สารบัญ - kasetsart...

17
สารบัญ การปองกันกํ าจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 1.ปลูกพืชและดูแลใหแข็งแรงสมบูรณ 2.ลงสํ ารวจตรวจแปลงนาทุกอาทิตย 3.อนุรักษศัตรูธรรมชาติ 4.ใหเกษตรกรเปนผู จัดการที ่ดีหรือเปนผู เชี ่ยวชาญในการดํ าเนินกิจการดวยตนเอง ศัตรูธรรมชาติที ่พบในนาขาว ศัตรูขาวที ่สํ าคัญ ศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูขาว ศัตรูธรรมชาติเปนสิ ่งมีชีวิตที ่มีประโยชน ภาคผนวก:พันธุ ขาวตานทานแมลงศัตรูขาวบางชนิด ภาคผนวก:พันธุ ตานทานโรคขาวบางชนิด การทดลองใชพืชสมุนไพรในนาขาว การทดลองในพื ้นที ่แปลงในของเกษตรกร วิธีการและอัตราการใช ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง การปองกันกํ าจัดเพลี ้ยกระโดดสีนํ าตาลในนาขาว โดยวิธีผสาน เกษตรกรรมธรรมชาติดัดแปลงเพื ่อควบคุม เพลี้ยกระโดดสีนํ้ าตาล

Upload: others

Post on 05-Oct-2020

1 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

สารบัญ

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน1.ปลูกพืชและดูแลใหแข็งแรงสมบูรณ2.ลงสํ ารวจตรวจแปลงนาทุกอาทิตย3.อนุรักษศัตรูธรรมชาติ4.ใหเกษตรกรเปนผูจัดการท่ีดีหรือเปนผูเช่ียวชาญในการดํ าเนินกิจการดวยตนเอง

ศัตรูธรรมชาติท่ีพบในนาขาว ศัตรูขาวท่ีสํ าคัญ

ศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูขาว ศัตรูธรรมชาติเปนส่ิงมีชีวิตท่ีมีประโยชน

ภาคผนวก:พันธุขาวตานทานแมลงศัตรูขาวบางชนิด ภาคผนวก:พนัธุตานทานโรคขาวบางชนิด

การทดลองใชพืชสมุนไพรในนาขาว การทดลองในพ้ืนท่ีแปลงในของเกษตรกร

วิธีการและอัตราการใช ผลการทดลอง

สรุปผลการทดลอง

การปองกันกํ าจัดเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลในนาขาวโดยวิธีผสาน

เกษตรกรรมธรรมชาติดัดแปลงเพ่ือควบคุมเพลี้ยกระโดดสีนํ้ าตาล

Page 2: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 2

หนาก

การปองกันกํ าจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน1. ปลูกพืชและดูแลใหแข็งแรงสมบูรณ ซึ่งไดแก

- ใชเมล็ดพันธุดี ปราศจากเมล็ดวัชพืชปะปน, ตานทานโรค-แมลง- เตรียมดินและกัดวัชพืชอยางถูกตอง- ใชปุยใหเหมาะสมกับชนิดดินและพันธุขาว- ระดับน้ํ าประมาณ 15 ซม.

2. ลงสํ ารจํ าเป

ตราอยางใสัดสวนขอการอยางการเจริญเ

หนาถัดไปอนนี้

วจตรวจแปลงนาทุกอาทิตยนอยางย่ิงท่ีเกษตรกรจะตองลงตรวจแปลงนากลชิดวาสภาพของขาวเปนอยางไร ระดับนงศัตรูพืชและศัตรูธรรมชาต ิ สภาพดินฟาอาใดอยางหน่ึงอยางถูกตอง การสํ ารวจนติบโตของขาว

เพลี้ยกระโดดหลังขาว

เกษตรกรลงส ํา

อยางนอยอาทิตยละ 1 คร้ัง โดยส ํารวจตรวจํ ้า ปุย เพียงพอเหมาะสมแลวหรือยัง ปริมาณ กาศ เพ่ือประกอบการพิจารณาตัดสินใจดํ าเนินี้เพื่อประเมินสภาพนิเวศนวิทยาในแตละชวง

เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล

สารบัญ

รวจนา

Page 3: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 3

หนากอนนี้

3. อนุรักษศัตรูธรรมชาติโดยปกติในนาขาวเขตรอนทั่วๆ ไป ปริมาณศัตรูธรรมชาติของศัตรูพืช เชน แมงมุม แมลงปอ มวน

