biological diversity
Post on 23-Jul-2015
155 Views
Preview:
TRANSCRIPT
การจ ัดจ ำาแนกสิ่งม ีช ีว ิต
ลักษณะที่ใชใ้นการจ ัดจ ำาแนก1. ลักษณะภายนอก และโครงสร ้างภายในของร ่างกาย
2.แบบแผนของการเจร ิญเต ิบโตและโครงสร ้าง
3. ที่เก ิดข ึ้นในระยะที่เปน็ต ัวอ ่อน4. ซากดึกด ำาบรรพ์5. โครงสร ้างของเซลล์และออร ์แกเนลล ์6. สร ีรว ิทยาและการสงัเคราะห์สารเคม ี7.ลักษณะทางพันธกุรรม
สามารถเร ียงล ำาด ับจากใหญ่ไปเล ็ก ได ้ด ังน ี้ Domain (โดเมน) Kingdom (อาณาจักร)
Phylum (ไฟลัม) หรือ Division (ดิว ิชนั)
Class (ชัน้) Order (อันด ับ)
Family (วงศ ์) Genus (สกุล)
Species (ชนิด) ในแต่ละระด ับขั้นของการแบ่งน ี้ อาจมรีะด ับการ
แบ่งท ีแ่ทรกอยูใ่นแต่ละระด ับชั้น โดยใชค้ ำาว ่า“sub” แทรกอยู่ เช ่น subphylum, subclass
เป ็นต ้น
1.พืชเปน็ส ิง่มชีวี ิตท ี่ส ำาคญัท ำาหนา้ท ี่เปน็ผ ูผ้ล ิต
2.จ ัดเปน็ส ิ่งม ีชวี ิตหลายเซลล์แบบ 3.องคป์ระกอบของผนงัเซลล ์เปน็สาร
พวกเซลลูเลส4. มีคลอโรพลาสต์บรรจ ุคลอโรฟิลล ์ เอ บ ี แคโรทีนอยด์ ใชใ้นการสงัเคราะห์
ด ้วยแสง
พืช
การจ ัดกล ุ่มของพืช แบง่ตามท่อ
ล ำาเล ียง
1.พืชไม ่มที ่อล ำาเล ียง(Non vascular
plants)
2. พืชมที ่อล ำาเล ียงช ัน้ต ำ่า (lower
vascular plant or seedless plants)
3. พืชเมล ็ดเปล ือย (Gymnosperm)
4. พืชดอก (Angiosperm)
Division Hepatophyta พืชในกลุ่มน ีไ้ด ้แก ่ liverworts สมยั
โบราณเชือ่ว ่า สามารถนำามาร ักษาโรคตับได้
พืชไม ่มที ่อล ำาเล ียงแบง่ออกเปน็ 3 division ดังน ี้
Division Bryophytaพืชในกลุ่มน ีไ้ด ้แก ่มอสมสีมาชกิมาก
ที่สดุในกลุ่มพ ืชไมม่ที ่อล ำาเล ียง สามารถ เจร ิญได้ท ั่วไป เชน่ ตามเปลอืกไม ้ พ ื้นด ิน
ก ้อนหิน
พืชที่ม ีท ่อล ำาเล ียง (Vascular plants)-มีขนาดใหญ่อาศ ัยอย ู่บนพื้นด ินเปน็สว่น
ใหญ่- มีใบที่ท ำาหนา้ท ี่ร ับพล ังงานแสง-มีรากที่ชว่ยในการย ึดเกาะและดูดน ำ้าและ
แร ่ธาต ุต ่างๆ-พืชที่มที ่อล ำาเล ียงเปน็กล ุม่ท ี่พบมากที่สดุ
ประมาณ 250,000 ชนดิ สามารถแบง่เปน็ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คอื
พืชดอก (Angiosperms)
Division Anthophyta พืชดอกสามารถแบง่ออกได้
พืชดอกเปน็พืชที่ม ีสมาชกิมากที่สดุ ลักษณะสำาคญัคอื ม ีดอก (flower) เพ ื่อการ
สบืพันธ ุ์แบบอาศัยเพศ
พืชที่ม ีท ่อล ำาเลยีงช ั้นส ูง
Kingdom Animalia * ไม่สามารถสร ้างอาหารเองได้ จะ
ต ้องก ินส ิ่งอ ื่นเปน็อาหาร* สว่นใหญ่สามารถเคล ื่อนที่ได ้
อาจจะในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีว ิตหร ือตลอดชีว ิต
1. Group Protochordata (Acrania) คอื พวกที่ไม่มีกะโหลกหุม้สมอง มี 2
subphylum• 1.1 Subphylum Urochordata : เพรียงหัวหอม
(tunicate, sea squirt)
• 1.2 Subphylum Cephalochordata : lancelet / amphioxus
•
• 2. Class Osteichthyes : ปลากระดูกแข็ง(bony fishes)
Order Salientia • กบ (frogs)• เขียด(small frogs, small toads) • คางคก (toads) • ปาด (tree frogs) • อึ่ง (burrowing frogs)
• 4. Class Reptilia : สัตว์เลื้อยคลาน (reptiles) แยกออกได้เป็น 4 อันดับ คอื
