เมืองซ ิบเนน –.เชิงเขาใหญพันธุ...

Post on 16-Aug-2020

2 Views

Category:

Documents

0 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

100

เมืองซิบเนน�.เชิงเขาใหญ

เราน่ังรถไฟไปคางคืนที่บานคุณจันทรศรี นองสาวคุณอัมพันที่เมืองซิบเนน ระยะทางจากเจนีวาไปเมืองซิบเนนน้ัน ยอนกลับทางเดิม คือผานโลซานน, เนอชาแตล และซูริค จากซูริค เราตอรถไฟไปเมือง แฟนิโคล (Fanikol) จากนั้นก็ตอรถ post bus ที่เราชอบเรียกเลนๆ วา �รถไปรษณีย�ไปเมืองซิบเนนอีกที กวาจะถึงก็ราว 5 โมงเย็น

พอลงจากรถก็ชวยกันมองหาอาจารยมงคลที่บอกวาจะไปรับ แตไมเจอแมแตเงา มีวิธีเดียวก็คือ ตองโทรศัพทเขาบานคุณจันทรศรีเพื่อถามวาเขามารับเราตรงจุดไหน จึงพากันเดินหาตูโทรศัพทสาธารณะแถวน้ันจนเหน่ือยออนแตก็ไมพบเลย

บังเอิญมีเด็กผูหญิงคนหน่ึงอายุราว 12 ป เดินจูงรถจักรยานผานมา จึงเขาไปสอบถาม เด็กคนน้ันพูดภาษาอังกฤษไดนิดหนอย เธอเขาใจแตอธิบายไมถูก ในที่สุดเธอบอกเราวา �Pleasecome with me.� ซึ่งแปลวา มากับฉันเถิด ฉันจะไปสงเอง วาแลวก็จูงจักรยานนํ าเราเขาซอยน้ันออกซอยน้ีจนถึงที่ทํ าการไปรษณีย (post office) เมืองซิบเนน ซึ่งตูโทรศัพทต้ังอยูชั้นลางของตึกน่ันเอง

พอเขาไปดูปรากฎวาเคร่ืองโทรศัพทแบบหยอดเหรียญไมมีอีก มีแตตูแบบเสียบบัตรที่เรียกวา cardphone เราจึงซื้อบัตรโทรศัพท (phonecard) ชนิดราคาถูกที่สุดคือ ตู 5 ฟรังก แตกวาจะไดโทรศัพทเราตองเสียเวลารอเปนชั่วโมงขาดไปไมกี่นาที เพราะมีเจาหนุมคนหน่ึงเขาไปใชนานมากโดยไมเกรงใจคนอ่ืนเลย

ขณะท่ีเด็กสาวคนน้ันอยูเปนเพื่อนเรา ดิฉันถือโอกาสสัมภาษณเธอเกี่ยวกับเร่ืองตางๆ แตมีปญหาดานการสื่อสารเพราะเธอพูดภาษาอังกฤษไดนิดหนอยเทาน้ัน เราเองพูดภาษาเยอรมันไมไดเลย แตพอจับใจความไดวาเธอกํ าลังเรียนชั้นม.1 ที่โรงเรียนใกลบานและชอบปนรถจักรยานออกกํ าลังทุกเย็น แต

อยางไรก็ตาม เห็นความมีน้ํ าใจของเธอแลวอดนึกชมเชยไมได

การใชโทรศัพทสาธารณะนานเกินไปน้ันเปนการเสียมารยาทมาก ย่ิงมีคนตอแถวคอยโทรศัพทย่ิงตองรีบพูดใหเร็วท่ีสุด เพื่อเปดโอกาสใหผูอื่นไดโทรฯ บาง ทางเมืองไทยเราก็มีเร่ืองทะเลาะกันจนถึงข้ันชกตอยตีรันฟนแทงกันบอย ๆ ก็เพราะการใชโทรศัพทสาธารณะนานเกินไปโดยท่ีอีกฝายยืนรอโทรฯ ยุงก็กัด (ถาเปนกลางคืน) อากาศก็รอน แตอีกฝายพูดโทรศัพทหัวรอตอกระซิกแบบไมเกรงใจชาวบาน จนคนรอทนไมไหวเกิดบันดาลโทสะถึงกับทํ ารายกันไดรับบาดเจ็บ

101

จนเสียชีวิตก็มี ฉะน้ันคนท่ีชอบใชโทรศัพทสาธารณะนาน ๆ จะตองปรับพฤติกรรมใหมไดแลวมิเชนน้ันหากไปเจอคนรอ ประเภทวัยรุนใจรอนท้ังหลาย อาจจะเกิดเร่ืองราวใหญโต ดังท่ีเปนขาวอยูเสมอ

