perform 6 0

อาจารย์อธิเทพ งามศิลปะเสถียร (อ.โบ๊ท)อาจารย์ฐิติพล เลิศลลิตวงศ์ (อ.เจมส์)อาจารย์ทศพล ทวีพงษ์ (อ.กบ)อาจารย์กุสุมา จันทมาตร (อ.เบสท์)อาจารย์สิโรจน์ ติลกรัตนกุล (อ.ตุลย์)

สาระที่ 1 : ภาษาเพื่อการสื่อสาร

มาตรฐานต1.1 : เข้าใจกระบวนการฟังและการอ่านสามารถตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และนำความรู้มาใช้อย่างมีวิจารณญาณ

มาตรฐานต1.2 : มีทักษะในการสื่อสารทางภาษาแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารแสดงความรู้สึก และความคิดเห็นโดยใช้เทคโนโลยีและการจัดการที่เหมาะสมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต

มาตรฐานต1.3 : เข้าใจกระบวนการพูดการเขียนและสื่อสารข้อมูลความคิดเห็น และความคิดรวบยอดในเรื่องต่างๆได้อย่างสร้างสรรค์มีประสิทธิภาพและมีสุนทรียภาพ

สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐานต2.1 : เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

มาตรฐานต2.2 : เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับ ภาษาและวัฒนธรรมไทยและนำมาใช้อย่างมีวิจารณญาณ

สาระที่ 3 : ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

มาตรฐานต3.1 : ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการพัฒนาและเปิดโลกทัศน์ตนเอง

สาระที่ 4 : ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐานต4.1 : สามารถใช้ภาษาต่างประเทศตามสถานการณ์ต่างๆทั้งในสถานศึกษาและสังคม

มาตรฐานต4.2 : สามารถใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้การทำงานการประกอบอาชีพ

การสร้างความร่วมมือและการอยู่ร่วมกันในสังคม

"ก่อนจะเรียนหรืออ่านหนังสือ เรามาดูกันก่อนดีกว่าเราจะสอบอะไรกันบ้าง"

สาระที่ 1 : ภาษาเพื่อการสื่อสาร“85”ข้อ

สาระที่ 2 : ภาษาและวัฒนธรรม“15”ข้อ

สาระที่ 3 : ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น(เป็นเนื้อหาที่แทรกในสาระที่1และสาระที่2)

สาระที่ 4 : ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก(เป็นสถานการณ์ที่ปรากฏในการสื่อสารทางภาษาที่ปรากฏ

ในสาระที่1และสาระที่2ที่มีการวัด) รวม (จำนวนข้อ) “100” ข้อ

ที่มา จากสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ประมวลรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษ O-NET2

ภาษาอังกฤษ O-NET 3

Course Outline : เรียนอะไรกันดี...

รู้กันไปแล้วว่าข้อสอบจะออกเกี่ยวกับอะไรบ้าง ก็มาดูกันดีกว่าเราจะเรียนอะไร

Part 1 : Conversation หลักการทำข้อสอบบทสนทนา

ฝึกทำข้อสอบจริง

สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ข้อสอบ“บทสนทนา”O-NETที่ผ่านมาแบ่งประเภทตามลักษณะข้อสอบเป็น2ส่วนคือ1. Conversation 2. Situational Dialogs สิ่งที่สำคัญของการทำข้อสอบส่วนนี้ก็คือการใช้สำนวน

ต่างๆที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันอาทิการถามทาง

การขอความช่วยนั้นแหละที่รักคือที่เราจะเรียนกัน

Part 2 : Error Identification เทคนิคการทำข้อสอบ

หลักไวยากรณ์ที่มักออกข้อสอบ 13 เรื่อง


การหาตัวเลือกที่ใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษผิดไม่ใช่

เรื่องง่ายพื้นฐานที่แน่นปึกเท่านั้นที่เราต้องการดังนั้น

ก่อนการทำข้อสอบส่วนนี้คงจะต้องสรุปไวยากรณ์ที่มัก

จะออกขอ้สอบกอ่นรบัรองวา่คณุจะรกั“grammar”ขึน้เยอะ

Part 3 : Wrting โครงสร้างประโยค

คำเชื่อมและเครื่องหมายเพื่อเดาความหมาย

ของคำศัพท์


พื้นฐานการใช้หลักภาษาที่ดีย่อมส่งผลที่ดีต่อการเขียน

แต่ในการทำข้อสอบในส่วนนี้อาจไม่ต้องปูพื้นฐานทาง

ไวยากรณ์ใหม่ทั้งหมดจับต้นชนปลายเทคนิคลัด

ต่างๆจะทำให้น้องๆทำข้อสอบในส่วนนี้ได้อย่าง

รวดเร็วรับรองผลแน่นอน......

Part 4 : Reading หลักการอ่านจับใจความและการทำข้อสอบ

Reading ลักษณะคำถามที่มักออกข้อสอบ


ข้อสอบแบบReadingเป็นการวัดความรู้และประสิทธิภาพในการอ่านโดยเน้นที่การอ่านจับใจความ

และการเดาความหมายของคำศัพท์ซึ่งเป็นส่วนที่

ออกขอ้สอบมากทีส่ดุและยากทีส่ดุดงันัน้วธิเีดยีวทีจ่ะ

พชิติข้อสอบReadingได้อย่างรวดเร็วก็คือการประยุกต์ใช้เทคนคิลงไปในตวัขอ้สอบบอกไดเ้ลยวา่

หากใครมีsenseที่ดีแล้วการตอบคำถามให้ถูกก็ไม่ใช่เรื่องยาก

Relative Pronouns คือ คำที่ทำหน้าที่เชื่อมประโยคกับประโยค เช่น who, whom, whose, which, what, that, as และมีวิธีใช้ไม่ยุ่งยากมากนัก และเราก็เคยเรียนกันมาเยอะแล้ว

ตารางการใช้แบบง่ายที่สุดที่ควรจะจดจำได้คือ

หน้าที่ บุคคล สิ่งของ สถานที่

ประธาน (Subject) Who which where

กรรม (Object) whom which where

บอกความเป็นเจ้าของ (Possessive) whose of which In whichAt which

1. Who “ผู้ซึ่ง” ใช้กับคน ทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคย่อย (สังเกตได้ว่ามี V. ต่อท้าย) >> Christy Miller, who went there, is my best friend. >> He is the man who kissed Vivian yesterday.

2. Whom “ผู้ซึ่ง” ใช้กับคน ทำหน้าที่เป็นกรรมในประโยคย่อย (สังเกตได้ว่ามี Clauseต่อท้าย)

>> My sister, whom you met at Central last week, needs your help. >> She introduced me to her new boyfriend about whom I knew nothing.

3. Whose “ผู้ซึ่ง...ของเขา” ใช้กับคน ทำหน้าที่บอกความเป็นเจ้าของของคนๆ นั้น

>> This is Mr. Fan, whose wife teaches Chinese. >> The man whose daughter I am going to marry is a soldier.

4. Which “ซึ่ง” ใช้กับสัตว์ และสิ่งของ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมก็ได้

>> The dog, which bit your cat, is mine. >> The wooden doll which he made for me was broken.

จำไว้ให้้ดีนะว่า หาก Relative Pronoun ตัวไหนเป็นกรรม จะสามารถละออกได้เสมอ

The Rose which you gave me on Valentine’s day last year is not red.

>> The Rose you gave me on Valentine’s day last year is not red.

TIP

5. Of which “ซึ่ง...ของมัน” ใช้กับสัตว์และสิ่งของ ทำหน้าที่บอกความเป็นเจ้าของของสิ่งๆ นั้น >> The dog, of which its tail was cut, is barking at you ! >> The book, of which the cover is black, is about Taj Mahal.

Relative Pronouns and Clauses

ภาษาอังกฤษ ONET2


6. that “ที่ / ซึ่ง” ใช้ได้ทั้งคน สัตว์ และสิ่งของ (ใจกว้างมาก) ทำหน้าที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมก็ได้

>> I love you than anybody else that I ever knew. >> This is the same story that I heard a few days ago.

7. as “เช่น”, “เหมือนดังเช่น” ใช้ร่วมกับคำว่า such และ same มีการใช้ดังนี้จ๊ะ

such N. as/ the same N. as >> I never do such things as you say. >> Meet me at the same place as you did last year.

การใช้ “that” เป็น Relative Pronoun เป็นเรื่องที่น่าสนใจนะ เพราะว่า that เป็นคำที่ค่อนข้างจะ

ใช้ได้เยอะ (ใจกว้างไง) และจะละได้หาก that ทำหน้าที่เป็นกรรม คือ ใส่ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้ (ถ้า that เป็น

ประธานจะละไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ)

>> I have no money (that) I can lend you. >> The car (that) you’re talking about has been sold. >> Do you have a book that is about Thai royal family ? >> An animal that stung you is only a bee. นอกจากนี้ยังมีทิปเล็ก ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ that อีก ดูจ๊ะ

1) ใช้ that เสมอกับ Adj. ขั้นสูงสุด Superlative Degree (บทที่ 15)

>> He is the most patient man that I have ever known. >> She is the best student that I have every seen.

2) ใช้ that เสมอหากมีเลขนับลำดับที่ประกอบอยู่ข้างหน้า

>> She is the third wife that he married to. >> France is the first country that I’m going to visit.

