วิชาสังคมและการเมือง social and politics
DESCRIPTION
วิชาสังคมและการเมือง Social and Politics. อ . มานิตา หนูสวัสดิ์. สัปดาห์ที่ 3 การจัดระเบียบทางสังคม และวัฒนธรรม. การจัดระเบียบทาง สังคม. การจัดระเบียบทางสังคมและโครงสร้างทางสังคม ( Social organization and Social structure ) - PowerPoint PPT PresentationTRANSCRIPT
วชิาสงัคมและการเมอืงSocial and Politics
อ. มานิตา หนูสวสัด์ิ
สปัดาห์ท่ี 3 การจดัระเบยีบทางสงัคม และ
วฒันธรรม
การจดัระเบยีบทางสงัคม• การจดัระเบยีบทางสงัคมและโครงสรา้งทางสงัคม
(Social organization and Social structure) - การจดัระเบยีบทางสงัคม หมายถึง การทำาใหส้งัคมมนุษยม์คีวามเป็นระเบยีบ
- การจดัระเบยีบทางสงัคม มคีำาเรยีกได้อีกหลายคำา เชน่ โครงสรา้งทางสงัคม, ระบบสงัคม
- การจดัระเบยีบทางสงัคม จงึเก่ียวขอ้งกับ บรรทัดฐานทางสงัคม สถานภาพ และบทบาท
การจดัระเบยีบทางสงัคม• ทำาไมต้องมกีารจดัระเบยีบทางสงัคม?1. มนุษยโ์ดยทัว่ไปมคีวามแตกต่างกัน ฉะนัน้จงึจำาเป็น
ต้องมรีะเบยีบแบบแผนในการอยูร่ว่มกัน2. มนุษยอ์ยูร่ว่มกันในสงัคม ต้องมกีารพึ่งพาอาศัยกัน
เพื่อตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตน ฉะนัน้จงึจำาเป็นต้องมรีะบบการแบง่หน้าท่ีการงานในสงัคม
3. มนุษยม์ลัีกษณะตามธรรมชาติท่ีสำาคัญ คือ การต่อสู้การใชอ้ำานาจและคามขดัแยง้ต่อกันตามปรชัญาของ Hobbes ดัน้นัน้สงัคมจงึจำาเป็นต้องมรีะบบระเบยีบเป็นแบบแผนในการอยูร่ว่มกันของมนุษย์
การจดัระเบยีบทางสงัคม• บรรทัดฐานทางสงัคม (social norms)- บรรทัดฐานทางสงัคม คือ แบบแผนพฤติกรรมที่
เป็นที่คาดหวงัของสงัคม เป็นมาตรฐานท่ีสมาชกิของสงัคมถกูคาดหวงัใหป้ฏิบติัตาม
- เป็นสิง่ที่ควบคมุพฤติกรรมของคนในสงัคมและทำาให้สมาชกิในสงัคมทราบวา่จะปฏิบติัตนอยา่งไรใหเ้หมาะ
สมเป็นท่ียอมรบั หรอือะไรเป็นสิง่ที่ไมค่วรปฏิบติั- หน้าท่ีของบรรทัดฐานทางสงัคม คือ การจดัระเบยีบและชว่ยลดความจำาเป็นของการเผชญิหน้าในการตัดสนิใจในสถานการณ์ต่างๆทางสงัคมที่สมาชกิของ
สงัคมมสีว่นรว่ม
การจดัระเบยีบทางสงัคม• แบง่บรรทัดฐานทางสงัคมได้ 3 ประเภท1. วถีิประชาหรอืวถิีชาวบา้น (folkways)2. จารตีหรอืศีลธรรม (mores)3. กฎหมาย (laws)
การจดัระเบยีบทางสงัคม• วถีิประชาหรอืวถีิชาวบา้น (folkways)- วถีิประชาหรอืวถิีชาวบา้น หมายถึง แบบแผนหรอื
