สังคมน้ำเน า · 2014-01-25 ·...

87
สังคมน้ำเนา รวมเรื่องสั้นกึ่งนวนิยาย บทประพันธ วิกูล สมิทธิฉบับอานฟรี

Upload: others

Post on 14-Feb-2020

0 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

  • สังคมน้ำเนา

    รวมเรื่องสั้นกึ่งนวนิยาย บทประพันธ วิกูล สมิทธิ์

    ฉบับอานฟรี

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    - ii -

    จากผู้เขียน

    คนดใีนสงัคมไทยเรานัน้กม็อียูม่ากมใิชว่า่จะเลวไปเสียท้ังหมดแต่กต้็อง

    ยอมรบัวา่พวกทีจ่ติใจไมค่อ่ยจะพฒันานัน้มอียูไ่มน่อ้ยพวกนีก้ด็ไีปอยา่งทำาใหผ้ม

    มีเรื่องได้เล่าขานให้เพื่อนๆฟังและยังได้รับฟังเรื่องราวของเพื่อนๆที่นำามาบ่นให้

    ฟังและได้เก็บมาเขียนเพิ่มสีสันให้กับนิยายได้อีก เดี๋ยวนี้เจอคนท่ีงี่เง่าหรือพวก

    จิตตำ่าก็จะไม่เครียดและเห็นเป็นเรื่องตลกเก็บเอามาเขียนได้ไม่รู้จบ

    คนพวกนี้ในโลกชีวิตจริงคงไปเปลี่ยนแปลงอะไรเขาไม่ได้ แต่ในนิยาย

    ของผมพวกเขาเหล่านั้นจะต้องโดนเฉ่งเสียให้เข็ด เสียดายที่ผมไม่สามารถเขียน

    ถึงทุกคนได้ในเล่มเดียว เพราะมีอยู่เป็นจำานวนมากถ้าจะเขียนให้หมดคงต้องมี

    เป็นร้อยเรื่องแต่ไม่ต้องห่วงคิวของท่านสักวันจะมาถึงพวกที่ทำาให้สังคมของผม

    เสื่อมลงจะต้องโดนผมแก้แค้นอย่างสาสมด้วยถือคติว่า“หัวเราะทีหลังดังกว่า”

    วิกูล สมิทธิ์

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    - 1 -

    เรื่องสั้นกึ่งนวนิยาย

    สังคมนํ้าเน่า

    ผู้เขียนวิกูลสมิทธิ์

    บรรณาธิการสมิทธิ์จันทนยิ่งยง

    ผู้ช่วยบรรณาธิการยุพดีจันทนยิ่งยง

    กองบรรณาธิการบ้านวิมานดิน

    ฝ่ายศิลป์

    พิสูจน์อักษรAunChand

    การตลาดปัณพรวงษ์จันทร์เพ็ญ

    ราคา120บาท

    Special Thanksศรัณย์วิริยกุล

    ภัณธิภรวงษ์จันทร์เพ็ญ

    ติดต่อผู้เขียน

    E-mail:[email protected]

    Tel:0818573571

    จัดพิมพ์โดย สํานักพิมพ์บ้านวิมานดิน

    214/55หมู่บ้านหนองโสนต.เขาน้อยอ.ปราณบุรีจ.ประจวบฯ77120

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -2-

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -3-

    เรือ่งนีค้อืตอนหนึง่ในสามตอนจากหนงัสือ“รวมเรือ่งส้ันกึง่

    นวนิยายชุดสังคมนำ้าเน่า”ทั้งสามเรื่องที่ว่านั้นจบในตอนจึงได้ยก

    มาตอนหนึง่เพือ่ใหผู้อ้า่นได้อา่นกันเลน่ๆฟรีๆแกเ้ซง็ถา้อา่นแล้วไม่

    ชอบอย่างน้อยผู้อ่านก็ไม่ต้องเสียดายตังค์อาจจะเสียดายเวลาใน

    การอา่นไปบา้งอนันีก้ระผมกต็อ้งขออภยัเปน็อยา่งสงูทัง้นีผ้มเองก็

    เสียเวลาในการเขียนไปไม่น้อยเหมือนกัน

    หากผู้อ่านพอใจเรื่องราวของนิยายในบทนี้ และอยากอ่าน

    เพ่ิมเตมิอกีสองตอนทีเ่หลอืกรุณาสัง่ซือ้ได้ทีน่ี่(ebooks.co.th)ดว้ย

    การเซิร์ชหาหนังสือที่มีชื่อว่าสังคมนํ้ําเน่าในราคาเพียง90.-บาท

    เท่านั้น

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -4-

    นพเมื่อศึกษาจบก็ใช้ใบรับรองปริญญาเพื่อสมัครงานโดยหาจาก

    หนังสอืพมิพฝ์รัง่บา้งอนิเตอรเ์นต็บา้งด้วยความทีเ่ขาเปน็คนเรยีนเกง่ไดเ้กรด

    ดีเขาจึงค่อนข้างที่จะเลือกงานแต่พอเวลาล่วงไป2ปีกว่าก็ยังไม่ได้งานทำา

    มีแต่เรียกตัวไปสัมภาษณ์แต่ส่วนมากเขาจะเอาเฉพาะคนที่มีประสบการณ์

    การทำางานมาแล้วนพนึกโมโหว่าถ้าเขาไม่มีประสบการณ์ก็หางานทำาไม่ได้

    และถ้าเขาไม่มีงานทำาเขากห็าประสบการณไ์มไ่ด้มนัเขา้ตำาราไกก่บัไข่อะไร

    มันเกิดก่อนกันแต่มันก็เกิดขึ้นมาจนได้และไม่รู้ว่าอะไรมันเกิดก่อนกันเมื่อ

    ปลงตกแล้วนพก็เริ่มหางานทำาระลอกใหม่ เมื่อไปซื้อหนังสือพิมพ์ฝรั่งมาดู

    อีกก็พบว่าเป็นงานชุดเดิมๆที่เขาพยายามแล้วแต่ไม่ประสพความสำาเร็จ

    ที่บ้านนพทำากิจการร้านขายยา เป็นห้องแถว 1 ห้องอยู่บนถนน

    ลาดพรา้วกพ็อขายของไดก้ำาไรดอียู่พอ่แมข่องนพอยากจะใหน้พเรยีนเภสชั

    เพือ่จะไดม้าช่วยกจิการทีบ่า้นเพราะพ่อแมข่องเขาไมไ่ดเ้รยีนมาทางนีเ้ลยจงึ

    ต้องจา่ยคา่ใบรบัรองเภสชัคอืใบอนญุาตใหข้ายยาเดอืนละเปน็หมืน่แตน่พ

    ไม่ชอบกลิ่นยาและไม่ชอบคำาว่าหมอตี๋ พ่อแม่ของเขาเป็นคนไทยเช้ือสาย

    จีนเขาจึงมีหน้าตาออกไปทางตี๋ๆตัวเล็กๆไม่หล่อเมื่อครั้งเขาเรียนหนังสือ

    อยู่เขาจะโกรธมากถ้าใครเรียกเขาว่าหมอตี๋นพเลือกเรียนเอกบริหารธุรกิจ

    เขามีหัวเอนเอียงไปทางด้านตะวันตกมีความฝันที่จะได้บริหารกิจการระดับ

    อนิเตอร์เพราะเขามีความรูแ้นน่มากเรยีนเกง่ได้เกยีรตนิยิมอนัดบั1และเกง่

    ทางด้านภาษาแต่ก็เปรียบเสมือนคมที่อยู่ในฝักรอเวลาให้ใครสักคนชักมัน

    ออกมาใช้หากไม่มีใครดึงคมออกมาจากฝักแล้วเมื่อฟาดฟันลงไปทั้งฝักก็

    ไม่ต่างอะไรกับสากกะเบือ

    นพใช้เวลาในการรอคอยเข้าทำางานด้วยการช่วยพ่อแม่ขายยาใน

    ร้าน เขารู้เรื่องยาดีพอที่จะหายาให้ตรงกับโรคได้ด้วยความคุ้นเคยจากการ

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -5-

    ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่เคยศึกษาท่องจำาเรื่องยาอะไรแต่มันก็ค่อยๆซึม

    เข้าหัวเขาไปเอง

    “คุณหมอคะ อีชั้นท้องร่วง ถ่ายจนเหนื่อยหมดแรงเลยค่ะ” หญิง

    ชราคนหนึ่งเดินตัวงอเข้ามาในร้าน

    นพยืนอยู่หน้าตู้ยาหันหลังขวับไปคว้ายา“โลโมติ้ว”ทันที

    “เอากี่เม็ดครับ”

