mt research

53

Upload: prasit-chanarat

Post on 28-May-2015

3.021 views

Category:

Business


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: Mt research
Page 2: Mt research

คื�อ การศึ�กษาอย่�างเป็�นระบบ และ มี�

ระเบ�ย่บแบบแผน เพื่��อให้�ได้�มีาซึ่��งคื าตอบที่��มี�คืวามีถู%กต�องเชื่��อ

ถู�อได้� สำ าห้ร(บคื าถูามีว)จั(ย่ที่�� ก าห้นด้ไว� เพื่��อคืวามีร%�ให้มี�ซึ่��ง

ที่ าให้�เก)ด้คืวามีก�าวห้น�าที่าง ว)ชื่าการ และเก)ด้ป็ระโย่ชื่น,ใน

ที่างป็ฏิ)บ(ต) ด้�วย่กระบวนการที่างว)ที่ย่าศึาสำตร,

Page 3: Mt research

“ตถูตา” มี(นเป็�นเชื่�นน(.น

เองโว�ย่! (พื่/ที่ธที่าสำภิ)กขุ/)

Page 4: Mt research

-เชื่��อต�อๆก(นมีา (TRADITION)- เชื่��อผ%�มี�อ านาจั(AUTHORITY) - เชื่��อสำ(ญชื่าตญาณ(INTUITION)- ว)ธ�ลองผ)ด้ลองถู%ก(TRIAL / ERROR) - ว)ธ�การที่างว)ที่ย่าศึาสำตร,(SCIENTIFIC METHOD)

Page 5: Mt research

PROBLEMHYPOTH

ESISTEST (DATA COLLECTION)ANALYSIS OF RESULTSCONCLU

SION YES NO

Page 6: Mt research

๑. เพื่ราะเป็�นห้น�าที่��๒. เพื่��อคืวามีเป็�นเล)ศึที่างว)ชื่าการ๓. เพื่��อใชื่�ขุอต าแห้น�งที่างว)ชื่าการ๔. เพื่��อเป็�นราย่ได้�๕. เพื่��อให้�ได้�คืวามีร%�

Page 7: Mt research

การสำอน

ว)จั(ย่

บร)การ

Page 8: Mt research

แก(ป็;ญห้า

คืวามีร%� ให้มี�

การเร�ย่นร%�

Page 9: Mt research

1. ตามีว(ตถู/ป็ระสำงคื,/เป็<า

ห้มีาย่1.1 ว)จั(ย่พื่�.นฐาน(Basic Research)1. 2 ว)จั(ย่ป็ระย่/กต,(Applied Research)

Page 10: Mt research

2. ตามีล(กษณะขุองว)ธ�ว)จั(ย่2.1 การว)จั(ย่ภิ%มี)ห้ล(ง

(Historical)2.2 การว)จั(ย่คื�นห้าขุ�อมี%ล เบ�.องต�น (Exploratory)2.3 การว)จั(ย่เชื่)งพื่รรณา

(Descriptive)2.4 การว)จั(ย่เชื่)งว)เคืราะห้,(Analytical)

Page 11: Mt research

3. ตามีกระบวนการเก>บขุ�อมี%ล3.1 การว)จั(ย่แบบสำ(งเกต

(Observational) ก. Participatory Action Researchขุ. Non-Participatory Action Research

3.2 การว)จั(ย่แบบสำ ารวจั(Survey)3.3 การว)จั(ย่แบบที่ด้ลอง(Experimental)

Page 12: Mt research

4. ตามีว)ธ�การ ว)เคืราะห้,ขุ�อมี%ล และการ

อธ)บาย่ผล4.1 การว)จั(ย่เชื่)งคื/ณภิาพื่ (Qualitative)4.2 การว)จั(ย่เชื่)งป็ร)มีาณQuantitative)

Page 13: Mt research

5. ตามีว(ตถู/ป็ระสำงคื,/เป็<าห้มีาย่/ ผล5.1 ว)จั(ย่พื่�.นฐาน(Basic Research)5. 2 ว)จั(ย่ป็ระย่/กต,(Applied Research)

