we love bmx

22
BMX welove นางสาว อภิรฎา อัลภาชน์ 5314101367

Upload: admin-ca222mju

Post on 27-Mar-2016

220 views

Category:

Documents


5 download

DESCRIPTION

หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับจักรยานBMX บอกประเภทของแต่ล่ะ รุ่นและการใช้งาน

TRANSCRIPT

BMXwe love

นางสาว อภิรฎา อัลภาชน์ 5314101367

editor talk

สวัสดี ค่ะ ผู้อ่านทุกท่าน หนังสือเล่มนี้จัดทำ ขึ้นเพราะว่า ส่วนตัวชอบจักรยานBMX และอยากพาทุกท่านได้ ชมเสน่ห์ของมัน ทั้งรูปทรง และความรวดเร็วเล็กกระทัดรัดพกพาไปได้ทุกที่ที่ต้องการ

Contentsต้นกำ เนิดBMX 4,5,6ประเภทBMX 7,8BMX FLATLAND 8,9BMX street 10BMX PARk 11,12BMX dirt 13BMX vert 14,15BMX racing 16,17photo BMX 18,19บรรณานุกรม 20

we love BMX

จักรยานBMXเกิดขึ้นประมาณยุค 70 ในทางตอนใต้ของคาลิฟอร์เนีย โดยกลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่งได้ปรับแต่งจักรยานขนาดล้อ 20นิ้ว ซึ่งพวกเขาได้แรงบรรดาลใจจากการชมภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการแข่งขันจักรยานยนต์ Motocass แล้วทำ ให้เป็นที่นิยมกันมากในตอนนั้น การแข่งขันจักรยานวิบากแบบ BMX (Bicycle Moto Cross) ที่มีวงล้อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 20 นิ้ว ในประเภทความเร็ว(Racing) ได้เป็นที่นิยมกันมากในประเทศสหรัฐอเมริกาและได้แพร่ขยายไปทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานนักขี่หลายๆคนได้ฝึกท่าทางพลิกแพลงผาดโผนในแบบต่างๆ เพื่อความสนุกสนาน และใช้โชว์ออฟกันในกลุ่มเพื่อนๆ ทั้งยังเป็นการฝึกทักษะในการควบคุมรถได้อย่างดี และเมื่อมีโอกาส ก็มักจะได้นำ ท่านั้นมาออกโชว์กันในช่วงพักของการแข่งขัน หรือในการโปรโมท์ ให้กับสปอนเซอร์ของตน ซึ่งจะเรียกความสนใจจากผู้คนได้ดีทีเดียว ต่อมาเมื่อมีท่าทางหลากหลายมากขึ้น นักขี่หล่าวนั้นได้หันมาเน้นฝึกแต่ท่าพลิกแพลง(Tricks) อย่างจริงจัง จนกระท่ังได้กลายเป็นกีฬาประเภทใหม่ที่เน้นฝึกเฉพาะแต่ท่าผาดโผนอย่างเดียว และได้พัฒนาท่าพลิกแพลงเหล่านี้ให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

ต้นกำ เนิดของBMX

4

สิ่งที่น่าสนใจคือ ในยุคนั้นท่ายังไม่มีมากนัก จึงมีการคิดค้นลีลาต่างๆ ออกมาใหม่ ตลอดเวลา นักขี่แต่ละคนจะมีท่าเป็นของตนเอง ไม่ค่อยจะซ้ำ กันนัก นักขี่กลุ่มนี้จึงถูกขนานนามว่า "Freestyler" และได้เริ่มมี การจัดการแข่งขันเฉพาะทางขึ้น นักขี่ที่มีชื่อที่สุด คนหนึ่งในช่วงนั้น คือ Bob Haro ซึ่งถือได้ว่าเป็น "Father of Freestyle" (ปัจจุบันเป็นเจ้าของบริษัทจักรยานที่ประสบความสำ เร็จมากที่สุดบริษัทหนึ่ง)

