Download - ชีวิตที่ขาดมะนาวไม่ได้ › imgadmins › product_pdf › Pdf... · มองเป็นก็เห็นสุข : รินใจ เช้าวันนี้
ชีวิตที่ขาดมะนาวไม่ได้
มองเป็นก็เห็นสุข : รินใจ
เช้าวันนี้แทนที่อาจารย์จะเริ่มต้นด้วยการบรรยายวิชา
ปรัชญากลับยกลังใบหนึ่งมาตั้งไว้บนโต๊ะหน้าชั้นแล้วหยิบ
ขวดโหลใบใหญ่ที่ว่างเปล่าออกมา
จากนั้นก็ใส่ลูกมะนาวทีละลูกจนเต็มอาจารย์ถามว่า
ขวดโหลเต็มแล้วหรือยังนักศึกษาต่างพยักหน้า
แล้วอาจารย์ก็เทกรวดลงไปในขวดโหลพร้อมกับเขย่า
จนกรวดเข้าไปอัดเต็มช่องว่างระหว่างลูกมะนาวอาจารย์ถาม
อีกว่าขวดโหลเต็มแล้วหรือยังนักศึกษาก็ตอบว่าเต็มแล้ว
ทีนี้อาจารย์จึงเททรายใส่ลงไปในขวดโหลจนเต็มอาจารย์
10 : 11
ถามเช่นเดิมว่าขวดโหลเต็มแล้วใช่ไหมนักศึกษาตอบว่าใช่
แต่ในใจยังงงอยู่ว่าอาจารย์ต้องการบอกอะไร
อาจารย์รู้ว่านักศึกษากำลังคิดอะไรอยู่แต่แทนที่จะเฉลย
กลับคว่ำขวดโหลลงในลังจนทุกอย่างไหลออกมาหมด
เมื่อขวดโหลว่างเปล่าแล้วอาจารย์ก็เททรายใส่เข้าไป
จนเต็มอีกครั้งหนึ่งแล้วชูขวดขึ้นถามนักศึกษาว่า...
“มีใครบ้างที่สามารถใส่มะนาวหรือก้อนกรวดลงไปใน
ขวดโหลใบนี้ได้บ้าง”
นักศึกษาทุกคนส่ายหัว
อาจารย์ก็เฉลยว่า“ขวดโหลใบนี้เปรียบเสมือนชีวิต
ของเราลูกมะนาวหมายถึงสิ่งที่มีความสำคัญในชีวิตได้แก่
ครอบครัวมิตรสหายคุณงามความดีสุขภาพความสุขใจรวมถึง
สิ่งสูงสุดที่เรานับถือคนเราแม้ว่าจะมีสิ่งอื่นมากมายแต่ถ้าขาด
สิ่งเหล่านี้ไปแล้วชีวิตก็ว่างเปล่าไร้ความหมายหาความสุขไม่ได้
“กรวดหมายถึงสิ่งสำคัญรองลงมาที่ช่วยให้ดำรงชีวิต
ได้อย่างปกติสุขเช่นวิชาความรู้อาชีพการงานเงินบ้าน
รถยนต์ส่วนทรายคือความสนุกสนานเพลิดเพลินรวมทั้ง
มองเป็นก็เห็นสุข : รินใจ
สิ่งละอันพันละน้อยในชีวิตที่แม้จะเพิ่มสีสันให้แก่ชีวิตแต่ถึงขาด
ไปก็ไม่ทำให้ชีวิตเป็นทุกข์”
อาจารย์อธิบายต่อ
“ขวดโหลใบนี้จะจุลูกมะนาวก้อนกรวดและทราย
ได้ครบหมดก็ต่อเมื่อเราใส่ลูกมะนาวก่อนตามด้วยก้อนกรวดและ
ทรายเป็นอันดับสุดท้ายฉันใดก็ฉันนั้นชีวิตของเราจะครบถ้วน
สมบูรณ์ก็ต่อเมื่อให้เวลาแก่สิ่งสำคัญก่อนเช่นมีเวลาให้แก่
ครอบครัวใส่ใจมิตรสหายเอื้อเฟื้อผู้อื่นดูแลรักษาสุขภาพ
ทั้งกายและใจรวมทั้งมีสิ่งดีงามเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
“ลำดับต่อมาคือการให้เวลาแก่อาชีพการงานศึกษา
หาความรู้สะสมทรัพย์สมบัติเวลาที่เหลือนอกจากนั้นก็เป็นเรื่อง
ของการเที่ยวเตร่หาความสนุกสนานเช่นดูหนังชอปปิงเป็นต้น”
พูดจบอาจารย์ก็ถามนักศึกษาว่า...