เรายืนรอแลวรออีกกวาจะไดโทรศัพทจนแทบจะหมดความอดทน ขณะท่ีชายวัยรุนคนน้ันเดินออกจากตูผานพวกเราไป เด็กหญิงผูมีน้ํ าใจคนน้ันมองตามดวยความไมพอใจ และพูดเบา ๆตามหลังไปวา �stupid� ซึ่งแปลแบบสุภาพหนอยวา �งี่เงาจริงๆ�

เราโทรศัพทเขาบานคุณจันทรศรี อาจารยนวพรรับสายพอดีบอกวา อาจารยมงคลออกไปรับที่สถานีรถไฟแลว จึงหายสงสัยที่เราเขาใจวาเขาไมไปรับเราน้ัน เพราะนัดกันคนละแหง น่ันเองเวรกรรมจริง ๆ

เราจึงรีบเดินไปที่สถานีรถไฟโดยถามทางผูคนแถวน้ันไปตลอดทาง มีอยูจุดหน่ึงที่เราแวะถามคุณลุงใจดีคนหน่ึง ซึ่งกํ าลังถือกรรไกรตัดแตงกิ่งไมอยูหนาบาน แกไดชี้ทางใหเราดวยใบหนาเปนมิตร

พอไปถึงสถานีก็ไมพบใครเลย เราจึงโทรศัพทเขาบานอีกคร้ัง อาจารยนวพรบอกวาอาจารยมงคลกํ าลังออกไปรับอีกรอบ เรายืนคอยสักครูใหญ จึงเห็นเขาเดินโบกไมโบกมือมาแตไกล โดยบอกวามารับเราตามเวลาแลวแตไมพบใครก็จึงกลับบานกอน แสดงวาเราสวนทางกันไปมาเหมือนเด็ก ๆ เลนซอนหาก็ไมปาน

อาจารยมงคลพาเราดินยอนกลับมาทางเดิม ปรากฎวาบานคุณจันทรศรีอยูหนาบานคุณลุงที่เราแวะถามทางกอนหนาน้ีน่ันเอง�โธเอย !

บานคุณจันทรศรี เปนบาน 3 ชั้น หลังใหญ โอโถงสวยงาม อยูกัน 3 คน ขณะน้ันเธอไปทํ างานยังไมกลับเขาบาน สามีทํ างานที่กรุงเบิรน วันหยุดถึงจะกลับบาน สวนลูกสาวเปนนักศึกษาแพทย และไปคางที่บานเพื่อน เสียดายที่ไมมีโอกาสพบกัน เห็นเพียงแตรูปภาพเทาน้ัน

เราช วยกันทํ าอาหารเย็นรับประทานกันอย างเอร็ดอรอย ซึ่งมีผัดผักรวม น้ํ าพริกออง ไขดาว หิว ๆ อยางน้ี

แคไดน้ํ าปลาพริกราดขาวสวยรอน ๆ ก็วิเศษสุดแลวคุณจันทรศรีเปนคนรักแมวมาก ที่บานจึงเลี้ยงแมวไวถึง 5 ตัว แตละตัวนารักนาชังและ

อวนทวน แข็งแรงดี เพราะมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ นอกจากน้ัน ยังกินอาหารตามสูตรอีกดวยคุณจันทรศรีเลาใหฟงภายหลังวา แมวเหลาน้ี เปนแมวที่เขาใหมาทั้งน้ัน ดิฉันเปนคนไมคอยชอบแมวเทาใดนัก แมจะเห็นแมวนารักเพียงใดก็ตามจะรูสึกเฉย ๆ แตชอบสุนัขมากกวา

102

พูดถึงเร่ืองแมว ถือวาเปนสัตวเลี้ยงท่ีชาวอียิปตนับถือมากมาแตโบราณ จะเห็นไดวาเทพเจาบางองคท่ีพวกเขาเคารพนับถือก็มีเศียรเปนแมว พอแมวตายก็มีการไวทุกขหรือบางทีก็สรางมัมมี่แมว เชนเดียวกับมัมมี่กษัตริย แตทางยุโรปบางประเทศถือวาแมวเปนสัตวนํ าโชครายมาสูคน วากันวา แมวท่ีฉลาดและแสนรูประจบเจาของเกงอีกท้ังสีสวยอีกตางหาก เห็นจะไมมีแมวพันธุใดในโลกสูแมวไทยได ไมวาจะเปนแมวพันธุวิเชียรมาศ หรือแมวสีสวาดก็ตาม แตสิ่งท่ีคนรักแมวพึงระวังเปนพิเศษก็คือ อยาปลอยใหขนแมวเขาจมูกเปนอันขาด เพราะจะทํ าใหเปนโรคภูมิแพและโรคหืดหอบไดงาย หากถูกแมวขวนหรือกัดจะตองรีบไปหาหมอทันทีเพื่อฉีดยากันบาดทะยัก และโรคกลัวน้ํ า เพราะแมวเปนพาหะของโรคกลัวน้ํ า (rabies) เชนเดียวกับสุนัขและลิงเปนตน

