ca351 week07 tv script

60
ส า ข า วิ ช า นิ เ ท ศ ศ า ส ต ร์ บู ร ณ า ก า ร ค ณ ะ ศิ ล ป ศ า ส ต ร์ ม ห า วิ ท ย า ลั ย แ ม่ โ จ้ การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ ภาษาเสียง และคําศั พท์เทคนิ คเฉพาะทาง วัตถุประสงค์และรูปแบบของบทวิทยุโทรทัศน์ ประเภทของบทวิทยุโทรทัศน์ หลักการเขียนบทวิทยุโทรทัศน์ ขั้นตอนการเขียนบทโทรทัศน์ โครงสร้างรายการโทรทัศน์ เทคนิคการเขียนบทโทรทัศน์ ตัวอย่างบทวิทยุโทรทัศน์รายการประเภทต่างๆ นศ 351 โทรทัศน์และภาพยนตร์ [CA 351 Television and Film] (ปีการศึกษาท2/2558) รวมรวม/เรียบเรียง โดย อาจารย์ณัฏฐพงษ์ สายพิณ

Upload: ca351mju2015

Post on 26-Jul-2016

225 views

Category:

Documents


0 download

DESCRIPTION

เอกสารประกอบการสอน นศ351 โทรทัศน์และภาพยนตร์ (2/2558) : การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์

TRANSCRIPT

Page 1: Ca351 week07 tv script

ส า ข า วิ ช า นิ เ ท ศ ศ า ส ต ร์ บู ร ณ า ก า ร ค ณ ะ ศิ ล ป ศ า ส ต ร์ ม ห า วิ ท ย า ลั ย แ ม่ โ จ้

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน ์• ภาษาเสียง และคําศพัท์เทคนิคเฉพาะทาง • วัตถุประสงค์และรูปแบบของบทวิทยุโทรทัศน ์• ประเภทของบทวิทยุโทรทัศน์ • หลักการเขียนบทวิทยุโทรทัศน์ • ขั้นตอนการเขียนบทโทรทัศน์ • โครงสร้างรายการโทรทัศน ์• เทคนิคการเขียนบทโทรทัศน์

• ตัวอย่างบทวิทยุโทรทัศน์รายการประเภทต่างๆ

นศ 351

โทรทัศน์และภาพยนตร์ [CA 351 Television and Film] (ปีการศึกษาที่ 2/2558)

รวมรวม/เรียบเรียง โดย อาจารย์ณัฏฐพงษ์ สายพิณ

Page 2: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 2

ภาษาเสียง (SOUND LANGUAGE) และคําศัพทเ์ทคนิคเฉพาะทาง

แม้ว่าภาษาภาพเป็นหัวใจสําคัญของการสื่อสารผ่านวิทยุโทรทัศน์ แต่การใช้ภาษาภาพเพียงอย่างเดียวก็ยังไม ่

สามารถสื่อสารเนื้อหาได้ตามที่ผู้เขียนบทต้องการ บทวิทยุโทรทัศน์จึงยังจําเป็นที่ต้องใช้เสียงเข้ามาเป็นส่วนเสริมเพื่อให้ภาพนั้น ทําหน้าที่สื่อสารเรื่องราวได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น สําหรับภาษาเสียงของสื่อวิทยุโทรทัศน์นั้นมีลักษณะคล้ายกับสื่อวิทยุกระจายเสียง ซึ่งประกอบด้วย เสียงพูด เสียงดนตรี และเสียงประกอบพิเศษ มีรายละเอียดดังนี ้

1. เสียงพูด คําสนทนา และเสียงบรรยาย ต้องวิเคราะห์ผู้รับสารทั้งอายุ ความรู้ ความสนใจ ฯลฯ

เพื่อนําไปเป็นข้อมูลในการเลือกภาษาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และเขียนบทโดยใช้ภาษาที่ใช้ในชีวิตประจําวัน โดยเลือกจากประโยคหลักก่อนจึงตามด้วยประโยคขยาย 2. เสียงดนตรี

− ทําหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ประจํารายการ เมื่อผูช้มได้ยินเสียงดนตรีก็จะสามารถระลึกได้ว่าเป็นรายการอะไร

− สร้างอารมณ์หรือความรู้สึก ในแง่ด้านการแสดง

− สร้างความต่อเนื่องระหว่างฉาก กรณีดนตรีเดียวกันที่ใช้เชื่อมต่อหรือความต่อเนื่องระหว่างฉากทั้งสองได้จนคนดูแทบจะไม่รู้สึกสะดุด ลักษณะการเชื่อมนี้เรียกว่า ลีดอนิ (Lead-in)

− แสดงสถานที่ เช่น เสียงแคนและซึงสามารถสร้างบรรยากาศของภาคอีสานและภาคเหนือได้ 3. เสียงประกอบพิเศษ

− บอกสถานที่ เช่น เสียงลม เสียงคลื่นกระทบฝั่งบอกถึงบรรยากาศชายทะเล

− บอกอารมณ์ เช่น เสียงนาฬิกาเต้นติ๊กต๊อกๆ ๆ ไปเรื่อยๆ บอกถึงอารมณ์ที่กระวนกระวายใจคล้ายเผ้ารอคอยอะไรสักอย่าง

− บอกเวลา เช่น เสียงไก่ขันตอนเช้า

− บอกการเริ่มต้นหรือจบสิ้นเหตุการณ์แต่ละฉาก เช่น เสียงสตาร์รถในบ้านและวิ่งออกไปจากบ้าน

− ใช้เชื่อมโยงเหตุการณ ์2 เหตุการณ์ให้มีความต่อเนื่องหรือสัมพันธ์กัน (Sound over) หากเสียงตอนท้ายของฉากหนึ่งดังต่อเนือ่งไปยังฉากต่อไป เรียกว่าการข้ามเวลา (Overlapping) ส่วนการใช้เสียงจากฉากต่อไปดังเข้ามาก่อนที่จะได้เห็นฉากนั้น เรียกว่าการเข้ามาก่อนเวลา (Lead-in) เช่น ฉากที่ตัวละครกําลังนั่งรถแท็กซี่ จากนั้นก็มีเสียงพิมพแ์ป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ดังเข้ามาแล้วเปลี่ยนฉากเป็น บรรยากาศ การทํางานในสํานักพิมพ์แห่งหนึ่ง ฉากนี้สื่อให้เห็นการเข้ามาทํางานในสํานักพิมพ์แห่งนี้ของตัวละคร

ศัพท์เทคนิคด้านเสียงที่ใช้ในการเขียนบทวิทยุโทรทัศน ์ ผูเ้ขียนบทโทรทัศน์สามารถระบุเสียงที่ต้องการด้วยการใช้ศัพท์เทคนิคสั้นๆ เพื่อสื่อสารให้ผู้ผลิตรายการได้เข้าใจและสามารรถผลิตรายการออกมาได้ตรงกับที่ผู้เขียนบทต้องการมากที่สุด ศัพท์เทคนิคเหล่านี้เป็นศัพท์ที่บุคคลในกระบวนการผลิตรายการสามารถเข้าใจได้โดยทั่วกัน ดังนี ้

