วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [multimedia i]

331

Upload: pakornkrits

Post on 28-May-2015

2.043 views

Category:

Education


8 download

DESCRIPTION

วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I] ปกรณ์กฤช กันทะเลิศ โรงเรียนพานพิทยาคม มหาวิทยาลัยพะเยา

TRANSCRIPT

Page 1: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]
Page 2: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

คํานํา

สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ไดมีขอตกลงความรวมมือกับมหาวิทยาลัยพะเยา ภายใตโครงการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาแหงชาติ ไดใหมีการพัฒนาหลักสูตรและแผนการสอน เอกสารประกอบการสอน คูมือครู ท่ีบูรณาการความรูดานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกับกลุมอาชีพ เพ่ือใชประกอบการเรียนการสอนของสถานศึกษาท่ีเขารวมโครงการ

เอกสารประกอบการสอนรายวิชา การผลิตสื่อมัลติมีเดีย 1 มีเนื้อหาสาระเก่ียวกับแนวคิด

เบื้องตนของการผลิตสื่อมัลติมีเดียแบบออฟไลน ศึกษาและปฏิบัติการเก่ียวกับการผสมผสานอินเตอร แอคทีฟกับงานมัลติมีเดีย การออกแบบ การใชโปรแกรมประยุกตท่ีเก่ียวของกับงานอินเตอรแอคทีฟ การสรางเทคนิคพิเศษ การใสเสียงประกอบ การใสภาพและการเพ่ิมวิดีโอมาใชในงานมัลติมีเดีย การประยุกตใชงานนําเสนองานอินเตอรแอคทีฟ การนําเสนอผลงานมัลติมีเดีย การสรางแบบทดสอบ แบบฝกหัด การประเมินผล การออกรายงาน การใชโปรแกรมประยุกตรวมกับโปรแกรมอ่ืน และ การประยุกตใชสําหรับการผลิตสื่อมัลติมีเดียแบบออนไลน

ผูจัดทําเอกสารประกอบการสอนหวังเปนอยางยิ่งวา เอกสารประกอบการสอนเลมนี้จะเปน

ประโยชนตอผูเรียนและผูท่ีสนใจ เพ่ือใหผูเรียนสามารถนําความรูท่ีไดไปประยุกตใชไดในอนาคต และขอขอบคุณ สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน (สพฐ.) และสถานศึกษาท่ีเขารวมโครงการ

ผูจัดทํา ปรัชญา นวนแกว 2 มกราคม 2557

Page 3: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

สารบัญ หนา

คํานํา บทท่ี 1 บทนํา 1.1 ความหมายของสื่อมัลติมีเดีย 1 1.2 แนวคิดการจัดการเรียนรู 5 1.3 สื่อการเรียนการสอน 7 1.4 บทบาทและคุณลักษณะของสื่อมัลติมีเดีย 9 บทท่ี 2 หลักการและการออกแบบส่ือมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ 2.1 ทฤษฏีเก่ียวกับสื่อมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ 19 2.1.1 ทฤษฎีการสื่อสาร 19 2.1.2 ทฤษฎกีารเรียนรูพฤติกรรมนิยม (Behaviorism) 20 2.1.3 ทฤษฎีการเรียนรูปญญานิยม (Cognitivism) 20 2.1.4 ทฤษฎีการสรางองคความรูดวยปญญา หรือ พุทธิปญญานิยม (Constructivism) 20 2.1.5 ทฤษฎีการเรียนรูของกาเย (Gagne) 20 2.2 องคประกอบท่ีสําคัญท่ีกอใหเกิดการเรียนรู 22 2.3 การออกแบบสื่อมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ 23 2.4 ข้ันตอนการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ 25 2.5 การประยุกตใชทฤษฎีการเรียนรู 27 บทท่ี 3 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 1 เริ่มใชงาน Adobe Captivate 3.1 คุณสมบัติเดนของโปรแกรม Adobe Captivate 29 3.2 สรุปคุณสมบัติเดนของโปรแกรม Adobe Captivate 29 3.3 ความตองการคุณสมบัติของฮารดแวร สําหรับโปรแกรม Adobe Captivate 30 3.4 หลักการทํางานของโปรแกรม 31 3.5 การดาวนโหลดโปรแกรม Adobe Captivate 32 3.6 การติดตั้งโปรแกรม Adobe Captivate 37 3.7 ขอสังเกตเพ่ิมเติมสําหรับการติดตั้งโปรแกรม Adobe Captivate 45 บทท่ี 4 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 2 เครื่องมือพ้ืนฐานและการสรางโปรเจ็คเบ้ืองตน 4.1 การเรียกโปรแกรม Adobe Captivate 7 52

Page 4: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

สารบัญ หนา

4.2 เครื่องมือพ้ืนฐานในการใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7 53 4.3 สรางไฟลงาน Adobe Captive Project 73 4.4 รูปแบบของ Adobe Captive Project 74 4.5 การตั้งคาไฟล (Project Preferences) 78 บทท่ี 5 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 3 การสรางโปรเจ็คและการนําเขาขอมูลจากโปรแกรมอ่ืน 5.1 การสรางโปรเจ็ครูปแบบตางๆ 83 5.2 การตั้งคาเครื่องคอมพิวเตอร จอภาพและการแสดงผล 83 5.3 Software Simulation 86 5.4 Video Demo 93 5.5 Blank Project 96 5.6 Form Microsoft® PowerPoint 98 5.7 Image Slideshow 101 5.8 Project Template 104 5.9 สไดลรูปแบบตางๆ และการกําหนดคุณสมบัติของสไลด 105 5.10 ประเภทของสไลด 105 5.11 การกําหนดคุณสมบัติของสไลด 106 5.12 การจัดการเก่ียวกับสไลด 110 บทท่ี 6 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 4 การบันทึกเสียงและการแทรกเสียง 6.1 เสียงคืออะไร 131 6.2 รูปแบบและลักษณะของเสียง 131 6.3 รูปแบบของเสียงท่ีใชในสื่อมัลติมีเดีย 132 6.4 การตั้งคาการบันทึกเสียง (Audio Setting) 133 6.5 การบันทึกเสียงใหสไลด 135 6.6 การบันทึกเสียงลงสไลดมากกวา 1 สไลด 136 6.7 การบันทึกเสียงเปนเสียงพ้ืนหลัง 138 6.8 การบันทึกเสียงใหวัตถุ 139 6.9 การแทรกเสียงใหสไลด 140 6.10 การแทรกเสียงพ้ืนหลัง 142 6.11 การแทรกเสียงใหวัตถุ 143 6.12 การตกแตงไฟลเสียงใหสไลด 145

Page 5: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

สารบัญ หนา

6.13 การปรับแตงแกไขไฟลเสียงพ้ืนหลัง 146 6.14 การตกแตงแกไขไฟลเสียงใหวัตถุ 147 6.15 การปรับระดับเสียง 148 6.16 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย 150 6.17 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด 151 6.18 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง 151 6.19 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ 152 6.20 การแสดงรายละเอียดของไฟลเสียงในสไลด 153 6.21 การสงออกไฟลเสียง 153 บทท่ี 7 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 5 ตัวแปรและแอคช่ัน 7.1 ตัวแปรระบบ (System Variable) 157 7.2 ตัวแปรประเภท Movie Information 160 7.3 ตัวแปรประเภท Movie Control 161 7.4 ตัวแปรประเภท Movie MetaData 162 7.5 ตัวแปรประเภท Quizzing 164 7.6 ตัวแปรประเภท System Information 165 7.7 ตัวแปรยูสเซอร 166 7.8 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน 169 7.9 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน 171 7.10 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง 175 7.11 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง (Advance Action) 182 บทท่ี 8 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 6 การสรางแบบทดสอบ 8.1 แบบทดสอบคืออะไร 187 8.2 ลักษณะและประเภทของแบบทดสอบ 187 8.3 ประเภทของแบบทดสอบสําหรับสื่อมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ ท่ีอยูภายในโปรแกรม Adobe Captivate 188 8.4 การตั้งคาแบบทดสอบ 189 8.5 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) 194 8.6 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด (True/False) 198 8.7 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง (Fill-In-The-Blank) 201

Page 6: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

สารบัญ หนา

8.8 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ (Short Answer) 205 8.9 การสรางแบบทดสอบแบบจบัคู (Matching) 208 8.10 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ (Hot Spot) 212 8.11 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง (Sequence) 216 8.12 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน (Rating Scale : Likert) 220 8.13 การสรางแบบทดสอบแบบสุม (Random Questions) 223 บทท่ี 9 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 7 การแกไขตกแตงโปรเจ็ค 9.1 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค 231 9.2 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค 232 9.3 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค 233 9.4 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค 235 9.5 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ 236 9.6 การบันทึกคา Preferences เก็บไว 238 9.7 การนําคา Preferences ท่ีบันทึกไวมาใชงาน 239 9.8 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template) 240 9.9 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค 242 9.10 การนําแมแบบมาใชงาน 243 9.11 การปรับแตง Skin (Playback Control) 244 9.12 การสรางตารางสารบัญ (TCC : Table Of Contents) 246 9.13 การกําหนดหัวขอหลักและหัวขอยอย 247 9.14 การปรับแตงตารางสารบัญ 249 9.15 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ 251 9.16 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project) 253 9.17 ข้ันตอนการรวบรวมโปรเจ็ค 253 9.18 ข้ันตอนการสงออกไฟล 256 บทท่ี 10 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 8 การสงออกและการแกไขโปรเจ็ค 10.1 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล SWF และ HTML5 261 10.2 การตรวจสอบการสงออกไฟลแบบ HTML5 264 10.3 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable 265 10.4 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4 267

Page 7: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

สารบัญ หนา

10.5 การสงออกโปรเจ็คผาน E-Mail 269 10.6 การสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP 273 10.7 การสงออกโปรเจค็ในรูปแบบ Microsoft Word 275 10.8 วิธีการสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word 280 10.9 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews 281 10.10 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments 283 บรรณานุกรม ดัชนีรูปภาพ ดัชนีตาราง

Page 8: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 1 บทนํา

ปจจุบันมีการพัฒนารูปแบบของมัลติมีเดียใหสอดคลองกับทฤษฎีการเรียนรูมากมาย สําหรับ

มัลติมีเดียเพ่ือพัฒนาการเรียนการสอน เปนสวนหนึ่งของรูปแบบบทเรียนท่ีอํานวยความสะดวกใหกับผูเรียนและผูสอน นอกจากนั้นยังรวบรวม เนื้อหา คําถาม คําตอบ กระบวนการเรียน สื่อตางๆ ท่ีมีความนาสนใจ ดึงดูดผูเรียนใหอยูกับเนื้อหาท่ีเขาใจยาก ชวยอธิบายสิ่งท่ีไมสามารถสัมผัสหรือมองดวยสายตาปกติได และเปนการกระตุนใหผูเรียนเกิดการอยากสํารวจ คิดคน สืบคน รูจักสรางและออกแบบรูปแบบการเรียนของตนเองตามความสนใจ ซ่ึงแนวคิดเหลานี้ตางสอดคลองกับทฤษฎีการเรียนรูของนักปรัชญามากมาย

1.1 ความหมายของส่ือมัลติมีเดีย

สื่อมัลติมีเดีย (Multimedia) ตามพจนานุกรมศัพทคอมพิวเตอรฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลวา สื่อประสม หรือ สื่อหลายแบบ หมายถึง การนําสื่อหรืออุปกรณหลาย ๆ ประเภท เชน ขอความ รูปภาพ เสียง วิดีโอ มาใชรวมกัน เพ่ือเสริมใหเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทํางาน ตอมาเม่ือคอมพิวเตอรถูกนํามาใชมากข้ึน ทําใหความสามารถในการนําเสนอ ท้ังภาพนิ่ง เสียง ขอความ ภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ อินเทอรเน็ต สังคมออนไลน มีความหลากหลาย สงผลใหความหมายของสื่อประสมเปลี่ยนแปลงตามไป

นอกจากนี้การใชคอมพิวเตอรควบคุมอุปกรณอ่ืน เชน เครื่องเลนวิดีโอ เทปเสียง ซีดีรอม

กลองดิจิตอล โทรทัศน ใหทํางานรวมกัน จําเปนตองอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร (Software) และอุปกรณ (Hardware) ประกอบกัน หรืออาจเรียกวา “สถานีปฏิบัติการมัลติมีเดีย (Multimedia workstation)”

รูปท่ี 1.1 สวนประกอบของสื่อมัลติมีเดีย (ท่ีมา: http://fungbintwo.blogspot.com/2009/11/multimedia.html)

Page 9: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

2

นักการศึกษาและความหมายของส่ือมัลติมีเดีย พิสุทธา อารีราษฏร (2551) กลาววา การพัฒนาซอฟตแวรทางการศึกษา โดยท่ัวไป เปนการ

พัฒนาบทเรียนเพ่ือนําไปใชในการเรียนการสอน เนื่องจากบทเรียนเปนสื่อท่ีนําไปใชในการสอนจริงแทนครูผูสอน ดังนั้นบทเรียนท่ีพัฒนาข้ึนจะตองเปนบทเรียนท่ีมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ มีเนื้อหาครบถวนและสอดคลองกับวัตถุประสงคของบทเรียน

รูปท่ี 1.2 สื่อมัลติมีเดีย (ท่ีมา: http://jatupo5604music.blogspot.com)

ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2550) กลาววา การกาวเขาสูยุคแหงสารสนเทศ ทําใหเกิดความ

จําเปนในการปรับเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการในการศึกษา การเรียนการสอน การเรียนรูของคนในสังคม เพ่ือใหเทาทันตอการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดข้ึน ซ่ึงรูปแบบและวิธีการ จะมีลักษณะท่ีแตกตางจากเดิม เรียกวา Unconventional Education หรือ การศึกษาท่ีแตกตาง การเรียนรูจะไมใชแคการจดจํา เขาใจเนื้อหา หรือการทําขอสอบไดดี หากจุดมุงเนน ไดแก การท่ีผูเรียนมีความสามารถในการเขาใจวิธีการเรียนรู (learning how to learn) ของตนเองไดอยางมีประสิทธิภาพ และอยางตอเนื่องตลอดชีวิต

รูปท่ี 1.3 สื่อมัลติมีเดียสมัยใหม (ท่ีมา: http://mindcater.com/new-hi-technical-computer-technology-2014)

Page 10: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

3

ดิเรก ธีระภูธร (2545) คอมพิวเตอรชวยสอนเปนกระบวนการเรียนการสอน โดยใช

สื่อคอมพิวเตอร ในการนําเสนอเนื้อหาเรื่องราวตางๆ มีลักษณะเปนการเรียนโดยตรง และเปนการเรียน แบบมีปฏิสัมพันธ (Interactive) คือ สามารถโตตอบระหวางผูเรียนกับคอมพิวเตอรได เชนเดียวกับการสอนระหวางครูกับนักเรียนท่ีอยูในหองตามปกติ คอมพิวเตอรชวยสอนมีหลายประเภทตามวัตถุประสงคท่ีจะใหนักเรียนไดเรียน กลาวคือ ประเภทติวเตอร ประเภทแบบฝกหัด ประเภทการจําลอง ประเภทเกม ประเภทแบบทดสอบซ่ึงในแตละประเภทก็มีจุดมุงหมายในการใหความรูแกผูเรียนแตวิธีการท่ีแตกตางกันไป ขอดีของการใชคอมพิวเตอรชวยสอนคือชวยลดความแตกตางระหวางผู เรียน เชน ผู ท่ีมีผลการเรียนต่ํา ก็สามารถชดเชยโดยการเรียนจากบทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอนได และสําหรับผูมีผลการเรียนสูงก็สามารถเรียนเสริมบทเรียนหรือเรียนลวงหนากอนท่ีผูสอนจะทําการสอนก็ได

รูปท่ี 1.4 บทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอน (ท่ีมา: http://www.vcharkarn.com/vblog/35660)

บุปผชาติ ทัฬหิกรณ (2544) กลาววา เพ่ือใหการพัฒนาสื่อมีประสิทธิภาพมากข้ึน ผูสอนควร

พัฒนาคุณลักษณะสื่อใหสามารถเรียนรูไดบนเครือขาย ซ่ึงสื่อบนเครือขายเปนสื่อท่ีมีศักยภาพในการสื่อสารสูง และรวดเร็วมีลักษณะเปนขอความหลายมิติ (Hypertext) และมีการเชื่อมโยงขอมูลซ่ึงกันและกัน ท่ีเรียกวา การเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) ทําใหผูเรียนสามารถมีปฏิสัมพันธกับบุคคลอ่ืน มีการสื่อสารกันสองทางระหวางผูเรียนกับสื่อการเรียนรู ผูเรียนกับผูเรียน ผูเรียนกับผูสอน และบุคคลอ่ืนท่ีเก่ียวของอีกดวย

Page 11: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

4

รูปท่ี 1.5 การเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) (ท่ีมา: http://withfriendship.com/user/kethan123/hyperlink.php)

รูปท่ี 1.6 Cloud Computing การเชื่อมโยงกลุมเมฆ (ท่ีมา: http://www.uni.net.th/backend/uninews/print.php?name=2012111122)

จากความหมายท่ีหลากหลายของนักการศึกษา สามารถสรุปไดวา การนําสื่อมัลติมีเดียไป

ประยุกตใชกับการเรียนการสอนนั้น สิ่งท่ีสําคัญประกอบดวย ผูเรียน ผูสอน บทเรียน เครื่องมือ และกระบวนการจัดการเรียนการสอน การพัฒนาสื่อมัลติมีเดีย นอกจากจะตองคํานึงถึงประสิทธิภาพแลว ยังตองประยุกตใหเขากับเหตุการณ สังคมโลก พฤติกรรมผูเรียน การมีปฏิสัมพันธ การโตตอบระหวางผูเรียนกับคอมพิวเตอร กลายเปนเครือขายสังคมและการเรียนรู หรือการเชื่อมโยงหลายมิติ

Page 12: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

5

1.2 แนวคิดการจัดการเรียนรู 1.2.1 แนวคิดการจัดการเรียนรูท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญ

สํานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแหงชาติ (2542) ไดสรุปแนวคิดการจัดการเรียนรูท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญวา มีทักษะการแสวงหาความรูและสามารถนําความรูไปประยุกตใชในชีวิตจริงได

รูปท่ี 1.7 การจัดการเรียนรูตามแนวคิดแบบมอนเตสเซอรี่ (ท่ีมา: http://www.dusitcenter.org/dusitwebs/plan/news.php?id=1973)

1.2.2 หลักการในการจัดการเรียนรูท่ียึดเปนเรียนเปนสําคัญ ประกอบดวย

1.2.2.1 ผูเรียนทุกคนสามารถเรียนรูและพัฒนาได 1.2.2.2 เปาหมายการเรียนรู เพ่ือพัฒนาผูเรียนใหเปนมนุษยท่ีสมบูรณท้ังรางกาย

จิตใจ สติปญญา ความรูและคุณธรรม 1.2.2.3 ใหผูเรียนเรียนรูในสิ่งท่ีมีความหมาย สามารถนําไปใชประโยชนได 1.2.2.4 การเรียนรูเกิดข้ึนไดทุกที ทุกเวลา และตอเนื่องตลอดชีวิต 1.2.2.5 ใหผูเรียน เรียนรูจากการไดคิด ปฏิบัติ และสรุปความดวยตนเอง

รูปท่ี 1.8 การเรียนรูท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญ (ท่ีมา: http://www.gotoknow.org/posts/412318)

Page 13: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

6

1.2.3 วิธีการจัดการเรียนรูท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญ ประกอบดวย การศึกษาผูเรียนเปนรายบุคคล เพ่ือเปนขอมูลในการพัฒนา

ผูเรียน ใหเต็มศักยภาพ โดยพิจารณาในเรื่องตอไปนี้ 1.2.3.1 วุฒิภาวะทางอารมณ 1.2.3.2 พหุปญญา 1.2.3.3 พัฒนาการและศักยภาพดานตางๆ 1.2.3.4 วิธีการเรียนรูของแตละคน 1.2.3.5 ความสนใจและความถนัด 1.2.3.6 สภาพความเปนอยูและครอบครัว 1.2.3.7 ปญหา ขอจํากัด 1.2.3.8 ความตองการในการพัฒนา

รูปท่ี 1.9 การเรียนรูจาการจัดกิจกรรมโดยยึดผูเรียนเปนสําคัญ (ท่ีมา: http://www.gotoknow.org/posts/412318)

1.2.4 การจัดการเรียนรูใหผูเรียนไดพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ มีวิธีการดังตอไปนี้

1.2.4.1 จัดหลักสูตรท่ีสนองความตองการ เชื่อมโยงกับชีวิตจริงของผูเรียน 1.2.4.2 ออกแบบการจัดการเรียนรูใหผูเรียนพัฒนาเต็มศักยภาพและใหสอดคลอง

กับการเรียน 5 ลักษณะ ประกอบดวย การเรียนรูอยางมีความสุข การเรียนรูจากการคิดและปฏิบัติจริง การเรียนรูรวมกับบุคคลอ่ืน การเรียนรูแบบองครวม และการเรียนรูกระบวนการจัดการเรียนรูของตนเอง

1.2.4.3 จัดการเรียนรูใหผูเรียนไดเรียนรูอยางครบวงจร 1.2.4.4 ใชแหลงการเรียนรูท่ีหลากหลาย เหมาะกับธรรมชาติของผูเรียน 1.2.4.5 ประเมินผูเรียนจากพัฒนาการ พฤติกรรมตามสภาพความจริงดวยวิธีการ

และเครื่องมือท่ีหลากหลาย 1.2.4.6 ใชกระบวนการวิจัยเปนเครื่องมือหนึ่งของกระบวนการเรียนรู 1.2.4.7 จัดการเรียนรูอยางเปนระบบ ดวยรูปแบบ วิธีการ เทคนิคการจัดการเรียน

การสอนอยางหลากหลาย เหมาะสมกับผูเรียน

Page 14: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

7

1.2.5 รูปแบบการจัดการเรียนการสอนท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญ มีดังนี้ 1.2.5.1 การเรียนรูแบบสืบสวนสอบสวน 1.2.5.2 การเรียนรูแบบการใชเหตุผลเชิงจริยธรรม 1.2.5.3 การเรียนรูแบบมีสวนรวม 1.2.5.4 การเรียนรูโดยใชแผนการออกแบบประสบการณ 1.2.5.5 การเรียนรูแบบโครงงาน 1.2.5.6 การเรียนรูการคิดเชิงอุปนัย 1.2.5.7 การเรียนรูแบบคนควาเปนกลุม 1.2.5.8 การเรียนรูแบบความคิดรวบยอด 1.2.5.9 การเรียนรูแบบมุงประสบการณ 1.2.5.10 การเรียนรูโดยการคนพบ 1.2.5.11 การเรียนรูท่ีบาน

รูปท่ี 1.10 รูปแบบการเรียนรูแบบโครงงาน (ท่ีมา: http://www.panaya-kindergarten.com/education_patthanakan.html)

1.3 ส่ือการเรียนการสอน ในการจัดการเรียนการสอน สิ่งสําคัญในการสื่อสาร ประกอบดวย ผูสง ผูรับ เนื้อหาบทเรียน

(สาร) และชองทางในการสงสาร หรือ สื่อ นั้นเอง การจัดการเรียนการสอนในลักษณะเดิมท่ีเนนการบรรยาย การอธิบายใหผูเรียนเขาใจ อาจสรางความเบื่อหนาย จําเจ การนําสื่ออ่ืน เชน ภาพ แผนภูมิ ขอความ เสียง จึงเปนเครื่องมือท่ีสําคัญในการดึงดูดความสนใจผูเรียน

สื่อการเรียนการสอนในท่ีนี้จึงหมายถึง เครื่องมือ อุปกรณ หรือเทคโนโลยี ประกอบกับ

รูปแบบวิธีการเรียนการสอน ผสานตัวกลางท่ีชวยในการนําความรู จากผูสอนหรือแหลงเรียนรู สงตอไปถึงผู เรียน เพ่ือใหผู เรียนเกิดการเรียนรูตามจุดประสงค ท่ีกําหนดไวอยางถูกตองและมีประสิทธิภาพ

Page 15: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

8

การนําสื่อมัลติมีเดียเขามาใชในการเรียนการสอน เกิดจากการนําเนื้อหาบทเรียน เรื่องราวตาง ๆ ท่ีจะใชสอนและบรรยายในชั้นเรียน สรางเปนบทเรียนโดยการใชภาพถาย ภาพกราฟก ภาพเคลื่อนไหว เสียงบรรยาย และเสียงประกอบ บรรจุลงไปในบทเรียน ผูเรียนสามารถมีปฏิสัมพันธกับบทเรียน สามารถเลือกเรียนเนื้อหาตามลําดับท่ีตนตองการ

รูปท่ี 1.11 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน (ท่ีมา: http://www.fanmath.com/about/best-learning-system)

รูปท่ี 1.12 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน (ท่ีมา: http://www.fanmath.com/2012/12/fanmath-classroom)

Page 16: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

9

1.4 บทบาทและคุณลักษณะส่ือมัลติมีเดีย 1.4.1 บทบาทของสื่อมัลติมีเดียในฐานะคอมพิวเตอรชวยสอน

เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นเขามามีบทบาทตอชีวิตประจําวันมากข้ึน สังเกตไดตั้งแตตื่นนอนตอนเชาจนเขานอนในตอนกลางคืน การใชเครื่องคอมพิวเตอรในสํานักงาน สถานท่ีราชการ การควบคุมสัญญาไฟจราจร ระบบฐานขอมูล ประวัติการรักษาในโรงพยาบาล และอ่ืนๆมากมาย เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนํามาประยุกตใชอยางแพรหลาย ในวงการการศึกษาก็เชนเดียวกัน มีการนําเครื่องมือ และเทคโลยีตางๆ มาใช หรือท่ีคนท่ัวไปรูจักคือ เทคโนโลยีทางการศึกษา หรือ นวัตกรรมทางการศึกษา

รูปท่ี 1.13 เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา (ท่ีมา: http://pathima0212.blogspot.com)

เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา เปนผลของความเจริญในดานตางๆ ซ่ึงเกิดจาก

การศึกษา คนควา ทดลอง ประดิษฐคิดคนสิ่งตางๆ โดยอาศัยความรูทางวิทยาศาสตร มาประยุกตใชในการพัฒนาท่ีเก่ียวของกับการศึกษา ท้ังนี้พัฒนาการของเทคโนโลยีการศึกษานั้น มีความยาวนานตั้งแตสมัยของชาวกรีก แตไมวาจะยุคใดสมัยใด สิ่งท่ีเปนสวนสําคัญของเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา ก็คือ สื่อการสอนนั้นเอง

สื่อเพ่ือการศึกษาสมัยใหมมีความหลากหลายและนาสนใจ หนึ่งในนั้นคือ สื่อมัลติมีเดีย หรือ

สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา หมายถึง รูปแบบ หรือ โปรแกรมคอมพิวเตอรท่ีออกแบบสําหรับใชในการเรียนการสอน โดยผูออกแบบ หรือกลุมพัฒนาไดบูรณาการเอาขอมูลตาง ๆ เชน ภาพนิ่ ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง วิดีโอ และขอความ รวมเขาเปนองคประกอบ เ พ่ือสื่อสาร และสรางประสบการณ เพ่ือใหเกิดการเรียนรูมีประสิทธิภาพนั่นเอง

Page 17: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

10

1.4.2 บทบาทของสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา มี 2 ประเภท ดังนี้ 1.4.2.1 สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการนําเสนอขอมูล

นักจิตวิทยาท่ีมีชื่อเสียงท่ีสุดในกลุมนี้คือ สกินเนอร (B.F. Skinner) เชื่อวา การเรียนรูของมนุษยเปนสิ่งท่ีสามารถสังเกตไดจากพฤติกรรมภายนอก และเชื่อในทฤษฎีการวางเง่ือนไข โดยมีแนวคิดเก่ียวกับความสัมพันธระหวางสิ่งเรา และการตอบสนอง การใหการเสริมแรง ทฤษฎีนี้เชื่อวา การเรียนรูเกิดจากการท่ีมนุษยตอบสนองตอสิ่งเรา และพฤติกรรมการตอบสนองจะเขมขนข้ึนหากไดรับการเสริมแรงท่ีเหมาะสม เปนโปรแกรมคอมพิวเตอรท่ีออกแบบ เพ่ือใชในการนําเสนอขอมูลสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา โดยใชคอมพิวเตอรรวมเปนฐานในการนําเสนอขอมูลดวย เชน ควบคุมการเสนอภาพสไลดมัลติวิชั่น ควบคุมการนําเสนอในรูปแบบของวิดีโอเชิงโตตอบ (Interactive Video) และเครื่องเลนซีดี-รอม ใหเสนอภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว ตามเนื้อหาบทเรียนท่ีปรากฏอยูบนจอคอมพิวเตอร สวนใหญจะอยูในรูปการสื่อสารทางเดียว

รูปท่ี 1.14 ตัวอยางสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการนําเสนอขอมูล

(ท่ีมา: http://www.kmitl.ac.th/agritech/nutthakorn/sproject/kit/index.html)

1.4.2.2 สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรูดวยตนเอง สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรูดวยตนเอง หรือแหลงเรียนรู หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอรท่ี

ออกแบบ โดยใชคอมพิวเตอรเปนฐานในการผลิตแฟมสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา และนําเสนอแฟมท่ีผลิตแลวแกผูศึกษา ผูศึกษาก็เพียงแตเปดแฟมเพ่ือเรียน หรือใชงาน ตามท่ีโปรแกรมสําเร็จรูปกําหนดไว ก็จะไดเนื้อหาลักษณะตาง ๆ อยางครบถวน โดยการนําเสนอขอมูลของสื่อมัลติมีเดียนี้ จะเปนไปในลักษณะสื่อมัลติมีเดียเชิงปฎิสัมพันธ (Interactive)

Page 18: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

11

รูปท่ี 1.15 สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรูดวยตนเอง (ท่ีมา: http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=92706)

1.4.3 ลักษณะของสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา แบงเปน 3 ลักษณะ

1.4.3.1 คอมพิวเตอรชวยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI ) คอมพิวเตอรชวยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI ) เปนสื่อมัลติมีเดียท่ีเนน

การใชงานในเครื่องเดี่ยว (Stand Alone) โดยมีการออกแบบใหมีกิจกรรมในรูปแบบตาง ๆ ท่ีเนน ใหผูเรียนมีปฏิสัมพันธ (Interaction) กับบทเรียน พรอมท้ังไดรับผลยอนกลับ (Feedback) อยางทันทีทันใด รวมท้ังสามารถประเมิน และตรวจสอบความเขาใจของผูเรียนไดตลอดเวลา โดยมีเปาหมายสําคัญ ในการเปนบทเรียนท่ีชวยใหผูเรียน เกิดการเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพ สามารถดึงดูดความสนใจของผูเรียน และกระตุนใหผูเรียนอยากเรียนรูซ่ึงสวนใหญแลวรูปแบบการเรียนนี้ มักจะไดรับการบันทึกไวบนแผนซีดีรอม

รูปท่ี 1.16 คอมพิวเตอรชวยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI) (ท่ีมา: http://www.cai-dd.com)

Page 19: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

12

1.4.3.2 การเรียนการสอนผานระบบเครือขาย (Web Based Instruction : WBI) การเรียนการสอนผานระบบเครือขาย หรือการสอนบนเว็บ (Web Based Instruction :

WBI) เปนสื่อมัลติมีเดียท่ีเนนการใชงานในระบบเครือขายอินเทอรเน็ต หรืออินทราเน็ต เปนการผสมผสานระหวางเทคโนโลยีกับกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพทางการเรียนรู และแกปญหาในเรื่องขอจํากัดดานสถานท่ีและเวลา โดยการสอนบนเว็บจะประยุกตใชคุณสมบัติและทรัพยากรของเวิลด ไวด เว็บ ในการจัดการสภาพแวดลอมท่ีสงเสริมและสนับสนุนการเรียนการสอน ซ่ึงการเรียนการสอนท่ีจัดผานเว็บนี้ อาจเปนบางสวนหรือท้ังหมดของกระบวนการเรียนการสอนก็ได

รูปท่ี 1.17 การเรียนการสอนผานระบบเครือขาย หรือการสอนบนเว็บ (ท่ีมา: https://www.khanacademy.org)

1.4.3.3 E–Learning

E–Learning คือ การเรียนการสอนในลักษณะ หรือรูปแบบใดก็ได ซ่ึงใชการถายทอดเนื้อหาผานทางอุปกรณอิเล็กทรอนิกส ไมวาจะเปน คอมพิวเตอร เครือขายอินเทอรเน็ต อินทราเน็ต เอ็กซทราเน็ต หรือ ทางสัญญาณโทรทัศน หรือ สัญญาณดาวเทียม (Satellite) ก็ได ซ่ึงเนื้อหาสารสนเทศอาจอยูในรูปแบบการเรียนท่ีเราคุนเคยกันมาพอสมควร เชน คอมพิวเตอรชวยสอน (Computer-Assisted Instruction) การสอนบนเว็บ (Web-Based Instruction) การเรียนออนไลน (On-line Learning) การเรียนทางไกลผานดาวเทียม หรือ อาจอยูในลักษณะท่ียังไมคอยเปนท่ีแพรหลายนัก เชน การเรียนจากวิดีทัศน ตามอัธยาศัย (Video On-Demand) เปนตน

Page 20: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

13

รูปท่ี 1.18 ระบบ E-Leaning มหาวิทยาลัยพะเยา (ท่ีมา: http://www.lms.up.ac.th)

ในปจจุบันคนสวนใหญเม่ือกลาวถึง e-Learning จะหมายเฉพาะถึงการเรียนเนื้อหาหรือ

สารสนเทศ ซ่ึงออกแบบมาสําหรับการสอนหรือการอบรม ซ่ึงใช เทคโนโลยีของเว็บ (Web Technology) ในการถายทอดเนื้อหา และเทคโนโลยีระบบการจัดการคอรส (Course Management System) ในการบริหารจัดการงานสอนดานตางๆ โดยผูเรียนท่ีเรียนจาก e-Learning นี้สามารถศึกษาเนื้อหาในลักษณะออนไลน หรือจากแผนซีดี-รอม ก็ได นอกจากนี้ เนื้อหาสารสนเทศของ e-Learning สามารถนําเสนอโดยอาศัยเทคโนโลยีมัลติมีเดีย (Multimedia Technology) และเทคโนโลยีเชิงโตตอบ (Interactive Technology)

Page 21: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

14

1.4.4 คุณลักษณะของสื่อมัลติมีเดีย คุณลักษณะสําคัญ 4 ประการของสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรูดวยตนเองท่ีสมบูรณ ไดแก

1.4.4.1 สารสนเทศ (Information) สารสนเทศ (Information) หมายถึง เนื้อหาสาระ (content) ท่ีไดรับการเรียบเรียงแลวเปน

อยางดี ซ่ึงทําใหผูเรียนเกิดการเรียนรูหรือไดรับทักษะอยางหนึ่งอยางใดท่ีผูสรางไดกําหนดวัตถุประสงคไว โดยอาจจะนําเสนอเนื้อหาในลักษณะทางตรงหรือทางออมก็ได

รูปท่ี 1.19 เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) (ท่ีมา: http://www.123rf.com/photo_11983586)

1.4.4.2 ความแตกตางระหวางบุคคล (Individualization)

ความแตกตางระหวางบุคคล (Individualization) การตอบสนองความแตกตางระหวางบุคคลท้ังจากบุคลิกภาพ สติปญญา ความสนใจ พ้ืนฐานความรู คือลักษณะสําคัญของคอมพิวเตอรชวยสอน โดยผูเรียนจะมีอิสระในการควบคุมการเรียนของตนเอง รวมท้ังการเลือกรูปแบบท่ีเหมาะสมกับตนเองได เชน สามารถควบคุมเนื้อหา ควบคุมลําดับของการเรียน ควบคุมการฝกปฏิบัติ หรือการทดสอบ เปนตน

1.4.4.3 การมีปฏิสัมพันธ (Interaction)

เนื่องจากผูเรียนจะเกิดการเรียนรูไดอยางมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน หากไดมีการโตตอบหรือปฏิสัมพันธกับผูสอน ดังนั้น สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษาท่ีออกแบบมาเปนอยางดีจะเอ้ืออํานวยใหเกิดการโตตอบระหวางผูเรียนกับคอมพิวเตอรชวยสอนอยางตอเนื่องและตลอดท้ังบทเรียน การอนุญาตใหผูเรียนเพียงแตคลิ๊กเปลี่ยนหนาจอไปเรื่อยๆทีละหนา ไมถือวาเปนปฏิสัมพันธท่ีเพียพอสําหรับการเรียนรู แตตองมีการใหผูเรียนไดใชเวลาในสนของการคิดวิเคราะหและสรางสรรคเพ่ือใหไดมาซ่ึงกิจกรรมการเรียนนั้นๆ

Page 22: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

15

รูปท่ี 1.20 การมีปฏิสัมพันธตอผูเรียน (ท่ีมา: http://www.thehindu.com/metroplus/bridging-the-divide/article5003379.ece)

1.4.4.4 ผลปอนกลับโดยทันที (Immediate Feedback)

การใหผลปอนกลับนี้เปนสิ่งท่ีทําใหคอมพิวเตอรชวยสอนแตกตางไปจากมัลติมีเดีย-ซีดีรอมสวนใหญ ซ่ึงไดมีการนําเสนอเนื้อหาเก่ียวกับเรื่องราวของสิ่งตางๆ แตไมไดมีการประเมินความเขาใจของผูเรียน ไมวาจะอยูในรูปแบบของการทดสอบ แบบฝกหัด หรือการตรวจสอบความเขาใจในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จึงทําใหมัลติมีเดีย-ซีดีรอมเหลานั้น ถูกจัดวาเปน มัลติมีเดียเพ่ือการนําเสนอขอมูล (Presentation Media) ไมใชคอมพิวเตอรชวยสอน

รูปท่ี 1.21 การเสริมแรงผูเรียนโดยการใหผลปอนกลับโดยทันที (ท่ีมา: http://yesican-specializedacademicsupport.blogspot.com/2013/11)

Page 23: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

16

เอกสารอางอิง กิดานันท มลิทอง. (2548). ไอซีทีเพ่ือการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ. คณะกรรมการการประถมศึกษาแหงชาติ, สํานักงาน. (2542). กลุมพลังการเรียนแบบรวมมือ.

กรุงเทพมหานคร : คุรุสภา ลาดพราว. คณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ, สํานักงาน. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.

2542 และท่ีแกไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 3) พ.ศ.2553. กรุงเทพมหานคร : สํานักนายกรัฐมนตรี.

ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ ถนอมพร เลาหจรัสแสง.(2550). รายงานวิจัยเรื่องการบูรณาการเทคโนโลยี e-Learning ประเภท

เกมในช้ันเรียน. สถานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม. ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2545). Design e-Learning: หลักการออกแบบและการสรางเว็บเพ่ือ

การเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ. ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2543). คอมพิวเตอรชวยสอน. กรุงเทพมหานคร : วงศกมลโพรดักชั่น. ทิศนา แขมมณี. (2546). รูปแบบการเรียนการสอน : ทางเลือกท่ีหลากหลาย. กรุงเทพฯ :

จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. บุปผชาติ ทัฬหิกรณ และคณะ. (2544). ความรูเกี่ยวกับส่ือมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา.

กรุงเทพมหานคร : ศูนยพัฒนาหนังสือ พิสุทธา อารีราษฎร. (2551). การพัฒนาซอฟแวรทางการศึกษา. มหาสารคาม : อภิชาตการพิมพ ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพมหานคร :

นานมีบุคสพับลิเคชั่นส.

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 1.1 สวนประกอบของสื่อมัลติมีเดีย, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://fungbintwo.blogspot.com/2009/11/multimedia.html) รูปท่ี 1.2 สื่อมัลติมีเดีย, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก (http://jatupo5604music.blogspot

.com) รูปท่ี 1.3 สื่อมัลติมีเดียสมัยใหม, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://mindcater.com/new-hi-technical-computer-technology-2014) รูปท่ี 1.4 บทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.vcharkarn. com/vblog/3566) รูปท่ี 1.5 การเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) , สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://withfriendship.com/user/kethan123/hyperlink.php) รูปท่ี 1.6 Cloud Computing การเชื่อมโยงกลุมเมฆ, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.uni.net.th/backend/uninews/print.php?name=2012111122) รูปท่ี 1.7 การจัดการเรียนรูตามแนวคิดแบบมอนเตสเซอรี่, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.dusitcenter.org/dusitwebs/plan/news.php?id=1973)

Page 24: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

17

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 1.8 การเรียนรูท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญ, สืบคนเม่ือ 30 ธนัวาคม 2556, จาก

(http://www.gotoknow.org/posts/412318) รูปท่ี 1.9 การเรียนรูจาการจัดกิจกรรมโดยยึดผูเรียนเปนสําคัญ, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.gotoknow.org/posts/412318) รูปท่ี 1.10 รูปแบบการเรียนรูแบบโครงงาน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.panaya-kindergarten.com/education_patthanakan.html) รูปท่ี 1.11 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.fanmath.com/about/best-learning-system) รูปท่ี 1.12 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.fanmath.com/2012/12/fanmath-classroom) รูปท่ี 1.13 เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://pathima0212.blogspot.com) รูปท่ี 1.14 ตัวอยางสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการนําเสนอขอมูล, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.kmitl.ac.th/agritech/nutthakorn/sproject/kit/index.html) รูปท่ี 1.15 สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรูดวยตนเอง, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=92706) รูปท่ี 1.16 คอมพิวเตอรชวยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI), สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม

2556, จาก (http://www.cai-dd.com) รูปท่ี 1.17 การเรียนการสอนผานระบบเครือขาย หรือการสอนบนเว็บ, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556,

จาก (https://www.khanacademy.org) รูปท่ี 1.18 ระบบ E-Leaning มหาวิทยาลัยพะเยา, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.lms.up.ac.th) รูปท่ี 1.19 เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology), สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.123rf.com/photo_11983586) รูปท่ี 1.20 การมีปฏิสัมพันธตอผูเรียน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.thehindu.com/metroplus/bridging-the-divide/article5003379.ece)

รูปท่ี 1.21 การเสริมแรงผูเรียนโดยการใหผลปอนกลับโดยทันที, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก (http://yesican-specializedacademicsupport.blogspot.com/2013/11)

Page 25: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

18

Page 26: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 2 หลักการและการออกแบบสื่อมัลติมเีดียแบบมปีฏิสัมพันธ

ในการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธใหมีคุณภาพและประสิทธิภาพ จําเปนอยางยิ่งท่ี

ตองศึกษาหลักการและทฤษฎีท่ีเก่ียวของ เพ่ือใหสื่อมีความถูกตอง สอดคลองและตอเนื่อง การอาศัยความรูเฉพาะดาน ทฤษฎีทางจิตวิทยา รูปแบบการเรียนรู ลักษณะเฉพาะของสื่อมัลติมีเดีย และทฤษฎีท่ีนักการศึกษายอมรับ จะเปนสวนสําคัญท่ีทําใหสื่อมัลติมีเดียมีความนาสนใจตอผูเรียน

นอกจากนั้นการพัฒนาสื่อการเรียนรู โดยไรแนวทางหรือหลักการ ทําใหการวางแผน ระยะเวลาในการพัฒนาคลาดเคลื่อน หรือ ผิดพลาด อีกท้ังผลกระทบจากผลลัพธท่ีไมเปนไปตามวัตถุประสงคท่ีกําหนด อาจกอใหเกิดปญหากับผูเรียน อยางไรก็ตามกระบวนการพัฒนาสื่อการเรียนรูสามารถปรับปรุงแกไขได หากมีการวางโครงการหรือออกแบบสื่อไวอยางถูกตอง

2.1 ทฤษฏีเกี่ยวกับส่ือมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ

2.1.1 ทฤษฎกีารสื่อสาร การสื่อสาร หรือ การสื่อความหมาย (Communication) หมายถึง การถายทอดเรื่องราว

การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การแสดงออกของความคิดและความรูสึก เพ่ือการติดตอสื่อสารขอมูลซ่ึงกันและกัน (กิดานันท มลิทอง, 2540) รูปแบบของการสื่อสาร แบงไดเปน 2 รูปแบบ คือ

2.1.1.1 การสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication) การสื่อสารทางเดียวเปนการสงสารหรือสื่อความหมายไปยังผูรับเพียงฝายเดียว โดยท่ีผูรับไม

สามารถตอบสนองทันที (Immediate Response) กับผูสง แตอาจจะมีผลปอนกลับไปยังผูสงในภายหลังได การสื่อสารในรูปแบบนี้จึงเปนการท่ีผูสงและผูรับไมสามารถมีปฏิสัมพันธแบบทันที

2.1.1.2 การสื่อสารสองทาง (Two-Way Communication) การสื่อสารสองทางเปนการสื่อสารหรือการสื่อความหมายท่ีผูรับมีโอกาสตอบสนองมายังผูสง

ไดในทันที โดยท่ีผูสงและผูรับอาจจะอยูตอหนากันหรืออาจอยูคนละสถานท่ีก็ได แตท้ังสองฝายจะสามารถมีการเจรจาหรือการโตตอบกันไปมา โดยท่ีตางฝายตางผลัดกันทําหนาท่ีเปนท้ังผูสงและผูรับในเวลาเดียวกัน

ดังนั้น ในการท่ีจะเกิดการเรียนรูข้ึนไดนี้ พบวาตองอาศัยกระบวนการของการสื่อสารในรูปแบบของการสื่อสารทางเดียวและสองทาง ในลักษณะของการใหสิ่งเราเพ่ือกระตุนใหผูเรียนมีการแปลความหมายของเนื้อหาบทเรียน และใหมีการตอบสนองเพ่ือเกิดเปนการเรียนรู ลักษณะของสิ่งเราและการตอบสนองในการสื่อสาร หมายถึง การท่ีผูสอนใหสิ่งเราหรือสงแรงกระตุนไปยังผูเรียนเพ่ือใหผูเรียนมีการตอบสนองออกมา โดยผูสอนอาจใชสื่อโสตทัศนูปกรณตาง ๆ เชน คอมพิวเตอร เปนผูสงเนื้อหาบทเรียน สวนการตอบสนองของผูเรียน ไดแก คําพูด การเขียน รวมถึงกระบวนการทางดานความคิด การเรียนรู ซ่ึงอาศัยรูปแบบการสื่อสารท่ีเก่ียวของกับการแปลความหมาย และการตอบสนอง

Page 27: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

20

2.1.2 ทฤษฎีการเรียนรูพฤติกรรมนิยม (Behaviorism) พฤติกรรมนิยมมองผูเรียนเหมือนกับกระดาษท่ีวางเปลา ผูสอนเตรียมประสบการณใหกับ

ผูเรียน เพ่ือสรางประสบการณใหมใหผูเรียน อาจกระทําซํ้าจนกลายเปนพฤติกรรม ผูเรียนทําในสิ่งท่ีพวกเขาไดรับฟง

2.1.3 ทฤษฎีการเรียนรูปญญานิยม (Cognitivism)

ปญญานิยมอยูบนฐานของกระบวนการคิดกอน แสดงพฤติกรรม การเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมท่ีจะถูกสังเกต สิ่งเหลานั้น มันก็เปนเพียงแตการบงชี้วาสิ่งนี้กําลังดําเนินตอไปในสมองของผูเรียน ทักษะใหมๆ ท่ีสะทอนสงออกมาเปนกระบวนการประมวลผลขอมูลทางสติปญญา

2.1.4 ทฤษฎีการสรางองคความรูดวยปญญา หรือ พุทธิปญญานิยม (Constructivism)

การสรางสรรคความรูดวยปญญาอยูบนฐานของ การอางอิงหลักฐานในสิ่งท่ีพวกเราสรางข้ึนแสดงใหปรากฏแกสายตาของ เราดวยตัวของเราเอง และอยูบนฐานประสบการณของแตละบุคคล องคความรูจะถูกสรางข้ึนโดยผูเรียน และโดยเหตุผลท่ีทุกคนตางมีชุดของประสบการณตางๆ ของการเรียนรูจึงมีลักษณะเฉพาะตน และมี ความแตกตางกันไปในแตละคน

ท้ังสามทฤษฏีตางมีความสําคัญเทาเทียมกัน เม่ือไดการตัดสินใจท่ีจะใชยุทธศาสตรนี้ มีสิ่งท่ี

สําคัญและจําเปนท่ีสุดของชีวิตท่ีตองพิจารณาท้ังสองระดับ คือ ระดับองคความรูของนักเรียนของทาน และระดับการประมวลผลทางสติปญญาท่ี ตองการในผลงานหรือภาระงานแหงการเรียนรู ระดับการประมวลผลทางสติปญญาท่ี ตองการสรางผลงาน/ภาระงาน และระดับความชํานิชํานาญของนักเรียนของเรานี้ การมองหาภาพทางทฤษฎี จะมีความเปนไปไดท่ีสนับสนุนการมีความ พยายามท่ีจะเรียนรูทางยุทธวิธีบางทีก็มีความซับซอนและมีความเลื่อมล้ํากันอยูบาง และก็มีความจําเปนเหมือนๆ กัน ในการวบรวมยุทธวิธีตาง ๆ จากความแตกตางท่ีเปนจริง ทางทฤษฎี เม่ือเรามีความตองการ

2.1.5 ทฤษฎีการเรียนรูของกาเย (Gagne)

กาเยไดนําเอาแนวความคิดมาใชในการเรียนการสอนโดยยึดหลักการนําเสนอเนื้อหาและจัดกิจกรรมการเรียนรูจากการมีปฏิสัมพันธ ดังนี้