    “กี่เม็ดหายละ”ยายถาม

    นพไม่รู้สาเหตุการท้องเสียของยายและไม่รู้ว่ายายจะแพ้ยาชนิดนี้

    หรือเปล่า แต่เคยได้ยินมาว่าถ้าถ่ายท้องไม่ควรกินยาระงับการถ่ายท้อง

    เพราะร่างกายต้องการขับของเสียออกถ้ากินยาไม่ให้ถ่าย ของเสียก็จะอยู่

    ในตัวและจะทำาอันตรายต่อร่างกายได้ เห็นยายแกก็แก่แล้วด้วยนพจึงยืน

    นิ่งใช้ความคิดอยู่

    พ่อของนพนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะบัญชีตะโกนบอก

    “เอาไป2เม็ดก่อนกินเลยเม็ดนึงอีกเม็ดนึง4ชั่วโมงค่อยกินถ้า

    ยังไม่หายค่อยมาซื้อใหม่”

    นพไม่อยากแสดงความคิดเห็นอะไรฉีกยาออกจากแผง2 เม็ดส่ง

    ให้ยาย

    “เอาสปอนเซอร์ด้วยขวดนึง”ยายส่งแบ็งค์ร้อยให้นพ

    นพทอนเงินแล้วเดินไปที่ตู้แช่หยิบสปอนเซอร์ส่งให้ยายยายฉีกยา

    ออกจากแผง ใส่ปากแล้วดื่มสปอนเซอร์ตามแล้วเดินออกจากร้านไปสวน

    กับสาวออฟฟิศคนหนึ่ง

    “ซื้อพาราสิบบาทค่ะ”

    นพมองหายาพาราเซ็ทตามอลอยู่ทั่ว ยังไม่เจอ พ่อของนพเดิน

    เข้าไปหลังบ้านเพื่อเอาจานข้าวไปเก็บเดินกลับออกมาพอดี

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    - 6 -

    “หาอาลาย”

    “พารา”

    “นี่งาย”พ่อของนพหยิบขวดพลาสติกออกจากชั้นที่ข้างขวดเขียน

    ว่าโนเพน(NoPain)

    “นั่นมันไม่ใช่พาราเซตตามอลนะเตี่ย”นพชี้แจง

    “เหมือนกันแก้ปวดเหมือนกันเอากี่เม็ด”

    “สิบบาทค่ะ”

    “แต่เค้าจะเอาพารานะเตี่ย”นพยำ้า

    “พาราไม่มีหรือคะ เคยกินแต่พารา”สาวออฟฟิศไม่แน่ใจในยาตัว

    ใหม่

    “ก็อันนี้มันแก้ปวดเหมือนกันแล้วทำาไมจะต้องเอาพาราอันนี้ดีกว่า

    พาราราคาเท่ากัน”พ่อค้าพูดพลางนับยาเม็ดสีขาวใส่ถุงยาแล้วยื่นให้สาว

    ออฟฟิศ เธอเชื่อหมอ ไม่คัดค้านอะไรส่งเงินให้พ่อค้าแล้วเดินออกจากร้าน

    ไป

    พ่อของนพหันมามองหน้านพแล้วส่ายหัว “ลื้อนี่มันยังไม่ฉลาด

    อยากจะขายของที่เราไม่มีของที่มีไม่อยากขาย”

    “อ้าวก็ผมไม่รู้นี่ว่ามันหมด”นพแก้ตัว

    “มันไม่ได้หมดหรอกมันไม่มีอั๊วไม่ได้เอามันมาขายเอง”

    นพแทรก “อ๋อ ผมรู้แล้ว เตี่ยเอายี่ห้อที่ถูกกว่ามาขายในราคา

    เดียวกันกับยี่ห้อแพงเตี่ยจะได้มีกำาไรเยอะๆ”

    “ใครบอกลื้อ ว่าถูกกว่า เท่ากันโว้ย ไม่เชื่อลื้อไปดูบิลได้เลย แต่

    บริษัทนี้เขามีโปรโมช่ันโว้ย ถ้าอ๊ัวทำาเป้าได้อ๊ัวได้ไปต่างประเทศ ถ้าอั๊วไม่

    อยากไป อั๊วก็ขอเปลี่ยนเป็นเงินสด เอามาซื้อข้าวให้ลื้อกิน ส่งลื้อเรียน

    หนังสือไง”

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -7-

    นพได้ฟังแล้วเข้าใจกระบวนการหมดทุกอย่าง“โปรโมชั่นมันก็ดีอยู่

    แตถ่า้คนซ้ือเขาระบชุือ่ยาเตีย่กค็วรใหส้ิง่ทีเ่ขาตอ้งการถา้เตีย่ยดัเยยีดสนิคา้

    ที่เตี่ยได้รับผลประโยชน์มากกว่าให้เขาก็เท่ากับว่าเตี่ยไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่”

    เตี่ยโมโหหน้าแดง ตวาด “อ๊ัวหาเงินส่งให้ลื้อเรียน ให้ลื้อเป็นคน

    ฉลาดแต่ทำาไมลื้อคิดอะไรโง่ๆวะอย่างนี้ซิเล่าลื้อถึงหางานทำาไม่ได้”

    เตีย่เดนิสา่ยหวักลบัไปนัง่ทีโ่ต๊ะบญัชีนพกลัน้นำา้ตาแลว้เดนิไปนัง่ที่

    เก้าอี้หน้าร้านนึกในใจ...ไม่มีประสบการณ์ก็ไม่มีงานทำาไม่มีงานทำาก็ไม่มี

    ประสบการณ์เราต้องหางานอะไรก็ได้ทำาไปก่อนเพื่อหาประสบการณ์ยังดี

    กว่าอยู่อย่างไร้ค่าไปวันๆ...

    วันรุ่งขึ้น.....

    นพตื่นแต่เช้าเพ่ือออกหางานทำาอีกครั้ง เขามุ่งตรงไปที่ถนนสีลม

    ย่านธุรกิจ ขึ้นรถเมล์บ้าง เดินบ้าง ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ผูกเน็คไท

    กางเกงสีกรมท่า รองเท้าหนังสีดำาขัดมัน ในมือถือใบปริญญาและ

    ประวัติการเรียนในกระเป๋าเสื้อมีรูปถ่ายขนาด2นิ้วพร้อมเสร็จตั้งใจว่าจะ

    ขอเขาทำางานค่าแรงไม่เกี่ยงเพื่อหาประสบการณ์

    มาถึงอาคารแห่งหนึ่ง เป็นอาคารสำานักงานมีบันไดสิบกว่าขั้นปู

    ด้วยหินแกรนิตสีเทา-ดำานำาขึ้นไปสู่ประตูกระจกบานใหญ่ เหนือประตูมีตัว

    อักษรขนาดใหญ่ทำาจากทองเหลืองขัดมันดูเหมือนกับทองจริงๆสะกดว่า

    FORTUNEOFFICEBUILDINGข้างประตูกระจก มีตัวอักษรตัวเล็กทำา

    จากวัสดุเดียวกันสะกดว่า อาคารสำานักงานฟอร์จูนนพเปิดประตูเข้าไป

    เป็นห้องโถงใหญ่ปูด้วยหินแกรนิตสีเทา-ขาวมีเค้าน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อยู่

    ตรงกลางนพเดินผ่านเค้าน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไปยังไดเร็กทอร่ีสำารวจดูที่

