สารชีวโมเลกุล
DESCRIPTION
TRANSCRIPT
สารชีวโมเลกลุ (Biomolecule)
KruAoijai Wichaisiri PCCCR
ชีวเคม ี(BIOCHEMISTRY)
ชีวเคมี คือการศกึษาสิง่มีชีวิตในทางเคมี โดยในร่างกายของ
สิง่มีชีวิตมีสารเคมีที่รวมเรียกวา่ชีวโมเลกลุ (biomolecules) ซึง่
สามารถแบง่ออกเป็น 4 ประเภทหลกั คือ
(1) peptides and proteins
(2) nucleic acids
(3) carbohydrates
(4) lipids
บทบาทของชีวโมเลกลุชีวโมเลกุลมีบทบาทที่สาํคัญในร่างกายดงัต่อไปนี ้
เป็นส่วนประกอบโครงสร้าง เช่น ผม เลบ็ ผิวหนงั กล้ามเนือ้
กระดกู เนือ้เยื่อ ผนงัเซลล์
เร่งปฏกิริิยา ได้แก่ เอน็ไซม์
ควบคุม ได้แก่ ฮอร์โมน
ให้พลังงาน
ขนส่งสารเคมี เช่น ขนสง่ออกซเิจน กรดแอมิโน ไอออน นํา้ตาล
สารสื่อประสาท
ป้องกัน เชน่ แอนตบิอดี ้
รับรู้ ได้แก่ รีเซปเตอร์
ความสาํคญัของวิชาชีวเคมี
1. ด้านการแพทย์
สรีรวิทยา, ระบบต่างๆ
เทคนิคการเพิ่มจาํนวน DNA ในหลอดทดลอง (PCR)
หลกัฐานทางนิติเวช
ตรวจเลือด และปัสสาวะ ใช้ในการวินิจฉัยโรค2. ด้านการเกษตร
⌧ การสงัเคราะหแ์สง การตรึงไนโตรเจน
⌧วิเคราะหอ์งคป์ระกอบ และคณุค่าอาหารสตัว์3. ด้านอตุสาหกรรม
เทคนิคพนัธวุิศวกรรม เช่น การผลิตฮอรโ์มนอินซูลิน
เอนไซมอ์ะไมเลส ในอตุสาหกรรมกระดาษ
ผลิตเอทานอลจากแป้ง การหมกัสรุา
หน่วยเรียนที่ 1 บทนํา
PROTEIN
Aoijai Wichaisiri
5
PRINCESS CHULABHORN’S COLLEGE CHAIGRAI
Regional science school
Proteinเป็น polypeptide ของ amino acid ที่ต่อกัน
เป็นลาํดับเฉพาะตัวสาํหรับโปรตีนแต่ละชนิด
โปรตีนสามารถทาํงานได้ ต้องมีรูปร่าง
(conformation) ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว
มนุษย์มีโปรตีนมากกว่า 10,000 ชนิด แต่ละชนิดมี
โครงสร้างและหน้าที่แตกต่างกัน
ประเภทของโปรตีน
โปรตนีก้อนกลม
เกิดจากสายพอลิเพป
ไทดร์วมตวัมว้นพบัพนั
กนัและอดัแน่นเป็น
กอ้นกลม
ละลายนํ้าไดด้ี
ทาํหนา้ที่เกี่ยวกบั
ิ
โปรตนีเส้นใย
เกิดจากสายพอลิเพป
ไทดพ์นักนัใน
ลกัษณะเหมือนเส้นใย
ยาวๆ
ละลายนํ้าไดน้อ้ย
ทาํหนา้ที่เป็นโปรตีน
โ ้ ี
ตวัอยา่งโปรตีนเสน้ใย
Keratin Silk
ตวัอยา่งโปรตีนกอ้นกลม
Casein
EnzymeAlbumin
ประเภทของโปรตีน ประเภทของโปรตนี หน้าที่ ตวัอย่าง
โปรตีนเร่งปฏิกิริยา เร่งปฏิกิริยาในเซลล์
สิ่งมีชีวติ
เอน็ไซม์
โปรตีนขนส่ง ขนส่งสารไปสู่ส่วนต่างๆ
ของร่างกาย
ฮีโมโกลบิน
โปรตีนโครงสร้าง ใหค้วามแขง็แรงและช่วย
คงรูปร่างโครงสร้างต่าง ๆ
ของร่างการ
คอลลาเจน
เคราติน
โปรตีนสะสม สะสมธาตุต่าง ๆ เฟอริทิน
ประเภทของโปรตนี
ประเภทของ
โปรตนี
หน้าที่ ตวัอย่าง
โปรตีนป้องกนั ป้องกนัและกาํจดัสิ่ง
แปลกปลอมที่เขา้มาใน
เซลล์
แอนติบอดี
โปรตีนฮอร์โมน แตกต่างกนัตามชนิดของ
ฮอร์โมนนั้นๆ
•ควบคุมการเจริญเติบโต•ควบคุมการเผาผลาญ
คาร์โบไฮเดรต
Growth hormone
Insulin
N C C
H
R
O
OH
H
H
Amino group
Carboxyl group
Amino acid เป็นสารอนิทรีย์ที่มีหมู่ carboxyl และหมู่
amino ต่อกับอะตอมคาร์บอนที่เป็นศูนย์กลาง อะตอมที่เป็นศูนย์กลางยังต่อกับอะตอม hydrogen และหมู่ R group 1 หมู่ที่แตกต่างกัน
