pat1 54-03+key
TRANSCRIPT
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
โรงเรียนแหงหนึ่งมีนักเรียนจํานวน 840 คน พบวามีนักเรียนจํานวน 120 คน ไมเลนกีฬาเลย นอกนั้นเลนกีฬาอยางนอยหนึ่งประเภท คือ วอลเลยบอล
บาสเกตบอล ฟุตบอล จากการสํารวจเฉพาะกลุมนักเรียน
ท่ีเลนกีฬา พบวาม ี
นักเรียนจํานวน 630 คนเลนกีฬาเพียงประเภทเดียวเทานั้น
มีนักเรียน 30 คนเลนฟุตบอลและวอลเลยบอล มีนักเรียน 50 คนเลนวอลเลยบอลและบาสเกตบอล มีนักเรียน 40 คนเลนฟุตบอลและบาสเกตบอล มีนักเรียนไมเลนฟุตบอลจํานวน 250 คน จงหาวามีนักเรียนกี่คนท่ีเลนฟุตบอลเพียงอยางเดียว.
1. 415 คน
2. ퟒퟐퟓ คน
3. ퟒퟑퟓ คน
4. ퟒퟒퟓ คน
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 26 − เซต
ถา 퐴, 퐵 และ 퐶 เปนเซตจํากัด ซึ่ง 푃(퐴) = log√2 4
푃(퐵)) = √5 และ 푛 푃(퐴 ∪ 퐵) = 3
โดย 푃(푋) แทนเพาเวอรเซตของเซต 푋
ใหหาคาของ 푛(푃(퐴) ∪ 푃(퐵))…
1. 14
2. 16
3. 18
4. 20
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 27 − เอกซโพเนนเชียลและลอการิทึม
กําหนดให 푟 = {(푥, 푦) ∈ 푅 × 푅 ∣ 25푦 + 16푥 + 2 = 10푦 + 8푥}
เมื่อ 푅 แทนเซตของจํานวนจริง พิจารณาขอความตอไปนี ้(ก) 푟 ไมเปนฟงกชัน
(ข) 퐷 ≠ 푅
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง.
1. (ก)ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก)ถูก และ (ข) ผิด 3. (ก)ผิด และ (ข) ถูก 4. (ก)ผิด และ (ข) ผิด 푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 3 − ความสัมพันธและฟงกชัน กําหนดให 푅 แทนเซตของจํานวนจริง
퐴 = 푥 ∈ 푅∣∣∣∣ 1
2 <18
퐵 = {푥 ∈ 푅 ∣푥 − 4푥 + 3
푥 + 1 ≥ 0}
แลว 퐵 ∩ 퐴 เปนสับเซตในขอใดตอไปนี ้. .
1. { 푥 ∈ 푅 ∣ −1 ≤ 푥 < 0 }
2. { 푥 ∈ 푅 ∣ −1 ≤ 푥 < 2 }
3. { 푥 ∈ 푅 ∣ 0 ≤ 푥 < 1 }
4. {푥 ∈ 푅 ∣ 0 ≤ 푥 < 3}
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 11 − เอกซโพเนนเชียล − จํานวนจริง
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
กําหนดให 퐼 แทนเซตของจํานวนเต็ม และให
푓(푥) =푥 − 2푥 + 푎 푥 − 26
푥 + 푏 푥 − 40 เมื่อ 푎, 푏 ∈ 퐼
ถา 퐴 = {(푎, 푏) ∈ 퐼 × 퐼 ∣ 푓(2) = 0}
และ 퐵 = {(푎, 푏) ∈ 퐼 × 퐼 ∣ √푎2 − 2푎푏 + 푏2 < 4}
แลว จํานวนสมาชิกของเซต 퐴 ∩ 퐵 เทากับเทาใด …
1. 10 2. 11 3. 12 4. 14
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 28 − ความสัมพันธ กําหนดให 푎 > tan 60° และ 퐴(푎, 1) , 퐵(7,7) และ
퐶(−3,5) เปนจุดยอดของรูปสามเหล่ียมท่ีมีมุม 퐴 เปนมุมฉาก
ให 퐿 เปนเสนตรงท่ีผานจุด 퐴 และจุด 퐵
จงหาจํานวนจริงบวก 푘 ท่ีนอยท่ีสุดท่ีทําใหพาราโบลา
푘푦 = 푥 + 2푘 มีจุดรวมกับเสนตรง 퐿 เพียงจุดเดียว.
