การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก...

27
LOGO กกกกกกกกกกกกกกก กกกกกก กกกกกกกกกกกกก

Upload: kek-yourjustone

Post on 09-Dec-2014

1.980 views

Category:

Documents


1 download

DESCRIPTION

ภาษาซี

TRANSCRIPT

Page 1: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

LOGO

การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ�ม แบบม�ทางเลื�อก

การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ�ม แบบม�ทางเลื�อก

Page 2: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

คำาสั่� งจั�ดเก�บขี�อม�ลืลืงหน�วยคำวามจัา

คำาสั่� งจั�ดเก�บขี�อม�ลืลืงหน�วยคำวามจัา การเขี�ยนคำาสั่� งกาหนดลั�กษณะการจั�ดการ

ขี�อมู�ลั ให�หน�วยคำวามูจัาซึ่� งมู�ด�วยก�น 2 ประเภท คำ�อ ประเภทตั�วแปร แลัะคำ�าคำงท� สั่าหร�บบทน�&มู�ราย

ลัะเอ�ยดท� สั่าคำ�ญท� ตั�องทราบ เพื่� อนาไปเขี�ยนคำาสั่� งกาหนดคำ*ณสั่มูบ�ตั+หน�วยคำวามูจัาได�ถู�กตั�อง มู�

ประสั่+ทธิ์+.ภาพื่มูากขี�&น น� นคำ�อกฎเกณฑ์1การกาหนดชื่� อ หน�วยคำวามูจัา ชื่น+ดขี�อมู�ลัพื่�&นฐานท�&งหมูดในภาษาซึ่�

การเขี�ยนคำาสั่� งกาหนดคำ�าคำงท� อ�กร�ปแบบหน� ง

Page 3: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

กฎเกณ์%การกาหนดชื่� อ

กฎเกณ์%การกาหนดชื่� อ ชื่� อ (ldentifier) หมูายถู�ง ชื่� อหน�วยคำวามูจัาประเภทตั�วแปร ชื่� อหน�วยคำวามู

จัาประเภทตั�วแปรคำ�าคำงท� หร�อ ชื่� อในสั่�วนใดๆ ขีองโปรแกรมูท� ผู้��สั่ร�าง โปรแกรมูเป7นผู้��กาหนดด�วยตันเอง มู�กฎเกณ1ด�งน�&

1. อ�กขีระแรกตั�องเป7นอ�กษร หร�อเคำร� องหมูายขี�ดลั�าง ( _ ) ตั�วถู�ดไปเป7น อ�กษร หร�อตั�วเลัขี หร�อ เคำร� องหมูายขี�ดลั�าง ( _ ) ก8ได�

2. ภาษาซึ่�มู�คำวามูแตักตั�างขีองชื่� อท� กาหนดคำ�อ ชื่� อท�ใชื่�อ�กษรตั�วพื่+มูพื่1ใหย9 หร�อตั�วพื่+มูเลั8ก จัะจัดเก8บขี�อมู�ลัในหน�วยคำวามูจัาตัาแหน�งตั�างก�น

3. ห�ามูใชื่�อ�กขีระพื่+เศษ เชื่�น $ @ แลัะห�ามูมู�ชื่�องว�างระหว�างอ�กขีระโดยเด8ดขีาด

4.คำวรตั�&งชื่� อให�สั่� อคำวามูหมูายสั่อดคำลั�องก�บงาน 5. ตั�องไมู�ซึ่&าก�บคำาสั่งวนขีองภาษาซึ่� (Reserved Word)

Page 4: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ชื่น'ดขี�อม�ลืชื่น'ดขี�อม�ลื ภาษาซึ่�มู�ชื่น+ดขี�อมู�ลัพื่�&นฐานให�เลั�อกใชื่�งาน 3 กลั*�มูหลั*กคำ�อ อ�กขีระ ตั�วเลัขีจัานวนเตั8มู วเลัขีทศน+ยมูผู้��สั่ร�างงาน

โปรแกรมูคำวร เลั�อกใชื่�ชื่น+ดขี�อมู�ลั ท� มู�ขีอบเขีตัเหมูาะสั่มูก�บขี�อมู�ลัจัร+งใน

ระบบงาน เพื่� อใชื่�หน�วยคำวามูจัาได�อย�างมู�ประสั่+ทธิ์+ภาพื่ เพื่ราะขี�อมู�ลัท� มู�

ขีอบเขีตัมูากตั�องใชื่�เน�&อท� คำวามูจัากเชื่�นก�น

Page 5: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ชื่น+ดขี�อมู�ลั ขีอบเขีตัขีองขี�อมู�ลั