we love BMX

ราวปี 1985 เป็นต้นมา ทางบริษัทผู้ผลิตจักรยานหลายๆราย ได้มีการผลิตอะไหล่ ที่ทำ ไว้สำ หรับการเล่นท่า Freestyle ได้แก่ตัวถังที่มีที่ยืนตรงหลักอาน, ที่ยืนตรงแฮนด์, ที่ยืนตรงแกนล้อ และตะเกียบฯลฯ การจัดแข่งขันเริ่มมีมากขึ้นมีการรวมตัวนักขี่ผาดโผน จัดตั้งเป็นทีม Freestyle อย่างเต็มรูปแบบ ในช่วงนี้เองที่สมาคม AFA(American Freestyle Association) ได้เข้ามาผูกขาดในการจัดแข่งขันครั้งใหญ่ๆ นักขี่เอือมกับกติกาหยุมหยิม เช่น Flatland ก็ให้ใส่หมวกกันน๊อก และกรรมการ

5

we love BMX 6

เป็นคนธรรมดาไม่รู้จักการให้คะแนน โดยเฉพาะท่ายากๆหรือท่าใหม่ๆ แบนนักขี่ที่ไปแข่งงานอื่น จัดแบ่งรุ่น(Class)ละเอียดยิบ ซึ่งนอกจากจะแบ่งตามรุ่นอายุ ยังมีรุ่นสมัครเล่น(Amateur) และรุ่นมืออาชีพ(Pro) ซึ่งนักขี่จะลงได้หลายรุ่น ปัญหาจึงอยู่ที่คนที่มีฝีมือดียังไม่ยอม Turn Pro ง่ายๆเพราะยังหวงตำ แหน่งอยู่ต่อมาในยุค 90 AFA ยกเลิกการจัดแข่ง ทำ ให้วงการเงียบเหงาไปพักหนึ่ง แต่ก็ได้ Mat Hoffman ซึ่งเป็นนักขี่ ได้ริเริ่ม จัดงานแข่งขึ้นเองชื่อ Bike Stunt Series หรือ BS ซึ่งเป็นการปลุกผีวงการขึ้นมาอีกครั้ง และได้ประสบความสำ เร็จอย่างสูง จนกระทั่ง ESPN ช่องกีฬายักษ์ใหญ่ได้มาติดต่อขอซื้อรายการต่อ จัดให้มีการนำ ภาพจากการแข่งไปออกอากาศทั่วโลก และต่อมาได้รวบรวมกีฬาสุดขั้วหรือ Extreme Sports เข้าไว้ด้วยกันภายใต้ชื่อ “X-GAMES”

we love BMX 7

ประเภทของBMX BMX FLATLAND การขี่จักรยานประเภทแฟลตแลนด์ เป็นการขี่จักรยานผาดโผนบนพื้นราบ โดยเน้นการทรงตัวและการเล่นท่าบนจักรยาน เสน่ห์ของการขี่ประเภทนี้อยู่ที่ความต่อเนื่องในการเล่นท่า โดยจะเล่นท่าหนึ่งแล้วจะไปต่ออีกท่าหนึ่งโดยที่เท้าไม่สัมผัสพื้น BMX FLATLAND ได้เข้ามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 10กว่าปีที่แล้ว และยังคงเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้ BMX FLATLAND เป็นกีฬาเอ็กส์ตรีมที่มีความเสี่ยงไม่มาก สามารถที่จะเล่นได้ทุกวัย จะมีเล่นกันเป็นกลุ่มๆตามสวนสาธารณะ ตามลานจอดรถกว้างๆ จะกระจายกันอยู่ในทุกๆจังหวัด โดยจะมีการจัดแข่งขันอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

การแข่ง ขันประเภทแฟลตแลนด์จะเป็นการตัดสินจากการให้คะแนน การแข่งก็จะคล้ายๆกับยิมนาสติกลีลา แต่จะเป็นลีลาบนจักรยานBMX โดยมีการแบ่งรุ่นการแข่งขันออกเป็นหลายรุ่นตามระดับฝีมือ ลักษณะการแข่งจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือการแข่งขันภายในเวลาที่กำ หนดโดยมีกรรมการเป็นผู้ให้คะแนนซึ่งจะพิจารณา จากความยากง่ายและความต่อเนื่องของท่าโดยไม่ให้เท้าสัมผัสพื้น หากเท้าสัมผัสพื้นจะถูกหักคะแนนตามความเหมาะสม การแข่งขันอีกแบบหนึ่งคือการแข่งขันแบบตัวต่อตัว ( Battle) คือการออกมาประชันท่ากันแบบตัวต่อตัว หากยังนึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงการชกมวย แต่จะใช้การเล่นท่าประชันกัน

