รายวิ�ชา ภาษาอั�งกฤษเพื่��อัการศึ�กษาต่�อัสาระความร� พื้��นฐาน ระดั�บม�ธยมศึ�กษาตอนปลาย

หล�กส�ตรการศึ�กษานอกระบบระดั�บการศึ�กษาขั้��นพื้��นฐาน พื้�ทธศึ�กราช 2551

จำ#านวน 3 หน$วยก%ต ( 120 ช�&วโมง)

ศึ�นย)การศึ�กษานอกระบบและการศึ�กษาตามอ�ธยาศึ�ยอ#าเภอบางละม�ง

~ 2 ~

รายละเอั�ยดคำ�าอัธิ�บายรายวิ�ชา พื่ต่ 22005 ภาษาอั�งกฤษเพื่��อัการศึ�กษาต่�อัสาระคำวิามร!"พื่�#นฐาน ระด�บม�ธิยมศึ�กษาต่อันปลาย

จำ�านวิน 3 หน�วิยก�ต่ ( 120 ช��วิโมง)

มาต่รฐานที่�� 2.1 ม-ความร� ความเขั้าใจำ และท�กษะพื้��นฐานเก-&ยวก�บภาษาและการส�&อสาร

ที่�� ห�วิเร��อัง ต่�วิช�#วิ�ด เน�#อัหาจำ�านวิน(ช��วิโม

ง)

1 โครงสรางทางภาษา(Structure)

หนาท-&ทางภาษา(Function)

ค#าศึ�พื้ท) (Vocabulary)

การอ$านเพื้�&อจำ�บใจำความ(Reading comprehension)

สามารถใชภาษาต$างประเทศึเป0นเคร�&องม�อในการจำ�ดัการดัานการเร-ยน การแสวงหาความร� การเขั้าส�$ส�งคมและการศึ�กษาต$อ รวมท��งเช�&อมโยงความร� ทางดัานภาษาต$างประเทศึก�บกล�$มสาระการเร-ยนร� อ�&น

โครงสรางทางภาษา (Structure)

หนาท-&ทางภาษา (Function)

เช$น การท�กทาย (Greeting)

การกล$าวลา (Good

bye)

การขั้อบค�ณ (Thank

you)

การแนะน#าต�วเอง (Introducing)

การขั้อรอง (Request)

การขั้อและใหค#าแนะน#าปร�กษา

(Asking and Giving Advice)

การถามท%ศึทาง (Asking for Direction)

10

30

15

20

~ 3 ~

ที่�� ห�วิเร��อัง ต่�วิช�#วิ�ด เน�#อัหาจำ�านวิน(ช��วิโม

ง)

ค#าศึ�พื้ท) (Vocabulary)

Prefix – root - suffix

การอ$านเพื้�&อจำ�บใจำความ(Reading comprehension)

การอ$านกราฟ การ)ต�น ตาราง ส�ญล�กษณ) สถ%ต% ดั�ชน- (Reading :Graph/Cartoon/Table/Sign/Statistic/Index)

การท#าขั้อสอบแบบเวนช$องว$างอย$างม-ระบบ(Cloze Test)

ภ�ม%หล�งเจำาขั้องภาษาว�ฒนธรรม(Cultural

Background)

ขั้$าว (News)

เพื้ลงและโคลง(Song and Poetry)

การใชพื้จำนาน�กรม(Using dictionary)

การตรวจำจำ�บท-&ผิ%ดั

การอ$านกราฟ การ)ต�น ตาราง ส�ญล�กษณ) สถ%ต% ดั�ชน- บรรณาน�กรม(Reading :Graph/Cartoon/Table/Sign/Statistic/Index/ Biography)

การท#าขั้อสอบแบบเวนช$องว$างอย$างม-ระบบ (Cloze

Test)

ภ�ม%หล�งเจำาขั้องภาษาว�ฒนธรรม(Cultural

Background)

ขั้$าว (News)

เพื้ลงและโคลง (Song

and Poetry)

การใชพื้จำนาน�กรม (Using dictionary)

5

15

5

55

5

5

~ 4 ~

ที่�� ห�วิเร��อัง ต่�วิช�#วิ�ด เน�#อัหาจำ�านวิน(ช��วิโม

ง)

(Error Detection)

การตรวจำจำ�บท-&ผิ%ดั (Error

Detection)

การที่�กที่าย (Greeting)

เม�&อเราจำะท�กทายใครส�กคนหน�&ง ลองใชค#าพื้�ดัเหล$าน-�(Greeting) การที่�กที่าย (Response) การต่อับ

Good morning. How are you? I'm fine (very well).(สบายดั-)

Good afternoon How are things? (Quite) all right. (สบายดั-)Good evening. How is everything

with you?Not (too) bad.(ไม$เลวน�ก)

~ 5 ~

Hello. What is new? Too bad. (แย$เลย)Hi. เป0นย�งไงบาง สบายดั-

หร�อNot much /Nothing

much/It's nothing.(ไม$ม-อะไร)

สว�สดั- เป0นย�งไงบาง So so. (เร�&อยๆ , ง��นๆ)

(ถาเป0นคนสน%ทก�นเองก8ใช Hello,Hi)

เป0นย�งไง ม-อะไรแปลกใหม$บาง

Can't complain.(เร�&อยๆ)

ต่�วิอัย�าง ต$อไปน-�เป0นแนวทาง แลวน#าไปใชเวลาม-โอกาสสนทนา (กรณ-น-�ใชเป0นแบบทางการนะคะ (Formal Greeting)

A : Good morning, Mr. Smith, how are you?

A : สว�สดั-คร�บ ค�ณสม%ธ สบายดั-หร�อ

B : I'm fine, thank you,Mr. Wichai. And how are you?

B : สบายดั-คร�บ ค�ณบ$ะคร�บเป0นย�งไงค�ณว%ช�ย

A : Very well, thank you. A : สบายดั-คร�บ ขั้อบค�ณA : Good morning, Mr. Peter. A : สว�สดั-คร�บค�ณป9เตอร)B : Good morning, Mr. Somsak. How are you?

B : สว�สดั-คร�บค�ณสมศึ�กดั%: เป0นย�งไงบางคร�บ สบายดั-หร�อ

A : I'm very well, thank you. And how are you?

A : สบายดั-คร�บ ขั้องค�ณ แลวค�ณล$ะคร�บ

B : Quite all right, thank you. B : สบายดั-คร�บ ขั้อบค�ณ

ต่�วิอัย�าง ต$อไปน-�เป0นแนวทางอ-กแบบ (กรณ-น-�ใชเป0นแบบไม$เป0นทางการ (Formal

Greeting) ใชท�กทาย แบบเป0นก�นเอง หร�อก�บเพื้�&อนๆ ไดั

A : Hello, Malee, how are you today?

A : สวิ�สด�มาล� คำ+ณเป-นย�งไงบ"างวิ�นน�#

B : I'm not well. I caught a cold. B: ฉั�นไม$สบาย เป0นไขั้หว�ดัA : Oh, I'm sorry to hear that. Have you taken anything for it?

A : ย�งง��นหร�อ เส-ยใจำดัวยนะ แลวค�ณทานยาอะไรบางหร�อย�ง

B : Yes, I have. Thank you. B : ทางแลวค$ะ ขั้อบค�ณค$ะ

~ 6 ~

A : Hello, Vichai. I haven't seen you for a long time. How have you been?

A : สว�สดั-ว%ช�ย ไม$ไดัพื้บก�นเส-ยนาน เป0นย�งไงบาง

B : I'm all right, thanks. And how about you?