พฤติกรรมที่คนจำานวนมากเหน็วา่เหมาะสม ถกูต้องในสถานการณ์นัน้ๆ
- วถีิประชาจะครอบคลมุพฤติกรรมด้านต่างๆของสงัคมไวซ้ึ่งเป็นพฤติกรรมหรอืการกระทำาที่ปฏิบตัิ
จนเป็นความเคยชนิ เป็นนิสยั เป็นประเพณี ไมม่กีารบงัคับใหต้้องปฏิบติัอยา่งเครง่ครดั
- วถีิประชาเป็นบรรทัดฐานที่มรีะดับความสำาคัญน้อย ในสงัคม กล่าวคือ การกระทำาผิดวถิีประชานัน้มผีลก
ระทบต่อสว่นรวมน้อยและไมรุ่นแรง จงึทำาใหบ้ทลงโทษของการกระทำาผิดตามวถิีประชาไมร่า้ยแรง
การจดัระเบยีบทางสงัคม• จารตีหรอืศีลธรรม (mores)- จารตีหรอืศีลธรรม คือ กฎของสงัคมท่ีกำาหนดวา่การ
กระทำาใดถกู การกระทำาใดผิด ต้องประพฤติหรอืปฏิบติัอยา่งไรจงึเรยีกวา่ทำาดีหรอืกระทำาอยา่งไรเรยีกวา่ทำาชัว่
- จารตี เป็นบรรทัดฐานท่ีมรีะดับความสำาคัญต่อสงัคม มาก เนื่องจากการกระทำาผิดจารตีจะมผีลกระทบสมาชกิ
ในสงัคมจำานวนมากหรอืสงัคมโดยสว่นรวม- ลักษณะสำาคัญของจารตี คือ เป็นทัง้ขอ้ปฏิบตัิและขอ้
หา้มปฏิบตัิ แต่ละสงัคมยอ่มมจีารตีแตกต่างกันเพราะ เป็นคณุค่าท่ีแต่ละสงัคมจะยดึถือ และจารตีมกั
เปล่ียนแปลงได้ยากกวา่วถีิประชา
การจดัระเบยีบทางสงัคม• กฎหมาย (laws)- กฎหมาย คือ กฎเกณฑ์ท่ีถกูบนัทึกไวเ้ป็นทางการถึง
ขอ้หา้มไมใ่หก้ระทำาหรอืขอ้บงัคับใหท้ำาตาม และมบีทลงโทษตามการกระทำาผิดกฎหมายแต่ละอยา่งวา่จะได้รบัโทษสถานใดบา้ง
- กฎหมายเป็นสิง่ที่จำาเป็นต้องมใีนสงัคมที่ซบัซอ้น มากขึ้น เป็นบรรทัดฐานที่มลัีกษณะเป็นทางการมาก
ท่ีสดุ เป็นอำานาจรฐั- กฎหมายยงัมบีทลงโทษท่ีเป็นทางการและสามารถควบคมุพฤติกรรมของคนในสงัคมได้อยา่งมีประสทิธภิาพ
การจดัระเบยีบทางสงัคม• ปัจจยัท่ีทำาให้เราต้องปฏิบติัตามบรรทัดฐานทาง
สงัคม1. เราทำาตามเพราะได้รบัการปลกูฝ่ัง สัง่สอน และผ่านการขดัเกลาทางสงัคมตัง้แต่เด็กใหป้ฏิบติัตามบรรทัดฐานทางสงัคมทีละเล็กทีละน้อย
2. เราทำาตามเพราะเป็นความเคยชนิหรอืเป็นนิสยั3. เราทำาตามเพราะเหน็วา่เป็นประโยชน์ต่อตัวเรา เชน่
มารยาทการขบัรถ การไมท่จุรติในหอ้งสอบ4. เราทำาตามเพราะต้องการแสดงความเป็นพวกเดียวกัน
หรอืกลุ่มเดียวกัน
การจดัระเบยีบทางสงัคม• สถานภาพ (status)- สถานภาพ หมายถึง ตำาแหน่งท่ีได้จากการเป็นสมาชกิของ
สงัคม ตำาแหน่งต่างๆจะเป็นตัวกำาหนดสทิธิ หน้าท่ี และความรบัผิดชอบของสมาชกิ
- สถานภาพเก่ียวขอ้งกับความสมัพนัธข์องสมาชกิในสงัคมสถานภาพจะเป็นตัวกำาหนดวา่บุคคลจะปฏิบติัต่อกันอยา่งไรจงึเหมาะสม