ความจริงแลว แมวเปนสัตวท่ีมีอายุยืน ซึ่งเปนท่ีมาของสํ านวน �แมวเกาชีวิต� ใครก็ตามท่ีรอดชีวิตมาไดหลาย ๆ คร้ัง คนก็มักใหสมญานามวา เปนแมวเกาชีวิตเหลาน้ีเปนตน อายุโดยเฉลี่ยของแมวนั้นประมาณ 10-18 ป มีบางตัวอาจจะอยูถึง 20 ป แตเทาท่ีมีคนทํ าสถิติไวสูงสุดคือ 27 ป

ยังจํ าไดวาคร้ังหน่ึงมีนักเรียนเคยถามวา ทํ าไมเขาเรียกขโมยประเภทนักยองเบาวา �ไอตีนแมว� ก็อธิบายใหฟงวา ตามปกติอุงเทาของแมวน้ันจะนุมน่ิม สามารถเดินไดอยางแผวเบา จึงมักเปรียบเทียบนักยองเบาเปนไอตีนแมวดังกลาวแลว

คนสวิสจํ านวนไมนอย เปนคนรักแมวเชนกัน เพราะมีการสรางหอคอยแมว (Tour desChats) ดวย แตอยูที่เมืองฟรีบรูคสในพันธรัฐฟรีบรูกส ซึ่งอยูตอนกลางคอนไปทางตะวันตกของประเทศ เปนที่นาเสียดายที่เราไมมีโอกาสไปชมเพราะใกลจะถึงเวลากลับเมืองไทยเต็มทีแลว

ขณะน้ีคนรักสุนัขและแมวในสวิตเซอรแลนดกํ าลังกลุมอกกลุมใจไปตาม ๆ กันคือ สัตว-เลี้ยงแสนรักของพวกเขามีน้ํ าหนักเกินพอดีหรือที่เรียกวา �overweight� เน่ืองจากความมีอันจะกินของเจาของจึงขุนกันเขาไป ถาไปเจอแมวประเภทตะกละก็กินกันใหญทํ าใหเกิดภาวะอวนขึ้น ผลที่ตามมาคือโรคภัยไขเจ็บตาง ๆ เชน โรคหัวใจและโรคอ่ืน ๆ อีก (คนก็เปนเหมือนกัน) ทางสัตวแพทยจึงแนะนํ าเจาของลดความอวนใหสัตวเลี้ยง โดยการพาไปว่ิงออกกํ าลังกายตอนเชา (ขอแนะนํ าน้ีเห็นจะใชไดแตสุนัขอยางเดียวเทาน้ัน กับแมวคงใชไมได เพราะยังไมเคยเห็นใครจูงแมวไปออกกํ าลังกายเลย นอกจากน้ันยังแนะนํ าใหอาหารสัตวนอยลง หรืองดใหอาหารสัปดาหละ 1มื้อจะเห็นวาตามหางหรือตลาดนัดทั่วไปจะมีอาหารสูตรลดน้ํ าหนัก (diet) ของสุนัขและแมวจํ าหนายดวย

103

พูดถึงเร่ืองการอดอาหารสัปดาหละ 1 วัน ทํ าใหนึกถึง ผอ.มานิตย ศรีพิทักษ ผอ.รร.จักรคํ าฯ ซึ่งขณะน้ีทานกํ าลังศึกษาระดับปริญญาเอกท่ีประเทศอินเดีย และเดินทางไปอินเดียบอย ๆทานเลาใหฟงวา ท่ีอินเดียเขามีการรณรงคใหประชาชนอดอาหารในวันเกิดของตนเองทุกสัปดาหเพื่อความประหยัด เชน คนเกิดวันพุธไมรับประทานอาหารทุกวันพุธ ปรากฎวาประชาชนใหความรวมมือดี ทํ าใหประหยัดเร่ืองอาหารการกินไปมาก เพราะประชาชนอินเดียมีเปนพัน ๆ ลานคน แตละวันก็จะประหยัดอาหารเปนจํ านวนมาก ฟงดูก็เขาทาดีเหมือนกัน แตท่ีเมืองไทยเรา อาหารการกินอุดมสมบูรณ อาจจะนํ าแนวคิดน้ีมาปรับใชคือ แทนท่ีจะอดก็เปลี่ยนเปนลดแทนโดยการรับประทานใหนอยลง จากน้ันคอยอดอาหารก็ได แตถาคนยังไมเคย จู ๆ ไปอดอาหาร เดี๋ยวโรคกระเพาะจะถามหาอีก คงยุงกันใหญ

กวาคุณจันทรศรีจะกลับบานก็ดึกเพราะทํ างานรอบบาย เราเขานอนกอน และมีโอกาสพบเธอในตอนเชาที่หองอาหาร อาจารยเวทิดาเองดูเธออดปลื้มใจไมได ที่ไดมาเยี่ยมบานลูกศิษยถึงตางแดนอยางไมคาดฝน และยิ่งมาเห็นบานชองใหญโตเปนหลักฐานแลว จะมีอะไรอีกเลาที่ครูบาอาจารยเราจะยินดีปรีดาเทากับการไดเห็นลูกศิษยลูกหาที่เคยสอนมามีความเปนอยูที่สุขสบายทุกอยางเชนน้ี