ซึ่งจะแข่งขัน 3 ยก โดยนักกีฬาจะผลัดกันออกมาแสดงท่าผาดโผน ใน 1 ยกจะเล่นท่าผาดโผนได้คนละหนึ่งชุด (ไม่ได้กำ หนดเวลาและความยาวของท่าต่อเนื่องส่วนใหญ่ จะไม่เล่นท่าต่อเนื่องกันยาวมากนักเพื่อป้องกันความผิดพลาด) เมื่อครบ 3 ยก กรรมการจะตัดสินให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะไป และยังมีการจัดแข่งแยกย่อยออกไปอีกเพื่อให้การจัดแข่งขันนั้นมีความน่าสนใจ และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น การแข่ง BestTrick คือการแข่งว่าท่าของใครยากและเจ๋งที่สุดเป็นผู้ชนะ การแข่งขันว่าใครเล่นท่าต่อเนื่องได้มากที่สุด และการแข่งขันว่าใครเล่นท่าได้นานที่สุด เป็นต้น

we love BMX 8

ลักษณะของจักรยาน BMX FLATLAND ช่วงของตัวรถจักรยานประเภทนี้จะสั้นกว่ารถประเภทอื่นๆ เพื่อให้ง่ายและสะดวกในการเล่นท่าผาดโผนโครงของรถแฟลตแลนด์จะออกแบบมาให้สะดวกในการเล่นท่าและมีน้ำ หนักเบา รูปทรงจะโค้งบ้างเว้าบ้าง ชิ้นส่วนต่างๆก็จะแตกต่างกันกับประเภทอื่นๆ

BMX FLATLAND

ทักษะของการขี่จักรยาน BMX FLATLAND โดยหลักๆเลยก็จะเน้นการทรงตัวบนรถจักยานที่เคลื่อนไปเพียงล้อเดียว โดยเท้าของเราจะยื่นอยู่บนที่พักเท้า ( Peg) ที่อยู่ตรงแกนล้อทั้งล้อหน้าและหลัง ทักษะการใช้เท้าไถล้อเพื่อให้รถได้เคลื่อนที่ไป และทักษะการต่อเนื่องของแต่ละท่า การขี่จักรยาน BMX FLATLAND จำ เป็นต้องใช้สมาธิ ความพยายาม และความอดทนสักนิดหนึ่งเพราะการฝึกหัดในแต่ละท่าอาจะจะต้องใช้เวลามากพอดู บางท่าอาจจะใช้เวลาเป็นเดือนๆ แต่บางท่าก็อาจใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน แต่นั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับความขยันฝึกซ้อมและความอดทน ถ้าหากคุณเป็นคนใจร้อนแล้วละก็ ลองหันมาหัดเล่นจักรยาน BMX FLATLAND ดู มันอาจจะทำ ให้คุณเป็นคนใจเย็นและมีสมาธิมากขึ้นก็ได้

