Transcript
Page 1: วันมาฆบูชา - bupress2.bu.ac.thbupress2.bu.ac.th/km/culture/no.21.pdf · ป ที่ ๔ ฉบับที่ ๒๑ กุมภาพันธ ... คติควรฟ

จัดทําโดย : กรรณิการ จตุพร แหลงอางอิง : ๑) http://hilight.kapook.com/view/20696 ๒) http://blog.eduzones.com/froze/2809

ปที่ ๔ ฉบับที่ ๒๑ กุมภาพันธ-มีนาคม ๒๕๕๕

จัดทําโดย : กรรณิการ จตุพรจัดทําโดย : กรรณิการ จตุพร

เดือนกุมภาพันธถึงเดือนมีนาคม มีวันสําคัญ ไดแก

*วันมาฆบูชา( ๗ กุมภาพันธ ๒๕๕๕ )

ÊØÀÒÉÔµ ความหมายตามพจนานุกรม หมายถึง คํากลาวที่มีคติควรฟง สุภาษิตจึงมีลักษณะเดียวกับสํานวนและคําพังเพย แตมีจุดมุงหมายเพื่อการสั่งสอน เตือนสติใหคิด ไมมีการเสียดสีหรือติชมอยางคําพังเพย เปนถอยคําที่แสดงหลักความจริง เปนที่ยอมรับกันโดยทั่วๆ ไป ภาษิตนี้ยังมีความหมายรวมไปถึงสัจธรรมคําสั่งสอนที่เปนความจริงอันเที่ยงแททางศาสนาดวย เชน ตนเปนที่พึ่งแหงตน คนลวงทุกขไดเพราะความเพียร ฯลฯ แตเรานิยมเรียกสัจธรรมเหลานี้วา “สุภาษิต”

Êíҹǹ ความหมายตามพจนานุกรม หมายถึง โวหาร ทํานองพูด ถอยคําที่เรียบเรียง ถอยคําที่ไมถูกไวยากรณแตรับใชเปนภาษาที่ถูกตอง การแสดงถอยคําออกมาเปนขอความพิเศษเฉพาะภาษาหนึ่งๆ

สํานวนไทยจะมีความหมายโดยนัย เปนลักษณะความหมายเชิงอุปมาเปรียบเทียบ จะไมแปลความหมายตรงตามตัวอักษร

ตัวอยางเชนปากเสีย หมายถึง พูดไมดี ชอบวาผูอื่นใจจืด หมายถึง ไมเอื้อเฟอแกใคร

¤íҾѧà¾Â ความหมายตามพจนานุกรม หมายความวา “คําที่กลาวขึ้นลอยๆ เปนคํากลางเพื่อตีใหเขากับเนื้อเรื่อง”

คําพังเพยเปนถอยคําที่มีลักษณะเดียวกับสํานวน แตตางจากสํานวนตรงที่มีจุดมุงหมายเชิงสั่งสอน แตเปนไปในทํานองเสียดสี ประชดประชัน แฝงความหมายเชิงติชมไวดวย คําพังเพยสวนมากมีลักษณะเปนขอคิดและมีความหมายลึกซึ้ง เนื้อความที่สั่งสอนนั้นไมไดเปนความจริงอันเที่ยงแท

ความหมายของวันมาฆบูชา

คําวา “มาฆะ” นั้น เปนชื่อของเดือน ๓ ยอมาจากคําวา “มาฆบุรณมี” หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน ๓

การกําหนดวันมาฆบูชา

การกําหนดวันมาฆบูชาตามปฏิทินจันทรคติของไทยนั้นจะตรงกับวันขึ้น ๑๕ คํา เดือน ๓ แตถาปใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน ๘ สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเปนวันขึ้น ๑๕ คํา เดือน ๔ และมักตรงกับเดือนกุมภาพันธหรือมีนาคม

ความสําคัญและประวัติของวันมาฆบูชา

ความสําคัญของวันมาฆบูชา คือ เปนวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจาทรงแสดง “โอวาทปาติโมกข” แกพระสงฆเปนครั้งแรก หลังจากตรัสรูมาแลวเปนเวลา ๙ เดือน ซึ่งหลักคําสอนนี้เปนหลักการและวิธีการปฏิบัติตางๆ หากสรุปเปนใจความสําคัญ จะมีเนื้อหาวา “ทําความดี ละเวนความชั่ว ทําจิตใจใหบริสุทธิ์”

ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาไดเกิดเหตุอัศจรรยขึ้นพรอมๆ กันถึง ๔ ประการ อันไดแก

๑. วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ คํา เดือน ๓ ซึ่งพระจันทรเสวยมาฆฤกษ

๒. มีพระสงฆจํานวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพรอมกันโดยมิไดนัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห แควนมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจา

๓. พระสงฆที่มาประชุมทั้งหมดลวนแตเปนพระอรหันต ผูไดอภิญญา ๖

๔. พระสงฆทั้งหมดไดรับการอุปสมบทโดยตรงจาก พระพุทธเจาหรือ “เอหิภิกขุอุปสัมปทา”

และเพราะเกิดเหตุอัศจรรย ๔ ประการขางตน ทําใหวันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งไดวา “วันจาตุรงคสันนิบาต” ซึ่งคําวา “จาตุรงคสันนิบาต” นี้ มีความหมายตามการแยกศัพทคือ

จาตุร แปลวา ๔องค แปลวา สวนสันนิบาต แปลวา ประชุม

ดังนั้น “จาตุรงคสันนิบาต” จึงหมายความวา “การประชุมดวยองค ๔” นั่นเอง

ทั้งนี้ วันมาฆบูชาถือวาเปนวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือวาเปนวันพระพุทธ สวนวันอาสาฬหบูชา เปนวันพระสงฆ

วันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชาวันมาฆบูชา

ความหมายของ

Top Related