ดูดไข จิงโจน้ํ า แตนเบียน เช้ือจุลินทรีย และสัตวอ่ืน ๆ อีกมากมายหลายชนิด มีอยูอยางเพียงพอที่จะควบคุมศัตรูขาว ซึ่งมีชนิดที่สํ าคัญอยูไมกี่ชนิดเทาน้ัน สมดุลของธรรมชาติน้ี จะถูกทํ าลายลงหากเกษตรกรใชสารเคมีอยางไมถูกตอง โดยเฉพาะสารในกลุมไพรีรอยสและออกาโนฟอสเฟต ซึ่งมีพิษกวางขวาง ทํ าลายส่ิงท่ีมีชีวิตทุกชนิดในนาขาว ซ่ึงในท่ีสุดจะมีผลใหเกิดการระบาดเพ่ิมมากข้ึน ในชวง 30 วัน หลังจากปลูกขาวแลว ไมควรใชสารฆาแมลงใด ๆ ทั้งสิ้น

4. ใหเกษตรกรเปนผูจัดการเม่ือเกษตรกรสามารถวิเค

ในนาขาวและมีการตัดสินใจอยาผลิตประสบผลสํ าเร็จ ตนทุนกระทบตอสุขภาพและสิ่งแวดเกษตรกรสามารถยืนอยูไดดวยเกษตรกรรมที่ยั่งยืนในที่สุด

เกษตรกรฝกวินิจฉัยส่ิงมีชโดยมีเจาหนาท่ีชวย

หนาถัดไป

ที่ดีหรือเปนผูเชี่ยวชาญในการดํ าเนินกิจการดวยตนเองราะหสภาพนิเวศนวิทยางถูกตอง ก็จะมีผลใหการการผลิตลดลง ไมมีผลลอมเน่ืองจากสารเคมี ตนเอง และประกอบการ

วิีตในนาขาวแนะนํ า

การฝกวินิจฉัยส่ิงมีชีวิตในนาขาว

สารบัญ

ลงัจากสํ ารวจแปลงนาเกษตรกรสามารถวิเคราะหสภาพนิเวศนวิทยาในนาขาว

Page 4: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 4

หนา

ศัตรูธรรมชาติท่ีพบในนาขาวเม่ือลงไปในนาขาวจะพบสิ่งมีขีวิตหลายชนิดซึ่งประกอบดวยแมลงศัตรูขาวชนิดตาง ๆ และศัตรู

ธรรมชาติของแมลงศัตรูขาวพวกแมง, แมลงและสัตวอ่ืน ๆ ศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูขาว ไดแก ตัวหํ้ า คือสัตวท่ีคอยจับสัตวอ่ืนกินเปนอาหาร ทํ าใหเหยื่อตายทันทีเชน ดวยเตา แมงมุม แมลงปอเข็ม ฯลฯ ตัวเบียน คือ สัตวที่อาศัยยังชีพบนเหยื่อ อาจจะอยูภายนอกหรือภายในรางกายของเหยื่อก็ได คอย ๆ ดูดกินเลือดหรือน้ํ าเล้ียงจากเหย่ือคอย ๆ ตายไปในท่ีสุดไดแกแตนเบียนตาง ๆ ซ่ึงมีขนาดเล็กมากจนถึงขนาดใหญ

ศตัรธูรรมชาติเหลานี้เราแบงเปนพวกใหญ ๆ ไดดังนี้1. แมงมุม มี 8 ขา พบหลายชนิดในนาขาว มีทั้งพวกที่ชักใยเพื่อใชเปนกับดักเหยื่อของมันและ

พวกที่ออกตามลาเหยื่อ มีต้ังแตขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญกวาแมลงศัตรูขาว ตัวอยางของแมงมุมพวกน้ีไดแกแมงมุมสุนัขปา Lycosapseudoannulata แมงมุมแปดตา Oxyopes javanus และแมงมุมขายาว Tetragnatha spp.

2.ตัวอยางAgriocne

หนาถัดไปกอนนี้

แมลงปอ เปนแมลงท่ีพบบินไดรวดเร็ว คอยจับเหยื่อ ของแมลงปอที่พบในนาไดแก แมลงปอบาน Neuromi ssp.คอยจับกินเพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล เพลี้ยจั๊กจั่น

แมงมุมสุนัขปา

ตัวผู แมงมุมสุนัขปา ตัวเมีย

แมงมุมขายาว

แมงมุมแคระ, ตัวหํ้ าของเพลีย้กระโดด,เพล้ียจ๊ักจ่ัน, หนอนแมลงวัน

สารบัญ

ซึ่งไดแก แมลงศัตรูขาวชนิดตาง ๆ ในนา thomis tulliatullia และแมลงปอเข็ม และหนอนหอใบขาว