    ป้าย เห็นว่ามีสำานักงานอยู่มากมาย ไม่รู้จะไปที่ไหนก่อน จึงตัดสินใจเดิน

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -8-

    สุ่มไปเรื่อยๆตามดวง ไม่สำาคัญอีกแล้วว่าจะเป็นบริษัทอะไร ขอเพียงให้ได้

    งานทำาเพื่อหาประสบการณ์

    นพสุ่มขึ้นลิฟต์มาชั้นที่สี่ เลี้ยวซ้ายไปยังสำานักงานแรกที่เจอ เป็น

    สำานกังานชือ่“บรษิทัทานตะวนัเรยีวเอสเตทจำากดั”(SunflowerRealEstate

    Co.,Ltd)ดจูากชือ่บรษิทักร็ูว้า่เป็นสำานกังานเกีย่วกบัการจัดสรรบา้นหรือทีด่นิ

    เขาเปดิประตกูระจกสชีาเขา้ไปมโีต๊ะตัวหนึง่อยูด้่านหนา้พนกังานสาวประจำา

    โตะ๊กำาลงัคยุโทรศพัทอ์ยู่เธอหนัมามองนพแลว้เอามอืปอ้งโทรศพัทข์องเธอไว้

    “ติดต่ออะไรค่ะ”เธอถามนพ

    “ผมมาสมัครงานครับ”นพกล่าวอย่างนอบน้อม

    พนักงานสาวคุยโทรศัพท์ต่อ คงจะเป็นเรื่องสำาคัญมากนพจึงยืน

    เงียบรอให้เธอเสร็จธุระ ระหว่างยืนคอยนพสำารวจไปรอบๆ เห็นด้านในมีฝา

    สูงแค่หน้าอกกั้นแบ่งเป็นล็อคๆอยู่ประมาณสิบล็อคแต่ละล๊อคเป็นเหมือน

    ออฟฟิศของคนหนึ่งคนน่าจะมีพนักงานอยู่ประมาณยี่สิบคนห้องผู้จัดการ

    เป็นห้องกระจกอยู่ด้านข้าง ในห้องไฟปิดอยู่ คงเป็นเพราะนพออกมาแต่

    เช้าด้วยความอยากทำางาน เขาจึงมาถึงบริษัทก่อนผู้จัดการนพเหลือบมอง

    ดูนาฬิกาบนฝาผนัง เป็นเวลาเกือบ10นาฬิกาห้องติดกับห้องผู้จัดการคง

    เป็นห้องประชุมมีโต๊ะยาวมีเก้าอี้อยู่รอบที่ฝาผนังมีไว้ท์บอร์ดตรงที่นพยืน

    อยู่เป็นพื้นที่รับแขกมีโมเดลบ้านตั้งอยู่ด้านหนึ่งอีกด้านหนึ่งมีโซฟาสามตัว

    โต๊ะกระจกอยู่ตรงกลาง โคมไฟอยู่บนโต๊ะหนังสือ จัดไว้อย่างสวยงามที่ฝา

    ผนังมีภาพวาดสีนำ้ามันเป็นภาพวิวทางแถบยุโรปเมื่อสำารวจไปรอบๆแล้ว

    นพชำาเลอืงมองทีพ่นกังานสาวเธอยงัไมเ่สรจ็ธรุะทางโทรศพัท์นพจงึฆา่เวลา

    ด้วยการมองไปรอบๆอีกด้านในพนักงานส่วนใหญ่กำาลังทำาธุระส่วนตัวเช่น

    ดดัขนตามวนโรตสีายใหมใสเ่ขา้ปากตดัเลบ็แคะขีเ้ลบ็บา้งกน็ัง่เหมอ่ะttttดู

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -9-

    คล้ายกำาลังนั่งรอโทรศัพท์ มีบางคนที่กำาลังเขียนหนังสืออยู่ดูคล้ายกำาลัง

    ทำางานนพขยับหลบเมื่อประตูข้างหลังเขาถูกเปิดขึ้น

    ชายร่างใหญ่ในชุดสูท เดินเข้าประตูมาพนักงานสาววางโทรศัพท์

    มือถือของเธอลงบนโต๊ะทันทีโดยไม่กล่าวคำาลา

    “สวัสดีค่ะ” เธอประนมมือไหว้ ก้มหัว ย่อเข่าเล็กน้อย ดูสุภาพ

    เรียบร้อย สมเป็นกุลสตรีไทย “เรียนเชิญนั่งก่อนค่ะ ผู้จัดการโทรมาส่ังให้

    เรียนท่านว่าอาจจะเข้าสายนิดนึงเพราะรถติดมากค่ะ”

    ผู้มาเยือนนั่งลงบนโซฟาหยิบหนังสือนิตยสารภาษาอังกฤษข้ึนมา

    อา่นไมส่นใจอะไรพนกังานสาวเดนิหายเขา้ไปขา้งในซกัอดึใจกเ็ดนิถอืแกว้

    นำ้าเย็นกลับออกมาวางไว้ตรงหน้าชายบนโซฟา

    “ขอบใจ”ชายร่างใหญ่ส่งยิ้ม

    “ค่า...” เธอยิ้มแสดงความมีมิตรไมตรี แต่รอยยิ้มก็หายไปหมดสิ้น

    เมื่อเธอหันมาเจอนพยืนอยู่ “สมัครงานเหรอ” เธอเลิกเปลือกตาข้ึน มอง

    หน้านพ

    “ครับผม”

    “ยังไม่รับฮ่ะ”เธอตอบทันที

    “เอ่อ...คือผม...ขอพบกับผู้จัดการครับ”

    “ผู้จัดการไม่ว่างฮ่ะถ้าจะพบกับผู้จัดการคุณต้องโทรมานัดก่อน”

    นพยืนคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี

    “เชิญค่ะ”พนักงานสาวพูดฮ่วนๆพร้อมกับผายมือไปที่ประตู

    นพยอมแพ้ เอื้อมมือไปเปิดประตูกระจกแต่ประตูถูกพลักออกมา

    พอดีหลังกระจกบานนั้นเป็นชายในชุดสูทรูปร่างหน้าตาภูมิฐานนพรู้ทันที

    ว่าคนนี้แหละผู้จัดการ

    นพยกมือไหว้“สวัสดีครับผมมาสมัครงานครับ”

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -10-

    ผู้จัดการผยักหน้า“เออดีคุณช่วยกรอกใบสมัครไว้นะแล้วผมจะ

    ติดต่อกลับไป” ผู้จัดการหันไปมองที่พนักงานสาว “เดี๋ยวคุณช่วยเอาใบ

    สมัครให้เขาหน่อยนะ”

    ชายบนโซฟาวางหนังสือลง “ไปกันเลยใหม” เขาพูดพร้อมกับลุก

    ขึ้นยืน

    “ไปเลยก็ดีครับขอโทษนะครับที่มาสายไปหน่อย”

    นพยืนมองทั้งสองพากันเดินออกไปแล้วหันกลับมาให้ความสนใจ

    พนักงานสาวพนักงานสาวเปิดลิ้นชักหยิบใบสมัครงานออกมาวางที่โต๊ะไม่

    พูดจาอะไรนพหยิบใบสมัครงานเดินไปนั่งที่โซฟากรอกใบสมัครอยู่สักครู่ก็

    เสร็จ มองหาพนักงานสาว ไม่เจอจึงนั่งรอ สักพักใหญ่เสียงโทรศัพท์ดังข้ึน

    พนักงานสาวจึงปรากฏร่างขึ้นอีกครั้ง

    “เออว่ะเมื่อกี้ลูกค้ามาพอดีมันจะซื้อบ้าน”

    เธอคุยโทรศัพย์ด้วยความสดชื่น รอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เกิดขึ้นบน

    ใบหน้าของเธอเป็นระยะๆนพได้ยินเสียงที่เธอพูดไม่ชัดนัก เพราะเธอพูด

    เชิงกระซิบ เสียงเบามากจับใจความไม่ได้ แต่ที่รู้ๆคือเธอกำาลังมีความสุข

    กับการคุยโทรศัพท์ไม่สนใจเขา

    เวลาผ่านไปยี่สิบกว่านาที นพนั่งคอยด้วยความอดทน แต่เริ่ม

    หงุดหงิดแว่วเสียงจากโทรศัพท์ดัง “บี๊บ”นพหันควับไปที่โต๊ะพนักงานสาว

    เธอกำาลังเดินจากไปอีกนพรีบลุกขึ้นร้องเรียก

    “คุณครับคุณครับใบสมัครกรอกเสร็จแล้วครับ”

    พนักงานสาวไม่หยุดเดิน เพียงหันหลังกลับมาพูดว่า “เอาวางไว้

    บนโต๊ะนั่นแหละฮ่ะ”

    นพทำาตามคำาแนะนำาของเธอแล้วเดินออกจากห้องนพพยายาม

    สลัดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องนั้นให้หลุดออกจากความทรงจำา แต่

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    - 11 -

    ความรู้สึกอึดอัดยังติดตัวเขามานพเดินไปที่ห้องถัดไป เป็นประตูกระจก

    เหมือนกัน ข้างประตูมีป้ายทองเหลืองเขียนว่า Concept Products

    Co.,Ltd ตัวใหญ่ กำากับด้วยภาษาไทยตัวเล็กด้านล่าง บริษัท คอนเซ็พ

    โปรดัคท์ จำากัดนพเข้าใจภาษาอังกฤษดี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าบริษัทนี้ทำาเกี่ยวกับ