1. 889
2. 899
3. 929
4. 979
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 34 − แคลคูลัส
{푎 , 푎 , 푎 } เปนสับเซตของเซต {1,2,3, ⋯ ,15}
ท้ังหมดท่ี สอดคลองกับ 푎1 ≤ 푎2 − 3푎3 และ 푎3 ≥ 푎2 + 3
แลว {푎1, 푎2, 푎3} มีท้ังหมดกี่เซต..
1. 160
2. 165
3. 170
4. 175
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 45 − เซต
กําหนดให 푎, 푏, 푐 เปนจํานวนจริง
นิยาม 푥 ⋆ 푦 = 푎푥 + 푏푦 + 푐 สําหรับจํานวนจริง 푥, 푦 ใดๆ
ถา 1 ⋆ 2 = 4, 2 ⋆ 3 = 6 และ มีจํานวนจริง 푑 < 0
โดยท่ี 푥 ⋆ 푑 = 푥 สําหรับทุกจํานวนจริง 푥
แลวคาของ 푎 + 2푏 + 3푐 + 4푑 เทากับเทาใด. .
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 49 − จํานวนจริง
ถา 푑 เปนจํานวนเต็มบวกท่ีมีคามากกวา 1 และ จํานวน 4218,
3132 และ 2589 หารดวย 푑 มีเศษเหลือเทากัน คือ 푟
แลว 푑 + 푟 เทากับเทาใด.
1. 960
2. 965
3. 970
4. 975
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 31 − ทฤษฎีจํานวน
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
ถา 푆 เปนผลบวกของจํานวนเต็มบวก 4 หลักท้ังหมดท่ีสรางมาจาก
เลขโดด 2,3,4 และ 5 โดยท่ีตัวเลขในแตละหลักไมซ้ํากัน แลวเศษเหลือจากการหาร 푆 ดวย 9 เทากับเทาใด. .
1. 1 2. 2 3. 3 4. 4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 46 − ทฤษฎีจํานวน
กําหนดให 푎, 푏 ∈ {0,1,2, ⋯ ,9}
และ 6푎3, 8푏8 เปนจํานวนสามหลัก
ถา 8푏8 − 6푎3 = 155 และ 8푏8 หารดวย 9 ลงตัว
แลว 푎 + 푏 เทากับเทาใด … .
1. 6 2. 7 3. 8 4. 9
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 50 − ทฤษฎีจํานวน
ให 푝, 푞 และ 푟 เปนประพจนท่ี
푝 → (푞 → 푟), 푟 ∨∼ 푝 และ 푝 มีคาความจริงเปนจริง
ประพจนในขอใดตอไปนี้มีคาความจริงเปนเท็จ …
1. [푝 → (푞 →∼ 푟)] ↔∼ (푞 ∧ 푟)
2. [푝 → (푟 → 푞)] ↔ [(푟 → 푝) → 푞]
3. [푝 →∼ (푟 ∧ 푞)] ↔ [푟 → (푝 ∧ 푞)]
4. [푝 ∨∼ (푞 → 푟)] ↔ [푟 → (푝 → 푞)]
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 1 − ตรรกศาสตร
กําหนดเอกภพสัมพัทธ คือชวงเปด 휋
4,휋
2
พิจารณาขอความตอไปนี ้(ก)คาความจริงของ
∃푥[(푐표푠 푥) < (푠푖푛 푥) ] เปนเท็จ
(ข)คาความจริงของ
∀푥[(푐표푠 푥) < (푠푖푛 푥) ] เปนจริง
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง…
1. (ก)ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก)ถูก และ (ข) ผิด 3. (ก)ผิด และ (ข) ถูก 4. (ก)ผิด และ (ข) ผิด
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 2 − ตรรกศาสตร ใหเสนตรง y − x + 2 = 0 ตัดกับวงกลม
x + y − x + y − 8 = 0
ท่ีจุด A และจุด B ถา (a, b) เปนจุดโฟกัสของพาราโบลา
ซึ่งมีเสนตรง y = 1 เปนแกนของพาราโบลาและพาราโบลานี ้ผานจุด A และจุด B แลว a + b เทากับขอใดตอไปนี้ … 1. 2
2. 2.5
3. 3
4. 3.5
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 8 − ภาคตัดกรวย
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
พิจารณาขอความตอไปนี ้(ก)ไฮเพอรโบลา 4x − 25y − 24x + 100y − 164 = 0
มีจุดยอดท่ีจุดยอดของวงร ี
4푥 + 25푦 − 24x − 100y + 36 = 0
และมีแกนสังยุคยาวเทากับแกนโทของวงร ี
(ข)วงรี 4푥 + 25푦 − 24x − 100y + 36 = 0
มีจุดยอดจุดหนึ่งอยูบนพาราโบลา 푦2 − 4y − 4x − 4 = 0
ขอใดตอไปนี้ถูกตอง.