Page 5: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 5

หนา

3.ในนาเปนหนอนกอดวงกนก

4.หลายชนเสื่อหนอCyrtorhin

หนาถัดไปกอนนี้

ดวง เปนแมลงที่มีปกคูแรกแข็งแรงใชปองกันตัว ตัวหํ้ าของแมลงศัตรูขาวหลายชนิด เชน เพลี้ยกระ ฯลฯ ตัวอยางของแมลงกลุมน้ีไดแกดวงเตา Micrระดก Paederus fuscipes

มวน เปนแมลงท่ีมีปากแหลมใชดูดน้ํ าเล้ียงจากเหดิอาศัยอยูบนผิวน้ํ าและบนตนขาว คอยจับกิน เชนนกอขาว ตัวอยางของมวนท่ีพบในนาขาวไดแก จus lividipennis (Reuter)

แมลงปอบาน

ท้ังตัวออนและตัวแกของดวงหลายชนิดท่ีพบโดด, เพล้ียออน, หนอนหอใบ, เพลี๊ยจั๊กจั่น aspis discolor ดวงดิน Oplionea sp. และ

แมลงปอ

ดวงคอยาว ตัวหํ้ าหนอนหอใบขาว

ดวงตัวหํ ้าของเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล

ย่ือของมัน พบมวนตัวหํ ้าของแมลงศัตรูขาว เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล, เพลี้ยจั๊กจั่น และผีิงโจน้ํ า Limnogonus sp. และมวนดูดไข

มวนจิงโจนํ ้า ตัวหํ้ าของเพล้ียจ๊ักจ่ัน,

มวนดูดไขของเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล

สารบัญ

เพลี้ยกระโดด, หนอนหอใบขาว

Page 6: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 6

หนาถัดไปหนากอนนี้

5. ตอแตน เปนกลุมของแมลงศัตรูธรรมชาติที่สํ าคัญมีขนาดตัวต้ังแตขนาดใหญเห็นไดดวยตาเปลา จนถึงขนาดเล็กเทาปลายหัวเข็มหมุด มีทั้งตัวหํ้ าและตัวเบียนท ําลายแมลงศัวตรูขาวในระยะไข, ตัวออน, และดักแด ตัวอยางของแมลงกลุมนี้ไดแก แตนเบียนไขของหนอนกอขาว Telenomus sp. แตนเบียนตัวออนของเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล Pseudogonatopus spp. แตนเบียนตัวหนอนของหนอนหอใบขาว Xanthopimpla sp. และแตนเบียนดักแดหนอนกอขาว Tetrastichus ayyari

6. แมลงวัน เปนแมลงท่ีวมีปก 1 คู พบพวกท่ีเปนศัตรบางชนิดเปนตัวหํ้ าท ําลายแมลงศัวตรูขาวพวก หนอนกอ และเกนขนในวงศ Tachinidae, แมลงวันตาโต pipunculus sp. แและแมลงวันแคระ Anatrichus pygmacus

ธูรรพลมลง

แตนเบียนทํ าลายไขหนอนกอขาว

แตนเบียนทํ าลายระยะตัวหนอนของหนอนหอใบขาว

มชาีย้ตาวันป

แตนเบียนทํ าลายตัวออนของเพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล

ติหลายชนิดบางชนิดเปนตัวเบียนงๆ เปนตน ตัวอยางไดแกแมลงวันกลาย Poecilotraphera taeniata

แมลงวันกนขนทํ าลายระยะตัวหนอนของหนอนกอขาว

แมลงวันตาโต ตัวเบียนของเพล้ียจ๊ักจ่ัน

สารบัญ

Page 7: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 7

7. ต๊ักแตนและจ้ิงหรีด พบวาเปนศัตรูธรรมชาติที่คอยท ําลายไขหนอนกอขาวและตัวออนของเพล้ียชนิดตาง ๆ ในนาขาว ไดแกตั๊กแตนหนวดยาว Conocephalus longipennis และจิ้งหรีดหนวดยาว Metioche yittaticollis

ชวผลตามา

หนาถัดไปหนากอนนี้

การรูจักชนิดของศัตรูธรรมชาติและปลอยใหศัตรูธยลดตน ทุนการผลิต ทํ าใหสภาพแวดลอมคงสภาพผลิตขาวที่ได ก็ไมมีสารพิษตกคาง และที่สํ าคัญท่ีสมธรรมชาติ ไดมากข้ึน รวมท้ังมีผลดีตอสุขภาพรางกที่สุด

ัตรูขาวท่ีสํ าคัญ

เพลี้ยไฟ เพลี้ยจั๊กจ่ันสีเขีย

จิ้งหรีด

ตั๊กแตนหนวดยาว

รรมชาติชวยกํ าจัดแมลงศัตรูขาวเปนวิธีหน่ึงที่เดิมมากที่สุดเปนการรักษาผลผลิตไมใหเสียไป ดุคือชวยอนุรักษส่ิงมีชีวิตท่ีมีประโยชนในนาขาวกายของเกษตรกรผูทํ านาซ่ึงนับวามีความสํ าคัญ