    อะไร เขาไม่สนใจ ผลักประตูเข้าไป ด้านในมีโต๊ะยาว มีเก้าอี้วางอยู่รอบ

    คล้ายห้องประชุมด้านซ้ายมีโต๊ะทำางาน3ชุดเรียงแถวตอนโต๊ะหนึ่งมีชาย

    ในชุดเสื้อเชิ้ตขาวแขนยาวผูกเน็คไทนั่งอยู่ อีก 2 โต๊ะเป็นพนักงานหญิงใน

    ชุดฟอร์ม

    “จากไหนครับ”พนักงานที่โต๊ะแรกถาม

    “ผมมาสมัครงานครับ”

    “อ๋อ เชิญด้านนี้เลยครับ” พนักงานชายเปิดล้ินชัก หยิบกระดาษ

    สองสามใบที่แม็กติดกันเดินออกมาหานพ

    “ผมชื่อยุธครับ”พนักงานชายพูดพร้อมยื่นมือให้นพ

    นพจับมือเช็คแฮน“ผมชื่อนพครับ”

    พนักงานชายยิ้มเป็นมิตร นพใจชื้นขึ้นมาหน่อย ความหงุดหงิด

    อึดอัดที่ได้รับมาจากห้องข้างได้เลือนหายไป

    “เชิญทางนี้เลยครับ”

    พนักงานเดินไปที่โต๊ะยาววางแผ่นกระดาษลงบนโต๊ะหยิบปากกา

    ด้ามทองออกจากกระเป๋าเสื้อวางลงบนกระดาษนั้น

    “เชิญกรอกใบสมัครเลยครับ”

    นพนั่งลงบนเก้าอี้ กรอกใบสมัครพนักงานชาย เดินกลับไปที่โต๊ะ

    นพกรอกใบสมัครอย่างละเอียดอยู่นานจนเสร็จ หันไปมองที่พนักงานชาย

    หนุ่มใจดีเดินกลับมามีเอกสารหลายใบอยู่ในมือ เขาวางมันลงบนโต๊ะนั่ง

    ลงบนเก้าอี้ข้างนพหยิบใบสมัครขึ้นมาเปิดดูคร่าวๆ

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -12-

    “ดีมากทางบริษัทเราเป็นบริษัทที่มียอดขายดีเป็นอันดับหนึ่งของ

    ประเทศไทย เครื่องฉายรังสี ไบโอสเปคตรัมของเรา ช่วยรักษาโรคผิวหนัง

    และโรคกระดูกทุกชนิด และยังรักษาโรคมะเร็งได้อีกด้วย มียอดขายในปี

    2537ถึงหกหมื่นตัวสินค้าแทบทุกชนิดได้ผ่านการรับรองคุณภาพจากต่าง

    ประเทศสินค้าใหม่ล่าสุดคือที่นอนแม่เหล็กช่วยรักษาโรคร้ายได้สารพัดไม่

    ว่าจะเป็นโรคเก๊า เบาหวานหรือมะเร็งและอื่นๆอีกมากมายถ้าคุณซื้อวัน

    น้ี จะได้รับส่วนลดทันที 20% และยังแถมหมอนแม่เหล็ก ช่วยเพิ่ม

    ประสิทธิภาพในการรักษาอีก 2 ใบ ชำาระทั้งหมดหรือ ผ่อนชำาระได้สูงสุด

    ถึง12เดือน”

    นพชักรู้สึกไม่ค่อยดี“ให้ผมเป็นพนักงานขายหรือครับ”

    “ไม่ใช่”ชายหนุ่มพูดเสียงหนักแน่นนพรู้สึกดีขึ้น

    “คุณไม่ใช่พนักงานขายแต่คุณคือตัวแทนบริษัทคุณเป็นผู้จัดการ

    ของตัวคุณเองคุณมีสิทธิ์ทุกอย่างเท่าเทียมกับผมคุณเป็นคนกำาหนดราย

    ได้ของตัวคุณเอง”

    “หมายความว่ายังไงครับ”นพสงสัย

    ชายหนุ่มหยิบเอกสารที่วางอยู่ข้างๆออกมาชี้แจง เขาชี้ไปที่กร๊าฟ

    บนเอกสาร

    “ขายหนึ่งตัวได้รับตำาแหน่งตัวแทนบริษัทได้รับเงิน20%ของยอด

    ขาย39,900บาทเท่ากับ7,980บาทขาย2-5ตัวได้รับ25%ของยอดขาย

    เทา่กบัตวัละ9,975บาทขายตัวทีห่กได้รบัตำาแหนง่ผูจ้ดัการเขต6-10ตวัได้

    รับเงิน30%ของยอดขายคือตัวละ11,970บาทขายตัวที่11ได้รับตำาแหน่ง

    ผู้จัดการภาค11-20ตัวได้รับเงิน35%ของยอดขายคือตัวละ13,965บาท

    ขายตัวที่21ได้รับตำาแหน่งกรรมการสาขา21-40ตัวได้รับเงิน40%ของ

    ยอดขายคือตัวละ15,960บาทและในที่สุดตัวที่41คุณจะได้รับตำาแหน่ง

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -13-

    ประธานสาขาตั้งแต่ตัวที่41ขึ้นไปคุณจะรับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของยอดขาย

    คือตัวละสองหมื่นหย่อนห้าสิบบาทและถ้าคุณหาคนมาเป็นลูกทีมได้คุณก็

    จะไดเ้ปอรเ์ซน็ตจ์ากยอดขายของลกูทมีอีกดังนี”้ชายหนุม่พลกิเอกสารกำาลงั

    จะอธิบายต่อแต่นพพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

    “แล้วมันรักษาโรคได้จริงหรือครับ”

    ชายหนุ่มพลิกเอกสารไปอีกหน้าหนึ่งทันทีแล้วชี้

    “สินค้าของเราได้รับประกาศนียบัตร รับรองคุณภาพจากต่าง

    ประเทศนะคุณ”

    นพมองไปที่เอกสารนั้น เห็นเป็นรูปใบรับรองอะไรสักอย่างหนึ่ง

    เล็กๆมีรูปโล่รางวัลและถ้วยรางวัลด้วยนพเพ่งอ่านรายละเอียดว่า ได้รับ

    การรับรองคุณภาพจากสมาคมสินค้าส่งออกของไต้หวัน และได้รับถ้วย

    รางวัลสินค้าดีเด่นด้านดีไซน์จากไต้หวันเช่นกัน

    ชายหนุ่มชี้แจงต่อ “ถ้าคุณมีข้อสงสัยคุณควรซื้อไปลองใช้เองก่อน

    เมื่อเห็นประสิทธิ์ภาพของตัวสินค้าแล้วคุณจึงบอกต่อให้คนอื่นจะช่วยให้

    คุณขายสินค้าได้ง่ายขึ้นอีกถ้าคุณซื้อไปเลยหนึ่งชุดคุณก็จะได้รับบรรจุเป็น

    ตัวแทนบริษัททันที เราจะทำาบัตรประจำาตัวพนักงานให้ พร้อมกับกระเป๋า

    และเอกสารในการขายทั้งหมดมูลค่า1500บาทให้คุณฟรี“

    “ผมขอคิดดูก่อนได้ใหมครับ”

    “ได้...แต่อย่าคิดนานนักนะเพราะโอกาสเป็นของคุณแล้ว”

    นพลุกขึ้นจากเก้าอี้ชายหนุ่มยื่นนามบัตรให้

    “โทรหาผมถ้าอยากจะร่วมงานกับเรา”พร้อมกับยื่นมือเช็คแฮนด์

    อำาลา

    นพเดินออกจากประตู เดินไปตามทางเดินเร่ือยๆพรางคิดว่า ที่

    จริงแล้วมันก็คือตำาแหน่งเซลแมนทั้งนั้น แล้วไอ้ที่นอนแม่เหล็กนั่นมันจะ

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -14-

    รักษาโรคได้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ นพนึกขำาแต่ไม่ได้เอามาใส่ใจ เขาเริ่มมอง