1. (ก)ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก)ถูก และ (ข) ผิด 3. (ก)ผิด และ (ข) ถูก 4. (ก)ผิด และ (ข) ผิด
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 9 − ภาคตัดกรวย
กําหนดให 푟 = {(푥, 푦) ∈ 푅 × 푅 ∣ 25푦 + 16푥 + 2 = 10푦 + 8푥} เมื่อ R แทนเซตของจํานวนจริง พิจารณาขอความตอไปนี ้(ก) r ไมเปนฟงกชัน (ข) D ≠ R ขอใดตอไปนี้ถูกตอง. 1. (ก)ถูก และ (ข) ถูก 2. (ก)ถูก และ (ข) ผิด 3. (ก)ผิด และ (ข) ถูก 4. (ก)ผิด และ (ข) ผิด
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 3 − ความสัมพันธและฟงกชัน
ให 푓: R → R เปนฟงกชันท่ีสอดคลองกับสมการ
푓1 − 푥1 + 푥 = 푥 สําหรับทุกจํานวนจริงท่ี 푥 ≠ −1
โดยท่ี R แทนเซตของจํานวนจริง ขอใดตอไปนี้ถูกตอง … .
1. 푓 푓(푥) = −푥 สําหรับทุกจํานวนจริง x
2. 푓(−푥) = 푓1 + 푥1 − 푥 สําหรับทุกจํานวนจริง 푥 ≠ 1
3. 푓1푥 = 푓(푥) สําหรับทุกจํานวนจริง 푥 ≠ 0
4. 푓(−2 − 푥) = −2 − 푓(푥)
สําหรับทุกจํานวนจริง 푥 ≠ −1
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 5 − ความสัมพันธและฟงกชัน
กําหนดให 푅 แทนเซตของจํานวนจริง
ให 푔: 푅 → 푅 เปนฟงกชันกําหนดโดย
푔(푥) = 14푥 + 5 เมื่อ 푥 ≠ −54
ถา 푓: 푅 → 푅 เปนฟงกชันท่ี (푓 ∘ 푔)(푥) = 푥
สําหรับทุกจํานวนจริง x แลว 푓′′(12) เทากับขอใดตอไปนี้ … .
1. − 12
2. 12
3. − 4
4. 4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 20 − แคลคูลัส
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
ให R แทนเซตของจํานวนจริง ถา 푓: 푅 → 푅 เปนฟงกชัน
โดยท่ี (1 − 푥)푓(1 − 푥) + 푓(푥) = 1 − 푥2
เมื่อ x ∈ R แลวคาของ 푥 푥 + 푓(푥)50
푥=30
เทากับเทาใด.
1. 840
2. 850
3. 860
4. 870
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 41 − ลําดับอนุกรม
กําหนดให f(x, y) = 2x − y + 2 ภายใตเงื่อนไขตอไปนี ้ x + 2y ≥ 8 , 5x + 2y ≥ 20, x + 4y ≤ 22,
x ≥ 1 , 1 ≤ y ≤ 8
แลวผลคูณของคาสูงสุดและคาต่ําสุดของฟงกชันมีคาเทาไร.
1. 37
2. 38
3. 40
4. 43
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 38 − กําหนดการเชิงเสน
ให 퐴퐵퐶 เปนรูปสามเหล่ียมโดยท่ี sin 퐴 = 35 และ
푐표 푠 퐵 =5
13 คาของ 푐표 푠 퐶 เทากับขอใดตอไปนี้ .