สารบัญ

เพล้ียจ๊ักจั่นปกลายหยัก

Page 8: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 8

หนาหนากอนนี้

เพลี้ยกระโดดหลังขาว

เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาลปกสั้น

ถัดไป

เพลีย้กระโดดสีนํ ้าตาลปกยาว

หนอนหอใบ

หนอนกอ

ไขเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล

หนอนหอใบ

สารบัญ

Page 9: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 9

ศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูขาวตามปกติในนาขาวมีศัตรูธรรมชาติที่คอยกินและทํ าลายแมลงศัตรูขาวอยูมาก ไดแก ตัวหํ้ า

ตัวเบียน และเชื่อโรคท ําใหแมลงศัตรูขาวมีปริมาณต่ํ า และไมท ําความเสียหายใหกับขาว1. ตัวห้ํ า แมลงหรือสัตวอ่ืนท่ีกินแมลงศัตรูขาวไดแก

1

1

หหนากอนนี้

.1 มวนดูดไข ตัวเต็มวัยสีเขียว หกระโดดและเพลี้ยจั๊กจั่น 7-10

.2 ดวยเตาสีสม ดวงเตาลายหตัวออน และตัวเต็มวัยของเพล

ดวงเตาสีสม

นาถัดไป

ัวและอกสีด ํา ลํ าตัวยาว 2.5-3.3 ฟอง หรือ 1-5 ตัวตอวัน

ยัก ดวงเตาสายสมอ ท้ังตัวออน ีย้กระโดด เพลี้ยจั๊กจั่น และเพลี้ยอื่น

ตัว

มม. กินไขและตัวออนของเพล้ีย

และตัวเต็มวัยเปนตัวห้ํ า กินไข ๆ 5-10 ฟอง ตอตัวตอวัน

สารบัญ

ออนของดวงเตา

Page 10: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 10

1.3 แมงมุม แมงมุมหมาปา แมงมุมเข้ียวยาว กินเพลี้ยกระโดด เพลี้ยจั๊กจั่น หนอนหอใบ-มวนใบขาว หนอนปลอก หนอนแมลงวัน ขาว 5-15 ตัวตอวัน และ 2-3 ตัวตอวัน ตามลํ าดับ

1.4 มก

1.5 ด

1.6 แอวห

หนาถัดไปนากอนนี้

วนจิงโจนํ ้า ตัวดํ าเปนมัน ลํ าตัวยาว 1.5 มม. ระโดดและเพลี้ยจั๊กจั่น 4-7 ตัวตอวัน

วงดิน ท้ังตัวออนและตัวเต็มวัยกินเพล้ียกระโดด

มลงปอเข็ม ตัวออนแมลงปอเข็มจะคอยจับอนเพลี้ยกระโดดกิน อยูบริเวณโคนกอขาว ตัวเัย ชอบบินวนอยู บริเวณรมใบขาวคอยจับผีเนอนหอใบขาว และผีเส้ือหนอนศัตรูขาวอ่ืนกิน

อยูเปนกลุมตามผิวน้ํ าหรือโคนตนขาว กินเพล้ีย

และหนอนหอใบขาว 3-5 ตัวตอวัน

ตัวต็มสื้อ

สารบัญ

Page 11: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 11

หนา

2. ตัวเบียน แมลงหรือสัตวอื่นที่เกาะอาศัยกินอยูภายในหรือภายนอกลํ าตัวของแมลงศัตรูขาว ไดแก

2.1 แตนเบียนอะนากรัส ตัวเล็กมาก ยาว 0.8 มม. ตัวสีสมแดง เปนตัวเบียนทํ าลายไขของ เพลี้ยกระโดดและเพลี้ยจีกจั่น 15-30 ฟองตอวัน ไขเพลี้ยกระโดดและเพลี้ยจั๊กจั่น 15-30 ฟองตอวัน ไขเพลี้ยกระโดดและเพลี้ยจั๊กจั่นที่ถูกท ําลายแลวจะเปล่ียนสีเปนสีสมแดง

2.2 เชื้อร

ศัตรูธรเก1. 2. 3. 4. 5.

