ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

33
ชื่อ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ชั้น ……………………………………………………………………… หอง …………………………………………………………….. ẺÇÑ´ áÅкѹ·Ö¡¼Å¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ÇÔ·ÂÒÈÒʵà ». 5 ตามมาตรฐานตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 เอกรินทร สี่มหาศาล สุสรดิษฐ ทองเปรม สันทนา พัธนาวิน คณะบรรณาธิการและผูตรวจ จตุพร ใยไพโรจน ทินกร อินทนิล นารีรัตน บุญสม ศรุต เบญจานุวัตร มพครั้งท 1 ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìμÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÔ ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 1538005 ฉบับ เฉลย (à©ÅÂ) ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 1548030 30

Upload: vuongquynh

Post on 31-Dec-2016

229 views

Category:

Documents


6 download

TRANSCRIPT

Page 1: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ชื่อ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ชั้น ……………………………………………………………………… หอง ……………………………………………………………..

ẺÇÑ´áÅкѹ·Ö¡¼Å¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ

ÇÔ·ÂÒÈÒʵÃ� ».5ตามมาตรฐานตัวชี้วัด กลุมสาระการเรียนรูวิทยาศาสตร

ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551

เอกรินทร สี่มหาศาล

สุสรดิษฐ ทองเปรม

สันทนา พัธนาวิน

คณะบรรณาธิการและผูตรวจ

จตุพร ใยไพโรจน

ทินกร อินทนิล

นารีรัตน บุญสม

ศรุต เบญจานุวัตร

พมิพครั้งที่ 1ʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ÔìµÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞѵÔ

ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 1538005

ฉบับเฉลย

(à©ÅÂ) ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 1548030(à©ÅÂ) ÃËÑÊÊÔ¹¤ŒÒ 1548030

Page 2: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

คําชี้แจง

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ไดกําหนดมาตรฐานการเรียนรูและ

ตัวชี้วัดไวเปนกรอบและทิศทางในการกําหนดเนื้อหา ทักษะ กระบวนการเรียนรู กิจกรรมการเรียน

การสอน และการประเมินผลการเรียนรูของผูเรียนวามีระดับความรู ความสามารถ และมีคุณธรรม

จริยธรรม คานิยม ตามท่ีกําหนดไวในมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรูตางๆ

มากนอยเพียงใด รวมถึงพัฒนาการดานสมรรถนะสําคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงคตาม

เปาหมายที่กําหนดไวในหลักสูตรแกนกลางฯ ดวย

มาตรฐานการเรียนรูจึงเปนเปาหมายสําคัญในการพัฒนาผูเรียนใหมีความรูความสามารถ

ครอบคลุม 8 สาระการเรียนรู สวนตัวชี้วัดจะระบุสิ่งที่ผูเรียนตองรูและปฏิบัติได รวมถึงคุณลักษณะ

ท่ีตองเกิดข้ึนกับผูเรยีนในแตละระดับชัน้ สถานศกึษาและผูสอนจงึตองนาํตวัชีว้ดัไปจดัทาํหนวยการ

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ผลการเรียน และพัฒนาการดานตางๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล (ดังแผนภาพ)

จากแผนภาพแสดงถึงการวัดและประเมินผลกับการจัดกระบวนการเรียนรู ตองมีความ

สัมพันธกัน และผูสอนตองดําเนินการวัดผลประเมินผลผูเรียนควบคูกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู

ทกุครัง้ โดยมวีตัถปุระสงคสาํคญัคอื มุงประเมนิผลเพือ่พฒันาการเรยีนรูของนกัเรยีน ตามกระบวนการ

ตอไปนี้

1. การวัดเพื่อปรับปรุงพัฒนาผูเรียนเปนรายบุคคล

2. การวัดอยางตอเนื่องทั้งกอนเรียน ระหวางเรียน และสิ้นสุดการเรียน

เปาหมาย(มาตรฐานตวัชีว้ดั)

ที่มา : VerMont Department of Education, 1996

คณุภาพผูเรยีน

การประเมนิ(ชิน้งาน / ภาระงาน) กจิกรรมการเรยีนรู

ผลการเรียน และพัฒนาการดานตางๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล (ดังแผนภาพ)ฉบับเฉลย

คณุภาพคณุภาพผูเรยีนคณุภาพผูเรยีน

ท่ีตองเกิดข้ึนกับผูเรยีนในแตละระดับชัน้ สถานศกึษาและผูสอนจงึตองนาํตวัชีว้ดัไปจดัทาํหนวยการ

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ท่ีตองเกิดข้ึนกับผูเรยีนในแตละระดับชัน้ สถานศกึษาและผูสอนจงึตองนาํตวัชีว้ดัไปจดัทาํหนวยการ

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

เปาหมาย(มาตรฐานตวัชีว้ดั)

เปาหมาย(มาตรฐานตวัชีว้ดั)

ท่ีตองเกิดข้ึนกับผูเรยีนในแตละระดับชัน้ สถานศกึษาและผูสอนจงึตองนาํตวัชีว้ดัไปจดัทาํหนวยการ

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

เปาหมาย(มาตรฐานตวัชีว้ดั)(มาตรฐานตวัชีว้ดั)

ท่ีตองเกิดข้ึนกับผูเรยีนในแตละระดับชัน้ สถานศกึษาและผูสอนจงึตองนาํตวัชีว้ดัไปจดัทาํหนวยการ

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใชเรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ท่ีตองเกิดข้ึนกับผูเรยีนในแตละระดับชัน้ สถานศกึษาและผูสอนจงึตองนาํตวัชีว้ดัไปจดัทาํหนวยการ

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใชเรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

(มาตรฐานตวัชีว้ดั)(มาตรฐานตวัชีว้ดั)(มาตรฐานตวัชีว้ดั)(มาตรฐานตวัชีว้ดั)

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

เปาหมาย

เรียนรู จัดกระบวนการเรียนรู และกิจกรรมการเรียนการสอน รวมถึงกําหนดเกณฑสําคัญที่จะใช

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

เปาหมาย

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ผลการเรียน และพัฒนาการดานตางๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล (ดังแผนภาพ)

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ผลการเรียน และพัฒนาการดานตางๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล (ดังแผนภาพ)

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ผลการเรียน และพัฒนาการดานตางๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล (ดังแผนภาพ)

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ผลการเรียน และพัฒนาการดานตางๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล (ดังแผนภาพ)

สําหรับประเมินผลผูเรียน เพื่อตรวจสอบคุณภาพผูเรียนแตละคน พรอมทั้งจัดทําหลักฐานรายงาน

ผลการเรียน และพัฒนาการดานตางๆ ของผูเรียนเปนรายบุคคล (ดังแผนภาพ)

Page 3: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

3. การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนที่สะทอนระดับความกาวหนาทางการเรียน

4. การประเมนิสภาพจรงิทีส่ะทอนความถนดัและความสามารถทีเ่ปนจริงของผูเรียนเพ่ือจดัทาํ

หลักฐานบันทึกผลการเรียนรูแสดงคุณภาพผูเรียนเปนรายบุคคล (ปพ.9)

การจัดทาํแบบวัดและบนัทกึผลการเรยีนรูของผูเรยีนเปนรายบคุคลฉบบันี ้จงึมวีตัถปุระสงค

สําคัญเพื่ออํานวยความสะดวกแกผูสอน ในการนํากิจกรรมและเครื่องมือที่ออกแบบไวนี้ไปประยุกต

ใชเปนเคร่ืองมือวดัผลเพือ่ตรวจสอบผลการเรยีนรูทีเ่กดิขึน้กบัผูเรยีน จะไดนาํผลการวดัมาปรบัปรงุ

พัฒนาผูเรียนแตละคนจนเต็มศักยภาพตามเปาหมายของหลักสูตร

ท้ังนีก้ารวดัผลประเมนิผลระดบัชัน้เรยีน จดัเปนภาระงานสาํคญัทีส่ดุในกระบวนการวดัผล

ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาท่ีสถานศึกษาแตละแหงกาํหนดไว

ดงันัน้ การประเมนิผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตอง

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ผลการเรียนของผูเรียนไดอยางม่ันใจวา ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ความสามารถที่เกิดขึ้นจริงของผูเรียนแตละคน ซึ่งมีคาความเที่ยงตรงและคาความเชื่อม่ันสูง

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรูของผูเรียนฉบับนี้ จึงเปนประโยชนตอผูสอนและผูเรียน

ที่จะใชวางแผนการประเมินผลการเรียนรูรวมกัน เพื่อนําไปสูการพัฒนาคุณภาพผูเรียนตาม

เปาหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ทุกประการ

คณะผูจัดทํา

ฉบับเฉลย

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

แสดงใหเห็นถึงความสามารถของผูสอนในดานการจัดการเรียนรูที่เนนผูเรียนเปนสําคัญ และดาน

การจัดระบบประกันคุณภาพผูเรียนที่สามารถตรวจสอบและรายงานผลแกผูปกครองนักเรียนได

ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ซึ่งมีคาความเที่ยงตรงและคาความเชื่อม่ันสูง

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ผลการเรียนของผูเรียนไดอยางม่ันใจวา ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ความสามารถที่เกิดขึ้นจริงของผูเรียนแตละคน

ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ความสามารถที่เกิดขึ้นจริงของผูเรียนแตละคน ซึ่งมีคาความเที่ยงตรงและคาความเชื่อม่ันสูง

ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ประเมินผลของผูสอน เพราะตองการวัดความรู ทักษะ และความสามารถที่เกิดกับผูเรียนทุกคน

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ซึ่งมีคาความเที่ยงตรงและคาความเชื่อม่ันสูง

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรูผลการเรียนของผูเรียนไดอยางม่ันใจวา ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ความสามารถที่เกิดขึ้นจริงของผูเรียนแตละคน

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ผลการเรียนของผูเรียนไดอยางม่ันใจวา

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ผูสอนจะไดนาํผลการวดัเหลานัน้ไปวางแผนจดัการเรยีนการสอนใหสอดคลองกบัความสามารถของ

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ระดับผลการเรียนที่ตัดสินนั้นสอดคลองกับระดับความรู

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาท่ีสถานศึกษาแตละแหงกาํหนดไว

ดงันัน้ การประเมนิผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตอง

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาท่ีสถานศึกษาแตละแหงกาํหนดไว

ดงันัน้ การประเมนิผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตอง

สรางหรือเลือกใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพสอดคลองกับตัวชี้วัด เพื่อนําผลการวัดมาใชตัดสิน

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาท่ีสถานศึกษาแตละแหงกาํหนดไว

ดงันัน้ การประเมนิผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตอง

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาท่ีสถานศึกษาแตละแหงกาํหนดไว

ดงันัน้ การประเมนิผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตอง

ผูเรียนเปนรายบุคคล รายกลุม และหรือรายหองเรียน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใหได

ตามเกณฑประกันคุณภาพการศึกษาท่ีสถานศึกษาแตละแหงกาํหนดไว

ดงันัน้ การประเมนิผลผูเรียนจึงจําเปนตองใชเครื่องมือวัดผลที่มีคุณภาพ ซึ่งผูสอนตอง

Page 4: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

สารบัญ

✪ แบบแสดงผลการประเมินคุณภาพตามตัวชี้วัดชั้นป ก

หนวยการเรียนรูที่ 1 มหัศจรรยสิ่งมีชีวิต 1บทที่ 1 การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 1 แบบฝกกิจกรรมที่ 1 1 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 2 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.2 ป.5/1 3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.2 ป.5/2 5บทที่ 2 ศึกษาชีวิตพืช 7 แบบฝกกิจกรรมที่ 1 7 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 8 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 9 แบบฝกกิจกรรมที่ 4 10 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 11 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3 16 บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18 แบบฝกกิจกรรมที่ 1 18 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 19 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 20 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5 23 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 1 25

หนวยการเรียนรูที่ 2 ความหลากหลายของพืชและสัตว 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26 แบบฝกกิจกรรม 26 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.2 ป.5/3 28 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.2 ป.5/4 29บทที่ 2 ความหลากหลายของสัตว 31 แบบฝกกิจกรรม 31 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.2 ป.5/5 32 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 2 33

หนวยการเรียนรูที่ 3 วัสดุในชีวิตประจําวัน 26 34บทที่ 1 สมบัติของวัสดุกับการนําไปใช 34 แบบฝกกิจกรรม 34 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 3.1 ป.5/1 36 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 3.1 ป.5/2 38ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 3 39

บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18ฉบับเฉลย

หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26หนวยการเรียนรูที่ 2 บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26

ความหลากหลายของพืชและสัตวบทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26บทที่ 1 ความหลากหลายของพืช 26

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 1

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 1

แบบฝกกิจกรรมที่ 4 10 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 1

แบบฝกกิจกรรมที่ 4 10 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3

แบบฝกกิจกรรมที่ 4 10 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 1

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 1

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2 13แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3 16 บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 18 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 19 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 20

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3 16 บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 18 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 19 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4 20

บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18แบบฝกกิจกรรมที่ 1 18 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 19

บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18แบบฝกกิจกรรมที่ 1 18 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 19

บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว 18แบบฝกกิจกรรมที่ 1 18 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 19