เราน่ังคุยกันในตอนเชาที่หองน่ังเลนหลังบาน เชาน้ีอากาศดีและทองฟาปลอดโปรงแจมใสเหลือเกิน มองผานหองกระจกออกไปจะเปนทุงหญากวางขวางเขียวขจีสํ าหรับเลี้ยงสัตว ไกลออกไปอีก ก็จะเห็นภูเขา ที่มีบานเรือนหลังเล็กใหญต้ังอยูประปราย

หลังจากรับประทานอาหารรองทองนิดหนอย ดิฉันและอาจารยเวทิดา ใชเวลาในตอนเชาออกกํ าลังกายดวยการเดินเลนทามกลางอากาศที่เย็นสบายในแสงแดดออน ๆ จุดหมายปลายทางของเราคือเชิงเขาที่เห็นจากหองน่ังเลน

เมืองซิบเนน เปนเมืองเล็กที่เงียบสงบ ผูคนมีอัธยาศัยดีตามประสาเมืองในชนบททั่วไป พูดถึงเร่ืองน้ี ทํ าใหภาพของเด็กหญิงผู มี น้ํ าใจงามคนที่ช วยเหลือเราหาตูโทรศัพทสาธารณะ เมื่อวันกอนผุดขึ้นมาในความรูสึกอีกคร้ัง

เราเดินออกทางหนาบานเจอคุณลุงผูใจดีที่ถามทางไปสถานีรถไฟเมื่อวาน ก็ทักทายแกวา �กูเทิน ทาค� (Guten Tag) นิดหนอยตามธรรมเนียม เราอยูบานเมืองเขาก็ทํ าตัวอยางเขา

104

เปนทํ านองเขาเมืองตาหลิ่วตองหลิ่วตาตาม ที่ฝร่ังเขาพูดวา �When in Rome, do as the Romansdo.� น่ันแหละ

ถนนสายเล็ก ๆ ที่ตัดไปทางทุงหญากวางหลังบานคุณจันทรศรีน้ัน เงียบสงบเหลือเกินเราเดินชมสภาพบานเมืองเขาไปเร่ือย ๆ พอมองยอนกลับมาก็เห็นบานหลังใหญสีขาวของคุณจันทรศรี ตัดกับทุงหญาสีเขียว จึงถายภาพเพื่อเปนที่ระลึกวาคร้ังหน่ึงเราเคยมาพักบานหลังน้ี แลวเดินกินลมชมวิวทามกลางอากาศที่เย็นสบายยามเชา

เมืองซิบเนนน้ีก็เหมือนกับเมืองฝร่ังทั่วไป คือไมคอยพบผูคนมากนัก นานทีปหนถึงจะเจอคนหน่ึงหรือสองคน เราเดินลัดเลาะเพื่อไปใหใกลเชิงเขามากท่ีสุด บางทีก็ผานกลุมคนงานที่กํ าลังซอมถนนอยู 2-3 คน

คอกสัตว (farmhouse) ใหญแหงหน่ึงอยูขางทาง จึงแวะเขาไปชะโงกดูขางใน ปรากฎวามีวัวและมาอยูในคอกเล็ก ๆ เต็มไปหมด ไดกลิ่นมูลสัตวโชยมาเปนระยะ ๆ

ดิฉันเห็นสายตาวัวที่มองมาทางเราแลว คิดถึงภาษาอังกฤษสํ านวนหน่ึงขึ้นมา จึงพูดกับวัววา �แหม! สงสายตาหวานเชียวนะ� อาจารยเวทิดาหัวเราะก๊ิกดวยความขบขัน คงคิดวาดิฉันทาจะบาไปแลวที่ไปพูดวาวัวตาหวาน จึงอธิบายสํ านวนที่แปลวาตาหวานหยาดเยิ้ม ภาษาอังกฤษใชคํ าวา�cow - eyes� สวนภาษาเยอรมันเขาเรียกอะไรน้ันไมทราบจริง ๆ

เราเดินกันเพลิน ผานบานผูคน ทุงหญา โบสถ แมน้ํ าลํ าธาร สวนแอปเปล ไปเร่ือยๆ จนใกลเชิงเขา เห็นอะไรที่แปลกหูแปลกตาก็อาศัยกลองคูใจบันทึกภาพไวเปนที่ระลึก

มีหนทางขึ้นเนินไปยังภูเขาที่มีตนไมหลากสีสวยงาม บานเรือนปลูกอยูหาง ๆ กันเปนระยะเราเดินผานบานคุณยายชรามากคนหนึ่งกํ าลังกวาดลานบาน ในมือถือลูกแอปเปลลูกโต คงเก็บจากตนของเพื่อนบานที่หลนเขามาในเขตบานของเธอ รูสึกแปลกใจเล็กนอยที่เห็นคนแกอยูบานเพราะสวนมากครอบครัวฝร่ังมักนิยมสงคนแกไปอยูบานพักคนชรา (nursing home) กันทั้งน้ัน