2.1.5.1 เรงเราความสนใจ (Gain Attention) กระตุนหรือเราใหผูเรียนเกิดความสนใจกับบทเรียนและเนื้อหาท่ีจะเรียนการเราความสนใจ

ผู เรียนนี้อาจทําไดโดย การจัดสภาพแวดลอมใหดึงดูดความสนใจ เชน การใชภาพกราฟก ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือการใชเสียงประกอบบทเรียนในสวนบทนํา

2.1.5.2 บอกวัตถุประสงค (Specify Objective) การบอกวัตถุประสงคเปนการแจงใหผูเรียนทราบถึงจุดประสงคของบทเรียนนี้มีความสําคัญ

เปนอยางยิ่ง โดยเฉพาะการเรียนการสอนบนเว็บท่ีผูเรียนสามารถควบคุมการเรียนของตนเองไดโดย การเลือกศึกษาเนื้อหาท่ีตองการศึกษาไดเอง ดังนั้นการท่ีผูเรียนไดทราบถึงจุดประสงคของบทเรียนลวงหนาทําใหผูเรียนสามารถมุงความสนใจไปท่ีเนื้อหาบทเรียนท่ีเก่ียวของ อีกท้ังยังสามารถเลือก

Page 28: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

21

ศึกษาเนื้อหาเฉพาะท่ีตนยังขาดความเขาใจท่ีจะชวยทําใหผูเรียนมีความรูความสามารถตรงตามจุดประสงคของบทเรียนท่ีไดกําหนดไว

2.1.5.3 ทบทวนความรูเดิม (Activate Prior Knowledge) การทบทวนความรูเดิมชวยกระตุนใหผูเรียนสามารถเรียนรูเนื้อหาใหมไดรวดเร็วยิ่งข้ึน

รูปแบบการทบทวนความรูเดิมในบทเรียนบนเว็บทําไดหลายวิธี เชน กิจกรรมการถาม-ตอบคําถาม หรือการแบงกลุมใหผูเรียนอภิปรายหรือสรุปเนื้อหาท่ีไดเคยเรียนมาแลว เปนตน

2.1.5.4 นําเสนอเนื้อหาใหม (Present New Information) การนําเสนอบทเรียนบนเว็บสามารถทําไดหลายรูปแบบดวยกัน คือ การนําเสนอดวยขอความ

รูปภาพ เสียง วีดิทัศน สิ่งสําคัญท่ีผูสอนควรใหความสําคัญก็คือผูเรียน ผูสอนควรพิจารณาลักษณะของผูเรียนเปนสําคัญเพ่ือใหการนําเสนอบทเรียนเหมาะสมกับผูเรียนมากท่ีสุด

2.1.5.5 ชี้แนะแนวทางการเรียนรู (Guide Learning) การชี้แนวทางการเรียนรู หมายถึง การชี้แนะใหผูเรียนสามารถนําความรูท่ีไดเรียนใหม

ผสมผสานกับความรูเกาท่ีเคยไดเรียนไปแลว เพ่ือใหผูเรียนเกิดการเรียนรูท่ีรวดเร็วและมีความแมนยํามากยิ่งข้ึน

2.1.5.6 กระตุนการตอบสนองบทเรียน (Elicit Response) นักการศึกษาตางทราบดีวาการเรียนรูเกิดข้ึนจากการท่ีผูเรียนไดมีโอกาสมีสวนรวมใน

กระบวนการเรียนการสอนโดยตรง ดังนั้นในการจัดการเรียนการสอนบนเว็บจึงควรเปดโอกาสใหผูเรียนมีสวนรวมในกิจกรรมการเรียน ซ่ึงอาจทําไดโดยการจัดกิจกรรมการสนทนาออนไลนรูปแบบ Synchronous หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผานเว็บบอรดในรูปแบบ Asynchronous เปนตน

2.1.5.7 ใหขอมูลยอนกลับ (Provide Feedback) ลักษณะเดนของการเรียนการสอนบนเว็บ คือ การท่ีผูสอนสามารถติดตอสื่อสารกับผูเรียนได

โดยตรง เนื่องจากบทบาทของผูสอนนั้นเปลี่ยนจากการเปนผูถายทอดความรู มาเปนผูใหคําแนะนําและชวยกํากับการเรียนของผูเรียนรายบุคคล และดวยความสามารถของอินเทอรเน็ตท่ีทําใหผูเรียนและผูสอนสามารถติดตอกันไดตลอดเวลา ทําใหผูสอนสามารถติดตามกาวหนาและสามารถใหผลยอนกลับแกผูเรียนแตละคนไดดวยความสะดวก

2.1.5.8 ทดสอบความรูใหม (Assess Performance) การทดสอบความรูความสามารถผูเรียนเปนข้ันตอนท่ีสําคัญอีกข้ันตอนหนึ่ง เพราะทําใหท้ัง

ผูเรียนและผูสอนไดทราบถึงระดับความรูความเขาใจท่ีผูเรียนมีตอเนื้อหาในบทเรียนนั้นๆ การทดสอบความรูในบทเรียนบนเว็บสามารถทําไดหลายรูปแบบ ไมวาจะเปนขอสอบแบบปรนัยหรืออัตนัย การจัดทํากิจกรรมการอภิปรายกลุมใหญหรือกลุมยอยเปนตน ซ่ึงการทดสอบนี้ผูเรียนสามารถทําการทดสอบบนเว็บผานระบบเครือขายได

2.1.5.9 สรุปและนําไปใช (Review and Transfer) การสรุปและนําไปใช จัดวาเปนสวนสําคัญในข้ันตอนสุดทายท่ีบทเรียนจะตองสรุปมโนคติของ

เนื้อหาเฉพาะประเด็นสําคัญ ๆ รวมท้ังขอเสนอแนะตาง ๆ เพ่ือเปดโอกาสใหผูเรียนไดมีโอกาสทบทวนความรูของตนเองหลังจากศึกษาเนื้อหาผานมาแลว ในขณะเดียวกันบทเรียนตองชี้แนะเนื้อหาท่ี

Page 29: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

22

เก่ียวของหรือใหขอมูลอางอิงเพ่ิมเติม เพ่ือแนะแนวทางใหผูเรียนไดศึกษาตอในบทเรียนถัดไปหรือนําไปประยุกตใชกับงานอ่ืนตอไป

รูปท่ี 2.1 ทฤษฎีการเรียนรูของกาเย (ท่ีมา: http://teacher80std.blogspot.com/2012/06/101-learning-ecology.html)

2.2 องคประกอบท่ีสําคัญท่ีกอใหเกิดการเรียนรู

2.2.1 ผูเรียน ( Learner) มีระบบสัมผัสและระบบประสาทในการรับรู 2.2.2 สิ่งเรา ( Stimulus) คือ สถานการณตางๆ ท่ีเปนสิ่งเราใหผูเรียนเกิดการเรียนรู 2.2.3 การตอบสนอง (Response) คือ พฤติกรรมท่ีเกิดข้ึนจากการเรียนรู 2.2.4 การสอนดวยสื่อตามแนวคิดของกาเย 2.2.5 เราความสนใจ มีโปรแกรมท่ีกระตุนความสนใจของผูเรียน เชน ใช การตูน หรือ

กราฟกท่ีดึงดูดสายตา 2.2.6 ความอยากรูอยากเห็นจะเปนแรงจูงใจใหผูเรียนสนใจในบทเรียน การตั้งคําถามก็

เปนอีกสิ่งหนึ่ง 2.2.7 บอกวัตถุประสงค ผูเรียนควรทราบถึงวัตถุประสงค ใหผูเรียนสนใจในบทเรียน

เพ่ือใหทราบวาบทเรียนเก่ียวกับอะไร 2.2.8 กระตุนความจําผูเรียน สรางความสัมพันธในการโยงขอมูลกับความรูท่ีมีอยูกอน

เพราะสิ่งนี้สามารถทําใหเกิดความทรงจําในระยะยาวไดเม่ือไดโยงถึงประสบการณผูเรียน โดยการตั้งคําถาม เก่ียวกับแนวคิด หรือเนื้อหานั้นๆ

Page 30: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

23

2.2.9 เสนอเนื้อหา ข้ันตอนนี้จะเปนการอธิบายเนื้อหาใหกับผูเรียน โดยใชสื่อชนิดตางๆ ในรูป กราฟก หรือ เสียง วิดีโอ

2.2.10 การยกตัวอยาง การยกตัวอยางสามารถทําไดโดยยกกรณีศึกษา การเปรียบเทียบ เพ่ือใหเขาใจไดซาบซ้ึง

2.2.11 การฝกปฏิบัติ เพ่ือใหเกิดทักษะหรือพฤติกรรม เปนการวัดความเขาใจวาผูเรียนไดเรียนถูกตอง เพ่ือใหเกิดการอธิบายซํ้าเม่ือรับสิ่งท่ีผิด

2.2.12 การใหคําแนะนําเพ่ิมเติม เชน การทําแบบฝกหัด โดยมีคําแนะนํา 2.2.13 การสอบ เพ่ือวัดระดับความเขาใจ 2.2.14 การนําไปใช กับงานท่ีทําในการทําสื่อควรมี เนื้อหาเพ่ิมเติม หรือหัวขอตางๆ ท่ีควร

จะรูเพ่ิมเติม

2.3 การออกแบบส่ือมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ การออกแบบสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนการสอน โดยใหเนนการผสมผสานของกราฟก สี

ภาพ เคลื่อนไหว การเปรียบเทียบการใหตัวอยางท่ีเปนรูปธรรม การใหขอมูลปอนกลับท่ีเปนภาพ ข้ันตอนการออกแบบนี้ถูกดัดแปลงมาจากกระบวนการเรียนรู 9 ข้ันของกาเย บริกส และ แวกเนอร ดังนี้

2.3.1 การเราความสนใจใหพรอมท่ีจะเรียน (Gain Attention) กอนท่ีจะเริ่มเรียนมีความจาเปนอยางยิ่งท่ีผูเรียนควรจะไดรับแรงกระตุนและจูงใจใหอยากท่ี

จะเรียน ทาไดโดยการใชภาพ สี เสียงประกอบ ในการสรางไตเติล (Title) ใช กราฟกขนาดใหญ งายไมซับซอน มีการเคลื่อนไหวท่ีสั้นและงาย ใชสีและเสียง เขาชวยใหสอดคลองกับกราฟก ภาพควรคางอยูท่ีจอภาพจนกวาผูเรียนจะเปลี่ยนภาพ ในกราฟกควรบอกชื่อเรื่องท่ีจะเรียน แสดงผลบนจอไดเร็วและควรเหมาะกับวัยของผูเรียนดวย

2.3.2 วัตถุประสงคของการเรียน (Specify Objective )

การบอกวัตถุประสงค ของการเรียนในสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษานั้น เพ่ือใหผูเรียนรูลวงหนาถึงประเด็น สาคัญของเนื้อหา และเคาโครงเนื้อหาอยางกวางๆ เพ่ือใหการเรียนรูมีประสิทธิภาพ การบอกวัตถุประสงคนั้นทาไดหลายแบบ อาจบอกเปนวัตถุประสงคเชิงพฤติกรรมหรือวัตถุประสงคท่ัวไป ซ่ึงจะตองคานึงดวยวาควรใชถอยคางาย หลีกเลี่ยงคา ท่ียังไมเปนท่ีรูจักและเขาใจโดยท่ัวไป ไมควรกาหนดวัตถุประสงคหลายขอเกินไป ถาเปน บทเรียนใหญมีวัตถุประสงคกวางๆ ควรตอดวยเมนู (Menu) แลวจึงมีวัตถุประสงคยอย ปรากฏบนจอ ทีละขอ โดยใชกราฟกงายๆ และการเคลื่อนไหวเขาชวย

2.3.3 ทบทวนความรูเดิม (Active Prior Knowledge)

กอนท่ีจะใหความรูใหม แกผูเรียน ซ่ึงในสวนของเนื้อหาและแนวความคิดนั้นๆ ผูเรียนอาจไมมีพ้ืนฐานมากอน มีความจาเปนอยางยิ่งท่ีผูออกแบบโปรแกรมควรจะตองหาวิธีการประเมินความรูเดิม ในสวนท่ีจาเปนกอนท่ีจะรับความรูใหม นอกจากจะเปนการเตรียมผูเรียน ใหพรอม ท่ีจะรับความรูใหม

Page 31: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

24

แลวสาหรับผูท่ีมีพ้ืนฐานแลวก็จะเปนการทบทวน แตก็ไมจาเปน ตองมีการทดสอบเสมอไป ข้ันนี้ควรเปดโอกาสใหผูเรียนออกจากเนื้อหา หรือแบบทดสอบไดตลอดเวลา

2.3.4 ใหเนื้อหาและความรูใหม (Present New Information)

ควรใช ภาพประกอบกับเนื้อหาท่ีกะทัดรัด งายและไดใจความ ภาพท่ีดีไมควรมีรายละเอียดและเวลามากเกินไป ไมเก่ียวกับเนื้อหา เขาใจยากหรือการออกแบบไมเหมาะสม การออกแบบโปรแกรมในสวนของเนื้อหาควรคานึงดวยวาควรใชภาพประกอบเฉพาะ สวนเนื้อหาท่ีสาคัญ อาจใชกราฟกในลักษณะตางๆ เชน แผนภูมิ แผนภาพ ภาพ เปรียบเทียบชวย เนื้อหาท่ียากและสลับซับซอนควรใชตัวชี้แนะ (Cue) เชนการขีดเสนใต การตีกรอบ การเปลี่ยนสีพ้ืน แตไมควรใชกราฟกท่ียากควรจัดรูปแบบใหนาอาน ยกตัวอยางท่ีเขาใจงาย ควรเสนอกราฟกเทาท่ีจาเปนและไมควรใชสีเกิน 3 สีในจอสี ใชคาท่ีคุนเคย การโตตอบควรมีหลายๆ แบบ

2.3.5 แสดงความสัมพันธของเนื้อหา (Guide Response)

ในข้ันนี้เปนการเปด โอกาสใหผูเรียนรวมคิด รวมกิจกรรม ซ่ึงยอมทาใหผูเรียนจดจาเนื้อหาไดดีและ สัมพันธกับประสบการณเดิมของผูเรียน ควรแสดงใหเห็นวา สวนยอยมีความสัมพันธ กับสวนใหญ และสิ่งใหมมีความสัมพันธกับความรูเดิมของผูเรียน บางครั้งควรใหตัวอยางท่ีแตกตางออกไปบาง ถาเนื้อหายากควรใหตัวอยางท่ีเปนรูปธรรม และควรกระตุนใหผูเรียนคิดถึงประสบการณเดิม

2.3.6 กระตุนการตอบสนอง (Elicit Responses)

ในข้ันนี้เปนการเปดโอกาสใหผูเรียนรวมคิด รวมกิจกรรมซ่ึงยอมทาใหผูเรียนจาเนื้อหาไดดี ควรใหผูเรียนตอบสนองวิธีใดวิธีหนึ่ง ไมควรใหตอบยาว ควรเราความคิด อาจใชกราฟกหรือเกมชวยในการตอบสนอง หลีกเลี่ยงการตอบสนองซาๆ ไมควรมีคาถามหลายคาถามในขอเดียวกัน การตอบสนองของผูเรียน คาถามและผลปอนกลับ ควรอยูในกรอบ (Frame) เดียวกัน

2.3.7 ใหขอมูลปอนกลับ (Provide feedback)

บทเรียนจะกระตุนความสนใจของผูเรียนไดมาก ถาบทเรียนนั้นบอกจุดมุงหมายท่ีชัดเจนและใหผลปอนกลับเพ่ือบอกใหผูเรียนรูวาผูเรียนอยูตรงไหน และควรคานึงดวยวา ผลปอนกลับควรใหทันทีหลังจากผูเรียนตอบสนอง บอกใหผูเรียนทราบวา ตอบถูกหรือผิด การแสดงคาถาม คาตอบและผลปอนกลับควรอยูในกรอบเดียวกัน ควรใชภาพงายๆ ท่ีเก่ียวของกับเนื้อหาเขาชวย ไมควรใชกราฟกท่ีไมเก่ียวของกับเนื้อหา ใชการใหคะแนนหรือภาพเพ่ือบอกความใกลไกลจากจุดหมาย และควรเปลี่ยนรูปแบบของผลปอนกลับบางเพ่ือเราความสนใจ

2.3.8 ทดสอบ (Assess Performance)

เพ่ือเปนการประเมินผลการเรียนและใหผูเรียนสามารถจาได ควรคานึงดวยวาแบบทดสอบควรตรงกับจุดประสงคของบทเรียน ขอทดสอบ ตอบ และขอมูลปอนกลับควรอยูในกรอบเดียวกัน และตอเนื่องอยางรวดเร็วไมควรใหผูเรียนพิมพคาตอบยาวเกินไป ควรให ผลปอนกลับครั้งเดียวในหนึ่ง

Page 32: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

25

คาถาม และควรบอกผูเรียนถึงวิธีท่ีจะตอบใหชัดเจน บอกผูเรียนวามี ตัวเลือกอ่ืนดวยหรือไมท่ีจะชวยในการทาแบบทดสอบ และตองคานึงถึงความแมนยา ความเชื่อถือไดของแบบทดสอบ อยาตัดสินใจวาตอบผิดถาคาตอบไมชัดเจน และควรใชภาพประกอบในการตั้งคาถามบาง

2.3.9 การนาความรูไปใช (Enhancing Retention and Transfer)

ควรให ผูเรียนทราบวา ความรูใหม มีสวนสัมพันธกับความรูเดิมอยางไร เพ่ือทบทวนแนวคิดสาคัญ เสนอแนะสถานการณท่ีความรูใหมอาจทาประโยชนไดและบอกผูเรียน ถึงแหลงขอมูลท่ีเปนประโยชนตอเนื่อง

2.4 ข้ันตอนการพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ มีข้ันตอนการสราง ดังนี้ 2.4.1 ข้ันการเตรียมการ (Preparation)

ข้ันตอนการเตรียมนี้ ผูออกแบบ จะตองเตรียมพรอมในเรื่องของความชัดเจนในการกําหนดเปาหมายและวัตถุประสงค เตรียมการโดยรวบรวมขอมูล เรียนรูเนื้อหา เพ่ือใหเกิดการสรางหรือระดมความคิด ข้ันตอนการเตรียมนี้เปนข้ันตอนท่ีสําคัญมากตอนหนึ่ง ท่ีผูออกแบบตองใชเวลาใหมาก เพราะการเตรียมพรอมในสวนนี้ จะทําใหข้ันตอนตอไปในการออกแบบเปนไปอยางตอเนื่อง และมีประสิทธิภาพ

2.4.2 ข้ันตอนการออกแบบบทเรียน (Design Instruction) ข้ันตอนท่ี 2 เปนข้ันตอนท่ีสําคัญท่ีสุดข้ันตอนหนึ่ง ในการกําหนดวาบทเรียนจะออกมาใน

ลักษณะใด ซ่ึงมีข้ันตอนในการออกแบบ ดังนี้ 2.4.2.1 ทอนความคิด (Elimination of Ideals) 2.4.2.2 วิเคราะหงาน และแนวคิด (Task and Concept Analysis) 2.4.2.3 การออกแบบบทเรียนข้ันแรก (Preliminary lesson Description) 2.4.2.4 ประเมิน และแกไขการออกแบบ (Evaluation and revision of the

design) 2.4.3 ข้ันตอนการเขียนผังงาน (Flow-chart Lesson)

ผังงานคือชุดของสัญลักษณตางๆ ซ่ึงอธิบายข้ันตอนการทํางานของโปรแกรมเปนการ นําเสนอ ลําดับข้ันตอน โครงสรางของบทเรียน คอมพิวเตอร ชวยสอน และทําหนาท่ีเสนอขอมูล เก่ียวกับโปรแกรม เชน อะไรจะเกิดข้ึน เม่ือผูเรียนตอบ คําถามผิด หรือ เม่ือไรท่ีจะมีการจบบทเรียน

2.4.4 ข้ันตอนการสราง สตอรี่บอรด (Create Storyboard) การสรางสตอรี่บอรดเปนข้ันตอนของการนําเสนอเนื้อหาและลักษณะของการนําเสนอเนื้อหา

และลักษณะของการนําเสนอดวยขอความ ภาพ รวมท้ังสื่อในรูปแบบมัลติมีเดียลงบนกระดาษ กอนท่ีจะนําเสนอบนหนาจอคอมพิวเตอรตอไป ในข้ันนี้ควรมีการประเมินและทบทวน แกไขบทเรียนจากสตอรี่บอรดนี้ จนกระท่ังผูรวมงานในทีมทุกฝายพอใจกับคุณภาพของบทเรียนเสียกอน ผูมีสวนรวมในการประเมินคือ ผูเชี่ยวชาญดานเนื้อหา ผูเชี่ยวชาญดานการออกแบบ ผูเรียนท่ีอยูในกลุมเปาหมาย

Page 33: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

26

เพ่ือชวยในการตรวจสอบเนื้อหาท่ีอาจจะสับสน ไมชัดเจน ตกหลน และเนื้อหาท่ีอาจจะยาก หรืองายเกินไป สําหรับผูเรียน

2.4.5 ข้ันตอนการสราง/เขียนโปรรแกรม (Program Lesson) ข้ันตอนการสราง/เขียนโปรแกรมนี้ เปนกระบวนการเปลี่ยนสตอรี่บอรดใหกลายเปน

คอมพิวเตอรชวยสอน การเขียนโปรแกรมนั้นอาจใชโปรแกรมภาษาตางๆ เชน เบสิก ปาสคาล หรือใชโปรแกรมชวยสรางบทเรียนคอมพิวตเอรชวยสอน เชน Authoware, Toolbook ปจจัยหลักในการพิจารณาโปรแกรมชวยสรางคอมพิวเตอรชวยสอนท่ีเหมาะสมนั้น ไดแก ฮารดแวรท่ีใช ลักษณะและประเภทของบทเรียนท่ีตองการสราง ประสบการณของผูสราง(โปรแกรมเมอร) และดานงบประมาณ

2.4.6 ข้ันตอนการผลิตเอกสารประกอบบทเรียน (Design Instruction) เอกสารประกอบบทเรียน อาจแบงไดเปน 4 ประเภท คือ คูมือการใชของผูเรียน คูมือการใช

ของผูสอน คูมือสําหรับแกปญหาเทคนิคตางๆ และเอกสารประกอบเพ่ิมเติมท่ัวๆไป (เชน ใบงาน) ผูสอนอาจตองการขอมูลเก่ียวกับการติดตั้งโปรแกรม การเขาไปดูขอมูลผูเรียน และการใชคอมพิวเตอรชวยสอนในหลักสูตร ผูเรียนอาจตองการขอมูลในการจัดการกับบทเรียน และการสืบไปในบทเรียน คูมือปญหา เทคนิค ก็มีความจําเปน หากการติดตั้งบทเรียน มีความสลับซับซอน หรือตองการใชเครื่องมือ อุปกรณอ่ืนๆ เชน การติดตั้ง แลน เอกสารเพ่ิมเติมประกอบ อาจไดแก แผนภาพ ขอสอบ ภาพประกอบ

2.4.7 ข้ันตอนการประเมิน และแกไข บทเรียน (Evaluate and Revise)

ในชวงสุดทาย เปนการประเมินบทเรียน และเอกสารประกอบท้ังหมด โดยเฉพาะ การประเมินในสวนของการนําเสนอ และการทํางานของบทเรียน ในสวนของการนําเสนอนั้น ผูท่ีควรจะทําการประเมินคือ ผูท่ีเคยมีประสบการในการ ออกแบบมากอน ในการประเมินการทํางานของบทเรียนนั้น สังเกตพฤติกรรมของผูเรียน ท่ีเปนกลุมเปาหมาย ในขณะท่ีใชบทเรียน หรือสัมภาษณ ผูเรียน หลังการใชบทเรียน นอกจากนี้ ยังอาจทดสอบ ความรูขอผูเรียน หลังจากท่ีไดเรียน จากคอมพิวเตอรชวยสอนนั้นๆ แลว ข้ันตอนนี้ อาจครอบคลุม การทดสอบนํารอง และประเมินจากผูเชี่ยวชาญ

ดังนั้นสื่อการเรียนการสอนทางคอมพิวเตอรรูปแบบหนึ่ง ซ่ึงใชความสามารถของคอมพิวเตอรในการนําเสนอสื่อประสมอันไดแก ขอความ ภาพนิ่ง กราฟก แผนภูมิ กราฟ วิดีทัศน ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพ่ือถายทอดเนื้อหาบทเรียน หรือองคความรูในลักษณะท่ี ใกลเคียงกับการสอนจริงในหองเรียนมากท่ีสุดโดยมีเปาหมายท่ีสําคัญก็คือ สามารถดึงดูดความสนใจของผูเรียน และกระตุนใหเกิดความตองการท่ี จะเรียนรู คอมพิวเตอรชวยสอนเปนตัวอยางท่ีดีของสื่อการศึกษาในลักษณะตัวตอตัว ซ่ึงผูเรียนเกิดการเรียนรูจากการมีปฏิสัมพันธ หรือการโตตอบพรอมท้ังการไดรับผลปอนกลับ นอกจากนี้ยังเปนสื่อ ท่ีสามารถตอบสนองความแตกตางระหวางผูเรียนไดเปนอยางดี รวมท้ังสามารถท่ีจะประเมิน และตรวจสอบความเขาใจของผูเรียนไดตลอดเวลา

Page 34: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

27

2.5 การประยุกตใชทฤษฎีการเรียนรู 2.5.1 การประยุกตใชทฤษฎีการเรียนรูพฤติกรรมนิยม

2.5.1.1 ในแงของความแตกตางระหวางบุคคล ความแตกตางทางดานอารมณมีแบบแผน การตอบสนองไดไมเทากัน จําเปนตองคํานึงถึงสภาพทางอารมณผูเรียนวาเหมาะสมท่ีจะสอนเนื้อหาอะไร

2.5.1.2 การวางเง่ือนไข เปนเรื่องท่ีเก่ียวกับพฤติกรรมทางดานอารมณดวย โดยปกติผูสอนสามารถทําใหผูเรียนรูสึกชอบหรือไมชอบเนื้อหาท่ีเรียนหรือสิ่งแวดลอมในการเรียน

2.5.1.3 การลบพฤติกรรมท่ีวางเง่ือนไข ผูเรียนท่ีถูกวางเง่ือนไขใหกลัวผูสอน เราอาจชวยไดโดยปองกันไมใหผูสอนทําโทษเขา

2.5.1.4 การสรุปความเหมือนและการแยกความแตกตาง เชน การอานและการสะกดคํา ผูเรียนท่ีสามารถสะกดคําวา "round" เขาก็ควรจะเรียนคําทุกคําท่ีออกเสียง o-u-n-d ไปในขณะเดียวกันได เชนคําวา found, bound, sound, ground, แตคําวา wound (บาดแผล) นั้นไมควรเอาเขามารวมกับคําท่ีออกเสียง o - u - n - d และควรฝกใหรูจักแยกคํานี้ออกจากกลุม

2.5.2 การประยุกตใชทฤษฎีการเรียนรูพุทธิปญญานิยม

2.5.2.1 กระบวนการคนพบการเรียนรูดวยตนเอง เปนกระบวนการเรียนรูท่ีดีมีความหมายสําหรับผูเรียน

2.5.2.2 การวิเคราะหและจัดโครงสรางเนื้อหาสาระการเรียนรูใหเหมาะสม เปนสิ่งจําเปนท่ีตองทํากอนการสอน

2.5.2.3 การจัดหลักสูตรแบบเกลียว (Spiral Curriculum) ชวยใหสามารถสอนเนื้อหาหรือความคิดรวบยอดเดียวกันแกผูเรียนทุกวัยได โดยตองจัดเนื้อหาความคิดรวบยอดและวิธีสอน ใหเหมาะสมกับข้ันพัฒนาการของผูเรียน

2.5.2.4 ในการเรียนการสอนควรสงเสริมใหผูเรียนไดคิดอยางอิสระใหมาก เพ่ือชวยสงเสริมความคิดสรางสรรคของผูเรียน

2.5.2.5 การสรางแรงจูงใจภายในใหเกิดข้ึนกับผูเรียนเปนสิ่งจําเปนในการจัดประสบการณการเรียนรูใหแกผูเรียน

2.5.2.6 การจัดกระบวนการเรียนรูใหเหมาะสมกับข้ันพัฒนาการทางสติปญญาของผูเรียนจะชวยใหผูเรียนเกิดการเรียนรูไดดี

2.5.2.7 การสอนความคิดรวบยอดใหแกผูเรียนเปนสิ่งจําเปน 2.5.2.8 การจัดประสบการณใหผูเรียนไดคนพบการเรียนรูดวยตนเองสามารถชวย

ใหผูเรียนเกิดการเรียนรูไดดี

Page 35: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

28

เอกสารอางอิง กิดานันท มลิทอง. (2540). เทคโนโลยีทางการศึกษาและนวัตกรรม. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ

มหาวิทยาลัย. ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2543). คอมพิวเตอรชวยสอน. กรุงเทพมหานคร : วงศกมลโพรดักชั่น. ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2545). Design e-Learning: หลักการออกแบบและการสรางเว็บเพ่ือ

การเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ. ถนอมพร เลาหจรัสแสง.(2550). รายงานวิจัยเรื่องการบูรณาการเทคโนโลยี e-Learning ประเภท

เกมในช้ันเรียน. สถานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม. ทิศนา แขมมณี. (2546). รูปแบบการเรียนการสอน : ทางเลือกท่ีหลากหลาย. กรุงเทพฯ :

จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. บุปผชาติ ทัฬหิกรณ และคณะ. (2544). ความรูเกี่ยวกับส่ือมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา.

กรุงเทพมหานคร : ศูนยพัฒนาหนังสือ มนตชัย เทียนทอง. (2545). การออกแบบและพัฒนาคอรสแวร สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอรชวย

สอน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. รุจโรจน แกวอุไร. (2545). การพัฒนาระบบการเรียนการสอนผานเครือขายใยแมงมุม. วิทยานิพนธ

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สุภาณี เส็งศรี. (2543). การพัฒนาระบบการเรียนการสอนทางไกลในสถาบันอุดมศึกษา.

วิทยานิพนธปริญญาดุษฎีบัณฑิต.จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. สุมาลี ชัยเจริญ. (2551). เทคโนโลยีการศึกษา:หลักการ ทฤษฎีสูการปฏิบัติ. ขอนแกน: คลังนานา

วิทยา.

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 2.1 ทฤษฎีการเรียนรูของกาเย, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://teacher80std.blogspot.com/2012/06/101-learning-ecology.html)

Page 36: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 3 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป

ตอนท่ี 1 เริ่มใชงาน Adobe Captivate 3.1 คุณสมบัติเดนของโปรแกรม Adobe Captivate

ในปจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศไดมีบทบาทมาก การนําสื่อมัลติมีเดียมาประยุกตใชในการนําเสนอจึงไดรับความนิยมอยางมาก เชน การเตรียมงานนําเสนอเนื้อหาเรื่องใดเรื่องหนึ่งตอผูเขาชม การพัฒนาสื่อการเรียนรูมาใชประกอบการสอน ทําใหมีความแปลกใหม ดึงดูดความสนใจของกลุมเปาหมายในทุกสายงาน เชน ครูอาจารย นักประชาสัมพันธ นักการขายหรือนักการตลาด

ซอฟแวรหรือโปรแกรมตาง ๆ ดานการสรางสื่อการนําเสนอจึงเกิดข้ึนมากมาย สําหรับ

Adobe บริษัทชั้นนําดานโปรแกรมกราฟกระดับโลกท่ีสรางโปรแกรมสุดยอดพัฒนากราฟกอยาง Adobe Photoshop หันมาพัฒนาโปรแกรมท่ีสรางสื่อการนําเสนอรูปแบบมัลติมีเดีย คือ Adobe Captivate

ท่ีมาของโปรแกรม Adobe Captivate นั้นเกิดจากการเขามาซ้ือกิจการของบริษัท

Macromedia ท่ีเดิมไดพัฒนาโปรแกรมสื่อมัลติมีเดียยอดนิยมอยาง Dreamweaver, Flash, Fireworks โดย Adobe ไดนําโปรแกรมดังกลาวมาพัฒนาในแบบฉบับของตนเอง ท้ังนี้โปรแกรมสองโปรแกรมท่ีใชพัฒนาสื่อแบบมัลติมีเดีย คือ Macromedia Authorware ท่ีใชพัฒนาสื่อการสอน (CAI) และโปรแกรม Macromedia Captivate ท่ีทาง Adobe ได นํามาพัฒนาตอนั่นก็คือ Adobe Captivate ในปจจุบันนั่นเอง

สําหรับโปรแกรม Authorware ไดหยุดพัฒนาตั้งแตเวอรชัน 7 ทาง Adobe ไดพัฒนา

Captivate อยางตอเนื่องจนปจจุบันถึงเวอรชัน 6 ท่ีมีหนาตาการใชงานอิงจาก Adobe CS5 โดย Captivate ไดมีฟงกชันการทํางานท้ังตัวมันเองท่ีเปนโปรแกรมสรางสื่อนําเสนอไดสวยงามมีลูกเลนมากมาย รวมท้ังมีความสามารถดานการทํางานดาน Courseware หรือสื่อการสอน CAI จากโปรแกรม Authorware ไดอยางครบครัน 3.2 สรุปคุณสมบัติเดนของโปรแกรม Adobe Captivate

3.2.1 สรางสื่อนําเสนอรูปแบบมัลติมีเดียมีการเคลื่อนไหว (Animation) 3.2.2 สามารถจับภาพและการเคลื่อนไหวของหนาจอหรือโปรแกรมไวสรางการจําลองการ

นําเสนอ (Simulation) การทางานตาง ๆ ได 3.2.3 สามารถสรางสื่อแบบโตตอบกับผูใชได 3.2.4 สรางแบบทดสอบ การประเมินผล ประยุกตใชในการทา สื่อการเรียนรู

Page 37: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

30

3.2.5 รองรับการนาเขาไฟลขอมูลรูปภาพ วีดีโอ ไฟลเสียง และไฟลจากโปรแกรมอ่ืน เชน Adobe Photoshop หรือ Microsoft PowerPoint

3.2.6 รองรับขอมูลภาษาไทย 3.2.7 สามารถบันทึกเสียงและปรับแตงไฟลเสียง คําพูดประกอบ คําบรรยายในสื่อไดอยางมี

ประสิทธิภาพ 3.2.8 สามารถสรางผลลัพธงานนําเสนอดวยวิธีสงออก (Export) ไดหลายรูปแบบ เชน

นําเสนอบนเว็บไซต ไฟลวีดีโอ แผนซีดี ไฟล exe ของ Windows ท่ีสามารถเปดงานนําเสนอไดโดยท่ีไมตองใชโปรแกรมใด ๆ

3.2.9 สามารถตอยอดการพัฒนาโปรแกรมรวมกับ Action Script หรือเทคโนโลยีอ่ืน ๆ ของ Adobe ได

3.3 ความตองการคุณสมบัติของฮารดแวร สําหรับโปรแกรม Adobe Captivate

3.3.1 สําหรับระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows ความตองการประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร ดังนี้ 3.3.1.1 หนวยประมวลผลกลาง หรือ CPU ความเร็วไมต่ํากวา 1 GHz เปนอุปกรณ

โปรเซลเซอรแบบ Intel® Pentium® 4, Intel Centrino®, Intel Xeon®, or Intel Core™ Duo หรือเทียบเทา

3.3.1.2 ระบบปฏิบัติการเปน Microsoft® Windows® XP with Service Pack 3, Windows 7 with Service Pack 1, หรอื Windows 8

3.3.1.3 หนวยความจําแรม (RAM) ไมต่ํากวา 2 GB (แนะนํา 4 GB) 3.3.1.4 พ้ืนท่ีฮารทดิสก (Hard Disk) สําหรับติดตั้งโปรแกรม 3GB และแนะนําท่ีวาง

ขณะใชงานไมต่ํากวา 10 GB 3.3.1.5 มีอุปกรณ DVD-ROM drive 3.3.1.6 ความละเอียดหนาจอแสดงผลไมต่ํากวา 1024 x 768 (แนะนําใหใช1280 x

1024) 3.3.1.7 เชื่อมตออินเทอรเน็ต เพ่ือสามารถเรียกใชฟงกชั่นพิเศษ และดาวนโหลด

Template ตัวอยางขอสอบ ตัวเองผลงาน และอ่ืนๆ 3.3.1.8 อุปกรณตอพวงอ่ืนๆ ประกอบการทํางานเพ่ิมเติม (มีหรือไม มี ก็ได )

ประกอบดวย ไมโครโฟน ลําโพง อุปกรณบันทึกเสียงอ่ืนๆ รวมท้ังอุปกรณชวยนําเสนอเพ่ิมเติม เชน Tablet

3.3.2 สําหรับระบบปฏิบัติการ Mac OS ความตองการประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร

ดังนี้ 3.3.2.1 หนวยประมวลผลกลาง หรือ CPU เปนอุปกรณโปรเซลเซอรแบบ

Multicore Intel® processor

Page 38: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

31

3.3.2.2 ระบบปฏิบัติการเปน Mac OS X เวอรชั่น 10.6, เวอรชั่น 10.7 หรือ เวอรชั่น 10.8

3.3.2.3 หนวยความจําแรม (RAM) ไมต่ํากวา 2 GB (แนะนํา 4 GB) 3.3.2.4 พ้ืนท่ีฮารทดิสก (Hard Disk) สําหรับติดตั้งโปรแกรม 3GB และแนะนําท่ีวาง

ขณะใชงานไมต่ํากวา 10 GB 3.3.2.5 มีอุปกรณ DVD-ROM drive 3.3.2.6 ความละเอียดหนาจอแสดงผลไมต่ํากวา 1024 x 768 (แนะนําใหใช1280 x

1024) 3.3.2.7 เชื่อมตออินเทอรเน็ต เพ่ือสามารถเรียกใชฟงกชั่นพิเศษ และดาวนโหลด

Template ตัวอยางขอสอบ ตัวเองผลงาน และอ่ืนๆ 3.3.2.8 อุปกรณตอพวงอ่ืนๆ ประกอบการทํางานเพ่ิมเติม (มีหรือไม มี ก็ได )

ประกอบดวย ไมโครโฟน ลําโพง อุปกรณบันทึกเสียงอ่ืนๆ รวมท้ังอุปกรณชวยนําเสนอเพ่ิมเติม เชน Tablet

3.4 หลักการทํางานของโปรแกรม

หลักการทํางานของโปรแกรม Adobe Captivate ทํางานในลักษณะเดียวกับโปรแกรม Microsoft PowerPoint คือในแตละไฟล หรือ Project จะประกอบไปดวยสไลด จํานวนหลายๆ สไลดเรียงกัน ในแตลสไลดสามารถบรรจุสิ่งตาง ๆ เรียกวา วัตถุ (Object) เชน ภาพ ขอความ เสียง คลิปวิดีโอ และ ปุม เปนตน การเขา-ออกของ Slide และวัตถุใน Slide สามารถกําหนด Effects ตางๆ ได

เม่ือสั่งใหโปรแกรมทํางาน โปรแกรมจะเริ่มการแสดงผลจาก สไลดแรกเรื่อยมาจนหมดทุก

Slide การควบคุม Slide ใหไปยังแผน Slide ท่ีกําหนด สามารถทําไดโดยการสรางปุม และใชคําสั่งของโปรแกรม เพ่ือใหไปยัง Slide ท่ีตองการ

สไลดแตละอันจะมี Timeline เปนของตนเอง Timeline จะเครื่องมือในการกําหนดเวลาการ

แสดงของวัตถุ แตละตัวในแผน Slide ตลอดจนสามารถกําหนดใหวัตถุใดแสดงกอน หลัง หรือการกําหนด ตําแหนงของวัตถุใหอยูขางหนา หรืออยูหลังวัตถุใด

วัตถุแตละวัตถุ เชน ภาพ ขอความ เสียง และวิดีโอ สามารถปรับแกลักษณะได ผานทางแถบ

Properties โดย วัตถุแตละอยาง จะมีแถบ Properties ของตนเอง เม่ือคลิกเลือกวัตถุใด โปรแกรม Captivate จะแสดง Properties ของวัตถุนั้น ทําใหสามารถกําหนดลักษณะของวัตถุนั้น

Page 39: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

32

3.5 การดาวนโหลดโปรแกรม Adobe Captivate 3.5.1 การเขาสูเว็บไซตเพ่ือดาวนโหลดโปรแกรม

3.5.1.1 เปดโปรแกรมเว็บเบราวเซอร 3.5.1.2 พิมพขอความ http://www.adobe.com/downloads/ และ กดปุม

Enter ตามรูป 3.1

รูปท่ี 3.1 การเขาสูเว็บไซตเพ่ือดาวนโหลดโปรแกรม (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

3.5.2 การเลือกดาวนโหลดโปรแกรม

3.5.2.1 เลือกท่ี All product trials (3.2 (A)) 3.5.2.2 เลือกท่ี Adobe Captivate (3.2 (B)) 3.5.2.3 กดปุม Go (3.2 (C))

รูปท่ี 3.2 การเลือกดาวนโหลดโปรแกรม

(ท่ีมา: http://www.adobe.com)

Page 40: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

33

3.5.3 การเลือกสรางบัญชีรายชื่อ หรือการเขาสูระบบ 3.5.3.1 กรณีท่ีทานยังไมมีบัญชีรายชื่อ ใหเลือกท่ี 3.3.1 (A) เพ่ือเริ่มข้ันตอนการ

สมัคร 3.5.3.2 กรณีท่ีทานมีบัญชีรายชื่อแลว ใหกรอก email address ท่ีชอง 3.3.2 (A)

และกรอกรหัสผานท่ีชอง 3.3.2 (B) และกดปุม Sign in (3.3.2 (E)) 3.5.3.3 กรณีท่ีทานมีบัญชีรายชื่อแลว แตลืมรหัสผาน ทานสามารถเลือกท่ีขอความ

“Did you forget your password” เพ่ือดําเนินการขอรหัสผานใหมได หมายเหตุ ทานสามารถเลือกท่ีชอง 3.3.2 (D) เพ่ือใหระบบจําบัญชีรายชื่อของทานไว

รูปท่ี 3.3 การเลือกสรางบัญชีรายชื่อ หรือการเขาสูโปรแกรม (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

3.5.4 การสรางบัญชีรายชื่อใหม

เว็บเบราวเซอรจะแสดงแบบฟอรมเพ่ือใหทานกรอกรายละเอียด ดังนี้ 3.5.4.1 ชอง 3.4 (A) ใหกรอก E-mail 3.5.4.2 ชอง 3.4 (B) ใหกรอกรหัสผาน ขอแนะนํา ควรใชตัวอักษรระหวาง 6-12

ตัวอักษร 3.5.4.3 ชอง 3.4 (C) ใหกรอกรหัสผานซํ้าอีกครั้ง 3.5.4.4 ชอง 3.4 (D) ใหกรอกขอความทวนความจําสําหรับรหัสผาน 3.5.4.5 ชอง 3.4 (E) ใหกรอกชื่อ 3.5.4.6 ชอง 3.4 (F) ใหกรอกนามสกุล

Page 41: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

34

3.5.4.7 ชอง 3.4 (G) ใหกรอกอาชีพ 3.5.4.8 ชอง 3.4 (H) ใหกรอกชื่อหนวยงาน 3.5.4.9 ชอง 3.4 (I) ใหกรอกท่ีอยู 3.5.4.10 ชอง 3.4 (J) ใหกรอกเมือง 3.5.4.11 ชอง 3.4 (K) ใหกรอกประเทศ 3.5.4.12 ชอง 3.4 (L) ใหกรอกจังหวัด 3.5.4.13 ชอง 3.4 (M) ใหกรอกรหัสไปรษณีย 3.5.4.14 ชอง 3.4 (N) ใหกรอกหมายเลขโทรศัพท 3.5.4.15 ชอง 3.4 (O) ใหกรอกชื่อท่ีตองการใหแสดง 3.5.4.16 ชอง 3.4 (P) ใหเลือกจํานวนพนักงานในหนวยงานของทาน 3.5.4.17 ชอง 3.4 (Q) ใหเลือกคําอธิบายอาชีพของทาน 3.5.4.18 ชอง 3.4 (R) ใหเลือกลักษณะหนวยงานของทาน 3.5.4.19 ชอง 3.4 (S) ใหเลือกจํานวนพนักงานของทานท่ีใชผลิตภัณฑ 3.5.4.20 ชอง 3.4 (T) ใหเลือกชวงเวลาท่ีทานจะซ้ือผลิตภัณฑ 3.5.4.21 ชอง 3.4 (U) เพ่ือใหทานสามารถเลือกรับชองทางการสื่อสารได 3 ลักษณะ

คือ ทาง E-mail, Mail และโทรศัพท 3.5.4.22 ชอง 3.4 (V) สําหรับทานท่ียินดีรับขอมูลขาวสารตางๆ จากบริษัท 3.5.4.23 ชอง 3.4 (W) สําหรับทานท่ีตองการรับนิตยสารของทาง Adobe Inspire

Magazine 3.5.4.24 ชอง 3.4 (X) สําหรับดําเนินการในข้ันตอนตอไป

Page 42: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

35

รูปท่ี 3.4 การสรางบัญชีรายชื่อใหม (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

Page 43: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

36

3.5.5 เว็บเบราวเซอรแสดงการยืนยัน เพ่ือใหการสมัครสมบูรณ โปรดเลือกขอความท่ีขีดเสนใต (3.5 (A))

รูปท่ี 3.5 แสดงการยืนยันการสมัคร (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

3.5.6 เขาสูข้ันตอนการ Download Adobe Captivate

3.5.6.1 เลือกท่ี SELECT (3.6 (A)) 3.5.6.2 เลือกภาษา และระบบปฏิบัติการท่ีตองการ (3.6 (B)) 3.5.6.3 เลือก Download (3.6 (C))

รูปท่ี 3.6 ข้ันตอนการ Download Adobe Captivate (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

Page 44: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

37

3.5.7 เว็บเบราวเซอรแสดงหนาตางดาวนโหลดโปรแกรม 3.5.7.1 กรณีท่ีตองการใชโปรแกรมชวยดาวนโหลดใหเลือกท่ี 3.7 (A) และ

ดําเนินการติดตั้งโปรแกรมนั้น 3.5.7.2 กรณีท่ีตองการโหลดแบบปกติ ใหเลือกท่ี 3.7 (B)

รูปท่ี 3.7 เว็บเบราวเซอรแสดงหนาตางดาวนโหลดโปรแกรม (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

3.6 การติดตั้งโปรแกรม Adobe Captivate

หลังจากดาวนโหลดโปรแกรมเสร็จแลว ทานไดไฟลจํานวน 2 ไฟล ตามรูป 3.8

รูปท่ี 3.8 ไฟลท่ีโหลดเสร็จสิ้นสมบูรณ

Page 45: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

38

3.6.1 ดับเบิ้ลคลิ๊กท่ีไฟล Captivate_6_LS12.exe ระบบปฏิบัติการวินโดนจะทําการแจงเตือนการเปดไฟล ใหทานเลือกท่ี Run ตามรูป 3.9

รูปท่ี 3.9 ระบบปฏิบัติการวินโดนจะทําการแจงเตือนการเปดไฟล

3.6.2 กําหนดแหลงท่ีจะขยายไฟล เพ่ือใชดําเนินการติดตั้ง ตามรูป 3.10 และ 3.11 3.6.2.1 เลือกท่ี 3.10 (A) เพ่ือกําหนดแหลงท่ีจะขยายไฟลดวยตนเอง 3.6.2.2 เลือกแหลงท่ีตองการขยายไฟล ตามรูป 3.11 สราง Folder ท่ีตองการตาม

รูป 3.11 (A) จากนั้นกด OK ตามรูป 3.11 (B) 3.6.2.3 เลือก Next เพ่ือดําเนินการข้ันตอนไป (3.10 (B))

รูปท่ี 3.10 การขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง

Page 46: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

39

รูปท่ี 3.11 แหลงท่ีตองการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง

3.6.3 โปรแกรมดําเนินการขยายไฟล ตามรูป 3.12 และแสดงแทบสถานะ (3.12 (A)) หากทานตองการทําการยกเลิกสามารถกดท่ีปุม Cancel (3.12 (C))

รูปท่ี 3.12 แสดงสถานะการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง

Page 47: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

40

3.6.4 หลังจากโปรแกรมดําเนินการขยายไฟลเสร็จสิ้น จะไดไฟลสําหรับติดตั้งโปรแกรม (3.13 (A)) และไฟลคูมือการใชงานโปรแกรม (3.13 (B)) ซ่ึงไฟลเหลานี้จะอยูในแหลงท่ีทานกําหนด ตามรูป 3.13

รูปท่ี 3.13 ไฟลท่ีไดจากการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง

3.6.5 ข้ันตอนตอไป คือ การติดตั้งโปรแกรม หลังจากท่ีทานเลือกเขาไปใน Folder Adobe Captivate แลวนั้น ใหทานเลือกดับเบิ้ลคลิ๊กท่ี ไฟล Set-up.exe ตามรูป 3.14 โปรแกรมจะดําเนินการเตรียมการติดตั้งโปรแกรม ตามรูป 3.15 ท้ังนี้ทานสามารถยกเลิกการติดตั้งได โดยกดปุม Cancel (3.15 (A))

รูปท่ี 3.14 การติดตั้งโปรแกรม

Page 48: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

41

รูปท่ี 3.15 แสดงการเตรียมการติดตั้งโปรแกรม

3.6.6 เม่ือโปรแกรมพรอมสําหรับการติดตั้ง จะปรากฏหนาตาง ยินดีตอนรับ (Welcome) ข้ึนมา ท้ังนี้โปรแกรมมีรูปแบบการติดตั้ง 3 รูปแบบ คือ 3.6.6.1 Install with a serial number คือ ในกรณีท่ีทานมี Serial number

(3.16 (A)) 3.6.6.2 Start my Subscription คือ กรณีท่ีตองการใชผลิตภัณฑในลักษณะ

ชั่วคราว หรือแบบรายเดือน รายป (3.16 (B)) 3.6.6.3 Install a trial คือ การติดตั้งเพ่ือทดลองใชงาน โดยท่ัวไปจะกําหนดให

ทดลองใช 30 วัน (3.16 (C)) 3.6.6.4 สามารถยกเลิกได โดยกดปุม Quit (3.16 (D))

รูปท่ี 3.16 รูปแบบการติดตั้งโปรแกรม

Page 49: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

42

3.6.7 แสดงลิขสิทธิ์ของโปรแกรม เพ่ือใหทานใชงานโปรแกรมอยางถูกตอง โปรดอานและทําความเขาใจ รายละเอียดตางๆ ตามรูป 3.17 จากนั้นกดปุม Accept (3.17 (C)) เพ่ือยอมรับ หรือ กดปุม Back (3.17 (B)) เพ่ือยอนกลับ

รูปท่ี 3.17 แสดงลิขสิทธิ์ของโปรแกรม

3.6.8 โปรแกรมแสดงหนาตางเขาสูระบบบัญชีรายชื่อ ตามรูป 3.18 3.6.8.1 กรณีท่ีทานมีบัญชีรายชื่อแลว ใหกรอก Email Address ในชอง 3.18 (A)

และกรอกรหัสผานในชอง 3.18 (B) จากนั้น กดท่ีปุม Sign In (3.18 (E)) 3.6.8.2 กรณีท่ีทานยังไมมีบัญชีรายชื่อ ทานสามารถสมัครใหมได โดยเลือกท่ีชอง

3.18 (C) หมายเหตุ ทานตองเชื่อมตออินเทอรเน็ต เพ่ือดําเนินการในสวนนี้ และหากตองการยกเลิกสามารถเลือกท่ีปุม Cancel (3.18 (D)) ได

Page 50: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

43

รูปท่ี 3.18 แสดงหนาตางเขาสูระบบบัญชีรายชื่อ 3.6.9 หนาตางแสดงคุณสมบัติของโปรแกรม ตามรูป 3.19 และรายละเอียดอ่ืนๆ ดังนี้

3.6.9.1 แสดงชื่อโปรแกรม Adobe Captivate (32 Bit) (3.19 (A)) 3.6.9.2 คุณสมบัติตางๆ ของโรแกรม (3.19 (B)) 3.6.9.3 พ้ืนท่ีฮารดดิสกท่ีตองการ (3.19 (C)) 3.6.9.4 ภาษา (3.19 (D)) 3.6.9.5 แหลงท่ีติดตั้งโปรแกรม (3.19 (E)) จากนั้นกดปุม Install (3.19 (G)) เพ่ือดําเนินการติดตั้งโปรแกรม หรือหากตองการยอนกลับ ใหกดปุม Back (3.19 (F))

รูปท่ี 3.19 แสดงคุณสมบัติของโปรแกรม

Page 51: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

44

3.6.10 หนาตางแสดงสถานะการติดตั้งโปรแกรม รูป 3.20 แสดงระยะเวลาการติดต้ัง โดยประมาณ 3.20 (A) หรือหากตองการยกเลิก กดปุม Cancel 3.20 (B)

รูปท่ี 3.20 แสดงสถานะการติดตั้งโปรแกรม

3.6.11 แสดงหนาตางผลการติดตั้งโปรแกรมสําเร็จ ตามรูป 3.21 หากทานตองการเปดโปรแกรมทันที สามารถกดปุม Launch Now (3.21 (B)) หรือเปดโปรแกรมในภายหลัง กดปุม Close (3.21 (A))

รูปท่ี 3.21 แสดงการติดตั้งโปรแกรมสําเร็จ

Page 52: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

45

3.7 ขอสังเกตเพ่ิมเติมสําหรับการติดตั้งโปรแกรม Adobe Captivate 3.7.1 หนาตางแสดงสถานะวันท่ีคงเหลือการใชโปรแกรมแบบทดลองใชงาน ตามรูป 3.22

โดยแสดงรายละเอียด คือ 3.7.1.1 จํานวนวันท่ีเหลือในการทดลองใช (3.22 (A)) 3.7.1.2 สามารถเลือกซ้ือผลิตภัณฑไดท่ีปุม Buy Now (3.22 (B)) 3.7.1.3 สามารถตรวจสอบลิขสิทธิ์ของโปรแกรมไดท่ีปุม License This Software

(3.22 (C)) 3.7.1.4 ใชงานโปรแกรมแบบทดลองใชตอไป โดยเลือกปุม Start Trial (3.22 (D))

รูปท่ี 3.22 หนาตางแสดงสถานะวันท่ีคงเหลือการใชโปรแกรมแบบทดลองใชงาน

3.7.2 การกรอก Adobe ID และ รหัสผานไมถูกตอง ตามรูป 3.23 3.7.2.1 ทานสามารถเลือกแกไขได โดยการเลือกท่ีขอความ “Did you forget

your password?” (3.23 (A))

รูปท่ี 3.23 แสดงการกรอก Adobe ID และ รหัสผานไมถูกตอง

(ท่ีมา: http://www.adobe.com)

Page 53: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

46

3.7.2.2 เว็บเบราวเซอรแสดงหนาตาง ตามรูป 3.24 ใหทานกรอก Adobe ID ใหทานกรอก Email Address ท่ีทานใชในการสมัคร (3.24 (A)) และกดปุม Send Email (3.24 (B)) หรือกลับไปหนา Sign in โดยการกดปุม Return to Sign In (3.24 (C))

รูปท่ี 3.24 วิธีการแกไขกรณีลืมรหัสผาน (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

3.7.3 ตรวจสอบในอีเมลลของทาน จะไดรับจดหมาย ตามรูป 3.25 ระบบไดทําการสง Link

สําหรับทําการกําหนดรหัสผานใหมใหทาน จากนั้น กดท่ีขอความ ตามรูป 3.25 (A)

รูปท่ี 3.25 ตรวจสอบอีเมลล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน

Page 54: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

47

3.7.4 เว็บเบราวเซอร แสดงหนาตาง Create New Password ตามรูป 3.26 ใหทานกรอกขอความในชองท่ีมีสัญลักษณะ * ทุกชอง ดังนี้ 3.7.4.1 Re-enter ID or Email Address คือ กรอกบัญชีรายชื่อ หรือ อีเมลล

(3.26 (A)) 3.7.4.2 กรอกรหัสผานใหม แนะนําใหใชตัวอักษรระหวาง 6-12 ตัวอักษร (3.26

(B)) 3.7.4.3 กรอกรหัสผานใหม อีกครั้ง (3.26 (C))

หมายเหตุ กดปุม Continue (3.26 (D)) เพ่ือดําเนินการตอไป หรือกดปุม Cancel เพ่ือยกเลิก (3.26 (E))

รูปท่ี 3.26 กรอกขอมูล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

รูปท่ี 3.27 การแกไขปญหาลืมรหัสผานเสร็จสิ้น (ท่ีมา: http://www.adobe.com)

Page 55: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

48

เอกสารอางอิง ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ มนตชัย เทียนทอง. (2545). การออกแบบและพัฒนาคอรสแวร สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอรชวย

สอน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. รุจโรจน แกวอุไร. (2545). การพัฒนาระบบการเรียนการสอนผานเครือขายใยแมงมุม. วิทยานิพนธ

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สุภาณี เส็งศรี. (2543). การพัฒนาระบบการเรียนการสอนทางไกลในสถาบันอุดมศึกษา.