Page 5: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

หนวยการเรียนรูที่ 4 แรงและความดัน 40บทที่ 1 แรงลัพธ 40 แบบฝกกิจกรรม 40 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.1 ป.5/1 41บทที่ 2 ความดันและแรงพยุงตัว 43 แบบฝกกิจกรรมที่ 1 43 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 44 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 45 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.1 ป.5/2 46 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.1 ป.5/3 47 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.1 ป.5/4 48 บทที่ 3 แรงเสียดทาน 51 แบบฝกกิจกรรม 51 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1 52ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4 54

หนวยการเรียนรูที่ 5 เสียงกับการไดยิน 55บทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55 แบบฝกกิจกรรมที่ 1 55 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 56 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 57 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1 58 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 60 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 5 64

หนวยการเรียนรูที่ 6 นํ้า ฟา และดวงดาว 65บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65 แบบฝกกิจกรรมที่ 1 65 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 66 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 67 แบบฝกกิจกรรมที่ 4 68 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 6.1 ป.5/1 69 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 6.1 ป.5/2 70 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 6.1 ป.5/3 71 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 6.1 ป.5/4 72 บทที่ 2 ปรากฏการณในทองฟา 76 แบบฝกกิจกรรม 76 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 7.1 ป.5/1 77 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 6 79✪ แบบประเมินผลกระบวนการทางวิทยาศาสตร 80✪ แบบทดสอบประเมินผลสัมฤทธิ์ฯ ประจําภาคเรียนที่ 1 81✪ แบบทดสอบประเมินผลสัมฤทธิ์ฯ ประจําภาคเรียนที่ 2 84✪ โครงงานนักเรียน 88

ฉบับเฉลย

หนวยการเรียนรูที่ 6 บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65หนวยการเรียนรูที่ 6 บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65หนวยการเรียนรูที่ 6 หนวยการเรียนรูที่ 6 บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65หนวยการเรียนรูที่ 6 บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65หนวยการเรียนรูที่ 6 หนวยการเรียนรูที่ 6 นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65หนวยการเรียนรูที่ 6 บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65หนวยการเรียนรูที่ 6 บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาวบทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

นํ้า ฟา และดวงดาว บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

บทที่ 1 ปรากฏการณลมฟาอากาศ 65

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4

เสียงกับการไดยินบทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4

เสียงกับการไดยินบทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1

เสียงกับการไดยิน

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 5แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 5แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4

เสียงกับการไดยินเสียงกับการไดยินบทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1 ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 4

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 4.2 ป.5/1

เสียงกับการไดยินหนวยการเรียนรูที่ 5 เสียงกับการไดยินบทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55หนวยการเรียนรูที่ 5 บทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55หนวยการเรียนรูที่ 5

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 5แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 5แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/4 61แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3

เสียงกับการไดยินบทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59

เสียงกับการไดยินบทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/3 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59

บทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55แบบฝกกิจกรรมที่ 1 55 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 56 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 57 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1 58แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/2 59แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1

บทที่ 1 เสียงรอบตัวเรา 55แบบฝกกิจกรรมที่ 1 55 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 56 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 57 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1 58

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 55 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 56 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 57 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 55 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 56 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 57 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 55 แบบฝกกิจกรรมที่ 2 56 แบบฝกกิจกรรมที่ 3 57 แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ว 5.1 ป.5/1

Page 6: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

แบบแสดงผลการประเมินคุณภาพตามตัวชี้วัดชั้นป

รายวิชา วิทยาศาสตร ป.5มาตรฐาน

การเรียนรู

ตัวชี้วัดชั้น ป.5 การวัดและประเมินผล ระดับคุณภาพ

สรุปผลการประเมิน

ระดับคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู

หนวยที่/บทที่

วิธีการประเมิน

เครื่องมือประเมินผล

4 3 2 1

มฐ. ว 1.1

1. สังเกต และระบุสวนประกอบของดอกและโครงสรางที่เกี่ยวของกับการสืบพันธุของพืชดอก

หนวยที่ 1บทที่ 2

ตรวจ ก. 1.3 และบทส. ปรนัย

● ก. *1.3 ดูภาพ แลวบันทึกขอมูล และตอบคําถาม

● บทส.* ปรนัย

ว 1.1

2. อธิบายการสืบพันธุของพืชดอก การขยายพันธุพืช และนําความรูไปใชประโยชน

หนวยที่ 1บทที่ 2

ตรวจ ก. 1.4 และบทส. ปรนัย

● ก. 1.4 ขอ 1 ดูภาพแลวเขียนอธิบาย

● ก. 1.4 ขอ 2 เขียนอธิบายประกอบภาพ

● บทส. ปรนัย

3. อธิบายวัฏจักรชีวิตของพืชดอกบางชนิด

หนวยที่ 1บทที่ 2

ตรวจ ก. 1.5 และบทส. ปรนัย

● ก. 1.5 เขียนอธิบาย วัฏจักรของพืช

● บทส. ปรนัย

4. อธิบายการสืบพันธุและการขยายพันธุของสัตว

หนวยที่ 1บทที่ 3

ตรวจ ก.1.6 และบทส. ปรนัย

● ก. 1.6 ขอ 1 ตอบคาํถาม● ก. 1.6 ขอ 2 เตมิแผนภมูิ● บทส. ปรนัย

5. อภิปรายวัฏจักรชีวิตของสัตวบางชนิด และนําความรูไปใชประโยชน

หนวยที่ 1บทที่ 3

ตรวจ ก. 1.7 และบทส. ปรนัย

● ก. 1.7 สืบคนขอมูลวัฏจักรของสัตว แลวเขียนอธิบาย

● บทส. ปรนัย

มฐ. ว 1.2

1. สํารวจ เปรียบเทียบและระบุลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว

หนวยที่ 1บทที่ 1

ตรวจ ก. 1.1 และบทส. ปรนัย

● ก. 1.1 ติดภาพครอบครัว แลวเขียนเปรียบเทียบลักษณะ

● บทส. ปรนัย

ว 1.2

2. อธิบายการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตในแตละรุน

หนวยที่ 1บทที่ 1

ตรวจ ก. 1.2 และบทส. ปรนัย

● ก. 1.2 ตอบคําถาม● บทส. ปรนัย

3. จําแนกพืชออกเปนพืชดอกและพืชไมมีดอก

หนวยที่ 2บทที่ 1

ตรวจ ก. 2.1 และบทส. ปรนัย

● ก. 2.1 จาํแนกพชืมดีอกและพืชไมมีดอก

● บทส. ปรนัย

4. ระบุลักษณะของพืชดอกที่เปนพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและพืชใบเลีย้งคู โดยใชลักษณะภายนอกเปนเกณฑ

หนวยที่ 2บทที่ 1

ตรวจ ก. 2.2 และบทส. ปรนัย

● ก. 2.2 เขียนอธิบายลักษณะของพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและใบเลี้ยงคู

● บทส. ปรนัย

* ก. หมายถึง กิจกรรมรวบยอด * บทส. หมายถึง แบบทดสอบ

ฉบับเฉลย

1. สํารวจ เปรียบเทียบ หนวยที่ 1บทที่ 1หนวยที่ 1บทที่ 1

ตรวจ ก. 1.1 ตรวจ ก. 1.1 ตรวจ ก. 1.1 ● ก. 1.1 ติดภาพก. 1.1 ติดภาพก. 1.1 ติดภาพก. 1.1 ติดภาพ

● ก. 1.4 ขอ 2 เขียนอธิบายประกอบภาพบทส. ปรนัย

บทส. ปรนัย

ก. 1.7 สืบคนขอมูลวัฏจักรของสัตว แลว

ตรวจ ก. 1.7 บทส. ปรนัย

บทส. ปรนัย●

ตรวจ ก. 1.7 บทส. ปรนัย

เขียนอธิบายก. 1.4 ขอ 2 เขียนอธิบายประกอบภาพอธิบายประกอบภาพบทส. ปรนัย

ก. 1.7 สืบคนขอมูลวัฏจักรของสัตว แลวเขียนอธิบาย

บทส. ปรนัย

ก. 1.7 สืบคนขอมูลตรวจ ก. 1.7 และบทส. ปรนัย

หนวยที่ 1 ตรวจ ก. 1.7

อธิบายประกอบภาพบทส. ปรนัย

บทส. ปรนัย

ตรวจ ก. 1.7 ก. 1.7 สืบคนขอมูล

● บทส. ปรนัย

● บทส. ปรนัย

3. อธิบายวัฏจักรชีวิตของพืชดอกบางชนิด

หนวยที่ 1 ก. 1.5 เขียนอธิบาย

4. อธิบายการสืบพันธุและการขยายพันธุของ บทที่ 3 และบทส. ปรนัย ก. 1.6 ขอ 2 เตมิแผนภมูิ

บทส. ปรนัย

3. อธิบายวัฏจักรชีวิตของพืชดอกบางชนิด

หนวยที่ 1บทที่ 2

ตรวจ ก. 1.5 และบทส. ปรนัย

● ก. 1.5 เขียนอธิบาย วัฏจักรของพืช

● บทส. ปรนัย

4. อธิบายการสืบพันธุและการขยายพันธุของ

หนวยที่ 1บทที่ 3

ตรวจ ก.1.6 และบทส. ปรนัย

ก. 1.6 ขอ 1 ตอบคาํถาม● ก. 1.6 ขอ 2 เตมิแผนภมูิ

บทส. ปรนัย วัฏจักรของพืช บทส. ปรนัย

ตรวจ ก.1.6 ● ก. 1.6 ขอ 1 ตอบคาํถาม

บทที่ 2 และ

หนวยที่ 1บทที่ 3

ตรวจ ก.1.6

วัฏจักรของพืช บทส. ปรนัย

ก. 1.6 ขอ 1 ตอบคาํถาม

Page 7: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

มาตรฐานการ

เรียนรู

ตัวชี้วัดชั้น ป.5 การวัดและประเมินผล ระดับคุณภาพ

สรุปผลการประเมิน

ระดับคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู

หนวยที่/บทที่

วิธีการประเมิน

เครื่องมือประเมินผล

4 3 2 1

5. จาํแนกสัตวออกเปนกลุมโดยใชลักษณะภายในบางลกัษณะและลักษณะภายนอกเปนเกณฑ

หนวยที่ 2บทที่ 2

ตรวจ ก. 2.3 และบทส. ปรนัย

● ก. 2.3 จําแนกประเภทของสัตว

● บทส. ปรนัย

มฐ. ว 3.1

1. ทดลองและอธิบายสมบัติของวัสดุชนิดตางๆ เกี่ยวกับความยืดหยุน ความแข็ง ความเหนียว การนําความรอน การนาํไฟฟาและความหนาแนน

หนวยที่ 3บทที่ 1

ตรวจ ก. 3.1 และบทส. ปรนัย

● ก. 3.1 ออกแบบการทดลองและบันทึกขอมูล

● บทส. ปรนัย

ว 3.1

❏2. สืบคนขอมูลและ

อภิปรายการนําวัสดุไปใชในชีวิตประจําวัน

หนวยที่ 3บทที่ 2

ตรวจ ก. 3.2 และบทส. ปรนัย

● ก. 3.2 เขียนอธิบาย การเลือกใชวัสดุ ● บทส. ปรนัย

มฐ.ว 4.1

1. ทดลองและอธิบายการหาแรงลพัธของแรงสองแรงซึ่งอยูในแนวเดยีวกนัทีก่ระทาํตอวตัถุ

หนวยที่ 4บทที่ 1

ตรวจ ก.4.1 และบทส. ปรนัย

● ก. 4.1 วาดภาพ หรือติดภาพ และบันทึกขอมูล

● บทส. ปรนัย

ว 4.1

2. ทดลองและอธิบายความดันอากาศ

หนวยที่ 4บทที่ 2

ตรวจ ก.4.2 และบทส. ปรนัย

● ก. 4.2 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

3. ทดลองและอธิบายความดันของของเหลว

หนวยที่ 4บทที่ 2

ตรวจ ก.4.3 และบทส. ปรนัย

● ก. 4.3 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

4. ทดลองและอธิบายแรงพยุงของของเหลว การลอยตัวและการจมของวัตถุ

หนวยที่ 4บทที่ 2

ตรวจ ก. 4.4 และบทส. ปรนัย

● ก. 4.4 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

มฐ.ว 4.2

1. ทดลองและอธิบายแรงเสียดทาน และนําความรูไปใชประโยชน

หนวยที่ 4บทที่ 3

ตรวจ ก. 4.5 และบทส. ปรนัย

● ก. 4.5 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

ว 4.2

มฐ.ว 5.1

1. ทดลองและอธิบายการเกิดเสียง และการเคลื่อนที่ของเสียง

หนวยที่ 5บทที่ 1

ตรวจ ก. 5.1 และบทส. ปรนัย

● ก. 5.1 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัยว 5.1

❏2. ทดลองและอธิบายการ

เกิดเสียงสูง เสียงตํ่า หนวยที่ 5บทที่ 1

ตรวจ ก. 5.2 และบทส. ปรนัย

● ก. 5.2 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

3. ทดลองและอธิบายเสียงดัง เสียงคอย

หนวยที่ 5บทที่ 1

ตรวจ ก. 5.3และบทส. ปรนัย

● ก. 5.3 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

ฉบับเฉลย

หนวยที่ 4หนวยที่ 4

บทส. ปรนัยบทส. ปรนัยบทส. ปรนัยบทส. ปรนัย

ก. 3.2 เขียนอธิบาย การเลือกใชวัสดุ

ตรวจ ก. 3.2 และบทส. ปรนัย

ก. 4.2 ดูภาพ แลวตอบคําถามบทส. ปรนัย

ตรวจ ก.4.2 และบทส. ปรนัยบทส. ปรนัย

ก. 3.2 เขียนอธิบายก. 3.2 เขียนอธิบาย การเลือกใชวัสดุ

ตรวจ ก. 3.2 หนวยที่ 3 ตรวจ ก. 3.2 และ

แลวตอบคําถามบทส. ปรนัย

ก. 4.2 ดูภาพ แลวตอบคําถามบทส. ปรนัย

หนวยที่ 4 ตรวจ ก.4.2 และ

ตรวจ ก. 3.2 และบทส. ปรนัย

● ก. 3.2 เขียนอธิบาย การเลือกใชวัสดุ

ตรวจ ก.4.2 บทส. ปรนัย

ก. 4.2 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

ตรวจ ก. 3.2 บทส. ปรนัย

● ก. 3.2 เขียนอธิบาย การเลือกใชวัสดุ

ตรวจ ก.4.2 บทส. ปรนัย

● ก. 4.2 ดูภาพ

อภิปรายการนําวัสดุไปใชในชีวิตประจําวัน

การเลือกใชวัสดุ บทส. ปรนัย

1. ทดลองและอธิบายการหาแรงลพัธของแรงสองแรงซึ่งอยูในแนวเดยีวกนัทีก่ระทาํตอวตัถุสองแรงซึ่งอยูในแนวเดยีวกนัทีก่ระทาํตอวตัถุสองแรงซึ่งอยูในแนว