B : สบายดั-คร�บ ขั้อบค�ณ แลวค�ณล$ะคร�บเป0นย�งไง

A : Not too bad, thanks. A : ก8สบายดั- ขั้อบค�ณ

A : Hi, Tom. haven't seen you for months. What's new?

B : สว�สดั-ทอม ไม$ไดัเจำอก�นต��งหลายเดั�อน เป0นย�งไงบาง

B : Not much. I've been busy with my work. What about you?

B : ไม$ม-อะไร ย�$งแต$งาน แลวค�ณล$ะคร�บ

A : So so. A : ก8ย�งง��นๆ แหละ

แนะน�าต่�วิเอัง (Introduce oneself)

การแนะน#าต�ว ท��งแนะน#าตนเองและแนะน#าผิ�อ�&น ลองศึ�กษาดั�นะคะแนะน�าต่�วิเอัง (Introduce

oneself)แนะน�าผู้!"อั��น (Introduce others)

Excuse me, my name is .................

I'd like to introduce ............./ to present.........

(ขั้าพื้เจำาขั้อแนะน#า......)Excuse me. How do you do? I

don't think we 've met before. My name is...............

I have the great pleasure to introduce......

(ขั้าพื้เจำาม-ความ%นดั-ท-&จำะขั้อแนะน#า..........)Hello! (Hi!)I'm .............and

what's your name?I'm greatly honoured to

present......... (ขั้าพื้เจำาร� ส�กย%นดั-เป0นอย$างย%&งท-&จำะขั้อ

แนะน#า...........)May I introduce myself?

I'm............It's my greatest pleasure to

introduce ........(ขั้าพื้เจำาร� ส�กย%นดั-เป0นอย$างย%&งท-&จำะขั้อ

แนะน#า...........)ขั้อโทษคร�บ ผิมช�&อ........... May I introduce..................

~ 7 ~

(ขั้าพื้เจำาขั้ออน�ญาตแนะน#า....)ขั้อโทษคร�บ ค�ณสบายดั-หร�อ ผิมค%ดัว$าเราย�งไม$เคยพื้บก�นมาก$อนนะคร�บ ผิม

ช�&อ..........

Let me introduce ......................(ขั้าพื้เจำาขั้อโอกาสแนะน#า.......)

สว�สดั- ผิมค�อ...........แลวค�ณช�&ออะไรคร�บ

I'd like you to meet ..............(ขั้าพื้เจำาขั้อแนะน#าใหค�ณร� จำ�กก�บ....)

ขั้ออน�ญาตแนะน#าต�วเองคร�บ ผิมช�&อ......

This is ................. (น-�ค�อ.......)

แลวเม�&อคนเขั้าแนะน#าเรา เราจำะพื้�ดัตอบย�งไงดั-ล$ะคะ ใชค#าพื้�ดัเหล$าน-�ไดัเลยค$ะHow do you do? สว�สดั- (ซึ่�&งจำะใชพื้�ดัเม�&อร� จำ�กก�นเป0นคร��ง

แรก)

I'm pleased to meet you. ย%นดั-ท-&ไดัร� จำ�กค$ะI'm glad to meet you. ดั-ใจำท-&ไดัพื้บค�ณค$ะIt's nice to meet you. ดั-ใจำท-&ไดัพื้บค�ณค$ะ

มาลองดั�ต�วอย$างการแนะน#าต�วหน$อยดั-ไหมA : Mr. Smith. I'd like you to meet Mr.  Roberts.        Mr. Roberts, this is Mr. Smith.

A : ค�ณสม%ธคร�บ ผิมขั้อแนะน#าใหค�ณร� จำ�กก�บค�ณโรเบ%ร)ต ค�ณโรเบ%ร)ตคร�บ น-�ค�อค�ณสม%ธ

B : How do you do? Pleased to meet you.

B : สว�สดั-คร�บ ย%นดั-ท-&ไดัร� จำ�ก

C : How do you do? Pleased to meet you.

C : สว�สดั-คร�บ ย%นดั-ท-&ไดัร� จำ�กเช$นก�นคร�บ

ข้"อัส�งเกต่ การแนะน#าน-�ม-ล�กษณะเป0นการแนะน#าแบบเป0นทางการนะคะ (Formal introduction)

A : Paul, this is Peter Smith.      Peter, this is Paul Roberts.

A : พื้อลคร�บ น-�ค�อป9เตอร) สม%ธ ป9เตอร) น-�ค�อพื้อล โรเบ%ร)ต

B : hello, Peter. Glad to meet you.

B : สว�สดั-ป9เตอร) ย%นดั-ท-&ไดัร� จำ�ก

~ 8 ~

C : Hello, Paul. Nice to meet you.

C : สว�สดั-พื้อล ดั-ใจำท-&ไดัพื้บค�ณ

ข้"อัส�งเกต่ การแนะน#าน-�ม-ล�กษณะเป0นการแนะน#าอย$างไม$เป0นทางการ เป0นก�นเองมากกว$าอ�นแรกนะคะ (Informal introduction)

การที่�กที่าย และการแนะน�าต่นเอัง

การที่�กที่าย (Greetings) เป0นมารยาทอย$างหน�&งในส�งคม ซึ่�&งแต$ละทองถ%&นหร�อแต$ละประเทศึต$างม-ค#าท�กทายท-&แตกต$างก�น ออกไป แบ$งออกไดัเป0น การท�กทายอย$างเป0นทางการ และ การท�กทายอย$างไม$เป0นทางการ หร�อแบบเป0นก�นเอง

A. การที่�กที่ายอัย�างเป-นที่างการ (Formal Greetings)

ประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมายGood morning ก�=ดั มอร)น%&ง ใชท�กทายต��งแต$ตอนเชาถ�ง

ก$อนเท-&ยงGood afternoon ก�=ดั แอ=ฟ เท$อะ น�น ใชท�กทายในช$วงบ$ายGood evening ก�=ดั อ-ฝ น%&ง ใชท�กทายในตอนเย8นจำนถ�ง

ก$อนเท-&ยงค�น

     B. การที่�กที่ายอัย�างไม�เป-นที่างการ (Informal Greetings)

ค#าว$า Hi และ Hello เป0นค#าท�กทายอย$างไม$เป0นทางการ ม-ความหมายว$า สว�สดั- ใชท�กทายบ�คคลไดัท�กโอกาสโดัยไม$จำ#าก�ดัเวลา ถาเป0นคนสน%ทหร�อคนก�นเอง ม�กจำะตามดัวยช�&อคนท-&เราท�กทาย ไดัเลย เช$น

ประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมาย    - Hello, John. เฮลโล จำอห)น สว�สดั-, จำอห)น

    - Hello, Anong. เฮลโล อนงค) สว�สดั-, อนงค)    - Hi, Julia. ไฮ จำ�เล-ย สว�สดั-, จำ�เล-ย

    - Hi, Manus. ไฮ มน�ส สว�สดั-, มน�ส

       ถาเป0นเพื้-ยงคนร� จำ�ก การท�กทายน��นม�กจำะตามดัวยนามสก�ล ขั้องบ�คคลน��นๆ และจำะน#าหนานามสก�ลดัวยค#าน#าหนาช�&อ ไดัแก$ Mr., Mrs., หร�อ Miss เช$น

~ 9 ~

Mrs.Browns, Mr.Smiths, Mr.Jones เป0นตน        Mr. (ม%ส เตอร)) ใชน#าหนาช�&อผิ�ชาย       Miss (ม%ส) ใชน#าหนาช�&อผิ�หญ%งท-&ย�งไม$แต$งงาน       Mrs. (ม%ส ซึ่%ส) ใชน#าหนาช�&อผิ�หญ%งท-&แต$งงานแลว

นอกจำากน-�ย�งม-ค#าท-&ใชตามหล�งค#าท�กทายท-&ควรร� อย�$อ-ก 2 ค#า ไดัแก$ ค#าว$า sir (เซึ่=อะร)) และค#าว$า ma’am (แม8ม) ซึ่�&งย$อมาจำากค#าว$า madam น%ยมใชก�บบ�คคลท-&เราเคารพื้น�บถ�อ รวมถ�งเป0นค#าท-&บร%กร หร�อผิ�ใหบร%การใชก�บล�กคา เพื้�&อเป0นการใหเก-ยรต% ยกย$อง โดัยท�&วไปไม$น%ยมใชค#าสองค#าน-�ก�บคนท-&เพื้%&งร� จำ�ก และเม�&อม-การ ท�กทายแลวก8ม�กจำะตามดัวยค#าถามเก-&ยวก�บส�ขั้ภาพื้ หร�อถามถ�ง สารท�กขั้)ส�กดั%บขั้องค�$สนทนา ซึ่�&งประโยคเหล$าน-�ประกอบดัวย             

ประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมาย - How are you?