วิทยานิพนธปริญญาดุษฎีบัณฑิต.จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. Adobe Captivate : การใชงานโปรแกรมเบ้ืองตน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) Authorware, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/products/authorware/) Courseware, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.lib.ru.ac.th/webtoday/courseware.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 3.1 การเขาสูเว็บไซตเพ่ือดาวนโหลดโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.2 การเลือกดาวนโหลดโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.3 การเลือกสรางบัญชีรายชื่อ หรือการเขาสูโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.4 การสรางบัญชีรายชื่อใหม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก (http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.5 แสดงการยืนยันการสมัคร, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก (http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.6 ข้ันตอนการ Download Adobe Captivate , สบืคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.7 เว็บเบราวเซอรแสดงหนาตางดาวนโหลดโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.8 ไฟลท่ีโหลดเสร็จสิ้นสมบูรณ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.9 ระบบปฏิบัติการวินโดนจะทําการแจงเตือนการเปดไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.10 การขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.11 แหลงท่ีตองการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.12 แสดงสถานะการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.13 ไฟลท่ีไดจากการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.14 การติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.15 แสดงการเตรียมการติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer)

Page 56: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

49

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 3.16 รูปแบบการติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.17 แสดงลิขสิทธิ์ของโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.18 แสดงหนาตางเขาสูระบบบัญชีรายชื่อ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.19 แสดงคุณสมบัติของโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.20 แสดงสถานะการติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.21 แสดงการติดตั้งโปรแกรมสําเร็จ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.22 หนาตางแสดงสถานะวันท่ีคงเหลือการใชโปรแกรมแบบทดลองใชงาน, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 3.23 แสดงการกรอก Adobe ID และ รหัสผานไมถูกตอง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.24 วิธีการแกไขกรณีลืมรหัสผาน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.25 ตรวจสอบอีเมลล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.26 กรอกขอมูล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.27 การแกไขปญหาลืมรหัสผานเสร็จสิ้น, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com)

Page 57: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

50

Page 58: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 4 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป

ตอนท่ี 2 เครื่องมอืพ้ืนฐานและการสรางโปรเจ็คเบ้ืองตน

โปรแกรม Adobe Captivate เปนโปรแกรมท่ีชวยในการสรางสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบ Interactive Multimedia สามารถเรียนรูไดอยางรวดเร็ว ดวยความชาญฉลาดของโปรแกรม ความงายและเปนมิตรกับผูใชโปรแกรม (Friendly) ทําใหการเรียนรูโปรแกรมไมใชเรื่องยาก เพียงแตผูใชควรจะมีความรูความเขาใจในการใชงานโปรแกรมพ้ืนฐาน เชน Microsoft Office หรือ Microsoft Windows พอสังเขป

ในบทเรียนนี้มีวัตถุประสงคเพ่ือเตรียมความพรอมใหกับผูใชงาน สรางความคุนเคยในการใช

งานโปรแกรม เรียนรูการกําหนดคาเบื้องตนของ Microsoft Windows การเรียกโปรแกรม Adobe Captivate การใชเครื่องมือพ้ืนฐานของโปรแกรม การสรางไฟลงาน ตลอดจนทราบถึงรูปแบบโปรเจ็คของโปรแกรม Adobe Captive ลักษณะการนําเสนอเนื้อหาภายในเลมเปนแบบ Step by Step มีการอธิบายเครื่องมือ การเรียกใชคําสั่ง การยกตัวอยางประกอบ พรอมมีการนําภาพจากโปรแกรมมานําเสนอ เพ่ือใหงายตอความเขาใจ และการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน

รูปท่ี 4.1 Adobe Captivate 7 (ท่ีมา: http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Page 59: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

52

4.1 การเรียกโปรแกรม Adobe Captivate 7 4.1.1 คลิกปุม Start > All Programs > Adobe Captivate 7 (32 Bit)

รูปท่ี 4.2 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7

4.1.2 หรือ ดับเบิ้ลคลิก (Double Click) ไอคอนโปรแกรม Adobe Captivate 7 (32 Bit)

รูปท่ี 4.3 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7

Page 60: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

53

4.2 เครื่องมือพ้ืนฐานในการใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7 4.2.1 หนาจอตอนรับ (Welcome Screen)

หลังจากเปดโปรแกรมจะปรากฏหนาจอตอนรับซ่ึงประกอบดวย 3 สวน ดังนี้

รูปท่ี 4.4 หนาจอตอนรับ (Welcome Screen)

4.2.1.1 Open Recent Item ทําหนาท่ีแสดงไฟลลาสุดท่ีเปดใชงานและไอคอน Open เปดไฟลงานท่ีบันทึกไว

รูปท่ี 4.5 เมนู Open Recent Item บนหนาจอตอนรับ

4.2.1.2 Create New เลือกรูปแบบการสรางไฟลงาน หรือโปรเจ็ค ไดแก 1) Software Simulation สรางโปรเจ็ครูปแบบบันทึกหนาจอหรือ

โปรแกรมตางๆ แบบเคลื่อนไหว สามารถใชแนะนําวิธีการใชงานโปรแกรมเบื้องตนได

2) Video Demo สรางโปรเจ็ครูปแบบการบันทึกภาพหนาจอหรือโปรแกรมแบบเคลื่อนไหวและสามารถตัดตอแกไข ใสเอฟเฟคตางๆ ได

3) Blank Project สรางโปรเจ็ควางเปลา

Page 61: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

54

4) Form Microsoft® PowerPoint สรางโปรเจ็คการนําเสนอโดยนําไฟล Microsoft PowerPoint มาประยุกตใชงาน

5) Image Slideshow สรางโปรเจ็ครูปแบบสไลดโชว 6) Project Template สรางโปรเจ็คและบันทึกเปนแมแบบ 7) From Template สรางโปรเจ็คจากแมแบบ 8) Aggregator Project การรวบรวมหลายๆ โปรเจ็คท่ีสรางข้ึนใหเปน

โปรเจ็คเดียว

รูปท่ี 4.6 เมนู Create New บนหนาจอตอนรับ

รูปท่ี 4.7 เมนู Extend บนหนาจอตอนรับ

4.2.1.3 Extend ทําหนาท่ีติดตั้งโปรแกรมเสริมหรือโปรแกรมเพ่ิมเติม โดยจะเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต http://www.adobe.com ในหัวขอ Adobe Captivate Exchange Classic ผูใชสามารถเลือกติดตั้งโปรแกรมไดตามความเหมาะสม

หมายเหตุ

ผูใชสามารถเลือกไมแสดงหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) ในการเปดโปรแกรมครั้งตอไป โดยเลือกท่ีขอความ “Don’t Show Again” และสามารถแกไขเพ่ิมเติม โดยเลือกคําสั่ง Edit > Preferences ท่ีหมวด General Settings > Show Welcome Screen

Page 62: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

55

4.2.2 สวนประกอบของโปรแกรม Adobe Captivate 7 1. แถบเมนูบาร (Menu Bar) 2. แถบคําสั่งหลัก (Main Options) 3. เครื่องมือจัดการออบเจ็ค (Object Toolbar) 4. แบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip) 5. พ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace) 6. เครื่องมือควบคุมการแสดง (Timeline) 7. กลุมพาเนล (Panel Group)

รูปท่ี 4.8 หนาจอสวนประกอบของโปรแกรม Adobe Captivate 7

4.2.2.1 แถบเมนูบาร (Menu Bar) แถบเมนูบาร (Menu Bar) เปนแถบรวบรวมคําสั่งของโปรแกรม โดยแยกเปนกลุมๆ ตามการ

ใชงาน ไดแก File, Edit, View, Insert, Modify, Project, Quiz, Audio, Video, Themes, Windows, Help

รูปท่ี 4.9 แถบเครื่องมือ (Menu Bar)

Page 63: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

56

1) เมนูไฟล (File) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับไฟล ตัวอยางคําสั่งเชน New Project, Record

new Software Simulation, Open, Close, Save, Import, Export, Publish เปนตน

รูปท่ี 4.10 คําสั่งในกลุมเมนูไฟล (File)

Page 64: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

57

2) เมนูแกไข (Edit) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับการแกไขสวนตางๆของโปรเจ็ค ตัวอยางคําสั่งเชน

Undo, Redo, Cut, Copy, Paste, Duplicate, Delete, Group, Convert to freeform, Edit Text, Preferences เปนตน

รูปท่ี 4.11 คําสั่งในกลุมเมนูแกไข (Edit)

Page 65: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

58

3) เมนูมุมมอง (View) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับการแสดง การปรับเปลี่ยนขนาดมุมมองของสไลด

หรือพ้ืนท่ีการทํางาน การแสดงหรือซอนเครื่องมือกริด และการแสดงหรือซอนเครื่องมืออ่ืนๆ ตัวอยางคําสั่งเชน Zoom In, Zoom Out, Magnification, Lock Slide, Show Grid, Snap to Grid, Snap to Object, Show Drawing/Smart Guides เปนตน

รูปท่ี 4.12 คําสั่งในกลุมเมนูมุมมอง (View)

Page 66: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

59

4) เมนูแทรก (Insert) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับการแทรก หรือเพ่ิมสไลดรูปแบบตางๆ การเพ่ิม

รูปภาพ การเพ่ิมแอนิเมชั่น รวมถึงเปลี่ยนสไลดแบบพิเศษ (Slide Transition) ตัวอยางคําสั่งเชน New Slide, Question Slide, Animation Slide, Content Master Slide, Text Animation เปนตน

รูปท่ี 4.13 คําสั่งในกลุมเมนูแทรก (Insert)

Page 67: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

60

5) เมนูแกไขเพ่ิมเติม (Modify) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับการแกไขเพ่ิมเติม ไดแก การปรับขนาดพ้ืนท่ีการ

ทํางานของโปรเจ็ค การจัดลําดับการแสดง การรวมภาพหลัง และอ่ืนๆ ตัวอยางคําสั่งเชน Rescale project, Arrange, Align, Merge with the background เปนตน

รูปท่ี 4.14 คําสั่งในกลุมเมนูแกไขเพ่ิมเติม (Modify)

Page 68: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

61

6) เมนูโปรเจ็ค (Project) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับโปรเจ็คและสวนประกอบยอยของโปรเจ็ค ตัวอยาง

คําสั่งเชน Advanced Actions, Variables, Tables of Contents, Advanced Interaction, Check Spelling เปนตน

รูปท่ี 4.15 คําสั่งในกลุมเมนูโปรเจ็ค (Project)

7) เมนูแบบทดสอบ (Quiz) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับแบบทดสอบ ขอสอบ การเพ่ิมสไลดคําถาม การสุม

สไลดคําถาม การจัดการแมแบบของสไลดคําถาม การนําเขาคําถาม การจัดการคุณสมบัติขอสอบ การตั้งคาแบบทดสอบ ตัวอยางคําสั่งเชน Question Slide, Random Question Slide, Quiz Master Slide, Import Question Pools, Question Preferences เปนตน

รูปท่ี 4.16 คําสั่งในกลุมเมนูแบบทดสอบ (Quiz)

Page 69: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

62

8) เมนูเสียง (Audio) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับเสียง เสียงเพลง เสียงประกอบ การนําเขาไฟล การ

บันทึก การจัดการเสียง ตัวอยางคําสั่งเชน Import to > Object, Import to > Slide, Audio Management, Speech Management, Settings เปนตน

รูปท่ี 4.17 คําสั่งในกลุมเมนูเสียง (Audio)

9) เมนูวิดีโอ (Video) ทําหนาท่ีรวบรวมการทํางานเก่ียวกับวิดีโอ การเพ่ิมวิดีโอ การจัดการวิดีโอ ตัวอยางคําสั่งเชน

Insert Video, Edit Video Timing, Video Management

รูปท่ี 4.18 คําสั่งในกลุมเมนูวิดีโอ (Video)

Page 70: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

63

10) เมนูชุดรูปแบบ (Themes) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับชุดรูปแบบ ตัวอยางคําสั่งเชน Show/Hide

Themes Panel, Master Slide, Apply a New Theme, Save Theme, Recording Defaults, Object Style Manager, Table of Contents, Skin Editor, Help

รูปท่ี 4.19 คําสั่งในกลุมเมนูชุดรูปแบบ (Themes)

Page 71: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

64

11) เมนูหนาตางเครื่องมือ (Windows) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่งการทํางานเก่ียวกับการแสดงหรือซอนหนาตางเครื่องมือ ตัวอยาง

คําสั่งเชน Object Toolbar, Main Toolbar, Align, Filmstrip, Timeline, Properties, Library, Master Slide, Widget, Question Pool, Question Properties, Slide Notes, Branching View, Skin Editor, Advance Interaction เปนตน

รูปท่ี 4.20 คําสั่งในกลุมเมนูหนาตางเครื่องมือ (Windows)

Page 72: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

65

12) เมนูความชวยเหลือ (Help) ทําหนาท่ีรวบรวมคําสั่ง การใหความชวยเหลือการใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7

แนะนําโปรแกรม และอ่ืนๆ ตัวอยางคําสั่งเชน Adobe Captivate Help, About Adobe Captivate, Adobe Captivate Blog, Updates เปนตน

รูปท่ี 4.21 คําสั่งในกลุมเมนูความชวยเหลือ (Help)

4.2.2.2 แถบคําสั่งหลัก (Main Options) แถบคําสั่งหลัก (Main Options) เปนท่ีรวบรวมปุมคําสั่งท่ีใชงานบอย ไดแก

รูปท่ี 4.22 แถบคําสั่งหลัก (Main Options)

1) Save บันทึกการทํางาน 2) Undo ยกเลิกในสิ่งท่ีทําหรือแกไขกอนหนา 3) Redo ทําซํ้าในสิ่งท่ียกเลิกกอนหนา 4) Preview แสดงผลโปรเจ็คหรือสไลด 5) Publish นําออกหรือเผยแพร 6) Record Additional Slides บันทึกภาพหนาจอเพ่ือแทรกเขาสูโปร

เจ็คท่ีกําลังแกไข 7) Record Audio บันทึกเสียงใสวัตถุหรือสไลด 8) Background Audio บันทึกเสียงในพ้ืนหลัง 9) Collaborate แบงปนผลงาน ใหความรวมมือกับ Acrobat.com

Page 73: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

66

10) Publish to YouTube นําออกหรือเผยแพร ผานเว็บไซต Youtube.com

11) Show/Hide Themes Panel แสดงหรือซอนชุดรูปแบบ 12) Show/Hide Grid แสดงหรือซอนเสนกริด 13) Snap to Grid กําหนดใหวัตถุยึดกับเสนกริด 14) Snap to Object กําหนดใหวัตถุยึดกับวัตถุอ่ืน 15) Bring selected objects forward นําวัตถุท่ีอยูดานหลังมาแสดง

ดานหนา 16) Bring selected objects backward นําวัตถุท่ีอยูดานหนาไว

ดานหลัง 17) Bring selected objects to the front นําวัตถุแสดงดานหนา 18) Bring selected objects behind นําวัตถุไวดานหลังสุด

4.2.2.3 เครื่องมือจัดการออบเจ็ค (Object Toolbar)

เครื่องมือจัดการออบเจ็ค (Object Toolbar) เปนเครื่องมือสําหรับสรางเนื้อหา ไดแก

1) Smart Shapes ใชสรางวัตถุรูปรางตางๆ 2) Insert Text Caption ใชแทรกกลองขอความ 3) Insert Rollover Caption ใชแทรกขอความพิเศษ โดยจะแสดงเม่ือนําตัวชี้วาง

เหนือพ้ืนท่ีของขอความ 4) Insert Image ใชแทรกรูปภาพ 5) Insert Rollover Image ใชแทรกรูปภาพพิเศษ โดยจะแสดงเม่ือนําตัวชี้วาง

เหนือพ้ืนท่ีของรูปภาพ 6) Insert Highlight Box วัตถุกลองสี่เหลี่ยม ใชเนนในสไลดใหมีจุดเดน 7) Insert Rollover Slidelet เปนสไลดแบบพิเศษ โดยแทรกในสไลดอีกครั้ง โดย

จะแสดงเม่ือนําตัวชี้วางเหนือพ้ืนท่ีของสไลด 8) Insert Zoom Area เปนวัตถุท่ีใชเนนในจุดท่ีตองการขยายขนาด 9) Insert Mouse ตัวแสดงการเคลื่อนท่ีของตัวชี้ (Pointer) 10) Insert Click Box เปนวัตถุใชจํากัดขอบเขตพ้ืนท่ีคลิกเมาสของผูใช 11) Insert Button ใชแทรกปุมเพ่ือเชื่อมโยงกับเหตุการณอ่ืน 12) Insert Text Entry Box ชองวางสําหรับกรอกขอความ 13) Insert Text Animation แทรกขอความแอนิเมชั่น 14) Insert Animation แทรกแอนิเมชั่น 15) Insert Video แทรกวิดีโอ 16) Insert Interaction แทรกการปฏิสัมพันธ

รูปท่ี 4.23 เครื่องมือจัดการออบเจ็ค (Object Toolbar)

Page 74: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

67

4.2.2.4 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip) แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip) หรืออาจะเรียกวา แถบแสดงภาพสไดลขนาดยอ เปน

สวนแสดงสไลดขนาดยอเรียงตอกันเปนลําดับ ซ่ึงอยูทางดานซายของโปรแกรม มีลักษณะคลายแท็บภาพนิ่ง (Slides tab) ของโปรแกรม Microsoft PowerPoint

ผูใชสามารถปรับเพ่ิมลดขนาดภาพยอของสไลดบนแถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip) ได 3 ระดับ คือ ขนาดเล็ก (Small) ขนาดกลาง (Medium) ขนาดใหญ (Large)

รูปท่ี 4.24 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip)

รูปท่ี 4.25 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip)

Page 75: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

68

สัญลักษณบนแถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip) ซ่ึงบอกสถานะการทํางาน คุณสมบัติพิเศษท่ีมีอยูในแตละสไดล ประกอบดวย

1) หมายเลขท่ีปรากฎอยูทางดานซายมือลาง คือลําดับการแสดงของสไลดในโปรเจ็ค

2) ไอคอนรูปแผนฟลม เดิมในเวอรชั่นกอน ใชสัญลักษณไอคอมรูปกลองถายวิดีโอ แสดงวาสไลดนั้นมีการบันทึกหรือจับภาพหรือแทรกไหลวิดีโอ

3) ไอคอนรูปลําโพง หมายถึงในสไลดมีการแทรกไฟลเสียงหรือบันทึกเสียงอยูภายใน

4) ไอคอมรูปเมาส หมายถึง มีการแทรกหรือบันทึกการเคลื่อนท่ีของตัวชี้ (Pointer)

5) ไอคอมรูปแมกุญแจ หมายถึง สไลดถูกล็อคไวไมสามารถแกไขอะไรได ผูใชสามารถเลือกปลอดล็อคโดยการคลิกท่ีไอคอนรูปแมกุญแจ

4.2.2.5 พ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace)

พ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace) คือ สวนแสดงพ้ืนท่ีการทํางาน ใชสําหรับสราง แกไข แทรก หรือตกแตงวัตถุตางๆ นอกจากนั้นหนาท่ีหลักของพ้ืนท่ีการทํางาน คือ การแสดงภาพรวมของโปรเจ็ค ผูใชสามารถเลือกปรับรูปแบบการใชงานพ้ืนท่ีการทํางานเองได โดยการเลือกท่ี แถบเมนูบาร (Menu Bar) Window > Workspace > รูปแบบท่ีตองการ เชน Applying Skin, Classic, Effects, Navigation, Quizzing, Review, Widget และสามารถปรับแตง สรางรูปแบบพ้ืนท่ีการทํางานของตนเองได

รูปท่ี 4.26 พ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace)

Page 76: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

69

รูปท่ี 4.27 การปรับรูปแบบการใชงานพ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace)

4.2.2.6 เครื่องมือควบคุมการแสดง (Timeline) เครื่องมือควบคุมการแสดง (Timeline) เปนพาเนลแสดงระยะเวลา การแสดงผล และแสดง

ลําดับของวัตถุเปนเลเยอร

รูปท่ี 4.28 เครื่องมือควบคุมการแสดง (Timeline)

Page 77: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

70

4.2.2.7 กลุมพาเนล (Panel Group) กลุมพาเนล (Panel Group) ประกอบดวยพาเนลตางๆ สําหรับปรับแตงคุณสมบัติของสไลด

โปรเจ็ค และวัตถุ ประกอบดวย 1) Properties ใชกําหนดคุณสมบัติของสไลด และวัตถุ

รูปท่ี 4.29 พาเนล Properties

Page 78: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

71

2) Library ใชเก็บขอมูลไฟลตางๆ ท่ีนํามาใชรวมกับโปรเจ็ค

รูปท่ี 4.30 พาเนล Library

Page 79: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

72

3) Quiz Properties ใชจัดการเก่ียวกับแบบทดสอบ

รูปท่ี 4.31 พาเนล Quiz Properties

Page 80: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

73

4) Project Info แสดงรายละเอียดเก่ียวกับโปรเจ็ค

รูปท่ี 4.32 พาเนล Project Info 4.3 สรางไฟลงาน Adobe Captive Project

เริ่มการใชงานโปรแกรม Adobe Captive 7 เบื้องตน โดยการสรางไฟลงาน Adobe Captive Project เลือกท่ีแถบเมนูบาร (Menu Bar) File > New Project > รูปแบบท่ีตองการ เชน Blank Project, Project Form Template, Project Form MS PowerPoint, Image SlideShow, Project Template

รูปท่ี 4.33 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project

Page 81: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

74

4.4 รูปแบบของ Adobe Captive Project สําหรับโปรแกรม Adobe Captive 7 นี้ สามารถสรางโปรเจ็คการทํางานไดหลากหลาย

รูปแบบ ซ่ึงแตละรูปแบบมีความแตกตางกันออกไป ตามวัตถุประสงคการใชงาน ผูใชสามารถเลือกรูปแบบของโปรเจ็คในหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) หรือเลือกท่ีแถบเมนูบาร (Menu Bar) File > New Project > รูปแบบท่ีตองการ ประกอบดวย

4.4.1 Software Simulation

Software Simulation สําหรับสรางโปรเจ็คเพ่ือบันทึกหนาจอหรือแอพพลิเคชั่นของโปรแกรมตางๆ แบบเคลื่อนไหว สามารถใชแนะนําวิธีการใชงานโปรแกรมเบื้องตน ผลิตสื่อการเรียนการสอนดานซอฟตแวรคอมพิวเตอรได

รูปท่ี 4.34 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation

Page 82: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

75

4.4.2 Video Demo Video Demo สรางโปรเจ็ครูปแบบการบันทึกภาพหนาจอหรือโปรแกรมแบบเคลื่อนไหว

เต็มหนาจอ (Full Motion Record) และสามารถตัดตอแกไข ใสเอฟเฟคตางๆ ได

รูปท่ี 4.35 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo

4.4.3 Blank Project Blank Project สรางโปรเจ็ควางเปลา สําหรับสรางสรรคชิ้นงาน พรอมท้ังตกแตงแกไขดวย

ตนเองท้ังหมด

รูปท่ี 4.36 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project

Page 83: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

76

4.4.4 Form Microsoft® PowerPoint Form Microsoft® PowerPoint สรางโปรเจ็คการนําเสนอโดยนําไฟล Microsoft

PowerPoint มาประยุกตใชงาน เหมาะสําหรับผูท่ีเตรียมการสอนและมีการจัดทําไฟล Microsoft PowerPoint แลว

รูปท่ี 4.37 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint

4.4.5 Image Slideshow Image Slideshow สรางโปรเจ็ครูปแบบสไลดโชว เหมาะสําหรับการนําภาพท่ีเตรียมไวมา

เรียงและนําเสนอ ซ่ึงสะดวกและงายในการจัดทํา

รูปท่ี 4.38 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow

Page 84: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

77

4.4.6 Project Template Project Template สรางโปรเจ็คและบันทึกเปนแมแบบ (Template) เก็บไว เพ่ือนําไปใช

เปนตนแบบสําหรับโปรเจ็คอ่ืนๆ ในภายหลัง

รูปท่ี 4.39 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template

4.4.7 From Template From Template สรางโปรเจ็คจากแมแบบท่ีเตรียมไว โดยสามารถตกแตงเพ่ิมเติมเนื้อหาได

ตามตองการ

รูปท่ี 4.40 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template

Page 85: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

78

4.4.8 Aggregator Project Aggregator Project การรวบรวมหลายๆ โปรเจ็คท่ีสรางข้ึนใหเปนโปรเจ็คเดียว

รูปท่ี 4.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project

4.5 การตั้งคาไฟล (Project Preferences) การตั้งคาไฟล (Project Preferences) ใชสําหรับกําหนดคาพ้ืนฐานของโปรเจ็ค

ประกอบดวยสวนตางๆ หลายสวน ไดแก การตั้งคาท่ัวไป (General Setting) คามาตรฐาน (Defaults) การตั้งคาการบันทึก (Recording) การตั้งคาโปรเจ็ค (Project) และแบบทดสอบ (Quiz) ซ่ึงจะอธิบายในรายละเอียดยอยของบทตอไป

4.5.1 การตั้งคาท่ัวไป (General Setting)

รูปท่ี 4.42 การตั้งคาไฟล (Project Preferences)

Page 86: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

79

4.5.2 คามาตรฐาน (Defaults)

รูปท่ี 4.43 คามาตรฐาน (Defaults)

4.5.3 การตั้งคาการบันทึก (Recording)

รูปท่ี 4.44 การตั้งคาการบันทึก (Recording)

Page 87: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

80

4.5.4 การตั้งคาโปรเจ็ค (Project)

รูปท่ี 4.45 การตั้งคาโปรเจ็ค (Project)

4.5.5 แบบทดสอบ (Quiz)

รูปท่ี 4.46 แบบทดสอบ (Quiz)

Page 88: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

81

เอกสารอางอิง Adobe Captivate : เครื่องมือพ้ืนฐานและการสรางโปรเจ็คเบ้ืองตน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม

2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 4.1 Adobe Captivate 7 สืบคนเม่ือ 4 มีนาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) รูปท่ี 4.2 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.3 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.4 หนาจอตอนรับ (Welcome Screen), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.5 เมนู Open Recent Item บนหนาจอตอนรับ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.6 เมนู Create New บนหนาจอตอนรับ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.7 เมนู Extend บนหนาจอตอนรับ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.8 หนาจอสวนประกอบของโปรแกรม Adobe Captivate 7, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.9 แถบเครื่องมือ (Menu Bar), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.10 คําสั่งในกลุมเมนูไฟล (File), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.11 คําสั่งในกลุมเมนูแกไข (Edit), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.12 คําสั่งในกลุมเมนูมุมมอง (View), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.13 คําสั่งในกลุมเมนูแทรก (Insert), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.14 คําสั่งในกลุมเมนูแกไขเพ่ิมเติม (Modify), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.15 คําสั่งในกลุมเมนูโปรเจ็ค (Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.16 คําสั่งในกลุมเมนูแบบทดสอบ (Quiz), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.17 คําสั่งในกลุมเมนูเสียง (Audio), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.18 คําสั่งในกลุมเมนูวิดีโอ (Video), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.19 คําสั่งในกลุมเมนูชุดรูปแบบ (Themes), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.20 คําสั่งในกลุมเมนูหนาตางเครื่องมือ (Windows), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.21 คําสั่งในกลุมเมนูความชวยเหลือ (Help), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.22 แถบคําสั่งหลัก (Main Options), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.23 เครื่องมือจัดการออบเจ็ค (Object Toolbar), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.24 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.25 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.26 พ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.27 การปรับรูปแบบการใชงานพ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.28 เครื่องมือควบคุมการแสดง (Timeline), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.29 พาเนล Properties, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.30 พาเนล Library, จาก (Local Computer)

Page 89: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

82

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 4.31 พาเนล Quiz Properties, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.32 พาเนล Project Info, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.33 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.34 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.35 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.36 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.37 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 4.38 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.39 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.40 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.42 การตั้งคาไฟล (Project Preferences), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.43 คามาตรฐาน (Defaults), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.44 การตั้งคาการบันทึก (Recording), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.45 การตั้งคาโปรเจ็ค (Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.46 แบบทดสอบ (Quiz), จาก (Local Computer)

Page 90: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 5 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 3 การสรางโปรเจ็คและการนําเขาขอมูลจากโปรแกรมอื่น

5.1 การสรางโปรเจ็ครูปแบบตางๆ

โปรแกรม Adobe Captive 7 ประกอบดวยรูปแบบการสรางโปรเจ็คถึง 8 ลักษณะ ไดแก Software Simulation, Video Demo, Blank Project, Form Microsoft® PowerPoint, Image Slideshow, Project Template, From Template และ Aggregator Project ในบทเรียนนี้ จะอธิบายการทํางานแตละรูปแบบอยางละเอียด ตลอดจนอธิบายลักษณะการใชเฉพาะท่ีเหมาะสม การตั้งคาเครื่องคอมพิวเตอรเบื้องตน เพ่ือใหการทํางานมีความสมบูรณมากยิ่งข้ึน

5.2 การตั้งคาเครื่องคอมพิวเตอร จอภาพและการแสดงผล

การตั้งคาเครื่องคอมพิวเตอร จอภาพและการแสดงผล เพ่ือใหผูใชทราบรายละเอียด คุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอรท่ีใช ความละเอียดของหนาจอ รูปแบบการแสดงผล ซ่ึงรายละเอียดเหลานี้จําเปนตองใชในการตั้งคาโปรเจ็คของโปรแกรม Adobe Captivate ตอไป

5.2.1 วิธีการตรวจสอบคุณสมบัติจอภาพ 5.2.1.1 เขาสู Control Panel โดยคลิกท่ีปุม Start เลือก Control Panel ดังรูป

รูปท่ี 5.1 การเขาสู Control Panel

Page 91: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

84

5.2.1.2 หลังจากนั้นเขาไปท่ีกลุม Appearance and Personalization

รูปท่ี 5.2 การเขาสูกลุม Appearance and Personalization

5.2.1.3 เลือกท่ี Adjust screen resolution ในกลุม Display เพ่ือตรวจสอบคุณสมบัติของจอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร

รูปท่ี 5.3 เมนู Adjust screen resolution

Page 92: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

85

5.2.1.4 วินโดนแสดงคุณสมบัติจอภาพของเครื่องคอมพิวเตอร เชน Display, Resolution, Orientation ผูใชควรทราบและจดจําขอมูลเหลานี้

รูปท่ี 5.4 เมนู Screen Resolution

5.2.1.5 ผูใชสามารถใชวิธีการลัดเขาสูเมนู Adjust screen resolution โดยคลิกขวา (Right Click) ท่ีหนา Desktop แลวเลือก Screen resolution

รูปท่ี 5.5 วิธีการลัดเขาสูเมนู Adjust screen resolution

Page 93: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

86

5.3 Software Simulation Software Simulation สําหรับสรางโปรเจ็คเพ่ือบันทึกหนาจอหรือแอพพลิเคชั่นของ

โปรแกรมตางๆ แบบเคลื่อนไหว สามารถใชแนะนําวิธีการใชงานโปรแกรมเบื้องตน ผลิตสื่อการเรียนการสอนดานซอฟตแวรคอมพิวเตอรได

5.3.1 การตั้งคาเบื้องตนสําหรับการสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation

เพ่ือใหการสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation มีความสอดคลองตรงตามวัตถุประสงคการสรางสื่อมัลติมีเดียหรือสื่อการสอนอ่ืนๆ มีความเหมาะสมกับอุปกรณท่ีนําไปประยุกตใช และตรงตามขอบเขตเปาหมายท่ีออกแบบ นอกจากผูใชจําเปนตองตรวจสอบ คุณสมบัติตางๆ ของเครื่องคอมพิวเตอรแลว ควรตั้งคาโปรเจ็คใหสอดคลองดวย วิธีการตั้งคาสําหรับการสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation ทําไดโดยเลือกท่ี แถบเมนูบาร (Menu Bar) Edit > Preferences ซ่ึงรายละเอียดในการตั้งคามีดังนี้

รูปท่ี 5.6 การเขาสูคําสั่ง Preferences เพ่ือตั้งคาโปรเจ็ค

Page 94: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

87

5.3.1.1 การตั้งคาท่ัวไป (Setting) การตั้งคาท่ัวไปเปนการกําหนดคาพ้ืนฐานของการบันทึกสําหรับใชในโปรเจ็คแบบ Software

Simulation ไดแก การกําหนดภาษาท่ีใชในการแสดง การกําหนดคุณสมบัติของเสียง การแสดงหรือซอนไอคอน ความนุมนวลในการเคลื่อนไหวของเมาส ลักษณะการคลิกและการลากของเมาส เปนตน

รูปท่ี 5.7 การตั้งคาท่ัวไป (Setting) สําหรับโปรเจ็คแบบ Software Simulation

5.3.1.2 การตั้งคาวิดีโอตัวอยาง (Video Demo) การตั้งคาวิดีโอตัวอยางเปนการกําหนดคาสําหรับการบันทึก ไดแก การแสดงหรือซอนเมาส

ในขณะบันทึก แหลงสําหรับการเก็บขอมูลการบันทึก (Working Folder) โหมดสีในการบันทึก (Video Color Mode)

รูปท่ี 5.8 การตั้งคาวิดีโอตัวอยาง (Video Demo)

Page 95: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

88

5.3.1.3 การตั้งคาปุมคําสั่งสําหรับการบันทึก (Key) การตั้งคาปุมคําสั่งสําหรับการบันทึกเปนการกําหนดใชปุม (Key) สําหรับทํางานเฉพาะอยาง

ไดแก การหยุด (Stop) การหยุดชั่วคราวหรือบันทึกตอ (Pause/Resume) การเริ่มหรือหยุดบันทึกวีดีโอในลักษณะตอเนื่องได (Full Motion Recording) เปนตน

รูปท่ี 5.9 การตั้งคาปุมคําสั่งสําหรับการบันทึก (Key)

5.3.1.4 การตั้งคาเก่ียวกับลักษณะการทํางาน (Mode) การตั้งคาเ ก่ียวกับลักษณะการทํางาน มี 4 ลักษณะ ไดแก ลักษณะการสาธิต

(Demonstration) ลักษณะการประเมินความเขาใจการใช (Assessment Simulation) ลักษณะสําหรับการฝก (Training Simulation) ลักษณะท่ีผูใชสามารถปรับเลือกไดเอง (Custom)

รูปท่ี 5.10 การตั้งคาเก่ียวกับลักษณะการทํางาน (Mode)

Page 96: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

89

5.3.1.5 การตั้งคามาตรฐาน (Default) เปนการตั้งคามาตรฐานใหกับวัตถุ รูปแบบมาตรฐานตางๆ เชน Text, Success Caption, Failure เปนตน

รูปท่ี 5.11 การตั้งคามาตรฐาน (Default)

5.3.2 การสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation โปรเจ็คแบบ Software Simulation เปนการสรางสื่อมัลติมีเดียสําหรับการเรียนการสอน

ดานซอฟตแวร หรือใชสําหรับการนําเสนอการใชงานโปรแกรมตางๆ โดยใชการบันทึกการเคลื่อนไหวบนหนาจอคอมพิวเตอร โดยแบงเปนข้ันตอนดังนี้ สามารถทําได 3 วิธี คือ

5.3.2.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) 5.3.2.2 วิธีท่ี 2 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) File > Record new

Software Simulation 5.3.2.3 วิธีท่ี 3 ใชปุมลัด (Short cut) Ctrl+R

รูปท่ี 5.12 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากหนาจอตอนรับ

Page 97: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

90

รูปท่ี 5.13 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากแถบเมนูบาร

5.3.3 การกําหนดคุณสมบัติโปรเจ็คแบบ Software Simulation ผูใชสามารถกําหนดคุณสมบัติไดดังนี้ 5.3.3.1 ขนาด (Size) สามารถเลือกได 2 ลักษณะ คือ

1) กําหนดพ้ืนท่ี (Screen Area) สามารถกําหนดขนาดเอง (Custom Size)หรือแบบเต็มหนาจอ (Full Screen) นอกจากนั้น

โปรแกรมยังแสดงหนาจอท่ีเหมาะสมสําหรับอุปกรณตางๆ เชน Apple iPad Landscape (1024 x 672), Apple iPad Portrait (768 x 928), Video – Apple iPad (1024 x 768), Video – Apple iPhone 3 (640 x 480), Video – Apple iPhone 4 (4S)/Apple iPod (1280 x 720), เปนตน

รูปท่ี 5.14 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบกําหนดพ้ืนท่ี (Screen Area)

Page 98: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

91

2) เลือกจากโปรแกรม (Application) มีลักษณะการบันทึกภาพหนาจอตามขนาดของโปรแกรมท่ีเปดอยู มี 3 รูปแบบ

• เ ลื อกบัน ทึกภาพโดย ใช ขนาดหน า ต า งของ โปรแกรม (Application Window)

• เ ลื อ กบั น ทึ กภ าพบ า งส ว น ในหน า ต า ง ขอ ง โ ป รแกร ม (Application Region)

• เลือกบันทึกภาพโดยปรับขนาดและเลือกสวนท่ีจะบันทึกภาพไดอยางอิสระ (Custom Size)

รูปท่ี 5.15 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application)

รูปท่ี 5.16 ทางเลือกสําหรับการบันทึกหนาจอ

Page 99: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

92

5.3.3.2 การบันทึกเสียงและออปชั่นการบันทึกอ่ืน ผูใชสามารถกําหนดคุณสมบัติอ่ืนเพ่ิมเติมได เชน การสาธิต การทดสอบ การฝกปฏิบัติ การติดตามเมาส และเสียงท่ีนําเขา มีรายละเอียดตางๆ ดังนี้ 1) Automatic บันทึกหนาจอแบบเคลื่อนไหวอัตโนมัติ โดยโปรแกรม

สามารถกําหนดการบันทึกภาพตาง ๆ ท้ังภาพ เสียง และขอความโดยอัตโนมัติ ประกอบดวย 4 โหมด คือ

• Demo สาธิตการใชงานโปรแกรมตางๆ บนหนาจอคอมพิวเตอร

• Assessment ทดสอบการคลิกเมาสใหถูกตอง จึงจะสามารถไปยังข้ันตอนตอไปได ตามภาพเคลื่อนไหวท่ีบันทึก และสามารถเก็บคะแนนในการคลิกได

• Training การฝกการคลิกเมาสใหถูกตอง จึงจะสามารถไปยังข้ันตอนตอไปได โดยมีคําเตือนเม่ือนําเมาสวางบนตําแหนงท่ีถูกตอง ตามภาพเคลื่อนไหวท่ีบันทึก และสามารถเก็บคะแนนในการคลิกไดเชนกัน

2) Manual บันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว โดยท่ีผูใชตองคลิกเมาส กําหนดภาพ เสียง และขอความดวยตนเอง

3) Panning กําหนดใหโปรแกรมบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหวตามการเคลื่อนไหวของเมาส

4) Audio กําหนดใหมีการบันทึกเสียงผานไมโครโฟน

รูปท่ี 5.17 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation

Page 100: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

93

5.4 Video Demo Video Demo สรางโปรเจ็ครูปแบบการบันทึกภาพหนาจอหรือโปรแกรมแบบเคลื่อนไหว

เต็มหนาจอ หรือเต็มรูปแบบ (Full Motion Record) และสามารถตัดตอแกไข ใสเอฟเฟคตางๆ ได 5.4.1 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo สามารถทําได 2 วิธี คือ

5.4.1.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen)

รูปท่ี 5.18 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen)

5.4.1.2 วิธีท่ี 2 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) File > Record new Video Demo

รูปท่ี 5.19 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo จากแถบเมนูบาร (Menu Bar)

Page 101: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

94

5.4.2 การกําหนดคุณสมบัติโปรเจ็คแบบ Video Demo ผูใชสามารถกําหนดคุณสมบัติไดดังนี้ 5.4.2.1 ขนาด (Size) สามารถเลือกได 2 ลักษณะ ซ่ึงเหมือนกับการกําหนดคาโปร

เจ็คแบบ Software Simulation คือ กําหนดพ้ืนท่ี (Screen Area) และเลือกจากโปรแกรม (Application) เปดอยู

รูปท่ี 5.20 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application)

รูปท่ี 5.21 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo

Page 102: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

95

รูปท่ี 5.22 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo

5.4.2.2 การบันทึกเสียงและออปชั่นการบันทึกอ่ืน คุณสมบัตินี้จะลดลง เหลือเพียง กําหนดการติดตามเมาส และการนําเขาเสียง

รูปท่ี 5.23 การบันทึกเสียงและออปชั่นการบันทึกอ่ืน

Page 103: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

96

5.5 Blank Project Blank Project สรางโปรเจ็ควางเปลา สําหรับสรางสรรคชิ้นงาน พรอมท้ังตกแตงแกไขดวย

ตนเองท้ังหมด 5.5.1 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project สามารถทําได 3 วิธี คือ

5.5.1.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) 5.5.1.2 วิธีท่ี 2 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) File > New Project > Blank

Project 5.5.1.3 วิธีท่ี 3 ใชปุมลัด (Short cut) Ctrl+N

รูปท่ี 5.24 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen)

รูปท่ี 5.25 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากแถบเมนูบาร (Menu Bar)

Page 104: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

97

5.5.2 การกําหนดคุณสมบัติโปรเจ็คแบบ Blank Project ผูใชสามารถกําหนดคุณสมบัติไดดังนี้ 5.5.2.1 ขนาด (Size) ผูใชสามารถกําหนดขนาดเอง โดยการกรอกในชอง Width

และ Height หรือเลือกจากท่ีโปรแกรมสรางไว

รูปท่ี 5.26 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project

รูปท่ี 5.27 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project

Page 105: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

98

รูปท่ี 5.28 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project

5.6 Form Microsoft® PowerPoint Form Microsoft® PowerPoint สรางโปรเจ็คการนําเสนอโดยนําไฟล Microsoft

PowerPoint มาประยุกตใชงาน เหมาะสําหรับผูท่ีเตรียมการสอนและมีการจัดทําไฟล Microsoft PowerPoint แลว

5.6.1 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint สามารถทําได 2 วิธี คือ 5.6.1.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) 5.6.1.2 วิธีท่ี 2 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) File > New Project >