การเก8บขี�อมู�ลั

Char - 128 ถู�ง127

เก8บแบบอ�กขีระ

Unsigned char

0 ถู�ง 255 เก8บแบบอ�กขีระ ไมู�คำ+ดเคำร� องหมูาย

Int -32768 ถู�ง32767

เก8บแบบจัานวนเตั8มู

Unsigned int

0 ถู�ง65535

เก8บแบบจัานวนเตั8มู ไมู�คำ+ดเคำร� องหมูาย

Short -128 ถู�ง127

เก8บแบบจัานวนเตั8มูแบบสั่� น

Unsigned short

0 ถู�ง255 เก8บแบบจัานวนเตั8มู แบบสั่� น ไมู�คำ+ด

เคำร� องหมูายLong -

2147483648 ถู�ง

2147483649

เก8บแบบจัานวนเตั8มูแบบยาว

Unsigned long

0 ถู�ง42949

67296

เก8บแบบจัานวนเตั8มู แบบยาว ไมู�คำ+ด

เคำร� องหมูายFloat 3.4 x

10-38 ถู�ง

34 x 1038

เก8บตั�วเลัขีแบบทศน+ยมู ตั�วเลัขีหลั�งจั*ด 6 หลั�ก

Double 34. x 10-308

ถู�ง34. x 10

308

เก8บตั�วเลัขีแบบทศน+ยมู ตั�วเลัขีหลั�งจั*ด 12

หลั�กLong double

3.4 x 10-4032 ถู�ง34. x 104032

เก8บตั�วเลัขีแบบทศน+ยมูตั�วเลัขีหลั�งจั*ด 24 หลั�ก

อธิ'บาย หากตั�องการใชื่�ขี�อมู�ลัแบบขี�อคำวามู ตั�องใชื่�ขี�อมู�ลัประเภทตั�วแปรชื่*ด เชื่�นchar a[20] ;

Page 6: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

คำาสั่� งกาหนดขี�อม�ลืแบคำ�าคำงท�

คำาสั่� งกาหนดขี�อมู�ลัแบคำ�าคำงท� คำาสั่� งกาหนดลั�กษณะขี�อมู�ลัให�เป7นคำ�าคำงท� มู� 3 ลั�กษณะ คำ�อ1.3.1 แบบท� 1 ไมู�ตั�องกาหนดชื่� อหน�วยคำวามูจัารองร�บขี�อมู�ลัตั�วอย�างคำาสั่� ง พื่+มูพื่1คำ�าคำงท� โดยไมู�ผู้�านการใชื่�หน�วยคำวามูจัาprintf ( “ 2 x 2 = %d \ n “ , 4) ;printf ( “ c => %c%c \ n “ , ‘c’) ; อธิ์+บาย เลัขี 4 ก�บ ‘c’ คำ�อขี�อมู�ลัแบบคำ�าคำงท� ไมู�ตั�องจั�ดเก8บใน

หน�วยคำวามูจัา

Page 7: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

แบบท� 2 เขี�ยนบร+เวณสั่�วนห�ว ในโคำรงสั่ร�างภาษาซึ่�

ร�ปแบบ #define macro_name data ; อธิ'บาย macro_name คำ�อชื่� อขีองแมูโคำร ตั�องใชื่�

อ�กษรตั�วพื่+มูพื่1ใหญ� data คำ�อขี�อมู�ลัท� กาหนดเป7นคำ�าคำงท� ตั�วอย�างคำาสั่� ง กาหนดคำ�าคำงท� ชื่� อ MAX เพื่� อเก8บ

คำ�า 10 #define MAX 10 ;

Page 8: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

แบบท� 3 เขี�ยนบร+เวณสั่�วนฟั>งก1ชื่� นหลั�ก main () ร�ปแบบ const variable = data ; อธิ์+บาย variable คำ�อชื่� อขีองตั�วแปร Data คำ�อขี�อมู�ลัท� กาหนดเป7นคำ�าคำงท� ตั�วอย�างคำาสั่� ง กาหนดคำ�าคำงท� พื่ร�อมูให�จั�ดเก8บขี�อมู�ลั Const pi 3.14 ; Const ans = ‘n’ ; Const words = “ computer “ ;

Page 9: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

การเขี�ยนน'พจัน%เชื่'งตัรรกะ การเขี�ยนน+พื่จัน1คำณ+ตัศาสั่ตัร1 ตั�องใชื่�ตั�วดาเน+นดาร