1. Narration หมายถึง เสียงบรรยาย 2. Sound Effect (SFX) หมายถึง เสียงประกอบพิเศษ 3. Music หมายถึง เสียงดนตร ี4. Off scene หมายถึง เสียงพูดที่ไม่เห็นคนพูดในภาพ

โดยภาพที่กําลังนําเสนออยู่นั้นอาจเป็นภาพของอีกคนหนึ่งหรือสถานที่หนึ่ง เช่นภาพเปิดเรื่องเป็นภาพทุ่งหญ้า เขียวขจี และมีคนงานกําลังทําไร่อยู่อย่างมีความสุข ขณะเดียวกันก็มีเสียงคนเล่าถึงชีวิตความสุขในวัยเด็ก โดยไม่เห็นตวัคนเล่า เป็นต้น

Page 3: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 3

5. Fade in หมายถึง การค่อยๆ เพิ่มระดับเสียงจากที่ไม่มีเสียงเลยดังขึ้นจนอยู่ในระดับเสียงปกต ิ6. Fade out หมายถึง การค่อยๆ ลดระดับเสียงจากระดับเสียงปกติจนอยู่ในระดับที่เงียบหายไป 7. Fade up หมายถึง การเพิ่มระดับความดังของเสียงให้ดังขึ้นเต็มที ่8. Fade down หมายถึง การลดระดับความดังของเสียงให้เบาลงกว่าปกต ิ9. Fade under หมายถึง การลดระดับเสียงหนี่งลงเพื่อให้อีกเสียงหนึ่งเด่นขึ้นมาแทน เช่น

เสียงดนตรีกําลังดังเป็นปกติ เราต้องการให้ผู้ดําเนินรายการเริ่มพูด เราก็ Fade under เสียงดนตรีให้เบาลงแต่ยังคลอๆ อยู ่

10. Cross fade หมายถึง การค่อยๆ ลดระดับเสียงหนี่งให้จางหายไป พร้อมๆ กับนําเสียงใหม่ให้ดังขึ้นมาแทนที่ 11. Pop in หมายถึง การนําเอาเสียงข้ามาด้วยความดังปกต ิ12. Pop out หมายถึง การนําเอาเสียงออกไปทันที 13. VO มาจาก Voice over หมายถึง การนําเฉพาะเสียงของผู้ประกาศ หรือผู้สื่อข่าวนําเสนอข่าว

ขณะที่เทปภาพกําลังนําเสนอภาพข่าวนั้น ๆ ลักษณะ VO แบ่งเป็น a. VO/ NS มาจาก Voice over /Natural sound หมายถึง

การนําเสียงของผู้ประกาศข่าวออกอากาศขณะที่ ภาพ และเสียงของข่าวนั้น ๆออกอากาศ โดยให้เสียงของผู้ประกาศดังกว่าเสียงจากเทปภาพข่าว

b. VO/ SIL มาจาก Voice Over /Silent หมายถึง การนําเสียงของผู้ประกาศข่าวออกอากาศโดยที่ไม่เอาเสียงของข่าวนั้น ๆ ออกอากาศเลย

c. MVO (Male Voice-over) ถ้าเป็นเสียงผู้ชาย d. FVO (Female Voice-over) ถ้าเป็นเสียงผู้หญิง

14. Vox Pop เสียงสัมภาษณ์สั้น ๆ เพื่อแสดงความคิดเห็นประกอบเรื่องราว 15. SOT มาจาก Sound on tape หมายถึง เสียงที่มาจากการ บันทึกภาพเหตุการณ์ ณ

ที่เกิดเหตุมักเป็นเสียงสัมภาษณ ์ a. SB มาจาก Sound Bite หรือ NS มาจาก Natural sound หมายถึง

เสียงที่มาจากการบันทึกภาพเหตุการณ์ ณ ที่เกิดเหตุ มักเป็นเสียงเหตุการณ์ เช่น เสียงระเบิด เสียงภูเขาน้ําแข็งกําลังถล่ม

b. OC มาจาก Out cue หมายถึง หมายถึง คําที่ใช้บอกให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลว่าภาพ และเสียงจากเทปจบลงที่ใด เพื่อนําเสนอข่าวสารอื่นต่อไป

c. OG มาจาก Character Generator หรือ Super หมายถึง การใช้ตัวอักษรแทรกบนภาพโดยมากมักเป็นชื่อนามสกุล และตําแหน่งของบุคคลในภาพ อาจเป็นชื่อสถานที่ การรายงานอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา พยากรณ์อากาศก็ได ้

16. ON CAM มาจาก On camera หมายถึง การให้นําภาพผู้ประกาศออกอากาศ

17. Split Screen หมายถึง การแบ่งจอภาพออกเป็นสองส่วน เพื่อรายงานโต้ตอบระหว่างผู้ประกาศในสถานี กับผู้สื่อข่าว ณ ท้องที่เกิดเหตุการณ ์

18. Box หมายถึง การทําภาพแทรกเป็นกรอบเล็กๆ บนฉากหลัง ทางด้านข้าง ค่อนไปทางด้านบนของผู้ประกาศ เพื่อ รายงานภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวของข่าวสารที่ กําลังนําเสนอ

19. Graphic หมายถึง ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ เช่น แผนที่ แผนภูมิ 20. TC ย่อมาจาก Time Code ใช้ระบุระยะเวลาของเสียงที่ใช ้

Page 4: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 4

วัตถุประสงค์และรูปแบบของบทวิทยุโทรทัศน ์

วัตถุประสงค์ของบทโทรทัศน์

1. ให้รายละเอียดในการทํางานแก่ทีมงาน ทําให้ทุกฝ่ายทํางานประสานกันได้อย่างราบรื่นและทราบว่าการผลิตรายการจะดําเนินไปอย่างไร ทั้งในช่วงวางแผนการผลิต ช่วงฝึกซ้อม และขณะผลิตรายการ

2. ตัวหนังสือจะต้องแปลงเป็นภาพได ้นํามาผลิตเป็นรายการได ้ 3. กําหนดขอบเขตของงานให้ชัดเจน มีฉากที่เป็นรูปร่าง และมีแนวทางให้นักแสดง และ เจ้าหน้าที่ในการผลิตรายการ

บทโทรทัศน์จะช่วยให้เจ้าหน้าที่และตัวแสดงทราบว่าการผลิตรายการจะดําเนินการอย่างไร รูปแบบบทวทิยุโทรทัศน(์Script Format)

นิยมเขียนโดยส่วนของภาพอยู่ครึ่งหน้ากระดาษทางซ้าย (Video) ส่วนของเสียงอยู่ทางขวาของคอลัมน์ภาพ (Audio) หากต้องการเขียนข้อแนะนําหรือเครื่องหมายของ shot ได้แก ่ศัพท์ทางด้านโทรทัศน ์คําอธิบายภาพ ภาพ และสิ่งที่จําเป็นที่สําคัญที่เกี่ยวกบัภาพโทรทัศน์ให้เขียนไว้ในส่วนภาพ (Video) และเมื่อต้องการใส่คําบรรยาย เพลง เสียงประกอบ รวมไปถึงการอธิบายหน้าที่ต่างๆ ให้กับนักแสดงหรือผู้บรรยาย เช่น การเคลื่อนไหว การใช้อารมณ ์น้ําเสียง ฯ ให้ใส่ไว้ในส่วนเสียง (Audio) นอกจากนี้อาจมีคอลัมน์เพิ่มเติมเพื่ออํานวยความสะดวกแก่การทํางานมากขึ้น เช่น คอลัมน์บอกลําดับที่ของช็อท คอลัมน์บอกระยะเวลา เป็นต้น