“แต่ถ้าเราให้เวลาแก่การเที่ยวเตร่สนุกสนานก่อน หรือให้
อาชีพการงานและการแสวงหาทรัพย์สมบัติขึ้นมาเป็นอันดับแรก
ของชีวิต อะไรจะเกิดขึ้นกับสิ่งสำคัญของชีวิต แล้วลูกมะนาวจะ
อยู่ที่ไหน ถ้าเราใส่ทรายหรือกรวดเข้าไปในขวดโหลก่อน”
12 : 13
นิทานเรื่องนี้คงไม่มีประโยชน์หากเรามีเวลาอยู่ในโลกนี้
อย่างไม่มีขีดจำกัดแต่ความจริงก็คือเราทุกคนมีเวลาและพลังงาน
อย่างจำกัดดังนั้นการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆในชีวิต
จึงเป็นเรื่องจำเป็น
ปัญหาของผู้คนเวลานี้ก็คือไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องนี้กัน
เท่าไรนักยิ่งไปกว่านั้นบางคนหลงเข้าใจไปว่าชีวิตนี้มีแต่ทราย
กับก้อนกรวดเท่านั้นลืมไปว่ายังมีลูกมะนาวที่เราต้องใส่ใจด้วย
หลายคนแม้จะรู้ว่าชีวิตนี้ขาดลูกมะนาวไม่ได้
แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเวลาที่จะหาลูกมะนาวมาบรรจุไว้
ในชีวิต ทั้งนี้เพราะคอยผัดผ่อนอยู่เรื่อย
แล้วเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวสุขภาพกายสุขภาพใจมักจะ
ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในขณะที่อาชีพการงานนั้นมี‘เส้นตาย’
ที่ต้องเร่งทำให้เสร็จส่วนบ้านและรถยนต์ก็เต็มไปด้วยเรื่องจุกจิก
ที่ต้องรีบจัดการภายในเร็ววัน
จริงอยู่การเที่ยวเตร่และชอปปิงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนแต่ก็มี
เสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่าการออกกำลังกายหรือทำสมาธิแถมยังถูก
ทำให้เป็นเรื่องที่ต้องเร่งตัดสินใจ(เพราะเหตุที่ว่า‘ลดกระหน่ำ’
มองเป็นก็เห็นสุข : รินใจ
เพียงอาทิตย์นี้เท่านั้น)ผลก็คือไม่มีเวลาเหลือสำหรับสิ่งที่สำคัญ
ในชีวิต
ไม่มีอะไรยากเท่ากับการจัดการตนเองแต่ก็ไม่มีอะไร
เหลือวิสัยหากมี‘ความมุ่งมั่น’และ‘การวางแผนที่ดี’
เริ่มต้นด้วยการวางแผนชีวิตวันนี้ให้มีมะนาวอยู่ด้วยไม่ใช่
มีแค่กรวดกับทรายเท่านั้น
ถ้าจะให้ดีควรเอาตารางประจำวันออกมากางและใส่
มะนาวลงไปก่อน(ควรเติมมะนาวลงไปมากๆ)จากนั้นจึงค่อยเติม
กรวดและทรายลงไปเมื่อวางแผนประจำวันเสร็จแล้วก็วางแผน
ให้ครอบคลุมทั้งอาทิตย์และตลอดเดือนโดยเฉพาะวันหยุด
สุดสัปดาห์
ข้อสำคัญก็คือจงอย่ารอพรุ่งนี้เดือนหน้าหรือปีหน้า
เพราะถึงตอนนั้นอาจจะลืมหรือหมดโอกาสที่จะทำ
ถ้าไม่เริ่มต้นเสียตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้อาจสายไปแล้วก็ได้