ของศัตรูขเสียหายนิเวศนวิท

หนาถัดไปกอนนี้

า ไดแก เช้ือราขาว ราเขียว ราเฮอรซุเทลลา ท

รมชาติเปนส่ิงมีชีวิตท่ีมีประโยชนษตรกรตองชวยกันอนุรักษศัตรูธรรมชาติไวคว ใชพันธุตานทานในแหลงท่ีมีศัตรูขาวระบาด เก็บรักษาตนพืชท่ีอยูบนคันนาไวบาง เพื่อให ไมเผาตอซังหลังเก็บเก่ียว ปลูกพืชหมุนเวียนหลังเก็บเกี่ยว เลือกใชสารเคมีท่ีมีความเฉพาะเจาะจงตอชนาว เม่ือศัตรูขาวมีปริมาณถึงระดับท่ีจะทํ าควเทาน้ัน โดยพิจารณาจากการวิเคราะหระบยาและสมดุลของศัตรูพืชและศัตรูธรรมชาติ

ํ าลายเพลี้ยกระโดดและเพลี้ยจั๊กจั่น

คุมแมลงศัตรูขาว โดยการปฏิบัติดังน้ี

ปนท่ีอยูอาศัยและอาหารของตัวห้ํ าและตัวเบียน

ดิม บ

สารบัญ

Page 12: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 12

สารบัญหนาถัดไปหนากอนนี้

ภาคผนวก

พันธุขาวตานทานแมลงศัตรูขาวบางชนิด >เพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล, ปูนา

พันธุ ชนดิขาว แหลงปลูกและฤดูปลูก ตานทานแมลงศัตรู

กข 2 เหนียว ทุกภาคนาป, ปรัง เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวกข 3 เจา ทุกภาคนาป, ปรัง เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวกข 4 เหนียว ทุกภาคนาป, ปรัง แมลงบั่ว, เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาลกข 9 เจา ทุกภาค นาป, ปรัง เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล, แมลงบั่ว และ

คอนขางตานทานเพล้ียจ๊ักจ่ันสีเขียวกข 23 เจา ทุกภาคนาป, ปรัง เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาลกข 25 เจา ทุกภาคนาป, ปรัง เพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล และตานทาน

หนอนกอ ปานกลางเหมยนอง 62 เอ็ม เหนียว ภาคเหนือ นาป แมลงบ่ัวน้ํ าสะกุย 19 เจา ตะวันออกเฉียงเหนือ นาป เพล้ียจ๊ักจ่ันสีเขียวและคอนขางตานทาน

เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาลเการวง 88 เจา ภาคกลาง นาป เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวขาวตาแหง 17 เจา ภาคกลาง นาป ตานทานแมลงบ่ัวปานกลางพวงไร 2 เจา ภาคใต นาป เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวกูเมืองหลวง เจา ภาคใต นาป เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวชุมแพ 60 เจา ตะวันออกเฉียงเหนือ

(นาน้ํ าฝน)พิษณุโลก 60-1 ภาคกลาง นาป แมลงบ่ัวสุพรรณบุรี 90 เจา ภาคกลางนาป, ปรัง เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล, เพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวสุพรรณบุรี 2 เจา ภาคกลาง, ตะวันออกและตก

นาป, นาปรัง(เขตชลประทาน)

เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล

Page 13: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 13

สารบัญหนาถัดไปหนากอนนี้

พันธุขาวตานทานโรคขาวบางชนิดพันธุ ชนิดขาว, ฤดูปลูก ตานทานโรคขาวไดดี

สุพรรณบุรี 2 เจา, นาป-ปรัง ไหม, ขอบใบแหง, จูสุพรรณบุรี 90 เจา, นาป-ปรัง ไหม, ขอบใบแหงพัทลุง 60 เจา, นาน้ํ าฝน ขอบใบแหงน้ํ ารู เจา, ขาวไร เมล็ดตางกข 2 เหนียว, นาป-ปรัง (กลายพันธุเปนขาวเจาได)

ใบจุดสีน้ํ าตาลกข 7 เจา, นาป-ปรัง ขอบใบแหงกข 9 เจา, นาป-ปรัง ตานทานโรคจูดีกวาทุกพันธุกข 21 เจา, นาป-ปรัง จู, ขอบใบแหงกข 23 เจา, นาป-ปรัง จู, ขอบใบแหงกข 25 เจา, นาป-ปรัง จู, ขอบใบแหงกข 27 เจา, นาป จูหันตรา 60 เจา, นาป ไหมนางฉลอง เหนียว, นาป (ขาวฟางลอย) ไหม

การทดลองใชพืชสมุนไพรในนาขาวพืชสมุนไพรท่ีใชในนาขาวเปนสารท่ีมีฤทธ์ิในการดูดซึมจากท่ีไดมีรายงานไว ซ่ึงมีความเหมาะสม

ที่จะใชในนาขาวไดแกสะเดา มีสารออกฤทธิ์ที่ถูกท ําลายงายโดยแสงแดด (ใชสวนของเมล็ด) ปองกันกํ าจัด เพลี้ย

