับยอดฝีมือทั้งหลาย ตอนหลังเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องยอมรับว่าผมก็เข้าไป SPAM ที่ Webshot กับเขาเหมือนกันเพื่อให้ Backlink Indexed (หวังว่า E-book เล่มนี้จะช่วยลดบาปได้บ้าง T_T) ช่วงหลงั ๆ โชคดีขึ้นมาอีกนิดที่พบวิธีการใช้ Claim ID และ Yahoo Pipes เข้ามาช่วยทําให้การทําสะพานบอทให้ WPmu Indexed ได้เร็วมาก อีกเทคนิคหนึ่งที่ผมใช้ ทุกวันนี้ก็ยังใช้อยู่ คือการทําให้ WPmu ที่เพิ่งเปิด indexed อย่างรวดเร็ว คือนํา URL ของ WPmu อัดลงไปใน บริการ Auto Backlink ทั้งหลายซึ่งที่ทําแล้วไม่ลงหลุมแน่ และผมคัดมาเป็นอย่างดีแล้วเข้าไปใช้ได้ที่ http://9Backlink.blogspot.com/p/online-Backlink-tool.html วิธีการใช้คือ ให้นํา URL ของ WPmu ที่คุณเพิ่งเปิดใหม่มาทํา Auto Backlink จากนั้นก็รอไม่เกิน 1 วัน Indexed แน่นอน และคุณก็จะได้ Backlink จาก WPmu ที่ว่านี้อย่างรวดเร็ว



บทที่หก Timing เรื่องระยะเวลาสําคัญมากในการแข่งครั้งนี้ เพราะมีผลในการอัด Backlink บางคนอัดแล้วเว็บหายไปเลย บางคนอัดลิงค์ก่อนเสียเปรียบและโดนแซง บางคนอัดผิดช่วงอันดับตกแล้วดันไม่ขึ้นอีกเลย มันมีหลายรูปแบบมากในการแข่งครั้งนี้ เนื่องจากแต่ละคนก็เก่งมีฝีมือกันทั้งนั้น ต่างคนต่างอัด ใครกะจังหวะผิดก็ถึงกับเสียตําแหน่งได้เลย แต่ละคนที่เข้าแข่งขันไม่มีใครตอบได้แน่นอนว่า Google จะเปลี่ยนอะไรเมื่อไหร่ ทุกคนจะใช้วิธีสังเกตกนัเอาเอง คนที่เก่งกว่าก็คือคนที่สังเกตเห็นได้มากกว่า มองได้ทะลุมากกว่าคนอื่น ซึ่งตัวผมเองก็สังเกตได้แค่พื้นฐานเท่านั้น เช่น

- Google จะปรับ Rank ใหญ่ทุก ๆ 7 วันประมาณคืนวันศุกร์หรือคืนวันเสาร์ - ถ้า Google จะมีการปรับ Pr อันดับจะนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง เช่น อันดับในเดือนตุลาคมนิ่งอยู่ประมาณ 15 วัน และสุดท้ายก็มีการปรับ Pr ย่อย ๆ ในที่สุด - ช่วงระยะเวลาที่ Update Blog แล้ว Indexed ง่ายที่สุดคือช่วงเช้า ส่วนใหญ่ผมมีเวลาว่างเฉพาะเวลากลางคืน Update แล้วเว็บไม่ค่อย Indexed เลย แต่เมื่อถึงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นั่ง Update แต่เช้าโพสปุ๊บก็ Indexed ปั๊บเลย - ช่วงเวลาที่อัด Backlink แล้วอันดับขยับได้ดีคือช่วงวันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี ถ้าอัดศุกร์เสาร์ Google กําลังจะปรับ Rank ไม่ค่อยได้ผล - Comments Blog High Pr เหมาะกับการดัน Rank ในระยะสั้น ๆ ได้ดีมาก (Comments แล้ว Ping) - WPmu High Pr เหมาะกับการดัน Rank ในระยะสั้น ๆ ได้ดีมาก แต่ในระยะยาว ...โดนแบน 55+ - หลังจาก Google ออกลูกเล่นแว่นขยายมา แคช จะกลับไปกลับมาได้ เช่นเดิมแคช เป็น 13 พ.ย.2010 แต่อีกวันต่อมา แคชกลับไปเป็น 10 พ.ย.2010 ซึ่งอาการนี้มาเป็นช่วงใกล้วันตัดสินพอดี ก็อาจจะส่งผลต่อบางเว็บ เช่นบล็อกผมเปน็ต้น ข้อผิดพลาดข้อที่ 5 ของผมคือ ผมตัดสินใจอัดลิงค์ในช่วงวันที่ 10 พ.ย. 2010 เพราะกลัวว่า Backlink จะ Indexed ไม่ทันเนื่องจากผมใช้ของฟรี แต่ผลปรากฏว่าทําสะพานบอทดีเกินไป Backlink ที่อัด Indexed หมดเลย บล็อกก็เลยขึ้นมาอันดับ 4 แล้วยังไงต่อล่ะทีนี้ พยายามหาลิงค์เพิ่มแต่ก็เหนื่อยมากแล้ว (คนทําหมดแรงทําครับ) และมันเป็นช่วงงานประจําที่ทําอยู่มีงานเข้าพอดี ก็เลยได้แต่นั่งดูคนอื่นแซงขึ้นมาและร่วงหล่นไปอยู่อันดับที่ 8 (เศร้าใจจริง ๆ ครับ)



บทส่งท้าย การแข่งขันครั้งนี้ผมก็ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มอีกมาก ทําให้หายสงสัยเกี่ยวกับ Algorithm ของ Google ไปหลายเรื่อง และค้นพบความรู้ใหม่ ข้อสังเกตใหม่ อีกหลายอย่าง แต่ก็ยังมีสิ่งมากมายให้ต้องเรียนรู้กันต่อไปเกี่ยวกับการทํา SEO ตราบที่ Google ยังพัฒนาเราก็ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวให้ทันด้วย โดยส่วนตัวผมก็ไม่เสียดายที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ เพราะได้ความรู้ ได้เห็นมุมมองที่ไมเ่คยเห็นมาก่อนจากผู้เข้าร่วมแข่งขันด้วยกัน ได้รู้ซึ้งถึงประโยคที่ว่า ทํา SEO ต้องอดทน และในชีวิตจริง ๆ ถ้าอยากจะทําอะไรให้สําเร็จสักอย่างก็จะต้องมุ่งมั่นและอดทนเช่นกัน

ถ้า E-book ฉบับนี้พอจะมีประโยชน์กับผู้อ่านบ้าง ก็ขอยกคุณงามความดีทั้งหมดให้ บิดา มารดา และเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายให้มีสุขสดใสกันถ้วนหน้า สุดท้ายก็ขอมอบ E-book เล่มนี้เป็นของขวัญปีใหม ่2011 ขอให้ผู้อ่านทุกคนประสบความสําเร็จในหน้าที่การงาน การทําSEO และร่ํารวยกันทุกคนครับ

Mr.Hackublog


บันทึกการแข่งขัน seo 2010 โดย mr.hackublog

Documents