หนวยที่ 4

ไปใชในชีวิตประจําวัน ● บทส. ปรนัย

1. ทดลองและอธิบายการหาแรงลพัธของแรงสองแรงซึ่งอยูในแนวเดยีวกนัทีก่ระทาํตอวตัถุสองแรงซึ่งอยูในแนวเดยีวกนัทีก่ระทาํตอวตัถุสองแรงซึ่งอยูในแนว

หนวยที่ 4บทที่ 1

ตรวจ ก.4.1 และบทส. ปรนัย

● ก. 4.1 วาดภาพ หรือติดภาพ และบันทึกขอมูลบทส. ปรนัย

ตรวจ ก.4.1 บทส. ปรนัย

● ก. 4.1 วาดภาพ หรือติดภาพ และบันทึกขอมูล

● บทส. ปรนัย

1. ทดลองและอธิบายการ

สองแรงซึ่งอยูในแนวเดยีวกนัทีก่ระทาํตอวตัถุ

หนวยที่ 4บทที่ 1

ตรวจ ก.4.1 และ

4.1 วาดภาพ หรือติดภาพ และบันทึกขอมูลบทส. ปรนัย

Page 8: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

มาตรฐานการ

เรียนรู

ตัวชี้วัดชั้น ป.5 การวัดและประเมินผล ระดับคุณภาพ

สรุปผลการประเมิน

ระดับคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู

หนวยที/่บทที่

วิธีการประเมิน

เครื่องมือประเมินผล

4 3 2 1

4. สํารวจ และอภิปรายอันตรายที่เกิดขึ้นเมื่อฟงเสียงดังมากๆ

หนวยที่ 5บทที่ 1

ตรวจ ก. 5.4และบทส. ปรนัย

● ก. 5.4 ดูภาพ แลวตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

มฐ. ว 6.1

1. สํารวจ ทดลองและอธิบายการเกิดเมฆ หมอก นํ้าคาง ฝนและลูกเห็บ

หนวยที่ 6บทที่ 1

ตรวจ ก. 6.1 และบทส. ปรนัย

● ก. 6.1 เขียนอธิบายการเกิดปรากฏการณ

● บทส. ปรนัย

ว 6.1

2. ทดลองและอธิบายการเกิดวัฏจักรนํ้า

หนวยที่ 6บทที่ 1

ตรวจ ก. 6.2 และบทส. ปรนัย

● ก. 6.2 วาดภาพ แลวเขียนอธิบาย● บทส. ปรนัย

3. ออกแบบและสรางเครื่องมืออยางงายในการวัดอุณหภูมิ ความชื้น และความกดอากาศ

หนวยที่ 6บทที่ 1

ตรวจ ก. 6.3 และบทส. ปรนัย

● ก. 6.3 ดูภาพ แลวเขียนอธิบาย

● บทส. ปรนัย

4. ทดลองและอธิบายการเกิดลม และนําความรูไปใชประโยชนในชีวิตประจําวัน

หนวยที่ 6บทที่ 1

ตรวจ ก. 6.4 และบทส. ปรนัย

● ก. 6.4 ดูการทดลอง และตอบคําถาม

● บทส. ปรนัย

มฐ. ว 7.1

1. สังเกตและอธิบายการเกิดทิศและปรากฏการณการขึ้น-ตกของดวงดาว โดยใชแผนที่ดาว

หนวยที่ 6บทที่ 2

ตรวจ ก. 6.5 และบทส. ปรนัย

● ก. 6.5 ตอบคําถาม● บทส. ปรนัย ว 7.1

❏มฐ. ว 8.1

ขอ 1-8 บูรณาการสูการจัดการเรียนการสอน

เกณฑการประเมิน

3.25 - 4.00 = ดีมาก 2.50 - 3.24 = ดี 1.75 - 2.49 = พอใช 1.00 - 1.74 = ผาน

หมายเหตุ : 1. ใหผูสอนนาํผลการประเมนิตวัชีว้ดัในแตละหนวยการเรยีนรูมาสรปุผลการประเมนิเปนระดับคุณภาพ โดยขีด ✓ ลงในชองตามผลการประเมินของนักเรียนแตละคน

2. ใหผูสอนประเมินผลระดับคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู โดยรวมคาระดบัคณุภาพ ของตัวชี้วัดในแตละมาตรฐาน แลวหารดวยจํานวนตัวชี้วัดในแตละมาตรฐาน จะได

คาเฉลี่ยระดับคุณภาพออกมา แลวนําคาเฉล่ียระดับคุณภาพไปเทียบกับเกณฑการประเมิน ดังนี้

ฉบับเฉลย

ปรากฏการณการขึ้น-ตกของดวงดาว

บทส. ปรนัย

ก. 6.3 ดูภาพ แลวเขียนอธิบาย

ตรวจ ก. 6.3 และบทส. ปรนัย

และตอบคําถามบทส. ปรนัย

และ

บทส. ปรนัย แลวเขียนอธิบาย●

ตรวจ ก. 6.3

ตรวจ ก. 6.5 ●

แลวเขียนอธิบายบทส. ปรนัย

6.3 ดูภาพ 6.3 ดูภาพ แลวเขียนอธิบาย

ตรวจ ก. 6.3 หนวยที่ 6บทที่ 1

ตรวจ ก. 6.3 และ

ก. 6.5 ตอบคําถาม

และตอบคําถามบทส. ปรนัย

ตรวจ ก. 6.5

ตรวจ ก. 6.3 และบทส. ปรนัย

● ก. 6.3 ดูภาพ แลวเขียนอธิบาย

และบทส. ปรนัย และตอบคําถามบทส. ปรนัย

ตรวจ ก. 6.3 บทส. ปรนัย แลวเขียนอธิบาย

บทส. ปรนัย และตอบคําถาม● บทส. ปรนัย

เครื่องมืออยางงายในการวัดอุณหภูมิ ความชื้น และความ

บทที่ 1 และบทส. ปรนัย แลวเขียนอธิบาย

4. ทดลองและอธิบายการเกิดลม และนํา บทที่ 1 และบทส. ปรนัย และตอบคําถาม

ในการวัดอุณหภูมิ ความชื้น และความ

● บทส. ปรนัย

4. ทดลองและอธิบายการเกิดลม และนํา

หนวยที่ 6บทที่ 1

ตรวจ ก. 6.4 บทส. ปรนัย

● ก. 6.4 ดูการทดลอง และตอบคําถาม

ตรวจ ก. 6.4 ● ก.

ความชื้น และความ

หนวยที่ 6 ตรวจ ก. 6.4 6.4 ดูการทดลอง

Page 9: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ·Õè

บทที ่ 1 การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

1ÁËÑȨÃÃÂ�ÊÔè§ÁÕªÕÇÔµ

ติดภาพตนเอง และภาพสมาชิกในครอบครัว (พอ แม พี่ หรือนอง) ลงในกรอบ จากนั้นเขียน

เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

คําชี้แจง : การสังเกตและเปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว ทาํใหสามารถระบลุกัษณะทีเ่หมือนกนัหรอืแตกตางกนัของตนเองกับคนในครอบครัวได

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 ตัวเรากับสมาชิกในครอบครัว

การเปรียบเทียบลักษณะของฉันกับ …………………………..

ลักษณะทางพันธุกรรม

เหมอืนกัน

ตางกัน

มีลักษณะ

1) เสนผม

2) สีผม

3) สีผิว

4) รูปใบหนา

5) หนังตา

6) ลักยิ้ม

………….

………….

………….

………….

………….

………….

………….

………….

………….

………….

………….

………….

………………………………………

………………………………………

………………………………………

………………………………………

………………………………………

………………………………………

จากลักษณะทางพันธุกรรมที่ สังเกต

ตัวฉัน และ………………………มีลักษณะที่เหมือนกัน

ดังนี้ .............................................................................................................................

............................................................................................................................................

............................................................................................................................................

นี่คือภาพตัวฉัน

นี่คือภาพ……………………….ของฉัน

ฉบับเฉลย

(ตัวอยาง)

พี่ชาย

พี่ชาย

เหยียดตรงสีดําพี่ผิวคลํ้า ฉันผิวขาวพี่ทรงรี ฉันทรงกลมหนังตา 2 ชั้นไมมีลักยิ้มเหมือนกัน

พี่ชาย

มีเสนผม สีผม คลายคลึงกัน มีหนังตา

2 ชั้นเหมือนกัน และไมมีลักยิ้มเหมือนกัน

1

3) สีผิว3) สีผิว3) สีผิว ………….…………. ………….✓…………. ………………………………………พี่ผิวคลํ้า ฉันผิวขาวพี่ทรงรี ฉันทรงกลม

(พอ แม พี่ หรือนอง) ติดภาพตนเอง และภาพสมาชิกในครอบครัว

เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

พันธุกรรมพันธุกรรมเหมอืน

1) เสนผม1) เสนผม

(พอ แม พี่ หรือนอง)

พันธุกรรมพันธุกรรม

1) เสนผม

(พอ แม พี่ หรือนอง)(พอ แม พี่ หรือนอง) ติดภาพตนเอง และภาพสมาชิกในครอบครัว ติดภาพตนเอง และภาพสมาชิกในครอบครัว

เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

1) เสนผม

เหมอืนกัน

ติดภาพตนเอง และภาพสมาชิกในครอบครัว (พอ แม พี่ หรือนอง)

เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

ลักษณะทางพันธุกรรม

ติดภาพตนเอง และภาพสมาชิกในครอบครัว (พอ แม พี่ หรือนอง)

เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

ลักษณะทางพันธุกรรม

เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

การเปรียบเทียบลักษณะของฉันกับ

ลักษณะทาง เหมอืน ตาง

(ตัวอยาง)เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

การเปรียบเทียบลักษณะของฉันกับ

ลักษณะทาง เหมอืน ตาง

(ตัวอยาง)เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

การเปรียบเทียบลักษณะของฉันกับ

เปรียบเทียบลักษณะของตนเองกับบุคคลนั้น

การเปรียบเทียบลักษณะของฉันกับ

(ตัวอยาง)

Page 10: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

จําแนกการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตใหถูกตอง

คําชี้แจง : การเรยีนรูเกีย่วกบัการถายทอดลกัษณะทางพนัธกุรรมของสิง่มชีวีติ ทาํใหสามารถอธบิายการถายทอดลักษณะทางพันธกุรรมของส่ิงมีชีวิตในแตละรุนได

แบบฝกกิจกรรมที่ 2 การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

ขอบใบหยัก ขนสีดําสนิท เสนผมหยักศก

ผิวสีดําแดง มีลักยิ้ม ดอกสีขาว

ใบหูตั้ง ขนสั้นเกรียน เมล็ดเรียบ

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

คน สัตว พืช

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

………………………………………………………..

