แบบทดสอบวชิา สศ 310 กายวภิาคและสรรีวทิยาของสตัวเ์ลี้ยง

บทท่ี 1 ความรูพ้ื้นฐานเก่ียวกับกายวภิาคและสรรีวทิยา1.histology หมายถึงก.การศึกษาวา่เน้ือเยื่อต่างๆในรา่งกายประกอบด้วยเซลล์ประเภทใด มรูีปรา่งอยา่งไรข.การศึกษาวา่เน้ือเยื่อต่างๆในรา่งกายประกอบ มหีน้าที่อยา่งไรค.การศึกษาโครงสรา้งของรา่งกายวา่ประกอบด้วยอวยัวะต่างๆมรูีปรา่งอยา่งไรง.การศึกษาโครงสรา้งของรา่งกายวา่อวยัวะต่างๆทำาหน้าที่อยา่งไร2.ขอ้ความใดถกูต้องเกี่ยวกับวชิา Embrologyก.การศึกษาเกี่ยวกับขนาด รูปรา่ง โครงสรา้งของอวยัวะข.การศึกษาเกี่ยวกับการเจรญิเติบโตของเน้ือเยื่อและอวยัวะในรา่งกายค.การศึกษาเกี่ยวกับรูปรา่งของอวยัวะในสตัวม์กีระดกูสนัหลังง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง3.systemic anatomy ก.Dermatology ข. Myology ค.Osteology ง. Pomology4. Splachnology คือสาขาวชิาท่ีเกี่ยวขอ้งกับระบบใดในรา่งกายก.Skeleton system ข.Articular system

ค.Nervous system ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง5.การศึกษาระบบของรา่งกายแบบแยกสว่นคือก. Topographic anatomy ข.Systemic anatomyค. Veterinary anatomy ง.Comparative anatomy6.Sagittal plane หมายถึง

ก.ระนาบในแนวดิ่งที่แบง่สว่นของรา่งกายออกเป็นซกีหน้าและซกีหลังข.ระนาบในแนวดิ่งที่แบง่สว่นของรา่งกายออกเป็นซกีซา้ยและซกีขวาค.ระนาบในแนวดิ่งที่แบง่สว่นของรา่งกายออกเป็นซกีบนและซกีล่างง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง7.Anterior หรอื Cranial หมายถึงก.ด้านหลังหรอืสว่นท่ีค่อนไปทางด้านหลัง ข.ด้านหน้าหรอืสว่นท่ีค่อนไปทางด้านหน้าค.ด้านล่างหรอืสว่นท่ีค่อนไปทางด้านท้าย ง.ด้านบนหรอืด้านหลังของรา่งกาย8.Dermatology หมายถึงสาขาวชิาท่ีศึกษาเกี่ยวกับอวยัวะใดก.ตา จมูก อวยัวะรบัสมัผัส ข.กล้ามเน้ือชนิดต่างๆค.ผิวหนัง ต่อมเหง่ือ เขา ง.กระเพาะและลำาไส้

9.Flexion หมายถึงขอ้ความใดก.การยดืขอ้ต่อไปในทิศทางตรงขา้ม ข.การงอขอ้ต่อไปในทิศทางตรงขา้มค.การเคล่ือนสว่นใดสว่นหน่ึงของรา่งกายไปด้านหน้า ง.การเคล่ือนใดสว่นหน่ึงไปทางด้านท้าย10.ขอ้ใดไมใ่ชข่อ้ความท่ีเกี่ยวขอ้งกับ Transverse planeก.ระนาบในแนวดิ่งแบง่รา่งกายสตัวอ์อกเป็นซกีซา้ยและขวาข.ระนาบในแนวดิ่งแบง่รา่งกายมนุษยอ์อกเป็นซกีซา้ยและขวาค.ระนาบท่ีตัง้ฉากกับระนาบขา้ง และระนาบหน้าหลังแบง่รา่งกายสตัว์ออกเป็นซกีซา้ยและขวาง.ระนาบท่ีตัง้ฉากกับระนาบขา้ง และระนาบหน้าหลังแบง่รา่งกายมนุษยอ์อกเป็นซกีหน้าและหลัง

คำาตอบ 1. ก 2. ข 3. ก 4. ง 5. ก 6. ข 7. ข 8. ค 9. ข 10. ค

บทท่ี 2 เซลล์และเน้ือเยื่อพื้นฐานของรา่งกาย1.เน้ือเยื่อพื้นฐานท่ีพบมากที่สดุในรา่งกายก.เน้ือเยื่อบุผิว ข.เน้ือเยื่อประสาท ค.เน้ือเยื่อเกี่ยวพนั