14 : 15
ชีวิตที่ยิ่งใหญ่
มองเป็นก็เห็นสุข : รินใจ
ขณะที่โลกกำลังเคลื่อนสู่สหัสวรรษใหม่คำถามหนึ่งที่
น่าขบคิดก็คือ“สิ่งประดิษฐ์อะไรที่เปลี่ยนแปลงชีวิตมนุษย์อย่าง
ลึกซึ้งที่สุดในรอบ 2,000 ปีที่ผ่านมา”
เคยมีคนนำปัญหานี้ไปถามนักวิทยาศาสตร์และนักคิด
ทั่วโลกคำตอบที่ได้รับมีมากมายบางอย่างเราคงคิดไว้ในใจ
อยู่แล้วเช่นเครื่องพิมพ์ระเบิดปรมาณูคอมพิวเตอร์แต่มี
อีกหลายอย่างที่เราคงนึกไม่ถึงทั้งๆที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก
ลองคิดสักนิด...
คำตอบคือ‘ยางลบ’และ‘แว่นตา’
16 : 17
คนที่เสนอยางลบให้เหตุผลว่ายางลบช่วยให้เราสามารถ
ย้อนกลับไปแก้หรือขูดลบขีดฆ่าเพื่อจะได้ลองใหม่อีกครั้งถ้าไม่มี
ยางลบก็คงไม่มีสูตรหรือทฤษฎีวิทยาศาสตร์เพราะสูตรหรือ
ทฤษฎีเหล่านี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขไม่รู้จบ
ส่วนคนที่ยกนิ้วให้แก่แว่นตาบอกว่าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ช่วย
ให้มนุษย์ตระหนักว่าเราไม่จำต้องยอมจำนนต่อข้อจำกัดทาง
กายภาพของตนเองเสมอไปอุปสรรคดังกล่าวสามารถแก้ไขได้
เขาคงอยากจะพูดต่อว่าถ้าไม่มีแว่นตาก็คงไม่มีการผ่าตัดเปลี่ยน
อวัยวะหรือการรักษาด้วยการเปลี่ยนถ่ายยีน
ยางลบกับแว่นตาคงเป็นสิ่งจิ๊บจ๊อยมากในสายตาของ
คนทั่วไปแต่คุณูปการของมันนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากถึงแม้ว่า
เราอาจไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่ยกมาทั้งหมดแต่คงปฏิเสธไม่ได้
กับข้อสรุปที่ว่ามันเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษย์อย่างมากมาย
ในโลกที่สรรพสิ่งสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่นแทบไม่มี
อะไรเลยที่ไม่สำคัญแต่ละสิ่งสามารถส่งผลกระทบอย่างกว้างไกล
จนนำไปสู่เหตุการณ์สำคัญได้เพียงผีเสื้อกระพือปีกในซีกโลกหนึ่ง
มองเป็นก็เห็นสุข : รินใจ
ก็อาจส่งผลให้เกิดพายุในอีกซีกโลกหนึ่งได้เพราะฉะนั้นประโยค
ที่ว่า“เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว”จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริง
เสียทีเดียวนัก
ด้วยเหตุนี้เองเราแต่ละคนจึงมีความสำคัญกันทั้งนั้น
ถึงแม้จะไม่ใช่คนใหญ่คนโตมีอำนาจวาสนากุมชะตาชีวิตผู้คน
จำนวนมากหรือมีทรัพย์สินเงินทองมหาศาลก็มิพึงสำคัญตนว่า
เป็นแค่คนไร้ค่าประหนึ่งผงธุลี(จงอย่าลืมว่าธุลีก็มีความสำคัญ