การที่เมืองซิบเนนเปนเมืองเล็ก ๆ กระมัง เขาจึงจัดระเบียบหมูบานไดดีมีแบบแผนสวยงามทั้ง ๆ ที่เปนฤดูใบไมรวง แทนที่จะเห็นใบไมหลนเกลื่อนพื้นรกรุงรัง แตทุกหนทุกแหงกลับดูสะอาดสะอานงามตา เร่ืองถุงพลาสติกสีขาวเกลื่อนขางถนนน้ัน อยูสวิตเซอรแลนดมาเกือบ2 อาทิตยแลว ยังไมเคยเห็น ทั้งน้ีเปนเพราะชาวเมืองชวยกันรักษาความสะอาด อีกทั้ง อากาศก็ดีคนมีวินัยและเคารพกฎหมาย ทํ าใหเขาพัฒนาประเทศไดเร็ว เพราะหากจะดูภาพรวมของการพัฒนาทั้งประเทศนั้น จะตองมองจากจุดเล็ก ๆ โดยเร่ิมจากครอบครัวและชุมชนกอน

สิ่งท่ีประทับใจท่ีสุดอีกอยางหน่ึงก็เห็นจะเปนลํ าธารน้ํ าสองประกาย กวางราว 5 เมตร ท่ีมีน้ํ าไหลเชี่ยวกรากและใสแจวจนแทบจะเห็นพื้นทรายทีเดียว น้ํ าเหลาน้ีเกิดจากหิมะบนภูเขาท่ีละลาย

105

ไหลมารวมกัน เห็นแมน้ํ าลํ าธารทีไร ก็อดมองยอนถึงบานเราไมได ท่ีขุนมากมีแตมลพิษท้ังน้ันดิฉันเอยกับอาจารยเวทิดาขณะท่ียืนชมธารน้ํ าบนสะพานวา หนาท่ีของเราก็คือกลับไปเลาใหนักเรียนฟงเพื่อรณรงครักษาแหลงน้ํ ากันตอ ซึ่งครูทุกคนจะตองชวยเร่ืองน้ีกันอยางจริงจัง

หลายคนอาจสงสัยวา ครูสอนภาษาอังกฤษจะไปรณรงคไดสักกี่มากนอย เพราะไมใชวิชาของเรา คนท่ีสอนเร่ืองมลพิษไดควรเปนครูท่ีสอนวิชาวิทยาศาสตร หรือวิชาสังคมศึกษาเทาน้ันถาคิดอยางน้ีก็แสดงวาทานกํ าลังเขาใจผิด เพราะสมัยน้ีการสอนแบบบูรณาการกํ าลังเปนท่ีนิยมกันมาก ครูสอนวิชาภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ ก็สอนเร่ืองมลพิษไดท้ังน้ัน โดยใชวิธีตั้งเน้ือหาหลัก(theme) ชื่อเร่ืองมลภาวะ (pollution) จากน้ันก็หาเน้ือหาและจัดกิจกรรมฝกทักษะ(skills) ตาง ๆ ท้ัง4 อยางคือ การฟง (listening) การพูด (speaking) การอาน (reading) และการเขียน (writing) ใหเกี่ยวของและสอดคลองกับเร่ืองมลภาวะ ในขณะเดียวกัน ก็ปลูกฝงนักเรียนดานคุณธรรม จริยธรรมตลอดจนใหชวยกันจัดกิจกรรมท่ีรณรงคเพื่ออนุรักษสิ่งแวดลอม เปนตน

หอนาฬิกาสูงของโบสถเมืองซิบเนนตีบอกเวลา 10.00 น ดังเหงงหงางกังวานไปทั้งเมืองราวกับจะเตือนเราวาถึงเวลากลับบานไดแลว เพราะทุกคนทางบานกํ าลังคอยรับประทานอาหารเชาอยู ซึ่งตอนน้ีไมใชอาหารเชาเสียแลว นาจะเปน �บรันช� (brunch) หรืออาหารมื้อสายมากกวาซึ่งมาจากคํ าวา breakfast รวมกับ lunch น่ันเอง

เรารีบเดินกลับบาน ผานมาตามยานธุรกิจ ในเมือง ซึ่งตอนน้ีรานรวงตาง ๆ เร่ิมเปดและมีผูคนคึกคักขึ้นบาง เราผานรานขายรองเทาแสนสวย แตดูราคาแลวก็ซื้อไมลงอีกเชนเคย เพราะแตละคูมีราคาถาเทียบเปนเงินไทยก็ไมต่ํ ากวา 5-6 พันบาท