Page 14: Mt research

6. ตามีว)ธ�เก>บรวบรวมีขุ�อมี%ล1.การศึ�กษาย่�อนห้ล(ง(Retrospective Study)2. การศึ�กษาไป็ขุ�างห้น�า(Prospective Study)

Page 15: Mt research

CR

OSS

-S

EC

TIO

NA

L

STU

DY

PROSPECTIVE/COHORT

RETROSPECTIVE

RETROSPECTIVE - PROSPECTIVE

EXPERIMENTAL

Page 16: Mt research

ADVANTAGES:- KNOW INCIDENCE,

NATURAL HISTORY- LESS DATA BIAS- KNOW OTHER OUTCOMESDISADVAN

TAGES:- LARGE NUBER OF SUBJECTS- LONG FOLLOW-UP TIME- EXPENSIVE- DIFFICULT TO CONTROL EXTRANEOUS FACTORS- POSSIBLE BIAS IN OUTCOME ASSESSMENT.

Page 17: Mt research

ADVANTAGES:- CAN STUDY THE RARE

CONDITIONS- LESS EXPENSIVE, LESS ETHICAL PROBLEMS- NEED LESS SUBJECTS- INFORMATIONS ARE ALREADY AVAILABLE- CAN STUDY MANY EXPOSURES DISADVAN

TAGES:- CAN NOT ASSESS THE TRUE INCIDENCE- CAN NOT STUDY THE DISEASE MECHANISM - PROBLEM OF SELECTING CONTROL SUBJECTS AND EXTRANEOUS FACTORS.

Page 18: Mt research

7. ตามีล(กษณะขุองสำ)�งที่��ศึ�กษา7.1 ว)จั(ย่เอกสำาร(Literary Research)7.2 ว)จั(ย่คืล)น)ก(Clinical Research)7.3 ว)จั(ย่ที่างห้�องป็ฏิ)บ(ต) การ (Laboratory Research)

Page 19: Mt research

7.4 ว)จั(ย่ด้�วย่สำ(ตว, ที่ด้ลอง (Animal

Research)7.5 ว)จั(ย่ชื่/มีชื่น(Community Research)7.6 ว)จั(ย่เชื่)งป็ฏิ)บ(ต)การ(Operational Research)

Page 20: Mt research

8. ตามีคืวามีล�กซึ่�.งขุองกระบวนการ

a. Literature Surveyb. Experience Surveyc. Analysis of Insight-Stimulation : New Situation, Marginal, Transitional, Abnormal.

8.1 Exploratory Study

Page 21: Mt research

a. Cases, Situation

Studyb. Population (Whole or Sample Study)

8.2 Descriptive/Observational Study

Page 22: Mt research

a. Categorize on

theoretical,

practical, empirical grounds b. Generalize

8.3 Analytical, Correlational Study

Page 23: Mt research

a. “After-only” experimentb. “Before-After” experiment - Single group - One or more controls

8.4 Experimental Study

Page 24: Mt research

9. ตามีระด้(บขุองการคืวบคื/มี9.1 กรณ�ศึ�กษา(Case Study)9.2 ว)จั(ย่เอกสำาร(Documentary)9.3 การว)จั(ย่สำนามี(Field Study)9.4 การสำ ารวจั(Survey Study)9.5 ว)จั(ย่เชื่)งป็ฏิ)บ(ต) (Action Res)9.6 ว)จั(ย่เชื่)งที่ด้ลอง(Experimental)

Page 25: Mt research

10. ตามีสำาขุาว)ชื่าการที่��เก��ย่วขุ�อง10.1

Monodisciplinary 10.2 Interdisciplinary10.3 multidisciplinary

Page 26: Mt research

(VALIDITY OR ACCURACY)1 INTERNAL

VALIDITY. เป็�นคืวามีถู%กต�องขุองงานว)จั(ย่ในป็ระชื่ากรที่��น ามีา ศึ�กษา (อาจัจัะน าไป็ใชื่�ก(บกล/�มีอ��นได้� ห้ร�อ ไมี�ได้�)