    หาที่หมายต่อไป เขาเดินมาถึงอีกประตูหนึ่ง เป็นประตูกระจกทึบ ที่ข้าง

    ประตูมีป้ายทองเหลืองเขียนว่า “Siam Shipping” สยาม ชิพปิ้ง คงเป็น

    บริษัทให้บริการรับส่งสินค้าต่างประเทศทางเรือนพผลักประตูเข้าไปหัว

    แทบโขกประตูเพราะประตูล็อกอยู่ นพเอามือป้องเงาสะท้อนพยายามมอง

    ผ่านกระจกเข้าไปด้านใน เห็นหญิงวัยกลางคนอยู่ที่เค้าน์เตอร์ด้านในจ้อง

    มองเขาอยู่นพชี้ที่ประตูหมายจะให้สัญญาณว่า“ประตูล็อค”เปิดให้หน่อย

    หญิงที่เคาน์เตอร์โบกมือให้สัญญาณกลับมาว่า “ไม่”ปากพูดอะไรไม่ได้ยิน

    แต่อ่านจากปากดูก็ได้ใจความว่า “ไปข้างหน้าก่อน”นพเห็นป้ายกระดาษ

    แปะติดอยู่ที่เค้าน์เตอร์ เขียนว่า “งดบริจาค” นพพยายามชี้แจง โดยยก

    เอกสารในมือขึ้นแล้วป้องปากตะโกนที่กระจก

    “มาสมัครงานครับ”

    เธอโบกมือให้ไปนพตะโกนยำ้า“มาสมัครงานครับ”

    เธอส่ายหัวแล้วเดินจากเคาน์เตอร์หายไป

    นพผิดหวังหันออกจากประตูก้าวจะเดินต่อไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อ

    เหน็หญิงสาวออฟฟศิแรกทีเ่ขาเขา้ไปติดต่อยนืมองอยู่กบัเพือ่นหญงิของเธอ

    อกีคนหนึง่ดว้ยสายตาเยยีดหยนัความรูส้กึอดึอดัเขา้มาเยอืนนพอกีครัง้เขา

    หันหลงักลบัเดนิหนไีปทีบ่นัไดแลว้รบีขึน้ไปอกีสามชัน้มาถงึประตสูำานกังาน

    อกีทีห่นึง่นพดทูีป้่ายหนา้ประตูเขยีนวา่“ProsperFinancialCo.,ltd.”บริษทั

    พรอสเปอร์ไฟแนนเชี่ยลจำากัดดูจากป้ายนพรู้ทันทีว่าเป็นบริษัททำาเกี่ยวกับ

    การจดัไฟแนนซ์นพลงัเลทีจ่ะเปดิประตูแต่กตั็ดสนิใจเปดิประตเูข้าไปพบกบั

    เค้าน์เตอร์สูงระดับหน้าอกมีพนักงานหญิงแต่งชุดฟอร์มอยู่หลังเค้าน์เตอร์

    สองคนนพเดินเข้าไปหา

    “สวัสดีครับผมมาสมัครงานครับ”

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -15-

    พนักงานสาวทำาหน้างง“แต่เราไม่ได้เปิดรับสมัครนี่ฮ้า”

    “คือ...ผมอยากจะขอพบผู้จัดการนะครับ” นพหมายจะคุยกับผู้

    จัดการเรื่องขอทำางานแบบไม่เกี่ยงค่าแรงเพื่อจะหาประสบการณ์

    สองสาวพนักงานมองหน้ากันคิดว่านพจะฟ้องอะไรผู้จัดการ

    “ใครแนะนำาคุณมาค่ะ”

    “ไม่มีใครแนะนำาหรอกครับผมมาเอง”

    “จะเข้าพบผู้จัดการเรื่องอะไร”

    “เรื่องทำางานนะครับผมมีข้อเสนอ”

    “ข้อเสนออะไร”

    “อันนี้ผมขอคุยกับผู้จัดการเองเป็นการส่วนตัวครับ” นพอายที่จะ

    เปิดเผย

    “ผู้จัดการไม่อยู่” พนักงานหลังเคาน์เตอร์พูด แล้วก้มหน้าหยิบ

    กระดาษมาขีดๆ เขียนๆ ไม่สนใจนพ เหมือนกับจะส่ือให้นพเห็นว่าเธอไม่

    ว่างพอที่จะมาใส่ใจในเรื่องไร้สาระ

    นพมองเข้าไปด้านใน ผ่านโต๊ะพนักงานที่วางเรียงกันเป็นตับ มี

    เสียงพิมพ์ดีดบ้าง เสียงพูดโทรศัพท์บ้างปนกันอยู่เซ็งแซ่ ผู้คนเดินไปมาอยู่

    ขวักไขว่ด้านหลังสุดนพเห็นห้องกระจกที่หน้าห้องเขียนว่าผู้จัดการข้างใน

    เห็นชายในชุดสูทนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่นพชี้ไปที่ห้อง

    “ก็นั่นไงผู้จัดการ”

    พนักงานสาวอารมณ์ฉุนเฉียวตวาด“ถึงอยู่ก็ไม่ว่าง”

    นพได้ยินเธอตอบแบบไปนำ้าขุ่นๆ ไม่มีเหตุผลแล้วรู้สึกเหมือนกับ

    ขอทานทีถ่กูปฏเิสธการบรจิาคผสมกบัความหงดุหงดิข้นแคน้ทีไ่ดรั้บมาตัง้แต่

    เช้าลูกแมวเชื่องๆก็กลายร่างเป็นเสือหิวที่ดุร้าย

    “โอ๊ย...ย...ย.......”นพแหกปากตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อสุดเสียงร้อง

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    - 16 -

    เสียงอึกทึกคึกโครมในนั้นหยุดลงกลายเป็นเสียงแห่งความสงัด เหลือแต่

    เสียงลมหายใจแรงของนพ

    นพตวัสัน่พดูเสยีงดัง“นีพ่วกคุณเปน็คนหรอืเปล่าวะหวัใจของพวก

    คุณมันทำาด้วยอะไรกันผมไม่ใช่ขอทานมาขอเงินคุณใช้นะผมเป็นบัณฑิต

    เกียรตินิยม เอกบริหารธุรกิจ” นพเปิดแฟ้มในมือชูขึ้น “ผมจะมาให้ความ

    ช่วยเหลือผมจะมาพัฒนาให้ความเจริญแก่ที่นี่แต่พวกคุณกลับเห็นผมเป็น

    ขอทานมาขอเศษทานคุณรู้ไหมว่าบ้านอื่นเมืองอื่นเขาพัฒนากันไปถึงไหน

    แล้วอย่าทำาตัวเป็นคางคกเป็นไส้เดือนในกะลา เปิดกะลาเปิดใจออกมองดู

    โลกภายนอกกันบ้างได้มั๊ย!”

    ทุกสายตากำาลังจ้องมาที่นพผู้จัดการเดินออกมายืนงงอยู่หน้าห้อง

    นพหันหลังเดินออกจากที่นั่น เขานึกอยากจะคว้างใบปริญญาทิ้ง หมด

    อารมณ์ในการหางานทำาต่อ เขาเดินลงบันไดออกจากอาคารนั้น มายังท้อง

    ถนน เผชิญกับอากาศร้อนยามใกล้เที่ยงที่แผดเผา เขาดึงเนคไทออกปลด

    กระดุมคอเสื้อ แล้วพับแขนเสื้อขึ้นเพื่อคลายร้อนมองซ้ายมองขวา ไม่รู้จะ

    ไปไหนต่อ เขาตัดสินใจว่าจะโดดขึ้นรถเมล์คันแรกที่ผ่านมา เพ่ือไปให้พ้น

    จากที่นั่น นพมองเห็นรถเมล์อยู่ห่างจากเขาประมาณ100 เมตร ค่อยๆ

    ขยับมา ทีละนิดๆ เพราะรถติด เขายืนมองอยู่สักพักจึงเดินไปหารถเมล์

    แทนที่จะรอรถเมล์ให้มาหาเขาเขาเดินเร็วกว่ารถเมล์

    “ไอ้นพ” เสียงใครเรียกเราหรือเปล่า นพหันหลังไปมองแต่ก็ไม่มี

    ใครเรียก

    “นพนพ” เสียงแว่วมาอีกนพหันซ้ายหันขวาชายบนเบาะหลังในรถเบ้นซ์

    สีบรอนซ์เงินบนถนนยื่นหน้าออกมานอกหน้าต่างกวักมือเรียก เสียงรถคัน

    หลังบีบแตรไล่

    “มาซิเร็วๆเข้า”

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -17-

    “ไอ้ษร”นพเห็นเพื่อนเก่า

    ชายในรถเปิดประตู“เออเข้ามาก่อนคันหลังบีบแตรไล่แล้ว”