Project form MS PowerPoint

รูปท่ี 5.29 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากหนาจอตอนรับ

Page 106: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

99

รูปท่ี 5.30 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากแถบเมนูบาร

5.6.2 เลือกไฟลท่ีตองการนํามาสรางเปนโปรเจ็ค

รูปท่ี 5.31 การเลือกไฟลท่ีตองการนํามาสรางเปนโปรเจ็ค

รูปท่ี 5.32 โปรแกรม Adobe Captivate นําเขาไฟล

Page 107: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

100

5.6.3 การกําหนดคุณสมบัติ 5.6.3.1 กําหนดชื่อในชอง Name 5.6.3.2 กําหนดขนาดของโปรเจ็ค ผูใชสามารถกรอกขนาดเอง หรือเลือกจากเมนู

Preset Sizes 5.6.3.3 เลือกสไลดท่ีตองการนําเขา 5.6.3.4 กําหนดทํางาน On mouse click หรือ Automatically

รูปท่ี 5.33 การกําหนดคุณสมบัติของโปรเจ็ค

รูปท่ี 5.34 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint

Page 108: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

101

5.7 Image Slideshow Image Slideshow สรางโปรเจ็ครูปแบบสไลดโชว เหมาะสําหรับการนําภาพท่ีเตรียมไวมา

เรียงและนําเสนอ ซ่ึงสะดวกและงายในการจัดทํา 5.7.1 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow สามารถทําได 2 วิธี คือ

5.7.1.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) 5.7.1.2 วิธีท่ี 2 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) File > New Project >

Image Slideshow

รูปท่ี 5.35 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen)

รูปท่ี 5.36 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากแถบเมนูบาร (Menu Bar)

Page 109: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

102

5.7.2 กําหนดขนาดของโปรเจ็ค

รูปท่ี 5.37 การกําหนดขนาดของโปรเจ็ค

5.7.3 เลือกไฟลภาพท่ีตองการ

รูปท่ี 5.38 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ

Page 110: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

103

5.7.4 การปรับแตงภาพ ผูใชสามารถปรับแตงภาพไดเอง เชน ปริมาณแสง โทนสี การปรับความชัด การกลับดานของภาพ รวมถึงการตัดภาพ เปนตน

รูปท่ี 5.39 การปรับแตงภาพ

รูปท่ี 5.40 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow

Page 111: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

104

5.8 Project Template Project Template สรางโปรเจ็คและบันทึกเปนแมแบบ (Template) เก็บไว เพ่ือนําไปใช

เปนตนแบบสําหรับโปรเจ็คอ่ืนๆ ในภายหลัง

รูปท่ี 5.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template

5.8.1 From Template From Template สรางโปรเจ็คจากแมแบบท่ีเตรียมไว โดยสามารถตกแตงเพ่ิมเติมเนื้อหาได

ตามตองการ

รูปท่ี 5.42 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template

Page 112: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

105

5.8.2 Aggregator Project Aggregator Project การรวบรวมหลายๆ โปรเจ็คท่ีสรางข้ึนใหเปนโปรเจ็คเดียว

รูปท่ี 5.43 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project

5.9 สไดลรูปแบบตางๆ และการกําหนดคุณสมบัติของสไลด สไลดของโปรแกรม Adobe Captivate 7 มีลักษณะคลายกับเฟรม (Frame) ของภาพยนต

หรือฟลมถายภาพท่ีแบงออกเปนชองๆ ลักษณะเดียวกับ Slide View ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ซ่ึงสามารถกําหนดคุณสมบัติตางๆ ของสไลดได ตามประเภทของสไลด การกําหนดคุณสมบัติของสไลดมีความจําเปนสําหรับควบคุมการทํางานและการนําเสนอท่ีถูกตองผูเรียนจําเปนตองศึกษาและทําความเขาใจ พรอมท้ังทราบวิธีการจัดการเก่ียวกับสไลด สามารถประยุกตใชเครื่องมือพ้ืนฐานรวมกับการทํางานอ่ืน 5.10 ประเภทของสไลด

สไลดของโปรแกรม Adobe Captivate 7 มีลักษณะคลายกับเฟรม (Frame) ของภาพยนต หรือฟลมถายภาพท่ีแบงออกเปนชองๆ ลักษณะเดียวกับ Slide View ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ซ่ึงสามารถกําหนดคุณสมบัติตางๆ ของสไลดได ตามประเภทของสไลด ดังนี้

ประเภท คุณสมบัติ 1. Blank Slide สไลดวาง หรือสไลดเปลา ผูใชสามารถแทรกวัตถุตางๆได 2. Question Slide สไลดคําถาม ใชสําหรับสรางแบบทดสอบตางๆ 3. PowerPoint Slide สไลดท่ีนําเขาจากไฟล MS PowerPoint 4. Recording Slide สไลดท่ีบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว 5. Image Slide สไลดท่ีนําภาพมาเปนพ้ืนหลัง 6. Animation Slide สไลดแอนิเมชั่นในรูปแบบของไฟลนามสกุล SWF หรือ Gif

Page 113: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

106

5.11 การกําหนดคุณสมบัติของสไลด ผูใชสามารถกําหนดคุณสมบัติตางๆ ของสไลดหรือวัตถุตางๆ ได ท่ีพาเนล Properties

ปรากฎอยูในแถบ Panel Group ดังนี้ 5.11.1 Name กําหนดชื่อของสไลด

รูปท่ี 5.44 Panel Properties

5.11.2 General กําหนดคุณสมบัติท่ัวไปของสไลด ไดแก

รูปท่ี 5.45 การกําหนดคุณสมบัติท่ัวไปของสไลด

5.11.2.1 Master Slide กําหนดสไลดตนแบบ 5.11.2.2 Stage กําหนดสีของพ้ืนหลัง 5.11.2.3 Background นํารูปภาพมาเปนพ้ืนหลัง 5.11.2.4 Quality กําหนดคุณภาพการแสดงผลของสไลด

Page 114: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

107

5.11.2.5 Time ระยะเวลาแสดงสไลด 5.11.2.6 Transition กําหนดการเปลี่ยนภาพแบบพิเศษระหวางเปลี่ยนสไลด

5.11.3 Action กําหนดเหตุการณเม่ือแสดงผลสไลด

รูปท่ี 5.46 การกําหนดเหตุการณเม่ือแสดงผลสไลด

5.11.3.1 On Enter กําหนดเหตุการณท่ีเกิดข้ึนขณะท่ีเริ่มสไลด มีคุณสมบัติเพ่ิมเติมดังนี้ 1) Continue เลนสไลดตอจากสไลดเดิม 2) Open URL Or File เชื่อมโยงไปยังเว็บไซตหรือไฟล 3) Open Other Project เปดโปรเจ็คอ่ืน 4) Send E-mail to ใหสงอีเมลลถึงอีเมลลท่ีกําหนดไว 5) Execute JavaScript แสดง JavaScript ท่ีกําหนดไว 6) Execute Advance Actions แสดง Script ดวยแอพพลิเคชั่นท่ีเขียน 7) Play Audio เลนเสียงท่ีกําหนดไว 8) Show ใหวัตถุท่ีซอนไวแสดงข้ึนมา 9) Hide ซอนวัตถุไมใหแสดงข้ึนมา 10) Enable กําหนดใหวัตถุอ่ืนๆ ตอบสนองกับผูใช ซ่ึงสามารถทําได

เฉพาะวัตถุท่ีโตตอบไดเทานั้น 11) Disable กําหนดใหยกเลิกการตอบสนองของวัตถุกับผูใช ซ่ึงสามารถ

ทําไดเฉพาะวัตถุท่ีโตตอบไดเทานั้น 12) Assign กําหนดจํานวนการเปลี่ยนแปลงขนาดขอความของ Text

Caption 13) Increment คาของตัวแปรจะเพ่ิมข้ึนเม่ือผูใชทําตามตัวแปรท่ีกําหนด 14) Decrement คาของตัวแปรจะลดลงเม่ือผูใชทําตามตัวแปรท่ีกําหนด 15) Apply Effect กําหนดใหกับเอฟเฟคตทํางาน 16) Exit ออกจากโปรเจ็ค 17) Pause หยุดการทํางานชั่วคราว 18) No Action ไมกําหนดการทํางานใดๆ ใหกับสไลด

Page 115: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

108

รูปท่ี 5.47 คุณสมบัติของ Action แบบ On Enter

5.11.3.2 On Exit กําหนดเหตุการณท่ีเกิดข้ึนหลังจบสไลด

รูปท่ี 5.48 คุณสมบัติของ Action แบบ On Exit

Page 116: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

109

1) Go To Previous Slide ใหไปยังสไลดกอนหนา 2) Go To Next Slide ใหไปยังสไลดตอไป 3) Go To Last Visited slide ใหไปยังสไลดลาสุดท่ีผานมา 4) Return to Quiz กลับไปยังแบบทดสอบ 5) Jump to Slide ขามไปท่ีสไลด 6) Open URL Or File เชื่อมโยงไปยังเว็บไซตหรือไฟล 7) Open Other Project เปดโปรเจ็คอ่ืน 8) Execute JavaScript แสดง JavaScript ท่ีกําหนดไว 9) Execute Advance Actions แสดง Script ดวยแอพพลิเคชั่นท่ีเขียน 10) Execute Shared Action สามารถเชื่อมโยงวัตถุท่ีมีการดําเนินการ

ข้ันสูงท่ีใชรวมกัน 11) Assign กําหนดจํานวนการเปลี่ยนแปลงขนาดขอความของ Text

Caption 12) Increment คาของตัวแปรจะเพ่ิมข้ึนเม่ือผูใชทําตามตัวแปรท่ีกําหนด 13) Decrement คาของตัวแปรจะลดลงเม่ือผูใชทําตามตัวแปรท่ีกําหนด 14) Apply Effect กําหนดใหกับเอฟเฟคตทํางาน 15) Exit ออกจากโปรเจ็ค 16) Pause หยุดการทํางานชั่วคราว 17) No Action ไมกําหนดการทํางานใดๆ ใหกับสไลด

5.11.4 Audio กําหนดเสียงใหกับสไลด

5.11.4.1 Fade In เสียงคอยเพ่ิมข้ึน 5.11.4.2 Fade Out เสียงคอยจางหาย 5.11.4.3 Loop Audio การเลนเสียงซํ้า 5.11.4.4 Stop Background Audio หยุดเลนเสียงพ้ืนหลัง

รูปท่ี 5.49 การกําหนดเสียงใหกับสไลด

Page 117: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

110

5.12 การจัดการเกี่ยวกับสไลด 5.12.1 การเพ่ิมสไลด หรือการสรางสไลด สามารถทําได 3 วิธี คือ

5.12.1.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) Insert > New Slide 5.12.1.2 วิธีท่ี 2 ใชปุมลัด (Short cut) Shift+Ctrl+V 5.12.1.3 วิธีท่ี 3 คลิกขวาบน Workspace เลือก Slides > New Slide

รูปท่ี 5.50 การเพ่ิมสไลด

รูปท่ี 5.51 การเพ่ิมสไลด

Page 118: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

111

5.12.2 การแทรกสไลด PowerPoint สามารถทําได 3 วิธี คือ 5.12.2.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) Insert > PowerPoint Slide 5.12.2.2 วิธีท่ี 2 ใชปุมลัด (Short cut) Shift+Ctrl+P 5.12.2.3 วิธีท่ี 3 คลิกขวาบน Workspace เลือก Slides > PowerPoint Slide

รูปท่ี 5.52 การเพ่ิมสไลด PowerPoint

รูปท่ี 5.53 การเพ่ิมสไลด PowerPoint

Page 119: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

112

5.12.2.4 โปรแกรม Adobe Captivate แสดงหนาตางใหเลือกแทรกสไลด โดยสไลดท่ีแทรกเขามาจะถูกวางไวหลังตําแหนงสไลดท่ีเลือก

รูปท่ี 5.54 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด PowerPoint

5.12.2.5 เลือกไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก

รูปท่ี 5.55 การเลือกไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก

Page 120: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

113

5.12.2.6 เลือกหนาสไลดในไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก

รูปท่ี 5.56 การเลือกหนาสไลดในไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก

5.12.2.7 สไลดท่ีแทรกอยูในสวนทายจากสไลดท่ีกําหนดไวตอนแรก

รูปท่ี 5.57 แสดงสไลดท่ีแทรก

Page 121: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

114

5.12.3 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว สามารถทําได 3 วิธี คือ 5.12.3.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) Insert > Recording Slide 5.12.3.2 วิธีท่ี 2 ใชปุมลัด (Short cut) Ctrl+Alt+O

รูปท่ี 5.58 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว

5.12.3.3 วิธีท่ี 3 คลิกขวาบน Workspace เลือก Slides > Recording Slide

รูปท่ี 5.59 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว

Page 122: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

115

5.12.3.4 โปรแกรม Adobe Captivate แสดงหนาตางใหเลือกแทรกสไลด โดยสไลดท่ีแทรกเขามาจะถูกวางไวหลังตําแหนงสไลดท่ีเลือก

รูปท่ี 5.60 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด Recording Slide

5.12.3.5 ผูใชเลือกโปรแกรมท่ีตองการบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว กําหนดรูปแบบการบันทึกตางๆ และกดปุม Record เพ่ือเริ่มบันทึกภาพ

รูปท่ี 5.61 การเลือกโปรแกรมท่ีตองการบันทึกภาพ

Page 123: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

116

5.12.3.6 หลังบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนท่ีเสร็จ ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

รูปท่ี 5.62 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

5.12.4 การแทรกสไลดรูปภาพ สามารถทําได 3 วิธี คือ 5.12.4.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) Insert > Image Slide 5.12.4.2 วิธีท่ี 2 ใชปุมลัด (Short cut) Shift+Ctrl+Alt+S 5.12.4.3 วิธีท่ี 3 คลิกขวาบน Workspace เลือก Slides > Image Slide

รูปท่ี 5.63 การแทรกสไลดรูปภาพ

Page 124: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

117

รูปท่ี 5.64 การแทรกสไลดรูปภาพ

5.12.4.4 เลือกไฟลภาพท่ีตองการ

รูปท่ี 5.65 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ

Page 125: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

118

5.12.4.5 โปรแกรมแสดงสวนปรับแกไขและตกแตงภาพ เชน แสงสวาง ความคมชัด ปรับสี การกลับภาพ และการตัดภาพ

รูปท่ี 5.66 การปรับแกไขและตกแตงภาพ

5.12.4.6 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

รูปท่ี 5.67 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

Page 126: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

119

5.12.5 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด สามารถทําได 3 วิธี คือ 5.12.5.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) Insert > Animation Slide 5.12.5.2 วิธีท่ี 2 ใชปุมลัด (Short cut) Shift+Ctrl+N 5.12.5.3 วิธีท่ี 3 คลิกขวาบน Workspace เลือก Slides > Animation Slide

รูปท่ี 5.68 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด

รูปท่ี 5.69 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด

Page 127: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

120

5.12.5.4 เลือกไฟลภาพท่ีตองการ

รูปท่ี 5.70 การเลือกไฟลแอนิเมชั่นท่ีตองการแทรก

5.12.5.5 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

รูปท่ี 5.71 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

Page 128: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

121

5.12.6 การแทรกสไลดภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอสไลด รูปแบบไฟลท่ีโปรแกรมรองรับ ไดแก *.flv และ *.f4v แตเราสามารถเลือกไฟลวิดีโอในรูปแบบอ่ืนๆ ได เชน *.avi, *.mp4, *.mov, *.3gp, *.mpg, *.wmv เปนตน โดยโปรแกรมจะทําการแปลงไฟลเปน *.flv เม่ือนําไฟลวิดีโอในรูปแบบตางๆ เขามาใชในโปรเจ็ค สามารถทําได 2 วิธี คือ 5.12.6.1 วิธีท่ี 1 เลือกจากแถบเมนูบาร (Menu Bar) Insert > Animation Slide 5.12.6.2 วิธีท่ี 2 ใชปุมลัด (Short cut) Ctrl+Alt+V

รูปท่ี 5.72 สไลดภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอสไลด

5.12.6.3 เลือกไฟลท่ีตองการ

รูปท่ี 5.73 การเลือกไฟลท่ีตองการ

Page 129: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

122

รูปท่ี 5.74 การเลือกไฟลท่ีตองการ

5.12.6.4 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

รูปท่ี 5.75 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ

Page 130: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

123

5.12.7 การคัดลอกสไลด (Copy) คลิกขวาสไลดท่ีตองการคัดลอก เลือก Copy หรือใช Short Cut (Ctrl+C)

รูปท่ี 5.76 การคัดลอกสไลด

5.12.8 การทําสําเนาสไลด (Duplicate) คลิกขวาสไลดท่ีตองการทําสําเนาสไลด เลือก Duplicate หรือใช Short Cut (Ctrl+D)

รูปท่ี 5.77 การทําสําเนาสไลด

Page 131: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

124

5.12.9 การลบสไลด (Delete) คลิกขวาสไลดท่ีตองการลบสไลด เลือก Delete หรือใชปุม Delete ท่ี Keyboard

รูปท่ี 5.78 การลบสไลด

5.12.10 การสลับลําดับสไลด เลือกสไลดท่ีตองการ กดคลิกคางไวและลากผาน สไลดอ่ืน

รูปท่ี 5.79 การสลับลําดับสไลด

Page 132: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

125

5.12.11 การซอนสไลด คลิกขวาสไลดท่ีตองการซอนสไลด เลือก Hide Slide หรือใช Short Cut (Shift+Ctrl+H) ลักษณะของสไลดจะจางลง ไมไดหายไป แตจะไมปรากฎเม่ือแสดงในการนําเสนออ่ืนๆ

รูปท่ี 5.80 การซอนสไลด

หมายเหตุ ผูใชสามารถแสดงสไลดท่ีซอนไว โดยคลิกขวา เลือก Show Slide หรือ ใช Short Cut (Shift+Ctrl+H)

รูปท่ี 5.81 การซอนสไลด

Page 133: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

126

5.12.12 การล็อคสไลด คลิกขวาสไลดท่ีตองการล็อคสไลด เลือก Lock Slide หรือใช Short Cut (Ctrl+K) ผูใชจะไมสามารถแกไขใดๆ ได และจะปรากฎรูปแมกุญแจดานบนสไลด

รูปท่ี 5.82 การล็อคสไลด

หมายเหตุ ผูใชสามารถปลดล็อคสไลด โดยคลิกขวา เลือก Unlock Slide หรือ ใช Short Cut (Ctrl+K)

รูปท่ี 5.83 การปลดล็อคสไลด

Page 134: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

127

เอกสารอางอิง Adobe Captivate : การสรางโปรเจ็คและการนําเขาขอมูลจากโปรแกรมอ่ืน, สืบคนเม่ือ 19

เมษายน 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 5.1 การเขาสู Control Panel, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.2 การเขาสูกลุม Appearance and Personalization, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.3 เมนู Adjust screen resolution, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.4 เมนู Screen Resolution, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.5 วิธีการลัดเขาสูเมนู Adjust screen resolution, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.6 การเขาสูคําสั่ง Preferences เพ่ือตั้งคาโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.7 การตั้งคาท่ัวไป (Setting) สําหรับโปรเจ็คแบบ Software Simulation, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.8 การตั้งคาวิดีโอตัวอยาง (Video Demo) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.9 การตั้งคาปุมคําสั่งสําหรับการบันทึก (Key) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.10 การตั้งคาเก่ียวกับลักษณะการทํางาน (Mode) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.11 การตั้งคามาตรฐาน (Default) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.12 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากหนาจอตอนรับ, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.13 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากแถบเมนูบาร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.14 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบกําหนดพ้ืนท่ี (Screen Area) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.15 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.16 ทางเลือกสําหรับการบันทึกหนาจอ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.17 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.18 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) , จาก

(Local Computer) รูปท่ี 5.19 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo จากแถบเมนูบาร (Menu Bar) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.20 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.21 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo, จาก (Local

Computer)

Page 135: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

128

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 5.22 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.23 การบันทึกเสียงและออปชั่นการบันทึกอ่ืน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.24 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) , จาก

(Local Computer) รูปท่ี 5.25 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากแถบเมนูบาร (Menu Bar) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.26 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.27 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.28 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.29 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากหนาจอตอนรับ, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.30 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากแถบเมนูบาร, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.31 การเลือกไฟลท่ีตองการนํามาสรางเปนโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.32 โปรแกรม Adobe Captivate นําเขาไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.33 การกําหนดคุณสมบัติของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.34 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 5.35 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) ,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.36 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากแถบเมนูบาร (Menu Bar) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.37 การกําหนดขนาดของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.38 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.39 การปรับแตงภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.40 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.42 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.43 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project, จาก (Local

Computer)

Page 136: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

129

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 5.44 Panel Properties, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.45 การกําหนดคุณสมบัติท่ัวไปของสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.46 การกําหนดเหตุการณเม่ือแสดงผลสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.47 คุณสมบัติของ Action แบบ On Enter, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.48 คุณสมบัติของ Action แบบ On Exit, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.49 การกําหนดเสียงใหกับสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.50 การเพ่ิมสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.51 การเพ่ิมสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.52 การเพ่ิมสไลด PowerPoint, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.53 การเพ่ิมสไลด PowerPoint, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.54 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด PowerPoint, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.55 การเลือกไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.56 การเลือกหนาสไลดในไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.57 แสดงสไลดท่ีแทรก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.58 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.59 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.60 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด Recording Slide, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.61 การเลือกโปรแกรมท่ีตองการบันทึกภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.62 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.63 การแทรกสไลดรูปภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.64 การแทรกสไลดรูปภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.65 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.66 การปรับแกไขและตกแตงภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.67 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.68 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.69 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.70 การเลือกไฟลแอนิเมชั่นท่ีตองการแทรก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.71 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.72 สไลดภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.73 การเลือกไฟลท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.74 การเลือกไฟลท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.75 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.76 การคัดลอกสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.77 การทําสําเนาสไลด, จาก (Local Computer)

Page 137: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

130

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 5.78 การลบสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.79 การสลับลําดับสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.80 การซอนสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.81 การซอนสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.82 การล็อคสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.83 การปลดล็อคสไลด, จาก (Local Computer)

Page 138: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 6 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป

ตอนท่ี 4 การบันทึกเสยีงและการแทรกเสียง 6.1 เสียงคืออะไร

เสียง (Sound) คือ พลังงานรูปหนึ่งท่ีเกิดจากการสั่นสะเทือนของโมเลกุลของอากาศ ทําใหเกิดการอัดและขยาย สลับกันของโมเลกุลอากาศ ความดันบรรยากาศจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงตามการเคลื่อนท่ีของโมเลกุลอากาศ เรียกวา คลื่นเสียง 6.2 รูปแบบและลักษณะของเสียง

รูปแบบของเสียงท่ีใชประกอบบทเรียน โดยท่ัวไปจะมีเสียงบรรยาย หรือเสียงพูด (Speech / Narration) เสียงเอฟเฟกต (Sound Effect) ซ่ึงจะรวมถึงเสียงดนตรีประกอบการนําเสนอบทเรียน (Music Background) ดวย

6.2.1 เสียงบรรยาย หรือเสียงพูด (Speech / Narration) เสียงบรรยาย หรือเสียงพูด เปนรูปแบบท่ีพบเห็นในบทเรียนท่ัวไป จุดเดนจะอยูท่ีการเลือก

เสียงใหสอดคลองกับเนื้อหา สอดคลองกับระดับผูเรียน มีความชัดเจน และผูบรรยายมีลีลาการใชเนนถอยคําท่ีนาสนใจชวนติดตามจุดเดนดังกลาวนี้แบงออกเปน 2 สวน คือ จุดเดนดานคุณภาพเสียง และจุดเดนดานการออกแบบเสียง

การออกแบบเสียงสําคัญอยูท่ีการเตรียมบทเสียง (Sound Script) ผูออกแบบบทเสียงจะตองออกแบบการใชถอยคํา ใหสละสลวย สื่อความหมาย กะทัดรัด จูงใจ มีจังหวะคลองจองกับการนําเสนอภาพ และขอความหนาจอ และสอดคลองกับตัวผูเรียน เทคนิคเพ่ิมเติมคือ การเปดโอกาสใหผูเรียนเลือกท่ีจะฟงเสียง หรือไมฟงเสียงบรรยายได รวมท้ังการออกแบบใหผูเรียนควบคุมความดังของเสียงไดสะดวก

ขอบกพรองของการออกแบบเสียงท่ีพบบอยก็คือ การใหผูบรรยายอานตามขอความหนาจอ ซ่ึงดูเหมือนเปนการอานการฟง ลักษณะนี้มีผลเสียมากกวาผลดี ผลเสียคือ ผูเรียนจะสับสน ระหวางเสียงท่ีไดยินกับขอความท่ีตนเองกําลังอานอยู ผูเรียนบางคนอานเร็วกวาเสียงบรรยาย บางคนอานชากวาเสียงบรรยาย การปรับความเร็วในการอานของผูเรียนใหพอดีกับเสียงบรรยายทําไดยาก วิธีการ แกไขทําไดหลายวิธีเชน การเปดโอกาสใหผูเรียนคลิกปุมเพ่ือฟง หรือปดเสียงบรรยาย หรือการออกแบบใหมีเสียงบรรยายเฉพาะการสรุปความคิดรวบยอด หรือการนําเขาสูการเรียนรูในสวนเนื้อหาท่ีจําเปนเทานั้น

6.2.2 เสียงเอฟเฟกต (Sound Effect) เสียงเอฟเฟกต เรียกอีกชื่อหนึ่ งวา เสียงประกอบ จําแนกเปน 2 ประเภทหลักคือ

Synchronized Sound ซ่ึงเปนเสียงหลักท่ีเกิดจากการกระทํา (Action) โดยตรงจากจอภาพ มักจะเปนสัญญาณเสียงสั้น ๆ เชน เสียงแกวแตก ลูกโปงแตก เคลื่อนยายสิ่งของ การลากเสน การกระพริบ

Page 139: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

132

หรือ Highlight ภาพหรือตัวอักษร อีกประเภทหนึ่งคือ เสียงฉากหลัง (Background Sound) เปนเสียงท่ียาวนานกวาเสียง Synchronized Sound เปนเสียงทําใหผูเรียนเกิดอารมณ และความรูสึกคลอยตามเนื้อหา หรือภาพเหตุการณท่ีปรากฏบนหนาจอ ในการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอรนั้น ผูออกแบบจะใชเสียงฉากหลังนี้ ประกอบการเสนอหัวเรื่อง หรือบทนํา เพ่ือชวยสรางความนาสนใจของบทเรียน และอาจใชเสียงรูปแบบนี้นําเสนอเนื้อหาสวนอ่ืน ๆ ไดดวย ท้ังนี้ข้ึนอยูกับผูออกแบบ วาเห็นสมควรจะใช อยางไรในชวงใดบาง

6.2.3 เสียงดนตรีประกอบ (Music Background) สัญญาณเสียงดนตรีสามารถจัดรวมอยูในรูปแบบของเสียง Background แตในการนําเสนอ

บทเรียนดวยคอมพิวเตอรนั้น เสียงดนตรีจะไมนิยมใชเสียงท่ีผลิตจากเครื่องดนตรี ท่ีบันทึกเสียงผานอุปกรณท่ีตอพวงกับระบบคอมพิวเตอรโดยตรง เนื่องจากตองใชหนวยความจํามาก (เสียงท่ีบันทึกไวจะเปนสัญญาณดิจิตอล ซ่ึงมีรูปแบบเปน Audio File) แตจะนิยมใชเสียงท่ีสราง จากโปรแกรมสรางเสียงดนตรีโดยเฉพาะ เสียงดนตรีดังกลาวนี้เรียกกันโดยท่ัวไปวาเปนเสียงในรูปแบบ MIDI (Music Instrument Digital Interface) แฟมขอมูลในระบบ MIDI นี้ จะไมใชขอมูลสัญญาณเสียงดนตรีโดยตรง สัญญาณเสียงท่ีไดยินจะเกิดจากการสั่งการของโปรแกรม (โนตดนตรีท่ีสรางข้ึน) ไปยังอุปกรณสรางเสียงดนตรี (Sound Card) เพ่ือสรางเสียงดนตรีตามตัวโนต จึงใชเนื้อท่ีนอยมาก ซ่ึงหากเปรียบเทียบแฟมเสียงดนตรีชนิด Audio File (บันทึกเสียงโดยตรงจากเครื่องดนตรี) กับแฟมเสียงในรูปแบบ MIDI แลวเนื้อท่ี Audio File 1 นาที สามารถนํามาใชสรางเสียงระบบ MIDI ไดหลายชั่วโมง 6.3 รูปแบบของเสียงท่ีใชในสื่อมัลติมีเดีย

รูปแบบของเสียงท่ีใชในสื่อมัลติมีเดียท่ีเปนท่ีรูจักและนิยมใช ไดแก 6.3.1 WAV (Wave File)

แฟมเสียงท่ีมักจะคุนเคยกันมากท่ีสุด เปนรูปแบบของแฟมเสียงท่ีใชกันเปนสวนมากในระบบปฏิบัติการวินโดวส ใชเวลาในการถายโอนนาน เนื่องจากไมไดผานเทคโนโลยีการบีบอัดใหเปนแฟมขนาดเล็ก

6.3.2 MIDI (Musical Instrument Digital Interface) MIDI เปนรูปแบบของเสียงเพลงดิจิทัล ท่ีสามารถสรางไดจากโปรแกรมบนคอมพิวเตอร เชน

Cake Walk หรือเครื่องดนตรีตาง ๆ ท่ีสามารถ ตอพวงกับคอมพิวเตอรได เนื่องจากไฟลตระกูล midi หรือ mid นี้มีขนาดเล็กจึงสามารถไปประยุกตใชงานไดหลายอยาง และนิยมใชเปนเสียงแบคกราวดในหนาเว็บ

6.3.3 MP3 MP3 เปนวิธีการบีบอัดขอมูลใหมีขนาดเล็กลง โดยใชมาตรฐาน MPEG นั้นจะบีบอัดขอมูลท่ี

เปนไฟล ซ่ึงเปนพวกเพลงเสียงประกอบท่ีใชในเว็บ เนื่องจากมันมีขนาดเล็กมากกวาไฟล Wave หรือไฟลเสียงท่ัวไปประมาณ 10 เทา แฟมเสียงเพ่ือการสงผานอินเตอรเน็ตในรูปแบบ Streaming

Page 140: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

133

โปรแกรม Adobe Captivate สามารถบันทึกเสียงผานไมโครโฟนและแทรกไฟลเสียงตางๆเขามาในโปรเจ็คได ไมวาจะเปนเสียงบรรยาย เสียงดนตรี หรือเสียงเอฟเฟคต โดยไฟลเสียงท่ีโปรแกรมรองรับตองอยูในรูปแบบ .wav และ .mp3 นอกจากนี้ยังมีตัวอยางไฟลเสียงท่ีถูกติดตั้งมาพรอมกับโปรแกรมดวย โดยเขาไปท่ี C:\Program Files\Adobe Captivate x64\Gallery\Sound แลวเลือกไฟลท่ีตองการได

6.4 การตั้งคาการบันทึกเสียง (Audio Setting)

กอนท่ีจะเริ่มบันทึกเสียง เราสามารถเขาไปกําหนดคาตางๆท่ีตองกาสร เพ่ือใหไดไฟลเสียงตรงกับท่ีตองการนําไปใชงาน โดยสามารถเขาไปกําหนดไดท่ี Audio Setting ซ่ึงมีข้ันตอน ดังนี้

6.4.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.1 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Settings ตามรูปท่ี 6.1 (B)

รูปท่ี 6.1 การตั้งคาการบันทึกเสียง

6.4.2 ปรากฏหนาตาง Audio Settings ใหกําหนดคาตามตองการ แลวทําคลิกท่ีปุม Calibrate Input ตามรูปท่ี 6.2 เพ่ือทดสอบอุปกรณบันทึกเสียง 6.4.2.1 Audio Input Devices ใหเลือกเปน Microphone 6.4.2.2 Bitrate ใหเลือกคุณภาพเสียงท่ีตองการดังนี้ 6.4.2.3 CD Bitrate (128 kbps) คุณภาพแผน CD/DVD

6.4.2.4 Custom Bitrate กําหนดคุณภาพเสียงเอง

6.4.2.5 FM Bitrate (64 kbps) คุณภาพคลื่นวิทยุ FM

Page 141: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

134

รูปท่ี 6.2 การตั้งคาการบันทึกเสียง

6.4.3 ปรากฏหนาตางข้ึนมา คลิกท่ีปุม Audio Calibrate ทดสอบพูดผานไมโครโฟน ซ่ึงโปรแกรมจะปรับระดับเสียงใหโดยอัตโนมัติ ตามรูปท่ี 6.3 (A) คลิกท่ีปุม Record แลวพูดผานไมโครโฟน เพ่ือทดสอบเสียง ตามรูปท่ี 6.3 (B) คลิกท่ีปุม Play เพ่ือเลนเสียงท่ีทดสอบ ตามรูปท่ี 6.3 (C)

รูปท่ี 6.3 การทดสอบเสียง

Page 142: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

135

6.5 การบันทึกเสียงใหสไลด

6.5.1 เลือกสไลดท่ีตองการบันทึกเสียง 6.5.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.4 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Record to ตามรูปท่ี 6.4 (B) แลว

คลิกท่ีเมนู Slide ตามรูปท่ี 6.4 (C)

รูปท่ี 6.4 การบันทึกเสียงใหสไลด

รูปท่ี 6.5 การบันทึกเสียงใหสไลด

Page 143: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

136

6.5.3 ปรากฏหนาตาง Slide Audio เพ่ือบันทึกเสียง เม่ือทําการบันทึกเสียงเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.5 (C) และทําเครื่องหมายถูกท่ีชอง SWF Preview เพ่ือใหสไลดแสดงผลขณะบันทึกเสียง ตามรูปท่ี 6.5 (A) และปุมควบคุมการบันทึกเสียง ตามรูปท่ี 6.5 (B) 6.5.3.1 Record Audio บันทึกเสียง

6.5.3.2 Stop สิ้นสุดการบันทึกเสียง

6.5.3.3 Play เลนเสียงท่ีถูกบันทึก

6.5.3.4 Pause หยุดการเลนเสียงท่ีถูกบันทึกชั่วคราว

6.5.4 ปรากฏหนาตางข้ึนใหทําการคลิกท่ีปุม Yes ตามรูปท่ี 6.6

รูปท่ี 6.6 การบันทึกเสียงใหสไลด

6.6 การบันทึกเสียงลงสไลดมากกวา 1 สไลด

6.6.1 คลิกสไลดท่ีตองการบันทึกเสียงเปนสไลดแรก 6.6.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.7 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Record to ตามรูปท่ี 6.7 (B) แลว

คลิกท่ีเมนู Slides ตามรูปท่ี 6.7 (C)

รูปท่ี 6.7 การบันทึกเสียงลงสไลดมากกวา 1 สไลด

Page 144: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

137

6.6.3 ปรากฏหนาตาง Record from Slide ใหกําหนดสไลดเริ่มตนและสไลดสุดทาย ตามรูปท่ี 6.8 (A) และเม่ือกําหนดสไลดเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 6.8 (B)

รูปท่ี 6.8 การกําหนดสไลดเริ่มตนและสไลดสุดทาย

รูปท่ี 6.9 การบันทึกเสียงลงสไลด

6.6.4 ปรากฏหนาตาง Slides Audio ใหทําเครื่องหมายถูกท่ี Continuous Play ตามรูปท่ี 6.9 (A) และทําเครื่องหมายถูกท่ี SWF Preview เพ่ือใหสไลดแสดงผลขณะบันทึกเสียง ตามรูปท่ี 6.9 (B) และคลิกปุมควบคุมการบันทึกเสียง ตามรูปท่ี 6.9 (C) หลังจากเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.9 (D) 6.6.4.1 Record Audio บันทึกเสียง

6.6.4.2 Stop สิ้นสุดการบันทึกเสียง

6.6.4.3 Play เลนเสียงท่ีถูกบันทึก

6.6.4.4 Pause หยุดการเลนเสียงท่ีถูกบันทึกชั่วคราว

Page 145: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

138

6.7 การบันทึกเสียงเปนเสียงพ้ืนหลัง

6.7.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.10 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Record to ตามรูปท่ี 6.10 (B) แลวคลิกท่ีเมนู Background ตามรูปท่ี 6.10 (C)

รูปท่ี 6.10 การบันทึกเสียงเปนเสียงพ้ืนหลัง

6.7.2 ปรากฏหนาตาง Background Audio เพ่ือกําหนดเสียงพ้ืนหลัง คลิกปุมควบคุมการบันทึกเสียง ตามรูปท่ี 6.11 (A) และกําหนดออปชั่นเพ่ิมเติมใหกับเสียงท่ีบันทึกในสวนของ Options ตามรูปท่ี 6.11(B) เม่ือกําหนดคาตางๆเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.11(C) 6.7.2.1 Record Audio บันทึกเสียง

6.7.2.2 Stop สิ้นสุดการบันทึกเสียง

6.7.2.3 Play เลนเสียงท่ีถูกบันทึก

6.7.2.4 Pause หยุดการเลนเสียงท่ีถูกบันทึกชั่วคราว

6.7.2.5 Fade In กําหนดใหเสียงคอยๆดังข้ึนเม่ือเริ่มเลนเสียง

6.7.2.6 Fade Out กําหนดใหเสียงคอยๆเบาลง เม่ือเสียงสิ้นสุดลง

6.7.2.7 Loop Audio กําหนดใหเลนเสียงวนไปเรื่อยๆ

6.7.2.8 Stop Audio กําหนดใหเสียงหยุดเลนเม่ือโปรเจ็คสิ้นสุดการแสดงผล

6.7.2.9 Adjust background audio volume on slides with audio กําหนดให

เสียงพ้ืนหลังเบาลงเม่ือสไลดท่ีแสดงผลมีเสียงเลนอยู

Page 146: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

139

รูปท่ี 6.11 การกําหนดเสียงพ้ืนหลัง

6.8 การบันทึกเสียงใหวัตถุ

6.8.1 คลิกเลือกวัตถุท่ีตองการอัดเสียง 6.8.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.12 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Record to ตามรูปท่ี 6.12 (B)

แลวคลิกท่ีเมนู Object ตามรูปท่ี 6.12 (C)

รูปท่ี 6.12 การบันทึกเสียงใหวัตถุ

Page 147: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

140

6.8.3 ปรากฏหนาตาง Object Audio เพ่ือควบคุมการบันทึกเสียง ตามรูปท่ี 6.13 (A) เม่ือเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.13 (B) 6.8.3.1 Record Audio บันทึกเสียง

6.8.3.2 Stop สิ้นสุดการบันทึกเสียง

6.8.3.3 Play เลนเสียงท่ีถูกบันทึก

6.8.3.4 Pause หยุดการเลนเสียงท่ีถูกบันทึกชั่วคราว

รูปท่ี 6.13 การบันทึกเสียงลงวัตถุ 6.9 การแทรกเสียงใหสไลด

6.9.1 คลิกเลือกสไลดท่ีตองการแทรกเสียง 6.9.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.14 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Import to ตามรูปท่ี 6.14 (B)

แลวคลิกท่ีเมนู Slide ตามรูปท่ี 6.14 (C)

รูปท่ี 6.14 การแทรกเสียงใหสไลด

Page 148: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

141

6.9.3 ปรากฏหนาตาง Import Audio เพ่ือเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม Open ตามรูปท่ี 6.15

รูปท่ี 6.15 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ

6.9.4 ถาไฟลเสียงท่ีแทรกมีความยาวกวาเวลาท่ีสไลดแสดงผล จะปรากฏหนาตาง Audio Import Options เพ่ือกําหนดคาตางๆ ตามรูปท่ี 6.16 (A) และเม่ือกําหนดคาตางๆเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 6.16 (B) 6.9.4.1 Show the slide for the same amount of time as the length of

the audio file. แทรกไฟลเสียงลงสไลด โดยเวลาของสไลดจะถูกเพ่ิมตาม

ความยาวของไฟลเสียง

6.9.4.2 Distribute the audio file over several slides. แทรกไฟลเสียงลงสไลด

หลายสไลด

6.9.4.3 Retain current slide duration and distribute the audio files over

several slides. แทรกเสียงลงสไลดโดยเวลาสวนท่ีเกินจากเวลาของสไลดท่ี

เลือกจะถูกเทรกอยูท่ีสไลดถัดไปดวย

รูปท่ี 6.16 การกําหนดคาเสียง

Page 149: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

142

6.10 การแทรกเสียงพ้ืนหลัง

6.10.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.17 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Import to ตามรูปท่ี 6.17 (B) แลวคลิกท่ีเมนู Background ตามรูปท่ี 6.17 (C)

รูปท่ี 6.17 การแทรกเสียงพ้ืนหลัง

6.10.2 ปรากฏหนาตาง Import Audio เพ่ือเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม Open ตามรูปท่ี 6.18

รูปท่ี 6.18 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ

Page 150: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

143

6.10.3 ปรากฏหนาตาง Background Audio เพ่ือกําหนดเสียงพ้ืนหลัง กําหนดออปชั่นเพ่ิมเติมใหกับเสียงท่ีบันทึกในสวนของ Options ตามรูปท่ี 6.19 (A) เม่ือกําหนดคาตางๆเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.19 (B) 6.10.3.1 Fade In กําหนดใหเสียงคอยๆดังข้ึนเม่ือเริ่มเลนเสียง

6.10.3.2 Fade Out กําหนดใหเสียงคอยๆเบาลง เม่ือเสียงสิ้นสุดลง

6.10.3.3 Loop Audio กําหนดใหเลนเสียงวนไปเรื่อยๆ

6.10.3.4 Stop Audio กําหนดใหเสียงหยุดเลนเม่ือโปรเจ็คสิ้นสุดการแสดงผล

6.10.3.5 Adjust background audio volume on slides with audio กําหนดให

เสียงพ้ืนหลังเบาลงเม่ือสไลดท่ีแสดงผลมีเสียงเลนอยู

รูปท่ี 6.19 การกําหนดเสียงพ้ืนหลัง 6.11 การแทรกเสียงใหวัตถุ

รูปท่ี 6.20 การแทรกเสียงใหวัตถุ

Page 151: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

144

6.11.1 คลิกวัตถุท่ีตองการแทรกเสียงตามตองการ 6.11.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.20 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Import to ตามรูปท่ี 6.20 (B)

แลวคลิกท่ีเมนู Object ตามรูปท่ี 6.20 (C) 6.11.3 ปรากฏหนาตาง Import Audio เพ่ือเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม

Open ตามรูปท่ี 6.21

รูปท่ี 6.21 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ

6.11.4 ปรากฏหนาตางข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม Close ตามรูปท่ี 6.22

รูปท่ี 6.22 การทดสอบไฟลเสียงท่ีตองการ

Page 152: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

145

6.12 การตกแตงไฟลเสียงใหสไลด

6.12.1 คลิกเลือกสไลดท่ีตองการแกไขไฟลเสียง 6.12.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.23 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 6.23 (B) แลวคลิก

ท่ีเมนู Slide ตามรูปท่ี 6.23 (C)

รูปท่ี 6.23 การตกแตงไฟลเสียงใหสไลด

6.12.3 ปรากฏหนาตาง Slide Audio ทําการกําหนดชวงเสียงท่ีตองการ ตามรูปท่ี 6.24 (A) หลังจากกําหนดเสียงเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.24 (B) 6.12.3.1 Record Audio บันทึกเสียง

6.12.3.2 Stop สิ้นสุดการบันทึกเสียง

6.12.3.3 Play เลนเสียงท่ีถูกบันทึก

6.12.3.4 Pause หยุดการเลนเสียงท่ีถูกบันทึกชั่วคราว

6.12.3.5 Cut ตัดเสียงในสวนท่ีตองการ

6.12.3.6 Copy คัดลอกเสียงในสวนท่ีตองการ

6.12.3.7 Paste วางเสียงท่ีคัดลอกไว

6.12.3.8 Delete ลบชวงเสียงท่ีเลือก

6.12.3.9 Undo เลิกทํา

6.12.3.10 Redo ทําซํ้า

6.12.3.11 Insert Silence แทรกชวงเสียงเงียบ

6.12.3.12 Zoom ยอ/ขยาย มุมมอง

Page 153: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

146

รูปท่ี 6.24 การกําหนดชวงเสียง 6.13 การปรับแตงแกไขไฟลเสียงพ้ืนหลัง

6.13.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.25 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 6.25 (B) แลวคลิกท่ีเมนู Background ตามรูปท่ี 6.25 (C)

รูปท่ี 6.25 การปรับแตงแกไขไฟลเสียงพ้ืนหลัง

Page 154: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

147

6.13.2 ปรากฏหนาตาง Background Audio เพ่ือปรับแตงเสียงพ้ืนหลังตามตองการ หลังจากนั้นใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.26

รูปท่ี 6.26 การปรับแตงเสียงพ้ืนหลัง 6.14 การตกแตงแกไขไฟลเสียงใหวัตถุ

6.14.1 คลิกเลือกวัตถุท่ีตองการแกไขไฟลเสียง 6.14.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.27 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 6.27 (B) แลวคลิก

ท่ีเมนู Object ตามรูปท่ี 6.27 (C)

รูปท่ี 6.27 การตกแตงแกไขไฟลเสียงใหวัตถุ

Page 155: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

148

6.14.3 ปรากฏหนาตาง Object Audio เพ่ือปรับแตงเสียงวัตถุตามตองการ หลังจากนั้นใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.28

รูปท่ี 6.28 การปรับแตงเสียงวัตถุ 6.15 การปรับระดับเสียง

6.15.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.29 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 6.29 (B) แลวเลือกรูปแบบของสิ่งท่ีตองการแกไข ตามรูปท่ี 6.29 (C)

รูปท่ี 6.29 การปรับระดับเสียง

Page 156: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

149

6.15.2 ปรากฏหนาตางข้ึนมา ใหทําการคลิกเมาสคลุมชวงเสียงท่ีตองการปรับระดับเสียง ตามรูปท่ี 6.30 (A) และคลิกท่ีปุม Adjust Volume ตามรูปท่ี 6.30 (B) เม่ือปรับระดับเสียงเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 6.30 (C)

รูปท่ี 6.30 การปรับระดับเสียง

6.15.3 ปรากฏหนาตาง Adjust Volume ใหปรับแตงเสียงตามตองการ หลังจากนั้นใหคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 6.31

รูปท่ี 6.31 การปรับแตงเสียง

Page 157: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

150

6.15.3.1 None ไมมีการประมวลผล

6.15.3.2 Normalize ปรับระดับเสียงใหสมดุลโดยอัตโนมัติ

6.15.3.3 Dynamics ปรับระดับชวงเสียงท่ีมีความเบาใหสมดุลโดยปรับคา Ratio

และคา Threshold

6.15.3.4 Volume ปรับระดับความดังของเสียง

6.16 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย

เม่ือแทรกบทบรรยายเรียบรอยแลว ข้ันตอนตอไปคือเพ่ิมปุมควบคุมในการแกสงและซอน

ใหกับบทบรรยาย ซ่ึงมีวิธรีดังนี้

6.16.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 6.32 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Skin Editor ตามรูปท่ี 6.32 (B)

รูปท่ี 6.32 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย

6.16.2 ปรากฏหนาตาง Skin Editor ใหทําเครื่องหมายถูกท่ี Closed Captioning ตามรูปท่ี 6.33 (A) และคลิกท่ีปุมปด ตามรูปท่ี 6.33 (B)

รูปท่ี 6.33 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย

Page 158: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

151

6.17 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด

6.17.1 คลิกเลือกสไลดท่ีตองการลบไฟลเสียง 6.17.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.34 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Remove ตามรูปท่ี 6.34 (B)

แลวคลิกท่ีเมนู Slide ตามรูปท่ี 6.34 (C)

รูปท่ี 6.34 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด

6.17.3 ปรากฏหนาตางข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม Yes ตามรูปท่ี 6.35

รูปท่ี 6.35 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด

6.18 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง

6.18.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.36 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Remove ตามรูปท่ี 6.36 (B) แลวคลิกท่ีเมนู Background ตามรูปท่ี 6.36 (C)

รูปท่ี 6.36 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง

Page 159: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

152

6.18.2 ปรากฏหนาตางข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม Yes ตามรูปท่ี 6.37

รูปท่ี 6.37 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง

6.19 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ

6.19.1 คลิกเลือกวัตถุท่ีตองการลบเสียง 6.19.2 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.38 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Remove ตามรูปท่ี 6.38 (B)

แลวคลิกท่ีเมนู Object ตามรูปท่ี 6.38 (C)

รูปท่ี 6.38 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ

6.19.3 ปรากฏหนาตางข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม Yes ตามรูปท่ี 6.39

รูปท่ี 6.39 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ

Page 160: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

153

6.20 การแสดงรายละเอียดของไฟลเสียงในสไลด

6.20.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.40 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Audio Management ตามรูปท่ี 6.40 (B)

รูปท่ี 6.40 การแสดงรายละเอียดของไฟลเสียงในสไลด

6.20.2 ปรากฏหนาตาง Advanced Audio Management เพ่ือดูรายละเอียดตางๆของไฟลเสียง

รูปท่ี 6.41 แสดงหนาตาง Advanced Audio Management 6.21 การสงออกไฟลเสียง

เราสามารถสงออกไฟลเสียงท่ีบันทึกหรือแทรกใหกับสไลด/โปรเจ็คได โดยเก็บไวในรูปแบบ

ของ .mp3 หรือ .wav ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

รูปท่ี 6.42 การสงออกไฟลเสียง

Page 161: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

154

6.21.1 คลิกท่ีเมนู Audio ตามรูปท่ี 6.42 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Audio Management ตามรูปท่ี 6.42 (B)

6.21.2 ปรากฏหนาตาง Advanced Audio Management เพ่ือดูรายละเอียดตางๆของไฟลเสียง ใหคลิกท่ีปุม Export ตามรูปท่ี 6.43

รูปท่ี 6.43 การสงออกไฟลเสียง

6.21.3 ปรากฏหนาตางข้ึนมาใหทําการเลือกท่ีเก็บไฟลตามตองการ หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 6.44

รูปท่ี 6.44 การบันทึกไฟลเสียง

Page 162: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

155

เอกสารอางอิง ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2543). คอมพิวเตอรชวยสอน. กรุงเทพมหานคร : วงศกมลโพรดักชั่น. บุปผชาติ ทัฬหิกรณ และคณะ. (2544). ความรูเกี่ยวกับส่ือมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา.