กระโดดสีน้ํ าตาล, หนอนกอ,หนอนกระทู, หนอนมวนใบ โดยฉีดพนในตอนเชาตรูหรือตอนเย็นบอระเพ็ด มีสารออกฤทธ์ิประเภทดูดซึมท่ีออกฤทธ์ิมากข้ึนเม่ือถูกแสงแดด ใชควบคุมหนอนกอ,

หนอนกระทู และเพลี้ยจั๊กจั่นสีเขียวสูตรใบสะเดา, ขาและตะไครหอม ใชควบคุมหนอนมวนใบ, เพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาลและเพลี้ยจั๊ก

จั่นสีเขียว ควรฉีดพนในตอนเชาตรูหรือเย็น

การทดลองในพื้นที่แปลงนาของเกษตรกรการทดลอง 1 หวานบอระเพ็ดการทดลอง 2 หวานบอระเพ็ด และพนใบสะเดา, ขา และตะไครหอม (สูตร 1)การทดลอง 3 หวานเมล็ดสะเดาการทดลอง 4 หวานเมล็ดสะเดา และพนใบสะเดา, ขา และตะไครหอม (สูตร1)การทดลอง 5 พนใบสะเดา, ขา และตะไครหอม (สูตร 2)การทดลอง 6 ควบคุม (ไมใชอะไรเลย)

Page 14: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 14

สารบัญหนาถัดไปหนากอนนี้

วิธีการและอัตราการใชวิธีหวาน บอระเพ็ดและเมล็ดสะเดา หวานคร้ังแรก หลังจากหวานขาวได 7 วันและอีกคร้ัง

เม่ือขาวอายุ 60 วัน อัตราการใช บอระเพ็ด 10 กิโลกรัม/ไร สับเปนช้ินเล็ก ๆ หวานทั่วแปลง เมล็ดสะเดา

6 กิโลกรัม/ไร บดใหละเอียดหวานทั่วแปลง วิธีพน ใบสะเดา ขา และตะไครหอม พนคร้ังแรกเม่ือขาวอายุ 15 วัน และพนอีกทุกๆ 14 วัน

จนขาวอาย ุ60 วันอัตราการใชสูตร 1 ใบสะเดา 1 กก. ขา 1 กก.ตะไครหอม 1 กก. น้ํ า 10 ลิตรสูตร 2 ใบสะเดา 2 กก. ขา 1 กก.ตะไครหอม 1 กก. น้ํ า 10 ลิตรโดยนํ าสวนผสมดังกลาวบดใหละเอียด แชนํ้ าไว 1 คืน แลวกรองเอากากออก นํ าน้ํ าท่ีไดผสมน้ํ า

200 ลิตรฉีดพนการทดลองน้ี ทํ าการตรวจนับแมลงกอนการพนสารสมุนไพร 1 วัน และหลังการพน 2 วัน ทํ าการตรวจนับ 6คร้ัง คร้ังแรกเมื่อขาวอาย ุ 27 วนั

ผลการทดลอง

การทดลอง ใชสมุนไพร ผลผลิต (กก./ไร)1 หวานบอระเพ็ด 8942 หวานบอระเพ็ดและพนใบสะเดา, ขา, ตะไครหอม (สูตร 1) 9093 หวานเมล็ดสะเดา 8514 หวานเมล็ดสะเดา และพนใบสะเดา, ขา, ตะไครหอม (สูตร 1) 8685 หวานใบสะเดา, ขา, ตะไครหอม (สูตร 2) 7276 ไมไดใชอะไรเลย 771

1. การทดลองท่ี 2 ที่ใชหวานบอระเพ็ดและพนใบสะเดา-ขา-ตะไคหอม (สูตร 1) ใหผลผลิตขาวสูงสุด ใกลเคียงกับการหวานบอระเพ็ดเพียงอยางเดียว

2. จ ํานวนเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล (ตรวจนับ 6 คร้ัง) ของการทดลองท่ี 2 มีจ ํานวนนอยท่ีสุด และการทดลองใชสมุนไพรตางๆ (การทดลองท่ี 1, 2, 3, 4, 5) นับจ ํานวนเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลไดนอยกวา การทดลองท่ีไมใชอะไรเลย (การทดลองท่ี 6)

3. การระบาดของโรคใบจุดสีน้ํ าตาล (ตรวจนับ 6 คร้ัง) ของการทดลองท่ี 2 มีการระบาดนอยท่ีสุด และการทดลองท่ี 1, 3,4, 5 มีการระบาดนอยกวาการทดลองท่ีไมใชอะไรเลย