3) ใช้ that คู่กับคำ Adj. บอกปริมาณ เหล่านี้ด้วยเช่น only, many, few, all >> “Money” is only thing that she needs most >> He has so many plans that he offers to us. >> A few people that waited began to buy the tickets. >> They are all products that we sale.

4) ใช้ that เป็น Relative Pronoun แล้วห้ามม ีcomma ขั้นหน้า that >> The newspaper that he read makes him sad. >> She is the next person that you should meet.

5) ใช้กับ that กับ which สลับกันได้เสมอ ยกเว้น คน ห้ามใช้ which และหากคนนั้น

มี Adj. ขั้นสูงสุด มาขยายห้ามใช้ which (ดูหลักข้อข้างบนสิ)

>> I have lost the earrings that (which) you lent me. >> He is the best guy that I’ve ever known.

TIP


6) ใช้ that เสมอ หากหน้า that นั้นเป็น Adj. ผสม ได้แก่คำดังต่อไปนี้

-one -thing -where -bodysome someone something somewhere Somebodyevery everyone everything everywhere EverybodyAny anyone anything anywhere Anybodyno no one nothing nowhere Nobody

>> There is nothing that I can’t do for you. >> Is there anything that can be used to open this can ?

7) ใช้ that เมื่ออยู่หลังสำนวนว่า It is หรือ It was (จัดเป็น Relative Adverbs) >> It is incredible that I’ve done all this by myself. >> It was impossible that he couldn’t remember my name. ยังมี Relative Adverbs อื่น ๆ นอกจากข้อ 7 อีก เช่น

Relative Adverbs คือ Adverbs ที่บอกถึงเวลา สถานที่ และเหตุผล

what = สิ่งซึ่ง เช่น This is what I dream.

where = ที่ซึ่ง เช่น Go where you want to go.

when = เมื่อ เช่น When I fall in love, it will be forever. why = ทำไมถึง เช่น This is why I love you.

how = อย่างไรที่ เช่น I don’t know how he came.

กลยุทธ์นี้เป็นขั้นไฮโซสุด ๆ จำไว้ให้ดีนะ

1. ในกรณีที่ด้านหลัง Relative Pronoun เป็นกรรมของบุพบท (คือ มีคำบุพบท

ประกอบในประโยคหลัง Relative Pronoun) เราสามารถย้ายบุพบทนั้น ๆ เอามา

ไว้ด้านหน้า Relative Pronoun ได ้ >> Liz, whom the teacher is tired of, is always absent from school. >> Liz, of whom the teacher is tired, is always absent from school. 2. ในการบอกความเป็นเจ้าของ จริง ๆ แล้วสามารถใช้ได้ 2 โครงสร้างใหญ่ ๆ คือ

2.1 ใช้ whose หรือ of which แล้วตามด้วยประโยค (อันนี้สอนไปแล้ว)

2.2 ใช้ with + ADJ. แล้วตามด้วย N.

>> The book of which the cover is red is interesting. >> The book with the red cover is interesting. >> The guy, whose eyes are very pretty, is Gemma’s husband! >> The guy with very pretty eyes is Gemma’s husband!

TIP


สรุปสูตรที่ใช้ในการจำ Relative Pronouns ทั้งหมด Relative Pronouns คำขยายง่ายมากๆ ....

หากเป็นคนใช้ who, whom, whose ไม่ใช่มนุษย์ใช้ what, which, where ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นเจ้าของ ใช้ of which ใช้ of which

Relative Clauses หรือ Adjective Clauses คือ ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย Relative Pronouns และหน้าที่ของมันคือ ขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่อยู่ข้างหน้าตัวมัน มี 2 ชนิด

1. Defining Relative Clause 2. Non-Defining Relative Clause

1. Defining Relative Clause คือ ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่อยู่ข้างหน้าให้ได้ใจความสมบูรณ์หรือชัดเจนขึ้น และจะไม่มี

เครื่องหมาย comma อยู่ข้างหน้า Relative Clause >> The boy who obeys his parents is a good boy.

>> The fish which you’ve just cooked is off!

2. Non - Defining Relative Clause คือ ประโยคที่ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่อยู่ข้างหน้าให้ได้ใจความสมบูรณ์หรือชัดเจนขึ้น แต่จริงแล้วไม่

ต้องขยายเพิ่มเติมก็ได้ ไม่จำเป็นเพราะคำนามนั้นมีความหมายในตัวมันเองชัดเจนอยู่แล้ว และต้อง มีเครื่องหมาย

comma อยู่ข้างหน้า Relative Clause ที่สำคัญคือ ห้าม ใช้ that กับ Relative Clause ประเภทนี้เด็ดขาด

>> Tracy P., whom you know him well, is a very nice person.

>> That silk, which she bought from Jatujak Market, is very beautiful.

Special Verbs เป็น V. พิเศษ ที่สามารถนำไปดัดแปลงเป็น Adj. ขยายคำนามได้ มีการใช้ 2 รูปแบบ

1. หากใช้เป็น V. ธรรมดา จะแปลว่า ทำให้...

>> His tale amuses children.---นิทานของเขาทำให้เด็กๆ สนุก

>> She Pleases me.---เธอทำให้ฉันพอใจ

2. หากใช้เป็น Adj. จะมี 2 รูป

เติม ing จะแปลว่า น่า...

>> This film is exciting.---ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าตื่นเต้นเร้าใจ

>> This performance is boring.---การแสดงนี้คงน่าเบื่อ

เติม ed จะแปลว่า รู้สึก...

>> I am excited by this film.---ฉันรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจในภาพยนตร์เรื่องนี้

>> I am bored by this performance.---ฉันรู้สึกเบื่อในการแสดงนี ้

Verb of Feeling

Fascinate ทำให้หลงใหล Disappoint ทำให้ผิดหวัง

Please ทำให้พอใจ Annoy ทำให้รำคาญ

Amaze ทำให้ประหลาดใจ Excite ทำให้ตื่นเต้น

Confuse ทำให้สับสน Surprise ทำให้ประหลาดใจ

Bore ทำให้เบื่อ Astonish ทำให้ประหลาดใจ

Amuse ทำให้ขบขัน Interest ทำให้สนใจ

Thrill ทำให้ตื่นเต้น Entertain ทำให้บันเทิง

Schock ทำให้ตกใจสุดขีด Disturb ทำให้ยุ่งเหยิง

Satisfy ทำให้พอใจ และ charm ทำให้หลงใหล

Tire ทำให้เหนื่อย

Frighten ทำให้หวาดกลัว

Special Verbs


Agreement of Subjects and Verbs

Agreement of Subjects and Verbs หมายถึง การใช้กริยาให้สอดคล้องกับประธาน มีหลักง่ายๆ ดังนี ้

1. ประธานเป็นเอกพจน์ ในรูป Present Simple Tense กริยาเติม s หรือ es ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ไม่เติม

>> He walks home everyday. >> They walk home everyday.

2. ประธาน 2 ตัวที่เชื่อมด้วย and เป็นกริยาพหูพจน์

>> Brooklyn and Kennedy are friends. >> He and I make all students happy.

ข้อสังเกต

2.1) ถ้าประธาน 2 ตัว มี and เชื่อม เป็นคนเดียวกัน เป็นสิ่งเดียวกัน กริยาต้องเป็นเอกพจน์

The manager and headmaster of this school is my father. (ผู้จัดการและครูใหญ่ของโรงเรียนนี้คือ พ่อฉันเอง : manager และ headmaster เป็นคนเดียวกัน) The great novelist and teacher is going abroad.

(นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่และครูจะไปต่างประเทศ : novelist และ teacher เป็นคนเดียวกัน)

หลักสังเกตว่าประธานมีกี่ตัว ก็ให้สังเกตจาก Article หากมี Article ตัวเดียวก็เป็นเอกพจน์

แต่หากมี 2 ตัวขึ้นไปก็เป็นพหูพจน์ เช่น

>> The white and black cat is mine. (แมวที่มีสีขาวและดำเป็นของฉันเอง : แมวตัวเดียว แต่มีสองสี)

>> The white and the black cats are mine. (แมวที่มีสีขาวและแมวที่มีสีดำเป็นของฉัน เอง : มีแมวสองตัว)

TIP

2.2) ถ้าประธาน 2 ตัว มี and เชื่อม และเราถือว่าเป็นหน่วยเดียวกัน (คือ มันต้องไปด้วยกันเสมอ)

กริยาต้องเป็นเอกพจน์

>> Curry and rice is Kru Tatah’s favorite dish.

(ข้าวราดแกงเป็นอาหารจานโปรดครูตาต้า)

>> Whisky and soda is recommended. (วิสกี้และโซดาถูกแนะนำให้ลองดื่ม)

7ภาษาอังกฤษ ONET 7


3. ประธาน 2 ตัวที่เชื่อมด้วยคำเหล่านี ้กริยาใช้ตามประธานตัวแรก

with plus in addition to including excluding besides but except along with

(กับ, ด้วย)

(รวมทั้ง, บวก)

(รวมทั้ง)

(รวมทั้ง)

(ไม่นับ)

(นอกจาก)

(ยกเว้น)

(ยกเว้น)

(พร้อมด้วย)

together with

accompany by in accompany with not not____but_____

like as well as no less than




(ไม่ใช่)

(ไม่ใช่___แต่___)

(เช่นเดียวกับ)

(เช่นเดียวกับ)

(เช่นเดียวกับ, ไม่น้อย

ไปกว่า)

>> Mother, with her children, is going to the movie. >> She, not you, was warned not to make any mistakes again.