คอลัมน์ภาพจะอยู่ด้านซ้ายของบท ในบางกรณีช่องภาพจะทิ้งให้ว่างไว้เพื่อให้ผู้กํากับเป็นผู้กําหนดลักษณะของภาพเอง ผู้เขียนบทจะระบุลักษณะภาพที่สําคัญ เช่น ชื่อหัวข้อ graphics, special effects, film หรือ video tape ที่ใช้ และเขียนไว้ให้ตรงกับคอลัมน์เสียงที่ใช้บรรยายภาพ

ในคอลัมน์ภาพอาจจะบุเวลาของภาพแต่ละภาพสําหรับรายการข่าว เช่น ความยาวของ video tape ที่ใช้เพื่อให้ผู้กํากับรายการจัดความยาวของภาพข่าวในแต่ละช่วง เพื่อให้ผู้ประกาศทราบว่ากลอ้งกําลังจะจับภาพผู้อ่าน หลังจากจบภาพจากเทป

คอลัมน์เสียงจะประกอบด้วย เสียงต่าง ๆ ในรายการ โดยให้ระบุเสียงผู้พูดและคําพูดโดยพิมพ ์เว้นบรรทัด คิวเสียงประกอบกับเสียงดนตรีจะขีดเส้นใต้เพื่อแยกออกจากบทพูด ข้อมูลอื่น ๆ ที่ไม่ใช่คําพูดเช่น ลักษณะการพูดของนักแสดงจะใสไ่ว้ในวงเล็บ เพื่อให้นักแสดงไม่สับสนว่าส่วนไหนเป็นบทพูดและส่วนใดเป็นคําสั่ง มีบทน้อยมากที่จะไม่ถูกแก้ไขขณะถ่ายทํา เช่น เมื่อออกอากาศละครหลังข่าวไปแล้วหนึ่งตอน อาจต้องมาแก้ไขเปลี่ยนแปลงบทที่จะออกอากาศในตอนต่อ ๆ ไป ตาม feed back ที่ได้รับเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแกไ้ขบทโทรทัศน์ ควรมีการจดบันทึกวันที่แก้ให้แน่นอน เพื่อให้ทุกคนไม่สับสนว่าบทที่มีอยู่เป็นฉบับที่แก้ไขแล้วหรือไม ่หรืออาจแก้ลงกระดาษที่มีสีแตกต่างจากบทเล่มที่ทุกคนมีบทที่ใช้หน้ากล้องควรพิมพ์บนกระดาษสีอ่อน เช่น เหลือง ฟ้า เขียว ชมพู หรือ เทา เพราะกระดาษสีขาวจะสะท้อนแสงในกองถ่ายทําให้ตัวแสดงอ่านได้ยาก

Page 5: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 5

รายการและคําอธิบายที่ต้องเขียนไว้ก่อนบท

รายละเอียดก่อนเขียนบทโทรทัศน์ผู้เขียนบทควรเขียนคําอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของผู้แสดง(Character) ฉาก (Setting) อุปกรณ์ประกอบฉากและ วัสดุกราฟิกต่างๆที่นํามาใช้ประกอบรายการ (Props and Involved Graphics) คําอธิบายเหล่านี้เขียนลงบนกระดาษแผ่นเดียวหรือหลายแผ่นปะหน้าตัวบทโทรทัศน์เอาไว้เพราะคําอธิบายดังกล่าวจะไม่เขียนลงในตัวบททั้งนี้เพื่อป้องกันความสับสนขณะอ่านบทระหว่างการผลิตรายการ รายละเอียดที่จําเป็นต้องกําหนดไว้ในใบปะหน้ามีดังนี้ คือ

1. ชื่อสถานีโทรทัศน์และหรือหน่วยงานที่ผลิตรายการเช่น สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 2. ชื่อรายการ เช่น “ท่องทั่วไทย” 3. ชื่อตอน เช่น ตอนที่ 15 ตอน ปาย บ๊ายบายเมืองกรุง 4. ชื่อรูปแบบของรายการ เช่น รายการสารคดีเพื่อการท่องเที่ยว 5. ความยาวของรายการ เช่น ความยาว 30.00 นาที 6. ชื่อผู้ดําเนินรายการหรือพิธีกร เช่น พิธีกร แดน วรเวช ดานุวงศ์ 7. ชื่อผู้ร่วมรายการ เช่น ชมพู ่อารยา เอ ฮาร์เก็ต 8. สถานที่ผลิตรายการ เช่น อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน 9. วันเวลาที่ผลิตรายการ(รายละเอียดเวลาทั้งการผลิตในสตูดิโอรวมทั้งเวลาการตดัต่อรายการ)เช่น วันที่ 1 – 5 มิถุนายน

2555 10. วันเวลาที่ออกอากาศ เช่น วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม 2555 เวลา 17.30 – 18.00 น. 11. บุคลากรที่รับผิดชอบรายการ ประกอบด้วย

11.1 ผู้ผลิตรายการ เช่น บริษัท ไทยรักเที่ยว จํากัด 11.2 ผู้กํากับรายการ xxxxx 11.3 ช่างกล้อง xxx 11.4 บุคลากรเทคนิคอื่น ๆ xxx

12. รายละเอียดเกี่ยวกับฉากแผนผังเวทีและวัสดุประกอบฉากเช่น เป้สะพายหลัง, ตั๋วเครื่องบิน, กล้องถ่ายรูป

Page 6: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 6

Page 7: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 7

ประเภทของบทวิทยุโทรทัศน ์

บทบางประเภทจะบอกคําพูดทุกคํา บอกลักษณะของมุมกล้อง และกําหนดจุดยืนทุกจุดของนักแสดง

บทบาทประเภทจะบอกเพียงวิธีการผลิตอยางคร่าวๆ โดยไม่ระบุรายละเอียดมากนักเขียนบทที่ดีจะช่วยให้ทุกฝ่าย สามารถทํางานประสานกันได้อย่างราบรื่นสามารถแบ่งบทวิทยุโทรทัศน์ได้ดังนี ้

1. บทวิทยุโทรทัศน์แบบสมบูรณ ์(The Fully Scripted Show)

2. บทวิทยุโทรทัศน์แบบกึ่งสมบูรณ ์(The Semi-Scripted Show)

3. บทวิทยุโทรทัศน์แบบบอกเฉพาะรูปแบบ (The ShowFormat)

4. บทโทรทัศน์แบบร่างกําหนดการของรายการ (Fact sheet) 1. บทวิทยุโทรทัศน์แบบสมบูรณ ์(The Fully Scripted Show)