ฮาว อาร) ย� สบายดั-หร�อเปล$าคะ

- How are you today?     

ฮาว อาร) ย� ท�เดัย) ว�นน-�สบายดั-ไหมคร�บ

- How are this morning?     

ฮาว อาร) ธ-ส มอร)น%&ง สบายดั-ไหมคะเชาน-�

- How are you getting on?      

ฮาว อาร) ย� เก8ท ท%&ง ออน สบายดั-ไหมคะ

- How are you doing?  

ฮาว อาร) ย� ดั� อ%�ง สบายดั-หร�อเปล$าคะ

- How have you been?    

ฮาว แฮฟ ย� บ-น สบายดั-ไหมคะ

ถ้"าสบายด�ให"ต่อับวิ�า         >>              แล"วิต่ามด"วิยคำ�าข้อับคำ+ณประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมาย

Fine., Thanks. ไฟน), แธงค)ส สบายดั-, ขั้อบค�ณมากI’ m fine,  Thank you.

แอม ไฟน), แธ8งค) ค%ว สบายดั-, ขั้อบค�ณมาก

I’ m good. แอม ก�ดั สบายดั-, ขั้อบค�ณมากI am all right. ไอ แอม ออล ไรท) สบายดั-, ขั้อบค�ณมากWell / Very well. เวลล) / เว ร% เวลล) สบายดั-, ขั้อบค�ณมาก                                    ถ้"าไม�คำ�อัยสบายให"ต่อับวิ�า

ประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมายI am not so well ไอ แอม น8อต โซึ่ เวลล) ท� ว�นน-�ดั%ฉั�นไม$ค$อยสบายค$ะ

~ 10 ~

today. เดัย)Not very well. I have a headache.

น8อต เวร% เวลล) ไอ แฮฟ เอ เฮดัเอค

ว�นน-�ผิมไม$ค$อยสบาย ผิมปวดัศึร-ษะ

Not so well. I have a cold.      

น8อต โซึ่ เวลล) ไอ แฮฟ เอ โคลดั)

ว�นน-�ผิมไม$ค$อยสบาย ผิมเป0นหว�ดั

นอักจำากน�#ย�งม�อัาการไม�สบายที่��สามารถ้น�ามาต่อับได"ด�งน�#

ประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมายI have a toothache.      

ไอ แฮฟ เอ ท�ชเอค ผิมปวดัฟ@น

I have a stomachache.      

ไอ แฮฟ เอ สตอม�ค เอค ผิมปวดัทอง

 I have a sore throat.    

ไอ แฮฟ เอ ซึ่อร) โธร)ท ผิมเจำ8บคอ

 I have a temperature.      

ไอ แฮฟ เอ เท8ม เพื้$อะ เรเท$อะ

ผิมไม$สบาย / ต�วรอน

 I have a fever.       ไอ แฮฟ เอ ฟ9เว$อะ ผิมเป0นไขั้ I have a flu.        ไอ แฮฟ เอ ฟล� ผิมเป0นไขั้หว�ดัใหญ$ I have a back pain ไอ แฮฟ เอ แบ8ค เพื้น       ผิมปวดั/เม�&อยหล�ง

      เม��อัคำ!�สนที่นาบอักวิ�าไม�สบาย เราคำวิรให"คำ�าแนะน�าหร�อั คำ�าปลอับใจำวิ�า

ประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมายThat’s too bad. แธ8ทส) ท� แบดั แย$จำ�งเลยI’m sorry to hear that.       

แอม ซึ่อ ร% ท� เฮ-ยร) แธ8ท เส-ยใจำดัวยนะ

Take care of yourself.     

เทค แคร) ออฟ ยอร)เซึ่ลฟA ดั�แลต�วเองหน$อยนะ

Take care of your health.      

เทค แคร) ออฟ ยอร) เฮ8ลท) ดั�แลส�ขั้ภาพื้ดัวยนะ

ต่�วิอัย�างที่�� 1 :

Suda : Good morning, Jack. How are you today?

~ 11 ~

    (ก�=ดั มอร)น%&ง แจำ=ค ฮาว อาร) ย� ท� เดัย)) ส�ดัา   สว�สดั-(ตอนเชา)ค$ะค�ณแจำ8ค ว�นน-�สบายดั-หร�อเปล$าคะ

Jack : Good morning, Suda. I’m fine. Thank you, and how are you?

    (ก�=ดั มอร)น%&ง ส�ดัา แอม ไฟน) แธ8งค) ค%ว แอนดั) ฮาว อาร) ย�)

แจำ8ค  สว�สดั-(ตอนเชา)คร�บค�ณส�ดัา ผิมสบายดั- ขั้อบค�ณ แลวค�ณสบายดั-ไหมคร�บ

Suda : I’m fine. Thanks.     (แอม ไฟน) แธ8งค)ส)

ส�ดัา   ดั%ฉั�นสบายดั- ขั้อบค�ณค$ะ

ต่�วิอัย�างที่�� 2 :

Malai : Hi, Nick. How are you doing?    (ไฮ น%ค ฮาว อาร) ย� ดั� อ%�ง)

มาล�ย   สว�สดั-จำ=ะน%ค สบายดั-หร�อเปล$าNick : Hi, Malai. I’m not so well today. I have a fever.    (ไฮ มาล�ย แอม น8อต โซึ่ เวลล) ท� เดัย) ไอ แฮฟ เอ ฟ9เว$อะ )น%ค   สว�สดั-คร�บมาล�ย ว�นน-�ผิมไม$ค$อยสบาย ผิมเป0นไขั้

Malai : That’s too bad. Take care of yourself and you should go to see a doctor.

   (แธ8ทส ท� แบดั เทค แคร) ออฟ ยอร) เซึ่8ลฟA แอนดั) ย� ช� ดั โก ท� ซึ่- เอ ดั=อค เท$อะ )

มาล�ย   แย$จำ�งเลย ดั�แลต�วเองนะคะ และค�ณควรจำะไปหาหมอดัวย

~ 12 ~

การกล�าวิข้อับคำ+ณ Thank you.

ร�ปแบบง$ายๆ ในการขั้อบค�ณม-ดั�งน-� ประโยคำ คำวิามหมาย

Thank you. ขั้อบค�ณThank you for........... ขั้อบค�ณส#าหร�บ......Thanks (for..........) ขั้อบค�ณ (ส#าหร�บ.......)