4. ประธาน 2 ตัวที่เชื่อมด้วยคำเหล่านี้ กริยาใช้ตามประธานตัวที่ 2 (หรือประธานทีใกล้กริยามากที่สุดนั่นแหล่ะ)

Either______or ____ neither______or ____ not only ______ but also _ no______no______ ______or ______

(ไม่ ______ก็ ______)

(ไม่ทั้ง ______และ ______)

(ไม่เพียงแต่ ______แต่ยัง

(ไม่ ______ไม่ ______)

(______หรือ ______)

>> Either you or I am going to answer the phone. >> Neither you nor he is to be blamed.

>> Not only Nomi but also her friends are able to speak French.

>> No money and no friends are waiting for me. >> My mother or my father is leaving for Dubai this evening.

5. ประธานที่เป็นคำเหล่านี ้กริยาต้องเป็นเอกพจน์เสมอ

-one -thing -where -body

some someone something somewhere somebody

every everyone everything everywhere everybody

Any anyone anything anywhere anybody

no no one nothing nowhere nobody

>> Someone is going to tell you. >> No one loves her. >> Everybody knows that you’re nut. >> Either of the nurses is here.


ถึงแม้ว่า Each และ Every จะมี and เชื่อม คำนาม 2 ตัว

ที่อยู่หลังมัน กริยาก็ยังเป็นเอกพจน์เสมอ

>> Each man and woman works hard.

>> Every boy and girl has to come here tonight.

TIP

6. ประธานบอกเล่าตัวหนึ่งและปฏิเสธตัวหนึ่ง กริยาใช้ตามประธานบอกเล่า (จริงๆ ได้แอบพูดไปแล้ว)

>> He, not I, was sad.---(เขานะไม่ใช่ฉันที่เศร้า)

>> Not riches, but honor makes the man.---(ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติแต่เกียรติยศที่ทำให้คนเป็นคน)

7. ประธานเป็นคำนามพหูพจน์ที่บอกจำนวนเงิน / เวลา / ระยะทาง / น้ำหนัก / แร่ธาต ุถือว่าเป็นคำนามที่มี

ความหมายเป็นเอกพจน์ กริยาใช้รูปเอกพจน์

>> A hundred pounds is very much for her. >> Three days is a short time to wait for him.

>> Ten kilometers is a long distance to walk in one hous.

8. ประธานเป็นคำนามที่เป็นชื่อหนังสือ อาจเติม s หรือ es ได ้แต่กริยาใช้รูปเอกพจน์

>> The Arabian Nights is still a great favorite. >> Lord of the Rings is an interesting fiction.

>> Harry Potter was written by J.K. Rowling.

9. คำนามที่มีรูปพหูพจน์ (มี s ลงท้าย) แต่ความจริงเป็นเอกพจน ์กริยาใช้รูปเอกพจน์ (ส่วนมากจะเป็นชื่อวิชา)

mathematics วิชาคณิตศาสตร์ mumps คางทูม

physics วิชาฟิสิกส์ measles โรคหัด

economics วิชาเศรษฐศาสตร์ news ข่าว

linguistics วิชาภาษาศาสตร์ ashes ขี้เถ้า

genetics วิชาพันธุศาสตร์ alms ของบริจาค

civics วิชาพลเมือง means วิธี

politics การเมือง summons หมายเรียกตัว

>> Mathematics is my poorest subject. >> Physics is not easy !

10. คำนามที่มีรูปเอกพจน์ (ไม่มี s ลงท้าย) แต่ความจริงเป็นพหูพจน์ กริยาใช้รูปพหูพจน์

clergy คณะสงฆ์ children เด็กๆ / ลูกๆ

cattle พวกวัวควาย police เหล่าตำรวจ

poultry พวกสัตว์ปีก military เหล่าทหาร

vermin พวกสัตว์ที่ทำลายพืช gentry พวกผู้ดี, ชนชั้นสูง

people ประชาชน minority คนหมู่น้อย, ชนกลุ่มน้อย

public มหาชน majority คนหมู่มาก

>> People are dying.

>> The cattle are useful for farmers.


11. คำนามต่อไปนี้เป็นคำนามพหูพจน์เสมอ เพราะจะมาเป็นคู่ๆ หรือมาเป็นจำนวนมากในคราวเดียวกัน

goods สินค้า scissors กรรไกรตัดผ้าหรือกระดาษ

clothes เสื้อผ้า sheers กรรไกรตัดกิ่งไม้

brains ความคิด glasses แว่นตา

premises บ้าน/ที่ดิน trousers กางเกงขายาว

proceeds เงินรายได้จากการกุศล drawers ลิ้นชัก

assets ทรัพย์สมบัติ arms อาวุธ

wages ค่าจ้าง billiards บิลเลียด

>> The trousers that I bought don’t fit me at all. >> His glasses are very ugly.

12. คำนามต่อไปนี้เป็นคำนามบอกหมวดหมู่ (Collective Noun) จะใช้กริยาเอกพจน์หรือพหูพจน์

จะขึ้นอยู่กับความหมายที่ผู้พูดต้องการจะสื่อ

1) ถ้ามีความหมายเป็นหนึ่งเดียว หรือไปในทางเดียวกัน ใช้ V. เอกพจน์

>> The baseball team is playing well.---(ทีมเบสบอลทั้งทีมเล่นได้ดี)

2) ถ้ามีความหมายแยกแยะเฉพาะ หรือเป็นรายตัว ใช้ V. พหูพจน์

>> The baseball team are having dinner.---(ทีมเบสบอลแต่ละคนไปทานอาหารเย็น)

และ Collective Noun ที่ว่ามีดังนี้

family สินค้า jury คณะลูกขุนteam ทีม crew ลูกเรือgroup กลุ่ม fleet กองเรือcrowd ฝูงคน government รัฐบาล committee คณะกรรมการ cabinet คณะรัฐมนตรีseries สิ่งที่เป็นตอน ๆ congress สภา

13. ประธานที่เป็นคำเหล่านี้ กิริยาจะเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์ ขึ้นอยู่กับคำนามที่ตามหลังมา คือ

all of lots of half of a lot of most of some of none of plenty of heaps of _____percent of 13.1) ถ้าตามด้วย N. นับไม่ได้ ใช้ V. เอกพจน์

>> All of the money has been spent. >> All of this furniture is new.

13.2) ถ้าตามด้วย N. พหูพจน์ใช้ V. พหูพจน์

>> None of the boys are here. >> Twenty percent of the houses were insured.


14. ประธานของประโยคที่ขึ้นต้นด้วยกริยาวลี คือ to V1 หรือ Ving กริยาใช้รูปเอกพจน์

>> To drink one time a day is nice >> Smoking is bad to your health.

15. ประธานของประโยคที่มีกลุ่ม Preposition มาขยายต่อท้าย เราจะถือเอาคำนามที่ถูกขยายเป็นประธาน

ที่แท้จริง และกริยาจะใช้ตามประธานตัวนั้น

>> The Queen of England is coming to England.

16. ประธานของประโยคทีม่ ีRelative Clause มาขยาย กรยิาใน Relative Clause ใชต้ามประธานตวัทีถ่กูขยาย

>> Kru Tatah who is pretty will come back.

17. ประธานของประโยคเปน็ Adjective ทีม่ ีThe มาประกอบดา้นหนา้ จะมคีวามหมายเปน็กลุม่คนจงึถอืวา่เปน็

พหูพจน์ กริยาก็ต้องป็นพหูพจน์ด้วย เช่น

>> The poor are gathering outside. >> The homeless are waiting for your donation.

18. ประธานของประโยคเป็นคำว่า Here กับ There กริยาต้องเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์ขึ้นอยู่กับคำนาม

ที่ตามหลังมา คือ

18.1) ถ้าตามด้วย คำนามเอกพจน์ หรือ คำนามที่นับไม่ได้ ใช้ กริยาเอกพจน์

>> Here is your work.

>> There is a lot of milk on the floor. 18.2) ถ้าตามด้วยคำนามพหูพจน์ ใช้ กริยาพหูพจน์

>> Here come the buses. >> There are two dogs in my house.

19. ประธานของประโยคเป็นคำนามบอกเศษส่วน กริยาจะเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์

ขึ้นอยู่กับคำนามที่ตามหลังมา คือ

19.1) ถ้าตามด้วย คำนามเอกพจน์ หรือ คำนามที่นับไม่ได้ ใช้ กริยาเอกพจน์

>> Half of the sugar has been used.

19.2) ถ้าตามด้วยคำนามพหูพจน์ ใช้ กริยาพหูพจน์

>> One fourth of students are girls.

20. ประธานของประโยคที่ขึ้นต้นด้วย “IT” กริยาเป็นเอกพจน์ทุกครั้งไป เช่น It is said that … กล่าวกันว่า

It is known that… ทราบกันดีว่า

It is believed that… เชื่อกันว่า

It is thought that… คิดกันว่า

Inversion คือ การสลับตำแหน่งของประธานและ Verbโดยย้ายเอา Verb ช่วยมาไว้หน้าประธาน ซึ่งมีรูปแบบดังต่อไปนี้

1. ประโยคคำถามทุกแบบ

>> May I help you ?