ง.เน้ือเยื่อกล้ามเน้ือ2.ขอ้ใดเป็นคณุสมบติัของสิง่มชีวีติก.ขยายขนาดหรอืเพิม่จำานวนได้ ข.ขบัถ่ายของเสยีค.ตอบสนองต่อสิง่เรา้ ง.ถกูทัง้ ก ข และ ค3.Endoplasmic reticulum มหีน้าท่ีคือก.เกี่ยวกับการสรา้งโปรตีน ข.ชว่ยลำาเลียงสารค.เกี่ยวขอ้งกับการสรา้งฮอรโ์มน ง.ถกูทัง้ ก ข และ ค4.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ Mitochondriaก.พบมากในเซลล์ตับ ข.ผลิตเอนไซมท่ี์เกี่ยวขอ้งกับการสรา้งพลังงานค.มผีนังหุม้ 2 ชัน้ ง.พบมากในเซลล์กล้ามเน้ือ5.Passive transport ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใดก.การเคล่ือนท่ีจากความเขม้ขน้ตำ่าไปสงู ข.การเคล่ือนท่ีขึ้นกับอุณหภมูแิละขนาดโมเลกลุค.ไมม่คีวามต่างศักยไ์ฟฟา้ ง.มลัีกษณะการเคล่ือนท่ีแบบทกุทิศทกุทาง6.Active transport ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใดก.การดดูกลับของสารท่ีหลอดไต ข.การดดูซมึนำ้าตาลกลโูคสค.เกี่ยวกับการหลัง่ฮอรโ์มน ง.การดดูซมึกรดอะมโิน

7.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ mucous membraneก.เน้ือเยื่อท่ีพบมากที่สดุในรา่งกาย ข.พบตามผนังภายในของท่อทางเดินอาหารค.ทำาหน้าที่หลัง่นำ้ายอ่ย ง.ทำาหน้าที่หลัง่นำ้าเมอืก

8.Epithelium เป็นเน้ือเยื่อท่ีเจรญิมาจากก.ectoderm ข.endoderm ค.mesoderm ง.ถกูทัง้ ก ข และ ค 9.ขอ้ความใดไมใ่ชห่น้าที่ของ epitheliumก.excretion ข.sensation ค.lubrication

ง.translocation10.Stratified epithelium หมายถึงก.เน้ือเยื่อบุผิวท่ีเกิดจากเซลล์ท่ีมรูีปรา่งเหมอืนกันมาเรยีงตัวกันเป็นชัน้เดียวข.เน้ือเยื่อบุผิวท่ีเกิดจากเซลล์ท่ีมรูีปรา่งเหมอืนกันมาเรยีงตัวกันมากกวา่หน่ึงชัน้ค.เน้ือเยื่อบุผิวท่ีเกิดจากเซลล์ท่ีมรูีปรา่งต่างกันมาเรยีงตัวกันมากกวา่หน่ึงชัน้ง.เน้ือเยื่อบุผิวท่ีเกิดจากเซลล์ท่ีมรูีปรา่งเหมอืนกันมาเรยีงตัวกันมากกวา่หน่ึงชัน้แต่ดคูล้ายชัน้เดียว

คำาตอบ 1. ค 2. ง 3. ง 4. ก 5. ก 6. ค 7. ก 8. ง 9. ง 10. ข

บทท่ี 3 ระบบประสาท1.myelinated nerve fiber หมายถึงก.ใยประสาทท่ีไมม่กีารเคล่ือนที่ของกระแสประสาทอยา่งรวดเรว็ ข.มเียื่อไขมนับนเด็นไดรท์ค.มเียื่อไขมนับนเอ๊กซอน ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง2.ขอ้ใดไมถ่กูต้องเกี่ยวกับ dendriteก.เป็นสว่นของใยประสาทท่ีมเีพยีงหนึ่งแขนง ข.เป็นสว่นที่นำากระแสประสาทเขา้เซลล์