ฉบับเฉลย

● เสนผมหยักศก● ผิวสีดําแดง● มีลักยิ้ม● หนังตาสองชั้น● หอลิ้นไมได● ถนัดมือซาย

● ขนสีดําสนิท● ใบหูตั้ง● ขนสั้นเกรียน● หางขอด

● ขอบใบหยัก● ดอกสีขาว● เมล็ดเรียบ● ลําตนสูง● ใบดาง

2

……………………………………………………….. เสนผมหยักศก……………………………………………………….. ………………………………………………………..● ขนสีดําสนิท ใบหูตั้ง

……………………………………………………….. ขนสีดําสนิท ใบหูตั้ง

……………………………………………………….. ขนสีดําสนิท ใบหูตั้ง

……………………………………………………….. ขนสีดําสนิท……………………………………………………….. ขนสีดําสนิท………………………………………………………..……………………………………………………….. ………………………………………………………..………………………………………………………..● ขอบใบหยัก ดอกสีขาว

………………………………………………………..………………………………………………………..……………………………………………………….. ขอบใบหยัก ดอกสีขาว

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

ใบหูตั้ง ขนสั้นเกรียน เมล็ดเรียบ

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

สัตว

ใบหูตั้ง ขนสั้นเกรียน เมล็ดเรียบ

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

ใบหูตั้ง ขนสั้นเกรียน เมล็ดเรียบ

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

หนังตาสองชั้น ลําตนสูง หางขอด

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

การถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม

ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย ใบดาง หอลิ้นไมได ถนัดมือซาย

Page 11: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ประจําหนวยที ่1 บทที ่1

แบบประเมินตัวชี้วัด ว 1.2 ป.5/1

• สํารวจ เปรียบเทียบ และระบุลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัว

ชุดที่ 1 5 คะแนน

กิจกรรมรวบยอดที่ 1.1

ติดภาพครอบครัวของตนเอง และเขียนบอกลักษณะของตนเองในครอบครัว

1) ลักษณะของนักเรียนที่เหมือนกับคนในครอบครัว มีดังนี ้

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2) นักเรียนมีลักษณะเหมือนกับ …………………………………………………… มากที่สุดตัวชี้วัด ว 1.2 ขอ 1ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

ฉบับเฉลย

ฉันมีผิวขาวเหมือนคุณพอและคุณแม

ฉันมีหนังตาชั้นเดียวเหมือนคุณแม

ฉันมีเสนผมเหยียดตรงและผมสีดําเหมือนคุณพอ

ฉันมีิติ่งหูเหมือนคุณแม

(ตัวอยาง)

คุณแม

3

Page 12: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ชุดที่ 2 5 คะแนน

1. ลูกควรมีลักษณะเหมือนใครมากที่สุด

ก. ปูยา

ข. ลุงปา

ค. พอแม

ง. ตายาย

2. พอของเราควรมีลักษณะเหมือนใคร

มากที่สุด

ก. ลูก ข. ปูยา

ค. ตายาย ง. พี่นอง

3. จากคําตอบในขอ 2. เปนเพราะเหตุใด

ก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับ

ลูกๆ

ข. เพราะพอเปนลูกของปูยาจึงไดรับ

การถายทอดลักษณะบางสวนจาก

ปูยา

ค. เพราะพีน่องของพอจะไดรบัการ

ถายทอดลกัษณะเชนเดยีวกบัพอ

ง. ไมมีขอใดกลาวถูกตอง

ค. พอแม พอแม

ก. ลูก ข. ปูยาก. ลูก ข. ปูยา

ข. เพราะพอเปนลูกของปูยาจึงไดรับ เพราะพอเปนลูกของปูยาจึงไดรับ

4. ถาพอถนัดมือซาย ใครมีโอกาสถนัด

มือซายไดเหมือนพอ

ก. แม

ข. นา

ค. ตา

ง. ลูก

5. ใครในครอบครัวที่ลักษณะเหมือนกัน

มากที่สุด

ก. พี่ชาย-นองสาว

ข. พี่ชาย-นองชาย

ค. พี่สาว-นองสาว

ง. พี่นองฝาแฝดง. พี่นองฝาแฝด พี่นองฝาแฝด

วง รอบตัวอักษรหนาคําตอบที่ถูกที่สุด

ตัวชี้วัด ว 1.2 ขอ 1ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

เกณฑประเมินชิ้นงาน

การบอกลักษณะของคนในครอบครัว (5 คะแนน)

• ติดภาพครอบครัวของตนเอง 1 คะแนน

• บอกลักษณะของตนเองกับคนในครอบครัวไดชัดเจน 3 ขอขึ้นไป 3 คะแนน

• บอกไดวาตนเองเหมือนใครมากที่สุด 1 คะแนน

2. 2. ฉบับเฉลย

4

ก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับ

เปนเพราะเหตุใด

ก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับ

เปนเพราะเหตุใด

ก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับ

เปนเพราะเหตุใด

ก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับ

เปนเพราะเหตุใด

ก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับ

เปนเพราะเหตุใด

ก. เพราะพอยอมมีลักษณะเหมือนกับ ค. พี่สาว-นองสาวค. พี่สาว-นองสาวค. พี่สาว-นองสาวค. พี่สาว-นองสาวค. พี่สาว-นองสาวค. พี่สาว-นองสาว

ข. นา

มากที่สุด

ก. แม

ข. นา

มากที่สุด

ก. พี่ชาย-นองสาว

มากที่สุด

ก. พี่ชาย-นองสาว

ปูยา

ค. ตายาย ง. พี่นอง

ข. นา

มากที่สุด

มากที่สุด

พอของเราควรมีลักษณะเหมือนใคร

ใครในครอบครัวที่ลักษณะเหมือนกัน

พอของเราควรมีลักษณะเหมือนใคร

ค. ตา

ลูก

5. 5. ใครในครอบครัวที่ลักษณะเหมือนกัน

ง.พอของเราควรมีลักษณะเหมือนใคร

5. 5.

พอของเราควรมีลักษณะเหมือนใคร

ค. ตา

ลูก

ใครในครอบครัวที่ลักษณะเหมือนกัน

ง. ลูก ลูก

Page 13: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ตัวชี้วัด ว 1.2 ขอ 2ไดคะแนน คะแนนเต็ม

10

ตอบคําถามตอไปนี้

1) สิ่งมีชีวิตมีการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมอยางไร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2) สมโชคเปนนักกีฬาวายนํ้าเหมือนกับคุณพอ เปนการถายทอดลักษณะทาง

พันธุกรรมหรือไม เพราะอะไร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอได

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

กินขาวผัดปูเหมือนกัน ชอบดื่มนมรสช็อกโกแลตเหมือนกัน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

5) ลักษณะทางพันธุกรรมใดบางที่สามารถถายทอดมาสูลูกได บอกมา 4 อยาง

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ชุดที่ 1 10 คะแนน

กิจกรรมรวบยอดที่ 1.2

แบบประเมินตัวชี้วัด ว 1.2 ป.5/2

• อธิบายการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตในแตละรุน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ฉบับเฉลย

สิง่มชีวิีตจะมกีารถายทอดลกัษณะจากพอแมไปสูลกู โดยอาจมลีกัษณะบางอยางคลายคลึงกับพอหรือมีลักษณะบางอยางคลายคลึงกับแม

ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตองฝกฝนดวยตนเอง

เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของคุณตา

เพราะนัทนนทและณัฐพลตางไดรับการถายทอดลักษณะจากพอแมของตนเอง

(ตัวอยาง) รูปรางหนาตา ความสูง สีผิว สีผม ลักษณะเสนผม ลักยิ้ม

5

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

4) เพราะเหตุใดนัทนนทจึงไมมีรูปรางหนาคลายคลึงกับณัฐพล ซึ่งเปนเพื่อน

สนทิกนั และชอบสิง่ตางๆ เหมอืนกนั เชน ชอบเลนฟตุบอลเหมอืนกนั ชอบ

2) สมโชคเปนนักกีฬาวายนํ้าเหมือนกับคุณพอ เปนการถายทอดลักษณะทาง2) สมโชคเปนนักกีฬาวายนํ้าเหมือนกับคุณพอ เปนการถายทอดลักษณะทาง

พันธุกรรมหรือไม เพราะอะไร

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอไดเพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอไดเพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2) สมโชคเปนนักกีฬาวายนํ้าเหมือนกับคุณพอ เปนการถายทอดลักษณะทาง

เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2) สมโชคเปนนักกีฬาวายนํ้าเหมือนกับคุณพอ เปนการถายทอดลักษณะทาง2) สมโชคเปนนักกีฬาวายนํ้าเหมือนกับคุณพอ เปนการถายทอดลักษณะทาง

พันธุกรรมหรือไม เพราะอะไรพันธุกรรมหรือไม เพราะอะไร

เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอไดเพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอไดเพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….เพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

พันธุกรรมหรือไม เพราะอะไร

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอไดเพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ

พันธุกรรมหรือไม เพราะอะไร

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอไดเพราะวิภาวีไดรับการถายทอดลักษณะจากคุณตาผานทางคุณแมซึ่งเปนลูกของ

พันธุกรรมหรือไม เพราะอะไร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอได

ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฝกฝนดวยตนเอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอได

ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฝกฝนดวยตนเอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอได

ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอได

ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ฝกฝนดวยตนเอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3) เพราะเหตุใดวิภาวีจึงมีหนาตาเหมือนคุณตาของเธอได

ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ไมใชการถายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพราะการวายนํ้าเปนทักษะที่ตอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

Page 14: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ชุดที่ 2 5 คะแนน

1. สิ่งใดที่ทําใหคนแตละคนมีลักษณะที่

แตกตางกัน

ก. ขณะตั้งครรภเมื่อแมดูรูปใครบอยๆ

ลูกจะมีลักษณะเหมือนคนนั้น

ข. ความใกลชิดกับผูที่เลี้ยงดู ทําใหมี

ลักษณะเหมือนกับผูเลี้ยงดู

ค. ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไดรับการ

ถายทอดจากพอแม

ง. เปนไปไดทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

2. หนวยพันธุกรรมที่ควบคุมการถายทอด

ลักษณะตางๆ อยูในสวนใด

ก. ยีน ข. เม็ดเลือด

ค. ตอมเหงื่อ ง. เนื้อเยื่อ

3. ลักษณะใดที่มีการถายทอดในสัตว

ก. มีติ่งหู

ข. ผิวขาว

ค. หางขอด

ง. หอลิ้นได

ค. ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไดรับการ ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไดรับการ

ก. ยีน ข. เม็ดเลือด ยีน ข. เม็ดเลือด

ค. หางขอด หางขอด

4. ลักษณะในขอใดเปนการถายทอดทาง

พันธุกรรมในสัตว

ก. เจาโตงชอบกินหนอนเหมือนแม

ข. เจาแตมขนหยิกเหมือนพอ

ค. เจาเหมียววิ่งเร็วเหมือนแม

ง. เจาดุกดิกเหาเสียงดัง

5. ลักษณะใดไมสามารถถายทอด

ทางพันธุกรรม

ก. สีผม สีผิว

ข. ลักยิ้ม ติ่งหู

ค. รูปหนา ความสูง

ง. นิสัย ความชอบ

ข. เจาแตมขนหยิกเหมือนพอ เจาแตมขนหยิกเหมือนพอ

ง. นิสัย ความชอบ นิสัย ความชอบ

วง รอบตัวอักษรหนาคําตอบที่ถูกที่สุด

ตัวชี้วัด ว 1.2 ขอ 2ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

เกณฑประเมินชิ้นงาน

การเขียนอธิบายคําตอบ (5 ขอ ขอละ 2 คะแนน)

• เขียนอธิบายคําตอบไดถูกตอง ชัดเจน และมีใจความสําคัญครบถวน 2 คะแนน

• เขียนอธิบายคําตอบไดถูกตอง แตมีใจความสําคัญไมสมบูรณ 1 คะแนน

ฉบับเฉลย

6

ลักษณะตางๆ อยูในสวนใด

ยีน ข. เม็ดเลือด

ลักษณะตางๆ อยูในสวนใด

ยีน ข. เม็ดเลือด

ลักษณะตางๆ อยูในสวนใด

ยีน ข. เม็ดเลือด ยีน ข. เม็ดเลือด ยีน ข. เม็ดเลือด

ค. รูปหนา ความสูงค. รูปหนา ความสูง

นิสัย ความชอบ นิสัย ความชอบ นิสัย ความชอบ

ค. รูปหนา ความสูง

นิสัย ความชอบ

ค. รูปหนา ความสูง

นิสัย ความชอบ

ค. รูปหนา ความสูง

นิสัย ความชอบ

ค. เจาเหมียววิ่งเร็วเหมือนแม

ข. ลูกจะมีลักษณะเหมือนคนนั้น

ข. ความใกลชิดกับผูที่เลี้ยงดู ทําใหมี

ทางพันธุกรรม

ก. สีผม สีผิวง. เปนไปไดทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

หนวยพันธุกรรมที่ควบคุมการถายทอด

ขณะตั้งครรภเมื่อแมดูรูปใครบอยๆ

หนวยพันธุกรรมที่ควบคุมการถายทอด

เจาแตมขนหยิกเหมือนพอข. เจาแตมขนหยิกเหมือนพอ เจาแตมขนหยิกเหมือนพอ เจาแตมขนหยิกเหมือนพอ

ค. เจาเหมียววิ่งเร็วเหมือนแม

ขณะตั้งครรภเมื่อแมดูรูปใครบอยๆ

ลูกจะมีลักษณะเหมือนคนนั้น ลูกจะมีลักษณะเหมือนคนนั้น

ข. ความใกลชิดกับผูที่เลี้ยงดู ทําใหมี

ก. สีผม สีผิว

ข. ลักยิ้ม ติ่งหู

ทางพันธุกรรม

ก. สีผม สีผิวง. เปนไปไดทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

หนวยพันธุกรรมที่ควบคุมการถายทอด

ง. เปนไปไดทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

ข. ความใกลชิดกับผูที่เลี้ยงดู ทําใหมี ค. เจาเหมียววิ่งเร็วเหมือนแม

ทางพันธุกรรม

ข. ความใกลชิดกับผูที่เลี้ยงดู ทําใหมี ค. เจาเหมียววิ่งเร็วเหมือนแม

ทางพันธุกรรม

ข. ความใกลชิดกับผูที่เลี้ยงดู ทําใหมี

ลักษณะเหมือนกับผูเลี้ยงดู

ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไดรับการ

ถายทอดจากพอแม

ค. เจาเหมียววิ่งเร็วเหมือนแม

ง. เจาดุกดิกเหาเสียงดัง

ลักษณะใดไมสามารถถายทอด

ทางพันธุกรรม

ข. ความใกลชิดกับผูที่เลี้ยงดู ทําใหมี

ลักษณะเหมือนกับผูเลี้ยงดู

ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไดรับการ

ถายทอดจากพอแม

ง. เจาดุกดิกเหาเสียงดัง

5. 5. ลักษณะใดไมสามารถถายทอด

ทางพันธุกรรม

ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไดรับการ

5. 5.