- สิง่ท่ีตามมาจากการมสีถานภาพ คือ การแบง่ชว่งชัน้ หรอื ลำาดับชัน้ทางสงัคม ซึ่งเก่ียวขอ้งกับความมัง่คัง่ อำานาจ และ
เกียรติยศ เป็นสภาพท่ีบอกวา่ใครเหนือกวา่ใคร ใครอยูส่งู หรอืตำ่ากวา่ใคร เป็นเรื่องท่ีแสดงถึงความเป็นชนชัน้ในสงัคม
การจดัระเบยีบทางสงัคม• บทบาท (role)- บทบาท หมายถึง การกระทำาหรอืการปฏิบติัตามสทิธิ
และหน้าที่ของสถานภาพ เป็นพฤติกรรมที่คาดหวงัสำาหรบัผู้ที่อยูใ่นสถานภาพต่างๆจะปฏิบติัอยา่งไร
- ปัญหาที่พบในลักษณะของสถานภาพและบทบาท คือความขดัแยง้ที่เกิดขึ้นเมื่อบุคคลมสีถานภาพซอ้นกัน
หลายอยา่ง หรอืการมบีทบาทหลายอยา่งท่ีต้อง กระทำาพรอ้มกัน สถานภาพหรอืบทบาทบางอยา่งก็
ทำาใหเ้กิดความขดัแยง้กันเอง เกิดความตึงเครยีด
วฒันธรรมCulture
วฒันธรรม (Culture)• ความหมาย• “ วฒันธรรมเป็นสิง่ทัง้หมดท่ีมลัีกษณะซบัซอ้น ซึ่งรวมทัง้ความ
รู ้ ความเชื่อ ศิลปะ จรยิธรรม ศีลธรรม กฎหมาย ประเพณี และ ความสามารถอ่ืนๆ รวมถึงอุปนิสยัต่างๆ ท่ีมนุษยไ์ด้มาโดยการ
” เรยีนรูจ้ากการเป็นสมาชกิของสงัคม (Edward B. Tylor) (ศิริ รตัน์ แอดสกลุ 2555: 71)
• “ วฒันธรรม คือ แบบแผนพฤติกรรมท่ีเกิดจากการเรยีนรูท่ี้ ค่อยๆเปล่ียนแปลงไปเรื่อยๆ และยงัรวมถึงผลท่ีเกิดจากการ
เรยีนรู ้ เชน่ ทัศนคติ ค่านิยม สิง่ของต่างๆ ท่ีคนทำาขึ้นและความรูท่ี้มอียูร่ว่มกันในกลุ่มชนหนึ่งและมกีารถ่ายทอดไปยงั
” สมาชกิคนอ่ืนๆของสงัคม (Cuber) ( ศิรริตัน์ แอดสกลุ 2555: 73)
วฒันธรรม (Culture)• “ วฒันธรรม คือ ระบบความสมัพนัธข์องคนกับคน
และคนกับธรรมชาติ โดยปกติแล้วระบบความ สมัพนัธน์ี้มนุษยไ์มไ่ด้สรา้งขึ้นใหมท่กุชัว่อายุคน แต่
มกัจะรบัระบบความสมัพนัธท์ี่ตกทอดกันมาจากอดีต… ต้องอาศัยการถ่ายทอดปลกูฝังกันเป็นเวลานานกวา่จะสามารถดำาเนินชวีติในระบบความสมัพนัธ์
… “หนึ่งๆได้ ( นิธิ เอียวศรวีงศ์ 2537: 32)• ระบบความสมัพนัธห์รอืวฒันธรรมจงึมพีลังกำาหนดชวีติของคนยิง่กวา่สิง่ใด
วฒันธรรม (Culture)• ลักษณะของวฒันธรรม1. วฒันธรรมเป็นสิง่ที่เกิดขึ้นในทกุสงัคมและเป็นสิง่ท่ีมนุษยส์รา้งขึ้น
2. วฒันธรรมเป็นสิง่ที่เกิดจากการเรยีนรู ้3. วฒันธรรมเป็นมรดกทางสงัคม กล่าวคือ เป็นสิง่ท่ี
ต้องมกีารถ่ายทอดจากรุน่สูรุ่น่ ภาษาเป็นเครื่องมอืสำาคัญในการถ่ายทอดวฒันธรรม
4. วฒันธรรมเป็นผลรวมของหลายอยา่ง ทัง้ความรู ้ ความเชื่อ ความคิด อุดมการณ์ ค่านิยม รูปแบบการ
ใชช้วีติ เครื่องมอืเครื่องใชต่้างๆ