106

คุณจันทรศรีเตรียมอาหารมื้อสาย (brunch) ไวตอนรับเราหลายอยางเชน ขนมนมเนยชนิดตาง ๆ กาแฟ ฮ็อตดอก ครัวซอง และอื่นๆ อีกหลายอยาง เห็นอาหารเหลาน้ีทีไร ทํ าใหนึกถึงนักเรียนเคยมาปรึกษาบอย ๆ วา ทํ าไมดื่มนมตอนเชามักจะปวดทองทุกที ดิฉันก็เลยอธิบายวาการดื่มนมตอนเชา ควรควบคูไปกับการรับประทานอาหารจํ าพวกแปงเขาไปดวยเสมอ อาจจะแกปญหาได ตอนหลังเด็กคนเดิมก็มารายงานวาไดปฏิบัติอยางท่ีดิฉันแนะนํ าและไมปวดทองอีก

บางทีเด็กก็นํ าปญหาท่ีครูตอบไมไดมาถามบอย ๆ คร้ันจะตอบแบบสุมสี่สุมหาเพราะกลัวเสียภูมิ ก็มิใชวิสัยของครูท่ีดี ถาไมทราบก็อาจขอเวลาไปคนควาแลวคอยอธิบายใหฟงวันหลังและตองไปคนมาจริง ๆ จะทํ าลืมไมได เขาจะมาทวงถามเอง แตบางทีก็ลืมโดยไมตั้งใจ วิธีท่ีดีท่ีสุดก็คือมีสมุดเลมเล็ก ๆ เลมหน่ึงติดกระเปาไว สํ าหรับจดสิ่งตาง ๆ เพื่อกันลืม

หรืออีกวิธีหน่ึงก็คือ สั่งใหนักเรียนไปคนมาดวย แลวนํ ามาอภิปรายกันก็ย่ิงดี เขาจะไดมีสวนรวมดวย

การคนควาหาความรูตาง ๆ สมัยน้ีทํ าไดงายเพราะมีแหลงเรียนรูมากมาย สิ่งท่ีจะชวยครูไดอยางสะดวกและรวดเร็วก็คือคนจากเว็บไซต (website) ตาง ๆ ทางอินเตอรเน็ต ยังมีครูอีกหลายคนท่ียังใชอินเตอรเน็ตไมเปนดิฉันมักจะชวยแนะนํ าเสมอ ซึ่งเปนสิ่งท่ีไมยากสํ าหรับครูเลยฝกเดี๋ยวเดียวก็ใชได แตท่ีสํ าคัญเราตองใชบอย ๆ ถึงจะคลอง มิเชนน้ันครูจะตามนักเรียนไมทัน

คุณจันทรศรีไดขับรถพาเราไปโรงงานผลิตเคร่ืองสํ าอางลาแพรรี (la prairie) ซึ่งเปนเคร่ืองสํ าอางที่มีชื่อเสียงมากผลิตในสวิตเซอรแลนด และเพิ่งไปเปดตัวที่เมืองไทย ที่หางเอ็มโพเรียมแถวสุขุมวิท 24 แตเด๋ียวน้ีคิดวามีจํ าหนายทั่วไปแลว คุณอัมพันแนะนํ าวา ราคาถูกคร่ึงตอคร่ึง พอดีพรรคพวกทางเมืองไทยฝากซื้อมาหลายตัว แตพอไปถึงบริษัทกลับซื้อไมได เพราะเขาเพิ่งเปลี่ยนนโยบายไมขายสินคาคร่ึงราคาใหลูกคาอ่ืน ๆ จะขายใหเฉพาะพนักงานบริษัทเทาน้ัน แมจะตอรองอยางไรก็ไมยอมและแนะนํ าใหเราไปซื้อที่หาง Co-op ซึ่งอยูฝงตรงขามบริษัท เราจึงหมดโอกาสท่ีจะไดซื้อเคร่ืองสํ าอางคุณภาพดีราคายอมเยาสํ าหรับเพื่อน ๆ ที่ฝากซื้ออยางนาเสียดาย สํ าหรับดิฉันรูสึกเฉย ๆ เพราะไมคอยชอบใชเคร่ืองสํ าอางโดยเฉพาะย่ีหอแพงอยูแลว

คุณจันทรศรีขับรถเลยมาสงเราที่สถานีรถไฟซูริค เพราะเธอจะตองรีบไปทํ างานในตอนบายตอ แตกวาจะจอดรถได ตองวนหาที่จอดหลายรอบ เมืองใหญ ๆ ไมวาเมืองไหนในโลกก็เจอแตปญหาการจอดรถทั้งน้ัน ซึ่งเปนเร่ืองที่นาเบื่อหนายเหลือเกิน