1. 1665
2. −1665
3. 4865
4. −3365
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 6 − ตรีโกณ
คาของ 푐표푡(푎푟푐푐표푡2 + 푎푟푐푐표푡3 + 푎푟푐푐표푡5 + 푎푟푐푐표푡15)
เทากับขอใดตอไปนี ้ … .
1 4731
2. 3147
3. 4727
4. 2747
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 7
คาของ
log (1 + 푐표 푡 46 °) + log (1 + 푐표 푡 47 °) + ⋯ + log (1 + 푐표푡 89°)
เทากับเทาใด.
1. 22 2. 23 3. 24 4. 25
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 30 − ตรีโกณ
กําหนดให 퐴퐵퐶 เปนรูปสามเหล่ียมใดๆ มีความยาวตรงขามมุม 퐴, 퐵 และ 퐶 เปน 푎, 푏 และ 푐 หนวย
ตามลําดับ ถา 푎2 + 푏2 = 25푐2
แลวคาของ 4(푡푎 푛 퐶)(푐표 푡 퐴 + 푐표 푡 퐵) เทากับเทาใด. .
1. 12
2. 13
3. 14
4. 15
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 32 − ตรีโกณ
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
ให 퐴 เปนเซตคําตอบของ 푐표푠 푥 = 푐표푠 푥
4
จํานวนสมาชิกของ 퐴 ∩ (0,32휋) เทากับเทาใด.
1. 27 2. 29 3. 31 4. 33
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 33 − ตรีโกณ
ถา 퐴 แทนเซตคําตอบของ
4( log 푥 − 1) + log 푥 + 6 > 0
แลวเซต 퐴 เปนสับเซตของชวงใดตอไปนี้ … .
1. (0,5)
2. (1,6)
3. (2,7)
4. (3,27)
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 10
ให 푅 แทนเซตของจํานวนจริง
퐴 = 푥 ∈ 푅∣∣∣∣ 1
2 <18
퐵 = 푥 ∈ 푅∣∣∣∣ 푥 − 4푥 + 3
푥 + 1 ≥ 0
퐵 ∩ 퐴 เปนสับเซตในขอใดตอไปนี้. .
1. { 푥 ∈ 푅 ∣ −1 ≤ 푥 < 0 }
2. { 푥 ∈ 푅 ∣ −1 ≤ 푥 < 2 }
3. { 푥 ∈ 푅 ∣ 0 ≤ 푥 < 1 }
4. {푥 ∈ 푅 ∣ 0 ≤ 푥 < 3}
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 11 − เอกซโพเนนเชียล อสมการ
ถา 퐴, 퐵 และ 퐶 เปนเซตจํากัด ซึ่ง
푛 푃(퐴) = log√ 4 , 푛 푃(퐵) = √5
และ 푛 푃(퐴 ∪ 퐵) = 32 log9 32
โดย 푃(푋) แทนเพาเวอรเซตของเซต 푋
แลวคาของ 푛 푃(퐴) ∪ 푃(퐵) มีคาเทาไร. .
1. 16
2. 18
3. 20
4. 22
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 27 − เอกซโพเนนเชียล
ให 푅 แทนเซตของจํานวนจริง และถา
퐴 = 푥 ∈ 푅 ∣∣∣ 3 −
985
(15 ) − 3(5 ) = 0 และ
퐵 = { 푥 ∈ 푅 ∣ log 5 + 125 = log 30 +1
2푥 }
แลว จํานวนสมาชิกของเซต 퐴 ∪ 퐵퐴 ∪ 퐵 เทากับเทาใด …
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 29 − เอกซโพเนนเชียล
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
กําหนดให 푥 เปนจํานวนเต็มและ
퐴 = 2푥 −1푥 −푥 เปนเมทริกซท่ีม ี푑푒푡퐴 = −3
ถา 퐵 เปนเมทริกซมีมิต ิ2 × 2 โดยท่ี 퐵퐴−1 + 퐵퐴 + 퐼 = 3퐼
เมื่อ 퐼 เปนเมทริกซเอกลักษณการคูณมิต ิ2 × 2
แลวคาของ 푑푒푡퐵 อยูในชวงใดตอไปนี.้ .