บทประเภทนี้จะบอกคําพูดทุกคําพูดที่จะพูดในรายการตั้งแตต่้นจนจบ ไว้ในส่วนเสียง และบอกรายละเอียดเกี่ยวกับคําสั่งทางด้านภาพไว้ในส่วนภาพอย่างสมบูรณ ์มักจะในรายการประเภทข่าว ละคร สารคดี และรายการโฆษณาสินค้า เป็นต้น

บทประเภทนี้จะนํามาใช้เมื่อมั่นใจว่าผู้แสดงรู้จักการพูดบทแทนการอ่านบทในขณะแสดงมิฉะนั้นจะทําให้รายการน่าเบื่อได้ประโยชน์ของการเขียนบทประเภทนี้ก็คือสามารถมองภาพของรายการได้อย่างทะลุปรุโปร่งเพราะมีการกําหนดมุมกล้องขนาด ของภาพลักษณะของเลนส์ที่ใช้การเคลื่อนไหวกล้องอย่างชัดเจน แต่ก็มีข้อเสียคือเป็นการกําหนดตายตัวโดยมิเปิดโอกาส ให้ผู้กํากับได้ใช้ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์กําหนดมุมภาพหรือการดําเนินเรื่องอย่างอิสระ

ซึ่งข้อดีของบทประเภทนี้คือ

• ทีมงานสามารถมองเห็นภาพของรายการได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

• ทีมงานสามารถกําหนดมุมกล้อง ขนาดภาพ ขนาดของเลนส์ที่ใช ้รวมถึงการเคลื่อนไหวของกล้อง ได้ถูกต้องแน่นอน

ข้อเสีย

• หากมีคนใดคนหนึ่งไม่ปฏบิัติตามบท จะก่อให้เกิดความสับสนในการถ่ายทํา เช่น ผู้แสดงไม่เคลื่อนไหวตามบท ทําให้ตากล้องสับสน

Page 8: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 8

ตัวอย่างบทวิทยุโทรทัศน์แบบสมบูรณ์

2. บทวิทยุโทรทัศน์แบบกึ่งสมบูรณ ์(The Semi-Scripted Show) บทประเภทนี้คล้ายกับบทวิทยุโทรทัศน์แบบสมบูรณ ์

ไม่กําหนดรายละเอียดของมุมกล้องแต่ว่างไว้เพื่อให้ผู้กํากับรายการได้กําหนดเองแต่บางรายการอาจกําหนดคําสั่งลงบนด้านภาพบ้าง ทางด้านคําพูด คําบรรยายบ้างบทสนทนาก็ไม่ได้ระบุหมดทุกตัวอักษรหรือทุกคําเพียงแต่ให้ประโยคเริ่มต้น ประเด็นที่จะพูดและประโยคสุดท้ายเพื่อเป็นสัญญาณชี้แนะเท่านัน้ มักใช้ในรายการสารคด ีวาไรตี ้หรือทอล์คโชว ์เป็นต้น ทั้งนี้สิ่งสําคัญของบทวิทยุโทรทัศน์แบบกึ่งสมบูรณ์คือ ต้องระบุคําพูดสุดท้ายของประโยคก่อนที่จะตัดภาพไปยังภาพเหตุการณ์อื่น เช่น ตัดภาพจากผู้บรรยายไปเป็นภาพแทรกเหตุการณ์จริง เป็นต้น

Page 9: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 9

3. บทวิทยุโทรทัศน์แบบบอกเฉพาะรูปแบบ (The ShowFormat)

บทประเภทนี้จะเขียนเฉพาะคําสั่งของส่วนต่างๆ ที่สําคัญในฉากสําคัญๆ หรือลําดับรายการที่สําคัญๆ รวมทั้งบอกเวลา ของแต่ละตอน บทโทรทัศน์แบบนี้มักใช้กับรายการประจําสถาน ีเช่น รายการสนทนา รายการอภิปราย รายการปกิณกะ เป็นต้น

ตัวอย่างบทวิทยุโทรทศัน์แบบบอกเฉพาะรูปแบบ

4. บทโทรทัศน์แบบร่างกาหนดการของรายการ (fact sheet)

บทโทรทัศน์ประเภทนี้จะแสดงเพียงเค้าโครงของรายการในลักษณะร่างลําดับของรายการตั่งแต่เริ่มรายการจนจบรายการที่มีการกําหนดช่วงเวลาของเนื้อหาในช่วงต่างๆในรายการ บทประเภทนี้เหมาะสําหรับรายการที่ไม่สามารถกําหนดรายละเอียดทุกคําพูดหรือเสียงไว้ล่วงหน้าได้จึงมีเพียงโครงร่างของรายการไว้ มักใช้กับ รายการสารคด ีรายการนิตยสาร รายการสนทนา รายการสัมภาษณ ์เป็นต้นข้อดีของบทประเภทนี้ คือ ดูง่ายสามารถเข้าใจรายละเอียดของรายการได้ทันท ีว่าเป็นรายการอะไร รูปแบบใดและต้องเตรียมอะไรในรายการบ้างเช่น

บทรายการเจาะใจ รูปแบบ – สัมภาษณ ์ความยาว 30 นาที

1. Interlude - เปิดรายการ 5 2. พิธีกร -กล่าวเปิดรายการ 2 3. โฆษณา .30 4. พิธีกร -กล่าวแนะนําผู้สนทนา 2 5. สัมภาษณ ์-ประวัติ ความเป็นมาของผู้ป่วยโรคเอดส ์5 6. โฆษณา .30 7. พิธีกร -นําเข้ารายการ 2 8. สัมภาษณ ์-เหตุการณ์ที่เผชิญอยู ่8 9. พิธีกร -กล่าวสรุป 2 10. Interlude - ปิดรายการ 3 รวม 30 นาที

Page 10: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 10

หลักการเขียนบทวิทยุโทรทัศน ์

1. เขียนโดยใช้สํานวนสนทนาที่ใช้สําหรับการพูดคุย แต่ไม่ใช้ศัพท์แสลง

2. เขียนโดยเน้นภาพให้มาก (ไม่บรรจุคําพูดไว้ทุกๆวินาท ีแบบรายการวิทยุ)

3. เขียนอธิบายแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่กําลังพูดถึง ไม่เขียนและบรรยายโดยปราศจากภาพประกอบหรือการบรรยายให้เห็นภาพ

4. เขียนเพื่อเป็นแนวทางให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมแต่ละกลุ่ม ผู้ซึ่งเป็นเป้าหมายในรายการ ไม่ใช่เขยีนเพื่อผู้ชมโทรทัศน์ส่วนใหญ ่

5. พยายามใช้ถ้อยคําสํานวนที่เข้าใจกันยุคนั้น หากมีคําที่ให้ความหมายเหมือนกันหลายคําให้เลือกใช้คําที่เข้าใจได้ง่ายที่สุด

6. เขียนเรื่องที่น่าสนใจเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย

7. ค้นคว้าวัตถุดิบต่างๆ เพื่อนํามาใช้สนับสนุนเนื้อหาในบทอย่างถูกต้องไม่เดาเอาเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข้อเท็จจริงเข้าไปเกี่ยวข้อง