คำณ+ตัศาสั่ตัร1 เขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูการประมูาณผู้ลัขี�อมู�ลั สั่าหร�บการเขี�ยนประโยคำคำาสั่� งคำวบคำ*มูแบบมู�ทางเลั�อก

ตั�องกาหนดเง� อนไขีการทางาน ให�ระบบว+เคำราะห1ขี�อมู�ลั เพื่� อตั�ดสั่+นใจัเลั+อกทางประมูวลัผู้ลัได�อ�ตัโนมู�ตั+ ทางใดทาง

หน� งน�&น จั�งตั�องเขี�ยนน+พื่จัน1เชื่+งตัรรกะ โดยใชื่�ตั�วดาเน+น การคำวามูสั่�มูพื่�นธิ์1 แลัะตั�วดาเน+นงานทางตัรรกะ

การเขี�ยนน'พจัน%เชื่'งตัรรกะ

Page 10: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วดาเน'นการทางคำณ์'ตัศาสั่ตัร% ภาษาซึ่�มู�สั่�ญลั�กษณ1 ด�งน�& เคำร� องหมาย คำวามหมาย ตั�วอย�าง + บวก 3+2 การบวกเลัขี 3 บวกก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 5 - ลับ 3 - 2 การลับเลัขี 3 ลับก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 1 * คำ�ณ 2*3 การคำ�ณเลัขี 3 บวกก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 6 / หาร 15/2 การหาร 15 หารก�บ 2 ได�ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 7 % หารเอาเศษ 15%2 การหารเอาเศษ 15 หารก�บ 2 ได�

ผู้ลัลั�พื่ธิ์1คำ�อ 1

Page 11: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วดาเน'นการคำวามสั่�มพ�นธิ%

ใชื่�เขี�ยนประโยคำคำาสั่� งแบบมู�เง� อนไขี 1 ประโยคำ ใชื่�สั่�ญลั�กษณ1ตั�ว ดาเน+นการ ด�งน�&

ตั�วดาเน'นการคำวามสั่�มพ�นธิ%หร�อการเปร�ยบเท�ยบ สั่�ญลื�กษณ์% การดาเน'นการ ตั�วอย�าง < น�อยกว�า 2<3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(1) > มูากกว�า 2>3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false)(0) <= น�อยกว�าหร�อเท�าก�บ 2<= 3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(true) >= มูากกว�าหร�อเท�าก�บ 2>= 3 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false) == เท�าก�บ 4==4 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(true) != ไมู�เท�าก�บ 2!= 2 ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false)

Page 12: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วดาเน'นการเชื่'งตัรรกะ เป7นสั่�ญลั�กษณ1ใชื่�เชื่� อมูประโยคำคำาสั่� งแบบมู�เง� อนไขี 2 ประโยคำขี�&นไป

การสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งท� ได� ให�ศ�กษาจัากตัารางคำวามูจัร+ง ใชื่�สั่�ญลั�กษณ1ตั�วดาเน+น การ ด�งน�&

ตัรรกะ คำ�อการคำ+ดเชื่+งเหตั*ผู้ลัท� มู�คำ�าคำวามูจัร+งคำ�าใดคำ�าหน� งคำ�อ จัร+ง (true : 1) หร�อเท8จั (false : 0 ) 

ตั�วดาเน'นการตัรรกะ (logical operators) สั่�ญลั�กษณ1 การดาเน+นการ ตั�วอย�าง && แลัะ(AND) (2<3)&&(3>1) ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง || หร�อ(OR) (2>3)||(4<1) ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 เท8จั(false) ! ไมู�(NOT) !(2> 3) ผู้ลัลั�พื่ธิ์1 จัร+ง(true) อธิ์+บาย การสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งขีอง 2 ประโยคำเง� อนไขีน�& ให�ศ�กษาว+ธิ์�สั่ร*ปคำ�าคำวามู

จัร+งจัากตัารางตั�ายลั�าง โดยท� x คำ�อประโยคำเง� อนไขีท� 1 แลัะ Y คำ�อประโยคำเง� อนไขีท� 2

Page 13: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วอย�างคำาสั่� ง การเขี�ยนน'พจัน%ทาง ตัรรกะ