Amino acid กลุ่ม Nonpolar
Amino acid แบ่งออกเป็นกลุ่มตามคุณสมบัติ
ของ R group
R group ที่แตกต่างกันนี ้ทาํให้เกดิ amino acid แตกต่างกัน 20 ชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัตทิางเคมีและชีววทิยาแตกต่างกัน
กลุ่ม Polar
กลุ่ม Electrically charged
Making a polypeptide chain
Amino acid ต่อกันเป็นสายยาวด้วย
covalent bond เรียกว่า peptide bond
ปลายที่มีหมู่ amino เรียกว่า N-terminusปลายที่มีหมู่ carboxyl เรียกว่า C-terminus
สาย polypeptide ประกอบด้วย amino acid ทัง้ 20 ชนิด เรียงต่อกันเป็นอิสระ สาย
polypeptide จึงสามารถมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกันนับหมื่นชนิดได้
โปรตีนสามารถทาํงานได้ต้องมีรูปร่าง
(conformation) ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว
โปรตีนที่ทาํงานได้ประกอบด้วย polypeptide 1 สายหรือมากกว่า ซึ่งม้วนพบัไปมาตามแรงยดึเหนี่ยวระหว่าง
side chain ของ amino acid
รูปร่างของโปรตีนจงึขึน้อยู่กับลาํดับของ amino acid ที่เรียงกันอยู่
แรงยดึเหยีย่วระหว่างโมเลกลุของโปรตนี
H-bondDisulfide bond
Van der waals force
H-BOND : α - HELIX
ที่มา : http://web.mit.edu/esgbio/www/lm/proteins/structure/structure.html
H-BOND : PLEATED SHEET STRUCTURE
H-bond : Pleated sheet structure
พนัธะไดซัลไฟด์ (DISULFIDE BOND)
A protein’s function depends on its specific conformation
Ribbon model Space filling model
โครงสร้างของโปรตีนถูกแบ่งออกเป็น
Primary structure
Secondary structure
Tertiary structureQuaternary structure สาํหรับโปรตีน
ที่ประกอบด้วย polypeptide มากกว่า 1 สาย
The primary structure of a protein
Primary structure คือ
ลาํดบัของ amino acid ที่ประกอบขึน้เป็นโปรตีน
Primary structure ถูกกาํหนดโดยข้อมูลทางพันธุกรรม
(DNA)
การเปลี่ยนแปลงลาํดับ amino acid ในโปรตีนอาจมีผลให้รูปร่างของโปรตีนเปลี่ยนไป และอาจมี
ผลต่อการทาํงานของโปรตีนชนิดนัน้ๆ
ตัวอย่างเช่น โรค sickle-cell anemia
A single amino acid substitution in a protein causes sickle-cell disease
The secondary structure of a protein
Secondary structure ที่พบบ่อยในธรรมชาตไิด้แก่
αHelix และ βPleated sheet
Secondary structure เป็นโครงสร้างที่เกดิขึน้จาก H-bond ระหว่างหมู่ carboxylและหมู่
amino
Spider silk: a structural protein
ตัวอย่างเช่น เส้นใยแมงมุม มีโครงสร้างแบบ βPleated sheet ทาํให้เส้นใยแมงมุมมีความแขง็แรงมาก
Tertiary structure of a protein
Tertiary structure เป็นรูปร่างของ polypeptide สายหนึ่งตลอดสาย ซึ่งการม้วนพบไปมาขึน้อยู่กับแรงยดึเหนี่ยวระหว่าง R group ด้วยกันเอง หรือ R group กับโครงสร้างหลัก
แรงยดึเหนี่ยวหมายถงึ
H-bondionic bondHydrophobic interactionVan der Waals interactionนอกจากนีบ้างตอนยดึตดิกันด้วย covalent bond ที่แข็งแรง