8. เขียนบทเริ่มต้นให้น่าสนใจและกระตุ้นให้ผู้ชมอยากชมต่อไป

9. ใช้เทคนิคประกอบพอสมควร ไม่ใช้เทคนิคมากเกินไปจนเป็นสาเหตุให้สูญเสียภาพที่เป็นส่วนสําคัญที่ต้องการให้ผู้ชมได้เข้าใจได้เห็น

10. ผู้เขียนบทต้องแจ้งให้ทราบถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้เป็นพิเศษ ซึ่งจําเป็นและอาจหาได้ยาก และควรคํานึงถึงงบประมาณในการผลิตด้วย

11. ผู้เขียนบทต้องให้ความเชื่อถือผู้กํากับรายการว่าสามารถแปลและสร้างสรรค์ภาพได้ตามอธิบายคําแนะนําของผู้เขียน เนื่องจากบางครั้งต้องมีการตัดทอนบทให้เข้ากับเวลาที่ออกอากาศหรือเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้น

สตอรี่บอร์ด

สตอรี่บอร์ด คือ บทภาพยนตร์ประเภทหนึ่งที่อธิบายด้วยภาพ คล้ายหนังสือการ์ตูน เพื่อให้เห็นความต่อเนื่องของช็อตตลอดทั้งซีเควนส์หรือทั้งเรื่อง มีคาอธิบายภาพประกอบ เสียงต่าง ๆ เช่น เสียงดนตร ีเสียงประกอบฉาก และเสียงพูด เป็นต้น ใช้เป็นแนวทางสาหรับการถ่ายทา หรือใช้เป็นวิธีการคาดคะเนภาพล่วงหน้า (pre-visualizing) ก่อนการถ่ายทําว่า เมื่อถ่ายทําสาเร็จแล้ว ภาพยนตร์จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ซึ่งบริษัทของ Walt Disney นํามาใช้กับการผลิตภาพยนตร์การ์ตูนของบริษัทเป็นครั้งแรก โดยเขียนภาพเหตุการณ์ของแอ็คชั่นเรียงติดต่อกันบนบอร์ด เพื่อให้คนดูเข้าใจและมองเห็นเรื่องราวล่วงหน้าได้ก่อนลงมือเขียนภาพ ส่วนใหญ่บทภาพจะมีเลขที่ลําดับช็อตกํากับไว ้คําบรรยายเหตุการณ ์มุมกล้อง และอาจมีเสียงประกอบด้วย ดังนั้นคนที่เขียนสตอรี่บอร์ดต้องมีความรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเป็นอย่างด ีสิ่งสําคัญที่ควรทราบ ได้แก ่

1. Subject หรือ Character ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว ์สิ่งของ สถานที่ หรือตัวการ์ตูน ฯลฯ และ ที่สําคัญคือพวกเขากาลังเคลื่อนไหว (Action) อย่างไร 2. กล้อง ทํางานอย่างไร ทั้งในเรื่องของขนาดภาพ มุมภาพ และการเคลื่อนกล้อง 3. เสียง พวกเขากําลังพูดอะไรกัน มีเสียงประกอบ หรือเสียงดนตรีอย่างไร

Page 11: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 11

ประโยชน์ของสตอรี่บอร์ด การสร้างสตอรี่บอร์ดจะช่วยให้การวางแผน การถ่ายทาฉากต่อฉากง่ายดายมากยิ่งขึ้น

โดยสามารถเปลี่ยนแก้ไขสตอรีบ่อร์ด ก่อนจะถ่ายทาจริงได ้อีกทั้งยังสามารถนําสตอรี่บอร์ดที่ได้สร้างและวางแผนไว ้ไปทาการชี้แจงแลกเปลี่ยนกับฝ่ายผลิตหรือฝ่ายอื่นๆ โดยสามารถทาให้เกิดความเข้าใจตรงกัน

รูปแบบของสตอรี่บอร์ด

ปัจจุบันการจัดทาสตอรี่บอร์ดนิยมทําใน 3 ลักษณะ ได้แก ่ 1. การวาดภาพขาวดาด้วยดินสอ และ/หรือลงสีประกอบ พร้อมระบุคาบรรยาย เสียงประกอบ และอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น

2. การวาดภาพขาวดําด้วยดินสอหรือวาดโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร ์แล้วใช ้คอมพิวเตอร์กราฟิกลงสีประกอบ พร้อมระบุคําบรรยาย เสียงประกอบ และอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น

Page 12: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 12

3. การถ่ายภาพจริง พร้อมระบุคําบรรยาย เสียงประกอบ และอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น

Page 13: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 13

วิธีการเขียนสตอรี่บอร์ด 1. อ่านเนื้อเรื่อง คิดภาพในหัวก่อนว่าจะเล่าเรื่องอย่างไร แล้วกําหนดจานวนฉาก คัดเอาเฉพาะภาพที่คิดว่าเป็นจุดมาร์คตําแหน่ง จากนั้นก็เอาแต่ละภาพที่คัดแล้วมาวาด ศึกษาว่ามุมกล้องควรเป็นแบบใด 2. ออกแบบตัวละครหลักในเรื่อง โดยทุกฉากจะต้องดูเป็นคนคนเดียวกัน เช่น ทาให้แต่งกายเหมือนกัน จะเป็นลักษณะของการเขียนภาพซ้ําๆ แต่เปลี่ยนมุมมอง 3. ในกรอบภาพมักจะไม่มีคาพูด แต่จะแสดงออกท่าทางและสีหน้าแทนการพูด ยกเว้นคําอุทานหรือคําสําคัญของผลิตภัณฑ ์ 4. ภาพต้องดูต่อเนื่อง เป็นเรื่องเดียวกัน เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน

ขั้นตอนในการเขียนบทวิทยุโทรทัศน ์

มี 3 ขั้นตอน ดังนี้

1. กําหนดวัตถุประสงค์กลุ่มเป้าหมายระยะเวลา รูปแบบรายการ หัวข้อเรื่อง ขอบข่ายเนื้อหา

2. กระบวนการคิด การค้นคว้า และการคัดเลือกข้อมูล การประยกุต์ความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนบท และลงมือเขียน

3. ทดสอบต้นร่างปรับปรุงและแก้ไขบท

1. กําหนดวัตถุประสงค์กลุ่มเป้าหมายระยะเวลา รูปแบบรายการ หัวข้อเรื่อง ขอบข่ายเนื้อหา การเขียนบทก็เช่นเดียวกันกับการเขียนเพื่อการสื่อสารจําเป็นต้องมีการกําหนดวัตถุประสงค์ของการเขียนว่าเขียนไปเพื่ออ

ะไร นั่นคือเราต้องการให้อะไรกับผู้ชมเช่น ความคิดความรู้ความบันเทิงเปลี่ยนเจตคติสร้างค่านิยมที่ดีปลูกฝังความสํานึกที่ดีงามหรือให้เกิดทักษะความชํานิชํานาญในด้านใด เสร็จแล้วต้องวิเคราะห์ผู้ชมกลุ่มเป้าหมาย นั่นคือเขียนเพื่อใครต้องการผู้ชมเพศใดมีช่วงอายุเท่าใดการศึกษาสภาพสังคมเศรษฐกิจและคุณลักษณะอื่นๆ เช่นไร