107

พูดถึงการจอดรถในเมืองใหญน้ี ทํ าใหนึกถึงกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญ่ีปุน ท่ีดิฉันเคยไปเยือนเมื่อ 5 ปกอน ท่ีจอดรถของเขาเปนหองสี่เหลี่ยมเล็กๆ โดยใหเราขับรถเขาไปจอดขางในแลวใชลิฟตชักรอก นํ ารถข้ึนไปจอดบนชั้นตาง ๆ ท่ีมีอยูหลายชั้นและจอดไดหลายรอยคัน ทํ าใหบริษัทท่ีดํ าเนินธุรกิจรับฝากรถอยางเดียวรวยไมรูเร่ืองไปเลย

จากซูริคเราพากันน่ังรถไฟ IR ซึ่งเปนรถไฟสองชั้นไปลูเซิรนตอ เพื่อไปสงอาจารยมงคลและอาจารยนวพรติดตอสอบถามขอมูลเกี่ยวกับสถานที่ฝกงานของลูกชายชื่อ �ณภู� ซึ่งขณะน้ีกํ าลังเรียนการโรงแรมในเมืองไทย เห็นวาใกลจบเต็มทีแลว และมีโครงการจะมาฝกงานที่สวิตเซอรแลนด วากันวาที่น่ีเขามีการเปดสอนวิชาการโรงแรมท่ีมีชื่อเสียงและดีที่สุดของโลก

โรงเรียนที่วา ชื่อ Schweizerische Hotelfachshule Luzern (SHL) ต้ังอยูในโรงแรมMontana บนเนินเขาขางทะเลสาบลูเซิรน เราพากันหาหนทางเพื่อไปโรงแรมดังกลาว โดยใหอาจารยเวทิดาน่ังเฝาสัมภาระอยูริมทะเลสาบ

จากถนนที่เชิงเขา เราข้ึนเคเบิลคาร (cable car) ชนิดเดียวกันกับเคเบิลคารที่ขึ้นดอยสุเทพเพื่อไปยังโรงเรียนดังกลาว แตกวาจะหาสถานีพบ ก็หลงเขาบานผูคนที่อยูแถวน้ันอยูหลายคร้ัง ทํ าเอาเหนื่อยหอบไปตาม ๆ กัน

โรงเรียน SHL ต้ังอยูบนชั้น 6 ของโรงแรม เจาหนาที่ใหการตอนรับดีมากและอธิบายขอมูลตาง ๆ อยางละเอียดพรอมทั้งมอบเอกสารใหดวย ถาไมเขาใจก็ใหดูรายละเอียดในเอกสารอีกที ใครสนใจเพิ่มเติมสามารถเขาดูทางอินเตอรเน็ตได ที่เว็บไซต www.shl.ch หรือสงสัยประการใดใหสอบถามไปท่ี info@shl.ch ไดเลย

ตรงประตูทางออกเพื่อลงเคเบิลคาร ทางโรงเรียนจัดลูกอมและแอบเปลสีแดงสดใสนารับประทานใสเต็มตะกรา ไวบริการแกผูคนที่มาติดตอกับทางโรงเรียน เราหยิบคนละ 1 ลูก และเผ่ืออาจารยเวทิดาอีก 1 ลูก พรอมกับลูกอม 2-3 เม็ด

108

อาจารยเวทิดาน่ังหลับเฝาของบนมาน่ังยาวริมทะเลสาบ โชคดีที่ไมมีใครมาขโมยสิ่งของ ถาจะวาไปบรรยากาศมันนาหลับจริง ๆ ทองทะเลเงียบสงบสีเขียวครามสวยงามเย็นตา โดยมีเทือกเขาสีฟาที่มีหิมะปกคลุมประปรายอยูยอดเขาสลับซับซอนเปนฉาก ในทองฟามีนกนางนวลโบยบินไปมา ลมพัดโชยเบา ๆ และอากาศแสนเย็นสบายออกปานนั้น บวกกับความออนเพลียที่เดินตะลอน ๆมาตลอดทั้งวัน จึงทํ าใหเธอเผลอหลับไปอยางชวยไมได

เราเดินผานผูชายสูงอายุกลุมหน่ึงที่กํ าลังเลนเปตอง (pétanque) อยูดวยความเพลิดเพลินขางทะเลสาบ ตามฝงทะเลมีฝูงนกนางนวล นกพิราบ และหงส กํ าลังจิกกินอาหารที่มีผูคนนํ าเศษขนมปงและเมล็ดขาวโพดมาโปรยใหอยูหลายจุด

สถานที่อีกแหงหน่ึงที่เรามาติดตอเพื่อใหณภูมาฝกงานคือ ภัตตาคารอาหารไทยช่ือ �ThaiGardens� ของโรงแรมแอสโตเรีย (Astoria Hotel) แตไมพบผูจัดการเพราะเขาเพิ่งออกไปธุระเจาหนาที่จึงใหนามบัตรเขาไวเพื่อใหเราติดตอกลับภายหลัง