we love BMX9

we love BMX 10

BMX STREET

การขี่จักรยานประเภทสตรีต เป็นการขี่จักรยานผาดโผน โดยอาศัยอุปกรณ์ในการเล่น จะเล่นท่าผาดโผนต่างจากประเภทแฟลตแลนด์ ซึ่งผู้เล่นจะขี่ออกไปเล่นกันตามท้องถนน หรือสวนสาธารณะ อุปกรณ์ที่ใช้เล่นก็มีอยู่ตามท้องถนน เช่น ม้านั้ง ราวบันได ราวเหล็ก ริมฟุตบาท และเนินลาดชันต่างๆเป็นต้น แล้วขี่เล่นท่าผาดโผน ยกล้อ หมุนตัว หรือ ไถลกับราวเหล็กลักษณะของจักรยาน BMX STREET ช่วงของรถจักรยานประเภทนี้จะยาวกว่าของประเภทแฟลตแลนด์เล็กน้อย และรูปทรงจะไม่แปลกเหมือนรถจักยานแฟลตแลนด์ ก็เพราะสตรีตไม่ได้ใช้สำ หรับ เล่นท่าบนพื้นราบ รูปทรงจึงไม่ออกแบบมาสำ หรับเล่นท่าแต่จะเน้นไปในการขี่ และกระโดดซะส่วนใหญ่ ชิ้นส่วนต่างๆ ก็จะแตกต่างกันด้วย

we love BMX 11

ทักษะที่ใช้ขี่จักรยาน BMX STREET ที่เน้นๆเลยก็คือ การกระโดด ( Bunny Hop ) การยกล้อหน้า (Manual ) และการไถลบนราว ( Grind) และก็ยังมีท่าที่พลิกแพลงอีกมากมาย สำ หรับจักรยาน BMX STREET จะต้องใช้ความกล้าพอควรเพราะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูง ผู้เล่นจึงควรใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง และเมื่อคุณเล่นท่าพื้นฐานของประเภทนี้ได้จนเป็นหมดแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ใจคุณแล้วละว่า “กล้าพอหรือเปล่า”ที่จะเล่นท่าผาดโผนกับอุปกรณ์บนท้องถนนเหล่านั้น

BMX PARK เป็นการขี่แบบเดียวกับประเภทสตรีต โดยเล่นกับอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นในรูปแบบสนาม SKATE PARK ซึ่งพัฒนาอุปกรณ์ในการเล่นมาจากอุปกรณ์บนท้องถนน ให้ได้มาตรฐานและมีความน่าเล่นมากยิ่งขึ้นโดยอุปกรณ์ในสนามจะถูกออกแบบและ จัดว่างในตำ แหน่งที่เหมาะสม ในการแข่งขันจักรยาน BMX PARK จะทำ การแข่งขันภายในเวลาที่กำ หนดโดยมีกรรมการเป็นผู้ให้คะแนนซึ่งจะพิจารณา จากความยากง่ายของท่าและความต่อเนื่องในการเล่นในแต่ละอุปกรณ์ ในการแข่งขัน นักกีฬาสามารถเอาเท้าสัมผัสกับพื้นหรืออุปกรณ์ได้โดยไม่ ถูกหักคะแนนเพื่อเป็นการหยุดพักหรือจัดท่าทางในการออกตัวในการเล่นท่ากับ อุปกรณ์ต่อไป และสามารถใช้เท้าร่วมเล่นเป็นท่าผาดโผนได้อีกด้วย ส่วนลักษณะรถก็เป็นรถจักรยานประเภทสตรีตนั้นละครับ เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่เล่นจากท้องถนน มาเป็นในสนามที่มีความเป็นมาตรฐานเท่านั้นเอง

we love BMX 12ทักษะที่ใช้ขี่จักรยานประเภทนี้ก็ใช้ทักษะเดียวกับประเภทสตรีตนั้นละครับ แต่จะเพิ่มในส่วนของการเล่นท่ากับอุปกรณ์ได้หลากหลาย และท่ากลางอากาศ เพิ่มเข้ามา ถ้าหากมีพื้นฐาน BMX STREET อยู่แล้ว ก็สามารถเล่น BMX PARK ได้อย่างไม่ยากนัก

กีฬาประเภทนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ก่อนเล่นจึงควรใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง เช่น หมวกกันน๊อค สนับเข่า สนับศอก และสนับแข้ง เป็นต้น