Many thanks. ขั้อบค�ณมากๆI'm obliged to you for........... ร� ส�กเป0นพื้ระค�ณส#าหร�บ........I'm grateful to you for........... ขั้าพื้เจำาร� ส�กซึ่าบซึ่��งในบ�ญค�ณ

ส#าหร�บ...Thanks anyway/Just the same. อย$างไรก8ตาม ก8ขั้อขั้อบค�ณ

เม�&อเขั้าขั้อบค�ณเรา เราก8อาจำตอบโดัยใชส#านวนเหล$าน-� Your're welcome./ Not at all. / That's all right. / Don't

mention it. (ไม�เป-นไร)

ต่�วิอัย�าง ต$อไปน-�

~ 13 ~

ประโยคำ คำวิามหมายThank you (very much/ so much/ ever so much.)

ขั้อบค�ณมาก

Thanks you very much for your help.

ขั้อบค�ณมากส#าหร�บความช$วยเหล�อ

Thank you for lending me the book. ขั้อบค�ณท-&ใหย�มหน�งส�อThanks for coffee. ขั้อบค�ณท-&เล-�ยงกาแฟThanks (a lot / so much). ขั้อบค�ณมากI want to thank you and your wife for what you've done for my son.

อยากจำะขั้อบค�ณค�ณและภรรยาท-&ไดักร�ณาต$อล�กชายขั้องขั้าพื้เจำา

I must thank you for the wonderful present you sent to me.

ขั้าพื้เจำาตองขั้อขั้อบค�ณส#าหร�บขั้องขั้ว�ญ

ท-&ค�ณไดักร�ณาส$งไปใหI'm much obliged to you for your help.

เป0นพื้ระค�ณแก$ขั้าพื้เจำาอย$างมากส#าหร�บการช$วยเหล�อขั้องค�ณ

I'm grateful for your kindness. ขั้าพื้เจำาร� ส�กซึ่าบซึ่��งในบ�ญค�ณส#าหร�บความกร�ณาขั้องค�ณ

มาดั�ต�วอย$างการสนทนาน-�ค$ะDialogue 1A : Pass me the salt, please.B : Here you are.A : Thank you.B : Not at all.

Dialogue 2A : Here's a little present for your birthday.B : My! Thank you very much.A : Not at all. And this is some fruit for the       party.B : Oh, that's very kind of you. Thank you very much for your kindness.A : Don't mention it.

Dialogue 3 ลองเต%มดั�เองบางค$ะ

~ 14 ~

A : Would you like some coffee?B : Yes. Thank you.A : Not at all. And can I get you something to eat?B : That's very kind of you but I've eaten  already. Thanks anyway.A : That's all right.

1. A : Thank you for...............     B : ......................................2. A : Here's the book I borrowed from you.  Thank you very much.    B : ........................................    A : I'm very much obliged to you for..........    B : ......................................

 Parting การจำากลาเม�&อพื้บก�นก8ตองม-จำากก�น เม�&อเราจำะลาจำากใครส�กคน จำะเอ$ยปากบอกลาว$าไงดั- ลองใชส#านวนพื้�ดัเหล$าน-�ไดัเลย

ประโยคำ คำวิามหมายI have to go. ฉั�นเห8นจำะตองไปเส-ยแลว

I must be on my way. ฉั�นตองไปแลวI'm afraid I'll have to be on my

way.ฉั�นเกรงว$าจำะตองไปเส-ยแลว

I'll have to say good bye. ฉั�นตองกล$าวลาเส-ยแลวI'm going. ฉั�นคงตองเดั%นทางแลว

I'm leaving. ฉั�นคงตองไปแลวIt's time to go. ถ-งเวลาจำะตองไปแลว

It's time to say goodbye. ถ�งเวลาท-&จำะตองกล$าวลาเส-ยแลวI hope we will meet again

sometime.หว�งว$าเราคงจำะไดัพื้บก�นอ-ก

I'll see you sometime. หว�งว$าจำะไดัพื้บค�ณอ-กI'll be seeing you. หว�งว$าจำะไดัพื้บค�ณอ-ก

See you later /again. พื้บก�นใหม$ / เจำอก�นใหม$Goodbye. / Bye-bye. ลาก$อน

So long. จำนกว$าจำะพื้บก�นอ-กCheerio. / Cheers. จำนกว$าจำะพื้บก�นอ-ก (ม�กพื้�ดัเวลาดั�&มหร�อ

จำากก�น)

~ 15 ~

Good night. ราตร-สว�สดั%:

เราสามารถตอบร�บการกล$าวลาไดัดั�งน-�Reply : Don't let me keep you. (ขั้อเช%ญเลย)

                 Go ahead. (ขั้อเช%ญเลย)

                 Oh really? (อาว จำะกล�บแลวเหรอ)

                 Oh, so soon. (แหม เร8วเหล�อเก%น)

                 Don't hurry off. (อย$าเพื้%&งร-บไปเลย)

                 Don't be in a hurry. (อย$าเพื้%&งร-บไปเลยนะ)                 Can't you stay a little longer? (ขั้อเวลาอ-กน%ดัไม$ไดัเหรอ)

Dialogue 1A : Oh, I'm afraid I'll have to go. I have class at two. see you next Sunday. B : See you. Bye.

Dialogue 2A : Excuse me, I must be on my way now.B : Oh, so soon! ca't you stay a little longer?A : I'm sorry I ahve an appointment at four.B : Really? I hope we'll meet again       sometime.A : I hope so, too. Good-bye.

Dialogue 3A : Oh, it's after ten. I'd better go now.B : Thank you for everything.A : I'm very glad you could come. Thank       you. Good night.B : Good night.

ลองเต%มเองเล$นๆ ค$ะ1. A : It's time to go..............................    B : ......................................................    A : see you later. goodbye.    B : ......................................................

ต่�วิอัย � าง Saying  Goodbye :  คำ�ากล�าวิลา                     การสนทนาส%�นส�ดัลง การกล$าวลาก8จำะเป0นค#าส�ดัทายท-&ตองพื้�ดั ท�กว�นท�กคร��งเราจำะพื้�ดัและไดัย%นแต$ค#าว$า  Goodbye, bye นอกจำากท-&เราไดัย%นจำนช%นแลว

~ 16 ~

ว�นน-�ม-ค#ากล$าวลาท-&น$าสนใจำน#ามาฝาก  เพื้�&อใหท�กท$านท-&สนใจำน#าไปใชไดัเลย

ประโยคำ คำ�าอั�าน คำวิามหมายSee   you  again.   ซึ่-  ย�  อะเกน   พื้บก�นใหม$  (ม�กใชลาแบบ

ทางการ)See   you  later.    ซึ่-  ย�  เเทอร) เดั-Cยวเจำอก�นนะ  (ใชลาแบบไม$

เป0นทางการ)See   you  soon    ซึ่-  ย�  ซึ่�น  เดั-Cยวพื้บก�นนะ   (ใชลาแบบไม$

เป0นทางการ)See   you  then     ซึ่- ย�  เดัน   เดั-Cยวเจำอก�น      (ใชลาเม�&อม-

การน�ดัหมาย)Have  a  nice  day )   

แฮ8ฟ  อะ  ไนซึ่)  เดัย) โชคดั-นะ ว�นน-�ขั้อใหม-ความส�ขั้

Have  a  nice  holiday. 

แฮ8ฟ  อะ  ไนซึ่)  ฮอล%เดัย) 

ว�นหย�ดัขั้อใหม-ความส�ขั้นะ

Have  a  nice  weekend. 

แฮ8ฟ  อะ  ไนซึ่)  ว-คเค8นดั)  เสาร)- อาท%ตย)  ขั้อใหม-ความส�ขั้

Have  a   good   trip. /  Have  a   nice  trip.