จากน้ันก็น่ังรถไฟกลับเมืองคาม บังเอิญไดที่น่ังใกลกับทหารหนุมนอยหนาตาดี 2 นายแตงตัวเหมือนทหารพรานบานเรา คงเพิ่งกลับมาจากการฝก ดิฉันถามเปนภาษาเยอรมันวา �สพรีเซิน ซี เองลิช?� ซึ่งแปลวา คุณพูดภาษาอังกฤษไดไหม หน่ึงในจํ านวนน้ันตอบวา �ยา� (ja) ซึ่งแปลวา �ได� ก็เลยถือโอกาสสัมภาษณเกี่ยวกับเร่ืองของทหารสวิส เพราะสงสัยมานานแลว จึงพอมีความรูเลาสูกันฟงบาง

เขาเลาวาผูชายสวิสทุกคนตองเปนทหาร และจะตองเขารับการฝกทุกปจนครบหลักสูตร บางคนขยันฝกก็จบเร็ว แคอายุ 31-32ปก็จบแลว แตบางคนกวาจะฝกครบหลักสูตรก็อายุปาเขาไป 43-45ปก็มีมาก ใครทํ างานก็ลางานมาฝกได และนายจางตองใหความรวมมือ ฉะน้ันท่ีวาประเทศสวิตเซอรแลนดไมมีทหารน้ันจึงไมเปนความจริง เพียงแตไมมีหนวยงานทหารเปนกรมกองเทาน้ัน แตถามีอะไรเกิดข้ึนก็มีการเตรียมพรอมทุกเมื่อ ดูเขาท้ังสองภาคภูมิใจมากท่ีไดรับใชชาติดวยการเปนทหาร

พูดถึงเร่ืองน้ี จะตางจากเมืองไทยเราท่ีชายไทยเมื่ออายุครบ 17 ปทุกคน จะตองข้ึนทะเบียนเปนทหารและไปรับการคัดเลือกโดยการตรวจรางกายและจับสลาก เมื่ออายุ 21 ป เพื่อเขารับการฝก

109

ทหารเปนเวลา 2 ป ติดตอกัน ยกเวนนิสิตนักศึกษา แตถาเรียนจบก็ตองไปรับการคัดเลือกทุกคนใครไมไปก็จะไดรับโทษ หรือระหวางการฝก หากใครหนีทหารก็จะไดรับโทษเชนกัน

สมัยกอนคนไมอยากเปนทหาร จะไปจับฉลากเปนทหารคราวใด ก็มักจะมีการบนบานศาลกลาวคือ ขอรองใหสิ่งศักดิส์ิทธิช์วยเหลือกันเสมอ หรือไมก็หาทางติดสินบนเจาหนาท่ีท่ีเกี่ยวของ แตสมัยน้ีทางกระทรวงกลาโหม มีการโฆษณาประชาสัมพันธดีข้ึน พยายามปลูกฝงความคิดวาการเปนทหารเปนสิ่งท่ีนาภาคภูมิใจ เปนหนาท่ีของลูกผูชายท่ีจะตองปกปองบานเมือง คนท่ีผานการฝกทหารจะเปนคนเขมแข็งและมีระเบียบวินัย อีกท้ังยังแสดงถึงความรักชาติ พรอมท่ีจะพลีชีวิตเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย สมัยน้ีจึงมีคนอยากเปนทหารกันมากข้ึน บางคนถึงกับสมัครไปเปนทหารโดยไมขอจับฉลากก็มีมาก บางหนวยคัดเลือกทหาร ปรากฎวามีผูสมัครทหารเกินความตองการของหนวย จนตองจับฉลากคัดออกก็มี จึงเปนสิ่งท่ีนายินดีท่ีประชาชนมีความเขาใจในเร่ืองน้ีดีข้ึนกวาสมัยกอนมาก

เราลงรถไฟที่เมืองคาม พบแพนดาพอดี จึงเดินเขาบานดวยกันเพราะบานเธออยูใกลกันแพนดาถือโอกาสชวนเราไปเที่ยวงานแสดงสินคาที่เมืองซุกในตอนคํ่ า ซึ่งเขาจัดงานในชวงวันที่ 19-27 ตุลาคม ถาสนใจก็ใหไปหาเธอที่อพารตเมนตเวลา 1 ทุม เพราะแอนด้ีสามีของเธอจะขับรถไปเอง

เราเดินเขาบานแมจะเหน็ดเหน่ือยแตก็ดีใจที่ไดกลับบานอีกคร้ัง จริงอยูไมใชบานของเราแตบางทีก็เผลอคิดวาบานคุณอัมพันคือบานของเราทุกที พอไปไหนมาไหนกลับเขาบานก็จะรูสึกอบอุน เร่ืองน้ีอัธยาศัยอันดีงามของเจาของบานก็มีสวนอยูมาก เพราะคุณอัมพันบอกเราเสมอวาขอใหอยูอยางสบายเหมือนเปนบานของเราเองและอยาไดเกรงใจเลย หรือที่สํ านวนภาษาอังกฤษใชวา �Make yourself at home� น่ันเอง�แหม�ชางนารักเหลือเกินสองศรีพี่นอง�อัมพัน และจันทรศรี�

top related