    นพรบีไปท่ีรถชายในรถเปดิประตูใหน้พเขา้ไปนัง่“แปน้.....ๆๆ ”เสยีง

    แตรรถคนัหลงัดงัไมข่าดสายยงัไมท่นัปดิประตดูีษรกเ็ร่งใหค้นคบัรถขับออก

    ไป “ไปเลยน้าชื่น” รถเบ้นซ์ก็รีบเคลื่อนไปข้างหน้าสักสองสามวาแล้วก็ต้อง

    หยุดนิ่งอีกเพราะรถมันติด

    “มาทำาอะไรแถวนี้วะ”หนุ่มหล่อในรถเบ้นซ์ถาม

    เพื่อนเก่าของนพนามอักษร ต่ืนเต้นที่ได้เจอกับนพอีกที เขาแยก

    จากกันตอนจบม.6เนื่องจากอักษรไปเรียนต่อที่อเมริกา

    “มาหางานทำาว่ะ” นพตอบ “แล้วเอ็งกลับมาจากเมืองนอกตั้งแต่

    เมื่อไรวะ”

    “เพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เอง นึกถึงเอ็งอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาเอ็ง

    ที่ไหนรู้แต่ว่าบ้านเอ็งขายยาอยู่ลาดพร้าวดีใจที่ได้เจอกับเอ็งว่ะนับว่าเป็น

    โชคของข้าจริงๆเมื่อกี้เอ็งว่ามาหางานทำาเหรอวะ”

    “อือ”นพตอบอย่างไม่อยากพูดถึงมัน

    “แล้วได้งานอะไรทำาวะ”อักษรถามอย่างสนใจ

    “อย่าไปพูดถึงมันเลย”นพพยายามคุยเรื่องอื่น “เมืองนอกเป็นยัง

    ไงบ้างวะ”

    อักษรไม่อยากคุยเรื่องเมืองนอก เขาอยากคุยเร่ืองทำางานมากกว่า

    “เอ็งมาทำางานกบัขา้ไดไ้หมวะทีเ่อง็ไดง้านทำาเคา้ใหเ้งนิเดอืนเอง็เทา่ไรเดีย๋ว

    ข้าจะให้เอ็งมากกว่านั้นสองหมื่น”

    นพนั่งนิ่งไม่พูดอะไร

    “แล้วเค้าให้เอ็งเท่าไร”อักษรใช้หัวเข่ากระทบขานพ

    นพพูดเสียงเอื่อยๆ “ข้าหางานทำามาตั้งนานแล้ว ยังไม่ได้งานทำา

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -18-

    เลย”

    “เย้...มันต้องอย่างนั้น” อักษรดีใจ “ข้าคิดถึงเอ็งมากว่ะมีอะไรจะ

    คุยเยอะเลยเพื่อน”อักษรเอื้อมมือไปคล้องคอเพื่อนเก่า

    สักพักใหญ่ รถเบ้นซ์ก็เคลื่อนไปข้างหน้าได้ประมาณ 10 เมตร

    แล้วเลี้ยวเข้าไปในอาคารเดิมที่นพเพิ่งออกมา ยามตะเบะควับ รถเลี้ยวเข้า

    ที่จอดอักษรพานพเดินไปที่ลิฟต์

    “เอ็งจะไปไหนวะ”นพถาม

    “ไปที่ทำางานข้าซิวะข้ามีเรื่องจะคุยกับเอ็งเยอะ”

    “อะไรวะ เอ็งเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเมื่อวาน ได้งานทำาแล้วรึ”

    นพไม่อยากเชื่อ

    “เออเอาเถอะน่า”

    อักษรพานพเข้าไปในลิฟต์กดปุ่มเบอร์20

    “เอ็งทำางานอะไรวะ”นพถามอีก

    “ก็เดี๋ยวไปดูพร้อมๆกันเลยข้าเองก็ยังไม่รู้ ยังไม่เคยเห็นออฟฟิศ

    ของข้าเหมือนกัน”

    นพไม่เข้าใจว่ามันอะไรของมันลิฟต์เคลื่อนขึ้นมาถึงชั้นสูงสุดสอง

    สหายเดินออกจากลิฟต์ มายังสำานักงานแห่งหนึ่ง อันนี้ใหญ่กว่าทุกที่ๆนพ

    เห็นอยู่ในอาคารนี้มีประตูทางเข้าหลายทางตัวอักษรทองเหลืองขนาดใหญ่

    เขียนว่า“FortuneHeadOffice”สำานักงานฟอร์จูนชื่อเดียวกับชื่อตึกอักษร

    เดินนำาเปิดประตูกระจกเข้าไปในออฟฟิศนพเดินตามเข้าไปอย่างงงๆ

    ด้านในเป็นสำานักงานขนาดใหญ่แต่มีคนอยู่ไม่หนาแน่นพนักงาน

    สาวในชุดฟอร์มสีชมพูตัดด้วยสีเทายกมือไหว้อย่างนอบน้อมนพยกมือรับ

    ไหว้

    “เรียนเชิญทางนี้ค่ะ”พนักงานสาวสวยเดินนำาทาง

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -19-

    มาถึงหน้าห้องกระจกทึบ ที่ประตูเขียนว่า ผู้จัดการพนักงานสาว

    เคาะประตูสองทีแล้วเปิดประตูพร้อมผายมือ

    “เชิญค่ะ”

    ชายหนุ่มสองคนพากันเดินเข้าไปในห้อง พบกับห้องทำางานหรู มี

    ชั้นหนังสือขนาดใหญ่ราวกับห้องสมุดอยู่ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งเป็นชุดโซฟา

    เล็กๆตรงกลางมีโต๊ะทำางานขนาดใหญ่ เอกสารเต็มโต๊ะหลังโต๊ะมีชายสูง

    อายุในชุดสูทนั่งอยู่บนเก้าอีนวมพนักพิงสูงใบหน้าเคร่งครึม

    “หวัดดีครับป๊านี่นพเพื่อนผม”

    นพยกมือไหว้“สวัสดีครับ”

    พ่อของอักษรรับไหว้ ไม่พูดอะไรนึกในใจ ...ไอ้พวกกุ๊ย... (ดูจาก

    การแต่งตัวของนพ)

    “นั่งก่อนซินพ”อักษรชี้ไปที่โซฟา“ไหนออฟฟิศผมละป๊าผมพร้อมที่

    จะทำางานแล้ว”อักษรพูดพลางมองไปรอบๆห้อง

    พ่อของษรถอนหายใจ“เฮ้อ...แกนะเป็นผู้ใหญ่แล้วนะเลิกทำาอะไร

    ทีเล่นทีจริงซะที ถึงเวลาแล้วที่แกจะต้องตั้งใจต้องใช้สมองไปในทางที่ถูกที่

    ควร แกเป็นความหวังสุดท้ายของฉัน ที่พ่อจะให้แกมาช่วยทำางานนี้น่ะ

    ไม่ใช่เพราะเห็นว่าแกเก่งหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่า แกเป็นคนเดียวที่

    ซื่อสัตย์ต่อฉันในโลกนี้เห็นจะเหลือแกคนเดียวเท่านั้น”

    “โธ่...แล้วพ่อรู้ได้ยังไงว่าผมไม่เก่ง ผมจบนอกนะพ่อ” นพนั่งบน

    โต๊ะทำางานพ่อหยิบปากกาบนโต๊ะควงไปควงมา “แล้วพ่อจะให้ผมทำาอะไร

    บ้างว่ามาเลย”

    “ฉันจะให้แกเริ่มจากการเอาเอกสารทั้งหมดนี้ไปอ่านให้เข้าใจ ถ้า

    สงสัยอะไรให้ถามฉันคนเดียวห้ามไปถามคนอื่นห้ามไปสนิทสนมกับใครใน

    บริษัทโดยเฉพาะพวกผู้หญิงสงสัยอะไรแกถามฉันคนเดียว”

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -20-

    “สะบายมาก เรื่องอ่านหนังสือเรื่องท่องจำานะพ่อ เดี๋ยวนี้ผมไม่มี

    ปัญหา โนพลอมแพลมอ่านแล้วไงต่อละป๊า จะให้ช่วยงานฝ่ายไหนบอก

    มาเลย”

    “เมื่อแกอ่านจนเข้าใจหมดแล้ว แกจะมาช่วยฉันบริหารกิจการ

    ทั้งหมด”

    “โอโฮ้...ขนาดนั้นเลยเหรอป๊า”

    “ออฟฟิสของแกอยู่ทางปีกซ้าย” ชายชรากดปุ่มอินเนอร์คอมบน

    โต๊ะ

    “บนโต๊ะที่ออฟฟิสของแกมีเอกสารเหมือนกันนี้อีกชุดหนึ่ง แก

    มีหน้าที่ศึกษามัน”