แฮ8ฟ  อะ ก�ดั ทร%พื้ /  อะ  ไนซึ่)  ทร%พื้

ขั้อใหเดั%นทางโดัยสว�สดั%ภาพื้

Have   a   good   time.

แฮ8ฟ อะ  ก�ดั  ไทม) ขั้อใหม-ความส�ขั้นะ

Take  care/ Take  care  of  yourself.

เทคแคร) / เทคแคร)  อ8อฟ  ย�วร)เซึ่8ลฟ 

ดั�แลต�วเองดัวย/ร�กษาต�วดัวย

Sweet  dreams  /  Sleep  well. 

สว-ท  ดัร-มส) / สล-ฟ เว8ล ฝ@นดั-นะ /  นอนหล�บใหสบาย

Good luck .  ก�ดั ล�ค  โชคดั-We'd better be  off  now.

ว-ดั�  เบ8ดัเทอร)  บ-  อ=อฟ  นาว

เราจำะกล�บก�นแลวนะ

Oh, it's  time  to  go .

โอ  อ%ทส)  ไทม)  ท�  โก  โอ  ไดัเวลากล�บแลว / ไดัเวลาออกเดั%นทางแลว

~ 17 ~

I  think  it's  time  to  go.

ไอ  ธ%งค)  อ%ทส)  ไทม)  ท�  โก

ฉั�นค%ดัว$า  ไดัเวลากล�บแลวนะ

I  think  I'd better  go. 

ไอ  ธ%งค)  ไอดั�  เบ8ทเทอร)  โก

ฉั�นค%ดัว$าฉั�นกล�บดั-กว$า

I  have  to  go  now.

ไอ  แฮ8ฟ  ท�  โก  นาว ฉั�นจำะตองไปแลวนะ

I  must  go. ไอ  ม�สท)  โก ฉั�นจำะตองไปแลวSee   you  again...........พื้บก�นใหม$

                     ค#าลาน-�  ม�กใชเป0นทางการและม�กตามดัวยค#าขั้ยาย เช$น                                  See   you   agian   tomorrow.                                    See   you  agian   next  time.                                  See   you  agian   next   week.                                  See   you  agian   next  month.                                   See   you  agian   next  year.                                   See   you  agian   on  Monday........................

การข้อัร"อัง (Requests)

 การข้อัร"อังม�วิ�ธิ�การด�งน�#       1. ประโยคต$อไปน-� Do  you  mind             +   V. ing             Would  you  mind        +   V. ing

ประโยคำ ต่อับร�บ ต่อับปฏิ�เสธิDo  you  mind

closing  the  window?Yes, I  do No, I  don't  

Would  you  mind opening  the

window?

Yes,  I  would.   No, I  wouldn't  

~ 18 ~

หร�อ O.K., All  right. หร�อ Of  course  not.

        2.  ใช  can

                     will

                     could        +   you ......?

                     Wouldประโยคำ ต่อับร�บ ต่อับปฏิ�เสธิ

Can  you   lend  me  fifty dollars?

Sure         Certainly         Yes,  of course.               All  right.         With pleasure.

 I'm  afraid

 I’m  sorry         + I  can't

No,  I  can't

Will  you  help  me  solve this  problem?

Could  you  give  me  200 baht.

 Would  do  you  me  a favour?

Would  you  please advise  me  about

something?Would  you  pass  the

sugar,  please?Please  open  the

window,  will  you?Put  a  little  sugar  in  my

coffee,  please.

การพื่!ดข้อัร"อังในที่�านอังอัน+ญาต่  ม�ด�งน�# 1. การใช

ประโยคำ การต่อับอัน+ญาต่ การต่อับไม�อัน+ญาต่ Do  you  mind if ......?

Yes,  I do.         Yes,  I would.

          No,  of course  not.         No, please  do.         No,  go ahead.

              Would  you mind  if ......?         Do  you  mind  if I  smoke?

~ 19 ~

         Would  you mind  if......?

               2.  ใช  May         Can    +  I ......?         Could

         ประโยคำ การต่อับร�บ การปฏิ�เสธิ May  I  use  your telephone?

Yes,  of course.

All  right.Certainly.

I' m  sorry.        I, m  afraid not.              Can  I  borrow

your  pen?         Could  I  turn  on the  radio?        

การถ้ามเก��ยวิก�บที่�ศึที่าง  ( Asking  the  Direction ).

ส#านวนการถามท%ศึทางท-&น%ยมใชม-ดั�งน-�        Excuse  me.  Can  you  tell  me  how  to  get

to ..... , please?                                Could  you  tell  me  the  way  to ..... , please?         Excuse  me.  Can / Could  you  give  me direction  to ..... , please?                                Can / Could   you tell  me  where ...  is?                                Can / Could  you  direct  me  to ..... , please? Excuse  me.  I'm  looking  for  ..... ?

ในกรณ-ท-&ผิ�ถามตองการถามเพื้�&อใหแน$ใจำว$าก#าล�งเดั%นไปตามท%ศึทางท-&ถ�กก8ใช       Is  this  the  way  to ..... ? ส$วนการบอกท%ศึทางน��น  ก8ม-

หลายว%ธ-  เช$น

ประโยคำ การแต่�งประโยคำ1. บอกระยะทาง

ว$า....อย�$ห$างแค$ไหนIt's  about  a  mile  from  here. It's  about 200  metres  from  here.

~ 20 ~

2. บอกเสนทางโดัยใชรถประจำ#าทาง

Take  a  number  21  bus.  That  will  take you  past ..... and  then  you  get  off  at ..... .ส#านวนท-&น$าสนใจำเก-&ยวก�บการใชรถประจำ#าทาง เช$น ขั้��นรถ                      =       take / catch / get on ลงรถ                       =       get  off

เบอร)รถ                   =       bus number ..... / a  number .....  bus ปDายรถเมล)                =       bus  stop

รถแล$นผิ$านอะไรบาง =       It  will  take  you past .....         ค$าโดัยสาร                 =       fare

3. บอกเสนทางโดัยใหเดั%นไป

- Go  straight  ahead  untill  you  come  to the  traffic  lights,  then  turn  right.- It's  about  a  ten - minute  walk.ส#านวนท-&น$าสนใจำเก-&ยวก�บการบอกท%ศึทาง เช$น บอกจำ�ดัเร%&มตน            =       When  you  go out  of ....     =  Start from ..... เล-�ยวซึ่ายเล-�ยวขั้วา       =       Turn  left / turn right  at  the  next  corner. ขั้ามถนน                   =       Cross  over Orange  Road.           เดั%นตรงไป                =       Go  straight.                                                   Go straight  ahead.                                                   Keep going  straight.                                                   Go  on.                                                   Walk  along the  road.            เดั%นผิ$าน                  =        Walk  past / Go past            ทางแยก                  =        Intersection /

~ 21 ~

Crossroads            ส�ดัถนน                  =        at  the  end  of the  road            ก$อนถ�ง                    =        just  before

4. บอกเสนทางโดัยใชรถแท8กซึ่-&

 เช$น    You  can  catch  a  taxi. It'll  take  you there  in  10  minutes. It's  a  ten - minute  ride.              

            การให"คำ�าแนะน�า (Giving Advice)

ในการขั้อค#าแนะน#า (Asking for Advice) สามารถพื้�ดัไดัว$า

ประโยคำคำ�าถ้าม คำวิามหมายWhat should I do?

ฉั�นควรท#าอะไร

What do you think I should do?

ค�ณค%ดัว$าฉั�นควรท#าอะไร

What do you recommend?

ค�ณจำะแนะน#าอะไร

What do you suggest?

ค�ณจำะแนะน#าอะไร

What would you do in this case?