BMX DIRT คือการขี่จักรยานผาดโผนกระโดดเนินดินโดยจะเน้นเล่นท่ากลางอากาศเพียงอย่าง เดียว ลักษณะของสนามจะเป็นเนินดินคล้ายสนาม Motocoss มีเนินสำ หรับกระโดดติดต่อกันหลายๆลูก ทำ ให้การกระโดดเล่นท่าผาดโผนกลางอากาศมีความต่อเนื่องกัน การแข่งขันในประเภท BMX DIRT จะทำ การปล่อยตัวนักกีฬาที่ละคน แล้วให้ทำ การกระโดดเนินดินและเล่นท่ากลางอากาศ ให้ครบจำ นวนเนินเดินที่กระโดด เนินดินก็จะมีจำ นวนที่ไม่มากนัก นักกีฬาคนไหนที่เล่นท่าได้ยากและเจ๋งที่สุดโดยไม่มีขอผิดพลาดเลยก็จะเป็นผู้ ชนะไป

ลักษณะของจักรยาน ก็ใช้แบบเดียวกับ ประเภทสตรีต เพียงแค่เปลี่ยนยางมาใช้เป็นแบบที่มีดอกยางหนาๆ ที่ใช้สำ หรับสนามดินแบบMotocoss Pegs (ที่พักเท้า) ออกแค่นั้นเอง กีฬาประเภทนี้มีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ก่อนเล่นจึงควรใส่อุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง เช่น หมวกกันน๊อค สนับเข่า สนับศอก และสนับแข้ง เป็นต้น

we love BMX 13

BMX VERT เป็นการขี่ผาดโผนโดยต้องใช้อุปกรณ์ในการเล่นโดยอุปกรณ์จะมีลักษณะเป็นท่อครึ่งวงกลมหรือHalfPipeโดยผู้เล่นจะปั่นแล้วกระโดดขึ้นลงตความ

โค้งของ Half Pipe แล้วเมื่อได้ยัง หวะก็จะเล่นท่าผาดโผนกลางอากาศ

ในการแข่งขันจักรยาน BMX VERT จะทำ การแข่งขันภายในเวลาที่กำ หนด โดยมีกรรมการเป็นผู้ให้คะแนนซึ่งจะพิจารณา จากความยากง่ายของท่า ในการแข่งขันนักกีฬาสามารถเอาเท้าสัมผัสกับพื้นหรืออุปกรณ์ได้ โดยไม่ถูกหัก คะแนนเพื่อเป็นการหยุดพักหรือจัดท่าทางในการออกตัวในการเล่นท่า กัอุปกรณ์

และสามารถใช้เท้าร่วมเล่นเป็นท่าผาดโผนได้อีกด้วย ส่วนลักษณะรถก็เป็นรถจักรยานประเภทสตรีตนั้นเอง

ทักษะของกีฬาประเภทนี้ จะใช้ทักษะค่อนข้างยากสักนิดหน่อย เนื่องด้วยอุปกรณ์ มีความสูงมาก และมุมในการลอยตัวก็เป็นมุมที่ตั้งฉากกลับพื้นดิน จึงจำ เป็นที่จะต้องมีทักษะในการกระโดดลอยตัวกลับอุปกรณ์ที่เรียกว่า Quarter Pipe ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้ก็จะอยู่ในสนาม SKATE PARK หรือคุณต้องมีทักษะใน

การเล่น BMX PARK อย่างค่อนข้างชำ นาญแล้วนั้นเอง

we love BMX 14

BMX VERT เป็นการขี่ผาดโผนโดยต้องใช้อุปกรณ์ในการเล่นโดยอุปกรณ์จะมีลักษณะเป็นท่อครึ่งวงกลมหรือHalfPipeโดยผู้เล่นจะปั่นแล้วกระโดดขึ้นลงตความ

โค้งของ Half Pipe แล้วเมื่อได้ยัง หวะก็จะเล่นท่าผาดโผนกลางอากาศ

ในการแข่งขันจักรยาน BMX VERT จะทำ การแข่งขันภายในเวลาที่กำ หนด โดยมีกรรมการเป็นผู้ให้คะแนนซึ่งจะพิจารณา จากความยากง่ายของท่า ในการแข่งขันนักกีฬาสามารถเอาเท้าสัมผัสกับพื้นหรืออุปกรณ์ได้ โดยไม่ถูกหัก คะแนนเพื่อเป็นการหยุดพักหรือจัดท่าทางในการออกตัวในการเล่นท่า กัอุปกรณ์