    เสยีงเคาะประตูสองทีประตูเปดิออกพนกังานสาววยัประมาณยีสิ่บ

    กว่า รูปร่างสูงโปร่งผิวขาวผมยาวหน้าตาสวยแบบเรียบๆมีเครื่องสำาอางค์

    บางๆบนใบหน้าแต่นวลละมุนเด่นแววตาเศร้าๆน่าเอ็นดูนุ่งกระโปรงยาว

    คลุมหัวเข่าท่าทางสุภาพเรียบร้อยแต่มีความสง่าสมกับเป็นเลขาใหญ่ของ

    ประธานบริษัทเดินเข้ามา

    “ขาต้องการอะไรคะ”

    “คุณปุ๊ช่วยพาลูกชายผมไปที่ออฟฟิศเขาหน่อย”

    “ค่ะ”เธอมองไปที่อักษร“เรียนเชิญค่ะ”

    ษรหันไปหานพเรียกให้เขาตามมา “ไปโว้ยเพื่อน” นพลุกข้ึนแล้ว

    หันไปไหว้ท่านประทานก่อนเดินตามษรไป ประทานใหญ่รับไหว้อย่างไม่

    ค่อยเต็มใจแล้วทำาคิ้วขมวดมองตามทั้งสามคนเดินออกไปแล้วส่ายหัว

    เลขาปุ๊เดินนำาทางผ่านโต๊ะทำางานหลายโต๊ะพนักงานทุกคนต่าง

    แอบชำาเลืองมองเสียงซุบซิบกันแต่ก็ดูเหมือนพวกเขากำาลังทำางานกันอย่าง

    ขมักเขม้นไม่สนใจอะไร สักพักใหญ่ ก็มาถึงอีกฟากหนึ่งของสำานักงาน

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -21-

    พนักงานสาวพามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง มีป้ายติดว่า รองประทาน

    กรรมการพนักงานเปิดประตูพร้อมกับผายมือไปในห้อง

    “เชิญค่ะ มีอะไรก็กดอินเนอร์คอมเบอร์ 1 เรียกปุ๊ได้เลยนะคะ”

    พนักงานสาวเดินจากไปตอนเดินผ่านเธอก้มหลังเล็กน้อยเอามือปิดหน้าอก

    เสื้ออักษรมองตามก้นที่ส่ายไปมาขณะเดินแล้วพูดเบาๆ

    “ซ้ายขวาซ้ายขวาป๊านี่เข้าใจหาเลขาจริงๆ”

    นพยงัไมห่ลดุพ้นจากภวงัค์แหง่ความงงงวยทัง้สองพากนัเดนิเข้าไป

    ในออฟฟิศใหม่ของอักษร เป็นห้องขนาดใหญ่ ฝาผนังด้านหนึ่งเป็นกระจก

    ใสมองออกไปเห็นตึกรามอาคารน้อยใหญ่สุดลูกหูลูกตาปกคลุมด้วยม่าน

    ควันท่อไอเสียบางๆดูคล้ายเมฆหมอก ราวกับว่าออฟฟิศของเขาตั้งอยู่บน

    สรวงสวรรคเ์ลยทเีดยีวผนงัดา้นอืน่ตดิวอลเปเปอรท์ำาดว้ยผา้ลายลกูนำา้มดีิน้

    ทองแวววบัมภีาพเพน้ทป์ระดบัตดิฝาดา้นหนึง่มชีัน้หนงัสอืเตม็ฝาพรอ้มกบั

    หนังสืออยู่เกือบเต็มชั้น เป็นหนังสือที่พ่อของอักษรเห็นว่าเขาควรอ่าน ส่วน

    มากเป็นหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจและการบริหาร ใกล้ฝาอีกข้างหนึ่ง

    เป็นโมเดลของอาคารแห่งนี้ ติดฝาด้านหน้าเป็นชุดโซฟาที่ฝาพนังด้านนั้น

    เป็นแผนที่ประเทศไทยขนาดใหญ่โต๊ะทำางานขนาดใหญ่ทำาจากไม้มะค่าอยู่

    ตรงกลางค่อนไปทางฝากระจกบนโต๊ะมีคอมพิวเตอร์และเอกสารปึกใหญ่

    อยู่สามปึก

    “โอ้แจ๋วเลยว่ะเป็นไงนพใช้ได้ไหม”

    “ใช้ได้ว่ะเอ็งนี่มันโชคดีจริงๆนะพอจบก็ได้งานทำาเลย”นพชื่นชม

    “เออแล้วเอ็งจะฝากพ่อเอ็งให้รับข้าเข้าทำางานที่นี่หรือไงว่ะ”

    “ไม่ใช่อย่างนั้นมานั่งลงก่อนแล้วข้าจะเล่าให้ฟัง”

    ทั้งสองพากันไปนั่งที่โซฟาอักษรตั้งสติเอาจริง

    “คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้ แม่ของข้าตุ๋นพ่อข้าเอาเงินไปเป็นร้อยล้าน

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -22-

    แล้วหนีไปอยู่เมืองนอกเรื่องมันยาววันหลังจะเล่าให้ฟัง”

    “แล้วเอ็งจะให้ข้าช่วยอะไร”นพขมวดคิ้ว

    “เอ็งอย่าเพิ่งถามฟังก่อนแล้วก่อนหน้านั้นพ่อข้าก็โดนฝ่ายจัดซื้อ

    รวมหัวกับวิศวะหักหลังมันไปซื้อวัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้ในการ

    สร้างคอนโดฯให้พ่อข้า เพ่ือพวกมันจะได้กินงบประมาณกัน ทีนี้ยังสร้าง

    ไม่ทันจะเสร็จดี ตึกแม่งถล่มลงมาคนงานตายห่ากันเพียบ ต้องเสียหายไป

    หลายสิบล้านพ่อข้าเลยไม่ไว้ใจใครแกมีโรคประจำาตัวคือโรคหอบแกแพ้

    ฝุ่นทำาอะไรทุกอย่างเองไม่ได้ คนที่แกไว้ใจก็หักหลังแกกันหมด เอ็งเข้าใจ

    ไหมข้าคือความหวังเดียวของพ่อข้า”

    นพพยักหน้า“เข้าใจแต่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าวะ”

    “เอ้าเพื่อย่อเรื่องให้มันสั้นลงคือว่าข้าน่ะไปเรียนเมืองนอกใช่มั้ย”

    “เออ”นพตอบ

    “ทีนี้ข้าจะบอกความลับเอ็งแล้วเอ็งห้ามไปบอกใครนะโว้ย ข้าเอา

    แต่เที่ยวว่ะ ข้าเรียนไม่จบข้าอ่านหนังสือแล้วข้าจะหลับหรือถ้าไม่หลับข้า

    อ่านแป๊บเดียวก็ลืมหมดข้าไม่ชอบอ่านหนังสือข้าชอบดูหนังมากกว่า ไม่

    เหมือนเอ็ง เอ็งเรียนเก่ง เอ็งก็รู้ว่าที่ข้าจบม.6มาได้ก็เพราะข้าลอกข้อสอบ

    เอ็งแล้วทำาไมข้าไม่ลอกข้อสอบคนอื่น”

    “ก็เพระเขาไม่ให้เอ็งลอกน่ะซิ”นพตอบโดยไม่ต้องคิด

    “ไม่ใช่โว้ยข้าลอกเอ็งเพราะว่าเอ็งเก่งข้าตาถึงเอ็งเข้าใจไหม”

    “แล้วไง”

    ษรอธิบายต่อ“งานนี้ก็เหมือนกันข้าช่วยงานพ่อข้าไม่ได้เพราะข้าไม่มีความ

    รู้”

    นพ“แล้วเอ็งจะให้ข้าทำางานแทนเอ็งหรือไงวะ”

    ษร “ก็ไม่เชิงพ่อข้าไว้ใจข้าคนเดียวและถ้าข้าให้เอ็งทำางานแทน

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -23-

    แล้วยอมสารภาพว่าข้าไม่มีความรู้ไร้ความสามารถข้าก็เสียฟอร์มแย่สิวะ”

    “แล้วเอ็งจะเอายังไง”นพคิดไม่ออก

    ษร “เอ็งจะเป็นหัวสมองของข้า เอ็งจะคิดงานทั้งหมดแทนข้าแต่

    ปิดเป็นความลับ เอ็งรับเงินเดือนโดยตรงจากข้า ไม่ให้ใครรู้ เอ็งต้องการ

    เท่าไรข้าไม่เกี่ยง”