ตั�วอย�างคำาสั่� ง การเขี�ยนน+พื่จัน1ทางตัรรกะ ( a > 0 ) && (a < 10)หาก a มู�คำ�า 10 ได�คำ�าคำวามูจัร+งอย�างไรอธิ'บาย ขี�&นตัอนคำวามูคำ+ดว+เคำราะห1ประโยคำท� 1 ( a > 0 ) มู�คำ�า T ว+เคำราะห1ประโยคำท� 2 (a < 10) มู�คำ�า F สั่ร*ปประโยคำ 1 ก�บประโยคำ 2 คำ�อ T && Fจัากตัารางคำ�าคำวามูจัร+ง T && F ได� F

Page 14: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

คำาสั่� งคำวบคำ�มแบบม�ทางเลื�อก ลื�กษณ์ะif

คำาสั่� งคำวบคำ�มแบบม�ทางเลื�อก ลื�กษณ์ะ ifการเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูการทางานลั�กษณะให�ระบบตั�ดสั่+นใจั

เลั�อกการทางานคำาสั่� ง หร�อกลั*�มูคำาสั่� งใดได�อย�างอ�ตัโนมู�ตั+ น� น ภาษาซึ่�มู�คำาสั่� งใชื่�ในงานด�านน�&คำ�อ คำาสั่� ง if แลัะมู�แนวทาง

การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูงาน 3 ลั�กษณะคำ�อ ทางเลั�อกแบบ if ทางเลั�อกแบบ if-else แลัะทางเลั�อกแบบ if-else if-else

Page 15: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

กรณ์�ใชื่�ประโยคำคำาสั่� งแบบ if

ประสั่'ทธิ'ภาพขีองคำาสั่� ง : คำวบคำ*มูการทางานแบบมู�ทางเลั�อก ลั�กษณะ หากประโยคำเง� อนไขีตัรรกะได�ขี�อสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+ง ให�

ไปทางานตัามูคำาสั่� ง (กลั*�มูคำาสั่� ง) ตั�อจัากเง� อนไขี แลั�วไป ตัาแหน�งบรรท�ดคำาสั่� งชื่*ดตั�อไป แตั�หากเง� อนไขีเป7นเท8จัไมู�ตั�อง

ทาคำาสั่� งใดให�ไปทางานท� ตัาแหน�งคำาสั่� งชื่*ดตั�อไป

Page 16: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ร�ปแบบ 1 กรณ�หลั�งเง� อนไขี if มู� 1 คำาสั่� งIf (เง� อนไขี)

คำาสั่� ง ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นจัร+ง)คำาสั่� งชื่*ดตั�อไป ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นเท8จั)

 ร�ปแบบ 2 กรณ�หลั�งเง� อนไขี if มู�มูากกว�า 1 คำาสั่� ง

If (เง� อนไขี){

กลั*�มูคำาสั่� ง ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นจัร+ง)} ; คำาสั่� งชื่*ดตั�อไป ; (กรณ�เง� อนไขีเป7นเท8จั)

ร�ปแบบการเขี�ยนคำาสั่� งแลืะแนวทาง ผั�งงานแบบ if

Page 17: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

แนวทางการใชื่�คำาสั่� ง if แบบ 2 ทางเลื�อก ทางเลื�อกลืะ 1 คำาสั่� ง

ว�ตัถุ�ประสั่งคำ% จังเขี�ยนงานเพื่� อป?อนตั�วเลัขี 2 จัานวน แลั�วตัรวจัสั่อบเง� อนไขี ด�งน�& หากตั�วคำ�ณไมู�ใชื่� 0 ให�นาตั�วเลัขี 2 จัานวนคำ�ณก�น นอกเหน�อจัากนน�&ไมู�ตั�องประมูวลัผู้ลัสั่มูการใด ให�ไปตัาแหน�งคำาสั่� งถู�ดไป 3.1.3 แนวทางการใชื่�คำาสั่� ง if แบบ 2 ทางเลั�อกลัะมูากกว�า 1 คำาสั่� ง ว�ตัถุ�ประสั่งคำ% จังเขี�ยนงานเพื่� อป?อนตั�วเลัขี 2 จัานวน แลั�วเลั�อกทางประมูวลัผู้ลัตัามู

เง� อนไขีด�งน�& * หากเง� อนไขีเป7นจัร+ง คำ�อ Y> 0 ให�ระบบทางานกลั*�มูคำาสั่� ง z = x /y ; printf ( “ \ n * Result = % .2f “ ,z ) ; แลัะ printf (“\n Good bye….. \n”) ; หากเง� อนไขีเป7นเท8จั คำ�อ y <= 0 ไมู�ตั�องประมูวลัผู้ลัสั่มูการใด ให�ระบบทางานคำาสั่� ง printf (“\n Good bye….. \n”) ;