และสามารถใช้เท้าร่วมเล่นเป็นท่าผาดโผนได้อีกด้วย ส่วนลักษณะรถก็เป็นรถจักรยานประเภทสตรีตนั้นเอง

ทักษะของกีฬาประเภทนี้ จะใช้ทักษะค่อนข้างยากสักนิดหน่อย เนื่องด้วยอุปกรณ์ มีความสูงมาก และมุมในการลอยตัวก็เป็นมุมที่ตั้งฉากกลับพื้นดิน จึงจำ เป็นที่จะต้องมีทักษะในการกระโดดลอยตัวกลับอุปกรณ์ที่เรียกว่า Quarter Pipe ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้ก็จะอยู่ในสนาม SKATE PARK หรือคุณต้องมีทักษะใน

การเล่น BMX PARK อย่างค่อนข้างชำ นาญแล้วนั้นเอง

we love BMX 15

we love BMX 16

เป็นการขี่แบบแข่งความเร็วในระยะสั้นๆรูปแบบลักษณะของสนามแข่งจะออกแบบให้มีทางโค้งสลับกันไปและมีเนินสำหรับกระโดดเช่นเดียวกับสนามของMotocossจักรยานBMXRacingได้เอามาในบ้านเราเมื่อประมาณ20ปีที่แล้วซึ่งตอนนั้นเป็นที่นิยมมากแล้วก็ได้เงียบหาไปจากวงการเมื่อช่วง10ปีที่ผ่านมาแต่ในปัจจุบันนี้จักรยานBMXracingกำลังกลับมาเป็นที่นิยมเริ่มมีการจัดแข่งขันมากขึ้นคนที่เคยเลิกไปก็เริ่มจะกลับมาปัดฝุ่นจักรยานคันเก่าหันมาปั่นBMXกันอีกครั้ง ในการแข่งขันจักรยานBMXRacingจะแข่งรุ่นการแข่งขันตามอายุและตามความสามารถมีการเก็บคะแนนสะสมแต่ละสนามการแข่งขันในหนึ่งรันโดยปกติจะปล่อยตัวมากที่สุด8คันแล้วหาผู้ชนะในแต่ละรันเข้ารอบต่อไปขึ้นอยู่กับกติกาในการจัดแข่งขันในสนามนั้นๆ

BMX Racing

ลักษณะของจักรยานBMX RACING ช่วงของรถจะยาวกว่า BMX ประเภทอื่น เพื่อช่วยเพิ่มหน้าสัมผัสกับพื้นสนาม ทำ ให้ยึดเกาะสนามได้ดี ทำ ให้ง่ายต่อการกระโดดขึ้น ลง เนิน รูปร่างของตัวรถจะออกแนวทันสมัยรูปทรงออกแบบมาตามหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่รูปทรงธรรมดาก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ ทักษะของการขี่จักรยานประเภท Racing โดยหลักๆก็จะเน้นการกระโดดเนิน การเข้าแบงก์ และการเร่งความเร็ว สำ หรับท่านที่ไม่เคยขี่ Racing มาก่อนก็ไม่ควรไปลองกระโดดเนินเองนะครับ เพราะอาจจะทำ ให้เกิดอันตรายได้ บางคนที่เคยเห็นจากโทรทัศน์เห็นว่าง่ายๆ แต่ที่จริงแล้วก็อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ควรจะศึกษาหรือขอคำ แนะนำ จากผู้ที่ขี่อยู่ก่อนแล้ว แล้วก่อนลงสนามทุกครั้งก็ควรจะใส่อุปกรณ์ป้องกันสำ หรับท่านที่ชื่นชอบกีฬาความเร็วเป็นชีวิตจิตใจแล้วละก็ BMX ประเภทนี้น่าจะเหมาะกับคุณมากที่สุด

we love BMX 17

we love BMX 18

we love BMX 19

บรรณานุกรม

เครดิตจาก thaibmx บ้านรักของเรนั่นเอง

http://etnies.com/team/bmx/aaron-ross/

http://unitedbikeco.com/2012/05/17/united-2013-com-plete-bikes

we love BMX 20