    นพ“เอางั้นเลยเหรอว่ะ”

    “ช่วยข้าหน่อยเถอะเพื่อนข้าไหว้ละ”ษรยกมือไหว้

    “เออไม่ต้องไหว้หรอกข้าจะช่วยเอ็งเท่าที่ข้าทำาได้แต่ข้ายังไม่รู้นะ

    โว้ยว่าข้าจะทำาได้ดีสักแค่ไหน”

    “หมายความว่าเอ็งตกลงใช่ไหมไอ้นพ”

    “เออข้าตกลง”

    “ไชโย ข้ารอดตายแล้ว ไอ้นพเพื่อนยาก” อักษรลุกขึ้นยืนชูกำาปั้น

    ขึ้น ส่ายสะโพกไปมา “ฮะ ฮะ ฮ้า ทีนี้ล่ะ ทุกคนจะได้เห็นฝีมือของ

    ท่านษรบ้างล่ะ”

    นพนั่งคิดแล้วมองไปที่เอกสารสามปึกใหญ่บนโต๊ะ “ข้าคงต้องเริ่ม

    จากการเอาเอกสารพวกนั้นไปอ่านก่อน”

    “ดีมากเพื่อนเออแล้วเอ็งจะเอาเงินเดือนเท่าไรละ”

    “แล้วแต่พ่อเอ็งจะให้ก็แล้วกัน”นพไม่สนใจ

    “สตาร์ทที่...สักห้าหมื่นเป็นไง”อักษรเสนอ

    “เฮ้ยบ้ามากไป”นพค้าน“หมื่นเดียวก็พอ”

    อักษรควักกระเป๋าสตางค์ออกมา หยิบแบ็งค์พันออกมาห้าหกใบ

    “เอ้า เอ็งเอาล่วงหน้าไปก่อนแค่นี้ แล้วสิ้นเดือน ข้าให้เอ็งอีกตามความ

    เหมาะสมหมื่นเดียวมันน้อยไป”

    “เฮ้ยไม่เอา”นพปฏิเสธ

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -24-

    “เอาเถอะน่า เอ็งอย่าหยิ่งกับข้าซิวะ” อักษรเอื้อมมือไปคว้า

    กระเป๋าสตางค์ที่กระเป๋าหลังของกางเกงนพนพขยับตูดหลบแต่กระเป๋า

    สตางค์ก็หลุดติดมืออักษรออกมาเสียแล้ว อักษรเอาแบ็งค์พันห้าหกใบใน

    มือยัดเข้าไป เห็นในกระเป๋ามีตังอยู่ประมาณสามร้อย แล้วโยนกระเป๋า

    คืนให้นพไป นพไม่อยากต่อล้อต่อเถียงรับกระเป๋าตังค์แล้วเสียบลงใน

    กระเป๋ากางเกงอักษรเดินไปที่โต๊ะทำางานกดปุ่มอินเนอร์คอมเบอร์1

    เสียงตอบรับ“ขาปุ๊ค่ะ”

    “ช่วยมาที่ห้องหน่อยครับ”อักษรมองหน้านพยิ้มแล้วยักคิ้ว

    อินเนอร์คอม“ค่ะ”

    นพเดนิมาหยบิเอกสารจากโตะ๊ทำางานไปนัง่อา่นทีโ่ซฟาอกัษรยนืที่

    ผนังกระจกมองดวูวิสกัพักกม็เีสยีงเคาะประตสูองทีประตเูปดิออกเลขาสาว

    เดินเข้ามา

    “คุณอักษรต้องการอะไรคะ”เลขาสาวรอรับคำาสั่ง

    “ห้องติดกันสองข้างนี่เป็นห้องใครครับ”อักษรถาม

    “ด้านนั้นเป็นห้องว่างคะ”

    “แหมน่าเอาโต๊ะสนุ๊กมาวาง”อักษรพูดเบาๆ

    เลขาปุ๊“ได้ค่ะ”

    “เอ้ยปะเปล่าไม่ใช่เอ่อ....แล้วทำาไมว่างละ”

    เลขาปุ๊“ไมท่ราบคะ่หอ้งอกีฟากหนึง่ทางปกีขวากว็า่งอยูห่ลายหอ้ง

    เหมือนกันค่ะ”

    “แล้วติดกันด้านนี้ละห้องใคร”

    “ไม่มีห้องค่ะห้องนี้อยู่สุดปีกด้านนี้แล้วค่ะ”

    “อ๋อเหรองั้นเอาอย่างนี้ห้องติดกันที่ว่างอยู่นี่นะจะเป็นห้องผู้ช่วย

    ผมผมอยากจะเอาชั้นหนังสือนี่ไปไว้ในห้องนั้นแล้วฝาผนังที่ชั้นหนังสือวาง

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -25-

    อยู่ตอนนี้ ผมจะเจาะเป็นประตูเชื่อมสองห้องเข้าหากันคุณช่วยจัดการให้

    ผมหน่อยได้ไหม”

    “ได้ค่ะ”

    “อ้อแล้วนั่นนพดลผู้ช่วยผมครับ”

    เลขาสาวหันไปที่โซฟาก้มหัวย่อเข่าเล็กน้อย

    “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

    นพก้มหัวรับ“ยินดีครับ”

    เลขาสาวหันกลับมาที่อักษร

    “เริ่มจัดการพรุ่งนี้เลยดีไหมคะ”

    “ดีวันเดียวคงเสร็จมั้ง”

    “น่าจะเสร็จค่ะ”

    “โอเคคุณจัดการได้เลย”

    “ค่ะเท่านี้นะคะ”เลขาสาวเดินกลับออกไป

    “เป็นไงนพดีไหมอยู่ใกล้ๆ กันมีประตูถึงกัน อีกสองวันเอ็งย้าย

    เข้ามาได้เลยนะ”

    นพมองหน้า “ขอบใจสำาหรับงาน แต่ต้องบอกพ่อเอ็งก่อนหรือ

    เปล่าวะ”

    “แล้วข้าจะบอกพ่อข้าเองไปเราไปฉลองกันดีกว่า”

    “เอ็งไม่อยากอ่านเอกสารพวกนี้บ้างหรือวะ มันน่าสนใจมากนะ

    โว้ย”

    “มีเอ็งอยู่ทั้งคนแล้วข้าจะต้องไปอ่านมันทำาไมวะฮะๆฮ่า...”

    เวลาเที่ยงคืนครึ่งรถเบ้นซ์สีบรอนซ์เงินมาจอดหน้าบ้านร้านขายยา

    นพก้าวลงจากรถถือแฟ้มเอกสารปึกใหญ่เดินไปที่ประตูเหล็ก

  • สังคมน้ำเนา วิกูล สมิทธิ์

    -26-

    “เตี่ยเตี่ยเปิดประตูหน่อยครับ”

    นพรออยู่สักพักไฟในร้านกระพริบสี่ห้าทีแล้วก็สว่างขึ้นเตี่ยเดินงัว

    เงียถือกุญแจพวงใหญ่มาที่ประตู

    “ลื้อไปไหนมาดึกๆดื่นๆวะ”

    “ผมได้งานทำาแล้วครับเตี่ย”นพรีบบอกข่าวดี

    เตี่ยรูดประตูเปิดออก “งานอะไร เป็นเด็กเสิร์ฟเหรอ ตัวลื้อมีแต่

    กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่”

    “ไม่ใช่เตี่ยผมได้งานที่อาคารฟอร์จูน”

    “ทำาอะไร”เตี่ยซัก

    นพนึกอยู่ว่าจะบอกยังไงดี“เอ่อ...”

    เตี่ยซักต่อ“เงินเดือนเท่าไร”

    “ตำาแหน่งผู้ช่วยรองประธานกรรมการเงินเดือนสองหมื่น”

    เตี่ยนพตาสว่างขึ้นมาทันที “เหรอๆ เออดี ตั้งใจทำางานให้ดีๆนะ

    ลูก”

    “ครับเตี่ย” นพเดินขึ้นห้องไปยังไม่ทันอาบนำ้า หงายหลังนอนบน

    เตียงแล้วคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นพดีใจที่ได้งานทำาเพราะงานมัน

    ช่างหายากแสนเข็ญและไม่ดีใจที่ได้งานทำาเพราะยังไม่รู้ว่าเขาจะทำางานนี้

    ได้ดีสักแค่ไหนเรื่องราวต่างๆวกไปเวียนมาอย