>> What do you want ?

2. ประโยคคล้อยตาม

A : I’m hungry.

B : So am I.

A : I don’t like opera. B : Neither do I. 3. Question tag. (ประโยคถามย้ำ)

>> Rain will come to Bangkok, won’t he? >> Film is a singer, isn’t he?

4. หลัง Preposition (ที่ขึ้นต้นประโยค)

>> Under a tree sat an big lion. >> Along the road came a man 5. หลังคำแสดงความหมายเชิงปฏิเสธ ได้แก่

hardly, rarely, scarcely, barely, seldom,

never, little, only not, only…but also >> Not only did Jame lose his money,

but he was nearly killed.

Inversion

6. เมื่อ Here, There ขึ้นต้นประโยค

>> Here comes Jack ! (ไม่ใช่ Here Jack goes) >> There goes your friend.

7. ใช้ในประโยคอุทาน (!)

>> Jo, am I hungry ! (ไม่ใช่ I am hungry !)

>> How beautiful are the flowers ! 8. การอ้างคำพูดคนอื่น

>> “What do you mean ? asked Henry. (มาจาก Henry asked)

>> “I love you” whispered Ann.

9. ใช้กับโครงสร้างเชิงปฏิเสธ

>> At no time was ken aware of what was

happening.

>> Not until I received your letter did I fully understand the depth of you.

10. ประโยคเงื่อนไข (If – Clause) >> Were Tom my boyfriend… (= If Tom were my boyfriend) >> Had I realized what you intended… (= If I had realized…)


Conjunctions หรือ Connectives คือ คำเชื่อมที่ใช้เชื่อมประโยค 2 ประโยคเข้าด้วยกัน ให้ความหมายสมบูรณ์ขึ้น

แบ่งออกเป็น

1. ขัดแย้ง (Contrast) 2. คล้อยตาม (Continuation)

3. บอกเหตุบอกผล (Cause and Reason)

4. บอกจุดประสงค์ (Purpose) 5. บอกเงื่อนไข (Condition)

6. เพิ่มให้ข้อมูล (Addition)

7. ยกตัวอย่าง (Exemplification)

8. ราวกับว่า (As if, As though)

9. มากจนกระทั่ง (too_____to)

1. แสดงความขัดแย้ง

1.1 ถึงแม้ว่า

Though

Even though + clause (S+V) + clause (S+V)

และ Although และ Even if 1.2 However, ; nevertheless, + clause (S+V) + clause (S+V)

; nonetheless, อย่างไรก็ตาม

1.3 Rather than in spite of instead of ทั้ง ๆ ที ่และ + noun Instead Despite จำให้ดีพวกนี้ “ขัดแย้ง”

1.4 meanwhile / while / whereas + clause แปลว่า ในขณะที่

1.5 conversely และ contrastly และม ีon the other hand On the contrary + clause พวกนี้ ในทางตรงข้าม จำให้ดี

In contrast มีอีก 2 ตัว นอกจากนี้ คือ anyway และ anyhow (อย่างไรก็ตาม)

;still

+ clause

;yet

Connectives

ภาษาอังกฤษ ONET 13


Ex

nAlthough Mike didn’t understand, he kept smiling.

nMary was poor, yet she was honest. nIn spite of his honesty, he steals at the shop.

nHowever active he is, he can’t catch up with his friends. nP’Gemz is rich; nonetheless, her cousin P’Boat is poor. nWhat a terrible experience ! Anyway / Anyhow, you’re safe, that’s the main thing.

2. แสดงความคล้อยตาม (ทุกตัวตามด้วยคำนาม)

either _____or _____ ไม่ _____ก็ _____

neither ____nor ______ ไม่ทั้ง ___และ ____

_____or _____ ______หรือ_____

not only ____ but also ____ ไม่เพียงแต่ __แต่ยัง __

เจอคำพวกนี้ขึ้นมาเมื่อไหร ่จำเอาไว้ Verb ตามประธานตัวหลัง

ถ้า _____as well as _____ และ, พร้อมด้วย

_____together with _____ และ, พร้อมกับ

_____along with _____ และ, พร้อมกับ

_____including with _____ และ, รวมทั้ง

_____with _____ และ, พร้อมด้วย

_____no less than _____ และ, ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า

_____accompanied by ______ และ, พร้อมด้วย

เจอเมื่อไหร่ Verb ตามประธานตัวหน้า

_____and _____ และ

both _____and ______ ทั้ง ______และ ______

between _____and _____ ระหว่าง _____และ ______

EX nJohnny, together with Jenny, plays tennis. nNeither Mike nor Mary kisses the children.

nEither P’Dome or P’ken does this work.

nShe as well as her friends is in the room.


3. แสดงสาเหตุและเหตุผล

3.1 because เพราะว่า

since เพราะว่า

for เพราะว่า

now that เพราะว่า + clause (S+V) + clause (S+V)

seeing that เพราะว่า

as เพราะว่า

in as much as

แปลว่า เพราะว่า

ตั้งชื่อกลุ่มนี้แปลว่า เนื่องด้วย ต้องตามด้วย noun/noun phrase นะจ๊ะ

due to awing to thanks to because of + noun / noun phrase + clause on account of as a result of on grounds of in consequence of

Ex

nBecause my mom was sick, she didn’t go to work.

nSusan’s failure was due to her laziness. nOwing to car accident, there have been a number of the injuced.

nThailand Remains unpeaceful nThanks to in many highways. Unrested situation in the southern part of Thailand.

3.2 so ดังนั้น

thus ดังนั้น

hence ดังนั้น

therefore ดังนั้น

thereby ดังนั้น

accordingly ดังนั้น

และ consequently ดังนั้น

as a result ดังนั้น

Ex

nThe door was opened so Johnny went in.

nAfter taking same medicine, Bob felt drowsy. Therefore, he went to bed and slept for 5 hours.


4. แสดงจุดประสงค์ / วัตถุประสงค์

4.1 to เพื่อที่จะ

so as to เพื่อที่จะ + V1 (ไม่ผัน)

in order to เพื่อที่จะ

4.2 that เพื่อว่า

so that เพื่อว่า + clause in order that เพื่อว่า

= เพื่อที่ว่า หรือเพื่อที่จะ

EX nKristin worked hard in order to be rich.

nI go to the zoo in order that I visit P’Gemz’s mom.

5. แสดงเงื่อนไข

as long as ตราบใดที่

in case ในกรณีที่

so long as ตราบใดที่

unless ถ้า____ไม่

in case ในกรณีที่ +clause (S+V) + clause providing that สมมติว่า

supposing (that) สมมติว่า

provided (that) สมมติว่า

supposed (that) สมมติว่า

.............ใช้แทน If ได ้aha ! on condition that ภายใต้, โดยเงื่อนไขที่ว่า

และก็ for fear that เกรงว่า

For fear of เจอพวกนี้เมื่อไหร ่จำเอาไว้ในใจ ใช้แทน If ได้ uha !

Ex nIf you went to the Party, he would meet his friends. nSupposed (that) Thampson is rich, she will go abroad.

nUnless P’Bird had performed his concert last week, he couldn’t have introduced his latest album.


6. แสดงการเพิ่มให้ข้อมูล

6.1 In addition

moreover furthermore (นอกจากนี้ / ยิ่งกว่านั้น)

additionally besides

6.2 Apart from Aside from In addition to

7. แสดงตัวอย่าง

like ดังเช่น

such as (ห้ามมี comma (,) ,for example, ยกตัวอย่างเช่น

,for instance, ยกตัวอย่างเช่น

to illustrate ดังแสดงให้เห็น

e.g. (exempli gRatia) ยกตัวอย่างเช่น

that is ซึ่งนั่นก็คือ

including รวมทั้ง

Ex

nThe harmful substances, for example sulfur dioxide, can cause disease. nSome colors, for instance red, will make your eyes blur. nDo you participate in one of the most popular avocation such as jogging,

tennis or stamp collecting.

nAny program that is executed may be exposed to the virus, including programs spread through

telephone connections. ************* Such as ก้อเหมือน like จำเอาไว้ไม่มี (,) comma **************


8. ราวกับว่า

as clause (S+V) + as if + clause (S+V)

as though ระวัง verb ที่ตามมาจะเป็น Past Tense ด้วยนะจ๊ะ

Ex nAlice talks as if she knew everything.

nThey behave as though they owned the place. nMike acts as if he were a millionaire. (ไม่ต้องตกใจที่ใช้ were เพราะเป็นเรื่องเป็นจริงที่ไม่อาจเป็นจริงได้เลย)

9. แสดงเหตุผล “มากเสียจนกระทั่ง”

S + V So + adj / adv. + that + S + V

Ex nP’Gemz is so dark that nobody sees him offer 6 p.m.

nP’Boat’s head is so huge that he can’t walk farther than 10 minutes.

Clause So + adj. + a noun Such + a/an + adj. + N. + that (s+v)

Such + uncountable noun

Ex

nThis restaurant serves such delicious meals that we would go there again.

nOwen spoke with such a odd language that could understand everything.

nP’Kob dances so beautifully that everybody is pleased with it. nParadon played such as brilliant match that the spectators gave him big hands.