ผู้เขียนต้องทราบระยะเวลาของรายการเพื่อจะได้กําหนดรูปแบบรายการให้เหมาะสมกับระยะเวลาของรายการ เช่น รายการรณรงค์ไม่ควรเกิน 60 วินาที รายการทอล์คโชว์ไม่ควรเกิน 20 นาที รายการวาไรตี้เสนอได้ตั้งแต ่20 นาที หรือรายการตอบปัญหา 30 นาทีขึ้นไป เป็นต้น 2. กระบวนการคิด การค้นคว้า และการคัดเลือกข้อมูล การประยุกต์ความคิดสร้างสรรค์ในการเขียนบท และลงมือเขียน

เมื่อทราบเงื่อนไขต่างๆ แล้ว ทําให้เรากําหนดหัวข้อเรื่องและขอบข่ายเนื้อหาได้ง่ายขึ้น จากนั้นจึงเริ่มคน้คว้าหาข้อมูลและลงมือเขียนบท

Page 14: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 14

3. ทดสอบต้นร่างปรับปรุงและแก้ไขบท

ผู้เขียนบทควรลองอ่านบทออกเสียงเพื่อตรวจสอบจังหวะ ลีลาช่วงเวลาการเลือกใช้คําและองค์ประกอบอื่น ๆว่ามีความราบรื่นเหมาะสมและมีคุณภาพเพียงใดควรให้เพื่อนร่วมงานได้วิพากษ์วิจารณ์ติชมให้ข้อคิดและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นและโปรดอย่าลืมว่าบทโทรทัศน์ที่ดีใช้หลักการ 3S คือใช้ประโยคสั้น ๆ (Short) เป็นคําหรือประโยคที่ง่ายแก่การเข้าใจ (Simple) และเป็นบทที่เร้าความสนใจ (Stimulating) ตลอดเวลา

โครงสร้างของรายการโทรทัศน์

การผลิตรายการโทรทัศน์มีลักษณะเฉพาะทั้งทางด้านศิลปะและทางเทคนิค แต่โครงสร้างของรายการโทรทัศน์จะคล้ายคลึงกับสื่ออื่นๆ คือ มีส่วนของการเริ่มเรื่อง การดําเนินเรื่อง และการจบเรื่อง เช่นเดียวกับบทความ ภาพยนตร์ และรายการวิทยุ โครงสร้างของรายการโทรทัศน์จะต้องมีทั้งภาพและเสียง แต่ไม่ว่าคุณภาพของภาพและเสียงจะดีอย่างไรถ้าไม่สามารถสื่อความหมายได้ก็ถือว่ารายการนั้นๆ ไม่บรรลุวัตถุประสงค ์

รายการโทรทัศน์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นโฆษณา ข่าว วิธีการทําอาหาร หรือรายการบันเทิงทั่วไป จะต้องเล่าเรื่องให้ผู้ชมเข้าใจได ้โดยมีโครงสร้างของการเริ่มเรื่อง (Beginning / Opening) การดําเนินเรื่อง (Middle / Body) และการจบเรื่อง (End) 1. การเริ่มเรื่อง Beginning / Opening ในการเกริ่นนําหรือการนําเรื่อง (Introduction) ซึ่งเรียกสั้น ๆ เป็นขั้นอินโทร (Intro) เป็นขั้นตอนที่จะกระตุ้นความสนใจของผู้ชมเป็นการท้าวความ อ้างอิง หรือนําเรื่อง เพื่อชักจูงให้ผู้ชมไปสู่จุดหมาย คือเรื่องราวที่จะนําเสนอนั่นเอง การเกริ่นนําจะเป็นการหาสิ่งที่ประทับใจสิ่งที่ชวนให้ฉงน หรือสิ่งที่ตื่นเต้น เพื่อกระตุ้น เร้า เรียกร้องความสนใจชักชวนให้ติดตาม ด้วยลีลาต่าง ๆ อาจจะเป็นภาพ เสียง หรือ แสง-สีการเกริ่นนํามักจะเกริ่นนําสั้น ๆ เพียงเพื่อให้ผู้ชมสนใจ อยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่จะนําเสนอ ด้วยเหตุนี้การวางโครงเรื่องจึงมักจะขึ้นอยู่กับลีลาของผู้เขียนบทแต่ละคน ที่จะทําให้รายการนั้นน่าสนใจ น่าทึ่งหรือประทับใจผู้ชม

การเริ่มต้นรายการอาจทําได้ในรูปแบบที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของรายการ เช่น § เริ่มต้นแบบพาดหัวข่าวในรายการข่าว

§ ตัดส่วนที่นําชมในรายการมาเป็นตัวอย่างในต้นรายการ Variety

§ เริ่มต้นของรายการโฆษณาด้วยความงุนงง หรือ มุขตลก ในการเริ่มต้นจะต้องดึงผู้ชมในรายการให้ชมต่อจนจบให้ได ้ผู้จัดรายการต่าง ๆ

ต้องคํานึงเสมอว่าในตอนเริ่มของรายการจะเป็นส่วนที่สําคัญที่สุด

Page 15: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 15

2. การดําเนินเรื่อง Middle / Body

วัตถุประสงค์ของการดําเนินเรื่องหรือตัวเรื่อง จะต้องสร้างความน่าสนใจให้ผู้ชมชมรายการต่อไป ในส่วนของ เนื้อเรื่องหรือตัวเรื่อง (Body) นี้ เป็นการนําเอาแก่นของเรื่อง (Theme) หรือความคิดรวบยอด (Concept) ของเรื่องมาคลี่คลาย มาขยายให้เห็นพัฒนาการอย่างเป็นขั้นตอน (Development) หรือเรียกว่า เป็นการดําเนินเรื่องนั่นเอง ในส่วนนี้ผู้เขียนบท จะแสดงออกถึงความสามารถความเชี่ยวชาญในประสบการณ์ที่มีอยู่อย่างเต็มที ่สีสันลีลาของการนําเสนอ การดําเนินเรื่อง จะมีอารมณ ์(Mood) มีการหักมุม (Turn) สร้างความฉงนความไม่คาดคิดให้กับผู้ชม ในอันที่จะนําเรื่องราวไปสู่จุดสุดยอด (Climax) ให้ได้ดีที่สุดการดําเนินเรื่องหรือเนื้อเรื่องก็เป็นการขยายความให้ผู้ดูหรือผู้ชมได้รับรู้ว่า เรื่องราวแท้จริงนั้นเป็นอย่างไร เช่น

§ พัฒนาการของตัวละคร การเปิดตัวละครใหม ่ๆ การสร้างความขัดแย้งในโครงเรื่องหรือเพิ่มความขัดแย้งขึ้นเรื่อย ๆ

§ สําหรับรายการข่าวหรือรายการ talk show ต้องลําดับเรื่องราวให้เหมาะสม หรือแสดงส่วนที่น่าสนใจก่อนเข้าโฆษณา

§ ในการโฆษณา มักประกอบด้วยคนที่มีชื่อเสียง ความตลก ดนตรี หรือ shot ที่น่าสนใจ เพื่อสร้างความต้องการ ให้ผู้ชมซื้อสินค้า และไม่ให้ผู้ชมเปลี่ยนไปดูช่องอื่น