2 EXTERNAL VALIDITY. เป็�นคืวามีถู%กต�องขุองงานว)จั(ย่ที่��สำามีารถูน าผลไป็ ใชื่�ได้�ที่(�วไป็(GENERALIZATION).

Page 27: Mt research
Page 28: Mt research

- คื�อคืวามีคืลาด้เคืล��อนขุอง ผลการว)จั(ย่ จัากสำ)�งที่��เก)ด้ขุ�.นจัร)งในป็ระชื่ากร

- แบ�งออกเป็�น 2 ป็ระเภิที่

2. RANDOM ERROR, BY CHANCE

1. SYSTEMATIC ERROR.

Page 29: Mt research

1. คืวามีคืลาด้เคืล��อนอย่�างเป็�นระบบ(SYSTEMATIC

ERROR) เป็�นคืวามี ผ)ด้พื่ลาด้ที่��เก)ด้ขุ�.นจัากอคืต)(BIAS) - มี�โอกาสำเก)ด้คืวามีแป็รป็รวนไป็ในที่)ศึที่างใด้ที่างห้น��งมีากกว�า- มี�โอกาสำเก)ด้ขุ�.นได้�เที่�าก(นในที่/กกล/�มีขุอง ป็ระชื่ากรและ- เก)ด้ขุ�.นได้�แที่บที่/กขุ(.นตอนขุองการว)จั(ย่.

Page 30: Mt research

เก)ด้ขุ�.นได้�บ�อย่มีาก แที่บที่/ก ขุ(.นตอนขุองการว)จั(ย่ โด้ย่

เฉพื่าะ ต(.งแต�PLANNING, DESIGN, POPULATION, CONDUCT, SAMPLING, TESTS, ANALYSIS, INTERPRETATION, PUBLICATION.

Page 31: Mt research

2. คืวามีคืลาด้เคืล��อนแบบสำ/�มี,สำ)�งรบกวน(RANDOM ERROR

OR NOISE) - มี�โอกาสำเก)ด้คืวามีแป็รป็รวนได้�เที่�าๆก(นที่/กที่)ศึที่าง- เก)ด้ได้�ในที่/ก

กล/�มีป็ระชื่ากร- เก)ด้ได้�ที่(.งในขุ(.นตอนการคื(ด้เล�อกต(วอย่�าง การว)จั(ย่ (SAMPLING

ERROR) และในขุ(.นตอนการเก>บขุ�อมี%ล- สำามีารถูป็ระเมี)นขุนาด้

ขุองคืวามีผ)ด้พื่ลาด้ได้�โด้ย่ว)ธ�การที่างสำถู)ต).

Page 32: Mt research

X. . . . . . . . . . . . … .. . . . .

RANDOM ERROR

X……….

คืวามีเที่��ย่ง ห้ร�อคืวามี แมี�นย่ า (PRECISION) คื�อ คืวามีสำามีารถูขุองการ

ว)จั(ย่ที่��ได้�ผลการศึ�กษาไกล�เคื�ย่งก(บคืวามีจัร)งมีากที่��สำ/ด้

SYSTEMATIC ERRORX. .. … .

… . ...

Page 33: Mt research

1. SELECTION OF TOPICS2. INFORMATION RETRIEVAL3. FORMULATION OF THEORY4. FORMULATION OF VARIABLES5. FORMULATION OF HYPOTHESIS 6. RESEARCH DESIGN, PROTOCOL

Page 34: Mt research

7. POPULATION, SAMPLING 8. INSTRUMENTS, PROCEDURE 9. PILOT STUDY10. REVISION OF RESEARCH PLAN 11. TESTING, DATA COLLECTION12. DATA MANAGEMENT