ค.เป็นใยประสาทแขนงสัน้ๆ ง.เป็นสว่นของใยประสาทท่ีแตกแขนงได้มาก3.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ multipolar neuronก.เป็นเซลล์ประสาทท่ีพบมากที่สดุในรา่งกาย ข.เป็นเซลล์ท่ีพบมากท่ีสดุในสมองและไขสนัหลังค.มเีอ๊กซอนยื่นออกจากตัวเซลล์ได้หลายทิศทาง ง.เป็นเซลล์ท่ีมรูีปรา่งคล้ายดาว4. schwann cell หมายถึงก.เซลล์ประสาทพีเ่ล้ียงที่พบในระบบประสาทสว่นปลายข.เซลล์ประสาทพีเ่ล้ียงที่พบในระบบประสาทสว่นกลางค.เป็นเซลล์ประสาทประสานงานง.เป็นเซลล์ประสาทสัง่การ5.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับการเคล่ือนท่ีของกระแสประสาทภายในเซลล์ก.การเปล่ียนแปลงคณุสมบติัของเยื่อหุม้เซลล์เมมเบรน ข.ยอมใหโ้ปแตสเซยีมเขา้เซลล์ค.ยอมใหโ้ซเดียมออกจากเซลล์ ง.เป็นการเคล่ือนท่ีโดยปฏิกรยิาไฟฟา้เคมี6.synapses ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใดก.เป็นบรเิวณท่ีมเียื่อหุม้เซลล์ประสาทสองเซลล์อยูใ่กล้ชดิกันข.การถ่ายทอดกระแสประสาทสามารถใชส้ารเคมหีรอืไฟฟา้ได้ค.เป็นบรเิวณปลายเด็นไดรท์ท่ีโป่งพองออกง.เป็นบรเิวณท่ีมกีารหลัง่สารสื่อประสาท7.central nervous system (CNS)ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ใดก.สมองสว่นหน้า ข.ไขสนัหลัง ค.เสน้ประสาทสมอง

ง.ก้านสมอง8.hypothalamus เป็นสว่นของก้านสมองท่ีทำาหน้าท่ีเกี่ยวขอ้งกับ

ก.เป็นท่ีตัง้ของเสน้ประสาทสนัหลัง ข.เกี่ยวขอ้งกับการนัง่ ยนื นอนค.เป็นศูนยก์ลางระบบประสาทอัตโนมติั ง.เกี่ยวขอ้งกับการมองเหน็

9.เสน้ประสาทสมองคู่ที่ 10 คือก.vagus nerve ข.optic nerve ค.olfactory nerve ง.glossopharyngeal nerve10.autonomic nervous system(ANS) ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใดก.กล้ามเน้ือหวัใจ ข.กล้ามเน้ือกระเพาะอาหารค.กล้ามเน้ือลำาไส้ ง.กล้ามเน้ือลกูตา

คำาตอบ 1. ค 2. ก 3. ค 4. ง 5. ข 6. ค 7. ค 8. ค 9. ก 10. ง

บทท่ี 4 ระบบโครงรา่ง1.Atlas เป็นชื่อกระดกูสว่นใดก.กระดกูสนัหลังสว่นคอขอ้ท่ีหน่ึง ข.กระดกูสนัหลังสว่นคอขอ้ท่ีสองค.กระดกูสนัหลังสว่นอกขอ้ท่ีหน่ึง ข.กระดกูสนัหลังสว่นอกขอ้ที่สอง2. Epiphyseal cartilage คือสว่นประกอบของกระดกูยาวที่ทำาหน้าท่ีก.สรา้งเนื้อกระดกูเมื่อเกิดกระดกูหกัข.สรา้งเนื้อกระดกูเมื่อเกิดการเจรญิเติบโตค.สรา้งไขกระดกูง.การสรา้งเมด็เลือด3.กระดกูท่ีบนตามสว่นหน้าจดัเป็นกระดกูประเภท

ก.flat bone ข.short bone ค.long boneง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง

4.กระดกูในรา่งกายท่ีเป็น long boneก.tibia ข.femur ค.humerus

ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค5.osteocyte เป็นเซลล์ของเน้ือเยื่อใดก.เน้ือเยื่อเกี่ยวพนั ข.เน้ือเยื่อกระดกู ค.เน้ือเยื่อกระดกูอ่อน ง.เน้ือเยื่อบุผิว6.กระดกูซีโ่ครงท่ีไมติ่ดกับกระดกู costal cartilage คือก.vertebral rib ข. true rib ค.floating rib ง.frontal rib7.ขอ้ใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ Haversian system ใน compact boneก.chondrocyte ข.osteocyte

ค.osteoclast ง.lacunae8.red bone marrow หมายถึงสว่นของกระดกูท่ีทำาหน้าที่ก.สรา้งนำ้าเลือด ข.สรา้งเซลล์กระดกู ค.สรา้งเมด็เลือด ง.สรา้งเนื้อกระดกู9.สว่นปลายกระดกูยาวทัง้สองขา้งเรยีกวา่ก.epiphyseal cartelage ข.metaphysis

ค.diaphysis ง.epiphysis10.ขอ้ต่อใดท่ีไมเ่คล่ือนไหวก.fibrous joint ข.synartrose joint ค. diartrose joint ง.cartilagenous joint