ค�ณจำะท#าอะไรในกรณ-น-�ค�$สนทนาอาจำใหค#าแนะน#าโดัย พื้�ดัไดัดั�งน-�

You should… ค�ณควรจำะYou ought to… ค�ณน$าจำะYou’d better (had better)…

ค�ณควรจำะ

Why don’t you…? ท#าไมค�ณถ�งไม$I think you should/ shouldn’t…

ฉั�นค%ดัว$าค�ณควรจำะ/ไม$ควรจำะ

I recommend… ฉั�นแนะน#าI suggest… ฉั�นแนะน#า

~ 22 ~

If I were you, I would…

ถาฉั�นเป0นค�ณ ฉั�นจำะ

ต่�วิอัย�าง 1

ประโยคำ คำวิามหมายA: I have a stomachache. What do you think I should do?

ฉั�นปวดัทอง ค�ณค%ดัว$าฉั�นควรท#าอะไร

B: I think you should take a medicine and have a rest.

ฉั�นค%ดัว$าค�ณควรจำะทานยาและพื้�กผิ$อน

ต่�วิอัย�าง 2ประโยคำ คำวิามหมาย

A: My computer isn’t working. What do you recommend?

คอมพื้%วเตอร)ขั้องฉั�นใชงานไม$ไดั ค�ณจำะแนะน#าอะไรไดับาง

B: I recommend sending it to the service center.

ฉั�นแนะน#าใหส$งม�นไปซึ่$อมท-&ศึ�นย)บร%การ

ต่�วิอัย�าง 3 ประโยคำ คำวิามหมาย

A: I have much work today. What would you do in this case?

ว�นน-�ม-งานท#าเยอะมาก ถาเป0นค�ณ ค�ณจำะท#าอะไรในกรณ-อย$างน-�

B: If I were you, I would find someone for help.

ถาฉั�นเป0นค�ณ ฉั�นจำะหาใครซึ่�กคนเขั้ามาช$วยเหล�อ

ต่�วิอัย�าง 4 ประโยคำ คำวิามหมาย

A: I received the wrong order. What should I do?

ฉั�นไดัร�บส%นคาท-&ส$งมาผิ%ดั ฉั�นควรจำะท#าอะไร

B: Why don’t you call the seller?

ท#าไมค�ณไม$ท-&ศึ�พื้ท)หาผิ�ขั้าย

~ 23 ~

ต่�วิอัย�าง 5 ประโยคำ คำวิามหมาย

A: I’ve lost my job. What do you suggest?

ฉั�นตกงาน ค�ณจำะแนะน#าอะไรฉั�นไดับาง

B: I suggest searching for a new job on the internet.

ฉั�นแนะน#าใหคนหางานใหม$จำากอ%นเตอร)เน8ต

ต่�วิอัย�างที่�� 6ประโยคำ คำวิามหมาย

A: The fax machine is out of order. What should I do?

เคร�&องโทรสารใชการไม$ไดั ฉั�นควรจำะท#าอะไรไดับาง

B: You’d better send it to the maintenance department.

ค�ณควรจำะส$งม�นไปย�งแผินกซึ่$อมบ#าร�ง

ต่�วิอัย�างที่�� 7ประโยคำ คำวิามหมาย

A: I’m late to work today. What do you recommend?

ว�นน-�ฉั�นไปท#างานสาย ค�ณจำะแนะน#าอะไรไดั

B: You ought to call the manager to let him know about the problem.

ค�ณน$าจำะโทรไปแจำงผิ�จำ�ดัการใหทราบเก-&ยวก�บป@ญหาน-�

คำ�าศึ�พื่ที่7 (Vocabulary)

การใช" dictionary

~ 24 ~

1. Headword is the first word of an entry in a dictionary. It is listed alphabetically.

Headword ค�อ ค#าท-&เราตองการคนหา หร�อค#าแรกท-&ขั้��นตนในหนาท-&เราก#าล�งคนหาน��นเอง2. Part of speech deseribes the function of the word, for example; noun, verb, adjective of adverb.

Part of speech ค�อ ส$วนประกอบขั้องค#าในภาษาอ�งกฤษ เช$น ค#านาม ค#าสรรพื้นาม กร%ยา กร%ยาว%เศึษ ถาเราเปFดัดั�ค#าศึ�พื้ท)เราก8จำะร� ว$าค#าน��น เป0นค#าอะไร แลวส$วนประกอบขั้องค#าเป0นอย$างไร3. Pronunciation describes the way in which a word is pronounced.

Pronunciation ก8ค�อการออกเส-ยง เวลาเราดั� Dictionary เราสามารถดั�ไดัว$าค#าน-�สามารถออกเส-ยงไดัอย$างไร4. Meaning informs a word or words mean including American and British English.

Meaning informs ค�อ ความหมายขั้องค#าศึ�พื้ท) ว$าความหมายค�ออะไร ม-ก-&ความหมาย ค#าศึ�พื้ท)บางต�ว ม-หลายความหมายนะคะ น�กศึ�กษาควรจำ#าไว5. Sample sentence shows how to use a word in a sentence.

Sample sentence ค�อ ต�วอย$างประโยคท-&แสดังใหดั�6. Idiom describes an expression whose meaning is different from the meaning of the individual words.

Idiom describes ค�อส#านวนท-&แสดังใหดั�ว$าค#าศึ�พื้ท)น��นสามารถน#ามาสรางเป0น ส#านวนไดัหร�อไม$7.Phrasal verb describes a verb that is formed from two or more words: a verb and a preposition such as go on, sit up, take off.

~ 25 ~

Phrasal verb ค�อ วล- ท-&สามารถน#ามาสรางเป0นค#าไดั เช$น sit up, take

off.

เที่คำน�คำการที่�าข้"อัสอับภาษาอั�งกฤษเพื่��อัการศึ�กษาต่�อั (English for Academic Purposes)

ขั้อสอบจำะแบ$งออกเป0น 2 ล�กษณะ ค�อ1.การอั�าน (Reading Comprehension)

การอ$านบทความ (Passage) ค�อ ขั้อสอบท-&ก#าหนดัใหน�กเร-ยนอ$านเร�&องต$างๆเพื้�&อความเขั้าใจำ

ย�ทธว%ธ-ในการพื้%ช%ตขั้อสอบเก-&ยวก�บการอ$าน (Reading

Comprehension Strategies)

1.อ$านเร�&องท��งหมดัอย$างคร$าวๆ2.อ$านค#าถามเพื้�&อจำะไดัทราบว$า โจำทย)ตองการค#าตอบเก-&ยวก�บอะไร

เช$น ตองการค#าตอบ เก-&ยวก�บ ช�&อ ว�นท-& จำ#านวน เหต�ผิล และอ�&นๆ3.กล�บไปดั�เร�&องเพื้�&อตอบค#าถาม4.ถาโจำทย)ม-ต�วเลขั้ก#าก�บบรรท�ดั เม�&อยอนกล�บไปอ$านเร�&อง ขั้อใหใช

ต�วเลขั้ใหเป0นประโยชน)5.ใหท#าโจำทย)ท-&ถามเก-&ยวก�บขั้อเท8จำจำร%งก$อน6.ถาอ$านค#าถามไม$เขั้าใจำ ใหดั�ต�วเล�อกก$อน แลวกล�บไปอ$านค#าถาม

อ-กคร��งหน�&งขั้อส�งเกต

1.ค#าถามท-&ม�กจำะพื้บในขั้อสอบไดัแก$1.1 ค#าถามท-&ถามเก-&ยวก�บใจำความส#าค�ญ (Main idea) เช$น

~ 26 ~

People who have never gone to sea for the first time as sailors cannot imagine how puzzling and confusing it is It must be like going into a foreign country where they speak a strange dialect, and dress in strange clothes, and live in strange houses. Sailors have their own names, even for things that are familiar ashore. If you call a thing by its shore name, you are taught at as an ignoramus.