ลักษณะเหมือนกับผูเลี้ยงดู

ลักษณะทางพันธุกรรมที่ไดรับการ

ง. เจาดุกดิกเหาเสียงดัง

ลักษณะใดไมสามารถถายทอด

Page 15: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ดูภาพดอกไม และเขียนชื่อสวนประกอบของดอกไมใหถูกตอง

บทที่ 2 ศึกษาชีวิตพืช

คําชี้แจง : การสงัเกตสวนประกอบของดอกไม ทาํใหสามารถระบสุวนประกอบของดอกและโครงสรางที่เกี่ยวของกับการสืบพันธุของพืชดอกได

หมายเลข ➀ คือ ………………………………………………….

หมายเลข ➁ คือ ………………………………………………….

หมายเลข ➂ คือ ………………………………………………….

หมายเลข ➃ คือ ………………………………………………….

หมายเลข ➀ คือ ………………………………………………….

หมายเลข ➁ คือ ………………………………………………….

หมายเลข ➂ คือ ………………………………………………….

หมายเลข ➃ คือ ………………………………………………….

1) 2)

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 ดอกไมสวยสด

➂ ➂

➁ ➁

ฉบับเฉลย

กลีบเลี้ยงเกสรเพศผูเกสรเพศเมียกลีบดอก

กานชูอับเรณูอับเรณูยอดเกสรเพศเมียรังไข

7

➃➃

Page 16: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

1 เลือกตัวอักษรหนาขอความมาเติมลงใน ของภาพท่ีสัมพันธกัน และเรียงลําดับ

ขั้นตอนใหถูกตอง

1

แบบฝกกิจกรรมที่ 2 การสืบพันธุของพืชดอก

คําชี้แจง : การศึกษาเกี่ยวกับการสืบพันธุของพืชดอก ทําใหสามารถอธิบายการสืบพันธุของพืชดอก และนําความรูไปใชประโยชนได

ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย

ข. เกสรเพศผูสรางเซลลสืบพันธุเพศผู

ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

2 ตอบคําถามจากกิจกรรมในขอ 1

1) จากภาพในขอ 1 เปนกระบวนการใด .....................................................................................................

2) ขั้นตอนแรกของกระบวนการนี้คืออะไร .......................................................................................................

3) การที่ละอองเรณูเขาผสมกับเซลลไขเรียกวาอะไร .....................................................................

4) หลังจากกระบวนการในขอ 1 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยางไร ........................

...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

2 ตอบคําถามจากกิจกรรมในขอ 1

1 เปนกระบวนการใด

1 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยางไร

1) 2) 3)

ขั้นตอนที่…….. ขั้นตอนที่…….. ขั้นตอนที่……..

ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมียฉบับเฉลย

การสบืพนัธแุบบอาศยัเพศของพชืดอก

การถายละอองเรณู

การปฏิสนธิ

สวนประกอบของดอก ไดแก กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู และเกสร

เพศเมียจะแหงและรวงไป รังไขเจริญเปนผล ออวุลเจริญไปเปนเมล็ด

3 2 1

ก ค

8

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

จ. เกสรเพศเมียจะแหงแลวรวงหลุดไป

ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข ง. ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข

ข. เกสรเพศผูสรางเซลลสืบพันธุเพศผู

ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย

ข. เกสรเพศผูสรางเซลลสืบพันธุเพศผู

ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย

ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย

ข. เกสรเพศผูสรางเซลลสืบพันธุเพศผู

ค. ละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย

ข. เกสรเพศผูสรางเซลลสืบพันธุเพศผู ข. เกสรเพศผูสรางเซลลสืบพันธุเพศผู

ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย

ข. เกสรเพศผูสรางเซลลสืบพันธุเพศผู

ขั้นตอนที่…….. ขั้นตอนที่……..

ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย

ขั้นตอนที่…….. ขั้นตอนที่…….. ขั้นตอนที่……..

ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย

ขั้นตอนที่……..

ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย

ขั้นตอนที่……..ขั้นตอนที่……..3ขั้นตอนที่……..

ก. ละอองเรณูงอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย

ขั้นตอนที่……..ขั้นตอนที่……..2ขั้นตอนที่……..

Page 17: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ดูภาพ และบอกวาเปนวิธีการขยายพันธุพืชโดยวิธีใด

แบบฝกกิจกรรมที่ 3 มาขยายพันธุพืชดวยกัน

คําชี้แจง : การศึกษาเก่ียวกับการขยายพันธุพืชดวยวิธีตางๆ ทําใหสามารถอธิบายวิธีการขยายพันธุพืช และนําความรูไปใชประโยชนได

4) …………………………………………………………………………

1) ………………………………………………. 2) ………………………………………………. 3) ……………………………………………….

5) …………………………………………………………………………

6) ………………………………………………………………………… 7) …………………………………………………………………………

ฉบับเฉลย

การติดตา

การทาบกิ่ง

การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

การตอนกิ่ง

การเสียบยอด

การปกชําการเพาะเมล็ด

9

การเพาะเมล็ดการเพาะเมล็ดการเพาะเมล็ด………………………………………………. 2) 3) ……………………………………………….การติดตา การเพาะเมล็ด………………………………………………. 2) ………………………………………………. 3) ……………………………………………….การเพาะเมล็ด2) 3)

Page 18: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ดูภาพ และเขียนอธิบายวัฏจักรชีวิตของตนถั่วฝกยาว

แบบฝกกิจกรรมที่ 4 วัฏจักรชีวิตของพืชดอก

คําชี้แจง : การเรยีนรูเกีย่วกบัวฏัจกัรชวิีตของพืชดอกบางชนดิ ทาํใหสามารถอธิบายวัฏจักรชีวิตของพืชดอกได

1) …………………………………………………………………………

………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………..

5) …………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………

3) …………………………………………………………

…………………………………………………………

………………………………………………………..

2) …………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………

4) …………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………

ฉบับเฉลย

นําเมล็ดตนถั่วฝกยาวมาปลูก

ดอกไดรับการผสมจนออกฝก(ผล) ภายในฝกมีเมล็ดที่สามารถงอกเปนตนใหมได

เจริญเติบโตจนมีดอก

ใบแทเริ่มงอก

รากงอกออกจากเมล็ด

10

………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… ………………………………………………………… …………………………………………………………

ใบแทเริ่มงอกใบแทเริ่มงอก

Page 19: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ประจําหนวยที ่1 บทที ่2

แบบประเมินตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/1

• สังเกต และระบุสวนประกอบของดอกและโครงสรางที่เกี่ยวของกับการสืบพันธุของพืชดอก

ชุดที่ 1 5 คะแนน

กิจกรรมรวบยอดที่ 1.3

ดูภาพ และเติมขอมูลลงในชองวาง จากนั้นตอบคําถาม

โครงสรางของดอกสวนใดบางที่เกี่ยวของกับการสืบพันธุ และเกี่ยวของ

อยางไร

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 1ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

1) …………………………………..

2) ………………………………….. 3) …………………………………..

4) …………………………………..

5) …………………………………..6) …………………………………..

ฉบับเฉลย

กลีบดอก

เกสรเพศผู เกสรเพศเมีย

รังไข

เกสรเพศผู เกสรเพศเมยี โดยละอองเรณจูากเกสรเพศผูเขาผสมกบัเซลลไข และ

เกิดการปฏิสนธิ

ออวุล กลีบเลี้ยง

11

กลีบเลี้ยงกลีบเลี้ยงกลีบเลี้ยงกลีบเลี้ยง

…………………………………..

Page 20: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ชุดที่ 2 5 คะแนน

1. ขอใดไมใชสวนประกอบของเกสรเพศผู

ก. ออวุล

ข. อับเรณู

ค. ละอองเรณู

ง. กานชูอับเรณู

2. ขอใดคือเซลลสืบพันธุเพศผูของ

พืชดอก

ก. ออวุล

ข. เซลลไข

ค. อับเรณู

ง. ละอองเรณู

3. ขอใดเปนดอกสมบูรณเพศ

ก. ดอกตําลึง

ข. ดอกมะยม

ค. ดอกมะเขอื

ง. ดอกฟกทอง

ก. ออวุล ออวุล

ง. ละอองเรณู ละอองเรณู

ค. ดอกมะเขอื ดอกมะเขอื

4. ขอใดถูกตองเกี่ยวกับเกสรเพศเมีย

ก. เปนสวนที่อยูถัดเขามาจาก

กลีบดอก

ข. มีสีสันสวยงามเพื่อลอแมลง

ค. สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย

ง. ถูกทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

5.

จากภาพ A คือโครงสรางใดของดอก

ก. เกสรเพศเมีย

ข. เกสรเพศผู

ค. กลีบเลี้ยง

ง. กลีบดอก

ข. เกสรเพศผู เกสรเพศผู

วง รอบตัวอักษรหนาคําตอบที่ถูกที่สุด

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 1ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

เกณฑประเมินชิ้นงาน

การเติมขอมูล (3 คะแนน)

• บอกสวนประกอบของดอกไดถูกตอง 2 ขอ 1 คะแนน

การตอบคําถาม (2 คะแนน)

• เขียนอธิบายคําตอบไดถูกตอง ชัดเจน และมีใจความสําคัญครบถวน 2 คะแนน

A

2. 2. ฉบับเฉลย

12

ละอองเรณู

ข. มีสีสันสวยงามเพื่อลอแมลงข. มีสีสันสวยงามเพื่อลอแมลงข. มีสีสันสวยงามเพื่อลอแมลงข. มีสีสันสวยงามเพื่อลอแมลง

ง. กานชูอับเรณู

ขอใดคือเซลลสืบพันธุเพศผูของ

สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย

ง. ถูกทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย ง. กานชูอับเรณู

ขอใดคือเซลลสืบพันธุเพศผูของ

สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย

ง. ถูกทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

5. 5.

ค. สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย

ขอใดคือเซลลสืบพันธุเพศผูของ

5. 5.

ขอใดคือเซลลสืบพันธุเพศผูของ

สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย

ง. ถูกทั้ง 3 ขอที่กลาวมา

ค. สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย สรางเซลลสืบพันธุเพศเมีย

Page 21: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 2ไดคะแนน คะแนนเต็ม

6

1 ดูภาพและเขียนอธิบายขั้นตอนการสืบพันธุของพืชดอกประกอบภาพ 1

ชุดที่ 1 15 คะแนน

กิจกรรมรวบยอดที่ 1.4

แบบประเมินตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/2

• อธิบายการสืบพันธุของพืชดอก การขยายพันธุพืช และนําความรูไปใชประโยชน

การสืบพันธุของพืชดอกมีขั้นตอน ดังนี้

ขั้นที่ 1 .........................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................

ขั้นที่ 2 .........................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................

ขั้นที่ 3 .........................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................

................................................................................................................................................................................................................................................

ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3

ฉบับเฉลย

เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสรเพศเมีย

ละอองเรณู งอกหลอดไปตามเกสรเพศเมีย

ละอองเรณูงอกหลอดเขาไปผสมกับเซลลไข เกิดการปฏิสนธิ

13

เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร .........................................................................................................................................................................................................................

การสืบพันธุของพืชดอกมีขั้นตอน ดังนี้ เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร ......................................................................................................................................................................................................................... เกิดการถายละอองเรณู โดยละอองเรณูปลิวไปตกบนยอดเกสร .........................................................................................................................................................................................................................

ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3

การสืบพันธุของพืชดอกมีขั้นตอน ดังนี้ การสืบพันธุของพืชดอกมีขั้นตอน ดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3

การสืบพันธุของพืชดอกมีขั้นตอน ดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 ขั้นที่ 3

Page 22: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 2ไดคะแนน คะแนนเต็ม

9

2 วาดภาพหรือติดภาพการขยายพันธุพืชที่นักเรียนสนใจ 1 วิธี และเขียนอธิบายขั้นตอนการ

ขยายพันธุมาพอสังเขป จากนั้นตอบคําถาม

2

การขยายพันธุพืชโดยวิธี ...............................................................................................................................................................