กรุงเทพมหานคร : ศูนยพัฒนาหนังสือ มนตชัย เทียนทอง. (2545). การออกแบบและพัฒนาคอรสแวร สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอรชวย

สอน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. Adobe Captivate : การบันทึกเสียงและการแทรกเสียง, สืบคนเม่ือ 6 พฤษภาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 6.1 การตั้งคาการบันทึกเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.2 การตั้งคาการบันทึกเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.3 การทดสอบเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.4 การบันทึกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.5 การบันทึกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.6 การบันทึกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.7 การบันทึกเสียงลงสไลดมากกวา 1 สไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.8 การกําหนดสไลดเริ่มตนและสไลดสุดทาย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.9 การบันทึกเสียงลงสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.10 การบันทึกเสียงเปนเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.11 การกําหนดเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.12 การบันทึกเสียงใหวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.13 การบันทึกเสียงลงวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.14 การแทรกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.15 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.16 การกําหนดคาเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.17 การแทรกเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.18 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.19 การกําหนดเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.20 การแทรกเสียงใหวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.21 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.22 การทดสอบไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.23 การตกแตงไฟลเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.24 การกําหนดชวงเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.25 การปรับแตงแกไขไฟลเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer)

Page 163: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

156

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 6.26 การปรับแตงเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.27 การตกแตงแกไขไฟลเสียงใหวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.28 การปรับแตงเสียงวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.29 การปรับระดับเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.30 การปรับระดับเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.31 การปรับแตงเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.32 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.33 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.34 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.35 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.36 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.37 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.38 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.39 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.40 การแสดงรายละเอียดของไฟลเสียงในสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.41 แสดงหนาตาง Advanced Audio Management, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.42 การสงออกไฟลเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.43 การสงออกไฟลเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.44 การบันทึกไฟลเสียง, จาก (Local Computer)

Page 164: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 7 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป

ตอนท่ี 5 ตัวแปรและแอคช่ัน

ตัวแปร (Variable) คือ ชื่อ หรือ ชื่อเฉพาะท่ีตั้งข้ึนเพ่ือใชอางอิง สามารถเรียกคาขอมูลท่ีเก็บอยูออกมาใช หรือกําหนดคาเขาไปกระบวนการสรางตัวแปร เรียกวา “การประกาศตัวแปร” การประกาศตัวแปรในขอบเขตของโปรแกรมในสวนตาง ๆ ก็สงผลใหขอบเขตของตัวแปรมีความแตกตางกันออกไป การกําหนดคาและเรียกใชคาของตัวแปรสามารถทําไดทุกขณะท่ีอยูในขอบเขตของตัวแปรนั้นๆ

ในท่ีนี้ ตัวแปรมีความหมายเฉพาะ คือ เปนตัวกลางในการดึงหรือนําขอมูลท่ีไดสรางข้ึนหรือขอมูลของระบบคอมพิวเตอรมาแสดงบนสไลดในโปรเจ็ค ซ่ึงสามารถนําตัวแปรมากําหนดเหตุการณ (Advance Action) ท่ีสามารถปฏิสัมพันธกับผูใชงานได โดยตัวแปรในโปรแกรม Adobe Captivate แบงออกเปน 2 ชนิด ไดแก ตัวแปรระบบ (System Variable) และตัวแปรยูสเซอร (User Variable) 7.1 ตัวแปรระบบ (System Variable)

ตัวแปรระบบ คือ ตัวแปรท่ีนําขอมูลจากระบบปฏิบัติการภายในเครื่องคอมพิวเตอร ระบบคอมพิวเตอรหรือขอมูลของโปรเจ็คมาแสดงบนสไลด ซ่ึงตัวแปรระบบนั้น มีใหเลือกใชมากมาย ผูใชสามารถเขาไปเลือกคุณสมบัติของตัวแปรระบบได ดังนี้

7.1.1 การเปดหนาตางตัวแปรระบบ (System Variable) 7.1.1.1 คลิกเลือกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 7.1 (A) และ 7.1.1.2 คลิกเลือกท่ีเมนู Variables ตามรูปท่ี 7.1 (B)

รูปท่ี 7.1 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable)

Page 165: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

158

7.1.2 การเลือกชนิดของตัวแปร (Variables) 7.1.2.1 หลังจากปรากฎหนาตางตัวแปร (Variables) ทําการเลือกชนิดของตัวแปร

ใหเลือก System เพ่ือเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable)

รูปท่ี 7.2 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable)

7.1.2.2 ผูใชสามารถเลือกประเภทของตัวแปรระบบ (SystemVariable) ไดตามตองการ ตามรูปท่ี 7.3

รูปท่ี 7.3 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable)

Page 166: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

159

7.1.2.3 แสดงตัวแปรระบบ (SystemVariable) ท่ีไดทําการเลือก ในท่ีนี้เลือก System Information ตามรูปท่ี 7.4

7.1.2.4 ตัวแปรระบบแตละชนิดมีหนาท่ีและการทํางานท่ีแตกตางกัน ผูใชสามารถคนหารายละเอียดเพ่ิมเติมไดจากคําอธิบาย (Description)

รูปท่ี 7.4 แสดงตัวแปร System Information

ตารางท่ี 7.1 ตัวแปรระบบ (System Variable) ตัวแปร คําอธิบาย

1. cpCmndCO ตัวแปรของปุมควบคุมสําหรับแสดง/ซอนขอความ Closed Caption

2. cpcmndExit ตัวแปรของปุมควบคุมสําหรับออกจากโปรเจ็ค 3. cocmndGotoFrame ตัวแปรสําหรับกําหนดใหไปยังเฟรมท่ีเลือกไว ซ่ึง

จะหยุดการแสดงสไลดชั่วคราว 4. cpmndGotoFrameAndResume ตัวแปรสําหรับกําหนดใหไปเฟรมท่ีเลือกไวแลว

แสดงสไลดตอ 5. cpCmndGotoSlide ตัวแปรท่ีกําหนดใหไปยังสไลดท่ีเลือกไว 6. cpCmndMute ตัวแปรของปุมควบคุมสําหรับเปด-ปดเสียง 7. cpcmndNextSlide ตัวแปรของปุมควบคุมสําหรับไปยังสไลดถัดไป 8. cpcmndPause ตัวแปรของปุมควบคุมสําหรับหยุดการแสดงสไลด

ชั่วคราว

Page 167: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

160

ตัวแปร คําอธิบาย 9. cpCmndPlatbarMoved ตัวแปรของปุมควบคุมการเลื่อนของแถบ

Playbar 10. cpcmndPrevious ตัวแปรของปุมควบคุมสําหรับไปยังสไลดกอนหนา 11. cpcmndResume ตัวแปรสําหรับใหกลับไปแสดงสไลดตอจากท่ีคาง

ไว 12. cpCmndShowPlabar ตัวแปรสําหรับกําหนดการแสดงของแถบ

Playbar 13. cpCmndTOCVVisible ตัวแปรสําหรับแสดงหรือซอนตารางสารบัญ 14. cpCmndVolume ตัวแปรสําหรับกําหนดระดับเสียงใหกับโปรเจ็ค 15. cpLockTOC ตัวแปรสําหรับล็อค/ปลดล็อคตารางสารบัญ

7.2 ตัวแปรประเภท Movie Information

ตัวแปรประเภท Movie Information ทําหนาท่ีดึงขอมูลของสไลดหรือโปรเจ็คข้ึนมาแสดงบนสไลด ซ่ึงประกอบดวยตัวแปรตางๆ ดังนี้

ตารางท่ี 7.2 ตัวแปรประเภท Movie Information ตัวแปร คําอธิบาย

1. CaptivateVersion ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลเวอรชันของโปรแกรมข้ึนมาแสดง

2. cpInfoCurrentFrame ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลเฟรมปจจุบันข้ึนมาแสดง

3. cpInfoCurrentSilde ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลสําหรับสไลดปจจุบันข้ึนมาแสดง

4. cpInfoCurrentSlideLabel ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลชื่อของสไลดข้ึนมาแสดง

5. cpInfoCurrentSlideType ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลประเภทของสไลดข้ึนมาแสดง

6. cpInfoElapsedTimeMS ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลเวลาของระบบคอมพิวเตอรข้ึนมาแสดง

7. cpinfoFPS ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลจํานวนเฟรมตอวินาทีของโปรเจ็คข้ึนมาแสดง

8. cpinfoFrameCount ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลจํานวนเฟรมท้ังหมดของโปรเจ็คข้ึนมาแสดง

9. cpInfoHasPlaybar ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการปรากฏของ Playbayโดยจะแสดงคา True ถาซอนจะแสดงคา False

Page 168: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

161

ตัวแปร คําอธิบาย 10. cpInfoIsStandalone ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของโปรเจ็คท่ีสงออก ถา

สงออกเปน .exe จะแสดง 1 ถาสงออกเปน .swfจะแสดง

11. cpInfoLastVisitedSlide ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการติดตามรายงานการใชงานสไลดลาสุดข้ึนมาแสดง

12. cpInfoPrevSlide ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลลําดับท่ีของสไลดกอนหนาท่ีใชงานลาสุดข้ึนมาแสดง

13. rdinfoSlideCount ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการนับจํานวนสไลดท้ังหมดของโปรเจ็คข้ึนมาแสดง

7.3 ตัวแปรประเภท Movie Control

ตัวแปรประเภท Movie Control บางตัวสามารถตั้งคาไดท่ีหนาตาง Skin Editor สวนตัวแปรของปุมควบคุมของ Playback Control จะถูกกําหนดมาใหเสร็จเรียบรอยไมสามารถท่ีจะแกไขไดดวยโปรแกรม Captivate แตถาตองการแกไขก็สามารถใช Action Script จาก Adobe Flash แกไขได

7.3.1 การเปดหนาตาง Skin Editor

7.3.1.1 ใหเลือกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 7.5 (A) และ 7.3.1.2 เลือกท่ีเมนู Skin Editor ตามรูปท่ี 7.5 (B) หรือ 7.3.1.3 กดปุม Shift กับ F11 พรอมกัน

รูปท่ี 7.5 การเปดหนาตาง Skin Editor

Page 169: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

162

7.3.2 แสดงหนาตาง Skin Editor

รูปท่ี 7.6 หนาตาง Skin Editor

7.4 ตัวแปรประเภท Movie MetaData ตัวแปรประเภท Movie MetaDataจะดึงขอมูลพ้ืนฐานของโปรเจ็คหรือโปรแกรมท่ี

กําหนดไวมาแสดงบนสไลด เชน ชื่อโปรเจ็ค ผูสรางโปรเจ็ค ชื่อเว็บไซต ท่ีอยู และชื่อบริษัท เปนตน โดยตองกําหนดรายละเอียดหรือขอมูลตางๆ ของโปรเจ็คท่ีเมนูกอน ซ่ึงสามารถเขาไปกําหนดไดดังนี้

7.4.1 คลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 7.7 (A) และคลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 7.7 (B) หรือกดปุม Shift กับ F8 พรอมกัน

รูปท่ี 7.7 ตัวแปรประเภท Movie MetaData

Page 170: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

163

7.4.2 แสดงหนาตาง Preferences

รูปท่ี 7.8 การกําหนดตัวแปรประเภท Movie MetaData

ตารางท่ี 7.3 Project Information ตัวแปร คําอธิบาย

1. cpInfoAuthor ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของผูสรางท่ีกําหนดไวในชอง Author ข้ึนมาแสดง

2. cpInfoCompany ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของชื่อบริษัทท่ีกําหนดไวในชอง Company ข้ึนมาแสดง

3. cpInfoCopyright ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลท่ีกําหนดไวในชอง Copyright ข้ึนมาแสดง

4. cpInfoCourseID ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลรหัสของหลักสูตรในโปรเจ็ค สามารถกําหนดไดกอนสงออกโปรเจ็ค

5. cpInfoCourseName ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลชื่อหลักสูตรของโปรเจ็ค สามารถกําหนดไดกอนสงออกโปรเจ็ค

6. cpInfoDescription ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลท่ีกําหนดไวในชอง Description ข้ึนมาแสดง

7. cpInfoEmail ตัวแปรสําหรับดึงชื่ออีเมลท่ีกําหนดไวในชอง Email ข้ึนมาแสดง

8. cpInfoProjectName ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของชื่อโปรเจ็คท่ีกําหนดไวในชอง Project Name ข้ึนมาแสดง

9. cpInfoWebsite ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลชองชื่อเว็บไซตท่ีกําหนดไวในชอง Website ข้ึนมาแสดง

Page 171: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

164

7.5 ตัวแปรประเภท Quizzing

ตัวแปรประเภท Quizzing จะดึงขอมูลจากแบบทดสอบหรือสไลดคําถามข้ึนมาแสดง เชน ผลคะแนน จํานวนสไลดคําถาม ผลคะแนนรวม เปนตน ประกอบดวยตัวแปรตางๆ ดังนี้

ตารางท่ี 7.4 ตัวแปรประเภท Quizzing

ตัวแปร คําอธิบาย 1. cpInQuizScope ตัวแปรสําหรับระบุวาผูใชอยูในขอบเขตของแบบทดสอบใน

หลักสูตร 2. cpInfoPercentage ตัวแปรสําหรับแสดงเปอรเซ็นตในการตอบคําถามถูกตอง 3. cpQuizInfoAnswerC

hoice ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการเลือกคําตอบในการตอบคําถาม

4. cpQuizInfoAttempts สําหรับดึงขอมูลจํานวนครั้งท่ีผูใชตอบคําถามในแบบทดสอบไมถูกตอง

5. cpQuizInfoLastSlidePointScored

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการรายงานผลคะแนนของการทําแบบทดสอบลาสุด

6. cpQuizInfoMaxAttemptsOnCurrentQuestion

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลความพยายามในการตอบคําถาม

7. cpQuizInfoNegativePointsOnCurrentQuestionSlide

ตัวแปรสําหรับระบุจํานวนคะแนนท่ีถูกลบเม่ือตอบคําถามในแบบทดสอบไมถูกตอง

8. cpQuizInfoPassFail ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลท่ีไดมาจากการตอบคําถามวาผานหรือไมผาน

9. cpQuizInfoPointsPerQiestionslide

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลคะแนนของคําถามในแตละขอท่ีกําหนดข้ึนมาแสดง

10. cpQuizInfoPointsscored

ตัวแปรสําหรับดึงผลคะแนนรวมของการทําแบบทดสอบท้ังหมดข้ึนมาแสดง

11. cpQuizInfoPretestPointsscored

ตัวแปรสําหรับดึงผลคะแนนของการทําแบบทดสอบแบบ Pretest ข้ึนมาแสดง

12. cpQuizInfoPretestScorePercentage

ตัวแปรสําหรับแสดงเปอรเซ็นตในการตอบคําถามแบบ Pretest ถูกตอง

13. cpQuizInfoquestionPartialScoreOn

ตัวแปรสําหรับระบุวาสไลดคําถามนั้น เปดใชงาน Partial Score หรือไม

Page 172: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

165

ตัวแปร คําอธิบาย 14. cpQuizInfoQuestion

SlideTiming ตัวแปรสําหรับกําหนดระยะเวลาจํากัดในการทําแบบทดสอบในแตละขอบนสไลด

15. cpQuizInfoQuestionSlideType

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของประเภทหรือชนิดของแบบทดสอบข้ึนมาแสดง

16. cpQuizInfoQuizPassPercent

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลอัตราเปอรเซ็นตท่ีตอบคําถามไดถูกตองข้ึนมาแสดง

17. cpQuizInfoQuizPassPoints

ตัวแปรสําหรับดึงผลคะแนนท่ีตอบคําถามถูกตองข้ึนมาแสดง

18. cpQuizInfoTotalCorrectAnswers

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของจํานวนคําถามท้ังหมดท่ีตอบไดถูกตองข้ึนมาแสดง

19. cpQuizInfoTotalProjectPoints

ตัวแปรสําหรับดึงผลคะแนนรวมท่ีตอบคําถามถูกตองท้ังหมดในโปรเจ็คข้ึนมาแสดง

20. cpQuizInfoTotalQuestionsPerProject

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของจํานวนสไลดคําถามท้ังหมดในโปรเจ็คข้ึนมาแสดง

21. cpQuizInfoTotalQuizPoints

ตัวแปรสําหรับดึงผลคะแนนรวมท้ังหมดในโปรเจ็คท่ีทําแบบทดสอบไดถูกตองข้ึนมาแสดง

22. cpQuizInfoTotalUnansweredQuestions

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลท้ังหมดในโปรเจ็คท่ีไมไดตอบคําถามข้ึนมาแสดง

7.6 ตัวแปรประเภท System Information

ตัวแปรประเภท System Information จะดึงขอมูลวันเดือนปหรือเวลาของระบบคอมพิวเตอรข้ึนมาแสดงประกอบดวยตัวแปรตางๆ

ตารางท่ี 7.5 ตัวแปรประเภท System Information

ตัวแปร คําอธิบาย 1. cpInfoCurrentDate ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลวันท่ีปจจุบันของระบบข้ึนมาแสดง 2. cpInfoCurrentDateSt

ring ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลเดือนวันปปจจุบันของระบบข้ึนมาแสดง

3. cpInfoCurrentDay ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลลําดับท่ีของวันข้ึนมาแสดง เชน อาทิตย = 1, จันทร = 2, อังคาร = 3 เปนตน

4. cpInfoCurrentHour ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการนับจํานวนชั่วโมงของระบบข้ึนมาแสดง

5. cpInfoCurrentMinutes

ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการนับจํานวนนาทีของระบบข้ึนมาแสดง

Page 173: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

166

ตัวแปร คําอธิบาย 6. cpInfoCurrentMonth ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลลําดับท่ีของเดือนข้ึนมาแสดง เชน

ม.ค. = 01, ก.พ. = 02, มี.ค. = 03 เปนตน 7. cpInfoCurrentTime ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลเวลาในปจจุบันของระบบข้ึนมาแสดง

มีหนวยเปน hh:mm:ssเชน 22:15:40 8. cpInfoCurrentYear ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลของป ค.ศ. ปจจุบันข้ึนมาแสดง เชน

2011, 2012, 2013, 2014 เปนตน 9. cpInfoEponchMS ตัวแปรสําหรับดึงขอมูลการนับเวลาท่ีมีหนวยเปนหลักลาน

วินาที โดยเริ่มตั้งแตป ค.ศ. 1970 7.7 ตัวแปรยูสเซอร

ตัวแปรยูสเซอรเปนตัวแปรท่ีสามารถกําหนดเอง ทําใหสามารถประยุกตใชงานไดหลากหลาย 7.7.1 การสรางตัวแปรยูสเซอร

7.7.1.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 7.9 (A) และคลิกท่ีเมนู Variables

รูปท่ี 7.9 การสรางตัวแปรยูสเซอร

รูปท่ี 7.10 การสรางตัวแปรยูสเซอร

Page 174: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

167

7.7.1.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหทําการเลือก Type ใหเปน User ตามรูปท่ี 7.10 (A) และคลิกท่ีปุม Add New ตามรูปท่ี 7.10 (B)

7.7.1.3 กรอกรายละเอียด Name (ชื่อตัวแปร) Value (กําหนดคาของตัวแปรหรือจะเวนวางไวก็ได) Description (กําหนดรายละเอียดตัวแปรท่ีสรางข้ึน) ตามรูปท่ี 7.11 (A) หลังจากท่ีกรอกรายละเอียดเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 7.11 (B)

รูปท่ี 7.11 การสรางตัวแปรยูสเซอร

7.7.1.4 แสดงตัวแปรท่ีไดสรางเสร็จเรียบรอยแลว

รูปท่ี 7.12 แสดงตัวแปรยูสเซอร

Page 175: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

168

7.7.2 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร ผูใชสามารถลบหรือแกไขไดเฉพาะตัวแปรยูสเซอรเทานั้น โดยตัวแปรท่ีติดมากับ Text Entry

Box จะแกไขไดแตไมสามารถลบได ผูใชงานสามารถแกไขหรือลบตัวแปรยูสเซอร ไดดังนี้

7.7.2.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 7.13 (A) และคลิกท่ีเมนู Variables

รูปท่ี 7.13 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร

7.7.2.2 ทําการเลือกตัวแปรท่ีตองการลบหรือแกไข ตามรูปท่ี 7.14 (A) หลังจากนั้นก็ทําการคลิกท่ีปุมUpdate หรือ Remove ตามรูปท่ี 7.14 (B)

รูปท่ี 7.14 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร

Page 176: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

169

7.8 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน การแทรกตัวแปรระบบจะตองแทรกตัวแปรโดยใช เครื่องมือ Text Caption หรือ

Rollover Caption เทานั้น โดยการแทรกตัวแปร มีข้ันตอน ดังนี้

7.8.1 คลิกท่ีเมนู Text Caption หรือ Rollover Caption ตามรูปท่ี 7.15

รูปท่ี 7.15 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน

7.8.2 จากนั้นปรากฎขอความแสดงข้ึนมา ใหทําการดับเบิลคลิกท่ีขอความ ตามรูปท่ี 7.16

รูปท่ี 7.16 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน

Page 177: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

170

7.8.3 ปรากฎเมนูแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม กากบาท ตามรูปท่ี 7.17

รูปท่ี 7.17 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน

7.8.4 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา ทําการกําหนด Variable Type (กําหนดเปน System) View By (เลือกประเภทของตัวแปรท่ีตองการ) Variables (เลือกตัวแปรท่ีเราตองการ) Maximum length (กําหนดความจุของตัวอักษร)ตามรูปท่ี 7.18 (A) หลังจากท่ีกําหนดคาตางๆเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 7.18 (B)

รูปท่ี 7.18 การกําหนดคาตัวแปร

รูปท่ี 7.19 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย

Page 178: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

171

7.8.5 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอยแลว

รูปท่ี 7.20 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย

7.8.6 แสดงหนา Preview ตัวแปรท่ีไดทําการกําหนดคา

รูปท่ี 7.21 แสดงหนา Preview

7.9 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงานจะตองอาศัยตัวแปรท่ีสรางข้ึนจาก Text Entry

Box แลวนําคาของตัวแปรจาก Text Entry Box สงไปยัง Text Caption หรือ Rollover Caption เพ่ือแสดงคาท่ีไดรับหรือแสดงขอมูลท่ีผูใชกรอกลงไปใน Text Entry Box โดยมีข้ันตอนดังนี้

Page 179: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

172

7.9.1 คลิกท่ีเครื่องมือ Insert Text Entry Box ตามรูปท่ี 7.22 (A) หลังจากท่ีไดทําการคลิกแลวจะมีชองและปุมปรากฏข้ึนมา ตามรูปท่ี 7.22 (B)

รูปท่ี 7.22 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน

7.9.2 หลังจากนั้นใหทําการกําหนดชื่อตัวแปร ใหคลิกท่ีเครื่องหมายกากบาท

รูปท่ี 7.23 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน

Page 180: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

173

7.9.3 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหทําการตั้งชื่อตัวแปรตามตอง ตามรูปท่ี 7.24 (A) แลวทําการคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 7.24 (B)

รูปท่ี 7.24 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน

7.9.4 ทําการคลิกเลือกสไลดถัดแลวคลิกท่ีเครื่อง InsertText Caption ตามรูปท่ี 7.25 (A) หลังจากนั้นจะมี Text Caption แสดงข้ึนมา ตามรูปท่ี 7.25 (B)

รูปท่ี 7.25 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน

7.9.5 คลิกท่ีเครื่องหมายกากบาท

รูปท่ี 7.26 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน

Page 181: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

174

7.9.6 จะมีหนาตางแสดงข้ึนมาใหทําการกําหนดคา Variable Type (กําหนดเปน User) Variable (เลือกเปนตัวแปรยูสเซอรท่ีไดสรางเม่ือสักครูนี้) Maximum length (ความจุของตัวอักษร) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK

รูปท่ี 7.27 การกําหนดคาตัวแปร

7.9.7 แสดงหนา Preview ตัวแปรท่ีไดทําการกําหนดคา โดยทําการกรอกขอความ ตามรูปท่ี 7.28 (A) และทําการคลิกท่ีปุม Submit ตามรูปท่ี 7.28 (B)

รูปท่ี 7.28 แสดงหนา Preview

7.9.8 หลังจากนั้นคาท่ีไดกรอกในชองเม่ือสักครูก็จะมาปรากฏใหเห็นในอีกสไลดถัดไป

รูปท่ี 7.29 แสดงหนา Preview

Page 182: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

175

7.10 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง (Advance Action) เปนการกําหนด

เหตุการณตางๆใหกับวัตถุ โดยสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ึนมา ซ่ึงเปรียบเสมือนกับการเขียนสคริปต แตเราสามารถสรางแอคชั่นใหกับโปรเจ็คไดโดยไมตองเขียนสคริปต ซ่ึงมีข้ันตอนดังตอไปนี้

7.10.1 ออกแบบชิ้นงานตามตองการในพาเนล Master Slide 7.10.2 สรางปุม ตามรูปท่ี 7.30

รูปท่ี 7.30 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง

7.10.3 สรางสไลดใหมสําหรับแสดงขอความ ในสไลดท่ี 2 ใสขอความวา “ถูกตองนะครับ” ในสไลดท่ี3ใสขอความวา “คุณแพแลว” ตามรูปท่ี 7.31

รูปท่ี 7.31 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง

Page 183: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

176

7.10.4 กําหนด Action ใหกับปุม “ยอมแพ”On Success (กําหนดเปน Go to the next slide) Attempts (กําหนดเปน Infinite)

รูปท่ี 7.32 การกําหนด Action ปุม ยอมแพ

7.10.5 กําหนด Action ใหกับปุม “สงคําตอบ”On Success (กําหนดเปน Go to the next slide) Attempts(กําหนดเปน Infinite)

รูปท่ี 7.33 การกําหนด Action ปุมสงคําตอบ

7.10.6 กําหนด Action ท่ีเนื้อหาสไลด โดยใหคลิกท่ีสไลดเนื้อหาแลวกําหนดคา On Enter (กําหนดเปน Disable) Disable (กําหนดเปนปุมสงคําตอบ โดยกําหนดใหปุมไมสามารถคลิกไดจนกวาจะกรอกขอมูลท่ีถูกตอง) On Exit (กําหนดเปน No Action)

รูปท่ี 7.34 การกําหนด Action สไลดเนื้อหา

Page 184: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

177

7.10.7 คลิกเมนู Project ตามรูปท่ี 7.35 (A) และคลิกท่ีเมนู Advanced Actions ตามรูปท่ี 7.35 (B)

รูปท่ี 7.35 การเขาเมนู Advanced Actions

7.10.8 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหทําการกําหนดคาตาง ๆ ดังนี้ 7.10.8.1 Action Type เลือกเปน Conditional actions ตามรูปท่ี 7.36 (A) 7.10.8.2 กําหนดชื่อแอคชั่น ตามรูปท่ี 7.36 (B) 7.10.8.3 กําหนดชื่อเหตุการณใหกับแอคชั่น ตามรูปท่ี 7.36 (C) 7.10.8.4 ในสวน IF ใหคลิกท่ีปุม Add เพ่ือกําหนดเง่ือนไข ซ่ึงทําการกําหนด สวนท่ี

1 ใหเลือก Variable เลือกตัวแปร Text_Entry_Box_2 สวนท่ี 2 Select Comparison Operator เลือก is equal to สวนท่ี 3 เลือก Literal แลวทําการปอนคาท่ีถูกตองลงไป ตามรูปท่ี 7.36 (D)

7.10.8.5 ในสวน Actions ใหคลิกท่ีปุม Add เพ่ือกําหนดเหตุการณ ซ่ึงทําการกําหนด สวนท่ี 1 Select Action เลือกเปน Enable สวนท่ี 2 Select Item คลิกเลือกปุมสงคําตอบท่ี Disable ไว ตามรูปท่ี 7.36 (E)

7.10.8.6 หลังจากท่ีไดทําการกําหนดคาตางๆเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 7.36 (F)

Page 185: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

178

รูปท่ี 7.36 การกําหนดคา Advanced actions

7.10.8.7 การกําหนดคาตาง ๆ ใหกับ Text Entry Box ท่ีพาเนล Properties

รูปท่ี 7.37 การกําหนดคุณสมบัติของ Text Entry Box

7.10.8.8 Name (กําหนดชื่อ), Visible in output (มองเห็นไดเม่ือแสดงผล)

รูปท่ี 7.38 การกําหนดคา Text Entry Box

Page 186: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

179

7.10.8.9 General ยกเลิกเครื่องหมายถูกในเช็คบ็อกซออกใหหมด, Variable ใหกําหนดตัวแปร Text_Entry_Box_2, On Focus Lose กําหนดเปน No Action

รูปท่ี 7.39 การกําหนดคา General

7.10.8.10 Character กําหนดรูปแบบตัวอักษร ขนาด และสี

รูปท่ี 7.40 การกําหนดคา Character

7.10.8.11 Action On Success กําหนดเปน Execute Advanced Actions, Script กําหนดเง่ือนไขท่ีกําหนดไว, Attempts กําหนดเปน Infinite

รูปท่ี 7.41 การกําหนดคา Action

Page 187: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

180

7.10.8.12 Options ยกเลิกเครื่องหมายถูกออกใหหมด

รูปท่ี 7.42 การกําหนดคา Options

7.10.8.13 Shadow & Reflection กําหนดเงาและการสะทอน

รูปท่ี 7.43 การกําหนดคา Shadow & Reflection

7.10.8.14 Timing Display For กําหนดเปน rest of slide, Appear After กําหนดเวลาเริ่มแสดงผลตามตองการ, Pause After กําหนดเวลา 00:00

รูปท่ี 7.44 การกําหนดคา Timing

Page 188: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

181

7.10.8.15 Transition กําหนดเอฟเฟคตเขา – ออกใหกับ Text Entry Box

รูปท่ี 7.45 การกําหนดคา Transition

7.10.8.16 Fill & Stroke กําหนดสีพ้ืนและความโปรงใสตามตองการ

รูปท่ี 7.46 การกําหนดคา Fill & Stroke

7.10.8.17 Audio กําหนดเสียงใหกับ Text Entry Box

รูปท่ี 7.47 การกําหนดคา Audio

7.10.8.18 Reporting กําหนดคะแนนใหกับ Text Entry Box

รูปท่ี 7.48 การกําหนดคา Reporting

Page 189: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

182

7.10.8.19 Transform กําหนดตําแหนงและขนาดของ Text Entry Box

รูปท่ี 7.49 การกําหนดคา Transform 7.11 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง (Advance Action)

เม่ือมีการกําหนดแอคชั่นไมถูกตองหรือตองการกําหนด/แกไขคาตางๆใหม ผูใชสามารถลบ เพ่ิมเติมหรือแกไขแอคชั่นได ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

7.11.1 คลิกเมนู Project ตามรูปท่ี 7.50 (A) และคลิกท่ีเมนู Advanced Actions ตามรูปท่ี

7.50 (B)

รูปท่ี 7.50 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง

Page 190: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

183

7.11.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา ใหทําการคลิกเลือกชื่อแอคชั่นท่ีเคยกําหนดไว ตามรูปท่ี 7.51 (A) และคลิกเง่ือนไขหรือเหตุการณท่ีตองการแกไข ตามรูปท่ี 7.51 (B) แลวทําการเลือกเครื่องมือท่ีตองการตามรูปท่ี 7.51 (C) 7.11.2.1 Add เพ่ิมแอคชั่น เหตุการณหรือเง่ือนไขตางๆ 7.11.2.2 Remove ลบแอคชั่นท่ีไมตองการ 7.11.2.3 Copy คัดลอกแอคชั่น 7.11.2.4 Cut ยายแอคชั่นไปยังเหตุการณอ่ืน 7.11.2.5 Paste วางแอคชั่นท่ีคัดลอกเอาไว 7.11.2.6 Insert แทรกแอคชั่น เหตุการณหรือเง่ือนไขตางๆ 7.11.2.7 Move up จัดลําดับแอคชั่นใหข้ึนไปอยูดานบน 7.11.2.8 Move down จัดลําดับแอคชั่นใหลงมาอยูดานลาง

รูปท่ี 7.51 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง

7.11.3 หลังจากแกไขเสร็จเรียบรอยแลวใหคลิกท่ีปุม Update

รูปท่ี 7.52 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง

Page 191: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

184

เอกสารอางอิง Adobe Captivate : ตัวแปรและแอคช่ัน, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 7.1 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable), จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.2 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable), จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.3 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable), จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.4 แสดงตัวแปร System Information, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.5 การเปดหนาตาง Skin Editor, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.6 หนาตาง Skin Editor, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.7 ตัวแปรประเภท Movie MetaData, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.8 การกําหนดตัวแปรประเภท Movie MetaData, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.9 การสรางตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.10 การสรางตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.11 การสรางตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.12 แสดงตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.13 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.14 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.15 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.16 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.17 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.18 การกําหนดคาตัวแปร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.19 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.20 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.21 แสดงหนา Preview, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.22 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.23 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.24 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.25 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.26 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.27 การกําหนดคาตัวแปร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.28 แสดงหนา Preview, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.29 แสดงหนา Preview, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.30 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.31 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer)

Page 192: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

185

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 7.32 การกําหนด Action ปุมยอมแพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.33 การกําหนด Action ปุมสงคําตอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.34 การกําหนด Action สไลดเนื้อหา, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.35 การเขาเมนู Advanced Actions, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.36 การกําหนดคา Advanced actions, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.37 การกําหนดคุณสมบัติของ Text Entry Box, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.38 การกําหนดคา Text Entry Box, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.39 การกําหนดคา General, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.40 การกําหนดคา Character, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.41 การกําหนดคา Action, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.42 การกําหนดคา Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.43 การกําหนดคา Shadow & Reflection, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.44 การกําหนดคา Timing, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.45 การกําหนดคา Transition, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.46 การกําหนดคา Fill & Stroke, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.47 การกําหนดคา Audio, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.48 การกําหนดคา Reporting, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.48 การกําหนดคา Transform, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.50 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.51 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.52 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer)

อางอิงตาราง ตารางท่ี 7.1 ตัวแปรระบบ (System Variable), สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) ตารางท่ี 7.2 ตัวแปรประเภท Movie Information, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) ตารางท่ี 7.3 Project Information, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) ตารางท่ี 7.4 ตัวแปรประเภท Quizzing, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) ตารางท่ี 7.5 ตัวแปรประเภท System Information, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Page 193: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

186

Page 194: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 8 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป

ตอนท่ี 6 การสรางแบบทดสอบ 8.1 แบบทดสอบคืออะไร

แบบทดสอบ คือ ชุดของขอคําถามท่ีสรางข้ึนเพ่ือใชวัดความรู ความเขาใจ สติปญญา ความถนัด และบุคลิกภาพของบุคคล โดยบุคคลนั้นจะตอบสนองโดยการแสดงพฤติกรรมในรูปแบบตางๆ เชน พูด เขียน ทาทาง หรือการลงมือปฎิบัติ

8.2 ลักษณะและประเภทของแบบทดสอบ

แบบทดสอบสามารถแบงออกไดหลากหลายลักษณะข้ึนอยูกับเกณฑท่ีจะใช ในท่ีนี้มุงเนนประเภทของแบบทดสอบท่ีใชเกณฑการทดสอบตามสมรรถภาพ แบงได 3 ประเภท คือ

8.2.1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ (Achievement Test)

แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ หมายถึง แบบทดสอบท่ีวัดสมรรถสมองดานตางๆ ท่ีผูเรียนไดรับการเรียนรูมาแลวมีอยูเทาใด แบบทดสอบประเภทนี้แบงออกเปน 2 ชนิด คือ

8.2.1.1 แบบทดสอบท่ีครูสรางข้ึนเอง (Teacher-Made Test) แบบทดสอบท่ีครูสรางข้ึนเอง หมายถึง แบบทดสอบท่ีมุงวัดผล-สัมฤทธิ์ของผูเรียนเฉพาะกลุม

ท่ีครูสอน เปนแบบทดสอบท่ีใชกันท่ัว ๆ ไปในโรงเรียนและสถาบันการศึกษา 8.2.1.2 แบบทดสอบมาตรฐาน (Standardized Test)

แบบทดสอบมาตรฐาน หมายถึง แบบทดสอบท่ีมุงวัดผลสัมฤทธิ์ของผูเรียนท่ัวๆ ไป แบบทดสอบชนิดนี้จะตองผานการวิเคราะหแลววามีคุณภาพดี มีมาตรฐาน คือมีมาตรฐานในการดําเนินการสอบ และมาตรฐานในวิธีการแปลความหมายคะแนน

8.2.2 แบบทดสอบวัดความถนัด (Aptitude Test)

แบบทดสอบวัดความถนัด หมายถึง แบบทดสอบท่ีมุงวัดสมรรถภาพสมองของผูเรียนวาจะสามารถเรียนไปไดไกลหรือประสบความสําเร็จเพียงใด เพ่ือใชในการพยากรณหรือทํานายอนาคตของผูเรียน โดยอาศัยขอเท็จจริงในปจจุบันเปนรากฐาน แบบทดสอบวัดความถนัดอาจแบงไดเปน 2 ชนิด คือ

8.2.2.1 แบบทดสอบวัดความถนัดทางการเรียน (Scholastic Aptitude Test) แบบทดสอบวัดความถนัดทางการเรียน หมายถึง แบบทดสอบท่ีมุงวัดความถนัดทางดาน

วิชาการตางๆ เชน ดานภาษา ดานคณิตศาสตร เปนตน

Page 195: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

188

8.2.2.2 แบบทดสอบวัดความถนัดเฉพาะอยาง (Specific Aptitude Test) แบบทดสอบวัดความถนัดเฉพาะอยาง หมายถึง แบบทดสอบท่ีมุงวัดความถนัดเฉพาะอยางท่ี

เก่ียวกับงานอาชีพตางๆ หรือความสามารถพิเศษ เชน ความสามารถทางดนตรี ศิลปะ เครื่องยนต การประดิษฐ เปนตน

8.2.3 แบบทดสอบบุคคล - สังคม (Personal-Social Test)

แบบทดสอบบุคคล - สังคม หมายถึง แบบทดสอบท่ีใชวัดบุคลิกภาพ (Personality) และการปรับตัว (Adjustment) ใหเขากับสังคม ซ่ึงเปนเรื่องท่ีวัดไดยาก ผลท่ีไดไมแนนอนตายตัว เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงในตัวบุคคลและสังคม ตัวอยาง แบบทดสอบประเภทนี้ไดแก

8.2.3.1 แบบทดสอบวัดเจตคติ ( Attitude) 8.2.3.2 แบบทดสอบวัดความสนใจ (Interest) 8.2.3.3 แบบทดสอบวัดการปรับตัว (Adjustment)

จากประสบการณในการสรางสื่อมัลติมีเดียของบริษัท Adobe จึงไดบรรจุคุณสมบัติของ

แบบทดสอบไวภายในโปรแกรม Adobe Captivate ท่ีไดทําการวิเคราะหและออกแบบประเภทของแบบทดสอบตามความเหมาะสมตางๆ ซ่ึงไดกลาวถึงในหัวขอตอไป 8.3 ประเภทของแบบทดสอบสําหรับส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ ท่ีอยูภายในโปรแกรม

Adobe Captivate ไดแก 8.3.1 Multiple choice หรือ แบบทดสอบประเภทเลือกตอบ 8.3.2 True/False หรือ แบบทดสอบประเภทถูกหรือผิด 8.3.3 Fill-In-The-Blank หรือ แบบทดสอบประเภทเติมคําในชองวาง 8.3.4 Short Answer หรือ แบบทดสอบประเภทเติมคําหรือประโยคสั้นๆ 8.3.5 Matching หรือ แบบทดสอบประเภทจับคู 8.3.6 Hot Spot หรือ แบบทดสอบประเภทชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ 8.3.7 Sequence หรือ แบบทดสอบประเภทเรียงลําดับกอนหลัง 8.3.8 Rating Scale (Likert) หรือ แบบทดสอบประเภทประเมินการใหคะแนน 8.3.9 Random Questions หรือ แบบทดสอบประเภททดสอบแบบสุม

Page 196: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

189

รูปท่ี 8.1 ประเภทของแบบทดสอบในโปรแกรม Adobe Captivate 7 8.4 การตั้งคาแบบทดสอบ

การเปดหนาตางการตั้งคาแบบทดสอบ สามารถทําได โดยการเลือกท่ีเมนูบาร (Menu Bar) Quiz > Quiz Preferences

รูปท่ี 8.2 การเปดหนาตางการตั้งคาแบบทดสอบ

Page 197: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

190

8.4.1 การกําหนดคาแบบรายงาน (Reporting)

รูปท่ี 8.3 การกําหนดคาแบบรายงาน (Reporting)

8.4.1.1 เก่ียวกับการรายงานแบบทดสอบ (Quiz) การกําหนดใหแบบทดสอบทํางาน โดยการเลือกท่ีขอความ “Enable reporting for this project”

8.4.1.2 เลือกระบบบริหารการเรียนการสอน (LMS) ไดแก Moodle, Acrobat.com, Internal Server, other Standard LMSs, Adobe Connect, Question mark Perception

8.4.1.3 มาตรฐานของบทเรียน (Standard) ไดแก SCORM 1.2, SCORM 2004, AICE, Tincan

8.4.1.4 รูปแบบของการกําหนดคาแบบรายงาน (Template) 1) Custom กําหนดเอง 2) Defaultกําหนดคามาตรฐาน 3) SendTackingDataAtEndสงขอมูลเม่ือสิ้นสุด

8.4.2 Status Representation

8.4.2.1 Incomplete --> Complete 8.4.2.2 Incomplete --> Passed/Failed

8.4.3 มาตรฐานการสําเร็จ (Success / Compete Criteria)

8.4.3.1 User Access จากผูใชงานเขาใจระบบ 8.4.3.2 Slide views and/or quiz การดูหรือการทําแบบทดสอบ

Page 198: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

191

1) Slide Viewsจากจํานวนสไลดท่ีเขาชม มี 2 ลักษณะ คือ รอยละของจํานวนท่ีเขาชม และจํานวนของสไลดท่ีเขาชม

2) Quiz จากการทําแบบทดสอบ มี 3 ลักษณะ คือ

• Quiz is attempted

• Quiz is Passed

• Quiz is passed or the quiz attempted limit is reached 8.4.3.3 Data to Report

1) Quiz Scoreไดแก Percentage และ Points 2) Interaction Data

8.4.3.4 LMS Initialization Text

8.4.4 การตั้งคาแบบทดสอบ (Setting)

รูปท่ี 8.4 การตั้งคาแบบทดสอบ (Setting)

8.4.4.1 Name การกําหนดชื่อใหกับแบบทดสอบ 8.4.4.2 Required การเลือกรูปแบบการทําแบบทดสอบ

1) Optional – The user can skip this quiz ผูใชสามารถขามแบบทดสอบท่ีไมตองการไปขอตอไปได

2) Required – The user must take the quiz to continue ผูใชตองทําแบบทดสอบกอน จึงจะสามารถไปยังสไลดถัดไปหรือสไลดคําถามขอตอไปได

Page 199: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

192

3) Pass Required – The user must pass the quiz to continue ผูใชตองทําแบบทดสอบใหถูกตองกอนจึงจะไปสไลดถัดไปหรือสไลดคําถามขอตอไปได

4) Answer All – The user must answer every question to continue ผูใชตองตอบคําถามทุกขอกอน จึงจะไปสไลดถัดไปหรือสไลดคําถามขอตอไปได

8.4.4.3 Objective ID กําหนดรหัสใหกับแบบทดสอบแตละขอ โดยปกติโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ 8.4.4.4 Interaction ID Prefix กําหนดรหัสใหกับแบบทดสอบแบบมีปฎิสัมพันธ

(Interactive) ท่ีแทรกมาพรอมกับคําถามท่ีสรางข้ึน 8.4.4.5 Shuffle Answer การสลับตัวเลือกคําตอบทุกครั้งท่ีเปดแบบทดสอบ สวน

ใหญใชกับแบบทดสอบแบบ Multiple Choice 8.4.4.6 Submit All กําหนดใหตอบคําถามในแตละขอแลวสงคําตอบครั้งเดียว และ

คลิกท่ีปุม Submit All Massage แลวกําหนดขอความท่ีตองการ 8.4.4.7 Branch Aware กําหนดใหแบบทดสอบสามารถใชงานแบบเชื่อมโยงไปยัง

สไลดตางๆ ได 8.4.4.8 Show Progressแสดงความคืบหนาของการทําแบบทดสอบ ทําใหผูใช

ทราบวาการทําแบบทดสอบอยูในระหวางชวงไหน ขอใด มีใหเลือกดังนี้ 1) Relative แสดงขอคําถามตอจํานวนท้ังหมด 2) Absolute แสดงจํานวนขอคําถาม

8.4.4.9 Allow Backward Movement ผูทําแบบทดสอบสามารถยอนกลับไปทําแบบทดสอบขอท่ีผานมาได ขณะทําแบบทดสอบอยู

8.4.4.10 Show Score at the End of the Quiz กําหนดการแสดงผลคะแนนหลังจากท่ีทําแบบทดสอบเสร็จ และคลิกปุม Quiz Result Massage และกําหนดขอความและคลิกเลือกคุณสมบัติอ่ืนๆ ตามท่ีตองการ

8.4.4.11 Allow User to Review the Quiz กําหนดใหแสดงขอความข้ึนมาเม่ือผูใชทําแบบทดสอบถูกหรือผิด โดยคลิกท่ีปุม Question Review Message และตั้งคาตางๆ ตามตองการ

8.4.5 การกําหนดเกณฑการทดสอบ (Pass or Fail) รายละเอียดในการกําหนดคาตางๆ ดังนี้

8.4.5.1 Pass/Fail Options กําหนดเกณฑท่ีผูใชตองทําแบบทดสอบใหไดมากกวาหรือเทากับเกณฑท่ีกําหนดไว มีใหเลือก 2 แบบ ดังนี้ 1) % or more of total point to pass กําหนดเกณฑเปนรอยละท่ี

ตองการใหผาน 2) Point or more to pass กําหนดเกณฑเปนคะแนนท่ีตองการใหผาน

Page 200: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

193

8.4.5.2 If Passing Grade เชื่อมโยงเหตุการณเม่ือผูทําแบบทดสอบผาน โดยกําหนดท่ีชอง Action

8.4.5.3 If Failing Grade เชื่อมโยงเหตุการณเม่ือผูทําแบบทดสอบไมผาน โดยกําหนดจํานวนครั้งของความพยายามท่ี Allow user หรือกําหนดเหตุการณท่ีชอง Action

รูปท่ี 8.5 การกําหนดเกณฑการทดสอบ (Pass or Fail)

รูปท่ี 8.6 การกําหนดขอความบรรยายใหสไลดแบบทดสอบ (Default Labels)

Page 201: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

194

8.4.6 การกําหนดขอความบรรยายใหสไลดแบบทดสอบ (Default Labels) 8.4.6.1 Correct Message 8.4.6.2 Incorrect Message 8.4.6.3 Retry Message 8.4.6.4 Incomplete Message 8.4.6.5 Timeout Message 8.4.6.6 Partial Correct Message 8.4.6.7 Submit 8.4.6.8 Submit All 8.4.6.9 Clear 8.4.6.10 Skip 8.4.6.11 Back

8.5 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ (Multiple Choice)

การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ เปนแบบทดสอบลัษณะท่ีมีตัวเลือกใหเลือกตอบ เชน 1, 2, 3, 4 หรือ A, B, C, D หรือ a, b, c, d เปนตน ในเวอรชั่นนี้สามารถกําหนดคะแนนใหกับแตละตัวเลือกได และคุณสมบัติอ่ืนๆ ดังนี้

8.5.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ 8.5.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.7 (A) และ คลิกเมนู Question Slide

ตามรูปท่ี 8.7 (B) 8.5.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.8 (A) และคลิกเมนู

Question Slide ตามรูปท่ี 8.8 (B) 8.5.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.7 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ

Page 202: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

195

รูปท่ี 8.8 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ

8.5.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบเลือกตอบ 8.5.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง 8.5.2.2 ชนิดของคําถาม มี 2 แบบ คือ

1) Grade Questionแบบเก็บคะแนน 2) Survey Question แบบสํารวจ

รูปท่ี 8.9 สไลดแบบทดสอบแบบเลือกตอบ

8.5.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.5.3.1 General

1) Typeรูปแบบของคําถาม 2) Answer กําหนดจํานวนตัวเลือก 3) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 4) Shuffle Answers กําหนดใหสลับตัวเลือก 5) Penaltyกําหนดใหคะแนนเม่ือตอบคําถามไมถูก 6) Multiple Answers กําหนดใหเลือกตอบไดมากกวา 1 ขอ

Page 203: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

196

รูปท่ี 8.10 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ

8.5.3.2 Options 1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.11 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ

8.5.3.3 Action 1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือตอบคําถามถูก 2) Attempts กําหนดจํานวนครั้งในการเลือกตอบ 3) Failure Levels กําหนดจํานวนโอกาสท่ีทําแบบทดสอบผิด 4) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบ

รูปท่ี 8.12 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ

Page 204: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

197

8.5.3.4 Reporting 1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction IDกําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม โดยโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ

รูปท่ี 8.13 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ

8.5.4 การกําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก เชน ตอบ A ได 1 คะแนน, ตอบ B ได 2 คะแนน, ตอบ C ได 3 คะแนน, ตอบ D ได 4 คะแนนเปนตน มีข้ันตอนดังนี้

รูปท่ี 8.14 การกําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก

รูปท่ี 8.15 การกําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก

Page 205: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

198

8.5.4.1 เลือกท่ี Panel Quiz Properties ตามรูปท่ี 8.14 (A) 8.5.4.2 ท่ีกลุม General เลือกท่ี Partial Score ตามรูปท่ี 8.14 (B) 8.5.4.3 เลือกตัวเลือกท่ีตองการกําหนดคะแนน ตามรูปท่ี 8.15 (A) 8.5.4.4 เลือกท่ี Panel Properties หัวขอ Answer กลุม Advance Answer

Option เลือก Points กําหนดคะแนนท่ีตองการในขอนั้น

8.6 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด (True/False) 8.6.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ

8.6.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.16 (A) และ คลิกเมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.16 (B)

8.6.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.17 (A) และคลิกเมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.17 (B)

8.6.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.16 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด

รูปท่ี 8.17 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด

Page 206: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

199

8.6.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบถูกหรือผิด 8.6.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง 8.6.2.2 ชนิดของคําถาม มี 2 แบบ คือ

1) Grade Question แบบเก็บคะแนน 2) Survey Question แบบสํารวจ

รูปท่ี 8.18 สไลดแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด

8.6.2.3 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบ True/False

รูปท่ี 8.19 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบ True/False

Page 207: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

200

8.6.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.6.3.1 General

1) Type รูปแบบของคําถาม 2) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 3) Penalty กําหนดคะแนนท่ีถูกหักออกเม่ือตอบคําถามไมถูกตอง 4) Numbering เลือกรูปแบบหัวขอของตัวเลือก เชน A), B), C)หรือ 1),

2), 3) เปนตน

รูปท่ี 8.20 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด

8.6.3.2 Options 1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.21 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด

8.6.3.3 Action 1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือตอบคําถามถูก 2) Attempts กําหนดจํานวนครั้งในการเลือกตอบ 3) Failure Levels กําหนดจํานวนโอกาสท่ีทําแบบทดสอบผิด 4) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบกําหนด

Page 208: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

201

รูปท่ี 8.22 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด

8.6.3.4 Reporting 1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction ID กําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม โดยโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ

รูปท่ี 8.23 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด

8.7 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง (Fill-In-The-Blank)

รูปท่ี 8.24 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

Page 209: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

202

8.7.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ 8.7.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.24 (A) และ คลิกเมนู Question Slide

ตามรูปท่ี 8.24 (B) 8.7.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.25 (A) และคลิก

เมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.25 (B) 8.7.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.25 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

8.7.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบเติมคําในชองวาง 8.7.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง 8.7.2.2 ชนิดของคําถาม มี 2 แบบ คือ

1) Grade Question แบบเก็บคะแนน 2) Survey Question แบบสํารวจ

รูปท่ี 8.26 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

Page 210: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

203

8.7.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.7.3.1 General

1) Type รูปแบบของคําถาม 2) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 3) Penalty กําหนดคะแนนท่ีถูกหักออกเม่ือตอบคําถามไมถูกตอง 4) Mark Blank กําหนดชองสําหรับตอบคําถาม

รูปท่ี 8.27 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

8.7.3.2 Options

1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.28 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

8.7.3.3 Action

1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือตอบคําถามถูก 2) Attempts กําหนดจํานวนครั้งในการเลือกตอบ 3) Failure Levels กําหนดจํานวนโอกาสท่ีทําแบบทดสอบผิด

Page 211: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

204

4) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบตามท่ีกําหนด

รูปท่ี 8.29 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

8.7.3.4 Reporting

1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction ID กําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม โดยโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ

รูปท่ี 8.30 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

8.7.4 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง

8.7.4.1 ดับเบิลคลิก (Double Click) ท่ีชองกําหนดตําตอบ ตามรูปท่ี 8.31 (A) 8.7.4.2 กําหนดคําตอบท่ีถูกตอง ตามรูปท่ี 8.31 (B) 8.7.4.3 หากตองการเพ่ิมคําตอบท่ีถูกตองทําไดโดยคลิกท่ีเครื่องหมาย + หรือ ลบ

คําตอบท่ีไมตองการ โดยคลิกท่ีเครื่องหมาย – ตามรูปท่ี 8.31 (C) 8.7.4.4 กําหนดรูปแบบของการตอบคําถาม ตามรูปท่ี 8.31 (D)

1) User Input ผูใชพิมพคําตอบลงในชองวาง 2) Dropdown list ผูใชเลือกคําตอบจากรายการตัวเลือก

8.7.4.5 การกําหนด Case-Sensitive เพ่ือใหผูใชตอบคําถามตัวพิมพเล็กหรือตัวพิมพใหญท่ีถูกตองเทานั้น ตามรูปท่ี 8.31 (E)

Page 212: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

205

รูปท่ี 8.31 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง 8.8 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคส้ันๆ (Short Answer)

แบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ (Short Answer) เปนแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ ท่ีมีคําตอบหลายตัว มีข้ันตอนการสรางและการใชงาน ดังนี้

8.8.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ 8.8.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.32 (A) และ คลิกเมนู Question Slide

ตามรูปท่ี 8.32 (B) 8.8.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.33 (A) และคลิก

เมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.33 (B) 8.8.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.32 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

Page 213: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

206

รูปท่ี 8.33 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

8.8.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ 8.8.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง 8.8.2.2 ชนิดของคําถาม มี 2 แบบ คือ

1) Grade Question แบบเก็บคะแนน 2) Survey Question แบบสํารวจ

รูปท่ี 8.34 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

8.8.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.8.3.1 General

1) Type รูปแบบของคําถาม 2) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 3) Penalty กําหนดคะแนนท่ีถูกหักออกเม่ือตอบคําถามไมถูกตอง 4) Case-Sensitive กําหนดใหคําตอบท่ีถูกตอง มีตัวพิมพเล็กและ

ตัวพิมพใหญไมเหมือนกัน

Page 214: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

207

รูปท่ี 8.35 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

8.8.3.2 Options

1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.36 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

8.8.3.3 Action

1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือตอบคําถามถูก 2) Attempts กําหนดจํานวนครั้งในการเลือกตอบ 3) Failure Levels กําหนดจํานวนโอกาสท่ีทําแบบทดสอบผิด 4) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบ

รูปท่ี 8.37 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

Page 215: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

208

8.8.3.4 Reporting 1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction ID กําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม โดยโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ

รูปท่ี 8.38 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

8.8.4 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

8.8.4.1 คลิกท่ีชองกําหนดคําตอบ ตามรูปท่ี 8.39 (A) 8.8.4.2 กําหนดคําตอบท่ีถูกตองตามตองการ ตามรูปท่ี 8.39 (B) 8.8.4.3 คลิกท่ีเครื่องหมายบวก (+)เพ่ือเพ่ิมคําตอบ หรือ เครื่องหมายลบ (-) เพ่ือลบ

คําตอบ ตามรูปท่ี 8.39 (C) 8.8.4.4 Case-Sensitive กําหนดใหคําตอบท่ีถูกตอง มีตัวพิมพเล็กและตัวพิมพใหญ

ไมเหมือนกัน ตามรูปท่ี 8.39 (D)

รูปท่ี 8.39 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ

Page 216: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

209

8.9 การสรางแบบทดสอบแบบจับคู (Matching) แบบทดสอบแบบจับคู (Matching) แบงออกเปน 2 คอลัมน หรือ 2 ฝง ซ่ึงใหผูทํา

แบบทดสอบทําการเลือกคําตอบจากอีกดานมาใส ท้ังนี้จํานวนคําตอบและคําถามไมตองเทากันก็ได 8.9.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ

8.9.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.40 (A) และ คลิกเมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.40 (B)

8.9.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.41 (A) และคลิกเมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.41 (B)

8.9.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.40 การสรางแบบทดสอบแบบจับคู

รูปท่ี 8.41 การสรางแบบทดสอบแบบจับคู

Page 217: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

210

8.9.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบจับคู 8.9.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง 8.9.2.2 ชนิดของคําถาม มี 2 แบบ คือ

1) Grade Question แบบเก็บคะแนน 2) Survey Question แบบสํารวจ

รูปท่ี 8.42 สไลดแบบทดสอบแบบจับคู

8.9.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.9.3.1 General

1) Type รูปแบบของคําถาม 2) Colum 1 กําหนดจํานวนคําตอบ 3) Colum 2 กําหนดจํานวนของคูคําตอบ 4) Shuffle Colum 1 สลับคําตอบท่ีคอลัมน 1 เม่ือสไลดคําถามปรากฎ 5) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 6) Penalty กําหนดคะแนนท่ีถูกหักออกเม่ือตอบคําถามไมถูกตอง

รูปท่ี 8.43 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู

Page 218: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

211

8.9.3.2 Options 1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.44 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู

8.9.3.3 Action 1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือตอบคําถามถูก 2) Attempts กําหนดจํานวนครั้งในการเลือกตอบ 3) Failure Levels กําหนดจํานวนโอกาสท่ีทําแบบทดสอบผิด 4) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบ

รูปท่ี 8.45 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู

8.9.3.4 Reporting 1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction ID กําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม

รูปท่ี 8.46 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู

Page 219: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

212

8.9.4 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบจับคู 8.9.4.1 เลือกท่ี Quiz Properties ตามรูปท่ี 8.47 (A) 8.9.4.2 เลือกท่ี Generals กําหนดจํานวนคอลัมนท่ีตองการ ตามรูปท่ี 8.47 (B) 8.9.4.3 คลิกเลือกคําตอบในคอลัมน 1 และจับคูกับคอลัมน 2 ตามรูปท่ี 8.47 (C)

รูปท่ี 8.47 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบจับคู 8.10 การสรางแบบทดสอบแบบช้ีจุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ (Hot Spot)

แบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ (Hot Spot) เปนการสรางแบบทดสอบแบบกําหนดพ้ืนท่ี สามารถประยุกตใชสรางแบบทดสอบตางๆ เชน แบบทดสอบทางดานจิตวิทยา ความแตกตางของวัตถุ การจับผิดภาพ เปนตน มีข้ันตอนการสรางและการใชงานแบบทดสอบ ดังนี้

8.10.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ 8.10.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.48 (A) และ คลิกเมนู Question Slide

ตามรูปท่ี 8.48 (B) 8.10.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.49 (A) และคลิก

เมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.49 (B) 8.10.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.48 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

Page 220: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

213

รูปท่ี 8.49 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

8.10.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ 8.10.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง 8.10.2.2 ชนิดของคําถาม มี 2 แบบ คือ

1) Grade Question แบบเก็บคะแนน 2) Survey Question แบบสํารวจ

รูปท่ี 8.50 สไลดแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

8.10.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.10.3.1 General

1) Type รูปแบบของคําถาม 2) Answers กําหนดจํานวน Hot Spot 3) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 4) Penalty กําหนดคะแนนท่ีถูกหักออกเม่ือตอบคําถามไมถูกตอง 5) HOTSPOT กําหนดแอนิเมชั่นเม่ือคลิกท่ีบริเวณ Hot Spot โดยคลิกท่ี

ขอความ “Brown”และเลือกแอนิเมชั่นทีตองการ 6) Allow Clicks Only on Hotspots กําหนดใหคลิกในบริเวณ Hot

Spot เทานั้น

Page 221: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

214

รูปท่ี 8.51 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

8.10.3.2 Options

1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.52 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

8.10.3.3 Action

1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือตอบคําถามถูก 2) Attempts กําหนดจํานวนครั้งในการเลือกตอบ 3) Failure Levels กําหนดจํานวนโอกาสท่ีทําแบบทดสอบผิด 4) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบตามท่ี

กําหนด

Page 222: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

215

รูปท่ี 8.53 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

8.10.3.4 Reporting

1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction ID กําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม โดยโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ

รูปท่ี 8.54 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

8.10.4 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

8.10.4.1 เลือกท่ีพาเนล Quiz Properties ตามรูปท่ี 8.55 (A) 8.10.4.2 หัวขอ General เลือกกําหนดจํานวน Answers ท่ีตองการ ตามรูปท่ี 8.55

(B) 8.10.4.3 ปรับขนาดและยายกรอบ Hot Spot ไปยังตําแหนงท่ีตองการ ตามรูปท่ี

8.55 (C) 8.10.4.4 เลือกท่ีพาเนล Properties ตามรูปท่ี 8.56 (A) 8.10.4.5 เลือกท่ีเมนู Correct Answer เพ่ือกําหนดให Hot Spot นั้นเปนคําตอบท่ี

ถูกตอง ตามรูปท่ี 8.56 (B) 8.10.4.6 สามารถเลือกท่ีขอความ “Show hand curser over hit area” เพ่ือ

กําหนดใหตัวชี้เมาสเปลี่ยนเปนรูปมือเม่ือนําเมาสไปชี้ในพ้ืนท่ี Hot Spot ตามรูปท่ี 8.56 (B)

Page 223: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

216

รูปท่ี 8.55 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ

รูปท่ี 8.56 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ 8.11 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง (Sequence)

รูปท่ี 8.57 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

Page 224: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

217

8.11.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ 8.11.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.57 (A) และ คลิกเมนู Question Slide

ตามรูปท่ี 8.57 (B) 8.11.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.58 (A) และคลิก

เมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.58 (B) 8.11.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.58 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

8.11.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบ 8.11.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง 8.11.2.2 ชนิดของคําถาม มี 2 แบบ คือ

1) Grade Question แบบเก็บคะแนน 2) Survey Question แบบสํารวจ

รูปท่ี 8.59 สไลดแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

Page 225: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

218

8.11.2.3 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง (Sequence)

รูปท่ี 8.60 แสดงแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

8.11.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.11.3.1 General

1) Type รูปแบบของคําถาม 2) Answers กําหนดจํานวนลําดับท่ีตองการ 3) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 4) Penalty กําหนดคะแนนท่ีถูกหักออกเม่ือตอบคําถามไมถูกตอง 5) Answer Type กําหนดรูปแบบการตอบคําถาม มี 2 รูปแบบดังนี้

• Drag Drop ใชเมาสลากสลับลําดับ

• Drop Down แบบรายการเลือก

รูปท่ี 8.61 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

Page 226: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

219

8.11.3.2 Options 1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.62 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

8.11.3.3 Action

1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือตอบคําถามถูก 2) Attempts กําหนดจํานวนครั้งในการเลือกตอบ 3) Failure Levels กําหนดจํานวนโอกาสท่ีทําแบบทดสอบผิด 4) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบ

รูปท่ี 8.63 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

8.11.3.4 Reporting

1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction ID กําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม โดยโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ

Page 227: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

220

รูปท่ี 8.64 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง

8.12 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน (Rating Scale : Likert)

8.12.1 วิธีการสรางแบบทดสอบ 8.12.1.1 วิธีท่ี 1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.65 (A) และ คลิกเมนู Question Slide 8.12.1.2 วิธีท่ี 2 คลิกขวาท่ีสไลดและคลิกเมนู Slide ตามรูปท่ี 8.66 (A) และคลิก

เมนู Question Slide ตามรูปท่ี 8.66 (B) 8.12.1.3 วิธีท่ี 3 กดคียบอรด Shift+Ctrl+Q พรอมกัน

รูปท่ี 8.65 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

รูปท่ี 8.66 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

Page 228: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

221

8.12.2 การกําหนดคุณสมบัติขอสอบแบบประเมินการใหคะแนน (Rating Scale : Likert) 8.12.2.1 การระบุจํานวนขอท่ีตองการสราง

รูปท่ี 8.67 สไลดแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

8.12.2.2 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน (Rating Scale : Likert)

รูปท่ี 8.68 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

8.12.3 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.12.3.1 General

1) Answers กําหนดจํานวนขอท่ีตองการ 2) Rating Scale กําหนดระดับความพึงพอใจ 3) Numbering เลือกรูปแบบหัวขอของตัวเลือก เชน A), B), C) หรือ 1),

2), 3) เปนตน

รูปท่ี 8.69 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

Page 229: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

222

8.12.3.2 Options 1) Captions กําหนดการแสดงขอความ 2) Time Limit กําหนดเวลาในการตอบคําถาม 3) Buttons กําหนดปุมใหกับรูปแบบคําถาม

รูปท่ี 8.70 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

8.12.3.3 Action

1) After Survey กําหนดเหตุการณหลังจากท่ีทําแบบประเมินเสร็จเรียบรอย

รูปท่ี 8.71 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

8.12.3.4 Reporting

1) Report Answers กําหนดใหสงผลคะแนนเขาไปในระบบ LMS 2) Interaction ID กําหนดรหัสโตตอบใหกับสไลดคําถาม โดยโปรแกรม

จะกําหนดใหอัตโนมัติ

รูปท่ี 8.72 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน

Page 230: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

223

8.13 การสรางแบบทดสอบแบบสุม (Random Questions) โปรแกรม Adobe Captivate สามารถสรางแบบทดสอบแบบสุม (Random Question) ได

โดยการสุมจะทําผาน Question Pool Manager ซ่ึงสไลดคําถามจะไมแสดง Filmstrip แตจะอยูท่ีพาเนล Question Pool (Windows > Question Pool) โดยท่ี Filmstrip จะแสดงเปนหนา Random Question แลวเชื่อมโยงไปยัง Question Pool ท่ีกําหนดไว ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

8.13.1 วิธีการสรางแบบทดสอบแบบสุม 8.13.1.1 คลิกเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.73 (A) และ คลิกเมนู Question Pool

Manager ตามรูปท่ี 8.73 (B)

รูปท่ี 8.73 การสรางแบบทดสอบแบบแบบสุม

8.13.1.2 ปรากฏหนาตาง Question Pool Manager ใหทําการคลิกท่ีปุม Add เพ่ือเพ่ิมสไลดคําถาม ตามรูปท่ี 8.74

รูปท่ี 8.74 เพ่ิมสไลดคําถาม

Page 231: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

224

8.13.1.3 ปรากฏหนาตาง Insert Questions เพ่ือเลือกประเภทของคําถามและจํานวนสไลดท่ีตองการ หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 8.75

รูปท่ี 8.75 เพ่ิมสไลดคําถาม

8.13.1.4 คลิกท่ีพาเนล Filmstrip ตามรูปท่ี 8.76 (A) 8.13.1.5 คลิกท่ีเมนู Quiz ตามรูปท่ี 8.76 (B) และคลิกท่ีเมนู Random Question

Slide ตามรูปท่ี 8.76 (C)

รูปท่ี 8.76 การสุมสไลดคําถาม

Page 232: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

225

8.13.2 การกําหนดคุณสมบัติท่ีพาเนล Quiz Properties มีรายละเอียดดังนี้ 8.13.2.1 General

1) Type รูปแบบของคําถาม 2) Points กําหนดคะแนนใหกับสไลดคําถาม 3) Add Questions เพ่ิมสไลดคําถามใน Pool ท่ีเลือก 4) Question Pool เลือก Pool ท่ีตองการเชื่อมโยง

รูปท่ี 8.77 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม

8.13.2.2 Action 1) On Success กําหนดเหตุการณเม่ือผูใชทําแบบทดสอบถูก 2) Last Attempt กําหนดเหตุการณเม่ือทําแบบทดสอบผิดครบตามท่ี

กําหนด

รูปท่ี 8.78 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม

8.13.2.3 Reporting 1) Report Answers กําหนดใหรายงานผลคําตอบ

รูปท่ี 8.79 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม

Page 233: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

226

เอกสารอางอิง ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ มนตชัย เทียนทอง. (2545). การออกแบบและพัฒนาคอรสแวร สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอรชวย

สอน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. Adobe Captivate : การสรางแบบทดสอบ, สืบคนเม่ือ 16 กรกฎาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 8.1 ประเภทของแบบทดสอบในโปรแกรม Adobe Captivate 7, สืบคนเม่ือ 16 กรกฎาคม

2556, จาก (http://www.adobe.com) รูปท่ี 8.2 การเปดหนาตางการตั้งคาแบบทดสอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.3 การกําหนดคาแบบรายงาน (Reporting), จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.4 การตั้งคาแบบทดสอบ (Setting), จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.5 การกําหนดเกณฑการทดสอบ (Pass or Fail), จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.6 การกําหนดขอความบรรยายใหสไลดแบบทดสอบ (Default Labels), จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.7 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.8 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.9 สไลดแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.10 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.11 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.12 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.13 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.14 กําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.15 กําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.16 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.17 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.18 สไลดแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.19 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.20 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer)

Page 234: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

227

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 8.21 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.22 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.23 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.24 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.25 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.26 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.27 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.28 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.29 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.30 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.31 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.32 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.33 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.34 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.35 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.36 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.37 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.38 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.39 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.40 การสรางแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.41 การสรางแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.42 สไลดแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer)

Page 235: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

228

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 8.43 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.44 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.45 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.46 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.47 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.48 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.49 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.50 สไลดแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.51 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือ

จับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.52 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือ

จับผดิภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.53 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือ

จับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.54 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือ

จับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.55 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.56 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.57 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.58 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.59 สไลดแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.60 แสดงแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.61 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.62 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.63 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer)

Page 236: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

229

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 8.64 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.65 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.66 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.67 สไลดแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.68 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.69 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.70 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.71 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.72 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.73 การสรางแบบทดสอบแบบแบบสุม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.74 เพ่ิมสไลดคําถาม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.75 เพ่ิมสไลดคําถาม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.76 การสุมสไลดคําถาม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.77 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.78 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.79 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม, จาก (Local

Computer)

Page 237: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

230

Page 238: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 9 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป

ตอนท่ี 7 การแกไขตกแตงโปรเจ็ค

ในการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ หรือสื่อประกอบการเรียนการสอนตางๆ นั้น ตางประกอบดวยข้ันตอนตางๆ มากมาย ในบทท่ี 2 ไดกลาวถึงการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ ประกอบดวย 7 ข้ันตอน ไดแก

1. ข้ันการเตรียมการ (Preparation) 2. ข้ันตอนการออกแบบบทเรียน (Design Instruction) 3. ข้ันตอนการเขียนผังงาน (Flow-chart Lesson) 4. ข้ันตอนการสราง สตอรี่บอรด (Create Storyboard) 5. ข้ันตอนการสราง/เขียนโปรแกรม (Program Lesson) 6. ข้ันตอนการผลิตเอกสารประกอบบทเรียน (Design Instruction) 7. ข้ันตอนการประเมิน และแกไขบทเรียน (Evaluate and Revise) จะเห็นไดวา หนึ่งในกระบวนการท่ีสําคัญ คือ การแกไขบทเรียน ซ่ึงเปนข้ันตอนสุดทาย

ในการพัฒนาสื่อมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ ท้ังนี้การแกไขตกแตงโปรเจ็คสามารถทําระหวางการพัฒนาหรือหลังจากการพัฒนาและประเมินการใชแลวก็ได เพ่ือใหโปรเจ็คหรือชิ้นงานมีความสมบูรณเปนไปตามท่ีผูใชตองการ กอนท่ีจะสงออกโปรเจ็คและเผยแพรตอไป

9.1 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค

ผู ใชสามารถกําหนดรายละเอียดหรือขอมูลเ ก่ียวกับโปรเจ็คท่ีสรางข้ึนได ท่ี เมนูPreferences ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

9.1.1 คลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 9.1 (A) และคลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 9.1 (B)

รูปท่ี 9.1 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค

Page 239: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

232

9.1.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา ใหคลิกท่ีเมนู Information ตามรูปท่ี 9.2 (A) แลวทําการกรอกรายละเอียด ตามรูปท่ี 9.2 (B) จากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.2 (C) 9.1.2.1 Author ชื่อของผูสรางโปรเจ็ค 9.1.2.2 Company ชื่อบริษัทหรือองคกร 9.1.2.3 E-mail ท่ีอยูอีเมลท่ีสามารถติดตอได 9.1.2.4 Website ชื่อเว็บไซตของผูสรางโปรเจ็คหรือองคกร 9.1.2.5 Copyright รายละเอียดขอมูลลิขสิทธิ์ 9.1.2.6 Project Name ชื่อโปรเจ็ค 9.1.2.7 Description คําอธิบายรายละเอียดโดยยอของโปรเจ็ค

รูปท่ี 9.2 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค 9.2 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค

9.2.1 คลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 9.3 (A) และคลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 9.3 (B)

รูปท่ี 9.3 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค

Page 240: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

233

9.2.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา ใหคลิกท่ีเมนู SWF Size and Quality ตามรูปท่ี 9.4 (A) และทําการกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค ตามรูปท่ี 9.4 (B) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.4 (C)

รูปท่ี 9.4 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค

9.3 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค 9.3.1 คลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 9.5 (A) และคลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 9.5 (B)

รูปท่ี 9.5 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค

Page 241: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

234

9.3.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู Publish Setting ตามรูปท่ี 9.6 (A) และทํา

การกําหนดคา Publish ตามรูปท่ี 9.6 (B) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.6 (C) 9.3.2.1 Frames Per Second กําหนดจํานวนเฟรมตอวินาที โดยโปรแกรมจะ

กําหนดไวท่ี 30 เฟรมตอวินาที 9.3.2.2 Publish Adobe Connect Metadata สําหรับเผยแพรโปรเจ็คบน

เซิรฟเวอรของ Adobe ซ่ึงจะทําใหผูใชสามารถชมโปรเจ็คผานเซิรฟเวอรของ Adobe ได

9.3.2.3 Include Mouse สําหรับกําหนดตัวชี้เมาส 9.3.2.4 Enable Accessibility สําหรับเปดใชงานการอานออกเสียงแทนขอความ 9.3.2.5 Include Audio สําหรับสงออกเสียงท่ีนําเขามาใชในโปรเจ็ค 9.3.2.6 Publish Audio as Mono สงออกไฟลเสียงแบบโมโน 9.3.2.7 Play tab audio for recorded typing สําหรับแสดงเสียงกดคียบอรด 9.3.2.8 Externalize Resource สําหรับลดขนาดของไฟลลงเม่ือสงออกเปน .swf

โดยลดคุณภาพของวัตถุตางๆ ไดแก Skin, Widgets, FMR, SWF และ Animations

รูปท่ี 9.6 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค

Page 242: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

235

9.4 การกําหนดจุดเริ่มตนและส้ินสุดของโปรเจ็ค 9.4.1 คลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 9.7 (A) และคลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 9.7 (B)

รูปท่ี 9.7 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค

9.4.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู Start and End ตามรูปท่ี 9.8 (A) และทําการกําหนดคาตางๆ ตามรูปท่ี 9.8 (B) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.8 (C) 9.4.2.1 Auto Play เปนการกําหนดใหแสดงโปรเจ็คอัตโนมัติถาไมตองการให

โปรเจ็คแสดงอัตโนมัติใหยกเลิกโดยคลิกท่ีเครื่องหมายถูกออกหลังจากนั้นก็ไปเลือกรูปพักหนาจอท่ีตองการ

9.4.2.2 Preloader เปนการกําหนดลูกเลนขณะรอสไลดแรกของโปรเจ็คแสดง 9.4.2.3 Password Protect Project เปนการกําหนดรหัสผานใหกับโปรเจ็ค 9.4.2.4 Project Expiry Date เปนการกําหนดวันหมดอายุใหกับโปรเจ็ค 9.4.2.5 Fade on the first Slide เปนการกําหนดใหสไลดแรกคอยๆ ปรากฏข้ึน 9.4.2.6 Project End Option เปนการกําหนดเหตุการณเม่ือสิ้นสุดการแสดง

โปรเจ็ค 9.4.2.7 Fade Out the first Slide เปนการกําหนดใหคอยๆ เลือนหายไปจาก

สไลดสุดทาย

Page 243: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

236

รูปท่ี 9.8 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค 9.5 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ

9.5.1 คลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 9.9 (A) และคลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 9.9 (B)

รูปท่ี 9.9 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ

Page 244: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

237

9.5.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู Defaults ตามรูปท่ี 9.10 (A) และทําการกําหนดคาตางๆตามรูปท่ี 9.10 (B) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.10 (C) 9.5.2.1 Slide Duration การกําหนดระยะเวลาแสดงในทุกสไลดของโปรเจ็ค 9.5.2.2 Background Color การกําหนดสีพ้ืนหลังของสไลด 9.5.2.3 Preview Next การกําหนดจํานวนสไลดเม่ือแสดงสไลดแบบ Next Slide 9.5.2.4 Select การกําหนดรูปแบบพ้ืนฐานใหกับวัตถุตางๆ 9.5.2.5 Display For การกําหนดระยะเวลาแสดงวัตถุ 9.5.2.6 Autosize Buttons การกําหนดใหปรับขนาดปุมกดโดยอัตโนมัติ 9.5.2.7 Autosize Captions การกําหนดใหปรับขนาดของกลองขอความโดย

อัตโนมัติ 9.5.2.8 Calculate Caption Timing การกําหนดใหโปรแกรมคํานวณระยะเวลา

การแสดงของกลองขอความโดยอัตโนมัติ

รูปท่ี 9.10 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ

Page 245: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

238

9.6 การบันทึกคา Preferences ผูใชสามารถบันทึกคา Preferences ท่ีตั้งคาไวใหกับโปรเจ็คปจจุบัน เพ่ือนําไปใชกับ

โปรเจ็คอ่ืนในภายหลังได ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้ 9.6.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 9.11 (A) และคลิกท่ีเมนู Export ตามรูปท่ี 9.11 (B) และ

คลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 9.11 (C)

รูปท่ี 9.11 การบันทึกคา Preferences

9.6.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหทําการเลือกท่ีเก็บไฟล ตั้งชื่อไฟล Preference ตามรูปท่ี 9.12 (A) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 9.12 (B)

รูปท่ี 9.12 การบันทึกคา Preferences

Page 246: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

239

9.7 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน 9.7.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 9.13 (A) และคลิกท่ีเมนู Import ตามรูปท่ี 9.13 (B) และ

คลิกท่ีเมนู Preferences ตามรูปท่ี 9.13 (C)

รูปท่ี 9.13 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน

9.7.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา ใหทําการเลือกไฟลท่ีตองการ ตามรูปท่ี 9.14 (A) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม Open ตามรูปท่ี 9.14 (B)

รูปท่ี 9.14 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน

Page 247: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

240

9.7.3 ปรากฎหนาตางข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.15

รูปท่ี 9.15 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน 9.8 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)

การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template) มีวิธีสรางเหมือนกับการสรางโปรเจ็คแบบปกติ โดยแมแบบโปรเจ็คจะมีการออกแบบ แทรกวัตถุ ปรับแตงและจัดตําแหนงใหเปนไปตามท่ีตองการ ในท่ีนี้จะสรางแมแบบโปรเจ็คแบบ Slideshow ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

9.8.1 หลังจากเปดโปรแกรมข้ึนมาจะมีหนาตางใหคลิกเลือก Project Template

รูปท่ี 9.16 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)

9.8.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหกําหนดขนาดของโปรเจ็คตามท่ีเราตองการ ตามรูปท่ี 9.17 (A) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.17 (B)

รูปท่ี 9.17 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)

Page 248: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

241

9.8.3 แสดงสไลดท่ีใชสําหรับจัดวางวัตถุตางๆ

รูปท่ี 9.18 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)

9.8.4 คลิกเมนู Insert ตามรูปท่ี 9.19 (A) และคลิกท่ีเมนู Content Master Slide

รูปท่ี 9.19 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)

9.8.5 กําหนดชื่อและพ้ืนหลังใหกับ Content Master Slide ตามรูปท่ี 9.20

รูปท่ี 9.20 การกําหนดรายละเอียดสําหรับ Content Master Slide

Page 249: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

242

9.8.6 คลิกท่ีเมนู Insert ตามรูปท่ี 9.21 (A) และคลิกท่ีเมนู Placeholder Object ตามรูปท่ี 9.21 (B) และทําการเลือกวัตถุท่ีตองการใสลงในสไลดไดตามตองการ

รูปท่ี 9.21 การใสวัตถุลงในสไลด 9.9 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค

9.9.1 คลิกเมนู File ตามรูปท่ี 9.22 (A) และคลิกท่ีเมนู Save As ตามรูปท่ี 9.22 (B)

รูปท่ี 9.22 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค

9.9.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา ใหทําการตั้งชื่อไฟลแมแบบ ตามรูปท่ี 9.23 (A) แลวคลิกท่ีปุม Save ตามรูปท่ี 9.23 (B)

Page 250: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

243

รูปท่ี 9.23 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค 9.10 การนําแมแบบมาใชงาน

9.10.1 หลังจากเปดโปรแกรมใหคลิกเลือก From Template ตามรูปท่ี 9.24

รูปท่ี 9.24 การนําแมแบบมาใชงาน

9.10.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหทําการเลือกไฟลแมแบบท่ีไดบันทึกไว ตามรูปท่ี 9.25(A) และคลิกท่ีปุม Open ตามรูปท่ี 9.25 (B)

รูปท่ี 9.25 การนําแมแบบมาใชงาน

Page 251: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

244

9.10.3 แสดงสไลดแมแบบท่ีสรางข้ึน

รูปท่ี 9.26 แสดงสไลดแมแบบท่ีสรางข้ึน

9.11 การปรับแตง Skin (Playback Control) สกิน (Skin Playback Control) ในโปรแกรม Adobe Captivate 7 มีแมแบบท่ีกําหนด

ใหกับปุมควบคุมมากมาย และยังมีเครื่องมือสําหรับสรางและตกแตง Skin ไดตามตองการอีกดวย ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

9.11.1 คลิกเมนู Project ตามรูปท่ี 9.27 (A) และคลิกเมนู Skin Editor ตามรูปท่ี 9.27 (B)

รูปท่ี 9.27 การปรับแตง Skin (Playback Control)

Page 252: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

245

9.11.2 กําหนดคาใหกับการควบคุมการเลน (Playback Control) 9.11.2.1 ปรากฎหนาตางการกําหนดคาใหกับการควบคุมการเลน (Playback

Control) โดยคลิกเลือกตามรูปท่ี 9.28 (A) และทําการกําหนดคาตางๆใหกับ Playback Control ตามรูปท่ี 9.28 (B)

9.11.2.2 Show Playback Control การกําหนดใหแสดงหรือซอนแถบ Playback Control

9.11.2.3 Hide Playbar in Quiz การกําหนดใหซอนแถบ Playbar เม่ือเขาสูแบบทดสอบ

9.11.2.4 Playbar Overlay การกําหนดให Playbar อยูในกรอบของสไลด 9.11.2.5 Playbar การเลือกรูปแบบของ Playbar ท่ีตองการ 9.11.2.6 Playbar Two Rows การกําหนดใหมี Playbar 2 แถว 9.11.2.7 PlaybarColors การปรับสีใหกับแถบ Playbar 9.11.2.8 Position การกําหนดตําแหนงของ Playbar ท่ีตองการ 9.11.2.9 Layout การกําหนดการจัดวางของ Playbar 9.11.2.10 Play การกําหนดปุมเลนหรือหยุดชั่วคราว 9.11.2.11 Rewind การกําหนดปุมเริ่มแสดงโปรเจ็คใหม 9.11.2.12 Forward การกําหนดปุมแสดงสไลดถัดไป

รูปท่ี 9.28 การกําหนดคาใหกับการควบคุมการเลน (Playback Control)

9.11.2.13 Back การกําหนดปุมแสดงสไลดกอนหนา 9.11.2.14 Close การกําหนดปุมปดโปรเจ็ค 9.11.2.15 Mute การกําหนดปุมเปด/ปดเสียง 9.11.2.16 Fast Forward การกําหนดปุมเรงความเร็วในการแสดงโปรเจ็ค

Page 253: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

246

9.11.2.17 Progress Bar การกําหนดแถบความคืบหนาของการแสดงโปรเจ็ค 9.11.2.18 Closed Captioning กําหนดปุมแสดงหรือซอนบทบรรยาย 9.11.2.19 Alpha การกําหนดความโปรงใสของแถบ Playbar 9.11.2.20 No Tooltips at runtime การยกเลิกการแสดงขอความเม่ือนําเมาสไปชี้ท่ี

ปุมตางๆ ท่ี Playbar

9.11.3 กําหนดคาใหกับเสนขอบ (Borders) 9.11.3.1 ปรากฎหนาตางการกําหนดคาใหกับเสนขอบ (Borders) โดยคลิกเลือก

ตามรูปท่ี 9.29 (A) และทําการกําหนดคาใหกับเสนขอบ (Borders) ตามรูปท่ี 9.29 (B)

9.11.3.2 Show Borders แสดงกรอบหรือเสนขอบ 9.11.3.3 Style รูปแบบของ Borders มี 2 แบบ

1) Square Wedgeมุมเหลี่ยม 2) Rounded Corners มุมโคงมน

9.11.3.4 Width ความกวางของเสนขอบ 9.11.3.5 Textureพ้ืนผิวใหกับแถบ Playbar 9.11.3.6 Color สีของเสนขอบ 9.11.3.7 HTML Background สีพ้ืนหลังใหกับแถบ Playbar ซ่ึงสีพ้ืนหลังจะปรากฏ

ข้ึนมากอนไฟลวีดีโอจะโหลดข้ึนมาเม่ือเปดในบราวเซอร

รูปท่ี 9.29 กําหนดคาใหกับเสนขอบ (Borders) 9.12 การสรางตารางสารบัญ (TCC : Table Of Contents)

ตารางสารบัญ (Table Of Contents) จะชวยใหผูใชสามารถเลือกดูเฉพาะเนื้อหาหรือไปยังเนื้อหาท่ีตองการไดอยางรวดเร็ว ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

9.12.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 9.30 (A) และคลิกเมนู Table of Contents ตามรูปท่ี 9.30 (B)

Page 254: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

247

รูปท่ี 9.30 การสรางตารางสารบัญ (TCC : Table Of Contents)

9.12.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา คลิกปุม Table of Contentsตามรูปท่ี 9.31 (A) และเลือกท่ีชอง Show TOC ตามรูปท่ี 9.31 (B) แลวทําการติ๊กเลือกสไลดท่ีตองการนําไปแสดงในตารางสารบัญ ตามรูปท่ี 9.31 (C)

รูปท่ี 9.31 เลือกสไลดท่ีตองการนําไปแสดงในตารางสารบัญ

9.13 การกําหนดหัวขอหลักและหัวขอยอย

รูปท่ี 9.32 การกําหนดหัวขอหลักและหัวขอยอย

Page 255: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

248

สําหรับโปรเจ็คท่ีมีสไลดจํานวนมาก การสรางตารางสารบัญนั้นจะตองสรางหัวขอหลักข้ึนมากอน แลวลากสไลดท่ีเปนหัวขอยอยเขาไปรวมไวในหัวขอหลักท่ีสรางข้ึน ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

9.13.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 9.32 (A) และคลิกเมนู Table of Contents ตามรูปท่ี

9.32 (B)

9.13.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา คลิกปุม Table of Contentsตามรูปท่ี 9.33 (A) และกําหนดลําดับหัวขอหลักและหัวขอยอยตามรูปท่ี 9.33 (B) แลวทําการกําหนดชื่อ ตามรูปท่ี 9.33 (C) 9.13.2.1 Folder สรางหัวขอหลัก 9.13.2.2 Reset TOC คาตารางสารบัญใหกลับคืนสูคาเดิม 9.13.2.3 Move TOC Entry Right กําหนดใหสไลดเปนหัวขอยอย โดยสไลดจะเยื้อง

ไปทางขวา 9.13.2.4 Move TOC Entry Left กําหนดใหสไลดกลับมาเปนหัวขอหลัก โดยสไลด

จะเยื้องกลับมาทางซาย 9.13.2.5 Move TOC Entry Up สลับตําแหนงสไลดบนตารางสารบัญไปดานบน 9.13.2.6 Move TOC Entry Down สลับตําแหนงสไลดบนตารางสารบัญไปดานลาง 9.13.2.7 Delete TOC Entry ลบโฟลเดอร (Topic Name) ท่ีสรางข้ึนออกจาก

ตารางสารบัญ

รูปท่ี 9.33 กําหนดลําดับหัวขอหลักและหัวขอยอย

Page 256: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

249

9.14 การปรับแตงตารางสารบัญ 9.14.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 9.34 (A) และคลิกเมนู Table of Contents ตามรูปท่ี

9.34 (B)

รูปท่ี 9.34 การปรับแตงตารางสารบัญ

9.14.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา คลิกปุม Table of Contentsตามรูปท่ี 9.35 (A) และคลิกปุม Setting ตามรูปท่ี 9.35 (B)

รูปท่ี 9.35 การปรับแตงตารางสารบัญ

9.14.3 จากจะมีหนาตางแสดงข้ึนมา เราสามารถปรับแตงตารางสารบัญไดตามตองการ ตามรูปท่ี 9.36 (A) จากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.36 (B) 9.14.3.1 Style การกําหนดรูปแบบการแสดงสารบัญตาราง มี 2 แบบ

Page 257: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

250

1) Overlay ตารางสารบัญท่ีซอนหรือแสดงได 2) Separate ตารางสารบัญท่ีแสดงอยูตลอดเวลา โดยแยกออกไปจาก

สวนของสไลด 9.14.3.2 Position การกําหนดตําแหนงใหกับตารางสารบัญ มี 2 แบบ

1) Left จัดตําแหนงไวทางดานซายของสไลด 2) Rightจัดตําแหนงไวทางดานขวาของสไลด

9.14.3.3 Color การกําหนดสีใหกับสวนตางๆ ของตารางสารบัญ 9.14.3.4 Stretch TOC การกําหนดใหตารางสารบัญขนาดเต็มพ้ืนท่ีท่ีกําหนดไว 9.14.3.5 Alpha การกําหนดความโปรงใสใหกับตารางสารบัญ 9.14.3.6 Runtime Option

1) Collapse all กําหนดใหซอนหัวขอยอยในหัวขอหลัก 2) Self-Paced Learning กําหนดใหเลนโปรเจ็คตอจากเดิมเม่ือปด

โปรเจ็คท่ีแสดงอยู 3) Show Topic Duration แสดงระยะเวลาของสไลด 4) Enable Navigation กําหนดใหอนุญาตหรือไมอนุญาตใหขามไปยัง

สไลดท่ียังแสดงไมถึง 5) Navigate Visited Slides only กําหนดใหไมสามารถขามไปยังสไลด

ท่ียังแสดงไมถึง 6) Show Search แสดงแถบเครื่องมือคนหา 7) Status Flag แสดงสถานะแสดงเครื่องหมายถูกใหกับสไลดท่ีแสดง

แลว และยังสามารถเพ่ิมปุม Clear สําหรับลางสถานะท้ังหมดได 8) Show Movie Duration แสดงระยะเวลาท้ังหมดของโปรเจ็ค

9.14.3.7 Width กําหนดความกวางของตารางสารบัญ 9.14.3.8 Theme

1) Background สีพ้ืนหลังของแถบตารางสารบัญ 2) Heading สีของหัวตารางสารบัญและสีของเสนตารางสารบัญ 3) TOC Outline สีของเสนขอบนอกของตารางสารบัญ 4) Active Entry สีพ้ืนหลังท่ีแสดงสถานะสไลดท่ีกําลังแสดงอยู 5) Default Entry สีพ้ืนหลังหนาเมนูของตารางสารบัญ 6) Rollover Entry สีพ้ืนหลังท่ีปรากฏเม่ือนําเมาสไปชี้ท่ีหัวขอสไลด และ

คลิกเครื่องหมายถูกท่ี Gradient เพ่ือกําหนดใหมีการไลสี 7) Title สีพ้ืนหลังในสวนของ information

9.14.3.9 Font Setting เลือกระดับการเยื้องขวา 9.14.3.10 Font กําหนดรูปแบบตัวอักษร 9.14.3.11 Size กําหนดขนาดของตัวอักษร 9.14.3.12 Color กําหนดสีของตัวอักษร

Page 258: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

251

9.14.3.13 Text Rollover Color กําหนดสีของขอความเม่ือนําเมาสไปชี้ท่ีหัวขอสไลด 9.14.3.14 Heading text กําหนดสีของขอความในสวนหัวของตารางสารบัญ

รูปท่ี 9.36 การปรับแตงตารางสารบัญ 9.15 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ

รูปท่ี 9.37 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ

Page 259: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

252

9.15.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 9.37 (A) และคลิกเมนู Table of Contents 9.15.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมา คลิกปุม Table of Contents ตามรูปท่ี 9.38 (A) และ

คลิกปุม Info ตามรูปท่ี 9.38 (B)

รูปท่ี 9.38 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ

9.15.3 จากจะมีหนาตางแสดงข้ึนมา เราสามารถกําหนดขอมูลและรายละเอียดท่ีตองการ ตามรูปท่ี 9.39 (A) จากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.39 (B)

รูปท่ี 9.39 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ

Page 260: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

253

9.15.4 แสดงรายละเอียดท่ีไดกําหนดไปเม่ือสักครูนี้

รูปท่ี 9.40 แสดงรายละเอียดท่ีไดกําหนด

9.16 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project) โปรเจ็คท่ีมีสไลดจํานวนมากจะทําใหคอมพิวเตอรประมวลผลชา การแบงแยกเปน

หลายๆ ไฟลจึงชวยใหคอมพิวเตอรประมวลผลไดเร็วยิ่งข้ึน พรอมท้ังสามารถจัดการกับเนื้อหาในสวนตางๆ ไดงายและสะดวกยิ่งข้ึน

สําหรับโปรเจ็คท่ีมีเนื้อหาจํานวนมากนั้นเราสามารถแยกสรางเนื้อหาออกเปนหลายๆ สวนหรือหลายๆไฟลได แลวสงออกไฟลในรูปแบบ .swf จากนั้นจึงคอยนําไฟล .swf เหลานั้นมารวมเปนโปรเจ็คเดียวกัน และสามารถสงออกไฟลไดในรูปแบบ .swf, PDF, Win Executable และ Mac Executable ได ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

9.17 ข้ันตอนการรวบรวมโปรเจ็ค

9.17.1 หลังจากเปดโปรแกรมใหคลิกเลือก Aggregator Project ตามรูปท่ี 9.41

รูปท่ี 9.41 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project)

Page 261: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

254

9.17.2 จะมีหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม Add Module ตามรูปท่ี 9.42

รูปท่ี 9.42 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project)

9.17.3 ปรากฎมีหนาตางแสดงข้ึนมาใหทําการเลือกไฟลท่ีตองการ ตามรูปท่ี9.43 (A) และคลิกท่ีปุม Open ตามรูปท่ี 9.43 (B)

รูปท่ี 9.43 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project)

9.17.4 ทําการกําหนดรายละเอียดตางๆ ตามตองการ ตามรูปท่ี 9.44 9.17.4.1 Add Module เพ่ิมไฟล .swf เขามาใน Module Title 9.17.4.2 Move Up สลับตําแหนงไฟลไปดานบน 9.17.4.3 Move Down สลับตําแหนงไปดานลาง 9.17.4.4 Delete ลบไฟลท่ีไมตองการ

Page 262: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

255

รูปท่ี 9.44 การกําหนดรายละเอียดตางๆ

9.17.5 คลิกปุม Save Aggregator Project As ตามรูปท่ี 9.45 เพ่ือบันทึกโปรเจ็คท่ีรวบรวม

รูปท่ี 9.45 การกําหนดรายละเอียดตางๆ

9.17.6 ปรากฎมีหนาตางแสดงข้ึนมาใหตั้งชื่อโปรเจ็ค ตามรูปท่ี 9.46 (A) และคลิกปุม Save ตามรูปท่ี 9.46 (B)

รูปท่ี 9.46 การบันทึกไฟลโปรเจ็ค

Page 263: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

256

9.18 ข้ันตอนการสงออกไฟล 9.18.1 คลิกท่ีปุม Publish Settings ตามรูปท่ี 9.47 เพ่ือกําหนดคากอนสงออกไฟล

รูปท่ี 9.47 การสงออกไฟลโปรเจ็ค

9.18.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหกําหนดคาตางๆ ตามรูปท่ี 9.48 (A) หลังจากนั้นคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 9.48 (B) 9.18.2.1 Right-click กําหนดใหปดใชงานการคลิกขวาเม่ือเปดไฟลในบราวเซอร 9.18.2.2 Accessibility กําหนดใหเปดใชงานการคลิกขวาตามปกติ 9.18.2.3 Hide Table of Contents กําหนดใหซอนตารางสารบัญ

รูปท่ี 9.48 การสงออกไฟลโปรเจ็ค

9.18.2.4 คลิก Publish Aggregator Project ตามรูปท่ี 9.49

รูปท่ี 9.49 การสงออกไฟลโปรเจ็ค

9.18.3 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหกําหนดคาการสงออกไฟล ตามรูปท่ี 9.50 (A) และคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 9.50 (B) 9.18.3.1 Format ใหเลือกประเภทของไฟลท่ีสงออก

1) SWF สงออกเปนไฟลรูปแบบ .swf

Page 264: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

257

2) Win Executable สงออกเปนไฟลรูปแบบ .exe ใชกับระบบปฏิบัติการ Windows สามารถเปดไดโดยไมตองลงโปรแกรม Adobe Captivate 6 และ Adobe Flash Player

3) Mac Executable สงออกเปนไฟลรูปแบบ .app ใชกับระบบปฏิบัติการ Macintosh สามารถเปดไดโดยไมตองลงโปรแกรม Adobe Captivate 6 และ Adobe Flash Player