§ สําหรับรายการกีฬา การแข่งขัน เกมโชว์ ผู้ประกาศหรือพิธีกรจะเป็นผู้สร้างเรื่องราว และ ความน่าสนใจให้รายการ 3. การจบเรื่อง Ending

การส่งท้ายหรือการสรุปเรื่อง (Conclusion) เป็นขั้นตอนที่จะย่นย่อเรื่องทั้งหมดตั้งแต่การนําเรื่องและการดําเนินเรื่องลงมาอย่างมีศิลปะเป็นการสรุปหรือเน้นถึงความคิดรวบยอด (concept) ของเรื่องราว โดยได้สอดแทรกแง่คิดข้อเตือนใจ ปลูกฝังค่านิยม และทัศนคติที่ดีหรืออาจจะส่งท้ายด้วยการให้ความรู้สึกที่ประทับใจ ชวนให้อาลัยอาวรณ์หากเป็นการท่องเที่ยว บางครั้งก็จะมีของฝากของที่ระลึกจากสถานที่นั้นๆนําไปฝากญาติพี่น้อง หรือเพื่อนๆ ด้วยการใช้ภาษาที่สละสลวย น่าฟังตามที่ผู้เขียนบทจะจินตนาการออกมารายการควรจบลงด้วยการให้ความกระจ่างแก่ผู้ชม แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการคลีค่ลายหลายวัน ก็ต้องให้ความกระจ่างในแต่ละตอน

§ รายการข่าวแทบทุกข่าวจะประกอบด้วยเรื่องราวที่มนุษย์สนใจ (Human–interest) หรือความสนุกสนานตลกขบขัน ซึ่งสามารถนําไว้ในส่วนท้ายของรายการข่าว เป็นการปิดรายการ จะทําให้ผู้ชม รู้สึกสบายใจมากกว่าการจบรายการด้วยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ต่าง ๆ

§ รายการโฆษณามักจบลงด้วยการระบุชื่อ เจ้าของสินค้าหรือบริการ และบอกให้ผู้ชมซื้อสินค้าไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อมก็ตาม

§ การประกาศซื้อสาธารณประโยชน ์หรือสาธารณกุศลมักจบลงด้วยการให้เบอร์โทรศัพท์หรือที่อยู่ที่สามารถติดต่อได ้

§ รายการละครมักจบลงด้วยการคลี่คลายปัญหาในแต่ละตอน แต่ยังคงทิ้งปัญหาในโครงเรื่อยย่อยไว ้

วิภา อุตมฉันท ์( 2544:11 ) ได้ให้ความหมายของ การจัดเนื้อหาในการวางโครงร่างของบทโทรทัศน์ไว ้4 ลักษณะ คือ

• บทนํา จะต้องสั้น ใช้ประโยคที่เข้าใจง่ายเพื่อกระตุ้นความสนใจของผูอ้่านหรือผู้ชมให้เข้าสู่เนื้อเรื่อง ถ้าขึ้นต้นบทนําไม่ดี จะเกิดผลตรงกันข้าม คือทําให้ผู้ดูเปลี่ยนใจไม่เปิดรับสารต่อไป

• การดําเนินเรื่อง คือการนําแก่นของเรื่อง (Theme) หรือความคิดรวบยอดของเรื่องมาคลี่คลายให้เห็นพัฒนาการ อย่างเป็นขั้นตอน

• จุดหักมุม เป็นจุดที่เค้าโครงเรื่องที่ดําเนินมาเกิดการหักมุมอย่างไม่คาดคิด หรือเป็นการเสนอทัศนะจากมุมมองอื่น ที่แตกต่างออกไป ซึ่งจะช่วยเสริมจุดสุดยอด (Climax) ของเรื่องให้เด่นขึ้น

• การสรุป หรือการขมวดเรื่องทั้งหมดลงอย่างย่นย่อและมีศิลปะ จริงอยู ่

Page 16: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 16

ส่วนสรุปจะต้องสัมพันธ์กับส่วนที่เป็นเนือ้หา และคํานํา แต่มิได้หมายความว่าบทสรุป คือการนําเอาเนื้อหาในส่วนข้างต้นทั้งหมดมาพูดซ้ําอีกครั้งหนึ่ง "การสรุปท้ายเรื่องที่ด ีควรเป็นส่วนที่ผู้ผลิตทิ้งแง่คิด ความเห็น คําถาม หรือข้อข้องใจ ซึ่งเป็นการตอกย้ํา หรือเพิ่มเติมเนื้อหาให้แก่ส่วนข้างต้น เพื่อให้ผู้ด ูนําไปขบคิดสืบต่อจากความประทับใจที่ได้จากการรับสื่อ"

เทคนิคการเขียนบทโทรทัศน ์

1. การใช้ภาษา

§ หากสามารถทําได้ให้ใช้คําพูดพยางค์เดียวแทนคําที่มีหลายพยางค ์

§ ใช้ภาษาพูดที่ใช้กันอยู่เป็นประจํา

§ ใช้ภาษาพูดเพื่อส่งเสริมภาพ

§ ใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ หลีกเลี่ยงการใช้คําว่า “การ” และ “ความ” มากเกินไป

§ เขียนให้ชัดเจนไม่อ้อมค้อม § ใช้ภาษาที่ไม่ยอกย้อนสับสน เช่น การอ้างคําพูดผู้อื่นที่มีความยาวมาก หรือ ตัวเลขเยอะ เพราะผู้ชมไม่สามารถย้อนข้อมูลกลับมาดูได ้จึงควรเขียนบทให้ชัดเจน และเป็นลําดับขั้นตอน

2. การเขียน

§ ไม่เยิน่เย้อ ใช้คําให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทําได้ โดยตัดคําที่ไม่จําเป็นออก

§ การกะความยาวของประโยคควรคํานึงถึงจังหวะการหายใจของคนขณะพูด

§ เขียนให้ผู้ชมเข้าใจการดําเนินเรื่องได ้

§ ระวังการเปลี่ยนฉาก เปลี่ยนประเด็น หรือเปลี่ยนเรื่อง

§ ผู้เขียนบทโทรทัศน์จะได้เปรียบการเขียนแบบอื่นตรงที่สามารถเปลี่ยนภาพได้โดยไม่กระทบความรู้สึก การย้อนเวลาไปมา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กันในสถานที่ต่างกัน จะต้องนําเสนออย่างระมัดระวัง เพื่อให้เกิดผลที่ต้องการ ทั้งผู้เขียนบทและ ผู้กํากับจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ทําให้ผู้ฟังสับสน เหตุการณ์ที่เกดิขึ้นพร้อม ๆ กันในสถานที่ต่าง ๆ กัน อาจใช้ช่วงของเพลงเป็นตัวบอกเวลา

§ ผู้เขียนบทโทรทัศน์ต้องคํานึงถึงภาพเช่นเดียวกับลักษณะของคําพูด ต้องใช้คําพูดเพื่อสื่อความหมายให้สอดคล้องกับภาพ โดยจะใช้คําพูดน้อยที่สุดเท่าที่จะทําได้เพราะ ภาพ ดนตรี และ เสียงประกอบอื่น ๆได้เล่าเรื่องไปแล้ว