วฒันธรรม (Culture)• ลักษณะของวฒันธรรม5. วฒันธรรมเป็นสิง่ท่ีสงัคมใชร้ว่มกันไมเ่ป็นสมบติัของคนใดคนหนึ่ง
6. วฒันธรรมเป็นสิง่ท่ีปรบัปรุงและสามารถ เปล่ียนแปลงได้ ตามกาลเวลาและสภาพแวดล้อม
ทางสงัคม ( มกีารถ่ายทอดวฒันธรรม การรบั วฒันธรรมอ่ืน การแพรก่ระจายของวฒันธรรม การ
ผสมผสานและการกลืนวฒันธรรม)7. วฒันธรรมเป็นสว่นสำาคัญในการหล่อหลอมความ
คิดและบุคลิกภาพของคนในสงัคม อีกทัง้ยงัเป็นตัว กำาหนดรูปแบบความคิด ความรูส้กึ และการ
แสดงออกการกระทำาทางสงัคม
วฒันธรรม (Culture)• หน้าท่ีของวฒันธรรม1. วฒันธรรมทำาหน้าท่ีในการควบคมุสงัคม ในรูปแบบ
ธรรมเนียมประเพณี ศีลธรรม2. วฒันธรรมทำาหน้าท่ีเป็นเครื่องหมายหรอืสญัลักษณ์ของกลุ่มหรอืของสงัคม
3. วฒันธรรมทำาใหเ้กิดความกลมเกลียว เป็นอันหน่ึงอัน เดียวกันเกิดความเป็นปึกแผ่นทำาใหส้งัคมคงอยูต่่อไปได้ คน
ท่ีมวีฒันธรรมเดียวกันยอ่มเกิดความรูส้กึเป็นพวกเดียวกัน เกิดความรูส้กึรกัและหวงแหน มจีติสำานึกความเป็นเจา้ของ
4. วฒันธรรมเป็นเครื่องมอืสรา้งระเบยีบแก่สงัคมและทำาหน้าท่ีเป็นเครื่องมอืในการปรบัตัวของมนุษยต่์อสิง่แวดล้อม
วฒันธรรม (Culture)• วฒันธรรมของแต่ละสงัคมมคีวามแตกต่างกัน การ
ตีความหรอืการให้คณุค่าวฒันธรรมเป็นการนำาวฒันธรรมของแต่ละสงัคมมาเปรยีบเทียบกันเป็น
สิง่ท่ีพงึระวงั เพราะ ไมม่เีกณฑ์สากลใดๆมาเป็นเครื่องวดัหรอืบอกวา่เป็นมาตรฐานของวฒันธรรม
ได้ ยิง่กวา่นัน้การตีค่าวฒันธรรมของสงัคมต่างๆจะก่อใหเ้กิดอคติทางวฒันธรรม
• สิง่ท่ีตามมาจากการคิดวา่วฒันธรรมของตัวเองดี กวา่ของคนอ่ืน คือ การหลงใหลวฒันธรรมของตัว
เอง การดถูกู การมอีคติ การเลือกปฏิบติั
อ้างอิงและเรยีบเรยีง• เอกสารประกอบการสมัมนาทางวชิาการ เรื่อง “วฒันธรรมกับ
”สงัคมไทยในกระแสการเปล่ียนแปลง ชุด โลกาภิวฒัน์(Globalization) อภิชาติ สถิตนิรามยั บรรณาธกิาร โดย
มหาวทิยาลัยธรรมศาสตร์ และ The Toyota Foundation และ มูลนิธโิครงการตำาราสงัคมศาสตรแ์ละมนุษยศาสตร์ ระหวา่งวนั
ท่ี 15-16 พฤศจกิายน พ. ศ 2537• ศิรริตัน์ แอดสกลุ. (2555) ความรูเ้บื้องต้นสงัคมวทิยา. กรุงเทพฯ: สำานักพมิพแ์หง่จุฬาลงกรณ์มหาวทิยาลัย.
• ภาควชิาสงัคมวทิยาและมานุษยวทิยา คณะรฐัศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวทิยาลัย. (2553) สงัคมและวฒันธรรม. พมิพ์
ครัง้ท่ี 12. กรุงเทพฯ: สำานักพมิพแ์หง่จุฬาลงกรณ์มหาวทิยาลัย.