เรียกว่า disulfide bridges ระหว่างหมู่ sulhydryl (-SH) ของกรดอะมโิน cysteine ที่อยู่ใกล้กัน
The Quaternary structure of proteinsเป็นโครงสร้างของโปรตนีที่ประกอบด้วย
polypeptide มากกว่า 1 สายเท่านัน้ เกดิจาก tertiary structure ของ polypeptide แต่ละสายมารวมกัน
Polypeptide chain
ตวัอย่างเช่น :
Collagen เป็น fibrous protein ประกอบด้วย
polypeptide 3 สายพันกันอยู่ ซึ่งทาํให้โปรตีนชนิดนีม้ีความ
แขง็แรงและพบใน
connective tissue
Hemoglobin ประกอบด้วย polypeptide 4 สายรวมกันกลายเป็นโปรตีนที่มีรูปร่างเป็นก้อน
The four levels of protein structure
Denaturation and renaturation of a protein
ปฏกิริิยาเคมีของ macromolecules ได้แก่
Condensation เป็นปฏกิริิยาสังเคราะห์
macromolecules จาก monomersเล็กๆเป็นจาํนวนมาก และได้ผลผลิต H2O ด้วย
ดังนัน้อาจเรียกว่า ปฏกิริิยา dehydration
Hydrolysis เป็นปฏกิริิยาย่อยสลาย
macromolecules ให้เล็กลง เพื่อให้สามารถนําผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าสู่เซลล์ได้ หรือย่อยสลาย
macromolecules ที่ไม่ใช้แล้วภายในเซลล์
The synthesis of a polymer
The Breakdown of a polymer
Carbohydrates เป็นสารประกอบจาํพวก
นํา้ตาล และ polymer ของนํา้ตาล
แบ่งกลุ่ม carbohydrates ได้เป็น 3 กลุ่ม ตามจาํนวนโมเลกุลของนํา้ตาลที่เป็นองค์ประกอบ ได้แก่
Monosaccharide
Disaccharide
Polysaccharide
Carbohydrates
Monosaccharide เป็นนํา้ตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่ประกอบด้วย C, O และ H มีสูตรคือ
(CH2O)n
โดยมีอะตอมของ C ต่อกันเป็นสาย และมี
Carbonyl group และ hydroxy group ต่อกับอะตอมของ C
aldehydes ketones
Carbonyl group
The structure and classification of some monosaccharides
Linear and ring forms of glucose
นํา้ตาลโมเลกุลคู่ (Disaccharides) เกดิจากการรวมตวัของนํา้ตาลโมเลกุลเดี่ยว 2 โมเลกุล โดย
ปฏกิริิยา condensation
Covalent bond ที่เกดิขึน้ เรียกว่า
Glycosidic linkage
Examples of disaccharides synthesis
Polysaccharide เป็น carbohydrate ที่มีขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วย
monosaccharides จาํนวนมากต่อกันด้วย
glycosidic linkage ชนิดของ polysaccharide ขึน้อยู่กับ
1. ชนิดของ monosaccharide
2. ชนิดของ Glycosidic linkage
ตัวอย่าง polysaccharide ได้แก่ starch, glycogen, cellulose และ chitin
Storage polysaccharides
Starch: 1-4 linkage of α glucose monomers
Cellulose: 1-4 linkage of β glucose monomers
Cellulose มี glucose เป็นองค์ประกอบเช่นเดียวกับ แป้ง แต่มีพนัธะแบบ β1-4 glycosidic linkage ผนังเซลล์ของพชืประกอบด้วย cellulose เป็นจาํนวนมาก
The arrangement of cellulose in plant cell walls
Chitin, a structural polysaccharide
Chitin forms the exoskeleton of Arthropods
Chitin is used to make a strong and flexible surgical thread