Verb

Verb คอื คำทีบ่รรยายหรอืบอกถงึการกระทำ ซึง่แสดงออกทางกายภาพและทางจติใจ แบง่ออกตามหนา้ทีไ่ด ้2

ประเภท คอื

Verb (กริยา)

Non - Finite Verb (กริยาไม่แท้)

1. Infinitive 2. Gerund 3. Participle

Finite Verb (กริยาแท้) 1. Infinitive 2. Gerund 3. Participle

1. Finite Verb (กริยาแท้) -- กริยาซึ่งทำหน้าที่เป็นภาคแสดงของประโยค

1. Transitive Verb – กริยาที่ต้องการกรรมมารับ

ex : The students need some pens. 2. Intransitive Verb – กริยาที่ไม่ต้องการกรรมมารับ

ex : The baby cried.

The sun rises. 3. Linking Verb – กริยาซึ่งเชื่อมประธานและคำนาม คำสรรพนาม หรือ คำคุณศัพท์ที่ตามหลัง

ex : The thief seemed depressed.

The book became a best- seller.

Lie, seem, look, feel, appear, taste, stay, smell, remain, turn, sound, get, become, go, grow, to be, Verb เหล่านี้บวก ADJECTIVE

2. Non - Finite Verb (กริยาไม่แท้) – กริยาซึ่งมิได้ทำหน้าที่เป็นภาคแสดงของประโยค แต่อาจทำหน้าที่เป็น

ส่วนขยาย คำนาม หรือ คำคุณศัพท์ ประกอบด้วย

2.1 Infinitive – รปูของกรยิาซึง่ยงัไมไ่ดผ้นั และทำหนา้ทีเ่ปน็สว่นขยายหรอืสว่นเตมิเตม็ แบง่ออกเปน็ 2 ประเภท

nInfinitive with to

ex : They want to go to the mall. nInfinitive without to ex : My boyfriend made us wait for hours. 2.2 Gerund – รูปของกริยาที่เติม ing ซึ่งทำหน้าที่เป็นคำนาม (อาการนาม) โดยอาจเป็นประธานกรรม

หรือ กรรมของบุพบท

nPlaying tennis is fun. (playing = subject) nWe enjoy playing tennis. (playing = object) nWe talked about playing tennis. (playing = object of preposition)

ภาษาอังกฤษ ONET 19


2.3 Participle – รูปของกริยาเติม ing และ รูปกริยาช่องที่ 3 ที่ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (ขยายคำนาม)

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

nPresent Pariciple (Ving) – ใชข้ยายคำนาม ในลกัษณะการบรรยายบางสิง่เกีย่วกบัสิง่ของหรอืบคุคล

ex : The increasing accidents made the government nervous. The sound of flowing tide made me happy.

nPast Participle (V3) -- .ใช้ขยายคำนามในลักษณะของการถูกกระทำ

ex : The wounded animal disappear into the forest. No one could find the lost treasure.

เปรียบเทียบ Ving Bob and Ann are walking in the botanical garden.

walking = ………………………………………..

The walking man was an engineer of this factory.

walking = ………………………………………..

Because of walking about an hour a day, he has good healthy.

walking = ……………………………………….

เปรียบเทียบ V3

He was punished yesterday so today he is not here. punished = ……………………………………………….

The punished boy is crying very loudly.

punished = ……………………………………………….

The teacher punished his student in front of the class. punished = ……………………………………………….

นอกจากนี้ สามารถใช้ participle ซึ่งเป็นการลดรูปจาก Relative Clause ได้เช่นเดียวกัน

nThe singer who wears the red shirt won the university singing contest. >> The singer wearing the red shirt won the university singing contest. nThe singer who was arrested by the police in Chicago is Ricky Martin.

>> The singer arrested by the police in Chicago is Ricky Martin.

Unit 2 Examination (ของจริง สอนจริง รู้จริง)

Part 1 : Conversation

Conversation 1 : Kitti, a Thai student in Australia, is looking for an apartment. (Onet 51)

Landlady : Hello, MC Apartment. ……….1……….? Kitti : Have you got a room for rent ? Landlady : There’ll be one available at the end of this week. Kitti : Hmm, today is Thursday already. ………2……….? Is it within walking distance of the university ? Landlady : It ‘s on Prince Edward Street, near the Science Museum. ……….3………. And you ‘ll also find a bus stop just around the corner as well. Kitti : ……….4……….. Well, ……….5………..? Landlady : It’s $150 per week, not including utilities. The utilities will be charge according to usage . Each room has got a separate meter. Kitti : I see. ……….6……….? Landlady : I’m afraid I already have an appointment, but I’ll probably be back at around 5 ………….7………...? Kitti : That’s fine for me . See you then. Bye.

1. a. What do you want b. Who do you want to talk to c. Can I help you d. Can I have your name, please

2. a. What is its location b. What is it situated on c. Where is the apartment d. Where can I look for MC Apartment

3. a. It’s easier to walk to the university b. It ‘s a ten-minute walk to the university c. I’m sure you have to walk to the university d. I think it might be convenient getting to the university


1) ………………………………………………………………………………

2) ………………………………………………………………………………

3) ………………………………………………………………………………

4) ………………………………………………………………………………

หลักการทำข้อสอบ

"Conversation"


4. a. That ‘s amazing b. That sounds good c. That ‘s considerable d. That looks interesting

5. a. how is the rent b. how much will I rent it c. how much is the rent d. how should I pay the rent

6. a. Let’s have a look at the room, shall we b. Should I see the room before I move in c. Do I have to see the room this afternoon d. Can I have a look at the room this afternoon

7. a. Will you be home tomorrow b. Why don’t you come on time c. Do you want to come with me d. Will you be able to drop by that time Conversation 2 : Two roommates are trying to decide what to have for dinner. (Onet 50)

Pat : I’m too tired to cook. ..........1………? Linda : That would be nice. ……….2……….? Pat : Let’s go to the Chinese restaurant again. I like the food there. Linda : But we just went there last week. ……….3………. . Pat : The Thai restaurant ? You mean the one opposite the Chinese restaurant ? Linda : ……….4………. . I think the food at the Chinese restaurant is rather oily. ……….5………. . Besides, the Thai food at that place is very delicious. Pat : ……….6………? Have you ever eaten that before ? Linda : Yes. A Thai friend took me to lunch there last month. Pat : OK. Let’s go there, then.

1. a. Shall we have rest. b. Let’s eat out tonight, okay. c. How about you. d. Whose turn is it tonight.

2. a. Where would you like to go. b. Do you think we really are. c. Do we have enough time d. Who would go with us.

3. a. You may like to have Thai food then. b. You can choose where you like to go. c. I ‘d rather go to the Thai restaurant instead. d. I’ve heard about a good Thai restaurant.

4. a. That’s right b. Oh, come on. c. Really d. That’s a good idea

5. a. But I like its atmosphere b. I prefer Thai food to Chinese c. And I don’t want to eat out d. I enjoy all kind of food

6. a. Are you hungry b. How do you like the food c. Can you hurry up d. How do you know


Situational dialogs (Items 1 - 13)

1. A Thai student wants to go the Science Museum in London, but he doesn’t know the way, so he asks a policeman. He say “.......................” (Onet 50) a. I must go to Science Museum now. b. Could you tell me how to get to the Science Museum? c. I beg you a pardon! I want to visit the Science Museum. d. Please take me to the Science Museum, will you?

2. A stranger asked you the way to the post office, but you were also new in town. You say “…………...” (Onet 49) a. I have to apologize to you. b. Don’t mention it. I’m also new here. c. Excuse me. I haven’t got the change. d. I’m sorry. I’m a stranger here myself.

3. You see a friend carrying a heavy box and want to help. You say “……….” (Onet 50) a. Let’s take that away. b. Perhaps I could use the box. c. Can I give you a hand? d. Don’t you want to help yourself ?

4. You are applying for a scholarship, and you ask your English teacher to write a recommendation letter for you. You say “…………………” (Onet 50) a. I wish you would write a recommendation letter. b. Is it possible for you to write a recommendation letter for me ? c. You ought to write a recommendation letter. d. Can you do me a favor since I need a recommendation letter ?

5. Your classmate invites you to his birthday party but you have another appointment. How would you refuse him? (Onet 49)

a. Sorry, but I will go along. b. Excuse me. I may be an exception. c. I’d love to . But I have to see the dentist. d. Thank you. It would be a great opportunity.

6. You’ve been invited to a party, but unfortunately you can’t go. When you tell to the host, he says “……………………..” (Ent’42)

a. Fine with me. b. We’ll miss you. c. See you later d. Pity me.

7. You’re late for a meeting. What would you say upon joining the meeting? “Sorry, ……………….” ( Onet 50) a. I’m late. b. I am excused. c. I beg your pardon. d. I hope to forgive you.

8. A secretary is late for a meeting for the first time. She gives an excuse that she had to take her son to the doctor. Her boss says “………..……………” (Onet 51) a. I see but I don’t want any excuses. b. Again? That’s the same old excuses. c. That’s all right. Don’t worry about it. d. You never change! You’re always late.


9. You want to go on holiday to Japan next summer, so you ask a travel agent for advice. You say “……………” (Onet 50) a. Are you keen on organizing a trip to a foreign country? b. Can you suggest some interesting tourist spots in Japan? c. What kind of holidays do you prefer? d. How much will you pay to go to Japan?