 

17

Page 18: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ประสั่+ทธิ์+ภาพื่ขีองคำาสั่� ง : ใชื่�กรณ�คำวบคำ*มูการทางานในลั�กษณะ หากประโยคำเง� อนไขีตัรรกะได�ขี�อสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งเป7นจัร+ง ให�ทางานตัามูคำาสั่� ง (กลั*�มูคำาสั่� ง) ชื่*ดท� 1 แลั�วไปท� คำาสั่� งชื่*ดตั�อไป แตั�หากเง� อนไขีตัรรกะเป7นเท8จั ให�ทางานตัามูคำาสั่� ง (กลั*�มูคำาสั่� ง) ชื่*ดท� 2 แลั�วไปทางานท� ตัาแหน�งคำาสั่� งชื่*ดตั�อไป

กรณ์�ใชื่�ประโยคำคำาสั่� งแบบ if – else

Page 19: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ร�ปแบบขีองคำาสั่� งif..else if..else

เราสั่ามารถุใชื่�คำาสั่� ง if ท� ม�หลืายเง� อนไขีได� ด�งน�3

if (logical expression 1) {statements 1

} else if (logical expression 2) {

statements 2

} else {

statements 3

}

Page 20: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ชื่�ดคำาสั่� งท� 3

เท�จั

เท�จั

น'พจัน%ตัรรกศาสั่ตัร%

ท� 1

จัร'ง

ชื่�ดคำาสั่� งท� 2

ชื่�ดคำาสั่� งท� 1

จัร'ง

น'พจัน%ตัรรกศาสั่ตัร%

ท� 2

Flowchart ขีองคำาสั่� งif..else if..else

Page 21: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วอย�างโปรแกรมท� ใชื่�คำาสั่� งif..else if..else

public class SampleIfElseIf { public static void main(String args[]) {

int x = Integer.parseInt(args[0]); if (x == 1) { System.out.println("Value is one"); } else if (x == 2) { System.out.println("Value is two"); } else { System.out.println("Other than 1 or 2"); }}

}

Page 22: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ร�ปแบบขีองคำาสั่� งswitch

ม�ร�ปแบบการใชื่�คำาสั่� ง ด�งน�3 switch (expression) {

case value 1:statements 1

break;

case value 2:statements 2

break;

: :

case value N:statements N

break;

default: statements N+1;

}

Page 23: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วแปร จัร'ง ชื่�ดคำาสั่� ง

ท� 1= คำ�าท� 1

ชื่�ดคำาสั่� งท� 1N+

= คำ�า default

จัร'ง

ชื่�ดคำาสั่� งท� 2

= คำ�าท� 2

จัร'ง

ชื่�ดคำาสั่� งท� N

= คำ�าท� N

จัร'ง

:

Flowchart แสั่ดงลืาด�บการ ทางานขีองคำาสั่� ง switch

Page 24: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

คำาสั่� ง switch น+พื่จัน1ตั�องมู�ชื่น+ดขี�อมู�ลัเป7น char, byte, short

หร�อ int เท�าน�&น ชื่น+ดขี�อมู�ลัขีองน+พื่จัน1แลัะคำ�าท� 1 ถู�ง N ตั�องเป7น

ชื่น+ดเด�ยวก�น ถู�าคำ�าขีองน+พื่จัน1ตัรงก�บคำ�าใด จัะทาชื่*ดคำาสั่� งขีองคำ�า

น�&น ถู�าคำ�าขีองน+พื่จัน1ไมู�ตัรงก�บคำ�าใดเลัย จัะทาชื่*ดคำาสั่� ง

ขีอง defaultdefault จัะมู�หร�อไมู�มู�ก8ได�

Page 25: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วอย�างโปรแกรมท� ใชื่�คำา สั่� ง switch

public class SampleSwitch { public static void main(String args[]) {

int x = Integer.parseInt(args[0]);switch(x) { case 1: System.out.println("Value is one");

break; case 2: System.out.println("Value is two");

break; default: System.out.println("Other than 1 or 2");}

} }

public class SampleSwitch { public static void main(String args[]) {

int x = Integer.parseInt(args[0]);switch(x) { case 1: System.out.println("Value is one");

break; case 2: System.out.println("Value is two");

break; default: System.out.println("Other than 1 or 2");}

} }

Page 26: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

ตั�วอย�างโปรแกรมท� ใชื่�คำาสั่� งswitch

char grade = 'B';

switch (grade)

{

case 'A':