AND PROTOCOL

Page 35: Mt research

13. DATA ANALYSIS, STATISTICS.14. INTERPRETATION, CONCLUSION. 15. PRESENTATION, PUBLICATION.

Page 36: Mt research

๑. ที่(นสำมี(ย่ เห้มีาะก(บสำถูานะการณ,๒. สำามีารถูน าไป็ใชื่�ได้�ที่(นที่�๓. มี�ป็ระโย่ชื่น,ต�อกล/�มีป็ระชื่ากรที่��ก าล(งต�อง การคืวามีชื่�วย่เห้ล�อ๔. ป็ร(บป็ร/งเคืร��องมี�อ ว)ธ�

การ ว)เคืราะห้,ขุ�อ เที่>จัจัร)ง ที่ าให้�น าไป็ใชื่�ป็ระโย่ชื่น,ได้�ด้�

Page 37: Mt research

๑. มี�คืวามีสำงสำ(ย่๒. มี�ว)จัารณญาณ๓. มี�ใจักว�าง๔. คืวามีคื)ด้ร)เร)�มี สำร�างสำรรคื,๕. มี�คืวามีซึ่��อสำ(ตย่,๖. ขุย่(นห้มี(�นเพื่�ย่ร๗. มี�คืวามีสำ/ขุก(บการที่ างาน.

Page 38: Mt research

๑. มี�ศึร(ที่ธาที่��จัะที่ างานว)จั(ย่๒. มี�คืวามีว)ร)ย่ะ อ/ตสำาห้ะ๓. มี�ผ%�ร�วมีงานที่��ด้�๔. การสำน(บสำน/นจัากผ%�บ(งคื(บบ(ญชื่า๕. ชื่�วงจั(งห้วะเวลา ที่�� เห้มีาะสำมีก(บแผนงาน

Page 39: Mt research

A. ป็;จัจั(ย่ที่��กระต/�นให้�เก)ด้ แนวคืวามีคื)ด้เก��ย่วก(บ

RESEARCH QUESTION B. แห้ล�งที่��มีาขุองRESEARCH QUESTION.

Page 40: Mt research

1. ป็รากฏิการณ,(PHENOMENA)2. คืวามีสำนใจัอย่ากร%�(CURIOSITY) 3. แนวคืวามีคื)ด้ตามีที่ฤษฎี�(THEORETICAL CONCEPT)4. อ/ด้มีการณ,(IDEOLOGY)

Page 41: Mt research

1. คืวามีสำนใจัสำ�วนต(ว2. ขุ�อมี%ลขุ�าวสำารจัากผ%�มี�ป็ระสำบการณ,3. สำ)�งต�พื่)มีพื่,4. การป็ระชื่/มี, สำ(มีมีนา

Page 42: Mt research

5. ผลกระที่บจัากการเป็ล��ย่นแป็ลงที่าง สำ(งคืมี และ เที่คืโนโลย่�6. ผลจัากการป็ฏิ)บ(ต)งาน7. ผ%�ให้�ที่/นว)จั(ย่

Page 43: Mt research

จัรรย่าบรรณ ห้มีาย่ถู�ง“ ห้ล(กคืวามีป็ระพื่ฤต)อ(นเห้มีาะสำมี

แสำด้งถู�งคื/ณธรรมี และ จัร)ย่ธรรมีใน การป็ระกอบอาชื่�พื่ ที่��แต�ละสำาขุาว)ชื่า

ชื่�พื่น(.นๆป็ระมีวลขุ�.นไว�เป็�นห้ล(กให้�สำมีาชื่)ก

ป็ฏิ)บ(ต) เพื่��อร(กษาชื่��อเสำ�ย่งและสำ�งเสำร)มีเก�ย่รต)คื/ณขุองว)ชื่าชื่�พื่ขุองตน

Page 44: Mt research

….การใชื่�มีน/ษย่,เป็�นเคืร��องที่ด้ลอง การ

ป็ฏิ)บ(ต)การใด้ๆ ที่�� เก��ย่วขุ�องด้�านสำ/ขุภิาพื่

และโรคืภิ(ย่ไขุ�เจั>บที่��สำ(งคืมีย่(งไมี�ร(บรอง.