10. You want to know about your roommate’s future plans, so you say “……………….” (Onet 51) a. When do you plan to graduate? b. Where do you stay while studying? c. What do you doing after graduation? d. Why do you want to further your study?

11. You ask a stranger for the time. He doesn’t know the time, so he says “………………” (Onet 51) a. I’m afraid I don’t know. b. I’m sorry. I have no time. c. Sorry, I’ve just bought this watch. d. Please don’t ask me about the time.

12. You have just said something which makes your friend very upset. You apologize to her.You say “..……….” (Onet 51)

a. I beg your pardon. It’s really my fault. b. How talkative I am! Please forgive me for that. c. What a silly thing! I hope you don’t mind me saying that. d. I’m terribly sorry for what I said just now. I didn’t mean it.

13. There is a phone call for a person who doesn’t work in your office. You answer the phone and say “…………………” (Onet 51)

a. Who are you talking to? b. Isn’t that a strange name? c. Nobody by that name works here. d. No one has ever seen him before.

14. A woman is in a jewelry store when she sees something she likes in a showcase. She asks the saleperson, “………….…….………”(Ent Oct, 47)

a. Would you keep an eye on me? b. Would you take it or leave it ? c. Can I have a chance to show it ? d. Could I have a look at that ?

15. The newspaper headline “PRICE SOARS AS INFLATION GRIPS” warns that "……………..……." (Ent Mar, 45) a. the economy will improve b. the cost of living is rising c. the quality of life is getting better d. the interest rate is holding steady

Error Identification

คือ การเลือกส่วนของประโยคที่ใช้ผิดหลักไวยากรณ์ ที่ออกข้อสอบบ่อยมั่กมาก อาจแบ่งได้เป็น 13 เรื่อง ดังนี้

n ตัวเลือกที่ขีดเส้นใต้เป็นตัวเลือกที่อาจจะผิด

n ตัวเลือกที่ไม่ได้ขีดเส้นเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องอย่างแน่นอน

n ดังนั้น ต้องดูคำที่ไม่ได้ขีดเส้นใต้เพื่อตรวจสอบว่า ตัวเลือกไหนที่อาจจะผิด นั้นแหละคือ Error จ้า

1. รูปคำ คือ การใช้รูปคำที่มีความหมายเหมือนกันให้ถูกหน้าที่ของคำนั้นๆ หรือเรียกว่า ……………………………………

nThe most highly praised performances in theatrical history were achieved

by creating believable characters who behaved logical and truthfully.

nIt have been found that heat is conducted through soil at an extreme slow rate.

2. รูป Verb คือ การใช้กริยาให้สอดคล้องกับประธาน รวมไปถึงการใช้ ……………………… และ……………………….…

nOne of the first lessons in forest-fire survival are to try to reach burned ground.

nMinerals in seawater exists in the same proportions in all the oceans of the world.

3. บุพบท คือ การใช้บุพบพร่วมกับคำอื่นให้ถูกต้อง

n Candles were mankind’s chief source of illumination since at least 2,000 years. nVaccines can provide protection for infection for an extended amount of time.

4. พจน์ คือ การดูว่า คำนามคำนั้น เป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์

n The U.S. president serves a maximum of two four-years terms. nAs childs grow older, their bones become thicker and longer.

Part 2 : Error Identification



5. โครงสร้างขนาน คือ คำหรือข้อความที่อยู่หน้า/หลัง ตัวเชื่อมต้องสัมพันธ์กันหรือ เรียกว่า ............................

nThe Chrysanthemum is a wildflower that grows in shady fields, in marshes, and mountain slopes. nDr. Pichit is temporarily employed to control, adjustment, and correct complex industrial

operations.

6. คำเชื่อม คือ การใช้คำเชื่อมร่วมกับข้อความหน้า/หลัง ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับใจความ

nThe lungfish can live in polluted water but it can breathe air at the surface. nI love the girl since she is so insensitive to me.

7. เลือกคำ คือ การเลือกใช้คำที่มีความหมายเหมือนกันให้เหมาะสมและ ถูกต้องตามการใช้

nCement is done form varying amounts of limestone, clay, and gypsum.

nSeveral insects, special the butterfly, have weak powers of flight.

8. สรรพนาม คือ การใช้รูปสรรมพนามแทนคำนามให้ถูกต้องเช่น .......................................................................

nA zebra’s stripes help this animal hide from their enemies. nIn conduction and convection, moving particles they transmit heat.

9. เปรียบเทียบ (ต้องจำ) การใช้โครงสร้างการเปรียบเทียบให้ถูกต้อง โดยส่วนใหญ่ให้สังเกตคำว่า........................

และ...........................

nModern travelers seem to prefer speed more than comfort. nTemperature measurement developed much more later than other kinds of measurement did.

10. ลำดับคำ คือ การวางตำแหน่ง................ ,…………………………., …………………………..……. หรือ ……………….. ให้เหมาะสม

nPlutonium is a rare extremely and precious element. nIn their natural state in the living organism, proteins occur seldom as single pure substances.

11. article คือ การใช้ a, an, the นำหน้าคำให้ถูก

nA asteroid is beyond the orbit of the planet Mars. nMirinda Thompson was a first woman in the history of Australia to serve on the State Supreame Court.

12. คำฟุ่มเฟือย คือ การตัดคำที่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน

nWe have lived here for almost nearly a century.

nWith excessive anger, she slapped her boyfriend’s cheek with her hand.

13. และ verb ไม่แท้ หรือ ...................................... มีด้วยกัน 3 ตัว ได้แก่

1. ………………………………………………………………… 2. ………………………………………………………………… 3. ….…………………………………………………………….. กริยาไม่แท้ทั้ง 3 ตัว ทำหน้าที่เป็นอย่างอื่น ไม่ได้เป็นกริยาแท้ของประโยค

n The city of Green Bay, establishing in 1745, was the first permanent settlement in Wisconsin.

n The energy to need for animal growth is derived primarily from carbohydrates and fats.

n The kaleidoscope works on the principle of multiply reflection

n Whatever they differ widely in function, all cells have a surrounding membrane and in internal,

water-rich calling the cytoplasm.


1. Poaching of elephants for ivory and meat remain a serious problem in many Asian countries. (Onet 49)

2. Jellyfish use long, stinging, sticky, threads to capture they food. (Onet 49)

3. Our policy for dealing with the media is to respond quickly and polite. (Onet 49)

4. When Hitler came to power in Germany, he set up a special division in the dreaded gestapo ;

its job was to investigate suspected criminals. (Onet 49)

5. The push to sell flavor milk comes during growing concerns about eating habits among

children. (Onet 49)

6. In the Western countries, the birth of a girl welcome with an enthusiasm equal to that of a boy. (Onet 49)

7. The idea of heat as a healing treatment doesn’t surprise Chinese and western medicine. (Onet 49)

8. Peter thinks that he had better don’t quit his job until he finds another one. (Onet 51)

9. The flight was scheduled to take off at 2:30 p.m. , but due to some mechanic problems, it was delayed for mostly three hours. (Onet 51)

10. Students would have to pay a late fee unless they register before the last day of the regular registration period. (Onet 51)

11. It is important that everyone have his car check once or twice a year. (Onet 51)

12. The findings of our study were worst than we had expected them to be. (Onet 51)

แนวข้อสอบ Error Identification

3.1 Sentence Completion

1. Look at your room ! ………………………. right now , it’s filthy ! (Onet 49) a. Cut up your craps b. Give up your work c. Clean up your mess d. Burn up your energy

2. The line is busy ; ………………………………….. . ( Onet 51) a. there must be a lot of people around b. passengers have to postpone their trip c. a lot of cars must be stuck in the traffic d. someone must be using the tele phone now

3. When you feel exhausted, do something you enjoy ; ………………………………….. ( Onet 50)

a. for example, listen to music b. therefore, one can always sleep well c. in other words, reading junk mail d. however, you will stay awake and feel energetic

4. Paul did not understand our language ; ........................ He felt very out of place. (Onet 49)

a. yet, he understood our customs b. also, he knew all about our customs c. however, he was ignorant of our customs d. moreover, he was unfamiliar with our customs

5. Smoking causes dreadful diseases not only in smokers themselves ………………… (Onet 50)

a. as well as in people close to them b. and in people close to them also c. although not in people close to them d. but also in people close to them

6. Both Mary and her sister,…………… my sister are studying in Tourism and Hotel Management at Mahidol University. (Onet 50)

a. included b. except c. together with d. apart from

Part 3 : Writing



7. I was losing consciousness …………………….. . It was one of many times. I would return from a brink of death. (Onet 49)

a. after I entered a coma b. when I decided to give up and die c. when my wil l to live asserted itself d. also, I lost all control of my bowels

8. The people who had lived in protested forest or mangrove area before the tsunami struck, should be allowed to return to their original sites …………….. they agreed to protect the natural resources in their localities. (Onet 49)

a. or b. unless c. but d. provided

9. The advisor at the International House recommended that foreign student …………………before enrolling at the university. (Onet 51)

a. take up a new hobby b. make a lot of new friends c. take more English lessons d. spend more time in the cafeteria

10. Before entering the conference room , all participants …………………………… . (Onet 51) a. must present their ID cards b. had better announce their names c. should make reservation in advance d. would rather leave their belongings outside

11. The judge ‘s decision is final , ……….…………….. Not to do so would be treason. (Onet 49) a. and we must abide by it b. nor must we agree with it c. however we are desirious of it d. we must not be superior from it

12. ……………………………. that we went hiking in the forest last weekend. (Onet 50) a. It rained so heavily b. We did so much exercise c. It was such nice weather d. We did in such a hurry


และแล้วก็มาถึงข้อสอบที่อ่านเท่าไร อ่านเมื่อไร ก็ง่วง ก็งง นั้นก็คือข้อสอบ Cloze test แต่ไม่ต้องกลัวเพราะพี่

มีคาถาเด็ด Cloze test ใดๆในโลกล้วนศิโรราบ ไม่เชื่อลองดู 3.2 Cloze test passage ( Onet 50)

หลักการทำ Cloze test

1) …………………………………………………………

2) ………………………………………………………..