System.out.println("Average");

break;

case 'B':

System.out.println("Boring");

break;

case 'C':

System.out.println("Cool!");

break;

case 'D':

System.out.println("Delight");

break;

default:

System.out.println("Fabulous");

}

char grade = 'B';

switch (grade)

{

case 'A':

System.out.println("Average");

break;

case 'B':

System.out.println("Boring");

break;

case 'C':

System.out.println("Cool!");

break;

case 'D':

System.out.println("Delight");

break;

default:

System.out.println("Fabulous");

}

Page 27: การเขียนคำสั่งควบคุมแบบมีทางเลือก กลุ่ม 3

สั่ร�ปเน�3อหา การสั่ร�างโปรแกรมูระบบงานลั�กษณะมู�ทางเลั�อกประมูวลัผู้ลั มู�จั*ดประสั่งคำ1คำวบคำ*มูให�ระบบสั่ามูารถู

ทางานว+เคำราะห1เลั�อกทางประมูวลัผู้ลัทางใดทางหน� งโดย อ�ตัโนมู�ตั+ เพื่� อให�คำลั�ายก�บระบบการ ประมูวลัผู้ลัขีองสั่มูองมูน*ษย1ในเร� องการตั�ดสั่+นใจั ภาษาคำอมูพื่+วเตัอร1จั�งใชื่�ประโยชื่น1จัาก

ประสั่+ทธิ์+ภาพื่การทางานขีองคำอมูพื่+วเตัอร1ท� เหน�อกว�าเคำร� องคำานวณชื่น+ดอ� น ตัรงท� ประมูวลัผู้ลั เปร�ยบเท�ยบแบบตัรรกะทางคำณ+ตัศาสั่ตัร1ได� ท�&งน�&ระบบว+เคำราะห1เปร�ยบเท�ยบขีองคำอมูพื่+วเตัอร1

กาหนดว�า หากตัรรกะเป7นจัร+งจัะให�คำ�า 1 แตั�หากตัรรกะเป7นเท8จัจัะให�คำ�า 0 สั่าหร�บภาษาซึ่�มู�คำาสั่� งให� เลั�อกใชื่�คำวบคำ*มูการทางานแบบมู�ทางเลั�อก 2 ร�ปแบบ คำ�อ คำาสั่� ง if แลัะคำาสั่� ง switch

การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูแบบมู�ทางเลั�อก ผู้��สั่ร�างงานโปรแกรมูระบบงานจัาเป7นตั�องมู�คำวามูร� �คำวามูเขี�าใจัในเร� องขีองร�ปแบบแลัะประสั่+ทธิ์+ภาพื่การทางานขีองสั่�ญลั�กษณ1ท� ใชื่�ในการเขี�ยน

ประโยคำคำาสั่� งแบบน+พื่จัน1ตัรรกะ การสั่ร*ปคำ�าคำวามูจัร+งขีองน+พื่จัน1ตัรรกะ ซึ่� งใชื่�หลั�กการเด�ยวก�นก�บ ตัรรกศาสั่ตัร1ว+ธิ์�เขี�ยนน+พื่จัน1ตัรรกะ กฎเกณ1ไวยากรณ1การเขี�ยนคำาสั่� งคำวบคำ*มูมู�ทางเลั�อก แลัะ

ประสั่+ทธิ์+ภาพื่การทางานขีองคำาสั่� ง ประโยคำคำาสั่� งแบบ if จัะใชื่�ก�บงานกรณ�ประโยคำน+พื่จัน1ตัรรกะเป7นเง� อนไขีซึ่�อนมูากกว�า 1

ประโยคำ แลัะตั�องใชื่�สั่�ญลั�กษณ1เชื่� อมูประโยคำเง� อนไขี เชื่�น พื่น�กงานเป7นเพื่ศชื่ายแลัะสั่ถูานะภาพื่โสั่ด ไมู�มู�ขี�อจัาก�ดในประโยคำคำาสั่� ง switch จัะใชื่�ในกรณ�ทางเลั�อกการทางานหลัายทางเลั�อก แตั�คำวรเป7น

ประโยคำเง� อนไขีเด�ยว ไมู�ใชื่�ประโยคำน+พื่จัน1ตัรรกะท� เป7นเง� อนไขีซึ่�อน แลัะขี�อมู�ลัท� นามูาเปร�ยบเท�ยบเพื่� อให�ระบบตั�ดสั่+นใจัน�&นตั�องเป7นตั�วเลัขีจัานวนเตั8มูหร�ออ�กขีระ