• Order Squamata ( งู จิ้งจก ตุ๊กแก ก้ิงก่า อิกั วนา จิ้งเหลน ก้ิงก่า ตะกวด มังกรโคโมโด ตุ๊ดตู่ )
• 2.1 Infraclass Ornithodelphia Order Monotremata : เปน็สตัว์เลี้ยงลูกด้วย
นำ้านมที่ออกลูกเป็นไข่ เช่น ตุ่นปากเปด็ตัวกินมดหนาม
• 2.2 Infraclass Metatheria สัตว์เลี้ยงลูกด้วย นำ้านมที่มถุีงหน้าท้อง เชน่ จิงโจ้ koala,
opossum, wombat
• 2.3 Infraclass Eutheria (Placentalia) สตัว์ เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีสายรก
• ตัวอ่อน เจริญอยู่ภายในมดลูก ได้รับอาหารจาก แม่โดยผ่านทางสายรก ( placenta)
• 1. Order Insectivora เปน็สัตว์พวกที่กินแมลง เป็นอาหาร ส่วนปลายปากมีลักษณะแหลม มัก
อาศัยอยู่ใต้ดิน เชน่ ตุ่น เม่นหนามสั้น
• 2. Order Chiroptera มีนิ้วมือยาวและมหีนงัขึง อยู่ระหว่างนิ้ว ข้อเท้าและปลายหาง ใช้ใน
การบิน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนำ้านมพวกเดียวที่ สามารถบินได้ เชน่ พวกคา้งคาว
• 3. Order Dermoptera มีความสามารถที่จะโยน ตัวข้ามต้นไม้หรือลอยตัวไปในอากาศได้ เช่น
บา่ง (flying lemurs)
•4. Order Rodentia สัตว์ฟันแทะ มีฟันแทะด้าน
บนและด้านล่างด้านละหนึ่งคู่ เชน่ หนู กระรอก อ้น เม่น บเีวอร์
• 6. Order Lagomorpha สตัว์ฟันแทะที่มีฟันแทะ ด้านบน 2 คูซ่้อนกัน สว่นด้านล่างมีหนึ่งคู่ กิน
พืชเปน็อาหารเชน่ กระต่าย
• 8. Order Carnivora เป็นสัตว์พวกที่กินเนื้อเปน็ อาหาร ฟันเขี้ยวยาว เล็บแข็งแรงเพื่อใชใ้นการ จับเหยื่อ รับสัมผสัเรื่องกลิ่นได้เป็นอย่างดี เช่น
สุนขั แมว สิงโต เสอื หมี นาก แมวนำ้า สิงโต ทะเล raccoon skunk
• 9. Order Cetacea เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มี ลักษณะคล้ายปลา อาศัยอยู่ในนำ้า มีเต้านมที่ใช้ สำาหรับเลี้ยงตัวอ่อน เชน่ วาฬ โลมา
• 10. Order Proboscidea ฟันด้านบนที่อยู่สองข้างของสว่นของจมูกจะยื่นยาวออกมาเปน็งวง
และมีรูอยู่ที่ปลายจมูก เช่น ชา้ง
• 11. Order Sirenia เป็นสัตว์กินพืชที่อาศัยอยู่ ในนำ้า ไม่มีขน แต่มีผิวหนังหนา รยางค์คูแ่รก
ดัดแปลงไปใชใ้นการว่ายนำ้า เช่น พะยูนหรือวัว ทะเล (dugong) manatee
• 12. Order Artiodactyla เปน็สตัว์ที่มีกีบเท้าเป็น กีบคู่ เชน่ หมูหมู วัว ควาย กวาง อูฐ ยีราฟ
ฮิปโปโปเตมัส แกะ แพะ
• 14. Order Primate มีพัฒนาการของสมองดี กว่าสัตว์อื่น ที่รยางค์มีนิ้ว 5 นิ้วและ ส่วนใหญ่
ตามร่างกายมีขน (hair) ปกคลุม เชน่ ลิง ลิงลม ชะนี อุรังอุตัง กอริลลา ชมิแพนซี คน
•
สาหร ่าย (Algae)
สาหร ่าย (algae) เปน็ protist ที่สามารถ
สงัเคราะห์ด ้วยแสงได้ ม ีท ั้งท ี่เปน็เซลล ์
เด ี่ยวๆ เปน็ colony และหลายเซลล์ขนาด
ใหญ่ เชน่สาหร ่ายทะเล ในปจัจ ุบนัได ้ม ี
แบง่กล ุม่ของสาหร ่ายโดยอาศัยขอ้มลูทาง
ด้านสารชวีโมเลก ุลได ้เปน็กล ุม่ใหญ่ๆ
ด ังน ี้
แบคทีเรียก่อโรค
• จากการศึกษาพบว่า ปญัหาเรื่องการปนเปื้อน ของเชือ้ในอาหาร หรือการที่อาหารเนา่เสียนั้น
มีสาเหตุมาจากเชือ้แบคทีเรีย ซึ่งมีคนจำานวนสิบถึงยี่สิบล้านคนนี้เสียชวีิตจากแบคทีเรียก่อโรคที่
ปนเปื้อนอยู่ในนำ้า
top related