คำาตอบ 1. ก 2. ข 3. ก 4. ง 5. ข 6. ค 7. ก 8. ค 9. ง 10. ข

บทท่ี 5 ระบบกล้ามเน้ือ1.คณุสมบติัท่ีสำาคัญของกล้ามเน้ือได้แก่ก.ตอบสนองต่อสิง่เรา้ได้ ข.มคีวามสามารถในการนำาไฟฟา้ค.สามารถคลายตัวและหดตัวได้ ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค2.epimysium หมายถึงก.เน้ือเยื่อเกี่ยวพนัท่ีหุม้มดักล้ามเน้ือขนาดใหญ่ ข.เน้ือเยื่อเกี่ยวพนัท่ีหุม้มดักล้ามเน้ือขนาดเล็กค.เอ็นท่ียดึกล้ามเน้ือกับกระดกู ง.ถกูทัง้ขอ้ ข และ ค3. ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับเซลล์กล้ามเน้ือลายก.ควบคมุโดย ANS ข.เซลล์กล้ามเน้ือเรยีงตัวเป็นระเบยีบค.เซลล์มรูีปรา่งคล้ายกระสวย ง.ถกูทัง้ขอ้ ข และ ค4.sarcolemma หมายถึงก.เยื่อหุม้เซลล์กล้ามเน้ือ ข.ไมโตคอนเดรยีของกล้ามเน้ือค.เอ็นโดพลาสมกิเรคติคลัูมของกล้ามเน้ือ ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง5.ขอ้ความใดที่ไมเ่กี่ยวขอ้งกับเซลล์กล้ามเน้ือเรยีบก.ควบคมุโดย CNS ข.เซลล์กล้ามเน้ือเรยีงตัวไมเ่ป็นระเบยีบค.เซลล์มรูีปรา่งคล้ายกระสวย ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค6.ขอ้ความใดเกี่ยวขอ้งกับการหดตัวของกล้ามเน้ือก.actin filament ข. myosin filamentค.ATP ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค

7.กล้ามเน้ือที่มจุีดเกาะปลายที่กระดกูสะบกัคือก.brachiocephalicus muscle ข.trapazius muscleค.Longissimus dorsi ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง8.Peristaltic movement เกี่ยวขอ้งกับก.กล้ามเน้ือที่กระเพาะอาหาร และลำาไส้ ข.กล้ามเน้ือที่ท่อนำาไข่ค.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ข ง.กล้ามเน้ือที่มดลกู9.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวกับกล้ามเนื้อหวัใจก.myocardium ข.syncytial arrengmentค.ม ีmitochondria น้อย ง.เซลล์เรยีงตัวกันอยา่งไมม่รีะเบยีบ10.คณุสมบติัของกล้ามเน้ือในระบบทางเดินอาหารก.มคีวามต้านทานไฟฟา้ตำ่า ข.มเีสน้ประสาทมาหล่อเล้ียงมากค.ควบคมุโดยระบบ CNS ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ข

คำาตอบ 1. ก 2. ก 3. ก 4. ก 5. ง 6. ง 7. ข 8. ค 9. ง 10. ข

บทท่ี 6 ระบบหายใจ1,Visceral pleural หมายถึงก.เน้ือเยื่อบางๆท่ีอยูติ่ดกับเน้ือปอด ข.เน้ือเยื่อบางๆท่ีอยู่ติดกับกระดกูซีโ่ครงค.เน้ือเยื่อท่ีหุม้หวัใจ ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง2.สว่นของ trachea ติดต่อโดยตรงกับสว่นใดก.กล่องเสยีง ข.หลอดคอค.ชอ่งจมูก ง.หลอดอาหาร

3.การแลกเปล่ียนก๊าซในปอดเกิดขึ้นที่ก.trachea ข.bronchioleค.alveoli ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค4.สว่นของท่อทางเดินหายใจท่ีมกีระดกูอ่อนเป็นสว่นประกอบ 8nvก.trachea ข.bronchioleค.alveola duct ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค5.เสน้เลือดที่นำาเลือดมาที่ปอดคือก.pulmonary arteries ข.pulmonery veinsค.peripheral veins ง.ถกูทัง้ขอ้ ข และ ค6.ขอ้ความใดที่ไมใ่ชห่น้าท่ีของระบบหายใจก.กำาจดัสิง่แปลกปลอมที่มากับลมหายใจ ข.นำาก๊าซออกซเิจนเขา้สูร่า่งกายค.สรา้ง angiotensin I ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ข7.ขอ้ความที่ไมเ่กี่ยวขอ้งกับการควบคมุระบบหายใจก.ศูนยห์ายใจท่ีmedulla oblongata ข.ศูนยห์ายใจท่ี cerebellumค.ศูนยห์ายใจท่ี pons ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ค8. Internal respiration หมายถึงก.การแลกเปล่ียนก๊าซออกซเิจนและก๊าซคารบ์อนไดออกไซด์ท่ีถงุลมปอดข.การแลกเปล่ียนก๊าซออกซเิจนและก๊าซคารบ์อนไดออกไซด์ท่ีเซลล์ค.การนำาก๊าซออกซเิจนเขา้ปอด และนำาก๊าซคารบ์อนไดออกไซด์ออกจากรา่งกายง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ค9.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ Nasal cavityก.ชัน้เยื่อเมอืกมเีลือดมาหล่อเล้ียงมาก ข.เยื่อบุผิวมลัีกษณะเป็นขน