§ ขณะเขียนบทผู้เขียนจะต้องคํานึงถึงการสร้างภาพด้วยเช่นเดียวกับผู้กํากับ จะเห็นว่าในวงการโทรทัศน์ผู้กํากับมักเป็นคนเดียวกันกับผู้เขียนบท หรือผู้ผลิตรายการมักเป็นผู้เขียนบทเสียเองรายการโทรทัศน์บางรายการ ผู้กํากับจะเป็นคนเลือกมุมกล้องเอง ผู้เขียนบทจึงเขียนแต่บทพูด และไม่เขียนอะไรในคอลัมน์ภาพ แต่บทโทรทัศน์ส่วนใหญ่จะมีทั้งรายละเอียดของภาพและเสียง ผู้เขียนบทโทรทัศน์จึงเป็นผู้เล่าเรื่องด้วยภาพ

§ ในการเขียนบทไม่ว่าจะเป็นสารคดีหรือสัมภาษณ ์ไม่ควรให้มีภาพผู้พูดเรื่อยๆ เป็นเวลานาน อาจแทนภาพผู้พูดด้วยสิ่งที่กําลังพูดถึง ซึ่งจะช่วยสื่อความหมายสิ่งที่กําลังพูดถึง

Page 17: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 17

ตัวอย่างบทวิทยุโทรทัศน์รายการประเภทต่างๆ

ตัวอย่างบทสารคดีขนาดยาวทางโทรทัศน์ บทสารคดี ททท.

เรื่อง อดีตของปัจจุบัน บทโดย คมสัน รัตนะสิมากูล

Page 18: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 18

Page 19: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 19

Page 20: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 20

ตัวอย่างบทรายการสารคดีเชิงข่าว กรณีศึกษา : รายการเรื่องจริงผ่านจอ

Page 21: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 21

Page 22: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 22

ตัวอย่างบทรายการสัมภาษณ์ทางสื่อวิทยุโทรทัศน์ กรณีศึกษา : รายการเจาะใจ

ตอนที่ 427 โรคฮีโมฟีเลีย (เลือดออกง่าย หยุดยาก) เขียนบทโดย พุทธิดุล สังข์ดุลย์

Page 23: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 23

ตัวอย่างบทรายการข่าวทางสื่อวิทยุโทรทัศน์

ข่าว : รัฐเก็บรายได้สูงกว่าเป้าหมื่นล้าน ผู้เขียน : สํานักข่าวเนชั่น

Page 24: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 24

ตัวอย่างบทรายการนิตยสารทางสื่อวิทยุโทรทัศน์

บทรายการ SPICE!

Page 25: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 25

บทรายการ SPICE!แบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงที่ 1“SPICE ! STAR” อัมพร สุขารมณ์ กับกีฬาเล่นกอล์ฟ ช่วงที่ 2 “SPICE ! THAILAND” เรื่อง นวดไทยแผนโบราณ ช่วง “SPICE ! WEEKEND” เรื่อง ของสะสม McDONALD’S

ตัวอย่างบทรายการ SPICE! ช่วงที่ 3 ช่วง “SPICE ! WEEKEND” เรื่อง ของสะสม McDONALD’S

Page 26: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 26

Page 27: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 27

Page 28: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 28

ตัวอย่างบทรายการดนตรี

Page 29: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 29

Page 30: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 30

Page 31: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 31

Page 32: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 32

Page 33: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 33

Page 34: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 34

Page 35: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 35

ตัวอย่างบทโฆษณา เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก

Page 36: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 36

ตัวอย่างสปอตรณรงค์เพื่อสังคมทางสื่อวิทยุโทรทัศน์ สปอต โครงการคิดอย่างยั่งยืน ความยาว 1.30 นาที

Page 37: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 37

Page 38: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 38

Page 39: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 39

ตัวอย่างบทละครโทรทัศน์

Page 40: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 40

Page 41: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 41

Page 42: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 42

Page 43: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 43

Page 44: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 44

Page 45: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 45

Page 46: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 46

Page 47: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 47

Page 48: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 48

Page 49: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 49

Page 50: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 50

Page 51: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 51

Page 52: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 52

Page 53: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 53

ภาคผนวก : แนวทางการทํารายงานข่าวทางโทรทัศน ์

ก่อนจะนําตัวอย่างของบทโทรทัศน์รายการประเภทต่างๆ มาเป็นกรณีศึกษาให้กับผู้ที่สนใจการเขียนบทสําหรับรายการ

แต่ละประเภทนั้น จะขออธิบายถึงแนวทางสําหรับการทําข่าวโทรทัศน์ ซึ่งนอกจากสคริปตจ์ากกองบรรณาธิการข่าว ที่ผูป้ระกาศข่าวจะต้องอ่านซักซ้อมและทําความเข้าใจก่อนใช้รายงานข่าวในแต่ละช่วงรายการนั้น ในบางข่าวจะมีการทํา สารคดีเชิงข่าว หรือสกู๊ปข่าวพิเศษ เพื่ออธิบายเหตุการณ์ข่าวนั้นๆ ด้วย ซึ่งมีหลักการทํางานคุณอธิชัย ต้นกันยา ได้อธิบายแนวทาง การทํารายงานข่าวทางโทรทัศน์ไว้ดังต่อไปนี้

Page 54: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 54

Page 55: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 55

Page 56: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 56

Page 57: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 57

Page 58: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 58

Page 59: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 59

Page 60: Ca351 week07 tv script

การเล่าเรื่องและการเขียนบททางโทรทัศน์ | 60

บรรณานุกรม คมสัน รัตนะสิมากูล. หลักการเขียนบทวิทยุกระจายเสียงและบทวิทยุโทรทัศน์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : วี.พริ้นท์ (1991) จํากัด. ชัยยงค ์พรหมวงศ,์ นิคม ทาแดง และไพบูรณ์ คะเชนทรพรรค(์2547, หน้า 149-155). ประมวลสาระชุดวิชาเทคโนโลยีการจัดการการสื่อสาร

หน่วยท่ี 1-7. พิมพ์ครั้งที ่2 สุโขทัยธรรมาธิราช. วิภา อุตมฉันทร(์2544). การผลิตสื่อโทรทัศน์และสื่อคอมพิวเตอร์ : กระบวนการสร้างสรรค์และเทคนิคการผลิต. กรุงเทพ:บุ๊ค พอยท.์

ศภุางค์ นันตา. (2552). หลักการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์. พิมพ์ครั้งที่ 1. มหาสารคาม : สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. สมสุข หินวิมาน และคณะ. (2554). ความรู้เบื้องต้นทางวิทยุและโทรทัศน์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร :

สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. อรนุช เลิศจรรยารักษ์. (2544). หลักการเขียนบทโทรทัศน์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. อุษณีย์ ศิริสุนทรไพบูลย์. (2552). หลักการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร :

สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. Zettl, H. (1976). Television Production Handbook. 3rd. Edition. Wadsworth Publishing Company. Inc. Belmont, California.