9.18.3.2 Title กําหนดชื่อไฟล 9.18.3.3 Folder กําหนดท่ีอยูสําหรับสงออกไฟล 9.18.3.4 Publish Option กําหนดรูปแบบไฟลท่ีสงออก

1) Export To HTML สงออกเปนไฟลรูปแบบ .swfเพ่ือนําไปใชกับเว็บไซต

2) Export PDF สงออกเปนไฟลรูปแบบ .pdf 3) ZIP File สงออกไฟลใหอยูในรูปแบบท่ีถูกบีบอัดไว 4) Full Screen กําหนดใหแสดงผลโปรเจ็คเต็มจอภาพ

9.18.3.5 Custom Icon กําหนดรูปภาพ .ico มาเปนไอคอนไฟลท่ีสงออกในรูปแบบ Win Executable โดยคลิก Browse แลวเลือกไฟลรูปภาพท่ีตองการ

รูปท่ี 9.50 การกําหนดคาการสงออกไฟล

9.18.3.6 ปรากฎหนาตางข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม Yes ตามรูปท่ี 9.51

รูปท่ี 9.51 การสงออกไฟลโปรเจ็ค

Page 265: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

258

9.18.3.7 แสดงโปรเจ็คท่ีไดรวมท้ังหมด

รูปท่ี 9.52 แสดงโปรเจ็คท่ีไดรวมท้ังหมด

Page 266: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

259

เอกสารอางอิง ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ มนตชัย เทียนทอง. (2545). การออกแบบและพัฒนาคอรสแวร สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอรชวย

สอน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. Adobe Captivate : การแกไขตกแตงโปรเจ็ค, สืบคนเม่ือ 6 ตุลาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 9.1 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.2 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.3 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.4 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.5 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.6 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.7 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.8 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.9 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.10 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.11 การบันทึกคา Preferences, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.12 การบันทึกคา Preferences, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.13 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.14 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.15 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.16 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.17 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.18 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.19 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.20 การกําหนดรายละเอียดสําหรับ Content Master Slide, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.21 การใสวัตถุลงในสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.22 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.23 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.24 การนําแมแบบมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.25 การนําแมแบบมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.26 แสดงสไลดแมแบบท่ีสรางข้ึน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.27 การปรับแตง Skin (Playback Control), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.28 การกําหนดคาใหกับการควบคุมการเลน (Playback Control), จาก (Local Computer)

Page 267: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

260

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 9.29 กําหนดคาใหกับเสนขอบ (Borders), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.30 การสรางตารางสารบัญ (TCC : Table Of Contents), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.31 เลือกสไลดท่ีตองการนําไปแสดงในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.32 การกําหนดหัวขอหลักและหัวขอยอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.33 กําหนดลําดับหัวขอหลักและหัวขอยอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.34 การปรับแตงตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.35 การปรับแตงตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.36 การปรับแตงตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.37 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.38 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.39 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.40 แสดงรายละเอียดท่ีไดกําหนด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.41 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.42 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.43 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.44 การกําหนดรายละเอียดตางๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.45 การกําหนดรายละเอียดตางๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.46 การบันทึกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.47 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.48 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.49 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.50 การกําหนดคาการสงออกไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.51 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.52 แสดงโปรเจ็คท่ีไดรวมท้ังหมด, จาก (Local Computer)

Page 268: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บทท่ี 10 การพัฒนาสื่อมัลติมเีดยีแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป

ตอนท่ี 8 การสงออกและการแกไขโปรเจ็ค

เม่ือสรางชิ้นงานหรือโปรเจ็คจนเสร็จสมบูรณแลว ข้ันตอนสุดทายคือการสงออกชิ้นงานในรูปแบบตางๆ เพ่ือนําไปเผยแพรตอไดในหลายชองทาง ซ่ึงในโปรแกรม Adobe Captivate 7 ผูใชสามารถสงออกไฟล (Publish) ไดหลากหลายรูปแบบ เชน ไฟลนามสกุล SWF สําหรับโปรแกรม Adobe Flash Player, ไฟลนามสกุล EXE หรือ Executable สําหรับโปรแกรมบนวินโดน, ไฟลนามสกุล MP4 หรือ Mpeg4 ซ่ึงเปนมาตรฐานในการยอขนาดไฟล เสียงและภาพยนตร ท่ี มีความสามารถสูง โดยสามารถยอไฟลภาพยนตรใหมีขนาดเล็กแตใหคุณภาพในระดับท่ีเกือบเทียบเทาดีวีดี หรือจะสงออกแบบปริ้นสไลดก็ไดเชนกัน และท่ีสําคัญโปรแกรมยังรองรับการสงออกไฟลในรูปแบบ HTML5 สําหรับเปดในอุปกรณ iOS, Android และระบบปฏิบัติการอ่ืนๆ อีกดวย 10.1 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล SWF และ HTML5

ไฟล SWF เปนไฟลท่ีมีขนาดเล็ก จึงนิยมนําไปใชงานบนเว็บไซต เนื่องจากสามารถแสดงผลบนหนาเว็บเพจไดรวดเร็วกวาไฟลในรูปแบบอ่ืนๆ แตจะแสดงผลไดในเฉพาะเครื่องท่ีติดตั้งโปรแกรม Adobe Flash Player เทานั้น โดยปกติเม่ือสงออกเปนไฟล SWF โปรแกรมจะสรางใหอยูในรปูแบบของ HTML โดยอัตโนมัติเพ่ือสะดวกตอการนําไปใชงานบนเว็บไซต ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

10.1.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 10.1 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Publish ตามรูปท่ี 10.1 (B)

รูปท่ี 10.1 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล SWF และ HTML5

Page 269: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

262

10.1.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู SWF/HTML5 ตามรูปท่ี 10.2 (A) และกําหนดคาตางๆในการสงออกไฟล ตามรูปท่ี 10.2 (B) จากนั้นจึงคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 10.2 (C) 10.1.2.1 Project Title กําหนดชื่อใหไฟลท่ีสงออก 10.1.2.2 Folder กําหนดท่ีจัดเก็บไฟลท่ีสงออกโดยคลิกปุม Browse 10.1.2.3 Publish to Folder สรางโฟลเดอรสําหรับเก็บไฟลโดยอัตโนมัติ 10.1.2.4 SWF สงออกไฟลในรูปแบบ .swf 10.1.2.5 HTML5 กําหนดไฟลท่ีสงออกเปน .html แตตองใชกับ Internet Explorer

9 หรือ Google Chrome 17 ข้ึนไป 10.1.2.6 Zip Files สงออกไฟลในรูปแบบท่ีถูกบีบอัดไว 10.1.2.7 Export PDF สงออกไฟลในรูปแบบ PDF 10.1.2.8 Full Screen กําหนดใหแสดงผลโปรเจ็คเต็มจอภาพ 10.1.2.9 Generate Autorun For CD กําหนดใหแสดงผลโปรเจ็คอัตโนมัติเม่ือใช

งานจากแผน CD โดยตองบันทึกไฟลAutorunลงในแผน CD ดวย 10.1.2.10 Flash Player Version กําหนดเวอรชั่นของ Flash Player สําหรับไฟลท่ี

สงออก 10.1.2.11 Force re-publish all the slide กําหนดใหมีการตรวจสอบแลวสงออก

ไฟล 10.1.2.12 Scalable HTML Content กําหนดใหไฟลท่ีสงออกยอ/ขยายตามขนาด

ของบราวเซอร

รูปท่ี 10.2 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ SWF

Page 270: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

263

10.1.3 ปรากฎหนาตางแจงการ Publish ไฟล ใหคลิกท่ีปุม Yes ตามรูปท่ี 10.3 (A) ถาตองการดูผลการ Publish แตถาไมตองการใหคลิกท่ีปุม No ตามรูปท่ี 10.3 (B)

รูปท่ี 10.3 หนาตางแจงการ Publish ไฟล

10.1.4 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish

รูปท่ี 10.4 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish

10.1.5 ถาตองการ Publish ไฟลในรูปแบบ HTML5 ใหคลิกเครื่องหมายถูกท่ีชอง HTML5 ตามรูปท่ี 10.5 (A) และคลิกเครื่องหมายถูกท่ีชอง Scalable HTML content ตามรูปท่ี 10.5 (B) หลังจากนั้นจึงคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 10.5 (C)

รูปท่ี 10.5 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ HTML5

Page 271: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

264

10.2 การตรวจสอบการสงออกไฟลแบบ HTML5 แมวาโปรแกรม Adobe Captivate 7 จะสามารถสงออกไฟลในรูปแบบ HTML5 ไดแต

ก็มีวัตถุบางประเภทท่ีไมรองรับการทํางานแบบ HTML5 แมจะ Publish ไฟลเปน HTML5 ไดตามปกติ แตวัตถุเหลานั่นจะไมสามารถปฏิสัมพันธกับผูใชไดเลย ดังนั้นกอนท่ีจะสงออกชิ้นงานเปนไฟล HTML5 ควรตรวจสอบวามีวัตถุประเภทใด ใชคําสั่งอะไร และอยูในสไลดใดบางท่ีไมรองรับการทํางานแบบ HTML5 ซ่ึงมีวิธีดังนี้

10.2.1 คลิกท่ีเมนู Project ตามรูปท่ี 10.6 (A) และคลิกท่ีเมนู HTML5 Tracker

รูปท่ี 10.6 การตรวจสอบการสงออกไฟลแบบ HTML5

10.2.2 ปรากฎหนาตาง HTML5 Tracker ข้ึนมา โดยโปรแกรมจะแจงวามีวัตถุใดบางท่ีไมรองรับการทํางานแบบ HTML5 ซ่ึงในท่ีนี้ไมมีวัตถุท่ีไมรองรับ ถาพบวามีวัตถุท่ีไมรองรับการทํางานแบบ HTML5 ก็ใหสงออกไฟลเปน SWF หรือ EXE เนื่องจากวัตถุทุกชนิดสามารถได แตถาตองการสงออกเปนไฟล HTML5 ใหลบวัตถุนั้นออกแลวเปลี่ยนรูปแบบการนําเสนอท่ีไมตองใชวัตถุนั้น

รูปท่ี 10.7 แสดงหนาตาง HTML5 Tracker

Page 272: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

265

10.3 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Executable หรือ .exe ใชกับระบบปฏิบัติการ

Windows สามารถเปดไดโดยไมตองลงโปรแกรมใดๆท้ังสิ้น ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

10.3.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 10.8 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Publish ตามรูปท่ี 10.8 (B)

รูปท่ี 10.8 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable

10.3.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู Media ตามรูปท่ี 10.9 (A) และกําหนดคา Media Options ตามรูปท่ี 10.9 (B) จากนั้นจึงคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 10.9 (C) 10.3.2.1 Select Type กําหนดรูปแบบไฟลท่ีสงออก 10.3.2.2 Project Title กําหนดชื่อใหกับไฟลท่ีสงออก 10.3.2.3 Folder กําหนดท่ีจัดเก็บไฟลท่ีสงออก โดยคลิก Browse 10.3.2.4 Custom Icon กําหนดภาพไอคอลสําหรับไฟลท่ีสงออก โดยไฟลภาพตอง

อยูในรูปแบบ .icoเทานั้น 10.3.2.5 Zip Files สงออกไฟลใหอยูในรูปแบบท่ีถูกบีบอัดไว 10.3.2.6 Export PDF สงออกไฟลใหอยูในรูปแบบ PDF 10.3.2.7 Full Screen กําหนดใหแสดงผลโปรเจ็คเต็มจอภาพ 10.3.2.8 Generate Autorun For CD กําหนดใหแสดงผลโปรเจ็คอัตโนมัติเม่ือใช

งานจากแผน CD โดยตองบันทึกไฟล Autorunลงในแผน CD ดวย 10.3.2.9 Flash Player Version กําหนดเวอรชั่นของ Flash Player สําหรับไฟลท่ี

สงออก 10.3.2.10 Force re-publish all the slide กําหนดใหมีการตรวจสอบแลวสงออก

ไฟล

Page 273: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

266

10.3.2.11 Scalable HTML Content กําหนดใหไฟลท่ีสงออกยอขยายตามขนานของบราวเซอร

รูปท่ี 10.9 การกําหนดคา Media Options

10.3.3 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม No ตามรูปท่ี 10.10

รูปท่ี 10.10 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable

10.3.4 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish

รูปท่ี 10.11 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish

Page 274: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

267

10.4 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล .mp4 ไฟลท่ีไดจะตองเปดดวยโปรแกรมมัลติมีเดีย

ตางๆ ท่ีรองรับไฟลรูปแบบ .mp4 แตจะอยูในรูปแบบงานนําเสนอเทานั้น เนื่องจากวัตถุท่ีสามารถปฏิสัมพันธไดจะไมสามารถแสดงผลตามท่ีตองการได ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

10.4.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 10.12 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Publish ตามรูปท่ี 10.12 (B)

รูปท่ี 10.12 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4

10.4.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู Media ตามรูปท่ี 10.13 (A) และกําหนดคาในชอง Select Type ใหกําหนดเปน MP4 Video(*.mp4) ตามรูปท่ี 10.13 (B) และกําหนดรายคา Media Option ตามรูปท่ี 10.13 (C) จากนั้นจึงคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 10.13 (D) 10.4.2.1 Project Title กําหนดชื่อใหกับไฟลท่ีสงออก 10.4.2.2 Folder กําหนดท่ีจัดเก็บไฟลท่ีสงออก โดยคลิก Browse 10.4.2.3 Select Presets กําหนดรูปแบบการสงออกของไฟลวีดีโอ 10.4.2.4 Copy preset values and Customize กําหนดรูปแบบการสงออกของ

ไฟลวีดีโอแบบกําหนดคาตางๆ 10.4.2.5 Profile กําหนดความละเอียดของไฟลวีดีโอท่ีสงออก 10.4.2.6 Level กําหนดคุณภาพของไฟลวีดีโอท่ีสงออก 10.4.2.7 Bitrate Encoding กําหนดรูปแบบการเขารหัสของไฟลวีดีโอท่ีสงออก 10.4.2.8 Target Bitrate อัตราบิตเรตของไฟลวีดีโอท่ีสงออก 10.4.2.9 Max Bitrate อัตราบิตเรตสูงสุดของไฟลวีดีโอท่ีสงออก 10.4.2.10 Force re-publish all the slide กําหนดใหมีการตรวจสอบแลวสงออก

ไฟล 10.4.2.11 Scalable HTML Content กําหนดใหไฟลท่ีสงออก

Page 275: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

268

รูปท่ี 10.13 การกําหนดคา Media Option

10.4.3 คลิกท่ีปุมกากบาท ตามรูปท่ี 10.14 เพ่ือเสร็จสิ้นการ Publish

รูปท่ี 10.14 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4

10.4.4 แสดงไฟลท่ีไดจากการ Publish

รูปท่ี 10.15 ไฟลท่ีไดจากการ Publish

Page 276: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

269

10.5 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล (E-Mail) 10.5.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 10.16 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Publish ตามรูปท่ี 10.16 (B)

รูปท่ี 10.16 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล

10.5.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู E-Mail ตามรูปท่ี 10.17 (A) และกําหนดคาตางๆท่ี E-Mail Optionsตามรูปท่ี 10.17 (B) จากนั้นจึงคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 10.17 (C) 10.5.2.1 Project Title กําหนดชื่อใหกับไฟลท่ีสงออก 10.5.2.2 File Type กําหนดรูปแบบไฟลท่ีตองการสงออก 10.5.2.3 Zip File สงออกไฟลใหอยูในรูปแบบท่ีถูกบีบอัดไว 10.5.2.4 Full Screen กําหนดใหแสดงผลโปรเจ็คเต็มจอ 10.5.2.5 Flash Player Version กําหนดเวอรชั่นของ Flash Player สําหรับไฟลท่ี

สงออก

รูปท่ี 10.17 การกําหนดคาตางๆท่ี E-Mail Options

Page 277: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

270

10.5.3 จากนั้นโปรแกรม Outlook จะเปดข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม ถัดไป ตามรูปท่ี 10.18

รูปท่ี 10.18 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล

10.5.4 คลิกท่ีปุม ใช ตามรูปท่ี 10.19 (A) และคลิกท่ีปุม ถัดไป ตามรูปท่ี 10.19 (B)

รูปท่ี 10.19 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล

Page 278: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

271

10.5.5 คลิกเครื่องหมายถูกท่ีชอง กําหนดการตั้งคาเซิรฟเวอรหรือกําหนดชนิดเซิรฟเวอรเพ่ิมเติมดวยตนเอง ตามรูปท่ี 10.20 (A) และคลิกท่ีปุม ถัดไป ตามรูปท่ี 10.20 (B)

รูปท่ี 10.20 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล

10.5.6 คลิกท่ีปุม อินเทอรเน็ตอีเมล ตามรูปท่ี 10.21 (A) และคลิกท่ีปุม ถัดไป ตามรูปท่ี 10.21 (B)

รูปท่ี 10.21 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล

Page 279: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

272

10.5.7 กําหนดรายละเอียดของอีเมล ตามรูปท่ี 10.22 (A) และคลิกท่ีปุม ถัดไป ตามรูปท่ี 10.22 (B)

รูปท่ี 10.22 การกําหนดรายละเอียดของอีเมล

10.5.8 คลิกท่ีปุม เสร็จสิ้น ตามรูปท่ี 10.23

รูปท่ี 10.23 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คผานอีเมลเรียบรอย

Page 280: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

273

10.5.9 จากนั้นโปรแกรม Outlook จะเปดข้ึนมาใหทําการกรอกรายละเอียดของการสงอีเมล ตามรูปท่ี 10.24 (A) และคลิกท่ีปุม สง ตามรูปท่ี 10.24 (B) เพ่ือทําการสงไฟลโปรเจ็คผานทางอีเมล

รูปท่ี 10.24 กรอกรายละเอียดของการสงอีเมล 10.6 การสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP

โปรแกรม Adobe Captivate 7 สามารถอัพโหลดไฟลโปรเจ็คไปยังเซิรฟได เพ่ือเผยแพรผานเว็บไซตโดยผาน FTP (File Transfer Protocol) ซ่ึงมีข้ันตอนดังนี้

10.6.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 10.25 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Publish ตามรูปท่ี 10.25 (B)

รูปท่ี 10.25 การสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP

10.6.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู FTP ตามรูปท่ี 10.26 (A) และกําหนดคาตางๆท่ี FTP Optionsตามรูปท่ี 10.26 (B) จากนั้นจึงคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 10.26 (C) 10.6.2.1 Project Title กําหนดชื่อใหกับไฟลท่ีสงออก

Page 281: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

274

10.6.2.2 Server กําหนดรายละเอียดของเซิรฟเวอร โดยคลิกท่ี Add/Edit FTP Server

10.6.2.3 Directory กําหนดท่ีอยูของโฟลเดอรในเซิรฟเวอร 10.6.2.4 User name กําหนดชื่อผูใช FTP ลงไป 10.6.2.5 Password ใสรหัสผานของ FTP ลงไป 10.6.2.6 Port กําหนดพอรตเชื่อมตอกับโฮสต โดยโปรแกรมจะกําหนดใหอัตโนมัติ

โดยสวนมากจะเปน 21 10.6.2.7 File Type กําหนดรูปแบบไฟลท่ีตองการสงออก 10.6.2.8 Testing Setting เปนปุมสําหรับทดสอบการตั้งคาและเชื่อมตอกับโฮสต 10.6.2.9 Zip File สงออกไฟลใหอยูในรูปแบบท่ีถูกบีบอัดไว 10.6.2.10 Full Screen กําหนดใหแสดงผลโปรเจ็คเต็มจอ 10.6.2.11 Flash Player Version กําหนดเวอรชั่นของ Flash Player สําหรับไฟลท่ี

สงออก

รูปท่ี 10.26 การกําหนดคาตางๆท่ี FTP Options

10.6.3 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 10.27 เพ่ือเสร็จสิ้นการอัพโหลดไฟล

รูปท่ี 10.27 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP เรียบรอย

Page 282: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

275

10.6.4 แสดงเว็บไซตท่ีไดทําการอัพโหลดไฟลโปรเจ็ค

รูปท่ี 10.28 แสดงหนาตางเว็บไซตท่ีไดทําการอัพโหลดไฟลโปรเจ็ค 10.7 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word

การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบนี้ เปนเสมือนการนําขอมูลในสไลดไปวางในหนากระดาษของ Microsoft Word โดยสามารถพิมพออกทางเครื่องพิมพได และยังเลือกจํานวนสไลดท่ีจะวางในหนึ่งหนากระดาษ Microsoft Word ไดเชนเดียวกับการพิมพสไลดของ Microsoft PowerPoint

10.7.1 รูปแบบการสงออกสไลด 10.7.1.1 Handouts เปนรูปแบบการสงออกสไลดท่ีสามารถเลือกกําหนด

รายละเอียดตางๆ ของโปรเจ็คลงบนหนากระดาษของ Microsoft Word 10.7.1.2 Use tables in the output กําหนดจํานวนสไลดลงบนหนากระดาษหนึ่ง

หนาของ Microsoft Word ถาไมคลิกเครื่องหมายถูกจะกําหนดใหสงออกหนึ่งสไลดตอหนึ่งหนากระดาษของ Microsoft Word

รูปท่ี 10.29 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Use tables in the output

Page 283: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

276

10.7.1.3 Caption Text กําหนดใหแยกกลองขอความท่ีอยูในสไลดมาวางเปนขอความดานลางของสไลดบนหนาของ Microsoft Word

รูปท่ี 10.30 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Caption Text

10.7.1.4 Add blank lines for notes กําหนดใหแทรกบรรทัดวางสําหรับเขียนบันทึกใหกับสไลดแตละสไลด

รูปท่ี 10.31 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Add blank lines for notes

รูปท่ี 10.32 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Slide notes

Page 284: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

277

10.7.2 Slide notes กําหนดใหแทรกขอความท่ีบันทึกใหกับสไลดบนแถบ Slide notes มาวางอยูขางลางของสไลดบน Microsoft Word

10.7.3 Include hidden slide กําหนดใหแทรกสไลดท่ีถูกซอน เขาไปบนหนากระดาษของ

Microsoft Word ดวย (ทดลองทําการซอนสไลดท่ี 3)

รูปท่ี 10.33 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include hidden slide

10.7.4 Include mouse path กําหนดใหแทรกเสนทางการเคลื่อนท่ีของตัวชี้เมาสเขาไปบน

หนากระดาษของ Microsoft Word เม่ือเราเลื่อนเมาสไปท่ีสไลดใดก็จะมีเคอรเซอรแสดงใหเห็นวาเราไดเอาเมาสไปไวท่ีสไลดใด

รูปท่ี 10.34 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include mouse path

Page 285: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

278

10.7.5 Include objects and questions กําหนดใหแทรกวัตถุและสไลดคําถามเขาไปอยูบนหนากระดาษของ Microsoft Word ถาไมไดกําหนดจะปรากฏเพียงสไลดวางเปลาบนหนากระดาษของ Microsoft Word

รูปท่ี 10.35 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include objects and questions

10.7.5.1 Lesson เปนรูปแบบการสงออกสไลดท่ีกําหนดใหสงออกเฉพาะเนื้อหา

ขอความและสไลดท่ีมีการคลิกเมาสหรือพิมพขอความลงบนสไลดเทานั้นมาวางไวบนหนากระดาษของ Microsoft Word นอกจากนี้ยังสามารถกําหนดขอความ Header text และ Footer text ได

รูปท่ี 10.36 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Lesson

Page 286: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

279

10.7.5.2 Step by Step กําหนดใหสงออกเฉพาะเนื้อหาหรือขอความบนสไลดเทานั้น โดยเนื้อหาจะถูกจัดเรียงตามลําดับสไลดบนหนากระดาษของ Microsoft Word และสามารถกําหนดขอความ Header text และ Footer text ไดเชนกัน

รูปท่ี 10.37 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Step by Step

10.7.5.3 Storyboard กําหนดใหโปรแกรมวิเคราะหและสรุปผลของสไลดท้ังหมดใน

โปรเจ็ค แลวนําผลการวิเคราะหมาแทรกอยูใตสไลดบนหนากระดาษของ Microsoft Word

รูปท่ี 10.38 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Storyboard

Page 287: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

280

10.8 วิธีการสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word 10.8.1 คลิกท่ีเมนู File ตามรูปท่ี 10.39 (A) แลวคลิกท่ีเมนู Publish ตามรูปท่ี 10.39 (B)

รูปท่ี 10.39 วิธีการสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word

รูปท่ี 10.40 การกําหนดคาตางๆ

10.8.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู Print ตามรูปท่ี 10.40 (A) และกําหนดคาตางๆ ตามรูปท่ี 10.40 (B) จากนั้นจึงคลิกท่ีปุม Publish ตามรูปท่ี 10.40 (C) 10.8.2.1 Project Title กําหนดชื่อใหกับไฟลท่ีสงออก 10.8.2.2 Folder กําหนดท่ีจัดเก็บไฟลท่ีสงออก โดยคลิก Browse 10.8.2.3 Select Presets กําหนดรูปแบบการสงออกของไฟลวีดีโอ

Page 288: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

281

10.8.2.4 Export Range กําหนดจํานวนสไลดท่ีสงออก 10.8.2.5 All เลือกสไลดท้ังหมด 10.8.2.6 Current Slide สไลดปจจุบัน 10.8.2.7 Selection สไลดท่ีเลือกไว 10.8.2.8 Slide range เลือกสไลดท่ีกําหนด เชน 1, 2, 5, 10-20 เปนตน

10.9 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews

การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews สามารถทําไดโดยการสงออกไฟลโปรเจ็คใหอยูในรูปแบบของ .swf แลวใชโปรแกรม Adobe Captivate Reviewer 7 เปดไฟลนั้น ซ่ึงโปรแกรมนี้จะถูกติดตั้งใหอัตโนมัติเม่ือมีการติดตั้งโปรแกรม Adobe Captivate 7 นอกจากนี้จะตองติดตั้งโปรแกรม Adobe AIR เพ่ิมดวย ซ่ึงการใหงานโปรแกรมมีข้ันตอนดังนี้

10.9.1 คลิกท่ีเมนู Start ตามรูปท่ี 10.41 (A) และคลิกท่ีเมนู Adobe Captivate Reviewer 7 ตามรูปท่ี 10.41 (B)

รูปท่ี 10.41 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews

Page 289: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

282

10.9.2 ปรากฎหนาตางโปรแกรมแสดงข้ึนมา ใหคลิกท่ี Load Adobe Captivate Movie ตามรูปท่ี 10.42

รูปท่ี 10.42 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews

10.9.3 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหเราเลือกไฟลท่ีตองการ ตามรูปท่ี 10.43 (A) และคลิกท่ีปุม Open ตามรูปท่ี 10.43 (B)

รูปท่ี 10.43 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews

Page 290: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

283

10.10 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments การกําหนดคา Preferences ใหกับโฟลเดอร Comments เปนการกําหนดท่ีอยูของขอความ

คอมเมนต ซ่ึงมีข้ึนตอนดังนี้ 10.10.1 คลิกท่ีเมนู Edit ตามรูปท่ี 10.44 (A) และคลิกท่ีเมนู Preferences

รูปท่ี 10.44 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments

10.10.2 ปรากฎหนาตางแสดงข้ึนมาใหคลิกท่ีเมนู General Setting ตามรูปท่ี 10.45 (A) และคลิกท่ีปุม Browse ตามรูปท่ี 10.45 (B)

รูปท่ี 10.45 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments

Page 291: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

284

10.10.3 ปรากฎหนาตางอีกอันข้ึนมาใหคลิกเลือกโฟลเดอรท่ีตองการ ตามรูปท่ี 10.46 (A) และจึงคลิกท่ีปุม OK ตามรูปท่ี 10.46 (B)

รูปท่ี 10.46 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments

Page 292: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

285

เอกสารอางอิง ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ มนตชัย เทียนทอง. (2545). การออกแบบและพัฒนาคอรสแวร สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอรชวย

สอน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. Adobe Captivate : การสงออกและการแกไขโปรเจ็ค, สืบคนเม่ือ 6 ตุลาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 10.1 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล SWF และ HTML5, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.2 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ SWF, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.3 หนาตางแจงการ Publish ไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.4 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.5 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ HTML5, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.6 การตรวจสอบการสงออกไฟลแบบ HTML5, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.7 แสดงหนาตาง HTML5 Tracker, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.8 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.9 การกําหนดคา Media Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.10 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.11 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.12 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.13 การกําหนดคา Media Option, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.14 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.15 ไฟลท่ีไดจากการ Publish, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.16 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.17 การกําหนดคาตางๆท่ี E-Mail Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.18 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.19 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.20 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.21 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.22 การกําหนดรายละเอียดของอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.23 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.24 กรอกรายละเอียดของการสงอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.25 การสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.26 การกําหนดคาตางๆท่ี FTP Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.27 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP เรียบรอย, จาก

(Local Computer)

Page 293: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

286

อางอิงรูปภาพ รูปท่ี 10.28 แสดงหนาตางเว็บไซตท่ีไดทําการอัพโหลดไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.29 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Use tables in the output, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 10.30 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Caption Text, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 10.31 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Add blank lines for notes,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.32 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Slide notes, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 10.33 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include hidden slide, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 10.34 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include mouse path, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 10.35 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include objects and

questions, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.36 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Lesson, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 10.37 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Step by Step, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 10.38 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Storyboard, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 10.39 วิธีการสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.40 การกําหนดคาตางๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.41 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.42 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.43 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.44 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.45 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.46 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments, จาก (Local Computer)

Page 294: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บรรณานุกรม

กิดานันท มลิทอง. (2540). เทคโนโลยีทางการศึกษาและนวัตกรรม. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.

กิดานันท มลิทอง. (2548). ไอซีทีเพ่ือการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ. คณะกรรมการการประถมศึกษาแหงชาติ, สํานักงาน. (2542). กลุมพลังการเรียนแบบรวมมือ.

กรุงเทพมหานคร : คุรุสภา ลาดพราว. คณะกรรมการการศึกษาแหงชาติ, สํานักงาน. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.

2542 และท่ีแกไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 3) พ.ศ.2553. กรุงเทพมหานคร : สํานักนายกรัฐมนตรี.

ดิเรก ธีระภูธร. (2545). การใชคอมพิวเตอรในวงการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2543). คอมพิวเตอรชวยสอน. กรุงเทพมหานคร : วงศกมลโพรดักชั่น. ถนอมพร เลาหจรัสแสง. (2545). Design e-Learning: หลักการออกแบบและการสรางเว็บเพ่ือ

การเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร : อรุณการพิมพ. ถนอมพร เลาหจรัสแสง.(2550). รายงานวิจัยเรื่องการบูรณาการเทคโนโลยี e-Learning ประเภท

เกมในช้ันเรียน. สถานบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม. ทิศนา แขมมณี. (2546). รูปแบบการเรียนการสอน : ทางเลือกท่ีหลากหลาย. กรุงเทพฯ :

จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. บุปผชาติ ทัฬหิกรณ และคณะ. (2544). ความรูเกี่ยวกับส่ือมัลติมีเดียเพ่ือการศึกษา.

กรุงเทพมหานคร : ศูนยพัฒนาหนังสือ พิสุทธา อารีราษฎร. (2551). การพัฒนาซอฟแวรทางการศึกษา. มหาสารคาม : อภิชาตการพิมพ มนตชัย เทียนทอง. (2545). การออกแบบและพัฒนาคอรสแวร สําหรับบทเรียนคอมพิวเตอรชวย

สอน. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกลาพระนครเหนือ. ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒. กรุงเทพมหานคร :

นานมีบุคสพับลิเคชั่นส. รุจโรจน แกวอุไร. (2545). การพัฒนาระบบการเรียนการสอนผานเครือขายใยแมงมุม. วิทยานิพนธ

ปริญญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สุภาณี เส็งศรี. (2543). การพัฒนาระบบการเรียนการสอนทางไกลในสถาบันอุดมศึกษา.

วิทยานิพนธปริญญาดุษฎีบัณฑิต.จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. สุมาลี ชัยเจริญ. (2551). เทคโนโลยีการศึกษา:หลักการ ทฤษฎีสูการปฏิบัติ. ขอนแกน: คลังนานา

วิทยา. Adobe Captivate : การแกไขตกแตงโปรเจ็ค, สืบคนเม่ือ 6 ตุลาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) Adobe Captivate : การใชงานโปรแกรมเบ้ืองตน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Page 295: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

บรรณานุกรม

Adobe Captivate : การบันทึกเสียงและการแทรกเสียง, สืบคนเม่ือ 6 พฤษภาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Adobe Captivate : การสงออกและการแกไขโปรเจ็ค, สืบคนเม่ือ 6 ตุลาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Adobe Captivate : การสรางแบบทดสอบ, สืบคนเม่ือ 16 กรกฎาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Adobe Captivate : การสรางโปรเจ็คและการนําเขาขอมูลจากโปรแกรมอ่ืน, สืบคนเม่ือ 19 เมษายน 2556, จาก (http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Adobe Captivate : เครื่องมือพ้ืนฐานและการสรางโปรเจ็คเบ้ืองตน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก (http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Adobe Captivate : ตัวแปรและแอคช่ัน, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก (http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Authorware, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก (http://www.adobe.com/products/authorware/)

Courseware, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก (http://www.lib.ru.ac.th/webtoday/courseware.html)

Page 296: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

บทท่ี 1 บทนํา รูปท่ี 1.1 สวนประกอบของสื่อมัลติมีเดีย, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://fungbintwo.blogspot.com/2009/11/multimedia.html) รูปท่ี 1.2 สื่อมัลติมีเดีย, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://jatupo5604music.blogspot .com) รูปท่ี 1.3 สื่อมัลติมีเดียสมัยใหม, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://mindcater.com/new-hi-technical-computer-technology-2014) รูปท่ี 1.4 บทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.vcharkarn. com/vblog/3566) รูปท่ี 1.5 การเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink) , สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://withfriendship.com/user/kethan123/hyperlink.php) รูปท่ี 1.6 Cloud Computing การเชื่อมโยงกลุมเมฆ, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.uni.net.th/backend/uninews/print.php?name=2012111122) รูปท่ี 1.7 การจัดการเรียนรูตามแนวคิดแบบมอนเตสเซอรี่, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.dusitcenter.org/dusitwebs/plan/news.php?id=1973) รูปท่ี 1.8 การเรียนรูท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญ, สืบคนเม่ือ 30 ธนัวาคม 2556, จาก

(http://www.gotoknow.org/posts/412318) รูปท่ี 1.9 การเรียนรูจาการจัดกิจกรรมโดยยึดผูเรียนเปนสําคัญ, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.gotoknow.org/posts/412318) รูปท่ี 1.10 รูปแบบการเรียนรูแบบโครงงาน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.panaya-kindergarten.com/education_patthanakan.html) รูปท่ี 1.11 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.fanmath.com/about/best-learning-system) รูปท่ี 1.12 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.fanmath.com/2012/12/fanmath-classroom) รูปท่ี 1.13 เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://pathima0212.blogspot.com) รูปท่ี 1.14 ตัวอยางสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการนําเสนอขอมูล, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.kmitl.ac.th/agritech/nutthakorn/sproject/kit/index.html) รูปท่ี 1.15 สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรูดวยตนเอง, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://www.myfirstbrain.com/student_view.aspx?ID=92706) รูปท่ี 1.16 คอมพิวเตอรชวยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI), สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม

2556, จาก (http://www.cai-dd.com)

Page 297: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 1.17 การเรียนการสอนผานระบบเครือขาย หรือการสอนบนเว็บ, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก (https://www.khanacademy.org)

รูปท่ี 1.18 ระบบ E-Leaning มหาวิทยาลัยพะเยา, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก (http://www.lms.up.ac.th)

รูปท่ี 1.19 เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology), สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก (http://www.123rf.com/photo_11983586)

รูปท่ี 1.20 การมีปฏิสัมพันธตอผูเรียน, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก (http://www.thehindu.com/metroplus/bridging-the-divide/article5003379.ece)

รูปท่ี 1.21 การเสริมแรงผูเรียนโดยการใหผลปอนกลับโดยทันที, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก (http://yesican-specializedacademicsupport.blogspot.com/2013/11)

บทท่ี 2 หลักการและการออกแบบส่ือมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ รูปท่ี 2.1 ทฤษฎีการเรียนรูของกาเย, สืบคนเม่ือ 30 ธันวาคม 2556, จาก

(http://teacher80std.blogspot.com/2012/06/101-learning-ecology.html)

บทท่ี 3 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 1 เริ่มใชงาน Adobe Captivate รูปท่ี 3.1 การเขาสูเว็บไซตเพ่ือดาวนโหลดโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.2 การเลือกดาวนโหลดโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.3 การเลือกสรางบัญชีรายชื่อ หรือการเขาสูโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.4 การสรางบัญชีรายชื่อใหม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก (http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.5 แสดงการยืนยันการสมัคร, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก (http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.6 ข้ันตอนการ Download Adobe Captivate , สบืคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.7 เว็บเบราวเซอรแสดงหนาตางดาวนโหลดโปรแกรม, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.8 ไฟลท่ีโหลดเสร็จสิ้นสมบูรณ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.9 ระบบปฏิบัติการวินโดนจะทําการแจงเตือนการเปดไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.10 การขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer)

Page 298: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 3.11 แหลงท่ีตองการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.12 แสดงสถานะการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.13 ไฟลท่ีไดจากการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.14 การติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.15 แสดงการเตรียมการติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.16 รูปแบบการติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.17 แสดงลิขสิทธิ์ของโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.18 แสดงหนาตางเขาสูระบบบัญชีรายชื่อ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.19 แสดงคุณสมบัติของโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.20 แสดงสถานะการติดตั้งโปรแกรม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.21 แสดงการติดตั้งโปรแกรมสําเร็จ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.22 หนาตางแสดงสถานะวันท่ีคงเหลือการใชโปรแกรมแบบทดลองใชงาน, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 3.23 แสดงการกรอก Adobe ID และ รหัสผานไมถูกตอง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.24 วิธีการแกไขกรณีลืมรหัสผาน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.25 ตรวจสอบอีเมลล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 3.26 กรอกขอมูล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) รูปท่ี 3.27 การแกไขปญหาลืมรหัสผานเสร็จสิ้น, สืบคนเม่ือ 2 มกราคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com) บทท่ี 4 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 2 เครื่องมือพ้ืนฐานและการสรางโปรเจ็คเบ้ืองตน รูปท่ี 4.1 Adobe Captivate 7 สืบคนเม่ือ 4 มีนาคม 2556, จาก

(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html) รูปท่ี 4.2 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.3 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.4 หนาจอตอนรับ (Welcome Screen), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.5 เมนู Open Recent Item บนหนาจอตอนรับ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.6 เมนู Create New บนหนาจอตอนรับ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.7 เมนู Extend บนหนาจอตอนรับ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.8 หนาจอสวนประกอบของโปรแกรม Adobe Captivate 7, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.9 แถบเครื่องมือ (Menu Bar), จาก (Local Computer)

Page 299: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 4.10 คําสั่งในกลุมเมนูไฟล (File), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.11 คําสั่งในกลุมเมนูแกไข (Edit), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.12 คําสั่งในกลุมเมนูมุมมอง (View), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.13 คําสั่งในกลุมเมนูแทรก (Insert), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.14 คําสั่งในกลุมเมนูแกไขเพ่ิมเติม (Modify), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.15 คําสั่งในกลุมเมนูโปรเจ็ค (Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.16 คําสั่งในกลุมเมนูแบบทดสอบ (Quiz), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.17 คําสั่งในกลุมเมนูเสียง (Audio), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.18 คําสั่งในกลุมเมนูวิดีโอ (Video), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.19 คําสั่งในกลุมเมนูชุดรูปแบบ (Themes), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.20 คําสั่งในกลุมเมนูหนาตางเครื่องมือ (Windows), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.21 คําสั่งในกลุมเมนูความชวยเหลือ (Help), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.22 แถบคําสั่งหลัก (Main Options), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.23 เครื่องมือจัดการออบเจ็ค (Object Toolbar), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.24 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.25 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.26 พ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.27 การปรับรูปแบบการใชงานพ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.28 เครื่องมือควบคุมการแสดง (Timeline), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.29 พาเนล Properties, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.30 พาเนล Library, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.31 พาเนล Quiz Properties, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.32 พาเนล Project Info, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.33 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project, จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.34 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.35 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.36 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 4.37 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 4.38 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow, จาก (Local

Computer)

Page 300: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 4.39 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 4.40 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 4.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 4.42 การตั้งคาไฟล (Project Preferences), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.43 คามาตรฐาน (Defaults), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.44 การตั้งคาการบันทึก (Recording), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.45 การตั้งคาโปรเจ็ค (Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 4.46 แบบทดสอบ (Quiz), จาก (Local Computer) บทท่ี 5 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 3 การสรางโปรเจ็คและการนําเขาขอมูลจากโปรแกรมอ่ืน รูปท่ี 5.1 การเขาสู Control Panel, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.2 การเขาสูกลุม Appearance and Personalization, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.3 เมนู Adjust screen resolution, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.4 เมนู Screen Resolution, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.5 วิธีการลัดเขาสูเมนู Adjust screen resolution, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.6 การเขาสูคําสั่ง Preferences เพ่ือตั้งคาโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.7 การตั้งคาท่ัวไป (Setting) สําหรับโปรเจ็คแบบ Software Simulation, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.8 การตั้งคาวิดีโอตัวอยาง (Video Demo) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.9 การตั้งคาปุมคําสั่งสําหรับการบันทึก (Key) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.10 การตั้งคาเก่ียวกับลักษณะการทํางาน (Mode) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.11 การตั้งคามาตรฐาน (Default) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.12 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากหนาจอตอนรับ, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.13 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากแถบเมนูบาร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.14 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบกําหนดพ้ืนท่ี (Screen Area) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.15 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.16 ทางเลือกสําหรับการบันทึกหนาจอ, จาก (Local Computer)

Page 301: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 5.17 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 5.18 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) , จาก (Local Computer)

รูปท่ี 5.19 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo จากแถบเมนูบาร (Menu Bar) , จาก (Local Computer)

รูปท่ี 5.20 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application) , จาก (Local Computer)

รูปท่ี 5.21 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 5.22 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 5.23 การบันทึกเสียงและออปชั่นการบันทึกอ่ืน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.24 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) , จาก

(Local Computer) รูปท่ี 5.25 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากแถบเมนูบาร (Menu Bar) , จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.26 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.27 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.28 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.29 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากหนาจอตอนรับ, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.30 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากแถบเมนูบาร, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.31 การเลือกไฟลท่ีตองการนํามาสรางเปนโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.32 โปรแกรม Adobe Captivate นําเขาไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.33 การกําหนดคุณสมบัติของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.34 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 5.35 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) ,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.36 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากแถบเมนูบาร (Menu Bar) , จาก (Local

Computer)

Page 302: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 5.37 การกําหนดขนาดของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.38 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.39 การปรับแตงภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.40 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.42 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.43 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.44 Panel Properties, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.45 การกําหนดคุณสมบัติท่ัวไปของสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.46 การกําหนดเหตุการณเม่ือแสดงผลสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.47 คุณสมบัติของ Action แบบ On Enter, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.48 คุณสมบัติของ Action แบบ On Exit, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.49 การกําหนดเสียงใหกับสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.50 การเพ่ิมสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.51 การเพ่ิมสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.52 การเพ่ิมสไลด PowerPoint, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.53 การเพ่ิมสไลด PowerPoint, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.54 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด PowerPoint, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.55 การเลือกไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.56 การเลือกหนาสไลดในไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 5.57 แสดงสไลดท่ีแทรก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.58 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.59 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.60 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด Recording Slide, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.61 การเลือกโปรแกรมท่ีตองการบันทึกภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.62 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.63 การแทรกสไลดรูปภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.64 การแทรกสไลดรูปภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.65 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ, จาก (Local Computer)

Page 303: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 5.66 การปรับแกไขและตกแตงภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.67 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.68 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.69 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.70 การเลือกไฟลแอนิเมชั่นท่ีตองการแทรก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.71 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.72 สไลดภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.73 การเลือกไฟลท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.74 การเลือกไฟลท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.75 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.76 การคัดลอกสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.77 การทําสําเนาสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.78 การลบสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.79 การสลับลําดับสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.80 การซอนสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.81 การซอนสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.82 การล็อคสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 5.83 การปลดล็อคสไลด, จาก (Local Computer) บทท่ี 6 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 4 การบันทึกเสียงและการแทรกเสียง รูปท่ี 6.1 การตั้งคาการบันทึกเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.2 การตั้งคาการบันทึกเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.3 การทดสอบเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.4 การบันทึกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.5 การบันทึกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.6 การบันทึกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.7 การบันทึกเสียงลงสไลดมากกวา 1 สไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.8 การกําหนดสไลดเริ่มตนและสไลดสุดทาย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.9 การบันทึกเสียงลงสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.10 การบันทึกเสียงเปนเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.11 การกําหนดเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.12 การบันทึกเสียงใหวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.13 การบันทึกเสียงลงวัตถุ, จาก (Local Computer)

Page 304: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 6.14 การแทรกเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.15 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.16 การกําหนดคาเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.17 การแทรกเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.18 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.19 กําหนดเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.20 การแทรกเสียงใหวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.21 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.22 การทดสอบไฟลเสียงท่ีตองการ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.23 การตกแตงไฟลเสียงใหสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.24 การกําหนดชวงเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.25 การปรับแตงแกไขไฟลเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.26 การปรับแตงเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.27 การตกแตงแกไขไฟลเสียงใหวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.28 การปรับแตงเสียงวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.29 การปรับระดับเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.30 การปรับระดับเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.31 การปรับแตงเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.32 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.33 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.34 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.35 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.36 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.37 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.38 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.39 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.40 การแสดงรายละเอียดของไฟลเสียงในสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.41 แสดงหนาตาง Advanced Audio Management, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.42 การสงออกไฟลเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.43 การสงออกไฟลเสียง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 6.44 การบันทึกไฟลเสียง, จาก (Local Computer)

Page 305: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

บทท่ี 7 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 5 ตัวแปรและแอคช่ัน รูปท่ี 7.1 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.2 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.3 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable) , จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.4 แสดงตัวแปร System Information , จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.5 การเปดหนาตาง Skin Editor, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.6 หนาตาง Skin Editor, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.7 ตัวแปรประเภท Movie MetaData, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.8 การกําหนดตัวแปรประเภท Movie MetaData, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.9 การสรางตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.10 การสรางตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.11 การสรางตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.12 แสดงตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.13 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.14 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.15 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.16 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.17 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.18 การกําหนดคาตัวแปร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.19 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.20 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.21 แสดงหนา Preview, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.22 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.23 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.24 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.25 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.26 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.27 การกําหนดคาตัวแปร, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.28 แสดงหนา Preview, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.29 แสดงหนา Preview, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.30 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.31 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.32 การกําหนด Action ปุมยอมแพ, จาก (Local Computer)

Page 306: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 7.33 การกําหนด Action ปุมสงคําตอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.34 การกําหนด Action สไลดเนื้อหา, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.35 การเขาเมนู Advanced Actions, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.36 การกําหนดคา Advanced actions, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.37 การกําหนดคุณสมบัติของ Text Entry Box, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.38 การกําหนดคา Text Entry Box, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.39 การกําหนดคา General, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.40 การกําหนดคา Character, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.41 การกําหนดคา Action, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.42 การกําหนดคา Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.43 การกําหนดคา Shadow & Reflection, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.44 การกําหนดคา Timing, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.45 การกําหนดคา Transition, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.46 การกําหนดคา Fill & Stroke, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.47 การกําหนดคา Audio, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.48 การกําหนดคา Reporting, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.48 การกําหนดคา Transform, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.50 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.51 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 7.52 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง, จาก (Local Computer) บทท่ี 8 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 6 การสรางแบบทดสอบ รูปท่ี 8.1 ประเภทของแบบทดสอบในโปรแกรม Adobe Captivate 7, สืบคนเม่ือ 16 กรกฎาคม

2556, จาก (http://www.adobe.com) รูปท่ี 8.2 การเปดหนาตางการตั้งคาแบบทดสอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.3 การกําหนดคาแบบรายงาน (Reporting), จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.4 การตั้งคาแบบทดสอบ (Setting), จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.5 การกําหนดเกณฑการทดสอบ (Pass or Fail), จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.6 การกําหนดขอความบรรยายใหสไลดแบบทดสอบ (Default Labels), จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.7 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.8 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.9 สไลดแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer)

Page 307: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 8.10 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.11 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.12 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.13 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.14 กําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.15 กําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.16 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.17 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.18 สไลดแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.19 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.20 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.21 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.22 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.23 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.24 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.25 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.26 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.27 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.28 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.29 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.30 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง,

จาก (Local Computer)

Page 308: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 8.31 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.32 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.33 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.34 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.35 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.36 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.37 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.38 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือ

ประโยคสั้นๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.39 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.40 การสรางแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.41 การสรางแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.42 สไลดแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.43 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.44 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.45 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.46 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 8.47 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบจับคู, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.48 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.49 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.50 สไลดแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.51 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือ

จับผิดภาพ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.52 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือ

จับผิดภาพ, จาก (Local Computer)

Page 309: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 8.53 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.54 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.55 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.56 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 8.57 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.58 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.59 สไลดแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.60 แสดงแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.61 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.62 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.63 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.64 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับ

กอนหลัง, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.65 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.66 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.67 สไลดแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.68 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.69 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.70 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.71 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.72 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการให

คะแนน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.73 การสรางแบบทดสอบแบบแบบสุม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.74 เพ่ิมสไลดคําถาม, จาก (Local Computer)

Page 310: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 8.75 เพ่ิมสไลดคําถาม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.76 การสุมสไลดคําถาม, จาก (Local Computer) รูปท่ี 8.77 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.78 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 8.79 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม, จาก (Local