4. จํ านวนเพล้ียจ๊ักจ่ันสีเขียว (ตรวจนับ 6 คร้ัง) ของการทดลองท่ี 1 มีจ ํานวนนอยท่ีสุด และ การทดลองท่ี 2, 4, 5 นับจ ํานวน เพล้ียจ๊ักจ่ันสีเขียวไดนอยกวาการทดลองท่ีไมใชอะไรเลย

Page 15: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 15

หนาถัดไปหนากอนนี้

สรุปผลการทดลองสารสกัดจากใบสะเดา, ขา และตะไครหอมจะออก

ฤทธิ์กับแมลงใหเห็นหลังจากการใชไปแลว 2-3 วัน และสามารถฆาเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลในระยะตัวออนไดอยางเห็นไดชัด

การใชพืชสมุนไพรในการควบคุมโรคและแมลงศัตรูขาว ใหไดผลควรจะตองมีการใชหลายวิธีควบคูกันไป เชน การใชวิธีหวานควบคูกับวิธีพน เปนตน นอกจากน้ี ควร

เพิ่มจํ านวนคร้ังในการฉีดพนใหถ่ีมากข้ึน จากทุก 2 สข้ึน และตามชวงของการระบาดท่ีรุนแรงของแมลงจึงจะสามาแตถาแมลงศัตรูขาวระบาดรุนแรงเพื่อปองกันไมใหผลผลิตเสียฤทธ์ิในเวลาอันรวดเร็ว

การปองกันกํ าจัดเพลี้ยกระโดดสีนํ้ าตาลในนาขาวโดยวิธ

การแกปญหาเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลที่เกษตรกรปฏิบนอกจากเสียคาใชจายสูงและเปนอันตรายตอผูใชและส่ิงแวดลอการปองกันกํ าจัดที่ถูกตองก็คือ ใชวิธีปองกันกํ าจัดแบบผสานเหมาะสม กลาวคือ

1. ในแหลงปลูกขาวเดียวกัน ชาวนาควรปลูกขาวพรอม2. พันธุขาวที่ปลูกควรเปนพันธุตานทานตอเพลี้ยกระโด

สุพรรณบุรี 2 แตไมควรใชพันธุเดียว เพราะแมลงอาจปรับตอมา

3. ใสปุยใหพอเหมาะตามค ําแนะนํ าของทางราชการ4. หลังปลูกขาวแลว ชาวนาควรหม่ันลงไปสํ ารวจต

ทุก 3-5 วัน โดยสุมตรวจกอขาว 10 กอ หรือ 10 กลุม (ขานาหวานน้ํ าตม) ตอพื้นที่ 1 ไร การตรวจแตละแปลง สามาร5-10 ไร เม่ือตรวจพบวามีเพลี้ย กระโดดสีน้ํ าตาลในนามากตามชนิดและอัตราท่ีทางกรมวิชาการ เกษตรแนะนะ

5. เม่ือการระบาดของเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลลดความรไขซึ่งเปน ศัตรูธรรมชาติท่ีสํ าคัญของเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลในเพื่ออนุรักษศัตรู ธรรมชาติเหลาน้ีไวชวยในการควบคุมปริมาไป

6. ในสภาพท่ีมีการระบาดของเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลรหรือปลูกพืช อ่ืนทดแทนท้ังน้ีเพ่ือเปนการตัดวงจรชีวิตของแมล

สารบัญ

ัปดาห เปน 1 สัปดาห) เม่ือขาวอายุมากรถ ควบคุมแมลงศัตรูขาวไดอยางไดผล หาย ควรใชสารฆาแมลง เพราะจะออก

ผีสาน

ัติกันอยูโดยใชสารฆาแมลงเพียงวิธีเดียว มแลว ยังกอใหเกิดปญหาอื่น ๆ ตามมา โดยก ําหนดข้ันตอนการปฏิบัติท่ีถูกตอง

ๆ กันดสีนํ ้าตาล เชน กข 23, สุพรรณบุรี 90, ตัวทํ าลายขาวพันธุตานทานน้ันไดในเวลา

รวจนับแมลงศัตรูขาวในนาอยางสม่ํ าเสมอ ว 1 กลุม = ตนขาวท่ีอยูชิดกัน 10 ตนในถเปนตัวแทนพ้ืนท่ีและขาวพันธุเดียวกันได ถึงข้ันตองใชสารฆาแมลงก็ใชสารฆาแมลง

นุแรงลง ถาพบแมงมุมหรือมวนเขียวดูดปริมาณมาก ควรชะลอการใชสารฆาแมลงณเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล ในธรรมชาติตอ