1. [1,2]
2. [−1,0]
3. [0,1]
4. [−2, −1]
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 12 − เมทริกซ
กําหนดให 푢⃗ และ 푣⃗ เปนเวกเตอรใดๆ โดยท่ี |푢⃗ | = 1, |푣⃗ | = 3 และ 푢⃗ ทํามุม 60° กับ 푣⃗
คาของ |4푢⃗ − 3푣⃗|
|푢⃗ + 푣⃗| เทากับขอใดตอไปนี้ …
1. 1319
2. 137
3. 6113
4. 7
19
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 15 − เวกเตอร
รูปสามเหล่ียม 퐴퐵퐶 มีจุดยอดเปน 퐴(푎, 푏), 퐵(4, −6) และ 퐶(1, −4) ถา 푃 เปนจุดบนดาน 퐴퐵ซึ่งอยูหางจากจุด 퐵 เทากับ
0.4 ของระยะระหวาง 퐴 และ 퐵 และเวกเตอร 퐶푃⃗ = 횤⃗ − 2횥⃗
แลว 푏 − 푎 เทากับเทาใด.
1. 5
2. 6
3. 7
4. 8
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 36 − เวกเตอร
กําหนดให 푎, 푏 และ 푧 เปนจํานวนเชิงซอน โดยท่ี |푎| ≠ |푏|, |푎| ≠ 1 และ |푏| ≠ 1 ถา
|푎푧 − 푏| = |푏푧 − 푎|
แลว |푧| เทากับขอใดตอไปนี.้ 1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 13 − จํานวนเชิงซอน
ถา 푥 − 1 − 푖 เปนตัวประกอบของพหุนาม
푃(푥) = 푥 + 푎푥 + 4푥 + 푏 เมื่อ 푎 และ 푏 เปนจํานวนจริง
แลวคาของ 푎2 + 푏2 เทากับขอใดตอไปนี ้. .
1. 17
2. 13
3. 8
4. 5
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 14 − จํานวนเชิงซอน
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
กําหนดให 푧1 และ 푧2 เปนจํานวนเชิงซอน โดยท่ี
|푧 | = |푧 + 푧 | = 2 และ |푧 − 푧 | = 2√2
คาของ |4√2 푧2 | − |2푧1|
|푧1푧2 + 푧1푧2|
เทากับเทาใด (푧 แทนสังคยุค(푐표푛푗푢푔푎푡푒)ของ 푧). .
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 35 − จํานวนเชิงซอน
กําหนดให {푎푛} เปนลําดับของจํานวนจริง โดยท่ี
푎 = 푛 − 푎 สําหรับ 푛 = 1,2,3, ⋯
คาของ 푎1 ท่ีทําให 푎101 = 5075 เทากับเทาใด. .
1. 50
2. 25
3. 1
4. 0
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 16 − ลําดับ อนุกรม
ถาพจนท่ี 10, 11, 12 และพจนท่ี 13 ของลําดับเลขคณิต คือ 2푎 + 1,2푏 − 1,3푏 − 푎 และ 푎 + 3푏
เมื่อ 푎 และ 푏 เปนจํานวนจริงพจนท่ี 1008 ของลําดับเลขคณิตนี ้เทากับขอใดตอไปนี.้ 1. 3,997
2. 3,999
3. 4,001
4. 4,003
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 17 − ลําดับ อนุกรม
ให 푎, 푏, 푐 เปนจํานวนจริง โดยท่ี 3푎, 4푏, 5푐 เปนลําดับเรขาคณิต
และ 1
푎,
1
푏,
1
푐 เปนลําดับเลขคณิต
คาของ 푎
푐 +
푐
푎 เทากับเทาใด.
1. 3415
2. 3715
3. 1534
4. 1537
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 39 − ลําดับ อนุกรม
กําหนดให {푎푛} เปนลําดับของจํานวนจริง โดยท่ี 푎1 = 1และ
푎 + 1 ≤ 푎 และ 푎 ≤ 푎 + 5
สําหรับ 푛 = 1,2,3, ⋯ แลวคาของ
lim→
1푛
(푎 + 6) เทากับเทาใด. .