ค.ต่อกับหลอดคอ ง.มปีลายประสาทรบัความรูส้กึ10. Expired air หมายถึงก.อากาศที่หายใจออกมOี2 N2 และ H2O ข.อากาศที่หายใจเขา้มีO2 N2 และ H2Oค.อากาศที่หายใจออกมOี2 N2 CO2 และ H2O ง.อากาศที่หายใจเขา้มีO2 CO2 N2 และ H2O

คำาตอบ 1. ก 2. ก 3. ค 4. ก 5. ง 6. ง 7. ข 8. ข 9. ค 10. ค

บทท่ี 7 เลือดและของเหลวในรา่งกาย1. หน้าท่ีของเลือดคือก.รกัษาความสมดลุของกรดและด่างในรา่งกาย ข.นำาสารพษิไปสรา้งเป็นนำ้าปัสสาวะค.ควบคมุอุณหภมูใินรา่งกาย ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค2.เมด็เลือดขาวท่ีไมไ่ด้ผลิตภมูคิุ้มกันคือก. eosinophil ข.basophil ค.monoocyte

ง.neutrophil3.เมด็เลือดขาวท่ีไมม่เีมด็สกีระจายในไซโตพลาสซมึคือก.eosinophil ข.basophil ค. lymphocyte

ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และข4.แหล่งสรา้งเมด็เลือดแดงขณะเป็นตัวอ่อนก.ตับ มา้ม ไขสนัหลัง ข.ตับ หวัใจ มา้มค.ตับ มา้ม ไขกระดกู ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ข5.reticuloendothelial system เกี่ยวขอ้งกับก.เซลล์ของตับ และ มา้ม ข.เซลล์ของตับ มา้ม ต่อมนำ้าเหลืองค.เซลล์ของตับ มา้ม หวัใจ ไขกระดกู ง.ถกูทัง้ขอ้ ข และ ค

6.Haemolysis หมายถึงก.การแตกของเมด็เลือด ข.การแตกของเฮโมโกลบนิค.การแตกของเมด็เลือดขาว ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง7.ขอ้ความใดเกี่ยวขอ้งกับโรคโลหติจางก.ไขกระดกูถกูทำาลาย ข.การเกิดบาดแผลค.การขาดธาตเุหล็กในอาหาร ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค8.ขอ้ความใดเกี่ยวขอ้งกับ plasmaก.blood cloting ข.blood pHค.hormone ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค9.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ thrombocyteก.yellow marrow ข.fibrinogen ค.Ca ง.thrombin10.ขอ้ความใดที่เกี่ยวขอ้งกับการแขง็ตัวของเลือดก.แคลเซีย่มอิออน ข.thromboplastinค. fibrin ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค

คำาตอบ 1. ง 2. ง 3. ง 4. ค 5. ข 6. ก 7. ง 8. ง 9. ก 10. ง

บทท่ี 8 ระบบไหลเวยีนของเลือดและนำ้าเหลือง1.semilunar valves หมายถึงล้ินหวัใจท่ีกัน้เลือดก.ระหวา่งหวัใจหอ้งบนและล่างขวา ข.ระหวา่งหวัใจหอ้งล่างซา้ยและเสน้เลือดแดงใหญ่ค.ระหวา่งหวัใจหอ้งบนและล่างซา้ย ง.ระหวา่งหวัใจหอ้งบนขวาและเสน้เลือดที่ไปปอด2.เสน้เลือดที่นำาเลือดจากปอดเขา้สูห่วัใจ