มีขั้นตอน ดังนี ้..............................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

นักเรียนจะนําวิธีการขยายพันธุนี้ไปใชประโยชนไดอยางไรบาง .......................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

การขยายพันธุพืชโดยวิธี

มีขั้นตอน ดังนี้

การขยายพันธุพืชโดยวิธี

มีขั้นตอน ดังนี้ฉบับเฉลย

ติดตา

(ตัวอยาง)

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T 3) ใชปลายมีดเปดเปลือกไม แลวเฉือนแผนตาจากกิ่งพันธุดีออกมา 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง 5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 6) ทิ้งไวประมาณ 2-3 สัปดาห เมื่อแผนตาติดกับตนตอและแตกกิ่ง จึงตัดยอดตนพันธุพื้นเมืองทิ้ง

1) นําไปขยายพันธุตนพืชที่บาน 2) แนะนําใหเปนความรูกับผูอื่น

14

4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง 5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง............................................................................................................................................................................................................................................................... 4) นําแผนตาของตนพันธุดีมาเสียบเขาไปในรอยกรีดของตนพันธุพื้นเมือง...............................................................................................................................................................................................................................................................

5) ใชแผนพลาสติกพันจากดานลางขึ้นดานบน และเปดสวนตาเอาไว

(ตัวอยาง)

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T...............................................................................................................................................................................................................................................................

3) ใชปลายมีดเปดเปลือกไม แลวเฉือนแผนตาจากกิ่งพันธุดีออกมา

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T...............................................................................................................................................................................................................................................................

3) ใชปลายมีดเปดเปลือกไม แลวเฉือนแผนตาจากกิ่งพันธุดีออกมา

(ตัวอยาง)

2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T...............................................................................................................................................................................................................................................................

3) ใชปลายมีดเปดเปลือกไม แลวเฉือนแผนตาจากกิ่งพันธุดีออกมา

(ตัวอยาง)(ตัวอยาง)

2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T...............................................................................................................................................................................................................................................................

3) ใชปลายมีดเปดเปลือกไม แลวเฉือนแผนตาจากกิ่งพันธุดีออกมา

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T...............................................................................................................................................................................................................................................................

3) ใชปลายมีดเปดเปลือกไม แลวเฉือนแผนตาจากกิ่งพันธุดีออกมา

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T............................................................................................................................................................................................................................................................... 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T...............................................................................................................................................................................................................................................................

(ตัวอยาง)

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T

(ตัวอยาง)

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง 2) ใชมีดคมๆ กรีดเปลือกลําตนของตนพันธุพื้นเมืองเปนรูปตัว T

การขยายพันธุพืชโดยวิธี ...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................................................

............................................................................................................................................................................................................................................................... 1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง............................................................................................................................................................................................................................................................... 1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง...............................................................................................................................................................................................................................................................

การขยายพันธุพืชโดยวิธี ...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................................................

ติดตา

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................................................

ติดตา

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง

การขยายพันธุพืชโดยวิธี ...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................................................

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................................................

1) คัดเลือกตนพันธุดี และตนพันธุพื้นเมืองที่แข็งแรง

Page 23: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ชุดที่ 2 5 คะแนน

1. ขั้นตอนแรกของการสืบพันธุของ

พืชดอกคือขอใด

ก. ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี

ข. พชืสรางเกสรเพศผูและเกสรเพศเมีย

ค. ละอองเรณูเขาผสมกับเซลลไข

ง. ดอกของพืชสรางเซลลสืบพันธุ

2. ขอใดไมมีการปฏิสนธิ

ก. การปกชํา

ข. การตอนกิ่ง

ค. การทาบกิ่ง

ง. ทุกขอที่กลาวมา

3. ขอใดไมเกี่ยวของกับการสืบพันธุแบบ

อาศัยเพศของพืชดอก

ก. การผสมกันของเซลลสืบพันธุ

ข. การเพาะเลีย้งเนือ้เยือ่

ค. การถายละอองเรณู

ง. การปฏิสนธิ

ก. ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี

ง. ทุกขอที่กลาวมา ทุกขอที่กลาวมา

ข. การเพาะเลีย้งเนือ้เยือ่ การเพาะเลีย้งเนือ้เยือ่

4. ขอใดเปนขอเสียของการขยายพันธุ

พืชโดยใชสวนตางๆ ของพืช

ก. พืชใหผลชา

ข. พืชกลายพันธุ

ค. พืชไมแข็งแรง

ง. พืชเปนโรคงาย

5. สวนใดของเกสรเพศเมีย ทําหนาที่

ดักจับละอองเรณู

ก. รังไข

ข. ออวุล

ค. เซลลไข

ง. ยอดเกสรเพศเมียง. ยอดเกสรเพศเมีย ยอดเกสรเพศเมีย

วง รอบตัวอักษรหนาคําตอบที่ถูกที่สุด

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 2ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

• เขียนขั้นตอนการสืบพันธุไดถูกตองและสอดคลองกับภาพ 2 คะแนน

เกณฑประเมินชิ้นงาน

ขอ 1 การเขียนอธิบาย (6 คะแนน)

ขอ 2 การเขียนอธิบายและตอบคําถาม (9 คะแนน) • วาดภาพหรือติดภาพการขยายพันธุพืช ภาพชัดเจน ดูแลวเกิดความเขาใจ 2 คะแนน

• เขยีนอธบิายการขยายพันธไุดถกูตอง สอดคลองกบัภาพ มใีจความสาํคญัครบถวน

โดยแบงขั้นตอนเปนขอๆ เพื่อใหเขาใจงาย

5 คะแนน

• บอกวิธีนําความรูไปใชประโยชนได 2 ขอ 2 คะแนน

ฉบับเฉลย

15

ข. การตอนกิ่ง ก. รังไขก. รังไขก. รังไข

พืชโดยใชสวนตางๆ ของพืช

ก. พืชใหผลชา ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี

ง. พืชเปนโรคงาย

5. สวนใดของเกสรเพศเมีย ทําหนาที่

ง. ดอกของพืชสรางเซลลสืบพันธุ

4. 4.

5. 5.

ขอใดเปนขอเสียของการขยายพันธุ

พืชโดยใชสวนตางๆ ของพืชพืชโดยใชสวนตางๆ ของพืช

ก. พืชใหผลชา

ขั้นตอนแรกของการสืบพันธุของ

ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี

5. สวนใดของเกสรเพศเมีย ทําหนาที่

ง. พืชเปนโรคงาย

สวนใดของเกสรเพศเมีย ทําหนาที่

ง. ดอกของพืชสรางเซลลสืบพันธุ

ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี ก. พืชใหผลชา

ง. ดอกของพืชสรางเซลลสืบพันธุ ง. พืชเปนโรคงาย

5. 5.

ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี ก. พืชใหผลชา

ง. ดอกของพืชสรางเซลลสืบพันธุ ง. พืชเปนโรคงาย

ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี

ข. พชืสรางเกสรเพศผูและเกสรเพศเมีย

ค. ละอองเรณูเขาผสมกับเซลลไข

ง. ดอกของพืชสรางเซลลสืบพันธุ

ก. พืชใหผลชา

ข. พืชกลายพันธุ

พืชไมแข็งแรง

ง. พืชเปนโรคงาย

ละอองเรณไูปตกบนยอดเกสรเพศเมยี

ข. พชืสรางเกสรเพศผูและเกสรเพศเมีย

ค. ละอองเรณูเขาผสมกับเซลลไข

ง. ดอกของพืชสรางเซลลสืบพันธุ

ก. พืชใหผลชา

ข. พืชกลายพันธุ

พืชไมแข็งแรง

ง. พืชเปนโรคงาย

ค.

ข. พชืสรางเกสรเพศผูและเกสรเพศเมีย

ค. ละอองเรณูเขาผสมกับเซลลไข

ข. พชืสรางเกสรเพศผูและเกสรเพศเมีย

ค. ละอองเรณูเขาผสมกับเซลลไข

ข. พืชกลายพันธุ

พืชไมแข็งแรง ค. พืชไมแข็งแรง พืชไมแข็งแรง

Page 24: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

สืบคนขอมูลวัฏจักรของพืชดอกที่สนใจมา 1 ชนิด แลวเขียนแผนภาพแสดงวัฏจักรชีวิตของพืช

ชนิดนี้ จากนั้นเขียนอธิบายวัฏจักรชีวิตของพืชประกอบแผนภาพ

ชุดที่ 1 10 คะแนน

กิจกรรมรวบยอดที่ 1.5

แบบประเมินตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/3

• อธิบายวัฏจักรชีวิตของพืชดอกบางชนิด

วัฏจักรชีวิตของตน .................................................................................................................................................................................

พืชชนิดนี้มีวัฏจักรชีวิต ดังนี ้...................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 3 ไดคะแนน คะแนนเต็ม

10

ฉบับเฉลย

มะเขือ เมื่อนําเมล็ดมะเขือไปปลูก เมล็ดจะงอกเปนตนกลาจากตนกลาเจริญเติบโตขึ้นเปนตนมะเขือตนใหญ เมื่อตนมะเขือตนใหญเจริญเติบโตเต็มท่ีจะออกดอก เมื่อดอกไดรับการผสมพันธุจะเกิดผล เมล็ดจากผลมะเขือที่แกสามารถงอกเปนตนมะเขือตนใหมตอไป

(ตัวอยาง)

7 วัน15 วัน

เมล็ด

30-40 วัน

ตนกลาผลมะเขือ

10-15 วัน

16

10-15 วัน

เมล็ด

Page 25: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

1. พืชชนิดใดมีวัฏจักรชีวิตยืนยาวที่สุด

ก. ตนหอม

ข. คะนา

ค. ขนุน

ง. ผักชี

2.

พืชชนิดใดมีวัฏจักรชีวิตตามแผนภาพ

ก. เฟรน

ข. พุทรา

ค. มะมวง

ง. ถูกทั้งขอ ข. และ ค.

ค. ขนุน ขนุน

ง. ถูกทั้งขอ ข. และ ค. ถูกทั้งขอ ข. และ ค.

ชุดที่ 2 5 คะแนน

3. จากแผนภาพในขอ 2. พืชชนิดใด

ไมมีวัฏจักรชีวิตตามแผนภาพ

ก. เฟรน

ข. พุทรา

ค. มะมวง

ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข.

4. ขอใดไมมีเมล็ดอยูภายใน

ก. ฝกถั่ว

ข. ผลเงาะ

ค. ผลสมโอ

ง. หัวเผือก

5. การที่วัฏจักรชีวิตของพืชไมสามารถ

ดําเนินตอไปได จะเกิดผลตอพืช

อยางไร

ก. พืชสูญพันธุ

ข. พืชกลายพันธุ

ค. พืชไมมีผลผลิต

ง. พืชไมเจริญเติบโต

ง. หัวเผือก หัวเผือก

ก. พืชสูญพันธุ พืชสูญพันธุ

วง รอบตัวอักษรหนาคําตอบที่ถูกที่สุด

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 3ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

เกณฑประเมินชิ้นงาน

การเขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิต (5 คะแนน)

• เขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิตของพืชไดถูกตอง ครบถวน 3 คะแนน

• แผนภาพดูเขาใจงาย แสดงความคิดสรางสรรค และตกแตงสวยงาม 2 คะแนน การตอบคําถาม (5 คะแนน)

• เขียนอธิบายประกอบแผนภาพไดถูกตอง ชัดเจน มีความสอดคลองกับแผนภาพ

และมีใจความสําคัญครบถวน

4 คะแนน

• เขียนตัวหนังสือเรียบรอยมีตัวสะกดผิดไมเกิน 2 แหง 1 คะแนน

ตนออน

เมล็ด ตนแก

ดอกผล

ฉบับเฉลย

17

ตนแกตนแก ข. ผลเงาะข. ผลเงาะข. ผลเงาะข. ผลเงาะข. ผลเงาะ

3.

ไมมีวัฏจักรชีวิตตามแผนภาพ

ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข.

4. ขอใดไมมีเมล็ดอยูภายใน 4. 4.

3. จากแผนภาพในขอ

ไมมีวัฏจักรชีวิตตามแผนภาพไมมีวัฏจักรชีวิตตามแผนภาพ

พืชชนิดใดมีวัฏจักรชีวิตยืนยาวที่สุด

4. ขอใดไมมีเมล็ดอยูภายใน

ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข.

ขอใดไมมีเมล็ดอยูภายใน

ไมมีวัฏจักรชีวิตตามแผนภาพ

ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข. ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข.

เฟรน

ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข.

เฟรน เฟรน

ตนออน

เฟรน

ข. พุทรา

ค. มะมวง

ง. ถูกทั้งขอ ก. และ ข.

ก. เฟรน เฟรน

ข. พุทรา

ค. มะมวง

Page 26: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ดูภาพและบันทึกขอมูล

บทที่ 3 เรียนรูชีวิตสัตว

คําชี้แจง : การเรียนรูเกี่ยวกับการสืบพันธุของสัตว ทําใหสามารถอธิบายลักษณะการสืบพันธุแบบอาศัยเพศ และการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศของสัตวได

แบบฝกกิจกรรมที่ 1 สัตวโลกนารัก

1) สัตวชนิดนี้ คือ ...........................................................................................

มีการสืบพันธุแบบ

❍ อาศัยเพศ ❍ ไมอาศัยเพศ

มีการปฏิสนธิแบบ

❍ ภายนอกรางกาย ❍ ภายในรางกาย

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ .......................................................