3) ………………………………………………………..

4) ………………………………………………………..

รู้ไว้ใช่ว่า ! ข้อสอบ Cloze test เป็นข้อสอบแบบเว้นช่องว่าง

แล้วให้เติมคำหรือข้อความที่เหมาะสม สำหรับข้อสอบ

Onet มี Cloze test 2 ประเภท ได้แก่

1. Cloze test ที่วัดความรู้ทางไวยากรณ์

2. Cloze test ที่วัดคำศัพท์ที่เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง

The Bear, a documentary - dramatic film ……...1…….... , a French Canadian director, reflects an attempt to educate viewers about the reality of wild animals. The film features the beauty of wildlife ……….2………. the truth about life and death. It focuses on the adventures of a young cub

………3…...... its mother and is adopted by the male bear. Their relationship grows closer and closer when they are in danger together, .……......4……...... while being chased by two heartless hunters. The climax of the film comes when the big bear ….…..5…….... at the edge of a cliff. At the climax, an

important clue to the moral of the film is found when the bear stops attacking the hunter, who in

his fear breaks down and starts to weep. And ….…..6……... , he narrowly escapes death.

1. a. by which Jean Jacques Annaud is directing b. directing by Jean Jacques Annaud c. which Jean Jacques Annaud directed d. directed by Jean Jacques Annaud 2. a. that asks us b. but explains c. and tell us d. which describes 3. a. which suddenly loses b. lost suddenly c. which is immediately lost d. losing immediately 4. a. struggle to survive b. struggling for survival c. to struggle to survive d. being struggled for survival 5. a. has been confronted by hunter b. confronting its prey c. confronted by other animals d. confronts its human enemy 6. a. as the bear being merciful b. because the man is merciful c. due to the mercy of the bear d. owing to the man’s mercy

4.1 Cloze test passage (Onet 49)

King Henry VIII set up a government postal service in England, and this was….….1…..…. by

the later rulers. In 1609, no one was ….…..2…..…... to carry letters except messenger …..…3…….. by the government. But in 1680, a London merchant …..…..4……....his own one-penny post for the city and

suburbs, and it became quite ……….5……... . The government took it over and continued the ……...6……..

till 1801.

The whole system was finally ……......7…........ in 1804. Stamps were ..…….8……..... , and rates made the same for all distances within England. Rates varied only according to ……...9…….... . Later, most other countries modeled their………..10...…..s ystems on that of Great Britain.

1. a. extended b. arranged c. selected d. organized

2. a. admitted b. accepted c. allowed d. acquired

3. a. transferred b. governed c. influenced d. authorized

4. a. produced b. made c. started d. directed

5. a. powerful b. successful c. commercial d. common

6. a. service b. method c. process d. function

7. a. charged b. provided c. invented d. changed

8. a. received b. introduced c. decorated d. explored

9. a. design b. form c. weight d. value

10. a. postal b. regular c. weighing d. delivering

Part 4 : Reading



Passage 1 (ONET-50)

EDEN’S PLAYHOUSE Romeo and Juliet by William Shakespeare

January 28, 29; February 7, 8

The Matchmaker by Thornton Wilder January 30, February 3

The Good Doctor by Neil Simon January 31, February 4, 6

Saint Joan by George Bernard Shaw February 2, 5

1. The play that will be performed the greatest number of times at Eden’s Playhouse is ………............. a. Saint Joan b. The Matchmaker c. The Good Doctor d. Romeo and Juliet

2. Penny enjoyed the January 31st performance of The Good Doctor so much that she bought herself a ticket for its next performance on ……………………………... .

a. February 3 b. February 4 c. February 5 d. February 6

3. Justin has tickets for plays on two consecutive nights. He plans to see the first on January 29, and …………………… on the following night.

a. Saint Joan b. The Matchmaker c. The Good Doctor d. Romeo and Juliet

4. The fifth performance will be the play ………………………………… . a. Saint Joan b. The Matchmaker c. The Good Doctor d.� Romeo and Juliet

5. Thornton Wilder’s play is being performed on ……………………………... . a. January 28, 29 and February 7, 8 b. January 30 and February 3 c. January 31, Frbruary 4 and 6 d. February 2 and 5


Passage 2 (ONET 49)

Schedules and TimetablesDeparting: Washington – Union Station, DC (WAS) to New York –Penn Station, NY (NYP)

Service Scheduled Departure Scheduled Arrival Duration

150 Regional Service

Washington, DCUnion Station (WAS)3:00 am10-JUL-05

New York, NYPenn Station (NYP)6:40 am10-JUL-05

3hr40mn




3hr20mn




3hr25mn

54 Vermornter



3hr15mn

2252 Metroliner


New York, NYPenn Station (NYP)1:50 pm10-JUL-05

2hr50mn

76 Regional Service


New York, NYPenn Station (NYP)2:45 pm10-JUL-05

3hr20mn

2212 Metroliner



3hr 0mn

Inside Amtrak I Press & Media I Site Map I Amtrak StorePrivacy & Security I Legal I Terms of Transportation

หลักการอ่านข้อสอบแบบตาราง (table)

1) …………………………………………………………

2) ………………………………………………………..

3) ………………………………………………………..

4) ………………………………………………………..


1. Which train takes the shortest time? a. 54 Vermonter b. 2252 Metroliner c. 2212 Metroliner d. 160 Regional Service

2. If you want to have lunch with a friend in New York, which is the latest train you can take? a. 54 Vermonter b. 2212 Metroliner c. 76 Regional Service d. 162 Regional Service

3. Which trains take the same amount of time? a. 160 and 76 Regional Service b. 160 and 162 Regional Service c. 54 Vermnonter and 76 Regional Service d. 162 Regional Service and 54 Vermonter

4. According to the schedules and timetables, which is correct? a. 2212 Metroliner takes longer time than 54 Vermonter. b. 54 Vermonter takes longer time than 150 Regional Service. c. 160 Regional Service takes shorter time than 2252 Metroliner. d. 76 Regional Service takes shorter time than 150 Regional Service.

5. Which train leaves Washington in the morning and arrives in New York in the afternoon? a. 54 Vermonter b. 76 Regional Service c. 150 Regional Service d. 160 Regional Service


ขอ้สอบที่วัดทักษะการอ่านมิได้มีเพียง โฆษณา (advertisement) หรือ ตาราง (table) เท่านั้นแต่ยังมีเนื้อเรื่อง เพื่อวัดความเขา้ใจในการอ่าน อีกทั้งยังเป็นการใชท้ักษะทางดา้นไวยากรณ์ และความรูท้าง ดา้นคำศัพท์ อย่างไรก็ดี ไม่มีใครที่รูค้ำศัพท์ทุกคำในโลก ดังนั้นเราก็สามารถบูรณาการหลักการต่างๆ ในการเดาความหมายของคำศัพท์ รวมไปถึงเหตุการณต์่างๆ ที่ปรากฎในเรื่อง โดยมีหลักการดังนี ้

หลักการทำข้อสอบ (Reading) 1) อ่าน………………………………………… (เพื่อรู้แนว)

2) ………………………………………………… Choice 3) ………………………………………………… (ทุกย่อหน้า)

4) ………………………………………………………..................

5) ………………………………………………………..................

**ถามตรงไหน ไปดูตรงนั้น**

และในข้อสอบมักถามเกี่ยวกับ >>>

1. คำถามเกี่ยวกับใจความสำคัญ (Main Idea)

nWe can …………………../……………….. from the passage that ……(answer)…..

nIt can be …………………/……..…………. from the passage that ……(answer)…..

nThe main idea is ………………(answer)………………. .

nThe main idea of the passage is that /about ……………(answer)………………… .

nThis passage …………………………….. on ……………(answer)………….. .

nThe passage is mainly about ………….(answer)………….. .

2. คำถามเกี่ยวกับรายละเอียดของเนื้อเรื่อง

nAccording the passage, ...............(answer)……………….. .

nThe passage ……………………/………………………. that ……….(answer)………..

nWhich of the following is true/……………………….?

nAll of the following statements are true EXCEPT ?

nWhich of the following is NOT stated in the passage ?

3. คำถามเกี่ยวกับความหมายของ คำ (..………)หรือ ข้อความ (…………………)

nThe word “animal” (line 5) …………..…/……………….. to ………(answer)……….. .

nThe word “animal” (line 5) can best be …………………… ..by……..(answer)……..

nThe phrase “ work it” (line 5) …………………that …………(answer)…………….. .

nThe word “animal” is nearest in the meaning to………………(answer)……… .