Page 45: Mt research

๑. ด้�านมีน/ษย่ธรรมี - ผ%�ป็Dวย่ไมี�ที่ราบขุ�อเที่>จัจัร)ง - ผ%�ป็Dวย่ที่/กขุ,ที่รมีาน

Page 46: Mt research

๒. ด้�านมีน/ษย่สำ(มีพื่(นธ,๓. ด้�านเศึรษฐก)จัขุองผ%�

ป็Dวย่ คืรอบคืร(ว และสำ(งคืมี๔. ด้�านธรรมีชื่าต)

Page 47: Mt research

๑. ป็ระเมี)นป็ระโย่ชื่น, และโที่ษที่��อาจัได้�ร(บ๒. การคื/�มีคืรองผ%�ถู%ก

ที่ด้ลอง จัากอ(นตราย่ ที่��อาจัจัะเก)ด้ขุ�.น๓. จัร)ย่ธรรมีขุองการเขุ�ย่นราย่งาน.

Page 48: Mt research

๑. ๑ มี�ห้ล(กฐานที่างว)ที่ย่าศึาสำตร,เพื่�ย่งพื่อ ห้ร�อไมี� ว�า “ Research Question” เห้มีาะสำมีก(บ สำถูานการณ,๑. ๒ มี�คืวามีจั าเป็�นต�องใชื่�มีน/ษย่,ในการ ที่ด้ลองห้ร�อไมี�?๑. ๓ โที่ษที่��อาจัจัะเก)ด้จัาก การว)จั(ย่ มี�?

Page 49: Mt research

๑. ๔ ป็ระโย่ชื่น,ที่��จัะได้�จัาก การว)จั(ย่ มี�?

๑. ๕ ผ%�ถู%กที่ด้ลองสำามีารถูให้�การย่)นย่อมี โด้ย่ร%�ต(ว และเต>มีใจัห้ร�อไมี�?๑. ๖ กรรมีการจัร)ย่ธรรมีเห้>นด้�วย่ห้ร�อไมี�?

Page 50: Mt research

๒. ๑ อธ)บาย่ป็ระโย่ชื่น, และ โที่ษ ให้�ผ%�ถู%ก

ที่ด้ลองที่ราบ๒. ๒ ย่)นย่อมีเป็�นลาย่ล(กษณ,อ(กษร๒. ๓ ร(กษาคืวามีล(บขุองผ%�ป็Dวย่๒. ๔ ผ%�ว)จั(ย่มี�คืวามีสำามีารถู

Page 51: Mt research
Page 52: Mt research

๑. ซึ่��อสำ(ตย่, และมี�คื/ณธรรมีในที่างว)ชื่าการ และการจั(ด้การ๒. ตระห้น(กถู�งพื่(นธกรณ� ในการที่ างาน ว)จั(ย่๓. ต�องมี�พื่�.นฐานคืวามีร%�ในสำาขุาว)ชื่าการที่�� ที่ าว)จั(ย่๔. ต�องมี�คืวามีร(บผ)ด้ชื่อบต�อสำ)�งที่��ศึ�กษา

Page 53: Mt research

๕. ต�องเคืารพื่ศึ(กด้)Eศึร�และสำ)ที่ธ)ขุองมีน/ษย่, ที่��ใชื่(เป็�นต(วอย่�างในการศึ�กษาว)จั(ย่๖. ต�องมี�อ)สำระที่างคืวามี คื)ด้ ป็ราศึจัากอคืต) ในที่/กขุ(.นตอนขุองการที่ าว)จั(ย่๗. น าผลงานไป็ใชื่�ป็ระโย่ชื่น,ในที่างที่��ชื่อบ๘. เคืารพื่คืวามีเห้>นที่างว)ชื่าการขุองผ%�อ��น๙. มี�คืวามีร(บผ)ด้ชื่อบต�อสำ(งคืมีที่/กระด้(บ.