..............................................................................................................................................

..............................................................................................................................................

2) สัตวชนิดนี้ คือ ...........................................................................................

มีการสืบพันธุแบบ ❍ อาศัยเพศ

❍ ไมอาศัยเพศ

การปฏิสนธิ ❍ มี ❍ ไมมี

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ .......................................................

..............................................................................................................................................

..............................................................................................................................................

ฉบับเฉลย

สิงโต

ปะการัง

สิงโตตัวผู

ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ

เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย

ปะการงัจะมกีาร

เจริญเติบโตโดยแตกหนอออกเปนกิ่งกานสาขา

แผขยายออกไป

18

.............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย .............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย .............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย .............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................เขาไปผสมกับเซลลไขภายในรางกายของตัวเมีย

มีการสืบพันธุแบบ

อาศัยเพศ

มีการสืบพันธุแบบ

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ สิงโตตัวผู มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ สิงโตตัวผู มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ

มีการสืบพันธุแบบ

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ ..............................................................................................................................................ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ ..............................................................................................................................................

มีการสืบพันธุแบบ มีการสืบพันธุแบบ

อาศัยเพศ

มีการสืบพันธุแบบ มีการสืบพันธุแบบ

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ ..............................................................................................................................................ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ ..............................................................................................................................................

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ สิงโตตัวผู มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ ..............................................................................................................................................ผสมพนัธกุบัสงิโตตวัเมยี และตวัผูจะปลอยอสจุิ ..............................................................................................................................................

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

❍ อาศัยเพศ ✓❍✓❍

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ สิงโตตัวผู มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

❍ อาศัยเพศ ✓❍✓❍

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ สิงโตตัวผู มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

❍ อาศัยเพศ

มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้ สิงโตตัวผู มีขั้นตอนการสืบพันธุ ดังนี้

✓❍✓❍

มีการปฏิสนธิแบบ

❍ ภายนอกรางกาย ❍✓

มีการปฏิสนธิแบบ

❍ ภายนอกรางกาย

มีการปฏิสนธิแบบ มีการปฏิสนธิแบบ

ภายนอกรางกาย

Page 27: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

หนอน

ดักแด

มอด

ไข

ไข

ลูกนํ้า

ตัวโมง

ยุง

1 เติมขอความลงในชองวางใหถูกตอง

1) การคดัเลอืกพนัธสุตัว จะพจิารณาจาก………………………………………………………………………………….

ของสัตวชนิดนั้น

2) ลักษณะที่ดีของสัตว เชน……………………………………………………………………………………………………………

3) การนํานํ้าเชื้อของสัตวเพศผูมาผสมกับสัตวเพศเมีย โดยที่สัตวไมตอง

ผสมพันธุกันเองเรียกวา………………………………………………………………………………………………………………

4) การผสมเทียมปลาสวาย ปลาบึก เปนการผสมเทียม……………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2 ดูภาพ และตอบคําถาม

1

2

แบบฝกกิจกรรมที่ 2 ชีวิตสัตวนาสนใจ

คําชี้แจง : การเรียนรูเกี่ยวกับการขยายพันธุสัตว และวัฏจักรชีวิตของสัตว ทําใหสามารถอธิบายการขยายพันธุสัตว และนําความรูไปใชประโยชนได

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

ชนิดใดบาง ..................................................................................................

2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ

เหมือนกันอยางไร ............................................................................

.......................................................................................................................................

.......................................................................................................................................

3) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ

แตกตางกันอยางไร ........................................................................

.......................................................................................................................................

.......................................................................................................................................

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….ฉบับเฉลย

ยุง และมอด

ความสมบูรณ/ลักษณะที่ดี

แข็งแรง ใหผลผลิตมาก

การผสมเทียม

สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย

มีวัฏจักรชีวิตเปน 4

ระยะ และมีการเปลี่ยนแปลงรูปรางแบบ

สมบูรณ

วฏัจกัรชวีติของยงุในระยะ

ที ่1-3 อยูในนํา้ สวนมอดมวีฏัจกัรชวีติอยูบนบก

และระยะที่ 3 ยุงเปนตัวโมง สวนมอดเปนดักแด

19

ไข 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะไข 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะไขไข 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะไข 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ 2) วัฏจักรชีวิตของสัตวทั้ง 2 ชนิดนี้ มีลักษณะ

3) การนํานํ้าเชื้อของสัตวเพศผูมาผสมกับสัตวเพศเมีย โดยที่สัตวไมตอง

……………………………………………………………………………………………………………… การผสมเทียม 3) การนํานํ้าเชื้อของสัตวเพศผูมาผสมกับสัตวเพศเมีย โดยที่สัตวไมตอง

ผสมพันธุกันเองเรียกวา……………………………………………………………………………………………………………… การผสมเทียมผสมพันธุกันเองเรียกวา การผสมเทียมผสมพันธุกันเองเรียกวา

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว 1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

3) การนํานํ้าเชื้อของสัตวเพศผูมาผสมกับสัตวเพศเมีย โดยที่สัตวไมตอง การผสมเทียม

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

ชนิดใดบาง

3) การนํานํ้าเชื้อของสัตวเพศผูมาผสมกับสัตวเพศเมีย โดยที่สัตวไมตอง การผสมเทียม……………………………………………………………………………………………………………… การผสมเทียม

3) การนํานํ้าเชื้อของสัตวเพศผูมาผสมกับสัตวเพศเมีย โดยที่สัตวไมตอง การผสมเทียมผสมพันธุกันเองเรียกวา การผสมเทียมผสมพันธุกันเองเรียกวาผสมพันธุกันเองเรียกวาผสมพันธุกันเองเรียกวา การผสมเทียมผสมพันธุกันเองเรียกวา

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

ชนิดใดบาง

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว 1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

ชนิดใดบาง

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

……………………………………………………………………………………………………………… การผสมเทียม

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

……………………………………………………………………………………………………………… การผสมเทียม

1) จากแผนภาพ เปนวัฏจักรชีวิตของสัตว

4) การผสมเทียมปลาสวาย ปลาบึก เปนการผสมเทียม……………………………………………

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ดูภาพ และตอบคําถาม

สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4) การผสมเทียมปลาสวาย ปลาบึก เปนการผสมเทียม

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ดูภาพ และตอบคําถาม

สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4) การผสมเทียมปลาสวาย ปลาบึก เปนการผสมเทียม สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4) การผสมเทียมปลาสวาย ปลาบึก เปนการผสมเทียม สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. สัตวที่มีการปฏิสนธิภายนอกรางกาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

4) การผสมเทียมปลาสวาย ปลาบึก เปนการผสมเทียม

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

Page 28: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

1 ตอบคําถามตอไปนี้

1) ลักษณะสําคัญของการสืบพันธุของสัตวแบบอาศัยเพศคืออะไร ............................

...................................................................................................................................................................................................................................

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

ลักษณะแตกตางกันอยางไร ..........................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ

แตกตางกันอยางไร ....................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

4) ขอดีของการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศของสัตวคืออะไร...................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

5) ยกตวัอยางชือ่สตัวทีม่กีารสบืพนัธแุบบอาศยัเพศ และแบบไมอาศยัเพศ

มาอยางละ 5 ชนิด ......................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................................................................................

1

ชุดที่ 1 15 คะแนน

กิจกรรมรวบยอดที่ 1.6

แบบประเมินตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/4

• อธิบายการสืบพันธุและการขยายพันธุของสัตว

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 4 ไดคะแนน คะแนนเต็ม

10

แบบประเมินผลการเรียนรูตามตัวชี้วัด ประจําหนวยที ่1 บทที ่3

ฉบับเฉลย

มีการผสมกันระหวางอสุจิของสัตวเพศผูกับไขของสัตวเพศเมีย

การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไข

ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ

ไขภายนอกรางกายของสัตวเพศเมีย

การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สัตวสามารถเพิ่ม

จํานวนเองไดโดยไมตองหาคู ไมตองรอเวลาและพลังงานในการสรางเซลลสืบพันธุ

สัตวที่มีการสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เชน สุนัข แมว ชาง

ปลา งู เปนตน สัตวที่มีการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศ เชน ไฮดรา ไสเดือน อะมีบา

พลานาเรีย ปะการัง เปนตน

20

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................สบืพนัธเุพศผูกบัเซลลสบืพนัธเุพศเมีย และทําใหเกิดการปฏิสนธ ิสวนการสืบพนัธแุบบ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไมอาศยัเพศไมมกีารผสมกนัระหวางเซลลสืบพนัธเุพศผกัูบเพศเมีย จงึไมเกิดการปฏิสนธิ

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไข

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

ลักษณะแตกตางกันอยางไรลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

มีการผสมกันระหวางอสุจิของสัตวเพศผูกับไขของสัตวเพศเมีย ...................................................................................................................................................................................................................................มีการผสมกันระหวางอสุจิของสัตวเพศผูกับไขของสัตวเพศเมีย ...................................................................................................................................................................................................................................

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล .................................................................................................................................................................... การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล ....................................................................................................................................................................

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

มีการผสมกันระหวางอสุจิของสัตวเพศผูกับไขของสัตวเพศเมีย ...................................................................................................................................................................................................................................มีการผสมกันระหวางอสุจิของสัตวเพศผูกับไขของสัตวเพศเมีย ...................................................................................................................................................................................................................................

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไข

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

มีการผสมกันระหวางอสุจิของสัตวเพศผูกับไขของสัตวเพศเมีย ...................................................................................................................................................................................................................................มีการผสมกันระหวางอสุจิของสัตวเพศผูกับไขของสัตวเพศเมีย ...................................................................................................................................................................................................................................

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

ลักษณะแตกตางกันอยางไรลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล .................................................................................................................................................................... การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล ....................................................................................................................................................................

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ 3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล .................................................................................................................................................................... การสืบพันธุแบบอาศัยเพศ เกิดจากการผสมกันระหวางเซลล ....................................................................................................................................................................

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

ลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ

2) การปฏิสนธิภายในรางกายและการปฏิสนธิภายนอกรางกายของสัตวมี

ลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร

3) การสืบพันธุแบบอาศัยเพศกับการสืบพันธุแบบไมอาศัยเพศมีลักษณะ

...................................................................................................................................................................................................................................

การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร .......................................................................................................................................... การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไข ..........................................................................................................................................

ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไขภายนอกรางกายของสัตวเพศเมีย ...................................................................................................................................................................................................................................

การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไขลักษณะแตกตางกันอยางไร .......................................................................................................................................... การปฏิสนธิภายในรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับไข ..........................................................................................................................................

ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไขภายนอกรางกายของสัตวเพศเมีย

ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไขภายนอกรางกายของสัตวเพศเมีย

ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................

ไขภายนอกรางกายของสัตวเพศเมีย

ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................ภายในรางกายของสัตวเพศเมีย สวนการปฏิสนธิภายนอกรางกาย-อสุจิจะเขาผสมกับ ...................................................................................................................................................................................................................................

Page 29: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

2 เติมแผนภูมิการผสมเทียมใหถูกตอง2

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 4 ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

• ตอบคําถามไดถูกตอง และมีใจความสําคัญครบถวน 2 คะแนน

ความหมาย ลักษณะ

วิธีการ ……………………………….

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

วิธีการ ……………………………….

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

ตัวอยางสัตว เชน ………………………………………………

…………………………………………………………………………………..

ตัวอยางสัตว เชน ………………………………………………

…………………………………………………………………………………..