Computer) บทท่ี 9 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 7 การแกไขตกแตงโปรเจ็ค รูปท่ี 9.1 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.2 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.3 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.4 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.5 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.6 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.7 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.8 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.9 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.10 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.11 การบันทึกคา Preferences, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.12 การบันทึกคา Preferences, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.13 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.14 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.15 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.16 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.17 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.18 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.19 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.20 การกําหนดรายละเอียดสําหรับ Content Master Slide, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.21 การใสวัตถุลงในสไลด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.22 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.23 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค, จาก (Local Computer)

Page 311: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 9.24 การนําแมแบบมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.25 การนําแมแบบมาใชงาน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.26 แสดงสไลดแมแบบท่ีสรางข้ึน, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.27 การปรับแตง Skin (Playback Control), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.28 การกําหนดคาใหกับการควบคุมการเลน (Playback Control), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.29 กําหนดคาใหกับเสนขอบ (Borders), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.30 การสรางตารางสารบัญ (TCC : Table Of Contents), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.31 เลือกสไลดท่ีตองการนําไปแสดงในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.32 การกําหนดหัวขอหลักและหัวขอยอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.33 กําหนดลําดับหัวขอหลักและหัวขอยอย, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.34 การปรับแตงตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.35 การปรับแตงตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.36 การปรับแตงตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.37 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.38 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.39 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.40 แสดงรายละเอียดท่ีไดกําหนด, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.41 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.42 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.43 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project), จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.44 การกําหนดรายละเอียดตางๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.45 การกําหนดรายละเอียดตางๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.46 การบันทึกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.47 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.48 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.49 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.50 การกําหนดคาการสงออกไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.51 การสงออกไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 9.52 แสดงโปรเจ็คท่ีไดรวมท้ังหมด, จาก (Local Computer)

บทท่ี 10 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 8 การสงออกและการแกไขโปรเจ็ค รูปท่ี 10.1 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล SWF และ HTML5, จาก (Local Computer)

Page 312: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 10.2 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ SWF, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.3 หนาตางแจงการ Publish ไฟล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.4 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.5 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ HTML5, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.6 การตรวจสอบการสงออกไฟลแบบ HTML5, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.7 แสดงหนาตาง HTML5 Tracker, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.8 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.9 การกําหนดคา Media Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.10 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.11 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.12 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.13 การกําหนดคา Media Option, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.14 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.15 ไฟลท่ีไดจากการ Publish, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.16 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.17 การกําหนดคาตางๆท่ี E-Mail Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.18 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.19 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.20 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.21 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.22 การกําหนดรายละเอียดของอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.23 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คผานอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.24 กรอกรายละเอียดของการสงอีเมล, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.25 การสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.26 การกําหนดคาตางๆท่ี FTP Options, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.27 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP เรียบรอย, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 10.28 แสดงหนาตางเว็บไซตท่ีไดทําการอัพโหลดไฟลโปรเจ็ค, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.29 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Use tables in the output, จาก

(Local Computer) รูปท่ี 10.30 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Caption Text, จาก (Local

Computer) รูปท่ี 10.31 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Add blank lines for notes,

จาก (Local Computer)

Page 313: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงรูปภาพ

รูปท่ี 10.32 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Slide notes, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 10.33 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include hidden slide, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 10.34 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include mouse path, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 10.35 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include objects and questions, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 10.36 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Lesson, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 10.37 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Step by Step, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 10.38 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Storyboard, จาก (Local Computer)

รูปท่ี 10.39 วิธีการสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.40 การกําหนดคาตางๆ, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.41 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.42 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.43 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.44 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.45 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments, จาก (Local Computer) รูปท่ี 10.46 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments, จาก (Local Computer)

Page 314: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

อางอิงตาราง

ตารางท่ี 7.1 ตัวแปรระบบ (System Variable), สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

ตารางท่ี 7.2 ตัวแปรประเภท Movie Information, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

ตารางท่ี 7.3 Project Information, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

ตารางท่ี 7.4 ตัวแปรประเภท Quizzing, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

ตารางท่ี 7.5 ตัวแปรประเภท System Information, สืบคนเม่ือ 12 กรกฎาคม 2556, จาก(http://www.adobe.com/sea/products/captivate.html)

Page 315: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา บทท่ี 1 บทนํา รูปท่ี 1.1 สวนประกอบของสื่อมัลติมีเดีย………………………………………………………………………….… 1 รูปท่ี 1.2 สื่อมัลติมีเดีย………………………………………………………………………………………………….…. 2 รูปท่ี 1.3 สื่อมัลติมีเดียสมัยใหม……………………………………………………………………………………...… 2 รูปท่ี 1.4 บทเรียนคอมพิวเตอรชวยสอน………………………………………………………………………..…… 3 รูปท่ี 1.5 การเชื่อมโยงหลายมิติ (Hyperlink)…………………………………………………………….….…… 4 รูปท่ี 1.6 Cloud Computing การเชื่อมโยงกลุมเมฆ………………………………………………….….…… 4 รูปท่ี 1.7 การจัดการเรียนรูตามแนวคิดแบบมอนเตสเซอรี่…………………………………………....……… 5 รูปท่ี 1.8 การเรียนรูท่ียึดผูเรียนเปนสําคัญ………………………………………………………………….……… 5 รูปท่ี 1.9 การเรียนรูจาการจัดกิจกรรมโดยยึดผูเรียนเปนสําคัญ…………………………………….………. 6 รูปท่ี 1.10 รูปแบบการเรียนรูแบบโครงงาน………………………………………………………………………..… 7 รูปท่ี 1.11 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน…………………………………….…..… 8 รูปท่ี 1.12 ตัวอยางการนําสื่อมัลติมีเดียมาใชในการเรียนการสอน…………………………………….…..… 8 รูปท่ี 1.13 เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา…………………………………………………….……….… 9 รูปท่ี 1.14 ตัวอยางสื่อมัลติมีเดียเพ่ือการนําเสนอขอมูล……………………………………………………….… 10 รูปท่ี 1.15 สื่อมัลติมีเดียเพ่ือการเรียนรูดวยตนเอง………………………………………………………………… 11 รูปท่ี 1.16 คอมพิวเตอรชวยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI) ………………………..… 11 รูปท่ี 1.17 การเรียนการสอนผานระบบเครือขายหรือการสอนบนเว็บ……………………………………… 12 รูปท่ี 1.18 ระบบ E-Leaning มหาวิทยาลัยพะเยา………………………………………………………………… 13 รูปท่ี 1.19 เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)……………………………………………… 14 รูปท่ี 1.20 การมีปฏิสัมพันธตอผูเรียน………………………………………………………………………………..… 15 รูปท่ี 1.21 การเสริมแรงผูเรียนโดยการใหผลปอนกลับโดยทันที……………………………………………… 15

บทท่ี 2 หลักการและการออกแบบส่ือมัลติมีเดียแบบมีปฏิสัมพันธ รูปท่ี 2.1 ทฤษฎีการเรียนรูของกาเย………………………………………………………………………………..… 22

บทท่ี 3 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 1 เริ่มใชงาน Adobe Captivate รูปท่ี 3.1 การเขาสูเว็บไซตเพ่ือดาวนโหลดโปรแกรม…………………………………………………….……… 32 รูปท่ี 3.2 การเลือกดาวนโหลดโปรแกรม………………………………………………………………….………… 32 รูปท่ี 3.3 การเลือกสรางบัญชีรายชื่อหรือการเขาสูโปรแกรม………………………………………………… 33 รูปท่ี 3.4 การสรางบัญชีรายชื่อใหม…………………………………………………………………………………… 35 รูปท่ี 3.5 แสดงการยืนยันการสมัคร…………………………………………………………………………………… 36

Page 316: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 3.6 ข้ันตอนการ Download Adobe Captivate……………………………………………..………… 36 รูปท่ี 3.7 เว็บเบราวเซอรแสดงหนาตางดาวนโหลดโปรแกรม……………………………………..………… 37 รูปท่ี 3.8 ไฟลท่ีโหลดเสร็จสิ้นสมบูรณ………………………………………………………………………………… 37 รูปท่ี 3.9 ระบบปฏิบัติการวินโดนจะทําการแจงเตือนการเปดไฟล…………………………….…………… 38 รูปท่ี 3.10 การขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง…………………………………………………………………… 38 รูปท่ี 3.11 แหลงท่ีตองการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง…………………………………………………… 39 รูปท่ี 3.12 แสดงสถานะการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง…………………………………….…………… 39 รูปท่ี 3.13 ไฟลท่ีไดจากการขยายไฟลสําหรับโปรแกรมติดตั้ง…………………………………….…………… 40 รูปท่ี 3.14 การติดตั้งโปรแกรม………………………………………………………………………………….………… 40 รูปท่ี 3.15 แสดงการเตรียมการติดตั้งโปรแกรม………………………………………………………..…………… 41 รูปท่ี 3.16 รูปแบบการติดตั้งโปรแกรม………………………………………………………………………………… 41 รูปท่ี 3.17 แสดงลิขสิทธิ์ของโปรแกรม………………………………………………………………….……………… 42 รูปท่ี 3.18 แสดงหนาตางเขาสูระบบบัญชีรายชื่อ…………………………………………………..……………… 43 รูปท่ี 3.19 แสดงคุณสมบัติของโปรแกรม……………………………………………………………………………… 43 รูปท่ี 3.20 แสดงสถานะการติดตั้งโปรแกรม……………………………………………………….………………… 44 รูปท่ี 3.21 แสดงการติดตั้งโปรแกรมสําเร็จ…………………………………………………………………………… 44 รูปท่ี 3.22 หนาตางแสดงสถานะวันท่ีคงเหลือการใชโปรแกรมแบบทดลองใชงาน……………………… 45 รูปท่ี 3.23 แสดงการกรอก Adobe ID และ รหัสผานไมถูกตอง……………………………………………… 45 รูปท่ี 3.24 วิธีการแกไขกรณีลืมรหัสผาน……………………………………………………………….……………… 46 รูปท่ี 3.25 การตรวจสอบอีเมลล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน………………………………………………… 46 รูปท่ี 3.26 กรอกขอมูล เพ่ือแกไขปญหาลืมรหัสผาน……………………………………………………………… 47 รูปท่ี 3.27 การแกไขปญหาลืมรหัสผานเสร็จสิ้น………………………………………………….………………… 47 บทท่ี 4 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 2 เครื่องมือพ้ืนฐานและการสรางโปรเจ็คเบ้ืองตน รูปท่ี 4.1 Adobe Captivate 7………………………………………………………………………….…………….. 51 รูปท่ี 4.2 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7…………………………………………………… 52 รูปท่ี 4.3 การเรียกใชงานโปรแกรม Adobe Captivate 7…………………………………………………… 52 รูปท่ี 4.4 หนาจอตอนรับ (Welcome Screen)…………………………………………………..……………… 53 รูปท่ี 4.5 เมนู Open Recent Item บนหนาจอตอนรับ……………………………………….……………… 53 รูปท่ี 4.6 เมนู Create New บนหนาจอตอนรับ………………………………………………………………… 54 รูปท่ี 4.7 เมนู Extend บนหนาจอตอนรับ…………………………………………………………………….…… 54 รูปท่ี 4.8 หนาจอสวนประกอบของโปรแกรม Adobe Captivate 7……………………………………… 55 รูปท่ี 4.9 แถบเครื่องมือ (Menu Bar)………………………………………………………………………………… 55

Page 317: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 4.10 คําสั่งในกลุมเมนูไฟล (File)………………………………………………………………………………… 56 รูปท่ี 4.11 คําสั่งในกลุมเมนูแกไข (Edit)……………………………………………………….……………………… 57 รูปท่ี 4.12 คําสั่งในกลุมเมนูมุมมอง (View)………………………………………………………………..………… 58 รูปท่ี 4.13 คําสั่งในกลุมเมนูแทรก (Insert)…………………………………………………………………………… 59 รูปท่ี 4.14 คําสั่งในกลุมเมนูแกไขเพ่ิมเติม (Modify)……………………………………………………………… 60 รูปท่ี 4.15 คําสั่งในกลุมเมนูโปรเจ็ค (Project)……………………………………………………………………… 61 รูปท่ี 4.16 คําสั่งในกลุมเมนูแบบทดสอบ (Quiz)…………………………………………………………………… 61 รูปท่ี 4.17 คําสั่งในกลุมเมนูเสียง (Audio)……………………………………………………………….…………… 62 รูปท่ี 4.18 คําสั่งในกลุมเมนูวิดีโอ (Video)…………………………………………………………………………… 62 รูปท่ี 4.19 คําสั่งในกลุมเมนูชุดรูปแบบ (Themes)……………………………………………………..………… 63 รูปท่ี 4.20 คําสั่งในกลุมเมนูหนาตางเครื่องมือ (Windows)…………………………………….……………… 64 รูปท่ี 4.21 คําสั่งในกลุมเมนูความชวยเหลือ (Help)……………………………………………….……………… 65 รูปท่ี 4.22 แถบคําสั่งหลัก (Main Options)…………………………………………………………….…………… 65 รูปท่ี 4.23 เครื่องมือจัดการออบเจ็ค (Object Toolbar)………………………………………..……………… 66 รูปท่ี 4.24 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip)……………………………………………………………………… 67 รูปท่ี 4.25 แถบแบบรางขนาดเล็ก (Filmstrip)……………………………………………………………………… 67 รูปท่ี 4.26 พ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace)…………………………………………………………………………… 68 รูปท่ี 4.27 การปรับรูปแบบการใชงานพ้ืนท่ีการทํางาน (Workspace)……………………..……………… 69 รูปท่ี 4.28 เครื่องมือควบคุมการแสดง (Timeline)………………………………………………..……………… 69 รูปท่ี 4.29 พาเนล Properties………………………………………………………………………………….………… 70 รูปท่ี 4.30 พาเนล Library……………………………………………………………………………………………….… 71 รูปท่ี 4.31 พาเนล Quiz Properties…………………………………………………………………………………… 72 รูปท่ี 4.32 พาเนล Project Info………………………………………………………………………………….……… 73 รูปท่ี 4.33 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project………………………………………………………… 73 รูปท่ี 4.34 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation…………..… 74 รูปท่ี 4.35 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo…………………..……… 75 รูปท่ี 4.36 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project………………………… 75 รูปท่ี 4.37 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint 76 รูปท่ี 4.38 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow……………..…… 76 รูปท่ี 4.39 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template……….………… 77 รูปท่ี 4.40 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template………………..…… 77 รูปท่ี 4.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project………………… 78 รูปท่ี 4.42 การตั้งคาไฟล (Project Preferences)………………………………………………………………… 78 รูปท่ี 4.43 คามาตรฐาน (Defaults)………………………………………………………………………..…………… 79

Page 318: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 4.44 การตั้งคาการบันทึก (Recording)…………………………………………………………..…………… 79 รูปท่ี 4.45 การตั้งคาโปรเจ็ค (Project)………………………………………………………………………………… 80 รูปท่ี 4.46 แบบทดสอบ (Quiz)……………………………………………………………………..…………………… 80 บทท่ี 5 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 3 การสรางโปรเจ็คและการนําเขาขอมูลจากโปรแกรมอ่ืน รูปท่ี 5.1 การเขาสู Control Panel………………………………………………………………………..………… 83 รูปท่ี 5.2 การเขาสูกลุม Appearance and Personalization………………………………..…………… 84 รูปท่ี 5.3 เมนู Adjust screen resolution………………………………………………………………..……… 84 รูปท่ี 5.4 เมนู Screen Resolution…………………………………………………………………………..……… 85 รูปท่ี 5.5 วิธีการลัดเขาสูเมนู Adjust screen resolution…………………………………………………… 85 รูปท่ี 5.6 การเขาสูคําสั่ง Preferences เพ่ือตั้งคาโปรเจ็ค………………………………………………..…… 86 รูปท่ี 5.7 การตั้งคาท่ัวไป (Setting) สําหรับโปรเจ็คแบบ Software Simulation…………………… 87 รูปท่ี 5.8 การตั้งคาวิดีโอตัวอยาง (Video Demo) ……………………………………………………………… 87 รูปท่ี 5.9 การตั้งคาปุมคําสั่งสําหรับการบันทึก (Key) ……………………………………………….………… 88 รูปท่ี 5.10 การตั้งคาเก่ียวกับลักษณะการทํางาน (Mode) ………………………………………………..…… 88 รูปท่ี 5.11 การตั้งคามาตรฐาน (Default) …………………………………………………………………………… 89 รูปท่ี 5.12 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากหนาจอตอนรับ…………………………… 89 รูปท่ี 5.13 วิธีสรางโปรเจ็คแบบ Software Simulation จากแถบเมนูบาร…………………….………… 90 รูปท่ี 5.14 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบกําหนดพ้ืนท่ี (Screen Area) ……………..……… 90 รูปท่ี 5.15 การกําหนดพ้ืนท่ีการบนัทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application) ……..……… 91 รูปท่ี 5.16 ทางเลือกสําหรับการบันทึกหนาจอ……………………………………………………………………… 91 รูปท่ี 5.17 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Software Simulation……….……… 92 รูปท่ี 5.18 การสรางโปรเจค็แบบ Video Demo จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen)…….… 93 รูปท่ี 5.19 การสรางโปรเจ็คแบบ Video Demo จากแถบเมนูบาร (Menu Bar)……………………… 93 รูปท่ี 5.20 การกําหนดพ้ืนท่ีการบันทึกหนาจอแบบเลือกจากโปรแกรม (Application)……………… 94 รูปท่ี 5.21 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo…………………………… 94 รูปท่ี 5.22 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Video Demo…………………………… 95 รูปท่ี 5.23 การบันทึกเสียงและออปชั่นการบันทึกอ่ืน……………………………………………………..……… 95 รูปท่ี 5.24 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen)…..… 96 รูปท่ี 5.25 การสรางโปรเจ็คแบบ Blank Project จากแถบเมนูบาร (Menu Bar)…………………..… 96 รูปท่ี 5.26 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project……………………………………………………… 97 รูปท่ี 5.27 การกําหนดขนาดโปรเจ็คแบบ Blank Project……………………………………………………… 97 รูปท่ี 5.28 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Blank Project…………………..……… 98

Page 319: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 5.29 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากหนาจอตอนรับ……..…… 98 รูปท่ี 5.30 การสรางโปรเจ็คแบบ Form Microsoft® PowerPoint จากแถบเมนูบาร……………… 99 รูปท่ี 5.31 การเลือกไฟลท่ีตองการนํามาสรางเปนโปรเจ็ค……………………………………………………… 99 รูปท่ี 5.32 โปรแกรม Adobe Captivate นําเขาไฟล……………………………………………………..………99 รูปท่ี 5.33 การกําหนดคุณสมบัติของโปรเจ็ค………………………………………………………………………… 100 รูปท่ี 5.34 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Form MS PowerPoint 100 รูปท่ี 5.35 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากหนาจอตอนรับ (Welcome Screen) 101 รูปท่ี 5.36 การสรางโปรเจ็คแบบ Image Slideshow จากแถบเมนูบาร (Menu Bar)……….……… 101 รูปท่ี 5.37 การกําหนดขนาดของโปรเจ็ค……………………………………………………………………………… 102 รูปท่ี 5.38 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ……………………………………………………………………..………… 102 รูปท่ี 5.39 การปรับแตงภาพ……………………………………………………………………………………….……… 103 รูปท่ี 5.40 ตัวอยางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Image SlideShow…………….……… 103 รูปท่ี 5.41 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Project Template…………….…… 104 รูปท่ี 5.42 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ From Template…………….….…… 104 รูปท่ี 5.43 การสรางไฟลงาน Adobe Captive Project แบบ Aggregator Project………………… 105 รูปท่ี 5.44 Panel Properties………………………………………………………………………………………….… 106 รูปท่ี 5.45 การกําหนดคุณสมบัติท่ัวไปของสไลด…………………………………………………………………… 106 รูปท่ี 5.46 การกําหนดเหตุการณเม่ือแสดงผลสไลด……………………………………………………….……… 107 รูปท่ี 5.47 คุณสมบัติของ Action แบบ On Enter……………………………………………………..………… 108 รูปท่ี 5.48 คุณสมบัติของ Action แบบ On Exit…………………………………………………………..……… 108 รูปท่ี 5.49 การกําหนดเสียงใหกับสไลด………………………………………………………………………..……… 109 รูปท่ี 5.50 การเพ่ิมสไลด…………………………………………………………………………………………….……… 110 รูปท่ี 5.51 การเพ่ิมสไลด………………………………………………………………………………………….………… 110 รูปท่ี 5.52 การเพ่ิมสไลด PowerPoint………………………………………………………..……………………… 111 รูปท่ี 5.53 การเพ่ิมสไลด PowerPoint……………………………………………………………..………………… 111 รูปท่ี 5.54 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด PowerPoint……………………………………………………… 112 รูปท่ี 5.55 การเลือกไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก………………………..……………… 112 รูปท่ี 5.56 การเลือกหนาสไลดในไฟล Microsoft PowerPoint ท่ีตองการแทรก……………………… 113 รูปท่ี 5.57 แสดงสไลดท่ีแทรก………………………………………………………………………………………..…… 113 รูปท่ี 5.58 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว………………………………………………… 114 รูปท่ี 5.59 การแทรกสไลดบันทึกภาพหนาจอแบบเคลื่อนไหว………………………………………………… 114 รูปท่ี 5.60 การกําหนดตําแหนงแทรกสไลด Recording Slide…………………………………….….……… 115 รูปท่ี 5.61 การเลือกโปรแกรมท่ีตองการบันทึกภาพ…………………………………………………….………… 115 รูปท่ี 5.62 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ…………………………………………………………….…………… 116

Page 320: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 5.63 การแทรกสไลดรูปภาพ……………………………………………………………………………….……… 116 รูปท่ี 5.64 การแทรกสไลดรูปภาพ…………………………………………………………………………….………… 117 รูปท่ี 5.65 การเลือกไฟลภาพท่ีตองการ…………………………………………………………………………..…… 117 รูปท่ี 5.66 การปรับแกไขและตกแตงภาพ…………………………………………………………………….……… 118 รูปท่ี 5.67 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ…………………………………………………………….…………… 118 รูปท่ี 5.68 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด…………………………………………………………………………………… 119 รูปท่ี 5.69 การแทรกแอนิเมชั่นสไลด…………………………………………………………………………………… 119 รูปท่ี 5.70 การเลือกไฟลแอนิเมชั่นท่ีตองการแทรก…………………………………………………..…………… 120 รูปท่ี 5.71 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ……………………………………………………….………………… 120 รูปท่ี 5.72 สไลดภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอสไลด………………………………………………….………………… 121 รูปท่ี 5.73 การเลือกไฟลท่ีตองการ……………………………………………………………………………………… 121 รูปท่ี 5.74 การเลือกไฟลท่ีตองการ……………………………………………………………………………………… 122 รูปท่ี 5.75 ปรากฎสไลดเพ่ิมทางดานซายมือ……………………………………………………………….………… 122 รูปท่ี 5.76 การคัดลอกสไลด……………………………………………………………………………………..………… 123 รูปท่ี 5.77 การทําสําเนาสไลด……………………………………………………………………………..……………… 123 รูปท่ี 5.78 การลบสไลด……………………………………………………………………………………………………… 124 รูปท่ี 5.79 การสลับลําดับสไลด…………………………………………………………………………………………… 124 รูปท่ี 5.80 การซอนสไลด…………………………………………………………………………………………………… 125 รูปท่ี 5.81 การซอนสไลด…………………………………………………………………………………………………… 125 รูปท่ี 5.82 การล็อคสไลด…………………………………………………………………………………………………… 126 รูปท่ี 5.83 การปลดล็อคสไลด…………………………………………………….…………………….………………… 126 บทท่ี 6 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 4 การบันทึกเสียงและการแทรกเสียง รูปท่ี 6.1 การตั้งคาการบันทึกเสียง…………………………………………………………………………….……… 133 รูปท่ี 6.2 การตั้งคาการบันทึกเสียง…………………………………………………………………………….……… 134 รูปท่ี 6.3 การทดสอบเสียง……………………………………………………………………………………..………… 134 รูปท่ี 6.4 การบันทึกเสียงใหสไลด……………………………………………………………………………………… 135 รูปท่ี 6.5 การบันทึกเสียงใหสไลด……………………………………………………………………………………… 135 รูปท่ี 6.6 การบันทึกเสียงใหสไลด……………………………………………………………………………………… 136 รูปท่ี 6.7 การบันทึกเสียงลงสไลดมากกวา 1 สไลด……………………………………………………………… 136 รูปท่ี 6.8 การกําหนดสไลดเริ่มตนและสไลดสุดทาย…………………………………………..………………… 137 รูปท่ี 6.9 การบันทึกเสียงลงสไลด……………………………………………………………………………………… 137 รูปท่ี 6.10 การบันทึกเสียงเปนเสียงพ้ืนหลัง……………………………………………………….………………… 138

Page 321: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 6.11 การกําหนดเสียงพ้ืนหลัง…………………………………………………………………..………………… 139 รูปท่ี 6.12 การบันทึกเสียงใหวัตถุ………………………………………………………………………..……………… 139 รูปท่ี 6.13 การบันทึกเสียงลงวัตถุ……………………………………………………………………..………………… 140 รูปท่ี 6.14 การแทรกเสียงใหสไลด…………………………………………………………………….………………… 140 รูปท่ี 6.15 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ…………………………………………………………..…………………… 141 รูปท่ี 6.16 การกําหนดคาเสียง…………………………………………………………………………….……………… 141 รูปท่ี 6.17 การแทรกเสียงพ้ืนหลัง………………………………………………………………………..……………… 142 รูปท่ี 6.18 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ………………………………………………………………..……………… 142 รูปท่ี 6.19 กําหนดเสียงพ้ืนหลัง…………………………………………………………………………………………… 143 รูปท่ี 6.20 การแทรกเสียงใหวัตถุ………………………………………………………………………………………… 143 รูปท่ี 6.21 การเลือกไฟลเสียงท่ีตองการ……………………………………………………………..………………… 144 รูปท่ี 6.22 การทดสอบไฟลเสียงท่ีตองการ…………………………………………………………………………… 144 รูปท่ี 6.23 การตกแตงไฟลเสียงใหสไลด…………………………………………………………….………………… 145 รูปท่ี 6.24 การกําหนดชวงเสียง………………………………………………………………………..………………… 146 รูปท่ี 6.25 การปรับแตงแกไขไฟลเสียงพ้ืนหลัง……………………………………………………………………… 146 รูปท่ี 6.26 การปรับแตงเสียงพ้ืนหลัง…………………………………………………………………………………… 147 รูปท่ี 6.27 การตกแตงแกไขไฟลเสียงใหวัตถุ………………………………………………….……………………… 147 รูปท่ี 6.28 การปรับแตงเสียงวัตถุ………………………………………………………………………………………… 148 รูปท่ี 6.29 การปรับระดับเสียง……………………………………………………………………………….…………… 148 รูปท่ี 6.30 การปรับระดับเสียง………………………………………………………………………………….………… 149 รูปท่ี 6.31 การปรับแตงเสียง……………………………………………………………………………………….……… 149 รูปท่ี 6.32 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย………………………………………………………………………… 150 รูปท่ี 6.33 การเพ่ิมปุมควบคุมใหบทบรรยาย………………………………………………………………………… 150 รูปท่ี 6.34 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด…………………………………………………………….……………… 151 รูปท่ี 6.35 การลบไฟลเสียงออกจากสไลด…………………………………………………………….……………… 151 รูปท่ี 6.36 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง………………………………………………………………………………………151 รูปท่ี 6.37 การลบไฟลเสียงพ้ืนหลัง………………………………………………………………………………………152 รูปท่ี 6.38 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ……………………………………………………………………………… 152 รูปท่ี 6.39 การลบไฟลเสียงออกจากวัตถุ……………………………………………………………………………… 152 รูปท่ี 6.40 การแสดงรายละเอียดของไฟลเสียงในสไลด……………………………………..…………………… 153 รูปท่ี 6.41 แสดงหนาตาง Advanced Audio Management……………………………..………………… 153 รูปท่ี 6.42 การสงออกไฟลเสียง……………………………………………………………………………..…………… 153 รูปท่ี 6.43 การสงออกไฟลเสียง…………………………………………………………………………..……………… 154 รูปท่ี 6.44 การบันทึกไฟลเสียง…………………………………………………………………………………………… 154

Page 322: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา บทท่ี 7 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 5 ตัวแปรและแอคช่ัน รูปท่ี 7.1 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable)……………………………………………………… 157 รูปท่ี 7.2 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable)……………………………………………………… 158 รูปท่ี 7.3 การเลือกใชตัวแปรระบบ (System Variable)……………………………………………………… 158 รูปท่ี 7.4 แสดงตัวแปร System Information…………………………………………………………………… 159 รูปท่ี 7.5 การเปดหนาตาง Skin Editor……………………………………………………………………..……… 161 รูปท่ี 7.6 หนาตาง Skin Editor………………………………………………………………………………………… 162 รูปท่ี 7.7 ตัวแปรประเภท Movie MetaData…………………………………………………………..………… 162 รูปท่ี 7.8 การกําหนดตัวแปรประเภท Movie MetaData………………………………………….………… 163 รูปท่ี 7.9 การสรางตัวแปรยูสเซอร…………………………………………………………………………..………… 166 รูปท่ี 7.10 การสรางตัวแปรยูสเซอร…………………………………………………………………………..………… 166 รูปท่ี 7.11 การสรางตัวแปรยูสเซอร……………………………………………………………………………..……… 167 รูปท่ี 7.12 แสดงตัวแปรยูสเซอร……………………………………………………………………………….………… 167 รูปท่ี 7.13 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร………………………………………………………….……………… 168 รูปท่ี 7.14 การแกไขและลบตัวแปรยูสเซอร………………………………………………………….……………… 168 รูปท่ี 7.15 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน…………………………………………………….……………… 169 รูปท่ี 7.16 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน……………………………………………………….…………… 169 รูปท่ี 7.17 การแทรกตัวแปรระบบเขามาใชงาน………………………………………………………….………… 170 รูปท่ี 7.18 การกําหนดคาตัวแปร…………………………………………………………………………..….………… 170 รูปท่ี 7.19 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย……………………………………………………………………… 170 รูปท่ี 7.20 แสดงคาท่ีไดกําหนดเสร็จเรียบรอย……………………………………………………………………… 171 รูปท่ี 7.21 แสดงหนา Preview…………………………………………………………………………………………… 171 รูปท่ี 7.22 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน………………………………………………………….……… 172 รูปท่ี 7.23 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน…………………………………………………….…………… 172 รูปท่ี 7.24 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน…………………………………………………….…………… 173 รูปท่ี 7.25 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน……………………………………………………….………… 173 รูปท่ี 7.26 การแทรกตัวแปรยูสเซอรเขามาใชงาน………………………………………………………….……… 173 รูปท่ี 7.27 การกําหนดคาตัวแปร………………………………………………………………………………………… 174 รูปท่ี 7.28 แสดงหนา Preview…………………………………………………………………………………………… 174 รูปท่ี 7.29 แสดงหนา Preview…………………………………………………………………………………………… 174 รูปท่ี 7.30 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง…………………………………………………….……… 175 รูปท่ี 7.31 การสรางเง่ือนไขและกําหนดตัวแปรข้ันสูง………………………………………………….………… 175 รูปท่ี 7.32 การกําหนด Action ปุมยอมแพ…………………………………………………………………..……… 176

Page 323: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 7.33 การกําหนด Action ปุมสงคําตอบ…………………………………………………………….………… 176 รูปท่ี 7.34 การกําหนด Action สไลดเนื้อหา………………………………………………………………………… 176 รูปท่ี 7.35 การเขาเมนู Advanced Actions…………………………………………………………..…………… 177 รูปท่ี 7.36 การกําหนดคา Advanced actions……………………………………………………….…………… 178 รูปท่ี 7.37 การกําหนดคุณสมบัติของ Text Entry Box…………………………………………….…………… 178 รูปท่ี 7.38 การกําหนดคา Text Entry Box…………………………………………………………….…………… 178 รูปท่ี 7.39 การกําหนดคา General…………………………………………………………………………..………… 179 รูปท่ี 7.40 การกําหนดคา Character………………………………………………………………………..………… 179 รูปท่ี 7.41 การกําหนดคา Action………………………………………………………………………………..……… 179 รูปท่ี 7.42 การกําหนดคา Options…………………………………………………………………………..………… 180 รูปท่ี 7.43 การกําหนดคา Shadow & Reflection……………………………………………………….……… 180 รูปท่ี 7.44 การกําหนดคา Timing……………………………………………………………………………….……… 180 รูปท่ี 7.45 การกําหนดคา Transition……………………………………………………………………….………… 181 รูปท่ี 7.46 การกําหนดคา Fill & Stroke……………………………………………………………………………… 181 รูปท่ี 7.47 การกําหนดคา Audio………………………………………………………………………………………… 181 รูปท่ี 7.48 การกําหนดคา Reporting……………………………………………………………………..…………… 181 รูปท่ี 7.48 การกําหนดคา Transform…………………………………………………………………….……………182 รูปท่ี 7.50 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง…………………………………………………………………..………… 182 รูปท่ี 7.51 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง…………………………………………………………………..………… 183 รูปท่ี 7.52 การลบและแกไขตัวแปรข้ันสูง……………………………………………………………………..……… 183 บทท่ี 8 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 6 การสรางแบบทดสอบ รูปท่ี 8.1 ประเภทของแบบทดสอบในโปรแกรม Adobe Captivate 7………………….…….……….. 189 รูปท่ี 8.2 การเปดหนาตางการตั้งคาแบบทดสอบ………………………………………………………………… 189 รูปท่ี 8.3 การกําหนดคาแบบรายงาน (Reporting)……………………………………………………………… 190 รูปท่ี 8.4 การตั้งคาแบบทดสอบ (Setting)………………………………………………………………….……… 191 รูปท่ี 8.5 การกําหนดเกณฑการทดสอบ (Pass or Fail)…………………………………………….………… 193 รูปท่ี 8.6 การกําหนดขอความบรรยายใหสไลดแบบทดสอบ (Default Labels)……………………… 193 รูปท่ี 8.7 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ………………………………………………………..….……… 194 รูปท่ี 8.8 การสรางแบบทดสอบแบบเลือกตอบ……………………………………………..…………….……… 195 รูปท่ี 8.9 สไลดแบบทดสอบแบบเลือกตอบ………………………………………………………………………… 195 รูปท่ี 8.10 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 196 รูปท่ี 8.11 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 196

Page 324: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 8.12 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 196 รูปท่ี 8.13 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 197 รูปท่ี 8.14 กําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก…………………………………………………………………..……… 197 รูปท่ี 8.15 กําหนดคะแนนใหแตละตัวเลือก…………………………………………………………………..……… 197 รูปท่ี 8.16 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด…………………………………………………………..……… 198 รูปท่ี 8.17 การสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด…………………………………………………..……………… 198 รูปท่ี 8.18 สไลดแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด……………………………………………………………..………… 199 รูปท่ี 8.19 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด…………………………………….………… 199 รูปท่ี 8.20 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด 200 รูปท่ี 8.21 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด 200 รูปท่ี 8.22 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด 201 รูปท่ี 8.23 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบถูกหรือผิด 201 รูปท่ี 8.24 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง…………………………………………………….…… 201 รูปท่ี 8.25 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง…………………………………………….…………… 202 รูปท่ี 8.26 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง………………………………………………….…………… 202 รูปท่ี 8.27 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง………………………………………….………………… 203 รูปท่ี 8.28 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง………………………………………….………………… 203 รูปท่ี 8.29 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง…………………………………………….……………… 204 รูปท่ี 8.30 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง………………………………………………….………… 204 รูปท่ี 8.31 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําในชองวาง……………………… 205 รูปท่ี 8.32 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ………………………………………..……… 205 รูปท่ี 8.33 การสรางแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ………………………………….…….……… 206 รูปท่ี 8.34 สไลดแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ……………………………………………..……… 206 รูปท่ี 8.35 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ…………………………………………..……… 207 รูปท่ี 8.36 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ………………………………………..………… 207 รูปท่ี 8.37 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ………………………………………..………… 207

Page 325: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 8.38 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ……………………………………………..…… 208 รูปท่ี 8.39 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบเติมคําหรือประโยคสั้นๆ………….… 208 รูปท่ี 8.40 การสรางแบบทดสอบแบบจบัคู…………………………………………………………………………… 209 รูปท่ี 8.41 การสรางแบบทดสอบแบบจบัคู…………………………………………………………………………… 209 รูปท่ี 8.42 สไลดแบบทดสอบแบบจับคู………………………………………………………………………………… 210 รูปท่ี 8.43 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู….……… 210 รูปท่ี 8.44 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู…….…… 211 รูปท่ี 8.45 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู……….… 211 รูปท่ี 8.46 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบจับคู……….… 211 รูปท่ี 8.47 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบจับคู……………………….………………. 212 รูปท่ี 8.48 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ……………………….………………… 212 รูปท่ี 8.49 การสรางแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ……………………….………………… 213 รูปท่ี 8.50 สไลดแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ…………………………….………………… 213 รูปท่ี 8.51 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ…………………………………………… 214 รูปท่ี 8.52 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ……………………….…………………… 214 รูปท่ี 8.53 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ…………………….……………………… 215 รูปท่ี 8.54 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ………………………….………………… 215 รูปท่ี 8.55 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ……… 216 รูปท่ี 8.56 การกําหนดคําตอบท่ีถูกตองใหกับแบบทดสอบแบบชี้จุดตําแหนงหรือจับผิดภาพ……… 216 รูปท่ี 8.57 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง……………………………………………………… 216 รูปท่ี 8.58 การสรางแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง……………………………………………………… 217 รูปท่ี 8.59 สไลดแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง…………………………………………………………… 217 รูปท่ี 8.60 แสดงแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง……………………………………..…………………… 218 รูปท่ี 8.61 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง………………………………………………………… 218 รูปท่ี 8.62 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง………………………………………………………… 219 รูปท่ี 8.63 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง………………………………………………………… 219

Page 326: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 8.64 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบเรียงลําดับกอนหลัง………………………………………………………… 220 รูปท่ี 8.65 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน…………………………………….…………… 220 รูปท่ี 8.66 การสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน…………………………………….…………… 220 รูปท่ี 8.67 สไลดแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน…………………………………….………………… 221 รูปท่ี 8.68 แสดงหนาตางการสรางแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน………………………..…… 221 รูปท่ี 8.69 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน............………………………………….……… 221 รูปท่ี 8.70 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน............………………………………….………222 รูปท่ี 8.71 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน............………………………………….……… 222 รูปท่ี 8.72 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับแบบทดสอบแบบประเมินการใหคะแนน............………………………….……………… 222 รูปท่ี 8.73 การสรางแบบทดสอบแบบแบบสุม………………………………………………………….……………223 รูปท่ี 8.74 เพ่ิมสไลดคําถาม…………………………………………………………………………………..…………… 223 รูปท่ี 8.75 เพ่ิมสไลดคําถาม……………………………………………………………………………………..………… 224 รูปท่ี 8.76 การสุมสไลดคําถาม………………………………………………………………………………….…………224 รูปท่ี 8.77 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม…………….. 225 รูปท่ี 8.78 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม…………….. 225 รูปท่ี 8.79 การกําหนดคุณสมบัติพาเนล Quiz Properties สําหรับการสุมสไลดคําถาม…………….. 225 บทท่ี 9 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 7 การแกไขตกแตงโปรเจ็ค รูปท่ี 9.1 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค……………………………………………………….……………… 231 รูปท่ี 9.2 การกําหนดรายละเอียดใหโปรเจ็ค……………………………………………………….……………… 232 รูปท่ี 9.3 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค………………………………………………….……….……… 232 รูปท่ี 9.4 การกําหนดคุณภาพการแสดงโปรเจ็ค…………………………………………………………..……… 233 รูปท่ี 9.5 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค……………………………………………………….………..……… 233 รูปท่ี 9.6 การกําหนดคาการสงออกโปรเจ็ค……………………………………………………….…………..…… 234 รูปท่ี 9.7 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค………………………………………………….……… 235 รูปท่ี 9.8 การกําหนดจุดเริ่มตนและสิ้นสุดของโปรเจ็ค………………………………………………….……… 236 รูปท่ี 9.9 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ………………………………………………….…….…… 236 รูปท่ี 9.10 การกําหนดคาเริ่มตนใหกับสไลดและวัตถุ……………………………………………………..……… 237

Page 327: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 9.11 การบันทึกคา Preferences……………………………………………………………………..………… 238 รูปท่ี 9.12 การบันทึกคา Preferences……………………………………………………………………..………… 238 รูปท่ี 9.13 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน………………………………………………………..……… 239 รูปท่ี 9.14 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน………………………………………………………..……… 239 รูปท่ี 9.15 การนําคา Preferences กลับมาใชงาน………………………………………………………..……… 240 รูปท่ี 9.16 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)………………………………………………………………… 240 รูปท่ี 9.17 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)………………………………………………………………… 240 รูปท่ี 9.18 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)………………………………………………………………… 241 รูปท่ี 9.19 การสรางแมแบบโปรเจ็ค (Template)………………………………………………………………… 241 รูปท่ี 9.20 การกําหนดรายละเอียดสําหรับ Content Master Slide………………………………….…… 241 รูปท่ี 9.21 การใสวัตถุลงในสไลด……………………………………………………………………………………….…242 รูปท่ี 9.22 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค…………………………………………………………………………..……… 242 รูปท่ี 9.23 การบันทึกแมแบบโปรเจ็ค…………………………………………………………………………..……… 243 รูปท่ี 9.24 การนําแมแบบมาใชงาน………………………………………………………………………………..…… 243 รูปท่ี 9.25 การนําแมแบบมาใชงาน………………………………………………………………………………..…… 243 รูปท่ี 9.26 แสดงสไลดแมแบบท่ีสรางข้ึน……………………………………………………………………….……… 244 รูปท่ี 9.27 การปรับแตง Skin (Playback Control)……………………………………………………………… 244 รูปท่ี 9.28 การกําหนดคาใหกับการควบคุมการเลน (Playback Control)………………………….…… 245 รูปท่ี 9.29 กําหนดคาใหกับเสนขอบ (Borders)……………………………………………………………….…… 246 รูปท่ี 9.30 การสรางตารางสารบัญ (TCC : Table Of Contents)………………………………..………… 247 รูปท่ี 9.31 เลือกสไลดท่ีตองการนําไปแสดงในตารางสารบัญ…………………………………………..……… 247 รูปท่ี 9.32 การกําหนดหัวขอหลักและหัวขอยอย…………………………………………………………………… 247 รูปท่ี 9.33 กําหนดลําดับหัวขอหลักและหัวขอยอย………………………………………………………………… 248 รูปท่ี 9.34 การปรับแตงตารางสารบัญ………………………………………………………………………….……… 249 รูปท่ี 9.35 การปรับแตงตารางสารบัญ………………………………………………………………………….……… 249 รูปท่ี 9.36 การปรับแตงตารางสารบัญ…………………………………………………………………………….…… 251 รูปท่ี 9.37 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ………………………………………………………………… 251 รูปท่ี 9.38 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ………………………………………………………………… 252 รูปท่ี 9.39 การเพ่ิมขอมูลโปรเจ็คในตารางสารบัญ………………………………………………………………… 252 รูปท่ี 9.40 แสดงรายละเอียดท่ีไดกําหนด……………………………………………………………………………… 253 รูปท่ี 9.41 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project)…………………………………………………….…… 253 รูปท่ี 9.42 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project)…………………………………………………….…… 254 รูปท่ี 9.43 การรวบรวมโปรเจ็ค (Aggregator Project)…………………………………………………….…… 254 รูปท่ี 9.44 การกําหนดรายละเอียดตางๆ……………………………………………………………………………… 255

Page 328: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 9.45 การกําหนดรายละเอียดตางๆ……………………………………………………………………………… 255 รูปท่ี 9.46 การบันทึกไฟลโปรเจ็ค………………………………………………………………………………..……… 255 รูปท่ี 9.47 การสงออกไฟลโปรเจ็ค……………………………………………………………………………….……… 256 รูปท่ี 9.48 การสงออกไฟลโปรเจ็ค……………………………………………………………………………….……… 256 รูปท่ี 9.49 การสงออกไฟลโปรเจ็ค……………………………………………………………………………….……… 256 รูปท่ี 9.50 การกําหนดคาการสงออกไฟล……………………………………………………………………..……… 257 รูปท่ี 9.51 การสงออกไฟลโปรเจ็ค……………………………………………………………………………….……… 257 รูปท่ี 9.52 แสดงโปรเจ็คท่ีไดรวมท้ังหมด……………………………………………………………………………… 258 บทท่ี 10 การพัฒนาส่ือมัลติมีเดียแบบปฏิสัมพันธ โดยใชโปรแกรมสําเร็จรูป ตอนท่ี 8 การสงออกและการแกไขโปรเจ็ค รูปท่ี 10.1 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล SWF และ HTML5…………………………………………… 261 รูปท่ี 10.2 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ SWF………………………………………….……… 262 รูปท่ี 10.3 หนาตางแจงการ Publish ไฟล…………………………………………………………………………… 263 รูปท่ี 10.4 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish…………………………………………………………………….……… 263 รูปท่ี 10.5 การกําหนดคาตางๆ ในการสงออกไฟลแบบ HTML5…………………………………..………… 263 รูปท่ี 10.6 การตรวจสอบการสงออกไฟลแบบ HTML5……………………………………………….………… 264 รูปท่ี 10.7 แสดงหนาตาง HTML5 Tracker……………………………………………………………….………… 264 รูปท่ี 10.8 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable……………………………………………….…… 265 รูปท่ี 10.9 การกําหนดคา Media Options……………………………………………………………………….… 266 รูปท่ี 10.10 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล Executable…………………….……………………………… 266 รูปท่ี 10.11 แสดงไฟลท่ีไดทําการ Publish……………………………………………………………………….…… 266 รูปท่ี 10.12 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4……………………………………………………………..… 267 รูปท่ี 10.13 การกําหนดคา Media Option…………………………………………………………………………… 268 รูปท่ี 10.14 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบไฟล MP4……………………………………………………..………… 268 รูปท่ี 10.15 ไฟลท่ีไดจากการ Publish…………………………………………………………………………..……… 268 รูปท่ี 10.16 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล………………………………………………………………………….…… 269 รูปท่ี 10.17 การกําหนดคาตางๆท่ี E-Mail Options………………………………………………………..……… 269 รูปท่ี 10.18 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล…………………………………………………………………….………… 270 รูปท่ี 10.19 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล………………………………………………………………….…………… 270 รูปท่ี 10.20 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล…………………………………………………………………….………… 271 รูปท่ี 10.21 การสงออกโปรเจ็คผานอีเมล……………………………………………………………………….……… 271 รูปท่ี 10.22 การกําหนดรายละเอียดของอีเมล………………………………………………………………………… 272 รูปท่ี 10.23 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คผานอีเมล……………………………….……… 272

Page 329: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีรูปภาพ หนา รูปท่ี 10.24 กรอกรายละเอียดของการสงอีเมล…………………………………………………………….………… 273 รูปท่ี 10.25 การสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP………………………………………………………… 273 รูปท่ี 10.26 การกําหนดคาตางๆท่ี FTP Options…………………………………………………………………… 274 รูปท่ี 10.27 แสดงหนาตางการกําหนดคาการสงออกโปรเจ็คเขาเซิรฟเวอรโดยใช FTP เรียบรอย 274 รูปท่ี 10.28 แสดงหนาตางเว็บไซตท่ีไดทําการอัพโหลดไฟลโปรเจ็ค…………………………………………… 275 รูปท่ี 10.29 การสงออกโปรเจค็ในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Use tables in the output 275 รูปท่ี 10.30 การสงออกโปรเจค็ในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Caption Text………………… 276 รูปท่ี 10.31 การสงออกโปรเจค็ในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Add blank lines for notes 276 รูปท่ี 10.32 การสงออกโปรเจค็ในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Slide notes…………………..…… 276 รูปท่ี 10.33 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include hidden slide…….…. 277 รูปท่ี 10.34 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include mouse path…….….. 277 รูปท่ี 10.35 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Include objects and questions…………………………………………………….………. 278 รูปท่ี 10.36 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Lesson……………………….……… 278 รูปท่ี 10.37 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Step by Step………………….… 279 รูปท่ี 10.38 การสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word แบบ Storyboard………………..……… 279 รูปท่ี 10.39 วิธีการสงออกโปรเจ็คในรูปแบบ Microsoft Word…………………………………..…………… 280 รูปท่ี 10.40 การกําหนดคาตางๆ…………………………………………………………………………………………… 280 รูปท่ี 10.41 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews……………………………………………………….…………… 281 รูปท่ี 10.42 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews………………………………………………………….………… 282 รูปท่ี 10.43 การสงออกโปรเจ็คสําหรับ Reviews………………………………………………………….………… 282 รูปท่ี 10.44 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments………………………………………… 283 รูปท่ี 10.45 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments………………………………………… 283 รูปท่ี 10.46 การกําหนดคา Preferences ใหโฟลเดอร Comments………………………………………… 284

Page 330: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]

ดัชนีตาราง หนา ตารางท่ี 7.1 ตัวแปรระบบ (System Variable) ………………………………………………………….….……… 159 ตารางท่ี 7.2 ตัวแปรประเภท Movie Information………………………………………………………….……… 160 ตารางท่ี 7.3 Project Information……………………………………………………………………….……….……… 163 ตารางท่ี 7.4 ตัวแปรประเภท Quizzing…………………………………………………………….…………….……… 164 ตารางท่ี 7.5 ตัวแปรประเภท System Information…………………………………………….………….……… 165

Page 331: วิชาการผลิตมัลติมีเดีย 1 [Multimedia I]