1. 1
2. 2
3. 3
4. 4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 40 − ลิมิต ลําดับ อนุกรม
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
กําหนดให 퐼 แทนเซตของจํานวนเต็ม ถา 푓: 퐼 → 퐼 เปนฟงกชันท่ีมีสมบัติดังนี ้
1) 푓(1) = 1
2) 푓(2푥) = 4푓(푥) + 6
3) 푓(푥 + 2) = 푓(푥) + 12푥 + 12
แลวคาของ 푓(7) + 푓(8)푓(7) + 푓(8) เทากับเทาใด.
1. 335
2. 336
3. 337
4. 338
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 48 − ฟงกชัน
คาของ lim푥→0−
√푥3 + 4푥2 + 2푥
푥2 มีคาเทาไร.
1. − 14
2. 14
3. − 1
4. 1
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 18 − ลิมิต กําหนดให 푓 เปนฟงกชันพหุนามท่ีมี 푓′′(푥) = 푎푥 + 푏
เมื่อ 푎 และ 푏 เปนจํานวนจริง ถา 푓(0) = 3
และกราฟของ 푓 มีจุดต่ําสุดสัมพัทธท่ี (1, −5)
แลว 2푎 + 3푏 เทากับขอใดตอไปนี้ … .
1. − 12 2. 20 3. 42 4. 48
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 19 − แคลคูลัส
กําหนดให 푅 แทนเซตของจํานวนจริง ถา푓: 푅 → 푅
และ 푔: 푅 → 푅 เปนฟงกชันท่ีหาอนุพันธไดทุก 푥 ∈ 푅 โดยท่ี
푔(푥) = 푥 − 3푥 + 4,
(푔 ∘ 푓)(푥) = 푥 + 5푥 − 3푥 + 푥 − 3푥 + 4
และ 푓(0) = 0
คาของ (푓′ ∘ 푔′)3
2+ (푔′ ∘ 푓′)(0) มีคาเทาไร. .
1. − 1
2. 0
3. 1
4. 2
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 42 − แคลคูลัส
ใหเสนโคง 푦 = 푓(푥) สัมผัสกับเสนตรง 3푥 − 푦 + 4 = 0
ท่ีจุด (1,3) และ 푓′′(푥)푑푥 = −53
1
ถา 푔(푥) = √푥 + 1푓(푥)และ 푔′(3) = 0
แลว 푓(3) เทากับเทาใด …
1. 12
2. 14
3. 16
4. 18
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 43 − แคลคูลัส
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
กําหนดให
푓(푥) =푥 − 5
√4푥 + 5 − √3푥 + 10 , 푥 ≠ 5
푎 , 푥 = 5
โดยท่ี 푎 เปนจํานวนจริง
ถา 푓 เปนฟงกชันตอเนื่องท่ีจุด 푥 = 5 แลว 푎 เทากับเทาใด.
1. 10
2. 11
3. 12
4. 16 푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 44 − ลิมิตและความตอเนื่อง
ในการโยนเหรียญบาทเท่ียงตรงทีทาสีขาวและสีดําหนาละสี จํานวน 10 ครั้ง ความนาจะเปนท่ีไดสีขาวอยางนอย 2 ครั้งติดกัน
จะมีคาเทากับขอใดตอไปนี ้ … .
1. 193512
2. 314512
3. 9
64
4. 5564
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 21 − ความนาจะเปน แจกขนม 5 ชนิด ใหเด็ก 4 คน คนละไมเกิน 2 ชนิด ความนาจะเปนท่ีนองปนซึ่งเปนหนึ่งในเด็กส่ีคนนั้น ไมไดรับขนมแจกเลยเทากับขอใดตอไปนี้. 1. 0.15 2. 0.2 3. 0.4 4. 0.6
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 22 − ความนาจะเปน
ในการสอบวิชาภาษาไทยคะแนนเต็ม 60 คะแนน มีนักเรียน เขาสอบ 30 คน นายเอเปนนักเรียนคนหนึ่งท่ีเขาสอบในครั้งนี ้ นายเอ สอบได 53 คะแนนและมีจํานวนนักเรียนท่ีมีคะแนนสอบ นอยกวา 53 คะแนนอยู 27 คน ถามีการจัดกลุมคะแนนสอบ
เปนชวงคะแนนโดยมีอันตรภาคชั้นกวางเทาๆกัน คะแนนสอบของนายเอ อยูในชวงคะแนน 51 − 60 จํานวนนักเรียนท่ีสอบไดคะแนนในชวงคะแนน 51 − 60 นี้ มีท้ังหมดกี่คน. .