มันสามารถทำให้คอมพิวเตอร์ป่วนได้ง่ายๆ)
เราอาจจะสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ไม่ได้แต่ชีวิตและ
การกระทำของเราแต่ละอย่างสามารถสร้างคุณูปการได้มากมาย
อย่างนึกไม่ถึงน้ำใจและรอยยิ้มที่เรามีให้แก่บางคนนั้นบางครั้ง
ประทับแน่นในใจของเขาไปชั่วชีวิตเงินที่ให้แก่คนแปลกหน้า
เราอาจไม่รู้เลยว่ามันได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขามากมายเพียงใด
ลองนึกทบทวนตัวเองเราอาจพบว่าในหลายฉากของ
ชีวิตที่ซาบซึ้งใจจนไม่รู้ลืมนั้นคนสำคัญบางคนได้เข้ามาและ
จากไปโดยเราไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามด้วยซ้ำแม้จะพานพบ
เพียงครั้งเดียวแต่บุคคลนิรนามนั้นกลับเป็นคนยิ่งใหญ่ในชีวิตเรา
18 : 19
กับคนที่ห่างไกลเรายังให้ความสำคัญเพียงนั้นนับประสาอะไรกับ
คนใกล้ชิดเช่นลูกหลานญาติพี่น้องหรือแม้แต่พ่อแม่เราย่อม
ไม่มี‘วันนี้’หากพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาในโลกนี้หรือ
จากไปเสียแน่ๆ
ใครที่คิดว่าชีวิตของตนนั้นไร้ค่าน่าจะมีโอกาสได้ดู
หนังเรื่องIt’s a Wonderful Lifeของแฟรงก์ คาปราผู้กำกับ
ชาวอเมริกัน
หนังเรื่องนี้พูดถึงนักธุรกิจเล็กๆคนหนึ่งซึ่งรู้สึกว่าชีวิต
ล้มเหลวมาตลอดไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไมจึงคิดฆ่าตัวตาย
แต่แล้วเทวดาก็มาช่วยเขาเทวดาไม่ได้มาช่วยฉุดเขาจากแม่น้ำ
แต่ช่วยด้วยการทำให้เขาเห็นว่าหากเขาไม่ได้เกิดมาบนโลกนี้
อะไรจะเกิดขึ้น
แล้วเขาก็พบคำตอบหลังจากได้ไปท่องโลกที่ปราศจาก
ตัวเขาว่าน้องเขาจะต้องตกน้ำตายคนขายยาในเมืองจะต้อง
ติดคุกหัวโตและเป็นบ้าและเมืองที่เขาอยู่จะต้องกลายเป็นนรก
ที่เต็มไปด้วยคนเร่ร่อนไร้บ้านและเอาเปรียบกัน
เรื่องนี้จบโดยตัวเขาเองตระหนักว่าชีวิตที่ผ่านมาของเขา
มองเป็นก็เห็นสุข : รินใจ
นั้นไม่ไร้ค่าเลยความมีน้ำใจของเขาแม้ดูเหมือนเล็กน้อยได้พลิกผัน
ชีวิตของผู้คนเป็นอันมากแม้แต่ธุรกิจให้กู้เงินสร้างบ้านซึ่งเขาทำ
อย่างไม่สู้มีกำไรก็ช่วยสร้างสรรค์เมืองให้น่าอยู่
หนังเรื่องนี้และชีวิตจริงบอกเราว่ามีสิ่งหนึ่งซึ่งช่วยให้
ชีวิตของเราแต่ละคนมีความสำคัญยิ่งต่อผู้คนมากมายทั้งที่รู้จัก
และไม่รู้จักสิ่งนั้นก็คือความรักความมีน้ำใจหรือเมตตา
เมตตาธรรมทำให้แต่ละชีวิตยิ่งใหญ่ได้ ก็เพราะสามารถ
บันดาลใจผู้คน และบันดาลโลกให้น่าอยู่นั่นเอง
20 : 21