ก.pulmonary veins ข.pulmonary arteriesค.pulmonary cycle ง.mesentary arteries3.การหมุนเวยีนของเลือดที่ไปหล่อเล้ียงหวัใจคือก.pulmonary circulation ข.hepatic circulationค.coronary circulation ง.systemic circulation4.ขอ้ความใดถกูต้องท่ีสดุสำาหรบัเสน้เลือดแดงฝอยก.มชีัน้กล้ามเน้ือเรยีบมาก ข.ไมม่กีล้ามเน้ือเรยีบค.มเีฉพาะชัน้เซลล์เยื่อบุผิว ง.ไมม่คีำาตอบที่ถกูต้อง5.bicuspid valves เป็นเสน้เลือดท่ีปิดกัน้เลือดระหวา่งก.หวัใจหอ้งบนขวาและเสน้เลือดแดงใหญ่ ข.หวัใจหอ้งบนซา้ยและหอ้งล่างซา้ยค.หวัใจหอ้งบนขวาและหอ้งล่างขวา ง.หวัใจหอ้งบนซา้ยและเสน้เสน้เลือดที่ไปปอด6.ขอ้ความใดไมถ่กูต้องสำาหรบัเสน้เลือดดำาก.มคีวามหยดืหยุน่มาก ข.มผีนังบางค.พบตามบรเิวณใกล้ผิวหนัง ง.บรรจุเลือดได้มาก7.Mesenteric arteries หมายถึงก.เสน้เลือดแดงท่ีไปหล่อเล้ียงปอด ข.เสน้เลือดแดงท่ีหวัใจค.เสน้เลือดที่ไปหล่อเล้ียงไต ง.เสน้เลือดที่ไปกระเพาะอาหารและลำาไส้8.เสน้เลือดที่มคีวามดันเลือดตำ่าท่ีสดุก.aorta ข.capillaries ค. arteries ง. Venules9.เสน้เลือดที่นำาเลือดเขา้หวัใจคือก.vena cava ข.hepatic vein

ค.pulmonery arteries ง.aorta

10.ต่อมชนิดใดที่ไมใ่ชอ่วยัวะนำ้าเหลืองก.มา้ม ข.ต่อมทอลซลิ ค,ตับอ่อน ง.ต่อมไทมสั

คำาตอบ 1. ข 2. ข 3. ค 4. ก 5. ค 6. ค 7. ง 8. ก 9. ก 10. ค

บทท่ี 9 ระบบขบัถ่ายปัสสาวะ1.Nephron ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ใดก.urine ข.glomerulus

ค.Bowman’s capsule ง.ถกูทัง้ ก ข และ ค2.ขอ้ความใดที่ไมเ่กี่ยวขอ้งกับหน้าที่ของไตก.นำ้าปัสสาวะเกิดจากการกรองนำ้าเลือด ข.เกี่ยวขอ้งกับการควบคมุสมดลุของนำ้าค.เกี่ยวขอ้งกับการสรา้ง calcium binding protein ง.เกี่ยวกับการสรา้งเมด็เลือด3.ขอ้ความใดไมถ่กูต้องก.ไตชัน้ในสเีขม้กวา่ชัน้นอก ข.หลอดไตพบมากในไตชัน้ในค.โกลเมอรูลัสพบมากในไตชัน้ใน ง.bowman’ capsule ต่อกับท่อไตสว่นต้น4.ขบวนการใดท่ีเกี่ยวขอ้งกับการสรา้งนำ้าปัสสาวะก.การดดูกลับของสารท่ีหลอดไต ข.การกรองสารจากนำ้าเลือดเกิดขึ้นท่ี glomerulusค.การเพิม่หรอืขบัสารเป็นหน้าที่ของหลอดไต ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค5.สว่นของหลอดไตที่มกีารดดูซมึกลับของโซเดียมมากที่สดุก.proximal convoluted tubules ข.distal convoluted tubules

ค.loop of Henle ง.collecting duct6.ฮอรโ์มนท่ีเกี่ยวขอ้งกับการควบคมุสมดลุของนำ้าในรา่งกายคือก.ACTH ข.reninค.aldosterone ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค7.หน้าท่ีของไตท่ีคล้ายกับการทำาหน้าท่ีของตับคือก.กำาจดัสารพษิออกจากรา่งกาย ข.คมุความสมดลุของนำ้าค.สรา้งฮอรโ์มน ง.สรา้งกรดยูรกิ8.ฮอรโ์มนใดเกี่ยวขอ้งกับไตก.renin ข.secretinค.pepsin ง.serotonin9. Urination หมายถึงก.nephron ข.plasmaค.urethra ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค10.สารที่ถกูดดูซมึกลับท่ีไตได้ดีที่สดุ คือก. นำ้า ข.ยูเรยีค.กลโูคส ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง

คำาตอบ 1. ก 2. ง 3. ค 4. ง 5. ก 6. ง 7. ก 8. ก 9. ค 10. ค

บทท่ี 10 ระบบทางเดินอาหาร1.ขอ้ใดท่ีไมใ่ชห่น้าท่ีของตับก.สรา้งเอนไซมย์อ่ยอาหาร ข.สรา้งนำ้าดีค.สรา้งเมด็เลือด ง.สรา้งโปรตีนที่เกี่ยวขอ้งกับการแขง็ตัวของเลือด2.Chief cell เกี่ยวขอ้งกับก.เป็นเซลล์เยื่อบุผิว ข.สรา้ง trypsinogen

ค.สรา้ง pepsinogen ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ข3.ขอ้ความใดที่ถกูต้องเกี่ยวกับ Parietal cell ก.เป็นเซลล์เยื่อบุผิว ข.สรา้ง HClค.พบในลำาไสเ้ล็ก ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ค4.ขอ้ความใดที่ไมถ่กูต้องก.หลอดอาหารมเีน้ือเยื่อ 4 ชัน้ ข.หลอดอาหารเกี่ยวกับการขยอกอาหารค.มกีารเคล่ือนท่ีแบบ mass peristalsis ง.หลอดอาหารในสกุรมกีล้ามเน้ือลาย5.ขอ้ความใดที่เกี่ยวขอ้งกับการยอ่ยอาหารก.rumination ข.ptyalin ค.pregastic lipase ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค6.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับการยอ่ยอาหารในปากก.salivation ข.digestion ค.absorption ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง

7.ขอ้ความใดไมถ่กูต้องเกี่ยวกับการเคล่ือนที่ของอาหารในกระเพาะก.pendulum movement ข.segmentation movement ค.mass peristaltic movement ง.ถกูทัง้ขอ้ ข และ ค8.ขอ้ความใดไมถ่กูต้องเกี่ยวกับ secretinก.ผลิตจากลำาไสเ้ล็ก ข.เกี่ยวขอ้งกับการหลัง่นำ้ายอ่ยจากตับอ่อนค.เกี่ยวขอ้งกับการหลัง่นำ้าดี ง.เกี่ยวขอ้งกับการหลัง่นำ้ายอ่ยในลำาไสเ้ล็ก9.ขอ้ใดไมใ่ชห่น้าที่ของตับอ่อนก.สรา้งนำ้ายอ่ยโปรตีน ข.สรา้งนำ้าดีค.สรา้งฮอรโ์มน ง.สรา้งนำ้ายอ่ยไขมนั10.การเค้ียวเอ้ืองไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใด

ก.กระเพาะรูเมน ข.กระเพาะรงัผึ้งค.หลอดอาหาร ง.กระเพาะสามสบิกลีบ

คำาตอบ 1. ก 2. ง 3. ข 4. ง 5. ค 6. ค 7. ค 8. ง 9. ข 10. ง

บทท่ี 11 ระบบต่อมไรท่้อ1.ฮอรโ์มนท่ีเกี่ยวขอ้งกับการเจรญิเติบโตของกล้ามเน้ือและกระดกูก.GH ข.thyroxinค.relaxin ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ค2.ขอ้ความที่ถกูต้องก.parathyroid gland ผลิตโปรตีนฮอรโ์มนข.adrenal gland ผลิตสเตอรอยด์ฮอรโ์มนค.pituitary gland ผลิตเอมนีฮอรโ์มนง.thyroid gland ผลิตสเตอรอยด์ฮอรโ์มน3.ต่อมไรท้่อท่ีผลิตโปรตีนฮอรโ์มนคือก.ต่อมหมวกไต ข.ตับอ่อนค.ต่อมไทรอยด์ ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค4. แหล่งผลิต Estrogen คือก.ต่อมใต้สมอง ข.ต่อมหมวกไตค.ต่อมพาราไทรอยด์ ง.รงัไข่5.ฮอรโ์มนท่ีผลิตจากจากต่อมใต้สมองสว่นหน้าคือก.prolactin ข.vasopressinค.Inhibin ง.Oxytocin6.ฮอรโ์มนท่ีเกี่ยวขอ้งกับการควบคมุแคลเซีย่มคือก.MSH ข.PTHค.LH ง.GH7.Lutenizing hormone เกี่ยวขอ้งกับอะไรก.Follicles ข.Corpus luteum

ค.Leydig’s cell ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค8. ขอ้ความใดเกี่ยวขอ้งกับ Glucocorticoidก.adrenal medulla ข.Zona fasiculataค.Zona glomerulosa ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง9.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับฮอรโ์มนในระบบทางเดินอาหารก.gastin ข.insulinค.secretin ง.pancreozymin10.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ Follicle stimulating hormoneก.sertoli cell ข.Folliculostatinค.Folliculogenesis ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค

คำาตอบ 1. ก 2.ก 3. ข 4. ง 5. ก 6. ข 7. ง 8. ข 9. ค 10. ข

บทท่ี 12 ระบบสบืพนัธุข์องสตัว์1.การพฒันาของถงุไข่ ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใดก.estrogen ข.zona reactionค.granulosa cell ง.graafian follile

2.ฮอรโ์มนชนิดใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับ androgenก.GH ข.prolactin ค.LH ง.GnRH3.ฮอรโ์มนท่ีเกี่ยวขอ้งกับการตัง้ท้องก.progesterone ข.prolactinค.protein B ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค4.อะไรที่เกี่ยวขอ้งกับการคลอดก.กล้ามเน้ือท้อง ข.ออกซโิตซนิ

ค.กล้ามเน้ือมดลกู ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค5.primary follicle ไมเ่กี่ยวขอ้งกับก.ไมม่กีารเปล่ียนแปลงจำานวนหลังคลอด ข.มมีากที่สดุบนรงัไขส่ว่นในค.มเีซลล์ชัน้เดียวล้อมรอบ ง.primary oocyte6.Graafian follicle หมายถึงก.ถงุไขท่ี่มชีอ่งวา่งขนาดใหญ่ ข.มกีารแบง่เซลล์ไข่แบบไมโตซสีค.มเีอสโตรเจน ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ค7.มดลกู เกี่ยวขอ้งกับก.เอ็นโดมเีทรยีม ข.ขบวนการคาพาซิเทชัน่ค.คารลัเคิล ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค8.รแีฟล็คในการหลัง่นำ้านมเกี่ยวขอ้งกับก.receptor ข.impulseค.posterior pituitary gland ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค9.testosterone ไมเ่กี่ยวขอ้งกับก.การสงัเคราะหไ์ขมนั ข.การเพิม่ขนาดกล้ามเน้ือค.การสรา้งเซลล์อสจุิ ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค10.Epididymis ไมเ่กี่ยวขอ้งกับก.การสรา้งเซลล์อสจุิ ข.การเจรญิของเซลล์อสจุิค.การสะสมเซลล์อสจุิ ง.ถกูทัง้ขอ้ ข และ ค

คำาตอบ 1.ข 2. ข 3. ง 4. ง 5. ง 6. ง 7. ง 8. ง 9. ก 10. ก

บทท่ี 13 ระบบรบัสมัผัส1.retina ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใดก.rod cell ข.cone cellค.rhodopsin ง.olfactory nerve2.อวยัวะรบัสมัผัส ไมเ่กี่ยวขอ้งกับขอ้ความใดก.การสง่กระแสความรูส้กึ ข.อยูท่ี่ปลายประสาทรบัความรูส้กึค.ทำางานรว่มกับระบบต่อมไรท่้อ ง.ถกูทกุขอ้3.special receptor เกี่ยวขอ้งกับก.อวยัวะภายใน ข.ผิวหนังค.กล้ามเน้ือ ง.ไมม่ขีอ้ใดถกูต้อง4.panician corpuscle เกี่ยวขอ้งกับก.ตัวรบัความรูส้กึ ข.ผิวหนังค.การสง่กระแสประสาท ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค5.propioceptor หมายถึงก.ตัวรบัความรูส้กึท่ีไวต่อแสง ข.ตัวรบัความรูส้กึท่ีไวต่อสารเคมีค.ตัวรบัความรูส้กึท่ีเกี่ยวขอ้งกับตำาแหน่ง ง.ตัวรบัความรูส้กึที่ไวต่อแรงกด6.chemoreceptor พบได้ท่ีก.เยื่อบุผิวท่ีโพรงจมูก ข.ท่ีโคนล้ินค.ท่ีผิวหนัง ง.ถกูทัง้ขอ้ ก และ ข7.มา่นตาหรอื iris เกี่ยวขอ้งกับ

ก.อยูห่ลังเลนสต์า ข.ควบคมุแสงที่เขา้ตาค.ปกคลมุด้วยกระจกตา ง.ถกูทัง้ขอ้ ข และ ค8.rhodopsin เกี่ยวขอ้งกับก.การมองเหน็ ข.scotopsinค.เซลล์รูปแท่ง ง.ถกูทัง้ขอ้ ก ข และ ค9.ต่อมรบัรสชาด ไมเ่กี่ยวขอ้งกับก.gustatory cell ข.papillaeค.cranial nerve VII ง.spinal nerve 10.ขอ้ความใดไมเ่กี่ยวขอ้งกับหชูัน้นอกก.eardrum ข.pinnaค.tympanic membrane

ง.auditory canal

คำาตอบ 1. ง 2. ง 3. ง 4. ง 5. ค 6. ก 7. ง 8. ก 9. ง 10. ก