1.People dress in strange clothes at sea.2.Seaman have special words for everything.3.The author likes going to a foreign country.4.People who go to sea will not be puzzled and

comfused.

เฉัลยขั้อ 2 เน��อเร�&องกล$าวถ�งกลาส-เร�อท-&เดั%นทางไปย�งสถานท-&ต$าง ๆ พื้วกน-�ม�กจำะม-ค#าศึ�พื้ท)ท-&เร-ยก

ก�นเฉัพื้าะในกล�$ม 1.2 ค#าถามท-&เก-&ยวก�บช�&อเร�&อง (title) เช$น When the first duck-billed platypus was discovered , nobody could believe that it was real. The platypus has a bill like a bird's, and it lays eggs. On its legs it has sharp spurs which contain poison. It uses this poison to kill small animals just as snakes do. Lide the duck, the platypus has webbed feet. These make it a fine swimmer. In fact, it can swim as well as a fish. It has hair on its body, and the babies feed on their mother's

~ 27 ~

milk. Worms and bugs are its favourite foods. It is no wonder that people say that the platypus seems to be a little bit of everything.

A good title for this paragraph is _____________1.Poisonous Animals2.Catching the Platypus3.Searching for Strange Animal4.The World's Strange Animal

เฉัลย ขั้อ 4 เพื้ราะเน��อเร�&องท��งหมดักล$าวถ�งล�กษณะขั้องส�ตว)ชน%ดัหน�&ง

1.3 ค#าถามท-&ถามความเขั้าใจำท-&กล$าวเป0นน�ย (Implication) เช$น Small children will play gangster games with shooting or sword play, very often inspired by a visit to the cinema, yet long before the film era children played gang games-tag, touch, etc. Stories and films will give a direction to some kinds of play, but the fundamentals are in the heart of all children of all races.

The author implies that child play is fundamentally _____________

1.organized 2.competitive3.dangerous 4.imaginative and

spontaneous

เฉัลยขั้อ 4 เน��อเร�&องกล$าวถ�งการเล$นขั้องเดั8กๆ ซึ่�&งจำะเก%ดัขั้��นจำากจำ%นตนาการขั้องเดั8กๆ เอง

~ 28 ~

เทคน%คการพื้�ฒนาการอ$าน (Improve your reading

comprehension skills)

การท#าขั้อสอบการอ$านใหไดัผิลดั- น�กเร-ยนตองฝGกท�กษะในการอ$านอย�$เสมอ โดัยอ$านบทความ

ท-&ม-ล�กษณะแนวเร�&องต$างๆ ก�น และในขั้ณะท-&อ$านก8ฝGกหารายละเอ-ยดัขั้องเร�&องในประเดั8นต$างๆ ดัวย

จำะท#าใหเก%ดัความช#านาญ อ$านไดัเร8วขั้��นและถ�กตองมากขั้��น ผิ�เขั้-ยนขั้อเสนอแนะเทคน%คการอ$านบางประเดั8นใหน�กเร-ยนไดัลองปฏิ%บ�ต% และไดัน#าไปใชในการอ$านต$อไป

1.การอ$านเพื้�&อทราบ Topic Noun Topic หมายถ�ง ห�วขั้อส#าหร�บการสนทนา, พื้�ดัค�ย, อ$านหร�อเขั้-ยน ใหน�กเร-ยนส�งเกตบทความต$อไปน-�Not every kind of plants can

grow everywhere. The growth of each plant requires different quality of soil, climate, amount of sunlight or rain. Those grow in Chiangrai will not grow in Narathiwart and vice versa.

ในบทความน-� 'plant' และค#าเท-ยบแทน Those ซึ่�&งเนนอย�$ในแต$ละประโยค ค�อ ค#าท-&ส#าค�ญในเร�&อง และเราสามารถทราบแนวค%ดัท-&ส#าค�ญขั้องเร�&องโดัยพื้%จำารณาค#า

กร%ยาท-&ส�มพื้�นธ)ก�บนามน��นTopic noun = plant, Action word = growTopic idea = plant growth

Education is one of the basic needs of life. We need education to earn our livings.

~ 29 ~

We need it to live happily in the society under the same laws. Without education it is difficult

to understand other people.Topic noun = educationAction word = needTopic idea = The necessity of education

2.การอ$านเพื้�&อทราบ Main idea ถาน�กเร-ยนสามารถอ$านเร�&องแต$ละย$อหนาและทราบแนวค%ดัหล�ก

ขั้องแต$ละย$อหนาน��นไดั จำะช$วยใหน�กเร-ยนตอบค#าถามไดัง$ายและเร8วขั้��น ไม$ส�บสนในการอ$านหล�ก

การเขั้-ยน แนวค%ดัหล�กม-ดั�งต$อไปน-�

ใบงานที่�� 1

~ 30 ~

ใหน�กศึ�กษาแปลความหมายขั้องประโยคต$อไปน-�ลงในช$องว$าง1.Main idea in the first sentence + example (or

details)Women have been skilled in the use of

beauty aids. Cleopatra painted her eyebrows and lashed black just as women do today. She painted her upper lids blue-black and the lower ones green. Cleopatra was also familiar with cold cream, the oldest cosmetic known to history.…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2.Examples (or details) + main idea at the end of a paragraph

Most of the windows are broken, and the ones that were not broken were very dirty. Cracks in the walls were both wide and deep; the outside concrete of the building kept breaking away. The plumbing had long been ruined by vandals. And electric wiring had been pulled out. The building simply was not fit to live in.………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

~ 31 ~

…………………………………………………………………………………………………………………………………

3.Main idea + examples + main idea (restated)Fantasy and science fiction are fun to read. The

writer so often do just the opposite of what the reader expects. They can make elevators giggle, coffeepots talk, basketballs have a mind of their own, and people get coated with plastic. They do these things purposely, to make their stories entertaining.…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………..……

4.Detail + main idea + detailsDark green leafy vegetables such as kale and spinach

are good sources of vitamin C. Carrots, squash and sweet potatoes are good sources of carotene, which the body changes to vitamin A. Dark green leafy vegetables also supply us with iron. All vegetables are good for us because they supply us with important vitamins and minerals that build cells and keep us healthy. Vitamin C, for example, helps to build strong teeth and helps us to resist infection. Vitamin A helps us to keep skin healthy and protects our eyes. Iron, also an important part of vegetables, build red blood cells.

~ 32 ~

Without enough iron, we would suffer from an illness called anemia.……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

5.Main idea is not stated in any one sentenceThe America author Jack London was once a pupil at

the Cole Grammar School in Oakland, California. Each morning the class sang a song. When the teacher noticed that Jack wouldn't sing, she sent him to the principal. He returned to class with a note. It said that he could be excused from singing, but he would have to write an easy every morning. (The main idea is "Jack London's writing skill may be traced to his punishment in grammar school.")……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

~ 33 ~

ใบงานที่�� 2

ยก ต่�วิอัย�าง The room was entirely carpeted with a thick, soft rug.

Drapes, spun of gold thread, bedecked the large picture windows. Sterling silver candlesticks flanked a gold clock on the mantelpiece. Crimson velvet covered the large sofa. A stairway grand piano stood in the center of the room.

What is the topic ? The roomWhat does this paragraph tell us about the

room ? It's a luxurious room

สร�ปแลว main idea ก8ค�อ The room was beautifully

decorated.