Chitin มีโครงสร้างคล้ายกับ Cellulose ต่างกันที่ว่า หน่วยย่อยเป็น N-acetylglucosamine ต่อกันเป็นโมเลกุลสายยาว
หน้าที่ของ carbohydrateSugars :
ทาํหน้าที่ให้พลังงานและเป็นแหล่งคาร์บอนแก่สิ่งมีชีวติ
ribose และ deoxyribose เป็นองค์ประกอบของ
nucleic acidPolysaccharide :
เป็นแหล่งสะสมพลังงานของสิ่งมีชีวติ โดยพชืเกบ็สะสม
พลังงานในรูปของ starch ส่วนสัตว์เกบ็สะสมพลังงานในรูปของ glycogen
Cellulose และ chitin เป็นโครงสร้างของพชืและสัตว์
Lipids
Diverse Hydrophobic molecules
Lipids เป็นสารที่ไม่เป็น polymer
Lipids ไม่ละลายนํา้ เนื่องจากโครงสร้างของ lipids ประกอบด้วย nonpolar covalent bonds เป็นส่วนมาก
Lipids ได้แก่
ไขมัน (Fat)
Phospholipid
Steroidขีผ้ึง้ (Wax)
Fats : เป็นแหล่งสะสมพลังงานFats ถงึแม้จะไม่เป็น polymer แต่เป็นสารที่มีโมเลกุล
ขนาดใหญ่ ประกอบด้วยสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่ามาต่อกัน
ด้วยปฏกิริิยา Dehydration
Fats ประกอบด้วย Glycerol และ กรดไขมัน (Fatty acid)
ส่วน “tail” ของ fatty acid ที่เป็น hydrocarbon ที่มักมีอะตอมคาร์บอนต่อกันประมาณ 16-18 อะตอม เป็นส่วนที่ทาํให้
fats ไม่ละลายนํา้ (hydrophobic)
Triglycerolไขมัน 1 โมเลกุล ประกอบด้วย Glycerol 1 โมเลกุล
และ กรดไขมัน 3 โมเลกุล
กรดไขมันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
Saturated fatty acid (กรดไขมันชนิดอิ่มตวั)
Unsaturated fatty acid (กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตวั)
ไขมันที่ได้จากสัตว์ เช่น เนย มี saturated fatty acidเป็นองค์ประกอบ มีลักษณะเป็นของแขง็ที่อุณหภมูิห้อง
ไขมันจากพืช มี unsaturated fatty acid เป็นองค์ประกอบ มีลักษณะเป็นของเหลวที่อุณหภมูิห้อง
Saturated fat and fatty acid
Unsaturated fatand fatty acid
Phospholipidsเป็นองค์ประกอบหลักของ cell membrane
ประกอบด้วย glycerol 1 โมเลกุล fatty acid 2 โมเลกุล และ phosphate group (phosphate group มีประจุ -)
มีส่วนหวัที่มีประจุ และเป็นส่วนที่ชอบนํา้
(hydrophilic) และส่วนหางที่ไม่ชอบนํา้
(hydrophobic)
The structure of phospholipid
Micelle
Phospolipid in aqueous environments
เมื่อเตมิ phospholipids ลงในนํา้
phospholipids จะรวมตัวกัน โดยเอาส่วนหางเข้าหากัน และส่วนหวัหนัออกทางด้านนอก กลายเป็นหยด
เล็กๆ เรียกว่า micelle
Phospholipid bilayer
ที่ cell membrane ของสิ่งมีชีวติ
Phospholipids จะเรียงตัวเป็น 2 ชัน้ โดย
hydrophilic head จะหนัออกทางด้านนอกเข้าหากัน ส่วน hydrophobic tail อยู่ตรงกลาง
Steroidsเป็น lipids ประกอบด้วย คาร์บอนเรียงตัวเป็นวง
แหวน 4 วง
Steroids ชนิดต่างๆ มีหมู่ functional group ที่ต่อกับวงแหวนแตกต่างกัน
Cholesterol เป็น steroid ที่เป็นองค์ประกอบของ cell membrane
Cholesterol, a steroidCholesterol ยังเป็น precusor สาํหรับ
การสังเคราะห์ steroid อื่นๆหลายชนิด เช่น
hormones
THE END
69