4. คำถามอื่นๆที่สำคัญ

nThe purpose of the passage is to ……………...(answer)……………….. ..

nThe writer/………………………… ‘s purpose is to………………(answer)…………….

nThis best title of this passage is ………………(answer)………………….. .

nThis passage is likely to be a/an ………………..(answer)………………….. .


Passage 3 (ONET 51)

Give your dog relief from arthritis pain,

and give your children back their favorite companion Now in easy-to-give

chewable tablets Arthritis is a painful disease that can develop in any dog. At any time. So if your dog lags

behind when running or playing, seems stiff afterward, or has difficulty climbing stairs,

find out how Arthyl (carprofen) has provided real relief for over one million dogs with

arthritis! As with other pain relievers in this class, rare but serious side effects involving

the digestive system, kidneys or liver may occur. Refer to brief summary for important information for dog owners, or call 1 - 800 - 720 - DOGS.

Ziefpper Animal Health Arthyl www.arthyl.com

1. All of the following are signs of a dog suffering from arthritis EXCEPT ...………. . a. climbing stairs with difficulty b. running more slowly than its owner c. having stiff legs after moving around d. having problems with blood circulation

2. Arthyl is a ……………………… . a. hospital b. pet food c. foundation d. brand name

3. The ad is for dog ……………………………. . a. owners b. lungs c. stomach d. kidneys

4. To treat arthritis, the medicine must be ……………………………… . a. taken orally b. inhaled deeply c. applied on the skin d. injected in to muscles

5. To get further information, you can do any of the following EXCEPT ………………. a. write a letter b. surf the Internet c. make a phone call d. read a leaflet for dog owners


Passage 4 (ONET-50)

Attack the problem at its sourse. It is the most effective way of dealing with garbage since it reduces the amount of materials that become garbage. You can practice source reduction while shopping because you vote on products every time you make a purchase. Here are some ways you can put source reduction into action. You will also be surprised how often you can save money at the same time. n Look for products that use only enough packaging to insure quality and do not appear to be unnecessarily overpackaged with multiple layers of plastics, foil, paper and other wrapping. But remember, some of this packaging is designed to insure product safety, making

packages tamper-resistant. Other wrapping preserves freshness and quality.

n Buy the largest size package whenever practical. You get more product with less packaging than with smaller sizes. n Favor products sold in concentrated forms or in compact packages. Some beverages, liquid soaps, cleaning products and fabric softeners are packaged this way. Simply

mix the concentrate with water-refilling the original container at home. This process can be repeated indefinitely.

n Use products that do more than one thing such as laundry soaps that combine detergents with fabric softeners and shampoos that include conditioners.

1. The work it (line 2) refers to …………………………….. . a. the amount of materials b. the most effective way c. dealing with garbage d. attacking the problem at its source

2. The phrase vote on (line 3) could best be replaced by ……………………….. . a. elect b. select c. nominate d. determine

3. One way to minimize the amount of garbage is to ………………………….. . a. buy products with the least packaging b. avoid using products packed in plastic c. spend less money on wrapping and packaging d. use products which are wrapped to keep them fresh

4. According to the passage, you can practice reducing unnecessary garbage at ……………………... a. cafeterias b. supermarkets c. home d. launderettes

5. It is not mentioned in the passage that packaging can insure a product’s ………………………… a. quality b. freshness c. safety d. cleanliness


“Belief is beginning.” ความเชื่อ คือ การเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง

จงเชื่อมั่นในตัวเองและทุกสรรพสิ่งจะอยู่ที่คุณ

6. All of the following are methods suggested in the passage to decrease the amount of garbage, EXCEPT ………………………………… .

a. purchasing products in the largest size b. using products in concentrated form c. looking for products with combined unctions d. buying products with multi-layered wrapping

7. According to the passage, all of the following products come in concentrated form EXCEPT …………………………………. . a. hair conditioners b. fabric softeners c. liquid soaps d. cleaning products

8. The best title for this passage is ……………………………… . a. How to Separate Garbage b. Unnecessary Packaging c. Ways to Reduce Garbage d. Choosing Wrapping Materials

9. The writer’s purpose is to _______ . a. make suggestions b. advertise products c. report facts d. describe a process

Close test Instruction : Read the paragraph below and choose the best answer for each item.

The evolution of pizza from a tradition Italian dish to fast food is complete. Once handmade from fresh dough and simple tomato-based ___(1)___, pizza could

soon be ___(2)___ From vending machines. The Wonderpizza is the world ’s first vending machine to ___(3)___ piping hot pizzas in less than two minutes, for a cost of around $5. The machine was ___(4)___ in Italy and is now beginning worldwide ____(5)____ after more than five years of research.

1. 1. toppings 2. top-dressing 3. toplists 4. top-coat 2. 1. available 2. adjustable 3. acceptable 4. advisable 3. 1. pick up 2. serve up 3. get up 4. cover up 4. 1. dedicated 2. facilitated 3. complicated 4. developed 5. 1. contribution 2. attraction 3. distribution 4. transportation

Passage 1 : ( Item 1 - 2 )

แนวข้อสอบโควต้า มช.


1. How can Sabu – Sabu help home owners ? 1. Save money 2. Control pests 3. Get rid of toxins 4. Protect against intruders 2. Which of the following is a characteristic of Sabu - Sabu products ? 1. Easy to buy 2. Easy to use 3. Good for the environment 4. Effective in small amount

Passage 2 : ( Item 1 - 4 )

Moso bamboo, used to make Fabrics, can reach a mature Height of 75 feet within Two months. Bamboo Steps Up With more than a thousand known species and countless uses from panda food to flooring, bamboo is now spreading to textiles. A process similar to what transforms wood pulp into rayon turns tough stems into a silky fabric that’s highly absorbent and antibacterial. Specialty boutiques and even some national chains now offer bamboo-based clothing and linens. Consumers like the fact that these products come from a renewable plant that thrives without many added chemicals. In 2004, China – the biggest bamboo producer – exported about a million dollars’ worth of bamboo for textile manufacture. By 2006, that amount had grown tenfold. If trends continue, this upstart fabric may someday complete with King Cotton. –A.R. Williams

1. What can be said about the use of bamboo ? 1. Among over a thousand species, only one is used as panda food. 2. Moso bamboo’ height makes it ideal for fabric production. 3. It has recently become known in the textile industry. 4. There is a limited range of uses.

2. How does bamboo fabric feel ? 1. Like rayon 2. Like linens 3. Tough and hard 4. Smooth and soft

3. How may the bamboo fabric affect the cotton industry ? 1. It may become a competitor. 2. It may destroy the cotton industry. 3. It may not affect the cotton industry at all 4. It may stimulate growth in both industries.


4. What would be the best title for this passage ? 1. Bamboo : A chemical – free industrial plant 2. Bamboo fabrics : A new trend in the textile industry 3. Bamboo plantations : A multi-million dollar business 4. Bamboo textiles : An environmentally-friendly commodity

Passage 4 : ( Item 1-5 )

The fall bull elephant carefully set one foot after the other as he climbs down the rock mountain, majestic proof of Namibia’s success in combating poaching which is now yielding its rewards. The bull follows a narrow path in the remote northwestern Kokolann area, paved along the stop by generation of elephants centuries ago. Here, Namibia’s desert elephants roam freely in the country’s last wilderness as they cross sandy rivers and walk to mountaintops in order to cool off in the midday heat.

Namibia is now home to some 12,000 elephant , Sound conservation since independence in 1990 has led to the doubling of their figures in the 20 years, reversing the damage previously wrought by heavy poaching. Its success has been so marked that the Convention of International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora (CITES) has allowed it to conduct a sale in ivory collected from elephants that died a natural death.

“ We must still decide if this will be by auction, as we did in 1999, or if we will organize several sales,” said Deputy Environment and Tourism Minister Leon Jooste. An auction will fetch higher prices, which would be better since all the funds generated though the sales must be used exclusively for elephant conservation and community development.

The CITES forum also approved a landmark nine-year ban on the international trade in ivory. This followed the wildlife expert’ report that about 20,000 elephants are killed internationally by poachers each year. According to Malan Lindeque, permanent secretary in Namibia’s environment and tourism ministry, controlled and limited ivory trade can keep Africa’s elephant populations stable and sustainable. This is because it will help to reduce poaching and illegal trading.

1. What proves the success of Namibia’s conservation program ? 1. 20,000 elephants are killed each year. 2. It has led the country to become independent. 3. The natural deaths of elephants has decreased. 4. The number of elephants is now twice as many in 1990.

2. What would be the benefit gained from ivory auction ? 1. The auction would attract more buyers. 2. The amount of ivory sold would increase. 3. The profits would be used only for elephants and communities 4. The money would be shared among many conservation programs.


3. What caused CITIES to ban international ivory trade ? 1. The African elephant populations have been stable and sustainable. 2. The trade among the four African countries would yield more profits. 3. Elephant deaths from poaching has bee alarming. 4. Ivory trading does not benefit the African countries.

4. What does “ Here ” ( line 4 ) refer to ? 1. The slopes 2. The rocky mountains 3. The sandy rivers and mountaintops 4. The remote northwestern Kokolann area

5. What would be the best title for passage ? 1. The International Ivory Trade 2. The Benefits of the Auction of Ivory 3. Illegal Elephant Poaching in Namibia 4. Namibia’s Success in Elephant Conservation


perform 6 0

Documents