ให"ต่อับคำ�าถ้ามและเล�อักคำ�าต่อับต่�อัไปน�# Directions : Read each paragraph carefully and choose the best answer for each question.Fractures are the most common types of injury to bone. The break usually occurs because of some fall or other injury. A simple fracture is one in which the overlying skin is not torn. A compound fracture occurs when the skin is torn and the broken ends of the bones are exposed to the air. This is far more serious, for there is real danger of infection and healing may be long delayed.

1.A good title for this paragraph would be :1.Common types of injury 2.Bone

fractures3.Serious injuries 4.Compound

fractures

~ 34 ~

Studying birds is one of the most interesting of all hobbies. Some people go on bird

watching just to enjoy the beauty and songs of birds. Other people list the birds they see and take notes on their habits. Some bird watchers carry cameras and take pictures of the birds.

2.The title that best express the main theme of this paragraph is :

1.The beauty and songs of birds2.One of the most interesting hobbies3.Bird-studying as a hobby4.Going on bird walks

Aside from its function of protecting the wearer from the elements, clothing has at least three other important uses: those of maintaining modesty, furnishing adornment, and fixing status. The functions are frequently combined, and a costume may represent all four functions.

3. A good title of this paragraph would be :1.The elements and clothing 2.Clothing and the wearer3.The representation of costume 4.The functions of clothing

Do you have trouble remembering new words in English? Many people have this

~ 35 ~

problem. This method may help you to remember new words. (1) Look at the new word. Look at the letters and the shape of the word. Close your eyes. Can you see the word? (2) Listen to the word. Listen to the sounds in the word. Look at the word as you listen. (3) Say the word aloud. Close your book. Do not look at the word. Can you say it? (4) Write the word. Write it three or four times. Say the word as you write, it. (5) Use the new word. Use it in class today, and use it at home tonight. Use it tomorrow and next week. Look for the new word in the newspaper and listen for it on the radio or on television. To remember a new word, you must use it.

4.The topic is :1.A method for remembering new words2.New words in English3.Looking at new words4.The uses of new words in English

Researchers have discovered that eye movements are linked to dreaming During a

dream the dreamer's eyes usually move rapidly back and forth behind the closed eyelids. It is as if the dreamer were a spectator watching what goes on in his dream. Sometimes the eye movements are up and down; the dreamers then report dreams about people or objects moving up or down. When little or no eye movement is

~ 36 ~

registered, the dreamers report they have been simply watching something stationary (not moving) or talking in their dreams. In general, rapid eye movements indicate (show) that the dreamer is taking an active part in his dreams. 5.The topic is :

1.The dream2.Body movements and dreams3.An active dreamer4.The association between dreaming and eye

movementsThere are many ways to improve your vocabulary

in English. One way is to read fiction (novels and stories) in English. Novels and stories often contain new words. It is notdifficult to understand these new words because you can usually guess their meanings. The other words in the sentenced will help you, and the story will also help you. An interesting story will help you understand the new words because the meanings of the new words are part of the meaning of the story.

6.What is the topic of the paragraph?1.New words2.Ways to improve your vocabulary3.Novels and stories4.One way to improve your vocabulary

~ 37 ~

From the earliest times men have traveled on water. They made their settlements (homes)

near water, and they used it for their animals and plants. Later on, the rivers and then the seas became man's highways. Wars have been waged and treaties signed, and civilization have live and died all because of water. 7.The topic is :

1.Rivers and seas as highways2.The importance of water to man3.Early man's care of animals and plants4.Civilizations of the past

______________________________________________

ใบงานที่�� 3 2.Cloze

ค#าอธ%บายCloze การอ$าน ค�อ ขั้อสอบท-&ก#าหนดัใหน�กเร-ยนเล�อกค#าหร�อกล�$ม

ค#าเต%มลงในเร�&องท-&ก#าหนดั

~ 38 ~

ซึ่�&งค#าหร�อกล�$มค#าดั�งกล$าวอาจำเนนท-&ความหมายหร�อร�ปไวยากรณ)ขั้องค#าก8ไดัในแบบฝGกห�ดัตอนน-� ห�วขั้อจำะซึ่#�าก�บห�วขั้อในตอนการอ$าน (Reading

Comprehension)

เพื้ราะฉัะน��นในแต$ละห�วขั้อจำะไม$ม-ค#าอธ%บายอะไรเพื้%&มเต%มขั้อสอบ Cloze ท-&น�กเร-ยนจำะสามารถท#าไดัไม$ยากน�ก ไดัแก$ Cloze

Letter และ Cloze Form

ขั้อสอบ Cloze ท-&ยากท-&ส�ดั และน�กเร-ยนควรท#าทายส�ดั ไดัแก$ Cloze

Passage

ย�ทธว%ธ-ในการพื้%ช%ตขั้อสอบแบบ Cloze (Cloze Strategies)

1.อ$านเร�&องท��งหมดัอย$างคร$าวๆ2.ท#าขั้อสอบท-ละย$อหนา3.ท#าขั้อสอบท-ละประโยค ในแต$ละประโยค น�กเร-ยนตองหา Finite

Verb (กร%ยาท-&แจำกแจำงเขั้าก�บประธาน) และประธาน (Subject) ใหไดั เพื้ราะเป0นต�วหล�ก (Key Word)

ในประโยค4.พื้%จำารณาว$าในแต$ละประโยคน��น ค#าชน%ดัใดั (Word Function) ขั้าดั

หายไป หร�อช$องว$างน��นน$าจำะใชค#าใดัเต%มลงไปเพื้�&อท#าใหประโยคน��นม-ความหมายสมบ�รณ) หากเป0นค#ากร%ยาควรพื้%จำารณาร�ปท-&เหมาะสมดัวย

~ 39 ~

Direction : Read the following passages and choose the best answer for each blank.

A. Have you ever heard anyone say, "The absent are always ___1___"? There is muchTruth to this saying. People who are present can defend themselves. They can makeEvery effort to show they are ___2___. People who are absent, however, can't ___3___Themselves. Even if the absent are right, they are often made to seem wrong.1. 1.good 2.right 3.wrong

4.unimportant2. 1.great 2.right 3.wrong

4.helpful3. 1.see 2.say 3.help

4.defend

B. Who has kind words to say about dust? Housewives spend countless hours ___4___Dust from chairs and tables - only to repeat the spread ___5___ when germs collect on them. Miners regard dust as a definite ___6___ to their health! Yet it is strange to think that dust in some ways is also ___7___ to man. Dust particles help form ___8___and snow. Condensing water vapor settles on dust and forms the water droplets so ___9___ for plant life on earth.

~ 40 ~

4. 1.painting 2.clearing 3.collecting4.increasing

5. 1.jobs 2.words 3.rooms4.diseases

6. 1.praise 2.menace3.compliment 4.opportunity

7. 1.useless 2.helpful 3.healthful4.unnecessary

8. 1.rain 2.storm 3.flood4.disaster

9. 1.strange 2.little 3.possible4.necessary

_____________________________________________

ใบงานที่�� 4

1. ใหน�กศึ�กษา คนควาหาขั้อม�ลท-&เป0นขั้$าว หร�อขั้อความท-&เป0นประโยค 1 บทความ ในหน�งส�อพื้%มพื้)ภาษาอ�งกฤษ แลวต�ดัแปะลงในกระดัาษ A4 แลวแปลเป0นภาษาไทยใหไดัใจำความส#าค�ญท-&ส�ดั อย$างนอย 1 ขั้$าว (News)/หร�อ 1 บทความขั้$าว

ความหมาย

.........................

.........................

.........................

ช�&อ..........รห�สน�กศึ�กษา.........

~ 41 ~