1. 3
2. 4
3. 5
4. 9
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 23 − สถิต ิกําหนดตารางแสดงพ้ืนท่ีใตโคงปรกติมาตรฐาน
ท่ีอยูระหวาง 0 ถึง 푧
푧 1.14 1.24 1.34 1.44
พ้ืนท่ี 0.373 0.392 0.410 0.425
ความสูงของนักเรียน 2 กลุม มีการแจกแจงปรกต ิดังนี ้
กลุม คาเฉล่ียเลขคณิต สวนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
นักเรียนหญิง 159.5 เซนติเมตร 4 เซนติเมตร
นักเรียนชาย 171.06 เซนติเมตร 5 เซนติเมตร
ถานักเรียนหญิงคนหนึ่งมีความสูงตรงกับเปอรเซ็นไทลท่ี 91 ของกลุมนักเรียนหญิงนี ้ แลวจํานวนนักเรียนชายท่ีมีความสูง นอยกวาความสูงของนักเรียนหญิงคนนี ้คิดเปนรอยละเทาใร …
1. 12.7
2. 11.4
3. 10.8 4. 9.4
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 24 − สถิต ิ
เอกสารนี้พิมพและเรียบเรียงโดย อ.สุทธิ คุณวัฒนานนท เพื่อประโยชนแกนักเรียนทั่วไป
บริษัทผลิตพัดลมตองการรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑของบริษัท
โดยจะเปล่ียนเปนพัดลมใหมถาตัวเดิมชํารุด บริษัทจะรับประกัน
สินคาไมเกิน 4.1% ของจํานวนท่ีผลิต พัดลมมีอายุใชงานเฉล่ีย
1500ชั่วโมง มีสัมประสิทธิ์ของความแปรผันเทากับ 0.20 ถาคาดวาตามปรกติคนจะใชพัดลมวันละ 3 ชั่วโมง บริษัทนี้ควร กําหนดเวลารับประกันมากท่ีสุดกี่วัน … .
กําหนดตารางแสดงพ้ืนท่ีใตโคงปรกติมาตรฐานท่ีอยูระหวาง 0 ถึง 푧
푧 1.34 1.44 1.54 1.74 1.84
พ้ืนท่ี 0.410 0.425 0.438 0.459 0.467
1. 362 วัน
2. 352 วัน
3. 346 วัน
4. 326 วัน
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 25 − สถิต ิ
ขอมูลความสูง(เซนติเมตร)และน้ําหนัก(กิโลกรัม) ของนักเรียนชาย 4 คน ดังนี ้
นักเรียนชาย คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนท่ี 3 คนท่ี 4
ความสูง (เซนติเมตร)
160 162 164 166
น้ําหนัก (กิโลกรัม)
55 55 58 60
ถาสวนสูงและน้ําหนักของนักเรียนมีความสัมพันธเชิงฟงกชัน เปนเสนตรง 푦 = 푎 + 0.9푥 เมื่อ 푥 เปนสวนสูง และ 푦 เปนน้ําหนัก แลว นักเรียนท่ีมีสวนสูง 165 เซนติเมตร จะมีน้ําหนักกี่กิโลกรัม.
1. 58.8 2. 59.2 3. 60.5 4. 60.8
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 47 − สถิต ิ
กําหนดให 푥, 푦 และ 푧 เปนจํานวนจริงบวกท่ีสอดคลองกับ ระบบสมการ
푥푦푧 = 3, 푥 +1푧 = 4, 푦 +
1푥 = 5 และ 푧 +
1푦 =
푝푞
เมื่อ 푝 และ 푞 เปนจํานวนเต็มบวกโดยท่ี ห. ร. ม. ของ 푝 และ 푞
เทากับ 1 แลวคาของ ∣ 푝 − 푞 ∣ เทากับขอใดตอไปนี.้ .
1. 17
2. 20
3. 57
4. 102
푃퐴푇1 − 54 − มี. ค. ขอ 4 − จํานวนจริง