เกณฑประเมินชิ้นงาน

ขอ 1 การตอบคําถาม (มี 5 ขอ ขอละ 2 คะแนน)

ขอ 2 การเติมแผนภูมิ (5 คะแนน) • เติมขอความลงในแผนภูมิไดถูกตอง และมีใจความสําคัญครบถวน แหงละ 1 คะแนน

ปฏิสนธิภายนอกรางกาย

ปฏิสนธิภายในรางกาย

การผสมเทียม

ฉบับเฉลย

การนํานํ้าเชื้อของสัตว

เพศผูมาผสมกับไขของ

สัตวเพศเมีย โดยสัตว

ไมตองผสมพันธุกันเอง

ตามธรรมชาติ นํานํ้าเชื้อกับไข

ผสมกันในภาชนะ และ

นําไปเทลงในบอฟก

ปลาบึก ปลาสวาย โค กระบือ แพะ หมู

นํานํ้าเชื้อของ

สัตวเพศผูไปฉีดเขาใน

มดลูกของสัตวเพศเมีย

ในระยะที่มีการตกไข

21

ตัวอยางสัตว เชน ตัวอยางสัตว เชน ตัวอยางสัตว เชน ตัวอยางสัตว เชน ตัวอยางสัตว เชน ตัวอยางสัตว เชน ตัวอยางสัตว เชน

………………………………. นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ

………………………………………………………………………………………………

นํานํ้าเชื้อกับไข

………………………………………………

นํานํ้าเชื้อกับไข………………………………. นํานํ้าเชื้อกับไข นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ วิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

……………………………….วิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ

………………………………………………

วิธีการ ………………………………. นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ นํานํ้าเชื้อกับไขวิธีการ

………………………………………………

………………………………………………

……………………………………………… ………………………………………………

ผสมกันในภาชนะ และ สัตวเพศผูไปฉีดเขาใน………………………………………………สัตวเพศผูไปฉีดเขาใน………………………………………………

มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………

ในระยะที่มีการตกไข

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

ผสมกันในภาชนะ และ

นําไปเทลงในบอฟก

สัตวเพศผูไปฉีดเขาใน………………………………………………สัตวเพศผูไปฉีดเขาใน………………………………………………

มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………

ในระยะที่มีการตกไข

………………………………………………

………………………………………………นําไปเทลงในบอฟก

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

……………………………………………… นําไปเทลงในบอฟก

………………………………………………

………………………………………………

………………………………………………

นําไปเทลงในบอฟก

สัตวเพศผูไปฉีดเขาใน………………………………………………สัตวเพศผูไปฉีดเขาใน………………………………………………

มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………มดลูกของสัตวเพศเมีย………………………………………………

ในระยะที่มีการตกไข

Page 30: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ชุดที่ 2 5 คะแนน

1. ขอใดกลาวถูกตองเกี่ยวกับการสืบพันธุ

แบบอาศัยเพศ

ก. มีการปฏิสนธิภายในเทานั้น

ข. มีการปฏิสนธิภายนอกเทานั้น

ค. มีการสรางเซลลสืบพันธุ และมีการ

ปฏิสนธิภายในเทานั้น

ง. มีการผสมกันระหวางเซลลสืบพันธุ

เพศผูและเซลลสืบพันธุเพศเมีย

2. สัตวประเภทใดมีการปฏิสนธิภายนอก

รางกาย

ก. สัตวเลี้ยงลูกดวยนํ้านม

ข. สัตวครึ่งนํ้าครึ่งบก

ค. สัตวเลื้อยคลาน

ง. สัตวปก

3. สัตวในขอใดมีการปฏิสนธิภายใน

รางกายทั้งหมด

ก. ไก เตา กบ

ข. จระเข งู ปลากัด

ค. โลมา เปด ตุกแก

ง. ลิง ชาง คางคก

ง. มีการผสมกันระหวางเซลลสืบพันธุ มีการผสมกันระหวางเซลลสืบพันธุ

ข. สัตวครึ่งนํ้าครึ่งบก สัตวครึ่งนํ้าครึ่งบก

ค. โลมา เปด ตุกแก โลมา เปด ตุกแก

4. ขอใดคือเหตุผลสําคัญที่สุดในการ

คัดเลือกพันธุและขยายพันธุสัตว

ก. เพื่ออนุรักษสายพันธุของสัตว

ข. เพื่อสรางสายพันธุสัตวใหมๆ

ค. เพื่อเพิ่มปริมาณอาหารเลี้ยง

ประชากร

ง. ไมมีขอใดถูกตอง

5. ขอใดเปนการผสมเทียม

ก. การนําสัตวเพศผูและสัตวเพศเมีย

มาอยูดวยกัน

ข. การนํานํ้าเชื้อของวัวเพศผูมาฉีด

เขาไปในมดลูกของวัวเพศเมีย

ค. การรีดนํ้าเชื้อของปลาตัวผูและรีด

ไขของปลาตัวเมียมาผสมกันใน

ภาชนะ

ง. ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค.

ค. เพื่อเพิ่มปริมาณอาหารเลี้ยง เพื่อเพิ่มปริมาณอาหารเลี้ยง

ง. ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค. ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค.

วง รอบตัวอักษรหนาคําตอบที่ถูกที่สุด

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 4ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

ฉบับเฉลย

22

สัตวในขอใดมีการปฏิสนธิภายใน

รางกายทั้งหมด

สัตวในขอใดมีการปฏิสนธิภายในสัตวในขอใดมีการปฏิสนธิภายในสัตวในขอใดมีการปฏิสนธิภายใน ภาชนะ

ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค. ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค. ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค.

ภาชนะ

ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค. ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค. ถูกทั้ง ขอ ข. และ ค.

5.

ก. การนําสัตวเพศผูและสัตวเพศเมียสัตวประเภทใดมีการปฏิสนธิภายนอก

ค. การรีดนํ้าเชื้อของปลาตัวผูและรีด

สัตวประเภทใดมีการปฏิสนธิภายนอก

5. 5. 5. ขอใดเปนการผสมเทียม

ก. การนําสัตวเพศผูและสัตวเพศเมียก. การนําสัตวเพศผูและสัตวเพศเมีย

เพศผูและเซลลสืบพันธุเพศเมีย

สัตวประเภทใดมีการปฏิสนธิภายนอกสัตวประเภทใดมีการปฏิสนธิภายนอก

ค. การรีดนํ้าเชื้อของปลาตัวผูและรีดค. การรีดนํ้าเชื้อของปลาตัวผูและรีด

สัตวประเภทใดมีการปฏิสนธิภายนอก ก. การนําสัตวเพศผูและสัตวเพศเมีย

ค. การรีดนํ้าเชื้อของปลาตัวผูและรีด

สัตวประเภทใดมีการปฏิสนธิภายนอก

ค. การรีดนํ้าเชื้อของปลาตัวผูและรีด

ก. สัตวเลี้ยงลูกดวยนํ้านม

สัตวครึ่งนํ้าครึ่งบก

มาอยูดวยกัน

ข. การนํานํ้าเชื้อของวัวเพศผูมาฉีด

เขาไปในมดลูกของวัวเพศเมีย

ก. สัตวเลี้ยงลูกดวยนํ้านม

สัตวครึ่งนํ้าครึ่งบก

มาอยูดวยกัน

ข. การนํานํ้าเชื้อของวัวเพศผูมาฉีด

เขาไปในมดลูกของวัวเพศเมีย

ก. สัตวเลี้ยงลูกดวยนํ้านม

สัตวครึ่งนํ้าครึ่งบก

มาอยูดวยกัน

ข. การนํานํ้าเชื้อของวัวเพศผูมาฉีด

เขาไปในมดลูกของวัวเพศเมีย

Page 31: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

สืบคนขอมูลวัฏจักรชีวิตของสัตวที่สนใจ มา 1 ชนิด แลวเขียนแผนภาพแสดงวัฏจักรชีวิตของสัตว

ชนิดนี้ จากนั้นเขียนอธิบายวัฏจักรชีวิตของสัตวประกอบแผนภาพ

ชุดที่ 1 10 คะแนน

กิจกรรมรวบยอดที่ 1.7

แบบประเมินตัวชี้วัด ว 1.1 ป.5/5

• อธิบายวัฏจักรชีวิตของสัตวบางชนิด และนําความรูไปใชประโยชน

วัฏจักรชีวิตของ ...........................................................................................................................................................................................

สัตวชนิดนี้มีวัฏจักรชีวิต ดังนี ้................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................................................................................................................

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 5 ไดคะแนน คะแนนเต็ม

10

ฉบับเฉลย

ผีเสื้อกลางคืน 1. ผีเสื้อกลางคืนตัวเมียวางไข2. ไขฟกเปนตัวออน (หนอนไมไผ)3. ตัวออนพัฒนาเปนดักแด4. ดักแดเจริญเปนตัวเต็มวัย ซึ่งเปนผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่ง

(ตัวอยาง)

หนอนไมไผ

ดักแดไข

ผีเสื้อกลางคืน

23

ผีเสื้อกลางคืนผีเสื้อกลางคืนผีเสื้อกลางคืนผีเสื้อกลางคืน

หนอนไมไผหนอนไมไผ

Page 32: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ชุดที่ 2 5 คะแนน

1. สัตวในขอใดที่มีวัฏจักรชีวิตแบงเปน

3 ระยะ

ก. ไก ลิง

ข. ตั๊กแตน แมลงสาบ

ค. ปลากัด ปลาหางนกยูง

ง. แมลงวัน ซาลามานเดอร

2. สัตวในขอใดที่มีการเปลี่ยนแปลง

รูปรางในระหวางการเจริญเติบโต

ก. ยุง

ข. ดวง

ค. ผีเสื้อ

ง. ถูกทุกขอที่กลาวมา

3. สัตวในขอใดที่มีวัฏจักรชีวิตในระยะ

เปนตัวออนอาศัยอยูในนํ้า

ก. แมลงสาบ

ข. แมลงวัน

ค. แมลงปอ

ง. ตั๊กแตน

ข. ตั๊กแตน แมลงสาบ ตั๊กแตน แมลงสาบ

ง. ถูกทุกขอที่กลาวมา ถูกทุกขอที่กลาวมา

ค. แมลงปอ แมลงปอ

4. ระยะเปนตัวโมงของยุงเปรียบไดกับ

ระยะใดของผีเสื้อ

ก. ไข

ข. ดักแด

ค. หนอน

ง. ตัวเต็มวัย

5.

จากภาพ เปนวัฏจักรชีวิตในระยะใด

ของยุง

ก. ระยะที่ 1

ข. ระยะที่ 2

ค. ระยะที่ 3

ง. ระยะที่ 4

ข. ระยะที่ 2 ระยะที่ 2

วง รอบตัวอักษรหนาคําตอบที่ถูกที่สุด

ตัวชี้วัด ว 1.1 ขอ 5ไดคะแนน คะแนนเต็ม

5

เกณฑประเมินชิ้นงาน

การเขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิต (5 คะแนน)

• เขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิตของสัตวไดถูกตอง ครบถวน 3 คะแนน

• แผนภาพดูเขาใจงาย แสดงความคิดสรางสรรค และตกแตงสวยงาม 2 คะแนน การเขียนอธิบายประกอบแผนภาพ (5 คะแนน)

• เขียนอธิบายประกอบแผนภาพไดถูกตอง ชัดเจน มีความสอดคลองกับแผนภาพ

และมีใจความสําคัญครบถวน

4 คะแนน

• เขียนตัวหนังสือเรียบรอยมีตัวสะกดผิดไมเกิน 2 แหง 1 คะแนน

ฉบับเฉลย

24

รูปรางในระหวางการเจริญเติบโต

4.

ระยะใดของผีเสื้อ

สัตวในขอใดที่มีวัฏจักรชีวิตแบงเปน

ง. ตัวเต็มวัย

5. ง. แมลงวัน ซาลามานเดอร

สัตวในขอใดที่มีการเปลี่ยนแปลง

4. 4.

5. 5.

4. ระยะเปนตัวโมงของยุงเปรียบไดกับ

ระยะใดของผีเสื้อระยะใดของผีเสื้อ

สัตวในขอใดที่มีวัฏจักรชีวิตแบงเปน

5.

ง. ตัวเต็มวัย

สัตวในขอใดที่มีการเปลี่ยนแปลง

ง. แมลงวัน ซาลามานเดอร

สัตวในขอใดที่มีการเปลี่ยนแปลง

ระยะใดของผีเสื้อ

ง. ตัวเต็มวัย ง. ตัวเต็มวัย

ตั๊กแตน แมลงสาบ

ค. ปลากัด ปลาหางนกยูง

ก. ไข

ง. ตัวเต็มวัย

ตั๊กแตน แมลงสาบ

ค. ปลากัด ปลาหางนกยูง

ก. ไข

ดักแด

ค. หนอน

ข. ตั๊กแตน แมลงสาบ

ค. ปลากัด ปลาหางนกยูง

ดักแด

ค. หนอน

ข. ดักแด ดักแด

Page 33: ส่วนหน้าแบบวัดฯ วิทย์ ป.5 new.indd

ตารางแสดงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประจําหนวยที่ 1

ลาํดบัตวัชีว้ดั

ผลการประเมินคุณภาพระดับคุณภาพ

ชุดที่ 1 ชุดที่ 2 รวมคะแนน

เต็ม ได เต็ม ได เต็ม ได 4 3 2 1

ว1.1 ป.5/1 5 5 10

ว1.1 ป.5/2 15 5 20

ว1.1 ป.5/3 10 5 15

ว1.1 ป.5/4 15 5 20

ว1.1 ป.5/5 10 5 15

ว1.2 ป.5/1 5 5 10

ว1.2 ป.5/2 10 5 15

เกณฑการตัดสิน : ชวงคะแนนรอยละ 80 - 100 = 4 70 - 79 = 3 60 - 69 = 2 50 - 59 = 1

หมายเหตุ : นําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชน

คะแนนเต็ม 15 ทําได 12 คะแนน

ถาคะแนนเต็ม 100 ทําไดรอยละ 1215

× 100 = 80

ดังนั้น รอยละ 80 เทียบไดกับระดับคุณภาพ 4ฉบับเฉลย

25

นําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชนนําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชน

คะแนนเต็ม 15 ทําได 12 คะแนน

นําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชนนําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชนนําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชนนําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชนนําคะแนนเต็มของแตละตัวชี้วัด มาหาคารอยละ เพื่อประเมินระดับคุณภาพ เชน

คะแนนเต็ม 15 ทําได 12 คะแนน

ถาคะแนนเต็ม 100 ทําไดรอยละ 12 × 100 = 80

ดังนั้น รอยละ 80 เทียบไดกับระดับคุณภาพ 4

ถาคะแนนเต็ม 100 ทําไดรอยละ 1215

× 100 = 80

ดังนั้น รอยละ 80 เทียบไดกับระดับคุณภาพ 4 ดังนั้น รอยละ 80 เทียบไดกับระดับคุณภาพ 4 ดังนั้น รอยละ 80 เทียบไดกับระดับคุณภาพ 4