นุแรงมาก ควรงดปลูกขาวในฤดูนาปรังงทํ าใหการระบาดลดความรุนแรงลงได

Page 16: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 16

หนากอนนี้

เกษตรกรรมธรรมชาติด

เกษตรธรรม ชาติมีหลงไปสุสมดุล คือพอเหมาในนาขาวของไทยขณะน้ีจะเสียหายรุนแรงมาก

เพลี้ยกระโดดสีน้ํ าตาเปนจุดเดนท่ีพนสารกํ าจัดแในน้ํ าท้ังจากปลาเสือและป

ปลาเสือ มีเหลือนอทองนาไดสะดวก ปลาเสือปลาเสือหลายตัวอาจรวมเลแนะกันได

ท่ีหามาเล้ียงไดงายกวไป แลวยังชวยกินเพลี้ยโดยคุมแมลง โดยใชปลาตะเพชวยลอแมลง ท่ีบินไดใหมาแมลงมีนอยยังไมทัน ระบา

ิ ์

สารสกัดจากสะเดา, ขา, ตะไครหอมจะออกฤทธกับเพลีย้กระโดดสีน้ํ าตาลภายใน 2-3 วัน

สารบัญหนาถัดไป

ัดแปลงเพื่อควบคุมเพลี้ยกระโดดสีนํ ้าตาล

ลักการใชธรรมชาติของส่ิงมีชีวิตตางชนิดควบคุมกันเอง ใหแตละอยางปรับตัวะพอดีโดยการหลีกเล่ียงการใชสารเคมีท่ีจะฆาแมลงแบบครอบจักรวาล ที่จริงรอแมงมุม แมลงปอ เช้ือรา มาคุมเพลี้ยใหหยุดการท ําลายขาว ผลผลิตอาจจะ

ล มีนิสัยชอบเกาะอาศัยอยูบริเวณโคนตนขาวเหนือระดับน้ํ าเพียงเลกนอย มลงลงไปไมคอยถึง แตเปนจดุออนของแมลงถามีปลากินแมลงจูโจมมาจากลาตะเพียน

ยแลวในธรรมชาติของไทย ถามีอยูในนาท่ีระดับน้ํ าสูงพอใหออกไปหากินในจะใชวิธีเล็งที่เพลี้ยแลวพน หรือยิงน้ํ าใหถูกตัวเพล้ียตกลงในน้ํ าแลวตอดกิน ง็พนน้ํ า เพลี้ยตัวเดียวกัน แลวพนน้ํ าข้ึนไปพรอม ๆ กันเหมือนมีภาษารูนัด

า คือ ปลาตะเพียน ปลาชนิดน้ีชวยกินหญาจอก แหน วัชพืชนํ ้ามิใหนารกเกินไปเล็งอยูใตนํ ้า แลวกระโดดข้ึนงับกินเพล้ียแถวโคนตนได การเสริมการควบียนยังท ําไดโดยทํ าบอปลาเล็ก ๆ บริเวณหัวมุมนา ติดไฟแบล็คไลทที่จุดนี้จะเลนไฟแลวตกลงในน้ํ า ซ่ึงปลาตะเพียนก็จะกินแมลงเปนอาหารควรทํ าต้ังแตด ดีกวาระบาดแลวเร่ิมเล้ียงปลาในนา จะไมทันตอเหตุการณ

Page 17: สารบัญ - Kasetsart Universityeto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/rice/pasan.pdfแมงมุมสุนัขป า ตัวผู แมงมุมสุนัขป

การปองกันก ําจัดศัตรูขาวโดยวิธีผสาน 17

หนากอนนี้

ตวัอยางที่ประสบความส ําเร็จ ป 2531 มีการระบาดของเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาล ชาวนาเพ่ือนบานใชสารเคมีปราบกันท่ัวแตนา

ของ คํ าเด่ือง ภาษ ี เกษตรกรบานดอนแขวง ต.ดอนมนต อ.สตึก จ.บุรีรัมย ไมไดใชสารเคมีใด ๆ เพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลจึงมาลงท่ีนาของ คํ าเด่ือง จ ํานวนมากแตปรากฏวาเกิดมีแมงมุมเขามาชักใยในนาของเขาเต็มไปหมด เพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลจะถูกแมงมุมจับกินไปจํ านวนมาก ภายหลังท้ังแมงมุมและเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลก็ลดจํ านวนลง โดยกลไกตามธรรมชาติ

แบ

จดัทํ าเอกสารอิเล็กท

การเลีย้งปลาในนาขาวรูปแบบหนึ่งของระบบการเกษตรบผสมผสานเพ่ือควบคุมเพล้ียกระโดดสีน้ํ าตาลไดอีกทางหนึ่ง

สารบัญหนาถัดไปรอนิกสโดย : ส ํานักสงเสริมและฝกอบรม มหาวทิยาลัยเกษตรศาสตร